The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

นิราศ

นิราศ

นิราศภูเขาทอง

ความเปน็ มา

สุนทรภู่แต่งนิราศภูเขาทองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า
เจ้าอยู่หวั เมอื่ ราวปลาย พ.ศ. ๒๓๕๓ โดยเลา่ ถึงการเดนิ ทางเพ่ือไปนมัสการ
เจดีย์ภูเขาทองท่ีเมืองกรุงเก่าหรือจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน
หลังจากจาพรรษาอยู่ท่วี ดั ราช-บรุ ณะหรอื วดั เลียบ

นริ าศ

นิราศเรื่องแรกของไทยนั้น ได้แก่ โคลงนิราศหริภุญชัย เนื้อหา
ของนิราศส่วนใหญ่มักเป็นการคร่าครวญของกวี ต่อ สตรีอันเป็นที่รัก
เน่ืองจากต้องพลัดพรากจากนางมาไกล อย่างไรก็ตาม นางในนิราศที่กวี
พรรณนาว่าจากมาน้ันอาจมีตัวตนหรือไม่มีก็ได้ แต่กวีส่วนใหญ่ถือว่านาง
เป็นท่ีรักเป็นปัจจัยสาคัญท่ีจะเอื้อให้กวีแต่งนิราศได้ไพเราะแม้ในสมัยหลัง
กวีอาจไม่ได้ให้ความสาคัญเรื่องการคร่าครวญถึงนาง แต่เน้นที่การบันทึก
ระยะทางการเดินทาง

ลักษณะคาประพนั ธ์

แต่งดว้ ยคาประพนั ธ์ประเภทกลอนนริ าศซึ่งมีลกั ษณะคล้ายกลอน
สภุ าพแตม่ คี วามแตกตา่ งกนั ตรงท่กี ลอนนิราศจะแตง่ ขน้ึ ตน้ เรอ่ื งดว้ ยกลอน
วรรครับและจะจบลงดว้ ยคาวา่ ”เอย”

เร่ืองย่อ

สนุ ทรภูเ่ ร่ิมเรอ่ื งดว้ ยการปรารภถึงสาเหตทุ ่ีตอ้ งออกจากวดั ราช
บุรณะและการเดินทางโดยเรอื พร้อมหนูพดั ซึ่งเป็นบตุ รชาย ล่องไปตามลา
น้าเจา้ พระยาผ่านพระบรมมหาราชวัง จนมาถงึ วดั ประโคนปกั ผา่ นโรงเหลา้
บางจาก บางพลู บางโพ บ้านญวน วดั เขมา ตลาดแก้ว ตลาดขวญั บางธรณี
เกาะเกร็ด บางพดู บา้ นใหม่ บางเด่ือ บางหลวง เชิงราก สามโคก บ้านง้ิว
เกาะใหญร่ าชคราม จนถงึ กรุงเก่าเมื่อเวลาเย็น โดยจอดเรอื พักทีท่ า่ นา้ วัด
พระเมรุ คร้ันรุ่งเชา้ จงึ ไปนมสั การเจดยี ์ภเู ขาทองส่วนขากลับ สุนทรภ่กู ลา่ ว
แต่เพียงวา่ เมื่อถึงกรุงเทพ ไดจ้ อดเทียบเรอื ทา่ นา้ หน้าวัดอรุณราชวราราม
ราชวรมหาวหิ าร

เนือ้ เร่อื งนริ าศภเู ขาทอง

รบั กฐินภญิ โญโมทนา เดอื นสิบเอ็ดเสร็จธรุ ะพระวสา
ออกจากวัดทัศนาดอู าวาส ชลุ ีลาลงเรือเหลอื อาลัย
สามฤดูอยดู่ ีไมม่ ภี ัย เมือ่ ตรุษสารทพระวสาได้อาศยั
โอ้อาวาสราชบรุ ณะพระวิหาร มาจาไกลอารามเมือ่ ยามเย็น
เหลอื ราลกึ นึกน่านา้ ตากระเดน็ แตน่ นี้ านนบั ทิวาจะมาเห็น
จะยกหยิบธบิ ดีเปน็ ท่ตี ง้ั เพราะขกุ เข็ญคนพาลมารานทาง
จง่ึ จาลาอาวาสนิราศรา้ ง ก็ใชถ้ งั แทนสดั เห็นขดั ขวาง
มาอา้ งวา้ งวญิ ญาณ์ในสาครฯ

ถึงเดือน ๑๑ ซงึ่ ออกจากการจาพรรษาแลว้ เม่ือรบั กฐนิ อยา่ งยนิ ดเี สรจ็ แลว้

กต็ ้องลงเรอื ไปดว้ ยความเศร้าโศก ออกจากวัดกม็ องดูวัดที่เคยอาศัย เมื่อปีท่ีผ่าน
มาไดอ้ ยอู่ าศยั อกี ทงั้ ๓ ฤดูทอี่ ยมู่ าก็ไม่มอี ะไรมากวนใจ อกี ทั้งวดั ราชบรุ ณะพระ
วิหารนี้คงอกี นานกว่าจะไดม้ าเห็น นึกแลว้ เศรา้ ใจย่งิ นกั ทงั้ นเ้ี ปน็ เพราะมคี นพาล
มารังแกใสร่ า้ ย คิดจะนาผู้ใหญค่ อยชว่ ยเหลอื ทา่ นกไ็ มม่ คี วามยตุ ธิ รรม จงึ ต้อง
อาลาวัดไปจนตอ้ งมาอ้างว้างอยู่กลางสายนา้

ถงึ หนา้ วงั ดังหนึง่ ใจจะขาด คิดถงึ บาทบพติ รอดิศร

โอผ้ ่านเกล้าเจ้าประคณุ ของสุนทร แตป่ างก่อนเคยเฝา้ ทุกเช้าเย็น

พระนพิ พานปานประหนง่ึ ศีรษะขาด ดว้ ยไรญ้ าติยากแคน้ ถึงแสนเข็ญ

ทั้งโรคซ้ากรรมซัดวิบัติเป็น ไม่เล็งเหน็ ทซี่ ึ่งจะพ่งึ พา

จะสร้างพรตอตสา่ ห์สง่ สว่ นบญุ ถวาย ประพฤติฝา่ ยสมถะทง้ั วสา

เป็นส่งิ ของฉลองคณุ มลุ กิ า ขอเป็นข้าเคียงพระบาททกุ ชาติไปฯ

ถึงหนา้ วงั กเ็ ศรา้ โศกมาก คดิ ถงึ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลัย

ผู้ซ่งึ มีพระคุณกบั สุนทรภู่อยา่ งมาก เม่ือก่อนเคยเข้าเฝา้ ท่านอย่างใกล้ชิด

และบ่อยครง้ั เมอ่ื พระองค์สวรรคตกเ็ หมือนกับสนุ ทรภู่ตายไปดว้ ยเพราะ

ไม่มญี าติหรือคนคอยชว่ ยเหลือชีวิตจึงยากแค้นแสนเขญ็ อีกทั้งมีโรคมี

กรรมเข้ามารุมล้อม ไมเ่ หน็ ใครทจี่ ะพ่ึงพาได้ จึงไดบ้ วชเพ่ืออทุ ศิ สว่ นกศุ ล

ให้แก่รัชกาลที่ ๒ ประพฤตติ นอยู่ในศลี ธรรมตลอดเวลา เพือ่ เป็นส่งิ

ทดแทนคณุ พระองค์ แม้เกิดชาติใดใดก็ขอใหเ้ ปน็ ขา้ รบั ใชพ้ ระองค์

ถึงหน้าแพแลเหน็ เรอื ที่นง่ั คดิ ถึงครัง้ กอ่ นมาน้าตาไหล

เคยหมอบรบั กับพระจม่นื ไวย แล้วลงในเรอื ที่นง่ั บลั ลงั ก์ทอง

เคยทรงแตง่ แปลงบทพจนารถ เคยรับราชโองการอา่ นฉลอง

จนกฐินส้นิ แมน่ ้าแลลาคลอง มิ ได้ขอ้ งเคอื งขัดหัทยา

เคยหมอบใกล้ได้กล่ินสคุ นธต์ ลบ ละอองอบรสร่นื ชืน่ นาสา

ส้ินแผ่นดินสิ้นรสสคุ นธา วาสนาเรากส็ ้ินเหมือนกลนิ่ สคุ นธฯ์

เมอื่ ถงึ หนา้ แพกเ็ ห็นเรือพระทน่ี ง่ั คดิ ถึงเมอื่ กอ่ นกเ็ ศร้าจนนา้ ตาไหล

เคยหมอบกราบรชั กาลท่ี ๒ กับพระจม่ืนไวย แล้วก็ลงไปในเรือบัลลังก์

ทอง เคยแตง่ แปลงบทความ เคยรบั ราชโองการอา่ นในงานฉลอง จน

เรือทีม่ าทอดกฐินหมดแล้วกย็ ังมไิ ดท้ าใหพ้ ระองค์ขดั ใจแตอ่ ยา่ งใดเคย

หมอบกราบใกล้จนได้กลิ่นหอมจากพระวรกาย กลนิ่ หอมน้ันหอมจนติด

จมกู แตเ่ ม่อื พระองคส์ วรรคตกส็ นิ้ กล่ินหอมไปดว้ ย อกี ท้งั ยังเหมือน

วาสนาของสุนทรภู่กส็ ้ินตามกลน่ิ ไป

ดูในวงั ยงั เหน็ หอพระอัฐิ ตั้งสติเติมถวายฝ่ายกศุ ล
ท้ังปน่ิ เกล้าเจ้าพิภพจบสกล ใหผ้ ่องพ้นภัยสาราญผา่ บุรนิ ทรฯ์

มองไปในวงั ยังเห็นหอท่เี กบ็ พระอฐั ขิ องรชั กาลที่ ๒ กต็ ้งั สติถวายสว่ ย
บญุ สวยกศุ ล ทัง้ สง่ สว่ นกศุ ลไปใหร้ ัชกาลท่ี ๓ ให้พน้ ภยั ในการปกครอง
บ้านเมอื ง

ถงึ อารามนามวดั ประโคนปัก ไมเ่ ห็นหลักลอื เล่าว่าเสาหนิ

เป็นสาคัญปนั แดนในแผน่ ดิน มริ ูส้ น้ิ สุดชือ่ ที่ลือชา

ขอเดชะพระพุทธคุณช่วย แมน้ มอดมว้ ยกลบั ชาตวิ าสนา

อายยุ นื หมื่นเท่าเสาศิลา อยู่คู่ฟา้ ดนิ ได้ดังใจปอง

ไปพ้นวดั ทัศนารมิ ทา่ นา้ แพประจาจอดรายเขาขายของ

มแี พรผา้ สารพดั สีมว่ งตอง ทง้ั สิง่ ของขาวเหลืองเครื่องสาเภาฯ

ถึงวดั ประโคนปกั กม็ องไปไมเ่ หน็ เสาหินท่ีลือกัน เปน็ เสาทส่ี าคัญใน
แผน่ ดิน ถึงจะไม่เหน็ กข็ อเดชะพระพุทธคุณช่วย ขอใหอ้ ายยุ นื หมน่ื ๆปเี ท่า
ดงั เสาศิลา อยคู่ ู่ฟ้าดนิ ได้ตลอดไป พอเรอื ลอ่ งเลยวัดก็มองดรู ิมท่านา้ มแี พ
มาจอดขายของอยู่เรียงราย มขี ายทง้ั ผ้าแพรสีมว่ งและสอี ่นื ๆ ทง้ั สง่ิ ของที
มาจากเมอื งจีน

ถึงโรงเหล้าเตากลนั่ ควนั โขมง มคี นั โพงผูกสายไว้ปลายเสา

โอบ้ าปกรรมนา้ นรกเจียวอกเรา ใหม้ ัวเมาเหมือนหนง่ึ บา้ เป็นนา่ อาย

ทาบุญบวชกรวดน้าขอสาเร็จ สรรเพชญโพธญิ าณประมาณหมาย

ถึงสรุ าพารอดไม่วอดวาย ไมใ่ กล้กรายแกลง้ เมินกเ็ กนิ ไป

ไม่เมาเหลา้ แล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจติ คดิ ไฉน

ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แตเ่ มาใจน้ีประจาทุกคา่ คืนฯ

ถงึ โรงเหลา้ ก็มีควันออกมาจากเตากลนั่ มากมาย มเี ครอ่ื งตักน้าผูกไว้

ปลายเสา สุนทรภเู่ คยด่ืมนา้ เหล้าจนเมาเหมือนคนบ้า จงึ ไดบ้ วชเพื่อ

จะได้พน้ จากอบายมุข ขอให้ไดต้ รัสรู้ดงั พระพุทธเจา้ แต่เหลา้ เคยทาใหร้ อด
ชีวติ ดงั นน้ั จะเมนิ ไปก็เกนิ ไป ถึงจะไมเ่ มาเหล้าแตย่ งั เมารักอยู่ หกั หา้ มจิตใจ
ไม่ให้รกั ไม่ได้ การเมาเหลา้ น้นั พอร่งุ ข้ึนก็หายไป แตก่ ารเมารักนีจ้ ะเปน็ ทุกๆคนื

ถงึ บางจากจากวดั พลัดพ่นี อ้ ง มามัวหมองม้วนหน้าไมฝ่ ่าฝนื

เพราะรักใคร่ใจจืดไมย่ ดื ยนื จึงตอ้ งขืนในพรากมาจากเมือง

ถึงบางจากไมอ่ ยากไดย้ ินคาวา่ จาก เพราะสุนทรภ่จู ากหลายๆอย่างมา
ต้องมใี จมัวหมองเพราะรักนนั้ ไม่ยืนยาว จงึ ตอ้ งจากเมืองพรากมา

ถงึ บางพลูคิดถงึ คเู่ มอ่ื อย่คู รอง เคยใสซ่ องสง่ ให้ล้วนใบเหลอื ง
ถงึ บางพลัดเหมือนพี่พลดั มาขัดเคือง ท้งั พลดั เมอื งพลัดสมรมารอ้ นรน

ถึงบางพลูคิดถึงนางจันเมื่อแตง่ งานกนั เคยสง่ หมากพลโู ดยใสซ่ องให้
ทงั้ หมดเปน็ ใบเหลืองซงึ่ อร่อยมาก ถงึ บางพลดั กไ็ มอ่ ยากไดย้ นิ คาว่าพลัด
เพราะได้พลัดจากนางจัน ทั้งยังพลัดจากเมืองและอื่นๆอย่างรอ้ นรน

ถึงบางโพธโอ้พระศรมี หาโพธ์ิ รม่ นิโรธรุกขมลู ใหพ้ นู ผล
ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ให้ผอ่ งพ้นภัยพาลสาราญกายฯ

ถงึ บางโพกค็ ดิ ถงึ ตน้ โพธ์ใิ หร้ ม่ เงาให้ความร่มเยน็ ท้ังยงั ทาให้โคนตน้ ไม้งอกงาม
ได้ ขอเดชะของพระพทุ ธเจ้า ให้พน้ ภัยพาลตลอดไป

ถงึ บา้ นญวนลว้ นแต่โรงแลสะพรัง่ มีข้องขงั กงุ้ ปลาไว้ค้าขาย
ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญงิ ชายพร้อมเพรยี งมาเมียงมอง
จะเหลยี วกลับลบั เขตประเทศสถาน ทรมานหมน่ ไหม้ฤทัยหมอง
ถงึ เขมาอารามอรา่ มทอง พึ่งฉลองเลิกงานเม่อื วานซืนฯ

ถงึ บ้านญวนเห็นมโี รงแลมากมาย มคี นค้าขายของเชน่ กงุ้ หรือปลาโดย

การขังไว้ในข้อง ขา้ งหนา้ โรงวางท่สี าหรับดักปลาวางเรยี งไว้ มีทัง้ ผหู้ ญงิ และ
ผชู้ ายมาจบั จ่ายซือ้ ของ จะมองกลับไปยังประเทศบา้ นเกิดก็ทรมานเหมือน

โดนไฟไหม้ จิตใจกห็ ม่นหมอง ล่องเรอื มาจนถึงวัดเขมา กร็ ู้วา่ พึง่ เลกิ งานฉลอง

ไปเม่อื วานซืน

โอ้ปางหลงั คร้งั สมเด็จพระบรมโกศ มาผกู โบสถ์ก็ได้มาบูชาชนื่

ชมพระพิมพร์ ิมผนงั ยังยง่ั ยืน ทั้งแปดหมน่ื สพ่ี นั ได้วนั ทา
โอ้คร้งั นม้ี ไิ ด้เห็นเล่นฉลอง เพราะตวั ตอ้ งตกประดาษวาสนา
เป็นบญุ น้อยพลอยนึกโมทนา พอนาวาตดิ ชลเข้าวนเวียน
ดนู ้าว่งิ กลง้ิ เชยี่ วเปน็ เกลียวกลอก กลบั กระฉอกฉาดฉันฉวัดเฉวียน
บ้างพลงุ่ พลงุ่ วงุ้ วงเหมือนกงเกวียน ดเู ปลีย่ นเปล่ียนคว้างควา้ งเปน็ หว่างวน
ท้ังหัวท้ายกรายแจวกระชากจว้ ง ครรไลล่วงเลยทางมากลางหน
โอเ้ รือพ้นวนมาในสาชล ใจยงั วนหวงั สวาทไม่คลาดคลาฯ

คิดถึงเม่ือก่อนซงึ่ รัชกาลที่ ๒ ได้มาตดั หวายลูกนิมิต ได้ชมพระพิมพท์ ้งั ๘๔,๐๐๐ องค์

ซงึ่ เท่ากับจานวนพระธรรมทอี่ ยใู่ นพระไตรปฎิ กท่ีอยรู่ ิมผนงั แตค่ ร้ังน้ไี มไ่ ด้เหน็ การเลน่ ฉลอง
เพราะสุนทรภู่ตอ้ งหมดวาสนาและลาบาก เป็นเพราะบญุ นอ้ ยกน็ ึกเศร้า แตแ่ ลว้ เรอื กต็ ิดนา้ วน
มองเห็นน้าวงิ่ เชยี่ วหมุนเป็นเกลียว พงุ่ ไปมาตัดกนั บางส่วนก็พุง่ วนเหมือนกงเกวยี น ดูเวียนๆ
เปน็ เหมอื นพายุวน ทั้งหวั ท้ายเรือไดร้ บั แจวเรอื ดงั นน้ั เรอื จงึ หลดุ นา้ วนออกมาได้ แต่ถงึ เรือจะ
พ้นนา้ วนมาแลว้ แตใ่ จก็ยงั ไม่พ้นจากความรกั

ตลาดแก้วแลว้ ไมเ่ ห็นตลาดต้งั สองฟากฝงั่ กแ็ ตล่ ้วนสวนพฤกษา

โอ้รินรนิ กลนิ่ ดอกไมใ้ กล้คงคง เหมือนกลิน่ ผา้ แพรดารา่ มะเกลอื
เห็นโศกใหญใ่ กล้นา้ ระกาแฝง ทงั้ รักแซงแซมสวาทประหลาดเหลอื
เหมอื นโศกพี่ท่ีระกาก็ซ้าเจือ เพราะรักเรื้อแรมสวาทมาคลาดคลาย

ถึงตลาดแกว้ แตไ่ มเ่ หน็ มตี ลาดตัง้ ขายของทั้งสองฝั่งเหน็ แต่ตน้ ไมพ้ ชื พันธ์ุ
ตา่ งๆ ไดก้ ลิ่นดอกไม้หอมไปเร่อื ยๆตลอดทางและกล่นิ เหมอื นผา้ แพรทีย่ อ้ มดว้ ย
มะเกลอื เหน็ ตน้ โศกใหญแ่ ละต้นระกาเปน็ แผงแตแ่ ปลกทม่ี ีตน้ รักข้ึนแซมอยู่
ด้วย เหมือนความโศกเศรา้ ระกาใจทสี่ นุ ทรภตู่ ้องเปน็ เพราะรกั แม่จนั

ถึงแขวงนนท์ชลมารคตลาดขวัญ มีพว่ งแพแพรพรรณเขาค้าขาย

ทั้งของสวนลว้ นแต่เรอื เรียงราย พวกหญงิ ชายชมุ กันทุกวนั คืนฯ

ถึงจังหวัดนนทบุรกี เ็ หน็ มตี ลาดนา้ มีแพอยูซ่ ่งึ ขายเสื้อผา้ เคร่ืองนงุ่ หม่ มีทง้ั
เรอื จอดอยเู่ พื่อขายผลไม้จากสวนแท้ มที ั้งผ้หู ญงิ ผ้ชู ายมาประชุมซ้อื ของกนั ทุก
วนั ทุกคนื

มาถึงบางธรณที วีโศก ยามวโิ ยคยากใจให้สะอนื้
โอส้ ธุ าหนาแนน่ เปน็ แผ่นพื้น ถึงส่ีหมนื่ สองแสนท้ังแดนไตร
เมอื่ เคราะหร์ า้ ยกายเรากเ็ ทา่ น้ี ไม่มีทีพ่ สธุ าจะอาศยั
ล้วนหนามเหนบ็ เจ็บแสบคบั แคบใจ เหมอื นนกไรร้ งั เร่อยู่เอกาฯ

มาถงึ หมู่บา้ นบางธรณีก็โศกเศรา้ มากข้ึนมาก เพราะตอนลาบากพาให้ใจ

สะอนื้ มาก ทัง้ ท่แี ผน่ ดินหนาขนาดสองแสนส่ีหมืน่ โยชนแ์ ต่เมื่อถึงคราวลาบาก
แม้แตแ่ ผ่นดนิ กไ็ มม่ ที อี่ าศยั เหมือนโดนหนามเสยี ดแทงเจบ็ แสบมาก เหมอื นกับ
นกไม่มีรงั ที่จะอาศยั ตอ้ งเรร่ อ่ นไปเรอ่ื ยๆ

ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่กอ่ นเกา่ ผูห้ ญิงเกล้ามวยงามตามภาษา
เดี๋ยวนมี้ อญถอนไรจกุ เหมอื นตุ๊กตา ทงั้ ผัดหน้าจบั เขม่าเหมือนชาวไทย
โอ้สามญั ผนั แปรไมแ่ ท้เทย่ี ง เหมอื นอยา่ งเยย่ี งชายหญงิ ทิ้งวิสัย
นี่หรอื จิตคดิ หมายมีหลายใจ ท่ีจติ ใครจะเป็นหน่ึงอย่าพงึ คดิ ฯ

ถงึ ตาบลปากเกรด็ ซึ่งเปน็ บริเวณท่ีชาวมอญอพยพมา ตามธรรมเนียม
ผู้หญงิ มอญจะเกล้าผม แตส่ มัยนีผ้ ู้หญงิ มอญมาถอนไรผมเหมอื นตุ๊กตา ทง้ั ยงั
ใช้เครือ่ งสาอาง ใช้แป้งผดั หนา้ ซึ่งเหมอื นกับชาวไทย ทาใหเ้ ห็นได้ว่าสมัยนี้
ทุกสิ่งทกุ อยา่ งไมม่ คี วามเที่ยงแท้ เหมือนดงั ทช่ี าวมอญละท้ิงประเพณี
วัฒนธรรมของตนเองแลว้ จะนบั ประสาอะไรกบั จติ ใจของคน ซง่ึ ไม่มีใครมีใจ
เดยี วแตม่ ีหลายใจ

ถงึ บางพูดพูดดีเป็นศรีศกั ดิ์ มีคนรักรสถอ้ ยอรอ่ ยจิต
แมน้ พูดช่วั ตัวตายทาลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพดู จาฯ

ถงึ หมบู่ ้านบางพดู สุนทรภู่ก็นกึ ถึงคาว่าพดู ดงั วา่ ถา้ ใครพูดดกี จ็ ะมีคนรกั แต่
ถา้ พูดไมด่ ีกอ็ าจจะเปน็ ภยั ต่อตนเองไดอ้ ีกทัง้ ยังไม่มใี ครคบ ไม่มีเพ่อื นสนทิ มติ ร
สหาย ท้ังการจะดูวา่ ใครดีไมด่ ีดูได้จากการพดู

ถึงบา้ นใหมใ่ จจติ กค็ ิดอา่ น จะหาบา้ นใหมม่ าดเหมือนปรารถนา
ขอให้สมคะเนเถิดเทวา จะได้ผาสกุ สวสั ดจ์ิ ากดั ภยั

ถงึ หมู่บ้านบา้ นใหมส่ นุ ทรภู่ก็คดิ อยากจะไดบ้ ้านซกั หลงั ตามทตี่ ้องการ
โดยขอกบั เทวดาให้สมดงั ปรารถนา เพราะ การมีบ้านใหม่จะไดม้ คี วามสขุ
และมที ีอ่ าศยั อย่างปลอดภัย

ถึงบางเด่อื โอ้มะเด่ือเหลอื ประหลาด บงั เกิดชาติแมลงหว่มี ใี นไส้
เหมอื นคนพาลหวานนอกยอ่ มขมใน อปุ ไมยเหมอื นมะเด่ือเหลือระอา

ถงึ หมูบ่ ้านบางเดื่อก็คดิ ถึงลูกมะเด่ือท่ภี ายนอกน้ันดูสวยงามน่ารบั ประทาน
แตภ่ ายในกลับมแี มลงมีหนอนชอนไชอยู่ เหมือนกบั คนพาลท่ีปากพูดดแี ต่ในใจ
คดิ ทาอนั ตราย

ถึงบางหลวงเชงิ รากเหมอื นจากรัก สู้เสยี ศักดิส์ งั วาสพระศาสนา

เปน็ ลว่ งพ้นรนราคราคา ถงึ นางฟ้าจะมาให้ไม่ไยดีฯ

ถงึ บางหลวงเหมือนจากนางจนั มานานแลว้ เราต้องสละจาก
ยศถาบรรดาศักดเ์ิ พือ่ มาบวชเพ่อื จะได้พ้นจากกเิ ลสทัง้ หลายทั้งปวง
ถงึ จะมีนางฟา้ มายวั่ ก็ไมส่ นใจ

ถึงสามโคกโศกถวลิ ถึงปิ่นเกล้า พระพทุ ธเจา้ หลวงบารงุ ซึ่งกรงุ ศรี
ประทานนามสามโคกเปน็ เมอื งตรี ช่ือปทุมธานเี พราะมบี ัว
โอ้พระคณุ สญู ลับไม่กลับหลัง แตช่ อ่ื ต้งั กย็ ังอยูเ่ ขาร้ทู ่วั
โอ้เรานี้ทส่ี นุ ทรประทานตัว ไม่รอดชวั่ เชน่ สามโคกยงิ่ โศกใจ
สนิ้ แผ่นดินสิ้นนามตามเสดจ็ ตอ้ งเที่ยวเตรด็ เตรห่ าทีอ่ าศยั
แมน้ กาเนิดเกิดชาตใิ ดใด ขอใหไ้ ดเ้ ปน็ ข้าฝา่ ธุลี
สิ้นแผน่ ดนิ ขอใหส้ ิ้นชีวติ บา้ ง อยา่ รรู้ ้างบงกชบทศรี
เหลืออาลยั ใจตรมระทมทวี ทกุ วันนก้ี ็ซังตายทรงกายมาฯ

ถึงสามโคกกค็ ดิ ถงึ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั ซงึ่ พระองค์ปกครองเมอื งกรุงเทพฯ

พระองค์ไดพ้ ระราชทานนามเมอื งจากสามโคกซง่ึ เปน็ หวั เมืองชน้ั สามเปน็ เมืองปทุมธานีเป็นเพราะมี
บัวเยอะ ถึงพระองคจ์ ะเสด็จสวรรคตไปแลว้ แตช่ ื่อปทุมธานคี งอยตู่ ลอดไป แตท่ าไมชอ่ื ของสนุ ทรภู่
ช่อื ขุนสุนทรโวหารท่ไี ด้รับพระราชทานนามมาแต่กลับไมม่ ีชื่อในแผน่ ดินหลังจากพระองค์สวรรคต
เลยซง่ึ ตา่ งกบั ปทุมธานี สุนทรภ่ตู อ้ งเรร่ อ่ นหาทีอ่ าศัยเพราะขณะนไี้ ม่มบี า้ น สุนทรภขู่ อให้เกดิ ทกุ
ชาติไดเ้ ป็นขา้ รับใช้พระองคต์ ลอดไป พอพระองค์สวรรคตสุนทรภูก่ ข็ ออยากตายตามบา้ งเพือ่ จะ
ไดร้ ับใชแ้ ละพึ่งพระองค์ เดี๋ยวนก้ี ็เศร้าโศกใจทุกข์ระทมอยา่ งทวคี ูณมาก ตอ้ งเร่ร่อนไปเรอื่ ยๆ

ถึงบา้ นง้ิวเหน็ แตง่ ว้ิ ละลว่ิ สูง ไมม่ ฝี งู สตั ว์สงิ ก่ิงพฤกษา
ด้วยหนามดกรกดาษระดะตา นกึ ก็นา่ กลวั หนามขามขามใจ
ง้ิวนรกสิบหกองคลุ แี หลม ดงั ขวากแซมเสี้ยมแทรกแตกไสว
ใครทาชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย ก็ตอ้ งไปปีนตน้ นา่ ขนพอง
เราเกดิ มาอายุเพียงนี้แลว้ ยังคลาดแคล้วครองตัวไมม่ วั หมอง
ทกุ วันน้วี ิปริตผดิ ทานอง เจียนจะต้องปนี บ้างหรอื อยา่ งไรฯ

ถงึ หม่บู ้านบา้ นงิ้วก็เห็นมีแต่ตน้ งิว้ ซ่งึ ไม่มนี กหรือสัตว์อื่นๆอยบู่ นก่ิงเลย
เพราะตน้ งว้ิ มีหนามขน้ึ อยมู่ ากมายนกึ ถึงกน็ า่ กลัวหนามเพราะถ้าโดนคงเจ็บ
มาก แตง่ ว้ิ ในนรกยาวถงึ ๑๖ ข้อนิ้วแหลมเหมือนกับไม้ไผ่เหลาทากับดกั
ซงึ่ ใครมชี ู้เมอื่ ตายไปแล้วกต็ อ้ งไปปีนตน้ ง้ิวในนรก แต่สนุ ทรภู่เกดิ มาอายุมาก
แลว้ แต่ยงั ครองตวั อย่ใู นศลี ธรรมไม่มชี ู้ แตท่ กุ วนั นผ้ี คู้ นวิปริตมีชู้กนั มากคง
ตอ้ งไปปีนต้นง้วิ ในนรกกันบา้ ง

โอค้ ดิ มาสารพัดจะตัดขาด ตดั สวาทตดั รกั มิยกั ไหว
ถวลิ หวังนั่งนกึ อนาถใจ ถึงเกาะใหญ่ราชครามพอยามเย็น
ดูห่างย่านบ้านช่องทัง้ สองฝง่ั ระวังทง้ั สตั ว์นา้ จะทาเขญ็
เป็นท่ีอยผู่ ูร้ ้ายไมว่ ายเว้น เท่ียวซ่อนเร้นตีเรือเหลอื ระอาฯ

ทงั้ หมดท่ีคดิ มานน้ั สุนทรภูส่ ามารถตดั ขาดไดแ้ ต่การตัดความรกั นัน้ ยากยิง่
นกั นั่งนึกอนาถใจไปจนเย็นกถ็ งึ เกาะใหญร่ าชคราม มองไปเห็นบา้ นเรอื น
ตา่ งๆอย่หู า่ งจากสองฝงั่ มากในที่นต้ี ้องระวังจระเข้จะทารา้ ย ท้ังที่นีย่ งั เปน็ ที่
อยูข่ องผู้รา้ ยซ่ึงมาคอยดักตเี รือ สุนทรภ่คู ิดแลว้ น่าเบอ่ื ยงิ่ นัก

พระสรุ ยิ งลงลับพยบั ฝน ดมู วั มนมืดมดิ ทุกทศิ า

ถึงทางลดั ตัดทางมากลางนา ท้ังแฝกคาแขมกกขน้ึ รกเรีย้ ว

เปน็ เงาง้านา้ เจิง่ ดูเวิ้งวา้ ง ท้งั กว้างขวางขวัญหายไมว่ ายเหลียว

เห็นดมุ่ ดุ่มหนุม่ สาวเสยี งกราวเกรยี ว ลว้ นเรอื เพรียวพรอ้ มหน้าพวกปลาเลย

เขาถ่อคล่องว่องไวไปเปน็ ยืด เรอื เราฝืดเฝือมานจิ จาเอย๋

ต้องถอ่ ค้าร่าไปท้ังไม่เคย ประเดยี๋ วเสยสวบตรงเข้าพงรก

กลับถอยหลงั รง้ั รอเฝา้ ถ่อถอน เรอื ขยอ่ นโยกโยนกระโถนหก

เงยี บสงดั สตั ว์ปา่ คณานก นา้ คา้ งตกพร่างพรายพระพายพดั

ไมเ่ ห็นคลองตอ้ งค้างอยกู่ ลางทุง่ พอหยุดยุงฉชู่ มุ มารมุ กัด

เปน็ กล่มุ กลุม่ กลุม้ กายเหมือนทรายซัด ตอ้ งนัง่ ปดั แปะไปมิไดน้ อนฯ

เม่ือพระอาทิตย์ตกก็มีเมฆมืดคร้ึมมาจนดูมืดมัวไปทุกทิศทุกทาง พาย
เรือถึงทางลัดซงึ่ เป็นทางตัดกลางนาก็เห็นมีต้นแฝกต้นคาต้นแขมต้นกกข้ึน
ปะปนกันอยู่มากมาย เงาของต้นพวกน้ีทอดลงน้าทาให้ดูเวิ้งว้างดู
กว้างขวางเหลียวมองทีไรก็รู้สึกขวัญหายทุกที มองเห็นเงาของหญิงชายท้ัง
ยังมีเสียงคุยกัน เรือของพวกเขาเพรียวเล็กและมีปลาอยู่บนเรืออีกด้วย
พวกเขาถ่อเรือคล่องแคล่วเดินทางไปอย่างรวดเร็ว แต่เรือของสุนทรภู่ไป
ช้ามากช่างน่าสงสารลูกศิษย์ที่ต้องถ่อเรืออย่างเหน็ดเหนื่อยท้ังๆท่ีไม่เคย
เส้นทาง บางทีเรือก็เสยเข้าพงหญ้ารกรุงรัง จะถอยหลังก็ถอยยาก เรือก็
โคลงจนกระโถนใส่หมากหก พอเง่ียหูฟังก็ไม่ได้ยินเสียงสัตว์เลยซักตัว
มีแต่น้าค้างตกเพราะลมพัด มองไปไม่เห็นคลองเลยต้องค้างอยู่กลางทุ่ง
แต่พอหยุดเรือหยุดก็มารุมกัดเจ็บเหมือนโดนทรายซัด เลยไม่ได้นอน
เพราะต้องนั่งตบยงุ

แสนวติ กอกเอย๋ มาอา้ งวา้ ง ในทุ่งกว้างเห็นแตแ่ ขมแซมสลอน

จนดึกดาวพราวพรา่ งกลางอมั พร กาเรยี นรอ่ นร้องกอ้ งเมื่อสองยาม
ทัง้ กบเขยี ดเกรียดกรีดจังหรดี เรื่อย พระพายเฉือ่ ยฉวิ ฉวิ วะหวิวหวาม
วังเวงจติ คิดคะนงึ ราพงึ ความ ถึงเมอื่ ยามยงั อดุ มโสมนัส
สารวลกับเพอื่ นรกั สะพรกั พรอ้ ม อยูแ่ วดล้อมหลายคนปรนนบิ ตั ิ

โอย้ ามเข็ญเห็นอยแู่ ต่หนูพัด ชว่ ยนง่ั ปัดยงุ ใหไ้ ม่ไกลกาย

จนเดือนเดน่ เห็นกอกระจบั จอก ระดะดอกบวั เผอ่ื นเมอ่ื เดอื นหงาย
เหน็ รอ่ งนา้ ลาคลองท้ังสองฝ่าย ข้างหนา้ ทา้ ยถ่อมาในสาคร
จนแจม่ แจ้งแสงตะวนั เหน็ พนั ธ์ผุ กั ดนู ่ารักบรรจงสง่ เกสร
เหลา่ บวั เผือ่ นแลสลา้ งรมิ ทางจร ก้ามกุ้งซ้อนเสียดสาหรา่ ยใตค้ งคา
สายติง่ แกมแซมสลับต้นตบั เตา่ เปน็ เหลา่ เหล่าแลรายทง้ั ซ้ายขวา
กระจบั จอกดอกบัวบานผกา ดาษดาดูขาวดงั่ ดาวพราย
โอ้เช่นน้ีสีกาได้มาเหน็ จะลงเล่นกลางทุ่งเหมือนมงุ่ หมาย

ที่มีเรอื น้อยนอ้ ยจะลอยพาย เทยี่ วถอนสายบวั ผนั สันตะวา
ถึงตัวเราเล่าถา้ ยงั มีโยมหญงิ ไหนจะนิง่ ดดู ายอายบุปผา
คงจะใชใ้ ห้ศิษยท์ ี่ติดมา อุตส่าห์หาเอาไปฝากตามยากจน
นี่จนใจไม่มีเท่าข้ีเลบ็ ข้ีเกยี จเกบ็ เลยทางมากลางหน
พอรอนรอนอ่อนแสงพระสุรยิ น ถึงตาบลกรุงเกา่ ยิง่ เศรา้ ใจฯ

สุนทรภรู่ ูส้ ึกอา้ งว้างมาก มองไปในทุ่งกว้างเหน็ มแี ต่ตน้ แขมขึ้นอยปู่ ะปนกัน จนดกึ ก็มีดาวอยู่
กลางทอ้ งฟ้า มีนกกระเรยี นบินร่อนและร้องก้องเม่อื ตอนเท่ียงคนื มีเสยี งกบเขยี ดรอ้ งเร่ือยๆ มลี ม
พดั เฉอ่ื ยๆ สนุ ทรภรู่ ูส้ ึกวังเวงกค็ ิดราพงึ เมือ่ ตอนมียศถาบรรดาศกั ด์ิ ได้หัวเราะเฮฮากับเพื่อน มีคน
คอยปรนนบิ ัติรับใช้ แต่ยามลาบากเห็นแต่หนพู ดั ลูกชายคอยช่วยนัง่ ปัดยุงใหจ้ นพระจนั ทร์ขนึ้ ก็
เหน็ ต้นกระจบั จอก มดี อกบวั เผ่ือนข้ึนมากเมอ่ื คนื เดอื นหงาย มองเห็นคลองทง้ั สองด้านหวั ท้ายเรือ
ก็รีบถอ่ เรือลงคลอง จนพระอาทติ ยข์ ึ้นกเ็ หน็ พนั ธ์ผุ ักดนู า่ รกั ส่งเกสรแกก่ นั มบี ัวเผือ่ นอย่สู องข้าง
ทางที่เรอื พายไป มตี น้ กา้ มกงุ้ ข้นึ อยู่กับสาหรา่ ยใตน้ ้า มตี น้ สายต่งิ ข้นึ สลับกับต้นตบั เตา่ เป็นกลุ่มๆ
มองไปเหมอื นกับดาวบนท้องฟ้า เหลา่ นี้ถา้ ผู้หญงิ ไดม้ าเห็นกค็ งจะลงเลน่ กลางทุ่ง ที่มีเรือก็คงจะ
พายไปเก็บสายบัว ถ้าสนุ ทรภู่มโี ยมผหู้ ญงิ กค็ งไมน่ ิง่ เฉยใหอ้ ายดอกไม้ คงจะใชใ้ หศ้ ิษย์ไปเก็บของ
ฝากเทา่ ท่ีทาได้ในตอนนี้ แตน่ ่จี นใจไม่มีเงนิ ซกั นิด ทงั้ ยงั ขี้เกยี จเก็บจึงเลยมา พอมแี สงอ่อนๆของ
พระอาทติ ยก์ ็ถงึ กรงุ ศรีอยธุ ยา สนุ ทรภู่ร้สู ึกเศรา้ ใจ

มาทางท่าหนา้ จวนจอมผรู้ ัง้ คดิ ถึงครง้ั กอ่ นมานา้ ตาไหล
จะแวะหาถ้าทา่ นเหมอื นเมอ่ื เปน็ ไวย ก็จะไดร้ ับนิมนตข์ ึน้ บนจวน
แตย่ ามยากหากวา่ ถา้ ท่านแปลก อกมิแตกเสียหรือเราเขาจะสรวล
เหมอื นเขญ็ ใจใฝ่สูงไม่สมควร จะตอ้ งม้วนหน้ากลบั อัประมาณฯ

เมอ่ื ถึงหนา้ จวนของเพอ่ื นของสุนทรภู่ สุนทรภกู่ ็คดิ ถงึ เม่อื กอ่ นจนนา้ ตา
ไหล สนุ ทรภตู่ ้ังใจจะแวะหาถ้ายังเหมือนเมือ่ กอ่ นก็คงจะได้รบั นิมนต์ขึน้ บน
จวน แต่ถ้าหากว่าท่านแปลกไปกค็ งจะโดนหวั เราะเยาะจะตอ้ งอายมาก
รูส้ ึกไมก่ ลา้ ใฝ่สูงเปน็ เพ่ือนได้ จงึ ได้เดินทางตอ่ ไปยังเจดยี ภ์ เู ขาทอง

มาจอดทา่ หนา้ วัดพระเมรุขา้ ม ริมอารามเรอื เรยี งเคียงขนาน
บา้ งข้ึนล่องร้องลาเล่นสาราญ ท้งั เพลงการเกยี้ วแกก้ นั แซเ่ ซ็ง
บา้ งฉลองผ้าป่าเสภาขบั ระนาดรบั รัวคล้ายกับนายเส็ง
มโี คมรายแลอร่ามเหมือนสาเพ็ง เมื่อคราวเคร่งก็มใิ คร่จะได้ดู
อ้ายลาหน่งึ คร่ึงท่อนกลอนมันมาก ช่างยาวลากเลอ้ื ยเจ้อื ยจนเหนือ่ ยหู
ไม่จบบทลดเลี้ยวเหมือนเงยี้ วงู จนลกู คูข่ อทเุ ลาว่าหาวนอนฯ
ไดฟ้ ังเลน่ ต่างต่างท่ขี า้ งวดั จนสงดั เงียบหลบั ลงกบั หมอน
ประมาณสามยามคลา้ ในอมั พร อ้ายโจรจรจู่จ้วงเข้าลว้ งเรอื
นาวาเอยี งเสียงกุกลุกขึ้นรอ้ ง มันดาลอ่ งน้าไปชา่ งไวเหลอื
ไมเ่ ห็นหน้าสานุศษิ ยท์ ีช่ ิดเชื้อ เหมือนเนือ้ เบอื้ บ้าเลอะดเู ซอะซะ
แต่หนพู ัดจดั แจงจุดเทยี นสอ่ ง ไมเ่ สียของขาวเหลืองเครอื่ งอฏั ฐะ
ดว้ ยเดชะตบะบญุ กับคุณพระ ชัยชนะมารไดด้ ังใจปองฯ

จอดเรอื ท่ขี า้ งวดั พระเมรซุ ึง่ ริมวัดมีเรือจอดเรียงอยู่ บางลามีคนร้องเล่น
เตน้ สาราญ บางลากร็ อ้ งเพลงเก้ยี วกัน บางลาฉลองผ้าปา่ ดว้ ยการขับเสภา
ทั้งยังมีคนตีระนาดซึ่งตีเก่งเหมือนนายเส็ง (คนเก่งระนาดสมัยสุนทรภู่)
มีโคมแขวนอยู่เรียงรายเหมือนอยู่สามเพ็ง เมื่อคราวเคร่งในพระศาสนาก็
ไม่ได้ดู มีเรือลาหน่ึงกลอนมันมาก ร้องกลอนยากลากเล้ือยฟังแล้วเหนื่อย
หู กลอนลดเลย้ี วเหมอื นทางงู จนลกู ค่บู อกว่าง่วงนอน ได้การละเล่นต่างๆ
ท่ีข้างวัดพอดึกก็นอน ประมาณสามยามก็มีโจรขึ้นเรือ พอมีเสียงกุกกัก
สุนทรภู่ก็ลุกขึ้นโวยวาย โจรก็รีบดาน้าไปอย่างว่องไว มองไปไม่เห็นหน้า
ลูกศิษย์ก็รู้สึกทาอะไรไม่ถูกด้วยความกลัวแต่หนูพัดจุดเทียนส่องดูว่ามี
อะไรหายไปบา้ ง แตไ่ มม่ ีเลยแมแ้ ตเ่ คร่อื งอฐั บรขิ าร ทั้งน้ีด้วยเดชะตบะบุญ
และพระพุทธ ทาใหช้ นะมารได้

ครนั้ รุ่งเชา้ เขา้ เป็นวันอโุ บสถ เจริญรสธรรมาบชู าฉลอง
ไปเจดียท์ ีช่ ื่อภูเขาทอง ดูสงู ลอ่ งลอยฟ้านภาลัย
อยูก่ ลางทุง่ รุ่งโรจนส์ นั โดษเดน่ เปน็ ทเี่ ลน่ นาวาคงคาใส
ที่พนื้ ลานฐานบทั มถ์ ัดบันได คงคงลัยล้อมรอบเปน็ ขอบคนั
มเี จดยี ์วหิ ารเป็นลานวัด ในจงั หวัดวงแขวงกาแพงกั้น
ทีอ่ งค์กอ่ ย่อเหล่ยี มสลบั กัน เปน็ สามช้นั เชงิ ชานตระหงา่ นงาม
บันไดมีสีด่ า้ นสาราญร่นื ต่างชมชน่ื ชวนกันขึน้ ชัน้ สาม
ประทกั ษิณจนิ ตนาพยายาม ไดเ้ สร็จสามรอบคานบั อภวิ นั ท์
มหี ้องถา้ สาหรบั จดุ เทียนถวาย ดว้ ยพระพายพัดเวยี นอยู่เหียนหัน
เป็นลมทกั ษิณาวรรตน่าอศั จรรย์ แตท่ กุ วนั นีช้ ราหนักหนานัก
ทั้งองคฐ์ านราญร้าวถงึ เกา้ แฉก เผยแยกยอดทรดุ ก็หลดุ หกั
โอ้เจดีย์ทสี่ ร้างยงั รา้ งรัก เสยี ดายนักนึกน่านา้ ตากระเดน็
กระนีห้ รอื ชือ่ เสียงเกียรติยศ จะมิหมดลว่ งหนา้ ทนั ตาเหน็
เปน็ ผู้ดีมมี ากแลว้ ยากเยน็ คดิ ก็เป็นอนจิ จังเสยี ทง้ั น้นั ฯ

วนั รงุ่ ขึ้นจะเปน็ วนั พระซงึ่ จะได้บูชาพระธรรม ได้ไปเจดียภ์ ูเขาทองซง่ึ ดูสูง
เสียดฟ้า อยู่กลางทุ่งดูโดดเด่นมีน้าใสอยู่รอบๆที่ฐานพื้นท่ีเป็นรูปกลีบบัวถัด
จากบนั ไดมนี ้าไหลลอ้ มรอบเปน็ ขอบ มเี จดยี ์มีวหิ ารมลี านวัด มีกาแพงก้ันอยู่
การยอ่ เหล่ยี มไม้ ๑๒ มุมอยา่ งสวยงาม มีเป็นสามช้ันอยา่ งงดงาม บันไดมี ๔
ด้าน คณะของสุนทรภ่ชู วนกนั ขึ้นไปชั้น ๓ ต้ังใจเดินวนขวา ๓ รอบจนครบก็
กราบเจดีย์ มีห้องท่ีเป็นถ้าสาหรับจุดเทียนเพราะลมจะพัดแรงพาธูปเทียน
ดับ ตอนนั้นบังเกิดส่ิงอัศจรรย์มีลมพัดเวียนขวาราวกับจะเวียนเทียนด้วย
ทุกวันนี้พระเจดีย์เก่าและทรุดโทรมมาก ที่ฐานร้าวถึงเก้าแฉก ท่ียอดก็หัก
องค์พระเจดียก์ ็ทรุด เป็นเพราะเจดียไ์ ม่มีคนคอยดูแล นึกแล้วเสียดายจนน่า
ร้องไห้ แลว้ วจะเทียบอะไรกบั ช่ือเสยี งเกยี รติยศของมนุษย์ ก็คงหมดไปในไม่
นาน เหมอื นกับเป็นผู้ดแี ล้วลาบาก เป็นคนมั่งมีแล้วยากจน คิดแล้วทุกอย่าง
ไมแ่ ทเ้ ทย่ี ง

ขอเดชะพระเจดยี ค์ ีรมี าศ บรรจธุ าตทุ ี่ตงั้ นรงั สรรค์

ขา้ อตุ สา่ ห์มาเคารพอภิวันท์ เปน็ อนันตอ์ านิสงสด์ ารงกาย

จะเกดิ ชาตใิ ดใดในมนษุ ย์ ให้บรสิ ทุ ธส์ิ มจติ ท่คี ดิ หมาย

ทง้ั ทุกข์โศกโรคภยั อยา่ ใกล้กราย แสนสบายบรบิ รู ณ์ประยูรวงศ์

ทง้ั โลโภโทโสแลโมหะ ใหช้ นะใจได้อย่าใหลหลง

ขอฟุ้งเฟอ่ื งเรอื งวิชาปญั ญายง ท้ังใหท้ รงศลี ขันธ์ในสนั ดาน

อีกสองส่ิงหญงิ รา้ ยแลชายช่ัว อยา่ เมามัวหมายรกั สมัครสมาน

ขอสมหวังตัง้ ประโยชนโ์ พธิญาณ ตราบนพิ พานชาติหน้าใหถ้ าวรฯ

ขอเดชะแห่งเจดยี ์ภูเขาทองซ่ึงบรรจุพระบรมสารกิ ธาตุ สุนทรภู่ขอให้ท่ี

ได้มากราบในคร้งั นี้ให้เปน็ บญุ เพอ่ื เปน็ อานสิ งส์ให้พน้ ภัยต่างๆ ถ้าจะ เกดิ

ชาติไหนๆกข็ อให้ตนบริสทุ ธิ์ท้งั กายและใจ ท้ังความทกุ ข์ความโศกอยา่ ไดม้ า

ใกล้ สบายไปตลอดกาล ทงั้ ความโลภ โกรธ หลง ขอใหต้ นชนะได้ ขอใหม้ ี

สติปัญญาหลักแหลม ให้มีศีลธรรมอยใู่ นใจ ท้ังผหู้ ญงิ รา้ ยและผูช้ ายชั่วก็ขอให้

อย่าได้รู้จกั คบหากนั ขอให้สมดังหวงั แมแ้ ต่ชาติหน้ากข็ อให้เปน็ ดงั หวัง

พอกราบพระปะดอกปทุมชาติ พบพระธาตสุ ถติ ในเกสร

สมถวิลยนิ ดชี ลุ กี ร ประคองซอ้ นเชิญองคล์ งนาวา

กบั หนพู ดั มัสการสาเรจ็ แล้ว ใสข่ วดแกว้ วางไวใ้ กล้เกศา

มานอนกรุงรุ่งขนึ้ จะบชู า ไม่ปะตาตนั อกยง่ิ ตกใจ

แสนเสยี ดายหมายจะชมบรมธาตุ ใจจะขาดคดิ มาน้าตาไหล

โอบ้ ญุ น้อยลอยลับครรไลไกล เสยี น้าใจเจยี นจะด้ินสน้ิ ชีวัน

สุดจะอยูด่ ูอื่นไม่ฝืนโศก กาเรบิ โรครอ้ นฤทัยเฝา้ ใฝฝ่ ัน

พอตรตู่ ร่สู ุริย์ฉายข้นึ พรายพรรณ ให้ล่องวันหนึง่ มาถงึ ธานฯี

พอกม้ ลงกราบพระพทุ ธรปู เงยขึน้ มาก็เห็นดอกบวั และกเ็ หน็ พระบรมสารีริกธาตุอยใู่ น

เกสรกด็ ใี จมากและช้อนประคองลงเรอื พอหนูพัดกราบไว้เสร็จแล้วกใ็ ส่พระบรม

สารรี กิ ธาตุไวใ้ นขวดแกว้ แล้วก็วางไวใ้ กล้ศรี ษะเมือ่ นอน ต้ังใจว่าจะไปนอนที่กรุงศรี

อยุธยาและรุ่งเช้าจะบชู าพระบรมสารรี กิ ธาตุแต่พอต่ืนมามองไม่เห็นพระบรมสารีริกธาตุ

ก็ตกใจอยา่ งมากท้ังท่ีวางไว้ใกล้ศรี ษะ สนุ ทรภู่ว่าเปน็ เพราะบญุ ตนนอ้ ยทาใหพ้ ระธาตุ

ลอยนา้ ไปไกล สุนทรภู่คิดว่าไม่สามารถอยทู่ เ่ี จดยี ภ์ ูเขาทองต่อได้เพราะจะยิ่งเศร้าโศก

และร้อนใจยง่ิ ข้ึน พอเช้าตรพู่ ระอาทิตยข์ ึ้นสอ่ งฉาย กล็ ่องเรอื ถงึ กรงุ เทพฯโดยใชเ้ วลา

เดินทาง ๑ วัน

ประทบั ทา่ หนา้ อรณุ อารามหลวง คอ่ ยสรา่ งทรวงทรงศลี พระชินสีห์
นริ าศเรือ่ งเมอื งเกา่ ของเราน้ี ไว้เป็นทโ่ี สมนัสทศั นา
ดว้ ยได้ไปเคารพพระพทุ ธรูป ทง้ั สถูปบรมธาตุพระศาสนา
เปน็ นสิ ัยไวเ้ หมอื นเตอื นศรทั ธา ตามภาษาไม่สบายพอคลายใจ
ใชจ่ ะมีท่รี กั สมัครมาด แรมนิราศรา้ งมติ รพสิ มยั
ซึง่ ครวญคร่าทาทพี ริ ี้พิไร ตามนสิ ัยกาพย์กลอนแต่ก่อนมา
เหมอื นแมค่ รวั คั่วแกงพะแนงผดั สารพัดเพยี ญชนังเครอื่ งมังสา
อนั พริกไทยใบผักชเี หมอื นสีกา ต้องโรยนา่ เสียสกั หนอ่ ยอร่อยใจฯ

จงทราบความตามจรงิ ทกุ สิง่ ส้ิน อย่านกึ นินทาแถลงแหนงไฉน
นักเลงกลอนนอนเปลา่ ก็เศร้าใจ จงึ รา่ ไรเรื่องรา้ งเล่นบา้ งเอยฯ

ถึงหน้าวัดอรุณก็ค่อยสร่างจากความเศร้าเพราะได้กราบพระพุทธรูป
นิราศภูเขาทองของสุนทรภู่เร่ืองน้ีไว้เป็นที่อ่านเมื่อเศร้าจะได้มีความสุข
เพราะได้ไปกราบไว้พระพุทธรูป ทั้งกราบไว้พระบรมสารีริกธาตุ เพราะคนท่ี
นับถือศาสนาพุทธเม่ือไม่สบายใจก็จะกราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อให้สบายใจ
ตอนนี้สุนทรภู่ใช่ว่าจะมีคนรักหรือพึ่งจะจากรักมา แต่ท่ีกล่าวถึงผู้หญิงก็
เพราะเป็นธรรมเนียมการแต่งนิราศแต่โบราณ เหมือนแม่ครัวจะปรุงอาหาร
ประเภทพะแนงนอกจากจะใส่เครื่องปรุงและเนื้อสัตว์แล้วยังต้องใส่พริกไทย
ใบผักชีเพ่ือเพ่ิมความน่ารับประทานแก่อาหาร และผู้หญิงก็เหมือนพริกไทย
ใบผักชีเพ่ือนให้นิราศนี้น่าอ่าน ขอให้ทราบความจริงทุกๆอย่างว่าสุนทรภู่
ไม่ไดม้ ผี ู้หญิงเลยขออยา่ ได้นินทาให้เสียหาย เพราะคนท่ีมีความสามรถในเชิง
กลอนจะน่ังๆนอนๆเฉยๆก็จะน่าเบ่ือและเศร้าใจ จึงจะต้องแต่งกลอนเพื่อ
คลายเหงาและคลายความเศรา้ ใจ และใหไ้ ด้ผลงานเปน็ ท่ีประจักษ์


Click to View FlipBook Version