The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Arachaporn Atathep, 2019-08-30 04:28:54

อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง

การหาประสิทธิภาพสื่อ

การหาประสิทธิภาพสื่อ
รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๓๑๑01
เรือ่ ง อเิ หนา ตอนศกึ กะหมงั กหุ นงิ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔

นางอรชพร อะทะเทพ
ครู ค.ศ.๒

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นดอกคาใต้วิทยาคม
อาเภอดอกคาใต้ จังหวัดพะเยา
สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 36
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

การสรา้ งและหาประสิทธิภาพของเครือ่ งมือ

ผวู้ ิจัยได้ดำเนินกำรสร้ำงและพฒั นำเครือ่ งมือ ดงั นี้

การสรา้ งและหาประสิทธภิ าพของส่ือการสอน Any flip รว่ มกบั เอกสารเพม่ิ เตมิ หนว่ ยการเรยี นรู้เรือ่ ง

อิเหนำ ตอน ศกึ กะหมังกุหนิง ในระดับชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ ๔ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม มีกำร

ดำเนนิ กำรตำมข้ันตอน ดงั นี้

1. ศกึ ษาหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่ม
สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี๔ โรงเรียนดอกคาใต้วิทยาคม พุทธศักราช 2557
ตลอดจนหนังสือเรียนและเอกสารท่เี กย่ี วข้อง

2. วิเคราะห์มาตรฐานและตัวช้ีวัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ จาก
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย โรงเรียนดอกคาใต้วทิ ยาคม พุทธศกั ราช 2557 กาหนดเปน็ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3. ศึกษาเน้ือหา รูปแบบ วิธกี ารสร้างและการหาประสิทธภิ าพของส่ือการสอน Any flip ร่วมกับ
เอกสารเพ่ิมเติม ผูม้ คี วามรู้ เอกสาร หนังสือ เวบ็ ไซต์ รวมถึงงานวิจัยที่เกีย่ วข้อง เพ่ือเปน็ แนวทาง
ในการสร้างส่ือการสอน Any flip รว่ มกับเอกสารเพ่มิ เติม ทใ่ี ช้ในการทดลอง

4. วเิ คราะหเ์ นอ้ื หาใหส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ นาเน้อื หาทีว่ เิ คราะห์แลว้ มากาหนดเป็นสือ่
การสอน Any flip ร่วมกับเอกสารเพ่มิ เติม ในระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔
โรงเรียนดอกคาใตว้ ิทยาคม โดยแบ่งเน้ือหาออกเป็น เร่อื ง ดงั น้ี ศพั ทน์ ่ารู้ (ลบั สมองก่อนเรยี น
๑๐คาศพั ท)์ , นาเร่ือง, เรอื่ งย่อ , เนอื้ เร่ือง , ประวัติผแู้ ตง่ , สาระนา่ รู้ , แนวทางในการวจิ ารณ์
วรรณคดแี ละวรรณกรรม

5. ออกแบบสื่อการสอน Any flip ร่วมกับเอกสารเพิ่มเติม ในระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาที่ ๔ โรงเรยี น
ดอกคาใต้วิทยาคม โดยเน้อื หาทนี่ ามาสร้างสาหรับใชใ้ นการวจิ ัยคร้งั นี้ มรี ายละเอียดของเนื้อหาตาม
วเิ คราะห์ไว้ในข้อท่ี 4 ตามหน่วยการเรียนรู้ ให้ครอบคลุมเน้ือหาและสอดคล้อง
กับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กาหนดไว้

6. สร้างส่ือ ออกแบบการเรียนการสอนด้วย ส่ือการสอน Any flip ร่วมกับเอกสารเพ่ิมเติม
เรื่อง อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนดอกคาใต้วิทยาคม ตาม
หน่วยการเรียนรู้ ให้ครอบคลุมเนื้อหาและสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กาหนดไว้
สร้างสอ่ื การสอน Any flip รว่ มกับเอกสารเพิ่มเตมิ เรื่องที่ผู้วิจัยสร้างข้ึนเสนออาจารย์ท่ี
ปรึกษาเพ่ือตรวจสอบความเหมาะสมและนาข้อเสนอแนะ ในเร่ืองรายละเอียดเน้ือหาและ
เกณฑ์การประเมินผลไปปรับปรุงแก้ไข

7. นา “ส่อื Any flip ร่วมกับเอกสารเพิ่มเติม” เร่ือง อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนดอกคาใต้วิทยาคม ให้ผู้เช่ียวชาญ 3 ท่าน ทาการประเมิน
คุณภาพของการจัดการเรียนดารสอนด้วย “ส่ือ Any flip ร่วมกบั เอกสารเพิ่มเตมิ ”เรื่อง

อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนดอกคาใต้วิทยาคม
โดยรวมมคี ่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทสี่ ุด ( = 4.64, S.D) = 0.17
จากการนาสือ่ “ Any flip ร่วมกับเอกสารเพิ่มเติม” ให้ผูเ้ ช่ยี วชาญประเมินคุณภาพ
ผู้เช่ียวชาญได้ให้ ข้อเสนอแนะในส่วนด้านเนื้อหาแบบฝึก ค่อนข้างยาก ควรมแี บบฝกึ ท่ีเหมาะสม
กับผู้เรยี น และผวู้ ิจยั ไดด้ าเนินการแก้ไขปรับปรงุ เรียบร้อยแลว้
8. นา“สือ่ Any flip ร่วมกบั เอกสารเพ่ิมเตมิ ” เรื่อง อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
ในระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรียนดอกคาใต้วทิ ยาคม ที่จัดทาขึ้นใหผ้ ู้เช่ยี วชาญ 3 ทา่ น ทา
การประเมินคุณภาพของสอ่ื โดยรวมมีค่าความพบว่าทุกเรื่องมคี า่ ความสอดคล้องเทา่ กบั 1
9. ทดลองใชก้ ับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 25๖๒
โรงเรียนดอกคาใต้วิทยาคมจานวน ๑๗๕ คน เพ่ือตรวจสอบข้อบกพร่องในดา้ นต่าง ๆ และ
ทดสอบหาประสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80
10. นาส่อื “สือ่ Any flip รว่ มกับเอกสารเพิ่มเติม” มาปรับปรงุ และใช้ในการเรียนการสอน

รายช่อื ผเู้ ชี่ยวชาญ
ผเู้ ชยี วชาญ 3 ดา้ น คอื ด้านการวัดและประเมนิ ผลการศึกษา ด้านหลกั สูตรการสอน ด้าน

เน้อื หาประกอบดว้ ยผ้เู ชยี่ วชาญประกอบด้วย 3 ทา่ นดังนี้
1. นางสมพร บุตรศรี ครูชานาญการพิเศษ ครูผู้สอนวชิ าภาษาไทย โรงเรียนดอกคาใต้วิทยาคม

สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต 36
2. นางกรรณิกาณ์ มาตรมลู ครูชานาญการพเิ ศษ ครูผู้สอนวิชาภาษาไทย โรงเรียนดอกคาใต้

วทิ ยาคม
สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศกึ ษาเขต 36
3. นางสริ จิ นั ทร์ ปรงั การ ครูชานาญการ ครผู ู้สอนวชิ าภาษาไทย
โรงเรยี นดอกคาใตว้ ทิ ยาคม สานักงานเขตพืน้ ที่มัธยมศึกษาเขต 36

2. เขียนแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ประกอบด้วย รำยละเอียดดังน้ี

2.1 ตัวชีว้ ดั ช่วงช้ัน

2.2 จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้

2.3 สำระกำรเรียนรู้

2.4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

2.5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

2.6 แนวทำงบูรณำกำร

2.7 กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนโดยใช้บทเรียนสำเรจ็ รปู

2.8 สื่อกำรเรียนรู้ และแหล่งกำรเรียนรู้

2.9 กำรวดั และประเมินผล
3. นำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ เสนอต่อผู้เชี่ยวชำญเพื่อขอคำแนะนำ แก้ไขส่วนที่บกพร่อง และนำมำปรับปรุง
แก้ไข
4. นำสื่อ “Any Flip ช่วยจำ สนุกกันกับวรรณคดีไทย” และแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ได้ปรับปรุง
แก้ไขแล้ว พร้อมทั้งแบบประเมินสื่อ Any Flip ที่ผู้วิจัยสร้ำงขั้น เสนอต่อผู้เช่ียวชำญ จำนวน ๓ ท่ำน
เพือ่ ทำกำรประเมนิ สือ่ Any Flip ว่ำมีควำมเหมำะสมในด้ำนต่ำงๆ เพียงใด

กำรหำค่ำควำมเหมำะสม สื่อ Any Flip โดยกำรหำค่ำเฉลี่ย (  ) ค่ำเบี่ยงเบนมำตรฐำน
(S.D) จำกกำรประเมินของผเู้ ชย่ี วชำญ และเปรียบเทียบกบั เกณฑ์ ดงั น้ี
(ไชยยศ เรอื งสุวรรณ, 2533, หน้ำ 138-139 )

ค่ำเฉลีย่ ระหว่ำง 4.50 – 5.00 หมำยถึง มีควำมเหมำะสมอยู่ในระดบั มำกทีส่ ุด
ค่ำเฉลี่ยระหว่ำง 3.50 – 4.49 หมำยถึง มีควำมเหมำะสมอยู่ในระดับ มำก
ค่ำเฉลี่ยระหว่ำง 2.50 – 3.49 หมำยถึง มีควำมเหมำะสมอยู่ในระดับ ปำนกลำง
ค่ำเฉลีย่ ระหว่ำง 1.50 – 2.49 หมำยถึง มีควำมเหมำะสมอยู่ในระดบั นอ้ ย
ค่ำเฉลีย่ ระหว่ำง 1.00 – 1.49 หมำยถึง มีควำมเหมำะสมอยู่ในระดับ นอ้ ยทีส่ ุด
ในกำรกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ จำกกำรพิจำรณำควำมเหมำะสมของบทเรียนสำเร็จรูป คือ
ระดับควำมคิดเห็นของผเู้ ชีย่ วชำญ มีคำ่ เฉลีย่ ตั้งแต่ 3.50 ขึน้ ไป และส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนไม่เกิน1.00

ข้ันตอนการหาประสิทธิภาพของสื่อ Any Flip
ในกำรหำประสิทธิภำพของสื่อ Any flip ร่วมกบั เอกสารเพ่ิมเตมิ เร่ือง อิเหนา ตอนศึกกะห

มังกุหนิงมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนดอกคาใต้วิทยาคม ผวู้ ิจัยได้ดำเนินกำร ดังน้ี
1. กำรทดลองแบบหนึ่งต่อหนึ่ง นำส่ือ Any flip ร่วมกับเอกสารเพ่ิมเติม ที่พัฒนำแล้วไป

ทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๔ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม จำนวน 3คน
ประกอบด้วย นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนสูง กลำง ต่ำ ปรำกฏว่ำมีข้อบกพร่อง คือ
กำรอธิบำยข้ันตอนกำรศึกษำไม่ละเอียดเท่ำที่ควรและซ้ำซ้อน ขำดภำพประกอบที่น่ำสนใจ เน้ือหำ
ในบำงเล่มมีมำกและยำกเกินไป นักเรียนนทำกำรศึกษำเนื้อหำจำกบทเรียนไม่ทันเวลำที่กำหนด
และข้อคำถำมในแบบทดสอบบำงข้ออ่ำนแล้วไม่เข้ำใจ หำคำตอบที่ถูกต้องไม่ได้ จึงได้นำมำ
ปรับปรงุ แก้ไขให้ดีข้ึนตำมคำแนะนำ

2. กำรทดลองแบบกลุ่มเลก็ ได้นำสื่อ Any flip ร่วมกับเอกสารเพม่ิ เติม เร่ือง อิเหนา

ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๔ โรงเรียน
ดอกคำใต้วิทยำคม จำนวน 9 คน ประกอบด้วย นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนสูง กลำง ต่ำ
ผลปรำกฏว่ำใช้ได้ผลดี นักเรียนสำมำรถทำกำรศึกษำบทเรียนด้วยตนเอง และมีคะแนนกำร
ทดสอบผ่ำนเกณฑ์ร้อยละ 80 แต่นักเรียนระบุว่ำควรปรับปรุงภำพประกอบบทเรียนให้เป็นภำพสี
และควรใช้ภำษำที่เชิญชวนให้ศึกษำเหมือนกำรพูดคุยกันมำกกว่ำกำรใช้คำส่ัง ผู้วิจัยได้นำบทเรียน
สำเร็จรูปไปปรบั ปรงุ แก้ไขข้อบกพร่องที่พบ และสื่อ Any flip ร่วมกบั เอกสารเพ่ิมเติม เรื่อง อิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ทีส่ มบรู ณ์ เพื่อนำไปใช้หำประสิทธิภำพของสื่อทีพ่ ัฒนำขึน้ ต่อไป

3.กำรทดลองแบบกลุ่มใหญ่ นำสื่อ Any flip รว่ มกับเอกสารเพิ่มเตมิ เร่ือง อิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๔ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม
จำนวน 3๐ คน

4. กำรทดลองแบบทดลองสอนจรงิ นำสือ่ Any flip ร่วมกบั เอกสารเพ่ิมเตมิ เร่ือง อิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ที่ผ่ำนกำรปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๔
โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม ในภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 25๖๒ ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่ำง จำนวน 1 ห้องเรียน
จำนวน 30 คน เพื่อหำประสิทธิภำพของบทเรียนตำมเกณฑ์ 80/80

ขน้ั ตอนการทดลองใช้ และศึกษาผลการใช้นำสื่อ Any flip รว่ มกบั เอกสารเพม่ิ เติม เรื่อง อิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง ข้ันตอนนมี้ ีวัตถุประสงค์เพือ่ เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นก่อน
และหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรปู และควำมพึงพอใจของนักเรียน ซึง่ มีสำระสำคัญดังน้ี

แหล่งขอ้ มูล
ประชำกรทีใ่ ชใ้ นกำรวิจยั ครั้งนี้ ได้แก่นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่๔ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม
สำนกั งำนเขตพืน้ ที่กำรศกึ ษำมัธยมศกึ ษำ เขต 36 ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 25๖๒ จำนวน ๖
หอ้ งเรียน จำนวนนักเรียน 1๗๕ คน
กลุ่มตัวอย่ำงที่ใช้ในกำรวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๕ โรงเรียนดอกคำใต้
วิทยำคม สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 36 ภำคเรียนที่ ๑ ปีกำรศึกษำ 25๖๒
จำนวน1หอ้ งเรียน มีนักเรียน 30คน ซึ่งได้มำโดยวิธีกำรสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม(Cluster RandomSampling)

แบบแผนการทดลอง
กำรวิจยั ครั้งนีเ้ ป็นกำรวิจัยเชิงทดลอง ซึ่งผู้วิจัยดำเนินกำรทดลองตำมแบบแผนกำรทดลอง
ชนิด (Randomized One Group Pretest – Posttest Design) ซึ่งมีกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว
(ล้วน สำยยศ และอังคณำ สำยยศ, 2538, หน้ำ 249)

ตาราง 2 แสดงแบบแผนการทดลอง

กลุ่ม สอบก่อน ทดลอง สอบหลัง

E T1 X T2

สัญลักษณ์ทีใ่ ชใ้ นแบบแผนกำรทดลอง
E แทน กลุ่มทดลอง
T1 แทน กำรทดสอบก่อนใช้สื่อ Any Flip
X แทน กำรสอนโดยใช้ สื่อAny Flip
T2 แทน กำรทดสอบหลังกำรใช้ สื่อAny Flip

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมลู
ผู้วิจัยได้สร้ำงเคร่ืองมือที่ใช้ ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ในกำรศึกษำคร้ังนี้ มีจำนวน 2

แบบ โดยศึกษำจำกเอกสำร ตำรำ และผลกำรวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยได้ยึดกรอบแนวคิดทำง
กำรศกึ ษำในกำรสร้ำงเครือ่ งมอื ดงั น้ี

1. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ ำงกำรเรยี น
2. แบบวัดควำมพึงพอใจที่มีต่อสื่อAny Flip

การสรา้ งและหาคุณภาพแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน
ข้ันตอนกำรสร้ำงแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน

1. ศกึ ษำหลกั สูตรและเนื้อหำสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย เรือ่ ง อิเหนำ ตอน ศกึ กะหมังกุหนงิ
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๔ โดยศึกษำผลกำรเรียนรู้ที่
คำดหวังในกำรสร้ำงแบบทดสอบ

2. นำเนือ้ หำและผลกำรเรียนรทู้ ีค่ ำดหวัง สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย เรื่อง อิเหนำ
ตอน ศกึ กะหมงั กหุ นิง มำวิเครำะหเ์ พือ่ สร้ำงแบบทดสอบ โดยให้ครอบคลุมเนือ้ หำ
3. สร้ำงแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทำงกำรเรียนรู้แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน ๔0 ข้อ ให้
ครอบคลุมเนื้อหำ ตำมตำรำงวิเครำะหผ์ ลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง เสนอต่อผู้เชีย่ วชำญเพื่อตรวจสอบ
ควำมเรียบร้อย ควำมถกู ต้อง ควำมเหมำะสม และปรับปรุงแก้ไขตำมข้อเสนอแนะ
4. นำแบบทดสอบที่ได้ปรับปรุงแก้ไข เสนอต่อผเู้ ชี่ยวชำญ จำนวน ๔ ท่ำน เพื่อตรวจสอบควำม
ตรงเชิงเนื้อหำ (Content validity) เพื่อพิจำรณำค่ำดัชนีควำมสอดคล้อง (Index of item – objective
congruence) ระหว่ำงแบบทดสอบวัดควำมรู้ กับผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง จำกสูตร ดังนี้ (ล้วน
สำยยศ และองั คณำ สำยยศ, 2538, หนำ้ 248-249)

OC =  R

N

เมือ่ IOC แทน ดัชนีควำมสอดคล้องระหว่ำงแบบทดสอบ กบั ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง

 R แทน ผลรวมของคะแนนควำมคิดเหน็ ของผู้เชีย่ วชำญ

N แทน จำนวนผู้เชี่ยวชำญ
5. ปรับปรงุ แก้ไขตำมคำแนะนำของผเู้ ชี่ยวชำญ แล้วนำไปทดสอบกบั นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ ๔
โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม สงั กดั สำนกั งำนเขตพืน้ ที่กำรศกึ ษำพะเยำ เขต 1 อำเภอดอกคำใต้
จงั หวัดพะเยำ จำนวน 30 คน
6. นำแบบทดสอบมำวิเครำะห์หำค่ำควำมยำกโดยพิจำรณำค่ำควำมยำกเป็นรำยข้อ (P)
และค่ำอำนำจจำแนก (r) ) ผวู้ ิจยั คัดเลือกข้อสอบ ทีม่ ีค่ำควำมยำกต้ังแต่ 0.20 ถึง 0.80 และ
ค่ำอำนำจจำแนก ตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.70 ได้ข้อสอบจำนวน ๔0 ข้อ คัดเลือกข้อสอบได้ 30
ข้อ
ดงั แสดงในตำรำง 29 (ภำคผนวก ค หนำ้ 203)
7. นำข้อสอบทีค่ ัดเลือกไว้ทั้ง 30 ข้อ ไปทดสอบซ้ำและนำผลกำรทดสอบหำค่ำควำม
เทีย่ ง (Reliability) ได้ค่ำควำมเที่ยงเท่ำกับ 0.82 ดงั แสดงในตำรำง 30 (ภำคผนวก ค หน้ำ 204-
205)

8. จัดทำเป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน เร่ืองอิเหนำ ตอน ศึกกำหมังกุหนิง
สำหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 5 ฉบบั สมบูรณ์เพื่อนำไปทดลองใช้กบั กลุ่มตวั อย่ำง

ขนั้ ตอนการสร้างและหาคุณภาพแบบวดั ความพึงพอใจของนักเรยี นต่อสื่อAnyFlip

การสร้างและหาคุณภาพแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ขั้นตอนกำรสร้ำงแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน
1. ศกึ ษำหลักสูตรและเนื้อหำสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย เรื่อง อิเหนำ ตอน ศึกกะหมงั กุหนิง
1. ศกึ ษำเอกสำรและวิธีกำรในกำรสร้ำงแบบสอบถำม
2. สร้ำงแบบวดั ควำมพึงพอใจตำมกรอบแนวคิด ของสื่อ AnyFlip ได้แบบวดั ควำมพึง

พอใจจำนวน 13 ข้อ
3. กำหนดค่ำคะแนนแบบสอบถำม แบบวัดควำมพึงพอใจ แบบ Rating Scale จำนวน 13 ข้อ

และกำหนดระดบั คะแนนไว้ 5 ระดบั ดงั นี้
มำกทีส่ ุด ให้คะแนน 5 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั มำกทีส่ ดุ
มำก ให้คะแนน 4 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั มำก
ปำนกลำง ให้คะแนน 3 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั ปำนกลำง
น้อย ให้คะแนน 2 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย
น้อยทีส่ ดุ ให้คะแนน 1 คะแนน หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยที่สดุ
4. นำแบบวัดควำมพึงพอใจ จำนวน 13 ข้อ ที่สร้ำงขึ้นให้ผู้เชี่ยวชำญ จำนวน ๔ ท่ำน

ช่วยพิจำรณำ เพื่อหำควำมเหมำะสมของแบบวัดควำมพึงพอใจ พบว่ำ มีควำมเหมำะสมทุกข้อ
ดังแสดงในตำรำง 22 (ภำคผนวก ก หนำ้ 112)

5. นำแบบวดั ควำมพึงพอใจทีไ่ ด้ พมิ พ์เปน็ ฉบบั สมบูรณ์ และนำไปใช้กบั นักเรียน
ช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ ๔ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม สังกดั สำนกั งำนพืน้ ทีก่ ำรศกึ ษำมัธยมศกึ ษำ
เขต 36 อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยำ ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 25๖๒ จำนวน 30 คน
ทีเ่ ปน็ กลุ่มตัวอย่ำง ดงั แสดงในตำรำง 12-17 (หนำ้ 67-74)

ขนั้ ตอนการดาเนินการทดลอง
ผวู้ ิจยั ได้ดำเนินกำรทดลองตำมลำดบั ดงั ต่อไปนี้
1. กลุ่มตวั อย่ำงจำนวน 30คน จำกนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ ๔/๓ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยำคม

สังกดั สำนกั งำนพืน้ ที่กำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ เขต 36 อำเภอดอกคำใต้ จงั หวดั พะเยำ
2. นักเรียนกลุ่มตวั อย่ำงดำเนนิ กำรเรียนรู้ด้วยสื่อ Any FLip เรื่อง อิเหนำ

ตอน ศึกกะหมังกุหนิง และเอกสำรประกอบเน้ือหำ ๑ ชุด เพื่อเป็นกำรทบทวนบทเรียน หน่วย
กำรเรียนรู้ที่๒ โดยเริ่มทำกำรทดลอง ภำคเรียนที่ 1ปีกำรศึกษำ 25๖๒ ต้ังแต่๑-๓๐ สิงหำคม
จำนวน 2 ชว่ั โมง(คำบ)/สปั ดำห์ รวม ๙ ช่วั โมง

3. ทำกำรวัดควำมพึงพอใจของนักเรียนที่เปน็ กลุ่มตัวอย่ำงที่เรยี นด้วยสือ่ Any FLip
4. ตรวจผลกำรสอบ คำแนะนำที่ได้ มำวิเครำะหโ์ ดยวิธีกำรทำงสถิติเพือ่ ตรวจสอบสมมตุ ฐิ ำน
5. แปรผลกำรประเมินควำมพึงพอใจ

การวเิ คราะห์ข้อมูล
กำรวิเครำะห์ผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นของนักเรียน ผวู้ ิจัยได้ดำเนินกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ดังน้ี
1. นำคะแนนสอบก่อนและหลังเรียน ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่ำงไปหำค่ำเฉลี่ย (  ) แล้ว

คิดเป็นค่ำร้อยละเฉลีย่ ของคะแนนสอบก่อนเรียน และหลงั เรียนและหำค่ำเบีย่ งเบนมำตรฐำน(S.D)
2. หำผลตำ่ งระหว่ำงคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนกั เรียนแตล่ ะคน
3. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่ำง โดยใช้บทเรียน

สำเร็จรูปด้วยกำรทดสอบควำมมีนัยสำคัญ ของควำมแตกต่ำงระหว่ำงคะแนนสอบก่อนเรียน กับ
หลงั เรยี นโดยกำรทดสอบค่ำที (T-test Dependent)

4. วิเครำะห์ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยสื่อ Any FLip ผู้วิจัยได้
ดำเนนิ กำรวิเครำะหข์ ้อมูลดังนี้

4.1 นำแบบวดั ควำมพึงพอใจมำตรวจสอบควำมสมบรู ณ์ มำวิเครำะหค์ ะแนนดังนี้
มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั มำกที่สุด ให้คะแนน 5 คะแนน

มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั มำก ให้คะแนน 4 คะแนน
มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั ปำนกลำง ให้คะแนน 3 คะแนน
มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั น้อย ให้คะแนน 2 คะแนน
มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยทีส่ ดุ ให้คะแนน 1 คะแนน

4.2 นำผลกำรตอบแบบวดั ควำมพึงพอใจทีม่ ีต่อกำรใช้ สื่อAny FLip มำหำ

ค่ำเฉลี่ย(  ) และสว่ นเบีย่ งเบนมำตรฐำน (S.D)

4.3 นำค่ำเฉลี่ยของควำมพึงพอใจมำเทียบกับเกณฑ์โดยใช้เกณฑ์ในกำรแปล

ควำมหมำยดงั นี้ (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2333, หนำ้ 138)

ค่ำเฉลีย่ 1.00 – 1.49 หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั น้อย

ทีส่ ุด

ค่ำเฉลี่ย 1.50 – 2.49 หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ใน

ระดับน้อย

ค่ำเฉลี่ย 2.50– 3.49 หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั ปำน

กลำง

ค่ำเฉลี่ย 3.50 – 4.49 หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ใน

ระดับมำก

ค่ำเฉลี่ย 4.50 – 5.00 หมำยถึง มีควำมพึงพอใจอยู่ในระดบั มำก

ทีส่ ดุ

สถิติทใ่ี ช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู

1. กำรวิเครำะห์ค่ำประสิทธิภำพของสื่อ Any FLip กำรคำนวณเพื่อวิเครำะห์

ประสิทธิภำพของ สื่อ Any FLip เรื่อง อิเหนำ ตอนศกึ กะหมังกุหนิง

E1 =  X 100

N
A

E2 =  F 100

N
B

เมือ่ E1 แทน ค่ำเฉลี่ยของนกั เรียนในกำรทำแบบฝกึ หัดระหว่ำงเรียนด้วยสื่อ Any FLip
E2 แทน ค่ำเฉลีย่ ของนกั เรียนในกำรทำแบบทดสอบหลังกำรเรยี นด้วยสื่อ Any FLip ครบ

ทกุ บทเรียน

X แทน คะแนนรวมทั้งหมด จำกกำรทำแบบฝกึ หดั ระหว่ำงเรียนด้วยสื่อ Any FLip

F แทน คะแนนรวมท้ังหมดจำกกำรทำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนหลังเรียน
ด้วยสือ่ Any FLip

N แทน จำนวนนักเรียน
A แทน คะแนนเต็มของแบบฝกึ หดั ระหว่ำงเรียนในสื่อ Any FLip
B แทนคะแนนเตม็ ของแบบทดสอบ วดั ผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น หลังเรียนสือ่ Any FLip

2. ค่ำควำมยำกง่ำย (p) และ ค่ำอำนำจจำแนก (r) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทำงกำรเรยี น จำกกำรใช้สือ่ Any FLip (ล้วน สำยยศ และองั คณำ สำยยศ, 2538, หนำ้ 196)

ค่าความยากงา่ ย (p)

p =R

เมื่อ p N
R
N แทน ค่ำควำมยำกของข้อสอบ

แทน จำนวนคนทีท่ ำข้อสอบนั้นถูก

แทน จำนวนคนทีท่ ำข้อสอบน้ันทั้งหมด

ค่าอานาจจาแนก (r)

r = Ru − Rl

n2

เมือ่ r แทน ดัชนคี ่ำอำนำจจำแนกของข้อสอบ
RU แทน จำนวนนกั เรียนที่ตอบถกู ในกลุ่มคะแนนสูง
RL แทน จำนวนนกั เรียนทีต่ อบถูกในกลุ่มคะแนนต่ำ
n แทน จำนวนนักเรียนท้ังหมดในกลุ่มคะแนนสูงและกลุ่มคะแนนต่ำ

3. ค่ำควำมเช่ือม่ันของแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนจำกสื่อ Any FLip คำนวณ
จำกสตู ร KR-20 (Kuder and Richardson) (กำญจนำ วัฒำยุ, 2545. หนำ้ 193)

สูตร rtt = k k 1 1 −  pq 

s2

เมือ่ rtt แทน คำ่ ควำมเทีย่ งของแบบทดสอบ

k แทน จำนวนข้อของแบบทดสอบ

p แทน สดั สว่ นของผตู้ อบถูกในแตล่ ะขอ้

q แทน สดั ส่วนของผู้ตอบผดิ ในแตล่ ะข้อและ q = 1 - p

s2 แทน ควำมแปรปรวนของคะแนนรวมของผเู้ ข้ำสอบแต่ละคน
( )s2 =
n  X2 − ( X)2
n(n − 1)

4. กำรหำค่ำควำมเหมำะสมของแบบวดั ควำมพึงพอใจ ต่อกำรเรียนด้วยสื่อ Any FLip

โดยผู้เชีย่ วชำญ และกำรหำค่ำควำมพึงพอใจของนกั เรียน ต่อกำรเรียนด้วยสื่อ Any FLip

โดยใช้ ค่ำทำงสถิติคอื ค่ำเฉลีย่ ( X ) และค่ำเบี่ยงเบนมำตรฐำน (S.D.) โดยค่ำเฉลี่ย และ

ค่ำเบีย่ งเบนมำตรฐำน ทีไ่ ด้จำกกำรวิเครำะหแ์ บบสอบถำมควำมพึงพอใจรำยข้อ สำมำรถ

แปลควำมหมำยได้ดงั น้ี

4.1 ค่ำเฉลี่ย ( X ) บอกถึงระดับควำมพึงพอใจของผู้ตอบว่ำอยู่ในระดับใด ท้ังนี้ใช้

เกณฑ์บอกระดับควำมคิดเห็นเสนอแนะโดย JOHN W. BEST ดังนี้ (กำญจนำ วัฒำยุ, 2545, หน้ำ 166-

167)

ค่ำเฉลี่ย ( X ) = 1.00 – 1.49 หมำยถึง พึงพอใจน้อยที่สดุ

ค่ำเฉลีย่ ( X ) = 1.50 – 2.49 หมำยถึง พึงพอใจน้อย
ค่ำเฉลี่ย ( X ) = 2.50 – 3.49 หมำยถึง พึงพอใจปำนกลำง

ค่ำเฉลี่ย ( X ) = 3.50 – 4.49 หมำยถึง พึงพอใจมำก

ค่ำเฉลีย่ ( X ) = 4.50 – 5.00 หมำยถึง พึงพอใจมำกที่สดุ

คำนวณหำค่ำ X โดยใช้โปรแกรมสำเรจ็ รูป SPSS for Window และจำกสตู ร

X = x
n

4.2 ค่ำเบี่ยงเบนมำตรฐำน (S.D.) บอกควำมพึงพอใจที่คล้อยตำมกันหรือแตกต่ำง

กันถ้ำค่ำ S.D. มีค่ำตั้งแต่ 1.00 ขึ้นไป แสดงว่ำ รำยกำรสอบถำมนั้นผู้ตอบมีควำมพึงพ อใจ

แตกต่ำงกัน แต่ถ้ำค่ำ S.D มีค่ำตั้งแต่ 1.00 ลงมำ แสดงว่ำรำยกำรสอบถำมนั้นผู้ตอบมีควำมพึง

พอใจคล้อยตำมกัน ถ้ำค่ำ S.D. มีค่ำเท่ำ 0 แสดงว่ำ รำยกำรสอบถำมน้ันผู้ตอบมีควำมพึงพอใจ

เหมอื นกนั

ทกุ คน คำนวณหำค่ำ S.D.โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรปู SPSS for Window และจำกสตู ร

N X2 − ( X)2

S. D.=
N(N − 1)

สถิติท่ใี ชใ้ นการทดสอบสมมตุ ิฐาน
1. หำค่ำเฉลี่ย ( X ) (ล้วน สำยยศ และอังคณำ สำยยศ, 2538, หน้ำ 73)

X = X
N

เมือ่ X แทน คะแนนเฉลี่ย

 X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม

N แทน จำนวนผเู้ รียนในกลุ่มตัวอย่ำง
2. หำค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน (S.D.) ใช้สูตร (ล้วน สำยยศ และอังคณำ สำยยศ, 2538, หน้ำ
72)

S. D.= N X2 − ( X)2

N(N − 1)

เมื่อ S.D. แทน ค่ำเบีย่ งเบนมำตรฐำน
ผลรวมของคะแนนท้ังหมด
 X แทน
ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวยกกำลงั สอง
 X2 แทน จำนวนคนในกลุ่ม

N แทน

3. หำค่ำที ( t-test แบบ dependent Group ) เพือ่ เปรียบเทียบผลสมั ฤทธิท์ ำงกำร
เรียนก่อนเรียน และหลงั เรยี นภำยในกลุ่มเดียวกนั โดยใช้สูตร(กำญจนำ วัฒำยุ, 2545, หน้ำ96-97)

t= D
n D2 − ( D)2

(N −1)

เมื่อ t แทน ค่ำสถิตทิ ีใ่ ชเ้ ปรียบเทียบกับค่ำวิกฤตเพือ่ ทรำบควำม
มีนยั สำคัญ

D แทน ผลตำ่ งระหว่ำงคู่คะแนน
D แทน ผลรวมของคะแนนควำมก้ำวหน้ำ

N แทน จำนวนกลุ่มตวั อย่ำง

ภาคผนวก

ตารางท่ี 1 แสดงผลการหาประสิทธิภาพของสื่อ Any FLip เร่อื ง อิเหนา
ตอน ศกึ กะหมงั กหุ นิง แบบกลุ่มเลก็ จานวน 9 คน

คนท่ี ชุดท่ี 1 ชดุ ท่ี 2 คะแนนระหว่างเรียน ชดุ ท่ี 5 รวม คะแนน
(10) (10) ชุดท่ี 3 ชดุ ท่ี 4 (20) (75)
1 10 10 (10) (25) 19 73 หลังเรียน
2 10 10 18 71
3 10 10 10 24 19 71 (40)
4 9 8 9 24 18 66
5 9 8 9 23 18 66 38
6 8 9 9 22 18 66 37
7 8 8 9 22 17 63 37
8 8 8 9 22 16 60 36
9 8 8 8 22 17 62 35
รวม 80 79 8 20 160 598 35
เฉลีย่ 8.89 8.78 8 21 17.78 66.44 34
ร้อยละ 88.89 87.78 79 200 88.89 88.45 33
S.D. 8.78 22.22 0.92 32
0.87 0.92 87.78 88.89 4.19 317
0.63 1.23 35.22
88.05
1.87

ตาราง 24 แสดงผลการหาค่า t-test แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิข์ องสื่อ Any FLip เรอ่ื ง

อิเหนา ตอน ศกึ กะหมังกุหนิง จานวน 9 คน

คนท่ี คะแนน (40) D D2

ก่อนเรยี น หลงั เรียน

1 20 38 18 324

2 19 37 18 324

3 20 37 17 289

4 19 36 16 256

5 18 35 17 289

6 19 35 16 256

7 20 34 14 196

8 19 33 14 196

9 18 32 14 196

F1 = 172 F2 =317 D =144 D2=2,326
S.D2=1.99
รวม S.D1= 0.78 x 2=35.22

x 1 = 19.11

t 0.05 = 2.02 t 0.01 = 2.71 **= มีนยั สำคญั ที่ระดับ 0.01

t = D
 D2 − ( D)2

 −1
144
t= 9(2326) - (144)2

9-1
144
t= 20,934 - 20,736

144 8
4.97
t =

t = 28.95
ตารางท่ี 25 แสดงผลการหาประสิทธิภาพของสื่อ Any FLip เรอ่ื ง อิเหนา
ตอน ศกึ กะหมงั กหุ นิง แบบกล่มุ ใหญ่ จานวน 36 คน

คะแนนระหว่างเรียน คะแนน

คนท่ี ชดุ ท่ี 1 ชดุ ท่ี 2 ชุดท่ี 3 ชดุ ท่ี 4 ชดุ ท่ี 5 รวม หลังเรียน
(10) (10) (10) (25) (20) (75) (40)

1 8 8 8 22 18 64 34

2 8 8 9 21 18 64 33

3 8 8 9 20 20 65 35

4 8 9 10 22 18 67 35

5 9 9 8 21 19 66 34

6 10 8 8 22 18 66 35

7 9 8 8 23 18 66 33

8 8 9 8 20 18 63 34

9 8 8 8 24 20 68 34

10 8 8 9 20 19 64 34

11 8 9 9 22 18 66 34

12 8 8 9 24 18 67 33

13 9 9 9 23 17 67 33

14 8 9 8 22 18 65 33

15 8 9 8 22 18 65 34

16 10 10 10 25 20 75 37

17 9 9 10 24 17 69 35

18 9 8 8 23 18 66 34

19 10 9 10 24 20 73 35

20 8 9 9 23 19 68 34

21 9 8 8 22 18 65 33

22 8 8 8 22 19 65 33
34
23 10 9 9 23 18 69

ตารางท่ี 25 แสดงผลการหาประสิทธิภาพของสื่อ Any FLip เร่อื ง อิเหนา

ตอน ศกึ กะหมังกุหนิง แบบกล่มุ ใหญ่ จานวน 3๐ คน (ตอ่ )

คนท่ี ชุดท่ี 1 ชุดท่ี 2 คะแนนระหว่างเรียน ชดุ ท่ี 5 รวม คะแนน
(10) (10) ชุดท่ี 3 ชุดท่ี 4 (20) (75)
24 9 10 (10) (25) 20 74 หลงั เรียน
25 10 9 20 72
26 8 10 10 25 19 72 (40)
27 9 9 10 23 19 71
28 9 8 10 25 20 71 35
29 8 8 10 24 18 62 36
30 8 9 9 25 19 67 36
รวม 312 312 8 20 670 2,426 34
เฉลีย่ 8.67 8.67 8 23 18.61 67.39 35
ร้อยละ 86.67 86.67 317 815 93.05 89.00 33
S.D. 0.75 0.67 8.81 22.64 0.92 33
88.05 90.56 3.27 1,232
0.78 1.51 34.22
85.55
1.08

ตาราง 26 แสดงผลการหาค่า t-test แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ของสือ่ Any FLip เรอ่ื ง
อิเหนา ตอน ศกึ กะหมังกุหนิง บ้านแบบกลุ่มใหญ่ จานวน 3๐ คน

คะแนน (40) คะแนน (40)

คนท่ี ก่อน หลัง D D2 คนท่ี ก่อน หลัง D D2

เรยี น เรยี น เรยี น เรยี น

1 18 34 16 256 19 19 35 16 256

2 17 33 16 256 20 19 34 15 225

3 20 35 15 225 21 18 33 15 225

4 1 22

18 35 7 289 18 33 15 225

5 19 34 15 225 23 19 34 15 225

6 19 35 16 256 24 20 35 15 225

7 20 33 13 169 25 20 36 16 256

8 19 34 15 225 26 19 36 17 289

9 19 34 15 225 27 17 34 17 289

10 1 28

17 34 7 289 18 35 17 289

11 18 34 16 256 29 19 33 14 196

12 19 33 14 196 30 20 33 13 169

13 19 33 14 196 31 17 33 16 256

14 17 33 16 256 32 18 34 16 256

15 18 34 16 256 33 19 34 15 225

16 21 37 16 256 34 18 34 16 256

17 1 35

17 35 8 324 18 35 17 289

18 18 34 16 256 36 20 37 17 289

รวม 36 F1 = F2 D = D2=

669 =1232 563 885
S.D1= S.D2=1.10 1
1.05 x 2=
x1 = 34.22
18.58

t 0.05 = 2.02 t 0.01 = 2.71 **= มีนยั สำคญั ที่ระดับ 0.01

t = D
 D2 − ( D)2

 −1
563
t= 36(8851) - (563)2

36 -1
563
t= 318,636 - 316,969

563 35
6.90
t =

t = 81.59

ตาราง 27 แสดงผลการหาประสิทธิภาพของสื่อ Any FLip เร่อื ง อิเหนา
ตอน ศกึ กะหมงั กุหนิง แบบกลุ่มทดลองสอนจริง จานวน ๓๐ คน

คะแนนระหว่างเรียน คะแนน

คนท่ี ชดุ ท่ี 1 ชดุ ท่ี 2 ชุดท่ี 3 ชดุ ท่ี 4 ชุดท่ี 5 รวม หลงั เรียน
(10) (10) (10) (25) (20) (75) (40)

1 8 9 9 22 19 67 34

2 10 10 10 25 20 75 37

3 8 9 8 23 18 66 33

4 8 9 9 22 20 68 32

5 10 10 10 25 20 75 37

6 10 10 10 23 20 73 35

7 8 9 9 24 19 69 34

8 9 8 8 23 18 66 33

9 8 8 8 24 18 66 32

10 8 8 8 23 18 65 32

11 8 9 8 22 19 66 32

12 10 9 9 23 18 69 37

13 8 10 9 23 18 68 34

14 8 9 9 22 17 65 34

15 8 8 9 22 18 65 32

16 8 8 10 24 20 70 37

17 8 9 9 22 19 67 32

18 8 9 8 22 17 64 32

19 8 8 9 21 18 64 32

20 9 9 10 24 20 72 37

21 9 8 8 22 18 65 34

22 8 9 8 23 19 67 34

23 9 8 8 22 18 65 34

ตาราง 27 แสดงผลการหาประสิทธิภาพของสือ่ Any FLip เร่อื ง อิเหนา
ตอน ศกึ กะหมังกุหนิง แบบกลุ่มทดลองสอนจริง จานวน 3๐ คน (ตอ่ )

คนท่ี ชุดท่ี 1 ชดุ ท่ี 2 คะแนนระหว่างเรียน ชดุ ท่ี 5 รวม คะแนน
(10) (10) ชดุ ท่ี 3 ชดุ ท่ี 4 (20) (75)
24 8 9 (10) (25) 19 67 หลังเรียน
25 10 8 18 67
26 8 8 9 22 18 66 (40)
27 9 8 9 22 17 65
28 9 8 8 24 18 66 34
29 8 9 9 22 16 63 35
30 8 8 8 23 19 68 34
รวม 328 332 8 22 703 2,564 35
เฉลีย่ 8.63 8.74 10 23 18.50 67.47 34
รอ้ ยละ 86.32 87.37 336 865 92.50 89.13 33
S.D. 0.78 0.71 8.84 22.76 1.02 34
88.42 91.04 3.35 1,296
0.78 1.18 34.10
85.26
1.65

ตาราง 28 แสดงผลการหาคา่ t-test แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิข์ องสือ่ Any FLip เรอ่ื ง
อิเหนา ตอน ศกึ กะหมังกุหนิง แบบทดลองสอนจรงิ จานวน 3๐ คน

คะแนน (40) คะแนน (40) D D2
คนท่ี ก่อน หลัง D D2 คนท่ี กอ่ น หลงั
เรยี น เรยี น 17 289
เรยี น เรยี น 20 37
1 19 34 15 225 20 17 289
2 1 21 17 34 16 256
18 34 15 225
20 37 7 289 19 34
3 17 33 16 256 22 17 289
4 19 32 13 169 23 17 34 15 225
5 1 24 20 35 15 225
19 34 14 196
20 37 7 289 19 33 15 225
6 20 35 15 225 25 19 34 15 225
7 20 34 14 196 26 18 33 16 256
8 19 33 14 196 27 20 36
9 19 32 13 169 28 17 289
10 19 32 13 196 29 18 35 17 289
11 19 32 13 169 30 19 36 15 225
12 1 31 18 33 15 225
18 33 15 225
20 37 7 289 19 34 16 256
13 19 34 15 225 32 19 35 17 289
14 20 34 14 196 33 20 37 15 225
15 18 32 14 196 34 19 34
16 21 37 16 256 35
17 17 32 15 225 36
18 18 32 14 196 37
19 17 32 15 225 38

F1 = F2

717 =1,296

รวม 38 S.D1= S.D2= D2=

x 1 = x 2= D = 891

18.87 34.10 579 0

t 0.05 = 2.02 t 0.01 = 2.71 **= มีนยั สำคญั ทีร่ ะดบั 0.01

t = D
 D2 − ( D)2

 −1

t= 520
38(7,228)- (520)2
38 - 1

t= 520
274,664- 270,400
37

t = 520
10.74

t = 48.42

ตาราง 29 แสดงผลการวิเคราะห์คา่ ความยากงา่ ย (p) และคา่ อานาจจาแนก (r) ของแบบทดสอบ
วัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เร่อื ง อิเหนา ตอน ศกึ กะหมังกุหนิง

ข้อที่ p r สรปุ ผล ข้อที่ p r สรปุ ผล
0.18 0.20 ตัดทิง้
1 0.68 0.33 ใช้ได้ 26 0.79 0.35 ใช้ได้
0.74 0.53 ใช้ได้
2 0.74 0.53 ใช้ได้ 27 0.76 0.34 ใช้ได้
0.79 0.47 ใช้ได้
3 0.68 0.60 ใช้ได้ 28 0.79 0.24 ใช้ได้
0.76 0.34 ใช้ได้
4 0.84 0.16 ตดั ทงิ้ 29 0.20 0.24 ตดั ทงิ้
0.71 0.32 ใช้ได้
5 0.95 0.09 ตัดทงิ้ 30 0.79 0.50 ใช้ได้
0.79 0.50 ใช้ได้
6 0.71 0.63 ใช้ได้ 31 0.71 0.48 ใช้ได้
0.76 0.34 ใช้ได้
7 0.79 0.50 ใช้ได้ 32 0.76 0.62 ใช้ได้
0.84 0.16 ตดั ทิง้
8 0.76 0.20 ใช้ได้ 33 0.79 0.50 ใช้ได้
0.76 0.57 ใช้ได้
9 0.71 0.48 ใช้ได้ 34 0.76 0.34 ใช้ได้
0.71 0.63 ใช้ได้
10 0.76 0.47 ใชไ้ ด้ 35 0.95 0.09 ตดั ทงิ้
0.71 0.36 ใช้ได้
11 0.74 0.45 ใช้ได้ 36 0.79 0.50 ใช้ได้
0.18 0.20 ตัดทิง้
12 0.76 0.44 ใช้ได้ 37 0.76 0.34 ใช้ได้

13 0.20 0.16 ตดั ทิง้ 38

14 0.76 0.57 ใช้ได้ 39

15 0.74 0.38 ใช้ได้ 40

16 0.18 0.20 ตัดทิง้ 41

17 0.71 0.32 ใช้ได้ 42

18 0.76 0.57 ใช้ได้ 43

19 0.76 0.49 ใช้ได้ 44

20 0.79 0.50 ใช้ได้ 45

21 0.18 0.20 ตดั ทงิ้ 46

22 0.76 0.57 ใช้ได้ 47

23 0.76 0.57 ใช้ได้ 48

24 0.71 0.32 ใช้ได้ 49

25 0.76 0.34 ใช้ได้ 50 0.71 0.32 ใช้ได้
ตาราง 30 แสดงผลการวิเคราะห์ค่าความเทย่ี งของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น

เร่อื ง อเิ หนา ตอน ศกึ กะหมงั กุหนิง จานวน ๒0 ขอ้

ข้อที่ p q pq ขอ้ ที่ p q pq
1 0.79 0.21 0.17 21 0.74 0.26 0.19
2 0.74 0.26 0.19 22 0.74 0.26 0.19
3 0.74 0.26 0.19 23 0.79 0.21 0.17
4 0.74 0.26 0.19 24 0.74 0.26 0.19
5 0.71 0.29 0.21 25 0.74 0.26 0.19
6 0.71 0.29 0.21 26 0.74 0.26 0.19
7 0.74 0.26 0.19 27 0.74 0.26 0.19
8 0.74 0.26 0.19 28 0.79 0.21 0.17
9 0.79 0.21 0.17 29 0.74 0.26 0.19
10 0.71 0.29 0.21 30 0.74 0.26 0.19
11 0.74 0.26 0.19 31 0.79 0.21 0.17
12 0.74 0.26 0.19 32 0.71 0.29 0.21
13 0.74 0.26 0.19 33 0.79 0.21 0.17
14 0.74 0.26 0.19 34 0.79 0.21 0.17
15 0.74 0.26 0.19 35 0.74 0.26 0.19
16 0.79 0.21 0.17 36 0.71 0.29 0.21
17 0.74 0.26 0.19 37 0.74 0.26 0.19
18 0.79 0.21 0.17 38 0.74 0.26 0.19
19 0.79 0.21 0.17 39 0.71 0.29 0.21
20 0.74 0.26 0.19 40 0.74 0.26 0.19

N=40  pq

=7.5
2

กำรตรวจสอบหำค่ำควำมเชือ่ มั่น (Reliability) สูตร K.R.20

rtt = k k 11− s2pq 


rtt = 40 11− 377.5.027 
40 −

rtt = 1.02(1- 0.20)

rtt= 0.82

ตาราง 31 ผลการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนของคะแนน จากแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์

คนที่ คะแนน (x) x2 คนที่ คะแนน (x) x2

1 29 841 20 37 1369

2 22 484 21 31 961

3 33 1089 22 33 1089

4 20 400 23 30 900

5 35 1225 24 28 784

6 34 1156 25 32 1024

7 32 1024 26 19 361

8 23 529 27 29 841

9 20 400 28 32 1024

10 30 900 29 33 1089

11 18 324 30 23 529

12 32 1024 31 30 900

13 33 1089 32 34 1156

14 31 961 33 19 361

15 37 1369 34 20 400

16 37 1369 35 23 529

17 32 1024 36 35 1225

18 37 1369 37 37 1369

19 36 1296 38 37 1369

n = 38  x  x2 =35,153

=1,133

x=

29.81

ค่ำสถิตจิ ำกตำรำง สำมำรถหำควำมแปรปรวน ได้ดังน้ี

s2 = n(X2)− (X)2

n(n −1)

s2 = 38(35,153)− (1,133)2
38(37)

s2 = 1,335,814− 1,283,689
1,406

s2 = 52,125
1,406

s2 = 37.07


Click to View FlipBook Version