The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aor_1988, 2022-05-20 12:02:56

1.2.2 การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้

1.2.2 แผนการจัดการเรียนรู้

สรปุ ระดับปญั หาเกี่ยวกบั การเรียนภาษาไทย
วชิ าวเิ คราะห์วรรณกรรม ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/5 ปีการศกึ ษา 2564

สรุปผลการวเิ คราะหผ์ ู้เรียนระดบั ปัญหาเก่ยี วกบั การเรียนภาษาไทย

ระดบั ปัญหา การอ่าน การเขยี น การฟงั และการ หลกั ภาษาไทย วรรณคดี การทอ่ ง
พูด อาขยาน
3.10 3.02
ค่าเฉลยี่ 3.24 3.12 3.17 0.79 0.68 2.69

สว่ นเบ่ยี งเบน 1.05 0.89 0.99 0.90

จากตารางสรุปผลการวิเคราะห์ผู้เรียนสรปุ ระดบั ปัญหาเก่ยี วกบั การเรียนภาษาไทยวิชาวิเคราะหว์ รรณกรรม
ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3/5 ปกี ารศกึ ษา 2563 พบว่านักเรยี นมีปญั หาอนั ดบั 1 ดา้ นการอ่าน ค่าเฉลย่ี 3.24 อันดับ
2 ด้านการฟังและการพูด คา่ เฉลี่ย 3.17 อนั ดับ 3 ดา้ นการเขียน ค่าเฉลย่ี 3.12 อันดับ 4 ดา้ นหลักภาษาไทย ค่าเฉลย่ี
3.10 อนั ดบั 5 ดา้ นวรรณคดี ค่าเฉล่ยี 3.02 และอนั ดบั 6 ด้านการทอ่ งอาขยาน ค่าเฉลยี่ 2.69 จากปญั หาตา่ ง ๆ ที่
พบทำใหน้ ำไปจัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาผ้เู รยี นต่อไป

สรุประดับปัญหาเกย่ี วกับการเรียนภาษาไทย
วิชาวเิ คราะหว์ รรณกรรม ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/12 ปกี ารศกึ ษา 2564

สรปุ ผลการวิเคราะห์ผู้เรียนระดบั ปญั หาเก่ียวกับการเรียนภาษาไทย

ระดับปัญหา การอ่าน การเขยี น การฟังและการ หลักภาษาไทย วรรณคดี การท่อง
พูด อาขยาน
2.97 2.97
ค่าเฉลี่ย 2.93 2.97 3.10 0.93 0.89 2.90

ส่วนเบีย่ งเบน 1.17 1.22 1.21 1.03

จากตารางสรุปผลการวิเคราะห์ผ้เู รียนสรุประดับปัญหาเก่ยี วกับการเรยี นภาษาไทยวิชาวิเคราะหว์ รรณกรรม
ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3/12 ปกี ารศกึ ษา 2563 พบว่านักเรียนมีปญั หาอันดับ 1 ด้านการฟงั และการพูด ค่าเฉลี่ย
3.10 อนั ดับ 2 ด้านการเขยี น คา่ เฉลี่ย 2.97 อันดบั 3 ด้านวรรณคดี คา่ เฉลี่ย 2.97 อนั ดบั 4 ดา้ นหลกั ภาษาไทย
คา่ เฉลย่ี 2.97 อันดับ 5 ดา้ นการอา่ น ค่าเฉลีย่ 2.93 และอนั ดบั 6 ดา้ นการทอ่ งอาขยาน ค่าเฉล่ีย 2.90 จากปญั หา
ต่าง ๆ ท่พี บทำใหน้ ำไปจัดการเรียนการสอนเพือ่ พัฒนาผ้เู รยี นต่อไป

สรปุ ระดบั ปัญหาเกยี่ วกับการเรยี นภาษาไทย
วชิ าวเิ คราะหว์ รรณกรรม ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/13 ปกี ารศกึ ษา 2564

สรุปผลการวิเคราะห์ผู้เรยี นระดับปญั หาเกีย่ วกับการเรียนภาษาไทย

ระดับปญั หา การอา่ น การเขียน การฟงั และการ หลกั ภาษาไทย วรรณคดี การทอ่ ง
พดู อาขยาน
3.15 2.94
คา่ เฉลย่ี 3.21 3.03 3.18 0.80 0.86 2.76

สว่ นเบย่ี งเบน 0.60 0.73 0.85 0.94

จากตารางสรุปผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนสรุประดับปัญหาเกีย่ วกบั การเรียนภาษาไทยวิชาวเิ คราะห์วรรณกรรม
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/13 ปีการศกึ ษา 2563 พบว่านักเรียนมีปัญหาอันดับ 1 ดา้ นการอ่าน ค่าเฉลี่ย 3.21
อันดบั 2 ด้านการฟังและการพูด ค่าเฉลีย่ 3.18 อันดับ 3 ด้านหลกั ภาษาไทย ค่าเฉลี่ย 3.15 อันดับ 4 ด้านการเขยี น
คา่ เฉลี่ย 3.03 อันดบั 5 ด้านวรรณคดี ค่าเฉล่ีย 2.94 และอนั ดบั 6 ด้านการทอ่ งอาขยาน ค่าเฉลีย่ 2.76 จากปญั หา
ตา่ ง ๆ ที่พบทำใหน้ ำไปจัดการเรยี นการสอนเพอ่ื พฒั นาผู้เรียนต่อไป

สรุประดบั ปญั หาเกี่ยวกับการเรียนภาษาไทย
วชิ าวเิ คราะหว์ รรณกรรม ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/14 ปีการศกึ ษา 2564

สรปุ ผลการวเิ คราะหผ์ ู้เรียนระดับปัญหาเก่ยี วกบั การเรียนภาษาไทย

ระดับปัญหา การอา่ น การเขยี น การฟงั และการ หลกั ภาษาไทย วรรณคดี การท่อง
พูด อาขยาน
3.07 3.07
คา่ เฉล่ีย 2.73 2.80 2.80 0.74 0.83 3.23

สว่ นเบ่ยี งเบน 1.05 1.06 1.03 1.19

จากตารางสรุปผลการวิเคราะหผ์ ้เู รยี นสรปุ ระดบั ปัญหาเก่ยี วกบั การเรยี นภาษาไทยวชิ าวิเคราะห์วรรณกรรม
ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/14 ปกี ารศึกษา 2563 พบว่านกั เรียนมปี ญั หาอันดับ 1 ด้านการทอ่ งอาขยาน คา่ เฉลี่ย
3.23 อนั ดบั 2 ด้านหลกั ภาษาไทย ค่าเฉลี่ย 3.07 อนั ดบั 3 ด้านวรรณคดี ค่าเฉลีย่ 3.07 อันดบั 4 ด้านการฟงั และ
การพดู ค่าเฉลย่ี 2.80 อนั ดบั 5 ด้านการเขยี น ค่าเฉลี่ย 2.80 และอนั ดับ 6 ด้านการอ่าน ค่าเฉลย่ี 2.73 จากปัญหา
ต่าง ๆ ที่พบทำให้นำไปจัดการเรยี นการสอนเพื่อพัฒนาผูเ้ รียนตอ่ ไป

แบบบันทึกประวตั ินกั เรียนเพอื่ วิเคราะห์ผู้เรียนเปน็ รายบุคคล

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอา่ งทองปัทมโรจน์วิทยาคม ปกี ารศกึ ษา 2564
ชอ่ื (เดก็ หญิง,เด็กชาย)…………………………….………………… ………….(ชอ่ื เลน่ ……………….) ช้ัน ม. …../….. เลขที่……..

คำชแ้ี จง ให้ขีดเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่อง ❑ หรือเตมิ ขอ้ ความลงในช่องว่าง ตามความเปน็ จริง

1. วนั เดือนปีเกิด …………………………………………………… อายุ…………….....ปี ……………........เดือน.......................

2. ปจั จุบนั อย่บู า้ นเลขที่………………………..หมูท่ ่ี……………. ซอย…………………………ถนน………………ตำบล………..….…..…………

อำเภอ……….………………จงั หวัด………………………รหสั ไปรษณีย์…………………

โทรศัพท์มอื ถือ…………………………………… อเี มล.์ .................................................................................................................

3. ผลการเรยี นวชิ าภาษาไทย ระดบั ม.2 ภาคเรยี นท่ี 1 พนื้ ฐาน ....... เพ่มิ เติม....... ภาคเรยี นที่ 2 พน้ื ฐาน .... เพ่ิมเติม.......

4. จำนวนพี่น้อง………………….คน (นับตวั นักเรียนดว้ ย) นักเรียนเป็นลูกคนท่ี………….

5. รายได้ของครอบครวั (โดยประมาณ) ………………………บาท/เดือน นักเรยี นได้รับคา่ ใชจ้ ่ายส่วนตัวเท่าไร ……………ต่อวนั

6. เพื่อนทอ่ี ยู่ใกล้บา้ นนักเรียน……………………………………………………………………………….. ช้นั ม. ……/……

7. เพื่อนสนิทท่รี ใู้ จนกั เรียน……………………………………………………………………………………… ชั้น ม. ……/……

8. สถานภาพของบิดามารดา ❑ อยูด่ ้วยกัน ❑ แยกกนั อยู่ ❑ หย่าร้าง ❑ เสยี ชวี ติ

9. ปัจจบุ ันนกั เรียนพกั อาศยั อยกู่ บั ใคร ❑ บดิ า-มารดา ❑ บิดา ❑ มารดา ❑ อื่น ๆ โปรดระบุ …………………

10. ฐานะของครอบครวั ❑ ยากจน ❑ ปานกลาง ❑ ดี ❑ รำ่ รวย

11. ขอ้ มลู ดา้ นสุขภาพ นำ้ หนัก........................กโิ ลกรัม ส่วนสงู ........................เซนตเิ มตร

โรคประจำตวั ……………………………ประวตั ิการแพ้ยา/อาหาร...................................................

12. ภาระงานท่ตี ้องทำ นอกเหนอื จากงานด้านการเรียน เมอ่ื อย่ทู ี่บ้าน.......................................................................................

13. เวลาที่ใชใ้ นการทำการบา้ น อา่ นหนังสือ และศกึ ษาคน้ ควา้ นอกเวลาเรียน ทีผ่ ่านมาใช้เวลาประมาณวนั ละ ……….. ชั่วโมง

14. ความสามารถพิเศษ…………………………………………………………………………….……….………………………………………………………

15. คติประจำใจ………………………………………………………………….………………………………………….………………………………………...

16. รางวลั สงู สุดที่เคยไดร้ บั …………………………………………………………………………………………………………………….…………………

17. วชิ าที่ชอบเรียนมาก ………………………………….. ….………………………………. ………………….…………….

18. วชิ าที่ชอบเรยี นน้อย ………………………………….. ….……………..………………. …………….………………….

19. อาชีพท่สี นใจ …………..………………...….. ………....……………………… ………….……………………..

20. ปัญหาในการเรยี นวชิ าภาษาไทยของตนเอง………………………………….……………………….……………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………….……………………….

21. ประเมนิ ระดบั ปัญหาวิชาภาษาไทยของตนเอง ณ ปัจจบุ นั ในแต่ละขอ้ เลอื กได้เพยี งระดับเดยี วเท่านนั้

การอา่ น มากท่ีสุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สดุ

การเขียน มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยที่สุด

การฟังและการพดู มากทีส่ ดุ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยที่สุด

หลกั ภาษาไทย มากทสี่ ดุ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยที่สดุ

วรรณคดี มากท่ีสดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยทีส่ ดุ

การท่องอาขยาน มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยที่สดุ

22. ต้องการให้ครูสอนวชิ าภาษาไทยในแบบไหน อย่างไร………………………….……………………….……………………..…..………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…….…….

23. นกั เรียนคิดว่า วชิ าภาษาไทยมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของนักเรยี น หรือไม่ อย่างไร………………………………....….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

24.นักเรียนต้องการใหค้ รจู ัดการเรยี นร้โู ดยวิธีใดมากที่สุดเรยี งตามลำดับ ใสเ่ ลข 1-5

.............แบบบรรยาย ................แบบอภิปราย ..................แบบสรา้ งแผนผังความคิด

............. แบบใช้คำถาม ................แบบโครงงาน ..................แบบแสดงบทบาทสมมตุ ิ

..............แบบทดลอง ................กระบวนการกลุ่ม ...................แบบบรู ณาการ

.............แบบระดมสมอง ................แบบสาธิต ...................แบบใหล้ งมือปฏิบัติ

..............แบบเรยี นรู้จากแหล่งเรียนรู้ในทอ้ งถ่นิ ................แบบสืบคน้ หาความรดู้ ว้ ยตนเอง

2. การวิเคราะหผ์ ู้เรียน

ด้าน รายการวิเคราะหผ์ เู้ รยี น นกั เรียนประเมินตนเอง ครูประเมินนกั เรยี น การปรบั ปรงุ
ท่ี แก้ไข
ดี ปานกลาง ปรับปรงุ ดี ปานกลาง ปรับปรงุ

1 ดา้ นความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ……… …………… …………… ……… …………… ……………
1) ความร้พู ื้นฐานภาษาไทย ……… …………… ………..... ……… …………… ……….....
2) ความสามารถในการอา่ น/คดิ วเิ คราะห/์ เขยี น ……… …………… …………… ……… …………… ……………
3) ความสนใจและสมาธิในการเรยี นรู้
…….. ……..
2 ความพรอ้ มดา้ นสติปญั ญา ……… …………… …………… ……… …………… ……………
1) ความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ……… …………… ………...... ……… …………… ……….....
2) ความมีเหตผุ ล ……… …………… …………… ……… …………… ……………
3) ความสามารถในการเรยี นรู้
…….. ……..
3 ความพร้อมดา้ นพฤตกิ รรม ……… …………… ………….. ………... …………… ……………
1) การแสดงออก ……… …………… …………… ………... …………… ………......
2) การควบคมุ อารมณ์ ……… …………… ……......... ………... …………… ……………
3) ความม่งุ มัน่ ขยันหมน่ั เพียร ……… …………… .............. ........... …………… ……........
4) ความรบั ผิดชอบ
...
4 ความพรอ้ มดา้ นรา่ งกายและจิตใจ ……… …………… …………… ……….... …………… ……………
1) สุขภาพรา่ งกายสมบรู ณ์ ……… …………… ……… ……….... …………… ………......
2) การเจรญิ เตบิ โตสมวัย ……… …………… …………… ………... …………… ……………
3) มีความสมบูรณ์ทางดา้ นสุขภาพจิต
…….. ……..
5 ความพร้อมด้านสงั คม ……… …………… …………… ……… …………… ……………
1) การปรับตวั เข้ากับผูอ้ ่นื ……… …………… ………... ……… …………… ………
2) การช่วยเหลือ เสียสละ แบง่ ปนั ……… …………… ………… ……… …………… …………
3) เคารพครู กติกา และมรี ะเบยี บ

ความคิดเหน็ / ขอ้ เสนอแนะของครู
........................................................................................................................ ..............................................................................................
........................................................................................................................ ..............................................................................................
........................................................................................................................ ..............................................................................................
........................................................................................................................ ..............................................................................................
......................................................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ......................................................ครผู ู้สอน
(นางชญาณศิ า เกษดี)



แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้

รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23102 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2/2564

ครูผู้สอน นางสาวชญาณิศา เกษดี

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

...........................................................................................

คำชีแ้ จง โปรดเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดับการประเมิน

ระดบั การประเมิน 5 หมายถึง ดีมาก

ระดับการประเมนิ 4 หมายถงึ ดี

ระดบั การประเมิน 3 หมายถึง พอใช้

ระดับการประเมนิ 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ

ระดบั การประเมนิ 1 หมายถงึ ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน

ระดบั การประเมิน

รายการประเมิน 5 4 3 21

1. กำหนดมาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรียนรคู้ รอบคลุมพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธพสิ ยั ✓

ทักษะพิสัย และจติ พิสัย

2. ความสอดคลอ้ งมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด/สาระสำคญั และกจิ กรรมการเรียนรู้ ✓

3. กิจกรรมการเรยี นรู้มีความครอบคลมุ การพัฒนาผูเ้ รียนใหม้ ีความรู้ ทกั ษะกระบวนการ ✓

สมรรถนะทส่ี ำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ตอบสนองความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ✓

5. กจิ กรรมการเรยี นรหู้ ลากหลายและเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ✓

6. นำภมู ิปัญญาท้องถิ่นและส่อื เทคโนโลยีมาประยุกตใ์ ช้ในการเรียนการสอน ✓

7. ส่ือการเรยี นรู้มีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนการสอน ✓

8. ประเมินความกา้ วหนา้ ของผู้เรยี นด้วยวธิ ที หี่ ลากหลายเหมาะสมกับธรรมชาติวิชา ✓

9. วิเคราะห์ผลการประเมนิ แลว้ นำมาใชใ้ นการสอนซอ่ มเสริม ✓

10. วิธีวัดและเครือ่ งมอื วัดสอดคลอ้ งกบั พฤตกิ รรมท่ีกำหนดไว้ในตัวช้ีวดั หรอื จุดประสงค์การเรยี นรู้ ✓

รวมคะแนนทงั้ หมด 45

ค่าเฉลย่ี 4.50 (ดมี าก)

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. ......................................................

...................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ..................... ...............................ผู้ประเมนิ

(นายปัณณทตั อ่องทับน้ำ)

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

สรปุ ผลการประเมินแผนการจดั การเรียนรู้
4.50 – 5.00 หมายถึง ดมี าก
3.50 – 4.49 หมายถงึ ดี
2.50 – 3.49 หมายถึง พอใช้
1.50 – 2.49 หมายถงึ ปรบั ปรุง
ต่ำกว่า 1.50 หมายถงึ ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ

แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้

รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท23101 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1/2564

ครูผู้สอน นางสาวชญาณิศา เกษดี

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

...........................................................................................

คำชี้แจง โปรดเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดบั การประเมิน

ระดบั การประเมิน 5 หมายถงึ ดีมาก

ระดับการประเมนิ 4 หมายถงึ ดี

ระดบั การประเมิน 3 หมายถึง พอใช้

ระดับการประเมนิ 2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

ระดบั การประเมนิ 1 หมายถงึ ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ระดับการประเมิน

รายการประเมนิ 5 4 3 21

1. กำหนดมาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรียนรคู้ รอบคลุมพฤติกรรมการเรยี นรู้ ด้านพทุ ธพิสยั ✓

ทักษะพิสัย และจิตพสิ ยั

2. ความสอดคลอ้ งมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด/สาระสำคญั และกจิ กรรมการเรียนรู้ ✓

3. กิจกรรมการเรยี นรู้มีความครอบคลุมการพัฒนาผูเ้ รียนให้มีความรู้ ทกั ษะกระบวนการ ✓

สมรรถนะทสี่ ำคัญของผูเ้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

4. กจิ กรรมการเรยี นร้ตู อบสนองความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ✓

5. กจิ กรรมการเรยี นร้หู ลากหลายและเนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั ✓

6. นำภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นและส่อื เทคโนโลยีมาประยุกตใ์ ช้ในการเรยี นการสอน ✓

7. ส่ือการเรียนรมู้ ีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนการสอน ✓

8. ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ของผู้เรยี นดว้ ยวธิ ีท่ีหลากหลายเหมาะสมกบั ธรรมชาติวชิ า ✓

9. วิเคราะหผ์ ลการประเมนิ แลว้ นำมาใชใ้ นการสอนซอ่ มเสรมิ ✓

10. วิธีวัดและเครือ่ งมอื วัดสอดคลอ้ งกบั พฤติกรรมท่ีกำหนดไว้ในตวั ช้ีวดั หรอื จุดประสงค์การเรียนรู้ ✓

รวมคะแนนทงั้ หมด 45

ค่าเฉลย่ี 4.50 (ดีมาก)

ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะ

............................................................................................................................. ......................................................

...................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ......................... ...........................ผู้ประเมนิ

(นายปัณณทัต อ่องทับน้ำ)

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

สรปุ ผลการประเมินแผนการจดั การเรียนรู้
4.50 – 5.00 หมายถึง ดมี าก
3.50 – 4.49 หมายถงึ ดี
2.50 – 3.49 หมายถึง พอใช้
1.50 – 2.49 หมายถงึ ปรบั ปรุง
ต่ำกว่า 1.50 หมายถงึ ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี่ท่ี 3

รหสั วชิ า ท 23101 ช่ือวชิ า ภาษาไทย เวลาเรียน 120 ช่ัวโมง/ปี

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง อา่ นออกเสียง เวลาเรยี น 12 ช่วั โมง/หน่วย

แผนที่ 6 เร่ือง การเขียนผงั ความคิดจากการอา่ น(บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียงในทอ้ งถิน่ ) เวลา 1 ช่ัวโมง/คาบ

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอ่าน

ตัวชวี้ ดั ม.3/4 อา่ นเรื่องตา่ งๆ แล้วเขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความและรายงาน
ม.3/10 มมี ารยาทในการอ่าน

2. สาระสำคัญ (ความคดิ รวบยอด)

การอา่ นเรอ่ื งตา่ งๆ แล้วเขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคดิ บันทกึ ย่อความและรายงาน จากเร่ืองราวจาก
บทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น นับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่นักเรียนต้องได้รับการฝึกฝน เพื่อให้สามารถนำ
ความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวันได้อยา่ งถูกต้อง

3. สาระการเรียนรู้ (K)

3.1 สาระการเรียนรู้
3.1.1 สาระการเรียนรู้ (ประจำแผนการจัดการเรียนร)ู้
1. การจับใจความจากเร่อื งราวจากบทเรียนในกลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น
2. มารยาทในการอา่ น
3.1.2 สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่ิน (พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา)
- บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง

3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P)
โดยใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อฝึกทักษะอ่านเรื่องต่างๆ แล้วเขียน

กรอบแนวคดิ ผังความคิด บันทกึ ย่อความและรายงาน
3.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
3.3.1 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (ประจำแผนการจดั การเรยี นรู)้
- มารยาทในการอา่ น
3.3.2 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (ประจำกล่มุ สาระการเรยี นรู้)
-

3.4 สมรรถนะสำคญั ผู้เรยี น (C)

1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการสือ่ สาร

4. ภาระงาน (สะทอ้ นการจดั กิจกรรม)

4.1 ภาระงาน
4.1.1 แบบฝกึ ทักษะ เร่ือง การเขยี นผงั ความคดิ จากการอ่าน

5. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์
แบบฝึกทกั ษะ แบบฝกึ ทักษะ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เร่อื ง การเขยี นผงั ความคิดจากการอา่ น เรือ่ ง การเขยี นผังความคดิ จากการอ่าน
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แบบสงั เกตคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
(ประจำแผนการจดั การเรยี นรู้) (ประจำแผนการจดั การเรยี นร)ู้ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ สมรรถนะสำคัญผ้เู รียน แบบประเมินสมรรถนะสำคัญผเู้ รยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สรปุ ผลสมรรถนะสำคัญผูเ้ รียน แบบสรปุ ผลสมรรถนะสำคัญผู้เรยี น

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 6

วธิ กี ารสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนคิ แบ่งปนั ความสำเรจ็

ขนั้ ที่ 1 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน ( 5 นาท)ี
1.ครูนำตัวอยา่ งผงั ความคิด ซึ่งเปน็ ผลงานเก่าของนกั เรยี นทม่ี ีความแตกตา่ งกนั อย่างหลากหลายมาให้

นกั เรียนดู และให้นกั เรยี นรว่ มแสดงความคดิ เหน็
2.ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการเขียนกรอบความคิดและประโยชน์ของการเขียนกรอบความคิด

นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด การเขียนผังความคิด นักเรียนนำความรู้ในวิชาใดมาใช้ได้บา้ ง และใช้
อยา่ งไร (วิชาศลิ ปศกึ ษา ใชใ้ นการตกแต่งใหส้ วยงาม)

ขน้ั ที่ 2 ขน้ั ดำเนนิ การสอน ( 40 นาที)
1.ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษา เรอื่ งการเขยี นผงั ความคิดจากหนงั สือเรียนวิชาภาษาไทย เพอ่ื ทำความเข้าใจด้วย

ตนเอง จากนั้นสุ่มถามนักเรียนเกี่ยวกับความหมายและรูปแบบการเขียนผังความคิด โดยครูช่วยอธิบายเพ่ือ
ขยายรายละเอยี ดให้มีความชดั เจนมากยิ่งข้ึน

2.ครูนำตัวอย่างรูปแบบของการเขียนผังความคิดมาให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ว่าจาก
ตวั อยา่ งท่ีครนู ำมาเป็นการเขียนผังความคดิ ประเภทใด พรอ้ มบอกเหตุผล

3.ครูอธิบายหลักการ รูปแบบเกี่ยวกับกลวิธีการบันทกึ เร่ืองทีอ่ ่าน เพื่อให้นักเรียนนำไปใช้เปน็ แนวทาง
ในการเขียนผงั ความคิดเพม่ิ เตมิ

4.ครูแจกบทความเก่ียวกับเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1 เร่อื ง ใหน้ ักเรยี นอา่ นเพ่อื ศึกษาและทำความเข้าใจด้วย
ตนเอง จากนัน้ ใหน้ ักเรียนแต่ละคนเขียนประเด็นหลกั และหัวข้อยอ่ ยทีพ่ บจากการศึกษาเรื่องท่กี ำหนด

5.ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคนออกแบบผงั ความคดิ ในรูปแบบก่งิ ไม้ จากบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง
พรอ้ มท้งั ออกแบบใหต้ รงตามหลกั การ แล้วนำมาสง่ ตามระยะเวลาทกี่ ำหนด

6.ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั เพม่ิ เตมิ เกีย่ วกบั เน้อื หาทเี่ รยี นในช่วั โมงน้ี

ข้ันที่ 3 ข้ันสรุป ( 5 นาที)
1.ครแู ละนกั เรียนทุกคนร่วมกนั สรปุ ความรู้ท่ีเรียนในชว่ั โมงน้ีเกยี่ วกับ การเขยี นผังความคดิ จากการอ่าน

เพื่อประเมนิ ความรแู้ ละความเข้าใจของนักเรียนว่าการเขยี นผังความคดิ มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
2. ครปู ระกาศชมเชยนักเรยี น สมั ภาษณ์นกั เรยี นท่ที ำผลงานไดด้ ีเยยี่ มเพอ่ื เปน็ ตัวอย่างในการทำงานครั้ง

ตอ่ ไปและชแ้ี จงจุดประสงค์การเรยี นรู้ในครงั้ ต่อไปใหน้ กั เรียนทราบ เพ่ือให้นักเรยี นไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
ในการเรียนคร้ังตอ่ ไป

7. สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้

7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

7.1.1 แบบฝกึ ทกั ษะ เรื่อง การเขียนผังความคดิ จากการอ่าน
7.1.2 Power point เรอื่ ง การเขียนผงั ความคิดจากการอา่ น

7.1.3 ตัวอยา่ งผงั ความคิดรูปแบบตา่ งๆ

7.1.4 หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

7.2.1 ห้องเรียน

7.2.2 หอ้ งเรียนสมุดโรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วทิ ยาคม

7.2.3 ห้องเรียนส่อื นวตั กรรมและเทคโนโลยี

10. บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้
..................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
11. ปัญหาหรือส่งิ ทต่ี ้องพฒั นา

..................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
12. ข้อเสนอแนะในการพฒั นาแผนการเรยี นรู้

................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ…………………………………………ผสู้ อน
(นางชญาณศิ า เกษดี)

ภาคผนวก

แบบฝกึ ทกั ษะ

เร่ือง การเขยี นผังความคิดจากการอ่าน

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นอ่านสารคดี เร่อื ง กลว้ ย แล้วเขียนบนั ทึกเร่อื งที่อ่านในรปู แบบผังความคิดให้สมบรู ณ์

หากจำแนกประเภทของกล้วย อาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กล้วยกินสดและกล้วยที่ต้องทำให้สุกด้วย
ความร้อนก่อน กลุ่มแรกเป็นกล้วยที่เมื่อผลสุกแล้วรับประทานได้ทันที เมื่อสุกแล้วเนื้อจะนิ่มมีรสหวาน เช่น
กล้วยไข่ กล้วยหอมทอง กล้วยน้ำหว้า เป็นต้น ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นกล้วยที่มีแป้งมาก เนื้อค่อนข้างแข็งกว่า
กลุ่มแรก เมื่อสุกแล้วเนื้อไม่นิม่ รสไม่หวาน ต้องนำมาผ่านความรอ้ นด้วยการต้ม ปิ้ง หรือเชื่อมจึงจะทำให้เนือ้ น่มุ
และมีรสชาตดิ ขี ้ึน เช่น กล้วยกล้าย กล้วยหกั มกุ กลว้ ยเล็บช้างกุด เปน็ ตน้

กล้วยเปน็ ผลไม้ท่ีมีไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำแตม่ ีวิตามนิ ซี โพแทสเซยี ม แมกนีเซยี มและแคลเซียมสูง
สามารถนำมาบริโภคได้หลายวิธี อาจจะรับประทานสดกไ็ ด้ หากเป็นกล้วยสุกก็ขูดเอาเนื้อมาบดละเอียดให้ทารก
รับประทาน หรืออาจนำมาต้มให้สุกแล้วโรยมะพร้าวขูดกับน้ำตาล เพื่อเพิ่มความหวานมัน บ้างก็นิยมนำมาป้ิง
รับประทาน นอกจากนั้นยังสามารถนำกล้วยไปแปรรูปได้อีกหลายอย่าง เช่น กวน ฉาบ หรืออบแห้ง เป็นต้น
นอกจากผลกล้วยแล้วส่วนต่างๆของกล้วยก็นำมาใช้งานได้ด้วย เช่น ใบตองสดนำมาห่ออาหารหรือผักสด ใช้ห่อ
อาหารก่อนนำไปต้ม นึ่ง หรือปิ้งก็ได้ หรือนำมาเย็บทำเป็นกระทงเพื่อลอยในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง หากเป็น
ใบตองแห้งกน็ ำมาทำเป็นกระทงใส่อาหารหรือหอ่ ขนมอย่างกะละแม หรือใชม้ วนบุหรี่ก็ได้ สว่ นกาบกล้วยนำมาใช้
ในงานเคร่อื งสดฉลุลาย เรยี กวา่ “การแทงหยวก” เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีต่างๆ นำมาห่นั เป็นชนิ้ เล็กๆ ตากแดด
จนแหง้ ดี ก็จะไดเ้ ชอื กกลว้ ยที่มีความเหนยี วใช้ผ้ขู ้าวของได้ดี สว่ นกา้ นกล้วยเม่ือเลาะใบตองออกแลว้ สามารถนำมา
ทำเปน็ ของเลน่ เด็กได้ ทงั้ มา้ กลว้ ย ปนื ก้านกลว้ ย เปน็ ต้น ด้วยประโยชนต์ ่างๆเหลา่ น้ี ทำใหก้ ลว้ ยเปน็ พนั ธไ์ ม้สารพัด
ประโยชนท์ อ่ี ยคู่ คู่ นไทยมานานแสนนานตราบจนทกุ วันนี้

ท่มี า : กลว้ ย ประนอม พงษ์เผือก,จนิ ตนา วีรเกยี รตสิ ุนทร

เฉลย
เร่อื ง การเขียน

(อยู่ในดลุ

ยแบบฝึกทักษะ
นผังความคดิ จากการอา่ น

ลยพินิจของผสู้ อน)

เกณฑ์ประเมินทกั ษะกระบวนการ
เร่อื ง การเขยี นผังความคดิ จากการอ่าน

ระดบั คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน

รายการ ดีมาก ดี ปานกลาง นอ้ ย น้อยทีส่ ุด

ประเมนิ (5) (4) (3) (2) (1)

1.ความ - อธบิ ายเนื้อหาของบท - อธบิ ายเน้อื หาของบท - อธิบายเนอ้ื หาของบท - อธิบายเนื้อหาของ - อธิบายเนอื้ หาของ

ถกู ต้อง ร ้อ ยก ร องไ ด้อย่าง ร ้อยก ร อง ไ ด้อ ย่าง ร ้อ ยก ร อ ง ไ ด้อ ย่าง บทร้อยกร อง ไ ด้ บทร้อยกร อ ง ไ ด้

ชดั เจน ชัดเจน ชัดเจน อย่างชดั เจน อย่างชัดเจน

- เขียนแผนผังของบท - เขียนแผนผังของบท - เขียนแผนผังของบท - เขียนแผนผังของ

ร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง รอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง ร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง บทร้อยกร อง ไ ด้

- บอกวิธีการอ่านออก - บอกวิธีการอ่านออก - บอกวิธีการอ่านออก ถูกตอ้ ง

เสยี งไดถ้ ูกตอ้ ง เสียงได้ถกู ต้อง เสียงได้ถูกต้อง

- แบ่งวรรคตอนในการ - แบ่งวรรคตอนในการ

ออกเสียงไดถ้ กู ต้อง ออกเสยี งได้ถกู ตอ้ ง

- เรียบเรียงข้อความที่

สำคัญได้อยา่ งชดั เจน

2.ความ - ตัวอกั ษรเปน็ ระเบียบ - ตวั อกั ษรเปน็ ระเบยี บ - ตวั อกั ษร - ตัวอักษรอา่ นง่าย - ตัวอกั ษรอา่ นง่าย

เรียบรอ้ ย - ตัวอกั ษรอา่ นง่าย - ตวั อักษรอ่านงา่ ย เป็นระเบยี บ - ไม่มีรอยขดี ฆา่

- ตัวอักษรสม่ำเสมอกัน - ตวั อกั ษรสม่ำเสมอกัน - ตวั อักษรอ่านงา่ ย

- ไมม่ รี อยขีดฆา่ - ไม่มีรอยขีดฆา่ - ไม่มีรอยขดี ฆา่

- ไม่มีรอยลบคำผดิ

3. เวลา - สง่ งานตรงตามเวลา - สง่ งานช้ากวา่ เวลา - ส่งงานช้ากว่าเวลา - ส่งงานช้ากว่าเวลา สง่ งานชา้ กว่าเวลา

ท่กี ำหนด ที่กำหนด 1 วนั ทกี่ ำหนด 2 วัน ทีก่ ำหนด 3 วนั กำหนดมากกว่า

3 วันขนึ้ ไป

ลงชอ่ื ........................................ผปู้ ระเมิน
(...............................................)

วันท่.ี .........เดือน................พ.ศ...............

เกณฑก์ ารตัดสินระดับคุณภาพ

เกณฑ์การประเมิน ระดบั คุณภาพ ระดบั คะแนน

ผ่าน = ได้คะแนนตัง้ แตค่ รง่ึ หน่งึ ดมี าก 4.50 – 5.00 คะแนน
ไม่ผ่าน = ของคะแนนเตม็
ได้คะแนนไมถ่ งึ ครึ่งหนงึ่ ดี 3.50 – 4.49 คะแนน
ของคะแนนเตม็
ปานกลาง 2.50 – 3.49 คะแนน

น้อย 1.50 – 2.49 คะแนน

นอ้ ยทีส่ ดุ 0.00 – 1.49 คะแนน

คะแนนตำ่ กว่า 2.50 คะแนนไม่ผา่ น

เกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

คำช้แี จง ให้ครูสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วใส่เคร่ืองหมาย ( )
ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดับคะแนน

รายการ รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ ดี พอใช้
ดมี าก (3) (2) ปรับปรงุ
(4) (1)

พฤติกรรม 1. มรี ะเบยี บวินยั
การทำงาน
รายบุคคล 2. ตอบคำถามไดถ้ ูกตอ้ ง
3. ตง้ั ใจในการทำงาน
4. รบั ผิดชอบต่องานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
5. มีสว่ นรว่ มแสดงความคิดเหน็

รวม

ลงชอ่ื ...............................................................ผปู้ ระเมนิ
(................../...................../..................)

เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ปฏบิ ัตอิ ย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั บิ อ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง ให้ 2 คะแนน 18 – 20 ดีมาก
ปฏิบตั นิ ้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
14 – 17 ดี

10 – 13 พอใช้

ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง

เกณฑ์การสังเกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
(ประจำแผนการจดั การเรียนร)ู้

คำชี้แจง ให้ครูสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ใส่เคร่อื งหมาย ( )
ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดบั คะแนน

รายการ รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ
ประเมนิ ดี พอใช้
ดีมาก (3) (2) ปรบั ปรุง
(4) (1)

1.มีมารยาท 1. มีความตั้งใจในการอ่าน
ในการอา่ น 2. ไม่เล่นกนั ขณะอ่านหนงั สือ

3. ไม่อา่ นเสยี งดังรบกวนผอู้ ่ืน
4. ไม่ทำกิจกรรมระหว่างอา่ นหนงั สือ
5. น่ังในท่าสบาย ตวั ตรง สภุ าพ

รวม

ลงช่ือ...............................................................ผู้ประเมิน
(................../...................../..................)

เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ปฏิบตั อิ ยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
ปฏบิ ัติบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง ให้ 2 คะแนน 18 – 20 ดมี าก
ปฏิบัตินอ้ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
14 – 17 ดี

10 – 13 พอใช้

ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น

คำชแี้ จง ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วใส่เครอ่ื งหมาย ( )
ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดับคะแนน

สมรรถนะสำคญั รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
ผู้เรียน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
(4) (3) (2) (1)

1.ความสามารถ 1. มีความคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
ในการคดิ 2. มคี วามคิดอย่างมเี หตุผล
3. มีความสามารถคิดอย่างเปน็ กระบวนการ
2.ความสามารถ 4. มีความเข้าใจสามารถนำไปใชใ้ นชีวิตจริง
ในการสือ่ สาร 5. มคี วามสามารถคดิ วิเคราะห์
1. สอ่ื สารได้ถูกต้อง ชัดเจน
2. ส่อื สารได้ตรงประเด็น
3. ส่อื สารไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ
4. สอ่ื สารอย่างสร้างสรรค์
5. ใชภ้ าษาอย่างสุภาพในการสื่อสาร

รวม

ลงช่อื ...............................................................ผูป้ ระเมนิ
(................../...................../..................)

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ปฏิบตั ิอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
ปฏิบัติบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 18 – 20 ดมี าก
ปฏิบตั นิ ้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
14 – 17 ดี

10 – 13 พอใช้

ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง











ผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ตาแหน่งครู

ด้านที่ ๑

ด้านการจดั การเรียนการสอน

๑.๒ การจัดการเรียนรู้

๑.๒.๒ การจดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้

นางชญาณิศา เกษดี

ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ
โรงเรยี นอ่างทองปทั มโรจน์วทิ ยาคม
สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษาสงิ ห์บุรี อ่างทอง

สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ


Click to View FlipBook Version