The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-Book สำหรับโครงการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเรื่อง ชุมชนวัดพันปี เพื่อทักทอความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 62413051 ภัทรวุฒิ, 2023-02-21 09:24:25

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ชุมชนพันปี

E-Book สำหรับโครงการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเรื่อง ชุมชนวัดพันปี เพื่อทักทอความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน

พัน พั ปี ชุมชน WAT PHANPI อำ เภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก


บทนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเรื่องชุมชนวัดพันปี เพื่อ ทักทอความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน โดยมี จุดประสงค์ เพื่อให้คนในชุมชน โรงเรียน ผู้ปกครอง และนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี) รู้ประวัติ ความเป็นมาของชุมชนพันปีและยังเป็นการประชาสัม พันธ์ให้กับชุมชนพันปีอีกด้วย ผู้จัดทำ หวังว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จะ เป็นประโยชน์กับผู้อ่านหรือนักเรียน นักศึกษา คนใน ชุมชน ที่กำ ลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ผู้จัดทำ ข้อน้อมรับไว้เเละขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วย ครูที่ปรึกรึษา นายปัญปัจพล สนสาย ผู้จัผู้ ดจัทำ นายภัทรวุฒิ ยิ้มยิ้เเย้มย้


ประวัติความเป็นมา ชุมชนพันปีตั้งอยู่ในเขต เทศบาลนครพิษณุโลกเป็นชุมชนที่ใหญ่สุดและอยู่บริเวณ ทิศใต้สุดในจํานวน 21 ชุมชนเมืองของเทศบาลนคร พิษณุโลก เดิมอยู่ในเขตการปกครอง ของหมู่ที่ 5 ตําบล ในเมือง ได้รับการจัดตั้งเป็นชุมชนเมือง พ.ศ. 2528 ชุมชนพันปีเป็นชื่อดั้งเดิม ของชุมชน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่า แก่มาก (หลายร้อยปี) ตามประวัติเล่าว่า ในสมัยก่อนมี ชาวจีนซึ่งล่องเรือ ค้าขายตามลําน้ําน่าน เห็นพื้นที่บริเวณ นี้เป็นที่ว่างเปล่า มีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นที่อยู่อาศัย จึงเข้าจับจองที่ดินตั้งบ้านเรือนประกอบอาชีพทํามาหากิน ณ บริเวณนี้ ต่อมา จึงมีผู้อพยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐานบ้าน เรือนเพิ่มมากขึ้น ในช่วงประมาณ 150 ปีที่ผ่านมา มี ประชาชนตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัย เพียง 30 ครัวเรือน ส่วน ใหญ่ประกอบอาชีพ ทำ ไร่ทํานาและทําน้ําตาล โดยเฉพาะ การนับเป็นอาชีพที่สําคัญอาชีพหนึ่งของประชาชนในหมู่ บ้านนี้ เนื่องจากมีการทําตาลกันแทบทุกครอบครัว (30 - 40 ครอบครัว) เพราะในหมู่บ้านมีต้นตาลขึ้นอยู่เป็นจํานว นมาก ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งชุมชนพันปี ในปัจจุบัน คือ ตั้งเเต่เหนือวัดขึ้นไปเล็กน้อยจนถึงสะพานข้ามแม่น้ําน่าน พื้นที่ที่มีต้นตาลมาก คือ บ้านของนายอ่อน - นางเปลี่ยน อินแสง ซึ่งเป็นบิดามารดาของ นางประจวบ พ้นภัย นาง ประจวบ เล่าว่า บิดามารดาของตนมีอาชีพทําตาลเพียง อย่างเดียว โดยในพื้นที่ของบิดามีต้นตาลมากที่สุด ประมาณ 40 - 50 ต้น แต่ละต้นอยู่ห่างกันตั้งแต่ไม่ถึง เมตรจนถึง 2- 3 เมตร ปัจจุบันถูกตัดโค่นจนหมดเพื่อใช้ พื้นที่ปลูกสร้างบ้านและพืชพรรณอื่น ๆ นอกจากทําน้ํา ตาลปึกจาก ต้นตาลแล้ว ประชาชนในบริเวณนี้ยังมีการ ทําน้ําตาลจากอ้อยด้วย พื้นที่ซึ่งใช้ปลูกอ้อยจะเป็นพื้นที่ ดอน ซึ่งน้ําท่วมไม่ถึง มีการปลูกเป็นพื้นที่กว้างขวางเช่น กัน ชุมชนพันปี 01


ส่วนการทํานา มีบ้างเล็กน้อยเพื่อใช้บริโภค ภายในครอบครัว สําหรับผู้ ซึ่งใช้พื้นที่ทํานามักจะนิยมไปทําบริเวณอื่นนอกชุมชน ซึ่งมีลักษณะ ดิน เหมาะสมมากกว่า เช่น บริเวณทุ่งโศกา ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณกองกํากับ การตํารวจตระเวนชายแดน 31 ในปัจจุบันการที่ภายในชุมชนมีการทํานา เพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีลักษณะดินไม่เหมาะสมเพราะ เป็นดินร่วนปน ทราย ชาวบ้านเรียก ดินห่าง ไม่เก็บกักน้ําผลผลิตจึงต่ํา ได้ผลผลิตเพียง ประมาณ 10 กว่าถังต่อไร่ พืชที่เด่นและมีความสําคัญมากในพื้นที่นี้ คือ ต้นตาลและการปลูกอ้อย เพื่อใช้ทํา น้ําตาลปึกและน้ําตาลอ้อย ดังนั้น ใน หมู่บ้านจึงมีเครื่องมือหีบอ้อยขนาดใหญ่ โดยใช้แรงงานจากวัวควายเป็น ผู้หมุนเครื่องหีบ สถานที่ตั้งในอดีตอยู่บริเวณวัดพันปี แต่ปัจจุบันไม่ เหลือร่องรอยให้ เห็นแล้ว ลักษณะที่เป็นจุดเด่นของสถานที่ต่าง ๆ บริเวณนี้ นิยมใช้เป็นชื่อของหมู่บ้านในโอกาส ต่อมา เช่น บ้านน้ําหัก บ้าน โรงน้ําตาล บ้านดอน และบ้านกรอก เป็นต้น ชุมชนพันปี ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยการสนับสนุน จากเทศบาลนครพิษณุโลกภายในชุมชน ประกอบด้วย 280 ครัวเรือน ประชากร 1,230 คน สภาพเป็นชุมชนกึ่งเมือง กิ่งชนบทมาก ซึ่งลักษณะ ของชาวชนบทยังคงปรากฏให้เห็นบ้าง เช่น การตั้งบ้านเรือนกระจายไป ตาม ริมฝั่งแม่น้ําน่าน ตามแนวถนนพุทธบูชา ลักษณะบ้านทําด้วยไม้แบบ เก่า วิถีชีวิตประกอบอาชีพ ทําการเกษตร เช่น ปลูกผักชะอมบริเวณริม ฝั่งแม่น้ําน่าน เพื่อส่งจําหน่ายต่อไปยังตลาดในเมืองพิษณุโลกนอกจาก นั้น บริเวณบ้านยังมีไม้ผลชนิดต่าง ๆ อีกจํานวนมาก แต่เนื่องจากชุมชน พันปี มีผู้เข้ามา อยู่อาศัยใหม่มากขึ้น สภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่การ ประกอบอาชีพได้เปลี่ยนไปจากเดิม เห็นได้จาก การสร้างที่อยู่อาศัย กลายเป็นการสร้างตึกสมัยใหม่ เป็นร้านค้าอาคารพาณิชย์ ห้องแถว และ โรงงาน เช่น โรงสีข้าวเบญจพืช โรงงานผลิตแหนมสุพัตรา โรงงานผลิต ผักดอง และโรงงานทําข้าวเกรียบ เป็นต้น สําหรับบริเวณชุมชนเมืองจะ ตั้งกระจายไปตามแนวถนนบรมไตรโลกนารถ 2 และบริเวณ ห้าง แม็คโคร บางส่วนมีการสร้างหมู่บ้านจัดสรร เช่น หมู่บ้านธนัญญา เป็นต้น 02


ในอดีตชุมชนพันปีเคยมีวัดมาก่อนวัดพันปีใน ปัจจุบัน ตั้งอยู่บริเวณใต้วัดพันปีลงมาเล็กน้อย ชาวบ้าน พบอิฐและพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก จํานวนมากอ ยู่ใต้พื้นดิน เมื่อขุดดินเพื่อสร้าง บ้านเรือนหรือปลูก พืชพันธุ์ไม้ผลต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณบ้านเลขที่ 1061/2 ถนนพุทธบูชา (ริมแม่น้ําน่าน) ซึ่งเป็นบ้านของ นาง ประจวบ พ้นภัย อายุ 62 ปี บริเวณหลังบ้านพบเจดีย์ซึ่ง ภายในบรรจุพระจํานวนมากและห่างจากหลังบ้านออกไป ประมาณ 100 เมตร เมื่อขุดลงไปใต้ดิน จะพบแนวกํา แพงซึ่งก่อด้วยอิฐเข้าใจว่าเป็นกําแพงรอบนอกของโบสถ์ เพราะบริเวณภายในต่อจากกําแพงเข้าไป ขุดพบอิฐแผ่ กระจายเป็นบริเวณกว้างคล้ายเป็นฐานของโบสถ์ ดังนั้น จึงตรงกับคําบอกเล่าของชาวบ้านว่า ในอดีตเคยมีวัดมา ก่อน ชื่อว่า วัดพันปี แต่ถูกทิ้งให้รกร้างไป เพราะชาวจีน ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในอดีต เกิดการทะเลาะวิวาทกัน จึงต้อง อพยพโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น พื้นที่บริเวณนี้ถูกทิ้งให้รกร้าง ไป พระสงฆ์ ที่มีอยู่ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดจันทร์ตะวันออก ซึ่ง เป็นวัดที่อยู่ใกล้เคียงกัน ภายหลังมีชาวบ้านกลุ่มใหม่เข้า มาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นได้จับจองพื่นที่ว่างเปล่าเป็นของตน เเละใช้วัดจันทร์ตะวันออกเป็นสถานที่ทําบุญตามประเพณี แต่เนื่องจากวัดอยู่ห่างไกลจากชุมชนมาก ไม่สะดวกใน การเดินทาง จึงมีกลุ่มชาวบ้าน ก่อสร้างวัดใหม่ขึ้นมา ชื่อ ว่า “วัดใหม่พันปี” เมื่อ พ.ศ. 2514 ภายหลังเรียกชื่อให้ สั้นลงเป็น “วัดพันปี บุคคลผู้ริเริ่มร่วมกันก่อตั้งวัดที่ สําคัญ คือ นายเทพ เจียมทอง ผู้ใหญ่บ้านอุดม ปุ่นน้อย นายถวิล อินเอี่ยม นายสวาด ศรีไตรรัตน์ นายกลม ลาวิน นายประสิทธิ์ อยู่ดี และบุคคลอื่น ๆ อีกจํานวนมาก วัดพันปี 03


โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี) เดิมมีชื่อว่า “โรงเรียนเทศบาล 5” (วัดใหม่พันปี) ต่อมาทางเถระ สมาคมได้ประชุมกันว่า “ใหม่” ขัดกับ “พันปี” จึงตัดคำ ว่า “ใหม่” ออกเหลือแต่“โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี)” การ ก่อสร้างอาคารเรียนเริ่มในสมัยนายกเทศมนตรี เสรี บุญ ญาฤทธิ์ แต่การสร้างยังไม่เสร็จได้ถึงแก่กรรมลงเสีย ก่อน ต่อมาปี พ.ศ. 2521 นายจำ นง ภักดีโต ผู้รับ ตำ แหน่งต่อจาก นายเสรีฯ ได้ก่อสร้างอาคารเรียน ชั่วคราว และเสร็จเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2521 และได้ เปิดเรียนครั้งรั้แรกเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2521 ตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 มีนักเรียนทั้งหมด 60 คน และมี นายเฉลา พิระสันต์ รักษาการในตำ แหน่งครูใหญ่ ต่อมา พระปลัดผัน อัตถสาลี ปฐมเจ้าอาวาสวัดพันปี ได้มอบ ที่ดินจำ นวน 3 ไร่ 2 งาน แก่เทศบาล เพื่อก่อสร้างอาคาร เรียน อาคารประกอบ ห้องสมุด และสนามฟุตบอลและ เทศบาลสมัย นายจำ นงค์ฯ จึงใช้เนื้อที่ก่อสร้างอาคาร เรียนถาวร 1 หลัง เป็นอาคารเรียน2 ชั้น 10 ห้อง สิ้นเงิน ค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 1,065,000 บาท (หนึ่งล้านหกหมื่นห้า พันบาท) เป็นเงินเทศบาล 315,000 บาท (สามแสนหนึ่ง หมื่นห้าพันบาท) เงินอุดหนุน 750,000 บาท (เจ็ดแสนห้า หมื่นบาท) และทำ พิธีเปิดอาคารเรียนหลังใหม่ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2521 โดยรับ นักเรียนระดับชั้น ป.1-ป.6 ซึ่งมีนายเฉลา พีระสันต์ รักษาการในตำ แหน่งครูใหญ่ จน พ.ศ. 2525 นายเฉลา พีระสันต์ สุขภาพไม่ดีจึงขอไปช่วย ราชการที่กองการศึกษาและนางพวงทองฯ ได้สอบ เปลี่ยนสายงานจากผู้บริหารสถานศึกษา และได้สอบและ ได้บรรจุเป็น ผู้ช่วยผู้อำ นวยการกองการศึกษาเทศบาล เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2525 ส่วนผู้มา รักษาราชการแทนได้แก่ นางเอื้ออารี มนะสิการ โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี) 04


ผู้ช่วยครูใหญ่โรงเรียนชุมชนวัดธรรมจักร (เทศบาล 4 ) ปัจจุบันได้ เกษียณราชการไปแล้วใน ระหว่างปี พ.ศ. 2531-2532 นางเอื้ออารี มนะสิการ ได้รับมอบ หมายจากนายกเทศมนตรีสุรพันธ์ เจริญผล เจรจาขอซื้อที่ดินกึ่งบริจาค จากคุณพ่อกลม – คุณแม่เกลียว ลาวิณห์ ซึ่งท่านทั้งสองก็ตกลงโดยดี โดยแบ่งขายให้ 2 ไร่ 2 งาน เพื่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้นรองรับ นักเรียนที่จะเรียนต่อ ม.1 และคิดเงินค่าที่ดินเป็นเงิน 500,000 บาท และให้ผ่อนชำ ระ 2 ปี ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2536 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้อนุมัติให้เทศบาลเมืองพิษณุโลก จัดการเรียนการ สอนตามโครงการขยายโอกาสทางการศึกษา เพิ่มอีก 3 ปี ในปีการศึกษา 2537 ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 คือ โรงเรียนเทศบาลวัดพันปี (ท.5) และได้รับการสนับสนุนจากท่านนายกเทศมนตรี คุณเพชราพร พงศะ บุตร คณะเทศมนตรีและผู้อำ นวยการกองการศึกษาคุณชำ นาญ เข็ม มงคล จัดสรรเงินงบประมาณของเทศบาลเมืองพิษณุโลก เป็นเงิน 400,000 บาท สนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน และแต่ง ตั้ง นางเนื้อทิพย์ กาญจนากาศ มาดำ รงตำ แหน่งอาจารย์ใหญ่ ในปีการ ศึกษา 2538 ได้รับงบประมาณจากสำ นักบริหารการศึกษาท้องถิ่นเป็น เงิน 4,640,000 บาท ก่อสร้างอาคารเรียน 2 ชั้น จำ นวน 12 ห้องเรียน เพื่อเป็นอาคารเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และห้องสนับสนุนการ สอนและแล้วเสร็จใน เดือนพฤษภาคม ปีการศึกษา 2539 ในปีการศึกษา 2539 นางเนื้อทิพย์ กาญจนากาศ อาจารย์ ใหญ่ ได้รับมอบหมายจากนายกเทศมนตรีนางเปรมฤดี ชามพูนท และ นางจันทร์สม เสียงดี ผู้อำ นวยการกองการศึกษา ให้เจรจาขอซื้อที่ดิน บริเวณหน้าอาคารเรียน เนื้อที่ 31 ตารางวา จากนายลำ ยง พรหมช่วย เป็นเงิน 180,000 บาท และให้จัดสรรงบประมาณก่อสร้างรั้วรั้กั้นบริเวณ หน้าอาคารเรียน เป็นเงิน 180,000 บาท รวมมีเนื้อที่ 6 ไร่ 31 ตารางวา 05


ในปีการศึกษา 2539 – 2545 โรงเรียนฯ จึงมีอาคารทั้งหมด 2 หลัง เปิดทำ การสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนางเนื้อ ทิพย์ กาญจนากาศ ดำ รงตำ แหน่งผู้อำ นวยการโรงเรียน และนางสาวจิราภ รณ์ สงวนศิลป์ ดำ รงตำ แหน่งผู้ช่วยผู้อำ นวยการโรงเรียน ในปีการศึกษา 2547 (27 ม.ค. 2547 ถึง 30 ม.ค. 48) โรงเรียนได้รับงบประมาณจาก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นเงิน 6,400,000 ก่อสร้างอาคาร เรียน 4 ชั้นใต้ถุนโล่ง จำ นวน 12 ห้องเรียน เพื่อใช้เป็นอาคารเรียนของ มัธยมพร้อมด้วยห้องสนับสนุนการเรียนในกลุ่มมัธยม โดยเน้นให้เป็นศูนย์ การเรียนรู้ระบบ IT วันที่ 27 เมษายน 2547 นางอัปสร มณีรุ่ง ย้ายมารับ ตำ แหน่ง ผู้อำ นวยการโรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี) ในปีการศึกษา 2548 นายอวิรุทธิ์ นาทิพย์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี) ได้ติดต่อประสานงานกับการเคหะแห่งชาติ ได้รับอนุมัติงบประมาณจัดสร้างสนามบาสเก็ตบอล 06 โลโก้ โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดพันปี)


บรรณานุกรม 1. นงคราญ กาญจนประเสริฐ. (2545) การศึกษาและรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับสภาพทางภูมิศาสตร์ของชุมชนพันปี. [ม.ป.พ.]:พิษณุโลก. 2. phsmun.go.th. (2562). ประวัติโรงเรียน สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2562, จาก http://tessaban5.phsmun.go.th/index. php/ schoolhistory


Click to View FlipBook Version