The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by flukejaidee2, 2021-03-24 09:45:24

Python

Python

PYTHON

ASADAWUTH
MEENISAI

ภาษาโปรแกรม
คื อ อ ะ ไ รP Y T H O N
?

ภาษาโปรแกรม PYTHON คือภาษาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
ระดบั สงู โดยถกู ออกแบบมาใหเ้ ปนภาษาสครปิ ต์ทีอ่านง่าย
โดยตัดความซบั ซอ้ นของโครงสรา้ งและไวยกรณข์ องภาษา

ออกไป ในสว่ นของการแปลงชุดคําสงั ทีเราเขยี นใหเ้ ปน
ภาษาเครอื ง PYTHON มกี ารทํางานแบบ

INTERPRETER คือเปนการแปลชุดคําสงั ทีละบรรทัด
เพอื ปอนเขา้ สหู่ นว่ ยประมวลผลใหค้ อมพวิ เตอรท์ ํางานตามที

เราต้องการ นอกจากนนั ภาษาโปรแกรม PYTHON ยงั
สามารถนาํ ไปใชใ้ นการเขยี นโปรแกรมไดห้ ลากหลายประเภท

โดยไมไ่ ดจ้ าํ กัดอยูท่ ีงานเฉพาะทางใดทางหนงึ
(GENERAL-PURPOSE LANGUAGE) จงึ ทําใหม้ ี
การนาํ ไปใชก้ ันแพรห่ ลายในหลายองค์กรใหญร่ ะดบั โลก เชน่
GOOGLE, YOUTUBE, INSTAGRAM, DROPBOX

และ NASA เปนต้น

พื น ฐ า น P Y T H O N

1.แสดงผลง่ายๆ ที DEVELOP สว่ นใหญท่ ํากันเลยครบั แสดง
ขอ้ ความ HELLO WORLD

เราสามารถเขยี น PYTHON จากทีไหนก็ได้ครบั เพราะเปนแค่
ขอ้ ความเพอื ให้ PYTHON (ทีเปนตัว INTERPRETER แปล
ขอ้ ความไปเปน BINARY ให้คอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจ) ในทีนี จะยก

ตัวอยา่ งเขยี นใน NOTEPAD++

พมิ พค์ ําสงั

PRINT("HELLO WORLD")

เพอื บอกให้แสดงขอ้ ความ HELLO WORLD และ SAVE ไฟล์
ด้วยนามสกลุ .PY เพอื จะบอกให้คอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจวา่ ไฟลน์ ตี ้อง

แปลด้วยภาษา PYTHON
วธิ รี นั ไฟล์ ให้เรยี ก COMMAND LINE ขนึ มาอีกที และเรยี ก

PATH ของไฟลน์ นั

จะได้ผลลพั ธด์ ังตัวอยา่ ง

2. IF ELSE บวกเลขง่ายๆ

A=2
B = INT(INPUT("TYPE NUMBER: "))
IF (A + B > 5):

PRINT("RESULT: MORE THAN 5")
ELSE:

PRINT("RESULT: " + STR(A + B))

เราลองเขยี นโค้ดเพมิ เขา้ ไป โดยกําหนดค่า A = 2 ไว้ และค่า B รบั
ค่ามา และ IF ELSE กําหนดเคสเทียบกับ 5 และแสดงขอ้ ความ

ตั ว แ ป ร แ ล ะ ช นิ ด ข้ อ มู ล

(VARIABLES & DATA TYPES)

ก า ร กํา ห น ด ค่ า ใ ห้ ตั ว แ ป ร

>>> A = 10

แ ล้ ว เ รี ย ก ใ ช้ ห ล ะ ? แ ค่ พิ ม พ์ ชื อ
ตั ว แ ป ร ล ง ไ ป ไ ง ห ล ะ !

>>> A 10

ก า ร นาํ ข้ อ มู ล ใ น ตั ว แ ป ร ม
คํา น ว ณ

ทํา ไ ด้ ใ น รู ป แ บ บ ( ตั ว แ ป ร ตั ว
ดํา เ นิ น ก า ร ตั ว เ ล ข ห รื อ ตั ว แ ป ร )

>>> A + 10

20

>>> A/2

5

โ ด ย ตั ว ด า เ นิ น ก า ร ก็ คื อ + - * /
แ ล ะ * * ( ย ก กํา ลั ง )

ก า ร แ ป ล ง ป ร ะ เ ภ ท ข้ อ มู ล

โ ด ย ใ น ฟ ง ก์ ชั น เ ห ล่ า นี จ ะ มี ก า ร รั บ ค่ า
เ ร า ส า ม า ร ถ ใ ส่ ข้ อ มู ล ห รื อ ตั ว แ ป ร ล ง
ไ ป ใ น ว ง เ ล็ บ เ พื อ แ ป ล ง ไ ด้ เ ล ย

S T R ( ) สาํ ห รั บ ก า ร แ ป ล ง เ ป น S T R I N G เ ช่ น

STR(A) >> “10”

I N T ( ) สาํ ห รั บ ก า ร แ ป ล ง เ ป น I N T E G E R
เ ช่ น I N T ( 3 . 4 5 ) > > 3
F L O A T ( ) สาํ ห รั บ ก า ร แ ป ล ง เ ป น F L O A T
เ ช่ น F L O A T ( 1 ) > > 1 . 0
B O O L ( ) สาํ ห รั บ แ ป ล ง เ ป น B O O L E A N เ ช่ น

BOOL(1) >> TRUE

เ รื อ ง ข อ ง ส ต ริ ง ( S T R I N G S )

ก า ร กํา ห น ด ค่ า ใ ห้ ตั ว แ ป ร แ ล ะ ใ ช้ ง า น
ส ต ริ ง

>>> B = ‘HELLO’
>>> B
‘HELLO'

ก า ร ใ ช้ ง า น ตั ว ดํา เ นิ น ก า ร กั บ ส ต ริ ง

>> B[3]
‘L’

>> B[0:2]
‘HE’

ก า ร ใ ช้ ง า น ตั ว ดํา เ นิ น ก า ร กั บ ส ต ริ ง

>>> B * 3
‘HELLOHELLOHELLO’
>>> B + ‘FROMMARS’
‘HELLOFROMMARS’
>>> ‘E’ IN B
TRUE

ก า ร ใ ช้ เ ม ธ อ ด กั บ ส ต ริ ง

> > B . L O W E R ( ) แ ป ล ง ข้ อ ค ว า ม เ ป น
ตั ว พิ ม พ์ เ ล็ ก
> > B . U P P E R ( ) แ ป ล ง ข้ อ ค ว า ม เ ป น
ตั ว พิ ม พ์ ใ ห ญ่
นั บ ส ม า ชิ ก ใ น> > B . C O U N T ( ‘ L ’ )
ส ต ริ ง
ท า ก า ร> > B . R E P L A C E ( ‘ E ’ , ’ X ’ )
แ ท น ที ตั ว อั ก ษ ร
>> LEN(B) แสดงขนาดของ
ข้ อ ค ว า ม

ก า ร ต ร ว จ ส อ บ เ งื อ น ไ ข

(CONDITIONAL STATEMENT)

ต ร ว จ ส อ บ ว่ า เ งื อ น ไ ข ดั ง ก ล่ า ว
เ ป น จ ริ ง ห รื อ ไ ม่ ถ้ า เ ป น จ ริ ง จ ะ
ทํา ง า น ภ า ย ใ ต้ B L O C K ข อ ง I F

ถ้ า ห า ก เ งื อ น ไ ข ดั ง ก ล่ า ว ไ ม่ เ ป น
จ ริ ง จ ะ ทํา ง า น ใ น ส่ ว น ข อ ง E L I F
เ พื อ ต ร ว จ ส อ บ ต่ อ ไ ป แ ล ะ
สุ ด ท้ า ย จ ะ เ ข้ า เ งื อ น ไ ข E L S E ห า ก
ไ ม่ เ ป น จ ริ ง ทั ง ห ม ด

I F เ งื อ น ไ ข ท า ง ต ร ร ก ะ :
คํา สั ง ต่ า ง ๆ

E L I F เ งื อ น ไ ข ที 2 :
คํา สั ง ต่ า ง ๆ

ELSE::

คํา สั ง ต่ า ง ๆ

LISTS

L I S T ( ลิ ส ต์ ) คื อ โ ค ร ง ส ร้ า ง ข้ อ มู ล ช นิ ด

ห นึ ง ใ น ภ า ษ า P Y T H O N ที ใ ช้ เ ก็ บ ข้ อ มู ล

แ บ บ ลํา ดั บ โ ด ย มี( S E Q U E N C E ) INDEX

เ ป น ตั ว ร ะ บุ ตํา แ ห น่ ง ใ น ก า ร เ ข้ า ถึ ง

ข้ อ มู ล เ ร า ส า ม า ร ถ ใ ช้ L I S T เ พื อ เ ก็ บ

ข้ อ มู ล จาํ น ว น ม า ก แ ล ะ ห ล า ก ห ล า ย

ป ร ะ เ ภ ท ใ น เ ว ล า เ ดี ย ว กั น L I S T เ ป น

ป ร ะ เ ภ ท ข้ อ มู ล ที ใ ช้ อ ย่ า ง ห ล า ก ห ล า ย

ใ น ก า ร เ ขี ย น โ ป ร แ ก ร ม น อ ก จ า ก นี

ใ น ภ า ษ า ยั ง มีP Y T H O N BUILT-IN

F U N C T I O N ที ส า ม า ร ถ ทํา ง า น กั บ L I S T

แ ล ะ ใ น L I S T อ อ บ เ จ็ ค เ อ ง ก็ มี เ ม ธ อ ด

ต่ า ง ๆ เ ป น จาํ น ว น ม า ก ที ช่ ว ย อํา น ว ย

ค ว า ม ส ะ ด ว ก ใ น ก า ร เ ขี ย น โ ป ร แ ก ร ม

ก า ร ป ร ะ ก า ศ แ ล ะ ใ ช้ ง า น L I S T

L I S T นั น เ ป น ตั ว แ ป ร ป ร ะ เ ภ ท ห นึ ง ก า ร
ใ ช้ ง า น ข อ ง มั น จ ะ เ ห มื อ น กั บ อ า เ ร ย์ ใ น

ภ า ษ า อื น ๆ ใ น ก า ร ป ร ะ ก า ศ L I S T นั น
ข้ อ มู ล ข อ ง มั น จ ะ อ ยู่ ภ า ย ใ น

เ ค รื อ ง ห ม า ย [ ] แ ล ะ คั น ส ม า ชิ ก แ ต่ ล ะ
ตั ว ด้ ว ย เ ค รื อ ง ห ม า ย ค อ ม ม า , ม า ดู
ตั ว อ ย่ า ง ก า ร ป ร ะ ก า ศ L I S T ใ น ภ า ษ า

PYTHON

NUMBERS = [-1, 2, 5, 8, 10, 13]
NAMES = ['MATEO', 'DANNY', 'JAMES', 'THOMAS', 'LUKE']
MIXED_TYPE = [-2, 5, 84.2, "MOUNTAIN", "PYTHON"]

ใ น ตั ว อ ย่ า ง เ ร า ไ ด้ ส ร้ า ง ตั ว แ ป ร L I S T

ส า ม ตั ว แ ป ร N U M B E R S เ ป น ตั ว แ ป ร L I S T ที

มี ส ม า ชิ ก เ ป น ตั ว เ ล ข จาํ น ว น เ ต็ ม 6 ตั ว

เ ป น ข อ ง ที สาํ ห รั บN A M E S
LIST STRING

เ ก็ บ ชื อ แ ล ะ มี 5 ร า ย ชื อ แ ล ะ สุ ด ท้ า ย

ตั ว แ ป ร เ ป น ที เ ก็ บM I X E D _ T Y P E
LIST

ข้ อ มู ล ป ร ะ เ ภ ท ต่ า ง ๆ แ บ บ ร ว ม กั น ใ น

ตั ว แ ป ร เ ดี ย ว ซึ ง มี ส ม า ชิ ก ทั ง ห ม ด 5 ตั ว

ซึ ง ทั ง ห ม ด นี เ ป น ก า ร กํา ห น ด ส ม า ชิ ก ใ ห้

กั บ L I S T พ ร้ อ ม กั บ ก า ร ป ร ะ ก า ศ ตั ว แ ป ร

ใ น ภ า ษ า P Y T H O N เ ร า ส า ม า ร ถ กํา ห น ด ค่ า

ใ ห้ กั บ L I S T ห ลั ง จ า ก ป ร ะ ก า ศ ตั ว แ ป ร

แ ล้ ว ไ ด้ ม า ดู ตั ว อ ย่ า ง

NUMBERS = []
NUMBERS.APPEND(-1)
NUMBERS.APPEND(2)
NUMBERS.APPEND(5)
NUMBERS.APPEND(8)
NUMBERS.APPEND(10)
NUMBERS.APPEND(13)

NAMES = ['MATEO', 'DANNY']
NAMES.APPEND('JAMES')
NAMES.APPEND('THOMAS')
NAMES.APPEND('LUKE')PRINT(NUMBERS)PRINT
(NAMES)PRINT('NUMBERS COUNT = ',
LEN(NUMBERS))PRINT('NAMES COUNT = ',
LEN(NAMES))

ใ น ตั ว อ ย่ า ง เ ป น ก า ร กํา ห น ด ค่ า ใ ห้ กั บ L I S T ห ลั ง
จ า ก ที มั น ถู ก ส ร้ า ง แ ล้ ว เ ร า ใ ช้ เ ม ธ อ ด A P P E N D ( )
เ พื อ เ พิ ม ข้ อ มู ล ใ ห ม่ เ ข้ า ไ ป ใ น L I S T ซึ ง ข้ อ มู ล ที
เ พิ ม เ ข้ า จ ะ อ ยู่ ท้ า ย สุ ด แ ล ะ เ รี ย ง I N D E X เ พิ ม ขึ น ไ ป
เ รื อ ย ๆ โ ด ย เ ริ ม จ า ก 0 ใ น ตั ว แ ป ร N U M B E R S เ ร า

ไ ด้ เ พิ ม 5 จาํ น ว น เ ต็ ม เ ข้ า ไ ป ใ น L I S T แ ล ะ ใ น
ตั ว แ ป ร N A M E S ใ น ต อ น แ ร ก ไ ด้ ป ร ะ ก า ศ แ ล ะ
กํา ห น ด ส อ ง ชื อ ใ ห้ กั บ ตั ว แ ป ร แ ล ะ เ พิ ม เ ข้ า ไ ป
ภ า ย ห ลั ง อี ก 3 ชื อ แ ล ะ ฟ ง ก์ ชั น L E N ( ) ใ ช้ เ พื อ นั บ

จาํ น ว น ส ม า ชิ ก ภ า ย ใ น L I S T

[-1, 2, 5, 8, 10, 13]

['MATEO', 'DANNY', 'JAMES', 'THOMAS', 'LUKE']

NUMBERS COUNT = 6

NAMES COUNT = 5


Click to View FlipBook Version