บทนำเรือ่ ง
ในสมัยทีม่ ีกำรปกครองระบอบสมบรู ณำญำสทิ ธิรำชย์ สยำมใชเ้ พลง
สรรเสริญพระบำรมีบรรเลงตอ้ นรับพระมหำกษัตริย์ที่มำเยือนประเทศ
แตห่ ลังจำกทเ่ี ปล่ยี นระบอบกำรปกครองจำกระบอบสมบูรณำญำสทิ ธิรำชย์
เป็นระบอบประชำธิปไตย รฐั บำลจึงใหพ้ ระเจนดุรยิ ำงค์แตง่ เพลงท่ีมีเน้ือหำ
ปลุกใจ และกอ่ ให้เกิดควำมสำมคั คขี ึน้ เพลงนม้ี ีช่ือว่ำ เพลงชำตมิ หำชยั
ซง่ึ ใชใ้ นชว่ งกำรปฏิวตั เิ พียงชวั่ ครำวเท่ำนั้น ตอ่ มำคณะผกู้ ่อกำรปฏิวัติได้
ขอให้พระเจนดรุ ยิ ำงคแ์ ตง่ ทำนองเพลงชำติ และให้ขุนวจิ ติ รมำตรำแต่ง
เน้ือร้อง จงึ ทำใหเ้ กดิ เพลงชำติใหมแ่ ละใช้อยำ่ งไมเ่ ป็นทำงกำรไปจนถึง
พ.ศ. ๒๔๗๗
บทนำเรอ่ื ง
ในปีเดียวกนั นน้ั รัฐบำลได้ต้งั คณะกรรมกำรเพือ่ พจิ ำรณำเรอ่ื งเพลงชำติ
อยำ่ งเปน็ ทำงกำร โดยจดั กำรประกวดแตง่ เพลงชำติ คณะกรรมกำรคัดเลือก
เนือ้ เพลงไว้ ๒ ฉบบั ฉบบั หนงึ่ เปน็ ของขุนวิจิตรมำตรำ (ฉบับแกไ้ ข) อีกฉบบั
หนง่ึ เปน็ ของ นำยฉนั ท์ ขำวิไล และรัฐบำลประกำศให้เนอ้ื เพลงท้ังสองเป็น
เพลงชำติ
บทนำเร่อื ง
ต่อมำใน พ.ศ ๒๔๘๒ มีกำรเปล่ยี นแปลงช่อื จำก ประเทศสยำม
เป็นประเทศไทยจำเป็นต้องแก้ไขเนื้อเพลงชำตใิ หม่ รัฐบำลจงึ จดั ประกวด
แตง่ เพลงชำติไทยข้ึนใหม่โดยมีเงอื่ นไข คือ ต้องใชท้ ำนองเพลงของ
พระเจนดรุ ยิ ำงค์ เนื้อเพลงต้องมีคำวำ่ ไทย อยู่ด้วย และมคี วำมยำว ๘ วรรค
เท่ำนั้น ผชู้ นะกำรประกวด คอื พนั เอกหลวงสำรำนุประพนั ธ์ ส่งเขำ้ ประกวด
ในนำมกองทพั บก รฐั บำลจึงไดป้ ระกำศให้ใช้เป็นเนื้อรอ้ งเพลงชำติไทย
เม่ือวันท่ี ๑๐ ธันวำคมพ.ศ ๒๔๘๒ และใชม้ ำจนถึงปจั จุบนั
ประวัติผู้แตง่
พระเจนดุริยำงค์ (ปิติ วำทยกร)
พระเจนดรุ ยิ ำงค์ เกิดวันท่ี ๑๓ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๔๒๖ บิดำชือ่
จำคอบ ไฟท์ มำรดำเป็นคนไทยเชื้อสำยมอญช่ือ ทองอยู่ ทำ่ นมนี ำมเดมิ
วำ่ ปเี ตอร์ ไฟท์ ภำยหลงั เปลย่ี นช่ือเป็นไทยวำ่ ปติ ิ วำทยกร
พระเจนดุรยิ ำงคไ์ ด้รับกำรยกย่องว่ำเปน็ ปรมำจำรยท์ ำงดำ้ นดนตรี
สำกลและผวู้ ำงรำกฐำนดนตรสี ำกลในประเทศไทย ท่ำนไดแ้ ตง่ บท
เพลงอนั ไพเรำะไวม้ ำกมำย รวมท้งั ตำรำวชิ ำกำรดนตรีสำกลหลำยเลม่
ซงึ่ ลว้ นมคี ุณคำ่ ตอ่ ประเทศไทยอย่ำงย่ิง
ประวตั ผิ ู้แต่ง
พนั เอก หลวงสำรำนุประพนั ธ์ (นวล ปำจิณพยัคฆ์)
พนั เอก หลวงสำรำนปุ ระพนั ธ์ เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหำคม พ.ศ.
๒๔๓๙ ทำ่ นไดร้ บั กำรยกยอ่ งว่ำเปน็ ผมู้ ีควำมรทู้ ำงด้ำนหนงั สืออยำ่ งยง่ิ
เพรำะเปน็ ท้งั นักเขียน นกั ประพันธ์ บรรณำธิกำรหนังสอื รวมทง้ั อำจำรย์
สอนวรรณคดีไทย ผลงำนทม่ี ชี ่ือเสยี งของท่ำน ได้แก่ กำรแปลนทิ ำน
เร่ือง เชอร์ลอ็ ก โฮมส์ ของ เซอร์ อำร์เธอร์ โคแนน ดอยล์ เป็นคนแรก
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๕ และท่ีสำคัญทีส่ ดุ คอื เป็นผู้ประพันธค์ ำรอ้ งเพลงชำติ
ไทยปัจจบุ ัน เม่ือครัง้ เปลยี่ นช่อื ประเทศจำก “สยำม” เปน็ “ไทย” เมอื่ ปี
พ.ศ. ๒๔๘๒
เพลง ชำตไิ ทย
ประเทศไทยรวมเลือดเนอื้ ชำตเิ ชื้อไทย
เป็นประชำรัฐไผทของไทยทุกสว่ น
อยู่ดำรงคงไว้ได้ทงั้ มวล
ด้วยไทยล้วนหมำยรกั สำมคั คี
ไทยน้รี กั สงบแต่ถึงรบไมข่ ลำด
เอกรำชจะไม่ให้ใครข่มข่ี
สละเลอื ดทกุ หยำดเปน็ ชำตพิ ลี
เถลิงประเทศชำตไิ ทยทวีมีชัย ชโย
พนั เอกหลวงสำรำนุประพันธ์ (นวล ปำจิณพยคั ฆ์) เน้อื รอ้ ง
พระเจนดุรยิ ำงค์ (ปติ ิ วำทยกร) ทำนอง
ประเทศไทยเปน็ ผืนแผน่ ดนิ ทีค่ นไทยอำศยั อยรู่ ่วมกนั
แผ่นดินไทยทุกส่วนเป็นของคนไทยทุกคน ประเทศไทย
ดำรงอย่ไู ดเ้ พรำะคนไทยทกุ คนรกั กันและสำมัคคี
คนไทยรกั กันอยู่อย่ำงสงบสขุ แตถ่ ้ำจำเปน็ ตอ้ งสรู้ บกับ
ศัตรกู ไ็ ม่หวั่นกลัว เพรำะคนไทยจะไมย่ อมใหใ้ ครมำทำลำย
ชำติไทย ทกุ คนยอมสละเลอื ดทกุ หยดเพอ่ื ใหช้ ำติไทยอยู่
ย่ังยืนและเจรญิ รงุ่ เรอื งขึน้ ให้มีแตช่ ยั ชนะตลอดไป
เพลงชำติสยำม
แผ่นดินสยำมนำมประเทืองวำ่ เมอื งทอง ไทยเข้ำครองต้ังประเทศเขตตแ์ ดนสงำ่
สบื เผ่ำไทยดกึ ดำบรรพ์โบรำณลงมำ รวมรักษำสำมัคคที วไี ทย
บำงสมัยศตั รูจูโ่ จมตี ไทยพลีชีพรว่ มรวมรุกไล่
เขำ้ ลุยเลือดหมำยมุ่งผดุงผะไท สยำมสมยั บรุ ำณรอดตลอดมำ
น้ำรนิ ไหลคือว่ำเลือดของเชือ้ ขำ้
อนั ดินสยำมคือว่ำเนื้อของเช้ือไทย เรำจะสำมคั ครี ว่ มมีใจ
เอกรำษฎร์คอื เจดยี ท์ ่เี รำบชู ำ ใครยำ่ ยีเรำจะไมล่ ะให้
รกั ษำชำติประเทศเอกรำชจงดี สถำปนำสยำมให้เทอดไทยไชโย
เอำเลือดล้ำงใหส้ นิ้ แผน่ ดินของไทย
ทำนอง : พระเจนดรุ ยิ ำงค์ (ปติ ิ วำทยกร) คำร้อง : ขุนวิจติ รมำตรำ (บทที่ ๑ และบทที่ ๒)
แตง่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ แกไ้ ขเพมิ่ เติม พ.ศ. ๒๔๗๗
เพลงชำติสยำม
เหล่ำเรำทั้งหลำยขอน้อมกำยถวำยชีวติ รกั ษำสทิ ธิ์อสิ ระณแดนสยำม
ที่พ่อแม่สูย้ อมมว้ ยด้วยพยำยำม ปรำบเส้ยี นหนำมให้พนิ ำศสบื ชำตมิ ำ
แม้นถึงภัยไทยด้อยจนย่อยยับ ยงั กูก้ ลบั คงคนื ไดช้ ่ืนหน้ำ
ควรแกน่ ำมงำมสดุ อยุธยำ นัน่ มิใชว่ ่ำจะขดั สนหมดคนดี
เหล่ำเรำทง้ั หลำยเลอื ดและเนอื้ เชือ้ ชำติไทย มิใหใ้ ครเขำ้ เหยียบยำ่ ขยำขยี้
ประคับประคองป้องสทิ ธิอ์ ิสรเสรี เมื่อภัยมีชว่ ยกนั จนวนั ตำย
จะสน้ิ ชีพไวช้ ่ือให้ลอื ลน่ั วำ่ ไทยมั่นรักชำติไมข่ ำดสำย
มไี มตรีดียิง่ ทงั้ หญิงทัง้ ชำย สยำมมวิ ำยผู้มุ่งหมำยเชิดชยั ไชโย
ทำนอง : พระเจนดุริยำงค์ (ปิติ วำทยกร) คำรอ้ ง : ฉันท์ ขำวิไล (บทที่ ๓ และบทที่ ๔)
แตง่ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๗ ประกำศใชเ้ พ่ิมเตมิ จำกเนือ้ ร้องเดมิ ในปเี ดยี วกนั
เรียนรู้คำ นำไปใช้
ข่มขี่ กดข่ี
ขลำด กลวั
ชโย(ชะ-โย) ควำมชนะ คำท่ีเปล่งเสยี งอวยชัย
เถลิง(ถะ-เหลงิ ) ขึ้น
ทวี(ทะ-ว)ี เพ่ิมขนึ้ มำกขึน้
พลี(พะ-ล)ี กำรบวงสรวง กำรบชู ำ
สำมัคค(ี สำ-มัก-คี) ควำมพร้อมเพรียงกัน ควำมปรองดอง
เอกรำช(เอก-กะ-รำด) เป็นอิสระแกต่ น ไมข่ ึ้นแก่ใคร
ถ้อยคำสำนวน ลว้ นตอ้ งศึกษำ
กำรเขำ้ ใจควำมหมำยของถอ้ ยคำ
ในเพลงชำติไทยจะทำให้รู้สกึ ซำบซง้ึ
และเหน็ คณุ ค่ำของบทเพลงนั้นมำก
ยิ่งขึ้น
ตวั อยำ่ ง
อยู่ดำรงคงไว้ไดท้ ง้ั มวล ดว้ ยไทยลว้ นหมำยรกั สำมคั คี
หมำยควำมว่ำ ประเทศไทยคงอยู่ไดเ้ พรำะคนไทยทกุ คนมงุ่ หมำยท่ี
จะมีควำมรักและควำมสำมัคคีตอ่ กนั
ไทยนี้รกั สงบแต่ถงึ รบไม่ขลำด เอกรำชจะไม่ให้ใครขม่ ข่ี
หมำยควำมวำ่ คนไทยมนี สิ ัยรักควำมสงบ แต่ไม่เคยกลวั ยำมสูศ้ ึก
และจะไม่ยอมให้ใครมำกดขีบ่ งั คบั เปน็ อนั ขำด
แบบฝกึ
แบบฝกึ
แบบฝกึ
แบบฝกึ
แบบฝกึ
สรำ้ งสรรคค์ วำมคดิ ด้วยกจิ กรรม
นักเรียนจะทำควำมดอี ะไรเพ่ือ
แผ่นดินไทยไดบ้ ำ้ ง
....................................................................................................
...............................................................................................................
...............................................................................................................
...............................................................................................................
...............................................................................................................
...............................................................
เดก็ ๆ ตั้งใจอำ่ นหนงั สือ
หม่นั ทบทวนควำมร้เู พิม่ เตมิ อยเู่ สมอนะคะ