040E06AD-902E-4D21-B670-5034F435EF0C

ขนมไทย

๔ ภาค

ภาคเหนือ

ภาคอีสาน

ภาคกลาง

ภภาาคคใใตต้้้

จัดทำโดย



วิมลสิริ แก่นแก้ว ม.5/7 เลขที่4

คำนำ

รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็ นส่วนหนึ่งของวิชาการงาน
อาชีพชั้นมัธยมศึกษาปี ที่5เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่อง
ความเป็ นมาของขนมไทยทั้ง๔ภาคและได้ศึกษาอย่างเข้าใจ
เพื่อเป็ นประโยชน์กับการเรียน

ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็ นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือ
นักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่หากมีข้อแนะนำ
หรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัย
มา ณ ที่นี้ด้วย

ผู้จัดทำ



วิมลสิริ แก่นแก้ว

สารบัญ หน้า

เรื่อง

ก
คำนำ
สารบัญ

ขนมไทยภาคเหนือ ข
ขนมไทยภาคกลาง
ขนมไทยภาคอีสาน

ขนมไทยภาคใต้ ๑
บรรณานุกรม


๕



๙



๑๓



๑๖

ภาคเหนือ

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคเหนือ

ภ า ค เ ห นื อ ขนมจ๊อกหรือขนมเทียน

Kanom Tian

“ขนมจ๊อก” (ภาษากลางเรียกขนมเทียน) เป็ นขนม

พื้ นเมืองทางภาคเหนือที่ชาวบ้าน คำว่า “จ๊อก” ใน

ภาษาเหนือ แปลว่า “การมัดสิ่งของให้เป็ นกระจุกมี

ยอดแหลมๆ” เช่น การจ๊อกถุงแซ่ว แปลได้ว่า การ

มัดถุงพลาสติก ดังนั้นขนมไทยชนิดนี้ จึงมีลักษณะ

เป็ นยอดแหลมดังชื่อของมัน

วิธีทำ

1. ทำไส้ขนม นำมะพร้าวขูดลงผัดในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ผัดพอหอม ใส่

เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากัน

2. ผัดไส้มะพร้าวจนเหนียวดีแล้ว พักไว้

3. ทำแป้ งขนม นำแป้ งนวดผสมกับน้ำ และเกลือป่ น 1 ช้อนชา ให้เข้ากันจน

เป็ นก้อน

4. ฉีกใบตองกว้างประมาณ 10 ซม. นำด้านที่ห่อมาทาน้ำมันให้ทั่ว

5. นำแป้ งที่นวดมาทำเป็ นแผ่นกลม ใส่ไส้มะพร้าวตรงกลาง แล้วห่อแป้ งให้มิด เ าทฉนศลบกุอญางล
ไส้ แล้วคลึงเป็ นก้อนกลม ง
6. ทำใบตองเป็ นรูปทรงกรวย ใส่ขนมลงในใบตอง พับทบล่าง ซ้าย ขวา นำ

ด้านที่แหลมสอดพับ แล้วห่อจะได้ขนมทรงสามเหลี่ยม

7. นำไปนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 20 นาที

นิยมทำกันทุกบ้านเมื่ อมีเทศกาลงานบุญสำคัญต่างๆ

เช่น งานปี๋ ใหม่เมืองหรือสงกรานต์ วันเข้าพรรษา

วันพระใหญ่ต่างๆ และงานบุญงานบวช

2

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคเหนือ

ภ า ค เ ห นื อ ขนมวง

Kanom Wong

ขนมวงเป็ นขนมที่เริ่มมาจากคนล้านนา ที่มีส่วนติด
กับทางภาคเหนือของไทยเรา เมื่อเริ่มมีการไปมา
หาสู่ การค้าขายขนมวงนี้ ก็มีการนำมาทำกิน และขาย
กันในภาคเหนือมาเรื่อยๆ เริ่มมาจาก สุโขทัย พิจิตร
กำแพงเพชร และพิษณุโลก จนภายหังทำให้เรา
เข้าใจกันผิดว่า ขนมวง เป็ นขนมที่ชาวพิษณุโลกเริ่ม
มีการทำกินกัน

วิธีทำ เ าทฉนศลบกุอญางล
1. ผสมแป้ งข้าวเหนียวและกล้วยน้ำว้าสุก นวดให้เข้ากัน ง
2. ใส่ไข่ไก่ นวดให้เข้ากัน
3. เติมน้ำทีละน้อย นวดไปเรื่อย ๆ
4. นวดจนส่วนผสมเข้ากัน และติดกันเป็ นก้อน
5. หยิบแป้ งมาคลึงให้เป็ นเส้นยาว แล้วนำปลายมาชนกันเป็ นวงกลม
6. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำแป้ งที่เตรียมไว้ลงทอด
7. พอขนมเหลืองทั่ว ตักขึ้นใส่ตะแกรงพักไว้
8. เคี่ยวน้ำอ้อยจนเหนียวได้ที่ หยอดลงบนหน้าขนมวง

นิยมทำขนมนี้ ในงานปอยหรืองานบุญ

3

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคเหนือ

ภ า ค เ ห นื อ ขนมศิลาอ่อน

Kanom Silaeon

นายสมชาติ วงศ์สุวัฒน์ เป็ นบุคคลที่ได้รับการ
ถ่ายทอดการทำขนมไทยมาจากพี่สาว (นางกุหลาบ
ช่วยเต็ม) ได้พยายามดัดแปลงและพัฒนาขนมเปี ยก
ปูนที่มีความยุ่งยาก และเสียง่าย จนกระทั่งกลาย
เป็ นขนมศิลาอ่อนที่มีความทันสมัยมากขึ้ น

วิธีทำ
1. ผสมแป้ งข้าวเจ้า กะทิ และ เกลือ นวดให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำใบเตย และน้ำเปล่า ประมาณ 2 ถ้วย นวดให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลทรายละลาย
4. เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งไฟอ่อนๆ
5. กวนขนมตลอดเวลา จนกระทั่งแป้ งสุก และข้นเหนียว ปิ ดไฟ
6. เทขนมลงในถาด ทิ้งไว้ให้เย็น ตัดขนมเป็ นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด โรยด้วยถั่วเขียว
คั่ว

สามารถนำมารับประทานได้ทุกโอกาส เช่น หลัง
อาหารมื้ อเช้าและเย็น อาหาว่าง หรืองานเลี้ ยง
สังสรรค์โอกาสต่างๆ

4

ภาคกลาง

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคกลาง

ภาคกลาง ขนมกลีบลำดวน

Kanom Kleeb lamduan

ขนมกลีบลำดวน เป็ นหนึ่งในขนมมงคลไทยที่คน
โบราณจะทำกันเฉพาะในรั้ววังเท่านั้น ปั จจุบันเป็ น
ของที่หาทานได้ง่ายเพราะมีการสืบทอดต่อกันมาจาก
กลุ่มสตรีในวังสู่ผู้คนภายนอก

วิธีทำ
1.เริ่มจากการเตรียมชามผสม ตะแกรงร่อนแป้ ง ใส่แป้ งสาลี น้ำตาลไอซิ่ง เกลือ ผสมพอเข้า
กัน ค่อยๆ เทน้ำมันพืชใส่ลงไป ค่อยๆ นวดจนเป็ นก้อนเดียวกัน คลุมพลาสติก พักแป้ งไว้
1 ชั่วโมง
2.นำแป้ งมาผสมสีผสมอาหารตามต้องการหรือจะไม่ใส่ก็ได้ ปั้ นเป็ นก้อนกลมไว้ หั่นเป็ น 3
ส่วนติดเกสรตรงกลาง (ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความอดทนและความประณีตของผู้ทำสักเล็ก
น้อย) จากนั้นตักวางบนถาดอบ เรียงกันไว้ โดยเว้นระยะห่างนิดนึง เพื่อไม่ให้ขนมติดกัน
3.อบที่อุณหภูมิ 125 องศาเซลเซียส เป็ นเวลา 20 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุกซึ่งอาจใช้
เวลาแตกต่างกันไปในแต่ละเตาอบ
4.เรียงขนมภาชนะที่มีฝาปิ ด เอาเทียนอบขนมจุดพอไหม้ ดับให้เกิดควัน วางตรงกลางชาม
ขนม ปิ ดฝาอบประมาณ 10 นาที
5.เก็บขนมในภาชนะที่ปิ ดฝาสนิท สามารถเก็บได้ประมาณ 1 เดือน

หากมีงานมงคลมักจะนำมาประกอบพิธีเนื่ องด้วยคน
โบราณมีความเชื่อกันว่า ช่วยทำให้ชื่อเสียงขจรขจาย
ไปไกล สร้างความงดงามให้กับชีวิต

6

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคกลาง

ภาคกลาง ข้าวเหนียวมูน

Mango Sticky Rice

เป็ นของหวานที่นิยมในไทยตั้งแต่สมัยปลายอยุธยา
และช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ตามบันทึกในโคลงกาพย์เห่
ชมเครื่องคาวหวาน บทประพันธ์ในรัชกาลที่ 2 แห่ง
กรุงรัตนโกสินทร์

วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวไปล้างทำความสะอาดและแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ
(กรณีต้องการทำข้าเหนียวที่มีสีต่างๆ ก็ให้ใส่สีลงไปในน้ำที่แช่ค้างคืนไว้ด้วย)
2. นำผ้าขาวบางรองไว้ในซึ้งหรือหม้อนึ่ง แล้วจึงนำข้างเหนียววางลงบนผ้าขาวบาง
จากนั้นนำไปนึ่งจนข้าว เหนียวสุก
3. ในหม้อขนาดเล็ก ใส่น้ำตาล, เกลือป่ น (3/4 ช้อนชา) และหัวกะทิ และนำไปตั้งบน
ไฟอ่อนๆ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงใส่ใบเตยลงไป ทิ้งไว้สักพักจึงปิ ด
ไฟ
4. ในชามขนาดกลาง ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้จนสุกดีแล้วลงไป จากนั้นจึงใส่น้ำกะทิที่
เคี่ยวไว้ในขั้นตอนที่สามตามลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว และทิ้งไว้อย่างน้อย 15
นาที ก็สามารถนำไปเสริฟได้ (เวลาเสริฟอาจโรยหน้าด้วยถั่วทอง)

ข้าวเหนียวมะม่วงก็เป็ นของหวานที่คนไทยนิยม
ทานดับร้อน เพราะทำง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก

7

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคกลาง

ภาคกลาง ข้าวตังหน้าตั้ง

Savory Rice Crackers

มาจากสมัยก่อนที่มีการเลี้ ยงคนจำนวนมาก เวลาหุง
ข้าวต้องใช้กระทะใบใหญ่ๆ เรียก “กระทะใบบัว”
เป็ นเหตุให้มีข้าวติดก้นกระทะอยู่มาก ข้าวที่ติดก้น
กระทะนี้ จะร่อนออกมาเป็ นแผ่นๆ กลายเป็ น “ข้าว
ตัง”

วิธีทำ
1. นำข้าวตัง ทอดกับน้ำมันจนสุกกรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. นำกะทิตั้งไฟพอเดือดแล้วเคี่ยวให้แตกมันเล็กน้อย แล้วใส่เนื้ อสัตว์ ผัดพอสุก
3. ใส่ส่วนผสมอื่นๆ ลงตามปรุงรส รสชาติจะออกเปรี้ยว หวาน เค็ม
4. จากนั้นจึงแต่งหน้าด้วยน้ำมันพริกเผาเล็กน้อย ทอดข้าวตังให้สุกเหลืองกรอบ
เสิร์ฟคู่กัน

ข้าวตังออกตัดเป็ นชิ้ น ๆ แจกจ่ายกันกินโดยทั่ว
หรือจะเก็บไว้กินได้นาน ๆ ก็ยังคงอร่อยตราบใด
ที่ข้าวตังยังไม่เหม็นหืน

8

ภาคอีสาน

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคอีสาน

ภ า ค อี ส า น ข้าวจี่

Grilled sticky rice with egg

ข้าวจี่เป็ นอาหารที่ชาวอีสานทำเพื่อเป็ นเสบียง
สำหรับเวลาต้องเดินทางไกลหรือเวลาไปเลี้ ยงสัตว์
ตามท้องทุ่งนา ชาวบ้านจะนิยมห่อข้าวจี่ไปรับ
ประทานด้วย เนื่องจากข้าวจี่เป็ นอาหารที่สามารถ
เก็บไว้ได้นานตลอดทั้ งวัน

วิธีทำ
1.นำข้าวเหนียวล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืนสำหรับข้าวเหนียวเก่า
2.นำไปนึ่ง 40นาที เมื่อผ่านไป 20นาที ให้กลับข้าวเหนียวอีกฝั่ ง
3.นำหัวกะทิ เกลือป่ น ใส่ลงในหม้อ ต้มให้เข้ากันดี อย่าให้กะทิแตกมัน รอจนร้อน ปิ ดแก๊สได้เลย
4.นำข้าวเหนียวที่นึ่งเสร็จเทใส่ชามผสม ราดน้ำกะทิที่ต้มไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน พักให้คลายร้อน
5.ขึ้นรูปเป็ นวงกลม ใช้ฝาที่มีส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 ซม. ปั้ นให้ไม่แน่นเกินไป พักไว้
6.เตรียมไข่สำหรับชุบ ตอกไข่ใส่ชามผสม ตามด้วยซอสปรุงรสฝาเขียว ผงปรุงรส น้ำตาลทราย ตี
ให้เข้ากันดี
7.นำข้าวเหนียวไปย่างที่เตาถ่านก่อน ให้ทั้งสองด้านพอสุก จากนั้นนำไปชุบไข่ และนำไปย่างต่อ
8.พอผิวเริ่มตึง นำไปชุบไข่รอบสอง นำไปย่างต่อ จนไข่เริ่มแห้ง นำเนยมาทาให้ครบทั้งสองด้าน
เป็ นอันเสร็จ

ข้าวจี่นอกจากเป็ นอาหารที่ชาวอีสานทำขึ้ นเพื่อการ
ทำบุญและนิยมทำรับประทานแล้ว ยังเป็ นอาหารที่ผู้
บริโภคทั่วไปสามารถรับประทานได้อีกด้วย

10

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคอีสาน

ภ า ค อี ส า น ข้าวโป่ง

Crisp rice-flour tortillas

ข้าวโป่ งนั้นมีเรื่องเล่าว่าเกิดจากกลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ที่ว่าง
จากการทำไร่ทำนาจึงได้คิดทำขนมให้เด็กๆได้กินเล่น
รวมทั้งได้เป็ นเครื่องถวายทานด้วย นอกจากนี้ ชาว
บ้านยังได้นำไปเป็ นส่วนประกอบอย่างหนึ่งในพีธีบูชา
ข้าวในบุญเดือนสี่

วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวสุกใส่ครกกระเดื่องตำให้ละเอียด ผสมน้ำตาลทราย และงาดำ ตำต่อไป
จนข้าวเหนียวสุกผสมกับน้ำตาลเป็ นเนื้ อเดียวกัน พักไว้
2. นำไข่ไก่ต้มสุกเลือกเฉพาะไข่แดงผสมกับน้ำมันหมูเป็ นเนื้ อเดียวกัน นำไปทาบาง ๆ
บนแผ่นพลาสติก นำแป้ งจากข้อ 1 ปั้ นเป็ นลูกกลม ๆ ประมาณไข่ไก่ วางลงบนแผ่น
พลาสติกแล้วใช้ไม้รีดให้เป็ นแผ่นบาง ๆ มน ๆ แล้วลอกออกจากแผ่นพลาสติก นำไป
ผึ่งแดดประมาณ 1 วัน สามารถเก็บไว้รับประทานได้ 3 สัปดาห์
3. ย่างด้วยไฟอ่อน ๆ แป้ งข้าวโป่ งจะค่อย ๆ พองออก ลักษณะสีน้ำตาลอ่อนผสมสี
ขาว ให้รสชาติหอมหวาน

ชาวบ้านจะนิยมทำข้าวโป่ งในฤดูหนาว หลังจาก
การเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ เพราะเวลาปิ้ งข้าวโป่ งจะ
อยู่หน้ากองไฟตลอดเวลา

11

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคอีสาน

ภ า ค อี ส า น ขนมกระยาสารท

Kanom Krayasart

อดีตเมื่อถึงเทศกาลสารทไทย จะมีการกวนกระยา
สารทแข่งกันเป็ นที่สนุกสนาน และคนรุ่นเก่าจะนิยม
นำไปมอบให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ หรือแลกกันกิน
และถ้าให้ครบเครื่ องจริงๆต้องมีมะพร้าวขูดโรยบน
กระยาสารทแล้วกินคู่กับกล้วยไข่

วิธีทำ
1. เคี่ยวน้ำตาลกับหัวกะทิด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อนจนเป็ นยางมะตูม ใส่แบะ
เซ คนให้เข้ากัน ยกลงพักไว้
2. ผสมของที่คั่วทั้งหมดคนให้เข้ากันดี ใส่ลงในน้ำตาลที่เครี่ยวไว้คนให้เข้ากัน
3. ปั้ นเป็ นก้อนกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร หรือจะเทใส่
ถาดเกลี่ยให้แบน เย็นแล้วตัดเป็ นชิ้นสี่เหลี่ยมก็ได้

วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งตรงกับเดือน
กันยายน ชาวบ้านจะกวนกระยาสารทมาทำบุญ
อุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว กลาย
เป็ นประเพณีสารทไทย หรือเทศกาลกวนขนม
กระยาสารท

12

ภาคใต้

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคใต้

ภ า ค ใ ต้ ขนมไข่ปลา

Kanom

เกิดจากขนมที่ใช้ในการทำพิธีกรรมทางศาสนา เดิม
มักทำในช่วงเทศกาลที่สำคัญเพื่ อกราบไหว้บรรพบุรุษ
ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากจังหวัด
นครศรีธรรมราช และได้นำมาดัดแปลงให้เข้ากับ
ลักษณะหรือชุมชนของเกาะสมุย

วิธีทำ
1.ทำน้ำเชื่อมไว้ก่อน โดยต้มน้ำใส่ใบเตยลงไป ค่อยๆ ใส่น้ำตาลลงไปคนให้ละลายตั้งไฟอ่อนมากๆไว้
2. ผสมแป้ งเพื่อทำตัวขนม แป้ งข้าวเจ้าและแป้ งข้าวเหนียว เทใส่ในกะละมัง ใส่เนื้ อลุกตาลยีลงไป
3. นวดผสมให้เป็ นเนื้ อเดียวกัน ถ้าแห้งเกินไป ค่อยๆเติมน้ำนะค่ะ อย่าเติมที่เดียวเยอะ จะแฉะเกินไป
4. จากนั้นปั้ นเป็ นเส้นๆ ลักษณะเหมือนไข่ปลา เอาปลายมาทับกันไว้ เรียงใส่ถาดรอต้มไว้
5. น้ำเชื่อมที่ได้แบ่งใส่กะละมังอีกใบไว้สำหรับแช่ขนมไข่ปลาที่ต้มสุกแล้ว เอาขนมไส้ปลาที่ปั้ นไว้ลงต้ม
ในน้ำเชื่อมที่เหลือ ต้มจนสุกขนมไข่ปลาที่สุกแล้วจะลอยขึ้นมา ช้อนมาใส่ในน้ำเอมที่แบ่งไว้
6. เวลาจะกินก็เตรียมมะพร้าวคลุกกับเกลือสำหรับคลุก ช้อนเอาแต่เนื้ อขนมไข่ปลา เอามาคลุกกับ
มะพร้าวจัดใส่จานค่ะ

มักจะทำประกอบในเทศกาลสำคัญ เพื่อกราบไหว้
บรรพบุรุษ และทำถวายวัดในงานบุญประเพณีต่างๆ

14

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคใต้

ภ า ค ใ ต้ ขนมด้วง

Kanom

เป็ นขนมโบราณพื้ นบ้านภาคใต้ ขนมด้วงทอดเป็ น
ขนมโบราณ ทำจากแป้ งมันและแป้ งข้าวจ้าว นวด
ด้วยน้ำดอกมะลิ ปั้ นเป็ นก้อนยาวขนาดประมาณสี่
เซนติเมตร นำไปนึ่ง เมื่อสุกให้นำมาจัดจาน โดยโรย
ด้วยมะพร้าวขูดหรือน้ำตาลทราย

วิธีทำ
1.แป้ งมันและแป้ งข้าวจ้าวผสมเข้าด้วยกัน ค่อยๆเทน้ำดอกมะลิลงไป
กวนจนแป้ งเป็ นก้อนร่อนจากกระทะทองเหลืองยกลง
2. นำแป้ งมานวดมือ โดยผสมสีผสมอาหารลงไปตามชอบ นวดจนแป้ ง
นุ่มและไม่ติดมือ คลึงแป้ งเป็ นตัวด้วงปลายแหลมด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่ง
มน ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร (กะๆเอาค่ะ)
3. นำไปนึ่งในซึ้งโดยปูรองด้วยผ้าขาวบาง นึ่งจนสุก นำขนมที่นึ่งสุกแล้ว
จัดใส่จาน พรมด้วยหัวกะทิโรยด้วยมะพร้าวขูด งาข้าวและน้ำตาลทราย

สามารถหาทานได้ตามตลาดพื้ นบ้านทางภาคใต้ได้
ตลอดทุกเทศกาล

15

ขนมไทย 4 ภาค

THAI DESSERTS

ขนมไทยภาคใต้

ภ า ค ใ ต้ ขนมกอและห์

Kanom

ขนมกอแหละห์ เป็ นขนมพื้ นเมืองของจังหวัด
สงขลา และ พื้ นที่ใกล้เคียง เป็ นขนมหวานชนิดหนึ่ง
ซึ่งนิยมรับประทานกันในท้องถิ่นอำเภอสทิงพระ
จังหวัดสงขลา มีลักษณะเป็ นชิ้ นสี่เหลี่ยม

วิธีทำ
1.ทำตัวขนมโดยนำแป้ งข้าวเหนียว ผสมกับน้ำเปล่า , หัวกะทิ (1 ถ้วยตวง) และ
น้ำตาลทราย นำไปตั้งบนไฟอ่อน
2.ค่อยๆ กวนจนส่วนผสมทุกอย่างละลาย และเหนียวข้น จากนั้นจึงเทส่วนผสมตัว
ขนมลงในถาดที่เตรียมไว้ หรือกระทงใบตอง พักทิ้งไว้ให้เย็น
3.ระหว่างรอตัวขนมเย็น ทำหน้าขนมโดยนำหัวกะทิ (2 1/2 ถ้วยตวง) ไปเคี่ยวบนไฟ
อ่อนๆ พอกะทิเริ่มแตกมัน จึงใส่ถัวลิสงคั่วลงไปกวนด้วย เมื่อเข้ากันดีแล้วจึงปิ ดไฟ
4.ตัดขนมให้เป็ นชิ้นขนาดที่ต้องการ จากนั้นจึงตักส่วนผสมหน้าขนมทาลงบนตัวแป้ ง
จัดใส่จาน เสริฟเป็ นของว่างในวันสบายๆ

นิยมรับประทานกันในท้องถิ่นอำเภอสทิงพระใช้รับ
ประทานคู่กับเครื่องโรยหน้ามีมะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งบด
และน้ำตายทรายละเอียด

16

บรรณานุกรม

https://sites.google.com/site/khanomthai4person/khnm-thiy-
phakh-henux
https://th.wikipedia.org/wiki/ขนมไทย
https://food.trueid.net/detail/gqD0wNW44Lmq
https://savourworld.com/archives/1915
https://chefoldschool.com/2021/02/27/ขนมศิลาอ่อน-ขนมไทยพื้นบ/
https://www.chiangmaicitylife.com/spoonandfork/spoon-and-
fork-magazine/main-dish-กลีบลำดวน-ขนมไทยแห่งป/
https://food.trueid.net/detail/lnX2RvklXmWG
https://www.mangozero.com/mango-with-stickyrice-mango-
month/
https://www.silpa-mag.com/culture/article_6161
https://sites.google.com/site/khnm4phakh/khnm-kx-laea-h
https://board.postjung.com/1244629
https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/2129/กระยาสารท