ความรเู้ รอื่ ง
วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศานา : วนั มาฆบชู า
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
วนั มาฆบชู า 2565
"มาฆบูชา 2565" วันมาฆบูชา ปีน้ีตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565
(วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่า เดือน 3) เป็นวันส่าคัญทางพระพุทธศาสนา โดยเป็น
วันท่ีพระภิกษุ 1,250 รปู มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายและมีเหตุอัศจรรยพ์ ร้อม
กัน 4 ประการ หรือที่เรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" และในวันน้ีพระพุทธเจ้าทรง
แสดง "โอวาทปาฏิโมกข"์ ซ่งึ เปน็ หลักค่าสอนท่ีส่าคญั ของพทุ ธศาสนา
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
วันมาฆบูชา "มาฆบูชา 2565" ได้รับการยกย่องเป็นวันส่าคัญทางศาสนา วนั มาฆบชู า 2565
พุทธ เนื่องจากเหตุการณ์ส่าคัญท่ีเกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน คือ พระโคตมพุทธ
เจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ท่ามกลางท่ีประชุมมหาสังฆสันนิบาตคร้ังใหญ่ใน
พระพทุ ธศาสนา คมั ภีร์ปปญั จสทู นี ระบวุ า่ คร้งั นัน้ มเี หตกุ ารณเ์ กิดข้ึนพร้อมกัน
4 ประการ คือ
1.พระภิกษุ 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกนั ยงั วัดเวฬุวันโดยมไิ ด้นัดหมาย
2.พระภกิ ษุทัง้ หมดน้นั เป็น "เอหภิ ิกขุอุปสมั ปทา" หรอื ผ้ไู ด้รับการอปุ สมบท
จากพระพทุ ธเจ้าโดยตรง
3.พระภิกษทุ ้ังหมดน้นั ลว้ นเปน็ พระอรหันต์ผ้ทู รงอภญิ ญา 6
4.วันดังกล่าวตรงกับวนั เพญ็ เดือน 3 ดังนั้นจึงเรยี กวันน้ีอีกอย่างหน่ึงวา่
"วันจาตุรงคสนั นิบาต" หรอื วันทมี่ ีการประชุมพร้อมดว้ ยองค์ 4
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรีสาโรง
วนั มาฆบชู า 2565
ปัจจุบัน วันมาฆบูชา ได้รับการประกาศให้เป็นวันหยดุ ราชการในประเทศไทย
โดยพุทธศาสนิกชนท้ังพระบรมวงศานุวงศ์ พระสงฆ์และประชาชนประกอบพิธีต่างๆ
เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เพ่ือบูชาร่าลึกถึง
พระรัตนตรัยและเหตุการณ์ส่าคัญดังกล่าว ที่ถือได้ว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประทาน
โอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งกล่าวถึงหลักค่าสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่
การไมท่ ่าความชั่วทง้ั ปวง การบ่าเพ็ญความดีให้ถงึ พร้อม และการท่าจิตของตนให้ผ่องใส
เพ่ือเป็นหลกั ปฏิบตั ิของพุทธศาสนิกชนท้ังมวล
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
ประวตั ิ วนั มาฆบชู า "มาฆบชู า 2565"
หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ 9 เดือน ขณะน้ันเมื่อเสร็จพุทธกิจแสดงธรรมที่ถ้่าสุกรขาตาแล้ว
เสด็จมาประทับท่ีวัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ เดือนมาฆะหรือ
เดือน 3 ในเวลาบ่ายพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้า มาประชุม พร้อมกัน ณ ท่ีประทับของพระพุทธเจ้า นับเป็นเหตุ
อศั จรรย์ ทม่ี อี งค์ประกอบส่าคัญ 4 ประการ คอื
1.วันนน้ั เป็นวันขึ้น 15 ค่า เดอื น 3
2.พระสงฆจ์ า่ นวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมไิ ด้ นัดหมาย
3.พระสงฆ์ทั้งหมดเปน็ พระอรหนั ตผ์ ู้ได้อภญิ ญา 6
4.พระสงฆท์ ั้งหมดเปน็ ผู้ไดร้ ับการอุปสมบท โดยตรงจาก พระพทุ ธเจา้
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
กจิ กรรมที่พทุ ธศาสนกิ ชนพงึ ปฏบิ ตั ิ
ในวนั มาฆบชู า "มาฆบชู า 2565"
วันมาฆบูชา พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยม ทาบุญตักบาตร ในตอนเช้า และตลอดวันจะมีการบ่าเพ็ญบุญกุศล
ความดีอ่ืนๆ เช่น ไปวัดรับศีล งดเว้นการท่าบาปทั้งปวง ถวายสังฆทาน ให้อิสระทาน (ปล่อยนก ปล่อยปลา)
ฟงั พระธรรมเทศนา และไปเวียนเทยี นรอบโบสถใ์ นเวลาเย็น
ก่อนท่า การเวียนเทียน พุทธศาสนิกชนควรร่วมกัน "ปฏิบัติภาวนา" ใน "วันพระอุโบสถ" ซึ่งเป็นหน้าที่ตามปกติ
ของชาวพุทธ กล่าวค่าสวดมนต์และค่าบูชาในวันมาฆบูชา โดยปกติตามวัดต่างๆจะจัดให้มีการท่าวัตรสวดมนต์ก่อน
ท่าการเวียนเทียน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมท่าการเวียนเทียนอย่างเป็นทางการ (โดยมีพระภิกษุสงฆ์น่าเวียนเทียน) ในเวลา
ประมาณ 20 นาฬิกา
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรีสาโรง
บทสวดมนตท์ ่ีพระสงฆน์ ยิ มสวดในวนั มาฆบชู าก่อนทาการ
เวียนเทียนนิยมสวด (ทงั้ บาลแี ละคาแปล) ตามลาดบั ดงั น้ี
•บทบูชาพระรัตนตรัย (บทสวดบาลีทข่ี น้ึ ต้นดว้ ย อรหัง สมั มา ฯลฯ)
•บทนมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจา้ (นะโม ฯลฯ 3 จบ)
•บทสรรเสริญพระพุทธคณุ (บทสวดบาลีทขี่ ึน้ ตน้ ดว้ ย อิตปิ ิโส ฯลฯ)
•บทสรรเสริญพระพทุ ธคุณ สวดทา่ นองสรภญั ญะ (บทสวดสรภัญญะท่ีข้ึนต้นดว้ ย องคใ์ ดพระสมั พุทธ ฯลฯ)
•บทสรรเสริญพระธรรมคณุ (บทสวดบาลที ข่ี น้ึ ต้นด้วย สวากขาโต ฯลฯ)
•บทสรรเสริญพระธรรมคุณ สวดทา่ นองสรภญั ญะ (บทสวดสรภญั ญะท่ีข้นึ ต้นด้วย ธรรมมะคือ คณุ ากร ฯลฯ)
•บทสรรเสริญพระสังฆคุณ (บทสวดบาลีทีข่ น้ึ ตน้ ดว้ ย สปุ ฏิปนั โน ฯลฯ)
•บทสรรเสรญิ พระสงั ฆคุณ สวดท่านองสรภญั ญะ (บทสวดสรภัญญะทข่ี นึ้ ต้นดว้ ย สงฆใ์ ดสาวกศาสดา ฯลฯ)
•บทสวดบูชาเน่ืองในวนั มาฆบูชา (บทสวดบาลที ข่ี ึ้นตน้ ด้วย อัชชายัง ฯลฯ)
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรีสาโรง
บทสวดมนตท์ ่ีพระสงฆน์ ยิ มสวดในวนั มาฆบชู าก่อนทาการ
เวียนเทยี นนิยมสวด (ทง้ั บาลแี ละคาแปล) ตามลาดบั ดงั น้ี
จากน้ันจุดธูปเทยี นและถอื ดอกไม้เปน็ เครอื่ งสกั การบูชาในมือ แลว้ เดนิ เวยี นรอบ
ปูชนยี สถาน 3 รอบ โดยขณะที่เดนิ น้ันพงึ ตั้งจิตให้สงบ พรอ้ มสวดระลกึ ถงึ พระพุทธคุณ
ดว้ ยการสวดบทอิติปิโส (รอบที่หนึ่ง) ระลกึ ถงึ พระธรรมคณุ ด้วยการสวดสวากขาโต
(รอบทีส่ อง) และระลกึ ถึงพระสงั ฆคุณ ดว้ ยการสวดสุปะฏิปันโน (รอบทสี่ าม) จนกวา่ จะ
เวียนจบ 3 รอบ จากน้นั นา่ ธปู เทียนดอกไมไ้ ปบชู าตามปชู นียสถานจึงเป็นอนั เสรจ็ พิธี
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
"เวียนเทยี น" แลว้ ดยี งั ไง
ช่วยให้ชีวิตสกุ สว่าง
ไฟถอื เปน็ ส่อื กลางในการแสดงความศรัทธาตอ่ ศาสนาพุทธ การเวยี นเทียนจึงเปรียบเหมือน
การเพม่ิ ความสุกสวา่ งใหช้ ีวติ ราบร่ืนเจรญิ รุ่งเรือง เปน็ ความเช่ือทต่ี กทอดมาแตโ่ บราณในแถบอินเดีย
และเอเชียตะวนั ออก ส่วนมากใชใ้ นพิธีเผาเทยี นเล่นไฟ พธิ ีปลอ่ ยโคมลอย ใชเ้ ผาศพ และใชจ้ ุดธปู
เทยี นส่าหรบั การเวียนเทยี น
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
"เวียนเทียน" แลว้ ดยี งั ไง
เตือนสตชิ าวพทุ ธ
การเวยี นเทยี นนอกจากเพื่อแสดงความเคารพบชู าตอ่ ปูชนียบคุ คลหรือปชู นยี สถาน
ที่ส่าคัญทางพุทธศาสนาแลว้ ยงั เปน็ เหมอื นกศุ โลบายเตอื นสตใิ หต้ ระหนักถงึ "วัฏสงสาร" หรือ
การเวียนว่ายตายเกดิ อยา่ งไม่มีที่สิ้นสุดเพ่อื ให้ใช้ชวี ติ ไมป่ ระมาท
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
"เวียนเทยี น" แลว้ ดยี งั ไง
ไดอ้ านสิ งสแ์ รง
การเวยี นเทียนจะช่วยสง่ อานิสงส์ผลบุญใหแ้ กผ่ ทู้ ี่ปฏิบัติ ในทางตรงคอื ผ้ปู ฏบิ ตั จิ ะมีกายที่
ส่ารวมขึ้น มีจติ ใจทีส่ ะอาด สงบ ระหว่างท่เี ดินเวยี นเทียน และในทางออ้ ม(ตามความเช่อื )
คอื จะทา่ ใหผ้ ้ปู ฏิบัตไิ ด้บญุ หนกั หลดุ พน้ จากภมู ิเปรต เดรัจฉาน อกี ทง้ั บนั ดาลใหจ้ ิตพ้นอบายภมู ไิ ด้
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
ขน้ั ตอนการ "เวียนเทียน" ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. ชาระร่างกายและจติ ใจ ด้วยการอาบนา่้ ช่าระร่างกายใหส้ ะอาด แต่งกายให้สุภาพเรียบรอ้ ย
2. เตรียม 3 สิ่งคอื ดอกไม้ 1 คู่ (ดอกบัว ดอกดาวเรอื ง ดอกกลว้ ยไม้ หรอื พวงมาลัยดอกไม้สา่ หรบั ถวายพระ)
ธปู 3 ดอก และ เทียน 1 เล่ม
3. ไหวพ้ ระประธานก่อน แล้วค่อยออกมาต้ังแถวเตรียมตวั เวียนเทยี น
4. เวยี นประทักษิณาวตั ร คือการเดินวนรอบโบสถไ์ ปทางดา้ นขวามอื 3 รอบ
พรอ้ มสวดมนตไ์ ปด้วยในแตล่ ะรอบ
5. บทสวดมนต์ รอบท่ี 1 ให้ระลึกถึงพระพทุ ธคณุ โดยสวด "อิตปิ โิ ส ภะคะวา อะระหงั สัมมาสัมพทุ โธ"
รอบที่ 2 ให้ระลึกถึงพระธรรมคุณ โดยสวด "สวากขาโต ภะคะวาตา ธมั โม" และรอบท่ี 3 ใหร้ ะลกึ ถงึ พระสงั ฆคคุณ
โดยสวด "สุปะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ"
6. ขณะเดินเวยี นเทียนตอ้ งสารวมกาย วาจา ใจ และตอ้ งระวังธปู เทียนไปโดนผ้อู ่ืน
7. หลังจากเวียนเทยี นครบ 3 รอบ ใหน้ าดอกไมธ้ ูปเทยี นไปปักบชู าตามจดุ ที่เตรียมไว้
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรีสาโรง
ขอบคณุ มากคะ่
…สาหรบั การรบั ชม…
ความรเู้ รอ่ื ง
วนั สาคญั ทางพระพทุ ธศานา : วนั มาฆบชู า
จดั ทาโดย หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอศรสี าโรง
แหลง่ ทมี่ าขอ้ มูล : https://www.bangkokbiznews.com/news/986725