The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนเสริมสร้างและแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของสถานศึกษา โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือแผนเผชิญเหตุ2566

แผนเสริมสร้างและแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของสถานศึกษา โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม

1


2ก คำนำ แผนเสริมสร้างและแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของสถานศึกษา โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม จัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อจัดทำแผนเสริมสร้างและแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของสถานศึกษา โดยใช้มาตรการด้านการป้องกัน การปลูกฝังและการปราบปราม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำตลอดจนสร้างความ มั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของกระทรวงศึกษาธิการ และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนเสริมสร้างและแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของ สถานศึกษาเล่มนี้ จะอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวของและผู้ปฏิบัติได้เป็นอย่างดี ขอขอบพระคุณ คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนนาแก้วพิทยา คม นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนสนับสนุนให้คู่มือเล่มนี้มีความสมบูรณ์ เพื่อให้ สถานศึกษา ได้นำไปใช้อย่างมี ประสิทธิภาพสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี (นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล) ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม


ข3 สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ส่วนที่ 1 มาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา 1 ส่วนที่ 2 การเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา 4 ส่วนที่ 3 การดำเนินการเสริมสร้างความปลอดภัยของสถานศึกษา 31 ส่วนที่ 4 การกำกับ นิเทศ ติดตาม และประเมินผล 33 ภาคผนวก คำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ MOE Safety Center ของโรงเรียน 35 แผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของสถานศึกษา 41 ปฏิทินการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุความปลอดภัย 54 บรรณานุกรม 62


1 ส่วนที่ 1 มาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม 1. นโยบายและการวางแผนการรักษาความปลอดภัยของ โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ปัจจุบันสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษา มีมากมายหลากหลาย สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (2564) ได้จำแนกขอบข่ายภัยสถานศึกษาไว้ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1)ภัยที่เกิด จากการใช้ความ รุนแรงของมนุษย์ (Violence) 2)ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident) 3)ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right) 4) ภัยที่เกิด จากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) ภัยเหล่านี้อาจ เกิดความรุนแรงใน รูปแบบต่าง ๆ มีความซับซ้อนรุนแรงมากขึ้น และเกิดขึ้นซ้ำๆ ส่งผลกระทบต่อสภาพ ร่างกายและจิตใจในหลายปีที่ ผ่านมาภัยจากการคุกคามทางเพศ ภัยจากการกลั่นแกล้งรังแก (Bully) รวมถึงภัยที่เกิดจากโรคอุบัติใหม่ เช่น การ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นต้น โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม มุ่งเน้นความปลอดภัยในสถานศึกษา การดูแลความปลอดภัยให้แก่ นักเรียน ครู จากภัยคุกคามทุกรูปแบบ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัย การป้องกัน ดูแล ช่วยเหลือหรือเยียวยา และแก้ไข ปัญหา แก่นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้สามารถแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างยั่งยืน ด้วย การบริหารจัดการตาม มาตรการ 3 ป ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม ให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด และไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้แก่นักเรียนครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ในการที่จะได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ทำให้เกิดความปลอดภัย มั่นคง โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม จึงได้ จัดทำแผนเสริมสร้างและแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของสถานศึกษาใช้เป็นแนวปฏิบัติเพื่อให้เกิดความ ปลอดภัยต่อนักเรียน ครูและบุคลากรทางการ ศึกษาในการลดระดับความรุนแรงระงับเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. เพื่อนำแผนเสริมสร้างและแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยของสถานศึกษา ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. เพื่อสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของสถานศึกษาให้ กับผู้ปกครอง ชุมชนและ สังคม เป้าหมาย 1. นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ 2. สถานศึกษามีระบบเสริมสร้างความปลอดภัยและแผนเผชิญเหตุตามมาตรการความปลอดภัยและ บริบท ของสถานศึกษา 3. เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักเรียนครูและ บุคลากรทางการศึกษา


2 ยุทธศาสตร์ 1. โรงเรียนจัดระบบการรักษาความปลอดภัยของนักเรียน โดยการมีส่วนร่วมของ ครูผู้ปกครอง และ เครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพ 2. ก าหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักเรียน 3. มีการกำกับ ติดตาม ประเมินผลและรายงาน 2. การวางแผนรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา แนวทางการวางแผนการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักเรียน เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่าย โดยร่วมกันวางแผนป้องกัน แก้ไข ควบคุม กำกับ ติดตาม ประเมินผลและ รายงาน จึงจำเป็นต้องมีมาตรการและกิจกรรมเพื่อให้รับประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ การศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 พร้อมทั้งนโยบาย ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ ขั้นตอน ภารกิจ ศึกษาสภาพทั่วไป ศึกษาสภาพทั่วไปของโรงเรียน ชุมชนความเข้มแข็งของเครือข่ายเพื่อวิเคราะห์ ความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยจากสภาพแวดล้อม กำหนดมาตรการหลัก กำหนดมาตรการหลักเพื่อป้องกัน และ/หรือ แก้ไข กำหนดมาตรการเสริม กำหนดมาตรการเสริมให้เหมาะสมกับความเชื่อ วัฒนธรรมและประเพณีของ ท้องถิ่น และสภาพความเสี่ยงของท้องถิ่น กำหนดกิจกรรม กำหนดกิจกรรมสนับสนุนมาตรการหลักและมาตรการเสริม กำหนดเวลาและผู้รับผิดชอบ กำหนดเวลาและผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน และสามารถปฏิบัติได้ 3. ความสำคัญจำเป็นการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติมีวัตถุประสงค์ หลัก ในการเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตของคนทุกช่วงวัย จากภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรม และความ รุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบัติใหม่ และภัยจากไซเบอร์ เป็น ต้น แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.2560–2579) จึงได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาที่เกิดจาก ความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีของโลกยุคศตวรรษที่ 21 เป็นพลวัตที่ก่อให้เกิดความท้าทายในด้าน การเปลี่ยนแปลงของบริบทเศรษฐกิจและสังคมโลกอันเนื่องจากการปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) ประเทศ เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ การติดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ทัศนคติ ความเชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรมและพฤติกรรมของประชากรที่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลกาภิวัตน์เป็นผลให้เกิด การเร่งแก้ไข ปัญหาทั้งยังเกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและ ประเทศชาติมีความซับซ้อน


3 และรุนแรงมากขึ้น ซึ่งภัยในแต่ละด้านล้วนมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ กอปรกับนโยบาย Quick Win 7 วาระเร่งด่วน ข้อที่ 1 ความปลอดภัยของผู้เรียน กระทรวงศึกษาธิการมองเห็น ภัยที่เกิดแก่นักเรียนครู และ บุคลากรทางการศึกษา ที่เกิดขึ้นซ้ำๆและส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกาย และจิตใจ ในหลายปีที่ผ่านมา เช่น ภัยจาก การคุกคามทางเพศ ภัยจากการกลั่นแกล้งรังแก (Bully) รวมถึงภัยที่เกิดจาก โรคอุบัติใหม่ ได้แก่ การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ และสวัสดิภาพชีวิตของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้เป็น “การศึกษาขั้นพื้นฐานวิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” มุ่งเน้นความปลอดภัยในสถานศึกษา ส่งเสริมโอกาส ทางการศึกษา ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นพัฒนาระบบ และกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาและสถานศึกษา จากภัยพิบัติและ ภัย คุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่ และอุบัติซ้ำๆส่งเสริมความปลอดภัยสร้างความมั่นใจให้สังคมเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่นักเรียน ครู และ บุคลากรทางการศึกษาสังกัด กระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้การป้องกัน ดูแล ช่วยเหลือหรือเยียวยา และแก้ไข ปัญหา มีความเป็นเอกภาพ มีข้อมูลสารสนเทศที่เป็นระบบ สามารถแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการความเสี่ยง ได้อย่าง ยั่งยืนด้วยการบริหารจัดการตามมาตรการ 3 ป ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปรามให้เกิดความ ปลอดภัยให้ มากที่สุด และไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำๆอีก สร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้แก่นักเรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษาผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ในการที่จะได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และเกิดความ ปลอดภัยอย่าง มั่นคงและยั่งยืน


4 ส่วนที่ 2 การเสริมสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา 1. ขอบข่ายความปลอดภัยของสถานศึกษา พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 หมวด 7 มาตรา 63 ระบุว่า โรงเรียนและสถานศึกษาต้องจัด ให้ มีระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนว ให้คำปรึกษา และฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง เพื่อ ส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภัย แก่นักเรียน นักศึกษา ตาม หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่ได้กำหนดในกฎกระทรวง ดังนั้นสถานศึกษา ควรมีแนวทาง ระบบ และ การ ดำเนินงานด้านความปลอดภัยในสถานศึกษา ขอบข่ายความปลอดภัยของสถานศึกษา 4 กลุ่มภัย ดังนี้ 1) ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence) 2) ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident) 3) ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right) 4) ภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) มีองค์ประกอบดังนี้


5 2. มาตรการความปลอดภัยสถานศึกษา (Safety School) โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ดำเนินงานมาตรการสถานศึกษาปลอดภัย มุ่งเน้นให้เกิดความปลอดภัย ต่อ นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยเน้นมาตรการ 3 ป (ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม) ดังนี้ 2.1 การป้องกัน หมายถึง การดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา อุปสรรค หรือความไม่ปลอดภัยต่อนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยการสร้างมาตรการป้องกันจากปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งในและ นอกสถานศึกษา ดังนี้ 1) การประเมินปัจจัยเสี่ยงของสถานศึกษา 2) การกำหนดพื้นที่ความปลอดภัย 3) การจัดทำแผนความปลอดภัยของสถานศึกษา 4) การจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศของสถานศึกษา 5) การจัดโครงสร้างบริหารจัดการความปลอดภัยสถานศึกษา 6) การจัดโครงสร้างข้อมูลสารสนเทศความปลอดภัยสถานศึกษา 7) การสร้างการมีส่วนร่วมของสถานศึกษาและภาคีเครือข่าย 8) การจัดระบบช่องทางการสื่อสารด้านความปลอดภัยสถานศึกษา 9) การจัดระบบคัดกรองและดูแลช่วยเหลือนักเรียน


6 10) การประเมินนักเรียนรายบุคคล ด้านร่างกาย จิตใจ สังคม สติปัญญา และความต้องการ ช่วยเหลือ 2.2 การปลูกฝัง หมายถึง การดำเนินการเกี่ยวกับการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ จิตสำนึกและเจตคติ ที่ดีและการ สร้างเสริมประสบการณ์เพื่อให้เกิดทักษะในการป้องกันภัยให้แก่นักเรียน ครูและบุคลากรทางการ ศึกษา ดังนี้ 1) การสร้างจิตสำนึก ความตระหนัก การรับรู้ และความเข้าใจด้านความปลอดภัยให้กับตนเอง และผู้อื่น 2) การจัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจ และพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยให้แก่ นักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครอง 3) การจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะ ประสบการณ์ และสมรรถนะด้านความปลอดภัยให้แก่ นักเรียน 2.3 การปราบปราม หมายถึง การดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหา การช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู และ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ได้แก่ 1) การจัดการแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษา 2) การช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู จิตใจบุคคลผู้ประสบเหตุความไม่ปลอดภัย 3) การดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรการความปลอดภัยของสถานศึกษา 3. แผนเสริมสร้างความปลอดภัยสถานศึกษา โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ดำเนินงานตามมาตรการด้านการป้องกัน การปลูกฝัง และการปราบปราม โดย เน้น มาตรการด้านการป้องกัน เป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยต่อนักเรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา สร้างมาตรการ ป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการประเมินความเสี่ยงตามบริบทของ สถานศึกษา ควบคู่กับการปลูกฝังเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ สร้างจิตสำนึก และเจตคติที่ดีสร้างเสริม ประสบการณ์ เพื่อให้เกิดทักษะในการ ป้องกันภัยให้แก่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาและเตรียมความ พร้อมในการเผชิญเหตุความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น กำหนดแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหา การช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู การสงเคราะห์ ผู้ได้รับความเสียหาย และการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ภายใต้โครงสร้าง การดำเนินงานของ โรงเรียน ดังนี้ 3.1 มาตรการความปลอดภัยของสถานศึกษา ตามหลัก 3 ป ได้แก่ มาตรการป้องกัน มาตรการปลูกฝัง มาตรการปราบปราม โดยมีรายละเอียดแนวทางการปฏิบัติและตัวชี้วัด ดังนี้


7 1) มาตรการป้องกัน ตาราง 1 การดำเนินการตามมาตรการการป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในสถานศึกษา การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด 1) กำหนด พื้นที่ ความ ปลอดภัย 1.1 ประชุม ชี้แจง วางแผน การดำเนินงาน ด้าน ความปลอดภัยของ สถานศึกษาร่วมกับ บุคลากร ภาคี เครือข่าย และหน่วยงาน องค์กร ผู้มี ส่วน เกี่ยวข้อง 1.2 กำหนดพื้นที่ควบคุมความปลอดภัยรวมถึง ป้ายสัญลักษณ์ และ อุปกรณ์ควบคุมความปลอดภัยส่วนบุคคล 1.3 จัดทำป้ายสัญลักษณ์แสดงความเสี่ยงใน พื้นที่ที่มีความเสี่ยง 1.4 จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านความ ปลอดภัยของสถานศึกษา - มีการกำหนดพื้นที่การ ควบคุม ความปลอดภัย ป้าย สัญลักษณ์ และ อุปกรณ์ควบคุมความ ปลอดภัยส่วนบุคคล 2) จัดทำแผน ความ ป ล อ ด ภัย ข อ ง สถานศึกษา 2.1 แต่งตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย สถานศึกษา โดยการมีส่วนร่วม จากภาคี เครือข่าย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 2.2 เสนอแผนความปลอดภัยของสถานศึกษาต่อ คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 2.3 กำหนดระยะเวลาการดำเนินงานและ ผู้รับผิดชอบงาน 2 .4 กำหนดนโยบายความปลอดภัยของสถานศึกษา 2.5 เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์นโยบายและแผน ความปลอดภัยของ สถานศึกษา - สถานศึกษาทุกแห่งมี แผนความ ปลอดภัยของ สถานศึกษาที่ครอบคลุม ทุกมิติ 3) การจัด สภาพแวดล้อม และ บรรยากาศ ของ สถานศึกษา 3.1 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพภูมิทัศน์ห้องเรียนห้องปฏิบัติการ ห้องน้ำห้องพิเศษและ ห้องอื่น ๆ ให้มีความปลอดภัย 3.2 จัดทำแหล่งเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความ ปลอดภัยในสถานศึกษาที่ หลากหลาย - สถานศึกษาทุกแห่งจัด สภาพ แวดล้อมและ บรรยากาศที่มีความ ปลอดภัยต่อนักเรียน ครู และ บุคลากรทางการ ศึกษา 4) การจัด โครงสร้าง บริหารจัดการ ความ 4.1 สำรวจและประเมินสภาพความเสี่ยงด้าน ความปลอดภัยของ สถานศึกษา 4.2 สถานศึกษาจัดทำโครงสร้างบริหารจัดการ ความปลอดภัยของ สถานศึกษา - มีการจัดระบบ โครงสร้าง ในการ บริหารจัดการ ความ


8 การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด ปลอดภัย สถานศึกษา 4.3 กำหนดบทบาทหน้าที่ ภาระงานของ คณะกรรมการ 4.4 จัดทำปฏิทินการปฏิบัติงานของ คณะกรรมการความปลอดภัยของ สถานศึกษา 4.5 ประสานความร่วมมือของคณะกรรมการ ภาคีเครือข่ายและ หน่วยงานต้นสังกัด ปลอดภัยของ สถานศึกษา 5) การจัดทำ ข้อมูล สารสนเทศ ความ ปลอดภัย สถานศึกษา 5.1 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อจัดท าระบบข้อมูล สารสนเทศความ ปลอดภัยของสถานศึกษา 5.2 จัดหาเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ในการเก็บ รวบรวมข้อมูลสารสนเทศ 5.3 เก็บรวบรวมข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้าน 5.4 วิเคราะห์ข้อมูล จัดระบบหมวดหมู่สารสนเทศ 5.5 จัดทำรายงานระบบข้อมูลสารสนเทศและ จัดเก็บอย่างเป็นระบบ - มีระบบข้อมูล สารสนเทศ ความ ปลอดภัย สถานศึกษา 6) การสร้าง การมีส่วน ร่วมของ สถานศึกษา และภาคี เครือข่าย 6.1 ประสานความร่วมมือในการสร้างเครือข่าย การมีส่วนร่วมในพื้นที่ และภาคส่วนต่างๆ 6.2 มีการประชุมวางแผนเพื่อเสริมสร้างความ ปลอดภัยสถานศึกษา ร่วมกัน 6.3 มีกิจกรรมการดำเนินงานในการเสริมสร้าง ความปลอดภัย สถานศึกษา 6.4 มีการประเมินผลร่วมกัน 6.5 มีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ความร่วมมือ 6.6 มีการยกย่องชมเชยเครือข่ายภาคีความ ร่วมมือ - มีเครือข่ายความ ร่วมมือ ความปลอดภัย อย่างน้อย 1 เครือข่าย 7) การ จัดระบบ ช่อง ทางการ สื่อสาร ด้านความ ปลอดภัย ของ สถานศึกษา 7.1 แต่งตั้งคณะทำงานด้านการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์องค์กร 7.2 กำหนดรูปแบบการสื่อสารประชาสัมพันธ์ที่ ครอบคลุมทั้ง 3 ช่องทางประกอบด้วย 1) On Ground ได้แก่ การจัดป้าย นิทรรศการ จัดทำเอกสาร ประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรม รณรงค์ ในวันสำคัญต่างๆ 2) On Line ได้แก่ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ทางสื่อสังคมออนไลน์ใน รูปแบบต่างๆ เช่น Facebook Line เป็นต้น3) On Air ได้แก่ การ ประชาสัมพันธ์ผ่าน ระบบ เสียงตามสาย ทั้งในสถานศึกษาและ ชุมชน 7.3 ปรับรูปแบบระบบช่องทางการสื่อสารด้าน ความปลอดภัยของ สถานศึกษาให้ สอดคล้องกับ บริบทและสภาพการณ์ของสถานศึกษา - มีช่องทางการสื่อสาร อย่างน้อย 3 ช่องทาง


9 การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด 8) การ จัดระบบดูแล ช่วยเหลือ นักเรียน 8.1 แต่งตั้งคณะกรรมการระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียนระดับ สถานศึกษา8.2 คัดกรองนักเรียนแยกเป็น 4 กลุ่มได้อย่าง ชัดเจน ประกอบด้วย กลุ่มพิเศษ กลุ่มปกติ กลุ่ม เสี่ยง และกลุ่มมีปัญหา 8.3 เก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคลด้วยเครื่องมือ และวิธีการที่เหมาะสม เช่นการเยี่ยมบ้านนักเรียน การสอบถามการสัมภาษณ์ เป็นต้น 8.4 จัดกิจกรรมสำหรับเด็กกลุ่มต่างๆ ได้อย่าง เหมาะสม ดังนี้ - กลุ่ม พิเศษ ส่งเสริม สนับสนุน เสริม ความสามารถ - กลุ่มปกติ จัดกิจกรรม ส่งเสริมความสามารถ ตามปกติ - กลุ่มเสี่ยง จัดกิจกรรมป้องกันปัญหา - กลมมีปัญหาจัดกิจกรรมแก้ปัญหาและระบบสง ต่อ 8.5 สรุป รายงานผลการด าเนินงานระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียน - มีระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน 9) การ ประเมิน นักเรียน รายบุคคล ด้านร่างกาย จิตใจ สังคม สติปัญญาและ ความต้องการ 9.1 มอบหมายให้ครูประจำชั้น/ครูที่ปรึกษา มีหน้าที่ในการประเมิน นักเรียนรายบุคคล 9.2 จัดทำเครื่องมือวัดและประเมินนักเรียน รายบุคคลที่ครอบคลุมทุก ด้าน 9.3 ครูประจำชั้น/ครูที่ปรึกษา ดำเนินการ ประเมินนักเรียนรายบุคคล 9.4 จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศรายงานผลการ ประเมินนักเรียน รายบุคคล - นักเรียนทุกคนได้รับ การ ประเมิน อย่างรอบ ด้าน 2) มาตรการปลูกฝัง ตาราง 2 การดำเนินการตามมาตรการการปลูกฝังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในสถานศึกษา การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด 1) การสร้างจิตสำนึก ความตระหนัก การ รับรู้และความเข้าใจ ด้านความปลอดภัย ให้แก่ 1.1 สำรวจข้อมูลด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา 1.2 จัดลำดับความรุนแรง เร่งด่วนของความ ปลอดภัยสถานศึกษา 1.3 ปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโดย เพิ่มเนื้อหาด้านความ ปลอดภัย สถานศึกษาที่ สอดคล้องกับความรุนแรงเร่งด่วน 1.4 จัดทำคู่มือ/แนวทางว่าด้วยความปลอดภัย ในสถานศึกษา 1.5 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัย ของสถานศึกษา ให้แก่ ครู บุคลากร ทาง การศึกษา และนักเรียน - มีหลักสูตรความ ปลอดภัยสถานศึกษา


10 การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด ตนเองผู้อื่นและสังคม 1.6 จัดทำศูนย์บริการสื่อด้านความปลอดภัยใน สถานศึกษาเพื่อ การศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ๒) พัฒนาองค์ความรู้ โดยการจัดกิจกรรม สร้างความรู้ความ เข้าใจพัฒนา องค์ความรู้เกี่ยวกับ ความ ปลอดภัยให้แก่ นักเรียน ครูบุคลากร ทางการศึกษา และ ผู้ปกครอง 2.1 ประชุมครู และบุคลากรทางการศึกษาเพื่อ ชี้แจงแนวทางเกี่ยวกับ ความปลอดภัยในสถานศึกษา 2.2 จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรโดยบูรณาการ เนื้อหาความปลอดภัย สถานศึกษาในรายวิชาต่าง ๆ 2.3 การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่ ผู้ปกครองและชุมชน 2.4 จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องความ ปลอดภัย สถานศึกษาผ่าน กิจกรรมClassroom meeting ระหว่างสถานศึกษากับ ผู้ปกครอง - มีการจัดกิจกรรม เสริมสร้างความรู้ ความ เข้าใจด้าน ความ ปลอดภัยของ สถานศึกษา ให้ นักเรียน ครูและ บุคลากรทาง การศึกษา และ ผู้ปกครอง 3) การจัดกิจกรรม สร้างเจตคติที่ดีการมี จิตบริการทักษะ ประสบการณ์ และ สมรรถนะ ด้านความ ปลอดภัยให้แก่ นักเรียน ครูและ บุคลากรทางการ ศึกษา 3.1 จัดเวทีประชาธิปไตยในสถานศึกษา ให้นักเรียนได้มีโอกาส แลกเปลี่ยนมุมมอง แนวคิด และข้อเสนอแนะต่าง ๆ 32 จัดกิจกรรมเสริมทักษะประสบการณ์ที่เน้น การลงมือปฏิบัติที่ เชื่อมโยงกับ การดำเนิน ชีวิตประจำวัน เช่น การปฐมพยาบาล เบื้องต้น แก่ นักเรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษา 3.3 จัดกิจกรรมสอดแทรกด้านความปลอดภัย สถานศึกษาในกิจกรรมวัน สำคัญต่าง ๆ 3.4 สรรหาต้นแบบผู้จัดกิจกรรม และการจัด กิจกรรมเสริมทักษะที่เป็น เลิศ - มี กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม ทั ก ษ ะ ประสบการณ์และ สมรรถนะด้านความ ปลอดภัยให้แก่ นักเรียน 3) มาตรการปราบปราม ตาราง 3 การดำเนินการตามมาตรการการปราบปรามเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในสถานศึกษา การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด 1) การจัดการ แก้ไขปัญหา กรณีเกิดเหตุ ความ ปลอดภัยใน สถานศึกษา 1.1 กำหนดแนวทางปฏิบัติการจัดการหรือการ ระงับเหตุการณ์ช่วยเหลือ เมื่อเกิดเหตุใน สถานศึกษา และสร้างการรับรู้ร่วมกันทุกภาค ส่วน 1.2 จัดตั้งคณะทำงานเคลื่อนที่เร็ว (Roving Team) ที่สามารถเข้าระงับ เหตุได้อย่างทันเหตุการณ์ 1.3 เตรียมบุคลากร และเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่พร้อมรับสถานการณ์ - มีระบบการ แก้ปัญหา ด้านความ ปลอดภัย สถานศึกษา อย่างมี ประสิทธิภาพ


11 การป้องกัน แนวทางการปฏิบัติ ตัวชี้วัด 1.4 ติดตั้งระบบเตือนภัย เช่น กล้องวงจรปิด สามารถตรวจสอบ ข้อเท็จจริงได้ 1.5. ซ้อมระงับเหตุอย่างต่อเนื่อง เช่น การ ดับเพลิง การซ้อมหนีไฟการ ปฐมพยาบาล เบื้องต้น เป็นต้น 1.6. ประสานงานเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อให้ ความช่วยเหลือได้ทัน เหตุการณ์ 1.7 ส่งต่อผู้ประสบเหตุเพื่อให้ ได้รับการ ช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ 1.8 กำกับ ติดตาม ประเมินผลและรายงาน 2) การ ช่วยเหลือ เยียวยาฟื้นฟู จิตใจบุคคลผู้ ประสบเหตุ ความ ไม่ ปลอดภัย 2.1 จัดทำข้อมูลบุคคลและหน่วยงานในพื้นที่ตั้ง ของสถานศึกษาที่ สามารถติดต่อ ประสานงาน และให้การช่วยเหลือเยียวยา ฟื้นฟู จิตใจได้ อย่าง รวดเร็วทันท่วงที 2.2 จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเยียวยา ฟื้นฟูและให้คำปรึกษา โดยการมีส่วน ร่วมของเครือข่าย ต่างๆ 2.3 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการช่วยเหลือที่ เหมาะสม 2.4 ประสานเครือข่ายการมีส่วนร่วมหน่วยงาน องค์กรเพื่อให้การ ช่วยเหลือเยียวยา ฟื้นฟู 2.5 จัดระบบประกันภัยรายบุคคลหรือราย กลุ่ม ที่สามารถให้การ คุ้มครองสำหรับครู และบุคลากร ทางการศึกษาและนักเรียน 2.6 สร้างขวัญกำลังใจ โดยการติดตามเยี่ยมเยือน อย่างสม่ำเสมอ - มีระบบการ ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู จิตใจผู้ ประสบ เหตุความไม่ ปลอดภัย 3) ดำเนินการ ตามขั้นตอน ของกฎหมาย 3.1 แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการด้าน กฎหมายให้ผู้ ประสบเหตุ ได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนด 3 .2 รายงานเหตุการณ์ ต่อผู้บังคับบัญชา หน่วยงานต้นสังกัด 3.3 ดำเนินคดี จำแนกประเภทของเหตุที่เกิด ติดต่อประสานงาน ผู้ปกครอง เพื่อดำเนินการหรือ ดำเนินการแทน ผู้ปกครองให้การคุ้มครอง นักเรียนให้อยู่ในความปลอดภัย - มีระบบการ แก้ปัญหา ด้านความ ปลอดภัย สถานศึกษา อย่างมี ประสิทธิภาพ 4. ภัยสถานศึกษา แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่


12 1.) ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence) และภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์(Right) การล่วงละเมิดทางเพศ/การทะเลาะวิวาท/การชุมชุมประท้วงและจลาจล/การก่อวินาศกรรม/การระเบิด/สารเคมี และ วัตถุอันตรายทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ/การล่อลวง ลักพาตัว/การถูกปล่อยปละ ละเลยทอดทิ้ง/การคุกคาม ทางเพศ/ การไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคม 2.) ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident) ภัยจากอาคารเรียน สิ่งก่อสร้าง/ภัยจากยานพาหนะ/ภัยจาก การ จัดกิจกรรม/ภัยจากเครื่องมืออุปกรณ์ 3.) ภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) ภาวะจิตเวช/ติด เกม/ยา เสพติด/ภัยไซเบอร์/การพนัน 4.) ภัยที่เกิดจากโรคระบาด (Epidemic) โรคอุบัติใหม่/มลภาวะเป็นพิษ/โรคระบาดในสัตว์/ภาวะทุพ โภชนาการ/การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 5.) ภัยที่เกิดจากจากอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติ (Natural Disaster) อัคคีภัย/วาตภัย/อุทกภัย/ธรณี พิบัติ ภัย/และภาวะโลกร้อน(ฮีสสโตรก) ตาราง 4 การดำเนินการตามมาตรการการป้องกันภัยของสถานศึกษา


13 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 1. ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรง ของมนุษย์(Violence) และภัยที่เกิด จากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right) 1.1 การล่วงละเมิดทางเพศ 1) สำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง 2) เฝ้าระวัง สังเกตพฤติกรรมนักเรียน และพัฒนาพื้นที่เสี่ยงให้ ปลอดภัย 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 4) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลด้านพฤติกรรมนักเรียน ทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้และเห็นคุณค่าใน ตนเอง 6) จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตอย่างรอบด้าน 7) ฝึกทักษะการปฏิเสธและการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ 8) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ช่องทางในการขอความช่วยเหลือ 9) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 10) แต่งตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อให้ความช่วยเหลือ 11) ประสานภาคีเครือข่ายเพื่อการส่งต่อที่เหมาะสม คณะครูทุกท่าน 1.2 การทะเลาะวิวาท 1) จัดทำระเบียบในการประพฤติปฏิบัติตนในสถานศึกษา 2) ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจการปฏิบัติตนตามระเบียบ 3) เฝ้าระวัง สังเกตพฤติกรรมทั้งในระดับชั้นเรียน สถานศึกษา และชุมชน 4) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบสื่อสาร เพื่อติดตามพฤติกรรมนักเรียนอย่าง ต่อเนื่อง 6) ให้ความรู้เรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคม และผลกระทบที่เกิด จากการทะเลาะวิวาท 7) จัดกิจกรรมส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคม 8) จัดเวทีกิจกรรมให้นักเรียนได้แสดงออกตามความสามารถ อย่างเหมาะสม 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อระงับเหตุทั้งในสถานศึกษาและ ชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกลเกลี่ย ประนีประนอมตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก คณะครูทุกท่าน


14 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 1.3 การทำร้ายตนเองและ การ ฆ่าตัวตาย 1) จัดให้มีระบบดูแลช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพโดย มอบหมายครูประจำชั้นสังเกตพฤติกรรมนักเรียนเป็น รายบุคคล 2) จัดทำระบบเครือข่ายระหว่างผู้ปกครองชุมชน สถานศึกษา เพื่อสื่อสารและสานสัมพันธ์ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ พฤติกรรมนักเรียน 3) จัดกิจกรรมปลูกฝังให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความเอื้อ อาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 4) จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพ 5) ประสานความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาอย่าง สม่ำเสมอ 6)ประสานพ่อแม่ ผู้ปกครองทันทีเมื่อเกิดปัญหาเพื่อแก้ไข ปัญหา เฉพาะหน้าด้วยวิธีการต่างๆ คณะครูทุกท่าน 1.4 การกลั่นแกล้งรังแก 1) สำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยงทั้งกลุ่มผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ 2) จัดทำระเบียบข้อตกลงร่วมกัน ทั้งในระดับชั้นเรียนและ ระดับ สถานศึกษา 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 4) จัดระบบการสื่อสาร เพื่อติดตามพฤติกรรมนักเรียนอย่าง ต่อเนื่อง 5) ให้ความรู้เรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคม และผลกระทบที่เกิด จากการกลั่นแกล้งรังแก 6) จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ทำร่วมกันอย่างต่อเนื่อง 7) จัดเวทีให้นักเรียนได้แสดงออกตามความสามารถอย่าง เหมาะสม 8) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อระงับเหตุ ทั้งในสถานศึกษา และ ชุมชน 9) ดำเนินการตามระเบียบข้อตกลง โดยเน้นการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก 10) ติดตาม เยี่ยมเยือน ให้กำลังใจผู้ถูกกระท า และสร้าง ความ เข้าใจกับผู้กระทำ คณะครูทุกท่าน 1.5 การชุมนุมประท้วง และ การจลาจล 1) สำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) เฝ้าระวัง สังเกตพฤติกรรมนักเรียน คณะครูทุกท่าน


15 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 4) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลด้านพฤติกรรม นักเรียน ทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมาย สิทธิ และ หน้าที่พลเมือง 6) สร้างองค์ความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการ ชุมนุม ประท้วงและการจลาจล 7) จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ 8) จัดกิจกรรมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องร่วมกับผู้ปกครอง ชุมชน ใน โอกาสที่เหมาะสม 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อระงับเหตุทั้งในสถานศึกษาและ ชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก 1.6 การก่อวินาศกรรม 1) สำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) เฝ้าระวัง สังเกตพฤติกรรมนักเรียน 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษา และชุมชน 4) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลด้านพฤติกรรม นักเรียน ทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมาย สิทธิ และ หน้าที่พลเมือง 6) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการก่อ วินาศกรรม 7) จัดกิจกรรมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องร่วมกับผู้ปกครอง ชุมชน ใน โอกาสที่เหมาะสม 8) จัดเวทีให้นักเรียนได้แสดงออกตามความสามารถอย่าง เหมาะสม 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อระงับเหตุทั้งในสถานศึกษาและ ชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก คณะครูทุกท่าน


16 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 1.7 การระเบิด 1) สำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) สำรวจข้อมูลแหล่งที่มาของวัตถุประกอบระเบิด 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 4) จัดระบบการสื่อสารเพื่อติดตามพฤติกรรมนักเรียน 5) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการใช้ ระเบิด 6) จัดกิจกรรมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องร่วมกับผู้ปกครอง ชุมชน ใน โอกาสที่เหมาะสม 7) จัดเวทีให้นักเรียนได้แสดงออกออกตามความสามารถ อย่าง เหมาะสม 8) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อระงับเหตุทั้งในสถานศึกษาและ ชุมชน 9) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 10) ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก คณะครูทุกท่าน 1.8 สารเคมีและวัตถุ อันตรายทำให้เกิด มลภาวะ เป็นพิษ 1) จัดทำมาตรการและแนวปฏิบัติในการดำเนินการ ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีและวัตถุอันตราย 2) จัดเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายในสถานที่ให้มิดชิด 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังการใช้สารเคมีและวัตถุ อันตราย ทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 4) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจาการใช้ สารเคมี และวัตถุอันตราย 5) จัดกิจกรรมส่งเสริมการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ไปใช้ในการดำเนินชีวิต 6) จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงในสถานที่จริงในพื้นที่ 7) ติดต่อประสานงานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อร่วม แก้ปัญหา 8) ดำเนินการตามมาตรการและข้อตกลงที่กำหนดร่วมกัน คณะครูทุกท่าน 1.9 การล่อลวง ลักพาตัว 1) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 2) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลพฤติกรรมนักเรียน ผู้ ใกล้ชิด และบุคคลภายนอก คณะครูทุกท่าน


17 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 3) จัดทำข้อมูลช่องทางขอความช่วยเหลือเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ในสถานศึกษาและชุมชน 4) การจัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้และเห็นคุณค่าใน ตนเอง 5) จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตอย่างรอบด้าน 6) ฝึกทักษะการปฏิเสธ การเอาตัวรอด และการขอความ ช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ 7) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 8) แต่งตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อให้ความช่วยเหลือ 9) ประสานภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมแก้ปัญหา 1.10 การถูกปล่อยปละ ละเลย 1) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 2) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลพฤติกรรมนักเรียน ผู้ ใกล้ชิด และบุคคลภายนอก 3) จัดทำข้อมูลช่องทางขอความช่วยเหลือเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ในสถานศึกษาและชุมชน 4) การจัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้และเห็นคุณค่าใน ตนเอง 5) จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตอย่างรอบด้าน 6) ฝึกทักษะการปฏิเสธ การเอาตัวรอด และการขอความ ช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ 7) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 8) แต่งตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อให้ความช่วยเหลือ 9) ประสานภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมแก้ปัญหา 10)สร้างขวัญกำลังใจโดยการติดตามเยี่ยมเยือนอย่างสม่ำเสมอ คณะครูทุกท่าน 1.11 การคุกคามทางเพศ 1) สำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) เฝ้าระวัง สังเกตพฤติกรรมนักเรียน พัฒนาพื้นที่เสี่ยงให้ ปลอดภัย 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษา และชุมชน คณะครูทุกท่าน


18 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 4) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลด้านพฤติกรรม นักเรียน ทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) การจัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้และเห็นคุณค่าใน ตนเอง 6) จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตอย่างรอบด้าน 7) ฝึกทักษะการปฏิเสธ การเอาตัวรอด และการขอความ ช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ 8) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 9) แต่งตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายเพื่อให้ความช่วยเหลือ 10) ประสานภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมแก้ปัญหา 11)สร้างขวัญกำลังใจโดยการติดตามเยี่ยมเยือนอย่าง สม่ำเสมอ 1.12 การไม่ได้รับความเป็น ธรรมจากสังคม 1).สำรวจข้อมูลนักเรียนรายบุคคล 2)วิเคราะห์สภาพปัญหาความต้องการ ความขาดแคลนของ นักเรียนรายบุคคล 3)จัดทำแผนให้ความช่วยเหลือนักเรียนตามความขาดแคลน 4).สร้างภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อประสานความ ช่วยเหลือ 5)สร้างความรู้ความเข้าใจถึงสิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบ ต่อ สังคม 6)บริการให้ค าปรึกษาสำหรับนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 7)จัดกิจกรรมส่งเริมการสร้างจิตส านึกในความเสมอภาค เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน 8)แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนที่สามารถให้ ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 9)ประสานภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมแก้ปัญหา 10)สร้างขวัญกำลังใจโดยการติดตามเยี่ยมเยือนอย่าง สม่ำเสมอ คณะครูทุกท่าน


19 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 2. ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident) 2.1 ภัยธรรมชาติ (แผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ แผ่นดินถล่ม ฯลฯ) 1) สำรวจข้อมูลความเสี่ยงที่เกิดจากภัยธรรมชาติ 2) จัดทำแผนป้องกันภัยทางธรรมชาติ 3) จัดตรียมวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือในการป้องกันภัย ธรรมชาติ 4) ซักซ้อมการเผชิญเหตุภัยธรรมชาติ 5) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดจาก ภัย ธรรมชาติรูปแบบต่าง ๆ 6) จัดกิจกรรมฝึกทักษะการเผชิญปัญหาภัยธรรมชาติ 7) จัดกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม 8) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความ ช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 9) ติดต่อสื่อสารภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมให้ ความ ช่วยเหลือและแก้ปัญหา 10) ประสานงานหน่วยงาน องค์กร เพื่อให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูจิตใจ คณะครูทุกท่าน 2.2 ภัยจากอาคารเรียน สิ่งก่อสร้าง 1) สำรวจสภาพของอาคารเรียน อาคารประกอบ และ สิ่งก่อสร้าง 2) ติดป้ายสัญลักษณ์ในอาคาร หรือพื้นที่ที่ไม่แข็งแรงและมี ความ เสี่ยง 3) ประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่เสี่ยง อย่าง ต่อเนื่อง 4) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงหลักการสร้างความปลอดภัยใน การดำเนินชีวิต 5) ฝึกทักษะการสังเกตและหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 6) จัดกิจกรรมฝึกทักษะการเอาตัวรอด เมื่อประสบภัยจาก อาคาร เรียนและสิ่งก่อสร้าง 7) สร้างภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วมและดำเนินการช่วยเหลือ และ แก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ 8) ประสานงานหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้ความ ช่วยเหลือ คณะครูทุกท่าน


20 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 2.3 ภัยจากยานพาหนะ 1) สำรวจข้อมูลยานพาหนะในสถานศึกษา 2) จัดระบบสัญจรในสถานศึกษาสำหรับยานพาหนะประเภท ต่าง ๆ และการเดินเท้า 3) จัดทำแผนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากยานพาหนะ 4) จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เพื่อการช่วยเหลือ 5) ส่งเสริมสนับสนุนการทำประกันภัย ประกันอุบัติเหตุ 6) จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการใช้รถ ใช้ถนนและ เครื่องหมาย จราจร 7) จัดกิจกรรมฝึกทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อประสบภัย จากยานพาหนะ 8) จัดกิจกรรมส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกในการปฏิบัติตามกฎ จราจร 9) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความ ช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 10) ติดต่อสื่อสารภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมให้ ความ ช่วยเหลือและแก้ปัญหา 11) ประสานงานหน่วยงาน องค์กร เพื่อให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูจิตใจ คณะครูทุกท่าน 2.4 ภัยจากการจัดกิจกรรม 1) แต่งตั้งคณะท างานประเมินความเสี่ยงในการจัดกิจกรรม ต่าง ๆ 2) จัดแยกกิจกรรมตามระดับความเสี่ยง 3) เสนอแนะแนวทางในการป้องกันความเสี่ยงในกิจกรรม ต่าง ๆ 4) สร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ให้ ปลอดภัย 5) ฝึกทักษะการเลือกปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับ ตนเอง 6) จัดกิจกรรมฝึกทักษะการให้ความช่วยเหลือเมื่อประสบภัย จาก การปฏิบัติกิจกรรม 7) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความ ช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 8) ติดต่อสื่อสารภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมให้ ความ ช่วยเหลือและแก้ปัญหา 9) ดำเนินการส่งต่อเพื่อการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ คณะครูทุกท่าน


21 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 2.5 ภัยจากเครื่องมือ อุปกรณ์ 1) สำรวจข้อมูลเครื่องมือ อุปกรณ์จัดแยกส่วนที่ชำรุดและ ส่วนที่ใช้ งานได้ 2) จัดทำคู่มือการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ให้ปลอดภัย 3) ดำเนินการซ่อมแซม บำรุงรักษาและการจัดเก็บเครื่องมือ อุปกรณ์ให้เป็นระบบ 4) จัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจ หลักการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ให้ปลอดภัย 5) ฝึกทักษะการใช้การบำรุงรักษา การจัดเก็บเครื่องมือ อุปกรณ์ 6) จัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกในคุณค่าของเครื่องมือ อุปกรณ์ 7) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถให้ ความ ช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 8) ประสานภาคีเครือข่ายความร่วมมือเพื่อให้ความช่วยเหลือ 9) ดำเนินการส่งต่อเพื่อการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ คณะครูทุกท่าน 2.6 ภัยจากการ เดินทาง ไป-กลับ ระหว่างบ้านและ สถานศึกษา 1) สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน ร่วมมือกันกำหนด มาตรการ รับ-ส่งนักเรียนตอนเช้าและ เลิกเรียน 2) กำกับ ดูแลนักเรียนที่ใช้จักรยาน จักรยานยนต์ให้ชิด ทางซ้าย และเป็นแถว 3) จัดครูเวรประจำวันตรวจเช็คนักเรียนที่มีผู้ปกครองมารับ 4) แนะนำการเดินแถวกลับบ้านและให้พี่ดูแลน้อง 5) ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการฝึกปฏิบัติตามกฎจราจร 6) จัดครูเวรและนักเรียนคอยรับ-ส่งนักเรียนที่ประตูเข้าออก คณะครูทุกท่าน 2.7 ภัยจากการพานักเรียน ไปศึกษานอก สถานศึกษา และการนำ นักเรียนร่วม กิจกรรมสำคัญ 1) ศึกษาและปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย การ พานักเรียนไปศึกษานอก สถานศึกษาโดยเคร่งครัด 2) เตรียมการและวางแผนการดำเนินการอย่างชัดเจน 3) จัดทำประวัตินักเรียนที่ร่วมเดินทาง 4) จัดครูคอยควบคุม ดูแลให้อยู่ในระเบียบวินัย 5) จัดให้มีป้ายชื่อแสดงรายละเอียดนักเรียน/ป้ายบอกชื่อ ขบวนรถ 6) จัดให้มีเวชภัณฑ์ที่จำเป็นในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 7) ควบคุมดูแลการซื้ออาหารรับประทาน คณะครูทุกท่าน


22 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 8) หากมีการใช้พาหนะรถยนต์ต้องแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ตรวจ สภาพ รถยนต์และตรวจประวัติคนขับ เพื่อความปลอดภัย 9) หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย 10) จัดระบบดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด 11) ให้ความรู้นักเรียนในการร่วมกิจกรรมอย่างปลอดภัยทุกครั้ง 12) ตรวจดูความเหมาะสมของสถานที่ที่ปลอดภัย 13) ประสานงานเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยท้องถนน 2.8 ภัยจากยานพาหนะรับส่ง นักเรียน 1) ศึกษาและปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย ยานพาหนะรับ-ส่ง นักเรียน 2) ตรวจสอบยานพาหนะให้มีความเหมาะสม ปลอดภัยต่อ สภาพ การใช้งาน 3) ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ถังดับเพลิง ค้อน เป็น ต้น ประจำยานพาหนะ 4) ตรวจสอบประวัติคนขับ ความสามารถในการ ขับขี่ ใบอนุญาต การขับขี่ 5) กำหนดให้มีพนักงานควบคุมเพื่อดูแลความ ปลอดภัยของ ผู้โดยสาร 6) กำหนดแนวปฏิบัติในการโดยสารด้วยความ ปลอดภัยแก่ นักเรียนและผู้จ้าง เช่น ห้ามห้อย โหน ปืนป่ายหยอกล้อขณะ รถยนต์เคลื่อนที่ 7) ตรวจสอบจำนวนนักเรียนทุกครั้งที่มีการขึ้น และลง รถยนต์ 8) จัดทำป้ายชื่อรถรับ-ส่งนักเรียนให้เห็นอย่าง ชัดเจน 9) การประกันภัยโดยความสมัครใจสำหรับ นักเรียน คณะครูทุกท่าน 3. ภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสุข ภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) 3.1 โรคทางจิตเวช 1) สำรวจข้อมูลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) ติดต่อประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อประเมิน ภาวะ จิตใจ 3) จัดหลักสูตรการเรียนการสอนพิเศษรายบุคคล 4) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลพฤติกรรมอย่าง ต่อเนื่อง6) จัดกิจกรรมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของ นักเรียน คณะครูทุกท่าน


23 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 7) จัดเวทีให้นักเรียนได้แสดงออกตามความสามารถอย่าง เหมาะสม 8) จัดกิจกรรมส่งเสริมการตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเอง และ ผู้อื่น 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อระงับเหตุทั้งในสถานศึกษาและ ชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ด าเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ย ประนีประนอม ตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก 12) ประสานการส่งต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือที่มี ประสิทธิภาพ 3.2 ติดเกม 1) สำรวจข้อมูลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) สำรวจข้อมูลพื้นที่แหล่งให้บริการร้านเกม 3) จัดทำระเบียบข้อตกลงร่วมกัน ทั้งในระดับชั้นเรียนและ ระดับ สถานศึกษา 4) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลพฤติกรรมอย่าง ต่อเนื่อง6) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการติดเกม 7) จัดกิจกรรมส่งเสริมการคิด วิเคราะห์ และใช้เวลาว่างให้ เป็น ประโยชน์ 8) จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สนองต่อความสนใจของ นักเรียน อย่างหลากหลาย 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางป้องกันและแก้ปัญหาทั้งใน สถานศึกษาและชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ดำเนินการตามระเบียบข้อตกลงที่ก าหนดไว้ร่วมกัน 12) สร้างขวัญกำลังใจโดยการติดตามเยี่ยมเยือนอย่าง สม่ำเสมอ คณะครูทุกท่าน 3.3 สารเสพติด 1) สำรวจข้อมูลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) วิเคราะห์นักเรียนรายบุคคล 3) จัดทำระเบียบข้อตกลงร่วมกัน ทั้งในระดับชั้นเรียนและ ระดับ สถานศึกษา 4) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลพฤติกรรมอย่าง ต่อเนื่อง คณะครูทุกท่าน


24 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 6) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงโทษภัย และผลกระทบของการ ติด สารเสพติด 7) จัดกิจกรรมต่อต้านสารเสพติดในวันสำคัญต่าง ๆ อย่าง สม่ำเสมอ 8) จัดกิจกรรมส่งเสริมการคิด วิเคราะห์ และใช้เวลาว่างให้ เป็น ประโยชน์ 9) จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สนองต่อความสนใจของ นักเรียน อย่างหลากหลาย 10) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางป้องกันและแก้ปัญหาทั้ง ใน สถานศึกษาและชุมชน 11) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 12) ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก 13) ประสานการส่งต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือที่มี ประสิทธิภาพ 3.4 ภัยไซเบอร์ 1) สำรวจข้อมูลการใช้งานระบบไซเบอร์ของนักเรียน รายบุคคล 2) จัดทำระเบียบข้อตกลงร่วมกัน ทั้งในระดับชั้นเรียนและ ระดับ สถานศึกษา 3) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 4) จัดระบบสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง 5) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการใช้งาน ระบบ ไซเบอร์โดยขาดวิจารณญาณ 6) จัดกิจกรรมส่งเสริมการคิด วิเคราะห์ และใช้เวลาว่างให้ เป็น ประโยชน์ 7) จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สนองต่อความสนใจของ นักเรียน อย่างหลากหลาย 8) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางป้องกันและแก้ปัญหาทั้งใน สถานศึกษาและชุมชน 9) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 10) ดำเนินการลงโทษตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้ 11) สร้างขวัญกำลังใจโดยการติดตามเยี่ยมเยือนอย่าง สม่ำเสมอ คณะครูทุกท่าน 3.5 ภัยสื่อลามกอนาจาร 1) ควบคุมดูแลการนำข้อมูลข่าวสารและสื่อบันเทิงต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ไม่ให้เข้ามาเผยแพร่ในสถานศึกษา คณะครูทุกท่าน


25 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 2) จัดทำหลักสูตรบูรณาการการสอนในเรื่องเพศศึกษา ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมที่ดี และ เหมาะสมในทาง สังคมให้กับนักเรียน 3) จัดกิจกรรมและเสริมสร้างค่านิยม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ที่ ดีงามให้กับนักเรียนเพื่อการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 4) ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องในการ ตรวจ ตรา ควบคุมดูแลตามแหล่ง จำหน่ายและเผยแพร่ 5) ดำเนินการตรวจค้นยึดสิ่งของและลงโทษ หากพบนักเรียน นำสื่อ ลามกอนาจารเข้ามา สถานศึกษา ติดต่อประสานงานผู้ปกครอง เพื่อ หาแนว ทางแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 6) มอบครูประจำชั้น ติดตามและเฝ้าระวัง ภายหลัง ดำเนินการ แก้ไขแล้ว เพื่อเป็นการแก้ไข ปัญหาในระยะต่อไปมิให้เกิดขึ้น 3.6 การพนัน 1) สำรวจข้อมูลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 2) สำรวจพื้นที่ที่เป็นแหล่งการพนัน 3) จัดทำระเบียบข้อตกลงร่วมกัน ทั้งในระดับชั้นเรียนและ ระดับ สถานศึกษา 4) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบการสื่อสารเพื่อรับส่งข้อมูลพฤติกรรมอย่าง ต่อเนื่อง 6) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการพนัน 7) จัดกิจกรรมส่งเสริมการคิด วิเคราะห์และใช้เวลาว่างให้ เป็น ประโยชน์ 8) กิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สนองต่อความสนใจของนักเรียน อย่าง หลากหลาย 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางป้องกันและแก้ปัญหาทั้งใน สถานศึกษาและชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ดำเนินการลงโทษตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้ 12) สร้างขวัญกำลังใจโดยการติดตามเยี่ยมเยือนอย่าง สม่ำเสมอ คณะครูทุกท่าน 4. ภัยที่เกิดจาก โรคระบาด (Epidemic) 4.1 โรคอุบัติใหม่ 1) สำรวจข้อมูลด้านสุขภาพของนักเรียนรายบุคคลและบุคคล ใกล้ชิด คณะครูทุกท่าน


26 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 2) จัดทำแผนการป้องกันโรคอุบัติใหม่ ตามมาตรการที่ กฎหมาย กำหนด 3) บริการวัสดุ อุปกรณ์ในการป้องกันโรคอุบัติใหม่ 4) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบสื่อสารเพื่อติดตามข้อมูลด้านสุขภาพอย่าง ต่อเนื่อง6) สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคอุบัติใหม่ 7) จัดกิจกรรมฝึกทักษะการปฏิบัติตน เพื่อความปลอดภัย จากโรค อุบัติใหม่ 8) จัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางป้องกันและแก้ปัญหาทั้งใน สถานศึกษาและชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ดำเนินการตามมาตรการที่กฎหมายกำหนด 12) ประสานการส่งต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือที่มี ประสิทธิภาพ 4.2 มลภาวะเป็นพิษ 1) สำรวจข้อมูลพื้นที่ที่เกิดมลภาวะเป็นพิษในสถานศึกษา และ ชุมชน 2) จัดทำป้ายสัญลักษณ์แสดงพื้นที่มลภาวะเป็นพิษ 3) จัดทำแผนในการแก้ปัญหาและลดมลภาวะเป็นพิษร่วมกัน 4) กำหนดข้อตกลงในการปฏิบัติร่วมกัน 5) สร้างความรู้ความเข้าใจถึงสาเหตุและผลกระทบที่เกิดจาก มลภาวะเป็นพิษ 6) จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาและการลดมลภาวะ เป็นพิษ 7) จัดกิจกรรมส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกในการลดมลพิษ ร่วมกับ ชุมชน 8) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางแก้ปัญหาและลดมลภาวะ เป็นพิษ ทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 9) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 10) ดำเนินการลงโทษตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้ 11) สร้างขวัญกำลังใจโดยการติดตามเยี่ยมเยือนอย่าง สม่ำเสมอ คณะครูทุกท่าน 4.3 โรคระบาดในสัตว์ 1) สำรวจข้อมูลสัตว์เลี้ยงของนักเรียนรายคน 2) จัดทำแผนในการป้องกันโรคระบาดในสัตว์ คณะครูทุกท่าน


27 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 3) บริการวัสดุ อุปกรณ์ในการป้องกันโรคระบาดในสัตว์ 4) สร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังทั้งในสถานศึกษาและชุมชน 5) จัดระบบการสื่อสารเพื่อติดตามข้อมูลสัตว์เลี้ยงอย่าง ต่อเนื่อง 6) สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคระบาดในสัตว์ 7) จัดกิจกรรมฝึกทักษะการปฏิบัติตน เพื่อความปลอดภัย จากโรค ระบาดในสัตว์ 8) จัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม 9) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางป้องกันและแก้ปัญหาทั้งใน สถานศึกษาและชุมชน 10) ประสานภาคีเครือข่ายการมีส่วนร่วม เพื่อร่วมแก้ปัญหา 11) ดำเนินการตามมาตรการที่กฎหมายกำหนด 12) ประสานการส่งต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือที่มี ประสิทธิภาพ 4.4 ภาวะทุพโภชนาการ 1) การสำรวจและจัดกลุ่มนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่มี ภาวะทุพ โภชนาการ 2) เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา ครอบครัว ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 3) จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่ ผู้ปกครอง 4) จัดทำฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบพัฒนาการและ ความก้าวหน้าใน การลดภาวะทุพโภชนาการ 5) จัดหาอุปกรณ์กีฬาให้เพียงพอ 6) การดูแลอาหารกลางวันและอาหารเสริมที่ถูกต้องตามหลัก โภชนาการ 7) จัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่นักเรียน 8) จัดกิจกรรมออกกำลังกาย และวิธีการรักษาสุขภาพให้กับ นักเรียน 9) การบูรณาการความรู้ด้านโภชนาการในการจัดการเรียน การสอน 10) การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ช่องทางในการขอความ ช่วยเหลือ 11) แต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ที่สามารถ ให้ ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์ 12) แต่งตั้งคณะท างานกองทุนอาหารกลางวันสำหรับ นักเรียนที่มี ปัญหาด้านเศรษฐกิจ คณะครูทุกท่าน


28 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 13) ประสานภาคีเครือข่ายเพื่อการส่งต่อที่เหมาะสม 4.5 โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 1) สื่อสารประชาสัมพันธ์แก่ครู บุคลากร และนักเรียนใน สถานศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ เบื้องต้นเกี่ยวกับโรคโควิด-19 การล้างมือ การสวมหน้ากาก การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล การ ทำความสะอาด 2) มีแผนงาน โครงการ และกิจกรรมรองรับนโยบายและแนว ทางการป้องกันโรคโควิด-19 ของ สถานศึกษา คณะครูทุกท่าน 5. ภัยที่เกิดจาก จากอุบัติภัยหรือ ภัยธรรมชาติ (Natural Disaster) 5.1 อัคคีภัย 1) แต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบตรวจสอบอุปกรณ์อย่าง สม่ำเสมอ 2) ให้ความรู้และจัดทำแผนซักซ้อมนักเรียน เกี่ยวกับการดับไฟ หนี ไฟ 3) จัดให้มีเจ้าหน้าที่อยู่เวรรักษาสถานที่ราชการ อย่างเคร่งครัด 4) จัดทำป้ายแหล่งข้อมูลแจ้งเหตุฉุกเฉิน 5) วางแผนรับสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า 6) จัดแหล่งข้อมูลที่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือไว้ ล่วงหน้า 7) ถ้าเกิดเหตุอัคคีภัยรายงานต้นสังกัดทันที 8) ตรวจสอบสภาพอาคารต่าง ๆอย่างสม่ำเสมอ 9) ตัดแต่งกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้อาคาร 10) จัดให้มีเวชภัณฑ์ที่จำเป็นในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คณะครูทุกท่าน 5.2 วาตภัย 1) ให้ความรู้ในการปฏิบัติตนแก่นักเรียนให้พ้นจากอันตราย 2) จัดให้มีการอยู่เวรรักษาสถานที่ราชการ 3) ตรวจสอบสภาพอาคารต่างๆอย่างสม่ำเสมอ 4) ตัดแต่งกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้อาคาร 5) ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศสม่ำเสมอ 6) จัดให้มีเวชภัณฑ์ที่จำเป็นในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 7) จัดให้มีเครือข่ายองค์กรภาครัฐเอกชนเพื่อสามารถส่งต่อ ขอความ ช่วยเหลือทันที คณะครูทุกท่าน 5.3 อุทกภัย 1) ให้ความรู้ในการปฏิบัติตนแก่นักเรียนให้พ้นจากอันตราย 2) จัดให้มีการอยู่เวรรักษาสถานที่ราชการ คณะครูทุกท่าน


29 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 3) ตรวจสอบสภาพอาคารต่างๆอย่างสม่ำเสมอ 4) ตัดแต่งกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้อาคาร 5) ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศสม่ำเสมอ 6) จัดให้มีเวชภัณฑ์ที่จำเป็นในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 7) จัดให้มีเครือข่ายองค์กรภาครัฐเอกชนเพื่อสามารถส่งต่อ ขอความ ช่วยเหลือทันที 5.4 ธรณีพิบัติภัย 1) ให้ความรู้ในการปฏิบัติตนแก่นักเรียนให้พ้นจากอันตราย 2) จัดให้มีการอยู่เวรรักษาสถานที่ราชการ 3) ตรวจสอบสภาพอาคารต่างๆอย่างสม่ำเสมอ 4) ตัดแต่งกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้อาคาร 5) ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศสม่ำเสมอ 6) จัดให้มีเวชภัณฑ์ที่จำเป็นในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 7) จัดให้มีเครือข่ายองค์กรภาครัฐเอกชนเพื่อสามารถส่งต่อ ขอความ ช่วยเหลือทันที คณะครูทุกท่าน 5.5 ภาวะโลกร้อน (ฮีทส โตรก) 1) สื่อสารประชาสัมพันธ์แก่ครู บุคลากร และนักเรียนใน สถานศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ เบื้องต้นเกี่ยวกับโรคลมแดด (ฮีทสโตรก) 2) มีแผนงาน โครงการ และกิจกรรมรองรับนโยบายและแนว ทางการป้องกันโรคลมแดด (ฮีทสโตรก) ของสถานศึกษา 3) ตรวจสอบข้อมูลนักเรียนและผู้ปกครอง ขอความร่วมมือ ให้ประวัติส่วนตัว โรคประจำตัวหาก มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคลม แดด (ฮีทสโตรก) 4) ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองช่วยกวดขันดูแลบุตรหลาน อย่าง ใกล้ชิด 5) จัดเตรียมอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ในการปฐมพยาบาล กรณี ที่เกิด โรคลมแดด (ฮีทสโตรก) 6) จัดทำแผนฉุกเฉินและการฝึกซ้อม โดยความร่วมมือกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 7) มอบครูประจำชั้น ติดตามและเฝ้าระวัง ภายหลัง ดำเนินการ แก้ไขแล้ว เพื่อเป็นการแก้ไข ปัญหาในระยะต่อไป คณะครูทุกท่าน


30 ประเภทกลุ่มภัยสถานศึกษา แนวปฏิบัติของสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบ 5.6 ฝุ่นละออง PM 2.5 1) ทำความสะอาดห้องเรียน อุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ แปรงลบ กระดาน หรืออื่นๆที่เป็นแหล่งสะสมฝุ่น ให้สะอาดและจัดให้ เป็นระเบียบ 2) จัดให้มีการระบายอากาศภายในห้องเรียน เพื่อให้ผู้ที่อยู่ใน ห้อง รู้สึกสบายตัว เช่น เปิดประตู หน้าต่างเพื่อถ่ายเทอากาศ เปิดพัดลม เพื่อหมุนเวียนอากาศ ภายในห้อง 3) จัดสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาเพื่อป้องกันฝุ่น ละออง เช่น จัดให้มีพื้นที่สีเขียว ทำความ สะอาดถนน ไม่จัดกิจกรรมที่ทำให้เกิด ฝุ่น 4) สื่อสารประชาสัมพันธ์การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันตนเอง สำหรับบุคลากร นักเรียน ในรูปแบบ เสียงตามสาย บอร์ด ประชาสัมพันธ์ 5) จัดเตรียมแผนรองรับด้านการเรียนการสอนในช่วง สถานการณ์ผุ่ นละออง PM 2.5 อยู่ในระดับ ที่มีผลกระทบต่อนักเรียน 6) ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับฝุ่นละออง PM 2.5 รวมถึง ชี้แจง มาตรการในการจัดการปัญหา ฝุ่นละออง PM 2.5 คณะครูทุกท่าน


31 ส่วนที่ 3 การดำเนินการเสริมสร้างความปลอดภัยของสถานศึกษา 1. ขั้นตอนการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา การดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา สามารถช่วยส่งเสริมความมั่นใจและความเชื่อมั่น ให้กับ นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการจัดการเรียนการ สอนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ขับเคลื่อนมาตรการสถานศึกษาปลอดภัย มุ่งเน้นให้เกิด ความ ปลอดภัยต่อนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยเน้นมาตรการ 3 ป (ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม) และ 5 กลุ่มภัยในสถานศึกษา ดังนี้ D (Design) การออกแบบ กำหนดนโยบาย แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการประชุมสร้างการรับรู้ เพื่อความร่วมมือในการ ประเมินความเสี่ยงของโรงเรียน 1) แต่งตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยของสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ทำหน้าที่กำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของสถานศึกษา ส่งเสริมสนับสนุน กำกับ ติดตาม ดูแล แก้ไขปัญหา ให้การดำเนินงานเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ สัดส่วนของ คณะกรรมการ ให้เป็นไปตามบริบทที่เหมาะสมของสถานศึกษานั้น ๆ ประกอบด้วย 1.1) ผู้บริหารสถานศึกษา 1.2) เครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และผู้ปกครอง 1.3) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.4) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับการมอบหมาย 1.5) คณะทำงานระดับสถานศึกษา (ครูประจำชั้น ครูที่ปรึกษา ครูประจำวิชา/ครู แนะแนว/ ครู ฝ่ายปกครอง สภานักเรียน 2) การประเมินปัจจัยเสี่ยงความไม่ปลอดภัยของสถานศึกษาร่วมกับคณะกรรมการ ร่วมกันวิเคราะห์และ ประเมินปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นที่จะส่งผลกระทบกับความไม่ปลอดภัยต่อผู้เกี่ยวข้อง ในสถานศึกษา และจัดลำดับ ความเสี่ยง เพื่อเป็นข้อมูลสารสนเทศ นำไปสู่การวางแผนบริหารจัดการ ความปลอดภัยของสถานศึกษา K (Knowledge) สร้างความตระหนักรู้ ให้ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ให้ครูและนักเรียนทราบทั่วกัน ถึงสภาพบริบทและ ปัจจัย เสี่ยงของโรงเรียน เพื่อร่วมกันจัดทำแผนดำเนินการสร้างความปลอดภัยของสถานศึกษา สถานศึกษา ดำเนินการ จัดทำแผนเสริมสร้างปลอดภัยของสถานศึกษา ตามมาตรการความปลอดภัย และบริบทของ สถานศึกษา ที่ได้จากการประเมินความเสี่ยง การวิเคราะห์ และจัดลำดับ ความเสี่ยงของสถานศึกษา จากมาตรการ 3 ป ซึ่ง ประกอบด้วย การป้องกัน การปลูกฝัง และการปราบปราม และให้ครอบคลุมภัย 4 กลุ่ม คือ ภัยที่เกิดจาก


32 การใช้ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence) ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident) ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right) และภัยที่เกิดจาก ผลกระทบทางสุขภาวะทางกาย และจิตใจ (Unhealthiness) E (Event design & integration) ออกแบบการเรียนรู้ และถ่ายทอดบูรณาการสู่การปฏิบัติ ออกแบบกิจกรรมรณรงค์ ให้ความรู้ สร้างความตระหนัก เป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมทั้งจัด สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัย 5 กลุ่มภัย จัดกิจกรรมตามบริบทโรงเรียน บูรณาการผ่านกิจกรรมกลุ่มสาระ รายวิชา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และกิจกรรมอื่นๆ ผู้บริหารให้โอกาสทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล คำแนะนำ ให้โอกาส ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหาและร่วมชื่นชม ความสำเร็จในการสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยใช้ มาตรการการป้องกันที่ เหมาะสมกับบริบทของ โรงเรียนเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่ความ ปลอดภัยตามเป้าประสงค์อย่าง ยั่งยืน S (Sustainability) การพัฒนาอย่างยั่งยืน วิเคราะห์ ติดตาม ประเมินผล ถอดบทเรียน เพื่อนำไปพัฒนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โรงเรียนมี การนิเทศติดตามภายในอย่างสม่ำเสมอ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเป็นทางการ ได้แก่ ผู้บริหาร ครู ประจำวิชา และครูที่ปรึกษาเป็นผู้นิเทศ ดำเนินการกำกับ ติดตาม และประเมินผล การดำเนินงาน ความปลอดภัย ของสถานศึกษา สะท้อนผลปรับปรุง และพัฒนางานด้านความปลอดภัยในทันต่อการเปลี่ยนแปลง


33 ส่วนที่ 4 การกำกับติดตามและประเมินผล สถานศึกษาดำเนินการกำกับ ติดตาม และประเมินผล การดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา โดย การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายตามแนวดำเนินการ มาตรการ แนวทางปฏิบัติ โดยยึดตัวชี้วัดใน การดำเนินการใน ทุกประเด็นมีการจัดทำเครื่องมือในการกำกับ ติดตาม และประเมินผล ที่มีคุณภาพและครอบคลุม มี การจัดทำ แผนการกำกับ ติดตาม และประเมินผลกำหนดปฏิทินดำเนินการ คัดเลือกสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินการ ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ยกย่องเชิดชูเกียรติ สรุปรายงาน และเผยแพร่ผลการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดย ดำเนินการ ดังนี้ 1) แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษาโดย การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 2) ศึกษาแนวดำเนินการ มาตรการ แนวทางการปฏิบัติ และตัวชี้วัดการดำเนินงานความปลอดภัยของ สถานศึกษา 3) จัดทำแผนการกำกับ ติดตาม และประเมินผล การดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา 4) กำหนดปฏิทินในการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง 5) จัดทำเครื่องมือในการกำกับ ติดตาม และประเมินผล การดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษาที่ สอดคล้องกับตัวชี้วัดในการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา 6) ดำเนินการกำกับ ติดตาม และประเมินผล การดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา 7) สรุปผลการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษา ให้ข้อเสนอแนะประเด็นที่เป็นจุดเด่นจุดควร พัฒนา พร้อมแนวทางในการพัฒนาในปทการศึกษาต่อไป 8) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานความปลอดภัยของสถานศึกษาในช่องทางที่หลากหลาย


34 ภาคผนวก


35 คำสั่งโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ที่ 10/2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ปีการศึกษา 2566 ......................................................... เพื่อให้การบริหารความปลอดภัยของโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ ในการบริการและการแก้ปัญหา บรรลุวัตถุประสงค์ ตามนโยบายความปลอดภัยในการเสริมสร้างความปลอดภัย ให้แก่นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ในคราว ประชุมครั้งที่ 5 /2566 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม จึงแต่งตั้งคณะกรรมการความ ปลอดภัยโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ประกอบด้วย 1.ที่ปรึกษา 1.1 นายสำราง โหน่งที ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.2 นางภัทรชล โหน่งที ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาแก้วน้อย 1.3 นายตฤณพงศ์ ธีรพงศ์ธนสุข นายแพทย์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลโพนนาแก้ว 1.4 ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพนนาแก้ว มีหน้าที่ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน 2.คณะกรรมการ 2.1 นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล ประธานกรรมการ ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม 2.2 นายวีระพนธ์ วรพันธ์ รองประธานกรรมการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารงานทั่วไป 2.3 นางสาวณัฐนันท์ สมเดช กรรมการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารงานงบประมาณ 2.4 นางเมตตา นามโยธา กรรมการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารงานบุคคล 2.5 นางชลธิรศน์ ไชยเสนา กรรมการ


36 หัวหน้าฝ่ายงานบริหารงานวิชาการ 2.6 นางสาวสุทธิกาณฑ์ ปัญญา กรรมการและเลขานุการ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ SC: Safety Center โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม มีหน้าที่ เสริมสร้างความปลอดภัย จัดให้มีรูปแบบ หรือกระบวนการในการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน ให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ มีความสุขและได้รับการปกป้อง คุ้มครองความปลอดภัยทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ จัดให้มีกิจกรรมเสริมสร้างทักษะให้นักเรียนมีความสามารถในการดูแลตนเองจากภัยอันตรายต่าง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2567 (ลงชื่อ) (นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล) ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม


37 คำสั่งโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ที่ 11 / 2566 เรื่อง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ MOE Safety Center ของโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม เพื่อให้การบริหารจัดการระบบ MOE Safety Center ของโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม เป็นไป ด้วย ความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพในการให้บริการ และการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม จึงแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ MOE Safety Center ของโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ประกอบด้วย ๑. เจ้าหน้าที่ SC : Safety Center ๑.๑ นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล หัวหน้า ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม หมายเลขโทรศัพท์ : 095-6729587 ๑.๒ นางสาวสุทธิกาณฑ์ ปัญญา เจ้าหน้าที่ ครูคศ.1 หมายเลขโทรศัพท์ : 089-9443769 มีหน้าที่ Moderator ระบบ MOE Safety Center รับ Case ที่แจ้งเข้ามายังโรงเรียน นา แก้วพิทยาคม สรุปเหตุการณ์เลือกปัญหาความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ประสานส่งต่อและรายงาน ข้อมูลไป ยังเจ้าหน้าที่ Action ๒. เจ้าหน้าที่ Action 2.1 นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล ประธานกรรมการ 2.2 นายวีระพนธ์ วรพันธ์ รองประธานกรรมการ 2.3 นางสาวณัฐนันท์ สมเดช กรรมการ 2.4 นางเมตตา นามโยธา กรรมการ 2.5 นางชลธิรศน์ ไชยเสนา กรรมการ


38 2.6 นางสาวสุทธิกาณฑ์ ปัญญา กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา เป็นผู้ดำเนินงานต่อหลังจากที่ SC ได้ทำการรับเรื่อง และ ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ Action ดำเนินการแก้ไขปัญหา วิเคราะห์ หาข้อสรุปการแก้ไขปัญหา รายงานผลการดำเนินการ จนถึงการแจ้งปิด Case หรือส่งต่อไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หากเป็น Case ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ โปร่งใส มีความเป็นธรรม รวดเร็ว และรอบคอบ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖7 (ลงชื่อ) (นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล) ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม


39 แบบมอบหมายงานเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ MOE Safety Center สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 / โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม เขียนที่โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม วันที่ 18 มกราคม 2567 ข้าพเจ้า นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม รหัสสถานศึกษา 1047540596 จังหวัด สกลนคร ได้มอบหมายงานในหน้าที่เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ MOE Safety Center ตามคำสั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 / โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม เรื่อง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ MOE Safety Center ลง วันที่ 18 มกราคม 2567 รายชื่อ ดังนี้ ๑. เจ้าหน้าที่ SC : Safety Center ๑.๑ นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ SC : Safety Center ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม หมายเลขโทรศัพท์ : 095-6729587 ๑.๒ นางสาวสุทธิกาณฑ์ ปัญญา เจ้าหน้าที่ SC : Safety Center ครู คศ.1 หมายเลขโทรศัพท์ : 089-9443769 มีหน้าที่ Moderator ระบบ MOE Safety Center รับ Case ที่แจ้งเข้ามายังโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม สรุปเหตุการณ์เลือกปัญหาความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ประสานส่งต่อและรายงานข้อมูลไป ยังเจ้าหน้าที่ Action ๒. เจ้าหน้าที่ Action 2.1 นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล ประธานกรรมการ 2.2 นายวีระพนธ์ วรพันธุ์ รองประธานกรรมการ 2.3 นางสาวณัฐนันท์ สมเดช กรรมการ 2.4 นางเมตตา นามโยธา กรรมการ 2.5 นางชลธิรศน์ ไชยเสนา กรรมการ 2.6 นางสาวสุทธิกาณฑ์ ปัญญา กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา เป็นผู้ดำเนินงานต่อหลังจากที่ SC ได้ทำการรับเรื่อง และ ส่งต่อให้ เจ้าหน้าที่ Action ดำเนินการแก้ไขปัญหา วิเคราะห์ หาข้อสรุปการแก้ไขปัญหา รายงานผลการดำเนินการ จนถึงการแจ้ง ปิด Case หรือส่งต่อไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หากเป็น Case ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา


40 ลงชื่อ (นางพัชราภรณ์ จรุงเกียรติสกล) ผู้อำนวยการโรงเรียนนาแก้วพิทยาคม โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ MOE Safety Center ปฏิบัติงานโดยใช้Email ส่วนกลางของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 โรงเรียนนาแก้วพิทยาคม ดังนี้ E-mail : [email protected]


41 แผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยสถานศึกษา สถานศึกษามีการเตรียมพร้อมการเผชิญเหตุความเพื่อปลอดภัยสถานศึกษา มีการซักซ้อม อย่าง เคร่งครัด สม่ำเสมอ หากเกิดกรณีฉุกเฉิน เหตุความไม่ปลอดภัยของสถานศึกษาต้องมีความพร้อม ในการเผชิญเหตุ เพื่อลด ระดับความรุนแรง ระงับเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย หรือแก้ไขปัญหา มีแนวทาง ดำเนินการ เตรียมพร้อมการ เผชิญเหตุ ดังนี้ 1. เมื่อได้รับแจ้งเหตุ ทางช่องทางต่าง ๆ ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหาสถานการณ์ 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา 2.1 แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center (กรณีได้รับการแจ้งเหตุผ่านช่องทางอื่นตามข้อ1) ให้ ผู้รับผิดชอบแจ้งเหตุ ได้ 4 ช่องทาง Application MOE Safety Center, Website www.moesafetycenter.com, LINE@MOESafetyCenter หรือที่ CallCenter 02-126-6565 2.2 แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการช่วยเหลือ 2.3 แจ้งผู้ปกครอง 3. ดำเนินการระงับเหตุความไม่ปลอดภัย หรือแก้ไขปัญหา 4. ติดตาม ดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง ให้ค าปรึกษาแก่นักเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัย 5. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการดำเนินงานและรายงาน หน่วยงานต้น สังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี แนวทางการดำเนินการเตรียมพร้อมการเผชิญเหตุ


42 รายงานผอ.สพป.สกลนครเขต 1


43 แนวทางการปฏิบัติการเผชิญเหตุ เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย สถานศึกษาสามารถปฏิบัติการเผชิญเหตุ เพื่อลดระดับ ความ รุนแรง ระงับเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย หรือแก้ไขปัญหา ตามขอบข่ายภัยสถานศึกษา 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence) 1.1 การล่วงละเมิดทางเพศ แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหาสถานการณ์ 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา แจ้งครูที่ปรึกษา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนิน การช่วยเหลือ และแจ้งผู้ปกครอง 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ดำเนินการระงับเหตุความไม่ปลอดภัย หรือแก้ไขปัญหา 5. ติดตาม ดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง ให้คำปรึกษาแก่นักเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัย 6. กรณีนักเรียนที่มีความเสี่ยงต้องให้ได้รับการคุ้มครอง การสงเคราะห์ในเบื้องต้นโดยทันที 7. กรณีนักเรียนต้องได้รับการสงเคราะห์ให้เจ้าหน้าที่ส่งต่อไปรับบริการสงเคราะห์ตามระเบียบกระทรวง ว่าด้วยการสงเคราะห์นักเรียน 8. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงานหน่วยงานต้นสังกัด และ ผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 1.2 การทะเลาะวิวาท/ความรุนแรง แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหาสถานการณ์ 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา แจ้งครูที่ปรึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหยุด เหตุการณ์ นั้น ๆ หาก เกินกำลังให้หาคนช่วยเหลือในการระงับเหตุแล้วแจ้งให้ ผู้บริหารสถานศึกษาทราบทันที 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ครูที่ปรึกษา ครูผู้ประสบเหตุ พูดคุย ให้กำลังใจ สร้างความไว้วางใจแก่นักเรียน รอจน นักเรียนผ่อน คลายลง ประสานเชิญผู้ปกครองมาพบนักเรียนที่สถานศึกษา เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง จากคำบอกเล่าของ นักเรียน ด้วยตนเอง แล้วร่วมกัน แสวงหาแนวทางช่วยเหลือนักเรียนไม่ให้กลับไป กระทำพฤติกรรมความรุนแรงขึ้นอีก


44 5. หากคู่กรณีอยู่ในสถานศึกษาเดียวกันให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันและเมื่อความขัดแย้ง ลดลงครู ฝ่าย กิจการนักเรียนจึงจัดให้ทั้งสองฝ่ายได้พบ เพื่อปรับความเข้าใจ และสร้าง ความรักความ สามัคคีกัน 6. หากคู่กรณีเป็นบุคคลภายนอกสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษามอบหมาย บุคลากร ที่เหมาะสม เป็น ผู้ดำเนินการในการแก้ไขปัญหา 7. จัดให้มีนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา สำหรับนักเรียนที่อยู่ระหว่างปรับพฤติกรรม คอยช่วยเหลือ แนะนำและ ให้คำปรึกษา 8. กรณีเหตุการณ์รุนแรง ให้รายงานข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้นอย่างเป็นทางการ ต่อหน่วยงานต้น สังกัด ภายใน 24 ชั่วโมง 9. เมื่อนักเรียนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว หรือมอบตัว สถานศึกษาต้องออก หนังสือ รับรองการ เป็น นักเรียนให้ 10. กรณีต้องการประกันตัวนักเรียน สามารถใช้ตำแหน่งหน้าที่ของข้าราชการ ในการประกันตัวได้ 11. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงาน ไปยัง หน่วยงานต้น สังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 1.3 การกลั่นแกล้งรังแก (Bully) แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้ง แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหาสถานการณ์ คัดกรองระดับ ความรุนแรงของการถูกกลั่นแกล้งรังแก 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา มอบหมายครูที่ปรึกษา หรือผู้เกี่ยวข้องให้คำแนะน า ปรึกษา ในการ แก้ปัญหา 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา 5. จัดเก็บข้อมูล การดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงาน และรายงาน หน่วยงาน ต้นสังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 1.4 การชุมนุมประท้วงและการจลาจล แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหา สถานการณ์ เพื่อระงับ เหตุทั้งในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ประสานภาคีเครือข่ายการมีสวนร่วมเพื่อร่วมแก้ ปัญหา โดยเน้นการไกลเกลี่ย ประนีประนอมตาม มาตรการจากเบาไปหาหนัก 5. ติดตาม ดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง ให้ค าปรึกษาแก่นักเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัย


45 6. จัดเก็บข้อมูล การดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงาน หน่วยงาน ต้นสังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 1.5 การก่อวินาศกรรม แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหา สถานการณ์ เพื่อระงับ เหตุทั้งในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา ประสานศูนย์ฉุกเฉิน โทร. 1669 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ประสานสถานีตำรวจในท้องที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา สนับสนุน ข้อมูล และ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 5. ตรวจสอบจำนวนนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัย 6. ประสานหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือ ดูแลบรรเทา ความ เดือดร้อนของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัย 7. ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ยประนีประนอมตาม มาตรการจาก เบาไป หาหนัก 8. ติดตาม ดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง ให้คำปรึกษาแก่นักเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัย 9. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงาน หน่วยงานต้น สังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 1.6 การระเบิด แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหา สถานการณ์ เพื่อระงับ เหตุทั้งในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา ประสานศูนย์ฉุกเฉิน โทร. 1669 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ประสานสถานีตำรวจในท้องที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา สนับสนุน ข้อมูล และ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 5. ตรวจสอบจำนวนนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัย 6. ประสานหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือ ดูแลบรรเทา ความ เดือดร้อนของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัย 7. ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ยประนีประนอมตามมาตรการ จากเบาไป หาหนัก 8. ติดตาม ดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง ให้ค าปรึกษาแก่นักเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัย


46 9. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงาน หน่วยงานต้น สังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 1.7 สารเคมีและวัตถุอันตรายทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหา สถานการณ์ เพื่อระงับ เหตุทั้งในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา ประสานศูนย์ฉุกเฉิน โทร 1669 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ประสานสถานีตำรวจในท้องที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา สนับสนุน ข้อมูล และ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 5. ตรวจสอบจำนวนนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัย 6. ประสานหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือ ดูแลบรรเทา ความเดือดร้อน ของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัย 7. ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย โดยเน้นการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมตามมาตรการจากเบาไปหา หนัก 8. ติดตาม ดูแลช่วยเหลือ คุ้มครอง ให้คำปรึกษาแก่นักเรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภัย 9. จัดเก็บข้อมูล การดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงาน หน่วยงาน ต้นสังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 1.8 การล่อลวง ลักพาตัว แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุหรือประสบเหตุ แล้วสถานศึกษาตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้น และประเมิน ปัญหาสถานการณ์ 2. ผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษาหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการช่วยเหลือ และแจ้ง ผู้ปกครอง 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ดำเนินการช่วยเหลือนักเรียนด้านร่างกาย จิตใจ ให้คำปรึกษาแก่นักเรียน 5. ติดตาม ดูแลช่วยเหลือนักเรียนคุ้มครอง ติดตาม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน 6. กรณีนักเรียนที่มีความเสี่ยงต้อง ให้ได้รับการคุ้มครอง การสงเคราะห์ในเบื้องต้นโดยทันที 7. กรณีนักเรียนต้องได้รับการสงเคราะห์ให้เจ้าหน้าที่ส่งต่อไปรับบริการสงเคราะห์ ตามระเบียบ กระทรวง ว่าด้วยการสงเคราะห์นักเรียน 8. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงานหน่วยงาน ต้นสังกัด และ ผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี


47 2. ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ 2.1 ภัยธรรมชาติ (แผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ แผ่นดินถล่ม ฯลฯ) แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหาสถานการณ์ เพื่อแจ้ง สัญญาณเตือนภัย 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินและประเมินสถานการณ์ 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายการมีสวนร่วมเพื่อร่วมแก้ปัญหา 5. อพยพนักเรียนเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย 6. คัดแยกปฐมพยาบาลเบื้องต้น 7. ส่งต่อ ติดตาม ช่วยเหลือ เยียวยา รายกรณี 8. สำรวจความเสียหาย 9. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงานหน่วยงาน ต้นสังกัด และผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 2.2 ภัยจากอาคารเรียน สิ่งก่อสร้าง แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประเมินปัญหา สถานการณ์ เพื่อแจ้ง สัญญาณเตือนภัย 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา ดำเนินการช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุ 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center 4. ประสานภาคีเครือข่ายการมีสวนร่วมเพื่อร่วมแก้ปัญหา 5. ให้การดูแลช่วยเหลือนักเรียน คุ้มครอง ติดตาม 6. จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษา สรุปผลการทำงานและรายงานหน่วยงาน ต้นสังกัด และ ผู้เกี่ยวข้องทราบตามกรณี 2.3 ภัยจากยานพาหนะ แนวทางการปฏิบัติ 1. สถานศึกษาได้รับแจ้งเหตุหรือประสบเหตุ แล้วตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นและประเมินปัญหาสถานการณ์ 2. รายงานผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษา ศูนย์ฉุกเฉิน โทร. 1669 แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้ง ผู้ปกครอง 3. แจ้งเหตุในระบบ MOE Safety Center


Click to View FlipBook Version