แบบฟอร์มการจัดการความรคู้ รัวเรือนเป้าหมาย
โครงการพัฒนาพื้นทตี่ ้นแบบการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ตามหลักทฤษฎใี หมป่ ระยกุ ต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”
โครงการพัฒนาหมบู่ ้านเศรษฐกิจพอเพียง กจิ กรรมการพัฒนาศูนย์เรยี นรูท้ ฤษฎใี หมร่ ปู แบบ “โคก หนอง นา โมเดล”
ข้อมลู ทั่วไปของครัวเรอื น
ชอื่ – สกุล นายประสงค์ คำอยู่ ทอี่ ยู่ 7 หมู่ 10 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่รมิ จังหวดั
เชียงใหม่ เบอรโ์ ทร 081-8832096 ตำแหน่งทางสงั คม กำนันตำบลแมแ่ รม ขนาดพนื้ ท่ี 10 ไร่
กจิ กรรมในพื้นที่ การทำเกษตรทฤษฎใี หม่ ผสมผสานเข้ากบั ภูมปิ ญั ญาพืน้ บ้านทอ่ี ยูอ่ ย่างสอดคล้องกบั
ธรรมชาตใิ นพ้นื ท่ีของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพยี งบ้านโฮ่งนอกเป็นแหลง่ เรยี นรู้ โดยการส่งเสริมให้
ชาวบา้ นไดร้ จู้ กั การประกอบอาชพี ทผ่ี สมผสาน ภายในศูนย์จะส่งเสรมิ การเรียนรู้และสาธติ การเลยี้ งไก่ไข่
เล้ียงควาย เลี้ยงกบ เลีย้ งปลา นกกระทา การทำนาข้าว ถว่ั เหลอื ง ผกั สวนครวั ผกั กางมุ้งปลอดสารพิษ การ
ปลกู กลว้ ย การเพาะถวั่ งอก น้าํ สม้ ควันไม้ การทำปุ๋ยหมัก โดยรวมกลุ่มกนั ทำและต่อยอด ขยายผลออกไป
ยังพน้ื ทข่ี องตนเอง นอกจากจะมรี ายไดท้ เี่ พม่ิ ขน้ึ และมพี ืชหมนุ เวียนตลอดท้ังปี
ข้อมูลพ้ืนฐานครัวเรอื น
1. ส่ี ท.
- ทศั นะตอ่ ชีวติ /การทำงาน
1. รกั ในงานที่ทำ
2. ปรับทัศนคติเกีย่ วกับงานท่ีทำอยเู่ สมอ
3. เห็นความสำคญั ของสง่ิ ท่ีทำ และตระหนักถึงความสำคัญทเ่ี รามตี อ่ งาน
4. เชื่อวา่ ทกุ สงิ่ เปน็ ไปได้ และเราทำได้
- ทกั ษะ (ฝมี อื /แรงงาน/ความสามารถ/พเิ ศษ) .
การบรหิ ารจัดการคนในศูนยเ์ รียนร้ตู ามความสามารถและความเชี่ยวชาญของแตล่ ะบคุ คล
เพือ่ ใหเ้ กิดความเขม้ แข็งในกลุ่มองค์กร/สามัคคี แตท่ ัง้ นีต้ งั้ อาศัยปจั จัยหลาย ๆ ดา้ นรว่ มกันจึงจะประสบ
ผลสำเร็จ เชน่ การไมห่ ยดุ นง่ิ และเสาะแสวงหาความร้เู พ่ิมเติม
- ทรพั ยากร(เงนิ ทุน/ทีด่ นิ /ปจั จยั การผลิต/แรงงาน/ครอบครวั )
ศูนยเ์ รียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพียงบา้ นโฮ่งนอก เปน็ พน้ื ท่ีสง่ เสริมการเรียนร้เู ศรษฐกิจพอเพียงใน
รูปแบบทฤษฏีใหม่ และมีการบริหารจัดการในรปู แบบของคณะกรรมการ โดยเงนิ ทนุ ได้จากการขายผลผลิต
ทางการเกษตร และการเปิดโอกาสใหบ้ ุคคลภายนอกเขา้ มาศึกษาดงู าน ท้ังน้ีครอบครวั เป็นส่วนหน่งึ ใน
แรงผลกั ดนั และแรงบันดาลใจในการทำงานที่สำเร็จ
- ทางออก (การสรปุ วเิ คราะห์ตนเอง/หาทางออก/หาแนวทางการพัฒนา)
มีการพัฒนาตนเองอย่างสมำ่ เสมอ เพื่อใหพ้ ร้อมรบั และปรับเขา้ กบั สถานการณ์ทีเ่ ป็นอยู่ โดย
มกี ารแลกเปลย่ี นความรู้ รวมทั้งยอมรบั ฟังความคดิ เห็นเพอ่ื นำมาปรบั ปรงุ ใหด้ ขี ้ึน
2. การพัฒนาพ้นื ที่
- เร่มิ ตน้ อยา่ งไร/ทำอย่างไร/มขี นั้ ตอนวิธีการอยา่ งไร
เรมิ่ ตน้ จากความชอบทำเกษตรอย่แู ล้ว จึงคดิ ปรับปรุงพัฒนาสถานทใี่ ห้เป็นแหลง่ เรียนรู้ โดย
ศึกษาวธิ กี ารขั้นตอนการทำจาก การศกึ ษาดงู าน/เรยี นรู้จากแหลง่ อ่ืน ๆ และดำเนินการในรปู แบบ
คณะกรรมการ เพอื่ ความเขม้ แขง็ เป็นพลังในการขับเคล่ือนฯ
- เจอปญั หาอะไร/แก้ไขปัญหาอย่างไร
ในปัจจุบันจากสถานการณ์โควิค19 ทำใหร้ ายไดจ้ ากการศึกษาดูงานลดลง จึงมีการ
ปรับเปลย่ี นโดยเสาะแสวงหารายไดจ้ ากการรวมกลุ่มวิสาหกิจเพาะพันธก์ุ ลา้ ไม้ ทำให้เกิดรายได้ของศูนยเ์ รียนรู้
รวมถงึ ยังสามารถขยายผลไปสคู่ รวั เรือนในชมุ ชน ท่เี พาะกล้าพนั ธ์แุ ลว้ นำมาจำหนา่ ยในศูนยฯ์
- รปู แบบการประยุกตใ์ ช/้ ทฤษฎ/ี หลกั การทไี่ ด้รบั ไป
ความรทู้ ไี่ ดร้ ับจากทั้งการเข้ารว่ มอบรม ศกึ ษาดงู านแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ และประสบการณ์ท่ี
ส่ังสม นำมาลงมอื ปฏบิ ัติ และส่งต่อความร้ทู ีไ่ ดใ้ หก้ บั สมาชกิ ในศนู ย์เรยี นรรู้ วมทง้ั ครวั เรอื นในชมุ ชน
3. เครอื ขา่ ย (กลไก 357)
- มเี ครอื ขา่ ยใดเข้ารว่ มบา้ ง/เข้ารว่ มพฒั นาอยา่ งไร/กจิ กรรมใดบา้ ง
ศนู ยเ์ รียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง มีกิจกรรมดำเนินงานในศนู ย์ฯ ที่มีความหลากหลาย โดยมกี าร
บริหารจดั การโดยรูปแบบคณะกรรมการ และไดร้ ับการสนับสนนุ ทั้งงบประมาณ และความรจู้ ากหนว่ ยงาน
ภาคตี ่าง ๆ ในพ้ืนท่ี อาทเิ ช่น พัฒนาชุมชน เกษตร ประมง ปศุสตั ว์ เทศบาลตำบล กศน. ปราชญท์ ้องถิ่น
เครอื ขา่ ยโคกหนองนา ฯลฯ
- ดึงเครือขา่ ยมาเขา้ รว่ มไดอ้ ยา่ งไร/ใช้วิธไี หน/มีปจั จยั ใดทท่ี ำให้หน่วยงานเข้ามา
การเข้ารว่ มของแตล่ ะเครอื ขา่ ยมาจากการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ อบรมรว่ มกนั อกี ทง้ั ศูนย์ฯ ยัง
เปน็ สถานทเ่ี รยี นร้รู ะดับตำบล และอำเภอ จึงทำให้เป็นแหล่งเรียนรขู้ องปราชญ์ในแตล่ ะอาชพี รวมท้ัง
หน่วยงานราชการ ภาคีเครือขา่ ยตา่ ง ๆ ได้เข้ามาใชเ้ ป็นสถานทีฝ่ กึ อบรม
- แตล่ ะเครือขา่ ยท่ีเขา้ มาชว่ ยมีความแตกตา่ ง/และมีความโดดเด่นอยา่ งไร
เครอื ข่าย และบุคคลทเ่ี ข้ารว่ มนนั้ มคี วามรูค้ วามเช่ยี วชาญทแ่ี ตกตา่ งกันไป จึงทำใหเ้ กิดการ
แลกเปลยี่ นเรียนรู้ทีห่ ลากหลาย
- คดิ ว่ายังตอ้ งมหี น่วยงานไหนเขา้ มาชว่ ยอกี /และมาชว่ ยเรื่องอะไร
มหี นว่ ยงานทงั้ ภาคราชการ และภาคตี า่ ง ๆ เชน่ พฒั นาชมุ ชน เกษตร ประมง ปศสุ ตั ว์
เทศบาลตำบล กศน. ปราชญ์ทอ้ งถิน่ เครอื ข่ายโคกหนองนา ที่เขา้ มาให้ความรู้ สนบั สนนุ ในเร่ืองงบประมาณ
และมกี ิจกรรมการเอามอื้ สามัคคี
4. เทคนคิ /เคล็ดลบั
- จากข้ันตอนการพัฒนาพ้ืนทที่ ี่ไดท้ ำ ได้ค้นพบ/เทคนิค/เกิดความรู้อะไรใหมๆ่ บา้ ง
การทำงานในพ้ืนทีโ่ ดยประมาณ 10 ไร่ ซ่ึงเป็นพ้นื ท่คี ่อนข้างกว้างจงึ ทำให้ต้องมกี ารแบ่งโซน
ในการรบั ผิดชอบของสมาชิก/คณะกรรมการ ทำให้เมอื่ เกดิ ปัญหาสามารถแก้ไขในรวดเร็วและตรงจดุ
- เจอปญั หาในการพฒั นาพ้นื ท่ี/ได้แก้ไขปัญหาอยา่ งไร/ท่แี ตกต่างจากพน้ื ทอ่ี ่ืน
การพบเจอปญั หาใหม้ องเสมอว่า เปน็ โอกาสในการเรียนรสู้ ง่ิ ใหม่ ๆ
- ปัญหาทเี่ กิดขึ้น และแกไ้ ขได้สำเรจ็ คดิ วา่ เกิดจากอะไร
การแกไ้ ขปญั หาตา่ ง ๆ เกดิ จากความสามคั คใี นกลุ่ม การรวมกลมุ่ คือ พลงั
5. ความสำเร็จ
- แรงบนั ดาลใจ
การนอ้ มนำเอาพระราชดำรใิ นหลวงรชั กาลที่ 9 มาเป็นหลกั ปฏิบัติในชวี ติ /ครวั เรอื น อกี ทง้ั ยัง
ได้รบั การสนบั สนนุ ทงั้ ด้านความคดิ ความรว่ มมอื รว่ มแรง ร่วมใจ จากคนในชุมชน สง่ ผลให้เกิดกำลงั และแรง
ฮึกเหมิ พรอ้ มที่จะทำงานนัน้ ใหส้ ำเร็จ
- ปจั จยั แห่งความสำเรจ็ (พิจารณา 3 มติ ิ)
1.Knowledge(มคี วามรพู้ ื้นฐาน/ความรูเ้ ฉพาะดา้ น) อะไรบา้ ง
องค์ความรูท้ ไ่ี ด้จากประสบการณ์ และความรทู้ ่หี มน่ั ศกึ ษาโดยไมห่ ยดุ นิง่
2. Skill (มที ักษะ/ความชำนาญ) ท่ีโดดเดน่ อะไรบา้ ง
ทักษะความรู้เชี่ยวชาญทส่ี งั่ สมมาเปน็ ระยะเวลานานกว่า 18 ปี ทำให้
ปัจจบุ นั สามารถเปน็ ปราชญห์ ลักในศนู ยฯ์ ที่ใหค้ วามรู้ดา้ นต่าง ๆ
3. Attltude (ทศั นะคต/ิ ขอ้ คิด) สะกดิ ใจคนอยา่ งไร
มคี วามเชอื่ วา่ ทุกสิ่งเป็นไปได้ และเราทำได้
- มีการวางแผนพฒั นาตอ่ ยอดพืน้ ท่ีอยา่ งไร
ศูนย์เรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียงบา้ นโฮ่งนอก มกี ารประชุมคณะกรรมการเพอ่ื วางแผนการ
ดำเนนิ งานในทุก 3 เดอื น ซ่งึ ในปจั จบุ นั ได้รับงบประมาณสนับสนุนในเรื่องโคกหนองนา ท้งั ดา้ นการขดุ หนอง
กกั เก็บน้ำ พนั ธพ์ุ ชื และพนั ธุส์ ัตว์ โดยมเี ป้าหมายทจี่ ะเป็นแหล่งผลิตผกั ปลอดภยั ของตำบล/อำเภอ
- ขอ้ จำกดั
1. ขอ้ จำกดั ของครอบครวั
ครอบครวั เปน็ แรงสนับสนนุ และผลักดันในการทำงานทกุ ดา้ น จงึ ไม่ถอื ว่าเป็นอุปสรรคและ
ขอ้ จำกัดในการทำงาน
2. ปัญหาหลกั /ปัญหาหนกั ทเ่ี ปน็ อุปสรรค
การขาดเงนิ ทุนสนับสนุนในระยะยาว เพือ่ ให้สามารถทำตามเปา้ หมายทีไ่ ดว้ างแผนไว้
3. ความต้องการในการพัฒนา/แก้ไข
การได้รับสนับสนนุ งบประมาณเพมิ่ เติม และองคค์ วามรใู้ หม่ ๆ ทท่ี นั ตามสถานการณ์
4. ข้อพึงระวังในการทำงาน
การทำงานกับคนทห่ี ลากหลาย ต้องมีการแลกเปล่ียนความคิดเห็นและความเขา้ ใจท่ีไปใน
ทิศทางเดียวกนั
5. ขอ้ เสนอแนะในการพฒั นา/แก้ไข
ทุกสง่ิ เกดิ จากการเรยี นรู้ ต้องคอ่ ย ๆ ทำแลว้ นำปญั หามาแก้ไขโดยผ่านกระบวนการคิดในรปู
กลมุ่
- ปจั จยั เสรมิ
1. มอี ะไรจากภายนอกครวั เรือน ที่เขา้ มาเสรมิ ความสำเร็จ
ความรว่ มมือของคนในชมุ ชน และภาคีเครือข่ายต่าง ๆ
2. การมสี ว่ นร่วม ความรว่ มมอื จากชมุ ชนเป็นอยา่ งไร
ชุมชนเลง็ เหน็ ถงึ ความสำคญั และใหก้ ารสนบั สนนุ เปน็ อย่างดี
3. ข้อมูลเสรมิ ทไ่ี ดจ้ าก จนท.พช. อำเภอ/จงั หวัด/ผูน้ ำชมุ ชน ฯลฯ ทอ่ี ยู่นอกครวั เรือน
ไดร้ ับการสนับสนุนองคค์ วามรดู้ ้านตา่ ง ๆ จากการอบรม และการใหค้ ำปรกึ ษา
แนะนำ