The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prasopchock.pra, 2021-06-10 05:35:22

กำหนดการจัดการเรียนรู้ ว22101 วิทยาศาสตร์พ้นฐาน

ก ำหนดกำรจัดกำรเรียนรู้




รำยวิชำ วิทยำศำสตร์พื้นฐำน



รหัสวิชำ ว22101 ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2







จัดท ำโดย



นำยประสพโชค ประภำ



ต ำแหน่ง คร








โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษำ



อ ำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น



ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศกษำมัธยมศึกษำขอนแก่น



กระทรวงศึกษำธิกำร

ค ำน ำ



ี่

ก ำหนดกำรจัดกำรเรียนรู้เลมนี้จัดท ำขึ้น เพื่อเป็นกำรก ำหนดกำรสอนนักเรียนระดบชั้นมัธยมศึกษำปีท 2


ี่
รำยวิชำวิทยำศำสตร์พื้นฐำน รหัสวิชำ ว22101 ภำคเรียนท 1 ปีกำรศกษำ 2564 โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศกษำ






ี่

สำนักงำนเขตพื้นทกำรศกษำมัธยมศกษำขอนแก่น สงกัดสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกษำขั้นพื้นฐำน
ี่

กระทรวงศกษำธิกำร เพื่อเป็นกำรเตรียมกำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำให้เป็นไปตำมวัตถุประสงคทวำงไว้

ู้


ตลอดจนเป็นแนวทำงในกำรจดกำรเรียนรู้ให้มีประสทธิภำพยิ่งๆขึ้นไป โดยเฉพำะครูผสอนจะไดทรำบแนว



ปฏิบัตและหัวข้อตำง ๆ ทเกี่ยวกับรำยวิชำไดอย่ำงชดเจนทงยังเป็นกำรเตรียมกำรในกำรจดเนื้อหำ เวลำ
ี่
ั้



กิจกรรม หน่วยกำรเรียนรู้ ตวชวัด คะแนนให้เหมำะสมกับระดบควำมสำมำรถของนักเรียน เพื่อให้เกิด


ี้
ประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน



ู้
ั้
ทงนี้ผจดทำหวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำก ำหนดกำรจดกำรเรียนรู้เลมนี้จะเปนประโยชน์อย่ำงยิ่งในกำรวำงแผน


ต่ำงๆ ในกำรจดกำรเรียนรู้ตอไปในอนำคต หำกมีข้อผิดประกำรใดผจัดท ำขอน้อมรับเพื่อน ำไปปรับปรุงในกำร
ู้


ท ำให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป



กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษำ

สำรบัญ





หน้ำ



ค ำน ำ


สำรบัญ

วิสัยทัศน์หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน 1

หลักกำร 1

จุดหมำย 1
วิสัยทัศน์โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษำ 1

วิสัยทัศน์กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 2


สมรรถนะส ำคญของผู้เรียน 3
คุณลักษณะอันพึงประสงค ์ 4

เรียนรู้อะไรในวิทยำศำสตร์ 4

สำระมำตรฐำนกำรเรียนรู้ 5
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ 6

แนวกำรจัดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ 7

แนวทำงกำรจัดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์แบบสบเสำะหำควำมรู้ 8
สื่อกำรจัดกำรเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 9

คุณภำพผเรียน 9
ู้
ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ชั้นมัธยมศกษำปีที่ 2 11

ค ำอธิบำยรำยวิชำ 20
โครงสร้ำงรำยวิชำ 21

หน่วยกำรเรียนรู้ 22

1




วิสัยทัศน์หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน
ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศักรำช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มุ่งพัฒนำผู้เรียน







ี่
ั้

ทกคน ซึ่งเป็นก ำลงของชำตให้เป็นมนุษย์ทมีควำมสมดลทงดำนร่ำงกำย ควำมรู้ คณธรรม มีจตสำนึกในควำมเป็น

พลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในกำรปกครองตำมระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเปนประมุข มี





ี่
ควำมรู้และทกษะพื้นฐำน รวมทง เจตคต ทจำเปนตอกำรศกษำตอ กำรประกอบอำชพและกำรศกษำตลอดชวิต โดย
ั้






มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญบนพื้นฐำนควำมเชื่อว่ำ ทุกคนสำมำรถเรียนรู้และพัฒนำตนเองได้เต็มตำมศักยภำพ
หลักกำร
ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน มีหลักกำรที่ส ำคัญ ดังนี้





1. เป็นหลกสตรกำรศกษำเพื่อควำมเป็นเอกภำพของชำตมีจดหมำยและมำตรฐำนกำรเรียนรู้เป็นเป้ำหมำย
ส ำหรับพัฒนำเด็กและเยำวชนให้มีควำมรู้ ทกษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐำนของควำมเปนไทยควบคู่กับควำมเปน



สำกล
2. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำเพื่อปวงชน ที่ประชำชนทุกคนมีโอกำสได้รับกำรศึกษำอย่ำงเสมอภำค และมีคุณภำพ
3. เปนหลกสูตรกำรศกษำทสนองกำรกระจำยอ ำนำจ ให้สังคมมีสวนร่วมในกำรจดกำรศกษำให้สอดคลองกับ



ี่




สภำพและควำมต้องกำรของท้องถิ่น
4. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำที่มีโครงสร้ำงยืดหยุ่นทั้งด้ำนสำระกำรเรียนรู้ เวลำและกำรจัดกำรเรียนรู้
5. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ

6. เป็นหลักสตรกำรศึกษำส ำหรับกำรศึกษำในระบบ นอกระบบ และตำมอัธยำศัย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้ำหมำย
สำมำรถเทียบโอนผลกำรเรียนรู้ และประสบกำรณ์
จุดหมำย
ู้






ตำมหลกสตรแกนกลำงกำรศกษำขั้นพื้นฐำน มุ่งพัฒนำผเรียนให้เปนคนด มีปัญญำ มีควำมสข มีศกยภำพใน

กำรศึกษำต่อ และประกอบอำชีพ จึงก ำหนดเป็นจุดหมำยเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เมื่อจบกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ดังนี้
ี่




1. มีคณธรรม จริยธรรม และคำนิยมทพึงประสงค เหนคณคำของตนเอง มีวินัยและปฏิบัตตนตำมหลกธรรม




ของพระพุทธศำสนำ หรือศำสนำที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง
2. มีควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร กำรคิด กำรแก้ปัญหำ กำรใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต
3. มีสุขภำพกำยและสุขภำพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักกำรออกก ำลังกำย

4. มีควำมรักชำติ มีจิตสำนึกในควำมเป็นพลเมืองไทยและพลโลกยึดมั่นในวิถีชวิตและกำรปกครองตำมระบอบ

ประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5. มีจิตส ำนึกในกำรอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญำไทย กำรอนุรักษ์และพัฒนำสิ่งแวดล้อม มีจิตสำธำรณะท ี่
มุ่งท ำประโยชน์และสร้ำงสิ่งที่ดีงำมในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่ำงมีควำมสุข

2




วิสัยทัศน์โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษำ



โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศกษำ เปนองค์กรแห่งกำรเรียนรู้และเป็นศูนย์กลำงพัฒนำชมชน บริหำรจดกำรศึกษำด้วย



ระบบคณภำพตำมหลกธรรมำภิบำลและหลกปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง สควำมเปนสำกลตำมวิถีควำมเป็นไทย ครูมี

ู่



คุณภำพตำมมำตรฐำนวิชำชีพ นักเรียนมีคณลักษณะอันพึงประสงค มีควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำรก้ำวทนเทคโนโลยีและมี

จิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม

พันธกิจ (MISSION)
1. ส่งเสริมคณภำพผู้เรียนให้ให้ได้มำตรฐำนกำรศึกษำ

2. พัฒนำผู้เรียนสู่มำตรฐำนสำกล
3. พัฒนำครูและบุคลำกรตำมมำตรฐำนวิชำชีพมุ่งสู่ควำมเป็นมืออำชีพ

4. เพิ่มประวิทธิภำพในกำรบริหำรจัดกำรได้มำตรฐำนโดยมีส่วนร่วม

5. ส่งเสริมให้ผู้บริหำร ครู บุคลำกร และผเรียน ด ำเนินชีวิตตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิพอเพียง
ู้
เป้ำประสงค์ (GOAL)

1. ผู้เรียนมีคุณธรรม น ำควำมรู้ อยู่ร่วมสังคมอย่ำงมีควำมสุข
2. ผู้เรียนมีคุณภำพตำมเปำหมำยของมำตรฐำนสำกล

3. ครู และบุคลำกรมีควำมเป็นมืออำชีพ
4. มีกำรบริหำรจัดกำรได้มำตรฐำนอย่ำงมีคุณภำพ โดยเน้นกำรมีส่วนร่วม ผู้รับบริกำรพึงพอใจ

5. ผู้บริหำร ครู บุคลำกร และนักเรียนมีทักษะชีวิตตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง

กลยุทธ์โรงเรียน
1. พัฒนำคุณภำพผู้เรียนตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ

2. พัฒนำผู้เรียนให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำนสำกล

3. ส่งเสริมครูและบุคลำกรสู่มืออำชีพ
4. ส่งเสริมกำรบริหำรจัดกำรให้ได้มำตรฐำนอย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยเน้นกำรมีส่วนร่วม

5. ส่งเสริมผู้บริหำร ครู บุคลำกร และนักเรียนมีทักษะชีวิตตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง


วิสัยทัศน์กลุ่มสำระกำรเรียนรวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ู้

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี มุ่งจัดกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตร์โดยตระหนักถึงศกยภำพ
ู้

ของผเรียน เน้นผเรียนเป็นสำคญ จดกิจกรรมให้เหมำะสมกับผเรียน เพื่อให้ผเรียนไดเรียนอย่ำงมีควำมสข และ


ู้

ู้
ู้

ส่งเสริมผเรียนที่มีควำมสำมำรถทำงด้ำนวิทยำศำสตร์ และตระหนักในคุณค่ำและมีเจตคติที่ดีต่อวิชำวิทยำศำสตร์
ู้

3




พันธกิจ


1. ส่งเสริมจดกำรเรียนกำรสอนให้สอดคล้องกับหลักสตรแกนกลำงกำรศึกษำขึ้นพื้นฐำน
2. ส่งเสริมและพัฒนำทักษะกำรคิดค ำนวณ และกำรแก้ปัญหำ
ื่
3. มีสอและและอุปกรณ์กำรสอนที่ทันสมัยและเพียงพอ
4. จัดห้องพักครูให้มีบรรยำกำศเอื้อต่อกำรศึกษำค้นคว้ำหำควำมรู้

5. ปลูกฝังให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและค่ำนิยมอันพึงประสงค ์
6. ส่งเสริมและสนับสนุนนักเรียนที่มีควำมสำมำรถพิเศษเฉพำะด้ำน ให้สำมำรถพัฒนำได้เต็มตำมศักยภำพ

7. จัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภำพทำงด้ำนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

เป้ำประสงค์ของวิทยำศำสตร ์

ั้

ี่



ในกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตร์มุ่งเน้นให้ผเรียนไดคนพบควำมรู้ดวยตนเองมำกทสดเพื่อให้ไดทง
ู้
ี่






กระบวนกำรและควำมรู้จำกวิธีกำรสงเกต กำรสำรวจตรวจสอบ กำรทดลอง แลวน ำผลทไดมำจดระบบเป็นหลกกำร
แนวคิด และองค์ควำมรู้กำรจัดกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตร์จึงมีเป้ำหมำยที่ส ำคัญ ดังนี้
1. เพื่อให้เข้ำใจหลักกำร ทฤษฎีและกฎที่เป็นพื้นฐำนในวิชำวิทยำศำสตร์
2. เพื่อให้เข้ำใจขอบเขตของธรรมชำติของวิชำวิทยำศำสตร์และข้อจ ำกัดในกำรศึกษำวิชำวิทยำศำสตร์
ี่
3. เพื่อให้มีทักษะทส ำคัญในกำรศึกษำค้นคว้ำและคิดค้นทำงเทคโนโลยี
4. เพื่อให้ตระหนักถึงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงวิชำวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยีมวลมนุษย์และสภำพแวดล้อมใน
เชิงที่มีอิทธิพลและผลกระทบซึ่งกันและกัน
5. เพื่อน ำควำมรู้ควำมเข้ำใจ ในวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและกำร
ด ำรงชีวิต
6. เพื่อพัฒนำกระบวนกำรคิดและจินตนำกำร ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ และกำรจัดกำร ทกษะใน

กำรสื่อสำร และควำมสำมำรถในกำรตัดสินใจ

7. เพื่อให้เป็นผู้ทมีจตวิทยำศำสตร์ มีคณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยมในกำรใช้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ี่

อย่ำงสร้ำงสรรค ์
กลยุทธ์

1. กำรจัดกำรศึกษำเพื่อควำมมั่นคง
2. กำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน

3. กำรพัฒนำและเสริมสร้ำงศักยภำพทรัพยำกรมนุษย์
4. กำรสร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสังคม

5. กำรจัดกำรศึกษำเพื่อสร้ำงเสริมคุณภำพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

6. กำรพัฒนำประสิทธิภำพกำรบริหำรจัดกำร

4




สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน

ี่
ู้

ตำมหลกสตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน มุ่งเน้นพัฒนำผเรียนให้มีคณภำพตำมมำตรฐำนทก ำหนด ซึ่งจะ

ช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะส ำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค ดังนี้



1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นควำมสำมำรถในกำรรับและสงสำร มีวัฒนธรรมในกำรใชภำษำถ่ำยทอด

ี่
ควำมคิด ควำมรู้ควำมเข้ำใจ ควำมรู้สก และทศนะของตนเองเพื่อแลกเปลยนข้อมูลข่ำวสำรและประสบกำรณ์อันจะเปน



ั้
ประโยชน์ต่อกำรพัฒนำตนเองและสังคม รวมทงกำรเจรจำตอรองเพื่อขจดและลดปัญหำควำมขัดแย้งตำง ๆ กำรเลอก



รับหรือไม่รับข้อมูลข่ำวสำรดวยหลกเหตผลและควำมถูกตอง ตลอดจนกำรเลอกใช้วิธีกำรสื่อสำร ทมีประสทธิภำพโดย


ี่




ค ำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด เป็นควำมสำมำรถในกำรคดวิเครำะห์ กำรคดสงเครำะห์ กำรคด อย่ำงสร้ำงสรรค์







ู่



กำรคดอย่ำงมีวิจำรณญำณ และกำรคดเปนระบบ เพื่อน ำไปสกำรสร้ำงองคควำมรู้หรือสำรสนเทศเพื่อกำรตดสนใจ
เกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่ำงเหมำะสม
ี่

3. ควำมสำมำรถในกำรแกปัญหำ เป็นควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำและอุปสรรคตำง ๆ ทเผชญไดอย่ำง





ถูกตองเหมำะสมบนพื้นฐำนของหลกเหตผล คณธรรมและข้อมูลสำรสนเทศ เขำใจควำมสมพันธ์และกำรเปลยนแปลง



ี่


ของเหตุกำรณ์ตำง ๆ ในสังคม แสวงหำควำมรู้ ประยุกต์ควำมรู้มำใช้ในกำรป้องกันและแก้ไขปญหำ และมีกำรตดสนใจ



ที่มีประสิทธิภำพโดยค ำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม






4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชวต เปนควำมสำมำรถในกำรน ำกระบวนกำรตำงๆ ไปใชในกำรดำเนิน


ชีวิตประจ ำวัน กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง กำรเรียนรู้อย่ำงตอเนื่อง กำรท ำงำน และกำรอยู่ร่วมกันในสงคมด้วยกำรสร้ำงเสริม
ควำมสมพันธ์อันดระหว่ำงบุคคล กำรจดกำรปัญหำและควำมขัดแย้งตำง ๆ อย่ำงเหมำะสม กำรปรับตวให้ทนกับกำร






ี่




ี่




เปลยนแปลงของสงคมและสภำพแวดลอม และกำรรู้จกหลกเลยงพฤตกรรมไม่พึงประสงคทสงผลกระทบตอตนเองและ
ี่
ผู้อื่น




5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เป็นควำมสำมำรถในกำรเลอก และใช เทคโนโลยีดำนตำง ๆ และมีทกษะ


ื่
กระบวนกำรทำงเทคโนโลยี เพื่อกำรพัฒนำตนเองและสงคมในด้ำนกำรเรียนรู้ กำรสอสำร กำรทำงำน กำรแก้ปัญหำอย่ำง

สร้ำงสรรค์ ถูกต้อง เหมำะสม และมีคุณธรรม

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
ตำมหลกสตรแกนกลำงกำรศกษำขั้นพื้นฐำน พัฒนำผเรียนให้มีคณลกษณะอันพึงประสงค เพื่อให้สำมำรถอยู่



ู้



ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่ำงมีควำมสุข ในฐำนะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
1. รักชำต ศำสน์ กษัตริย์

2. ซื่อสัตย์สุจริต
3. มีวินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่ำงพอเพียง

5




6. มุ่งมั่นในกำรท ำงำน
7. รักควำมเป็นไทย

8. มีจิตสำธำรณะ


นอกจำกนี้ สถำนศกษำสำมำรถก ำหนดคุณลกษณะอันพึงประสงค์เพิ่มเติมให้สอดคล้องตำมบริบทและจดเน้น

ของตนเอง

เรียนรู้อะไรในวิทยำศำสตร ์

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยำศำสตร์ ที่เน้นกำรเชื่อมโยงควำมรู้กับ

กระบวนกำร มีทักษะส ำคัญในกำรค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ โดยใช้กระบวนกำรในกำรสืบเสำะหำควำมรู้และ
แก้ปัญหำที่หลำกหลำย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกำรเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีกำรท ำกิจกรรมด้วยกำรลงมือปฏิบัติจริงอย่ำง

หลำกหลำย เหมำะสมกับระดับชั้นโดยก ำหนดสำระส ำคัญ ดังนี้



ิ่


ิ่




✧ วทยำศำสตรชีวภำพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชวิตในสงแวดลอม องคประกอบของสงมีชวิตกำรดำรงชวิตของ
มนุษย์และสัตว์กำรด ำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต

✧ วทยำศำสตรกำยภำพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชำตของสำร กำรเปลยนแปลงของสำรกำรเคลอนท พลังงำน

ี่
ื่
ี่

และคลื่น





✧ วทยำศำสตรโลก และอวกำศ เรียนรู้เกี่ยวกับ องคประกอบของเอกภพ ปฏิสมพันธ์ภำยในระบบสริยะ
ี่

ี่
เทคโนโลยีอวกำศ ระบบโลก กำรเปลยนแปลงทำงธรณวิทยำ กระบวนกำรเปลยนแปลงลมฟ้ำอำกำศ และผลตอ

สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

✧ เทคโนโลยี
ี่
• กำรออกแบบและเทคโนโลยีเรียนรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยีเพื่อกำรด ำรงชวิตในสังคมทมีกำรเปลี่ยนแปลง


อย่ำงรวดเร็ว ใชควำมรู้และทกษะทำงดำนวิทยำศำสตร์คณตศำสตร์และศำสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหำ





หรือพัฒนำงำนอย่ำงมีควำมคิดสร้ำงสรรคด้วยกระบวนกำรออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใชเทคโนโลยี
อย่ำงเหมำะสมโดยค ำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม




• วิทยำกำรคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับ กำรคดเชงคำนวณ กำรคิดวิเครำะห์แก้ปัญหำเป็นขั้นตอนและเป็น
ระบบ ประยุกต์ใช้ควำมรู้ด้ำนวิทยำกำรคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสอสำร ในกำร
ื่
แก้ปัญหำที่พบในชีวิตจริงได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ

6




สำระมำตรฐำนกำรเรียนร ู้
สำระที่ 1 วิทยำศำสตร์ชีวภำพ

มำตรฐำน ว 1.1 เข้ำใจควำมหลำกหลำยของระบบนิเวศ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและ
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่ำง ๆ ในระบบนิเวศกำรถ่ำยทอดพลังงำน กำร

เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ควำมหมำยของประชำกร ปัญหำและผลกระทบที่มีต่อ

ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมแนวทำงในกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและกำรแก้ไข
ปัญหำสิ่งแวดล้อมรวมทั้งน ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์



มำตรฐำน ว 1.2 เข้ำใจสมบัติของสงมีชีวิต หน่วยพื้นฐำนของสงมีชีวิต กำรลำเลยงสำรเข้ำและออกจำกเซลล ์
ิ่
ิ่
ควำมสัมพันธ์ของโครงสร้ำงและหน้ำที่ของระบบต่ำง ๆของสัตว์และมนุษย์ที่ท ำงำนสัมพันธ์

ี่
กันควำมสมพันธ์ของโครงสร้ำงและหน้ำทของอวัยวะตำง ๆ ของพืชททำงำนสมพันธ์กัน


ี่

รวมทั้งน ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์
มำตรฐำน ว 1.3 เข้ำใจกระบวนกำรและควำมส ำคัญของกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพันธุกรรมสำร
พันธุกรรม กำรเปลี่ยนแปลงทำงพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ
และวิวัฒนำกำรของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งน ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์
สำระที่ 2 วิทยำศำสตร์กำยภำพ

มำตรฐำน ว 2.1 เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำรกับ
โครงสร้ำงและแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปลี่ยนแปลงสถำนะ

ของสสำรกำรเกิด สำรละลำย และกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี

มำตรฐำน ว 2.2 เข้ำใจธรรมชำตของแรงในชีวิตประจ ำวัน ผลของแรงที่กระท ำต่อวัตถุ ลักษณะกำรเคลื่อนท ี่


แบบต่ำง ๆ ของวัตถ รวมทั้งน ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์
มำตรฐำน ว 2.3 เข้ำใจควำมหมำยของพลังงำน กำรเปลี่ยนแปลงและกำรถ่ำยโอนพลังงำนปฏิสัมพันธ์


ระหว่ำงสสำรและพลังงำน พลังงำนในชีวิตประจ ำวัน ธรรมชำติของคลื่นปรำกฏกำรณท ี่
เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ รวมทั้งน ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์

สำระที่ 3 วิทยำศำสตร์โลก และอวกำศ

มำตรฐำน ว 3.1 เข้ำใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนกำรเกิด และวิวัฒนำกำรของเอกภพกำแลกซีดำวฤกษ์

และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภำยในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและกำรประยุกต์ใช ้

เทคโนโลยีอวกำศ

มำตรฐำน ว 3.2 เข้ำใจองค์ประกอบและควำมสมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงภำยใน โลก
และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศโลกรวมทั้งผล

ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

7




สำระที่ 4 เทคโนโลยี
มำตรฐำน ว 4.1 เข้ำใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อกำรด ำรงชีวิตในสังคมที่มีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงรวดเร็ว


ใช้ควำมรู้และทักษะทำงด้ำนวิทยำศำสตร์ คณตศำสตร์ และศำสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหำหรือ
พัฒนำงำนอย่ำงมีควำมคิดสร้ำงสรรค์ด้วยกระบวนกำรออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช ้

เทคโนโลยีอย่ำงเหมำะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม


มำตรฐำน ว 4.2 เข้ำใจและใช้แนวคิดเชิงค ำนวณในกำรแก้ปัญหำที่พบในชีวิตจริงอย่ำงเปนขั้นตอนและเป็น
ระบบ ใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำรในกำรเรียนรู้กำรท ำงำนและกำรแก้ปัญหำได ้

อย่ำงมีประสิทธิภำพ รู้เท่ำทัน และมีจริยธรรม


กระบวนกำรจัดกำรเรียนร ู้

แนวคิดส ำคัญของกำรจัดศึกษำ ที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ คือกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่เปิดโอกำสให้ผู้เรียน คด


และลงมือปฏิบัติดวยกระบวนกำรที่หลำกหลำย เพื่อเกิดกำรเรียนรู้และพัฒนำตนเองเต็มตำมศกยภำพ กำรประเมินกำร



เรียนรู้จึงมีควำมสำคัญและจ ำเป็นอย่ำงยิ่ง ต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ในห้องเรียนเพรำะสำมำรถทำให้ผสอนประเมิน
ู้


ู้

ู้



ระดบพัฒนำกำรเรียนรู้ของผเรียนกำรจดกำรศกษำตองยึดหลกว่ำ ผเรียนทกคนมีควำมสำมำรถเรียนรู้และพัฒนำ
ู้
ี่
ตนเองได และถือว่ำผเรียนมีควำมสำคญทสด กระบวนกำรจดกำรศกษำตอง สงเสริมให้ผเรียนสำมำรถพัฒนำตำม








ู้




ธรรมชำตและเตมตำมศกยภำพ ให้ควำมสำคญ ของกำรบูรณำกำรควำมรู้คณธรรม กระบวนกำรเรียนรู้ตำมควำม


เหมำะสมของระดับกำรศึกษำ ได้ระบุให้ผู้ที่เกี่ยวข้องด ำเนินกำร ดังนี้ สถำนศึกษำและหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง
1. จดเนื้อหำสำระและกิจกรรมให้สอดคลองกับควำมสนใจและควำมถนัดของผเรียน โดยคำนึงถึงควำม


ู้

แตกต่ำงระหว่ำงบุคคล




2. ฝึกทกษะ กระบวนกำรคด กำรจดกำร กำรเผชญสถำนกำรณและกำรประยุกตควำมรู้มำใช้เพื่อป้องกันและ


แก้ไขปัญหำ




ู้

3. จัดกิจกรรมให้ผเรียนไดเรียนรู้จำกประสบกำรณจริง ฝกกำรปฏิบัต ให้ท ำไดคิดเป็น ทำเปนรักกำรอ่ำน และ


เกิดกำรใฝ่รู้อย่ำงต่อเนื่อง
4. จดกำรเรียนกำรสอน โดยผสมผสำนสำระควำมรู้ดำนตำง ๆ อย่ำงไดสดสวนสมดลกัน รวมทงปลกฝง




ั้





คุณธรรม ค่ำนิยมที่ดีงำมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชำ

ู้

ื่

5. สงเสริมสนับสนุนให้ผสอนสำมำรถจดบรรยำกำศ สภำพแวดลอม สอกำรเรียน และอ ำนวยควำมสะดวก
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้และมีควำมรอบรู้รวมทั้งสำมำรถใชกำรวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนกำรเรียนรู้ทงนี้ผสอน
ู้

ั้
และผู้เรียนอำจเรียนรู้ไปพร้อมกันจำกสื่อกำรเรียน กำรสอนและแหล่งวิทยำกำรประเภทต่ำง ๆ


6. จดกำรเรียนรู้ให้เกิดขึ้นไดทกเวลำ ทกสถำนท มีกำรประสำนควำม ร่วมมือกับบิดำ มำรดำผู้ปกครอง และ
ี่


บุคคลในชุมชนทุกฝ่ำย เพื่อร่วมกันพัฒนำผู้เรียนตำมศักยภำพ

8





แนวกำรจัดกำรเรียนรู้วทยำศำสตร ์
ี่

ู้
กำรจดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีให้สอดคลองกับกำรพัฒนำผเรียน ในศตวรรษท 21 เพื่อพัฒนำ






สมรรถนะของผู้เรียนให้พร้อมที่จะด ำรงชวิตและประกอบอำชพไดอย่ำงประสบควำมสำเร็จไดในอนำคตนั้น จ ำเป็นต้อง



เน้นกระบวนกำรจดกำรเรียนรู้ทเน้นกำรพัฒนำนักคด นักแก้ปัญหำ และนักเรียนรู้ตลอดชวิต โดยจดกำรเรียนรู้ให้
ี่

ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกำรเรียนรู้ของตนเองตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนกำรเรียนรู้โดยท ำได้ดังนี้
ู้

• จัดเนื้อหำสำระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับควำมสนใจและควำมถนัดของผเรียน โดยคำนึงถึงควำมแตกตำง

ระหว่ำงบุคคล
• ผู้สอนกระตุ้นหรือจัดสถำนกำรณ์ให้ผู้เรียนได้เกิดค ำถำมหรือข้อสงสัยที่อยำกค้นหำค ำตอบ

ู้


• ผเรียนใชกระบวนกำรสบเสำะหำควำมรู้อย่ำงเป็นระบบเพื่อคนหำคำตอบทสงสย โดยเริ่มจำกกำรลงมือสบ



ี่
เสำะหำควำมรู้ตำมค ำแนะน ำ จนกระทั่งสำมำรถออกแบบและวำงแผนกำรสืบเสำะเพื่อเก็บรวบรวม ข้อมูลและ
หลักฐำนเชิงประจักษ์แล้วน ำมำสร้ำงค ำอธิบำยด้วยตนเอง


ื่
• ผู้เรียนควรมีโอกำสไดฝึกฝนและพัฒนำแนวคิดทำงวิทยำศำสตร์ต่ำง ๆ อย่ำงลุ่มลกและเชอมโยงกันผ่ำนกำรทำ

กิจกรรมที่หลำกหลำย ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
• ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะต่ำง ๆ อย่ำงต่อเนื่อง สม่ ำเสมอและเหมำะสมกับวัย


• ผู้เรียนสำมำรถใช้เทคโนโลยีทสอดคล้องตำมยุคสมัยในกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์อย่ำงมีประสทธิภำพ เชน ใชใน
ี่




ื่
กำรสบเสำะหำควำมรู้ ใชสืบค้นข้อมูลทั้งจำกแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทติยภูมิ ใช้จดกระทำและสอควำมหมำย


ข้อมูล ใช้สร้ำงแบบจ ำลอง



ู้

• ผเรียนสำมำรถออกแบบและทำโครงงำนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี เพื่อฝกฝนและสำมำรถใชทกษะ





ี่
กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ทกษะ กระบวนกำรสำหรับกำรออกแบบและเทคโนโลยีและทกษะทสำคญ
ี่
ส ำหรับศตวรรษท 21 มำแก้ปัญหำทำงวิทยำศำสตร์ได ้
• ผู้เรียนได้เพิ่มพูนควำมรู้และประสบกำรณ์จำกแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อขยำยขอบเขตกำรเรียนรู้และสำมำรถ
ิ่

ี่
เชอมโยงสงทไดเรียนรู้ใน ห้องเรียนกับสงทเกิดขึ้นจริงในชวิตประจำวัน ตลอดจนเห็นควำมสำคญ ของกำร

ื่

ี่
ิ่


เรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ี่


ุ้

• ผู้เรียนควรมีโอกำสไดรู้จกและคนเคยกับกำรวิเครำะห์ข้อมูลทเกิดขึ้นจริง ซึ่งอำจเพิ่มระดบควำมซับซ้อนของ
ข้อมูลให้เหมำะสมกับวัยของผเรียน เชน ผเรียนระดบประถมศกษำไดฝึกฝนกำรวิเครำะห์และสร้ำงคำอธิบำย



ู้

ู้





ู้

ี่
จำกข้อมูลทเก็บไดจริงแตไม่มีควำมซับซ้อน สวนในระดบมัธยมศกษำอำจให้ผเรียนไดฝกกำรวิเครำะห์และ


อธิบำยข้อมูล ขนำดใหญ่ (Big Data) ซึ่งเป็นข้อมูลที่หลำกหลำย ซับซ้อน มีปริมำณมำก และเปลี่ยนแปลงอย่ำง
รวดเร็ว จึงไม่สำมำรถน ำมำจัดกระท ำ หรือจัดกำรได้ด้วยวิธีกำรหรือเครื่องมือแบบเดิม

ู้
• ผเรียนมีโอกำสน ำควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีไปบูรณำกำรกับควำมรู้จำกแขนงวิชำอื่น ๆ เชน
คณิตศำสตร์มำแก้ปัญหำที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง หรือเกิดขึ้นจริงโดยใช้กระบวนกำรออกแบบเชิงวิศวกรรม

9




ู้
แนวทำงกำรจัดกำรเรียนรวิทยำศำสตร์แบบสืบเสำะหำควำมร ู้



ู้
ในกำรจดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ในห้องเรียนทเน้นให้ผเรียนไดเรียนรู้สอดคลองกับกำรพัฒนำผเรียนแห่ง
ี่
ู้


ี่

ศตวรรษท 21 และธรรมชำตกำรเรียนรู้ของมนุษย์นั้น ครูสำมำรถเลอกกลวิธีในจดกำรเรียนรู้ไดอย่ำงหลำกหลำยตำม

ควำมเหมำะสมกับเนื้อหำ เวลำ บริบท และปัจจยอื่น ๆ กลวิธีที่สำมำรถน ำมำใชจดกำรเรียนรู้ในห้องเรียนได เช่น กำร






เรียนรู้แบบใชปัญหำเป็นฐำน (Problem-Based Learning) กำรเรียนรู้แบบสบเสำะหำควำมรู้ (Inquiry-Based
Learning)
กำรสืบเสำะ (Inquiry) เป็นกระบวนกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์โดยเลียนแบบวิธีกำรที่นักวิทยำศำสตร์
ใช้ในกำรสืบเสำะหำควำมรู้ต่ำง ๆ เกี่ยวกับธรรมชำต แม้ว่ำจะมีกำรน ำกำรเรียนรู้แบบสืบเสำะมำใช้ในกำรเรียนรู้

วิทยำศำสตร์มำอย่ำงต่อเนื่องเป็นเวลำหลำยปี ปัจจุบันก็ยังปรำกฏควำมสับสนหลำยประกำรเกี่ยวกับกำร
เรียนรู้แบบสืบเสำะ ดังนี้


ิ่
1. กำรสบเสำะหำควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์และวัฏจกรกำรเรียนรู้แบบ 5 ขั้น (5E Learning Cycle) เป็นสง
เดียวกัน

2. กำรจัดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ต้องจัดแบบสืบเสำะหำควำมรู้เทำนั้น

ี่


ั้
3. กำรเรียนรู้แบบสืบเสำะหำควำมรู้คือตองให้ผู้เรียนเป็นผู้ตงคำถำม และทำกำรสบเสำะเพื่อตอบค ำถำมทตน

ตั้งไว้ด้วยตัวเอง


ู้


4. กำรเรียนรู้แบบสบเสำะหำควำมรู้คอกำรมุ่งเน้นให้ผเรียนไดลงมือทำกิจกรรม (hands-on activity) เพื่อ
ฝึกฝนทักษะกระบวนกำรมำกกว่ำกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์
5. ควำมตนเตนสนุกสนำนของผเรียนระหว่ำงทำกิจกรรมเป็นตวบ่งชระดบของกำรเรียนรู้แบบสบเสำะหำ



ู้

ี้
ื่

ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์


ตำมมำตรฐำนวิทยำศำสตร์ศกษำแห่งชำตของประเทศสหรัฐอเมริกำ (National Science Education


Standards) โดยสภำวิจยแห่งชำต (NRC, 1996) ไดนิยำม “กำรสบเสำะหำควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์” (Scientific



ี่
Inquiry) ว่ำเปนกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ทนักวิทยำศำสตร์ใชเพื่อศกษำปรำกฏกำรณตำง ๆทเกิดขึ้นในธรรมชำต ิ




ี่




ี่
และน ำเสนอผลกำรศกษำนั้นตำมสำรสนเทศ หรือหลกฐำนตำง ๆ ทรวบรวมไดกำรจดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์โดยให้


ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบสืบเสำะหำควำมรู้ จึงหมำยถึงกำรให้ผู้เรียนมีสวนร่วมในกระบวนกำรเรียนรู้ของตนเอง เพื่อพัฒนำ


ควำมรู้ควำมเข้ำใจในเนื้อหำทำงวิทยำศำสตร์ควบคไปกับทกษะกระบวนกำรตำง ๆ ระหว่ำงกระบวนกำรสบเสำะหำ
ู่




ควำมรู้แบบเดียวกัน กับทนักวิทยำศำสตร์ใชเพื่อทำควำมเข้ำใจปรำกฏกำรณตำมธรรมชำต จงกล่ำวไดว่ำ หัวใจสำคญ



ี่






ู้
ั้

ของกำรสบเสำะหำควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ในชนเรียนก็คอ กำรให้ผเรียนไดใชกระบวนกำรในกำรสำรวจตรวจสอบ

(Investigation Process) และรวบรวมข้อมูลหรือหลกฐำนตำง ๆ มำใชอธิบำยปรำกฏกำรณหรือแก้ปัญหำ ข้อสงสยท ี่






ตนมีเพื่อให้เกิดควำมรู้ควำมเข้ำใจในหลกกำรหรือเนื้อหำทำงวิทยำศำสตร์ ซึ่งกำรสบเสำะหำควำมรู้ทผเรียนไดทำ


ู้
ี่
ี่
ระหว่ำงกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์มีส่วนทคล้ำยคลึงกับวิธีกำรที่นักวิทยำศำสตร์ใช้ในกำรเรียนรู้สิ่งต่ำง ๆ

10



กำรสบเสำะหำควำมรู้ในห้องเรียนสำมำรถทำไดหลำยระดบ ตงแตกำรทผสอนเป็นผก ำหนด กำรสำรวจ

ั้
ู้




ู้
ี่

ู้
ี่
ู้
ู้


ี่
ตรวจสอบของผเรียน เพื่อตรวจสอบยืนยันสงทรู้มำแลวไปจนถึงกำรทผสอนเปิดโอกำสให้ผเรียนออกแบบกำรสำรวจ
ิ่


ตรวจสอบอย่ำงอิสระเพื่อสำรวจปรำกฏกำรณทยังไม่สำมำรถอธิบำยได กำรจดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์โดยให้ผเรียนใช ้

ี่

ู้
กระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
1. กำรสืบเสำะแบบก ำหนดโครงสร้ำง
2. กำรสืบเสำะแบบกึ่งก ำหนดโครงสร้ำง
3. กำรสืบเสำะไม่ก ำหนดโครงสร้ำงโดยบทบำทของผู้สอนและผู้เรียนแต่ละระดับมีควำมแตกต่ำงกัน




กำรจดกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ดวยกระบวนกำรสบเสำะหำควำมรู้แตละแบบนั้นมีขอดีและข้อจำกัดที่แตกต่ำง





ู้

กัน ผสอนตองพิจำรณำระดบของกำรสบเสำะหำควำมรู้ตำมควำมเหมำะสมของเนื้อหำ เวลำในกำรจดกำรเรียนรู้ตำม
ควำมสำมำรถของผู้เรียน บริบทของห้องเรียนและโรงเรียน รวมถึงควำมมั่นใจของตัวผู้สอนเอง

สื่อกำรจัดกำรเรียนร/แหล่งเรียนร ู้
ู้
สื่อกำรจัดกำรเรียนร ู้


1. แบบฝกหัด/ใบงำน/ใบกิจกรรม เป็นเครื่องมือทชวยให้นักเรียนฝกทำกิจกรรมหรือทำกำรทดลองตำม
ี่




ี่
ขั้นตอน กำรตอบคำถำมทอยู่ในกิจกรรมหรือทำยกำรทดลองจะชวยให้นักเรียนไดพัฒนำทกษะกระบวนกำรทำง





ื่



วิทยำศำสตร์ เชน กำรสงเกต กำรวัด กำรคำนวณ กำรจำแนกประเภท กำรจดกระทำข้อมูลและสอควำมหมำยข้อมูล


กำรตั้งสมมติฐำน

2. สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อโสตทัศนูปกรณ เช่น ภำพต่ำง ๆ ภำพโปสเตอร์ วีดิทัศน์ และ สื่อดิจิทัล
3. วัสดุสิ้นเปลือง เช่น ดินน้ ำมัน แอลกอฮอล ไม้ขีดไฟ กระดำษเยื่อ เกลือ แป้ง ยำงรัดของ ลูกแก้ว





ี่
4. อุปกรณสำเร็จรูป เป็นอุปกรณทพัฒนำขึ้นเพื่อใชกับเนื้อหำในกำรสอนนี้โดยเฉพำะ เชน ชดสำธิตทำงเดน



ของแสง ชุดระบบสุริยะ ครูผู้สอนสำมำรถประดิษฐ์และสร้ำงให้เทียบเคียงเพื่อน ำมำใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ได้
5. อุปกรณ์พื้นฐำนต่ำง ๆ ที่ทกโรงเรียนต้องมีอยู่แล้ว เชน บีกเกอร์ ตะเกียงแอลกอฮอล ทกั้นลมหลอดทดลอง
ี่





หลอดหยด หลอดฉีดยำ กรวย ฯลฯ หำกไม่สำมำรถจดหำไดสำมำรถเลือกใชวัสดอุปกรณ์อื่นทดแทนได้แต่ครูผู้สอนต้อง


ท ำกำรทดสอบก่อนกำรน ำไปใช ้
6. อุปกรณอื่นทจำเป็นตองจดหำเพื่อใชในกำรจดกำรเรียนรู้ในแตละเรื่อง เชน รูปภำพจำกหนังสอพิมพ์ พืช









ี่
สัตว์ กระป๋องนม ดินและทรำย ขวดน้ ำพลำสติก




7. แหลงเรียนรู้ สำมำรถเลอกใชไดตำมบริบทของตนเองให้เหมำะสมกับเนื้อหำและกิจกรรมกำรเรียนรู้
ต่ำง ๆ นั้น

11




คุณภำพผู้เรียน
จบชั้นประถมศึกษำปีที่ 3

❖ เข้ำใจลักษณะทั่วไปของสิ่งมีชีวิตและกำรด ำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตรอบตัว

❖ เข้ำใจลักษณะที่ปรำกฏ ชนิดและสมบัติบำงประกำรของวัสดุที่ใช้ท ำวัตถุและกำรเปลี่ยนแปลงของวัสด ุ

รอบตัว

❖ เข้ำใจกำรดึง กำรผลก แรงแม่เหลก และผลของแรงทมีตอกำรเปลยนแปลงกำรเคลอนทของวัตถุพลงงำน
ื่


ี่

ี่
ี่

ไฟฟ้ำ และกำรผลิตไฟฟ้ำ กำรเกิดเสียง แสงและกำรมองเห็น




❖ เขำใจกำรปรำกฏของดวงอำทิตย์ดวงจนทร์และดำว ปรำกฏกำรณกำรขึ้นและตกของดวงอำทตย์กำรเกิด



กลำงวันกลำงคน กำรก ำหนดทศ ลกษณะของหิน กำรจำแนกชนิดดนและกำรใชประโยชน์ลกษณะและ




ควำมส ำคัญของอำกำศ กำรเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม
❖ ตงคำถำมหรือก ำหนดปัญหำเกี่ยวกับสงทจะเรียนรู้ตำมทก ำหนดให้หรือตำมควำมสนใจสงเกต สำรวจ

ิ่
ี่
ั้
ี่


ตรวจสอบโดยใชเครื่องมืออย่ำงง่ำย รวบรวมข้อมูล บันทก และอธิบำยผลกำรส ำรวจตรวจสอบดวยกำรเขียน



หรือวำดภำพ และสื่อสำรสิ่งที่เรียนรู้ด้วยกำรเล่ำเรื่อง หรือด้วยกำรแสดงท่ำทำงเพื่อให้ผู้อื่นเข้ำใจ
❖ แก้ปัญหำอย่ำงง่ำยโดยใชขั้นตอนกำรแก้ปัญหำ มีทกษะในกำรใชเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสอสำร
ื่



เบื้องต้น รักษำข้อมูลส่วนตัว
❖ แสดงควำมกระตอรือร้น สนใจทจะเรียนรู้มีควำมคดสร้ำงสรรคเกี่ยวกับเรื่องทจะศกษำตำมทก ำหนดให้

ี่

ี่
ี่


หรือตำมควำมสนใจ มีส่วนร่วมในกำรแสดงควำมคิดเห็น และยอมรับฟังควำมคิดเห็นผู้อื่น
❖ แสดงควำมรับผดชอบดวยกำรทำงำนทไดรับมอบหมำยอย่ำงมุ่งมั่น รอบคอบประหยัด ซื่อสตย์จนงำน


ี่



ลุล่วง เป็นผลส ำเร็จ และท ำงำนร่วมกับผู้อื่นอย่ำงมีควำมสุข

❖ ตระหนักถึงประโยชน์ของกำรใชควำมรู้และกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ในกำรด ำรงชีวิต ศึกษำหำควำมรู้
เพิ่มเติม ท ำโครงงำนหรือชิ้นงำนตำมที่ก ำหนดให้หรือตำมควำมสนใจ

จบชั้นประถมศึกษำปีที่ 6


ิ่

ั้
ี่
ิ่

❖ เข้ำใจโครงสร้ำง ลกษณะเฉพำะกำรปรับตวของสงมีชวิต รวมทงควำมสมพันธ์ของสงมีชวิตในแหลงทอยู่


กำรท ำหน้ำที่ของส่วนต่ำง ๆ ของพืช และกำรท ำงำนของระบบย่อยอำหำรของมนุษย์
❖ เข้ำใจสมบัตและกำรจำแนกกลมของวัสด สถำนะและกำรเปลยนสถำนะของสสำรกำรละลำย กำร
ุ่



ี่
เปลี่ยนแปลงทำงเคมีกำรเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และผันกลับไม่ได้และกำรแยกสำรอย่ำงง่ำย
❖ เข้ำใจลกษณะของแรงโน้มถ่วงของโลก แรงลพธ์แรงเสยดทำน แรงไฟฟ้ำและผลของแรงตำง ๆ ผลทเกิด



ี่






ี่
จำกแรงกระทำตอวัตถุควำมดน หลกกำรทมีตอวัตถุวงจรไฟฟ้ำอย่ำงง่ำยปรำกฏกำรณเบองต้นของเสยง และ
ื้


แสง

12




❖ เข้ำใจปรำกฏกำรณกำรขึ้นและตก รวมถงกำรเปลยนแปลงรูปร่ำงปรำกฏของดวงจันทร์องค์ประกอบของ
ี่


ระบบสุริยะ คำบกำรโคจรของดำวเครำะห์ควำมแตกต่ำงของดำวเครำะห์และดำวฤกษ์กำรขึ้นและตกของกลม
ุ่
ดำวฤกษ์กำรใช้แผนที่ดำว กำรเกิดอุปรำคำพัฒนำกำรและประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกำศ




❖ เข้ำใจลกษณะของแหลงน้ ำวัฏจกรน้ ำ กระบวนกำรเกิดเมฆ หมอก น้ ำคำงน้ ำคำงแข็ง หยำดน้ ำฟ้ำ

กระบวนกำรเกิดหิน วัฏจกรหิน กำรใชประโยชน์หินและแร่ กำรเกิดซำกดกดำบรรพ์กำรเกิดลมบก ลมทะเล










มรสม ลกษณะและผลกระทบของภัยธรรมชำตธรณพิบัตภัยกำรเกิดและผลกระทบของปรำกฏกำรณเรือน
กระจก
❖ คนหำข้อมูลอย่ำงมีประสทธิภำพและประเมินควำมน่ำเชอถือ ตัดสนใจเลอกข้อมูลใชเหตผลเชงตรรกะใน


ื่






กำรแก้ปัญหำ ใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำรในกำรทำงำนร่วมกันเข้ำใจสิทธิและหน้ำที่ของตน
เคำรพสิทธิของผู้อื่น
❖ ตงคำถำมหรือก ำหนดปัญหำเกี่ยวกับสงทจะเรียนรู้ตำมทก ำหนดให้หรือตำมควำมสนใจ คำดคะเนคำตอบ


ั้
ี่
ี่
ิ่

หลำยแนวทำง สร้ำงสมมตฐำนทสอดคลองกับคำถำมหรือปัญหำทจะสำรวจตรวจสอบ วำงแผนและสำรวจ



ี่

ี่
ี่
ั้



ตรวจสอบโดยใชเครื่องมือ อุปกรณและเทคโนโลยีสำรสนเทศทเหมำะสม ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูลทงเชง
ปริมำณ และคุณภำพ
❖ วิเครำะห์ข้อมูล ลงควำมเห็น และสรุปควำมสัมพันธ์ของข้อมูลทมำจำกกำรส ำรวจตรวจสอบในรูปแบบท ี่
ี่
เหมำะสม เพื่อสื่อสำรควำมรู้จำกผลกำรส ำรวจตรวจสอบได้อย่ำงมีเหตุผลและหลักฐำนอ้ำงอิง
❖ แสดงถึงควำมสนใจ มุ่งมั่น ในสงที่จะเรียนรู้ มีควำมคดสร้ำงสรรคเกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษำตำมควำมสนใจ


ิ่
ของตนเอง แสดงควำมคิดเห็นของตนเอง ยอมรับในข้อมูลที่มีหลักฐำนอ้ำงอิง และรับฟังควำมคิดเห็นผู้อื่น
❖ แสดงควำม รับผดชอบดวยกำรทำงำนทไดรับมอบหมำยอย่ำงมุ่งมั่นรอบคอบ ประหยัด ซื่อสตย์จนงำน





ี่
ลุล่วงเป็นผลส ำเร็จ และท ำงำนร่วมกับผู้อื่นอย่ำงสร้ำงสรรค ์
❖ ตระหนักในคณคำของควำมรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีใชควำมรู้และกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ใน



กำรด ำรงชีวิต แสดงควำมชื่นชม ยกย่อง และเคำรพสิทธิในผลงำนของผคิดคนและศกษำหำควำมรู้เพิ่มเตม ทำ


ู้


โครงงำนหรือชิ้นงำนตำมที่ก ำหนดให้หรือตำมควำมสนใจ




❖ แสดงถึงควำมซำบซึ้ง ห่วงใย แสดงพฤตกรรมเกี่ยวกับกำรใชกำรดแลรักษำทรัพยำกรธรรมชำตและ
สิ่งแวดล้อมอย่ำงรู้คุณค่ำ

13




ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2

สำระที่ 2 วทยำศำสตร์กำยภำพ




มำตรฐำน ว 2.1 เข้ำใจสมบัตของสสำร องคประกอบของสสำร ควำมสมพันธ์ระหว่ำงสมบัตของสสำรกับ

ี่

โครงสร้ำงและแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลกและธรรมชำตของกำรเปลยนแปลงสถำนะของสสำร กำรเกิด
สำรละลำย และกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี

ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง

1. อธิบำยกำรแยกสำรผสมโดยกำรระเหยแห้ง ตัวละลำยและตัวท ำละลำยทเป็นของเหลวที่มีจุดเดือด
ี่
ั่
กำรตกผลก กำรกลนอย่ำงง่ำย โครมำโทกรำฟีแบบ ต่ำงกันมำก วิธีนี้จะแยกของเหลวบริสุทธิ์ออกจำกสำรละลำย

กระดำษ กำรสกัดดวยตัวทำละลำย โดยใชหลกฐำน โดยให้ควำมร้อนกับสำรละลำย ของเหลวจะเดือดและกลำยเป็น




เชิงประจักษ์ ไอแยกจำกสำรละลำยแล้วควบแน่นกลับเป็นของเหลวอีกครั้ง
ขณะที่ของเหลวเดือด อุณหภูมิของไอจะคงที่ โครมำโทกรำฟี
แบบกระดำษเป็นวิธีกำรแยกสำรผสมที่มีปริมำณน้อยโดยใช ้

แยกสำรที่มีสมบัติกำรละลำยในตัวท ำละลำยและกำรถูกดูดซับ

ื่
ด้วยตัวดูดซับแตกต่ำงกัน ท ำให้สำรแต่ละชนิดเคลอนที่ไปบนตัว

ดูดซับได้ต่ำงกัน สำรจึงแยกออกจำกกันได้ อัตรำสวนระหว่ำง
2. แยกสำรโดยกำรระเหยแห้ง กำรตกผลกกำร ระยะทำงที่สำรองค์ประกอบแต่ละชนิดเคลื่อนที่ได้บนตัวดูดซับ

กลนอย่ำงง่ำย โครมำโทกรำฟีแบบกระดำษกำรสกัด กับระยะทำงที่ตัวท ำละลำยเคลื่อนที่ได้ เป็นค่ำเฉพำะตัวของ
ั่
ด้วยตัวท ำละลำย สำรแต่ละชนิดในตัวท ำละลำยและตัวดูดซับหนึ่ง ๆ กำรสกัด
ด้วยตัวท ำละลำย เป็นวิธีกำรแยกสำรผสมที่มีสมบัติกำรละลำย


ใน ตัวท ำละลำยที่ตำงกันโดยชนิดของตัวท ำละลำยมีผลต่อชนิด
ั่
และปริมำณของสำรที่สกัดได้ กำรสกัดโดยกำรกลนด้วยไอน้ ำ
ใช้แยกสำรที่ระเหยง่ำย ไม่ละลำยน้ ำ และไม่ท ำปฏิกิริยำกับน้ ำ

ออกจำกสำรที่ระเหยยำก โดยใช้ไอน้ ำเป็นตัวพำ

14





ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
3. น ำวิธีกำรแยกสำรไปใช้แก้ปัญหำในชีวิตประจ ำวันโดย • ควำมรู้ด้ำนวิทยำศำสตร์เกี่ยวกับกำรแยกสำรบูรณำกำร


บูรณำกำรวิทยำศำสตร์คณตศำสตร์ เทคโนโลยีและ กับคณิตศำสตร์เทคโนโลยีโดยใช้กระบวนกำรทำง
วิศวกรรมศำสตร์ วิศวกรรม สำมำรถน ำไปใช้แก้ปัญหำในชีวิตประจำวันหรือ

ปัญหำที่พบในชุมชนหรือสร้ำงนวัตกรรม

- ระบุปัญหำในชีวิตประจ ำวันที่เกี่ยวกับกำรแยกสำรโดย
ใช้สมบัติทำงกำยภำพ หรือนวัตกรรมที่ต้องกำรพัฒนำ

โดยใช้หลักกำรดังกล่ำว

- รวบรวมข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับกำรแยกสำรโดยใช ้
สมบัติทำงกำยภำพที่สอดคล้องกับปัญหำที่ระบุ หรือ

น ำไปสู่กำรพัฒนำนวัตกรรมนั้น

- ออกแบบวิธีกำรแก้ปัญหำ หรือพัฒนำนวัตกรรมท ี่

เกี่ยวกับกำรแยกสำรในสำรผสม โดยใชสมบัตทำงกำยภำพ

โดยเชื่อมโยงควำมรู้ด้ำนวิทยำศำสตร์คณตศำสตร์

เทคโนโลยีและกระบวนกำรทำงวิศวกรรมรวมทั้งก ำหนด
และควบคุมตัวแปรอย่ำงเหมำะสม

- วำงแผนและด ำเนินกำรแก้ปัญหำ หรือพัฒนำนวัตกรรม
รวบรวมข้อมูล จัดกระท ำข้อมูลและเลือกวิธีกำรสอ
ื่
ี่
ควำมหมำยทเหมำะสมในกำรน ำเสนอผล
- ทดสอบ ประเมินผล ปรับปรุงวิธีกำรแก้ปัญหำหรือ

นวัตกรรมที่พัฒนำขึ้น โดยใช้หลักฐำนเชิงประจักษ์ท ี่

รวบรวมได ้
- น ำเสนอวิธีกำรแก้ปัญหำ หรือผลของนวัตกรรมท ี่

พัฒนำขึ้น และผลที่ได้โดยใช้วิธีกำรสื่อสำรที่เหมำะสมและ

น่ำสนใจ

15





ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
4. ออกแบบกำรทดลองและทดลองในกำรอธิบำยผลของ - สำรละลำยอำจมีสถำนะเป็นของแข็ง ของเหลว และ


ชนิดตัวละลำย ชนิดตัวท ำละลำย อุณหภูมิที่มีต่อสภำพ แก๊ส สำรละลำยประกอบด้วยตัวทำละลำย และตว


ละลำยได้ของสำร รวมทั้งอธิบำยผลของควำมดันที่มีต่อ ละลำย กรณสำรละลำยเกิดจำกสำรที่มีสถำนะเดยวกัน

ี่
สภำพละลำยได้ของสำร โดยใช้สำรสนเทศ สำรที่มีปริมำณมำกทสุดจดเป็นตัวท ำละลำย กรณ ี

สำรละลำยเกิดจำกสำรที่มีสถำนะต่ำงกัน สำรที่มีสถำนะ
เดียวกันกับสำรละลำยจัดเป็นตัวท ำละลำย

- สำรละลำยที่ตัวละลำยไม่สำมำรถละลำยในตัวท ำ
ละลำยได้อีกที่อุณหภูมิหนึ่ง ๆ เรียกว่ำสำรละลำยอิ่มตัว

- สภำพละลำยได้ของสำรในตัวท ำละลำย เป็นค่ำที่บอก
ปริมำณของสำรทละลำยได้ในตัวท ำละลำย 100 กรัม จน
ี่
ได้สำรละลำยอิ่มตัว ณ อุณหภูมิและควำมดันหนึ่ง ๆ

สภำพละลำยได้ของสำรบ่งบอกควำมสำมำรถในกำร
ละลำยได้ของตัวละลำย ในตัวท ำละลำย ซึ่ง

ควำมสำมำรถในกำรละลำยของสำรขึ้นอยู่กับชนิดของตัว
ท ำละลำยและตัวละลำย อุณหภูมิ และควำมดัน

- สำรชนิดหนึ่ง ๆ มีสภำพละลำยได้แตกต่ำงกันในตัวท ำ
ละลำยที่แตกต่ำงกัน และสำรตำงชนิดกัน มีสภำพ

ละลำยได้ในตัวท ำละลำยหนึ่ง ๆ ไม่เท่ำกัน

- เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น สำรส่วนมำก สภำพละลำยได้ของ
สำรจะเพิ่มขึ้น ยกเว้นแก๊สเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นสภำพกำร

ละลำยได้จะลดลง ส่วนควำมดันมีผลต่อแก๊ส โดยเมื่อ
ควำมดันเพิ่มขึ้น สภำพละลำยได้จะสูงขึ้น


- ควำมรู้เกี่ยวกับสภำพละลำยไดของสำร เมื่อ
เปลี่ยนแปลงชนิดตัวละลำย ตัวท ำละลำย และอุณหภูมิ


สำมำรถน ำไปใชประโยชน์ในชีวิตประจ ำวัน เช่น กำรท ำ
น้ ำเชื่อมเข้มข้น กำรสกัดสำรออกจำกสมุนไพรให้ได ้
ปริมำณมำกทสุด
ี่

16





ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง


5. ระบุปริมำณตัวละลำยในสำรละลำย ในหน่วยควำม - ควำมเข้มข้นของสำรละลำย เปนกำรระบุปริมำณ ตว
เข้มข้นเป็นร้อยละ ปริมำตรต่อปริมำตร มวลต่อมวล และ ละลำยในสำรละลำย หน่วยควำมเข้มข้นมีหลำยหน่วย ท ี่
มวลต่อปริมำตร นิยมระบุเป็นหน่วยเป็นร้อยละ ปริมำตรต่อปริมำตร มวล

ต่อมวล และมวลต่อปริมำตร

- ร้อยละโดยปริมำตรตอปริมำตร เป็นกำรระบุปริมำตร



ตวละลำยในสำรละลำย 100 หน่วยปริมำตรเดยวกัน
นิยมใช้กับสำรละลำยที่เป็นของเหลวหรือแก๊ส


- ร้อยละโดยมวลตอมวล เปนกำรระบุมวลตวละลำยใน


สำรละลำย 100 หน่วยมวลเดยวกัน นิยมใชกับ

6. ตระหนักถึงควำมส ำคัญของกำรน ำควำมรู้เรื่องควำม สำรละลำยที่มีสถำนะเป็นของแข็ง


เข้มข้นของสำรไปใช้ โดยยกตัวอย่ำงกำรใช้สำรละลำยใน - ร้อยละโดยมวลตอปริมำตร เป็นกำรระบุมวล ตว

ชีวิตประจ ำวันอย่ำงถูกต้องและปลอดภัย ละลำยในสำรละลำย 100 หน่วยปริมำตร นิยมใชกับ

สำรละลำยทมีตวละลำยเป็นของแข็ง ในตวทำละลำยท ี่


ี่
เป็นของเหลว
- กำรใชสำรละลำย ในชวิตประจำวัน ควรพิจำรณำจำก



ควำมเข้มข้นของสำรละลำย ขึ้นอยู่กับจดประสงคของ


กำรใช้งำน และผลกระทบต่อสิ่งชีวิตและสิ่งแวดล้อม

สำระท 2 วทยำศำสตร์กำยภำพ

ี่

ี่


มำตรฐำน ว 2.3 เข้ำใจควำมหมำยของพลงงำน กำรเปลยนแปลงและกำรถ่ำยโอนพลงงำน ปฏิสมพันธ์

ระหว่ำงสสำรและพลงงำน พลงงำนในชวิตประจำวัน ธรรมชำตของคลน ปรำกฏกำรณทเกี่ยวข้องกับเสยง แสง และ
ี่






ื่
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำรวมทั้งน ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์
ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง

ี่

1. วิเครำะห์สถำนกำรณ์และคำนวณเกี่ยวกับงำนและ - เมื่อออกแรงกระท ำต่อวัตถุ แล้วท ำให้วัตถุเคลื่อนท โดย
ก ำลังที่เกิดจำกแรงที่กระท ำต่อวัตถุ แรงอยู่ในแนวเดียวกับกำรเคลื่อนที่จะเกิดงำน งำนจะมี
โดยใช้สมกำร ค่ำมำกหรือน้อยขึ้นกับขนำดของแรงและ
ระยะทำงในแนวเดียวกับแรง
และ
- งำนที่ท ำในหนึ่งหน่วยเวลำเรียกว่ำ ก ำลัง หลักกำรของ
จำกข้อมูลที่รวบรวมได ้
งำนน ำไปอธิบำยกำร

2. วิเครำะห์หลักกำรทำงำนของเครื่องกลอย่ำงง่ำยจำก ท ำงำนของ
ข้อมูลที่รวบรวมได ้

17





ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
3. ตระหนักถึงประโยชน์ของควำมรู้ของเครื่องกลอย่ำงง่ำย - เครื่องกลอย่ำงง่ำย ได้แก่ คำน พื้นเอียง รอกเดี่ยว ลิ่ม

โดยบอกประโยชน์และกำรประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ ำวัน สกรู ล้อและเพลำ ซึ่งน ำไปใช้ประโยชน์ด้ำนต่ำง ๆ ใน

ชีวิตประจ ำวัน
ี่
4. ออกแบบและทดลองด้วยวิธีที่เหมำะสมในกำรอธิบำย - พลังงำนจลน์เป็นพลังงำนของวัตถุที่เคลื่อนท พลังงำน
ปัจจัยที่มีผลต่อพลังงำนจลน์ และพลังงำนศักย์โน้มถ่วง จลน์จะมีค่ำมำกหรือน้อยขึ้นกับมวลและอัตรำเร็ว ส่วน
พลังงำนศักย์โน้มถ่วงเกี่ยวข้องกับต ำแหน่งของวัตถุ จะมี

ค่ำมำกหรือน้อยขึ้นกับมวลและต ำแหน่งของวัตถ เมื่อ

วัตถุอยู่ในสนำมโน้มถ่วง วัตถุจะมีพลังงำนศักย์โน้มถ่วง
พลังงำนจลน์และพลังงำนศักย์โน้มถ่วงเป็นพลังงำนกล

ี่
5. แปลควำมหมำยข้อมูลและอธิบำยกำรเปลยนพลังงำน - ผลรวมของพลังงำนศักย์โน้มถ่วงและพลังงำนจลน์เป็น
ระหว่ำงพลังงำนศักย์โน้มถ่วงและพลังงำนจลน์ของวัตถ ุ พลังงำนกล พลังงำนศักย์โน้มถ่วงและพลังงำนจลน์ของ
โดยพลังงำนกลของวัตถ มีค่ำคงตัวจำกข้อมูลที่รวบรวมได วัตถุหนึ่ง ๆ สำมำรถเปลี่ยนกลับไปมำได โดยผลรวมของ



พลังงำนศักย์โน้มถ่วงและพลังงำนจลน์มีค่ำคงตัว นั่นคือ
พลังงำนกลของวัตถุมีค่ำคงตัว
6. วิเครำะห์สถำนกำรณและอธิบำยกำรเปลี่ยนและกำร - พลังงำนรวมของระบบมีค่ำคงตัวซึ่งอำจเปลี่ยนจำก

ถ่ำยโอนพลังงำนโดยใช้กฎกำรอนุรักษ์พลังงำน พลังงำนหนึ่งเป็นอีกพลังงำนหนึ่ง เช่น พลังงำนกล

เปลี่ยนเป็นพลังงำนไฟฟ้ำ พลังงำนจลน์เปลี่ยนเป็น
พลังงำนควำมร้อน พลังงำนเสียง พลังงำนแสง

เนื่องมำจำกแรงเสียดทำน พลังงำนเคมีในอำหำร
เปลี่ยนเป็นพลังงำนที่ไปใช้ในกำรท ำงำนของสิ่งมีชวิต

- นอกจำกนี้พลังงำนยังสำมำรถถ่ำยโอนไปยังอีกระบบ


หนึ่งหรือได้รับพลังงำนจำกระบบอื่นได เช่น กำรถ่ำยโอน
ควำมร้อนระหว่ำงสสำร กำรถ่ำยโอนพลังงำนของกำรสั่น

ของแหล่งก ำเนิดเสียงไปยังผู้ฟัง ทั้งกำรเปลี่ยนพลังงำน
และกำรถ่ำยโอนพลังงำน พลังงำนรวมทั้งหมดมีค่ำเท่ำ

เดิมตำมกฎกำรอนุรักษ์พลังงำน

18




สำระที่ 3 วิทยำศำสตร์โลก และอวกำศ

มำตรฐำน ว 3.2 เข้ำใจองคประกอบและควำมสมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปลยนแปลงภำยในโลก

ี่



ิ่


ี่
ั้
และบนผวโลก ธรณพิบัตภัย กระบวนกำรเปลยนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศ โลก รวมทงผลตอสงมีชวิตและ
สิ่งแวดล้อม

ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง


1. เปรียบเทียบกระบวนกำรเกิด สมบัต และกำรใช ้ - เชื้อเพลิงซำกดึกด ำบรรพ์ เกิดจำกกำรเปลี่ยนแปลง
ประโยชน์ รวมทั้งอธิบำยผลกระทบจำกกำรใช้เชื้อเพลิง สภำพของซำกสิ่งมีชีวิตในอดีต โดยกระบวนกำร ทำงเคมี
ซำกดึกด ำบรรพ์ จำกข้อมูลที่รวบรวมได ้ และธรณีวิทยำ เชื้อเพลิงซำกดึกด ำบรรพ์ ได้แก่ ถ่ำนหิน
หินน้ ำมัน และปิโตรเลียม ซึ่งเกิดจำกวัตถุต้นก ำเนิด และ
สภำพ แวดล้อมกำรเกิดที่แตกต่ำงกัน ท ำให้ได้ชนิดของ

เชื้อเพลิงซำกดึกด ำบรรพ์ที่มีลักษณะ สมบัต และกำร
น ำไปใช้ประโยชน์แตกต่ำงกัน ส ำหรับปิโตรเลียมจะต้องมี

กำรผ่ำนกำรกลั่นล ำดับส่วนก่อนกำรใช้งำนเพื่อให้ได ้
ผลิตภัณฑ์ที่เหมำะสมตอกำรใช้ประโยชน์ เชื้อเพลงซำก


ดึกด ำบรรพ์เป็นทรัพยำกรที่ใช้แล้วหมดไป เนื่องจำกต้อง

ใช้เวลำนำนหลำยลำนปีจึงจะเกิดขึ้นใหม่ได ้

2. แสดงควำมตระหนักถึงผลจำกกำรใชเชื้อเพลิงซำกดึกด ำ - กำรเผำไหม้เชื้อเพลิงซำกดึกด ำบรรพ์ในกิจกรรม ต่ำง ๆ
บรรพ์ โดยน ำเสนอแนวทำงกำรใช้เชื้อเพลิงซำกดึกด ำ ของมนุษย์จะท ำให้เกิดมลพิษทำงอำกำศ ซึ่งส่งผล
บรรพ์ กระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมนอกจำกนี้แก๊ส

บำงชนิดที่เกิดจำกกำรเผำไหม้เชื้อเพลิงซำกดึกด ำบรรพ์


เช่น แก๊สคำร์บอนไดออกไซด และไนตรัสออกไซด ยัง
เป็นแก๊สเรือนกระจกซึ่งส่งผลให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลง

ภูมิอำกำศของโลกรุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้เชื้อเพลิง
ซำกดึกด ำบรรพ์ โดยค ำนึงถึงผลที่เกิดขึ้นต่อสิ่งมีชีวิตและ


สิ่งแวดล้อม เช่น เลือกใช้พลังงำนทดแทน หรือเลอกใช ้
ี่
เทคโนโลยีทลดกำรใช้เชื้อเพลิงซำกดึกด ำบรรพ์

19




ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง

3. เปรียบเทียบข้อดีและข้อจ ำกัดของพลังงำนทดแทนแต ่ • เชื้อเพลิงซำกดึกด ำบรรพ์เป็นแหล่งพลังงำนที่ส ำคัญใน

ละประเภทจำกกำรรวบรวมข้อมูลและน ำเสนอแนว กิจกรรมต่ำง ๆ ของมนุษย์ เนื่องจำกเชื้อเพลิงซำกดึกด ำ

ทำงกำรใช้พลังงำนทดแทน ที่เหมำะสมในท้องถิ่น บรรพ์มีปริมำณจ ำกัดและมักเพิ่มมลภำวะในบรรยำกำศ
มำกขึ้น จึงมีกำรใช้พลังงำนทดแทนมำกขึ้น เช่น พลังงำน

แสงอำทิตย์ พลังงำนลม พลังงำนน้ ำ พลังงำนชีวมวล
พลังงำนคลื่น พลังงำนควำมร้อนใต้พิภพ พลังงำน

ไฮโดรเจน ซึ่งพลังงำนทดแทนแต่ละชนิดจะมีข้อดีและ

ี่
ข้อจ ำกัดทแตกต่ำงกัน

4. สร้ำงแบบจำลองที่อธิบำยโครงสร้ำงภำยในโลกตำม • โครงสร้ำงภำยในโลกแบ่งออกเป็นชั้นตำมองค์ประกอบ
องค์ประกอบทำงเคมีจำกข้อมูลที่รวบรวมได ้ ทำงเคมี ได้แก่ เปลือกโลก ซึ่งอยู่นอกสุด ประกอบด้วย

สำรประกอบของซิลิกอน และอะลูมิเนียมเป็นหลก เนื้อ

โลกคือส่วนที่อยู่ใต้เปลือกโลกลงไปจนถึงแก่นโลก มี

องค์ประกอบหลักเป็นสำรประกอบของซิลิกอน

แมกนีเซียม และเหล็ก และแก่นโลกคือส่วนที่อยู่ใจกลำง
ของโลก มีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและนิกเกิล ซึ่งแต ่

ละชั้นมีลักษณะแตกต่ำงกัน
5. อธิบำยกระบวนกำรผุพังอยู่กับท กำรกร่อน และกำร - กำรผุพังอยู่กับท กำรกร่อน และกำรสะสมตัวของ
ี่
ี่
สะสมตัวของตะกอนจำกแบบจ ำลอง รวมทั้งยกตัวอย่ำงผล ตะกอน เป็นกระบวนกำรเปลี่ยนแปลงทำงธรณีวิทยำ ท ี่

ของกระบวนกำรดังกล่ำวที่ท ำให้ผิวโลกเกิดกำร ท ำให้ผิวโลกเกิดกำรเปลี่ยนแปลงเป็นภูมิลักษณ์แบบ

เปลี่ยนแปลง ต่ำง ๆ โดยมีปัจจัยสำคัญ คือน้ ำ ลม ธำรน้ ำแข็ง แรงโน้ม
ถ่วงของโลก สิ่งมีชีวิต สภำพอำกำศ และปฏิกิริยำเคมี
- กำรผุพังอยู่กับท คือ กำรที่หินผุพังท ำลำยลงด้วย
ี่
กระบวนกำรต่ำง ๆ ได้แก่ ลมฟ้ำอำกำศกับน้ ำฝน และ

รวมทั้งกำรกระท ำของต้นไม้กับแบคทีเรีย ตลอดจนกำร
แตกตัวทำงกลศำสตร์ซึ่งมีกำรเพิ่มและลดอุณหภูมิ

สลับกัน เป็นต้น

- กำรกร่อน คือ กระบวนกำรหนึ่งหรือหลำยกระบวนกำร
ที่ท ำให้สำรเปลือกโลกหลุดไป ละลำยไปหรือกร่อนไป

โดยมีตัวน ำพำธรรมชำต คือ ลม น้ ำ และธำรน้ ำแข็ง

ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ ลมฟ้ำอำกำศ สำรละลำย
กำรครูดถู กำรน ำพำ ทั้งนี้ไม่รวมถึงกำรพังทลำยเป็นกลุ่ม

20





ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง

ก้อน เช่น แผ่นดินถล่ม ภูเขำไฟระเบิด

- กำรสะสมตัวของตะกอน คือ กำรสะสมตัวของวัตถุจำก
กำรน ำพำของน้ ำ ลม หรือธำรน้ ำแข็ง

ี่
6. อธิบำยลักษณะของชั้นหน้ำตัดดินและกระบวนกำรเกิด - ดินเกิดจำกหินทผุพังตำมธรรมชำติผสมคลุกเคล้ำกับ
ดิน จำกแบบจ ำลอง รวมทั้งระบุปัจจัยที่ท ำให้ดินมี อินทรียวัตถุที่ได้จำกกำรเน่ำเปื่อยของซำกพืช ซำกสัตว์ทับ

ลักษณะและสมบัติแตกต่ำงกัน ถมเป็นชั้น ๆ บนผิวโลก ชั้นดินแบ่งออกเป็นหลำยชั้น

ขนำนหรือเกือบขนำนไปกับ ผิวหน้ำดิน แต่ละชั้นมี
ลักษณะแตกต่ำงกันเนื่องจำกสมบัตทำงกำยภำพ เคมี

ชีวภำพ และลักษณะอื่น ๆ เช่น สี โครงสร้ำง เนื้อดิน กำร

ยึดตัว ควำมเป็นกรด-เบส
สำมำรถสังเกตได้จำกกำรส ำรวจภำคสนำม กำรเรียกชื่อ

ชั้นดินหลักจะใช้อักษรภำษำอังกฤษตัวใหญ่ ได้แก่ O, A,

E, B, C, R
- ชั้นหน้ำตัดดิน เป็นชั้นดินที่มีลักษณะปรำกฏให้เห็น


เรียงล ำดับเป็นชั้นจำกชั้นบนสุดถึงชั้นล่ำงสด
- ปัจจัยที่ทำให้ดินแตละท้องถิ่นมีลักษณะและสมบัต ิ


แตกต่ำงกัน ได้แก่ วัตถุต้นก ำเนิดดิน ภูมิอำกำศ สงมีชีวิต
ิ่
ในดิน สภำพภูมิประเทศ และระยะเวลำ ในกำรเกิดดิน

7. ตรวจวัดสมบัตบำงประกำรของดิน โดยใช้เครื่องมือท ี่ - สมบัติบำงประกำรของดิน เช่น เนื้อดิน ควำมชื้นดิน ค่ำ
เหมำะสมและน ำเสนอแนวทำงกำรใช้ประโยชน์ดินจำก ควำมเป็นกรด-เบส ธำตุอำหำรในดิน สำมำรถน ำไปใช้ใน

ข้อมูลสมบัติของดิน กำรตัดสินใจถึงแนวทำงกำรใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยอำจ
น ำไปใช้ประโยชน์ ทำงกำรเกษตรหรืออื่น ๆ ซึ่งดินที่ไม่


เหมำะสมต่อกำรทำกำรเกษตร เช่น ดินจืด ดินเปรี้ยว ดิน
เค็ม และดินดำน อำจเกิดจำกสภำพดินตำมธรรมชำติหรือ

กำรใช้ประโยชน์จะต้องปรับปรุงให้มีสภำพเหมำะสม เพื่อ

น ำไปใช้ประโยชน์
8. อธิบำยปัจจัยและกระบวนกำรเกิดแหล่งน้ ำผิวดินและ - แหล่งน้ ำผิวดินเกิดจำกน้ ำฝนที่ตกลงบนพื้นโลก ไหลจำก

แหล่งน้ ำใต้ดิน จำกแบบจ ำลอง ที่สูงลงสู่ทต่ ำด้วยแรงโน้มถ่วง กำรไหลของน้ ำท ำให้พื้น
ี่
โลกเกิดกำรกัดเซำะเป็นร่องน้ ำ เช่น ล ำธำร คลอง และ
แม่น้ ำ ซึ่งร่องน้ ำจะมีขนำดและรูปร่ำงแตกต่ำงกัน ขึ้นอยู่

21




ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง


กับปริมำณน้ ำฝน ระยะเวลำในกำรกัดเซำะ ชนิดดนและ
หิน และลักษณะภูมิประเทศ เช่น ควำมลำดชัน ควำมสูง

ต่ ำของพื้นท เมื่อน้ ำไหลไปยังบริเวณทเป็นแอ่งจะเกิดกำร
ี่
ี่
สะสมตัวเป็นแหล่งน้ ำ เช่น บึง ทะเลสำบ ทะเล และ
มหำสมุทร

- แหล่งน้ ำใตดินเกิดจำกกำรซึมของน้ ำผิวดินลงไปสะสมตัว
ใต้พื้นโลก ซึ่งแบ่งเป็นน้ ำในดินและน้ ำบำดำล น้ ำในดิน

เป็นน้ ำที่อยู่ร่วมกับอำกำศตำมช่องว่ำงระหว่ำงเม็ดดิน

ส่วนน้ ำบำดำลเป็นน้ ำที่ไหลซึมลกลงไปและถูกกักเก็บไว้ใน
ชั้นหินหรือชั้นดิน จนอิ่มตัวไปด้วยน้ ำ

9. สร้ำงแบบจำลองที่อธิบำยกำรใช้น้ ำ และน ำเสนอแนว - แหล่งน้ ำผิวดินและแหล่งน้ ำใต้ดินถูกน ำมำใชในกิจกรรม


ทำงกำรใช้น้ ำอย่ำงยั่งยืนในท้องถิ่นของตนเอง ต่ำง ๆ ของมนุษย์ ส่งผลต่อกำรจัดกำรกำรใช้ประโยชน์น้ ำ
และคุณภำพของแหล่งน้ ำ เนื่องจำกกำรเพิ่มขึ้นของ

จ ำนวนประชำกร กำรใช้ประโยชน์พื้นที่ในด้ำนต่ำง ๆ เช่น
ภำคเกษตรกรรม ภำคอุตสำหกรรม และกำรเปลี่ยนแปลง

ภูมิอำกำศ ท ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงปริมำณน้ ำฝนใน

พื้นที่ลุ่มน้ ำ และแหล่งน้ ำผวดินไม่เพียงพอส ำหรับกิจกรรม
ของมนุษย์ น้ ำจำกแหล่งน้ ำใต้ดินจึงถูกน ำมำใช้มำกขึ้น

ส่งผลให้ปริมำณน้ ำใต้ดินลดลงมำก
จึงต้องมีกำรจัดกำรใช้น้ ำอย่ำงเหมำะสมและยั่งยืน ซึ่งอำจ

ท ำได้โดยกำรจัดหำแหล่งน้ ำเพื่อให้มีแหล่งน้ ำเพียงพอ
ส ำหรับกำรด ำรงชีวิต

22







ตัวชี้วด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
10. สร้ำงแบบจ ำลองที่อธิบำยกระบวนกำรเกิดและ - น้ ำท่วม กำรกัดเซำะชำยฝั่ง ดินถล่ม หลุมยุบ แผนดิน


ผลกระทบของน้ ำท่วม กำรกัดเซำะชำยฝั่ง ดินถลม หลุม ทรุด มีกระบวนกำรเกิดและผลกระทบ ที่แตกต่ำงกัน ซึ่ง
ยุบ แผ่นดินทรุด อำจสร้ำงควำมเสียหำยร้ำยแรง แก่ชีวิต และทรัพย์สิน

ี่
- น้ ำท่วม เกิดจำกพื้นทหนึ่งได้รับปริมำณน้ ำเกินกว่ำที่จะ
กักเก็บได ท ำให้แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ ำ โดยขึ้นอยู่กับปริมำณ

น้ ำและสภำพทำงธรณีวิทยำของพื้นท ี่

- กำรกัดเซำะชำยฝั่ง เป็นกระบวนกำรเปลี่ยนแปลงของ
ชำยฝั่งทะเลที่เกิดขึ้นตลอดเวลำจำกกำรกัดเซำะของคลื่น

หรือลม ท ำให้ตะกอนจำกที่หนึ่งไปตกทับถมในอีกบริเวณ

หนึ่ง แนวของชำยฝั่งเดิมจึงเปลี่ยนแปลงไป บริเวณที่มี
ตะกอนเคลื่อนเข้ำมำน้อยกว่ำปริมำณที่ตะกอนเคลื่อน

ออกไป ถือว่ำเป็นบริเวณที่มีกำรกัดเซำะชำยฝั่ง

- ดินถล่ม เป็นกำรเคลื่อนที่ของมวลดินหรือหินจ ำนวน
มำกลงตำมลำดเขำ เนื่องจำกแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นหลัก

ซึ่งเกิดจำกปัจจัยส ำคัญ ได้แก่ ควำมลำดชันของพื้นท ี่

สภำพธรณีวิทยำ ปริมำณน้ ำฝน พืชปกคลุมดิน และกำรใช ้
ประโยชน์พื้นท ี่

- หลุมยุบ คือ แอ่งหรือหลุมบนแผ่นดินขนำดต่ำง ๆ ที่อำจ
เกิดจำกกำรถล่มของโพรงถ้ ำหินปูนเกลือหินใต้ดิน หรือ

เกิดจำกน้ ำพัดพำตะกอนลงไปในโพรงถ้ ำหรือธำรน้ ำใต้ดิน

แผ่นดินทรุดเกิดจำกกำรยุบตัวของชั้นดิน หรือ หินร่วน
เมื่อมวลของแข็งหรือของเหลวปริมำณมำก

23




ค ำอธิบำยรำยวิชำ


ู้
รำยวิชำ ว 22101 วิทยำศำสตร์พื้นฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชั่วโมง/ภำคเรียน จ ำนวน 1.5 หน่วยกิต



ี่

ี่
ศกษำวิเครำะห์ ธำตและสำรประกอบ กำรเปลยนแปลงของสำรเกี่ยวกับสำรละลำย กำรเปลยนสถำนกำรณ ์

ี่
ิ่



เกิดปฏิกิริยำเคมี ปฏิกิริยำเคมีทพบในชวิตประจ ำวัน ประโยชน์ โทษ และผลตอสงแวดลอม กำรสะท้อนและกำรหักเห

ของแสง กำรเกิดภำพจำกกระจกเงำและเลนส์ เลเซอร์ และเส้นใยน ำแสง ควำมสว่ำง และกำรมองเหน โลกของเรำ แร่
หิน กำรเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ดิน น้ ำ ทรัพยำกรธรณ ี




โดยใชกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ กำรสบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสบคนข้อมูลและกำร

อภิปรำย เพื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเข้ำใจ สำมำรถสื่อสำรสิ่งที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดสินใจ น ำควำมรู้

ไปใช้ในชีวิตประจ ำวัน


กำรเรียนรู้วิชำนี้มุ่งให้ผู้เรียนมีจตวิทยำศำสตร์ซึ่งประกอบดวย ควำมสนใจใฝ่รู้ ควำมมุ่งมั่น อดทน รอบคอบ

ู้
ควำมรับผดชอบ ควำมซื่อสตย์ ประหยัด กำรร่วมแสดงควำมคดเหนและยอมรับฟังควำมคดเห็นของผอื่น ควำมมี






ู้



เหตผล กำรทำงำนร่วมกับผอื่นไดอย่ำงสร้ำงสรรค ปฏิบัตตำมหลกปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง มีคณธรรม


จริยธรรม และค่ำนิยมที่พึงประสงค ์

ตัวชี้วัดชั้นปี
ว3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
ว3.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
ว5.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
ว6.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10


รวม 20 ชี้วัด

24




โครงสร้ำงรำยวิชำ


ู้
รำยวิชำ ว 22101 วิทยำศำสตรพื้นฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชั่วโมง/ภำคเรียน จ ำนวน 1.5 หน่วยกิต


หน่วย ชื่อ มำตรฐำน/ตัวชี้วัด สำระส ำคัญ เวลำ น้ ำหนัก
ที่ หน่วยกำรเรียนร ู้ (ชั่วโมง) คะแนน

1. ดิน ,หิน ,น้ ำ ว 6.1 - ดิน

ม.2/1 – ม.2/8 - หิน 10 20
- น้ ำ

2. ทรัพยำกรธรณ ี ว 6.1 - ทรัพยำกรธรณ ี 15 25

ม.2/9 – ม.2/10 - กำรเปลี่ยนแปลงของโลก
3. สำรและกำร ว 3.1 - สถำนะของสำร

เปลี่ยนแปลง ม.2/1 – ม.2/3 - สมบัติของสำร

ว 3.2 10 15
ม.2/1 – ม.2/4

4. แสงและกำรเกิด ว 5.1 - กำรสะท้อนของแสง 10 15
ภำพ ม.2/1 – ม.2/3 - แสงกับนัยน์ตำ

5. กำรเปลี่ยนแปลง ว.6.1 - โครงสร้ำงของเปลือกโลก

ของเปลือกโลก ม.2/1 – ม.2/10 - กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก 15 25
- ธรณีประวัติ

- ปรำกฏกำรทำงธรณีวิทยำ

รวม ชวโมง/คะแนน ระหว่ำงภำค 80
ั่
รวม ชวโมง/คะแนน ปลำยภำค 20
ั่
รวมทั้งสิ้น 100

25




หน่วยกำรเรียนร ู้


ู้
รำยวิชำ ว 22101 วิทยำศำสตร์พื้นฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชั่วโมง/ภำคเรียน จ ำนวน 1.5 หน่วยกิต

ชื่อหน่วยกำรเรียนร ู้ สำระกำรเรียนร ู้ เวลำ (ชั่วโมง)

หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1 ธรรมชำติของวิทยำศำสตร์และจตวิทยำศำสตร์ 8

หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 องค์ประกอบของสำรละลำยและปัจจัยที่มีผลต่อสภำพละลำยได ้ 10
สำรละลำย ควำมเข้มข้นของสำรละลำย 12

สอบกลำงภำค

หน่วยกำรเรยนรู้ที่ 3 ระบบอวัยวะในร่ำงกำยของเรำ 13

ร่ำงกำยมนุษย์

หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 4 กำรเคลื่อนท ี่ 8
กำรเคลื่อนที่และแรง แรงในชีวิตประจำวัน 9

สอบปลำยภำค

รวม 60


Click to View FlipBook Version