รายงาน เรื่อง หมีแพนด้าที่ทำตัวไม่เหมือนหมี โดย นางสาวพัขรพร ดู่ป้อง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 เลขที่ 5 เสนอ คุณครู พิสมัย สืบเลย รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท32102 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนสีชมพูศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
คำนำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทยพื้นฐาน เพื่อการเรียนรู้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยมี จุดประสงค์เพื่อการศึกษาความรู้จากเรื่องของหมีแพนด้า ทั้งนี้ในรายงานฉบับนี้มีเนื้อหาซึ่งประกอบด้วย ประวัติความเป็นมาของหมีแพนด้า ถิ่นที่อยู่อาศัย และอาหารหารกิน เป็นต้น ผู้เขียนตระหนักถึงความสำคัญของหมีแพนด้า จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ต้นกำเนิด และความเป็นมา ของหมีแพนด้า มานำเสนอรายงาน เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้จักกับหมีแพนด้าได้มากขึ้น และช่วยกันอนุรักษ์หมีแพนด้า ต่อไป ขอขอบคุณคุณครูพิสมัย สืบเลย ที่กรุณาให้คำแนะนำในการจัดทำรายงาน และคุณครูนพคุณ สืบเลย นางสาว พัชรพร ดู่ป้อง 19 กุมภาพันธ์2567
สารบัญ เรื่อง หน้า บทนำ ก ประวัติความเป็นมาของหมีแพนด้า 1 รู้จักอย่างเป็นทางการและรู้จักทางการทูตแพนด้า 4 ลักษณะทั่วไป และลักษณะเด่นของหมีแพนด้า 6 ถิ่นที่อยู่อาศัยและอาหาร 7 พฤติกรรมการสืบพันธุ์ 8 ความหมายทางจิตวิญญาณของหมีแพนด้า 9 นิสัยส่วนตัวของหมีแพนด้า 12 แพนด้าแดงตัวใหญ่เหมือนหมีแพนด้า 13 ระบบสังคม และการสื่อสาร 14 บรรณานุกรม 15
ก บทนำ ในบรรดาสัตว์ร่วมโลกจำนวนมหาศาล มีสัตว์หลากหลายชนิดเป็นที่นิยมในเหล่ามนุษย์ บางชนิดเป็นสัตว์ เลี้ยง เป็นสัตว์สำหรับทำอาหาร บางชนิดใช้ประโยชน์เป็นทั้งแรงงานหรือความสวยงาม และมีบางชนิดสามารถ ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายผสมรวมกันแบบบูรณาการก็ว่าได้ ตัวอย่างสัตว์ร่วมโลกของมนุษย์ในชนิดที่กล่าวถึง หลังสุดนี้ก็คือ แพนด้า
1 ประวัติความเป็นมาของหมีแพนด้า แพนด้ายักษ์หรือ หมีแพนด้า เป็นสกุลของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์หมี(Ursidae) สกุลหนึ่ง ใช้ชื่อ สกุลว่า Ailuropoda แพนด้ายักษ์ได้ปรากฏขึ้นมาครั้งแรกบนโลกเมื่อราว 8–9 ล้านปีก่อน ในช่วงปลายยุค ไพลโอซีล (เริ่มต้นเมื่อ 25 ล้านปีก่อน กินเวลาประมาณ 12 ล้านปี) ตามที่มีการพบหลักฐานเป็นซากฟอสซิล ที่ บริเวณรอบๆ ป่าเขตร้อนชื้น ในมณฑลยูนานทางภาคใต้ของประเทศจีน โดยสัตว์ในสกุลนี้ได้กระจายพันธุ์ไปทั่ว บริเวณที่เป็นประเทศจีนในปัจจุบัน ตลอดจนถึงเกาะไต้หวัน และภาคเหนือของเวียดนาม,พม่า และภาคเหนือ ของไทยด้วย ซึ่งบรรพบุรุษของสัตว์ในสกุลนี้ได้วิวัฒนาการแยกตัวเองออกจากสัตว์ในสกุล Ailurarctos ที่มี ชีวิตอยู่ในปลายยุคไมโอซีนโดยแพนด้ายักษ์ในตอนแรกเริ่มมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของแพนด้ายักษ์ในปัจจุบัน หรือมีขนาดตัวพอๆ กับสุนัขอ้วนๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น และมีชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคก่อน ประวัติศาสตร์หลายชนิด อาทิมนุษย์ปักกิ่ง,เสือเขี้ยวดาบ,ช้างแมมมอธ เป็นต้น หลายสิบปีที่ผ่านมา การจัดจำแนกสายพันธุ์ที่แน่นอนของแพนด้ายังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า แพนด้ายักษ์และแพนด้าแดงซึ่งเป็นญาติสายพันธุ์ห่าง ๆ กัน และยังมีลักษณะพิเศษที่เหมือนทั้งหมีและแรค คูน นั้น จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม การทดลองทางพันธุกรรมบ่งบอกว่าแพนด้ายักษ์เป็น หนึ่งในชนิดของหมี(วงศ์ Ursidae) หมีที่ชนิดใกล้เคียงที่สุดของแพนด้าคือหมีแว่นที่พบในทวีปอเมริกาใต้(ข้อ ขัดแย้งที่ยังคงเป็นที่สงสัยอยู่คือแพนด้าแดงนั้นอยู่ในวงศ์ใด เป็นที่ถกเถียงว่าอาจจะอยู่ในวงศ์ หมี(Ursidae), วงศ์แรคคูน, วงศ์โพรไซโอนิดี้(Procyonidae), หรืออยู่ในวงศ์เฉพาะของมันเอง วงศ์ไอเลอ ริดี้(Ailuridae) โดยซากดึกดำบรรพ์ที่ค้นพบจากในถ้ำของประเทศจีนพบว่า แพนด้ายักษ์ถือกำเนิดมาแล้วบน โลกอย่างน้อย 2 ล้านปี เนื่องจากในสมัยดึกดำบรรพ์แพนด้ายักษ์หรือ ต้าสงเมา มีอยู่มากมาย กระจายตามถิ่นต่างๆทั่วประเทศ จีน ในบันทึกเรื่องเกี่ยวกับแพนด้าของจีน จึงมีคำเรียกสัตว์ชนิดนี้ในภาษาจีนแตกต่างหลากหลาย อาทิ‘ผี’ หรือ‘ผีซิ่ว’(ชื่อที่เรียกในสมัยโบราณ) ‘ไป๋สง’(หมีขาว) ‘ฮัวสง’(หมีลาย) ‘จู๋สง’(หมีไผ่) บางถิ่นเรียกแตกต่าง ออกไป เช่น แถบเทือกเขาหมินซันบริเวณถิ่นที่อยู่ของชนชาติทิเบต เรียก ‘ตั้ง’ หรือ ‘ตู้ต้งก่า’ แต่ชนชาติอี๋แถบ เทือกเขาเหลียงซัน เรียก ‘เอ๋อชีว์’ เป็นต้น (สงเมา) คำเรียกแพนด้าในภาษาจีนกลาง ‘สง’แปลว่า หมี‘เมา’แปลว่า แมว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ailuropoda melanoleuca แปลว่า สัตว์ที่มีลำตัวเป็นสีขาวดำ มีเท้าเหมือนแมว ‘สงเมา’ (แมวที่เหมือนหมี) เป็นคำเรียกในปัจจุบัน แต่จริงๆแล้ว ช่วงจีนก่อนยุคปลดแอกได้เคยเรียกแพนด้าว่า ‘เมาสง’(หมีที่เหมือนแมว)มาก่อนนะจ๊ะ (เมาสง) เป็นศัพท์บัญญัติขึ้นในช่วงประวัติศาสตร์จีนยุคปัจจุบัน หมายถึง สัตว์ที่มีหน้าตากลมๆอ้วนๆคล้ายแมว แต่รูปร่างใหญ่คล้ายหมีจนบางคนถึงกับจัดมันให้อยู่ใน ประเภทเดียวกันกับหมี
2 เนื่องจากคนจีนในสมัยก่อนเวลาเขียนหนังสือจะเขียนตัวอักษรไล่จากบนลงล่างตามแนวตั้ง และอ่านจาก แถวขวาไปซ้าย ซึ่งแตกต่างจากการเขียนในปัจจุบัน ที่เรียงตัวอักษรตามแนวนอน และอ่านจากซ้ายไปขวา มี ครั้งหนึ่งเมื่อพิพิธภัณฑ์เป่ยเป้ย ในมณฑลซื่อชวน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแพนด้าในประเทศจีน ได้จัดแสดง เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าเมาสงนี้และได้เขียนคำอธิบายตามแบบการเขียนในปัจจุบัน แต่บังเอิญมีผู้เข้าชมคนหนึ่ง แกติดนิสัย การอ่านหนังสือแบบจีนรุ่นเก่า เลยอ่าน ‘เมาสง’ เป็น ‘สงเมา’ เสียนี่ตั้งแต่นั้นจึงเรียกติดปากกัน ต่อๆมาอย่างผิดๆนี่แหละ อย่างไรก็ตามจะแมวหมีหรือหมีแมว นักชีววิทยาก็จัดแพนด้าอยู่ในสัตว์ประเภทหมีซึ่งแน่นอนไม่ใช่ประเภท เดียวกับแมว หมีแพนด้ายักษ์จัดเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของจีน ที่พบตามธรรมชาติได้เฉพาะในเขตมณฑลเสฉวลเท่านั้น บริเวณ ที่หมีแพนด้ายักษ์ชอบอาศัย คือ พื้นที่ที่เป็นป่าไม้ไผ่หนาทึบ มีอากาศหนาวเย็นและชื่น ลักษณะลวดลาย บริเวณลำตัวของหมีแพนด้าจะมีสีขาว ยกเว้นหูรอบตา จมูก ปาก แขน ขา และไหล่จะเป็นสีดำ เมื่อโตเต็มที่ จะมีความสู่ประมาณ 70-80 เซนติเมตร และมีน้ำหนักสูงถึง 100-150 กิโลกรัม หมีแพนด้าตัวผู้จะมีขนาดใหญ่ กว่าตัวเมีย ไม่มีใครทราบว่า หมีแพนด้าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติมีอายุยืนนานเท่าใด แต่เราทราบว่าหมีแพนด้า ที่เลี้ยงไว้ในกรงมีอายุถึง 20 ปีอาหารหลักของหมีแพนด้า คือ “ไผ่ธนู” มันจะใช้เวลา 14 ชั่วโมง 1 วัน เพื่อกิน อาหาร และใช้เวลา 10 ชั่วโมงเพื่อการพักผ่อน โดยจะนอนเป็นเวลา 2-4 ชั่วโมงต่อครั้ง ช่วงที่มัน กระฉับกระเฉงมากที่สุดคือช่วงเช้าตรูและช่วงบ่าย การผสมพันธุ์ของหมีแพนด้ายักษ์เกิดขึ้นในช่วงอายุ4-5 ปี ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม แต่ปัญหาที่ยุ่งยากก็คือ หมีแพนด้ามีความต้องการผสมพันธุ์เฉลี่ยต่อปี เพียง 2-3 วันเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้การเพิ่มจำนวนประชากรของหมีแพนด้า เป็นไปอย่างช้าๆ ไม่ว่าในอดีตจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันหมีแพนด้ารับใช้รัฐบาลจีนอย่างมีประสิทธิภาพและซื่อสัตย์ ความ หลักแหลมในการใช้สัตว์น่ารัก หายาก และมีเฉพาะในจีนเป็นตัวแทนของประเทศจีนในยุคของการรักสัตว์และ สิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อจีนอย่างไม่อาจหาสิ่งอื่นหรือสัตว์อื่นมาสู้ได้จีนได้ดำเนินการทุกวิถีทาง
3 เพื่อยับยั้งการลดจำนวนลงของหมีแพนด้าโดยในปีค.ศ. 1979 ได้ริเริ่มดำเนินโครงการ “อนุรักษ์หมีแพนด้า” โดยการช่วยเหลือและสนับสนุนของกองทุนสัตว์ป่าโลก และปัจจุบันจีนมีนโยบาย “ให้เช่าหมีแพนด้า” โดย อนุญาติให้สวนสัตว์ในต่างประเทศยืมหมีแพนด้าไปเลี้ยงได้และเงินที่ได้มาจะถูกนำไปใช้ในการอนุรักษ์หมี แพนด้า ถึงแม้ค่าเลี้ยงดูหมีแพนด้าหนึ่งตัวในสวนสัตว์ในสหรัฐอเมริกาทั้งปีจะแพงกว่าช้างถึง 5 เท่า และหมี แพนด้ากินไผ่เป็นว่าเล่นถึงหลายตันต่อปีและถ่ายวันละไม่ต่ำกว่า 30-40 ครั้ง แถมค่าธรรมเนียม “ขอยืม” แพนด้าสูงก็ตาม สวนสัตว์ใหญ่ในโลกต่างก็พร้อมที่จะ “ขอยืม” หมีแพนด้ามาเป็น “แม่แรงดึงดูด” ซึ่งปัจจุบัน ประเทศที่เช่าหมีแพนด้าไปเลี้ยงมีอยู่ 2 ประเทศ คือ ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
4 รู้จักอย่างเป็นทางการและรู้จักทางการทูตแพนด้า รู้จักอย่างเป็นทางการ "แพนด้า" เป็นชื่อที่นิยมเรียกกันของ "หมี" ที่แทบไม่มีพฤติกรรมความเป็นหมี หลงเหลืออยู่เลย เป็นสัตว์ที่กินเฉพาะ ไผ่ เพียงอย่างเดียว แต่อาจจะมีแมลง หรือไข่ของสัตว์บางชนิด ที่เป็น โปรตีนบ้าง ตามความจำเป็นต่อร่างกาย ส่วนใหญ่แพนด้า ใช้เวลาในการกินไผ่ ถึง 16 ชม./วัน เท่ากับไผ่ 18 กิโลกรัมหรืออาจจะมากถึง 30 กิโลกรัมเลย แล้วแต่ขนาดตัวของเจ้าหมีที่ไม่เหมือนหมี แพนด้าไม่มีนิสัยจำศีลเหมือนหมีพันธุ์อื่นๆ กินแต่ไผ่ที่มีความจำเพาะเท่านั้นอีกด้วย ทำให้แพนด้ามีไขมันน้อย มากเมื่อเทียบกับมวลร่างกาย และด้วยเหตุผลนี้ทำให้การติดสัดของแพนด้ามีเพียง 1-2 วันใน 1 ปีเท่านั้น และ ส่วนใหญ่จะตกลูกเพียงครั้งละ 1 ตัว แต่ก็มีโอกาสตกลูกแฝดได้บ้าง หลาย 10 ปีที่ผ่านมา ยังมีการถกเถียงเรื่องการจัดจำแนกสายพันธุ์ที่แน่นอนของแพนด้ายักษ์และแพนด้า แดง ซึ่งเป็นญาติสายพันธุ์ห่างๆ กัน และยังมีลักษณะพิเศษที่เหมือนทั้งหมีและแรคคูน ว่าสัตว์ทั้ง 2 จัดอยู่ใน กลุ่มเดียวกันหรือไม่แต่จากการทดลองทางพันธุกรรม บ่งบอกว่า "แพนด้ายักษ์" เป็นหนึ่งในชนิดของหมี(วงศ์ Ursidae) และหมีที่ชนิดใกล้เคียงที่สุดของ แพนด้า คือ "หมีแว่น" ที่พบในทวีปอเมริกาใต้ รู้จักทางการทูตแพนด้า "แพนด้า" ถือเป็น "สมบัติชาติของจีน" ในปัจจุบันนี้แพนด้าที่อยู่ตามธรรมชาติ จะพบเพียงในประเทศจีนเท่านั้น แต่สำหรับแพนด้าที่ถูกเลี้ยงในสวนสัตว์จะถือเป็น "ทูตสันถวไมตรี" ที่ "จีน ให้ยืม" ตามรายงานองค์กรแพนด้าของจีนระบุว่าจีนเป็นเจ้าของแพนด้ายักษ์ที่มีชีวิตทุกตัวทั่วโลกโดยตรง แม้ว่า พวกมันอาจจะเกิดในประเทศอื่นก็ตาม จีนใช้แพนด้าโดยเฉพาะแพนด้ายักษ์เป็น Soft Power เชื่อมสาย สัมพันธ์ขนฟูสีขาวดำกับหลายประเทศทั่วโลกมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มต้นจากสมัยราชวงศ์ถัง ที่พระนางบูเช็กเทียนส่งแพนด้า 1 คู่เป็นของกำนัลให้กับจักรพรรดิเท็มมุ ของญี่ปุ่นในปีค.ศ.685 หรือ พ.ศ.1228 ต่อมา จีนเริ่มใช้"นักการทูตขนฟู" สานสัมพันธ์กับอีกหลายประเทศทั่ว โลกเรื่อยมา ตั้งแต่ปีพ.ศ.2500-2525 แต่หลังจากนั้นจีนประสบปัญหาจำนวนแพนด้าลดลงอย่างรวดเร็ว จน แพนด้ายักษ์ขึ้นสถานะใกล้สูญพันธุ์ส่วนหนึ่งมาจากความสามารถในการปรับตัวได้น้อย กับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศที่ต่างจากประเทศต้นกำเนิดของแพนด้า รวมถึงการดูแลที่ไม่ละเอียดมากพอ จีนจึงเปลี่ยนเป็น "การเช่าแพนด้า" ด้วยสัญญาร่วมกับการวิจัยเพื่อขยายพันธุ์แพนด้ายักษ์ครั้งละ 10 ปี รวมกับเงินค่าเช่าปีละ 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยการให้เช่าแพนด้าครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือน ต.ค.2565 สีจิ้นผิง ปธน.จีนได้ให้เช่าแพนด้ายักษ์2 ตัวกับเมืองอัล คอร์ประเทศกาตาร์ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ปัจจุบันมีสวนสัตว์28 แห่งใน 22 ประเทศที่ทำสัญญาเช่าแพนด้ากับรัฐบาลจีน จุดประสงค์หลักเพื่อช่วย เพิ่มจำนวนแพนด้า และนำกลับคืนสู่ถิ่นกำเนิด ภายใต้การปฏิบัติต่อแพนด้าอย่างดี
5 รัฐบาลจีนกล่าวว่า "แพนด้า" เป็น "อาวุธที่ทรงพลังที่สุด" ของ ปธน.สีจิ้นผิง ที่ทำให้จีนรู้สึกเป็นที่รัก น่ากอด นุ่มนวล เหมือนที่ผู้คนรู้สึกต่อแพนด้า จึงน่าจะสรุปได้ว่า แม้ตัวตนของแพนด้าคือ "หมี" แต่ทั้งพฤติกรรม และ บทบาท ก็ไม่ได้มีความเป็นหมีโดยสิ้นเชิง
6 ลักษณะทั่วไป และลักษณะเด่นของหมีแพนด้า ลักษณะทั่วไปของหมีแพนด้า แพนด้ายักษ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความน่ารักมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก คน ส่วนใหญ่คิดว่าแพนด้ายักษ์เป็นสัตว์อ้วนเตี้ยอุ้ยอ้ายแสนน่ารัก แต่ที่จริงแล้วแพนด้ายักษ์ก็เป็นอันตราย เช่นเดียวกับหมีชนิดอื่นๆ มีรูปร่างคล้ายหมีมีขนสีดำที่บริเวณหู, รอบดวงตา, รอบปากและจมูก, บ่า และขาทั้ง สี่ข้าง ส่วนอื่นๆ ของร่างกายปกคลุมด้วยขนสีขาว นักวิทยาศาสตร์ไม่ทราบเหตุผลที่แน่นอนว่าทำไมแพนด้า ยักษ์จึงมีขนสีขาวดำแปลกประหลาดเช่นนี้ ถึงแม้พวกมันจะจัดอยู่ในวงศ์ของหมีแต่พฤติกรรมของมันแตกต่างจากหมีโดยสิ้นเชิง แพนด้าเป็นสัตว์กิน พืชเป็นอาหาร โดย 99% ของอาหารที่มันกินคือไผ่ แต่บางทีอาจพบว่ามันก็กินไข่ ปลา และแมลงบางชนิดใน ไม้ไผ่ที่มันกิน นี่เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ หลายสิบปีที่ผ่านมาการจัดจำแนกสายพันธุ์ที่แน่นอนของแพนด้า ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แพนด้ายักษ์และแพนด้าแดงซึ่งเป็นญาติสายพันธุ์ห่างๆ กัน และยังมีลักษณะพิเศษที่ เหมือนทั้งหมีและแรคคูน อย่างไรก็ตาม การทดลองทางพันธุกรรมบ่งบอกว่าแพนด้ายักษ์เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ ของหมี(วงศ์Ursidae) หมีที่สายพันธุ์ใกล้เคียงที่สุดของแพนด้าคือหมีแว่นของอเมริกาใต้(ข้อขัดแย้งที่ยังคง เป็นที่สงสัยอยู่คือแพนด้าแดงนั้นอยู่ในวงศ์ใด เป็นที่ถกเถียงว่าอาจจะอยู่ในวงศ์หมี(Ursidae), วงศ์แรคคูน, วงศ์โพรไซโอนิดี้(Procyonidae), หรืออยู่ในวงศ์เฉพาะของมันเอง วงศ์ไอเลอริดี้(Ailuridae)) แพนด้าเป็นสัตว์สปีชีส์ที่ถูกคุกคามหรืออยู่ในอันตรายต่อการสูญพันธ์ทั้งนี้มาจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่จากการ บุกรุกของมนุษย์อัตราการเกิดต่ำทั้งในป่าและในกรงเลี้ยง เชื่อว่ามีแพนด้ายักษ์เพียง 1,600 ตัว อาศัยอยู่รอด ในป่า หมีแพนด้ามีอุ้งตีนที่ผิดจากธรรมดา คือมีนิ้วหัวแม่มือและมีนิ้วอีก 5 นิ้ว นิ้วหัวแม่มือที่จริงแล้วมาจาก การปรับปรุงรูปแบบของกระดูกข้อต่อ สตีเฟน เจย์กาวลด์ได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้โดยมีชื่อเรื่อง ว่า The Panda's Thumb หรือ นิ้วหัวแม่มือของแพนด้า หางของแพนด้ายักษ์นั้นสั้นมาก โดยมีความยาว ประมาณ 15 เซนติเมตร บางคนคิดว่าลักษณะเช่นนี้เป็นประโยชน์ในการพรางตัวบริเวณร่มเงาในสิ่งแวดล้อมที่เป็นหิมะและภูเขา ขนหนาและปุกปุยของมันช่วยเก็บรักษาความอบอุ่นของร่างกายได้ดีแม้อากาศจะหนาวจัด แพนด้ายักษ์มีฟัน กรามขนาดใหญ่และกระดูกขากรรไกรแข็งแรงที่สามารถบดลำไม้ไผ่ให้แตกได้แพนด้ายักษ์มีขนาดใกล้เคียงกับ หมีดำของอเมริกา เมื่อมันยืนสี่ขาจะมีความสูงจากพื้นถึงหัวไหล่ประมาณ 2-3 ฟุต มีความยาวประมาณ 4-6 ฟุต ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย และอาจมีน้ำหนักมากกว่า 115 กก.สำหรับแพนด้ายักษ์ที่อาศัยในป่า ส่วนตัว เมียส่วนมากจะมีน้ำหนักไม่ถึง 100 กก. ลักษณะเด่นของหมีแพนด้า ลักษณะที่โดดเด่นของ หมีแพนด้า คือมีขนสีดำและสีขาว บริเวณหัว คอ ตะโพก จะมีสีขาว ส่วนรอบๆตาทั้งสองข้าง หูไหล่ขาหน้า และขาหลังจะมีสีดำ หัวของหมีแพนด้า จะใหญ่เมื่อ เทียบกับสัดส่วนของตัว กว่าหมีชนิดอื่นๆ เท้าหน้ามี6 นิ้ว พร้อมที่จะกางกว้างออกเมื่อปะทะกัน หรือปีนต้นไม้
7 ถิ่นที่อยู่อาศัยและอาหาร หมียักษ์ขี้เล่นที่ใครเห็น ก็ต้องตกหลุมรักในความอ้วนของมัน แพนด้าอาศัยอยู่บนเทือกเขา บางพื้นที่ของ จีน ซึ่งในอดีตเชื่อว่าอาศัยอยู่กระจัดกระจายไปทั่วภาคใต้และตะวันออกของจีน จนไปถึงภาคเหนือของพม่า และเวียดนาม แพนด้ายักษ์กระจายพันธุ์ในแนวเทือกเขา ทางตอนกลางของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในมณฑลเสฉวน, ชานซีและกานสูในอดีตแพนด้ายักษ์เคยกระจายพันธุ์ลงมาถึงบริเวณที่ราบต่ำ แต่เพราะการ ตัดไม้ทำลายป่า, การขยายพื้นที่เกษตรกรรม และการพัฒนาพื้นที่ ทำให้ปัจจุบันแพนด้ายักษ์ถูกจำกัดการ กระจายพันธุ์ให้เหลือเฉพาะในเทือกเขาเท่านั้น แพนด้ายักษ์อาศัยอยู่ในป่าสนและป่าไม้ใบกว้าง (broadleaf) ที่มีต้นไผ่อยู่หนาแน่นที่ระดับความสูง 5,000-10,000 ฟุต บริเวณนี้มีฝนตกหนัก และหมอกหนาปกคลุมตลอด ปีสำหรับประเทศไทยได้มีการค้นพบฟอสซิลของแพนด้าที่จังหวัดลำปาง อาหารส่วนใหญ่ (ประมาณร้อยละ 99) ของแพนด้ายักษ์ที่อาศัยในป่าธรรมชาติคือไผ่ นอกนั้นก็จะเป็น หญ้าชนิดอื่นๆ อาจพบว่ามันกินสัตว์เล็ก เช่น สัตว์ฟันแทะขนาดเล็กหรือลูกของกวางมัสก์(Musk Deer) บ้าง เป็นครั้งคราว ส่วนอาหารของแพนด้ายักษ์ในสวนสัตว์ได้แก่ ไผ่, อ้อย, ธัญพืช, บิสกิตชนิดพิเศษที่มีเส้นใยสูง, ผลไม้และผัก เช่น แครอท, แอปเปิ้ล และมะเขือเทศ
8 พฤติกรรมการสืบพันธุ์ โดยปกติแพนด้ายักษ์ที่โตเต็มวัยแล้วจะอยู่เพียงลำพัง แต่ก็มีการติดต่อสื่อสารกับแพนด้ายักษ์ตัวอื่นบ้าง เป็นช่วงๆ โดยใช้การสื่อสารด้วยสารเคมีจากต่อมกลิ่น, เสียงร้อง และการพบปะกันบ้างเป็นครั้งคราว แพนด้า ยักษ์ในป่าธรรมชาติใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหาอาหาร, กินอาหาร และการพักผ่อน มันไม่จำศีล (hybernation) เหมือนหมีชนิดอื่นๆในป่าเขตอบอุ่น ในอดีตนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแพนด้ายักษ์ใช้ชีวิตส่วน ใหญ่อยู่ตามลำพัง มีการพบปะของตัวเมียและตัวผู้เฉพาะช่วงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น แต่จากการศึกษาในปัจจุบัน ค้นพบบางสิ่งที่แตกต่างออกไปคือพบว่า แพนด้ายักษ์จะอาศัยเป็นกลุ่มเล็กๆ ในอาณาเขตกว้างใหญ่ และบางครั้งจะมีการพบปะกันบ้างนอกฤดู ผสมพันธุ์ยังคงมีการศึกษาอยู่ต่อไปเกี่ยวกับความลับในการดำรงชีวิตของสัตว์ที่ยากจะเข้าใจชนิดนี้การค้นพบ ใหม่ๆ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์สำหรับเรื่องอายุขัยมีรายงานว่า แพนด้ายักษ์ในกรงเลี้ยงมีอายุประมาณ 35 ปีและพบว่า “ชิงชิง” (Hsing-Hsing) แพนด้ายักษ์ที่อาศัยในสวน สัตว์แห่งชาติตายเมื่อ ค.ศ. 1999 ขณะมีอายุได้28 ปีนักวิทยาศาสตร์ไม่ทราบข้อมูลแน่นอนเกี่ยวกับอายุขัย ของแพนด้ายักษ์ที่อาศัย ในป่าธรรมชาติทราบแต่เพียงว่าสั้นกว่าอายุขัยของแพนด้ายักษ์ในกรงเลี้ยง แพนด้า ยักษ์มีฤดูผสมพันธุ์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น เป็นช่วงเวลาสั้นๆเพียง 2-3 วัน ที่ตัวเมียมีความต้องการจะผสม พันธุ์และสามารถตั้งท้องได้ในช่วงเวลานั้นจะมีการสื่อสารโดยใช้เสียงร้องและกลิ่นเพื่อดึงดูดให้ตัวเมีย และตัว ผู้มาพบและผสมพันธุ์กัน แพนด้ายักษ์จะโตเต็มวัยพร้อมจะผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ4-8 ปีตัวเมียจะตั้งท้องประมาณ 95-160 วัน อาจจะตกลูกได้ครั้งละ 2 ตัว แต่โดยปกติจะมีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต ลูกแพนด้ายักษ์จะอยู่กับแม่ไป จนกระทั่งอายุประมาณ 1.5 - 3 ปีแล้วจึงแยกตัวออกไป ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่แพนด้ายักษ์ตัวเมียจะ สามารถมีลูกได้ก็คือทุก 2-3 ปีดังนั้นตลอดชีวิตของมันก็อาจประสบความสำเร็จในการตกลูกได้เพียง 5-8 ตัว กลเม็ดหาคู่ มีสามแบบสามวิธีวิธีแรกจีบด้วยกลิ่น โดยแพนด้าจะใช้ก้นถูๆ ตามโคนต้นไม้ก้อนหิน และบนพื้นให้กลิ่น ติด และโชยไปแตะจมูกฝ่ายตรงข้าม หรือวิธีที่สองจีบด้วยเสียงเพลง โดยขึ้นไปร้องเพลงรักไม่ซ้ำแบบบนต้นไม้ บ้าง บนพื้นบ้าง เพื่อดึงดูดความสนใจของอีกฝ่าย เพลงยอดฮิตก็คือ เลียนเสียงร้องของนก หรือเสียงแพะ และ วิธีการจีบกันจะแสดงออกด้วยท่าทาง โดยบางตัวอาจแสดงออกด้วยอาการหงุดหงิด อยู่ไม่สุข กัดกิ่งไม้บ้างตาม ประสา ฝากรอยข่วนไว้ตามต้นไม้เพื่อให้เตะตาฝ่ายตรงข้าม เมื่อทั้งสองต่างปิ๊งกันก็เข้าหอกันในทุ่งกว้างตาม เชิงเขา ก็มีบางตัวที่หนีขึ้นไปบนต้นไม้
9 ความหมายทางจิตวิญญาณของหมีแพนด้า 13 ความหมายทางจิตวิญญาณของหมีแพนด้า แต่หากคุณรู้สึกดึงดูดแพนด้าอย่างประหลาด ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันที่คนจำนวนมากชื่น ชอบ แต่ยังรวมถึงสิ่งที่ลึกซึ้งด้วย และมีจิตวิญญาณอยู่ในนั้น บางทีจิตวิญญาณสัตว์แพนด้าของคุณอาจกำลัง พยายามติดต่อคุณอยู่ เพื่อช่วยเหลือคุณ เราได้เตรียมรายการความหมายทางจิตวิญญาณของหมีแพนด้า 13 รายการสำหรับคุณ เมื่อคุณอ่านเนื้อความนี้อย่างละเอียด คุณจะสามารถเข้าใจความเชื่อมโยงที่อธิบายไม่ได้ ของคุณกับหมีแพนด้าได้อย่างแน่นอน 1. ทำตัวให้เป็นศูนย์กลางและสนุกกับชีวิตอย่างเต็มที่ แพนด้ามักอาศัยอยู่ตามลำพัง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หยุดพวกเขาจากความสนุกสนาน จะเห็นว่าหมีแพนด้าทำ ตัวสบายๆ และสนุกสนานในฝูงของมันเอง แพนด้าสอนให้เรารักและสนุกไปกับเวลาที่อยู่กับเรา พวกเขา แนะนำเราให้รวมศูนย์ตัวเอง หากช่วงนี้คุณรู้สึกพึ่งพาคนอื่นมากเกินไป หมีแพนด้าจะกระตุ้นให้คุณเป็นอิสระ มากขึ้นและช่วงนี้คุณไม่มีความสุขกับชีวิตเนื่องจากข้อจำกัดต่างๆ ของโลกวัตถุนิยม แพนด้าขอให้คุณใช้เวลา กับตัวเอง ผ่อนคลาย และเพลิดเพลิน 2. การเลี้ยงดูตนเองและคนรอบข้าง แพนด้าเป็นสัตว์ที่ดีที่สุดประเภทหนึ่งเมื่อพูดถึงสัญชาตญาณความเป็นแม่ พวกเขารักและเลี้ยงดูลูก ๆ ของพวก เขาและไม่ปล่อยให้คลาดสายตา ดังนั้น หมีแพนด้าจึงเป็นสัญลักษณ์ของการเลี้ยงดู สัตว์จิตวิญญาณของหมีแพนด้าไม่เพียงแต่นำทางเราให้เลี้ยงดูลูกภายในและจิตวิญญาณของเราเท่านั้น แต่ยัง สอนให้เราเลี้ยงดูคนรอบข้างด้วย คุณให้การสนับสนุนและความรักแก่คนที่คุณรักเพียงพอหรือไม่? คุณกำลังทำ ให้พวกเขารู้สึกอบอุ่นและคลุมเครือหรือเปล่าการพบหมีแพนด้าหรือเห็นหมีแพนด้าในความฝันอาจเป็น สัญญาณว่าคุณต้องให้ความสนใจกับคนรอบข้างมากขึ้น 3. อารมณ์ขันและ ความขี้เล่น กี่ครั้งแล้วที่เราหัวเราะจนท้องแข็งกับวิดีโอมีมของหมีแพนด้าที่เอาแต่กลิ้งหรือทำสิ่งที่โง่เขลาที่สุด สำหรับหมี แพนด้า ความขี้เล่นของพวกมันไม่สามารถต่อรองได้ไม่ว่าจะเป็นแพนด้าน้อยหรือแพนด้าโตเต็มวัย พวกมันรู้ วิธีสนุกสนานอย่างแน่นอน แพนด้าสอนให้เรารวมอารมณ์ขันและความขี้เล่นเข้ากับชีวิตของเรา หากไม่มี องค์ประกอบเหล่านี้ชีวิตของเราคงจะจำเจและน่าเบื่ออย่างแน่นอน ในขณะที่พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อ รักษาความต้องการของคุณและคนที่คุณรัก อย่าลืมหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างนั้นด้วย 4. ความสะดวกสบาย แพนด้ากินไผ่มาก ระบบย่อยอาหารของพวกมันค่อนข้างสั้น ดังนั้นพวกมันจึงต้องกินไม้ไผ่จำนวนมากใน ระหว่างวัน เช่น 26 ถึง 84 ลำปอนด์ของไม้ไผ่ต่อวัน หมีแพนด้าทำเช่นนั้นเพื่อดำรงชีวิตด้วยความสะดวกสบาย ดังนั้น หากคุณมีสัตว์จิตวิญญาณของหมีแพนด้า คุณมักจะถูกดึงดูดให้สะสมความสะดวกสบายทางวัตถุ อย่างไรก็ตาม จงรู้ว่าไม่มีอะไรผิดที่จะทำเช่นนั้น เช่นเดียวกับหมีแพนด้า คุณกังวลเกี่ยวกับการยังชีพในระยะ
10 ยาวของคุณ และมันก็ถูกต้องแล้ว ดังนั้น หมีแพนด้าจึงสื่อข้อความว่า แม้ว่าความต้องการระยะสั้นของคุณจะ ได้รับการตอบสนอง คุณต้องคำนึงถึงระยะยาวของพวกมันด้วย -กำหนดความต้องการและความต้องการและ สะสมตามลำดับ 5. การสร้างและการกำหนดขอบเขตส่วนบุคคล หมีแพนด้ามักใช้ชีวิตอย่างสันโดษและไม่ชอบแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ผู้ที่มาเยี่ยมนานขึ้น และ ผู้ที่รุกล้ำขอบเขต ส่วนบุคคล และคุณก็ไม่ควรเช่นกัน คุณได้รับอนุญาตให้กำหนดขอบเขตส่วนบุคคล และคนรอบข้างต้องเคารพ พวกเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม สัตว์จิตวิญญาณของหมีแพนด้าเตือนเราถึงความสำคัญของการกำหนด ขอบเขตส่วนบุคคล เช่น ที่คุณรู้สึกปลอดภัยและสบายใจในบริษัทของคุณ ทุกคนสมควรได้รับ 'เวลาส่วนตัว' เล็กน้อย เนื่องจากเป็นเวลาสำหรับการครุ่นคิด ครุ่นคิด และตั้งเป้าหมาย 6. ความสงบและความอดทน สัตว์ปุกปุยเหล่านี้สงบนิ่งและ สงบสุขเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเห็นหมีแพนด้าต่อสู้หรือวิ่งไปรอบๆ ด้วยอารมณ์ ฉุนเฉียวเหมือนกับสัตว์อื่นๆ ส่วนใหญ่แพนด้านั่ง กิน พักผ่อน และใช้ชีวิต แพนด้าคือยังค่อนข้างอดทน พวกเขาไม่เร่งรีบ รู้หรือไม่ว่าอาหารโปรดของพวกมัน – ไผ่ใช้เวลาเติบโตประมาณ 2-3 ปีกระนั้น พวก เขา ก็รอ อย่าง อด ทน. เป็นเรื่องดีที่ต้นไผ่ขยายพันธุ์ได้ง่ายและอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น หมีแพนด้าจึงขอให้คุณรักษาความสงบและอดทนไม่ว่าชีวิตจะเจออะไรมาก็ตาม จะดีที่สุดถ้าคุณระลึกว่า ของดีรอเวลา และคนที่ยืนรอจนจบเท่านั้นที่จะได้ลิ้มรสผลไม้ 7. พลังหยิงและหยางที่ประสานกัน ในปรัชญาจีน หยินและหยางถูกพรรณนาว่าเป็นพลังที่ขัดแย้งกันแต่เสริมกัน หยิน เกี่ยวข้องกับสีเข้ม เป็น สัญลักษณ์ของพลังงานของผู้หญิง ในทางกลับกัน หยางซึ่งเกี่ยวข้องกับสีอ่อนหรือสีขาวแสดงถึงพลังงานของ ผู้ชาย หมีแพนด้าประดับด้วยขนสีดำและสีขาว การผสมสีนั้นตัดกัน แต่แพนด้าก็ยังดูน่ารัก ดังนั้น ตาม วัฒนธรรมจีน เชื่อว่าหมีแพนด้าเป็นตัวแทนของพลังหญิงและชายที่สมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นความ สมดุลที่สมบูรณ์แบบของพลังหยินและหยาง 8. ความกรุณาและความอ่อนไหว จิตวิญญาณของหมีแพนด้า สัตว์ยังสื่อถึงความเห็นอกเห็นใจและละเอียดอ่อนต่อความต้องการและความรู้สึก ของผู้อื่น หากคุณมีสัตว์วิญญาณแพนด้า แสดงว่าคุณเป็นคนมีจิตใจเมตตาและช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ที่ต้องการ ความช่วยเหลือ คุณยังอ่อนไหวเมื่อพูดถึงอารมณ์ของคุณ หมายความว่าอารมณ์ของคุณผันผวนอย่างรวดเร็วแม้ จะมีสิ่งกระตุ้นทางอารมณ์ในระดับต่ำก็ตาม ดังนั้น หมีแพนด้ายังเตือนคุณว่าอย่าบอบบางและเปราะบาง เกินไป เพราะคนชั่วสามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนเหล่านี้ได้ 9. ความแข็งแกร่งที่ไม่อวดดี แพนด้าทำ ไม่ประกาศใช้ความรุนแรงอย่างจริงจัง ดูจากท่าทางแล้วพวกมันดูเหมือนสัตว์ที่เชื่อง นุ่มฟูอ่อนโยน คุณเกือบจะอยากเลี้ยงมันแล้วใช่ไหม? แต่ถ้ารำคาญหมีแพนด้าก็มีอารมณ์ดุร้าย อันที่จริง ในหลายๆ
11 วัฒนธรรมของจีน หมีแพนด้าเป็นสัญลักษณ์ของความดุร้าย ด้วยขนาดที่ใหญ่ขนาดนั้น หมีแพนด้าจึงเป็นหนึ่ง ในสัตว์ที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้น สัตว์จิตวิญญาณของหมีแพนด้าจึงขอร้องให้คุณอย่ามีพละกำลังท ฉูดฉาดแต่ไม่อวดดีไม่จำเป็นต้องหยาบกระด้างและดุร้ายเพื่อที่จะแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่ควรมีคือความมุ่งมั่น ความ มุ่งมั่น และความสามารถในการยืนหยัดเพื่อตัวเองได้ทุกเมื่อเมื่อสถานการณ์ต้องการ 10. ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง แพนด้าอดทนรอให้ไผ่เติบโต และในทางกลับกัน พวกเขาได้รับรางวัลเป็นของว่างสุดโปรดมากมาย ดังนั้น หมี แพนด้าจึงมีความเกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง หมีแพนด้าสอนเราว่าถ้าเราอดทน พอที่จะรอคอยสิ่งดีๆ ในชีวิต เราก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับความอุดมสมบูรณ์ของมันได้หากคุณมีจิต วิญญาณของหมีแพนด้า เตรียมพร้อมที่จะรับพรด้วยความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง 11. ความก้าวหน้าที่ช้า แพนด้าเชื่อในการเติบโตที่ช้าและความคืบหน้า ไม่ว่างานจะเป็นอะไร พวกเขาทำอย่างช้าๆ และผ่อนคลาย สิ่ง ที่น่าสนใจคือไม่ว่าความเร็วจะเป็นเช่นไร แพนด้าก็มุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้แพนด้าจึงเตือนให้เราทำตามจังหวะของเราเอง อย่าปล่อยให้ความเร็วของคนอื่นข่มขู่หรือกีดกันคุณ เมื่อต้องตัดสินใจหรือทำอะไรที่สร้างสรรค์จิตวิญญาณของหมีแพนด้าจะคอยแนะนำเราให้ทุ่มเทความคิดและ ความพยายามให้มากพอ เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียใจในภายหลัง ชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน หากใครสักคนมีเวลาในชีวิต ในช่วงอายุ20 ปีเวลาของคุณอาจมาถึง 30 ดังนั้น คุณต้องมองโลกในแง่ดีและผลักดันตัวเองวันละนิดเพื่อที่จะ กลายเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง 12 . ความซาบซึ้งและความกตัญญู สัตว์จิตวิญญาณของหมีแพนด้ายังเกี่ยวข้องกับความซาบซึ้งและความกตัญญูอีกด้วย เราไม่ควรมองข้ามสิ่งใดสิ่ง หนึ่งไปโดยเปล่าประโยชน์และรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ชีวิตมอบให้คุณจนถึงปัจจุบัน ขอบคุณจักรวาล และขอบคุณตัวเองในบางครั้ง สำหรับทุกช่วงเวลาที่คุณได้ต่อสู้กับอุปสรรคอย่างกล้าหาญ เพื่อ ช่วงเวลาที่คุณสร้างรอยยิ้มให้กับใบหน้าของผู้อื่น และช่วงเวลาที่คุณได้บ่มเพาะความเป็นเด็กในตัวคุณ สำหรับเรื่องราวชีวิตของคุณ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต และแรงบันดาลใจ คุณสมควรได้รับการชื่นชม! 13. ความสามารถในการปรับตัว ในขณะที่สิ่งมีชีวิตที่น่ารักเหล่านี้กำลังเคี้ยวไผ่อาจทำให้เราคิดว่าพวกมันเป็นสัตว์กินพืชแพนด้าเป็นสัตว์กินเนื้อ จริงๆ แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือพวกมันปรับตัวเข้ากับอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบได้อย่างเต็มที่ มันน่าทึ่งแค่ไหน? คุณนึกภาพเสือกินพืชออกไหม? เราทำไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้น หมีแพนด้าจึงส่งข้อความทางจิตวิญญาณ เพื่อให้เราปรับตัวได้ตามที่ประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการแนะนำ เฉพาะผู้ที่มีความสามารถในการรู้ได้อย่าง รวดเร็วว่าสถานการณ์ต้องการอะไรและมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์เท่านั้นที่จะเป็นผู้ที่แก้ไขได้ในระยะยาว
12 นิสัยส่วนตัวของหมีแพนด้า รักสันโดษ แพนด้ามักปลีกวิเวก ไม่ชอบสุงสิงกับใครจนได้รับฉายาว่า ‘ผู้สันโดษแห่งป่าไผ่’ มีแค่ช่วงฤดู ใบไม้ผลิที่ดอกไม้เบ่งบาน บรรยากาศเป็นใจเท่านั้น ที่เหล่าแพนด้าจึงจะโผล่ออกมาหาคู่ นักปีนป่ายตัวยง เห็นแพนด้าตัวอ้วนตุ๊ต๊ะอย่างนี้แต่ที่จริงเป็นนักปีนมืออาชีพ นี่เป็นคุณสมบัติที่รับถ่ายทอดมา จากบรรพบุรุษกินเนื้อของมัน ซึ่งมีประโยชน์ในการหลบหนีศัตรูหาอาหาร และอาบแดด ชอบกินน้ำ แพนด้ามักใช้ชีวิตใกล้แหล่งน้ำ เนื่องจากชอบกินน้ำเป็นชีวิตจิตใจ บางครั้งถึงจะอยู่ไกลแค่ไหน ก็ยัง ดั้นด้นไปหาน้ำกินตามหุบเขา พอเจอแหล่งน้ำก็จะกินอย่างไม่คิดชีวิต ท่าทางเหมือนจอมยุทธ์นั่งจุ้ยอยู่ริมธาร ดื่มเหล้าหัวราน้ำอย่างนั้นเลย อาหารต้องไม่ธรรมดา ก็ไม่ถึงกับอาหารฮ่องเต้หรอกจ๊ะ แต่โดยปกติแพนด้ายักษ์จัดอยู่ในประเภทสัตว์ กินเนื้อ แต่90% ของอาหารที่มันกินกลับเป็นใบไผ่ เรียกได้ว่าเป็นเกจิไผ่ขนานแท้เพราะมันกินใบไผ่กว่า 20 ชนิด มันเลือกกินตามฤดูกาลด้วยนะ เนื่องจากแต่ละฤดูใบไผ่ที่ผลิออกมาจากลำต้นส่วนต่างๆจะมีรสชาติ แตกต่างกันไป แต่ส่วนที่แพนด้ายักษ์ชอบกินที่สุดคือ หน่อไม้บางทีก็กินพวกข้าวโพด และตังกุยป่า บังอรเอาแต่นอน เนื่องจากแพนด้าเลือกกินใบไผ่ที่ไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนาการและให้พลังงานน้อย ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดจึงต้องจำกัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวลง และพักผ่อนนอนหลับมากๆเพื่อประหยัด พลังงาน โดยใน 1 วัน แพนด้าใช้เวลาไปกับการกินถึง 54.86% ส่วน 43.06% เป็นเวลาพักผ่อน และให้เวลา กับการเล่นแค่ 2.08% เท่านั้น นอกจากนี้แพนด้ายังไม่กลัวความหนาว ไม่มีนิสัยชอบจำศีลในฤดูหนาวอย่างสัตว์อื่นๆ ในขณะที่อุณหภูมิลดต่ำ จนกระทั่งติดลบ 4-14 องศานั้น แพนด้าก็ยังสู้บุกบั่นฝ่าหิมะเข้าป่าไปหาของกินได้อีกทั้งไม่กลัวความเปียกชื้น โดยตลอดทั้งปีแพนด้าจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในป่าดิบชื้น คู่อริและเพื่อนบ้านที่แสนดีศัตรูตัวฉกาจของน้องหมีคงไม่พ้น พวกพี่เสือดาว เจ้าหมาใน และสุนัข จิ้งจอก แต่ส่วนมาก สัตว์เหล่านี้จะเล่นงานลูกแพนด้าและแพนด้าแก่ที่อ่อนแอ เพราะว่าแพนด้าวัยหนุ่มสาวยัง ไม่ทิ้งสัญชาตญาณของสัตว์กินเนื้อของบรรพบุรุษ ‘เจอศึกไม่ถอยหนี’เหมือนกัน สวนสัตว์บางแห่งก็เคยเกิด กรณีแพนด้าโมโหจนทำร้ายคนมาแล้ว..จะหาว่าแพนด้าไม่เตือน.. ส่วนลิงขนทอง กระทิง ซึ่งมักใช้ชีวิตในละแวกเดียวกันกับแพนด้า แต่ก็มีพื้นที่เป็นของตัวเองไม่ระรานกันนั้น ต่างเป็นมิตรที่ดีของแพนด้า และที่ขาดไม่ได้ก็คือแพนด้าจิ๋ว ที่เป็นเพื่อนซี้ปึกของแพนด้ายักษ์ถึงแม้จะชอบกิน ใบไผ่เหมือนกัน แต่แพนด้าทั้งสองพันธุ์ก็มีถิ่นหากินคนละที่ และพอถึงฤดูใบไม้ร่วงแพนด้าจิ๋วก็หันไปกินลูกไม้ แทน อย่างนี้ถึงเรียกเป็นมิตรร่วมป่าที่ดีตัวจริง
13 แพนด้าแดงตัวใหญ่เหมือนหมีแพนด้า ? หลายคนเข้าใจกันว่าหน้าตาคงจะคล้ายกับหมีแพนด้า ที่มีความน่ารักอยู่ในตัวใครๆได้พบเห็นก็อยากจะอุ้ม เล่นแต่ต้องบอกเลยว่าหลายคนเข้าใจผิดกันมาตลอดว่าแพนด้าแดงนั้นเป็นลักษณะคล้ายๆแบบนั้น มารู้จัก แพนด้าแดงกันดีกว่าว่าเขามีหน้าตาและลักษณะเป็นอย่างไร เปรียบเทียบง่ายๆ แพนด้าแดงนั้นมีลักษณะคล้าย กับแรคคูน ตัวจะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนกับหมีแพนด้าลักษณะตัวของเขา มีความละม้ายคล้ายคลึงกับแมวเสีย มากกว่า ขนาดตัวก็ใหญ่กว่าแมวเพียงเล็กน้อยแต่มีขนปุยมากกว่าแมว สีขนของเขาจะออกเป็นโทนสีน้ำตาลส่วน ใบหน้าของเขาจะมีลักษณะคล้ายกับแมวหูจะเป็นคนละสีกับขนลำตัว แก้มซ้ายขวาก็จะมีสีที่ต่างจากลำตัวสีจะ ใกล้เคียงกับใบหูของเขา ส่วนท้ายของเขาจะเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นหางยาวมีขนฟูบางคนก็เปรียบเทียบว่าหางนั้น สวยงามเหมือนกับหางกระรอกป่ากันเลย แพนด้าแดงเรื่องมากในการกินอาหาร แพนด้าแดงนั้นต้องบอกก่อนว่าไม่ได้เป็นสัตว์อยู่ในประเทศไทยแต่เป็นสัตว์ที่มาจากต่างประเทศ อาหารการกิน ของแพนด้านั้นเขาจะกินเพลงยอดมาอยู่ไม่กี่ชนิด จะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเลือกกินเป็นอย่างมาก และเขายังชอบ ที่จะกินแมลงตัวเล็กๆและผลไม้บางอย่าง การจะนำเข้ามาเลี้ยงที่ประเทศไทยค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องยาก พอสมควรเพราะโดยพื้นเพของเขาแล้วจะอยู่บนที่สูงอยู่ในอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งประเทศไทยของเรานั้นมี
14 อุณหภูมิที่ค่อนข้างร้อน ถ้าจะนำแพนด้าแดงเขาเข้ามาเลี้ยงจริงๆอาจจะต้องมีการสร้างห้องให้เขาเป็นการ ส่วนตัว ความน่ารักของแพนด้าแดง เป็นสัตว์ที่น่ารักแทบจะไม่ค่อยมีการต่อสู้กันเอง การต่อสู้หรือการข่มขวัญคู่ต่อสู้ของแพนด้าแดงนั้น อาจจะเป็นเพียงการโชว์ตัวเองให้รู้ว่าตัวเรานั้นใหญ่กว่าด้วยการยกมือขึ้นทั้ง 2 ข้าง เพื่อเป็นการข่มขวัญคู่ต่อสู้ การใช้ชีวิตของแพนด้าแดงถือว่าเป็นอะไรที่ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก เขาจะอยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆ และ มีผู้นำของกลุ่มเป็นตัวผู้เขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ของเขาในวงไม่กว้างมากนะการออกหาเหยื่อของเขาจะอยู่ในวง รัศมีประมาณ 1 กิโลเมตรจากที่พักเท่านั้น ถือว่าเป็นสัตว์ที่น่ารักอีกชนิดหนึ่งหลายคนได้ดูชีวิตของเขาแล้วถ้า อยากจะเห็นตัวจริง ถ้าอยากจะหาดูแบบใกล้ชิดและดูถึงความเป็นอยู่ของเขาจริงๆอาจจะต้องบินไปถึง ต่างประเทศเพื่อดูวิถีชีวิตของเขาแบบเต็มตาเต็มใจ ถ้าดูในสวนสัตว์บ้านเราอาจจะไม่ได้ความน่ารักเท่ากับที่เรา ดูผ่านสารคดีก็เป็นได้
15 ระบบสังคม และการสื่อสาร ระบบสังคม ส่วนมากหมีแพนด้าจะอาศัยอยู่เพียงลำพัง ตัวเดียว ยกเว้นหมีแพนด้าแม่ลูกอ่อน ในช่วงฤดูกาลให้นมลูก หมีเพศผู้จะต่อสู้กัน เพื่อแย่งเข้าไป หากลุ่มแม่หมีอาณาเขตของหมีเพศเมีย ปกติแล้ว จะอาศัยซึ่งกันและกัน อาณาเขต จะซ้อนทับกันเป็นบางครั้ง ในขณะที่หมีแพนด้าเพศผู้จะมีอาณาเขตที่กว้างครอบคลุมหมีเพศเมีย ทั้งหมด การสื่อสาร หมีแพนด้าจะใช้กลิ่น อะซิติค ที่หลั่งออกมาจากบริเวณ ต่อมที่อยู่ใกล้ๆกับอวัยวะสืบพันธุ์ไว้ตามต้นไม้ก้อนหิน และใช้เสียงในการกำหนดขอบเขต โดยส่วนมากจะเป็นหมีเพศผู้ส่วนการใช้เสียงของหมีเพศเมีย จะมีในช่วงที่ จะผสมพันธุ์
16 บรรณานุกรม วีรกร ตรีเศศ 2566 , “หมีแพนด้า” จากสัตว์พิเศษ-หายาก ถึงสัตว์การทูต แม้จะกินแต่ไผ่จริงๆ กิน เนื้อได้สือบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2567 ที่มา: https://www.matichonweekly.com/specialscoop/article_667373 Fah 2018 , 13 เรื่องจริงของแพนด้า ถ้าหากคุณได้รู้แล้ว จะทำให้คุณรักพวกมันมากขึ้นกว่าเดิม สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2567 ที่มา: Scholarship.in.thhttps://www.scholarship.in.th › 13-f Goblin 2009 , ประวัติหมีแพนด้า สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2567 ที่มา:GotoKnowhttps://www.gotoknow.org › posts James Martinez 2023 , 13 ความหมายทางจิตวิญญาณของหมีแพนด้า สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2567 ที่มา: https://psyche.expert/th/13-khwaamhmaaythaangcchitwiyyaankhnghmiiaephndaa MGR Online 2554 , โลกส่วนตัวแพนด้า สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2567 ที่มา: MGR Onlinehttps://mgronline.com › detail Unknown 2559 , ประวัติแพนด้า สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2567 ที่มา: http://pandabts.blogspot.com/?m=1