เพลงแขกต่อยหม้อ ม้ เถา วิชวิาเครื่อ รื่ งสายไทย ๒ ศ๒๑๒๑๒ ชั้น ชั้ มัธ มั ยมศึกษาปีที่ ปี ที่ ๑ ผู้สผู้ อน ว่า ว่ ที่ร้อ ร้ ยตรี สรบัญ บั ชา หมื่น มื่ แสวง สาขาเครื่อ รื่ งสายไทย
นายมนตรี ตราโมทเกิดเมื่อมื่วันวัที่ ๑๗ มิถุมินถุายน พ.ศ. ๒๔๔๓ ที่ตำ บลท่าพี่ เลี้ยงอำ เภอเมือมืง จังจัหวัดวัสุพสุรรณบุรีบิรีดบิาชื่อชื่ยิ้มยิ้และมารดาชื่อชื่ทองอยู่ เริ่มริ่เรียรีนหนังนัสือสืที่โรงเรียรีนประจำ จังจัหวัดวัสุพสุรรณบุรี (ปรีชรีาพิทพิยากร) จบ ชั้นชั้มัธมัยมปีที่ปี ที่ ๓ เมื่อมื่เข้าข้มาอยู่กยู่รมมหรสพแล้วได้เด้รียรีนต่อในโรงเรียรีนพรานหลวง จนจบชั้นชั้มัธมัยมปีที่ปี ที่ ๖ สนใจดนตรีไรีทยมาแต่เด็กด็เริ่มริ่เรียรีนเมื่อมื่อายุประมาณ ๑๐ ปี โดยมีคมีรูสรูมบุญ นักนัฆ้อฆ้ง (ครูอ้รูอ้วน) เป็นป็ครูครูนแรก ครั้นรั้อายุได้ ๑๓ ปี (พ.ศ. ๒๔๕๖) ได้ได้ปเรียรีน ดนตรี ปี่พปี่าทย์ และเรียรีนเครื่อรื่งดนตรีฝรีรั่งรั่ (แตรวง) ต่อที่บ้าบ้นครูสรูมบุญ สม สุวสุรรณ ตำ บลบางกะพร้อร้ม จังจัหวัดวัสมุทรสงคราม จนมีฝีมี ฝีมือมืดี และได้เด้รียรีนรู้หรู้ลัก การแต่งเพลงด้วด้ย ในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ อายุ ๑๗ ปี ได้สด้มัคมัรเข้าข้มารับรัราชการในกรมพิณพิพาทย์ หลวง กรมมหรสพมหาดเล็ก (วังวัจันจัทร์เร์กษม) ซึ่งซึ่มีพมีระยาประสานดุริดุยริศัพท์ (แปลก ประสานศัพท์) เป็นป็ครูใรูหญ่ณญ่วังวัจันจัทร์ ฯ นี้ไนี้ ด้เด้รียรีน ฆ้อฆ้งใหญ่ จาก หลวง บำ รุงรุจิตจิรเจริญริ (ธูป สาตรวิลัวิ ลัย) เรียรีนกลองแขก จาก พระพิณพิบรรเลงราช (แย้มย้ ประสานศัพท์) เรียรีนระนาดทุ้มทุ้จากพระพาทย์บย์รรเลงรมย์ (พิมพิพ์ วาทิน) ต่อมา พระยาประสานดุริดุยริศัพท์ได้กด้รุณรุาสอนต่อให้อีห้ อีก และได้รัด้บรัเลือกให้เห้ป็นป็คนตีระนาด ทุ้มทุ้ประจำ ใน “วงตามเสด็จด็พระราชดำ เนินนิ ”ซึ่งซึ่ไม่ว่ม่าว่พระบาทสมเด็จด็พระมงกุฎกุเกล้า เจ้าจ้อยู่หัยู่วหัจะเสด็จด็แปรพระราชฐานไปที่ใด วงนี้จ นี้ ะต้องตามเสด็จด็เสมอ จึงจึได้ใด้กล้ชิดชิ ในเบื้อบื้งพระยุคลบาทเป็นป็พิเพิศษเสมอมา
ในปี พ.ศ. ๒๔๖๗ อายุ ๒๔ ปี อุปสมบท ณ วัดวัสุวสุรรณภูมิภูมิจังจัหวัดวัสุพสุรรณบุรีโรีดยมี พระครูโรูพธาภิรัติรั ติ(สอน) เป็นป็พระอุปัชฌาย์มีย์คมีวามสามารถสอบนักนัธรรมตรี ได้ที่ด้ ที่ ๑ ของ จังจัหวัดวัอุปสมบทอยู่ ๑ ปี จึงจึกลับมารับรัราชการ และในปีรุ่ปีงรุ่ขึ้นขึ้ก่อนรัชรักาลที่ ๖ สวรรคตไม่ นาน ก็ได้เด้รียรีนหน้าน้พาทย์ชั้ย์นชั้สูงสูถึงขั้นขั้องค์พระ โดยต่อจากท่านครูทรูองดี ชูสัตสัย์ ครูอรูาวุโส ในสมัยมันั้นนั้ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ได้ทำด้ ทำหน้าน้ที่บันบัทึกเพลงไทยเป็นป็ โน้ตน้สากลโดยมีหมีน้าน้ที่เป็นป็ผู้บผู้ อกทาง ระนาดทุ้มทุ้ไม้ และระนาดทุ้มทุ้เหล็กได้ทำด้ ทำการบันบัทึกเสียสีงเพลงไทยให้แห้ก่ราชบัณบัฑิตยสภา ต่อมาได้มีด้กมีารเปลี่ยนสังสักัดจากกรมพิณพิพาทย์หย์ลวง มาขึ้นขึ้ต่อกรมศิลปากรในปี พ.ศ. ๒๔๗๘ จึงจึได้ย้ด้าย้ยมาประจำ กรมศิลปากรระยะนี้ไนี้ ด้เด้ป็นป็ศิษย์ขย์องหลวงประดิษดิฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) และท่านครูไรูด้มด้อบให้ทำห้ ทำหน้าน้ที่ครอบประสิทสิธิ์ปธิ์ระสาทวิชวิาการดนตรีไรีด้ ระยะ นี้เ นี้ องได้เด้รียรีนโน้ตน้สากลเพิ่มพิ่เติมจากพระเจนดุริดุยริางค์ จนสามารถอ่านเขียขีนโน้ตน้สากลได้ อย่าย่งคล่องแคล่วชำ นาญยิ่งยิ่รับรัราชการอยู่ใยู่นกรมศิลปากร มาจนถึง พ.ศ. ๒๔๘๓ จึงจึได้ ดำ รงตำ แหน่งน่หัวหัหน้าน้แผนกดุริดุยริางค์ไทย กองการสังสัคีต กรมศิลปากร อาจารย์มย์นตรี ตราโมทเริ่มริ่รับรัราชการตั้งตั้แต่ พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้รัด้บรัพระราชทานเงินเดือดืน เริ่มริ่แรก เดือดืนละ ๘ บาท รับรัราชการจนเกษียณอายุ เมื่อมื่วันวัที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นป็ เวลาติดต่อกันถึง ๔๕ ปี ผลงานในด้าด้นวิชวิาการ เริ่มริ่แต่งเพลงครั้งรั้แรกเมื่อมื่พ.ศ. ๒๔๖๓ (อายุได้ ๒๐ ปี)ปีเพลง แรกที่แต่งคือ ลาวต้อยตลิ่ง ๓ ชั้นชั้เพลงที่ ๒ คือ เพลงพม่าม่เห่เห่ถา จากนั้นนั้ก็แต่งเพลงขึ้นขึ้ เรื่อรื่ย ๆ จนมีจำมีจำนวนเพลงมากมายกว่าว่๒๐๐ เพลง ผลงานเพลงประเภทโหมโรง ได้แด้ก่ โหมโรงขับขั ไม้บัม้ณบัเฑาะว์ โหมโรงราโค โหมโรงเอื้อง คำ โหมโรงรัตรันโกสินสิทร์สร์ามชั้นชั้ฯลฯ ประเภทเพลงเถา ได้แด้ก่ โสมส่อส่งแสงเถาแขกกุลิกุลิต เถา แขกต่อยหม้อม้เถาขอมทรงเครื่อรื่งเถา มอญรำ ดาบเถาขอมเงินเถา กล่อมนารีเรีถา กา เรียรีนทองเถา และสมโภชพระนครเถา เป็นป็ต้น ในบรรดาเพลงสามชั้นชั้ ได้แด้ก่ จระเข้หข้างยาวทางสักสัวาเขมรปี่แปี่ก้วทางสักสัวา ต้นเพลง ยาวสามชั้นชั้เทพพนมสามชั้นชั้ ประพาสมหรรณพสามชั้นชั้ฯลฯ ในประเภทเพลง ประวัติวั ติศาสตร์ ได้แด้ก่ ระบำ โบราณคดีหดีลายชุดสิบสิสองจุไทย ขุนบรม ฝั่ง โขงไทยมุง ฯลฯ ประเภทเพลงระบำ ได้แด้ก่ นกเขามะราปีรปีะบำ นพรัตรัน์ ไกรลาศสำ เริงริมยุรา ภิรมย์ บันบัเทิงกาสร ระบำ เงือก ระบำ ดอกบัวบัอัศวลีลา ฯลฯ
ในด้าด้นเพลงไทยสากล อาจารย์มย์นตรีเรีคยประกวดแต่งเพลงวันวัชาติ ๒๔ มิถุมินถุายน ได้ รับรัรางวัลวัที่ ๑ เรียรีกว่าว่เพลงวันวัชาติ เมื่อมื่พ.ศ. ๒๔๘๓ เพลงม่าม่นมงคลของท่าน ได้รัด้บรัการ ยกย่อย่งให้เห้ป็นป็เพลงไทยยอดนิยนิมได้รัด้บรัรางวัลวัเสาอากาศทองคำ นอกจากนี้ยั นี้ งยัทำ หน้าน้ที่ แต่งเพลงสำ คัญสำ หรับรัการแสดงนาฏศิลป์ ในโอกาสที่กรมศิลปากรไปแสดงยังยัต่าง ประเทศเป็นป็ ประจำ อาทิ เพลงพม่าม่ ไทยอธิษธิฐาน ลาวไทยปณิธณิาน ฯลฯ ในด้าด้นร้อร้ยกรอง อาจารย์มย์นตรีเรีป็นป็กวีผู้วียผู้ อดเยี่ย ยี่ มคนหนึ่งนึ่นอกจากจะแต่งบทร้อร้ง เพลงตับ เพลงเถา แล้ว ยังยัแต่งกวีนิวีพนินธ์ไธ์ว้หว้ลายเรื่อรื่ง อาทิ โคลงกลบทช้าช้งประสานงา โคลงกลบทหลงห้อห้ง โคลงกลบทพรหมพักพัตร์ โคลงกลบทสักสัวา โคลงกลบทสาลินี โคลง กลบทฉมังมัและนิรนิาศอิหร่าร่นราชธรรม เป็นป็ต้น รวมทั้งทั้ทำ บทโทรทัศน์บน์ทละคร เป็นป็อันมาก ในด้าด้นตำ รา ได้แด้ต่ง ตำ ราดุริดุยริางคศาสตร์ศัร์ ศัพท์สังสัคีต การละเล่นของไทยประวัติวั ติบทเพลง ต่าง ๆ และบทความทางประวัติวั ติการดนตรีไรีทยอีกมากมายจนนับนั ไม่ถ้ม่ ถ้วน เป็นป็อาจารย์พิย์เพิศษ สอนในมหาวิทวิยาลัยหลายแห่งห่จนได้รัด้บรัพระราชทานปริญริญาดุษดุ ฎีบัณบัฑิตกิตติมศักดิ์จดิ์าก มหาวิทวิยาลัยศิลปากร จุฬาลงกรณ์มณ์หาวิทวิยาลัย และมหาวิทวิยาลัยศรีนรีครินริทรวิโวิรฒ ได้รัด้บรั พระราชทานเหรียรีญดุษดุ ฎีมาลาเข็มข็ศิลปวิทวิยา เมื่อมื่ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ชีวิชีตวิครอบครัวรัอาจารย์มย์นตรีแรีต่งงานครั้งรั้แรกกับคุณคุลิ้นจี่บุ จี่บุรานนท์ มีบุมีบุตรชื่อชื่ฤทธี และศิลปีตปีราโมท อาจารย์ศิย์ ศิลปีเปีป็นป็นักนัดนตรีผู้รีสผู้ ามารถมากคนหนึ่งนึ่และเป็นป็หัวหัหน้าน้แผนก ดุริดุยริางค์ของกองสังสัคีต กรมศิลปากร ต่อมาคุณคุลิ้นจี่ถึ จี่ ถึงแก่กรรม (พ.ศ. ๒๔๘๐) จึงจึได้ แต่งงานกับคุณคุพูนทรัพรัย์ นาฏประเสริฐริมีบุมีบุตรีชื่รีชื่อชื่ดนตรี เป็นป็นักนัร้อร้งและนักนัดนตรี และ บุตรชายชื่อชื่ญานีเนีป็นป็สถาปนิกนิและนักนัจัดจัรายการวิทวิยุโทรทัศน์ อาจารย์มย์นตรีเรีป็นป็ผู้ทผู้ รงความรู้แรู้ละเป็นป็หลักสำ คัญของวงการดนตรีไรีทยที่ยากจะหาผู้ ใดเสมอเหมือมืนมีทั้มี ทั้งทั้ความรู้ครู้วามสามารถในส่วส่นตัวและการถ่ายทอดให้แห้ก่ศิษย์มีย์คมีวามจำ ยอดเยี่ย ยี่ ม และเป็นป็คนละเอียดถี่ถ้วนในวิชวิาการ เป็นป็บรมครูขรูองวงการดนตรีไรีทยที่มีผู้มี ผู้ เคารพนับนัถือมากที่สุดสุ อาจารย์มย์นตรี ตราโมท ได้รัด้บรัคัดเลือกให้เห้ป็นป็ศิลปินปิแห่งห่ชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไรีทย) พ.ศ. ๒๕๒๘ ศิลปินปิอาเซียซีน พ.ศ. ๒๕๓๐ และนักนัวิจัวิยจัดีเดีด่นด่แห่งห่ชาติ สาขา ปรัชรัญา พ.ศ. ๒๕๒๙ ต่อมาเมื่อมื่วันวัที่ ๖ สิงสิหาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ อาจารย์มย์นตรีไรีด้ถึด้ ถึงแก่กรรม ลง สิริสิรริวมอายุได้ ๙๕ ปี พูนพิศพิอมาตยกุลกุ (เรียรีบเรียรีงจาก หนังนัสือสืมหกรรมศิลปสุพสุรรณบุรี ครั้งรั้ที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๐๐ และคำ ให้สัห้มสัภาษณ์ขณ์อง อาจารย์มย์นตรี ตราโมท) ที่มา : นามานุกนุรมศิลปินปิเพลงไทย ในรอบ ๒๐๐ ปี แห่งห่กรุงรุรัตรันโกสินสิทร์ โดยพูนพิศพิอมาตยกุลกุ , หัวหัหน้าน้โครงการ ; ผู้ร่ผู้ วร่มโครงการ, พิชิพิตชิชัยชัเสรี …[และคนอื่น ๆ]. กรุงรุเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มณ์หาวิทวิยาลัย, ๒๕๒๖.
ประวัติวั ติเพลงแขกต่อยหม้อ ม้ เถา เพลงแขกต่อยหม้อม้นี้ ในอัตรา สองชั้นชั้และชั้นชั้เดียดีว เป็นป็เพลงไทยสมัยมั โบราณซึ่งซึ่อัตรา สองชั้นชั้บรรเลงเป็นป็เพลงสองไม้ และอัตราชั้นชั้เดียดีวบรรเลงเป็นป็เพลงเร็วร็รวมอยู่ใยู่นเรื่อรื่ง เพลงมอญแปลง ทั้งทั้สองอัตราดำ เนินนิทำ นองเป็นป็พื้นพื้ๆ ซึ่งซึ่เหมาะสมกับกรณีที่ณี ที่ใช้ ต่อมา ภายหลังจึงจึมีผู้มีนำผู้ นำเอาทำ นองเพลงแขกต่อยหม้อม้อัตราสองชั้นชั้เป็นป็เพลงร้อร้งประกอบการ แสดงโขน ละครในบางโอกาส เพลงแขกต่อยหม้อม้ที่นำ ไปร้อร้งในการแสดงโขน ละครนั้นนั้ มักมัจะใช้ร้ช้อร้งในตอนที่ตัวละครเริ่มริ่จะเปลี่ยนอิริยริาบทอย่าย่งใดอย่าย่งหนึ่งนึ่เช่นช่จะไป จะมา หรือรืจะแปลงตัวเป็นป็ต้น เมื่อมื่พ.ศ. ๒๔๗๒ นายมนตรี ตราโมท ได้นำด้นำทำ นองเพลงแขกต่อยหม้อม้นี้ม นี้ าแต่ง ทำ นองดนตรีแรีละทำ นองร้อร้งขึ้นขึ้เป็นป็อัตรา สามชั้นชั้ โดยประดิษดิฐ์ทำฐ์ ทำนองดนตรีใรีห้เห้ป็นป็ สำ เนียนีงแขกเพื่อพื่บรรเลงรวมกับ สองชั้นชั้และชั้นชั้เดียดีวของเดิมดิ ให้คห้รบเป็นป็เถาแต่ครั้นรั้เมื่อมื่ ได้ ทดลองร้อร้งและบรรเลงดูแดูล้ว จึงจึเห็นห็ว่าว่ทำ นองสองชั้นชั้กับชั้นชั้เดียดีวของเดิมดิซึ่งซึ่เป็นป็สำ เนียนีง พื้นพื้เข้าข้กันไม่สม่นิทนิสนม จึงจึได้แด้ก้ไขดัดดัแปลงแต่งทำ นองอัตรา สองชั้นชั้และชั้นชั้เดียดีวขึ้นขึ้ ใหม่ ให้เห้ป็นป็สำ เนียนีงแขกเช่นช่เดียดีวกัน จึงจึบรรเลงติดต่อกลมกลืนกันได้ทั้ด้ ทั้งทั้เถา (สามชั้นชั้สองชั้นชั้ และชั้นชั้เดียดีว) ก็ได้รัด้บรัความนิยนิมนำ ไปร้อร้งและบรรเลงกันโดยทั่วทั่ ไป ส่วส่นบทร้อร้งนั้นนั้นายมนตรี ตราโมท ได้เด้ลือกเอาคำ กลอนในบทเสภาเรื่อรื่งอาบูหะซันซั ซึ่งซึ่บรรดากวีหวีลายท่านได้แด้ต่งขึ้นขึ้ โดยกระแสรับรัสั่งสั่ในรัชรักาลที่ ๕ ดำ เนินนิเรื่อรื่งตามเค้าโครง พระราชนิพนินธ์ลิธ์ ลิลิตเรื่อรื่งนิทนิราชาคริตริมาเป็นป็บทร้อร้ง เพราะเห็นห็ว่าว่เป็นป็เรื่อรื่งของอาหรับรัเข้าข้ กับสำ เนียนีงของทำ นองดนตรี โดยเฉพาะตอนที่นายมนตรี ตราโมท เลือกมาเป็นป็บทร้อร้ง เพลงแขกต่อยหม้อม้นี้เ นี้ป็นป็ตอนที่พระยามหาอำ มาตย์ (หรุ่นรุ่ศรีเรีพ็ญพ็ ) เป็นป็ผู้แผู้ ต่ง แต่การใช้ คำ กลอนเสภามาร้อร้งนี้ จะร้อร้งได้โด้ดยสะดวกและสนิทนิสนมก็เฉพาะในอัตราสามชั้นชั้กับสอง ชั้นชั้เท่านั้นนั้ส่วส่นอัตราชั้นชั้เดียดีว หากร้อร้งด้วด้ยคำ กลอนจะไม่สม่ะดวกและไม่กม่ระทัดรัดรัเหมาะสม กับทำ นอง นายมนตรี ตราโมท จึงจึต้องดัดดัแปลงเสภาตอนที่จะร้อร้งชั้นชั้เดียดีวจากกลอนที่ว่าว่ เพดานพราวมาศประหลาดแพร้วร้ระย้าย้แก้วเรือรืนสุวสุรรณอันเฉิดฉาย ฉลุสลุลักทรงทรวดเป็นป็ลวดลาย ทั้งทั้เจ็ดจ็ โคมแขวนรายอยู่พยู่รายตา ให้เห้ป็นป็กาพย์ ๑๒ ว่าว่ดังดันี้ เพดานมาศประหลาดแพร้วร้ระย้าย้แก้วแพรวเฉิดฉาย ฉลุลลุวดประกวดลาย โคมแขวนรายอยู่พยู่รายตา
เนื้อนื้ร้อ ร้ งเพลงแขกต่อยหม้อ ม้ เถา __________ สามชั้นชั้ ดำ เนินนิพลางทางมองทุกทุช่อช่งฉาก ล้วนแลหลากลวดลายระบายเขียขีน กนกแนมแกมมาศดาษเดียดีร ผนังนัเนียนีนทาสีมีสีลมีายทอง สองชั้นชั้ ติดกระจกเงางามอยู่ตยู่ามที่ มีมู่มีมู่ลี่มู่ ลี่ บังบัไว้มิว้ ใมิห้หห้มอง ไขวิสูวิตสูรสองบานพุดตานกรอง มีพู่มีพู่ทพู่องห้อห้ยประจำ ล้วนคำ พราย ชั้นชั้เดียว เพดานมาศประหลาดแพร้วร้ระย้าย้แก้วแพรวเฉิดฉาย ฉลุลลุวดประกวดลาย โคมแขวนรายอยู่พยู่รายตา
อ้างอิง HTTPS://SIRINDHORNMUSICLIBRARY.LI.MAHIDOL.AC.TH/HALL_OF_FAME/THAI-MUSICIANS139/ ค้นคว้าว้เมื่อมื่วันวัที่ 22 มีนมีาคม 2566 มนตรี ตราโมทและวิเวิชียชีร กุลกุตัณฑ์. (ม.ป.ป.). ฟังฟัและเข้าข้ใจเพลงไทย. ม.ป.ท. : ม.ป.พ.