The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชีวิตเเละเเนวทาง ของ คอปเตอร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natthasak88, 2021-10-14 04:23:55

MANNQUIN

ชีวิตเเละเเนวทาง ของ คอปเตอร์

Keywords: Magazine

ความชอบที่ไม่เคยชอบ

ชีวิตที่อยู่เเต่ในกรอบ

(ของตัวเอง)

๐๑ ๐๓

ความฝันแบบเดาสุ่ม

เสพติดการเรียน ๐๗

๐๕

ผลงานและความเป็นมา
ภาพยนต์กับชีวิต

๐๙ ๑๑

COPTER ขอฝันไฝ่ในฝันที่ไม่
กล้าฝัน
๑๔
๑๕

manneQuen

ค ว า ม ช อ บ ที่
ไ ม่ เ ค ย ช อ บ

สมัยก่อนตอนเข้ามัธยมใหม่ๆก็คือโดนบังคับให้เข้าวงโยธวาทิต เหตุเพราะอยากไปต่างประเทศ
ขอย้อนกลับไปสมัยก่อน ก็คือวงโยฯของโรงเรียนเคยไปแข่งขันที่ต่างประเทศก่อนเราเข้าปี
เดียว(ขอขิงหน่อย)ดังนั้นทำให้ความอยากโกอินเตอร์ก็เข้าวงโยตั้งเเต่เปิดเทอมม.1ใหม่ๆเลย ทีนี้
เราอยู่ไปก็แปปๆด้วยความขี้เกียจก็เลยมาซ้อมบ้างไม่มาบ้าง วันเสาร์เขานัดซ้อมก็อย่าหวังว่าจะ
เห็นอีคอปเตอร์เลย ฮ่าๆๆ เเล้วทีนี้เหมือนรุ่นพี่ที่วงก็ด่าว่าถ้าไม่มาก็ลาออกไป อีนี่ด้วยความกลัว
ไม่ได้ไปต่างประเทศก็กลับเข้ามาสิคะ เเล้วทีนี้เหมือนพอเราซ้อมทุกวันๆ (เรียกได้ว่าวงโยฯเป็น
บ้านหลังที่หนึ่งเลยก็ว่าได้) พอเป่าเพลงได้มันก็เริ่มสนุกเเล้ว ทีนี้ตอนม.2ประมาณปลายปี ก็
มีเเข่งซึ่งนับว่าเป็นเเข่งจริงๆจังๆครั้งเเรกในชีวิต(ถ้าไม่นับสอบเข้า) ก็เป็นสนามแรกของเรา
สนามศุภชลาศัย ก็คว้าเหรียญทองมาเลยสิคร้า ถือว่าเป็นความชอบที่ไม่เคยชอบไปโดยปริยาย
หลังจากนั้นก็เหมือนเดินสายเเข่งมาเรื่อยๆ

ห น้ า ๑ | ค ว า ม ช อ บ ที่ ไ ม่ เ ค ย ช อ บ

manneQuen

พอเราขึ้นม.4ก็คิดว่าชีวิตในวงโยฯเรามันถึงจุดอิ่มตัวเเล้ว เราเลยอยากออกมาทำกิจกรรมอื่น
ของโรงเรียนบ้างเเต่เราก็ยังมีติดต่อกับวงโยฯอยู่บ้าง เเล้วสนามสุดท้ายก็มาถึงเป็นการเเข่งครั้ง
สุดท้ายก่อนที่เราจะวางมือจากวงโยฯถาวร เรียกได้ว่าเก็บประสบการณ์อย่างได้น่าจดจำได้เลย
ทีเดียว พอจบการเเข่งครั้งสุดท้ายก็ถือว่าไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่เเต่มันก็แอบใจหายที่เราต้อง
วางมือจริงเเล้วหรออะไรประมาณนี้ เเต่พอไปนึกถึงมันก็เป็นความทรงจำที่น่าประทับใจนะ ครั้ง
นึงเราเคยทุ่มอะไรสุดตัวไปซ้อมทุกเช้า กลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดินทุกวันมาตื่นไปออกงาน
บางทีตีสามตีสี่ ยืนกลางเเดดเป็นชั่วโมงเพื่อรอประธานมาเปิดงานไม่ถึงยี่สิบนาที เราไม่เคยคิด
ว่าเราจะทำได้ขนาดนี้เเละเราก็ไม่เคยเสียใจเลยกับการอยู่วงโย สามปีวงโยถือเป็นที่สาสัมพันธ์
ได้ดีเลยนะ มีทั้งรุ่นพี่ วงโยฯยังสอนอะไรหลายๆอย่างไม่ใช่เเค่ความอดทน ความรับผิดชอบเเต่
เป็นความสามัคคีทำอะไรก็ต้องทำพร้อมกัน กินพร้อมกัน นอนพร้อมกัน โดนทำโทษก็โดนพร้อม
กันทั้งวง เรายังแปลกใจว่าทำไมเราสามารถวิดพื้นเป็นร้อยๆบางที่ห้าหกร้อยทีพร้อมกับเพื่ออีก
เกือบห้าสิบคนได้ มันเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมจริงๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปสัมผัส
ชีวิตอีกรสชาตินึงบ้างเเล้วจะรู้ว่า "ความสุขอยู่ไม่ไกล"

ห น้ า ๒ | ค ว า ม ช อ บ ที่ ไ ม่ เ ค ย ช อ บ

manneQuen

ชี วิ ต ที่ อ ยู่ แ ต่ ช่วงเเรกๆคือตอนม.4คือเกรดเเย่มาก ขนาดไม่ได้เข้า
กิจกรรมอะไรมากมายนะ เราเลยแอคทีฟขึ้นตอนประมาณม.5

ใ น ก ร อ บ เราก็ตั้งปณิธานไว้ว่าถ้าเกรดเราตกหรือเเย่ เราก็พร้อมเท
(ของตัวเอง) กิจกรรมได้เหมือนกัน เเต่ผลสรุปคือเกรดเราก็ดีขึ้นเป็น
ลำดับ มีตกบ้างนิดหน่อยเเต่ไม่ถึงกับเเย่ ก็เพราะยังติด
ท็อปสิบของห้องอยู่

คือพอขึ้นม.ปลาย เราก็เเบบอยากทุ่มกับกิจกรรม "เด็กกิจกรรมไม่ใช่เด็กไม่
โรงเรียนมากด้วยความตื่นเต้นก็เลยตีกรอบของตัวว่า เรียน เเต่เขามีความรับ
เราจะทุ่มกับกิจกรรมทุกอย่างโดยกิจกรรมมาที่หนึ่ง ผิดชอบที่มากขึ้น"
(ก็เเหงล่ะเพราะเรามันเด็กกิจกรรมนี่หน่าฮ่าๆๆ) เเต่เเล้ว
เป็นไงล่ะ ต้องมานั่งจัดการบริหารเวลาให้ดีไม่งั้นก็ล่มไม่
เป็นท่า แต่สิ่งหนึ่งที่ทิ้งไม่ได้เลยคือเรื่องเรียน เพราะ
เหมือนถ้าเรากิจกรรมดี แต่เกรดเเย่ก็ล่มเหมือนกัน
ดังนัันเราจึงเหมือนเหนื่อยสองเท่า

ห น้ า ๓ | ชี วิ ต ที่ ยู่ เ เ ต่ ใ น ก ร อ บ ( ข อ ง ตั ว เ อ ง )

manneQuen

ถ้าถามว่าเคยมีช่วงที่ท้อกับกิจกรรมบ้างไหม ก็ขอตอบ
เลยว่า "มีค่ะ" เป็นช่วงประมาณปลายเทอมคือกิจกรรม
มันถาโถมเข้ามาเยอะมาก ทั้งไหนจะงานกีฬาสี
ทำพร็อบกีฬาสี เป็นทั้งคนสอนเเละก็ดรัมเมเยอร์ให้ทั้ง
สีตัวเองเเละก็สีของเพื่อน แล้วก็เป็นหรีดด้วยเเต่ไม่ใช่
หรีดมือนะคะ เป็นเเค่นักเเสดงประกอบ เเละพอจบกีฬา
สีก็ต้องเตรียมเก็บกระเป๋าไปค่าย ทูบีนัมเบอร์วัน
พอกลับค่ายมาก็เตรียมงานวันวิชาการ จบวิชาการ
ต้องเตรียมไปเขาชนไก่อีก หลังจากกลับจากเขาชนไก่ก็
ต้องไปทัศนศึกษา โรงเรียนอื่นพาไปดูปลา ไปสวนสัตว์
โรงเรียนเราพาไปปีนเขาค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเทอมที่คุ้ม
จริงๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาสองเดือนค่ะ เราท้อ
จนถึงแบบ มานั่งเฉยๆเป็นชั่วโมงว่าเอ่อ เราทำทั้งหมด
นี้ไปเพื่ออะไร เเต่คิดๆดูเเล้วชีวิตมัธยมมันสั้นนะเรา
อยากทำอะไรเราก็ทำให้สุดๆไปเลยดีกว่า

ถ้าถามว่าช่วงเวลาที่สนุกที่สุดของโรงเรียนคือตอนไหนขอ
ตอบว่า "เป็นตอนที่เราได้ทำกิจกรรมของโรงเรียนค่ะ"
เราได้เจอคนเยอะๆ ได้ปฏิสัมพันธ์กับรุ่นพี่รุ่นน้อง เเล้วเราก็
จะท่องไว้เสมอนะคะ "ม.สี่เก็บเกรด ม.ห้าเก็บประสบการณ์
ม.หกเก็บความทรงจำ" เพราะพอเราเรียนจบเเล้วเราจะได้ไม่
ต้องมานั่งเสียดายที่หลังว่าทำไมเราไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ใน
ตอนนั้น เหมือนคำที่พระเอกกล่าวไว้ในหนังเรื่องไททานิค

“I figure life’s gift
and I don’t intend
on wasting it.”

ชีวิตมีค่า อย่าทำให้มันเสียเปล่า

ห น้ า ๔ | ชี วิ ต ที่ อ ยู่ เ เ ต่ ใ น ก ร อ บ ( ข อ ง ตั ว เ อ ง )

manneQuen เเต่มันก็ต้องมีวิชาทดเเทนที่ ซึ่งเราสนใจวิชาภาษา
ฝรั่งเศสพอดีนั่นจึงเป็นเหมือนการเปลี่ยนแปลงครั้ง
เสพติด ใหญ่ จากเด็กศิลป์คำนวณแปรเปลี่ยนเป็นศิลป์ภาษา
ทั้งเรื่องการเรียนที่โรงเรียน การเรียนพิเศษเเละ
การเรียน กิจกรรมเราก็ไม่ทิ้งเพราะต้องเก็บภาพไว้ใสพอร์ตโฟลิ-
โอ ทั้งที่มหาลัยที่จะเข้าไม่ต้องใช้ ดังนั้นจึงเหมือนแบก
ต้องยอมรับว่านอกจากกิจกรรมเเล้วก็มีการเรียนนี่เเหละ ภูเขาไว้สามลูกแล้วม.หกต้องรับผิดชอบกิจกรรมทุก
ที่เราบ้าด้วยเหมือนกันเราพึ่งมารู้ตัวว่าเราบ้าการเรียนก็ อย่างหมด จึงแทบจะไม่มีเวลาได้พักเลย เป็นโค้ง
คือช่วงเตรียมสอบข้ามหาวิทยาลัยตอนช่วงม.6 เป็นเรื่อง สุดท้ายที่หนักหน่วงมากจริงๆเเต่ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้
ไม่แปลกที่ในช่วงม.หกทุกคนจะดูแอคทีฟกับการเรียน พอเราเรียนพิเศษตอนปิดเทอมไปมากขึ้นๆ มันเหมือน
มากเเละที่หนีไม่พ้นเลยก็คือการเรียนพิเศษ จนเป็น เรา"เสพติดการเรียน"ไปแล้ว ยิ่งอาทิตย์ไหนที่เราไม่ได้
เหมือนทำเนียมไปแล้วที่เด็กม.หกทุกคนต้องเรียนพิเศษ ไปเรียนพิเศษเราเหมือนจะลงเเดง มันกระวนกระวาย
ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะตอนนั้นเรายังไม่มีเป้าหมาย กลัวสอบไม่ผ่าน กลัวเรียนไม่ทัน(ทั้งๆที่เราเรียนแบบอัด
ว่าอยากเรียนคณะอะไร คนอื่นอาจเตรียมมาตั้งเเต่ขึ้น เทป)บางอาทิตย์เราเรียนหกวันวันละสี่ห้าชั่วโมงแบบไม่
ม.สี่เเต่เราเปลี่ยนคณะแทบทุกเดือน จนหวยเกือบมาออก พักจนทำให้เราแบบเออเร่อไปเลย เเต่เเล้วเราก็มาคิดได้
ที่คณะสถาปัตยกรรม มันฟังดูน่าตลกเเต่ก็เป็นเรื่องจริง ว่า อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี เราควรมีความ
เราชอบสถาปั ตย์มาตั้งเเต่เด็กเราก็เลยอยากเรียนสถา- พอดีของชีวิตบ้าง เราจึงค่อยๆเพลากับการเรียนบ้าง
ปัตย์มากๆ เเต่ปัญหาอยู่ตรงที่เราเกลียดวิชา บางทีก็เปลียนมาอ่านหนังสือบ้าง
คณิตศาสตร์เข้าไส้เราจึงคิดว่าควรเรียนพิเศษ
คณิตศาสตร์เพิ่ม เอาเป็นว่าเราเรียนพิเศษแบบหนัก
หน่วงมากเรียกได้ว่าเลือดตาแทบกระเซ็น เเต่เเล้วเข็ม
นาฬิกาของเราก็เบนไปคณะนิเทศศาสตร์ เพราะเรา
ไปopen houseที่มหาลัยเเห่งหนึ่งเเถวสามย่านเเล้วอีก
อย่างคณะนี้ไม่ต้องใช้คณิตศาสตร์

ห น้ า ๕ | เ ส พ ติ ด ก า ร เ รี ย น

manneQuen
ปั จจัยหนึ่ งที่ทำให้เราอยากเรียนพิเศษก็คือการไปเที่ยว
หลังเลิกเรียน เราเรียนพิเศษที่สยามซึ่งมันก็มีอะไรที่ครบ
ครัน บางทีหลังเรียนเสร็จเราก็ชอบไปช็อปนู่นช็อปนี่ เข้า
ร้านนั้นออกร้านนี้ร้านไหนที่ว่าอร่อยเราก็ไปลิ้มลองมาหมด
เเลัว ชานมไข่มุกในสยามนี่เรากินแทบจะหมดทุกร้านเลย
ยิ่งถ้าเป็นวันศุกร์เลิกเรียนเร็วเราก็ยังไม่อยากกลับบ้าน
เพราะรถไฟฟ้าคนเยอะมาก เราก็จะชอบไปนั่งทำการบ้าน
นั่งอ่านหนังสือที่สามย่านมิตรทาวน์เพราะมันพึ่งเปิดใหม่
เเละก็ทำให้เราดูไฮ(เเต่จริงๆเเล้วคือไปนั่งดูผู้ชายเพราะ
ผู้ชายกรุบมากฮ่าๆ) หรือบางทีที่ไหนมีงานเราก็ไปถ่ายรูป
ไปเดินดูไฟ อย่างมีช่วงนึงเป็นงานกาชาดที่สวนลุม เราก็
ไปเดินเล่นหาไรกิน ตอนที่เซ็นทรัลเวิล์ดมีประดับไฟวัน
คริสต์มาสเราก็ไปถ่ายรูป
พอทีนี้ช่วงปิดเทอมเราก็ต้องไปลงเรียนพิเศษเเบบสอนสด
เเล้วก็ต้องไปซ้อมกีฬาสีที่โรงเรียนด้วย โดยเราเเบ่งเป็น
ซ้อมรอบเช้าเเล้วตอนบ่ายไปเรียนพิเศษถึงสองทุ่ม ทำ
อย่างนี้ทุกวันจนเเบบกลับบ้านมาคือสลบทุกวันเลยเเต่เรา
ก็ผ่านมันมาได้เพราะมันถือว่าเป็นประสบการณ์ของชีวิต.

ห น้ า ๖ | เ ส พ ติ ด ก า ร เ รี ย น

manneQuen

ความฝัน
แบบเดาสุ่ม

ห น้ า ๗ | ค ว า ม ฝั น แ บ บ เ ด า สุ่ ม

manneQuen

จากเรื่องที่เล่ามาว่าอยากเรียนคณะ พอทีนี้ตอนเข้ามหาลัยเราก็เลือกคณะวิทยุกระ
สถาปั ตยกรรมศาสตร์เเต่มาเรียนิเทศศาสตร์ จายเสียงเเละวิทยุโทรทัศน์เลยเพราะอยาก
เพราะมานั่งคิดๆดูเเล้ว สถาปัตย์มันคงไม่เหมาะ ทำงานด้านนักข่าวหรือเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์
กับเรา ไหนจะต้องมานั่งคำนวณ ต้องมานั่งตัด เปิดมาเทอมเเรกเราก็ได้รับศึกใหญ่เลยจร้าคือ
โมหามรุ่งหามค่ำ จึงคิดว่าเรียนอะไรที่เราชอบ ทำช่องyoutube โดยให้เเปลกและไม่ซ้ำใครนี่ก็
รองลงมาดีกว่า เเล้วตอนม.5 เราได้สร้าง วิตกไปอีกเเต่ก็ผ่านมาได้เเบบสมบุกสมบัน พอ
ช่องyoutube ไว้ช่องหนึ่งก็เป็นรายการท่อง ขึ้นเทอมสองเราเริ่มสองจิตสองใจว่าอยากเรียน
เที่ยวปกติทั่วไป ยอดวิวก็ไม่ค่อยเยอะพอทีนี้ขึ้น ต่อหรือพอเเค่นี้เพราะวิทยุโทรทัศน์มันก็ยังไม่ใช่
ม.6วิชาคอมพิวเตอร์ครูก็ให้ทำช่องยูทูป นี่ก็มีอยู่ ก็เลยลองติดต่อขอย้ายสาขาเปลี่ยนไปเป็น
เเล้วไงเเล้วทีนี้ครูก็ให้งานเเรกเป็นการทำmv นี่ วารสารศาสตร์ เราก็ยังไม่เเน่ใจว่าอนาคตจะไป
ก็งานถนัดเพราะเราชอบตัดต่ออยู่เเล้วก็เลย ทำงานด้านอะไรหรืออาจไม่ทำงานทางสายนิเทศ
เหมือนได้เปรียบอีกขั้นหนึ่ง นี่ก็ทำทุกอย่างเลย เลย ตอนนี้เหมือน"ความฝันแบบเดาสุ่ม" เลยเเต่
จร้า ทั้งผู้กำกับ ตากล้อง คนเขียนบท ถือว่าเป็น คนเรามันก็ควรเลือกหลายๆทางเพื่อเป็นสีสันให้
งานเเรกและก็ประสบความสำเร็จพอควร ได้ ชีวิต.
รับคำชมจากทั้งครูเเละก็เพื่อน นี่ก็เริ่มหาฝันตัว
เองเเล้วว่าอยากเป็น youtuber พอขึ้นเทอม
สองเราก็ได้งานยากคือทำหนังสั้น นี่ก็เริ่มเลย
จร้า เป็นผู้กำกับ ตากล้องเเต่คนเขียนบทเราให้
เพื่อนเขียน โดยได้เเรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

ห น้ า ๘ | ค ว า ม ฝั น แ บ บ เ ด า สุ่ ม

manneQuen

ภาพยนต์กับชีวิต

ห น้ า ๙ | ภ า พ ย น ต์ กั บ ชี วิ ต

manneQuen

ภาพยนต์กับชีวิต

ในชีวิตจริงคงมีน้อยมากนักที่เอาหนังมา ข้อคิดข้อที่สอง" ถ้าเราอยากรู้ว่าใครสักคน

เป็นแนวทางในชีวิตเเละเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นยังไง ให้ดูวิธีที่เขาปฏิบัติต่อผู้ที่ต่ำต้อย

ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเราเป็นคนที่ชื่นชอบ กว่าเขา ไม่ใช่คนที่เท่าเทียมกัน" อันนี้เป็น

เเฮร์รี่ พอตเตอร์มากเราอ่านหนังสือเเละก็ ประโยคที่ตรงมาก ทำให้เราดูคนได้ง่ายว่า
เขาเป็นคนอย่างไรให้ดูจากการวางตัวต่อคน
ดูหนังหลายรอบมากเเเล้วของสะสมต่างๆ อื่นเเละดูจากการปฏิบัติตัวต่อผู้ที่ต่ำต้อยกว่า
เราก็ซื้อมาบ้างพวกหนังสือ ผ้าพันคอ ไม้ โดยมันสามารถบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของ
กายสิทธิ์ มาเก็บสะสมไว้ เขาได้ เเต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถบอกได้เสมอไป
เเต่ข้อคิดข้อเเรกที่สอนอะไรเราเลยคือ ถ้า ข้อคิดที่สาม"เราพบความสุขได้เสมอแม้แต่ใน
อยากได้อะไรเราก็ต้องเก็บเงินซื้อเอง เรา ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด เพียงแค่เราไม่ลืมที่
ไม่ให้ของพวกนี้ไปรบกวนเงินของพ่อเเม่ จะเปิดไฟ" มันอาจจะฟังเเป็นเหมือนคำพูด
เด็ดขาดของเเต่ละอย่างเราเก็บเงินนาน ติดตลกแต่มันเเฝงไปด้วยพลัง เพราะ
มากบางอย่างเป็นปีๆ ของสะสมพวกนี้ไม่ ปัญหาที่ทุกคนเจอมันก็ไม่ได้จะเลวร้ายไป
ได้เก็บเดือนสองเดือนหมดเเต่ใช้เวลา ตลอด มันก็ต้องมีบ้างที่จะมีวิธีเเก้ปัญหาถึง
รวมๆก็เกือบสิบปีของบางชิ้นอยากได้ตั้ง วิธีนั้นมันจะยากเพียงใดเเต่เราก็ต้งหาเจอไม่
เเต่ประถมเเต่พึ่งมาได้ตอนขึ้นมหาลัยก็มี ทางใดก็ทางหนึ่ง เหมือนเราอยู่ในห้องมืดๆ

เราก็คลำหาทางไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอสวิตซ์

ไฟ

ต้องยอมรับว่าเจ.เค.โลว์ลิ่งเป็นคนที่มีความ

สามารถในการเขียนถ่ายทอดอารมณ์มาก

ในบางบทของหนังสือก็สามารถทำให้เสีย

น้ำตาหรือประทับใจได้

สิ่งที่เรานำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากข้อคิดเเเล้วก็เป็นความคิดของเธอ

"จิตนาการก็สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้"ดังเห็นได้

จาก นวนิยายที่เธอเขียนก็เกิดจาก

จินตนาการกับการละเล่นในวัยเด็กจน

สามารถสร้างผลงานที่โด่งดังได้.

“ความขยันเป็นสิ่งสำคัญ แต่มีบาง
อย่างที่สำคัญมากกว่า นั่นคือการ

เชื่อมั่นในตัวเอง”

ห น้ า ๑ ๐ | ภ า พ ย น ต์ กั บ ชี วิ ต

manneQuen

ผลงานเเละ
ความเป็นมา

ต้องบอกเลยว่านอกจากชอบเเฮร์รี่ พอตเตอร์
เเล้วก็ยังมีไททานิคนี่เเหละที่เป็นรองลงมา เรื่องมัน

เกิดขึ้นหลังจากย้อนไปตอนไททานิคกลับมาฉาย
ซ้ำ2012ครบรอบร้อยปีเข้าฉายในโรงหนังตอนนั้น
เป็นช่วงที่มีกระเเสฮือฮามากว่า หนังรายได้สูงสุด
ตลอดกาลจะนำกลับมาฉายซ้ำนี่ก็สนใจเห็นเพลง
ประกอบเพราะดีก็เลยอยากดูหนังในตำนาน จนเเม่
ซื้อแผ่นมาให้ดูเเต่ที่จริงก็เคยดูในเว็บนานเเล้วเเหละ
ตั้งแต่สมัยเว็บเก่าๆ แต่ก็อยากรู้วาภาคใหม่พระเอก
จะไม่ตายรึเปล่า(ที่เข้ามาดูหนังก็ส่วนหนึ่งเเต่ที่ชอบ
จริงๆคือลิโอนาโด ดิคาปริโอหล่อมากๆ) พอดูไปก็

เอาเก็บเข้าลิสต์หนังขึ้นหิ้งขอตัวเองมาตลอด
พอทีนี้ก็อยากศึกษาเรือไททานิคให้มากขึ้น ที่พึ่ง
เดียวที่โรงเรียนมีก็คือห้องสมุด ที่โรงเรียนจะมี
หนังสือไททานิคเเล้วเป็นเหมือนเล่มเเรร์ไอเท็ม
เพราะคนยืมคนเเรกเเละคนสุดท้ายก็คือตัวเราเอง
ฮ่าๆๆๆ ที่บอกว่าคนสุดท้ายเพราะเราทำหนังสือของ
ห้องสมุดหายไปซึ่งเป็นเรื่องที่เราเสียดายมาก
หนังสือเล่มนั้นปัจจุบันก็ตามหายากมากๆเเล้ว
ปัจจุบันเราก็ยังศึกษาเรื่องไททานิคอยู่ พยายามหา
ข้อมูลจากเว็บของต่างประเทศหรือดูสารคดีของ
ต่างประเทศเพื่อไขข้อสงสัยต่างๆที่ยังไม่เข้าใจ.

ห น้ า ๑ ๑ | ผ ล ง า น เ เ ล ะ ค ว า ม เ ป็ น ม า

manneQuen

ภแาผพนกที่รกาาฟริกเดแินสเดรือง
แผนที่การเดินเรือใช้การเเสดงภาพโดยใช้แผนที่โลกเพื่อที่จะได้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น
เเละใช้สัญลักษณ์ทำเป็นสากลเพื่อที่จะได้เข้าใจตรงกันโดยจุดหมายจะให้สีเเดงเเละ
ปลายทางจะใช้สีน้ำเงินเพื่อให้เห็นได้ง่าย เป็นจุดเด่น ประเทศอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องจะใช้
สีเทาเพื่อที่จะไม่ให้เป็นที่สนใจมากเกินไป

ภาพกราฟิกแสดงภาพ อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดในภายหลังจากเรือชนภูเขาน้ำเเข็งเพราะไม่มีภาพจาก
เรือหักเป็นสองส่วน สถานที่จริงเนื่องจากเหตุการณ์เกิดมาเเล้วร้อยกว่าปีเเละภาพกราฟิกสามารถดูได้

ง่ายกว่าเพราะรูปภาพจะเเสดงรายละเอียดได้ชัดเจน เเละสามารถทำให้เข้าใจสิ่งที่
เราสามารถจะสื่อได้ คำอธิบายภาพประกอบเพื่อที่จะได้สามารถทำความเข้าใจ
ภาพที่ต้องการจะสื่อได้ง่ายขึ้น

ภาพบางส่วนจากสถาน จากภาพเเสดงถึงภูเขาน้ำเเข็งของจริงที่เรือไททานิคชน ทำให้
ที่เกิดเหตุการณ์จริง เรืออัปปางลงเเละภาพเเสดงให้เห็นถึงการเปรีบเทียบความสูง

ระหว่างเรือกับหอไอเฟล เพื่อให้ดูได้ง่ายเเละให้เห็นถึงความ
เเตกต่างที่เเท้จริง

คำอธิบายประกอบเเละ คำอธิบายจะใช้ภาษาพูดมากกว่าเพราะ ทำให้ผู้อ่านได้
รูปประกอบคำอธิบาย ทำความเข้าใจกับเรื่องราวได้อย่างรวดเร็วเเละลดช่องว่าง
ระหว่างผู้สื่อสารกับผู้รับสาร เสมือนมีคนมาอธิบายให้ฟัง
ภาพประกอบจะใช้เป็นภาพที่ผสมผสานระหว่าง ภาพจริง
กับภาพการ์ตูนเพื่อนให้ดูมีสีสันเเละเพื่อเเสดงให้เห็นการ
เปรียบเทียบระหว่างเรือชูชีพกับผู้โดยสาร

ภาพถ่ายเรือของจริงที่ เรือที่จมอยู่ใต้สมุทร น้อยคนที่จะเคยได้เห็นจึง
จมลงใต้มหาสมุทร ต้องเอารูปมาประกอบเพื่อให้เห็นสภาพปัจจุบัน

ว่าเรือสภาพเปลี่ยนแปลงไปมากเเค่ไหน

กราฟิกซากเรือ ที่ใช้ซากเรือเป็นภาพประกอบเพราะไม่
สองลำที่อยู่ใต้ทะเล เคยมีภาพเรือใต้ทะเลที่ถ่ายได้ทั้งสอง

รูป เพราะด้วยระยะห่างที่มากและ
ทัศนวิสัยที่ไม่ดีใต้ทะเล

ห น้ า ๑ ๒ | ผ ล ง า น เ เ ล ะ ค ว า ม เ ป็ น ม า

manneQuen

หนังสือพิมพ์ ปี44

จุดประสงค์ของการทำหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เพื่อที่จะ
ร่วมย้อนความหลังไปในวันที่ 11 กันยายน 2544
เป็นเวลา20กว่าปีที่แล้วเกิดเหตุการณ์สำคัญต่างทั้ง
ในประเทศเเละนอกประเทศ เเละเป็นปีเเละเดือน
เดี๋ยวกันกับที่เราเกิดจึงอยากทราบเหตุการณ์สำคัญ

ในตอนนั้น
โดยออกเเบบให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์ทั่วไปเเละใช้
การจัดวางแบบดั้งเดิม ใช้สีที่คุ้นตา ใช้ขนาดตัวอักษร
ที่เเสดงหัวเรื่องเด่นก่อน เนื้อข่าวจะอิงจากข่าวจริงที่
ออกหนังสือพิมพ์ในวันที่ 12 กันยายน 2544 โดย

เปลี่ยนเเปลงเนื้อข่าวนิดหน่อย

โดยสำนักพิมพ์จะใช้ชื่อที่เเปลกใหม่ "The daily
prophet" เป็นสำนักพิมพ์ที่โด่งดังในภาพยนต์เรื่อง

แฮร์รี่ พอตเตอร์
เนื้อข่าวที่จะกล่าวถึงจะเป็นเหตุวินาศกรรม9/11 ที่
เกิดเหตุเครื่องบินชนตึกแฝด ข่าวการเมืองที่เกิดใน
ประเทศในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตรเป็นนายก

รัฐมนตรีเเละข่าวการเเข่งขัน ซีเกมส์ที่จดขึ้นที่
ประเทศมาเลเซียในชื่อ " kualalumpur 2001 "
ส่วนหน้าถัดไปเป็นเรื่องที่สำคัญรอลงมา อาทิเช่น

แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคเเรกเข้าฉายในไทยเเละ
กระทรวงศึกษาธิการออกเนื้อหาการศึกษาใหม่ หรือ
จะเป็น โฆษณาละครเเละสินค้าต่างๆ โดยพยายาม
จัดวางให้เรื่องดูซับซ้อนมากขึ้น เนื้อหาจะได้ดูเยอะ

มากขึ้น

ห น้ า ๑ ๓ | ผ ล ง า น เ เ ล ะ ค ว า ม เ ป็ น ม า

ฝันที่ไม่กล้าฝัน

เพราะฉะนั้น

นะน้องนะ

๑๔

manneQuen

ขอฝันใฝ่ในฝัน
ที่ไม่กล้าฝัน

Prime Minister

๑๕

manneQuen

ความฝันที่อยากเป็น
นายกรัฐมนตรี

เคยฝันว่าอยากเป็นนายก ถ้าเราเข้ามาบริการเเล้วนี่ย อยาก
รัฐมนตรี..อะไรที่ทำให้เราคิดอย่างนั้น : เปลี่ยนเเปลงอะไรไหม :

ก็ไม่รู้สินะ.......เเต่ก่อนก็ไม่เคยคิดอยากลงเล่น อยากผลักดันกฏหมายสมรสเท่าเทียม เเต่เราก็ขอ
การเมืองเเเทบจะเเบบไม่สนใจการเมืองเลยใคร ศึกษาเรื่องของกฏหมายตัวนี้ก่อนนะเพราะมันเป็น
เรื่องละเอียดอ่อนเเละมันก็น่าจะมีช่องโหว่มากมาย
มาพู ดก็คุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ต้องยอมรับว่ามันเป็นอะไรที่น่าจะยากลำดับต้นๆ
เเเต่พอเหมือนยุคสมัยนี้ เราต้องตามโลกให้ทัน เลยนะ ประเทศไทยเปิดกว้างเรื่องเพศก็จริง เเต่
เราควรศึกษาเรื่องพวกนี้ไว้ไม่ใช่เเค่ในประเทศ เหมือนเปิดยังไม่สุดเหมือนเเค่เเง้มไว้เฉยๆ เปิด
เเต่ของต่างประเทศก็ควรศึกษาไว้ด้วยเพราะ
มันเป็นเรื่องของทุกคน พอเราศึกษาเรื่องพวก กว้างเเต่ยังไม่เปิดใจ
นี้ซึ่งส่วนมากจะเน้นการอ่านบทความเเละพวก

การบริหารของนายกรัฐมนตรีเเต่ละคนอะไร
พวกนี้มากกว่า ที่บอกว่าการเมืองไทยมันเข้ม
ข้นจนไม่อยากจะยุ่ง ก็เห็นว่าไม่ก็ไม่ได้เข้มอะไร
ขนาดนั้น เเต่เเค่ประเทศไทยมันมีการเปลี่ยนเเป

ลงบ่อยครั้ง เราจึงต้องตามมันให้ทัน

เเล้วถ้าสมมติว่าได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เเล้วจะเริ่มออกนโยบายอะไรก่อน :

ถ้าออกนโยบายหรอ ก็คงเป็นการกระ
ตุ้นเศรฐกิจการท่องเที่ยวมัั้ง อันนี้ขอพูดถึง
ในอีกหลายสิบปีข้างหน้านะถ้าสถานการณ์

โรคระบาดมันเบาลงหรือหายไปเเล้วนะ ก็
คงจะกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ประเทศนะ
เพราะประเทศไทยเราต้องบอกเลยว่ารายได้
หลักคือการท่องเที่ยวเเละก็พวกนโยบายการ
ศึกษา เพราะเราคิดว่าคนไทยเรายังยึดติดกับ
ชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา เราก็ควรปรับ
ให้ทุกโรงเรียนมีคุณภาพเท่ากัน ไม่ยึดติดกับ

การเรียนพิเศษมากเกินไป

๑๖

ณัฏฐศักย์
เรืองผดุง

63123301043

IRON LADY


Click to View FlipBook Version