The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เกี่ยวกับความเป็นมาของเขื่อนน้ำลำตะคองการท่องเที่ยว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วรรณิศา พวงสมบัติ, 2020-02-19 23:38:34

เขื่อนลำตะคอง

เกี่ยวกับความเป็นมาของเขื่อนน้ำลำตะคองการท่องเที่ยว

Keywords: เขื่อนลำตะคอง

เขือ่ นลำตะคอง

จดั ทำโดย น.ส. วรรณิศำ พวงสมบตั ิ ม.3/2 เลขที่36

E-book เขอื่ นเก็บนำ้ ลำตะคอง

1. ประวตั คิ วำมเป็ นมำของเขอื่ นเก็บนำ้ ลำตะคอง

สบื เนอ่ื งจากในอดตี กอ่ นปี พ.ศ. 2482 บรเิ วณทร่ี าบในลมุ่ น้าลาตะคองตอนลา่ ง ในทอ้ งทอี่ าเภอเมอื ง
นครราชสมี า ประชาชนจะปิดทานบหรอื หลกุ เพอ่ื ทดน้าขน้ึ ไปใช ้ แตพ่ น้ื ทเ่ี พาะปลกู สว่ นใหญย่ งั คงขาด
แคลนน้าอยู่ กรมชลประทานจงึ ไดม้ โี ครงการทดและสง่ น้าลาตะคองเพอื่ ชว่ ยเหลอื พนื้ ทเี่ พาะปลกู ทัง้ 2
ฝ่ังลาตะคองในทอ้ งทอ่ี าเภอเมอื ง กบั บางสว่ นของอาเภอขามทะเลสอและเฉลมิ พระเกยี รติ โดยสรา้ งเป็ น
เขอื่ นระบายน้าขน้ึ 9 แหง่ อยใู่ นลาบรบิ รู ณ์ 5 แหง่ คอื ทบี่ า้ นโคกแฝก บา้ นทงุ่ บา้ นโพธเ์ิ ตยี้ บา้ นนาตม
บา้ นจอหอ และในลาตะคอง 4 แหง่ คอื บา้ นมะขามเฒา่ บา้ นคนชมุ บา้ นขอ่ ยงาม และบา้ นกนั ผม เพอ่ื
สง่ น้าใหก้ บั พน้ื ทร่ี วมประมาณ 100,000 ไร
การกอ่ สรา้ งไดเ้ รม่ิ ใน พ.ศ. 2482 และเรมิ่ สง่ น้าไดเ้ มอ่ื เสร็จเป็ นตอน ๆ ไป งานเสร็จทัง้ โครงการในปี
พ.ศ. 2500 สน้ิ เงนิ คา่ กอ่ สรา้ ง 18,700,000 บาท หลงั จากมที างรถไฟไปถงึ จังหวัดนครราชสมี า และได ้
ตอ่ ไปยงั บางจงั หวดั บา้ งแลว้ จังหวดั นครราชสมี า ซงึ่ เป็ นชมุ ทางรถไฟและเป็ นแหลง่ กลางของกจิ กรรม
ตา่ ง ๆ ในภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื กเ็ จรญิ ขน้ึ อยา่ งรวดเร็ว แตม่ ขี อ้ บกพรอ่ งทสี่ าคญั อยปู่ ระการหนง่ึ คอื
กนั ดารน้า โดยเฉพาะน้าใชเ้ พอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภคทต่ี วั จงั หวดั ซงึ่ มปี ระชาชนอยอู่ ยา่ งหนาแน่น ฉะนัน้ จงึ
จาเป็ นตอ้ งสรา้ งเขอ่ื นเกบ็ กกั น้าทางตน้ น้าของลาตะคอง ซง่ึ เป็ น 1 ใน 16 แหง่ ทก่ี รมชลประทานได ้
เลอื กไวใ้ นเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนอื เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาเรอ่ื งน้าในทรี่ าบสองฝ่ังลาน้า โดยไดเ้ รม่ิ งาน
กอ่ สรา้ งเบอ้ื งตน้ ขน้ึ เมอื่ ปีพ.ศ. 2507 สรา้ งเสร็จในปี พ.ศ. 2512 สนิ้ คา่ ใชจ้ า่ ยรวม 236 ลา้ นบาท ท่ี
อาเภอสงู เนนิ ประชาชนไดข้ ดุ คลองจากลาตะคองเพอ่ื สง่ น้าไปใชท้ านา น้าไดไ้ หลลงทางคลองทข่ี ดุ กดั
เซาะคลองกวา้ งขนึ้ เป็ นลาดบั ทาใหล้ าตะคองตอนใตเ้ ขอื่ นลงไปเรม่ิ ตนื้ เขนิ เพอ่ื แกป้ ัญหาความ
เดอื ดรอ้ นทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในเวลาตอ่ ไป กรมชลประทานจงึ ไดส้ รา้ งทอ่ ปากคลองเพอ่ื ควบคมุ ปรมิ าณน้าที่
สง่ ไปใช ้ รวม 2 แหง่ ชว่ ยเหลอื เนอ้ื ทเ่ี พาะปลกู ได ้ 6,000 ไร่ โดยไดเ้ รมิ่ สรา้ งใน พ.ศ. 2496 แลว้ เสร็จใน
ปีพ.ศ. 2499 สนิ้ คา่ ใชจ้ า่ ย 310,000 บาท ตอ่ มากรมชลประทานไดพ้ จิ ารณาสรา้ งเขอ่ื นทดน้าและระบาย
น้าพรอ้ มระบบสง่ น้าในพน้ื ทล่ี าตะคองตอนบนเพม่ิ ขนึ้ อกี 2 แหง่ ทบ่ี า้ นมะเกลอื ใหม่ และทบี่ า้ นกดุ หนิ
พรอ้ มระบบชลประทาน 27,540 ไร่ เรมิ่ กอ่ สรา้ งในปีพทุ ธศกั ราช 2523 แลว้ เสร็จในปีพทุ ธศักราช 2528

2.อำณำเขตของเข่ือนเกบ็ น้ำลำตะคอง (เหนือ/ใต/้ ออก/ตก)

ขอบเขตรับผดิ ชอบของโครงการ

โครงกำรส่งน้ำและบำรุงรักษำลำตะคอง มีพ้ืนท่ีโครงกำรฯปัจจุบนั 187,785 ไร่ เป็นพ้นื ที่
ส่งน้ำเพือ่ กำรเกษตร(พ้ืนท่ีชลประทำน)ปัจจุบนั 151,365 ไร่ ครอบคลุมในเขต 5 อำเภอของ
จงั หวดั นครรำชสีมำ ไดแ้ ก่ อำเภอสีคิ้ว / อำเภอสูงเนิน / อำเภอขำมทะเลสอ / อำเภอเมือง
/ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีตน้ น้ำอยบู่ ริเวณเทือกเขำดงพญำเยน็ กบั เทือกเขำสัน
กำแพงในทอ้ งท่ีอำเภอปำกช่อง ควำมยำวของลำน้ำไปบรรจบกบั แม่น้ำมูลรวม 220
กิโลเมตร ช่วงไหลผำ่ นอำเภอขำมทะเลสอ เขำ้ สู่อำเภอเมือง จะไหลแยกออกเป็น 2 ลำน้ำ
คือ ลำตะคองตอนล่ำง มีเข่ือนทดน้ำที่สร้ำงในลำน้ำน้ีจำนวน 6 แห่ง และลำบริบูรณ์มี
เขื่อนทดน้ำที่สร้ำงในลำน้ำน้ีจำนวน 5 แห่ง

3.ขนำดควำมจุ/ปริมำณกำรกกั เกบ็ น้ำลำตะคอง

1. เป็ นเข่ือนดินเก็บกกั น้ำ ปิ ดก้นั แม่น้ำลำตะคอง
2. สูง 40.3 ม. ยำว 521 ม. มีช่องระบำย 1 ช่อง
3. ระดบั สนั เขื่อน + 282.30 ร.ท.ก.
4. ระดบั เกบ็ กกั + 277.00 ร.ท.ก. ระดบั น้ำสูงสุด + 280.00 ร.ท.ก.
5. ปริมำณน้ำท่ีระดบั เกบ็ กกั 310 ลำ้ น ลบ.ม. ปริมำณน้ำที่ระดบั เกบ็ กกั สูงสุด 445 ลำ้ น ลบ.ม.
6. ควำมจุกน้ อ่ำงฯ ที่ระดบั + 261.00 ร.ท.ก. 20 ลำ้ น ลบ.ม.
7. อำณำเขตรับน้ำ 1,430 ตร.กม. พ้ืนที่อ่ำงฯ ที่ระดบั เก็บกกั สูงสุด 554 ตร.กม.
8. ปริมำณน้ำไหลลงอ่ำง 212 ลำ้ น ลบ.ม./ปี ปริมำณฝนเฉล่ีย 1,113 มม./ปี
9. River Outlet ขนำดเสน้ ผำ่ ศนู ยก์ ลำง 3.50 ม. ส่งน้ำได้ 20 ลบ.ม./วนิ ำที ระดบั ธรณีท่อ + 261.00 ร.ท.ก.
10. Service Spillway ขนำด 6.0 ม. จำนวน 7 ช่อง ระบำยน้ำได้ 1,530 ลบ.ม./วนิ ำที
11. ทำงระบำยน้ำฉุกเฉินกวำ้ ง 40.0 ม. ระบำยน้ำได้ 600 ลบ.ม./วนิ ำที

ปริมาณการกกั เกบ็ น้าลา้ ตะคอง

4.กำรผลิตกระแสไฟฟ้ำจำกเขื่อนเกบ็ น้ำลำตะคอง

กาลงั การผลติ
โรงไฟฟ้ำลำตะคองฯ ติดต้งั เคร่ืองกำเนิดไฟฟ้ำ ขนำด 250 เมกะวตั ต์ จำนวน 2 เคร่ือง รวมกำลงั ผลิตติดต้งั 500 เมกะ

วตั ต์ ตอ่ มำไดต้ ิดต้งั เครื่องกำเนิดไฟฟ้ำเพ่ิมเติมอีกจำนวน 2 เครื่อง ทำใหม้ ีกำลงั ผลิตติดต้งั รวมท้งั สิ้น 1,000 เมกะวตั ต์

โรงไฟฟ้าลาตะคองชลภาวฒั นา
ภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือเป็นภูมิภำคท่ีใหญ่และมีประชำกรมำกที่สุดในประเทศไทย มีควำมตอ้ งกำรใชไ้ ฟฟ้ำเพ่ิมมำก

ข้ึนทุกๆ ปี กฟผ. จึงพจิ ำรณำนำเทคโนโลยที ี่ทนั สมยั คือ โรงไฟฟ้ำพลงั น้ำแบบสูบกลบั มำสร้ำงโรงไฟฟ้ำในภำคน้ีเป็นแห่ง
แรกของประเทศไทย

โรงไฟฟ้ำพลงั น้ำลำตะคองฯ แบบสูบกลบั สร้ำงอยใู่ กลก้ บั เขอื่ นลำตะคอง ห่ำงจำกตวั เมืองนครรำชสีมำประมำณ 70
กิโลเมตร ทำงำนโดยกำรสูบน้ำจำกอ่ำงเกบ็ น้ำเขื่อนลำตะคองของกรมชลประทำนไปเกบ็ ไวท้ ่ีอ่ำงพกั น้ำบนเขำยำยเท่ียง
ในช่วงเวลำที่มีควำมตอ้ งกำรใชไ้ ฟฟ้ำนอ้ ยหรือช่วงกลำงคืนถึงเชำ้ และเมื่อมีควำมตอ้ งกำรใชไ้ ฟฟ้ำสูงในช่วงกลำงวนั ถึงค่ำ
จะปล่อยน้ำเพ่อื ผลิตไฟฟ้ำ และปล่อยลงอำ่ งเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองเหมือนเดิม

อ่ำงพกั น้ำบนเขำยำยเท่ียงสร้ำงแบบหินถมดำดดว้ ยยำงมะตอย เพ่ือป้องกนั น้ำซึม เกบ็ กกั น้ำได้ 10.3 ลำ้ นลูกบำศกเ์ มตร
ตวั อำคำรโรงไฟฟ้ำ ถกู สร้ำงไวใ้ ตร้ ะดบั ผิวดินลึกกวำ่ 350 เมตร เพอ่ื เพิ่มระยะทำงจำกอ่ำงเก็บน้ำบนเขำถึงอำคำรโรงไฟฟ้ำ
ใหน้ ้ำที่ไหลลงมำมีกำลงั แรงข้นึ ทำใหโ้ รงไฟฟ้ำลำตะคองชลภำวฒั นำ เป็ นโรงไฟฟ้ำใตด้ ินแห่งแรกและแห่งเดียวใน
ประเทศไทย ซ่ึงก่อสร้ำงแลว้ เสร็จและนำไฟฟ้ำเขำ้ สู่ระบบเมื่อปี พ.ศ. 2547

กงั หันลมลาตะคอง
กำรผลิตไฟฟ้ำจำกกงั หนั ลมลำตะคอง เป็ นโครงกำรหน่ึงที่ กฟผ. ม่งุ มน่ั ที่จะผลิตไฟฟ้ำจำกพลงั งำนหมนุ เวยี น ตำม

แผนพฒั นำกำลงั ผลิตไฟฟ้ำของประเทศไทย พ.ศ. 2547 – 2555 (PDP 2004) จำกกำรเกบ็ สถิติควำมเร็วลมของ กฟผ. เพ่ือ
ตรวจวดั ศกั ยภำพพลงั งำนลมสำหรับผลิตไฟฟ้ำทวั่ ประเทศมำต้งั แตป่ ี พ.ศ. 2547 พบวำ่ บริเวณอ่ำงพกั น้ำตอนบนของ
โรงไฟฟ้ำลำตะคองชลภำวฒั นำ มีศกั ยภำพดีที่สุดแห่งหน่ึง มีลมพดั ถึง 2 ช่วง คือช่วงฤดูลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือ
(ระหวำ่ งเดือนพฤศจิกำยน ถึงปลำยเดือนมีนำคม) และลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้ (ระหวำ่ งเดือนพฤษภำคม ถึงกลำงเดือน
ตุลำคม) มีควำมเร็วลมเฉล่ียท้งั ปี ประมำณ 5 - 6 เมตรตอ่ วนิ ำที เหมำะสมท่ีจะพฒั นำสร้ำงกงั หนั ลมเพอื่ ใชผ้ ลิตไฟฟ้ำ

กฟผ. จึงไดด้ ำเนินโครงกำรติดต้งั กงั หนั ลมจำนวน 2 ชุด ขนำดกำลงั ผลิตชุดละ 1,250 กิโลวตั ต์ รวมกำลงั ผลิต 2,500
กิโลวตั ต์ และดำเนินกำรติดต้งั กงั หนั ลมเพม่ิ อีก 12 ตน้ ตน้ ละ 2,000 กิโลวตั ต์ ทำใหม้ ีกำลงั ผลิตติดต้งั รวมท้งั สิ้น 26,500
กิโลวตั ต์

5.วถิ ีชีวติ ของชำวบำ้ นที่อำศยั อยใุ่ กลเ้ ข่ือนเกบ็ น้ำลำตะคอง

ส่วนใหญจ่ ะเป็ นกำรทำประมงขำยปลำและแหล่งพกั ผอ่ นชมพระอำทิตยต์ กในตอนเยน็

6. แหล่งทอ่ งเที่ยวท่ีน่ำสนใจ

7.ถนนมอเตอร์เวยท์ ่ีตดั ผำ่ นเขื่อนเกบ็ น้ำลำตะคอง

ทำงหลวงพิเศษหมำยเลข 6’ หรือ ‘ทำงหลวงพเิ ศษสำยตะวนั ออกเฉียงเหนือ’ เป็นโครงกำรทำงหลวงพเิ ศษ
เช่ือมระหวำ่ งเมือง เริ่มตน้ จำก จ.พระนครศรีอยธุ ยำ ข้ึนสู่ภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ไปสิ้นสุดที่ จ.หนองคำย
เป็นส่วนหน่ึงของโครงข่ำยเส้นทำงในแผนแม่บทระบบทำงหลวงพเิ ศษระหวำ่ งเมือง ที่ไดร้ ับอนุมตั ิจำก
คณะรัฐมนตรีในสมยั รัฐบำลของพลเอกชวลิต ยงใจยทุ ธ เมื่อปี 2540 ทำงหลวงพิเศษหมำยเลข 6
ประกอบดว้ ยโครงกำรก่อสร้ำงเส้นทำง 3 สำยต่อเน่ืองกนั (ระยะทำงตำมมติคณะรัฐมนตรีปี 2540) ไดแ้ ก่
สำยบำงปะอิน–นครรำชสีมำ, สำยนครรำชสีมำ–ขอนแก่น และสำยขอนแก่น–หนองคำย ท้งั 3 เส้นทำงน้ีจะ
มีระยะทำงรวมกนั 535 กิโลเมตร โดย ‘ทำงหลวงพเิ ศษสำยบำงปะอิน–นครรำชสีมำ’ เป็นโครงกำรก่อสร้ำง
ทำงหลวงพิเศษหมำยเลข 6 ที่เร่ิมดำเนินกำรเป็ นโครงกำรแรกซ่ึงมี พระรำชกฤษฎีกำกำหนดเขตที่ดินใน
บริเวณที่ท่ีจะเวนคืนเม่ือปี 2556 ในสมยั รัฐบำลนำงสำวยง่ิ ลกั ษณ์ ชินวตั ร

ขอ้ มูลจำกกรมทำงหลวงระบุวำ่ ทำงทำงหลวงพเิ ศษสำยบำงปะอิน–นครรำชสีมำ จะมีระยะทำงประมำณ
196 กิโลเมตร โครงกำรก่อสร้ำงฯ มีแนวเส้นทำงเร่ิมตน้ ท่ีบริเวณจุดเชื่อมต่อกบั ทำงหลวงพิเศษหมำยเลข 9
กบั ทำงหลวงหมำยเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ท่ีบริเวณทำงแยกตำ่ งระดบั บำงปะอิน จ.พระนครศรีอยธุ ยำ เป็น
แนวเส้นทำงใหม่ขนำนไปกบั ทำงหลวงหมำยเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) และทำงหลวงหมำยเลข 2 (ถนน
มิตรภำพ) และมีจุดสิ้นสุดบรรจบกบั ทำงเลี่ยงเมืองนครรำชสีมำ จ.นครรำชสีมำ บริเวณหลกั กิโลเมตรที่ 2
ผำ่ นพ้ืนที่ 3 จงั หวดั 12 อำเภอ ไดแ้ ก่ จ.พระนครศรีอยธุ ยำ (อ.บำงปะอิน อ.วงั นอ้ ย อ.อุทยั ) (จ.สระบุรี) อ.
หนองแค อ.เมืองสระบุรี อ.แก่งคอย อ.มวกเหลก็ (จ.นครรำชสีมำ) อ.ปำกช่อง อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขำมทะเล
สอ และ อ.เมืองนครรำชสีมำ รวมระยะทำงประมำณ 196 กิโลเมตร


Click to View FlipBook Version