43
รายชือ่ ผู้เช่ียวชาญตรวจสอบเครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการวจิ ัย
รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน เรื่อง สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต โดยการใช้สื่อเกมออนไลน์ Wordwall ของนักเรียน
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรยี น เรื่องระดบั ของภาษา
1. นางสุนสิ า สงวนถ้อย ตำแหน่งครูชำนาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
2. นางปญุ ชรศั มิ์ แพ่งกลุ ตำแหนง่ ครชู ำนาญการพเิ ศษ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
3. นางสาวสรุ ยี ์พร พนั ทวศี ักดิ์ ตำแหนง่ ครชู ำนาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
44
ภาคผนวก ข
เครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการจดั การเรยี นรู้
45
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 8 ภำคเรยี นที่ ๑
ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๑
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย เวลำ ๑๒ ชว่ั โมง
รหสั วิชำ ท ๒๑๑๐๑ รำยวิชำภำษำไทย เวลำ 4 ชัว่ โมง
หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๒ สขุ ใจใกลว้ รรณกรรมศำสนำ (โคลงโลกนิติ)
แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี 8 สำนวนทเ่ี ป็นคำพังเพยและสภุ ำษติ
๑. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตวั ชี้วัด
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ท ๔.๑ เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลกั ภำษำไทย กำรเปลยี่ นแปลงของภำษำและพลงั
ของภำษำ ภมู ิปญั ญำทำงภำษำ และรักษำภำษำไทยไว้เป็นสมบัติของชำติ
ตวั ชว้ี ัด
ท ๔.๑ ม.๑/๖ จำแนกและใชส้ ำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภำษิต
จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นสำมำรถอธบิ ำยควำมหมำยของสำนวนท่ีเป็นคำพังเพยและสภุ ำษติ ได้ (K)
๒. นกั เรียนสำมำรถวิเครำะหส์ ำนวนทเี่ ปน็ คำพงั เพยและสุภำษติ ได้ (P)
๓. นักเรียนเห็นควำมสำคญั ของกำรนำสภุ ำษิตและคำพงั เพยมำประยกุ ต์ใชใ้ นกำรปฏบิ ตั ติ น (A)
๒. สำระสำคญั
คำพังเพยและสุภำษิตเป็นถ้อยคำสำนวนที่มุ่งให้คติในกำรดำเนินชีวิต โดยคำพังเพยมีควำมหมำย
กลำง ๆ ที่แฝงข้อคิดเตือนใจให้นำไปปฏิบัติ ส่วนสุภำษิตมุ่งเน้นกำรสั่งสอนตักเตือนให้จดจำ ใ นโคลงโลกนิติมี
คำสอนที่สอดคล้องกบั คำพังเพยและสุภำษิต กำรเขำ้ ใจเน้อื หำทำให้สำมำรถนำคำพังเพยและสุภำษิตไปประยุกต์
ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้
๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑. ควำมร(ู้ K)
สำนวนทเ่ี ป็นคำพงั เพยและสภุ ำษติ
๓.๒. ทกั ษะ/กระบวนกำร/กระบวนกำรคดิ (P)
กำรจำแนก กำรสรุปควำมรู้
๓.๓. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์(A)(ประจำหน่วยกำรเรยี นร)ู้
ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ ม่ันในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย
๓.๔. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์(A)(ประจำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้)
ใฝ่เรียนรู้ รกั ควำมเปน็ ไทย
๓.๕. สมรรถนะสำคญั ผเู้ รยี น(C)
ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร ควำมสำมำรถในกำรคดิ
๔. ช้นิ งำนหรอื ภำระงำน (หลกั ฐำน รอ่ งรอยแสดงควำมร)ู้
แบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรยี นเรอ่ื ง สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภำษิต
46
๕. กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๑. วธิ กี ำรวดั และประเมนิ ผล
สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรมรำยบุคคล
๒. เครอ่ื งมอื
แบบสังเกตพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมรำยบุคคล
๓. เกณฑก์ ำรประเมนิ
-
๖. กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
คำบท่ี ๑
ขน้ั นำ
1. ครูกล่ำวทักทำยนกั เรียน
2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง สำนวนท่เี ปน็ คำพงั เพยและสภุ ำษิต จำนวน 20 ข้อ
ขน้ั สอน
๑. นักเรียนศึกษำควำมหมำยและลักษณะของสำนวนจำกหนังสือหลักภำษำและกำรใช้ภำษำไทย
โดยมปี ระเดน็ ดังตอ่ ไปน้ี
- ประเภทของสำนวน
- ควำมหมำยของสำนวน
- ตวั อยำ่ งของสำนวน
2. นกั เรยี นทำกจิ กรรมรำยบคุ คล โดยกำรใชส้ อ่ื เกมออนไลน์ Wordwall เร่อื ง “สลบั คำ จำสำนวน”
3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั เฉลยกจิ กรรม
ขนั้ สรปุ
๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ควำมรเู้ ก่ียวกบั เรอ่ื ง สำนวน โดยใชค้ ำถำมเพอ่ื ตรวจสอบควำมเขำ้ ใจของ
นกั เรยี น ตัวอย่ำง
- สำนวนใดท่สี อนเก่ียวกบั กำรประมำณตน
- ให้นักเรยี นลองยกตวั อย่ำงสำนวนพร้อมกับควำมหมำยมำ ๑ สำนวน
คำบท่ี ๒
ขนั้ นำ
๑. ให้นกั เรยี นรว่ มกันเตมิ ตัวอักษรทห่ี ำยไปในคำพังเพยและสุภำษิต โดยครมู รี ปู และบอกควำมหมำย
เชน่
ก ร _ ต่ _ _ ต_ื่ _ ม
ไ_่ ดี โ_ษ _่ี โ ท_
(ต่ืนเตน้ ไปกอ่ นลกลว่ ง_งหนำ้ โดยไมค่ ิดตริตรองให้ดีเสียก่อน)
47
นำ้ _ _ต_ _ ด
(เม่ือหมดอำนำจวำสนำ ควำมผิดท่ีเคยทำไวก้ ็คอ่ ย ๆ
ผดุ ขึน้ มำใหค้ นอ่นื เหน็ )
จำกนนั้ ร่วมกนั สนทนำเกย่ี วกบั ลักษณะของคำพงั เพย
ขนั้ สอน
๑. นักเรียนศึกษำควำมหมำยและลักษณะของคำพังเพยจำกหนังสือหลักภำษำและกำรใช้ภำษำไทย
โดยมีประเดน็ ดังตอ่ ไปน้ี
- ควำมหมำยของคำพงั เพย
- ตัวอยำ่ งของคำพังเพย
2. นกั เรยี นทำกจิ กรรมรำยบคุ คล โดยกำรใชส้ อ่ื เกมออนไลน์ Wordwall เรือ่ ง “สำนวน ชวนคน้ หำ”
3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั เฉลยกจิ กรรม
ขนั้ สรุป
๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปควำมรู้เกี่ยวกับเรื่อง คำพังเพย โดยใช้คำถำมเพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจ
ของนกั เรียน ตวั อย่ำง
- ใหน้ ักเรียนลองยกตวั อย่ำงคำพังเพยพร้อมกบั ควำมหมำยมำ ๑ สำนวน
คำบที่ ๓
ขน้ั นำ
๑. กลำ่ วทักทำยนักเรยี น
๒. นกั เรยี นทบทวนควำมรจู้ ำกคำบท่ีแล้ว
ขน้ั สอน
1. นักเรยี นทำกิจกรรมท่มี ีชือ่ วำ่ “ถอดรหสั ลบั สำนวนไทย” ซงึ่ มขี นั้ ตอนในกำรทำกิจกรรมดงั นี้
๑.๑ เมอ่ื ผเู้ รยี นนง่ั ประจำกลมุ่ เพอ่ื เตรียมตัวในกำรดำเนนิ กจิ กรรม
๑.๒ ผู้สอนอธิบำยพร้อมทั้งสำธิตกำรทำกิจกรรมเพื่อให้ผู้เรียนเข้ำใจได้อย่ำงชัดเจน ตัวอย่ำงเช่น
ผ้สู อนมรี ปู ภำพจำนวน ๔ รปู นำไปติดบนกระดำน ดังนี้
ภำพที่ติดบนกระดำนคือสุภำษิตที่มีชื่อว่ำ “ปิดทองหลังพระ” ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ กำรทำควำม
ดีแตไ่ ม่มใี ครเห็น
48
2. นกั เรยี นทำกจิ กรรมรำยบคุ คล โดยกำรใชส้ อ่ื เกมออนไลน์ Wordwall เร่อื ง “สำนวน ชวนคดิ ”
3. นกั เรียนและครูรว่ มกันเฉลยกจิ กรรม
ขนั้ สรุป
๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปควำมรู้เกี่ยวกับเรื่อง สุภำษิต โดยใช้คำถำมเพื่อตรวจสอบควำมเข้ำใจ
ของนักเรยี น ตัวอยำ่ ง
- ให้นกั เรียนลองยกตวั อย่ำงสุภำษติ พรอ้ มกบั ควำมหมำยมำ ๑ สำนวน
คำบที่ 4
ขน้ั นำ
1. ครูผู้สอนทกั ทำยนกั เรียนและรว่ มสนทนำเกี่ยวกับบทเรยี นทีผ่ ำ่ นมำ
ขน้ั สอน
1. นกั เรยี นรว่ มกนั ทบทวนควำมรใู้ นเรอ่ื ง สำนวนที่เปน็ คำพงั เพยและสุภำษิต
2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน เรือ่ ง สำนวนที่เปน็ คำพังเพยและสุภำษติ จำนวน 20 ขอ้
ขนั้ สรุป
๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ควำมรู้ ดงั น้ี
คำพังเพยและสุภำษิตเป็นถ้อยคำสำนวนที่มุ่งให้คติในกำรดำเนินชีวิต โดยคำพังเพยมี
ควำมหมำยกลำง ๆ ที่แฝงข้อคิดเตือนใจให้นำไปปฏิบัติ ส่วนสุภำษิตมุ่งเน้นกำรส่ังสอน ตักเตือนให้
จดจำ ในโคลงโลกนติ มิ ีคำสอนที่สอดคลอ้ งกบั คำพังเพยและสุภำษิต กำรเข้ำใจเน้ือหำทำให้สำมำรถ
นำคำพังเพยและสุภำษติ ไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้
๒. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงควำมคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถำมทำ้ ทำย ดงั น้ี
- เพรำะเหตใุ ดคำสอนในสุภำษติ และคำพังเพยจงึ ใชไ้ ดเ้ สมอไม่ว่ำจะยคุ สมัยใด
๗. ส่ือกำรเรียนรู้
๑. สอ่ื รูปภำพกิจกรรม “ถอดรหัสลับ สำนวนไทย”
๒. หนังสอื หลกั ภำษำและกำรใชภ้ ำษำไทย
๓. รปู ภำพสำนวนสุภำษิต
49
บนั ทกึ หลงั แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้
ด้ำนควำมรู้ (K)
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำร (P)
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ดำ้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (C)
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ปัญหำและอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทำงแกไ้ ข
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่อื ......พัชรีภรณ.์ ....
(นำงสำวพัชรีภรณ์ เดชช)ู
นกั ศึกษำฝกึ ประสบกำรณ์วชิ ำชีพครู
50
รำยละเอยี ดเกณฑ์กำรใหค้ ะแนนจำกกำรสังเกตพฤติกรรมกำรมสี ว่ นรว่ มในชัน้ เรยี นรำยบุคคล
รำยกำรประเมิน ระดับคณุ ภำพ/ระดับคะแนน
1. ตัง้ ใจเรยี น
2 1.5 1 0
2. มสี ่วนรว่ มในกำรทำ
กจิ กรรมในช้นั เรยี น สนใจเรยี น มีควำม สนใจเรียน มีควำม สนใจเรยี น มคี วำม ไมส่ นใจเรยี น และ
3. ตอบคำถำมในชน้ั เรียน พร้อมในกำรใฝ่
เรียนรู้ พรอ้ มในกำรใฝเ่ รียนรู้ พรอ้ มในกำรใฝ่เรยี นรู้ ไม่มีควำมพรอ้ มใน
มีสว่ นร่วมในกำร เป็นส่วนใหญ่ บ้ำง กำรใฝเ่ รียนรู้
ทำกจิ กรรมทุก
กจิ กรรม มสี ว่ นรว่ มในกำรทำ มีสว่ นร่วมในกำร ไม่มีสว่ นรว่ มใน
ตอบคำถำมทีค่ รู กจิ กรรมเปน็ สว่ นใหญ่ ทำกิจกรรมบำง กำรทำกจิ กรรม
ถำมทกุ ครั้ง
กจิ กรรม
ตอบคำถำมท่คี รู ตอบคำถำมที่ครู ไม่ตอบคำถำมท่คี รู
ถำมเกือบทุกคร้ัง ถำมเพียงบำงคร้งั ถำม
4. ตง้ั ใจทำงำน เอำใจใส่ตอ่ งำนที่ เอำใจใสต่ ่องำนที่ เอำใจใส่ตอ่ งำนที่ ไมเ่ อำใจใสต่ ่องำน
5. ตรงตอ่ เวลำ ไดร้ บั มอบหมำย ได้รับมอบหมำยและ ไดร้ ับมอบหมำย ทไี่ ดร้ ับมอบหมำย
และทำงำนด้วย ทำงำนดว้ ยควำม และทำงำนด้วย
ควำมตง้ั ใจทกุ คร้งั ตงั้ ใจเป็นส่วนใหญ่ ควำมตัง้ ใจบำงงำน สง่ งำนท่ีไดร้ บั มอบ
หมำยไม่ทนั เวลำที่
ส่งงำนทไี่ ดร้ ับมอบ ส่งงำนที่ไดร้ บั มอบ สง่ งำนทีไ่ ด้รับมอบ กำหนดและไม่มี
หมำยก่อนเวลำที่ หมำยตรงเวลำตำมท่ี หมำยไมท่ นั เวลำท่ี ควำมถูกตอ้ ง
กำหนดและมคี วำม กำหนดและมคี วำม กำหนดแต่มีควำม
ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง ถูกต้อง
เกณฑก์ ำรประเมนิ
คะแนน ระดับ
9 – 10 คะแนน ดีมำก
7 – 8 คะแนน
5 – 6 คะแนน ดี
นอ้ ยกวำ่ 5 คะแนน พอใช้
ควรปรับปรงุ
หมำยเหตุ : นกั เรยี นท่ีได้เกณฑค์ ุณภำพระดบั ดี ขน้ึ ไปจงึ ถือวำ่ ผ่ำน
51
แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล
คำชแ้ี จง : ใหส้ งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่ำงเรยี นแล้วขีด ลงในชอ่ งทตี่ รงกับระดับคะแนน
รำยกำรประเมนิ พฤติกรรมนักเรยี นรำยบคุ คล
ที่ ชือ่ - สกลุ ตงั้ ใจเรยี น มสี ว่ นรว่ มใน ตอบคำถำม ตง้ั ใจทำงำน ตรงต่อเวลำ รวม
กำรทำกิจกรรม ในชน้ั เรยี น
1 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 10
ในชนั้ เรยี น
2
3 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0 2 1.5 1 0
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
52
สอื่ การเรียนการสอน โดยการใชส้ อื่ เกมออนไลน์ Wordwall
เกมที่ 1 “สลับคำ จำสำนวน” https://wordwall.net/th/resource/38081487
เกมท่ี 2 “สำนวน ชวนค้นหา” https://wordwall.net/th/resource/38082402
เกมที่ 3 “สำนวน ชวนคดิ ” https://wordwall.net/th/resource/38110353
53
ภาคผนวก ค
เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู
54
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ ง สำนวนทเ่ี ปน็ คำพังเพยและสภุ ำษติ
รำยวชิ ำ ท21101 ภำษำไทย ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1
เร่ือง สำนวนทเี่ ปน็ คำพงั เพยและสภุ ำษิต จำนวน 20 ขอ้
คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนเลอื กคำตอบท่ถี กู ต้องท่ีสุดและทำเครอื่ งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ
1. สำนวนหมำยควำมว่ำอยำ่ งไร 5. “ววั ใครเขำ้ คอกคนนั้น” ตรงกบั ควำมหมำยขอ้ ใด
ก. ถ้อยคำท่กี ล่ำวสบื ตอ่ กนั มำช้ำนำน ก. สอนส่งิ ท่เี ขำรดู้ ีหรอื ถนดั อยู่แล้ว
โดยมคี วำมหมำยไมต่ รงตำมตวั ข. หวนกลบั ไปหำแบบเดิม ๆ ลำ้ สมัย
ข. ถอ้ ยคำทก่ี ล่ำวแนะนำ สั่งสอน ค. กรรมทใี่ ครสร้ำงไว้ ย่อมส่งผลให้แกผ่ นู้ น้ั
ด้วยหลกั ควำมจริง ง. เมอ่ื หมดอำนำจ ควำมช่วั ทที่ ำไว้กป็ รำกฏ
ค. ถ้อยคำท่ีแฝงข้อคดิ คตเิ ตอื นใจ
ง. ถอ้ ยคำทมี่ ีควำมหมำยกลำง ๆ 6. คำพังเพยหมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร
ก. ถ้อยคำท่ีแฝงขอ้ คิดคตเิ ตือนใจใหน้ ำไปปฏิบตั ิ
2. “สมชำยตอ่ หนำ้ คณุ ครทู ำตัวดมี ำกเปน็ เดก็ เรียบร้อย ไม่เน้นกำรสัง่ สอน
แตพ่ อคลอ้ ยหลงั ไปไมก่ นี่ ำทีเทำ่ นนั้ แหละแทบจะเป็น ข. ถ้อยคำทม่ี คี วำมหมำยเชิงเปรยี บเทยี บ
คนละคนเลย” ขอ้ ควำมขำ้ งตน้ ตรงกบั สำนวนข้อใด ค. ถ้อยคำทม่ี ุง่ เน้นไปในกำรสงั่ สอน
ง. ถอ้ ยคำท่มี ีควำมหมำยโดยกวำ้ ง
ก. ข้ำงนอกขรุขระ ข้ำงในต๊ะตง้ิ โหน่ง
ข. ตอ่ หนำ้ มะหลับ ลบั หลังตะโก 7. สำนวนขอ้ ใดมีควำมหมำยแตกตำ่ งจำกขอ้ อนื่
ค. น้ำขนุ่ อยใู่ น นำ้ ใสอยู่นอก ก. เกี่ยวแฝกมงุ ปำ่
ง. บวั ไมใ่ หช้ ้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ข. ขนมพอสมนำ้ ยำ
ค. เข็นครกข้ึนภูเขำ
3. สำนวนในขอ้ ใดท่ีควำมหมำยไมค่ ลำ้ ยคลงึ กนั ง. งมเขม็ ในมหำสมทุ ร
ก. หญ้ำปำกคอก - เสน้ ผมบงั ภูเขำ
ข. เอำมือซกุ หีบ - หำเหำ่ ใส่หวั 8. เลกิ ทำตวั เปน็ ..............เสยี ที ไปหลงรกั ลกู สำว
ค. หมำสองรำง - นกสองหัว เศรษฐี ทที่ ำไดแ้ คเ่ ฝำ้ มองไปวนั ๆ หวงั อะไรเกนิ ตวั
ง. คนดผี คี มุ้ – ควำ่ บำตร จรงิ ๆ จงเตมิ สำนวนลงในช่องวำ่ งใหเ้ หมำะสม
4. สภุ ำษิตหมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร ก. กระตำ่ ยหมำยจนั ทร์
ก. ถ้อยคำทีเ่ ปน็ กำรกล่ำวเปรยี บเทยี บ ข. หมำเหำ่ ใบตองแห้ง
ข. ถอ้ ยคำทีห่ ลักแหลมคดิ ขนึ้ อย่ำงทันทีทันใด ค. ก่ิงทองใบหยก
ค. ถ้อยคำท่ีถูกแตง่ ข้ึนมำเพ่อื อธบิ ำยเก่ยี วกับ ง. หมำสองรำง
เหตกุ ำรณน์ น้ั ๆ
ง. ถอ้ ยคำทมี่ ีเนื้อควำมมุง่ เน้นไปในกำรสงั่ สอน 9. เดก็ ชำยกิตตแิ สดงกรยิ ำดใี จเมือ่ เขำสอบไดเ้ กรดส่ี
ตักเตือนตำมหลกั ควำมจรงิ ทกุ วิชำ ตรงกบั สำนวนใด
ก. ตีตนก่อนไข้
ข. กระด่ีได้น้ำ
ค. ยกตนขม่ ทำ่ น
ง. สร้ำงวิมำนในอำกำศ
10. “ฉนั บอกศำลำกับเดก็ คนนแี้ ลว้ ” สำนวนทขี่ ดี เสน้ 55
ใตม้ คี วำมหมำยตรงกบั ขอ้ ใด
ก. เลิกใหค้ วำมอุปกำระ 16. ข้อใดมคี วำมหมำยตรงกบั สำนวน “ขำ้ สองเจำ้ บ่ำว
ข. แนะนำ พรำ่ สอน สองนำย”
ค. รับเลีย้ งดู ก. คนทพ่ี ดู พล่อยจนได้รับอันตรำย
ง. ไมจ่ ริงใจ ข. คนทร่ี บั ใช้เจำ้ นำยสองคนท่เี ปน็ ศัตรูกนั
ค. คนทร่ี อู้ ะไรด้ำนเดยี ว แลว้ เข้ำใจแตอ่ ยำ่ งน้ัน
11. นกนอ้ ยขนนอ้ ยแต่ พอตวั ง. ต่ำงคนต่ำงอำรมณ์ร้อนพอกัน ตำ่ งคนตำ่ งไม่
ยอมกนั
รงั แตง่ จเุ มยี ผวั อยไู่ ด้
17. ขอ้ ใดใช้สำนวนผดิ
โคลงโลกนติ ิข้ำงต้นมคี ำสอนตรงกบั สำนวนใด ก. เขำเอำใจออกหำ่ งโดยไปเข้ำกบั ศัตรูของเรำ
ข. ยพุ นิ ไม่ชอบทำงำนเพรำะเธอเปน็ คนประเภท
ก. สิบเบยี้ ใกล้มอื ถนมิ สรอ้ ย
ค. ควำมรทู้ ่ีเธอสอนเขำนน้ั ยำกเกินทเ่ี ขำจะรบั ได้
ข. เก็บเบ้ียใต้ถนุ รำ้ น เหมอื นกบั สีซอใหค้ วำยฟงั
ง. ผใู้ หญจ่ ะสอนเสมอวำ่ เวรกรรมนนั้ จะสง่ ผล
ค. นกนอ้ ยทำรงั แต่พอตัว ต่อผทู้ ำเหมอื นกงเกวยี นกำเกวยี น
ง. มีเงนิ นับเป็นนอ้ ง มที องนับเปน็ พี่ 18. “วลิ ยั เทย่ี วบอกให้ผอู้ น่ื ทรำบควำมไม่ดขี องคน
ในครอบครัวของตน” ข้อควำมนต้ี รงกับสำนวน
12. สำนวน “ววั สนั หลงั หวะ” มคี วำมหมำยวำ่ อะไร ในขอ้ ใด
ก. กำรทำตัวเหลวไหล พ่งึ พำไม่ได้ ก. สบิ ปำกวำ่ ไมเ่ ทำ่ ตำเห็น
ข. คนเรำย่อมทำผดิ พลำดกันได้ ข. ปำกคนยำวกวำ่ ปำกกำ
ค. รบั ฟงั แต่ไมย่ อมทำหรือปฏิบตั ติ ำม ค. สำวไสใ้ หก้ ำกนิ
ง. คนทที่ ำผิดแลว้ คอยระแวงกลัวผอู้ นื่ จะรู้ ง. ยใุ หร้ ำตำให้ร่วั
13. วรรณำเปน็ คนไมแ่ นน่ อน โลเลเหมือน 19. คำในขอ้ ใดมคี วำมหมำยเกย่ี วข้องหรอื มี
....................จงเติมสำนวนลงในช่องว่ำงใหเ้ หมำะสม ควำมหมำยใกลเ้ คียงกบั สำนวน “ฝนทงั่ ใหเ้ ป็นเขม็ ”
ก. ไม้เบอื่ ไม้เมำ ก. ควำมดี
ข. ไมห้ ลกั ปกั เลน ข. ควำมชัว่
ค. ตกุ๊ ตำลม้ ลกุ ค. ควำมประพฤติ
ง. ไมซ้ กี งดั ไมซ้ ุง ง. ควำมพยำยำม
14. สภุ ำษิตข้อใดมคี วำมหมำยตรงกับสภุ ำษิต 20. ขอ้ ใดเปน็ สำนวนทไ่ี มม่ คี วำมหมำยของคำว่ำ
“เฒ่ำหัวง”ู “หนำ้ ”
ก. โคแกช่ อบกินหญ้ำอ่อน ก. หนำ้ สว่ิ หนำ้ ขวำน
ข. ศรศลิ ปไ์ มก่ ินกนั ข. หน้ำหนำวเดือนหำ้
ค. เสอื ซ่อนเลบ็ ค. หน้ำไหว้หลงั หลอก
ง. รวบหวั รวบหำง ง. หนำ้ เนอื้ ใจเสอื
15. สำนวนขอ้ ใดกลำ่ วถงึ กำรพดู
ก. ตกั บำตรอย่ำถำมพระ
ข. มอื ถือสำก ปำกถอื ศลี
ค. บอกหนังสอื สงั ฆรำช
ง. ขวำนผำ่ ซำก
56
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรอ่ื ง สำนวนทเี่ ปน็ คำพังเพยและสภุ ำษติ
ขอ้ ที่ เฉลย
1. ก
2. ข
3. ง
4. ง
5. ค
6. ข
7. ข
8. ก
9. ข
10. ก
11. ค
12. ง
13. ข
14. ก
15. ง
16. ข
17. ก
18. ค
19. ง
20. ข
57
แบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง สำนวนทเ่ี ปน็ คำพังเพยและสภุ ำษติ
รำยวชิ ำ ท21102 ภำษำไทย ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ 1
เรอ่ื ง สำนวนทเ่ี ปน็ คำพงั เพยและสภุ ำษติ จำนวน 20 ขอ้
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบทถี่ ูกตอ้ งท่สี ดุ และทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ
1. สภุ ำษิตหมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร 5. สำนวน “ววั สนั หลงั หวะ” มคี วำมหมำยว่ำอะไร
ก. ถอ้ ยคำท่เี ป็นกำรกลำ่ วเปรยี บเทยี บ ก. กำรทำตวั เหลวไหล พึง่ พำไม่ได้
ข. ถ้อยคำทห่ี ลกั แหลมคดิ ขึ้นอยำ่ งทนั ทีทนั ใด ข. คนเรำยอ่ มทำผิดพลำดกนั ได้
ค. ถอ้ ยคำทถี่ กู แต่งข้นึ มำเพ่อื อธิบำยเกยี่ วกบั ค. รับฟัง แต่ไมย่ อมทำหรือปฏบิ ตั ติ ำม
เหตกุ ำรณ์น้นั ๆ ง. คนทท่ี ำผดิ แล้วคอยระแวงกลวั ผู้อน่ื จะรู้
ง. ถอ้ ยคำทมี่ เี นื้อควำมมงุ่ เนน้ ไปในกำรสง่ั สอน
ตักเตือนตำมหลกั ควำมจรงิ 6. สภุ ำษิตข้อใดมีควำมหมำยตรงกบั สภุ ำษติ
“เฒ่ำหัวง”ู
2. คำพังเพยหมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร ก. โคแกช่ อบกินหญ้ำอ่อน
ก. ถ้อยคำท่แี ฝงข้อคิดคตเิ ตือนใจใหน้ ำไปปฏิบัติ ข. ศรศลิ ป์ไมก่ ินกัน
ไม่เน้นกำรส่ังสอน ค. เสอื ซอ่ นเล็บ
ข. ถอ้ ยคำที่มคี วำมหมำยเชงิ เปรียบเทียบ ง. รวบหวั รวบหำง
ค. ถ้อยคำท่มี งุ่ เน้นไปในกำรสงั่ สอน
ง. ถ้อยคำทีม่ คี วำมหมำยโดยกวำ้ ง 7. ข้อใดมคี วำมหมำยตรงกบั สำนวน “ขำ้ สองเจำ้ บำ่ ว
สองนำย”
3. สมชำยเลกิ ทำตัวเปน็ ..............เสยี ที ไปหลงรกั ลกู ก. คนท่พี ดู พลอ่ ยจนได้รบั อนั ตรำย
สำวเศรษฐที ท่ี ำได้แคเ่ ฝ้ำมองไปวัน ๆ หวงั อะไรเกนิ ข. คนทร่ี บั ใช้เจ้ำนำยสองคนทเี่ ปน็ ศตั รูกัน
ตวั จรงิ ๆ ค. คนทร่ี อู้ ะไรด้ำนเดยี ว แล้วเขำ้ ใจแตอ่ ย่ำงน้ัน
จงเตมิ สำนวนลงในช่องวำ่ งใหเ้ หมำะสม ง. ตำ่ งคนตำ่ งอำรมณร์ ้อนพอกัน ต่ำงคนต่ำงไม่
ก. กระตำ่ ยหมำยจนั ทร์ ยอมกนั
ข. หมำเหำ่ ใบตองแหง้
ค. กิ่งทองใบหยก 8. “วลิ ยั เทีย่ วบอกให้ผอู้ ื่นทรำบควำมไม่ดขี องคน
ง. หมำสองรำง ในครอบครวั ของตน” ข้อควำมนต้ี รงกับสำนวน
ในขอ้ ใด
4. “ฉนั บอกศำลำกบั เด็กคนนแ้ี ล้ว” สำนวนทข่ี ีดเสน้ ก. สบิ ปำกว่ำไมเ่ ทำ่ ตำเหน็
ใตม้ คี วำมหมำยตรงกบั ข้อใด ข. ปำกคนยำวกว่ำปำกกำ
ก. เลิกใหค้ วำมอปุ กำระ ค. สำวไส้ให้กำกิน
ข. แนะนำ พรำ่ สอน ง. ยุใหร้ ำตำใหร้ ่ัว
ค. รับเล้ียงดู
ง. ไม่จรงิ ใจ 9. ข้อใดเปน็ สำนวนทไี่ มม่ คี วำมหมำยของคำว่ำ
“หนำ้ ”
ก. หนำ้ สวิ่ หนำ้ ขวำน
ข. หน้ำหนำวเดอื นหำ้
ค. หน้ำไหว้หลงั หลอก
ง. หนำ้ เนอ้ื ใจเสอื
58
10. สำนวนหมำยควำมวำ่ อย่ำงไร 16. นกนอ้ ยขนนอ้ ยแต่ พอตวั
ก. ถอ้ ยคำท่ีกล่ำวสบื ตอ่ กันมำชำ้ นำน
โดยมคี วำมหมำยไมต่ รงตำมตวั รงั แต่งจเุ มยี ผัว อยไู่ ด้
ข. ถ้อยคำที่กล่ำวแนะนำ ส่งั สอน
ด้วยหลกั ควำมจริง โคลงโลกนติ ิขำ้ งต้นมีคำสอนตรงกบั สำนวนใด
ค. ถ้อยคำทีแ่ ฝงข้อคิดคตเิ ตือนใจ
ง. ถ้อยคำทมี่ ีควำมหมำยกลำง ๆ ก. สบิ เบยี้ ใกลม้ ือ
11. “สมชำยต่อหนำ้ คณุ ครทู ำตัวดีมำกเปน็ เดก็ ข. เก็บเบ้ยี ใตถ้ ุนรำ้ น
เรยี บร้อยแตพ่ อคลอ้ ยหลงั ไปไมก่ น่ี ำทเี ทำ่ นน้ั แหละ
แทบจะเป็น คนละคนเลย” ขอ้ ควำมขำ้ งต้นตรงกบั ค. นกนอ้ ยทำรงั แตพ่ อตัว
สำนวนขอ้ ใด
ก. ขำ้ งนอกขรขุ ระ ข้ำงในต๊ะตงิ้ โหน่ง ง. มีเงนิ นบั เป็นน้อง มที องนบั เป็นพี่
ข. ต่อหนำ้ มะหลับ ลบั หลงั ตะโก
ค. นำ้ ขนุ่ อยใู่ น น้ำใสอยู่นอก 17. สุดำเป็นคนไมแ่ นน่ อน โลเลเหมอื น...................
ง. บัวไมใ่ ห้ชำ้ น้ำไม่ให้ขนุ่ จงเตมิ สำนวนลงในช่องวำ่ งใหเ้ หมำะสม
ก. ไม้เบอื่ ไมเ้ มำ
12. สำนวนในข้อใดทคี่ วำมหมำยไมค่ ลำ้ ยคลงึ กนั ข. ไมห้ ลกั ปักเลน
ก. หญำ้ ปำกคอก - เส้นผมบงั ภเู ขำ ค. ตุก๊ ตำล้มลุก
ข. เอำมอื ซกุ หีบ - หำเหำ่ ใส่หวั ง. ไมซ้ ีกงดั ไม้ซงุ
ค. หมำสองรำง - นกสองหัว
ง. คนดผี คี ุ้ม – ควำ่ บำตร 18. สำนวนขอ้ ใดกลำ่ วถงึ กำรพูด
ก. ตกั บำตรอย่ำถำมพระ
13. “ววั ใครเข้ำคอกคนนนั้ ” ตรงกบั ควำมหมำยข้อใด ข. มอื ถอื สำก ปำกถอื ศลี
ก. สอนสิ่งท่ีเขำร้ดู หี รอื ถนดั อยแู่ ลว้ ค. บอกหนงั สือสังฆรำช
ข. หวนกลบั ไปหำแบบเดิม ๆ ลำ้ สมัย ง. ขวำนผ่ำซำก
ค. กรรมท่ใี ครสรำ้ งไว้ ยอ่ มส่งผลให้แกผ่ ้นู ้นั
ง. เมื่อหมดอำนำจ ควำมชวั่ ที่ทำไว้กป็ รำกฏ 19. ข้อใดใช้สำนวนผดิ
ก. เขำเอำใจออกห่ำงโดยไปเข้ำกับศัตรูของเรำ
14. สำนวนขอ้ ใดมคี วำมหมำยแตกตำ่ งจำกขอ้ อน่ื ข. ยพุ นิ ไม่ชอบทำงำนเพรำะเธอเป็นคนประเภท
ก. เกี่ยวแฝกมงุ ป่ำ ถนิมสร้อย
ข. ขนมพอสมนำ้ ยำ ค. ควำมรทู้ ่ีเธอสอนเขำนั้น ยำกเกนิ ที่เขำจะรับ
ค. เข็นครกขึน้ ภเู ขำ ได้ เหมอื นกบั สีซอใหค้ วำยฟงั
ง. งมเข็มในมหำสมทุ ร ง. ผใู้ หญจ่ ะสอนเสมอวำ่ เวรกรรมนน้ั จะส่งผล
ตอ่ ผทู้ ำเหมือนกงเกวียนกำเกวียน
15. เด็กชำยกิตติแสดงกรยิ ำดใี จเมอื่ เขำสอบได้เกรดส่ี
ทกุ วชิ ำ ตรงกบั สำนวนใด 20. คำในขอ้ ใดมีควำมหมำยเกยี่ วข้องหรอื มี
ก. ตีตนกอ่ นไข้ ควำมหมำยใกลเ้ คยี งกับสำนวน
ข. กระด่ีไดน้ ้ำ “ฝนทงั่ ให้เป็นเขม็ ”
ค. ยกตนขม่ ท่ำน ก. ควำมดี
ง. สร้ำงวิมำนในอำกำศ ข. ควำมช่ัว
ค. ควำมประพฤติ
ง. ควำมพยำยำม
59
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
เรอื่ ง สำนวนทเี่ ปน็ คำพงั เพยและสภุ ำษติ
ข้อที่ เฉลย
1. ง
2. ข
3. ก
4. ก
5. ง
6. ก
7. ข
8. ค
9. ข
10. ก
11. ข
12. ง
13. ค
14. ข
15. ข
16. ค
17. ข
18. ง
19. ก
20. ง
60
แบบสำรวจความพึงพอใจของนกั เรียนทมี่ ีต่อการพฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น
เรอื่ ง สำนวนทเี่ ปน็ คำพังเพยและสุภาษติ โดยการใชส้ อ่ื เกมออนไลน์ Wordwall ของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
ชือ่ -สกุล .....................................................................เลขที่................ช้ัน...................ปกี ารศึกษา................................
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนอา่ นข้อความให้เข้าใจแล้วเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับความพึงพอใจ
ของนักเรียนมากท่สี ดุ
ระดับ 5 หมายถึง ความพงึ พอใจ อยู่ในระดบั มากทสี่ ุด
ระดบั 4 หมายถึง ความพึงพอใจ อย่ใู นระดบั มาก
ระดับ 3 หมายถงึ ความพึงพอใจ อย่ใู นระดบั ปานกลาง
ระดบั 2 หมายถึง ความพึงพอใจ อยใู่ นระดบั น้อย
ระดบั 1 หมายถึง ความพงึ พอใจ อยู่ในระดบั นอ้ ยทสี่ ุด
รายการประเมนิ ความพงึ พอใจ 1
5432
ความพึงพอใจตอ่ การเรียนโดยใชส้ ือ่ เกมออนไลน์ Wordwall
1. สื่อการสอนเกมออนไลนม์ คี วามน่าสนใจ
2. สื่อการสอนสอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั เนอื้ หาและการจัด
กิจกรรมการเรยี นการสอน
3. สื่อการสอนเกมออนไลนท์ ำใหน้ กั เรยี นเข้าใจเนอื้ หาไดด้ ยี ่งิ ข้ึน
4. ส่ือการสอนเกมออนไลนท์ ำใหอ้ ยากเรียนมากข้นึ
5. สอ่ื การสอนเกมออนไลนม์ ีความหลายหลาก
6. สื่อการสอนเกมออนไลน์มีรปู แบบการเลน่ สนุก ตน่ื เตน้ ท้าทาย
ความสามารถของนกั เรียน
7. ส่ือเกมออนไลน์มีความครอบคลุมเนอื้ หาการเรียนรู้
8. ความเหมาะสมของระยะเวลาในการจัดการเรยี นรู้
9. ส่ือเกมออนไลนม์ คี วามสะดวกรวดเรว็ และทันสมัย
10. ประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการเรียนรู้โดยใช้สอ่ื เกมออนไลน์
รวมคะแนน
รวมทัง้ หมด
ขอ้ เสนอแนะเพ่อื การพัฒนาและปรับปรุง
61
ภาคผนวก ง
การหาคา่ คุณภาพของแบบทดสอบ
1. ค่าดัชนคี วามสอดคลอ้ งของแบบวดั ผลสัมฤทธด์ิ า้ นการเรยี น
2. การหาค่าคณุ ภาพแบบทดสอบกอ่ นเรียน
3. การหาคา่ คณุ ภาพแบบทดสอบหลังเรยี น
62
1. ค่าดัชนีความสอดคลอ้ งของแบบวัดผลสมั ฤทธิ์ดา้ นการเรยี น
ตารางที่ 5 ค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต โดยการใช้สื่อเกมออนไลน์ Wordwall ของนักเรียน
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1
ขอ้ สอบขอ้ ที่ คะแนนความคดิ เหน็ ของผเู้ ชยี่ วชาญ ผลรวม คา่ IOC ผลการ
คนที่ 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 คดั เลือก
1 1 1 1 3 1.0 ผา่ น
2 0 1 1 2 0.7 ผา่ น
3 1 1 1 3 1.0 ผา่ น
4 0 1 1 2 0.7 ผา่ น
5 0 1 1 2 0.7 ผา่ น
6 0 -1 1 0 0.0 ไมผ่ า่ น
7 -1 1 1 1 0.3 ไมผ่ า่ น
8 0 1 1 2 0.7 ผ่าน
9 -1 1 1 1 0.3 ไมผ่ า่ น
10 -1 1 1 1 0.3 ไมผ่ า่ น
11 1 1 1 3 1.0 ผ่าน
12 1 1 1 3 1.0 ผ่าน
13 1 1 0 2 0.7 ผา่ น
14 1 1 1 3 1.0 ผา่ น
15 0 1 1 2 0.7 ผา่ น
16 0 1 1 2 0.7 ผา่ น
17 0 1 1 2 0.7 ผา่ น
18 1 0 -1 0 0.0 ไม่ผา่ น
19 1 1 1 3 1.0 ผ่าน
20 1 1 0 2 0.7 ผ่าน
21 1 1 1 3 1.0 ผ่าน
22 0 1 1 2 0.7 ผ่าน
23 0 1 1 2 0.7 ผ่าน
24 1 1 1 3 1.0 ผา่ น
25 0 1 1 2 0.7 ผ่าน
26 1 1 1 3 1.0 ผ่าน
ขอ้ สอบข้อท่ี คะแนนความคดิ เหน็ ของผู้เช่ียวชาญ ผลรวม ค่า IOC 63
คนที่ 1 คนที่ 2 คนท่ี 3
27 2 0.7 ผลการ
28 011 3 1.0 คัดเลือก
29 111 3 1.0
30 111 3 1.0 ผ่าน
111 ผา่ น
ผา่ น
ผ่าน
ตารางสรปุ ผลการประเมินตามคา่ ความตรงเชงิ เนือ้ หา
ผลการประเมนิ จำนวนข้อ
ใช้ได้ 25
ใช้ไมไ่ ด้ 5
รวม 30
* หมายเหตุ แบบทดสอบจำนวน 30 ข้อ ทางผวู้ จิ ัยคดั และใช้จรงิ 20 ขอ้
64
ภาพท่ี 4 ผลลพั ธ์เกมท่ี 1 “สลบั คำ จำสำนวน”
ภาพที่ 5 ผลลพั ธ์เกมที่ 2 “สำนวน ชวนค้นหา”
ภาพที่ 6 ผลลพั ธเ์ กมที่ 3 “สำนวน ชวนคดิ ”
65
ตารางท่ี 6 การวิเคราะหค์ ุณภาพแบบทดสอบก่อนเรยี น (ความยาก-งา่ ย และอำนาจจำแนก)
ข้อที่ P ความยาก - ง่าย (P) อำนาจจำแนก (R)
1 0.13 แปลผล r แปลผล
2 0.38
3 0.28 ยากมาก 0.05 อำนาจจำแนกต่ำ
4 0.35 คอ่ นข้างยาก 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
5 0.35 คอ่ นขา้ งยาก 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
6 0.33 ค่อนข้างยาก 0.40 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสูง
7 0.20 ค่อนขา้ งยาก 0.40 อำนาจจำแนกคอ่ นข้างสงู
8 0.43 คอ่ นข้างยาก 0.45 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสงู
9 0.30 ค่อนขา้ งยาก 0.20 อำนาจจำแนกปานกลาง
10 0.15 ยากปานกลาง 0.65 อำนาจจำแนกคอ่ นขา้ งสงู
11 0.43 คอ่ นขา้ งยาก 0.50 อำนาจจำแนกคอ่ นข้างสงู
12 0.20 ยากมาก 0.20 อำนาจจำแนกปานกลาง
13 0.15 ยากปานกลาง 0.25 อำนาจจำแนกปานกลาง
14 0.20 คอ่ นข้างยาก 0.30 อำนาจจำแนกปานกลาง
15 0.18 ยากมาก 0.30 อำนาจจำแนกปานกลาง
16 0.33 ค่อนขา้ งยาก 0.20 อำนาจจำแนกปานกลาง
17 0.28 ยากมาก 0.25 อำนาจจำแนกปานกลาง
18 0.30 ค่อนขา้ งยาก 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
19 0.15 คอ่ นขา้ งยาก 0.45 อำนาจจำแนกค่อนข้างสงู
20 0.38 ค่อนขา้ งยาก 0.40 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสงู
ยากมาก 0.30 อำนาจจำแนกปานกลาง
คอ่ นขา้ งยาก 0.55 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสงู
สรปุ ผลการวิเคราะห์คุณภาพแบบทดสอบก่อนเรยี น
- เม่อื พจิ ารณาความยาก-ง่าย
มขี ้อสอบท่ีใช้ได้ จำนวน 2 ขอ้ ไดแ้ ก่ ข้อที่ 8, 11
มขี ้อสอบท่ใี ช้ไมไ่ ด้ (ง่ายมาก/ ยากมาก) จำนวน 18 ข้อ
- เมื่อพิจารณาอำนาจจำแนก
มีข้อสอบท่ใี ช้ได้ จำนวน 19 ขอ้
มขี อ้ สอบที่ใชไ้ มไ่ ด้ (อำนาจจำแนกตำ่ /ตำ่ มาก) จำนวน 1 ข้อ ไดแ้ ก่ ขอ้ ท่ี 1
66
ตารางที่ 7 การวเิ คราะหค์ ณุ ภาพแบบทดสอบหลังเรยี น (ความยาก-งา่ ย และอำนาจจำแนก)
ข้อที่ P ความยาก - งา่ ย (P) อำนาจจำแนก (R)
1 0.55 แปลผล r แปลผล
2 0.50
3 0.70 ยากปานกลาง 0.10 อำนาจจำแนกตำ่
4 0.50 ยากปานกลาง 0.30 อำนาจจำแนกปานกลาง
5 0.38 ค่อนขา้ งง่าย 0.40 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสูง
6 0.58 ยากปานกลาง 0.50 อำนาจจำแนกคอ่ นข้างสงู
7 0.58 คอ่ นข้างยาก 0.15 อำนาจจำแนกต่ำ
8 0.48 ยากปานกลาง 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
9 0.50 ยากปานกลาง 0.45 อำนาจจำแนกคอ่ นขา้ งสงู
10 0.45 ยากปานกลาง 0.55 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสงู
11 0.55 ยากปานกลาง 0.60 อำนาจจำแนกคอ่ นข้างสงู
12 0.55 ยากปานกลาง 0.50 อำนาจจำแนกคอ่ นข้างสูง
13 0.60 ยากปานกลาง 0.50 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสูง
14 0.48 ยากปานกลาง 0.40 อำนาจจำแนกคอ่ นข้างสูง
15 0.40 ค่อนขา้ งง่าย 0.40 อำนาจจำแนกค่อนข้างสูง
16 0.53 ยากปานกลาง 0.25 อำนาจจำแนกปานกลาง
17 0.53 ยากปานกลาง 0.40 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสูง
18 0.48 ยากปานกลาง 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
19 0.53 ยากปานกลาง 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
20 0.58 ยากปานกลาง 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
ยากปานกลาง 0.35 อำนาจจำแนกปานกลาง
ยากปานกลาง 0.55 อำนาจจำแนกค่อนขา้ งสงู
สรปุ ผลการวิเคราะห์คณุ ภาพแบบทดสอบกอ่ นเรียน
- เมื่อพจิ ารณาความยาก-งา่ ย
มีขอ้ สอบทีใ่ ชไ้ ด้ จำนวน 18 ข้อ
มขี อ้ สอบท่ีใช้ไม่ได้ (งา่ ยมาก) จำนวน 2 ข้อ ไดแ้ ก่ ขอ้ ท่ี 3, 13
- เมอ่ื พิจารณาอำนาจจำแนก
มขี อ้ สอบที่ใช้ได้ จำนวน 18 ขอ้
มีข้อสอบที่ใช้ไม่ได้ (อำนาจจำแนกตำ่ /ตำ่ มาก) จำนวน 2 ข้อ ไดแ้ ก่ ขอ้ ที่ 1, 5
ตารางท่ี 8 การหาค่าความเชื่อมน่ั แบบวธิ ีการสอบซำ้ (Test – Retest Method) 67
คนท่ี สอบครงั้ แรก(x) สอบคร้ังหลัง(Y)
11 11 11 1 121
28 14 112 64 196
34 15 60 16 225
49 14 126 81 196
59 12 108 81 144
67 13 91 49 169
78 14 112 64 196
89 12 108 81 144
98 16 128 64 256
10 9 15 135 81 225
11 7 11 77 49 121
12 9 13 117 81 169
13 7 14 98 49 196
14 7 12 84 49 144
15 5 11 55 25 121
16 10 13 130 100 169
17 1 14 14 1 196
18 6 15 90 36 225
19 7 13 91 49 169
20 10 15 150 100 225
21 3 16 48 9 256
22 1 10 10 1 100
23 7 16 112 49 256
24 9 14 126 81 196
25 7 13 91 49 169
26 9 16 144 81 256
27 5 16 80 25 256
28 6 13 78 36 169
29 9 16 144 81 256
30 9 16 144 81 256
คนที่ สอบคร้งั แรก(x) สอบคร้งั หลงั (Y) 68
31 3 11 33
32 12 16 192
33 10 15 150 9 121
34 11 18 198 144 256
35 12 15 180 100 225
36 7 15 105 121 324
37 9 18 162 144 225
38 8 14 112 49 225
39 12 16 192 81 324
40 11 16 176 64 196
รวม 301 567 4374 144 256
121 256
2591 8185
จากสตู ร การหาคา่ ความเชือ่ มน่ั แบบวธิ ีการสอบซ้ำ
= ∑ ̅ − ∑ ̅
√{ ∑ 2−( ̅)2}{ ∑ 2 − (∑ )2}
= × −( )( )
√{ × −( )^ }{ × −( )^ }
= , − ,
√ , ,
= ,
,
= 0.49
69
ภาคผนวก จ ภาพกจิ กรรม
70
ประมวลภาพการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
71
ประมวลภาพการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
72
ประมวลภาพการสอบกอ่ นเรยี น
73
ประมวลภาพการสอบกอ่ นเรยี น