เล่มที่ 1ชุดแบบฝึกทักษะ ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา เรื่อง เหตุผลเชิงตรรกะ

ชุดแบบฝึ กทกั ษะ

วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย(ี วิทยาการคานวณ)
รหสั วิชา ว14101 ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4

เล่มที่ 1

เร่ือง ข้นั ตอนวิธีการแกป้ ัญหา

เหตผุ ลเชิงตรรกะ

นางภคั วลญั ช์ อนุ่ เรอื น
โรงเรยี นบา้ นจอมบงึ (วาปี พรอ้ มประชาศึกษา)

สานกั งานเขตพ้ นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1

ก

คำนำ

แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) เรื่อง ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สาระเทคโนโลยี) เล่มที่ 1 เหตุผลเชิงตรรกะ รหัสวิชาว14101
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรยี นบ้านจอมบึง(วาปีพรอ้ มประชาศึกษา) มีจุดมงุ่ หมายเพอื่ พัฒนานกั เรียน
ให้มีความรู้ความเข้าใจเรือ่ งข้ันตอนวิธีการแก้ปัญหา และเป็นการเพ่ิมพูนทักษะกระบวนการต่าง ๆ ในการ
เรยี นเรอ่ื งการแก้ปญั หา สง่ เสริมให้นกั เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรยี นเก่ยี วกบั การแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวัน
และกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะเร่ืองวิธกี ารแกป้ ัญหา

แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) เรื่อง ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
แบง่ ออกเป็น ดังน้ี

เล่มที่ 1 เหตุผลเชิงตรรกะ
เลม่ ที่ 2 อัลกอริทมึ (Algorithm)
เลม่ ท่ี 3 การแสดงอลั กอริทึมดว้ ยข้อความ
เลม่ ท่ี 4 การแสดงอลั กอริทึมด้วยรหสั จำลอง หรือซโู ดโค้ด
เลม่ ท่ี 5 การแสดงอัลกอรทิ มึ ด้วยผงั งาน (Flowchart)
เล่มท่ี 6 การแสดงอัลกอรทิ ึมดว้ ยโคด้ ดงิ้ (Coding)
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดแบบฝึกทักษะนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน ซึ่งช่วยให้
นักเรียนได้รู้ถึงขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา ช่วยยกระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ให้มปี ระสิทธภิ าพดยี ่งิ ขน้ึ
ผจู้ ดั ทำขอขอบพระคณุ ผทู้ ี่เกย่ี วข้องให้คำปรึกษา และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์

ภัควลัญช์ อุ่นเรือน

ข

สารบัญ หนา้

เรอ่ื ง ก
ข
คำนำ 1
สารบญั 2
คำช้แี จงสำหรบั ครู 3
คำชีแ้ จงสำหรับนักเรียน 3
มาตรฐานการเรยี นรู้/สาระสำคญั 4
จุดประสงค/์ สาระการเรียนรู้ 7
แบบทดสอบก่อนเรียน 8
กระดาษคำตอบ 10
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ 12
การแกป้ ญั หาด้วยเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ 14-17
ตัวอยา่ งสถานการณ์ 18
กิจกรรมฝกึ ทักษะ 21
แบบทดสอบหลังเรยี น 22
กระดาษคำตอบ 23-28
บรรณานุกรม
ภาคผนวก

1

คำชแ้ี จงสำหรบั ครู

แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) เรื่อง ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย(ี สาระเทคโนโลยี) เล่มที่ 1 เหตุผลเชิงตรรกะ รหสั วิชาว14101
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านจอมบึง(วาปีพร้อมประชาศึกษา) ครูมีบทบาทสำคัญที่จะช่วย
ให้การดำเนินการเรียนรู้ของนักเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ ครูจึงควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการ
ปฏบิ ตั ิตนกอ่ นท่ีจะใชช้ ดุ ฝกึ ทกั ษะ ดงั น้ี

1. ครูต้องศึกษาชุดฝึกทักษะ และอ่านเนื้อหาสาระอย่างละเอียดรอบคอบ พร้อมทั้งทำความ
เข้าใจกับเนอ้ื หาทกุ ชุดกอ่ นการใช้งาน

2. ครตู อ้ งเตรยี มชุดฝึกทกั ษะใหค้ รบถ้วน และเพียงพอกับจำนวนนกั เรียน
3. ครูตอ้ งเตรียมเครื่องมอื วัดและประเมินผล เพื่อให้ทราบความก้าวหน้าของนักเรียน
4. ครูชแี้ จงให้นักเรยี นทราบลำดับขน้ั ตอน และวธิ ีการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะอย่างชัดเจน และ

เป็นประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับจากการสอนโดยใชช้ ดุ ฝึกทกั ษะ
5. ครูชี้แจงให้นักเรียนทราบเกี่ยวกับบทบาทของนักเรียนในการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะ และมี

ความซอ่ื สตั ย์โดยไมล่ อกเพ่ือน ไมใ่ ห้เพ่ือนทำใหห้ รอื ดูเฉลยก่อนลงมือทำชดุ ฝกึ ทักษะ

2

คำชแี้ จงสำหรับนกั เรยี น

แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) เรื่อง ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี(สาระเทคโนโลย)ี เล่มท่ี 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ รหสั วชิ าว14101
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นบ้านจอมบงึ (วาปีพร้อมประชาศึกษา) นกั เรียนควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี

1. อา่ นคำชแี้ จงเกย่ี วกบั ชุดฝกึ ทกั ษะ และคำแนะนำในการใชช้ ุดฝึกทกั ษะสำหรบั นักเรยี นให้เข้าใจ
ก่อนลงมอื ทำงานหรือทำการศกึ ษาทุกครงั้

2. ทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความร้เู ดมิ ของนกั เรียน
3. ศึกษาเนื้อหา และชุดทำแบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)

เรื่อง ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สาระ
เทคโนโลยี) เล่มที่ 1 เหตุผลเชิงตรรกะ รหัสวิชาว14101 ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 โรงเรียน
บ้านจอมบึง(วาปีพร้อมประชาศึกษา) ถ้าทำชุดฝกึ ทกั ษะไม่ได้ให้ศกึ ษาเนื้อหาใหม่อกี ครั้ง หรือ
ปรึกษาครู
4. เปลี่ยนกับเพื่อนตรวจชุดฝึกทักษะตามเฉลย และบันทึกคะแนนที่ได้ จากนั้นร่วมกันสรุปองค์
ความรู้ โดยครูคอยชแี้ นะแนวทางและอธบิ ายเพิ่ม
5. ในการทำชุดฝึกทักษะแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน ให้นักเรียนพยายามทำด้วยความ
ตั้งใจ และมีความซอ่ื สัตยต์ ่อตนเองมากทส่ี ุด

3

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสำคญั

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขาใจและใชแนวคิดเชิงคำนวณในการแกปญหาทพ่ี บในชีวิตจรงิ

อยา่ งเปน็ ข้นั ตอนและเปน็ ระบบ ใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู
การทำงาน และการแกปญหาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รเู ทาทนั และมจี รยิ ธรรม

สาระสำคัญ
ใชเหตุผลเชิงตรรกะในการแกปญหา การอธบิ าย การทำงาน การคาดการณผลลพั ธ์
จากปญหาอย่างงา่ ย

จดุ ประสงค
1. นักเรยี นออกแบบการแกปญั หาในชวี ติ ประจำวนั ได้โดยใชเหตุผลเชงิ ตรรกะได้
2. นกั เรียนยกตัวอยา่ งการแกปญหาโดยใชเหตผุ ลเชิงตรรกะในชีวิตประจำวันได้

สาระการเรยี นรู
1. ออกแบบการแกปญหาในชวี ิตประจำวนั ไดโ้ ดยใชเหตุผลเชิงตรรกะ
2. ยกตัวอย่างการแกปญหาโดยใชเหตุผลเชิงตรรกะในชีวิตประจำวัน

4

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรอ่ื ง เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกตอ้ งทส่ี ุด
1. จากภาพควรเติมหน้าลูกเต๋าในขอ้ ใดลงในช่องว่าง

ก. ข.

ค. ง.
2. ขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาท่ถี กู ต้องควรเรม่ิ จากขอ้ ใด

ก. ทำตามแผนท่วี างไว้ และประเมนิ ผล
ข. ฝึกการใชท้ ักษะให้เชี่ยวชาญยง่ิ ขึ้น
ค. ทำความเขา้ ใจปัญหา
ง. วางแผนแกป้ ญั หา
3. การแกป้ ญั หาอย่างเปน็ ระบบควรเร่ิมตน้ จากขอ้ ใด
ก. แยกย่อยปญั หา
ข. แยกยอ่ ยสาระสำคัญของปญั หา
ค. หารูปแบบของปญั หา
ง. เขยี นลำดบั ขัน้ ตอนวธิ ี

5

4. ข้นั ตอนการอธิบายปญั หาทเี่ กดิ ขึน้ นักเรยี นคิดว่าควรจะอธบิ ายตามขอ้ ใด
จงึ เหมาะสมทส่ี ดุ
ก. แยกย่อยปัญหา
ข. หารูปแบบของปญั หา
ค. แยกย่อยสาระสำคญั ของปญั หา
ง. เขียนลำดบั ขัน้ ตอนวธิ ี

5. ไบร์ทต้องการเล่นแท็บเล็ตหลังเวลา 20.00 น. โดยมีเงื่อนไข คือ จะต้องทำกิจวัตร
ประจำวันให้เสร็จก่อน ดังนั้นไบร์ทจะต้องทำอะไรตามลำดับก่อน – หลัง โดยกิจวัตร
ประจำวนั มีดังนี้

1. ออกกำลังกาย 2. อาบน้ำ 3. รับประทานอาหาร 4. ทำการบ้าน

ก. 3>2>1>4
ข. 2>1>2>4
ค. 2>3>1>4
ง. 1>2>3>4
6. ขอ้ ใดกลา่ วถึงการแกป้ ญั หาเชิงตรรกะ
ก. เป็นการแก้ปญั หาโดยการใชเ้ กณฑต์ า่ ง ๆ มาอ้างองิ เพอ่ื นำไปสูว่ ิธกี ารแกป้ ัญหา
ข. เป็นการแก้ปญั หาที่ไม่ตอ้ งอาศัยหลกั การทางวิทยาศาสตร์
ค. เป็นการแก้ปญั หาโดยใช้ความร้สู ึกมาตดั สนิ ปญั หา
ง. เปน็ การแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ อย่างรวดเร็ว
7. การแสดงลำดับข้ันตอนการแกป้ ญั หามชี อ่ื เรยี กอีกชื่อวา่ อะไร
ก. อลั กอร์
ข. องั กอร์
ค. อัลกอรทิ มึ
ง. อลั กอริลา่

6

8. ปาล์มต้องการไปถึงโรงเรียนให้ทันเวลา 07.30 น. แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทาง
45 นาที ดังนนั้ ปาลม์ จะต้องข้ึนรถเมลใ์ นเวลาใด เพ่อื ใหไ้ ปถึงโรงเรยี นใหท้ ันเวลา
ก. 6.50 น.
ข. 6.30 น.
ค. 6.55 น.
ง. 7.00 น.

9. จากภาพข้อใดคือเสน้ ทางการเดินทางจากบา้ นไปยงั โรงพยาบาลโดยห้ามผ่านทงุ่ นา
ก.
ข.
ค.
ง.

10. จากสถานการณห์ นูนดิ สามารถเลือกวธิ ีการเดินทางจากบา้ นไปยังสวนสนกุ ดว้ ยวิธีใด
ได้บ้าง เพอ่ื รบั ชมการแสดงสตั วโ์ ลกน่ารกั ได้ทนั เวลา

สถานการณ์ : ขณะนี้เวลา 08.30 น. หนูนิดตอ้ งการเดินทาง
ไปยงั สวนสนุกเพือ่ รับชมการแสดงสัตวโ์ ลกนา่ รัก
รอบ 09.00 น. โดยการเดินทางจากบ้านไปยงั สวนสนกุ
หนูนิดสามารถเดนิ ทางได้หลายวิธี และในแตล่ ะวิธีใช้เวลา
ทแี่ ตกต่างกัน ดังนี้

รถยนต์ : ใชร้ ะยะเวลาในการเดินทาง 45 นาที
รถจกั รยานยนต์ : ใชร้ ะยะเวลาในการเดนิ ทาง 30 นาที
เรือ : ใชร้ ะยะเวลาในการเดินทาง 20 นาที
เดนิ เท้า : ใช้ระยะเวลาในการเดนิ ทาง 55 นาที

ก. รถจักรยานยนต์ เดินเท้า
ข. เดนิ เทา้ เรอื
ค. รถยนต์ รถจักรยานยนต์
ง. รถจักรยานยนต์ เรอื

เ
ป็
น

กระดาษคำตอบ 7
เรอ่ื ง เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

ช่อื ..................................นามสกลุ ......................................ชน้ั ............เลขท.่ี .........

ขอ้ ก. ข. ค. ง.
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

8

เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

เหตุผลเชิงตรรกะ คือ การใช้เหตุผล กฎ กฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขท่ีเกีย่ วข้องเพื่อตรวจสอบ
ความสมเหตุสมผล หรือพิจารณาความเป็นไปไดข้ องการแกป้ ัญหา

การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ (Logical Thinking) ในการแก้ไขปัญหา คือ การแก้ปัญหา
โดยใช้เหตุผลที่สามารถอธิบายได้ โดยเหตุผลที่ใช้นั้นจะเป็นเหตุผลที่ได้จากกฎเกณฑ์ข้อตกลง
หรือจากประสบการณ์มาใช้เป็นเงื่อนไขในการแก้ปัญหา ซึ่งการแก้ปัญหานั้นผู้แก้ปัญหาจะ
คาดหวงั ว่าใหไ้ ด้ผลลพั ธ์ใหต้ รงตามเหตุผลท่ีอธิบายได้

การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา
1. การใชเหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกไขปญหาโดยใชเหตุผล
2. การใชเหตผุ ลเชิงตรรกะในการแกไขปญหาโดยใชประสบการณ์

1. การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแกไ้ ขปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ล
เป็นการแก้ไขปัญหาโดยการใชก้ ฎเกณฑ์หรือเหตผุ ลตา่ งๆ มาอา้ งอิงเพ่อื นำไปสู่วิธกี ารแก้ไข

ปญั หา ซงึ่ ผลลัพธข์ องการแกไ้ ขปญั หานีจ้ ะเป็นจรงิ หรอื ไม่ขน้ึ อยกู่ ับสถานการณ์เริ่มตน ดงั ตวั อย่าง
เช่น

9

2. การใชเหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกไขปญหาโดยใชประสบการณ
เป็นกระบวนการใหเหตุผลในการแกไขปญหาที่ได้จากการตั้งสมมติฐาน การสำรวจ หรือ

การทดลองจนได้ผลการสังเกตหรือหลักฐานที่นำมาสรุปได้ แต่ขอสรุปอาจจะเป็นจริงหรือไม่น้ัน
ข้นึ อยกู่ บั ปัจจัยอีกหลายอย่าง เชน่ วธิ ีการสำรวจ จำนวนตัวอย่างในการสำรวจ เป็นตน

10

11

ทำไมตอ้ งคดิ แกป้ ญั หาอยา่ งมตี รรกะ
✓ เพราะทำให้เกดิ โอกาสผิดพลาดนอ้ ย
✓ เพราะเม่อื เกดิ ความเคยชินกบั การคิดอยา่ งมีตรรกะ จะทำให้ไมเ่ ชือ่ เร่อื งอะไรง่าย
✓ เพราะจะทำให้ความคิดทนี่ ำเสนอได้รับการยอมรับจากผูอ้ น่ื มากข้ึน เน่ืองจากฟังดู
แล้วมเี หตมุ ผี ลเหมาะสม

12
ตวั อยา่ งสถานการณท่ี 1

ร้านนมแห่งหนึ่งมีโปรโมชั่นพิเศษ นักเรียนสามารถนำขวดนมเปลา 3 ขวดมาแลก
นมขวดใหมไ่ ปดื่มได้ 1 ขวดทันที ถานกั เรียนมีเงนิ จำนวนจำกดั สามารถซ้ือนมไดเ้ พยี ง 9
ขวดเทาน้นั ถามวานักเรยี นจะไดด้ มื่ นมทงั้ หมดกี่ขวด (รวมท่นี ำไปแลกฟรีด้วย)

สรุปได้ว่า นักเรยี นซื้อนม 9 ขวด และนกั เรียนแลกนมฟรี 4 ขวด เพราะฉะนนั้ นักเรียนได้ด่ืมนม
ท้งั หมด 13 ขวด

13

ในชีวิตของนักเรียนจะพบปญหาที่แตกต่างกันปญหาต่างๆ อาจมาจากสิ่งที่พบรอบตัว
ความอยากรูอยากเห็น หรือการกำหนดคำถามของนักเรียนก็ได้เชนกันปญหาแต่ละปญหาอาจมี
วิธีแกปญหาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับการใชเหตุผลในการตัดสินใจ หรือการเลือกวิธีการแกปญหา
ของแต่ละคน ตัวอย่าง การปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อรับประทาน การแกปญหานี้สามารถ
ถ่ายทอดความคดิ เปน็ ข้อความไดด้ ังนี้

ตวั อยา่ งสถานการณที่ 2

14

กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะที่ 1.1
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

คำสง่ั ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามใหถ้ กู ตอ้ ง
1. เหตุผลเชิงตรรกะ คือ
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................
2. พจิ ารณาภาพท่ีกำหนดให้ แลว้ เตมิ ภาพทห่ี ายไปใหถ้ ูกตอ้ ง

15

กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะที่ 1.2
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาสถาณการณล์ กู เตา๋ ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ใหถ้ กู ตอ้ ง

พ

16

กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 1.3
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

กำหนดหนา้ ลกู เตา๋ ดงั นี้

ใหน้ กั เรยี นเตมิ หน้าลกู เตา๋ ทห่ี ายลงไปในชอ่ งวา่ ง

17

กจิ กรรมฝกึ ทกั ษะที่ 1.4
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนนำบัตรคำส่ังทก่ี ำหนดให้ เขียนบอกเส้นทางในการเดนิ ทาง
ของโกโก้ เพอื่ ใหโ้ กโกไ้ ปเทย่ี วทะเลและผา่ นสง่ิ กดี ขวางไดส้ ำเรจ็ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู
ลงในสมดุ

18

แบบทดสอบหลงั เรยี น
เรอื่ ง เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้องที่สดุ
1. จากภาพควรเติมหนา้ ลกู เต๋าในข้อใดลงในช่องว่าง

ก. ข.

ค. ง.

2. ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หาทถ่ี กู ตอ้ งควรเริม่ จากขอ้ ใด
ก. ทำตามแผนที่วางไว้ และประเมนิ ผล
ข. ฝกึ การใช้ทกั ษะให้เช่ยี วชาญยิ่งข้นึ
ค. ทำความเข้าใจปญั หา
ง. วางแผนแกป้ ัญหา

3. การแก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบควรเริม่ ตน้ จากขอ้ ใด
ก. แยกยอ่ ยปญั หา
ข. แยกย่อยสาระสำคัญของปญั หา
ค. หารปู แบบของปัญหา
ง. เขยี นลำดับข้นั ตอนวิธี

19

4. ข้ันตอนการอธิบายปัญหาที่เกิดข้นึ นักเรยี นคดิ วา่ ควรจะอธบิ ายตามขอ้ ใด
จงึ เหมาะสมทส่ี ดุ
ก. แยกยอ่ ยปัญหา
ข. หารูปแบบของปัญหา
ค. แยกยอ่ ยสาระสำคัญของปัญหา
ง. เขยี นลำดบั ข้ันตอนวิธี

5. ไบร์ทต้องการเล่นแท็บเล็ตหลังเวลา 20.00 น. โดยมีเงื่อนไข คือ จะต้องทำกิจวัตร
ประจำวันให้เสร็จก่อน ดังนั้นไบร์ทจะต้องทำอะไรตามลำดับก่อน – หลัง โดยกิจวัตร
ประจำวนั มีดงั น้ี

1. ออกกำลงั กาย 2. อาบน้ำ 3. รบั ประทานอาหาร 4. ทำการบ้าน

ก. 3>2>1>4
ข. 2>1>2>4
ค. 2>3>1>4
ง. 1>2>3>4

6. ขอ้ ใดกล่าวถงึ การแกป้ ัญหาเชงิ ตรรกะ
ก. เปน็ การแกป้ ัญหาโดยการใช้เกณฑต์ ่าง ๆ มาอ้างอิงเพือ่ นำไปสู่วิธีการแกป้ ัญหา
ข. เป็นการแก้ปญั หาท่ีไมต่ อ้ งอาศัยหลกั การทางวิทยาศาสตร์
ค. เป็นการแกป้ ัญหาโดยใชค้ วามรูส้ ึกมาตดั สินปัญหา
ง. เปน็ การแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ อยา่ งรวดเรว็

7. การแสดงลำดับขน้ั ตอนการแกป้ ัญหามชี อ่ื เรยี กอกี ช่อื วา่ อะไร
ก. อัลกอร์
ข. องั กอร์
ค. อลั กอริทมึ
ง. อลั กอรลิ า่

20

8. ปาล์มต้องการไปถึงโรงเรียนให้ทันเวลา 07.30 น. แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการ
เดินทาง 45 นาที ดังนั้นปาล์มจะต้องขึ้นรถเมล์ในเวลาใด เพื่อให้ไปถึงโรงเรียนให้
ทนั เวลา
ก. 6.50 น.
ข. 6.30 น.
ค. 6.55 น.
ง. 7.00 น.

9. จากภาพข้อใดคือเส้นทางการเดนิ ทางจากบ้านไปยังโรงพยาบาลโดยห้ามผ่านทุ่งนา

ก.
ข.
ค.
ง.

10. จากสถานการณ์หนูนดิ สามารถเลือกวิธกี ารเดินทางจากบ้านไปยังสวนสนุกด้วยวิธใี ด
ไดบ้ ้าง เพ่ือรับชมการแสดงสตั วโ์ ลกน่ารักไดท้ ันเวลา

สถานการณ์ : ขณะนเี้ วลา 08.30 น. หนูนิดตอ้ งการเดินทาง
ไปยังสวนสนุกเพือ่ รบั ชมการแสดงสตั วโ์ ลกน่ารัก
รอบ 09.00 น. โดยการเดินทางจากบ้านไปยังสวนสนุก
หนูนิดสามารถเดนิ ทางได้หลายวิธี และในแต่ละวธิ ใี ชเ้ วลา
ท่ีแตกต่างกนั ดังน้ี

รถยนต์ : ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 45 นาที
รถจกั รยานยนต์ : ใชร้ ะยะเวลาในการเดินทาง 30 นาที
เรือ : ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 20 นาที
เดนิ เทา้ : ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 55 นาที

ก. รถจักรยานยนต์ เดินเท้า
ข. เดินเท้า เรอื
ค. รถยนต์ รถจักรยานยนต์
ง. รถจกั รยานยนต์ เรือ

เ
ป็
น

กระดาษคำตอบ 21
เรอ่ื ง เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

ช่อื ..................................นามสกลุ ......................................ชน้ั ............เลขท.่ี .........

ขอ้ ก. ข. ค. ง.
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

22

บรรณานกุ รม

ขน้ั ตอนการคิดและการแกปญหาเชงิ ตรรกะ (Logical thinking and problem solving).
คณะวทิ ยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบรู พา.

ณัฐภัทร แกวรตั นภทั ร. (2560).หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
(วทิ ยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปที่4 ตามมาตรฐานการเรียนรูและกลุมตวั ช้ีวดั
วิทยาศาสตร(ฉบับปรับปรุงพ.ศ 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจริญทัศน(อจท.).

สถาบนั สงเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธกิ าร.(2562).หนงั สอื เรียน
รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี 4
ตามมาตรฐานการเรยี นรูและกลุมตวั ชวี้ ัดวิทยาศาสตร(ฉบับปรับปรุงพ.ศ 2560)

ข้นั ตอนการคดิ แตลาะมกาหรแลกกั สปตู รญแหกาเชนิงกตรลรกาะง(กLoารgศicกึalษtาhขinัน้ kพinนื้ gฐaาnนd พprทุ oธbศleักmราsชolv2i5n5g)1.. กรุงเทพมหานคร :
คณะวิทยาการสโารรสงนพเทิมศพมสหกาวสิทยคาล.ลยั บารูดพพา.ราว.

สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีกระทรวงศกึ ษาธิการ.(2562) แบบฝกหดั
รายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี(วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 4
ตามมาตรฐานการเรียนรูและกลุมตัวช้ีวัดวิทยาศาสตร(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร :
โรงพมิ พสกสค.ลาดพราว.

23

ภาคผนวก

24

เฉลยกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 1.1
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

คำสง่ั ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามใหถ้ กู ตอ้ ง

1. เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ คอื การใชเหตผุ ล กฎ กฎเกณฑหรือเงอ่ื นไขทเี่ กยี่ วของ เพอ่ื
ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลหรอื พจิ ารณาความเปนไปไดของการแกปญหา

2. พจิ ารณาภาพทีก่ ำหนดให้ แลว้ เติมภาพท่ีหายไปใหถ้ ูกต้อง

25

เฉลยกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะที่ 1.2
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาสถาณการณล์ กู เตา๋ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ใหถ้ กู ตอ้ ง

พ

26

เฉลยกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 1.3
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

กำหนดหน้าลกู เตา๋ ดงั น้ี

ใหน้ กั เรยี นเตมิ หน้าลกู เตา๋ ทหี่ ายลงไปในชอ่ งว่าง

27

เฉลยกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะท่ี 1.4
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นนำบัตรคำสง่ั ทก่ี ำหนดให้ เขยี นบอกเส้นทางในการเดินทาง
ของโกโก้ เพอื่ ใหโ้ กโกไ้ ปเทยี่ วทะเลและผา่ นสง่ิ กดี ขวางไดส้ ำเรจ็ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู
ลงในสมดุ

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น 28
เรอื่ ง เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

ขอ้ แบบทดสอบก่อนเรยี น ขอ้ แบบทดสอบหลงั เรยี น
1. ก 1. ก
2. ค 2. ค
3. ก 3. ก
4. ง 4. ง
5. ง 5. ง
6. ก 6. ก
7. ค 7. ค
8. ข 8. ข
9. ก 9. ก
10. ง 10. ง