ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่
1
เรื่อง การรวบรวมข้อมูล
ม.3
นางสาวประภัสสร พุทธรักษ์
นักศึ กษาสาขาคอมพิวเตอร์ศึ กษา
แ ผ น ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู้
รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี
หน่ วยการเรียนรู้ที่2 ระดับชั้ นมัธยมศึ กษาปี ที่ 3
ข้ อมูลในชี วิตประจำวัน
เรื่องการรวบรวมข้ อมูล เวลา1 ชั่ วโมง
1. ผลการเรียนรู้ (LEARNING OUTCOMES) :
การรวบรวมข้อมูล เป็ นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการ
จัดการข้อมูลและสารสนเทศ ดังนั้ นควรมีความ เข้าใจเกี่ยว
กับลักษณะและประเภทของข้อมูล ตลอดจนวิธีการรวบรวม
ข้อมูล เพื่ อจะได้นำไปประยุกต์ใช้ได้ อย่างถูกต้องและเหมาะ
สมกับงาน ประเภทข้อมูลสามารถแบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภท
ได้แก่ ข้อมูลปฐมภูมิและ ข้อมูลทุติยภูมิ
2. ความคิ ดรวบยอดหลัก (MAIN CONCEPT)
3. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้ วัด
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐานว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณ ในการ
แก้ปั ญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็ น ขั้นตอน และเป็ นระบบ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่ อสารในการเรียนรู้
การทำงาน และการแก้ปั ญหาได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ รู้เท่าทัน
แ ล ะ มี จ ริ ย ธ ร ร ม
ตัวชี้วัด รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นํ าเสนอ
ข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์
หรือบริการบนอินเทอร์เน็ ตที่หลากหลาย
4. จุดประสงค์ การเรียนรู้ (LEARNING OBJECTIVE)
1. บอกลักษณะและประเภทของข้อมูลได้ (K)
2. เลือกวิธีการรวบรวมข้อมูลได้เหมาะสมกับประเภทของ
ข้อมูลได้ (P)
3. ตระหนั กถึงความสำคัญของวิธีการรวบรวมข้อมูล (A)
5. สมรรถนะสำคั ญของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการสื่ อสาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
6. คุ ณลักษณะที่พึ งประสงค์
6.1 ใฝ่เรียนรู้
6.2 มีความมุ่งมั่นในการทำงาน
7. กิจกรรมการเรียนรู้
นำเข้ าสู่ บทเรียน
1. ครู นำเข้าสู่ บทเรียนโดยชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้
2. ครู สอบถามนั กเรียน “นั กเรียนมีความถนั ดวิชาไหนมาก
ที่สุดเพราะอะไร” (สุ่ มถามนั กเรียน 4-5 คน)
3. จากนั้ นครู ถามนั กเรียนต่อว่า “คำถามที่ครู ถามข้างต้น
เป็ นลักษณะของข้อมูลประเภทไหน”
8. ผลงาน/ชิ้ นงาน ที่เกิดจากการเรียนการสอน
8.1 ใบงาน เรื่อง วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
9. วิธีการวัดประเมินผล
สิ่ งที่วัดและ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การ
ประเมิน ประเมิน
ความรู้ (K) บอกลักษณะและ แบบประเมิน ใช้การผ่านเกณฑ์
ประเภทของข้อมูล ร้อยละ 70 ขึ้นไป
ได้
ทักษะ (P) เลือกวิธีการ แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ระดับ 3
รวบรวมข้อมูลได้ ขึ้นไป
เหมาะสมกับ
ประเภทของข้อมูล
ได้
เจตคติ (A) ตระหนั กถึงความ แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ระดับ 3
สำคัญของวิธีการ ขึ้นไป
รวบรวมข้อมูล
ลงชื่อ ประภัสสร พุทธรักษ์ ผู้เขียนแผน
(นางสาวประภัสสร พุทธรักษ์ )
คำชี้แจง
บทบาทของนั กเรียนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นั กเรียน
สามารถศึ กษาได้ด้วยตนเอง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1.อ่านคำชี้เเจงให้เข้าใจก่อนที่จะลงมือศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้
2.ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อทราบว่านั กเรียนจะได้เรียนรู้สิ่งใด
บ้าง จากชุดฝึกกิจกรรมการเรียนรู้ทำแบบทดสอบก่อนเรียนจำนวน
10 ข้อ เพื่อประเมินความรู้พื้นฐานของนั กเรียน
3.ศึกษาลายระเอียดเนื้ อหาหรือใบความรู้ และทำกิจกรรมตามที่
กำหนดไว้
4.ทำแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ
5.นั กเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมฝึกทักษะ และแบบทดสอบ
หลังเรียน
6.นั กเรียนสามารถนำชุดกิจกรรมไปฝึกปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อเกิดความ
เชี่ยวชาญ
7.ถ้านั กเรียนต้องการศึกษาเนื้ อหาเพิ่มเติม สามารถค้นคว้าได้จากบร
รณานุกรมที่่แสดงไว้ท้ายเล่ม
แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง การรวบรวมข้อมูล
คำชี้แจง : ให้นั กเรียนเลือกค ำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1.การรวบรวมข้อมูล (Data Compilation) หมายถึงข้อใด
ก. การเก็บข้อมูลขึ้นมาใหม่
ข. การเก็บข้อมูลขึ้นมาใหม่ โดยการศึกษาจากข้อมูลที่มีอยู่เดิมแล้ว
ค. การนำเอาข้อมูลต่าง ๆที่ผู้อื่นได้เก็บไว้แล้ว หรือรายงานไว้ในเอกสารต่าง ๆ
มาทำการศึกษาวิเคราะห์ต่อ
ง. การนำเอาข้อมูลต่าง ๆที่ผู้อื่นได้เก็บไว้แล้ว หรือรายงานไว้ในเอกสารต่าง ๆ
มาทำการศึกษาให้ใกล้เคียงกับข้อมูลเดิม
2.ข้อมูลแบ่งออกเป็นกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท
ข. 3 ประเภท
ค. 4 ประเภท
ง. 5 ประเภท
3.ข้อใดคือข้อมูลที่จำแนกตามแหล่งที่มา
ก. ข้อมูลเชิงคุณภาพ
ข. ข้อมูลทุติยภูมิ
ค. ข้อมูลปฐมภูมิ
ง. ถูกทั้ง ข และ ค
4.ข้อมูลทุติยภูมิ คืออะไร
ก.ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีผู้เก็บหรือรวบรวมไว้ก่อนแล้วเพียงแต่นักวิจัย
นำข้อมูลเหล่านั้ นมาศึ กษาใหม่
ข. ข้อมูลที่ผู้วิจัยเก็บขึ้นมาใหม่เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์การวิจัยในเรื่องนั้น ๆ
ค.ข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข ไม่ได้มีการให้รหัสตัวเลขที่จะนำไปวิเคราะห์
ทางสถิติแต่เป็นข้อความหรือข้อสนเทศ
ง. ข้อมูลที่เป็นตัวเลขหรือนำมาให้รหัสเป็นตัวเลขซึ่งสามารถนำไปใช้
วิเคราะห์ทางสถิติได้
5.ข้อมูลประเภทใดที่สามารถนำไปใช้วิเคราะห์ทางสถิติได้
ก. ข้อมูลเชิงปริมาณ
ข. ข้อมูลเชิงคุณภาพ
ค. ข้อมูลปฐมภูมิ
ง. ข้อมูลทุติยภูมิ
แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง การรวบรวมข้อมูล
6.ข้อใดคือข้อมูลเชิงคุณภาพ
ก. จำนวนสมาชิกโดยเฉลี่ยของครอบครัวไทย
ข. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์
ค. เพศของสมาชิกในครอบครัว
ง. ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในแต่ละปี
7. ข้อใด ไม่ใช่ ข้อมูลทุติยภูมิ
ก. ข้อมูลสำมะโนประชากร
ข. ข้อมูลภาคสนาม
ค. สถิติจากหน่วยงาน
ง. เอกสารทุกประเภทจากหน่วยงาน
8.วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลมีกี่วิธี
ก. 2 วิธี
ข. 3 วิธี
ค. 4 วิธี
ง. 5 วิธี
9. ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ก. การสัมภาษณ์
ข. การสังเกตการณ์
ค. การรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร
ง. การกำหนดแหล่งข้อมูล
10.ข้อใดไม่ใช้ข้อมูลปฐมภูมิ
ก. การสอบถาม
ข. การสัมภาษณ์
ค. การทำแบบทดสอบ
ง. ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์
สแกน QR Code
ทำแบบทดสอบก่อนเรียนกันเถอะ !!
การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)
มีอะไรบ้าง ไปเรียนรู้กันเถอะ !!
เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ ม.3)
ข้ อมูล(DATA) หมายถึง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวแปรที่
สำรวจโดยใช้วิธีการวัดแบบใดแบบหนึ่ ง โดยทั่วไปจำแนกตาม
ลักษณะของข้อมูลได้เป็ น 2 ประเภท คือ
ประเภทของข้ อมูล
1) ข้อมูลเชิงปริมาณ คือ ข้อมูลที่เป็ นตัวเลขหรือนำมาให้
รหั สเป็ นตัวเลข ซึ่งสามารถนำไปใช้วิเคราะห์ ทางสถิติได้
2) ข้อมูลเชิงคุณภาพ (QUALITATIVE DATA) คือ ข้อมูลที่
ไม่ใช่ตัวเลข ไม่ได้มีการให้ รหั สตัวเลขที่จะนำไปวิเคราะห์ ทาง
สถิติ แต่เป็ นข้อความหรือข้อสนเทศ
การรวบรวมข้ อมูล (DATA COMPILATION) เป็ นขั้นตอน
สำคัญที่สุดของการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ดังนั้ น ผู้ใช้
ง า น ข้ อ มู ล จึ ง ค ว ร มี ค ว า ม เ ข้ า ใ จ เ กี่ ย ว กั บ ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง
ข้อมูล ตลอดจนวิธีการวบรวมข้อมูล โดยเมื่อพิ จารณาถึง
ประเภทข้อมูลตามแหล่งที่มาสามารถแบ่งได้เป็ น 2 กลุ่ม ได้แก่
ข้ อ มู ล ป ฐ ม ภู มิ แ ล ะ ข้ อ มู ล ทุ ติ ย ภู มิ
1 ข้ อมูลปฐมภูมิ
ข้ อมูลปฐมภูมิ (PRIMARY DATA) เป็ นข้อมูลที่ผู้ใช้เก็บ
รวบรวมด้วยตนเอง ทำให้ ได้ข้อมูลที่ตรงตามความต้องการ
มากที่สุด เพราะสามารถควบคุมลักษณะการเก็บข้อมูลและ
รายละเอียดอื่นๆ ได้ตามที่ต้องการ ในการรวบรวมข้อมูล
ปฐมภูมิจะสิ้ นเปลืองค่าใช้จ่าย เวลา และกำลังคนมากกว่า
การรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ โดยการรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ
สามารถทำได้ ดังนี้
1. การสั มภาษณ์ ส่ วนบุคคล เป็ นการสื่ อสารต่อหน้ า
(FACE-TO-FACE) และเป็ นการสื่ อสารแบบสองทาง
(TWO-WAY CONVERSATION) ระหว่างผู้สั มภาษณ์ กับผู้
ตอบคำถามซึ่งเป็ นผู้ให้ ข้อมูลโดยที่ผู้สั มภาษณ์ จะเป็ นผู้ถาม
คำถามและควบคุมรู ปแบบของการสั มภาษณ์ วิธีการนี้ ถือ
เป็ นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ
2. การสั มภาษณ์ ทางโทรศั พท์เป็ นการรวบรวมข้อมูลที่มี
ความสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึงผู้ให้ ข้อมูล ด้วยเหตุที่
ผู้คนในสั งคมปั จจุบันมีโทรศั พท์มือถือติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ในบางครั้งอาจเกิดปั ญหาการติดต่อกับผู้ให้ ข้อมูลไม่
ได้ หรือได้รับการปฏิเสธจากผู้ให้ ข้อมูล
3. การใช้ แบบสอบถาม เป็ นการรวบรวมข้อมูลที่ผู้ตอบกรอก
ข้อมูลด้วยตนเองโดยถือเป็ นการรวบรวมข้อมูลที่มีความนิ ยม
เป็ นที่แพร่หลายในปั จจุบัน ส่ วนใหญ่การตอบแบบสอบถาม
แบบนี้ จะประกอบไปด้วยคำถามจำนวนไม่มากหรือไม่ยาวเกิน
ไป และคำตอบมักเป็ นคำตอบที่ไม่ยาวเกินไปเช่นกัน
4. การสั งเกต เป็ นวิธีการรวบรวมข้อมูลที่เป็ นทางเลือก
สุดท้ายในกรณี ที่ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีอื่นได้
เช่น ข้อมูลพฤติกรรมของคนและของสั ตว์ เหตุการณ์ ที่เกิด
ขึ้ นรอบตัว ทั้งการสั งเกตพฤติกรรมลักษณะต่าง ๆ ของ
ทั้งคน สั ตว์ สิ่ งของ ภาษาพูด ขนบธรรมเนี ยม วัฒนธรรม
และการสั งเกตที่ไม่ใช่พฤติกรรม ซึ่งจะเป็ นการศึ กษาสถิติ
หรือประวัติต่าง ๆ ที่ผ่านมาในอดีต เช่นการวิเคราะห์ สภาพ
คล่องทางการเงิน ระบบต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการทำงาน
2 ข้ อมูลทุติยภูมิ
ข้อมูลทุติยภูมิ (SECONDARY DATA) เป็ นข้อมูลที่มี
การรวบรวมไว้แล้วโดยผู้อื่น การนำข้อมูลทุติยภูมิมาใช้จะ
ต้องตรวจสอบคุณภาพของข้อมูลก่อน โดยดูว่าใครเป็ นผู้
รวบรวมไว้ มีวิธีการอย่างไร และข้อมูลมีข้อดีและข้อเสี ย
อย่างไร เพื่ อจะได้นำข้อมูลไปใช้และอ้างอิงได้อย่างมั่นใจ
โดยข้อมูลทุติยภูมิมีข้อดีและข้อเสี ย ดังนี้
ข้ อดี ข้ อเสี ย
ส า ม า ร ถ นำ ข้ อ มู ล ไ ป ใ ช้ง า น ไ ด้ ข้ อ มู ล ที่ มี ก า ร ร ว บ ร ว ม ไ ว้ แ ล้ ว
ง่าย โดยไม่ต้องเสี ยเวลาในการ อาจไม่ตรงตามเป้ าหมายที่
ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ด้ ว ย ต น เ อ ง แ ล ะ ต้องการ อาจจะทำให้ เสี ยเวลา
เป็ นการประหยัดงบประมาณ ใ น ก า ร ห า ข้ อ มู ล จ า ก ห ล า ย แ ห ล่ ง
อี ก ด้ ว ย
ก า ร นำ ข้ อ มู ล ทุ ติ ย ภู มิ ม า ใ ช้เ ร า ไ ม่ ส า ม า ร ถ ค ว บ คุ ม ค ว า ม ถู ก ต้ อ ง
ของข้อมูลได้ เนื่ องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่าผู้รวบรวมข้อมูล
นั้ นรวบรวมข้อมูลมาอย่างไร และใช้วิธีการใดจึงได้ข้อมูลมาดังนั้ น
ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ ม า จ า ก แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล ทุ ติ ย ภู มิ ค ว ร มี ก า ร ต ร ว จ ส อ บ โ ด ย
เปรียบเทียบข้อมูลชนิ ดเดียวกันกับแหล่งข้อมูลอื่นด้วย ซึ่งการ
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ สามารถแบ่งออกได้เป็ น 2
รู ปแบบ ดังนี้
1. ข้ อมูลจากแหล่งข้ อมูลภายใน เป็ นข้อมูลที่เกิดขึ้ นภายใน
หน่ วยงานหรือภายในองค์กรของผู้ใช้งาน เช่น ข้อมูลพนั กงาน
ข้ อ มู ล ท า ง ก า ร เ งิ น
2. ข้ อมูลจากแหล่งข้ อมูลภายนอก เป็ นข้อมูลที่ได้จากการ
รวบรวมของบุคคล หน่ วยงานหรือองค์กรภายนอก เช่นข้อมูล
ทางด้านสถิติต่าง ๆ
ขั้ นสอน
4. ครู ทบทวนความรู้ของนั กเรียน โดยการถามคำถาม
ข้อมูล สามารถแบ่งได้กี่ประเภทอะไรบ้าง
5. ครู อธิบายกับนั กเรียนว่าข้อมูลแต่ละประเภทมีลักษณะ
ที่แตกต่างกัน การรวบรวมข้อมูลจึงต่างกัน
6. ครู ให้ นั กเรียนเปิ ดหนั งสื อวิชาเทคโนโลยี(วิทยาการ
คำนวณ) และอธิบายการรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ
สามารถทำได้ดังนี้ การสั มภาษณ์ ส่ วนบุคคล การสั มภาษณ์
ทางโทรศั พท์ การใช้แบบสอบถาม การสั งเกต และ อธิบาย
ข้อมูลทุติยภูมิสามารถแบ่งออกได้ 2 รู ปแบบ ได้แก่ ข้อมูล
จากแหล่งข้อมูลภายในและข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลภายนอก
7. ครู สนทนากับนั กเรียนว่า “ในต้นคาบนั กเรียนได้
ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ป ร ะ เ ภ ท ใ ด ”
8. จากนั้ นครู ให้ นั กเรียนแบ่งกลุ่ม (กลุ่มละ 3-5 คน) ให้
นั กเรียนศึ กษาการรวบรวมข้อมูลของนั กเรียน ชั้น
มัธยมศึ กษาปี ที่ 3 จำนวน 25 คนขึ้ นไป โดยที่แต่ละกลุ่ม
รวบรวมข้อมูลที่ไม่ซ้ำกัน ในหั วข้อ “นั กเรียน ชอบรับ
ป ร ะ ท า น ผ ล ไ ม้ อ ะ ไ ร ที่ สุ ด ”
ขั้ นสรุ ป
9. ครู ให้ นั กเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความสำคัญของการ
ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล
10. ครู ให้ นั กเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอหน้ าชั้น
เ รี ย น
11. ครู และนั กเรียนร่วมกันสรุ ปเรื่องการรวบรวมข้อมูล
และเมื่อเรารวบรวมข้อมูลเสร็จแล้วขั้นตอน ต่อไปเราจะต้อง
นำข้อมูลที่รวบรวมได้ไปประมวลผล ซึ่งเราจะมาเรียนรู้ใน
ค า บ ถั ด ไ ป เ รื่ อ ง ก า ร ป ร ะ ม ว ล ผ ล ข้ อ มู ล
เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง การรวบรวมข้อมูล
คำชี้แจง : ให้นั กเรียนเลือกค ำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1.การรวบรวมข้อมูล (Data Compilation) หมายถึงข้อใด
ก. การเก็บข้อมูลขึ้นมาใหม่
ข. การเก็บข้อมูลขึ้นมาใหม่ โดยการศึกษาจากข้อมูลที่มีอยู่เดิมแล้ว
ค. การนำเอาข้อมูลต่าง ๆที่ผู้อื่นได้เก็บไว้แล้ว หรือรายงานไว้ในเอกสารต่าง ๆ
มาทำการศึกษาวิเคราะห์ต่อ
ง. การนำเอาข้อมูลต่าง ๆที่ผู้อื่นได้เก็บไว้แล้ว หรือรายงานไว้ในเอกสารต่าง ๆ
มาทำการศึกษาให้ใกล้เคียงกับข้อมูลเดิม
2.ข้อมูลแบ่งออกเป็นกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท
ข. 3 ประเภท
ค. 4 ประเภท
ง. 5 ประเภท
3.ข้อใดคือข้อมูลที่จำแนกตามแหล่งที่มา
ก. ข้อมูลเชิงคุณภาพ
ข. ข้อมูลทุติยภูมิ
ค. ข้อมูลปฐมภูมิ
ง. ถูกทั้ง ข และ ค
4.ข้อมูลทุติยภูมิ คืออะไร
ก.ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีผู้เก็บหรือรวบรวมไว้ก่อนแล้วเพียงแต่นักวิจัย
นำข้อมูลเหล่านั้ นมาศึ กษาใหม่
ข. ข้อมูลที่ผู้วิจัยเก็บขึ้นมาใหม่เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์การวิจัยในเรื่องนั้น ๆ
ค.ข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข ไม่ได้มีการให้รหัสตัวเลขที่จะนำไปวิเคราะห์
ทางสถิติแต่เป็นข้อความหรือข้อสนเทศ
ง. ข้อมูลที่เป็นตัวเลขหรือนำมาให้รหัสเป็นตัวเลขซึ่งสามารถนำไปใช้
วิเคราะห์ทางสถิติได้
5.ข้อมูลประเภทใดที่สามารถนำไปใช้วิเคราะห์ทางสถิติได้
ก. ข้อมูลเชิงปริมาณ
ข. ข้อมูลเชิงคุณภาพ
ค. ข้อมูลปฐมภูมิ
ง. ข้อมูลทุติยภูมิ
เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง การรวบรวมข้อมูล
6.ข้อใดคือข้อมูลเชิงคุณภาพ
ก. จำนวนสมาชิกโดยเฉลี่ยของครอบครัวไทย
ข. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์
ค. เพศของสมาชิกในครอบครัว
ง. ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในแต่ละปี
7. ข้อใด ไม่ใช่ ข้อมูลทุติยภูมิ
ก. ข้อมูลสำมะโนประชากร
ข. ข้อมูลภาคสนาม
ค. สถิติจากหน่วยงาน
ง. เอกสารทุกประเภทจากหน่วยงาน
8.วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลมีกี่วิธี
ก. 2 วิธี
ข. 3 วิธี
ค. 4 วิธี
ง. 5 วิธี
9. ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ก. การสัมภาษณ์
ข. การสังเกตการณ์
ค. การรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร
ง. การกำหนดแหล่งข้อมูล
10.ข้อใดไม่ใช้ข้อมูลปฐมภูมิ
ก. การสอบถาม
ข. การสัมภาษณ์
ค. การทำแบบทดสอบ
ง. ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์
อย่าลืม ทบทวนบทเรียนนะคะ !!
บรรณานุกรม
ข้อมูลและการเก็บรวบรวมข้อมูล.[ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก
http://www.digitalschool.club/digitalschool/thai2_4_1/thai8_6/p
age2.php. สืบค้นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565
เนื้ อหาวิทยาการคำวณ ม.3 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 1 การจัดการข้อมูล
และสารสนเทศ.[ออนไลน์ ]. เข้าถึงได้จาก
https://wuttichaiteacher.online/archives/1194.สืบค้นวันที่ 5
กุมภาพันธ์ 2565