๔๘
เฉลย คาทมี่ ีอักษรนา
สยาม
ขส ต
นน ล ไ
ส
ม า ต ล่ิ ง า ว
มด
ขยาย
ถลอก
กุ ห ล า บ
จรวด
๓. ให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงและช่วยกันอธบิ ายความหมายของคา
๔. ให้นักเรียนทากจิ กรรมเสริมทกั ษะการเรยี นรู้ โดยเขยี นคาอา่ นของคาทีก่ าหนดอ่านออกเสยี ง
และช่วยกันอธบิ ายความหมายของคา จากนั้นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
๕. ใหน้ ักเรียนแบง่ เปน็ ๒ ฝ่าย ผลัดกันบอกและเขียนคาทีม่ อี ักษรนา โดยคาทีน่ กั เรียนบอกจะตอ้ งเป็นคาที่
กาหนด ดังนี้
๏ อวยั วะของร่างกาย
๏ ชอื่ สิ่งของเครอื่ งใช้
๏ ชือ่ พชื ผัก ผลไม้
๏ คาแสดงกิริยาอาการ
๏ ชอื่ สตั ว์
เม่อื ฝา่ ยที่ ๑ บอกคา ฝ่ายที่ ๒ เขยี นตอบ ฝ่ายท่ี ๒ บอกคา ฝ่ายท่ี ๑ กเ็ ขยี นตามคาบอก ฝ่ายใดทาผดิ ไม่
ปฏิบตั ติ ามกติกาจะไมไ่ ดค้ ะแนน เชน่ ถา้ ฝา่ ยท่ีบอกคาท่ีไมใ่ ช่อกั ษรนา หรอื ไม่ใช่ชอื่ พชื ผลไม้ สัตว์ และฝ่ายท่ี
เขยี นคาเขยี นคาไม่ถกู ต้อง
๖. ให้นักเรยี นทากจิ กรรมเสริมการเรียนรู้ โดยเลือกคาท่ีกาหนดไปเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง จากน้นั ร่วมกันตรวจสอบ
ความถกู ต้อง
๗. ให้นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดังน้ี
๏ การใชค้ าในการสอ่ื สารต้องใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งตามความหมาย
กำรจดั บรรยำกำศเชิงบวก
ให้นกั เรียนได้เรียนรคู้ วามหมายของคาทใ่ี ช้ในชวี ติ ประจาวัน และฝึกใช้คาในการส่ือสาร ครูชนื่ ชม
นกั เรยี นทมี่ คี วามกระตือรอื รน้ ในการเรยี น
๔๙
สื่อกำรเรียนรู้
ตารางเกมปรศิ นาอักษรไขว้
กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล
๑.๑ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรม
๑.๒ สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่
๑.๓ ตรวจผลงานของนกั เรยี น
๒. เครอ่ื งมอื
๒.๑ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
๒.๒ แบบสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ
๓. เกณฑ์กำรประเมนิ
๓.๑ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผำ่ น
ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ ำ่ น
๓.๒ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
คะแนน ๙- ๑๐ ระดับ ดมี าก
คะแนน ๗ – ๘ ระดับ ดี
คะแนน ๕ – ๖ ระดบั พอใช้
คะแนน ๐ – ๔ ระดับ ควรปรบั ปรงุ
ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
ลงชอ่ื _________________________ (ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา)
( นางพรพิมล กลนาวา)
________/________/_______
๕๐
บนั ทกึ หลังกำรสอน
ผลกำรจดั กำรเรียนกำรสอน
๑. ดำ้ นควำมรู้
นักเรยี นจานวน ๒๐ คนสามารถเข้าใจแต่งประโยคคาทม่ี อี ักษรนาไดถ้ กู ตอ้ งและสามารถอา่ นเนือ้
เร่ืองไดเ้ ข้าใจ สามารถแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเนอ้ื เร่ืองได้ ส่วนอีก ๕ คนทเี่ หลอื ครไู ดอ้ ธิบายเพมิ่ เติมและ
ใหเ้ พื่อนช่วยสอนอ่านจนผ่านกจิ กรรม
๒. ดำ้ นทักษะกระบวนกำร
นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ทกุ คนมที ักษะกระบวนการในการจดั การเรียนรูต้ ามเกณฑท์ คี่ รู
กาหนด สามารถทาแบบฝกึ หัดไดถ้ กู ต้องดว้ ยตนเอง
๓. ด้ำนคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
นักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ ทุกคนมคี วามตั้งใจในการเรียนและงานท่ไี ด้รับมอบหมาย บางคน
อาจจะเรียนรู้ชา้ แตก่ ถ็ ือวา่ นกั เรยี นมีความตง้ั ใจและพยายามเรียนรู้
ปญั หำ/อปุ สรรค
นกั เรียนบางคนขาดความสนใจ ไม่ตงั้ ใจ ไมเ่ หน็ ความสาคัญของการอา่ นและเขยี น
นักเรยี นขาดทักษะในการอา่ นและเขียน
แนวทำงแก้ไข
สอนซอ่ มเสริมหลังเลิกเรยี น ฝกึ อ่านฝึกเขียนใหม้ ากขึน้ โดยใหเ้ พ่อื นช่วยเพือ่ นพาฝึกอ่าน
วางเงือ่ นไขขอ้ ตกลงในการเรยี นรว่ มกนั
ลงชื่อ ศิริพร (ผบู้ ันทึก)
(นางสาวศิริพร สีทา)
________/________/_______
๕๑
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๓
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๒๑๐๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒
ปีการศึกษา ๒๕๖๕
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๑ ชว่ั โมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่ือง การคัดลายมอื คาท่มี อี ักษรนา ครูผู้สอน ครูศิรพิ ร สที า
สอนวนั ที่ ๑๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๕
มำตรฐำนกำรเรียนรู้/
ตมัวำชตี้วรดัฐำนกำรเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจแก้ปัญหาในการ
ดาเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ัยรกั การอา่ น
ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ป. ๒/๑ อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองง่าย ๆไดถ้ กู ตอ้ ง
ท ๑.๑ ป. ๒/๒ อธิบายความหมายของคาและขอ้ ความทีอ่ า่ น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ
และเขยี นเร่ืองราวในรปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ท ๒.๑ ป. ๒/๑ คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั
๑. อธิบายวิธกี ารเขยี นตัวอักษรไทย (K)
๒. สรปุ ความร้เู รอ่ื งคาท่มี อี ักษรนา (K)
๓. คดั ลายมอื คาท่ีมอี กั ษรนา (P)
๔. เขยี นแผนภาพความคิดสรุปความรเู้ รอ่ื งคาทีม่ ีอักษรนา (P)
๕. เหน็ ความสาคญั ของการเรียนร้คู าที่ใช้ในภาษาไทย (A)
สำระสำคญั
๑. การฝึกคัดลายมอื อยา่ งสม่าเสมอจะทาให้เขียนหนงั สอื ไดถ้ กู ต้อง สวยงาม และคล่องแคลว่ ขึ้น
๒. คาที่มีอกั ษรนาจะมอี กั ษรกลางนาอกั ษรต่าและอักษรสูงนาอักษรตา่ ซงึ่ สามารถอ่านออกเสยี ง
พยางค์เดยี ว หรืออา่ นออกเสยี ง ๒ พยางค์
สำระกำรเรียนรู้
คาท่มี ีอักษรนา
๕๒
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
๑. ความสามารถในการส่อื สาร
- ทักษะการอา่ น
- ทักษะการเขยี น
- ทกั ษะการฟัง การดู และการพูด
๒. ความสามารถในการคิด
- การจดั ระบบความคดิ เป็นแผนภาพ
- การประยกุ ต์/การปรับปรุง
- การสรปุ ความรู้
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้
ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
มุ่งมน่ั ในการทางาน
ตวั ชี้วัดท่ี ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัติหน้าทก่ี ารงาน
ตัวชี้วัดที่ ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสาเร็จ ตามเป้าหมาย
รักความเป็นไทย
ตวั ชว้ี ัดท่ี ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม
ชิ้นงำนหรือภำระงำน (หลกั ฐำน ร่องรอยแสดงควำมรู้)
๑. ใบงานเรื่อง การคดั ลายมอื คาที่มีอกั ษรนา
๒. แผนภาพความคิดสรปุ ความรู้เรอ่ื ง คาท่มี ีอกั ษรนา
คำถำมท้ำทำย
ถา้ นกั เรยี นเขียนตัวอักษรไม่มหี วั จะมตี วั อกั ษรใดทมี่ ีรปู ร่างเหมอื นกนั บา้ ง
กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
๑. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ชค้ าถามท้าทาย ดงั น้ี
๏ ถ้านักเรยี นเขยี นตวั อกั ษรไม่มีหัว จะมตี วั อกั ษรใดทม่ี รี ูปรา่ งเหมอื นกนั บา้ ง
๒. ใหน้ ักเรยี นอา่ นเรือ่ ง จ้ิงหรีด ทค่ี รูตดิ บนกระดานพร้อมกนั และสงั เกตคาทม่ี อี ักษรนา
๕๓
จงิ้ หรดี
เช้าวันเสาร์พ่อพาชีวินไปวิ่งออกกาลังกายท่ีสวนสาธารณะ ชีวินได้ยินเสียงแมลงแต่มองหาเจ้าของ
เสียงไม่พบ พ่อเหน็ ชีวนิ สนใจจึงจงู มอื เขาเดินตามเสยี งท่ไี ด้ยิน พอ่ ช้ีให้ชวี นิ ดจู ิ้งหรีดหลายตัวทอ่ี ยตู่ ามพน้ื หญา้
พ่อเล่าว่าจ้ิงหรีดเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ มี ๖ ขา มันมีประโยชน์ต่อคนและสัตว์ คนชอบนาจิ้งหรีด มา
เลี้ยงเพอื่ ฟังเสียงทไ่ี พเราะ
ชีวินสงสัยว่าจ้ิงหรีดร้องได้อย่างไร พ่อชี้ให้ดูท่ีปีกของจิ้งหรีด ชีวินเห็นมันขยับปีกทาให้ เกิด
เสยี งข้นึ พอ่ พูดพร้อมกับชใ้ี หด้ ูจงิ้ หรีดคูห่ นึง่ จ้ิงหรีดตัวผ้มู ักขยับปกี เพื่อเรียกจง้ิ หรดี ตวั เมียใหเ้ ข้ามาใกล้
ชีวินเห็นจิง้ หรีดหลายตวั กระโดดได้สูง เคล่ือนไหวได้วอ่ งไว เพราะมนั มขี าที่แข็งแรง
ขณะเดินกลับบ้าน ชีวินเห็นแม่ค้าที่กาลังขายแมลงทอดกรอบ พ่อพาไปดู แม่ค้าเชิญชวนให้ลองชิม
แมลงทอดที่อยใู่ นถาด “ลองชิมจ้งิ หรีดทอดกรอบนี้สคิ ะ สะอาดและอร่อยมากคะ่ ”
พอ่ เล่าวา่ จิง้ หรีดเปน็ แมลงท่ีสะอาด เล้ยี งง่าย เจรญิ เติบโตและแพร่พันธไ์ุ ดร้ วดเร็ว
เมอื่ กลบั ถงึ บ้าน พ่อเห็นชีวนิ สนใจเรอื่ งจิ้งหรดี จึงนาหนังสอื นิทาน เร่ือง ลากบั จ้ิงหรดี มาใหช้ วี นิ อา่ น
ซึ่งมีเนื้อเรื่องดงั น้ี
ลาตัวหนึ่งยนื กินหญ้าอยู่ทชี่ ายป่า ลาไดย้ ินเสียงจิง้ หรีดร้องเพราะจับใจ มันอยากมเี สียงรอ้ งท่ีไพเราะ
บา้ ง จึงไปถามจง้ิ หรีดว่ากินอะไร จึงมเี สียงไพเราะ จิ้งหรีดบอกว่ากนิ นา้ ค้าง ลาจึงเลกิ กนิ หญ้าและเลียนา้ คา้ ง
ตามใบไม้กนิ ทกุ วัน ในไมช่ า้ ร่างกายของลาขาดอาหารและตายในทสี่ ุด
ชวี ินต้ังใจอ่านทาให้ได้รับความรู้และสนุกสนาน มีเกร็ดความรู้ท่ีน่าสนใจและมีประโยชน์ ชีวนิ จึง
นามาฝากเพื่อน ๆ ให้ไดอ้ ่านกนั ทุกคน
สมใจ บุญอุรพภี ิญโญ
๓.ใหน้ กั เรยี นคัดลายมือคาท่มี อี ักษรนาจากเรอื่ ง จิ้งหรดี คนละ ๓ คา จากน้ันให้เพ่ือนช่วยกนั ประเมิน
ผลงาน
๔. ใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ ๒๗ เรือ่ ง การคัดลายมอื คาท่ีมอี ักษรนา ครูประเมนิ ผลงานของนักเรยี น
เป็นรายบุคคล
๕. ให้นักเรียนวาดภาพระบายสีประกอบคาที่มีอักษรนา คนละ ๑ คา ในขนาด ๓ × ๔ นว้ิ พร้อมทั้ง
เขยี นคาไว้ใตภ้ าพ จากนัน้ นามาแลกเปลยี่ นกนั อ่านกับเพื่อน
๖. ให้นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดังนี้
๏ การฝึกคัดลายมอื อย่างสม่าเสมอจะทาให้เขียนหนังสือไดถ้ กู ตอ้ ง สวยงาม และคล่องแคล่วขน้ึ
๏ คาที่มอี ักษรนาจะมีอักษรกลางนาอักษรต่าและอกั ษรสูงนาอกั ษรต่า ซ่ึงสามารถอา่ นออกเสยี ง
พยางค์เดยี ว หรอื อา่ นออกเสียง ๒ พยางค์
๗. ให้นกั เรยี นเขียนแผนภาพความคดิ สรปุ ความรู้เรอื่ ง คาท่ีมอี กั ษรนา แล้วรว่ มกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง
กำรจดั บรรยำกำศเชิงบวก ๕๔
ใหน้ ักเรียนฝึกฝนการอ่านและเขยี นคาให้คลอ่ งแคลว่ โดยฝกึ ฝนรว่ มกับเพ่อื น ๆ ทาใหน้ กั เรียนเกดิ
ความกระตือรอื รน้
สื่อกำรเรียนรู้
๑. เรื่อง จิง้ หรดี
๒. กระดาษวาดภาพ
๓. สไี ม้หรือสเี มจิก
๔. ใบงาน
กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๑. วธิ กี ำรวัดและประเมินผล
๑.๑ สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
๑.๒ สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
๑.๓ ตรวจใบงานท่ี ๒๗
๒. เครอื่ งมือ
๒.๑ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
๒.๒ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
๓. เกณฑ์กำรประเมนิ
๓.๑ การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
ผ่านต้งั แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผ่ำน
ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไม่ผำ่ น
๓.๒ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดมี าก
คะแนน ๗-๘ ระดับ ดี
คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้
คะแนน ๐-๔ ระดับ ควรปรับปรงุ
๕๕
กำรประเมนิ ผลตำมสภำพจริง (Rubrics)
การประเมนิ ใบงานนใ้ี หผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เร่อื ง การคัดลายมือคาท่ีมีอกั ษรนา
ระดับคะแนน
๔๓๒๑
เกณฑก์ ารประเมิน
การคัดลายมือคา คัดลายมอื ไดถ้ กู ต้อง คัดลายมอื ไดถ้ กู ต้อง คัดลายมือได้ถูกต้อง คดั ลายมอื ได้ถกู ตอ้ ง
ท่มี ีอกั ษรนา เป็นระเบียบ เปน็ ระเบยี บ และเปน็ ระเบยี บ แต่ยงั
สะอาดและสวยงาม และสะอาดดี ความสะอาดพอใชไ้ ด้ ไม่เป็นระเบยี บนัก
แสดงถึงความต้งั ใจ แต่ยังไมส่ วยงาม มีรอยลบทไ่ี ม่สะอาด
มากนัก หลายแห่ง
ข้อเสนอแนะของผู้บริหำรสถำนศึกษำ
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
______________________________________________________________________________
ลงช่ือ_________________________ (ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา)
(นางพรพิมล กลนาวา)
________/________/_______
๕๖
บันทกึ หลังกำรสอน
ผลกำรจดั กำรเรียนกำรสอน
๑. ด้ำนควำมรู้
นักเรียนจานวน ๒๕ คนสามารถเขยี นสรปุ เน้ือหาคาอักษรนาเป็นแผนภาพไดถ้ ูกตอ้ งตามเกณฑ์ของ
ครผู สู้ อน และนกั เรียนสามารถคดั ลายมือคาท่มี ีอักษรนาไดผ้ า่ นตามเกณฑ์ท่ีกาหนด
๒. ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร
นกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ ทุกคนมที ักษะกระบวนการในการจัดการเรยี นร้ตู ามเกณฑ์ที่ครู
กาหนด สามารถทาแบบฝกึ หัดได้ถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง
๓. ดำ้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ ทุกคนมีความตงั้ ใจในการเรียนและงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย บางคน
อาจจะเรยี นรู้ชา้ แตก่ ถ็ ือวา่ นกั เรียนมคี วามต้ังใจและพยายามเรียนรู้
ปญั หำ/อุปสรรค
นักเรยี นบางคนขาดความสนใจ ไมต่ ้ังใจ ไมเ่ หน็ ความสาคัญของการอา่ นและเขยี น
นกั เรยี นขาดทกั ษะในการอา่ นและเขยี น
แนวทำงแก้ไข
สอนซ่อมเสริมหลงั เลิกเรียน ฝกึ อ่านฝึกเขยี นใหม้ ากขน้ึ โดยใหเ้ พือ่ นชว่ ยเพอื่ นพาฝกึ อา่ น
วางเงอ่ื นไขข้อตกลงในการเรียนรว่ มกัน
ลงชือ่ ศริ พิ ร (ผบู้ ันทึก)
(นางสาวศริ พิ ร สีทา)
________/________/_______