เปา้ หมายท่ี 14 อนุรักษแ์ ละใช้ประโยชนจ์ าก
มหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอยา่ งย่งั ยนื เพอื่
การพฒั นาทย่ี ่งั ยนื
จดั ทำโดย นำยณฐั พงษ์ กองเงิน
มีเปา้ ประสงคท์ ่ีครอบคลมุ ประเด็นหลายประเดน็ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั
ทะเลและมหาสมุทร ทั้งด้านมลพิษ การบริหารจัดการและ
อนุรักษ์ทรัพยากรประมง ความเท่าเทียมกันในการเข้าถึง
ทรพั ยากรประมง และผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพ
ภมู อิ ากาศ
14.1 ภายในปี พ.ศ. 2568 ป้องกันและลดมลพิษ
ทางทะเลทุกประเภทโดยเฉพาะจากกิจกรรมบน
แผ่นดิน รวมถึงขยะทะเลและมลพิษของสารอาหาร
(nutrient pollution)
14.2 ภายในปี พ.ศ. 2563 บริหารจัดการและ
ปกปอ้ ง ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝ่ังอย่างย่งั ยืน
เพ่ือหลีกเล่ียงผลกระทบเชิงลบท่ี มีนัยสาคัญและ
เสรมิ สรา้ งภมู ิตา้ นทาน รวมทงั้ ปฏิบตั ิการฟื้นฟู เพ่ือ
ความอดุ มสมบรู ณแ์ ละมีผลติ ภาพของ มหาสมทุ ร
14.3 ลดและระบุผลกระทบของภาวะความเป็ นกรด
ในมหาสมุทรผ่านความร่วมมอื ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นทุกระดบั
14.4 ภายในปี พ.ศ. 2563 กากับการประมงและยุติ
การ ประมงที่ผิดกฎหมายการจับสัตวน์ า้ ทเี่ กินศักยภาพโดยไม่
มกี ารรายงานและควบคุม รวมทงั้ นาแผนการบริหารจดั การเชงิ
วทิ ยาศาสตรม์ า ปฏิบัตอิ ยา่ งมีประสิทธิภาพเพอื่ ฟื้ นฟูมวลสัตว์
น้า (fish stock) ในเวลาทส่ี ั้นทส่ี ุดทจี่ ะเป็ นไปไดอ้ ยา่ งน้อย
ท่สี ุดในระดับท่ีสามารถไปถึงระดับผลผลิตการประมงสูงสุดท่ี
ย่งั ยนื (maximum sustainable yield)
ตามคุณลกั ษณะทางชวี วทิ ยาของสตั วน์ า้ เหล่านั้น
14.5 ภายในปี พ.ศ. 2563 อนุรักษพ์ นื้ ทท่ี างทะเลและ
ชายฝ่ั งอย่างน้ อยร้อยละ 10 ให้เป็ นไปตามกฎหมาย
ภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยอยู่บนพืน้ ฐานของ
ข้อมลู ทางวทิ ยาศาสตรท์ ดี่ ที สี่ ุดทม่ี อี ยู่
14.a เพ่มิ ความรูท้ างวทิ ยาศาสตรพ์ ฒั นาขีดความสามารถในการ
วิจยั และถา่ ยทอดเทคโนโลยีทางทะเล โดยคานงึ ถงึ หลกั เกณฑแ์ ละ
แนวปฏิบตั ิเก่ียวกบั การ ถา่ ยทอดเทคโนโลยีทางทะเลของ
คณะกรรมาธิการสมทุ รศาสตรร์ ะหวา่ งรฐั บาล เพ่ือจะพฒั นาความ
อดุ มสมบรู ณข์ องมหาสมทุ รและเพมิ่ พนู ใหค้ วามหลากหลายทาง
ชีวภาพทางทะเลมีสว่ นสนบั สนนุ การ พฒั นาของประเทศกาลงั
พฒั นามากขนึ้ เฉพาะอยา่ งย่งิ ในรฐั กาลงั พฒั นาท่ีเป็นเกาะขนาดเลก็
และประเทศกลมุ่ พฒั นานอ้ ยท่ีสดุ
14.b จดั ใหม้ ีการเขา้ ถงึ ทรพั ยากรทางทะเลและการตลาดสาหรบั
ชาวประมงพืน้ บา้ นรายเลก็
14.c เพ่มิ พนู การอนรุ กั ษแ์ ละ การใชม้ หาสมทุ รและ ทรพั ยากรอยา่ ง
ย่งั ยืนโดยนากฎหมายท่ีสะทอ้ นใน UNCLOS มาปฏบิ ตั ซิ ง่ึ เป็น
กรอบทางกฎหมายสาหรบั การอนรุ กั ษแ์ ละการใชม้ หาสมทุ รและ
ทรพั ยากรอยา่ งย่งั ยืนตามท่ีระบใุ นยอ่ หนา้ ท่ี 158 ของเอกสาร The
Future We Want
• กองอนรุ กั ษท์ รพั ยากรทางทะเล มภี ารกิจเก่ียวกบั การอนรุ กั ษฟ์ ื้นฟู การ
บรหิ ารจดั การทางทะเล การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่ัง
เพ่ือความสมบรู ณ์ ม่งั ค่งั สมดลุ และย่งั ยืนของทะเลไทยอกี ทงั้ ยงั เสรมิ สรา้ ง
ความม่นั คง ทางสงั คมและเศรษฐกิจของประเทศ ดว้ ยเหตผุ ลดงั กลา่ วทาให้
สานกั อนรุ กั ษฯ์ ตอ้ งมภี ารกิจและบทบาทท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ประชาชน เยาวชน
ผปู้ ระกอบการ นกั วชิ าการ นกั อนรุ กั ษ์ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ งถ่ิน และ
หน่วยงานภาครฐั ตา่ งๆท่เี ก่ียวขอ้ งหลายภาคสว่ น
• จากภารกิจท่สี าคญั ของกองอนรุ กั ษฯ์ ขา้ งตน้ จงึ ไดก้ อ่ ใหเ้ กิดกิจกรรมตา่ งๆ
ขนึ้ เชน่ กิจกรรมอนรุ กั ษแ์ ละฟื้นฟทู รพั ยากรทางทะเลและกิจกรรมสง่ เสรมิ
การฟื้นฟกู ารอนรุ กั ษท์ รพั ยากรทางทะเล โดยทงั้ สองกิจกรรมนี้ ไดด้ าเนินงาน
อย่างตอ่ เน่ืองมาตลอด และแผข่ ยายพืน้ ท่กี ารดาเนินงานออกไปเร่อื ยๆ อาทิ
คา่ ยเยาวชนคนรกั ษท์ ะเลไทย โครงการบรหิ ารจดั การขยะในทะเล (ชายหาด
สะอา้ น บา้ นปลาสะอาด) โครงการซอ่ มแซมและติดตงั้ ทนุ่ ผกู เรอื และทนุ่ แนว
ปะการงั โครงการเสรมิ สรา้ งการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชนเพ่ือการอนรุ กั ษแ์ ละ
ฟื้นฟทู รพั ยากรทางทะเลและชายฝ่ัง เพ่ือใหเ้ กิดการปอ้ งกนั และดแู ล
ทรพั ยากรอย่างเขา้ ใจและถกู วิธี
• นอกจากนี้ กองอนุรกั ษ์ฯ ยังเล็งเห็นถึงความสาคัญ ของการ
พฒั นาศกั ยภาพของเจา้ หนา้ ท่ีใหส้ ามารถปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพมากขึน้ จึงได้จัดให้มีการฝึกอบรม หลักสูตร
ความรูก้ ฎหมายส่ิงแวดลอ้ มทางทะเลและชายฝ่ัง โครงการ
อบรมผูน้ าวิทยากรดา้ นการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรทางทะเลและ
ชายฝ่ัง โครงการเจ้าหน้าท่ีพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและ
ชายฝ่ัง และโครงการฝึกอบรมหลกั สตู ร "เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพ
การปฏบิ ตั กิ ารทางเรอื "
• จากผลการดาเนินงานท่ีผา่ นมา สามารถกลา่ วไดว้ า่
การบูร ณาการทางานข องทุกภาคส่วน สามารถสร้าง
ปรากฎการณ์การทางานร่วมกันในรูปแบบใหม่ ช่วยใหท้ ุกกลุ่ม
สามารถมองเห็นปัญหาอย่างเขา้ ใจ และรว่ มแกไ้ ขหรือพฒั นาไป
ในทิศทางเดียวกันมากขึน้ ทาใหเ้ กิดการร่วมมือทั้งจากภาครัฐ
และภาคประชาชน โดยมองเห็นไดจ้ ากการท่ีประชาชนเขา้ มามี
สว่ นรว่ มในการดาเนินกิจกรรมตา่ งๆมากขนึ้
ความสอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของประเทศไทยในปัจจบุ นั ประเทศ
ไทยมีการตระหนักถึงเร่ืองของการอนุรกั ษ์และใช้ประโยชนจ์ าก
มหาสมุทร ทะเล และทรพั ยากรทางทะเลอยู่แลว้ ซ่ึงไทยตอ้ งการ
แกป้ ัญหาเร่อื งของทรพั ยากรทางทะเล การประมง สตั วต์ ่างๆ ใหม้ ี
ความอดุ มสมบรู ณข์ องทอ้ งทะเล แกป้ ัญหาเร่อื งของการประมงเกิน
ขีดจากดั การทาลายปะกาลงั และแหล่งอาศยั ของสตั วน์ า้ ประกอ
กบั มีเปา้ หมายท่ี 14: อนรุ กั ษแ์ ละใชป้ ระโยชนจ์ ากมหาสมทุ ร ทะเล
และทรพั ยากรทางทะเลอยา่ งย่งั ยืนเพ่ือการพฒั นาท่ีย่งั ยืน
มีเป้าประสงคท์ ่ีครอบคลุมประเด็นหลายประเด็นท่ีเก่ียวขอ้ งกับ
ทะเลและมหาสมทุ ร ทงั้ ดา้ นมลพิษ การบริหารจดั การและอนรุ กั ษ์
ทรพั ยากรประมง ความเท่าเทียกันในการเขา้ ถึงทรพั ยากรประมง
และผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ เขา้ มาช่วยใน
การควบคมุ ดแู ลการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรทางทะเลไดง้ ่ายขนึ้
การจดั การท่ีย่งั ยืนของพืน้ ท่ีชายฝ่ังทะเลของประเทศไทย
ตอ้ งเผชิญกับความทา้ ทายมากมาย แนวปฏิบตั ิต่างๆ ของการทา
ประมงท่ีไม่ย่ังยืนเป็ นด้านหน่ึงซ่ึงจาเป็นต้องดาเนินการให้มี
ความกา้ วหนา้ อย่างมีนยั สาคญั เน่ืองจากการลากอวนถงึ ระดบั พืน้
ทะเล การทาการประมงท่ีผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไรก้ าร
ควบคมุ
(IUU – llegal, unregulated and unreported
fishing) ไดท้ าลายแหล่งทรพั ยากรปลาและส่ิงแวดลอ้ มทาง
ทะเลของไทยอย่างรุนแรง การทาการประมงท่ีผิดกฎหมาย ไม่เป็น
ระเบียบและไมม่ ีการรายงานเป็นหน่งึ ในภยั คกุ คามท่ีสาคญั มากท่วั
โลกต่อสภาพแวดลอ้ มทางทะเล เน่ืองจากการปฏิบตั ิดงั กล่าวไม่มี
การตรวจสอบปริมาณสารองของปลาและสตั วป์ ่ าท่ีมีประสิทธิภาพ
ทาใหก้ ารจดั การประมงอยา่ งมีประสทิ ธิภาพทาไดย้ ากมากขนึ้ เป็น
ท่ีรูก้ ันว่า ผูท้ าประมงท่ีผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไรก้ าร
ควบคุมมักใชเ้ ทคนิคการประมงท่ีไม่ย่ังยืน เช่น การลากอวนถึง
ระดบั พืน้ ทะเล ซง่ึ ก่อใหเ้ กิดความเสียหายอยา่ งถาวรตอ่ ระบบนิเวศ
ทางทะเล และบอ่ ยครงั้ ท่ีสง่ ผลกระทบในระยะยาว หรือในบางครงั้
ไม่สามารถแกไ้ ขใหก้ ลับเหมือนเดิมได้ หรือส่งผลกระทบทางลบ
หลายประการ แนวปะการงั หลายแหง่ ของไทยไดร้ บั ผลกระทบอยา่ ง
มาก สง่ ผลใหพ้ ืน้ ท่ีแนวปะการงั ลดลงอยา่ งมาก
ประเทศไทยไดพ้ ยายามลดการทาประมงท่ีผิด
กฏหมาย ขาดการรายงานและไรก้ ารควบคุม
ในช่วงไม่ก่ีปี ท่ีผ่านมาซ่ึงดูเหมือนว่าประสบ
ค ว า ม ส า เ ร็ จ บ า ง ป ร ะ ก า ร เ ม่ื อ ปี 2 5 5 8
คณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้ “ใบเหลือง” แก่
ประเทศไทยเน่ืองจากมีขอ้ สังเกตว่าขาดความ
พยายามในการแกไ้ ขปัญหาการทาประมงท่ีผิด
กฎหมาย ขาดการรายงานและไรก้ ารควบคมุ แต่
ก็ไดเ้ ห็นการปรบั ปรุงในหลายดา้ นเพ่ือจดั การกบั
ปัญหาดงั กลา่ ว ถึงแมป้ ระเทศไทยยงั ไมไ่ ดร้ บั “ใบ
เ ขี ย ว ” จ า ก ค ณ ะ ก ร ร ม า ธิ ก า ร ยุ โ ร ป ทั้ง
คณะกรรมาธิการยโุ รปและเจา้ หนา้ ท่ีท่ีรบั ผิดชอบ
ของประเทศไทยไดเ้ ปิดเผยว่า ประเทศไทยไดม้ ี
การดาเนินการและมีความกา้ วหนา้ อย่างมากใน
การลดการทาประมงท่ีผิดกฎหมาย ไม่เป็ น
ระเบียบและไม่มีการรายงานตั้งแต่การได้รับ
ใบเหลอื งในปี พ.ศ. 2558
การทุจริตเป็นขอ้ กังวลหลกั และเป็นปัจจยั หน่ึงท่ีทาให้
เกิดการทาประมงท่ีผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้
การควบคมุ ยงั คงเกิดขนึ้ อยา่ งตอ่ เน่ือง นอกจากนี้ สนิ คา้
สั ต ว์ ป่ า ท่ี ผิ ด ก ฎ ห ม า ย ซ่ึ ง ส่ ว น ใ ห ญ่ ม า จ า ก
สภาพแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทย (เช่น
กระเพาะปลา ครีบปลาฉลามบางประเภท หอยเป๋ าฮือ้
และแตงกวาทะเล) ยังมีจาหน่ายและลักลอบคา้ จาก
ประเทศไทย ซ่ึงในบางกรณีเป็นการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีโดย
ทุจริตของเจ้าหน้าท่ีบังคับใช้กฎหมาย การจัดการ
ประมงทาไดย้ ากขนึ้ เน่ืองจากการทจุ รติ ท่ีขดั ขวางความ
พยายามในการปรบั ปรุงทงั้ ดา้ นแรงงานในอตุ สาหกรรม
และการติดตามตรวจสอบกิจกรรมการประมงต่างๆ ให้
ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย
พลาสติกและขยะในรูปแบบอ่ืนๆ ท่ีไหลลงสู่ทะเลเป็นอีก
หนึง่ ความทา้ ทายท่ีสาคญั ประเทศไทยถกู จดั ใหอ้ ย่อู นั ดบั 5
หรืออันดับ 6 ของประเทศท่ีมีส่วนร่วมก่อให้เกิดขยะ
พลาสติกในมหาสมุทรมากท่ีสดุ ของโลก (ตามแหล่งข่าวท่ี
แตกต่างกัน) ซ่ึงถือว่าเป็นสัดส่วนท่ีสูงมากเม่ือเทียบกับ
ขนาดของประเทศและระดับของการพัฒนาของประเทศ
ในแต่ละปี ประเทศไทยมีจานวนขยะพลาสติกมากกว่า
1.03 ลา้ นตนั และรอ้ ยละ 3 จากจานวนนีไ้ หลส่มู หาสมทุ ร
คนท่ีอาศัยอยู่ในประเทศไทยใช้ถุงพลาสติกโดยเฉล่ีย
จานวน 8 ใบต่อวันต่อคน ส่วนใหญ่มาจากการใช้
ถุงพลาสติกบรรจุอาหารท่ีจาหน่ายในรา้ นสะดวกซือ้ และ
ซูเปอรม์ ารเ์ ก็ตในประเทศไทย รวมทงั้ ผจู้ าหน่ายอาหารริม
ถนนในไทยมักใช้ถุงพลาสติกอย่างแพร่หลายและเป็ น
จานวนหลายถงุ ตอ่ มือ้ ท่ีใหบ้ รกิ ารลกู คา้
อุตสาหกรรมตามแนวชายฝ่ ั งของไทยยังเป็ นภัยคุกคาม
พืน้ ท่ีทางทะเล เห็นได้จากรายงานน้าเสียท่ีไม่ผ่านการ
บาบดั และสารเคมีระบายลงส่ทู ะเลจานวนมาก ถึงแมจ้ ะมี
กฎหมายภาครัฐห้ามการปฏิบัติดังกล่าวก็ตาม ตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2547 มีการร่ัวไหลของน้ามันมากกว่า 12 ครั้ง
ผลกระทบจากการร่วั ไหลของนา้ มันในระยะยาวยังคงไม่
ชดั เจน แต่การร่วั ไหลเหล่านีส้ ่งผลกระทบต่อการท่องเท่ียว
ทันที ทาใหน้ ักท่องเท่ียวไม่มาท่องเท่ียวยังพืน้ ท่ีชายหาด
และชายฝ่ังทะเลของประเทศไทยและสรา้ งความเสียหาย
ต่อธุรกิจทอ้ งถ่ินหลายแห่ง ตัวอย่างการร่วั ไหลของนา้ มัน
เม่ือ พ.ศ. 2556 มีผลกระทบ “อย่างมาก” ตอ่ การท่องเท่ียว
เน่ืองจากนา้ มันดิบจานวน 50,000 ลิตร ไดไ้ หลปกคลุม
น่านนา้ โดยรอบของเกาะเสม็ด
ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศเป็นท่ี
ชดั เจนแลว้ ในประเทศไทย และกาลงั มีผลกระทบอย่าง
รุนแรงตอ่ สภาพแวดลอ้ มทางทะเล มหาสมทุ รท่ีเป็นกรด
มากขนึ้ ทาใหเ้ กิดปรากฎการณป์ ะการงั ฟอกขาวในแนว
ปะการงั หลายแห่งของประเทศไทย มหาสมุทรดูดซบั
คาร์บอนไดออกไซด์ประมาณร้อยละ 30 ของ
คารบ์ อนไดออกไซดท์ ่ีมนุษยผ์ ลิตขึน้ นับตงั้ แต่เร่ิมการ
ปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม ซง่ึ สง่ ผลใหก้ รดในมหาสมทุ รเพ่มิ ขนึ้
ถึงรอ้ ยละ 26 และเกิดความเสียหายอย่างมากต่อแนว
ปะการงั ของไทย
ค ว า ม ริ เ ร่ิ ม ด้ า น แ น ว ป ะ ก า รั ง ร ะ ห ว่ า ง ช า ติ
(International Coral Reef Initiatives
= ICRI)
เกิดจากภาคีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรฐั บาล
ระหว่างประเทศ รวมทงั้ องคก์ รนานาชาติ และองคก์ ร
เอกชน ท่ีมีจดุ ประสงคเ์ พ่ือผลกั ดนั ใหร้ ฐั บาลและองคก์ ร
ต่างๆ ดาเนินการทางด้านอนุรักษ์ฟื้ นฟู และให้ใช้
ประโยชนอ์ ย่างย่ังยืนจากทรพั ยากรแนวปะการงั และ
ระบบนิเวศอ่ืนๆ ท่ีสมั พนั ธ์กัน (เช่น ป่ าชายเลน แหล่ง
หญ้าทะเล) ซ่ึงเป็นการดาเนินการตาม Chapter
17 of Agenda 21 ของผลการประชมุ United
Nations Conference on Environment
and Development ท่ี Rio de Janeiro
ประเทศบราซิลในปี ค.ศ. 1992
ความริเร่มิ ดา้ นแนวปะการงั ระหว่างชาติ (ICRI) ได้
กาหนดปีปะการงั สากล (International Year
of the Reef = IYOR) ขนึ้ เป็นครงั้ แรกในปี พ.ศ.
2540 และครงั้ ท่ี 2 ในปี 2551 และในปี 2561 นีก้ าหนด
เป็นปีปะการงั สากลครงั้ ท่ี 3 โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พ่อื
1) สรา้ งความเขม้ แข็งใหเ้ กิดความตระหนกั ท่วั
โลก ใหเ้ ห็นถึงคณุ ค่าและภยั คกุ คามในระบบนิเวศแนว
ปะการงั และระบบนิเวศอ่ืนๆ ท่ีสมั พนั ธก์ นั (เช่น ป่าชาย
เลน แหลง่ หญา้ ทะเล)
2) ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ
ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และประชาชนในดา้ นการ
จดั การแนวปะการงั เพ่ือใหเ้ กิดภูมิตา้ นทานของระบบ
นิเวศปะการงั และระบบนิเวศอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ ง และใหม้ ี
การใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งย่งั ยืน
สาหรับในปี 2561 นี้ ตลอดทั้งปี กรมทรัพยากรทางทะเลและ
ชายฝ่ังตระหนกั ถึงความเส่ือมโทรมของแนวปะการงั ท่ีเกิดจากภยั
พิบัติทางธรรมชาติและจากนา้ มือมนุษย์ จึงมีความจาเป็นตอ้ ง
อาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการอนุรกั ษ์คุม้ ครองและ
ฟื้นฟูแนวปะการัง จึงใช้หัวข้อหลักในการดาเนินกิจกรรมในปี
ปะการงั ว่า “ประชารฐั รว่ มใจ รกั ษป์ ะการงั ไทยใหย้ ่งั ยืน” จะมีการ
ดาเนินกิจกรรมต่างๆ โดยเน้นการมีส่วนร่วมกับภาคการศึกษา
ภาคเอกชน และประชาชน เช่น โครงการทาความสะอาดแนว
ปะการงั (บา้ นปลา) โครงการติดตงั้ ท่นุ ผกู เรือ โครงการฟื้นฟูแนว
ปะการัง และระบบนิเวศอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง กิจกรรมสัมมนาทาง
วิชาการ กิจกรรมสรา้ งเครือข่ายผูป้ ระกอบการท่องเท่ียวดานา้ ท่ี
เป็นมิตรกบั ส่งิ แวดลอ้ ม กิจกรรมดา้ นอนรุ กั ษเ์ ผยแพรค่ วามรูส้ รา้ ง
ความตระหนกั ใหก้ บั เยาวชนในโอกาสต่างๆ เช่น วนั เด็ก วนั ทะเล
โลก ฯลฯ ทงั้ นี้ จะมีการอบรมอาสาสมคั รนกั ดานา้ เพ่ือรว่ มกิจกรรม
ท่ีจาเป็ นต้องมีทักษะในการดาน้าลึก รวมทั้งมีการอบรม
อาสาสมคั รในการสารวจสถานภาพแนวปะการงั
(Reef Watch) เพ่ือใหม้ ีสว่ นรว่ มในการเฝา้ ระวงั สามารถ
ตรวจตราสภาพแนวปะการัง และมีรูปแบบการรายงานท่ีเป็น
มาตรฐาน
รูจ้ กั กบั เครือขา่ ยเยาวชนไทยกบั ภารกิจ
การเปล่ยี นแปลงเพ่ือทะเลท่ีย่งั ยืน
ไม่นานมานี้ Sustainable Ocean Alliance Thailand หรอื
SOA Thailand ไดก้ ่อตงั้ ขึน้ เป็นเครอื ข่ายผนู้ าเยาวชนไทย หน่งึ ใน
165 ประเทศท่วั โลกท่ีไดร้ บั การสนบั สนนุ จากจากองคก์ รไม่แสวงผลกาไร
SOA – Sustainable Ocean Alliance ซง่ึ รเิ รม่ิ จาก
ซานฟรานซิสโก รฐั แคลิฟอรเ์ นีย สหรฐั ฯ ม่งุ บ่มเพาะความคิดเพ่ือเรียนรู้
พฒั นาและสนบั สนนุ ใหเ้ ยาวชนอายตุ ่ากวา่ 35 ปีท่ีมีใจอนรุ กั ษ์ เป็นผนู้ าลง
มือสรา้ งความเปล่ียนแปลงและฟื้นฟูสขุ ภาวะทางทอ้ งทะเลในทอ้ งถ่ินตน
ให้ย่ังยืน สอดคลอ้ งกับ #SDG14 อนุรกั ษ์และใช้ประโยชนจ์ าก
มหาสมทุ ร ทะเลและทรพั ยากรทางทะเลอย่างย่งั ยืน
โดยแมว้ ่าไทยจะมีความร่วมมือในการปกป้องและใชป้ ระโยชนจ์ ากทะเลและทรพั ยากรทางทะเล
ด้วยกันหลายฝ่ าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชนท่ัวไป สาหรับ SOA
Thailand เองไดม้ งุ่ ม่นั ท่ีจะเป็น ‘เวทีกลาง’ เช่ือมต่อและสรา้ ง ‘เครือข่าย’ องคก์ รทางทะเลไทยท่ี
เก่ียวขอ้ ง ผเู้ ช่ียวชาญ นกั วชิ าการ และผทู้ ่ีสนใจประเด็นส่งิ แวดลอ้ มทางทะเล ใหเ้ ป็น ‘เครอื ข่ายทอ้ ง
ทะเลท่ีย่งั ยืนในไทย’
ซง่ึ การเป็น ‘เวทีกลาง’ นี้ SOA Thailand จะเป็นพืน้ ท่ี
ของการแบง่ ปัน แลกเปล่ยี นมมุ มองและองคค์ วามรูท้ างทะเล
ไดอ้ ยา่ งอิสระ รวมถึงสามารถใชพ้ ืน้ ท่ีนีเ้ ขา้ มา ‘รายงาน
ปัญหา’ ทอ้ งทะเลในชมุ ชนตา่ ง ๆ ของไทย ท่ีจะนาไปสกู่ าร
รว่ มกนั ไขปัญหาความทา้ ทายและขอ้ จากดั ตามบรบิ ทของ
ไทย และพฒั นาสภาพแวดลอ้ มทางทะเลใหส้ ามารถเรง่
หาทางออกไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ
และท่ีสาคญั ท่ีสดุ คือ เป็นครงั้ สาคญั ของการเนน้ ยา้ บทบาท
‘เยาวชนไทย’ ในฐานะผนู้ าการเปล่ยี นแปลงดา้ นสขุ ภาวะทาง
ทะเล (Ocean Health) น่นั เอง
เอกสำรอำ้ งอิง
http://www.icriforum.org/node/1804
https://www.icriforum.org/about-icri/iyor
https://dmcrth.dmcr.go.th/omcrc/aboutus/?fbclid=IwAR2PvLT88Vd
Zv7ayBF4DbQo-kuN8um429lJzzwk9sReFClxiMb1AofrIobo
ขอ้ มลู เบอื้ งตน้ เก่ียวกบั SDGs - SDG Move