บทที่ 5
งานตะไบ
งานตะไบ เป็นงานข้ันพื้นฐานที่มีความสาคัญมากทางด้านช่างอุตสาหกรรม ช่างฝีมือทุกคนต้องศึกษา
ชนิด คุณสมบัติของตะไบ และฝึกให้มีทักษะความเชี่ยวชาญในการใช้ตะไบ จึงสามารถปฏิบัติงานได้อย่าง
ถกู ต้อง ละเอยี ด ประณีต มปี ระสิทธภิ าพ
ตะไบเปน็ เครอ่ื งมือตัดเฉอื นทมี่ ีประโยชนม์ าก ซง่ึ ใชใ้ นการปรบั ลดขนาดช้นิ งานให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ปรับตกแต่งผิวงานให้เรียบ เพื่องานประกอบช้ินส่วนเข้าด้วยกัน หรือใช้ตกแต่งและซ่อมแซมช้ินงาน
ชน้ิ สว่ น เครื่องจกั รกลในงานซ่อมบารงุ เปน็ ต้น
ความหมายของการตะไบ
การตะไบ คือ ขบวนการท่ีทาให้ผิวของงานหลุดออกจากท่ีเดิม ในลักษณะของการโกน หรือ ถาก
คล้ายกับการตดั เฉอื นของคมสกัด ตะไบท่ีใช้งานท่ัวไป จะมีฟันที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับล่ิมเรียงเป็นแถว แต่
ละแท่งล่ิมจะมปี ลายคมตดั เมอ่ื เราออกแรงกดตะไบจะทาใหเ้ กิดผลสองประการ คอื
1. เมื่อกดวตั ถจุ ะแยกหา่ งออกจากกนั
2. เมอื่ ออกแรงดันวัตถุจะหลดุ ออกจากกัน
ภาพท่ี 5.1 แสดงลกั ษณะการตดั เฉอื นของฟนั ตะไบ
สมยศ แก้วประทุมรัสมี . 2545 : 98
ส่วนประกอบของตะไบ
ตะไบเปน็ เคร่ืองมือที่ทาจากเหล็กกล้าคาร์บอนสูงผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยเคร่ืองจักรแล้วนาไปอบ
ชุบผวิ แขง็ ตะไบมสี ่วนประกอบท่สี าคญั คือ ด้าม กนั่ โคน หนา้ ขอบ ความยาว และปลาย
ภาพที่ 5.2 แสดงสว่ นประกอบของตะไบ
1. คมตัดของตะไบ คมตดั หรือฟนั ของตะไบ โดยท่ัวไปจะมีมุมคายเป็นลบ ซึ่งจะมีผลทาให้คมตัดตะไบ
ตดั เฉอื นเนือ้ วสั ดุงานในลักษณะถากผิวออกทีละนอ้ ย ตะไบมีคมตัดหลายลกั ษณะ เชน่
Ÿ = มุมคาย
β = มมุ ลิม่
α = มมุ ฟรี
ภาพท่ี 5.3 แสดงมุมตา่ ง ๆ ของฟนั ตะไบ
สมยศ แก้วประทุมรสั มี . 2545 : 99
1) คมตดั คู่ (Double-cut) เหมาะสาหรบั ใช้ตะไบปรบั ลดขนาดงาน วัสดแุ ขง็ เชน่ เหลก็ กล้า
เหลก็ หล่อ
ภาพท่ี 5.4 แสดงลักษณะคมตัดคู่
2) คมตัดเด่ียว (Single-cut) เหมาะสาหรับตะไบปรับผิวในช้ันสุดทา้ ยเป็นการตะไบละเอียดงานเหลก็
ภาพท่ี 5.5 แสดงลกั ษณะคมตัดเด่ียว
3) คมตดั โค้ง (Curved-cut) ลกั ษณะคมตดั โค้งเปน็ รัศมี ทาใหส้ ามารถคายเศษโลหะออกไดท้ ั้งสอง
ขา้ งของคมตะไบ เหมาะสาหรับตะไบงานทีม่ ีเนือ้ ออ่ น เช่น ตะก่ัว ดบี กุ พลวง อะลูมิเนียม ทองแดง เป็นตน้
ภาพท่ี 5.6 แสดงลกั ษณะคมตัดโคง้
ประเภทของตะไบและลกั ษณะการใช้
ตะไบถกู ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ตะไบชิ้นงานในลักษณะต่างๆ ได้สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ตะไบ
นยิ มแบง่ ออกตามลักษณะพื้นทีห่ น้าตัดของตะไบนั้นๆ ดงั น้ี
ภาพที่ 5.7 แสดงชนิดของตะไบและลักษณะการใชง้ าน
การใสด่ ้ามตะไบ
1. เจาะดา้ มตะไบเปน็ สามส่วนด้วยดอกสว่าน 3 ขนาด
2. สวมกน่ั ตะไบเข้าด้ามใหแ้ น่นพอสมควร
3. ใชค้ อ้ นตอกดังภาพ
ภาพท่ี 5.8 แสดงการใส่ด้ามตะไบ
การถอดด้ามตะไบ ใชม้ ือจบั ตะไบให้แน่นแลว้ คอ่ ยๆ กระแทกกับปากกา โดยการดงึ ออกดังภาพ
ภาพท่ี 5.9 แสดงการถอดดา้ มตะไบ
ระดบั ของปากกาทีเ่ หมาะสมสาหรับการตะไบ
ระดับความสูงของปากกาจับงาน ควรให้ปากของปากกาจับงานอยู่ต่ากว่าข้อศอกของผู้ปฏิบัติงาน
ประมาณ 5-8 เซนตเิ มตร ซึ่งเป็นตาแหน่งทีเ่ หมาะสมจะทาใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั ิงานอยใู่ นอริ ยิ าบถท่สี บายที่สุด ตะไบงาน
ได้งา่ ย ออกแรงนอ้ ย ความเมื่อยลา้ ก็จะนอ้ ย การทางานมปี ระสิทธภิ าพสงู
ภาพท่ี 5.10 แสดงระดับปากกาทเี่ หมาะสม
การจดั วางตะไบบนโตะ๊ ปฏบิ ตั งิ าน
ในการปฏิบัติงานตะไบ ควรวางตะไบ แปรงปัดตะไบ และเคร่อื งมอื อืน่ ๆ ใหเ้ ป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อ
ความสะดวกในการปฏิบตั งิ านและความปลอดภัย
ภาพท่ี 5.11 แสดงการจัดวางตะไบให้เป็นระเบยี บ
เทคนคิ และวิธีการตะไบ
การตะไบชน้ิ งานอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ได้ผลงานมีคณุ ภาพสูง มขี นาดถูกต้อง ประณีต สมบรูณ์ และใช้
เวลาในการปฏบิ ตั ิงานนอ้ ย เครื่องมืออุปกรณ์ไม่ชารุดเสยี หาย จาเป็นอยา่ งยง่ิ ท่ผี ปู้ ฏบิ ตั ิงานจะต้องมีฝีมือและมี
ทักษะในการตะไบสูง ซงึ่ จะต้องศึกษาเทคนิคตา่ งๆ ดังนี้
1. เทคนิควิธีการจับยึดชิ้นงาน จับยึดชิ้นงานให้ได้ศูนย์กลางของปากกา และยึดให้ม่ันคง โดยให้ส่วน
ของช้ินงานท่จี ะถกู ตะไบอยู่ใกลป้ ากของปากกา เพ่อื ป้องกันการสะท้านของชิ้นงาน
2. เทคนคิ วธิ ีการจับตะไบ
มอื ขวาจับท่ดี ้ามไม้ให้ปลายด้ามไม้อยู่ในองุ้ ของสนั หวั แม่มือ และน้ิวหัวแม่มือช้ีขนานกับด้ามแล้วกานิ้ว
ทั้งสีน่ ้ิว
มือซา้ ยกดทีป่ ลายตะไบโดยองุ้ มอื ส่วนท่ีค่อนมาทางข้อมือเป็นตัวกด ให้น้าหนักท่ีกระทบบนตะไบมีจุด
รว่ มอยทู่ งี่ าน
ภาพท่ี 5.12 แสดงวธิ กี ารจบั งานและวธิ กี ารจับตะไบ
3. เทคนิคการวางตาแหน่งเท้าขณะยนื ทางาน
เท้าขวาทามมุ ประมาณ 75 องศา กับแนวก่ึงกลางตวั ปากกา
เท้าซ้ายทามุม 15-30 องศา กับแนวก่ึงกลางตัวปากกา และอยู่หน้าเท้าขวาระยะประมาณ 30-
40 เซนตเิ มตร
ภาพท่ี 5.13 แสดงตาแหน่งการวางเทา้
สมยศ แกว้ ประทุมรสั มี . 2545 : 104
4. เทคนิคการทิ้งน้าหนักตัวและการโยกตัว เข่าของขาหลังตึงเล็กน้อย เข่าของขาหน้าหย่อนไปตาม
จังหวะโยกตัวไป-มา
ภาพที่ 5.13 แสดงเทคนคิ การตะไบโดยการโยก
สมยศ แกว้ ประทุมรสั มี . 2545 : 105
5. เทคนิควธิ ีการประคองตะไบ
1) ผลักไปข้างหนา้ ตามแนวยาวของตะไบใหส้ ุด แตอ่ ยา่ ให้ชนถงึ ดา้ มตะไบหรือด้ามตะไบชน กระแทก
งาน
2) มอื ขวาทาหน้าท่ผี ลักและกด มอื ซา้ ยกดอย่างเดยี ว
3) เคลอ่ื นตะไบไปขา้ งหน้าพร้อมกับแรงกดลง
4) ดงึ กลบั จะต้องไม่กดตะไบลง
5) การผลักตะไบไปข้างหน้าจะต้องให้แรงกดกระทาที่ช้นิ งานอยา่ งสม่าเสมอ
ภาพท่ี 5.14 แสดงวธิ ีการตะไบ
สมยศ แก้วประทุมรสั มี . 2545 : 106
การตะไบผิวราบ
ช้ินงานที่ต้องการปรับลดขนาดและตกแต่งผิวให้เรียบมีขนาดความกว้าง ความยาวและความหนา
แตกตา่ งกนั ลักษณะท่วั ไปของการตะไบผิวราบสามารถแบง่ ได้ 4 ลกั ษณะคอื
1. การตะไบตามขวาง
การตะไบลกั ษณะน้ี ทิศทางของการตะไบจะทามมุ ฉากกบั ขอบชิน้ งานด้านความยาวใช้ในการลดขนาด
ของช้ินงาน ซึ่งสามารถตะไบลดขนาดลงได้รวดเร็วหกว่าการตะไบลักษณะอื่น เพราะพ้ืนท่ีท่ีถูกตะไบน้อยกว่า
ลักษณะอื่น นอกจากนี้ยังใช้ตะไบแก้ไขชิน้ งานที่โค้งนนู ตามความยาว
ภาพท่ี 5.15 แสดงลกั ษณะการตะไบตามขวาง
สมยศ แก้วประทุมรัสมี . 2545 : 106
2. การตะไบตามยาว
การตะไบลกั ษณะนี้ ทิศทางของการตะไบจะทามมุ ฉากกบั ช้ินงานดา้ นความกวา้ งหรือตามแนวยาวของ
ผิวงาน
ภาพท่ี 5.16 แสดงลักษณะการตะไบตามยาว
สมยศ แก้วประทุมรสั มี . 2545 : 106
3. การตะไบเฉียงหรือตะไบทแยงมุม
การตะไบลักษณะนี้ ทิศทางการตะไบจะทามุม 45 องศา กับขอบชิ้นงานด้านยาว แล้วเปลี่ยนให้ทิศ
ทางการตะไบจากเดิมทามุม 90 องศา กับคร้ังแรกทุกครั้งเหมาะสาหรับปรับผิวเรียบ รอยตะไบที่ไขว้กันจะ
แสดงให้เหน็ ผิวนูนได้เป็นอย่างดี ซึ่งสังเกตได้จากรอยที่เกิดจากการตะไบทแยงมุม ถ้ารอบตะไบยาวตั้งแต่ด้าน
หนง่ึ ไปส้ินสดุ อกี ด้านหน่ึงท้ังสองด้าน แสดงว่าผิวของชิน้ งานท่ีทาการตะไบมีผิวเรียบ
ภาพท่ี 5.17 แสดงลักษณะการตะไบทแยงมุม
สมยศ แก้วประทุมรัสมี . 2545 : 107
4. การตะไบแบบขูด
การตะไบลักษณะนี้ มักใช้กับการตะไบผิวละเอียด โดยใช้ตะไบคมตัดเดี่ยววิธีการจับตะไบจะต้องให้
สมดุล และใช้มือทั้งสองขา้ งจบั ตวั ตะไบใกล้ชดิ กันแล้วกดดันไปข้างหน้าและดึงถอยหลัง ชักตะไบระยะสั้นๆ ใช้
กับงานท่ีมีความกวา้ งไมม่ าก และตะไบปรบั เฉพาะส่วนท่โี คง้ นูนใหเ้ รยี บ
ภาพท่ี 5.18 แสดงลกั ษณะการตะไบแบบถู
การทาความสะอาด
เมื่อเราทาความสะอาดตะไบช้ินงานระยะหน่ึง จะมีเศษโลหะติดตะไบ ทาให้ผิวงานเป็นรอย ขีดข่วน
ดังน้ันจึงต้องขจัดเศษโลหะน้ันออก วิธีทาความสะอาดตะไบ โดยปกติจะใช้แปรงปัดตะไบถูปัด
ไปตามรอ่ งฟนั ตะไบ
ภาพท่ี 5.19 แสดงการทาความสะอาดตะไบด้วยแปรง
สมยศ แกว้ ประทุมรสั มี . 2545 : 109
การใชแ้ ละการบารุงรักษาตะไบ
1. อย่าใชต้ ะไบทไี่ มม่ ีดา้ ม
2. อย่าใช้ตะไบแทนค้อนหรือทาตกพ้ืนเพราะจะทาให้แตกหัก
3. อย่าใช้นา้ มนั หล่อลื่นทาตะไบ เพราะจะทาใหค้ มของตะไบลืน่
4. เลอื กใช้ตะไบใหเ้ หมาะสมกบั งาน
5. ควรแยกตะไบออกจากเครอื่ งมือชนิดอ่ืน และไมค่ วรเก็บกองรวมกนั ต้องเก็บไว้ในทีเ่ ก็บ
6. การตะไบ ผวิ ดิบของชิ้นงานท่ีผ่านกระบวนการรีดรอ้ นมาผวิ จะแข็ง ดงั นั้นจะต้องใช้สนั ตะไบทาการ
ตะไบผิวดิบออกให้หมดก่อนจึงจะใช้หน้าตะไบปรับงานต่อไป โดยให้สันตะไบทามุมเอียงประมาณ 30 องศา
กบั แนวระนาบ
ภาพท่ี 5.20 แสดงตะไบทไ่ี มม่ ีด้ามไม่ควรนามาใช้งาน
สมยศ แกว้ ประทุมรสั มี . 2545 : 109