แบบรายงานการวจิ ยั (ว-สอศ-3)
รายงานผลโครงงานวิจยั
เร่ือง
เปิด-ปิดไฟอตั โนมตั ิด้วยระบบเซน็ เซอร์อัจฉรยิ ะ
Automatically turn on and off the light with
a smart sensor system
นางสาวจฑุ ามาศ เครือคำอ้าย รหัสนักเรียน 62202040004
นางสาวปณั ณกิ า ใจเรือง รหัสนักเรยี น 62202040017
ประจำปกี ารศกึ ษา 2564
ปีพุทธศักราช 2564-2565
วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง
อาชีวศึกษาจงั หวัดระยอง
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
กระทรวงศกึ ษาธิกา
ก
หัวข้อวิจัย เปิด-ปดิ ไฟอตั โนมตั ดิ ้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ
ผ้ดู ำเนินการวิจยั นางสาวจฑุ ามาศ เครอื คำอา้ ย
นางสาวปัณณกิ า ใจเรอื ง
ที่ปรกึ ษา นายมงคล พรมประเสริฐ
นายวิกร รตั นาธนบดี
หนว่ ยงาน วิทยาลยั เทคนคิ ระยอง
ปี พ.ศ. 2564
บทคัดยอ่
การจดั ทำโครงการคร้งั น้มี วี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือประหยัดพลังงานไฟฟ้าหรอื ชว่ ยอำนวยความสะดวก
ให้แก่ผู้คนโดยที่ไม่ต้องมาเสียเวลามาเดินปิดไฟเนื่องจากปัจจุบันมีการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
ที่ทำให้เกิดผลกระทบหลาย ๆ อย่างทั้งค่าไฟสูงขึ้น และการใช้พลังงานสิ้นเปลือง ในยุคนี้เป็นยุคที่มี
การพัฒนาของเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อย ๆ องค์ความรู้ใหม่ ๆ ทำให้มนุษย์สามารถคิดค้นสร้างสรรค์ส่ิง
ใหม่ขึ้นมา ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถทำได้หากปราศจากเทคโนโลยีเหล่านั้น และด้วยเครื่องมือทาง
วิทยาศาสตร์ที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ทั้งมีการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีในการสร้างเครื่องจักรกล
ในการผลิตสิ่งต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกของมนุษย์ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่เครื่องอำนวย
ความสะดวกของมนุษย์เพราะตอบโจทย์และสะดวกสบายและเพื่อศึกษาความพึงพอใจของ
สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่มีต่อเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์
อัจฉริยะ โดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้การเก็บประเมินผลคือ นักเรียนชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2
ห้อง 1 สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง และเครื่องมือที่ใชใ้ นการประเมินเปิด-ปิด
อัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะคือ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง
ที่มีต่อเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ซึ่งสถิตทิ ีใ่ ช้ในการวิเคราะห์คือ ค่าร้อยละ (%)
คา่ เฉลี่ย (Mean) และค่าสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลที่ได้จากความพึงพอใจของโครงการเปิด-ปิด อัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ
อยู่ในระดับที่มากที่สุด ( ̃ = 4.58 , S.D. = 0.57) ซึ่งโดยรวมถือว่าผ่านเกณฑ์ตามวัตถุประสงค์
เมื่อพิจารณาจากแบบทดสอบ 3 ด้านที่มคี ่าเฉลยี่ จากมากไปน้อย ไดแ้ ก่ ด้านการออกแบบภาพรวมอยู่
ในระดับมากที่สุด ( ̃ = 4.70 , S.D. = 0.63) ด้านผลสัมฤทธิ์พบว่าอยู่ในภาพรวมอยู่ในระดับที่มาก
ที่สุด ( ̃ = 4.59 ,S.D. = 0.57) และด้านการใช้งานภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̃ = 4.57
, S.D. = 0.48) ตามลำดบั
ข
กติ ติกรรมประกาศ
โครงการวิจัยฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความกรุณาอย่างสูงจากนายวิกร
รัตนาธนบดี และนายมงคล พรมประเสริฐ อาจารย์ที่ปรึกษางานวิจัยที่กรุณาอนุมัติเห็นชอบในการ
จัดทำโครงการและให้การสนบั สนุน ให้คำแนะนำปรึกษาและข้อคดิ เหน็ อันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ค้นคว้า ตลอดจนปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่อย่างดียิ่ง ผู้วิจัยตระหนักถึง
ความตั้งใจจริงและความทุ่มเทของอาจารย์และขอกราบขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ ทน่ี ี้
ขอขอบคุณคณะครูอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคระยอง แผนกเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลที่คอยใหค้ วาม
ช่วยเหลือดา้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ในเรอ่ื งเนอื้ หา และรูกภาพในการทำโครงการ อีกท้ังยังได้
ช่วยอนะนำโครงการ และให้ความชวยเหลือด้านในการจัดทำรูปเล่มโครงงาน และขอขอบคุณ
ครอบครัว คณะเพื่อนร่วมห้องระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยี
ธุรกิจดิจิทัล ที่ได้ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ และนักเรียนระดีบประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1
สาขาวิชาชีพเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ที่ได้ให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามจนทำให้
โครงการวจิ ยั คร้ังน้ี สำเร็จลลุ ่วงไปได้ด้วยดี
ท้ายสุดนี้คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานวิจัยฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้า
อยไู่ ม่น้อย จึงขอมอบส่วนดีทง้ั หมดนใี้ หแ้ กเ่ หลา่ คณะครอู าจารย์ที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาจนทำให้ผล
งานวิจัยเป็นประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องและผู้มีพระคุณทุกท่าน สำหรับข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่อาจจะ
เกิดขึ้น คณะผู้วิจัยขอน้อมรับผิดและยินดีที่จะรับฟังคำแนะนำจากทุกท่านที่ได้เข้ามาศึกษาเพื่อเป็น
ประโยชนใ์ นการพัฒนางานวจิ ยั ตอ่ ไป
คณะผู้วิจยั
2564
สารบัญ หนา้
เร่ือง
ก
บทคดั ย่อ ข
กติ ติกรรมประกาศ ค
สารบัญ จ
สารบัญตาราง ฉ
สารบญั ภาพ
บทท่ี 1 บทนำ 1
2
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ 2
1.2 วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 2
1.3 ขอบเขตการวิจยั 2
1.4 ขอ้ จำกัด 2
1.5 สมมติฐานการวิจยั 3
1.6 คำจำกัดความท่ีใชใ้ นการวจิ ัย
1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5
บทท่ี 2 แนวคดิ ทฤษฎี เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวข้อง 6
2.1 กระบวนการทำงานของไฟฟา้ 7
2.2 เซน็ เซอรต์ รวจจับความเคลอื่ นไหว 7
2.3 ทฤษฎีการตรวจจับเซน็ เซอร์ 8
2.4 ทฤษฎีเกย่ี วกับการเคลอื่ นไหวของรา่ งกายมนุษย์ 9
2.5 ทฤษฎเี กีย่ วข้องกับ Arduino 10
2.6 สถิติการใช้ไฟในประเทศไทย 11
2.7 งานวิจัยท่ีเก่ยี วขอ้ ง
2.8 กรอบแนวคิด 12
บทที่ 3 วิธดี ำเนนิ การวิจยั 12
3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง 12
3.2 การสร้างเคร่ืองมือในการวจิ ยั 18
3.3 การดำเนินการวิจัย 20
3.4 แผนผังงาน 20
3.5 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
3.6 การสถติ ิท่ใี ชแ้ ละวธิ ีวเิ คราะหข์ ้อมูล
สารบญั (ต่อ) หน้า
เรื่อง
22
บทท่ี 4 ผลการวิจัย
4.1 ผลการดำเนินการ 29
29
บทท่ี 5 สรปุ อภิปราย และข้อเสนอแนะ 30
5.1 สรปุ อภปิ รายผล
5.2 ขอ้ เสนอแนะ 32
46
บรรณานุกรม 49
ภาคผนวก 52
ภาคผนวก ก
ภาคผนวก ข
ภาคผนวก ค
ประวัตผิ ู้วิจัย
สารบญั ตาราง หนา้
ตารางที่
22
4.1 แสดงจำนวนของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ 23
4.2 แสดงจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ 24
4.3 แสดงความพงึ พอใจด้านการออกแบบ 25
4.4 แสดงความพงึ พอใจดา้ นการใชง้ าน 26
4.5 แสดงความพึงพอใจด้านผลสัมฤทธิ์ 27
4.6 แสดงสถิติความพงึ พอใจของนักเรียนนักศึกษากบั เปิด-ปิดไฟอัตโนมตั ิด้วย
ระบบเซน็ เซอร์อจั ฉรยิ ะ
สารบญั ภาพ หนา้
ภาพท่ี
6
2.1 แสดงความเข้มของแสง 6
2.2 แสดงเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคล่ือนไหว 7
2.3 แสดงการก้ม 8
2.4 แสดงการวง่ิ 8
2.5 แสดงตวั บอรด์ Arduino 9
2.6 แสดงรูปสถติ ิการใชไ้ ฟฟา้ ในประเทศไทย 11
2.7 แสดงกรอบแนวคิดการวจิ ยั 13
3.1 แสดงคอมพวิ เตอร์ 13
3.2 แสดงโลโกโ้ ปรแกรม Arduino 13
3.3 แสดงแผงอาดูโน่ 13
3.4 แสดงโฟโต้บอร์ด 14
3.5 แสดงรีเลย์ 14
3.6 แสดงสามจั๊มเปอร์ 14
3.7 แสดงเซ็นเซอรอ์ นิ ฟราเรด 14
3.8 แสดงหลอดไฟ 15
3.9 แสดงการเขียนโค้ดการทำงานของช้นิ งาน 15
3.10 แสดงการประกอบอปุ กรณ์ 16
3.11 แสดงการต่อสายจั๊มเปอร์ 16
3.12 แสดงการทำช้นิ สว่ นโมเดล 17
3.13 แสดงการประกอบโมเดล 17
3.14 แสดงช้ินงานเปิด-ปดิ ไฟอัตโนมตั ดิ ้วยระบบเซ็นเซอร์อจั ฉรยิ ะ 18
3.15 แสดงแผนผงั การดำเนินการวิจยั 19
3.16 แสดงแผนผงั ช้ินงาน 22
4.1 แสดงแผนภมู จิ ำแนกตามเพศ 23
4.2 แสดงแผนภูมิจำแนกตามอายุ 24
4.3 แสดงแผนภมู ิความพึงพอใจด้านการออกแบบ 25
4.4 แสดงแผนภูมิความพงึ พอใจด้านการใช้งาน 26
4.5 แสดงแผนภมู คิ วามพึงพอใจด้านผลสัมฤทธิ์ 28
4.6 แสดงแผนภมู ิสถติ ิรวมความพึงพอใจ
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญ
เน่อื งจากปจั จุบันมีการใช้พลังงานอย่างส้นิ เปลืองท่ีทำให้เกิดผลกระทบหลาย ๆ อย่าง ทั้งค่าไฟ
สูงขึ้นและการใช้พลังงานสิ้นเปลือง เมื่อกล่าวถึงการประหยัดพลังงานทุกคนจะนึกภาพการลดใช้
พลังงานน้ำมัน หรือลดการใช้ไฟฟ้า เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราที่สุดและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
ทุกคนจะนำไปปฏิบัติและจะเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ง่ายที่สุดและเห็นผลชัดเจนที่สุด ทั้งค่าไฟแต่ละเดือน
ลดลง เมื่อเป็นเช่นนั้นก็สรุปได้ว่าเราได้ประหยัดพลังงานมากขึ้น แต่จริง ๆ ยังมีอีกหลายวิธีที่เรา
สามารถช่วยกนั ประหยดั พลังงานและเป็นวิธีง่าย ๆ ที่เราสามารถทำไดด้ ว้ ยตัวเองท้งั สิ้น
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตเพราะวิวัฒนาการเหล่านั้นแทรกซึม
อยู่ในทุกตารางการใช้ชีวิตของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย
ต่อการดำรงชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี
การสร้างเคร่อื งจกั รกลในการผลติ สิ่งต่าง ๆ เพอ่ื อำนวยความสะดวกของมนุษย์ ไมว่ ่าจะหันไปทางไหน
ก็มีแต่เครื่องอำนวยความสะดวกของมนุษย์เพราะตอบโจทย์และสะดวกสบาย มนุษย์ให้ความสำคัญ
กับเทคโนโลยีมาก เพื่อการใช้งานท่ีเป็นประโยชน์ และใช้งานอย่างมีประสิทธิภ าพ
ที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์จึงให้ทั้งผลดีและผลเสียต่าง ๆ ตามมาเพราะมนุษย์
อยู่กันเป็นสังคมซึ่งสังคมนั้นก็คือคนหมู่มากแล้วเมื่อมีคนมากก็ต้องมีผลต่าง ๆ ตามมา
การนำเทคโนโลยีมาใช้จึงให้ทั้งผลดีและผลเสียนั้นเอง จึงต้องมีความรู้และเลือกใช้เทคโนโลยี
ที่เหมาะสมกับสภาพสังคม เศรษฐกิจ และความต้องการของประเทศพร้อมทั้งเตรียมแนวทาง
ในการรับมอื กับปัญหาทีพ่ ร้อมจะเกิดขน้ึ ได้ทกุ เมือ่ จากการใชเ้ ทคโนโลยีท้ังที่นึกถงึ และคาดไม่ถึง
ซึ่งที่ผู้วิจัยจัดทำโครงงานนี้เนื่องจากบางครั้งการที่เราทำการเปิดไฟและเมื่ อหลังจากเสร็จ
ภารกิจต่าง ๆ อาจจะมีการลืมปิดไฟ ซึ่งผลที่ตามมาคือทำให้พลังงานสูญเปล่าและส้ินเปลืองพลงั งาน
เปลืองค่าใช้จ่าย และพลังงานมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศรวมไปถึงมีความสำคัญตอ่ การดำรง
ชีวิตประจำวันของมนุษย์ ยิ่งมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุก ๆ ปี ตามจำนวนประชากร และการเติบโต
ทางเศรษฐกิจ แต่ความต้องการในการใช้พลังงานกลับสวนทางกับปริมาณของพลังงาน
ทม่ี อี ยู่อย่างจำกัด ดังนัน้ การประหยัดพลงั งาน และการรูจ้ ักใชอ้ ยา่ งรู้คุณค่า จึงเป็นสิ่งท่ที ุกคนในสังคม
มีความจำเป็นต้องช่วยกันอย่างเต็มท่ี เพื่อให้พลังงานทั้งหลาย มีเพียงพอที่จะใช้ต่อไปในอนาคต
จนกว่าเราจะสามารถหาหรื อพัฒนาพลังงานรูปแบบอื่น ๆ มาทดแทนพลังงานที่เรา
ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งช่วงนี้เป็นสถานการณ์โควิด19 ซึ่งจะช่วยลดการสัมผัสให้น้อยลงได้ ผู้วิจัย
จึงนำโครงงานนี้มาประยกุ ตเ์ พอ่ื ตอบสนองในความสะดวกสบาย และประหยัดพลงั งานไปในตัว
2
1.2 วัตถุประสงค์ของการวจิ ัย
1.2.1 เพ่อื ศึกษาเทคโนโลยีเครือขา่ ยเซ็นเซอร์และการควบคุมอัตโนมัติ
1.2.2 เพอื่ ประยุกต์และนำความรู้ที่ได้เรยี นมาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์
1.2.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของกลมุ่ ตวั อย่างที่ใชง้ านระบบเปิด-ปดิ ไฟด้วยระบบเซน็ เซอร์
1.3 ขอบเขตการวิจัย
1.3.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา
1.3.1.1 ศึกษาการทำงานของระบบเซน็ เซอรว์ ่าสามารถใช้งานไดห้ รือไม่
1.3.1.2 ศกึ ษาการทำงานของระบบเซ็นเซอรว์ า่ มกี ารทำงานอยา่ งไร
1.3.2 ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง
นกั เรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้นั ปที ่ี 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธรุ กจิ
ดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนประกาศนียบัตร
วชิ าชีพ ชัน้ ปที ่ี 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง
1.3.3 ขอบเขตด้านเวลา
เดือนกรกฎาคม 2564 – เดือนตลุ าคม 2564
1.4 ข้อจำกัด
ถา้ มีคนเขา้ พร้อมกนั หลาย ๆ คนอาจทำใหเ้ ซ็นเซอรไ์ มส่ ามารถตรวจจับได้ท้ังหมด
1.5 สมมติฐานการวิจัย
ตวั แปรตน้ คือ เปิด-ปิดไฟอตั โนมัติ
ตัวแปรตาม คือ ไฟตดิ -ไฟดบั อตั โนมตั ิ
ตัวแปรควบคมุ คือ ระบบเซ็นเซอร์
1.6 คำจำกัดความท่ีใช้ในการวจิ ัย
1.6.1 ไฟฟ้า หมายถึง พลังงานรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากการแยกตัวออกมา หรือการเคลื่อนท่ี
ของอิเลก็ ตรอน หรือโปรตอน ใช้ประโยชน์ในการสร้างพลงั งานอ่ืน
1.6.2 ระบบเซ็นเซอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถรับและตอบสนองแสง
ความร้อน ความเข้มของสนามแม่เหล็ก เป็นต้น ที่มาสัมผัสใช้เป็นส่วนประกอบใน
เคร่อื งตรวจจับ เครอ่ื งจักร โรงงานหุ่นยนต์ เปน็ ต้น
1.6.3 อัตโนมัติ หมายถึง ระบบที่ทำงานผ่านการควบคุมจากคอมพิวเตอร์ อาจจะเป็น
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเริ่มทำงานได้ด้วยตัวเองตามโปรแกรมที่มนุษย์เป็น
ผู้ควบคุมไว้
3
1.6.4 อจั ฉริยะ หมายถึง วิเศษน่าอัศจรรย์ มคี วามร้คู วามสามารถเกนิ กวา่ ระดับปรกติมาก
1.7 ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ
1.7.1 ทำให้มคี วามรู้เรื่องเทคโนโลยีเครอื ข่ายเซน็ เซอร์และการควบคมุ อัตโนมัติ
1.7.2 ทำใหส้ ามารถประยุกตแ์ ละนำความรู้ทไี่ ด้เรียนมาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
1.7.3 ทำใหท้ ราบความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างท่ีใชง้ านระบบเปิด-ปิดไฟด้วยระบบเซน็ เซอร์
บทที่2
แนวคดิ ทฤษฎี เอกสารและงานวิจยั ท่เี กีย่ วข้อง
ในการดำเนินงานเพื่อค้นคว้าและสร้าง “เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ”
คณะผู้จัดทำได้รวบรวมแนวคดิ ทฤษฎีและหลักการต่าง ๆ จากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เปน็
ขอ้ มูลพื้นฐาน ดังนี้
2.1 กระบวนการทำงานของไฟฟ้า
2.1.1 ความเข้มของแสง (light intensity)
2.2 เซน็ เซอรต์ รวจจับความเคลอ่ื นไหว (motion senser)
2.3 ทฤษฎกี ารตรวจจับเซน็ เซอร์
2.3.1 ปัจจัยทสี่ ่งผลตอ่ ระยะการตรวจจับ
2.3.1.1 ปัจจยั ภายนอก
2.3.1.2 ปัจจัยภายใน
2.4 ทฤษฎีเกยี่ วกับการเคลอ่ื นไหวของร่างกายมนุษย์
2.4.1 การเคล่อื นไหวแบบไมเ่ คลอ่ื นท่ี
2.4.2 การเคล่อื นไหวแบบเคล่อื นท่ี
2.5 ทฤษฎีเกี่ยวข้องกบั Arduino
2.6 สถิตกิ ารใช้ไฟในประเทศไทย
2.7 งานวิจยั ทเี่ กีย่ วข้อง
2.8 กรอบแนวความคดิ
5
2.1 กระบวนการทำงานของไฟฟ้า
ในระบบจา่ ยไฟฟ้าจะมีการแปลงแรงดนั ไฟฟา้ สลบั ใหม้ ขี นาดสงู มาก ๆ เช่นใหม้ ีขนาดเป็น 48kV
หรอื 24kV เพื่อลดขนาดของลวดตวั นำ ท่ีตอ้ งใช้ในการจ่ายไฟฟ้าเป็นระยะทางไกล ๆ เม่ือถึงปลายทาง
ก่อนที่จะจ่ายไฟฟ้าไปให้แก่บ้านเรือนต่าง ๆ ก็จะแปลงระดับแรงดันไฟฟ้าให้ลดลงเป็น 220 V
เพอ่ื ลดอันตรายที่จะเกิดแกผ่ ู้ใช้ไฟฟา้ และเม่ือต้องการใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใชร้ ะดับแรงดันต่ำ ๆ เช่น
6V หรือ 9V ก็จะต้องมีการแปลงดนั ไฟฟา้ ตามบ้านจาก 220 V เป็นระดับแรงดนั ไฟฟา้ ตามที่ต้องการ
อุปกรณท์ ท่ี ำหนา้ ที่ดังกลา่ ว เราเรียกว่า หม้อแปลงไฟฟา้ (Transformer)
2.1.1 ความเข้มของแสง (light intensity)
ความเข้มของแสง (Light Intensity) สามารถวัดได้หลายค่า เช่น แรงเทียน
lumen lux แรงเทียน หรือ candle power มีหน่วยเป็น cd หรือ candle 1 cd
หมายถึง เม่ือเราเอาแหล่งกำเนิดแสง มาวางไว้ที่กลางวัตถุทรงกลม มีรัศมี 1 ฟุต ใน
พื้นที่ 1 ตารางฟุตนั้น จะวัดความสว่างได้เท่ากับ 1 ฟุต-แคนเดิล (1 fc or หรือเท่ากับ
1 lumen/ ft2) อาจเรียกย่อว่า 1 lumen (lm) นั่นคือในพื้นที่ทรงกลม 1 ตารางฟุต
จะมีแสงมาตก 1 เส้นหรือ 1 lumen Lumen เป็นการวัด flux หรือว่าพลังงานแสง
ออกมาจากแหล่งกำเนดิ นัน้ ๆ เท่าไหร่ในเวลาหน่ึง (วดั เฉพาะ แสงช่วงสายตามองเห็น
ไม่ใช่พลังงานทั้งหมด) Lux เป็นการวัด illumination หรือ ความส่องสว่าง (flux คือ
พลังงานแสงที่ออกจากจุดกำเนิดแต่ illumination เป็นพลังงานแสงที่ตกกระทบตัว
พื้นผิว) หากต้องการแปลง หน่วยก็สามารถแปลงได้งา่ ย ๆ คือ 1 fc (foot-candle) =
1 lumen / ft2 1 fc = 1/10.76 lumen / m2 หรือ lux 1 fc = 0.09 lux 1 lux =
10.76 fc = 10.76 lm/ft2
Power Consumption วัดออกมาเป็น Wattage หรือ watt พูดง่าย ๆ ก็เป็น
ค่าใช้จ่ายที่คณุ จะต้องเสียจากการใช้หลอด มักจะสัมพันธ์กับความสว่างของหลอดไฟ
ยิ่งวัตต์มากแสงที่ได้จะเข้มกว่าวัตต์น้อย แต่ก็ไม่เสมอไปเมื่อเทียบกับ หลอดต่างชนิด
กันในวัตต์เท่า ๆ กันการให้ ความสว่างก็ต่างกบั หลอดแต่ละชนดิ ปริมาณแสง หน่วย
การวัดปริมาณแสงที่นยิ มใช้ในงานวิศวกรรม คือการวัดในรูปของเส้นแรงของแสง ซ่ึง
มีหน่วยเป็น ลูเมน (Lumen) และหน่วยที่แสดงการส่องสว่าง หรือความสว่างจะใช้
หนว่ ยลักซ์ (Lux) ซง่ึ เปน็ ค่าเสน้ แรงของแสงที่ตกบนพ้ืนที่ 1 ตารางเมตร นั่นคอื Lux
= Lumen/m2 = lm/m2
โดยการบอกค่าปริมาณแสงที่ออกมาจากหลอดใด ๆ ก็จะบอกเป็นค่าลูเมน เช่น
หลอดฟลูออเรสเซนส์ สี Cool White 36 W. 1 หลอด มีค่า Lumen Output
ประมาณ 3,000 ลูเมน หลอดฟลูออเรสเซนต์สี Day Light 36 W. 1 หลอด มีค่า
6
Lumen Output ประมาณ 2,700 ลเู มน ฯลฯ ประสทิ ธิภาพของหลอดไฟ จะพจิ ารณา
จาก เส้นแรงของแสงที่ออกมาจากหลอดต่อกำลังวัตต์ของหลอดไฟ บางครั้งเรียกว่า
Efficacy มีหน่วยเป็น Lumen/Watt เช่น หลอดไส้มีประสิทธิภาพทางแสงประมาณ
15 Lumen/W. หลอดฟลูออเรสเซนต์ Cool White มีประสิทธิภาพทางแสงประมาณ
80 Lumen/W
ภาพที่ 2.1 แสดงความเขม้ ของแสง
2.2 เซน็ เซอรต์ รวจจับความเคลอ่ื นไหว (motion senser)
PIR เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว Motion Sensor Module ตรวจจับความเคลื่อนไหว
จากความร้อน เมื่อมีคนเดินผ่านก็จะจับค่าความร้อนที่เปลี่ยนแปลงแล้วส่งค่า สัญญาณมีไฟออกมา
ในกรณีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงส่งค่าไม่มีไฟออกมาเราสามารถนำค่าน้ีไปสั่งควบคุม Arduino
หรือ GoGo board ได้สามารถปรับเวลาหน่วงเวลาในการตรวจจับคร้ังต่อไปได้ปรับระยะทางการ
ตรวจจบั ได้ 3-7 เมตร มีช่องให้ตอ่ LDR เพมิ่ เพ่ือให้ทำงานตรวจจับแค่ตอนกลางคืน
ภาพท่ี 2.2 แสดงเซน็ เซอรต์ รวจจบั ความเคลอื่ นไหว
7
2.3 ทฤษฎกี ารตรวจจับเซ็นเซอร์
2.3.1 ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะการตรวจจับ ระยะเซ็นเซอร์การตรวจจับของ Capacitive
Proximity Sensor นั้น จะขนึ้ อยู่กับปจั จยั ตา่ ง ๆ ซ่งึ จะแบง่ ออกเป็นปัจจัยภายนอกและภายใน
2.3.1.1 ปัจจัยภายนอกจะได้แก่ปริมาณของพื้นที่ผิวของวัตถุท่ีต้องการตรวจจับ
และ ค่าไดอิเล็กทริคของตวั กลางระหว่างวัตถแุ ละเซ็นเซอร์ซ่ึงปกตกิ ็จะเป็น
อากาศอุณหภูมิและความชื้น ซึ่งนอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรื่องของความถ่ี
ในการตรวจจับของวัตถุอกี ดว้ ย
2.3.1.2 ปัจจัยภายใน ของตัวเซ็นเซอร์จะได้แก่ ส่วนที่เป็นพื้นที่แอคทีฟ (Active
surface) ของเซ็นเซอร์ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้ายิ่งมีพื้นที่มากก็จะสง่ ผลให้ระยะ
ทำงในการตรวจจับของ เซน็ เซอรน์ ้นั มีระยะท่ีไกลมากยิ่งข้ึน
2.4 ทฤษฎเี กีย่ วกับการเคล่ือนไหวของรา่ งกายมนุษย์
ระบบการเคลื่อนไหวและกล้ามเนื้อ ระบบการเคลื่อนไหวของร่างกายอาศัยการทำงานของ
กล้ามเนื้อลายเป็นตัวออกแรงทำงาน โดยอาศัยกระดูกเป็นคาน และข้อต่อเป็นจุดหมุน โดยทั่วไปมี
2 ลักษณะคอื การเคลอื่ นไหวแบบไมเ่ คลอ่ื นที่ และการเคลอ่ื นไหวแบบเคลื่อนที๋
2.4.1 การเคลื่อนไหวแบบไม่เคลื่อนท่ี เป็นการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวโดยที่
ร่างกายอยู่กับที่ เช่น การหุบปาก อ้าปาก การยกไหล่ขึ้นลง กระพริบตาเป็นต้น ส่วน
ท่าทางในการปฏิบัติภารกิจประจำวันและท่าทางที่ใช้ในการออกกำลังกาย เล่นกีฬา
เช่น การกม้ การยดื เหยียด การบดิ ตวั ฯลฯ
ภาพท่ี 2.3 แสดงการก้ม
8
2.4.2 การเคลือ่ นไหวแบบเคลอื่ นท่ี
การเคลื่อนไหวที่ต้องเคลื่อนออกจากจุดยืนเดิมการเคลื่อนไหวแบบนี้ขึ้นอยู่กับการใช้
เท้าเป็นสำคญั โดยการก้าวเทา้ ออกไป ในลักษณะต่าง ๆ กัน เช่น การเดิน การวิ่ง การกระโดด
ไปขา้ งหนา้ และข้างหลัง เป็นต้น
ภาพท่ี 2.4 แสดงการวงิ่
2.5 ทฤษฎเี ก่ยี วข้องกับ Arduino
ส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ (Hardware) บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กท่ีมีไมโครคอนโทรลเลอร์
(MCU) เป็นชิ้นส่วนหลัก ถูกนำมาประกอบร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการ
ใช้งาน หรือที่เรียกว่า บอร์ด Arduino,โดยบอร์ด Arduino เองก็มีหลายรุน่ ให้เลือกใช้โดยในแต่ละรนุ่
อาจมีความแตกต่างกันในเรื่อง ของขนาดของบอร์ด หรือสเปกเช่น จำนวนของการรับส่งสัญญาณ,
แรงดนั ไฟท่ใี ช้,ประสทิ ธิภาพของ MCU เปน็ ตน้
ภาพท่ี 2.5 แสดงตวั บอรด์ Arduino
9
ส่วนที่เป็นซอฟต์แวร์ (Software) ภาษา Arduino (ซ่ึงจริง ๆ แล้วก็คือ ภาษาC/C++) ใช้
สำหรับเขียนโปรแกรมควบคุม MCU Arduino IDE เป็นสำหรับเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Arduino,
คอมไพลโ์ ปรแกรม (Compile) และอัปโหลดโปรแกรมลงบอรด์ (Upload)
Arduino ถูกใช้ประโยชน์ในลักษณะเดียวกับ MCU คือใช้ติดต่อสื่อสารและควบคุมอุปกรณ์
ไฟฟ้าอื่น ๆ ด้วยการเขียนโปรแกรมให้กับ MCU เพื่อควบคุมการรับส่งสัญญาณทำงานไฟฟ้าตาม
เงื่อนไขต่าง ๆ ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Arduino ในชีวิตประจำวัน เช่น ระบบเปิด/ปิดไฟในบ้าน
อัตโนมัติ,ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ,ระบบเปิด/ปิดประตูอัตโนมัติ,ระบบเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
หรือใชค้ วบคุมความเรว็ และทิศทางการหมุนของคมุ มอเตอร์ เป็นตน้
2.6 สถติ ิการใชไ้ ฟในประเทศไทย
สํานักงานโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นหน่วยงานหน่ึงที่มีบทบาทสําคัญในกระทรวง
พลังงานมีภารกิจหลักในการวางนโยบายและแผนพลังงาน รวมถึงมาตรการในการบริหารจัด
การพลังงานของประเทศโดยคํานึงถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ควบคู่ไปกับการรักษาส่ิงแวดล้อม
การดําเนินงานดังกล่าวมีความจําเป็นต้องใช้ข้อมูลสนับสนุนจํานวนมาก เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และ
จัดทําข้อเสนอแนะด้านพลังงานแก่ผู้บริหารด้วยเหตนี้สนพ. จึงได้จัดทําหนังสือรายงานสถิติพลังงาน
ของประเทศไทยขน้ึ เพ่ือตดิ ตามสถานการณ์พลงั งานของประเทศอย่างต่อเน่ือง
ภาพที่ 2.6 แสดงรูปสถติ ิการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย
10
2.7 งานวิจยั ท่เี กยี่ วขอ้ ง
(บุญส่ง ทรงประทีปกุล และคณะ 2560) ได้วิจัยเรื่องการระบบเปิด-ปิด ไฟห้องเรียนอัตโนมัติ
เพื่อการประหยัดไฟฟ้าเบื้องต้นในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๓ จังหวัดพิษณุโลก โดยอาศัย
อุปกรณ์ที่ทำข้ึนมาโดยใช้เซ็นเซอร์ (senser) ในการตรวจจับและประมวล โดยควบคุมโดยแผงวงจร
(GoGo board) โดยอาศัยหลักการง่าย ๆ คือในเวลากลางวัน น้ันแสงกระทบกบั ตวั เซ็นเซอร์วัดความ
เข้มของแสงจะทำให้วงจรนั้นสั่งการระบบให้ปิดไฟโดยอัตโนมัติส่วนเวลากลางคืนนั้น แสงจะน้อยทำ
ให้ระบบให้เปิดไฟโดยอัตโนมัติและใช้เซ็นเซอร์อีกหนึ่งตัวคือเซ็นเซอร์ตรวจจับความ เคลื่อนไหว
(motion senser) ซ่ึงใช้ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวโดยอาศัยการผ่านหรือการเคลื่อนไหววัตถุจะ
ทำให้ระบบนนั้ ส่งั เปิดไฟโดยอัตโนมัตเิ ชน่ กนั
(ณัฐพงศ์ กง่ิ พฤกษ และคณะ 2552) ได้ทำการวิจัยเรื่องสวิตช์เปิด-ปิดอัตโนมัติควบคุมด้วยแสง
อินฟราเรด วิทยาลัยภเู ก็ต จังหวดั ภเู กต็ วัตถปุ ระสงคเ์ น่ืองจากในปัจจุบัน ไดม้ ีการพฒั นาส่ิงของตา่ ง ๆ
ให้มีความก้าวหน้ามากย่ิงขึ้นจนทุกวันนี้ได้มีเครือ่ งใช้ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์มากมายตา่ ง ๆ เพราะความ
เป็นอิเล็กทรอนิกส์นั้น สามารถทำให้เราได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งข้ึน จนทำให้เราเกิดความ
สบายจนเคยตัวเลยทำใหล้ ืมปิดการใช้งานต่าง ๆ ของอปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกสเ์ หล่านัน้ และผลที่ตามมา
นั้นก็คือ ทำให้ค่าใช้จ่ายเราเพิ่มมากขึ้น เมื่อเราทราบถึงปัญหาเช่นนี้แล้วเราก็ได้ศึกษาค้นคว้าหาวิธที ี่
จะทำให้ช่วยลดปัญหาเหล่านั้นจนหมดไปได้ ก็คือ “สวิตช์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ตรวจสอบด้วยแสง
อินฟราเรด” อุปกรณ์ตัวนี้สามารถทำให้ปัญหาเรื่อง การสิ้นเปลืองพลังงานลดลงได้อย่างมาก เพราะ
ว่าอุปกรณ์ตัวนี้ใช้วัสดุที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด และมีแหล่งจ่ายพลังงานภายในตัวเอง
โดยไม่ต้องใช้แหลง่ จา่ ยจากไฟบา้ นใหส้ นิ้ เปลือง พลังงาน และอกี ท้ังจะสามารถแก้ไขปัญหาการลืมปิด
อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ในบ้านด้วย โดยได้ตั้งสมมติฐานการค้นคว้าเอาไว้
ว่า จะสามารถประหยัดพลังงานจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทีเ่ ปิดทง้ิ ไว้แล้วลืมปิด ถงึ กวา่ ร้อยละ 65 เป็นผลทำ
ให้ประหยดั คา่ ไฟฟ้าตลอดจนช่วยลดสภาวะโลกร้อนในอนาคต
(ธีรวินท์ ถาใจ และคณะ 2554) ได้ทำการวิจัยเรื่องชุดสาธิตเซ็นเซอร์แสงตัดไฟอัตโนมัติ
เนอื่ งจากคนในยคุ ปจั จุบนั ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวติ มากข้นึ ทำให้มกี ารคิดคน้ โปรเจคนี้
ขึ้นมาโดยที่เซ็นเซอร์ตัดไฟนี้จะเป็นวงจรที่จะคอยทำการปิดไฟเมื่อมีแสงอาทิตย์ขึ้นมาตอน เช้าทำให้
ประหยัดไฟในตอนเช้า วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประหยัดไฟในตอนเช้า เพื่อเป็นสิ่งอำนวยความ
สะดวกในการปดิ ไฟ เพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาในการใชง้ านต่อไป
(อารียา เฉยสวัสดิ์ และคณะ 2558) ได้ทำการวิจัยเรื่องโครงงานเซ็นเซอร์แสงเปิด-ปิดไฟ
เนื่องจากคนในยุคปัจจุบันต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยที่เซ็นเซอร์ตัดไฟนี้จะ
ค่อยทำการปดิ ไฟเมอ่ื มแี สงสว่างมากพอท่ีจะทำให้ไฟปิดในตอนเชา้ ซง่ึ จะทำให้ประหยัดไฟได้มากข้ึน
11
วัตถุประสงค์มีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และสามารถนำมาใช้
จรงิ
2.8 กรอบแนวคดิ การวจิ ัย
ตวั แปรต้น ตวั แปรตาม
การใชพ้ ลังงานอย่างส้นิ เปลือง เปิด-ปิดไฟอตั โนมตั ิ
ด้วยเซ็นเซอรอ์ จั ฉรยิ ะ
ภาพที่ 2.7 แสดงกรอบแนวคดิ การวิจัย
บทท3่ี
วธิ ีการดำเนินการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างเปิด-ปิด อัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ลดการใช้
พลังงานอย่างสิ้นเปลืองแก่ผู้ใช้งาน เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนประกาศนียบัตรชั้นปีที่ 2
ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ิทลั วทิ ยาลยั เทคนิคระยอง ท่ีมีตอ่ โครงงานเปิด-ปิด อัตโนมัติด้วย
เซ็นเซอร์อัจฉริยะ เผยแพร่ผ่านโครงการประกวดโครงงานวิชาชีพ ชมรมวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
วทิ ยาลัยเทคนิคระยอง ซง่ึ คณะผูว้ ิจยั ไดด้ ำเนนิ การศกึ ษาดงั นี้
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
นักเรียนประกาศนียบัตรชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิค
ระยอง เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนประกาศนียบัตรชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยี
ธรุ กิจดจิ ทิ ัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง
3.2 การสรา้ งเคร่อื งมือในการวิจยั
3.2.1 เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการสรา้ งชิ้นงาน เปิด-ปดิ อัตโนมตั ิด้วยเซ็นเซอรอ์ ัจฉรยิ ะ ไดแ้ ก่
คอมพิวเตอร์ทีใ่ ชส้ ำหรบั เขยี นโค้ด โปรแกรม Arduino แผงอาดโู น่ โฟโตบ้ อร์ด รีเลย์
สายจั๊มเปอร์ เซ็นเซอรอ์ นิ ฟราเรด หลอดไฟ
3.2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน นักเรียนประกาศนียบัตรชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชา
เทคโนโลยธี ุรกจิ ดจิ ิทัล วทิ ยาลยั เทคนิคระยอง เพอ่ื ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ประกาศนียบัตรชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิค
ระยอง
3.3 การดำเนินการวิจยั
การดำเนินการวจิ ยั มีขั้นตอนดงั น้ี
3.3.1 ข้ันเตรียม
3.3.1.1 วางแผนสืบค้นอุปกรณ์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบเซ็นเซอร์ และ
โปรแกรมที่ใช้ในการเขยี นโคด้
3.3.1.2 เตรียมอุปกรณ์และโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างชิ้นงาน คอมพิวเตอร์
และอนิ เทอรเ์ น็ต,Arduino,อุปกรณต์ า่ ง ๆ
3.3.2 ขนั้ ตอนการดำเนนิ การ
3.3.2.1 เตรียมอุปกรณแ์ ละโปรแกรมท่ีใชใ้ นการทำงาน
13
ภาพท่ี 3.1 แสดงคอมพิวเตอร์
ภาพท่ี 3.2 แสดงโลโก้โปรแกรม Arduino
ภาพท่ี 3.3 แสดงแผงอาดูโน่
ภาพท่ี 3.4 แสดงโฟโตบ้ อร์ด
14
ภาพที่ 3.5 แสดงรีเลย์
ภาพที่ 3.6 แสดงสายจั๊มเปอร์
ภาพท่ี 3.7 แสดงเซ็นเซอร์อนิ ฟราเรด
ภาพที่ 3.8 แสดงหลอดไฟ
15
3.3.2.2 เปดิ เครื่องคอมพิวเตอร์ให้พร้อมใช้งานเข้าโปรแกรม Arduino เพ่ือทำการ
เขยี นโคด้ ลงบอรด์
ภาพที่ 3.9 แสดงการเขียนโค้ดการทำงานของชิ้นงาน
3.3.2.3 นำสายไฟมาตอ่ กับรีเลย์นำรีเลยแ์ ละเซน็ เซอร์มาต่อกับบอรด์ Arduino
ภาพที่ 3.10 แสดงการประกอบอุปกรณ์
16
3.3.2.4 จากน้นั ต่อสายจั๊มป์ตวั ผู้-ผู้ เพอื่ จ๊ัมปไ์ ฟ5v จากบอร์ด Arduino มาลงในโฟ
โตบ้ อร์ดเพอ่ื เพ่ิมอนภุ าคในการจา่ ยไฟให้เพียงพอ
ภาพท่ี 3.11 แสดงการต่อสายจั๊มเปอร์
3.3.2.5 ตรวจสอบการทำงานว่าไฟติดและดับไดโ้ ดยอตั โนมัตหิ รือไม่
3.3.2.6 นำไมท้ ่ีใช้ทำโมเดลมาวัดขนาดทเี่ หมาะสม และทำการตัดใหเ้ รยี บรอ้ ย
ภาพที่ 3.12 แสดงการทำช้นิ ส่วนโมเดล
17
3.3.2.7 นำไมท้ ีต่ ัดมาประกอบใหส้ มบรู ณ์เปน็ โครงสร้างห้องเรียน
ภาพท่ี 3.13 ประกอบโมเดล
3.3.2.8 นำเซ็นเซอร์ที่ประกอบเสร็จแล้วมาประกอบเข้ากับโมเดลห้องเรียนให้
เรียบร้อย
ภาพที่ 3.14 ชน้ิ งานเปิด-ปิด อัตโนมัตดิ ว้ ยเซน็ เซอรอ์ ัจฉรยิ ะ
3.3.2.9 สามารถทำงานและใชง้ านได้จริง
18
3.4 แผนผงั งาน
3.4.1 แผนผงั การดำเนนิ การวิจัย
ภาพที่ 3.15 แสดงแผนผังการดำเนนิ การวิจัย
19
3.4.2 แผนผงั ชนิ้ งาน
ภาพที่ 3.16 แสดงแผนผงั ชนิ้ งาน
20
3.5 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
3.5.1 การจัดทำแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ
ช้ันปีที่ 2 หอ้ ง 1 สาขาวชิ าเทคโนโลยีธุรกจิ ดจิ ทิ ัล วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง ทมี่ ีต่อเปิด-ปิด
อัตโนมัตดิ ว้ ยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ
3.5.2 การอธิบายข้นั ตอนการทำงานของเปิด-ปิด อตั โนมตั ิด้วยระบบเซน็ เซอร์อัจฉริยะ
และการทำแบบประเมินความพงึ พอใจ
3.5.3 การนำการเปิด-ปิด อตั โนมตั ิด้วยระบบเซน็ เซอร์อัจฉริยะไปใช้กบั กลุ่มตัวอย่างและ
ทำการทดสอบการเปดิ -ปดิ อัตโนมัติด้วยระบบเซน็ เซอรอ์ จั ฉรยิ ะ
3.5.4 การแจกแบบประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ
ช้ันปที ี่ 2 หอ้ ง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีธรุ กิจดิจทิ ัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ทม่ี เี ปิด-ปิด
อตั โนมตั ิด้วยระบบเซน็ เซอร์อัจฉริยะ และทำการประเมินหลงั การใช้เปดิ -ปดิ อัตโนมตั ิดว้ ย
ระบบเซน็ เซอร์อัจฉรยิ ะ
3.5.6 การนำข้อมูลมาวิเคราะหส์ รปุ อภปิ รายผล
3.6 การสถิตทิ ่ใี ช้และวิธวี ิเคราะหข์ ้อมลู
3.6.1 การสถิตทิ ใ่ี ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมูล ได้แก่ คา่ ร้อยละ (%) คา่ เฉลย่ี (Mean) ค่าส่วน
เบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.) ดงั นี้
3.6.1.1 การค่าร้อยละ (%) โดยใชส้ ตู ร
รอ้ ยละ = × 100
โดยท่ี
แทน จำนวนท่ีต้องการหาร้อยละ
แทน จำนวนข้อมูลท้ังหมด
3.6.1.2 การคา่ เฉลย่ี (Mean) โดยใช้สูตร = ∑
โดยท่ี
แทน คา่ เฉล่ีย
∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
แทน จำนวนทัง้ หมด
3.6.1.3 การค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใชส้ ูตร
21
โดยท่ี
. . แทน ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน
∑ แทน ผลรวมท้งั หมดของคะแนน
∑ 2 แทน ผลรวมของคะแนนยกกำลังสองท้งั หมด
แทน จำนวนท้ังหมด
3.6.2 การวิธีการวเิ คราะห์ขอ้ มูล
ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการรวบรวมจะดำเนนิ การแปลความหมายของคา่ เฉลย่ี ในแตล่ ะด้าน
โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบ่งออกเปน็ 5 ระดบั ดงั น้ี
คา่ เฉลี่ย 4.50 – 5.00 หมายถึง มากท่ีสดุ
คา่ เฉล่ีย 3.50 – 4.49 หมายถึง มาก
คา่ เฉลี่ย 2.50 – 3.49 หมายถึง ปานกลาง0
คา่ เฉลย่ี 1.50 – 2.49 หมายถึง นอ้ ย
คา่ เฉลี่ย 1.00 – 1.49 หมายถึง น้อยทส่ี ุด
บทท่ี 4
ผลการวจิ ัย
การดำเนินโครงการครั้งนี้ได้มีการติดตามการประเมิน ผู้ประเมินผลดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล
และแปรความตามลำดบั ดังน้ี
4.1 ผลการดำเนินการ
ผลการดำเนนิ การโครงการเปิด-ปดิ อตั โนมัตดิ ้วยระบบเซ็นเซอร์อจั ฉริยะจากการวเิ คราะห์ข้อมลู
ทัว่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดจำนวน 25 คน
ตารางท่ี 4.1 แสดงจำนวนของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ
กลุ่มที่1 เพศ จำนวน รอ้ ยละ
1 ชาย 7 28
2 หญิง 18 72
รวม 25 100
จากตารางที่ 4.1 พบว่าจำนวนของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ ไดแ้ ก่ เพศชาย จำนวน
7 คน คิดเปน็ จำนวนรอ้ ยละ 28 และเพศหญิง จำนวน 72 คน คดิ เป็นจำนวนรอ้ ยละ 72
แผนภูมิแสดงจำแนกตามเพศ
ภาพที่ 4.1 แผนภมู จิ ำแนกตามเพศ
23
ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนของผตู้ อบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ
กลุม่ ที่ อายุ จำนวน รอ้ ยละ
1 16-17 12 48
52
2 18-19 13 0
100
2 20 ปีขึ้นไป 0
25
รวม
จากตารางท่ี 4.2 พบวา่ จำนวนของผ้ตู อบแบบสอบถามจำแนกอายุ ไดแ้ ก่ 16 - 17 ปี จำนวน
12 คน คิดเป็นจำนวนร้อยละ 48 และ 18- 19 ปี จำนวน 13 คน คิดเป็นจำนวนร้อยละ 52
แผนภูมิแสดงจำแนกตามอายุ
ภาพท่ี 4.2 แผนภมู จิ ำแนกตามอายุ
24
ตารางที่ 4.3 แสดงความพงึ พอใจด้านการออกแบบ
เรอ่ื งการประเมนิ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบ่ยี งเบน ระดับความ
มาตรฐาน พงึ พอใจ
( S.D )
1.วัสดุทใี่ ชม้ ีความเหมาะสม 4.56 0.58 มากทส่ี ดุ
2.ชนิ้ งานโครงงานมีความแขง็ แรง 4.52 0.65 มากท่ีสดุ
3.ขนาดของชิ้นงานมีความเหมาะสม 4.32 0.75 มากทส่ี ดุ
4.47 0.63 มากทสี่ ุด
รวมท้ังส้นิ
จากตารางที่ 4.3 พบว่าความพึงพอใจด้านการออกแบบอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̃ = 4.22 ,
S.D. = 0.70) เม่ือพจิ ารณาแล้ววัสดุท่ใี ช้มีความเหมาะสม ( ̃ = 4.67 , S.D. = 0.57) ชิน้ งานโครงงาน
มีความแข็งแรง ( ̃ = 4.00 , S.D. = 1.00) ขนาดของชิ้นงานมีความเหมาะสม ( ̃ = 4.00
, S.D. = 1.00) ตามลำดับ
แผนภมู แิ สดงความพึงพอใจดา้ นการออกแบบ
ภาพที่ 4.3 แผนภมู ิแสดงความพงึ พอใจด้านการออกแบบ
25
ตารางท่ี 4.4 แสดงความพงึ พอใจด้านการใช้งาน
เร่ืองการประเมิน คา่ เฉลยี่ สว่ นเบ่ยี งเบน ระดบั ความ
มาตรฐาน พงึ พอใจ
( S.D )
1.การใช้งานงา่ ยมีความเหมาะสม 4.60 0.50 มากท่สี ดุ
2.ชนิ้ งานมคี วามปลอดภยั 4.48 0.51 มาก
3.เพม่ิ ความสะดวกและ 4.58 0.50 มากทีส่ ุด
ประหยดั เวลา
รวมทั้งสิ้น 4.57 0.48 มากทสี่ ดุ
จากตารางที่ 4.4 พบว่าความพึงพอใจด้านการออกแบบอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̃ = 4.57 ,
S.D. = 0.48) เมื่อพิจารณาแล้วการใช้งานง่ายมีความเหมาะสม ( ̃ = 4.60 , S.D. = 0.50) ชิ้นงาน
มีความปลอดภัย ( ̃ = 4.48 , S.D. = 0.51) เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลา ( ̃ = 4.58 ,
S.D. = 0.48) ตามลำดับ
แผนภูมิแสดงความพึงพอใจด้านการใชง้ าน
ภาพท่ี 4.4 แผนภมู ิแสดงความพงึ พอใจดา้ นการใช้งาน
26
ตารางท่ี 4.5 แสดงควาพึงพอใจด้านผลสัมฤทธ์ิ
เรอื่ งการประเมิน ค่าเฉลีย่ สว่ นเบ่ยี งเบน ระดับความ
มาตรฐาน พึงพอใจ
1.สามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้จรงิ 4.56 ( S.D )
มากที่สดุ
0.58
2.ชว่ ยอำนวยความสะดวก 4.56 0.58 มากทส่ี ุด
3.ความพงึ พอใจของผใู้ ช้งานที่มีตอ่ 4.64 0.64 มากที่สุด
โครงงาน
รวมท้ังส้ิน 4.59 0.57 มากทสี่ ุด
จากตารางที่ 4.5 พบว่าความพึงพอใจด้านผลสัมฤทธิ์อยู่ในระดับมากที่สุด ( ̃ = 4.59 ,
S.D. = 0.57) เมื่อพิจารณาแล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ( ̃ = 4.56 , S.D. = 0.58)
ช่วยอำนวยความสะดวก ( ̃ = 4.56 , S.D. = 0.58) เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลา
( ̃ = 4.64 , S.D. = 0.64) ตามลำดบั
แผนภูมแิ สดงความพึงพอใจด้านผลสมั ฤทธ์ิ
ภาพท่ี 4.5 แผนภูมิแสดงความพงึ พอใจด้านผลสัมฤทธ์ิ
27
ตารางที่ 4.6 แสดงสถิติความพงึ พอใจของนักเรยี นนกั ศกึ ษากับเปิด-ปดิ อัตโนมตั ดิ ้วยระบบ
เซ็นเซอร์อัจฉรยิ
คา่ เฉลีย่ สว่ นเบ่ยี งเบน ระดับความ
มาตรฐาน พึงพอใจ
เรอื่ งการประเมนิ ( S.D )
ด้านการออกแบบ
1. สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 4.56 0.58 มากทส่ี ุด
2. ชว่ ยอำนวยความสะดวก 4.52 0.65 มากที่สดุ
3. ความพงึ พอใจของผู้ใช้งานทมี่ ีต่อ 4.32 0.75 มากที่สุด
โครงงาน
รวม 4.70 0.63 มากที่สดุ
ด้านการใช้งาน
1. การใช้งานงา่ ยมคี วามเหมาะสม 4.60 0.50 มากทส่ี ดุ
2. ชน้ิ งานมีความปลอดภัย 4.48 0.51 มาก
3. เพิม่ ความสะดวกและประหยัดเวลา 4.58 0.50 มากท่ีสดุ
รวม 4.57 0.48 มากทส่ี ดุ
ด้านผลสัมฤทธิ์
1.สามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้จริง 4.56 0.58 มากที่สดุ
2.ชว่ ยอำนวยความสะดวก 4.56 0.58 มากที่สุด
3.ความพงึ พอใจของผใู้ ช้งานท่ีมตี ่อ 4.64 0.64 มากทส่ี ุด
โครงงาน
รวม 4.59 0.57 มากทส่ี ดุ
รวมท้ังสิ้น 4.62 0.75 มากท่ีสดุ
28
จากตารางที่ 4.6 พบว่าความพึงพอใจของโครงการเปิด-ปิด อัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์
อัจฉริยะ อยู่ในระดับที่มากที่สุด ( ̃ = 4.58 , S.D. = 0.57) ซึ่งโดยรวมถือว่าผ่านเกณฑ์ตาม
วัตถุประสงค์ เมื่อพิจารณาจากแบบทดสอบ 3 ด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านการ
ออกแบบภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̃ = 4.70 , S.D. = 0.63) ด้านผลสัมฤทธิ์พบว่าอยู่ใน
ภาพรวมอยู่ในระดับที่มากที่สุด ( ̃ = 4.59 , S.D. = 0.57) และด้านการใช้งานภาพรวมอยู่ในระดับ
มากทส่ี ุด ( ̃ = 4.57 , S.D. = 0.48) ตามลำดับ
แผนภูมิแสดงสถติ ิรวมความพงึ พอใจ
ภาพท่ี 4.6 แผนภมู ิแสดงสถิตริ วมความพงึ พอใจ
บทที่ 5
สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ
การดำเนินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่มีต่อ
เปิด-ปดิ ไฟอตั โนมตั ิดว้ ยระบบเซ็นเซอร์อัจฉรยิ ะ
ในการประเมินผลคร้งั นี้ให้กลุ่มประเมินจากการใชง้ านแบบประเมินความพงึ พอใจเพ่ือใช้งานใน
โครงการ และใหก้ ลุ่มประเมนิ ทำแบบประเมินคุณภาพ การดำเนนิ โครงการสร้างแบบประเมนิ ความพึง
พอใจเพื่อใช้งานเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ และนำแบบประเมินที่ได้ไปหา
ประสทิ ธิภาพโดยใชส้ ูตรหาค่าเฉล่ยี STDEV
5.1 สรปุ อภิปรายผล
5.1.1 ขอ้ มลู ท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
จากการประเมินโครงการเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ เพื่อ
ใช้งานในโครงการแบบประเมนิ ความพึงพอใจ ผลที่ได้คือจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินความ
พึงพอใจจำแนกตามเพศ เพศชายคิดเป็นร้อยละ 28 เพศหญงิ คดิ เป็นรอ้ ยละ 72 ของประชากรทง้ั หมด
5.1.2 ความพงึ พอใจดา้ นต่าง ๆ
ความพงึ พอใจของโครงการเปิด-ปิด อตั โนมัตดิ ้วยระบบเซ็นเซอร์อจั ฉริยะ อยู่ใน
ระดับที่มากที่สุด ( ̃ = 4.58 , S.D. = 0.57 ) ซึ่งโดยรวมถือว่าผ่านเกณฑ์ตามวัตถุประสงค์ เม่ือ
พิจารณาจากแบบทดสอบ 3 ด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านการออกแบบภาพรวมอยู่ใน
ระดบั มากทีส่ ุด ( ̃ = 4.70 , S.D. = 0.63 ) ดา้ นผลสัมฤทธ์พิ บว่าอย่ใู นภาพรวมอยู่ในระดับทีม่ ากที่สุด
( ̃ = 4.59 , S.D. = 0.57 ) และด้านการใช้งานภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( ̃ = 4.57 , S.D. =
0.48 ) ตามลำดบั
5.2 ข้อเสนอแนะ
5.2.1 ข้อเสนอแนะจากการทำโครงการ
1) ควรศกึ ษาระบบเซน็ เซอร์กับช้นิ งานและพฒั นาปรับปรุงยงิ่ ข้ึน
2) ศึกษาอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ที่ใช้ในช้นิ งาน
5.2.2 ข้อเสนอแนะเพ่ือทำโครงการตอ่ ไป
1) ควรปรบั ปรุงเรอ่ื งระบบเซน็ เซอร์
2) ควรปรับปรงุ อปุ กรณต์ ่าง ๆ ในชนิ้ งาน
บรรณานกุ รม
ฉวีวรรณ ดวงทาแสง อิสระ แสนโคก ศุภชัย ฤทธิ์เจริญวัตถุ และสุภกร หาญสูงเนิน.
(2018).ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟภายห้องแบบอัตโนมัติ,แหล่งข้อมูล: http://www.
rdi.rmutsb.ac.th/2011/digipro/P. สบื ค้นเม่ือวันท่ี 1 ธันวาคม 2564.
ณัฐพงศ์ กิ่งพฤกษ์ และดิน ตั้งประเสริฐ.(2017).สวิตช์เปิด-ปิดอัตโนมัติควบคุมด้วยแสง
อินฟราเรด,แหล่งข้อมูล:http://www.ptc.ac.th/ptc/menu%20index/artefact/data%20pro
ject/8.pdf.สบื คน้ เมื่อวันที่ 5 ธนั วาคม 2564.
มุหัมมัด มั่นศรัทธา, มูฆอฟฟัล มูดอ, อับดุลเลาะ สะนอยานยา และซุลกีฟลี กะเด็ง.
(2018).ระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติภายใน ห้องน้ำโดยใช้โครงข่ายเซ็นเซอร์ไร้สาย,แหล่งข้อมูล:
ESP8266/NodeMCU.https://www.tcithaijo.org/index.php/pnujr/article/view/85614/680
96.สืบค้นเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565
สามารถ ยืนยงพานิช.(2018).ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ผ่านเว็บบราวเซอร์,แหล่งข้อมูล:
conference.nu.ac.th/nrc12/downloadPro.php?pID=281&file=281.pdf.สืบค้นเมื่อวันที่ 5
มกราคม 2565
เจ้าของร้าน.(2018).วิธีการติดตั้ง Arduino IDE,แหล่งข้อมูล:https://www.ab.in.th./
article.net. สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 8 ตุลาคม 2564.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
แบบเสนอขออนมุ ัติโครงการ
แบบเสนอโครงการวิจยั สิ่งประดิษฐข์ องคนรนุ่ ใหม่
(ว-สอศ-2)
ประจำปีการศึกษา 2564
ปพี ุทธศกั ราช 2563 - 2564
ผลงานสงิ่ ประดิษฐ์ประเภทท่ี 6
ส่งิ ประดิษฐด์ า้ นวตั กรรมซอฟต์แวร์และระบบสมองกลฝงั ตัว
เปดิ -ปดิ ไฟอตั โนมตั ิด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉรยิ ะ
Automatically turn on and off the light with
a smart sensor system
วิทยาลัยเทคนคิ ระยอง
อาชวี ศึกษาจังหวดั ระยอง
สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรวงศกึ ษาธิการ
34
สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา แบบ ว-สอศ-2
(สำหรับนักเรยี น นกั ศึกษา)
แบบเสนอโครงการวิจัยสิง่ ประดษิ ฐข์ องคนรนุ่ ใหม่ “สุดยอดนวัตกรรมอาชวี ศึกษา”
การประกวดสงิ่ ประดิษฐข์ องคนรนุ่ ใหม่ ประจำปีการศกึ ษา 2564
ปีพทุ ธศักราช 2563 - 2564
......................................................................
ชอื่ ผลงานวิจัย (ภาษาไทย) เปิด-ปิดไฟอตั โนมัติดว้ ยระบบเซนเซอร์อัจฉริยะ
(ภาษาอังกฤษ) Automatically turn on and off the light with a smart sensor
system
ช่ือสถานศกึ ษา วิทยาลัยเทคนิคระยอง อาชีวศกึ ษา ระยอง
ทอ่ี ยู่ 086/13 ตำบล ทา่ ประดู่ อำเภอ เมือง จงั หวัด ระยอง
เบอรโ์ ทรศพั ท์ 038-611-160 , 038-611-192 E-mail [email protected]
สว่ น ก : ลักษณะงานวิจยั
งานวิจัยใหม่ งานวจิ ัยต่อเน่อื งระยะเวลา..........…..ปี
ความสอดคล้องระดับชาติ
1. แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติฉบับที่ 12
ยุทธศาสตร์ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยง่ั ยืน
2. นโยบายและยทุ ธศาสตร์การวจิ ัยของชาตฉิ บบั ที่ 9
ยุทธศาสตร์ ส่งเสริมกลไกและกิจกรรมการนำกระบวนการวิจัยผลงานวิจัย
องค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีจากงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริง
โดยความร่วมมอื ของภาคส่วนตา่ ง ๆ
3. ยุทธศาสตร์การวจิ ัยของชาติรายประเดน็
ยุทธศาสตร์ การพฒั นาเทคโนโลยี
4. ยุทธศาสตร์ประเทศ
ยุทธศาสตร์ การพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ัย และนวตั กรรม
5. นโยบายรฐั บาล/เป้าหมายของรัฐบาล
นโยบาย/เป้าหมาย การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี การวจิ ัยและพัฒนานวัตกรรม
35
ความสอดคล้องระดบั กระทรวง
1. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ
นโยบาย การศึกษาเพื่ออาชีพและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศ
2. ยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ
ยุทธศาสตร์ ผลิตและพัฒนากำลังคน รวมทั้งงานวิจัยที่สอดคล้องกับความ
ตอ้ งการของประเทศ
3. ยุทธศาสตร์สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
ยทุ ธศาสตร์ ด้านการสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั
ความสอดคลอ้ งระดับส่วนภูมิภาค
1. ยุทธศาสตร์กล่มุ จังหวัดภาคตะวันออก
ยุทธศาสตร์ สง่ เสรมิ และพฒั นาอตุ สาหกรรมให้เป็นมติ รต่อส่ิงแวดลอ้ ม
2. จงั หวัดระยอง
ยุทธศาสตร์ การพฒั นาความเปน็ เลศิ ดา้ นการศกึ ษา ศาสนา ศลิ ปะ วัฒนธรรม
ภมู ิปัญญาท้องถ่ินและการกีฬา
3. พันธกิจหรือนโยบายของสถานศึกษา/สถาบันการอาชวี ศึกษา
พันธกิจหรือนโยบาย มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อส่งผลไปสู่ความเข้มแข็งของ
สถาบันและชมุ ชนใหส้ อดคลอ้ งกบั ภมู ปิ ัญญาของท้องถิน่
โครงการวิจัยน้ี สามารถนำไปเผยแพร่และขยายผลไปสู่การใช้ประโยชน์ได้
เชิงนโยบาย(ระบุ) .................................................................................
เชงิ พาณิชย์ (ระบุ) .................................................................................
เชงิ วิชาการ (ระบ)ุ .................................................................................
เชิงพนื้ ที่ (ระบุ)......................................................................................
เชงิ สาธารณะ/สงั คม เปน็ ประโยชน์ต่อคนรุ่นหลงั ทจ่ี ะศึกษาโครงงานน้ี
และสามารถนำไปปรบั ใช้ไดอ้ ีก
อืน่ ๆ(ระบ)ุ ...........................................................................................
36
ภาพแบบรา่ ง/หรือภาพผลงานส่งิ ประดิษฐ์
สว่ น ข : องค์ประกอบในการจัดทำโครงการวิจยั
1. ผู้รับผิดชอบประกอบดว้ ย
1.1 หวั หนา้ ทีมโครงการวจิ ยั
ชอ่ื นางสาวปณั ณิกา นามสกุล ใจเรือง
ตำแหน่ง นกั ศึกษา
ท่ีอยู่ 50/12 ซอยบ้านพลง ถนนสุขุมวิท23 ตำบลมาบตาพุด
อำเภอเมือง จังหวดั ระยอง
เบอร์โทรศัพท์ 0934632024
E-mail [email protected]
1.2 นักวิจัยรุน่ ใหม่/คณะผู้ร่วมวจิ ัย
1.2.1 ชอื่ นางสาวจฑุ ามาศ นามสกุล เครือคำอ้าย
ตำแหน่งนกั ศึกษา
ระดบั ช้ัน ปวช.3/1สาขาวชิ า เทคโนโลยีธุรกิจดจิ ทิ ัล
1.3 คณะผู้ร่วมวจิ ัย/ท่ีปรกึ ษาโครงการวิจัย
1.3.1 ชือ่ นายมงคล นามสกุล พรมประเสรฐิ
ตำแหนง่ ครอู ัตราจ้าง
แผนกวิชา เทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ทิ ัล
สาขาวิชาทเ่ี ชยี่ วชาญ –
37
1.3.2 ชอ่ื นายวิกร นามสกุล รัตนาธนบดี
ตำแหนง่ ครูอัตราจ้าง (ครูสอนพเิ ศษ)
แผนกวชิ าเทคโนโลยีธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล
สาขาวิชาที่เชี่ยวชาญ นวตั กรรมซอฟต์แวร์และระบบสมองกลฝังตวั
1.4 หน่วยงานหลกั วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง แผนกวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
1.5 หน่วยงานสนับสนุน(ถ้าม)ี
1.5.1 หนว่ ยงานภาครัฐ วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง
1.5.2หน่วยงานภาคเอกชน
1.6 อ่นื ๆ ………………………………………………………………………………………………….…
2. ประเภทการวิจยั
การวิจัยและพัฒนา (research and development)
3. สาขาวิชาการ/ประเภทสิ่งประดษิ ฐข์ องคนรนุ่ ใหม่
สง่ิ ประดิษฐแ์ ละนวตั กรรมท่ีทำการวิจยั ประเภทที่ 1
สง่ิ ประดิษฐ์ดา้ นพัฒนาคุณภาพชีวิต
สง่ิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรมท่ีทำการวจิ ัย ประเภทที่ 2
สิง่ ประดิษฐ์ด้านการประกอบอาชีพ
ส่งิ ประดิษฐแ์ ละนวตั กรรมที่ทำการวิจัย ประเภทที่ 3
ส่งิ ประดิษฐ์ดา้ นเพ่อื การอนุรกั ษพ์ ลังงาน
สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมท่ีทำการวิจยั ประเภทที่ 6
ส่ิงประดิษฐ์ดา้ นนวัตกรรมซอฟตแ์ วร์และระบบสมองกลฝังตวั
สง่ิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรมท่ีทำการวจิ ัย ประเภทท่ี 9
สิง่ ประดิษฐ์ประเภทกำหนดโจทย์ : Mini Smart Farms
3. คำสำคญั (keywords) ของการวิจยั
4.1 ไฟฟา้ หมายถึง พลังงานรูปแบบหนึ่งท่ีเกิดจากการแยกตวั ออกมา หรือการ
เคล่อื นท่ีของอเิ ลก็ ตรอน หรอื โปรตอน ใชป้ ระโยชน์ในการสร้างพลังงานอ่นื
4.2 ระบบเซ็นเซอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถรับและ
ตอบสนองแสง ความร้อน ความเข้มของสนามแม่เหล็ก เป็นต้น ที่มาสัมผัสใช้เป็น
สว่ นประกอบในเคร่อื งตรวจจับ เครื่องจักร โรงงานหุ่นยนต์ เปน็ ต้น
4.3 อตั โนมตั ิ หมายถึง ระบบท่ีทำงานผ่านการควบคุมจากคอมพวิ เตอร์ อาจจะ
เป็น อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่ีสามารถเรม่ิ ทำงานไดด้ ้วยตวั เองตามโปรแกรมที่มนุษย์
เปน็ ผคู้ วบคุมไว้
38
4.4 อัจฉริยะ หมายถึง วิเศษน่าอัศจรรย์ มีความรู้ความสามารถเกินกว่าระดับ
ปรกติมาก
5. ความสำคญั และท่ีมาของปัญหาทที่ ำการวิจัย
เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง ที่ทำให้เกิดผลกระทบ
หลายๆอย่าง ทั้งค่าไฟสูงขึ้นและการใช้พลังงานสิ้นเปลือง เมื่อกล่าวถึงการประหยัด
พลังงาน ทุกคนจะนึกภาพการลดใช้พลังงานน้ำมัน หรือลดการใช้ไฟฟ้า เพราะเป็น
เรื่องที่ใกล้ตัวเราที่สุดและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทุกคนจะนำไปปฏิบัติและจะ
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ง่ายที่สุดและเห็นผลชัดเจนที่สุด ทั้งค่าไฟแต่ละเดือนลดลง เม่ือ
เป็นเชน่ นั้นกส็ รุปได้ว่าเราได้ประหยัดพลังงานมากข้นึ แตจ่ ริงๆยังมีอีกหลายวิธีที่เรา
สามารถช่วยกันประหยัดพลังงานและเป็นวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
ทัง้ สนิ้
ในยุคนเ้ี ปน็ ยุคที่มีการพฒั นาของเทคโนโลยมี ากขึน้ เรื่อย ๆ ทั้งมีการคิดค้น
และพัฒนาเทคโนโลยีในการสร้างเครื่องจักรกล ในการผลิตสิ่งต่าง ๆ เพื่ออำนวย
ความสะดวกของมนุษย์ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่เคร่ืองอำนวยความสะดวกของ
มนษุ ยเ์ พราะตอบโจทย์และสะดวกสบาย
ซึง่ ท่ีผู้วจิ ยั จัดทำโครงงานนี้เนอ่ื งจากบางคร้ังการที่เราทำการเปิดไฟและเม่ือ
หลังเสร็จภารกจิ ต่าง ๆ อาจจะมีการลืมปดิ ไฟ ซ่ึงท่ตี ามมาคือทำให้พลังงานสูญเปล่า
และสิ้นเปลืองพลังงาน เปลืองค่าใช้จ่าย และช่วงนี้เป็นสถานการณ์โควิด19 ซึ่งจะ
ช่วยลดการสัมผัสให้น้อยลงได้ ผู้วิจัยจึงนำโครงงานนี้มาประยุกต์เพื่อตอบสนองใน
ความสะดวกสบาย และประหยัดพลงั งานไปในตวั วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย
6. วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั
6.1 เพอื่ ศึกษาเทคโนโลยเี ครอื ขา่ ยเซ็นเซอรแ์ ละการควบคมุ อัตโนมัติ
6.2 เพอ่ื ประยกุ ต์และนำความรทู้ ่ไี ด้เรียนมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
6.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้งานระบบเปิด-ปิดไฟดว้ ยระบบ
เซ็นเซอร์
7. ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยนี้สามารถที่จะสามารถเปิด-ปิดไฟโดยอัตโนมัติ สามารถเข้าออกทางประตู
ไหนก็ได้เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับร่างกายการเคลื่อนไหวได้หลอดไฟจะสว่างข้ึน
แต่เมื่อเซ็นเซอร์จับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวภายในห้อง จะเริ่มนับถอยหลังภายใน
ห้อง จะเริ่มนับถอยหลังภายใน 3 นาที จากนั้นจะมีการแจ้งเตือนผ่านไลน์ไปหา
เจา้ ของ
39
ห้องว่าต้องการปิดไฟหรือไม่ ถ้าเจ้าของห้องไม่ตอบภายใน 5 นาที ไฟจะดับลงเอง
โดยอตั โนมตั ิ
8. ทฤษฎี สมมุติฐาน (ถ้ามี) และกรอบแนวความคิดของการวิจัยหรือแบบร่าง ในการ
ดำเนินงานเพื่อที่จะศึกษาและค้นคว้าการประดิษฐ์ เปิด-ปิดไฟด้วยระบบเซ็นเซอร์
คณะผู้จัดทำได้รวบรวมแนวคิด ทฤษฎีและหลกั การต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมลู พืน้ ฐาน
ดังน้ี
8.1 ระบบไฟฟ้า
8.2 การทำงานของโปรแกรม ARDUINO
8.3 ระบบเซ็นเซอร์
8.1 กระบวนการทำงานของไฟฟา้
ระบบไฟฟ้า หมายถึง ลักษณะการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าจากแหล่งกำเนิดไปยัง
ผู้ใช้ไฟฟ้า ตามประเภทการใช้งาน โดยส่งจากสถานีไฟฟ้าผ่านสายไฟฟ้าแรงสูง
สถานีไฟฟ้าย่อย หม้อแปลงแปลงไฟฟ้าให้ต่ำลงไปยังบ้านพักอาศัยสำนักงาน
หรือโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่บ้านเรือนทั่วไปนั้นก็ใช้
หลักการไหลแบบเดียวกัน คือ เริ่มจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ณ โรงงานผลิตไฟฟ้า
ผ่านกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงมาตามสายไฟฟ้า (ซึ่งประกอบด้วยเส้นลวดอะลูมิเนียม
จำนวนมาก) มาจนกระทั่งถึงสถานีไฟฟ้าย่อย ซึ่งมีหม้อแปลงแรงดันไฟฟ้าให้สูงข้ึน
หรือต่ำลงได้ตามความต้องการใช้งาน จะทำให้มีการสูญเสียแรงดันไฟฟ้าส่วนหน่ึง
เมื่อส่งไฟฟ้ามาถึงพื้นที่ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าก็จะต้องลดแรงดันไฟฟ้าลงระดับหนึ่ง
เพื่อลดอันตราย เมื่อแปลงแรงดันไฟฟ้าให้พอเหมาะแล้วก็จะสง่ ตามสายไฟฟ้ามายัง
หม้อแปลงแรงดันไฟฟ้าที่ติดอยู่ตามเสาไฟฟ้าในแหล่งชุมชนนั้น ๆ เพื่อแปลง
แรงดันไฟฟ้าอีกครั้งก่อนส่งผ่านเข้าสู่อาคารบ้านเรือน เมื่อมีการใช้ไฟฟ้าจาก
กิจกรรมต่าง ๆ ในอาคารบ้านเรือนก็จะไหลกลับไปตามสายไฟฟ้าอีกเส้นหน่ึง
สู่แหล่งกำเนิดอีกครั้ง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการครบวงจรการไหลของกระแสไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าทีก่ ารไฟฟ้า ฯ ส่งจ่ายไปยงั บา้ นเรือนทว่ั ไปเรยี กว่าระบบไฟฟ้าแรงดนั ต่ำ
8.2 การทำงานของโปรแกรม ARDUINO มีฟังก์ชันหลักอยู่ 2 ฟังก์ชันได้แก่
- ฟังก์ชัน Setup คือฟังก์ชันหลักสำหรับการทำงาน จะทำงานเพียง 1 ครั้งหลังจาก
ได้รันโปรแกรมและจะทำการไปทำงานในฟังก์ชันถัดไป คือ ฟังก์ชัน Loop
- ฟังก์ชัน Loop คือฟังก์ชันการทำงานของฟังกช์ ัน Loop จะทำงานวนซ้ำไปเร่ือย ๆ
เรยี นวา่ infinite loop การทำงานท่ีไมม่ ีสนิ้ สุด
40
8.3 โปรแกรมและแอปพลิเคชันทใี่ ช้
1. โปรแกรม Arduino lDE 1.6.9
ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนางานสำหรับบอร์ด Arduino นั่นคือโปรแกรมท่ี
เรียกว่า Arduino lDE ในการเขียนโปรแกรมและคอมไพล์ลงบอร์ด lDE ย่อมาจาก
(Integrated DevelopmentEnvironment) คือ ส่วนเสริมของระบบการพัฒนา
หรือตัวช่วยต่าง ๆ ที่จะคอยช่วยเหลือ Developer หรือช่วยเหลือคนที่พัฒนา
Application เพ่อื เสรมิ ใหเ้ กดิ ความรวดเร็ว ถกู ต้อง แมน่ ยำ ตรวจสอบระบบที่จัดทำ
ไดท้ ำใหก้ ารพัฒนางานตา่ ง ๆ เรว็ มากข้นึ
9. การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ (information) ทเ่ี ก่ยี วข้อง
-
10. การสบื คน้ จากฐานข้อมูลสทิ ธบิ ตั ร
-
11. เอกสารอา้ งอิงของการวจิ ัย
แหลง่ ข้อมลู https://sites.google.com/site/fifalaeamaehelkhlak-kar-
thangan
แหลง่ ขอ้ มลู https://medium.com/@pattanapong.sriph/-ep-1-
โปรแกรม Arduino lDE 1.6.9 แหล่งขอ้ มูล https://www.ab.in.th/article.net
12. ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ ับ
12.1 อำนวยความสะดวกสบายตอ่ ผใู้ ช้
12.2 เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผ้ทู ี่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และ ช่วย
ปอ้ งกนั ผใู้ ชจ้ ากไฟฟา้ ท่มี กี ระแสไฟฟา้ ร่ัวไหล
12.3 ฝึกการทำโครงงาน
13. แผนการถ่ายทอดเทคโนโลยหี รอื ผลการวจิ ัยสูก่ ลมุ่ เป้าหมาย
13.1 ทดลองต่อโมเดลจำลอง
13.2 เผยแพร่ เปิด-ปิดไฟด้วยระบบเซ็นเซอร์ ผ่านโครงการประกวดโครงงานวิชาชีพ
ชมรมเทคโนโลยธี รุ กจิ ดิจิทลั
14. วธิ ีการดำเนนิ การวิจัยและสถานท่ีทำการทดลอง/เก็บข้อมลู
14.1 นำเสนอหัวขอ้ โครงงาน
14.2 ทำแบบเสนอขออนุมัตโิ ครงงาน
14.3 คน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูลการจดั ทำโครงงาน
14.4 ปฏิบตั ิงานตามโครงงาน
41
14.5 รายงานการปฏิบัตงิ านตามขน้ั ตอน
14.6 ประเมนิ ผลการกา้ วหนา้ ในการปฏิบตั ิ
14.7 จัดทำคูม่ ือการใชง้ าน (ถ้ามี)
14.8 ปรบั ปรงุ แก้ไข (ถ้ามี)
14.9 นำเสนอผลงาน
14.10 สง่ โครงงานฉบับสมบูรณ์
14.11 จดั นทิ รรศการแสดงผลงาน
15. ระยะเวลาทำการวิจยั และแผนการดำเนนิ งานตลอดการวิจยั
1 พฤศจกิ ายน 2564 ถึง 1 มนี าคม 2565
16. ปจั จัยที่เอื้อตอ่ การวจิ ยั (ถา้ มี)
-
17. งบประมาณของการวจิ ัย
17.1 งบประมาณทัง้ หมด 584 บาท
17.2 รายละเอยี ดงบประมาณค่าใช้จา่ ย
รายละเอยี ดงบประมาณการวจิ ยั จำแนกตามงบประเภทต่าง ๆ (ปงี บประมาณทเี่ สนอขอ)
รายการ จำนวนเงิน หมายเหตุ
1. งบบคุ ลากร -
ค่าจา้ งชั่วคราว -
2. งบดำเนนิ งาน -
2.1 ค่าตอบแทน ใช้สอยและวสั ดุ
2.1.1 ค่าตอบแทน เช่น ค่าตอบแทนปฏิบัตงิ านนอกเวลา -
ราชการ คา่ เบย้ี เล้ียงประชุมกรรมการ ฯลฯ
2.1.2 ค่าใช้สอย เช่น -
1) ค่าเบี้ยเลยี้ ง ค่าเชา่ ท่พี ัก ค่าพาหนะ -
2) ค่าจา้ งเหมาบรกิ าร -
3) คา่ ใชจ้ ่ายในการสมั มนาและฝึกอบรม -
4) คา่ ใช้สอยอ่ืน ๆ -
2.1.3 คา่ วัสดุ เช่น
1) วัสดสุ ำนกั งาน -
2) วัสดุเชือ้ เพลิงและหลอ่ ลืน่ -
42
3) วัสดไุ ฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ 584
4) วัสดุโฆษณาและเผยแพร่ -
5) วัสดุหนังสือ วารสารและตำรา -
6) วสั ดคุ อมพิวเตอร์ -
7) วสั ดอุ ืน่ ๆ -
2.2 ค่าสาธารณูปโภค เชน่
ค่าไฟฟา้ ค่านำ้ ประปา คา่ โทรศัพท์ ค่าไปรษณีย์ -
คา่ บรกิ ารดา้ นส่ือสารและโทรคมนาคม
3. งบลงทนุ -
ค่าครภุ ณั ฑ์ -
584
รวมงบประมาณทเ่ี สนอขอ
18. ผลสำเรจ็ และความคุม้ คา่ ของโครงการวจิ ัยท่คี าดวา่ จะไดร้ บั
18.1 ประหยัดพลงั งานไฟฟ้าและประหยดั ค่าใช้จ่ายมากขน้ึ
18.2 ไดอ้ ำนวยความสะดวกต่อผใู้ ชง้ าน
19. โครงการวิจัยนีห้ รอื ส่วนใดสว่ นหนึ่งหรอื งานวจิ ัยสบื เนื่องจากนี้ ไดย้ นื่ เสนอขอรับทุน
หรือไดร้ ับการสนับสนนุ จากแหล่งทุนอืน่ หรือไม่
ไมไ่ ด้ยน่ื เสนอขอรับทุน
ยืน่ เสนอ โปรดระบุแหลง่ ทุน …………………....................……………......………………
( ) ไดร้ บั การสนับสนนุ จาก…….....……ชื่อโครงการ…………...............................
( ) ไมไ่ ดร้ บั การสนบั สนุน
( ) ยงั ไม่ทราบผลการพิจารณา
20. โครงการวจิ ยั น้ีมีการใชส้ ่ิงมีชีวิตท่ีมีการดัดแปลงทางพันธุกรรมหรอื ไม่
มี ไมม่ ี
43
21. คำช้แี จงอ่นื ๆ (ถา้ มี)
……………...……………………………………………………………….…………………..............................
22. ลงช่อื หวั หนา้ ทมี วิจยั (นักศึกษา)
(ลงช่ือ).....................................................
( นางสาวปณั ณกิ า ใจเรือง )
วันที่ 16 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ.2564
23. ลงชื่อครูที่ปรึกษางานวิจัย
(ลงชือ่ ).....................................................
( นายวกิ ร รตั นาธนบดี )
วนั ท่ี 23 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ.2564
24. คำรบั รองของหัวหนา้ สาขาวชิ าเทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ิทัล
(ลงชื่อ).....................................................
(นายอทุ ัย ศรีษะนอก)
วนั ท่ี 23 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ.2564