The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานการออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม GSP
สาขาวิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Krongkaew Khomnon, 2022-02-16 09:58:15

โครงงานการออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม GSP

โครงงานการออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม GSP
สาขาวิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

Keywords: โปรแกรม GSP,โครงงานการออกแบบลวดลายกระเบื้อง

36

การพน่ ทรายไมใ่ ช่การพน่ เพอ่ื ใหท้ รายไปตดิ ทผ่ี ิวชิ้นงาน แตเ่ ปน็ การเอาทรายไปขดั ผวิ การ
พ่นทรายจะใหผ้ วิ ด้านเท่านัน้ ไม่สามารถขัดให้เงาใสได้

2.5.1 วตั ถุประสงคใ์ นการพน่ ทราย
(1) ขัดผิวกระจกและแก้วใหฝ้ ้าเป็นลวดลายสวยงาม เพื่อเพิ่มคุณค่าแก่ช้นิ งาน

เช่น กระจกเงาหอ้ งนำ้ แกะสลกั ลาย, ประตู-หนา้ ต่าง-กระจกก้นั ห้องสลกั ลาย, แก้วน้ำมีลายโลโก้ของ
รา้ นคา้ , โลร่ างวลั แกว้ หรือครสิ ตลั ฯลฯ

(2) ขัดผิวหินอ่อน หินแกรนิต เพื่อทำป้ายต่างๆ เช่น ป้ายชื่อสถานท่ี, ป้าย
บ้านเลขท่ี, ป้ายอัฐิ, ปา้ ยรายนามผู้บริจาค ฯลฯ

(3) ขัดผิวโลหะทุกชนิด เพื่อทำความสะอาดผิวที่เก่าสกปรกขึ้นสนิมให้เหมอื น
ใหม่, ขัดผิวแม่พิมพ์ให้หยาบหรือละเอียดตามต้องการ, ขัดผิวเพื่อลบรอยขว่ นแมว-ลบรอยอ๊อก-รอย
เจยี ร, ขัดผวิ เพอ่ื เตรียมผิวกอ่ นการชบุ หรือพ่นสเี พ่อื ให้การยึดเกาะดีย่ิงข้ึน

(4) ขัดผิวงานเครื่องประดับเงิน ทอง ทองเหลือง เพื่อให้มีผิวดา้ นตดั กับผิวเงา
เพมิ่ ความสวยงาม เชน่ เหรยี ญพระพ่นทราย, แหวน-ตมุ้ หูพ่นทราย

(5) ขัดผิวงานแผ่นเสตนเลสเงาเพื่อทำลวดลาย เช่น ทำโลโก้บนกรอบป้าย
ทะเบียนรถยนตร์, ทำลวดลายบนงานประดบั ยนตร์เสตนเลส และงานป้ายเสตนเลส (การพน่ ทรายเส
ตนเลสไม่สามารถพ่นอักษรให้เป็นหลุมลึกลงไปได้เหมือนการพ่นทรายกระจกหรือหินแกรนิต
เนือ่ งจากเสตนเลสมคี วามเหนยี ว จึงทำได้เพียงการพ่นพน้ื ผิวใหเ้ ป็นลวดลายเท่าน้นั งานป้ายเสตนเลส
ท่ีตวั อกั ษรเป็นหลมุ ลึกลงไปเปน็ งานกัดกรดเข้มข้น ไม่ใช่งานพน่ ทราย)

(6) ขัดผิวงานทนั ตกรรม เพ่อื ขดั ผวิ ช้ินงานใหส้ ะอาด เรียบเนยี น
(7) ขัดผิวรูปหล่อเรซินเพื่อให้ผิวฝ้าเพื่อแก้ไขกลบเกลื่อนงานหล่อที่มี
ฟองอากาศมาก หรอื เพอื่ ตกแตง่ ใหม้ ีผวิ ฝ้าตัดกับผวิ ใสดแู ปลกตาสวยงาม

2.5.2 ชนิดของเครื่องพ่นทราย
เครื่องพน่ ทรายได้รบั การออกแบบให้มีรูปแบบหลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับ

ประเภทของงานที่ต้องการขัดผิว ในที่นี้จะยกตัวอย่างเครื่องพ่นทรายบางประเภทที่เป็นที่รู้จักและ
นิยมใช้มาพอเป็นสังเขปเท่าน้นั

(1) เครื่องพ่นทรายแบบเป็นตู้ และใช้คนพ่นด้วยมือ (Suction Blast
Cabinet)

37

รปู ที่ 2.45 เครื่องพ่นทรายแบบเปน็ ตู้
เป็นเคร่อื งพ่นทรายทเ่ี หมาะสำหรบั ชิน้ งานท่มี ีขนาดเล็กถงึ ปานกลาง ชนิ้ งานมีขนาดใหญ่ไม่
เกนิ ขนาดของตวั ตู้พ่นทรายทใี่ ช้ ผ้ใู ชส้ ามารถยกช้นิ งานเขา้ ตพู้ น่ ทรายได้ (นำ้ หนกั ไมเ่ กนิ 50 กก.) การ
ขัดผิวจะเป็นการพน่ ทรายโดยใช้ปืนพ่นทรายพ่นด้วยมือทีละชิ้น ทรายที่ใช้จะอยู่ในตู้พ่น สามารถใช้
พ่นหมุนเวียนไดต้ ลอดเวลา
ตู้พ่นทรายที่ดี ขณะพ่นทรายฝุ่นทรายต้องไม่ฟุ้งในตู้จนมองไม่เห็นชิ้นงานและต้องไม่รั่ว
ออกมานอกตู้จนสถานที่ทำงานเต็มไปด้วยฝุ่น ตู้พ่นทรายบลาสมาสเตอร์มีระบบหมุนเวียนอากาศ
ภายในตู้ สามารถแยกฝุ่นละอองออกจากตู้โดยอัตโนมัติ จึงหมดปัญหาในเรื่องน้ี ตู้พ่นทรายที่ผู้ใช้
ประดษิ ฐเ์ องอย่างง่าย ๆ โดยขาดความรู้เร่ืองการหมนุ เวียนอากาศ มักจะมปี ญั หาฟุ้งและรั่วเสมอ ทำ
ใหท้ ำงานได้ยากลำบาก และเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ เพราะจะมฝี นุ่ ร่ัวออกจากตตู้ ลอดเวลา

(2) เครอ่ื งพ่นทรายขนาดใหญ่แบบอัตโนมตั ิ (Mass Sandblasting
Machine)

รูปที่ 2.46 เคร่อื งพ่นทรายขนาดใหญ่แบบอตั โนมัติ
มีหลายรูปแบบตามการใช้งาน เช่นแบบเป็นสายพาน, แบบเป็นตู้กลิ้ง และแบบสำหรบั พ่น
งานท่อขนาดยาวมาก ๆ เป็นต้น ตู้พ่นทรายประเภทนี้มีราคาแพงมากหลายแสนบาทจนถึงเป็นล้าน
บาท เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีงานขนาดใหญ่พเิ ศษ, งานจำนวนมาก, งานขนาดเลก็ พเิ ศษ
และงานท่ีมรี ปู แบบเฉพาะ

(3) เครอ่ื งพ่นทรายแรงดนั สงู (Pressure Blast Machine)

38

รปู ที่ 2.47 เครอื่ งพน่ ทรายแรงดนั สงู
เป็นเครื่องพ่นทรายทีเ่ หมาะสำหรับการงานที่มีขนาดใหญ่ เช่นงานลอกสีรถท้ังคัน, งานขัด
สนิมถังนำ้ มันกลางแจง้ , งานขัดสนมิ เรอื , งานขัดสนมิ เหลก็ โครงสร้างอาคาร เป็นต้น ถงั พ่นทรายจะมี
ระบบอัดแรงดันสูง ต้องใช้ป๊ัมลมสกรูขนาดใหญ่ ทรายที่ใช้จะเป็นทรายทะเล, ทราย Copper Slag
หรือทรายที่มรี าคาถูก เพราะใช้ได้คร้ังเดียวหมุนเวียนไม่ได้ การพ่นทรายจะกระทำกลางแจ้ง หรือใน
หอ้ งพน่ ขนาดใหญ่ ผพู้ ่นทรายตอ้ งสวมใสช่ ดุ นริ ภัยเพ่ือปอ้ งกันตนเอง เคร่อื งพน่ ทรายระบบน้มี รี าคาสูง
มาก เน่อื งจากตอ้ งใช้ป๊ัมลมขนาดใหญ่ เช่น 50 แรงม้าเปน็ ต้น
2.5.3 วิธกี ารพน่ ทราย

(1) การพ่นทรายกระจก หนิ ออ่ น หนิ แกรนติ และงานป้ายตา่ ง ๆ
ติดสติกเกอร์เปล่า, วาดลายบนสติกเกอร์ หรือติดกระดาษลายที่

ต้องการดว้ ยกาวน้ำ, กรดี ลายดว้ ยมดี คตั เตอร์ ลอกสตกิ เกอรบ์ ริเวณลายท่ีจะพน่ ทรายออก แลว้ ทำการ
พ่นทราย หากใช้เคร่ืองตัดสติกเกอร์ ให้ติดแผ่นสติกเกอร์ทีต่ ัดลายแล้วลงบนแผ่นกระจกหรือหินแลว้
ลอกลายออกไดเ้ ลย ทรายท่ีใช้มักเป็นทรายละเอยี ด เพื่อใหผ้ ิวงานเนียนสวย

รปู ที่ 2.48 ตวั อยา่ งการตดิ สตกิ เกอรเ์ พอื่ สร้างลาย
(2) การขดั ผิวโลหะทกุ ชนิดและวสั ดอุ น่ื ๆ

นำชิ้นงานเข้าตู้ แล้วกดไกปนื พน่ ได้เลย วิธีการคล้ายกับการพ่นสี ง่าย
มาก ๆ เมื่อทรายพ่นกระทบกับผิวชิ้นงานตรงที่ใด บริเวณนั้นก็จะถูกขัดให้สะอาดทันที ผิวที่ได้จะ
หยาบหรือละเอยี ดขึ้นอย่กู ับขนาดของเม็ดทรายทเ่ี ลอื กใช้ บรเิ วณใดไมต่ อ้ งการถูกพน่ ทรายให้เอาเทป
กาว หรอื สติกเกอร์ตดิ บังไว้

39

รปู ที่ 2.49 การขัดผวิ โลหะดว้ ยวิธกี ารพ่นทราย
(3) การเลือกปั๊มลมสำหรบั งานพ่นทราย

ควรเลือกใช้ปั๊มลมให้เหมาะสมกับขนาดของชิ้นงาน และจำนวนของ
งานทีจ่ ะพ่นทราย หากชนิ้ งานมขี นาดใหญ่ หรือมจี ำนวนมาก แต่ใช้ป๊มั ลมขนาดเล็ก จะทำให้เสียเวลา
ในการพ่นทรายมาก เน่อื งจากต้องรอลม ป๊มั ลมทีเ่ หมาะกับงานพ่นทรายควรจะเปน็ ป๊ัมลมแบบลูกสูบ
เริ่มต้นที่ 2 แรงม้าขึ้นไป ไม่ควรใช้ปั๊มลมโรตารี่ขนาดเล็ก เนื่องจากถังจุลมมีขนาดเล็กมาก มีลมไม่
เพยี งพอต่อการพน่ ทราย ลมจะตกทกุ หน่งึ นาที ทำใหพ้ ่นชา้ มาก ๆ เสียเวลา และหากใชท้ รายหยาบก็
จะไมไ่ ด้ผิวหยาบเทา่ ท่ตี อ้ งการเพราะมีแรงอัดลมไม่พอ

รปู ท่ี 2.50 เครอ่ื งปั๊มลม

2.6 การวัดความพึงพอใจ
2.6.1 ความหมายความพึงพอใจ
นกั วิชาการได้ให้ความหมายของความพงึ พอใจตา่ ง ๆ พอสรุปไดด้ งั นี้
ทวพี งษ์ หินคำ (2541 : 8) ได้ให้ความหมายของความพงึ พอใจวา่ เป็นความชอบ

ของบุคคลท่ีมตี ่อสง่ิ หน่งึ สงิ่ ใด ซึงสามารถลดความดงึ เครยี ดและตอบสนองความต้องการของบุคคลได้
ทำให้เกิดความพึงพอใจตอ่ สง่ิ นัน้

ธนยี า ปญั ญาแก้ว (2541 : 12) ได้ใหค้ วามหมายว่า สง่ิ ทท่ี ำให้เกิดความพึงพอใจที่เก่ียวกับ
ลกั ษณะของงาน ปจั จัยเหล่านี้นำไปสู่ความพอใจในงานที่ทำ ได้แก่ ความสำเรจ็ การยกย่อง ลักษณะ
งาน ความรบั ผิดชอบ และความกา้ วหนา้ เมือ่ ปจั จัยเหลา่ นี้อยูต่ ่ำกวา่ จะทำใหเ้ กดิ ความไม่พอใจงานท่ี
ทำ ถ้าหากงานให้ความก้าวหน้า ความท้าท้าย ความรับผิดชอบ ความสำเร็จและการยกย่องแก่
ผู้ปฏบิ ัติงานแลว้ พวกเขาจะพอใจและมแี รงจงู ใจในการทำงานเป็นอย่างมาก

40

วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม (2541 : 754) ให้ความหมายของความพึงพอใจว่า หมายถึง ความ
พอใจ การทำให้พอใจ ความสาแก่ใจ ความหนำใจ ความจุใจ ความแน่ใจ การชดเชย การไถ่บาปการ
แก้แค้นสิ่งท่ชี ดเชย

วริ ุฬ พรรณเทวี (2542 : 11) ใหค้ วามหมายไว้ว่า ความพงึ พอใจเป็นความรู้สกึ ภายในจิตใจ
ของมนุษย์ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะคาดหมายกับสิ่งหนึ่ง สิ่งใดอย่างไร ถ้า
คาดหวังหรือมีความตั้งใจมากและไดร้ ับการตอบสนองดว้ ยดี จะมีความพึงพอใจมากแต่ในทางตรงกัน
ข้ามอาจผิดหวังหรือไม่พึงพอใจเป็นอย่างย่ิง เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองตามที่คาดหวังไว้ ทั้งนี้ข้นึ อยู่
กับสงิ่ ท่ตี นตัง้ ใจไวว้ า่ จะมมี ากหรอื น้อย

กาญจนา อรณุ สุขรุจี (2546 : 5) กล่าวว่า ความพึงพอใจของมนษุ ย์ เป็นการแสดงออกทาง
พฤติกรรมที่เป็นนามธรรม ไม่สามารถมองเห็นเป็นรูปร่างได้ การที่เราจะทราบว่า บุคคลมีความพึง
พอใจหรือไม่ สามารถสังเกตโดยการแสดงออกที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน และต้องมีสิ่งที่ตรงต่อความ
ต้องการของบุคคล จึงจะทำให้บุคคลเกิดความพึงพอใจ ดังนั้นการสร้างสิ่งเร้าจึงเป็นแรงจูงใจของ
บุคคลน้นั ใหเ้ กิดความพงึ พอใจในงานน้นั

Carnpbell (1976 : 117 – 124 อ้างถงึ ใน วาณี ทองเสวต, 2548) กลา่ วว่า ความพึงพอใจ
เป็นความรู้สึกภายในท่ีแต่ละคนเปรยี บเทยี บระหวา่ งความคิดเห็นต่อสภาพการณ์ที่อยากให้เป็นหรือ
คาดหวัง หรือรู้สึกวา่ สมควรจะได้รับ ผลที่ได้จะเป็นความพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจเป็นการตัดสินของ
แต่ละบคุ คล

Domabedian (1980 , อ้างถึงใน วาณี ทองเสวต,2548) กล่าวว่า ความพึงพอใจของ
ผรู้ ับบรกิ าร หมายถึง ผู้บริการประสบความสำเรจ็ ในการทำให้สมดลุ ระหว่างสงิ่ ท่ีผ้รู ับบริการให้ค่ากับ
ความคาดหวังของผรู้ บั บริการ และประสบการณ์นนั้ เป็นไปตามความคาดหวงั

จากความหมายที่กล่าวมาทั้งหมด สรุปความหมายของความพงึ พอใจได้ว่า เป็นความรู้สึก
ของบุคคลในทางบวก ความชอบ ความสบายใจ ความสุขใจตอ่ สภาพแวดล้อมในด้านตา่ ง ๆ หรือเป็น
ความรู้สึกที่พอใจต่อสิ่งที่ทำให้เกิดความชอบ ความสบายใจ และเป็นความรู้สึกที่บรรลุถึงความ
ต้องการ

ภณดิ า ชัยปัญญา (2541 : 11) ได้กลา่ วไว้วา่ การวดั ความพงึ พอใจน้ัน สามารถทำได้หลาย
วิธีดงั ต่อไปน้ี

1. การใช้แบบสอบถาม โดยผู้ออกแบบสอบถาม ต้องการทราบความคิดเห็นซึ่งสามารถ
กระทำได้ในลักษณะกำหนดคำตอบให้เลือก หรือตอบคำถามอิสระ คำถามดังกล่าว อาจถามความ
พอใจในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ตอบทุกคนมาเป็นแบบแผนเดียวกัน มักใช้ในกรณีที่ต้องการข้อมูลกลุ่ม
ตวั อย่างมาก ๆ วิธนี ้นี ับเป็นวธิ ที ่นี ยิ มใชก้ ันมากท่ีสุดในการวัดทัศนคติ รปู แบบของแบบสอบถามจะใช้
มาตรวัดทัศนคติ ซึ่งที่นยิ มใช้ในปัจจุบนั วิธีหนึ่ง คือ มาตราส่วนแบบลิเคิร์ท ประกอบด้วยขอ้ ความท่ี

41

แสดงถึงทัศนคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งเร้าอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีคำตอบที่แสดงถึงระดับความรู้สึก 5
คำตอบ เชน่ มากทีส่ ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ุด

2. การสัมภาษณ์ เปน็ วธิ ีการท่ีผูว้ ิจัยจะตอ้ งออกไปสอบถามโดยการพูดคุย โดยมีการเตรียม
แผนงานล่วงหน้า เพอ่ื ให้ได้ขอ้ มูลทเ่ี ป็นจรงิ มากที่สุด

3. การสังเกต เป็นวิธีวัดความพึงพอใจ โดยการสังเกตพฤติกรรมของบุคคลเป้าหมายไม่ว่า
จะแสงดออกจากการพูดจา กริยา ท่าทาง วิธีนี้ต้องอาศัยการกระทำอย่างจริงจัง และสังเกตอย่างมี
ระเบยี บแบบแผน วิธีนี้เป็นวธิ กี ารศกึ ษาท่ีเกา่ แก่ และยงั เป็นทน่ี ิยมใช้อยา่ งแพร่หลายจนถึงปัจจบุ ัน

จากการศึกษาการวัดความพึงพอใจ สรุปได้ว่าการวัดความพึงพอใจเป็นการบอกถึง
ความชอบของบุคคลที่มตี อ่ สง่ิ หน่งึ สิง่ ใด ซึง่ สามารถวัดไดห้ ลายวธิ ี การสัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม
ความคิดเห็น การใช้แบบสำรวจความร้สู ึก

2.7 งานวจิ ัยและเอกสารทีเ่ กย่ี วขอ้ ง
(ธนัชชา ทะเริงรัมย์ และ นิศารัตน์ อินทร์เหลา, 2562, น. 2) สร้างสรรค์ทำโครงงาน

สิ่งประดิษฐ์ซ่งึ นำความรู้เกี่ยวกับ เลขาคณิต เวกเตอร์ มมุ มาประยกุ ต์ใช้ในการออกแบบลายบนฝาชี
ไม้ไผ่ โดยการนำเอาโปรแกรมจีโอจีบร้า (GeoGebra) ซึ่งเป็นเครื่องมือคณิตศาสตร์ มาช่วยในการ
ออกแบบลายบนฝาชีไม้ไผ่ จากการศึกษาเกยี่ วกับการทำลายบนฝาชีไม้ไผ่ พบว่าการสานฝาชีมีการสืบ
ทอดภูมิปัญญาการจักสานไม้ไผ่ จากบรรพบุรุษสู่รุ่นลูกรุ่นหลานเรื่อยมา โดยเริ่มจากการสานที่ไม่มี
ลวดลาย ต่อมาจึงได้มีการคิดค้นลวดลายใหม่ ๆ ขึ้น เพื่อให้มีความสวยงามทันสมัย และยังสามารถ
สร้างรายได้และอาชพี ให้แกช่ าวบ้านได้ ปัจจุบันมีการพัฒนาลวดลายที่หลากหลายเพิม่ มากขึน้ อาทิ
เชน่ ลายหมากรุก ลายไทย ลายดาวลอ้ มเดอื น ลายดาวกระจาย ดังนน้ั จงึ ไดค้ ิดออกแบบการทำฝาชีไม้
ไผ่แบบลวดลายใหมๆ่ ที่เก่ยี วกับคณิตศาสตร์ในเร่ืองเรขาคณิต ฟังกช์ ัน เวกเตอร์ มมุ และโปรแกรมจี
โอจบี รา้ (GeoGebra) และยังสามารถนำฝาชีไ้ ม้ไผ่ ไปต่อยอดและดัดแปลงใหเ้ ปน็ รูปแบบทส่ี ามารถใช้
ประโยชนใ์ นด้านอน่ื ๆ ได้

(ปรศิ นา จนั ทาน และ นันทณัฐ หม่นั เรียน, 2562, น. 1) เนือ่ งจากการดำรงชวี ิตในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปโภค บริโภค การคมนาคม การ อุตสาหกรรม การผลิตพลังงานล้วนแต่
เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน ทำให้ใน ปัจจุบันภูมิปัญญาไทยได้ถูกหลงลืมไป
ผู้คนสว่ นใหญ่ลว้ นเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ แล้วด้วยงานทร่ี ดั ตัวของผคู้ นทำให้ผู้คนไม่มีเวลาในการ
ทำงานบ้าน งานเย็บปักถักร้อย จึงทำให้การทำหมอนฟักทอง และการเย็บปักถักร้อย งานฝีมือถูก
หลงลมื และถูกลดความสำคญั ลงไป ปจั จุบนั หมอนฟักทองนยิ มใช้ กันอย่างมากไมว่ ่าจะเป็นการนํามา
ประดับตกแต่งบ้าน หรือใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น งานพิธี สมรส งานอุปสมบท และใช้ใน
โอกาสตา่ ง ๆ แตเ่ น่อื งจาก ผา้ ท่ีใช้ทำหมอนฝกั ทองมีลวดลายเดิม ๆ ไม่ มีความทันสมัยและแปลกใหม่

42

ดังนั้นคณะผู้จัดทําจึงศึกษาค้นคว้าโครงงานเรื่อง การใช้โปรแกรม GSP ออกแบบลายไทย โดยใน
โครงงานมกี ารใชส้ มการทางคณติ ศาสตรม์ าใช้ในการออกแบบลายไทย โดย ในโครงงานได้คดั สรรลาย
ไทยและลายไปประยกุ ต์ทั้งหมด 10 ลาย จากหนังสอื สมดุ ตําราลายไทย เขียนโดยพระเทวาภินินมิต
และหนงั สอื ลายไทยภาคปฏบิ ัติเขียนโดย วรรณะ เกดิ สนอง และได้ทำการ สรา้ งลายไทยในโปรแกรม
GSP โดยใช้สมการทางคณิตศาสตร์มาใช้ในการออกแบบ ซึ่งทำให้ทราบว่า โปรแกรม GSP สามารถ
สร้างลายไทยท่มี คี วามสวยงามได้จากกราฟสมการทางคณิตศาสตร์ (พาฝัน โชตริ ัตน์และคณะ, 2556)
ดังนั้นคณะผู้จัดทําโครงงานจึงได้ออกแบบลายทีแ่ ปลกใหม่ ทนั สมัย และ ยงั คงความเป็นไทย ขึ้น โดย
ใช้สมการทางคณิตศาสตร์ และมกี ารนําความรูเ้ ร่ืองการแปลงทาง เรขาคณติ มาประยกุ ต์ใช้ เพื่อนํามา
บูรณาการให้เข้ากับหมอนฟักทอง ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ความสำคัญที่กล่าวมาข้างต้น
คณะผู้จัดทําจึงได้ประดิษฐ์หมอนฟักทองขึ้นมาโดยใช้ ความรู้เกี่ยวกับ สมการทางคณิตศาสตร์ การ
แปลงทางเรขาคณิต การประยุกต์ของการแปลงทาง เรขาคณิต โดยใช้โปรแกรม The Geometer'
Sketchpad (GSP) มาชว่ ยในการออกแบบลายผ้า

(พาฝัน โชติรัตน์, วิริยา จารุสุขถาวร และ ณัฐกานต์ อินทร์ชู 2562, น. 1) โปรแกรม The
Geometer's Sketchpad (GSP) เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถทางคณิตศาสตร์ใน หลายๆด้าน
กลุม่ ผจู้ ดั ทาํ เล็งเห็นว่าในคุณสมบัติในการเขียนกราฟทางคณิตศาสตรน์ ั้นมคี วามสะดวก ประหยัดเวลา
ในการเขยี นกราฟ จงึ นาํ คุณสมบัติในข้อน้ีมาบรู ณาการควบคู่ไปกับลายไทย ซงึ่ เป็นภมู ปิ ญั ญาไทย อัน
เป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึง่ ของชาตไิ ทย เพราะความรู้ในการวาดลายไทยนัน้ เป็นความรู้ที่อย่ใู น
ตัวของ แต่ละบุคคลซึ่งต้องอาศัยความชํานาญในการวาดและความสามารถทางจิตรกรรม จากการ
สังเกตของกลุ่ม ผู้จัดทําพบว่าการเขียนกราฟด้วยโปรแกรม GSP นั้นให้เส้นสายที่อ่อนช้อย มีความ
ชัดเจนในเส้นลาย สามารถ ตกแต่งให้เส้นลายนั้นสวยงามได้ และประกอบกับในสมัยก่อนการ
ออกแบบลายไทย ต้องใช้การออกแบบโดยการวาดซึ่งอาจทำให้เกิดความ ผิดพลาดได้ เช่น เส้นบิด
เบ้ยี วบา้ ง ขนาดไมเ่ ทา่ กนั บ้าง ลายไทยลายเดยี วกันแตม่ ลี กั ษณะแตกต่างกนั ยง่ิ คนวาค หลายคน ลาย
ไทยก็จะเร่ิมแตกตา่ งกันไปทุกที กลุม่ ผจู้ ดั ทาํ จงึ ใชโ้ ปรแกรม The Geometers Sketchpad (GSP) มา
ชว่ ยสร้างและวาดลายไทยแบบต่างๆ โดยเปน็ การบูรณาการภมู ปิ ญั ญาไทยกับเทคโนโลยสี มัยใหม่ และ
วชิ าคณติ ศาสตร์

43

วธิ ีการดำเนินงาน

การดำโครงงานเรื่องนี้เป็นการดำเนินการในรูปแบบของโครงงานการศึกษา ประเภท
สิ่งประดษิ ฐ์ เรอื่ งการออกแบบลวดลายกระเบ้ืองดว้ ยโปรแกรม GSP ของนกั ศึกษาข้นั ปีท่ี 4 สาขาวิชา
คณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยวิธีการดำเนินงานประกอบไปด้วย วัสดุและอุปกรณ์
ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน สถานทแ่ี ละระยะเวลา ตารางปฏทิ ินการดำเนินงาน ซง่ึ รายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้
3.1 ขน้ั ตอนการดำเนินงาน

1. สรา้ งลายจากโปรแกรม Geometer's Sketchpad (GSP) ซึ่งมรี ายละเอยี ดดังนี้
1.1 เปดิ โปรแกรม GSP ดังรปู

รูปท่ี 3.1 โปรแกรม GSP
1.2 เลอื กแถบเคร่อื งมอื กราฟ จากน้นั เลอื กเมนู เขยี นกราฟของฟงั ก์ชันใหม่ ดังรปู

รูปท่ี 3.2 แถบเคร่อื งมือกราฟ

44

1.3 ใส่ค่าสมการทต่ี ้องการลงในช่อง ดังรปู

รูปท่ี 3.3 กล่องใส่สมการ

1.4 ดำเนนิ การสรา้ งลายท่ี 1 จากสมการต่างๆ ตามข้นั ตอนดังตอ่ ไปนี้
(1) (2)

รูปที่ 3.4 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ 1 รปู ที่ 3.5 กราฟจากเส้นของสมการที่ 2
(3) (4)

รูปท่ี 3.6 กราฟจากเส้นของสมการที่ 3 รูปท่ี 3.7 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ 4

45
(5) (6)

รูปที่ 3.8 กราฟจากเส้นของสมการที่ 5 - 6 รปู ที่ 3.9 กราฟจากเส้นของสมการท่ี 7 – 10
(7) (8)

รปู ท่ี 3.10 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รปู ท่ี 3.11 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี
11 – 14 15 – 18

(9) (10)

รปู ที่ 3.12 กราฟจากเส้นของสมการที่ รูปท่ี 3.13 กราฟจากเส้นของสมการที่
19 - 22 23 – 24

46
(11) (12)

รูปที่ 3.14 กราฟจากเส้นของสมการท่ี รปู ที่ 3.15 กราฟจากเส้นของสมการที่
25 - 28 29 – 32

(13) (14)

รปู ท่ี 3.16 กราฟจากเส้นของสมการที่ 33 รปู ที่ 3.17 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี 34

(15) (16)

รปู ที่ 3.18 กราฟจากเส้นของสมการท่ี 35 รปู ท่ี 3.19 กราฟจากเส้นของสมการที่ 36

47
(17) (18)

รูปที่ 3.20 กราฟจากเส้นของสมการท่ี รปู ท่ี 3.21 กราฟจากเส้นของสมการท่ี
37 – 38 39 – 40

(19) (20)

รูปที่ 3.22 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รูปที่ 3.23 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี
41 - 48 49 – 56

(21) (22)

รูปที่ 3.24 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รูปที่ 3.25 กราฟจากเส้นของสมการที่
57- 64 65 - 68

48
(23)

รปู ที่ 3.26 กราฟจากเส้นของสมการทง้ั หมด
(24)

รูปที่ 3.27 กราฟจากเส้นของสมการท้ังหมดเมื่อจำลองการพ่นทราย
1.5 นำลายท่ี 1 ทไี่ ด้จากเส้นสมการต่างๆ ไปใช้ในเมนูการสะท้อน หรอื เลื่อนขนาน ซ่ึง
ทำให้ได้ลายทส่ี มบรู ณด์ ังรปู

รปู ท่ี 3.28 การใชส้ มบัตกิ ารสะท้อน หรือการเล่ือนขนาน

49

1.6 ดำเนนิ การสร้างลายท่ี 2 จากสมการตา่ งๆ ตามข้ันตอนดงั น้ี
(1) (2)

รปู ที่ 3.29 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี 1 รูปที่ 3.30 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ 2
(3) (4)

รูปที่ 3.31 กราฟจากเส้นของสมการท่ี 3 รูปที่ 3.32 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี 4
(5) (6)

รปู ที่ 3.33 กราฟจากเส้นของสมการที่ 5 รูปที่ 3.34 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ 6

50
(7) (8)

รปู ท่ี 3.35 กราฟจากเส้นของสมการท่ี รปู ที่ 3.36 กราฟจากเสน้ ของสมการที่
7 - 12 13 - 18

(9) (10)

รูปที่ 3.37 กราฟจากเส้นของสมการที่ รูปท่ี 3.38 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี 25
19 - 24 (12)

(11)

รปู ที่ 3.39 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี 26 รูปท่ี 3.40 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ 27-28

51
(13) (14)

รปู ท่ี 3.41 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี รูปที่ 3.42 กราฟจากเส้นของสมการที่
29 - 30 31 – 32

(15) (16)

รูปท่ี 3.43 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รปู ท่ี 3.44 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี 37
33 - 36 (18)

(17)

รปู ที่ 3.45 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ 38 รปู ท่ี 3.46 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี
39 – 40

52
(19) (20)

รูปที่ 3.47 กราฟจากเส้นของสมการที่ รปู ท่ี 3.48 กราฟจากเส้นของสมการที่
41 - 42 43 - 44

(21) (22)

รูปท่ี 3.49 กราฟจากเส้นของสมการที่ รปู ที่ 3.50 กราฟจากเส้นของสมการที่
45 - 46 47 – 49

(23) (24)

รปู ที่ 3.51 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รปู ที่ 3.52 กราฟจากเส้นของสมการที่
50 - 52 53 – 56

53
(25) (26)

รูปที่ 3.53 กราฟจากเส้นของสมการที่ รปู ท่ี 3.54 กราฟจากเส้นของสมการที่
57 - 60 61 – 64

(27) (28)

รูปท่ี 3.55 กราฟจากเส้นของสมการที่ รปู ที่ 3.56 กราฟจากเส้นของสมการที่
65 - 70 71 – 80

(29) (30)

รปู ที่ 3.57 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รปู ที่ 3.58 กราฟจากเส้นของสมการที่
81 - 92 93 – 98

54
(31) (32)

รูปที่ 3.59 กราฟจากเส้นของสมการที่ รปู ที่ 3.60 กราฟจากเส้นของสมการท่ี
99-108 109-120

(33) (34)

รูปที่ 3.61 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รปู ท่ี 3.62 กราฟจากเส้นของสมการท่ี
121-126 127-136

(35) (36)

รปู ที่ 3.63 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รปู ที่ 3.64 กราฟจากเส้นของสมการท่ี
137-148 149-152

55
(37)

รูปที่ 3.65 กราฟจากเส้นของสมการทั้งหมด
(38)

รูปท่ี 3.66 กราฟจากเส้นของสมการทง้ั หมดเมื่อจำลองการพ่นทราย
1.7 นำลายที่ 2 ท่ีได้จากเสน้ สมการต่างๆ ไปใชใ้ นเมนูการสะท้อน หรอื เลื่อนขนาน ซ่ึง
ทำใหไ้ ดล้ ายทสี่ มบรู ณ์ ดงั รูป

(37)

รปู ที่ 3.67 การใช้สมบัติการสะทอ้ น หรอื การเลื่อนขนาน

56

1.8 ดำเนนิ การสร้างลายที่ 3 จากสมการตา่ งๆ ตามขัน้ ตอนดังนี้
(1) (2)

รปู ที่ 3.68 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี 1 – 8 รปู ที่ 3.69 กราฟจากเส้นของสมการที่
(3) 9 – 12

(4)

รปู ท่ี 3.70 กราฟจากเส้นของสมการท่ี รปู ที่ 3.71 กราฟจากเส้นของสมการที่
13 - 26 27 - 34

(5) (6)

รูปที่ 3.72 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รปู ที่ 3.73 กราฟจากเส้นของสมการที่
35 - 40 41 - 47

57
(7) (8)

รปู ท่ี 3.74 กราฟจากเส้นของสมการที่ รปู ที่ 3.75 กราฟจากเส้นของสมการที่
47 - 55 56 - 61

(9) (10)

รปู ที่ 3.76 กราฟจากเส้นของสมการท่ี รูปที่ 3.77 กราฟจากเส้นของสมการที่
62 - 68 69 – 7

(11) (12)

รูปท่ี 3.78 กราฟจากเสน้ ของสมการที่ รูปท่ี 3.79 กราฟจากเส้นของสมการที่
77 - 82 83 - 89

58
(13) (14)

รปู ท่ี 3.80 กราฟจากเส้นของสมการที่ รูปที่ 3.81 กราฟจากเส้นของสมการที่
90 - 97 98 - 103

(15) (16)

รปู ท่ี 3.82 กราฟจากเส้นของสมการท่ี รูปท่ี 3.83 กราฟจากเสน้ ของสมการที่
104-110 111-118

(17) (18)

รูปท่ี 3.84 กราฟจากเสน้ ของสมการท่ี รปู ที่ 3.85 กราฟจากเส้นของสมการท้ังหมด
119 - 122

59
(19)

รูปท่ี 3.86 กราฟจากเส้นของสมการทง้ั หมดเม่อื จำลองการพน่ ทราย
1.9 นำลายที่ 3 ที่ได้จากเสน้ สมการต่างๆ ไปใชใ้ นเมนกู ารสะท้อน หรอื เลื่อนขนาน ซ่ึง
ทำให้ได้ลายทีส่ มบรู ณ์ ดังรูป
(20)

รปู ที่ 3.87 การใช้สมบัติการสะทอ้ น หรอื การเล่ือนขนาน

60
2. นำลายทไี่ ด้ออกแบบจากโปรแกรม GSP ท้งั 3 ลาย ไปสอบถามโดยทำแบบสอบถาม
ความพึงพอใจทีม่ ีตอ่ ลายท่ีได้จากโปรแกรม GSP จำนวน 50 คน
ลายท่ี 1

รปู ที่ 3.88 ลายท่ี 1 จากการออกแบบลวดลายกระเบอื้ งดว้ ยโปรแกรม GSP
ลายที่ 2

รปู ที่ 3.89 ลายที่ 2 จากการออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม GSP

61

ลายที่ 3

รูปท่ี 3.90 ลายที่ 3 จากการออกแบบลวดลายกระเบ้อื งดว้ ยโปรแกรม GSP

3. สำรวจข้อมูลความพึงพอใจที่มีต่อลายที่ได้จากโปรแกรม GSP บนกระเบื้องที่ได้

ออกแบบ

3.1 จัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจท่มี ีตอ่ ลายท่ีได้จากโปรแกรม GSP

3.2 นำแบบสำรวจความพึงพอใจท่ีมตี ่อลายทไ่ี ด้จากโปรแกรม GSP ให้อาจารย์

ที่ปรึกษาตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

3.3 นำแบบสำรวจความพึงพอใจใหผ้ ู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเหมาะสม และ

ความสอดคล้องของขอ้ คำถาม

3.4 ปรบั ปรงุ แบบสอบถามตามคำแนะนำของผูเ้ ชีย่ วชาญ

3.5 เก็บข้อมูลความพึงพอใจที่มีต่อลายที่ได้จากโปรแกรม GSP ของนักศึกษา

มหาวิทยาลยั ราชภฏั สุรินทร์ จำนวน 50 คน

3.6 สรุปข้อมูลจากการสำรวจความชอบและได้ลายที่มีคะแนนมากที่สุด 1

อนั ดบั จากรอ้ ยละ

3.7 สถิตทิ ่ีใชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมลู

3.7.1 การหารอ้ ยละ

การหาร้อยละ (%) จากสตู ร

ค่าร้อยละ = n
N  100

สตู รสถิตเิ บื้องตน้ ทใ่ี ช้ คือ หารอ้ ยละ (%) จากสูตรเมือ่ กำหนดให้
n แทน จำนวนตวั อยา่ ง

62
N แทน จำนวนประชากร
4. ดำเนนิ การสร้างลายบนกระเบื้องตามรปู แบบลายที่ 2
4.1 ตั้งค่าการปริ้นให้เท่ากับขนาดของกระเบื้อง 20 x 20 ซม. จากนั้นปริ้นลายลง
บนแผ่นสตกิ เกอรข์ นาด A4

รูปท่ี 3.91 ข้นั ตอนท่ี 4.1
4.2 ตดั สตกิ เกอร์ให้เท่ากับขนาดท่ตี ้องการ

รูปท่ี 3.92 ข้นั ตอนท่ี 4.2
4.3 นำสติกเกอร์ติดลงบนกระเบ้อื ง แลว้ รีดสตกิ เกอร์ทับให้เรยี บ

รูปท่ี 3.93 ขั้นตอนที่ 4.3

63

4.4 นำคัตเตอร์ตัดตามลวดลายในส่วนท่ีต้องการ

รปู ท่ี 3.94 ขัน้ ตอนที่ 4.4
4.5 แกะสตกิ เกอรต์ ามสว่ นท่ีต้องการออก

รูปที่ 3.95 ขน้ั ตอนท่ี 4.5
4.6 เม่อื แกะสตกิ เกอรเ์ รียบรอ้ ยแล้ว จะได้ลวดลายบนกระเบ้อื งตามท่ตี อ้ งการ

รปู ที่ 3.96 ข้ันตอนท่ี 4.6

64

4.7 จากน้นั นำไปแกะลายใหไ้ ดต้ ามจำนวนที่ต้องการ

รปู ท่ี 3.97 ข้นั ตอนที่ 4.7
4.8 นำกระเบอ้ื งทต่ี ิดสติกเกอรท์ ี่แกะลายเรียบร้อยแล้ว นำไปพน่ ทรายในตู้พน่ ทราย

รูปท่ี 3.98 ข้ันตอนที่ 4.8

65

4.9 ชน้ิ งานทสี่ ำเรจ็

รูปท่ี 3.99 ข้ันตอนที่ 4.9

5. นำชื้นงานกระเบื้องที่ออกแบบลายด้วยโปรแกรม GSP ที่ได้ไปสอบถามความพึงพอใจ
จำนวน 100 คน

6. นำผลทไี่ ดม้ าประมวลผลและนำเสนอข้อมลู
6.1 การประมวลผล
เมื่อได้รับแบบสอบถามคืนมา ผู้จัดทำได้นำมาตรวจสอบความถูกต้อง

ครบถ้วนอีกครั้งหนึ่ง จึงนำไปวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรม
สำเร็จรูปมีรายละเอียดดงั นี้

1. การตรวจข้อมูล (Editing) ผู้สำรวจตรวจสอบดูความสมบูรณ์ของ
การตอบแบบสอบถาม

2. การลงรหัส (Coding) นำแบบสอบถามที่ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว มา
ลงรหสั ตามทไี่ ดก้ ำหนดรหสั ไวล้ ว่ งหนา้ สำหรับแบบสอบถามที่เป็นปลายปิด (Close-ended)

3. การประมวลผลข้อมูล ข้อมูลที่ลงรหัสแล้วได้นำมาบันทึกโดยใช้
เครื่องคอมพิวเตอร์เพ่ือการประมวลผลข้อมูลซึ่งใช้โปนแกรม Microsoft Excel เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล
โดยวิเคราะห์ขอ้ มูลในแต่ละประเดน็ ย่อยโดยใชก้ ารคำนวณ คา่ รอ้ ยละ คา่ เฉล่ีย และค่าส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐานของคะแนน

สำหรบั ขอ้ มูลทีเ่ ก็บรวบรวมข้อมลู จากเครือ่ งมอื ในการเกบ็ ข้อมลู มีลกั ษณ้เปน็ มาตราส่วน
ประมาณคา่ 5 ระดับ (Rating Scale) คอื มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยทส่ี ดุ โดยแต่ละ
ระดบั กำหนดเกณฑ์ให้คะแนนดงั น้ี

66

ระดับคะแนน ความหมาย
5 มากทสี่ ุด
4 มาก
3 ปานกลาง
2 น้อย
1 น้อยทส่ี ดุ

และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) เพื่อแปลผลตามระดับคะแนน ดังน้ี
(มลั ลิกา บนุ นาค, 2537, หนา้ 29)

4.51 – 5.00 หมายถงึ มีความพงึ พอใจในระดับมากท่สี ุด
3.51 – 4.50 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจในระดับมาก
2.51 – 3.50 หมายถงึ มีความพึงพอใจในระดับปานกลาง
1.51 – 2.50 หมายถงึ มีความพงึ พอใจในระดับนอ้ ย
1.00 – 1.50 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจในระดับน้อยท่ีสดุ
6.2 การนำเสนอผล

นำเสนอผลในรปู ของตารางประกอบคำบรรยาย และแผนภูมิประกอบคำ
บรรยาย แบง่ ออกเปน็ 4 สว่ นดงั นี้

ตอนที่ 1 ข้อมลู ทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
ตอนท่ี 2 การแสดงความพงึ พอใจตอ่ ช้ินงานกระเบ้ือง
ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ
7. สรุปผลและจดั ทำรูปเล่มโครงงาน

67

3.2 วัสดุอปุ กรณ์
1. กระเบอ้ื ง
2. สตกิ เกอร์
3. คัตเตอร์
4. ไมบ้ รรทัด
5. เครอ่ื งพ่นทรายแบบเปน็ ตู้ (โดยใช้คนพน่ ดว้ ยมอื )

3.3 สถานท่แี ละระยะเวลา
107 หมู่ 1 ตำบลนอกเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวัดสุรินทร์ 32000
ระยะเวลาดำเนนิ การ 7 กรกฎาคม 2564 - 22 กนั ยายน 2564

68

3.4 ปฏทิ ินการดำเนินงาน

ตารางที่ 3.1 ปฏทิ ินการดำเนนิ งาน ชว่ งเวลา ผู้รบั ผิดชอบ หมายเหตุ
ลำดับ เรอ่ื ง สปั ดาห์ที1่ -2 นักศกึ ษาและอาจารย์
(วันที่ 23 ม.ิ ย.64) ผู้สอน
1 ประชุมชีแ้ จงแนวทางปฏบิ ัติในการ สปั ดาห์ท่ี 3-4 นักศึกษาและอาจารย์ท่ี
ทำโครงงาน (ลงทะเบยี นหวั ข้อ ปรกึ ษา
ภายในวันท่ี 7ก.ค.
2 ศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูลประกอบการ 2564 เวลา 12.00 นกั ศึกษาและ
จดั ทำโครงงาน พบอาจารย์ที่ คณะกรรมการการสอบ
ปรึกษาโครงงาน และลงทะเบียน น.) โครงงานคณติ ศาสตร์
หวั ขอ้ ทีอ่ าจารย์พนดิ า คําแปล สัปดาห์ที่ 5-6 นกั ศกึ ษา

3 นําเสนอเค้าโครงโครงงาน สัปดาห์ท่ี 7 นักศกึ ษา
คณติ ศาสตร์
สัปดาห์ที่ 8-11 นกั ศึกษา
4 ศึกษาและหาความรู้เรื่องการสร้าง
ลายกระเบื้อง สปั ดาห์ที่ 12 อาจารยท์ ีป่ รกึ ษาและ
คณะกรรมการการสอบ
5 ออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วย สัปดาห์ที่ 13 โครงงานคณิตศาสตร์
โปรแกรม GSP อาจารยท์ ปี่ รกึ ษาและ
สปั ดาห์ที่ 15 คณะกรรมการการสอบ
6 สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ วันที่ 22 ก.ย. 2564 โครงงานคณิตศาสตร์
ในรูปแบบของการออกแบบ (ภายในเวลา 12.00
ลวดลาย และสร้างลวดลายลงบน ผ้รู ับผิดชอบรายวชิ า
กระเบ้ืองด้วยโปรแกรม GSP น.) และอาจารย์ผู้สอน
สปั ดาห์ท่ี 16
7 จัดทำโครงงานและรายงาน
ความก้าวหน้าต่ออาจารยท์ ีป่ รึกษา
โครงงาน

8 ส่งรูปเล่มฉบับสมบูรณ์ที่ผ่านความ
เห็นชอบจากอาจารยท์ ป่ี รึกษา

9 ดำเนินการสอบโครงงาน
คณติ ศาสตร์

69

ผลการดำเนินการวเิ คราะหข์ อ้ มลู

ในการทำโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำศาสตร์ความรู้คณิตศาสตร์มาใช้ในการ
ออกแบบลวดลายกระเบือ้ ง รวมถึงการใช้โปรแกรม GSP มาช่วยออกแบบลายและเพื่อเป็นการสรา้ ง
มูลคา่ เพม่ิ ให้กับชนิ้ งาน และจากการดำเนินงานสรา้ งชิน้ งานในครัง้ นี้ คณะผ้จู ดั ทำได้นำเอาลวดลายที่
ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์ และใช้โปรแกรม GSP มาช่วยในการออกแบบ นำมาพ่นทรายให้เกิดลาย
บนกระเบอ้ื งให้สวยงามและมีความแปลกใหม่ ซ่งึ มผี ลการดำเนนิ งานเป็นดงั นี้

4.1 ผลการดำเนินงาน
จากแบบสอบถามความคิดเห็นความพึงพอใจในชิ้นงาน โครงงาน เรื่อง การออกแบบ

ลวดลายกระเบ้ืองดว้ ยโปรแกรม GSP จากกล่มุ ตวั อยา่ ง นักศกึ ษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรนิ ทร์ จำนวน
50 คน

ตอนที่ 1 ความชอบต่อลายทไี่ ดจ้ ากโปรแกรม GSP ของผู้ตอบแบบสอบถามความชอบ
ตอนที่ 2 ลวดลายของช้ินงานทีไ่ ด้
ตอนที่ 3 การสำรวจความพงึ พอใจต่อผลงานโครงงาน เร่อื งการออกแบบลวดลายกระเบ้ือง
ดว้ ยโปรแกรม GSP

ตอนที่ 1 ความชอบตอ่ ลวดลายท่ีไดจ้ ากโปรแกรม GSP
ตารางที่ 4.1 รอ้ ยละของผตู้ อบแบบถามความชอบต่อลายที่ไดจ้ ากโปรแกรม GSP จำแนก
ตามความชอบต่อช้ินงาน ในแต่ละลาย

รูปท่ี รายการรปู ภาพ จำนวนคน รอ้ ยละ
1 13 26

70

2 21 42

3 16 32

รวม 50 100
จากตารางร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามความชอบต่อลายที่ได้จากโปรแกรม GSP เป็น
นักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จำนวน 50 คน และความชอบต่อลายที่ได้จากโปรแกรม GSP
พบผู้ตอบแบบสอบถามความชอบ คือ ลายที่ 1 จำนวน 13 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 26 ลายที่ 2 จำนวน
21 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 42 และลายที่ 3 จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 32
ตอนท่ี 2 ลายท่ไี ด้จากแบบสอบถามความชอบ

จากการสำรวจความชอบต่อลายที่ได้จากโปรแกรม GSP พบว่า ผู้ตอบ
แบบสอบถามความชอบส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจต่อลายที่ 2 มากที่สุด คือ จำนวน 21 คน คิดเป็น
ร้อยละ 42 จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 50 คน ดังนั้น ผู้จัดทำจึงนำลายที่ 2 ไปดำเนินการพน่
ทรายลงบนกระเบ้ืองเพอ่ื ทำเป้นชิน้ งานในขน้ั ตอ่ ไป

71

รปู ท่ี 4.1 ลายที่ได้คะแนนแบบสอบถามความชอบมากท่ีสุด

ตอนที่ 3 การสำรวจความพึงพอใจต่อผลงานโครงงาน เรื่องการออกแบบลวดลาย

กระเบ้ืองด้วยโปรแกรม GSP

การดำเนินการสำรวจความพึงพอใจต่อผลงานโครงงานเรื่อง การออกแบบลวดลาย

กระเบอื้ งดว้ ยโปรแกรม GSP จากกลมุ่ ตัวอยา่ ง 100 คน ดงั ตอ่ ไปนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมลู ทัว่ ไป

ตารางที่ 4.2 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ

เพศ จำนวน ร้อยละ

หญิง 67 67.00

ชาย 33 33.00

รวม 100 100.00

จากตารางท่ี 4.2 พบว่าผู้ตอบแบบประเมินสว่ นใหญเ่ ป็นผหู้ ญิง คดิ เป็นรอ้ ยละ 67 รองลงมา

คือ เพศชาย คิดเป็นรอ้ ยละ 33

ตารางท่ี 4.3 จำนวนและรอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามช่วงชั้นปี

ช่วงชน้ั ปี จำนวน ร้อยละ

ชนั้ ปที ี่ 1 6 6.00

ชั้นปที ี่ 2 12 12.00

ชั้นปที ี่ 3 24 24.00

ชน้ั ปที ่ี 4 55 55.00

ชั้นปที ่ี 5 3 3.00

รวม 100 100.00

72

จากตารางที่ 4.3 พบว่าผู้ตอบแบบประเมินส่วนใหญ่เป็นช่วงชั้นปีที่ 4 คิดเป็นร้อยละ 55
รองลงมา คอื ชว่ งชั้นปีท่ี 3 คิดเปน็ รอ้ ยละ 24

ตารางท่ี 4.4 จำนวนและรอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถามจำแนกตามคณะ

สงั กัด/คณะ จำนวน ร้อยละ

คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ 4 4.00

คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 0 0.00

คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 90 90.00

คณะวทิ ยาการจดั การ 1 1.00

คณะเกษตรและอตุ สาหกรรมศาสตร์ 0 0.00

คณะครศุ าสตร์ 5 5.00

รวม 100 100.00

จากตารางท่ี 4.4 พบวา่ พบว่าผู้ตอบสอบประเมินส่วนใหญ่ศึกษาอยู่คณะวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี คิดเปน็ ร้อยละ 90 รองลงมา คือ คณะครุศาสตร์ คดิ เป็นร้อยละ 5 คณะมนษุ ยศาสตร์และ

สังคมศาสตร์ คิดเปน็ รอ้ ยละ 4 คณะวทิ ยาการจัดการ คดิ เป็นรอ้ ยละ 4

2. ผลการวเิ คราะห์แบบประเมินรายขอ้
เกณฑ์การประเมนิ ความพึงพอใจ มดี ังต่อไปนี้

คะแนนเฉล่ยี 4.51 – 5.00 หมายถงึ มีความพึงพอใจในระดับมากทีส่ ดุ
คะแนนเฉล่ีย 3.51 – 4.50 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจในระดับมาก
คะแนนเฉลยี่ 2.51 – 3.50 หมายถึง มีความพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง
คะแนนเฉลีย่ 1.51 – 2.50 หมายถงึ มีความพึงพอใจในระดับนอ้ ย
คะแนนเฉล่ยี 1.00 – 1.50 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจในระดบั น้อยทส่ี ดุ

73

ตารางที่ 4.5 ความพงึ พอใจต่อโครงงานเรื่อง การออกแบบลวดลายกระเบอื้ งด้วยโปรแกรม GSP

ร้อยละระดับความคดิ เหน็ ระดับความ
มาก มาก ปาน น้อย น้อย พงึ พอใจ
ท่ีสุด กลาง ท่ีสดุ
Xขอ้
รายการประเมนิ S.D.

ด้านความเป็นนวัตกรรม

1 ชิ้นงานมีความสวยงาม/มีความคิด 94 6 - - - 4.94 0.24 พอใจมากที่สดุ

สร้างสรรค์

2 ชิ้นงานมขี นาดที่เหมาะสม 88 12 - - - 4.88 0.33 พอใจมากทส่ี ดุ

3 ช้นิ งานมคี วามแปลกใหม่และทันสมยั 75 19 6 - - 4.69 0.58 พอใจมากทส่ี ดุ

ดา้ นเน้ือหาความรู้

4 ประยุกต์ใช้ความรู้ทางคณติ ศาสตร์ได้ 62 28 10 - - 4.52 0.67 พอใจมากที่สดุ

หลากหลาย

5 ใช้โปรแกรม GSP ออกแบบลาย 90 10 - - - 4.90 0.30 พอใจมากทส่ี ุด

กระเบอ้ื งไดส้ วยงามและเหมาะสม

ดา้ นคุณคา่

6 สามารถสร้างลายเพื่อเพิ่มมูลค่าของ 81 19 - - - 4.81 0.39 พอใจมากที่สุด

กระเบื้องได้

ดา้ นการวัดและประเมินผล

7 ชิ้นงานสามารถนำไปใชง้ านไดจ้ ริง 59 38 3 - - 4.56 0.56 พอใจมากที่สดุ

8 ความพอใจในภาพรวมของชนิ้ งาน 87 13 - - - 4.87 0.34 พอใจมากทีส่ ดุ

รวม 4.77 0.43 พอใจมากท่ีสดุ

จากตารางท่ี 4.5 พบวา่ ผตู้ อบแบบประเมินมีความพงึ พอใจต่อโครงงานเรอื่ งการออกแบบ
ลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม GSP ในระดบั พอใจมากทส่ี ุด คา่ เฉลี่ย 4.77 เมอื่ พิจารณาเป็นรายข้อ
พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจมากที่สุดทุกข้อ โดย 5 อันดับแรกได้แก่ ชิ้นงานมีความ
สวยงาม/มีความคิดสร้างสรรค์ ค่าเฉลี่ย 4.94 ใช้โปรแกรม GSP ออกแบบลายกระเบื้องได้สวยงาม
และเหมาะสม ค่าเฉลี่ย 4.90 ชิ้นงานมีขนาดที่เหมาะสม ค่าเฉลี่ย 4.88 ความพอใจในภาพรวมของ
ชิ้นงาน ค่าเฉลี่ย 4.87 สามารถสร้างลายเพื่อเพิ่มมูลค่าของกระเบื้องได้ ค่าเฉลี่ย 4.81 ตามลำดับ

74

บทท่ี 5
สรุป และข้อเสนอแนะ

5.1 สรุปผลการดำเนินงาน
โครงงานเรื่องการออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม GSP เป็นการใช้ความรู้ทาง

คณิตศาสตร์ โดยการออกแบบลายดว้ ยโปรแกรม GSP แลว้ นำลายท่ไี ดไ้ ปพน่ ทรายบนกระเบ้อื งให้เกิด
ลวดลาย ซ่งึ การใชค้ วามรู้ทางคณติ ศาสตร์ ไดแ้ ก่ สมการทางคณติ ศาสตร์ การแปลงทางเรขาคณติ โดย
ใช้โปรแกรม Geometer’s Sketchpad (GSP) มาช่วยในการออกแบบลาย ซึ่งได้ออกแบบลาย
ทั้งหมด 3 ลาย แล้วนำลายที่ได้ไปสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อลายที่ได้จากโปรแกรม GSP กับ
นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จำนวน 50 คน มีความพึงพอใจต่อลายที่ 2 มากที่สุด คือ
จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 42 จากผู้ตอบแบบสอบถาม 50 คน ผู้จัดทำจึงนำลายที่ 2 ไป
ดำเนินการสอบถามความพึงพอใจต่อชิ้นงาน และผลการประเมินความพึงพอใจจากผู้ตอบแบบ
ประเมิน จำนวน 100 คน พบว่าผู้ตอบแบบประเมินมีความพึงพอใจต่อชิ้นงาน โครงงานเรื่องการ
ออกแบบลวดลายกระเบื้องดว้ ยโปรแกรม GSP ในระดบั ความพึงพอใจมากทสี่ ุด คา่ เฉลี่ย 4.77

5.2 อภิปรายผลโครงงาน
จากผลการทำโครงงานพบว่า การออกแบบลวดลายกระเบือ้ งด้วยโปรแกรม GSP อภปิ ราย

ผลได้ดงั ต่อไปน้ี
5.2.1 ผลการออกแบบลวดลายกระเบอื้ งด้วยโปรแกรม GSP ซงึ่ ผูต้ อบแบบสอบถามความ

พงึ พอใจที่มตี อ่ ลาย ด้วยโปรแกรม GSP กล่มุ ตวั อย่างจำนวน 50 คน จำแนกตามลำดับความพึงพอใจ
มากทสี่ ดุ คอื ลายท่ี 2 จำนวน 21 คน (รอ้ ยละ 42) , ลายท่ี 3 จำนวน 16 คน (ร้อยละ 32) และ ลาย
ท่ี 1 จำนวน 13 คน (ร้อยละ 26) ตามลำดับ

5.2.2 นกั ศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสรุ นิ ทร์ มีความพึงพอใจต่อชิน้ งานโครงงาน เร่ืองการ
ออกแบบลวดลายกระเบื้องดว้ ยโปรแกรม GSP ศึกษากลุ่มตัวอย่าง 100 คน ในระดับความพึงพอใจ
มากทีส่ ดุ ค่าเฉลย่ี 4.77 เมือ่ พจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจมากที่สุด
โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ชิ้นงานมีความสวยงาม/มีความคิดสร้างสรรค์ ค่าเฉลี่ย 4.94 ใช้โปรแกรม
GSP ออกแบบลายกระเบื้องได้สวยงามและเหมาะสม ค่าเฉลี่ย 4.90 ชิ้นงานมีขนาดที่เหมาะสม
คา่ เฉล่ีย 4.88 ความพอใจในภาพรวมของช้นิ งาน คา่ เฉล่ีย 4.87 สามารถสรา้ งลายเพอ่ื เพมิ่ มูลค่าของ
กระเบอ้ื งได้ ค่าเฉลย่ี 4.81 ตามลำดับ

75

5.3 ปญั หาท่พี บจากการสรา้ งชิน้ งาน
5.3.1 ข้ันตอนในการดาวน์โหลดโปรแกรม GSP มีความซับซอ้ น
5.3.2 ในส่วนโปรแกรม GSP ฟังก์ชันบางส่วนมีข้อจำกัดมาก ในการสร้างสมการมีการ

กำหนดโดเมนและเรนจ์ ซึ่งมีความผิดเพี้ยนไปบ้าง ทำให้เสียเวลาในการแก้ไขค่อนข้างมาก รวมถึง
สมการมจี ำนวนมาก จึงใช้ความละเอยี ดมากเช่นกัน ทำใหโ้ ปรแกรมมีการตอบสนองที่ค่อนข้างชา้

5.3.3 การติดต่อสื่อสารยากลำบาก เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19
5.3.4 มหี ลายข้ันตอนในการทำลวดลายกระเบ้อื ง
5.3.5 สติกเกอร์ไม่ไดค้ ณุ ภาพ ยากต่อการแกะลวดลาย

5.4 ประโยชน์ทีไ่ ด้รับจากการดำเนินงาน
5.4.1 สามารถนำความรู้ทางคณิตศาสตร์มาใช้ในการออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วย

โปรแกรม GSP
5.4.2 ได้เรียนรู้การใช้โปรแกรมทางคณิตศาสตร์ โปรแกรม GSP ไปใช้ในการออกแบบ

ลวดลายบนกระเบื้อง
5.4.3 ได้รับความรู้ และทกั ษะในการพน่ ทรายลงบนกระเบอื้ ง และสามารถปฏบิ ัติได้
5.4.4 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เกิดความเพลิดเพลิน และมีเจตคติที่ดีต่อวิชา

คณิตศาสตร์

5.5 ขอ้ เสนอแนะ
5.5.1 สามารถนำความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปใช้กบั สงิ่ ประดิษฐ์อ่ืน ๆ อกี ได้
5.5.2 สามารถนำฟงั กช์ ันหรอื สมการทางคณิตศาสตร์อ่นื ๆ เชน่ ฟังก์ชนั ลอการทิ มึ ฟงั ก์ชัน

พหุนาม เป็นตน้ มาใช้สร้างเพื่อให้เกิดลวดลายใหม่ ๆ และสวยงามมากยง่ิ ขน้ึ
5.5.3 ควรสรา้ งลายให้มีหลากหลายรูปแบบ

76

บรรณานกุ รม

Maitree Pongsapan. (2554). การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์. สืบค้นเมื่อ 22
กรกฎาคม 2564, จาก http://maitree3.blogspot.com

Blast Master. (ม.ป.ป.). ความรู้เรื่องการพ่นทราย. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2564, จาก
http://www.thaisandblast.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=53882541

เสรี สขุ โยธิน. (2553). GSP โปรแกรมคณติ ศาสตร์ทีต่ อ้ งเรยี นรู้. สืบค้นเม่อื 22 กรกฎาคม 2564, จาก
https://www.gotoknow.org/blog/gsp

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกยี รติ. (2558). เรียนรู้การใช้งานเบื้องตน้ กับโปรแกรม GSP. สืบค้น
เมื่อ 22 กรกฎาคม 2564, จาก http://krupayu.blogspot.com/2015/05/gsp.html

วธิ ีการใช้โปรแกรม GSP. (2556). สืบคน้ เม่ือ 22 กรกฎาคม 2564, จาก http://nattareeporn.
blogspot.com/p/sketchpad.html

ประกาศิต บุญวงค์. (2556). ระบบสมการเชิงเส้น. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2564, จาก
http://www.satriwit3.ac.th/files/1612131010465494_20051911115849.pdf

รณชัย มาเจริญทรัพย . (ม.ป.ป.). ฟงกชันตรีโกณมิติ. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2564, จาก
http://www.etvthai.tv.

พาราโบลา (Parabola) คณิตศาสตร์ ม.4. (2563). สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2564, จาก
https://www.tewfree.com

เชษฐ. (2561). กระเบ้อื งปูพ้นื สืบค้นเมอื่ 27 กันยายน 2564, จาก https://www.hiachet.com

วุฒิพงษ์ รักแม่. (2558). การแปลงทางคณิตศาสตร์. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2564, จาก
https://sites.google.com/a/yanghom.ac.th/bankruman/hnwy-kar-reiyn-ru5

ไ พ ร ว ัล ดว ง ตา . (2556) . สมก าร ก ำลัง สอง . สืบค้น เมื่อ 28 ก ัน ยายน 2564, จาก
https://krupraiwan.wordpress.com

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มตี อ่ ลายท่ไี ดจ้ ากโปรแกรม GSP

แบบสอบถามความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ ลายทไี่ ด้จากโปรแกรม GSP

ตอนที่ 1 ข้อมูลทว่ั ไป
คำชีแ้ จง โปรดทำเคร่อื งหมาย  ลงในชอ่ งว่างท่ีกำหนดให้ โดยเลือกลายกระเบอื้ งท่ที า่ นมี
ความพงึ พอใจต่อลายที่ชอบมากท่สี ุด จำนวน 1 ลาย
1. 
2. 

3. 

ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................. .........................
.......................................................................................................... ............................................
............................................................................................................................. .........................

ภาคผนวก ข
แบบประเมนิ ความพงึ พอใจท่มี ตี ่อโครงงาน
เรื่อง การออกแบบลวดลายกระเบ้อื งดว้ ยโปรแกรม GSP

แบบประเมินความพึงพอใจที่มตี อ่ ผลงานโครงงาน
เรอ่ื ง การออกแบบลวดลายกระเบอ้ื งด้วยโปรแกรม GSP

ตอนท่ี 1 ข้อมูลท่วั ไป

คำชแ้ี จง โปรดทำเคร่อื งหมาย  ในชอ่ ง 

1. เพศ

 ชาย  หญิง

2. ระดับช้ันปี

 ชัน้ ปที ่ี 1  ช้ันปีที่ 2  ชั้นปที ่ี 3

 ชน้ั ปที ี่ 4  ชั้นปีที่ 5  สังกัด/คณะเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม
 สังกัด/คณะวทิ ยาการจัดการ
3. คณะท่ีสงั กัด  สังกดั /คณะครศุ าสตร์

 สงั กดั /คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์

 สังกดั /คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

 สงั กัด/คณะเกษตรและอตุ สาหกรรมศาสตร์

ตอนที่ 2 ระดับความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ โครงงานเรื่องการออกแบบลวดลายกระเบอื้ งดว้ ยโปรแกรม
คำช้ีแจง
GSP

โปรดทำเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งระดบั ความพึงพอใจทางดา้ นขวาท่ีตรงกับความพึง

พอใจของท่านมากที่สดุ โดยมีเกณฑ์ 5 ระดบั ดงั นี้

5 หมายถึง พึงพอใจมากทสี่ ุด 4 หมายถงึ พงึ พอใจมาก

3 หมายถึง พึงพอใจปานกลาง 2 หมายถึง พงึ พอใจน้อย

1 หมายถงึ พึงพอใจนอ้ ยทส่ี ุด

ข้อ รายการ ระดบั ความพงึ พอใจ
54321
ดา้ นความเปน็ นวัตกรรม
1 ช้ินงานมีความสวยงาม/มีความคดิ สร้างสรรค์
2 ชิ้นงานมขี นาดท่ีเหมาะสม
3 ช้นิ งานมีความแปลกใหม่และทนั สมยั

ด้านเน้ือหาความรู้
4 ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรูท้ างคณิตศาสตรไ์ ด้หลากหลาย

ขอ้ รายการ ระดับความพึงพอใจ
54321
5 ใช้โปรแกรม GSP ออกแบบลายกระเบ้ืองไดส้ วยงามและ
เหมาะสม

ด้านคณุ คา่
6 สามารถสร้างลายเพื่อเพม่ิ มลู ค่าของกระเบอื้ งได้

ดา้ นการวดั และประเมินผล
7 ชน้ิ งานสามารถนำไปใช้งานได้จริง
8 ความพอใจในภาพรวมของชน้ิ งาน

ขอ้ เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ภาคผนวก ค
แบบฟอรม์ แบบประเมนิ ผ้เู ชี่ยวชาญ

แบบประเมินคา่ ดชั นคี วามสอดคลอ้ ง (IOC) ของแบบสอบถามความพึงพอใจต่อ
การออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม GSP

คำชี้แจง โปรดพิจารณาความสอดคล้องของประเด็นข้อคำถาม เพื่อใช้ในแบบสอบถามความพึง

พอใจที่มีต่อ โครงงานคณิตศาสตร์ เรื่องการออกแบบลวดลายกระเบื้องด้วยโปรแกรม

GSP แตล่ ะขอ้ ว่ามคี วามถูกตอ้ งเหมาะสมหรือไม่

+1 = แนใ่ จว่าคำถามมีความเหมาะสม

0 = ไมแ่ นใ่ จวา่ คำถามมีความเหมาะสมหรอื ไม่

-1 = แน่ใจวา่ คำถามไม่มคี วามเหมาะสม

เมือ่ พจิ ารณาแล้ว โปรดใส่เครื่องหมาย  ลงในชอ่ งระดับความคิดเหน็ ของท่าน พร้อม

เขียนขอ้ เสนอแนะทีเ่ ปน็ ประโยชน์ในการนำไปพจิ ารณาปรับปรุงต่อไป

ข้อที่ ขอ้ คำถามในแบบสอบถาม คะแนนประเมนิ จากผู้เชี่ยวชาญ ข้อเสนอ

เหน็ ด้วย (+1) ไม่แน่ใจ (0) ไมเ่ หน็ ด้วย (-1) แนะ

ดา้ นความเปน็ นวตั กรรม

1 มคี วามคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ

ลวดลายกระเบ้อื ง

2 ชนิ้ งานมขี นาดที่เหมาะสม

3 ชน้ิ งานมคี วามแปลกใหมแ่ ละทันสมยั

ดา้ นเนื้อหาความรู้

4 ประยกุ ต์ใช้ความรู้เร่ืองสมการ

คณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม

5 ใช้โปรแกรม GSP ออกแบบลาย

กระเบ้ืองไดส้ วยงามและเหมาะสม

ด้านคณุ ค่า

6 สามารถสรา้ งลายเพือ่ เพิม่ มูลค่าของ

กระเบ้อื งได้

ด้านการวัดและประเมินผล

7 ชิ้นงานสามารถนำไปใช้งานไดจ้ ริง

8 ความพอใจในภาพรวมของช้ินงาน

ขอ้ เสนอแนะ

................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .................................................ผู้เช่ียวชาญ
(……………………………………………..)

ตำแหน่ง......................................................

ภาคผนวก ง
ผลการประเมินโดยผ้เู ชี่ยวชาญ


Click to View FlipBook Version