The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้.แบบ Active Learning-ผสาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รัก การเรียน, 2020-09-23 00:40:44

แผนการจัดการเรียนรู้.แบบ Active Learning-ผสาน

แผนการจัดการเรียนรู้.แบบ Active Learning-ผสาน

แผนการจัดการเรยี นรู้

วิชา งานไฟฟา้ รถยนต์ รหสั วิชา 20101-2005
หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2552

ประเภทวชิ า ชา่ งอุตสาหกรรม
สาขาวิชา ช่างยนต์ สาขางานยานยนต์

จัดทาโดย

นายอมรเทพ สภุ างาม
ตาแหน่ง พนกั งานราชการครู

วทิ ยาลยั เทคนคิ กาญจนาภิเษกเชียงราย

สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

2

ลักษณะรายวิชา ช่วั โมง 7

ช่ือวชิ า งานไฟฟา้ รถยนต์ รหัสวิชา 20101-2005
หนว่ ยกติ 3 เวลาเรยี นต่อภาค 90

จุดประสงคร์ ายวิชา
1. เพ่ือให้มีความเข้าใจหลักการใช้เคร่ืองมือวดั เครอ่ื งมือทดสอบ การถอดประกอบ ตรวจสอบอปุ กรณ์
ในระบบไฟฟา้ รถยนต์
2. เพอ่ื ใหม้ คี วามสามารถบารุงรักษา แก้ไขปรบั ข้อขดั ขอ้ งของระบบไฟฟ้ารถยนต์
3. เพ่ือให้มกี ิจนิสยั ที่ดีในการทางาน มคี วามรับผดิ ชอบ ตรงต่อเวลา รักษาความสะอาดและปลอดภยั
4. เพอื่ ใหส้ ามารถศึกษาติดตามความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีระบบไฟฟ้ารถยนต์

สมรรถนะของรายวชิ า
1. เขา้ ใจหลักการทางานและตรวจสอบสภาพระบบไฟฟา้ รถยนต์
2. ตรวจสภาพอุปกรณ์ในระบบไฟฟา้ รถยนต์
3. ถอดประกอบชนิ้ ส่วนอปุ กรณ์ในระบบไฟฟา้ รถยนต์
4. แก้ไขข้อขัดข้องของระบบไฟฟา้ รถยนต์
5. ทดสอบการทางานของระบบไฟฟ้ารถยนต์

คาอธิบายรายวชิ า

ศกึ ษาและปฏิบตั ิ การใช้เคร่ืองมือวดั และเครื่องมือทดสอบ แก้ไขขอ้ ขดั ข้องระบบจุดระเบดิ ระบบ
สตาร์ต ระบบประจุไฟ ระบบแสงสวา่ ง ระบบสญั ญาณและอุปกรณ์อานวยความสะดวกในระบบไฟฟ้ารถยนต์

หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

หน่วยการเรียน 3

หน่วยท่ี ชื่อหน่วย ทฤษฎี จานวนคาบ
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
1 ทฤษฎไี ฟฟ้ารถยนต์เบ้ืองตน้
2 พืน้ ฐานทางไฟฟา้ รถยนต์ 33
3 แบตเตอรี่รถยนต์ 33
4 ระบบสตารต์ 33
5 ระบบจดุ ระเบิด 33
6 ระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ 36
7 ระบบไฟชารจ์ 66
8 ระบบแสงสว่าง 66
9 ระบบสญั ญาณ 66
10 ระบบเคร่ืองมือวัด 33
11 ระบบอานวยความสะดวก 33
63

รวม 90

หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

รหัส 20101-1005 ตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู ร 4
หน่วยกิต. 3
วิชา งานไฟฟ้ารถยนต์

ชั้น . ปวช. สาขาวิชา/กลมุ่ วิชา/. ชา่ งยนต์

พทุ ธพิ สิ ยั

พฤติกรรม ความรู้(5)
ความ ้ขาใจ(5)
ชื่อหน่วย นาไปใช้(5)
วิเคราะห์/สังเคราะห์(5)
1. ทฤษฎไี ฟฟา้ เบอ้ื งตน้ ประเ ิมนค่า(5)
2.พนื้ ฐานทางไฟฟา้ รถยนต์ สร้างสรรค์(5)
3. แบตเตอรี่
4. ระบบสตารต์ ทักษะพิ ัสย
5. ระบบจุดระเบิด ิจต ิพ ัสย
6. ระบบจดุ ระเบดิ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ รวม
7. ระบบไฟชาร์จ ลาดับความสาคัญ
8. ระบบแสงสว่าง จานวนคาบ
9.ระบบสัญญาณ
10. ระบบเคร่ืองมอื วดั 2 2 4 1 - - - 1 10 11 6
11. ระบบอานวยความสะดวก
2 2 4 3 - - - 2 12 10 6
สัดสว่ น
รวม 2 3 5 5 - - 10 2 27 1 6

2 5 2 4 - - 8 2 23 2 6

2 5 5 4 - - 7 2 25 7 6

1 4 4 2 - - 6 2 19 8 12

1 5 4 3 - - 7 2 22 3 12

2 4 4 3 - - 9 2 24 4 12

2 4 3 5 - - 5 2 21 6 6

3 2 5 2 - - 6 2 20 5 6

1 223- - -1996

30 50 20 90

100

หน่วยศึกษานิเทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

5

กาหนดการสอน

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจาหน่วย / สัปดาหท์ ี่ ชั่วโมงท่ี
รายการสอน เกณฑก์ ารปฏบิ ตั งิ าน 5

หน่วยท่ี 3 แบตเตอรี่รถยนต์ สมรรถนะ
1. แบตเตอร่ีรถยนต์
1. บารุงรกั ษาแบตเตอร่ีรถยนต์ตาม
1.1 หนา้ ที่ของแบตเตอรี่รถยนต์
1.2 โครงสรา้ งของแบตเตอร่ีรถยนต์ หลักวิธกี ารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
1.3 การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่รถยนต์
1.4 การใชเ้ คร่ืองมือในตรวจสอบแบตเตอรี่รถยนต์ เกณฑก์ ารปฏิบตั งิ าน 3
1.เครื่องมือและอุปกรณ์จัด

เตรยี มพร้อมปฎิบตั ิ
2.วสั ดุไดจ้ ดั เตรยี มได้ตามข้อกาหนด
3.ตรวจสภาพการใชง้ านของ

แบตเตอรรี่ ถยนต์ตามคมู่ ือปฎบิ ตั ิงาน
4.แบตเตอรผ่ี า่ นการตรวจสอบพร้อม

นาไปใชง้ าน
5.พ้ืนที่ปฎบิ ัตงิ านไดผ้ ่านการทาความ

สะอาดและเก็บวัสดุ- อุปกรณ์หลกั จาก
การปฎบิ ตั งิ าน

หน่วยศกึ ษานิเทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

6

แผนการจดั การเรยี นรู้

หนว่ ยท่ี 3 จานวน 5 ชั่วโมง สัปดาห์ที่ 3

ชือ่ วิชา งานไฟฟ้ารถยนต์ ชือ่ หน่วย แบตเตอรี่รถยนต์

ชื่อเร่อื ง แบตเตอรี่รถยนต์

……………………………………………………………………………………………………………………………………

1. สาระสาคัญ
ศึกษาและปฏบิ ตั ถิ ึงการบารุงรกั ษาแบตเตอร์รรี่ ถยนต์ การลงมือปฎบิ ัตกิ ารชารต์แบตเตอร่ีรถยนต์

และการตรวจวดั ค่าความถ่วงจาเพาะของแบตเตอรี่รถยนต์ ไดถ้ ูกต้องครบถว้ นทุกขั้นตอน
2. สมรรถนะและเกณฑ์การปฏิบตั ิงานประจาหนว่ ย

2.1สมรรถนะประจาหน่วย
1.บารงุ รักษาแบตเตอร่ีรถยนตต์ ามหลกั วิธีการได้อยา่ งถูกตอ้ ง

2.2 เกณฑก์ ารปฏิบตั ิงานประจาหน่วย

1.เครือ่ งมือและอปุ กรณจ์ ัดเตรียมพรอ้ มปฎิบตั ิ
2.วสั ดไุ ด้จดั เตรียมไดต้ ามข้อกาหนด
3.ตรวจสภาพการใช้งานของแบตเตอรรี่ ถยนตต์ ามคมู่ ือปฎบิ ตั งิ าน
4.แบตเตอร่ผี า่ นการตรวจสอบพร้อมนาไปใช้งาน
5.พืน้ ที่ปฎบิ ตั งิ านได้ผ่านการทาความสะอาดและเก็บวัสดุ- อปุ กรณ์หลักจากการปฎิบตั ิงาน3.1
จุดประสงคท์ ั่วไป
3.1 นักเรียน นักศึกษา มีความรเู้ กี่ยวกับหน้าท่ีของแบตเตอร่ีรถยนต์
3.2 นกั เรียน นักศึกษา รู้จักโครงสร้างของแบตเตอรี่รถยนต์
3.3 นักเรียน นกั ศึกษา มที ักษะการตรวจสภาพของแบตเตอร่รี ถยนต์ตามวธิ ี
3.4 นกั เรียน นักศึกษามีการเตรยี มความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏบิ ตั ิงานอย่างถกู ต้อง
สาเร็จภายในเวลาท่กี าหนด มีเหตแุ ละผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. อธิบายหน้าท่ีของแบตเตอรี่รถยนต์ได้ถูกตอ้ ง (ดา้ นความเข้าใจ)
2. บอกโครงสร้างของแบตเตอร่ีรถยนต์ได้ครบถ้วน (ด้านความรู้)
3. ลงมอื ปฎบิ ตั กิ ารตรวจสภาพแบตเตอร่ีรถยนต์ตามขัน้ ตอนได้ถกู ต้อง (ด้านการนาไปใช้)
4. เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ตามท่ีกาหนดได้ (ดา้ นความเข้าใจ)
5. บารงุ รักษาแบตเตอร่ีรถยนตต์ ามข้นั ตอน (ดา้ นการวิเคราะห์)
6. มีกจิ นสิ ัยทีด่ ใี นการทางาน รับผิดชอบ ตรงต่อเวลา (ดา้ นจติ พสิ ยั )

หน่วยศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

7

4. สาระการเรียนรู้
ด้านความรู้(ทฤษฎี)
1. หนา้ ท่ีของแบตเตอรี่
แบตเตอร่ีรถยนต์ ทาหน้าที่สะสมพลังงานไฟฟ้า เพื่อจ่ายให้แก่ระบบสตาร์ต ระบบจุด

ระเบดิ ระบบแสงสว่าง และอปุ กรณ์ไฟฟ้าระบบอืน่ ๆ
แบตเตอรแ่ี บ่งออกเปน็ 2 ชนดิ
1.1 แบตเตอรี่ชนิดเปียก
มกี ารใช้อยู่ในรถยนต์ บรรจนุ า้ ยาเคมีและโลหะซง่ึ ทาปฏกิ ิริยาตอ่ กัน เพือ่ ผลิตพลงั งาน

ไฟฟ้า การใชแ้ บตเตอร่ีชนดิ น้ีมีข้อดีอยา่ งมาก คอื สามารถประจุไฟได้ใหม่หลงั จากอ่อนกาลงั ลง การประจุ
ไฟน้ีกระทาไดโ้ ดยการชารจ์ กาลังไฟฟา้ เข้าไปในตวั มนั เพื่อใหโ้ ลหะ และน้ายาเคมภี ายในคืนตวั สู่สภาพเดมิ

1.2 แบตเตอรีช่ นิดแห้ง
เช่น ถา่ นไฟฉาย ซึ่งเม่ือใชพ้ ลงั งานท่ีประจหุ มดแล้วไม่สามารถนามาประจุ เพื่อนา

กลับไปใช้ใหม่ได้ ยกเว้นแบตเตอร่ีทาจากสารนิเกลิ แคดเมียม
2. โครงสร้างของแบตเตอร่ี
แบตเตอรี่ของรถยนตป์ ระกอบไปดว้ ย กรดกามะถนั เจอื จางเป็นนา้ ยาเคมี และแผน่ โลหะ

บวกกับแผน่ โลหะลบ เมื่อแผ่นโลหะทาขึ้นจากตะกัว่ หรอื สารทมี่ าจากตะก่วั แบตเตอร่ีชนิดน้จี ึงมักจะถกู
เรียกว่า
“แบตเตอร่ตี ะกัว่ กรด”

ภายในแบตเตอรจ่ี ะถกู แบ่งออกเป็นช่อง ๆ ตามจานวนแรงเคลือ่ นของแบตเตอร่ี เชน่ 12
โวลต์ จะมี 6 ชอ่ ง ในแตล่ ะชอ่ งจะมีสว่ นประกอบตา่ ง ๆ แช่อยู่ในน้ายาเคมี ดงั น้ี

- แผ่นธาตุ (Plates)
- แผน่ กัน้ (Separators)
- เซลล์ (Cells)
- สะพานไฟ (Cell Connectors)
- ข้ัวแบตเตอร่ี (Battery Pole)
- /ฝาจุก (Vent Plug)
- น้ากรด หรือนา้ ยาอิเลก็ โทรไลต์ (Electrolyte)
- เปลอื กแบตเตอร่ี (Battery Case)
3. ปฏกิ ิริยาเคมภี ายในแบตเตอร่ี (จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 3)
3.1 เม่ือมีประจไุ ฟเต็ม (Fully Charge)
3.2 เมอ่ื มีการจา่ ยไฟ (Discharging)
3.3 เมื่อประจุไฟ (Charging)
4. อัตราการจา่ ยไฟ หรือความจขุ องแบตเตอร่ี (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 4)
อตั ราการจา่ ยไฟของแบตเตอร่ี คือ ความสามารถในการจา่ ยกระแสไฟไดใ้ นระยะเวลาที่
กาหนด โดยจะบอกอัตราการจา่ ยกระแสไฟของแบตเตอร่ตี ่อชัว่ โมง หรอื แอมแปร์-ช่วั โมง

หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

8

1. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 3)
ข้นั นาเขา้ สู่บนเรียน
1.1 ครผู ้สู อนเชค็ ช่ือการเขา้ เรียนของนักเรียน และทบทวนเน้ือหาท่ีเรียนมาในสัปดาห์ท่ีผ่านมา
ข้นั สอน
1.1 ครผู ู้สอนใหน้ กั เรยี นดูคลิปวีดโิ อจากyoutube เรือ่ งการบารุงรักษาแบตเตอร่ี ประมาณ 10 นาที
1.2 ครผู สู้ อนอธิบายเพ่ิมเติมและเชอ่ื มโยงเขา้ สูเ่ นอื้ หาในบทเรยี น
1.3 ครผู ูส้ อนใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนในโปรแกรม kahoot จานวน 20 ข้อ
1.4 ครอู ธิบายเน้ือหา ในส่อื ใบความรู้และ ptt เร่ืองหน้าท่ีของแบตเตอร่ี โครงสร้างของแบตเตอร่ี
และการบารุงรกั ษาแบตเตอร่ี จานวน 20 สไลด์
1.4 แบ่งกลุ่มผเู้ รียนกลุม่ ละ 3 – 5 คน โดยใชโ้ ปรมแกรมส่มุ รายชื่อนกั เรียนในห้องโดยใช้โปรมแกรม
super soom ส่มุ รายชื่อ เมือ่ แบ่งกลมุ่ เรียบร้อยแล้วให้แตล่ ะกลมุ่ ทา (กจิ กรรมที่ 1) ส่วนประกอบของ
แบตเตอรแ่ี บบแห้งและแบบเปยี ก โดยใช้เวลาในการทากิจกรรม ประมาณ 20 นาที
1.5 ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาและสืบค้นข้อมลู ในอนิ เตอร์เนต็ เก่ยี วกับหนา้ ท่ีของแบตเตอรี่
โครงสร้างของแบตเตอร่ีและการบารุงรักษาแบตเตอรี่ 15 นาทเี พื่อนาข้อมูลมาสรุปและเขียนไป
ในกระดาษท่ีครูเตรยี มไว้ (กิจกรรมท่ี2)
1.6 ให้แตล่ ะกลมุ่ คัดเลอื กตวั แทนออกมานาเสนอผลงาน เกี่ยวกับหน้าทขี่ องแบตเตอร่ี โครงสร้าง

ของแบตเตอรี่และการบารงุ รักษาแบตเตอรี่ (ดา้ นความรู้) แลว้ บนั ทึกVideo สง่ ใน Facebook ความยาวไม่
เกินกลมุ่ ละ 15 นาท(ี กิจกรรมที่3)

1.7 แบ่งกลมุ่ ฝึกปฎบิ ัติเรื่องการบารงุ รักษาแบตเตอรี่ โดยใช้กลมุ่ เดมิ ตามขอ้ ท่ี 1.6
1.8 ครูผ้สู อนให้ผ้เู รียนสอบปฎบิ ัติเรอื่ งการบารุงรักษาแบตเตอรี่ เป็นรายบุคคล แลว้ ถ่ายวดิ โี อสง่
ใหค้ รผู ้สู อนดคู วามยาวของคลิปวิดีโอไม่กนิ 7 นาทีและพรอ้ มให้คะแนนเป็นรายบุคคล (กิจกรรมท่ี4)

ข้นั สรุป
1.1 ครูผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกันสรปุ ผลการเรียนร้ใู นวันน้เี รอื่ งแบตเตอรี่ (ต้ังคาถาม-คาตอบ)
1.2 ใหน้ ักผ้เู รียนร่วมกนั สรปุ บทเรียนทเ่ี รียนมา โดยการสะท้อนความคิด แสดงความคิดเห็นลงใน

Facebook กลมุ่ (กจิ กรรมที่5)
ขนั้ ประเมนิ ผล (KPA)

1.1 ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียนในโปรแกรม kahoot จานวน 20 ขอ้ (ใชข้ อ้ สอบชุดเดมิ ตามข้อที่1.3)
(K : ดา้ นความรู้)
1.2 ผ้เู รยี นรว่ มกันทากิจกรรมที่ 1,2,3,4,5 ไดถ้ ูกต้องและครบถว้ นโดยครผู สู้ อนประเมินจาก
แบบสงั เกตพฤติกรรม (A : ดา้ นเจตคติ)
1.3 ใบมอบหมายงานตามกจิ กรรมที่ 1,2,3,4,5 โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมและแบบ

ประเมนิ ผลการปฎบิ ัติงาน (P : ด้านทกั ษะ)
1.4 ประเมินจากแบบประเมนิ การถอดบทเรียน(การสะท้อนความคดิ )

หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

9

6. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. สื่ออินเทอร์เน็ต (you yube)
2. Video เรอื่ งการบารุงรักษาแบตเตอร่รี ถยนต์
3. สอื่ นาเสนอข้อมลู (power point) เรอ่ื งหนา้ ที่ของแบตเตอร่ี โครงสร้างของแบตเตอรี่และการ

บารุงรกั ษาแบตเตอรี่
4. ใบความรเู้ รื่องการบารงุ รักษาแบตเตอรร่ี ถยนต์

7. หลักฐานการเรียนรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียนโดยใช้โปรแกรม kahoot จานวน 10 ขอ้
2. สื่อนาเสนอขอ้ มลู (power point) เรอื่ งหน้าที่ของแบตเตอร่ี โครงสรา้ งของแบตเตอร่ีและการ

บารุงรักษา แบตเตอร่ี
3. ใบมอบหมายงานตาม กิจกรรมท่ี 1,2,3,4,5
4. ใบความรเู้ ร่อื งการบารุงรักษาแบตเตอรร่ี ถยนต์

8. การวัดและประเมนิ ผล

8.1 เครื่องมือประเมิน

8.1.1 แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น โดยใช้โปรแกรม kahoot

8.1.2 แบบสงั เกตพฤติกรรม

8.1.3 แบบประเมนิ ผลการปฎบิ ตั ิงาน

9.เกณฑก์ ารประเมนิ

ขอ้ ท่ี 1 อธบิ ายหน้าท่ีของแบตเตอรร่ี ถยนต์และบอกโครงสร้างของแบตเตอร่ีรถยนต์ได้(k)

1. วธิ ีการประเมิน : แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

2.เครอ่ื งมือ : โปรแกรม kahoot

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ทาแบบทดสอบหลังเรยี นดว้ ยโปรแกรม kahoot

ต้องตอบถูกอยา่ งน้อย15ข้อขึน้ ไป

ข้อท่ี 2 นาเสนอผลงาน

1. วิธีการประเมิน : การมีสว่ นรว่ มช่วยกันทางานเปน็ กลุ่มและระดมความคิดการ

บารุงรักษาแบบเตอร่ีรถยนต์(p)

2. เครื่องมือ : แบบสงั เกตการณพ์ ฤติกรรมเรอ่ื งบารงุ รักษาแบตเตอรี่รถยนต์

3. เกณฑ์การให้คะแนน : การระดมความคดิ ภายในกลุ่มและการนาส่อื ตา่ งๆ มาใช้ในการ

นาเสนอข้อมลู และ ส่งให้ครูดูไดถ้ ูกตอ้ งตามกระบวนการ โดยการสงั เกตพฤติกรรมคดิ เป็นรอ้ ยละ

80 เปอรเ์ ซ็นถือว่าผา่ น

ขอ้ ท่ี 3 ลงมือปฎบิ ัติการตรวจสภาพแบตเตอรี่ตามขัน้ ตอนไดถ้ ูกตอ้ ง

4. วิธกี ารประเมิน : ข้นั ตอนการปฎบิ ัตงิ าน

5. เคร่อื งมือ : แบบประเมนิ ผลการปฎิบัตงิ านเรื่องการบารงุ รักษาแบตเตอรี่

6. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ผลการประเมนิ การการให้คะแนนผ่านร้อยละ 70 เปอรเ์ ซน็ ต์

หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

10

9. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้

9.1 ข้อสรุปหลังการจดั การเรียนรู้
ผู้เรยี น
1.ผูเ้ รยี นเกิดความกระตอื รึอร้น ในการจัดการเรยี นการสอน
2.ผูเ้ รียนได้ฝกึ ทางานร่วมกนั เปน็ กลุ่ม
3 ผเู้ รียนมีความกล้าแสดงออกในการแสดงความคิดเหน็
4 ผเู้ รยี นได้ฝกึ การบูรณาการความรโู้ ดยการใช้สอื่ อนิ เทอรเ์ น็ตโปรแกรมการเรียนรู้ (kahoot)

และโปรแกรมทาสอ่ื วดิ ีโอเพื่อนาเสนอ
5. ผู้เรียนเกดิ ทักษะในการลงมือปฎิบัติงานจริงในการบารงุ รกั ษาแบตเตอรร่ี ถยนต์และสามารถ

แกไ้ ขปัญหาท่ีเกดิ ขึ้นได้
6 ผเู้ รียนถกู ฝึกให้มีกิจนิสยั ที่ดี ในการปฎบิ ัตงิ านและในการร่วมกันจดั เกบ็ อปุ กรณ์ ทาความ

สะอาดพ้ืนท่ปี ฎบิ ัติงาน
ผสู้ อน
1. ไดจ้ ดั กระบวนการการเรียนรโู้ ดยวิธีการจัดการเรยี นการสอนแบบ Active Learning
2. ผูส้ อนและผ้เู รยี นได้มีปฎิสมั พันธก์ ันมากย่ิงขนึ้
3. ได้แผนการจดั การเรียนรใู้ นรปู แบบของ Active Learning จานวน 1 วิชา
4. ไดว้ ิจัยในชน้ั เรยี นในการจดั การเรียนรรู้ ูปแบบของ Active Learning

9.2 ปญั หาทพี่ บ
1 ผเู้ รยี นขาดทกั ษะการประยุกตใ์ ชส้ ือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศ
2.ครมู ีภาระงานมากทาใหก้ ารจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ยังไมส่ มบูรณ์
3.อุปกรณ์มีไมเ่ พียงพอต่อจานวนนกั เรยี น นักศึกษา

9.3 แนวทางแก้ปัญหา
1.บูรณาการรว่ มกับรายวิชาที่เกีย่ วข้องกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ
2.ลดภาระงานอื่นๆของครผู ู้สอนใหน้ ้อยลงเพ่ือให้ครูจัดการเรยี นการสอนอยา่ งเตม็ ที่
3. ใหง้ บประมาณในการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning แก่วทิ ยาลยั แกนนา

หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

11

ภาพผนวก

หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

12

แบบทดสอบเรื่องแบบเตอร่ี โปรแกรม kahoot

https://create.kahoot.it/details/4a27ea0e-d7ce-4903-b14b-4b431e494743

หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

ข้นั ตอนการใชโ้ ปรมแกรม Super Somm 13
โปรมแกรมจะทาการส่มุ ชอ่ื โดยอัตโนมัติ
1. โหลดโปรมแกรม

2. พิมพช์ิ ่ือนกั เรียน นักศกึ ษา ลงไปใน

3. เปดิ โปรมแกรม

หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

14

ความร้เู กี่ยวกบั แบตเตอร่ี

แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี นเรอ่ื งแบตเตอรี่

หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

15

ใบความรู้ เร่ืองแบตเตอรี่
กิจกรรมท่ี 1

1.แบง่ กลุ่มผู้เรยี นกลมุ่ ละ 3 – 5 คน โดยใช้โปรมแก
รมสมุ่ รายชื่อนักเรยี นในห้อง เมื่อแบง่ กลมุ่
เรยี บร้อยแล้วให้แตล่ ะกล่มุ ทา (กิจกรรมที่ 1)
สว่ นประกอบของแบตเตอรี่แบบแห้งและแบบ
เปยี ก โดยใชเ้ วลาในการทากจิ กรรม ประมาณ 5
นาที

หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

16

ใบความรู้ เรอื่ งแบตเตอรี่
กจิ กรรมที่ 2

1.ให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ศึกษาขอ้ มูลในอินเตอรเ์ น็ต
เก่ยี วกับหนา้ ทีข่ องแบตเตอรี่ โครงสรา้ งของแบตเตอรี่
และการบารงุ รักษาแบตเตอร่ี 10 นาที

หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

17

ใบความรู้ เรอ่ื งแบตเตอรี่
กิจกรรมที่ 3

1.ให้แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลงาน
เกีย่ วกบั หนา้ ทีข่ องแบตเตอร่ี โครงสร้างของ
แบตเตอรแ่ี ละการบารงุ รกั ษาแบตเตอรี่ บนั ทึก
Video ส่งใน Facebook ความยาวไม่เกินกลุ่มละ
15 นาที

หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

18

ใบความรู้ เรอื่ งแบตเตอรี่
กิจกรรมท่ี 4

1.ครูผูส้ อนให้นกั เรยี นสอบปฎบิ ัติเรือ่ งการ
บารงุ รักษาแบตเตอร่ี เป็นรายบุคคล แล้วถา่ ยวดิ ีโอ
ส่งให้ครูผู้สอนดูความยาวของคลปิ วิดีโอไมก่ ิน 7
นาทแี ละพร้อมให้คะแนนเป็นรายบคุ คล

หน่วยศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

19

ใบความรู้ เรอ่ื งแบตเตอรี่
กจิ กรรมท่ี 5

1.ให้นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ บทเรยี นที่เรียนไปในวนั น้ี
โดยการสะท้อนความคดิ แสดงความคิดเหน็ ลงใน
Facebook กลุ่ม

หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

20

ส่วนประกอบของแบตเตอรี่แบบเปียก
แผน่ ธาตบุ วก แผน่ ธาตลุ บ แผน่

กน้ั
นา้ กรด นา้ กลน่ั
จกุ ปิดรุนา้ กลั่น สะพานไฟ
ขวั้ แบตเตอร่ี เปลือกแบตเตอรี่

หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

21

สว่ นประกอบของแบตเตอรแี่ บบแหง้
แผน่ ธาตุบวก แผ่นธาตุลบ แผน่

กนั้

สะพานไฟ ขว้ั แบตเตอร่ี

เปลอื กแบตเตอร่ี ฝาเซลล์

ซิลลิง่ คอมเปาว์

หน่วยศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

22

แบบสงั เกต (กจิ กรรมท่ี 1)

ส่วนประกอบของแบตเตอร่ีแบบแห้ง และแบบเปยี ก

กลมุ่ ท…ี่ ………………………………………

หัวข้อประเมิน พฤตกิ รรมการปฎบิ ตั ิ ระดบั 1
ระดับ 5 ระดับ 4 ระดบั 3 ระดับ 2

1. บอกสว่ นประกอบของแบตเตอรี่แบบแหง้ และแบบเปียก

2. การมีสว่ นรวมของสมาชกิ ภายในกลุม่ ตามกิจกรรมที่ 1

3. การวางแผนการทางาน ตามกิจกรรมที่ 1

เกณฑใ์ นการพจิ ารณา

ระดบั 5 หมายถงึ ปฎิบัติได้ดว้ ยตนเองโดยไม่มีผ้แู นะนาและสามารถชกั ชวนให้เพือ่ นปฎิบัติ
ระดบั 4 หมายถึง ปฎบิ ัตไิ ด้ด้วยตนเองโดยไม่มผี ู้แนะนา
ระดับ 3 หมายถึง ปฎบิ ตั ิไดด้ ว้ ยตนเองเป็นส่วนใหญ่ และมผี ้แู นะนาเปน็ บางครง้ั
ระดบั 2 หมายถงึ ปฎิบตั ิได้ดว้ ยตนเองเปน็ ส่วนใหญ่ และมีผู้แนะนาเป็นส่วนใหญ่
ระดับ 1 หมายถงึ ปฎิบตั โิ ดยตอ้ งให้คาแนะนาในทุกครง้ั

สรุปผลการประเมนิ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หน่วยศึกษานิเทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

23

แบบสังเกต (กิจกรรมท่ี 2)

ศกึ ษาขอ้ มลู ในอนิ เตอรเ์ นต็ เกย่ี วกับหนา้ ทข่ี องแบตเตอรี่

โครงสรา้ งของแบตเตอร่แี ละการบารงุ รักษาแบตเตอร่ี

กลุม่ ท…่ี ………………………………………

หัวขอ้ ประเมิน พฤตกิ รรมการปฎบิ ัติ
ระดบั 5 ระดบั 4 ระดบั 3 ระดบั 2 ระดบั 1

1. การวางแผนการทางาน

2. การใชค้ วามคิด รวบยอด

3. การใชเ้ ทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูล

4. การแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม

เกณฑใ์ นการพจิ ารณา

ระดบั 5 หมายถงึ ปฎบิ ัติได้ดว้ ยตนเองโดยไม่มผี ูแ้ นะนาและสามารถชักชวนให้เพอื่ นปฎิบัติ
ระดบั 4 หมายถึง ปฎบิ ตั ไิ ด้ด้วยตนเองโดยไม่มีผู้แนะนา
ระดบั 3 หมายถึง ปฎบิ ัติไดด้ ้วยตนเองเป็นสว่ นใหญ่ และมผี ู้แนะนาเปน็ บางครัง้
ระดับ 2 หมายถึง ปฎิบัติได้ด้วยตนเองเปน็ ส่วนใหญ่ และมีผแู้ นะนาเป็นส่วนใหญ่
ระดบั 1 หมายถงึ ปฎบิ ตั โิ ดยตอ้ งให้คาแนะนาในทุกคร้ัง

สรุปผลการประเมนิ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หนว่ ยศึกษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

24

แบบสังเกต (กิจกรรมที่ 3)

นาเสนอผลงาน เกี่ยวกับหนา้ ทขี่ องแบตเตอร่ี
โครงสร้างของแบตเตอรแ่ี ละการบารุงรกั ษาแบตเตอร่ี

กลุ่มท…่ี ………………………………………

หวั ข้อประเมิน พฤตกิ รรมการปฎิบตั ิ ระดบั 1
ระดับ 5 ระดบั 4 ระดบั 3 ระดับ 2
1. การวางแผนการทางานภายในกลุม่
2. ความคดิ สรา้ งสรรค์

3. การแสดงความคดิ เหน็ ภายในกลุ่ม

4. การใชค้ วามคิดรวบยอด

5. การนาเสนอผลงาน

เกณฑใ์ นการพิจารณา

ระดับ 5 หมายถงึ ปฎิบัติได้ด้วยตนเองโดยไม่มผี แู้ นะนาและสามารถชกั ชวนให้เพอ่ื นปฎบิ ตั ิ
ระดบั 4 หมายถงึ ปฎิบตั ไิ ด้ดว้ ยตนเองโดยไมม่ ผี ูแ้ นะนา
ระดับ 3 หมายถึง ปฎิบตั ไิ ด้ด้วยตนเองเปน็ ส่วนใหญ่ และมีผู้แนะนาเป็นบางคร้งั
ระดบั 2 หมายถงึ ปฎิบตั ไิ ด้ด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ และมผี ้แู นะนาเป็นสว่ นใหญ่
ระดบั 1 หมายถงึ ปฎบิ ตั โิ ดยตอ้ งให้คาแนะนาในทุกครง้ั

สรปุ ผลการประเมิน

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หนว่ ยศึกษานิเทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

25

กิจกรรมท่ี 4
แบบสงั เกตการบารงุ รักษาแบตเตอรีร่ ถยนต์ ของนักเรยี น นักศกึ ษา

ชอ่ื ……………………………………………..……...แผนกวิชา………………………………เลขท่ี…………………………

หัวข้อ ปฎิบัติได้ครบถ้วนตาม ปฎบิ ตั ิได้บางขนั้ ตอนไม่ ปฎิบตั ิไม่สามารถทา
ขั้นตอน ครบถว้ นและ ครบถ้วน และทาถูกบา้ ง ไมถกู ตามขัน้ ตอนไดเ้ ลย
เกณฑ์การประเมนิ บ้าง
1.การจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ ถกู ตอ้ ง (1)
(3) (2)

2. ตรวจสอบสภาพภายนอกของ
แบตเตอรี่

3.ตรวจสอบอายุการใชง้ านของ
แบตเตอร่ี

4.ตรวจสอบไฟแบตเตอร่ี

5.ตรวจสอบความถว่ งจาเพาะของ
แบตเตอรี่

6. ตรวจสอบระดบั นา้ กลนั่ ของ
แบตเตอร่ี

7.อธบิ ายการบารงุ รักษาแบตเตอรี่

8. ข้ันตอนการประจุไฟชารต์และการ
พวงแบตเตอรี่

หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พ.ศ.๒๕๖๐

26

แบบสังเกต (กจิ กรรมท่ี 5)
สะทอ้ นความคดิ แสดงความคดิ เห็นลงในFacebook กล่มุ

ชื่อ……………………………………………..……...แผนกวิชา…………………เลขท่ี…………………………

หัวข้อประเมิน พฤตกิ รรมการปฎิบัติ ระดบั 1
ระดับ 5 ระดับ 4 ระดบั 3 ระดับ 2

1. การแสดงองค์ความรทู้ ี่เรยี นมา
2. ความคิดสร้างสรรค์

3. การนาไปใช้ได้จริง

4. เวลาที่ใช้ในการกจิ กรรมท่ี 5

เกณฑใ์ นการพจิ ารณา

ระดับ 5 หมายถึง ปฎบิ ัตไิ ด้ด้วยตนเองโดยไม่มผี แู้ นะนาและสามารถชกั ชวนใหเ้ พอื่ นปฎบิ ตั ิ
ระดบั 4 หมายถงึ ปฎิบตั ิไดด้ ว้ ยตนเองโดยไมม่ ผี ู้แนะนา
ระดบั 3 หมายถึง ปฎบิ ตั ไิ ด้ด้วยตนเองเปน็ ส่วนใหญ่ และมผี แู้ นะนาเป็นบางครง้ั
ระดบั 2 หมายถงึ ปฎิบตั ิได้ดว้ ยตนเองเป็นสว่ นใหญ่ และมีผู้แนะนาเป็นสว่ นใหญ่
ระดับ 1 หมายถึง ปฎบิ ตั โิ ดยต้องให้คาแนะนาในทุกครัง้

สรุปผลการประเมิน

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..…

หน่วยศึกษานเิ ทศก์ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา พ.ศ.๒๕๖๐

การพัฒนาผลสัมฤทธใ์ิ นด้านการเรยี นรายวชิ างานไฟฟา้ รถยนต์
โดยการใช้วิธีการสอนแบบกลมุ่ เพอื่ นชว่ ยเพือ่ นของนกั เรียนระดับ

ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 2 แผนกวชิ าชา่ งยนต์
วทิ ยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย จงั หวัดเชยี งราย
ประจาภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563

โดย
นายอมรเทพ สุภางาม

พนกั งานราชการครู

แผนกวิชาชา่ งยนต์ วทิ ยาลยั เทคนคิ กาญจนาภิเษกเชยี งราย
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

บทท่ี 1
คานา

ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หา
จากการท่ีผู้วิจัยเป็นครูสอนแผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย

สังกัดสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทาการสอนวิชางานไฟฟ้ารถยนต์
เรื่องการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีที่ 2 จานวน 16 คน
ในภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563

ในการจดั การเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 ของผู้วิจัยพบว่า ผลสัมฤทธ์ทิ างการ
เรียนวิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เรื่องการบารุงรักษาแบเตอรี่รถยนต์ ของนักศึกษา โดยเฉล่ีย มีนักศึกษา
(8 คน) อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่า ความสามารถในการเรียนรู้อ่อนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน นักศึกษา (9 คน)
มีผลการเรียนปานกลาง และความสามารถในการเรียนรู้พอใช้ได้ นักศึกษา (2 คน) มีผลการเรียน และ
ความสามารถในการเรียนรู้อยู่ในระดับ ดี และนักศึกษา (1 คน) มีผลการเรียน และความสามารถในการเรยี น
รูอ้ ยูใ่ นระดบั ดีมาก

จากเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยจึงได้สนใจท่ีจะศึกษาการใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนโดยใช้
กลุ่มเพ่ือนช่วยเพ่ือน ในวิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เรื่องการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์สาหรับระดับ
ชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีท่ี 2 แผนกวิชาช่างยนต์ เป็นแนวทางในการพัฒนาความสามารถในการเรียน
วิชางานไฟฟา้ รถยนต์ เรอ่ื งการบารงุ รกั ษาแบตเตอร่ีรถยนต์ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพยิ่งขนึ้

วัตถปุ ระสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน วชิ างานไฟฟ้ารถยนต์ เร่อื งการบารงุ รักษาแบตเตอรี่

รถยนต์ นกั ศึกษา ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี ปีที่ 2
2. เพ่ือนาการวจิ ยั ครัง้ นี้ ไปปรับปรุงการจัดการเรยี นการสอน ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพยิ่งข้ึน

ในปกี ารศึกษาต่อไป

ขอบเขตของการวิจัย
1. ประชากร เปน็ นกั ศึกษา ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ปีท่ี 1 วิทยาลยั เทคนคิ กาญจนาภิเษก

เชยี งราย ปีการศกึ ษา 2563 จานวน 16 คน
กลมุ่ ตัวอยา่ ง เปน็ นักศกึ ษา ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ปที ่ี 2 วิทยาลยั เทคนคิ กาญจนาภเิ ษก

เชียงราย ปกี ารศึกษา 2563 จานวน 5 คน

2. ตัวแปรทศี่ ึกษา ประกอบด้วย
ตวั แปรอสิ ระ ไดแ้ ก่ กระบวนการจดั การเรยี นรูโ้ ดยใช้กิจกรรมกลุม่ เพ่ือช่วยเพอื่ น วิชางานไฟฟา้ รถยนต์

เร่ืองการบารงุ รักษาแบตเตอร่ีรถยนต์
ตัวแปรตาม
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เร่ืองการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์

ของนกั เรยี นระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ปีที่ 2

3. เน้ือหาในการวิจัย ได้แก่ เนื้อหาวิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เร่ืองการบารุงรักษาแบตเตอร่ีรถยนต์โดยใช้
กิจกรรมกลุ่มเพื่อนช่วยเพอ่ื น

4. ระยะเวลาการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563
สมมตฐิ านการวจิ ัย

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เร่ืองการบารงุ รักษาแบตเตอร่ีรถยนต์

นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ
การสอนแบบกลมุ่ เพ่อื นชว่ ยเพ่อื น หมายถงึ การจดั การเรียนร้โู ดยแบง่ เป็นกลมุ่ โดยแตล่ ะกลมุ่ มี

นกั เรยี นคละความสามารถ เก่ง ปานกลาง และอ่อน โดยครเู ปน็ ผแู้ บง่ กลุ่มใหน้ ักศึกษา
นกั เรยี นระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพ หมายถึง นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี ปวช. ปีที่ 2

ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะไดร้ ับจากการวิจยั
1. ไดแ้ ผนการจัดการเรยี นรูท้ ใี่ ช้กระบวนการกล่มุ แบบเพ่ือนชว่ ยเพอ่ื น วิชางานไฟฟ้ารถยนต์

เรอ่ื งการบารุงรักษาแบตเตอร่ีรถยนต์นกั เรยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
2. เปน็ แนวทางในการพฒั นาการเรียนการสอนในรายวิชา งานไฟฟ้ารถยนต์ในเนื้อหาอ่นื ๆ
หรอื รายวิชาอืน่ ๆ ตอ่ ไป

บทที่ 2
เอกสารและงานวจิ ยั ที่เกีย่ วขอ้ ง

เอกสารและงานวิจัยทเี่ กี่ยวข้อง

จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ผวู้ ิจัยได้นาเสนอสาระทีส่ าคัญ 2 เรือ่ ง ดงั น้ี
1. การสอนแบบกลุ่มเพือ่ นชว่ ยเพ่ือน
2. งานวจิ ยั ทเี่ กี่ยวขอ้ ง
1. การสอนแบบกลุ่มเพ่อื นชว่ ยเพ่ือน

กจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพ่ือน เป็นแนวคิดที่เปดิ โอกาสให้นกั เรียนมโี อกาสได้
เรียนรู้ดว้ ยตนเอง เป็นการกระจายบทบาทการสอนครู ไปสู่นักเรียนนบั วา่ เป็นวธิ ีการที่ยึดนกั เรียนเปน็ สาคัญ

วิธีการสอนแบบกล่มุ เพื่อนชว่ ยเพือ่ นน้ี ไดร้ บั ความสนใจจากนักการศึกษาเป็นจานวนมาก
เนื่องจากวธิ กี ารสอนแบบกล่มุ เพอ่ื นช่วยเพ่ือนเปน็ วิธีการท่ีครูสอนพยายามเขา้ ถึงความต้องการของนกั เรียนแต่
ละคน เป็นแนวคิดทีส่ ่งเสริมและโนม้ น้าวใหเ้ ด็กนกั เรียนเกดิ ทศั นคติทด่ี ตี ่อสมาชิกภายในกลมุ่ วิธกี ารสอน
ดงั กลา่ วนีค้ รผู ู้สอนต้องมีการวางแผนไวล้ ่วงหนา้ เพื่อเป็นการเตรียมนกั เรียนใหเ้ ขา้ ใจบทบาทและหน้าทขี่ อง
ตนได้อย่างถูกตอ้ ง นอกจากน้ียังสามารถเปลย่ี นบทบาทครูและนักเรียนได้อีกด้วย เป็นการฝึกให้นกั เรียนกล้า
แสดงออกทางความคิดมากขึ้น นับได้วา่ เป็นการพฒั นาความคดิ การเรยี นรู้ของเด็กนักเรยี น

การสอนโดยวิธีใหเ้ พ่ือนชว่ ยเพ่อื น เป็นวิธีการท่ีม่งุ ใหน้ กั เรียนเกิดแรงจงู ใจต่อการเรียนมาก
ข้ึนเน่ืองจากนกั เรียนทกุ คนเป็นผู้มีบทบาทในกิจกรรมการเรียนการสอนวิธกี ารสอนดังกลา่ วมีจุดประสงค์
ดงั ต่อไปน้ี

1. เพ่อื เป็นการส่งเสรมิ ให้เรื่องกระบวนการกลุ่มของนักเรยี นโดยเน้น
การใหน้ ักเรยี นชว่ ยเหลอื กัน ตลอดจนเห็นคุณคา่ ของการศึกษาหาความร้ดู ้วยตนเอง

2. เพ่ือใหน้ ักเรียนท่ีมรี ะดบั ความแตกต่างกนั สามารถเรยี นประสบการณ์อย่างเดียวกันได้
3. เพ่อื ให้นักเรยี นสามารถเรยี นรู้จากแหลง่ ตา่ ง ๆ มากขึ้น เช่น จากเพื่อน
นักเรียนด้วยกนั หรอื จากอุปกรณต์ ่าง ๆ ท่ีนามาประกอบการเรียน
4. เพื่อสรา้ งทศั นคตทิ ่ีดี รวมท้ังแรงจูงใจในการเรียน เนอื่ งจากนักเรยี น
ผ้สู อนรู้สึกภาคภมู ใิ จในตนเอง หรือรูส้ กึ วา่ ตนเองไดร้ ับความสาเร็จในการเรียน เนอ่ื งจากมโี อกาสไดท้ า
ประโยชนใ์ ห้กับเพื่อนนักเรยี น สาหรบั นักเรยี นทีม่ ีปญั หากจ็ ะลดความกังวลในเรอื่ งข้อบกพรอ่ งของตนเอง
5. เพ่ือให้การเรยี นการสอนมีลักษณะเปน็ การส่ือสารมากขึน้ ลักษณะดังกลา่ วจะทา
ปฏิสมั พันธ์ระหว่างนกั เรียนดีข้นึ เนอ่ื งจากบรรยากาศในชั้นเรยี นมีความเปน็ กันเอง
6. ครเู ปน็ เพยี งผใู้ ห้คาแนะนาให้คาปรกึ ษา และคอยสังเกต ตลอดจนทา
การแก้ไขปญั หาทีเ่ กิดขนึ้ ในการเรียนการสอนของนักเรียนแต่ละกลุ่ม

2. งานวจิ ยั ทเี่ ก่ียวขอ้ ง
2.1 งานวิจยั ในประเทศ
รุ่งทวิ า ควรชม (2546 : บทคัดยอ่ ) ได้พฒั นารูปแบบการสอน

คณติ ศาสตร์ที่เน้นการเรยี นแบบร่วมมือกันเรียนรู้ สาหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เปน็ การวิจยั เชิง
ทดลอง กลมุ่ ตัวอยา่ งนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 จานวน 40 คนโรงเรยี นศรีบวั บานวิทยาคม สงั กัดกรม
สามัญศกึ ษา จังหวดั นครพนม เคร่ืองมือที่ใช้ ได้แก่ แผนการสอน แบบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน แบบวดั
เจตคติตอ่ วิชาคณติ ศาสตร์ ผลการวจิ ยั พบว่า รปู แบบการสอนทผี่ วู้ จิ ยั พฒั นาขึ้นมปี ระสิทธิภาพและ
ประสิทธิผลในส่วนประสิทธภิ าพพบวา่ ด้านผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นมีดชั นี 90.92/88.69 ซงึ่ สงู กว่าเกณฑท์ ี่
กาหนด 80/80 ไว้ ด้านปฏิสมั พันธ์ภายในกลมุ่ พบวา่ นักเรยี นที่เรียนรปู แบบการสอนคณิตศาสตร์ทเ่ี นน้ การ
เรยี นแบบร่วมมือกันเรียนรูป้ ฏสิ ัมพันธภ์ ายในกลุ่มระดับดี และมีเจตคติตอ่ การเรียนคณิตศาสตรร์ ะดบั ดี
นักเรยี นมคี ะแนนเฉล่ยี หลงั เรียนสูงกว่ากอ่ นเรียนอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดับ .05 และในสว่ น
ประสทิ ธผิ ลของรูปแบบการสอนที่ผวู้ ิจยั พฒั นาข้นึ มคี า่ เทา่ กับ 0.81

สุนันทา โพธ์ชิ ัย (2547 : 73) ไดพ้ ฒั นาแผนการจัดการเรยี นรู้แบบกลมุ่ เพ่ือน
ชว่ ยเพ่อื น เร่อื ง เศษส่วนวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 กล่มุ ตัวอยา่ งที่ใช้ จานวน 25 คน
โรงเรยี นบา้ นยอกขาม จังหวดั นครราชสีมา เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการวจิ ยั ได้แก่ แผนการจัดการเรยี นรู้ จานวน
7 แผน แบบฝกึ เสรมิ ทักษะประกอบแผนจานวน 7 ชดุ และแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
ผลการวจิ ัยพบว่า แผนกิจกรรมการเรยี นรู้วชิ าคณิตศาสตร์ เรอื่ ง เศษสว่ นทใ่ี ชร้ ปู แบบการเรียนแบบกลมุ่
เพอ่ื นชว่ ยเพ่ือน มีประสิทธิภาพ 80.80/76.80 ซง่ึ สูงกวา่ เกณฑ์ที่ตงั้ ไว้ และมีค่าดัชนปี ระสิทธผิ ลของ
แผนการจดั การเรียนรู้แบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนเทา่ กบั 0.49

บทท่ี 3
วิธกี ารดาเนนิ การวจิ ัย

การวจิ ยั ในครง้ั น้ีเป็นการวจิ ยั เชิงปฏบิ ตั ิการ เร่ือง การใชว้ ธิ กี ารสอนแบบกลุ่มเพอ่ื นชว่ ยเพื่อน
ของนักเรยี นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปที ี่ 2 แผนกวชิ าช่างยนต์ วิทยาลยั เทคนิคกาญจนาภเิ ษกเชยี งราย
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 ซึ่งผู้วิจัยได้ดาเนนิ การศึกษาคน้ ควา้ ดังนี้

1. เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
2. การดาเนินการวจิ ัย
3. วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
4. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู
5. สรปุ ผลการวจิ ัย

เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล เร่ืองการบารุงรกั ษาแบตเตอรี่รถยนต์สูงโดยใช้
1. แผนการจัดการเรียนรู้วชิ างานไฟฟา้ รถยนต์
วิธกี ารสอนแบบกลมุ่ เพื่อนชว่ ยเพือ่ น
2. ใบงานเรอื่ งการบารุงรักษาแบตเตอร่รี ถยนต์
3. ใบมอบหมายงาน
4. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้

การดาเนินการวจิ ยั
ดาเนนิ การวจิ ยั ตามขน้ั ตอนการวจิ ยั เชิงปฏิบัติการ ดงั น้ี
ขน้ั ท่ี 1 วางแผนการปฏิบัติ (Planning) เร่ิมดว้ ยการสารวจปญั หาระหวา่ งครู ระบปุ ัญหาท่จี ะทา

การแก้ไข และพฒั นา หาแนวทางแก้ไขพรอ้ มสรา้ งเคร่ืองมือวิจยั
ขนั้ ที่ 2 ลงมอื ปฏิบตั ติ ามแผน (Action) นาแผนทีก่ าหนดซ่ึงควรยดื หยนุ่ และปรับไดไ้ ปปฏบิ ัติ ถา้ มี

ปัญหาอปุ สรรคขณะปฏิบตั กิ ็ทาการปรับปรงุ แผน
ข้ันที่ 3 สงั เกตการณ์ปฏิบตั ิ (Observation) โดยสงั เกตการณเ์ ปลย่ี นแปลงทีเ่ กิดขึน้ ท้ังกระบวนการ

และผลทเี่ กดิ ข้นึ โดยใชเ้ ครื่องมอื ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู
ขัน้ ท่ี 4 สะทอ้ นผลการปฏิบัติ (Reflection) เป็นการวพิ ากษส์ ภาพท่เี กดิ ข้ึนในช้นั เรียน ส่ิงท่ี

ดาเนินการ / ข้อคน้ พบ ดีหรือไม่ดอี ย่างไร หาคาอธิบายต่อสิ่งท่คี น้ พบ นาข้อค้นพบไปใช้ประโยชน์ หรือ
ปรับปรงุ แนวทางการปฏิบตั ิ ทาการปรบั แผนการปฏิบตั ิ และปฏิบตั จิ นครบทุกแผน เมื่อปฏบิ ตั กิ ารเสรจ็ สิ้น
แล้วจึงทาการทดสอบผลการเรียนรขู้ องนักเรยี น

การเก็บรวบรวมข้อมูล
การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการวิจัยครั้งน้ี ผวู้ ิจยั ไดก้ าหนดขนั้ ตอนในการเกบ็ ข้อมูลดังนี้
1. เตรยี มเครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
2. ขน้ั ตอนการสอนโดยใช้การเรยี นการสอนแบบกลุม่ เพือ่ นชว่ ยเพ่ือน
3. วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผวู้ ิจยั ไปเกบ็ ด้วยตนเอง โดยสอนโดยใช้การเรียนการสอนแบบ

กลมุ่ เพื่อนช่วยเพ่ือน และประเมนิ ผลการเรียนรตู้ ามเกณฑ์ทก่ี าหนดไว้

บทท4ี่
ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล

การวิจัยในคร้ังน้ีเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เร่ือง การใช้วิธีการสอนแบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพ่ือน ของ
นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีท่ี 2 แผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชางานไฟฟ้ารถยนต์
เร่ืองการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีที่ 2 จานวน 16 คน
ผวู้ จิ ัยขอเสนอผลการศึกษาการวจิ ัย ดงั น้ี

1. ผลการศึกษาการใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อนช่วยเพ่ือน ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ปีท่ี 2 วิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เร่ืองการบารุงรักษาแบตเตอร่ีรถยนต์รถยนต์ผู้วิจัยได้นาเสนอ
ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล ตามลาดับดังน้ี

ผูว้ จิ ยั ไดด้ าเนินการวิจัย ตามขัน้ ตอน 4 ขัน้ ตอน ดงั นี้

1. ขน้ั วางแผน (Plan)
ผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จากผลการ

สัมฤทธิ์ทางการเรียน ของผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีที่ 2 ปีการศึกษา 25663 พบว่า
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เร่ืองการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์หลังเรียน
ของนักเรียน โดยเฉลี่ย มีนักเรียนร้อยละ 40 (5 คน) อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่า ความสามารถในการ
เรียนรู้อ่อนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน นักเรียนร้อยละ 45 (9 คน) มีผลการเรียนปานกลาง และ
ความสามารถในการเรียนรู้พอใช้ได้ นักเรียนรอ้ ยละ 10 (2 คน) มีผลการเรยี น และความสามารถใน
การเรียนรู้อยู่ในระดับ ดี และนักเรียนร้อยละ 5 (1 คน) มีผลการเรียน และความสามารถในการ
เรียนรู้อยู่ในระดับดีมาก อีกทั้งจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ระหว่างการจัดการเรียนการสอน
วิชางานไฟฟ้ายานยนต์ เร่ืองการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ของผู้วิจัย ผู้วิจัยสนใจท่ีจะแก้ปัญหา
นักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์จานวน 8 คน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน วิชางานไฟฟ้ายานยนต์
เรื่องการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์สูงโดยใช้กลุ่มเพื่อนช่วยเพ่ือน เนื่องจากกว่า เป็นการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ทค่ี านึงถึงหลักการของแบบการเรยี นรู้ของผู้เรยี นท่ีแตกต่างกนั โดยนกั เรียนมโี อกาส
ท่ีจะช่วยเหลือ และแนะนาซ่ึงกันและกัน เกิดการเรียนรู้ด้วยความเพลิดเพลินและสนุกสนาน
นักเรียนท่ีเรียนเก่งเม่ือได้รับคาแนะนาเพื่อนในกลุ่มก็ถือว่าได้เป็นการทบทวนความรู้ และทาให้จา
เรื่องท่ีเรียนได้ดีย่ิงข้ึนและเกิดความภาคภูมิใจที่มีโอกาสแนะนาเพ่ือน ส่วนนักเรียนท่ีเรียนอ่อนและ
เรียนปานกลางก็พยายามที่จะเรยี นรู้ให้ทันเพื่อน เพื่อท่ีจะให้กลุ่มของตนเองทากิจกรรมได้ดีกว่ากลุ่ม
อื่น ๆ การจัดการเรียนการสอนลักษณะนี้จะทาให้นักเรียนที่เรียนอ่อนและเรียนปานกลางมี
ความก้าวหน้าทางการเรียนสูง และยังเป็นการส่งเสริมในเรอื่ งกระบวนการกลุ่มของนักเรยี น โดยเน้น
การให้นักเรยี นช่วยเหลอื กัน

1.1การสรา้ งเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการวจิ ยั ดังน้ี
1.1.1 การสรา้ งแบบบนั ทกึ การสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นโดยใชก้ ระบวนการ

เรียนรู้โดยใช้กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนผู้วิจัยได้กาหนดหัวข้อที่ต้องการสังเกต ได้แบบสังเกตพฤติกรรมเป็นแบบให้
คะแนนพฤติกรรมในช้ันเรียนของนักเรียน ในด้านต่าง ๆ คือ ด้านการเรียน ด้านความสนใจ และด้าน
พฤตกิ รรม

1.1.2 สรา้ งใบงาน โดยศึกษาเน้ือหาสาระการเรยี นรู้
วชิ างานไฟฟ้ารถยนต์ เร่ืองการบารงุ รักษาแบตเตอรี่รถยนต์ตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี พุทธศกั ราช
2562 สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

2. ขน้ั ปฏิบัติ (Action) และ ข้ันสังเกต (Observation) นาแผนการจัดการเรียนรู้
ไปใช้สอนนกั เรยี นกลมุ่ เป้าหมาย สรุปผลการปฏบิ ตั ไิ ดด้ ังนี้

1.1ข้ันนา เปน็ การทบทวนความรูเ้ ดมิ โดยผ้วู ิจัยจะทาการทบทวน เน้อื หาทเี่ รยี นไป
แล้วเพอื่ ใหน้ ักเรียนเกิดความต่อเนือ่ งในการเรยี นรสู้ ามารถเช่ือมตอ่ ความรเู้ ดมิ กบั สิง่ ทจ่ี ะเรยี นรใู้ หมไ่ ด้อยา่ ง
ตอ่ เน่ืองและเปน็ การตรวจสอบความรู้ความจาของนักเรียนว่ามีเพียงพอต่อการเรียนการสอนเน้ือหาใหมม่ าก
น้อยเพียงไร ตลอดจนยงั ก่อใหเ้ กิดความแมน่ ยาในเนื้อหา ความคงทนในการเรียนรรู้ วมทั้งเปน็ การเช่ือมโยง
เนื้อหาระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนกับช่ัวโมงท่ีผา่ นมา โดยยกตวั อยา่ งคาถามทีน่ า่ สนใจ และ
นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคาถาม จากคาถามท่ีกาหนดให้ นกั เรียนไม่ค่อยกลา้ ตอบคาถามมากนัก ครตู ้องใช้
คาถามนาหรอื กระตนุ้ อยเู่ สมอ

1.2ขั้นจัดการเรยี นรู้ แบ่งกลมุ่ นักเรียนออกเป็น 4 กลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน โดยแต่ละกลุม่
ประกอบด้วยเดก็ เก่ง ปานกลาง และอ่อน ในอัตราสว่ น 1:1:2เปน็ ขั้นตอนที่นักเรียนแต่ละกลุ่มจะตอ้ งศกึ ษา
บทเรียนรว่ มมอื กันปฏบิ ตั ิกิจกรรม นกั เรยี นสามารถปฏิบตั ิกิจกรรมไดด้ ี มีการชว่ ยเหลอื เพื่อนท่เี รียนอ่อน
นักเรยี นทากจิ กรรมไดด้ ขี นึ้ แต่ครูผสู้ อนตอ้ งคอยให้คาแนะนาอยเู่ สมอ

1.3ข้นั สรุป เปน็ ขน้ั ตอนทน่ี ักเรียนนาเสนอผลการปฏิบัตงิ านและสรปุ ผลรว่ มกนั
นกั เรยี นทาได้ดี ส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยกันปฏิบัตงิ าน มีการร่วมมอื รว่ มใจกันเป็นอย่างดี

ขน้ั สะท้อนผล (Reflection)
4.1ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ผู้วจิ ยั มีการทบทวนและเชือ่ มโยงความรเู้ ดิม และ
ปฏิบัติการสอนได้ตามข้ันตอนและเป็นไปตามที่กาหนดไว้ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและแสดงความ
คิดเห็น คอยกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนรว่ มมอื กันทางานอยเู่ สมอ
4.2ดา้ นพฤตกิ รรมการเรียน นักเรยี นส่วนใหญ่สนใจ กระตือรือร้นท่ีจะเรียน ใน
ช่วยกันในการปฏิบัติงาน
4.3ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรูข้ องผวู้ จิ ัย พบวา่ ในขณะดาเนนิ กจิ กรรม นกั เรยี น
มกี ารช่วยเหลือกันในการปฏบิ ตั ิงาน มคี วามกระตอื รอื รน้ ในการเรยี น มคี วามสุขกับการเรยี น

1. ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน วิชางานไฟฟา้ รถยนต์ เรอื่ งการบารงุ รกั ษาแบตเตอรี่รถยนต์

ของนักเรยี นระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ปวช. ชัน้ ปที ี่ 2 จานวน 16 คน

เมื่อปฏบิ ตั ิการเสร็จสิ้นแลว้ จึงทาการทดสอบผลการเรียนรู้ของนกั เรยี น ปรากฏผลดงั น้ี

ตารางที่ 1 ผลการเรยี นรขู้ องนักเรยี น

เลขที่ ชอ่ื -สกลุ ผลการเรยี นรู้
ผ่าน ไมผ่ ่าน

1 นายกติ ตศิ ักดิ์ แสนเฒ่า 

2 นายชยั พฤกษ์ เหริภูมิพิรยิ ะ 

3 นายณัฐพล ชาตวิ งศ์ 

4 นายณัฐวุฒิ สุกนั ทา 

5 นายธรี พงศ์ วงษาคา 

6 นายปรญิ ญา อยู่ลือ 

7 นายพงศเ์ ทพ แซเ่ ล้า 

8 นายภสั กร เลาลี 

9 นายวิชัย แซ่จ้งั 

10 นายวีระพล สุรยิ นั 

11 นายศุภกิตต์ิ สภุ าดี 

12 นายสมเกยี รติ แก้วมณี 

13 นายสมบรู ณ์ จเู ปาะ 

14 นายสมพงษ์ บุญประเสรฐิ 

15 นายสหภาพ ธรรมวงศ์ 

16 นายสิทธพิ ล หลีใจ 

รวม 16

เฉล่ีย 100

จากตารางที่ 1 พบว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์จานวน 16 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100

2. แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานเปน็ กล่มุ
ตาราง 2 คะแนนของการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานเปน็ กลมุ่ วิชางานไฟฟ้ารถยนต์
เร่อื งการบารุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ของนักเรยี นระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ปวช. ช้นั ปีที่ 2 จานวน 16 คน

ความสามัคคี มีนา้ ใจ ยอมรับฟัง มีความ ชว่ ยเหลอื กนั
กลุ่มท่ี ความคดิ เหน็ กระตือรือรน้ ปฏิบัติงาน รวม

(4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน)

1 4 4 3 3 3 17
2 4 3 4 3 4 18

3 4 3 4 3 4 18
4 4 4 3 3 3 17

เกณฑ์การผ่าน
ต้องไดค้ ะแนนมากกว่า 10 คะแนน จงึ จะผา่ นเกณฑ์ดี

จากตารางที่ 2 พบวา่ นักเรียนมพี ฤติกรรมการทางานกลมุ่ ท่ีดีมากข้ึน มีผลคะแนนผ่านเกณฑ์ทุกกลมุ่

บทท่ี 5
สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

จากการที่ผู้วิจัยได้ทาการวิจัยเรื่อง การใช้วิธีการสอนแบบกลุ่มเพ่ือนช่วยเพื่อน วิชางานไฟฟ้า
รถยนต์ เรื่องการบารุงรักษาแบตเตอร่ีรถยนต์ ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปวช.ปีท่ี 2
แผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ เพื่อพัฒนา
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชางานไฟฟ้ารถยนต์ เรื่องการบารุงรักษาแบตเตอร่ีรถยนต์ ของนักเรียนระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปวช.ปีท่ี 2 กลุ่มทดลองที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ปวช. ช้ันปีท่ี 2 จานวน 16 คน โดยใช้วิธีการสอนแบบกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อเสร็จสิ้นการสอนแล้ว
ทาการวดั ผลการเรยี น จากนัน้ นาผลการวดั มาวิเคราะห์หาคา่ เฉลี่ย ร้อยละ
สรุปผลการวิจัย

ผลการจัดการเรียนรู้ การใช้วิธกี ารสอนแบบกลุ่มเพื่อนชว่ ยเพอ่ื นเรื่องการถอดประกอบมอเตอร์
สตาร์ทรถยนต์ ของนักเรียนระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ช้นั สูงปีท่ี 1 แผนกวิชาชา่ งยนต์
วิทยาลยั เทคนิคกาญจนาภเิ ษกเชยี งราย จังหวดั เชยี งราย สรปุ ผลไดด้ งั นี้ ผลสัมฤทธข์ิ องนักเรยี นทเ่ี รยี นโดยใช้
วธิ ีการสอนแบบกล่มุ เพื่อนชว่ ยเพือ่ น สูงกวา่ รอ้ ยละ 50 จานวน 16 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100

อภปิ รายผล
จากผลการวิจยั ที่ไดด้ าเนินการตามรูปแบบกระบวนการวิจัยเชงิ ปฏิบัตกิ ารในชั้นเรียน การบารงุ รกั ษา

แบตเตอรี่รถยนต์ โดยใชก้ ลุม่ เพ่อื นชว่ ยเพ่ือน เพ่ือแก้ปญั หาการเรียนการสอน วชิ างานไฟฟา้ รถยนต์
เรอ่ื งการบารุงรกั ษาแบตเตอรี่รถยนต์ สาหรบั นกั เรยี นระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ปวช. ปที ่ี 2 ในครั้งน้ี
มีขอ้ อภิปรายดังน้ี

1. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนตามรูปแบบกระบวนการวิจัยในช้นั เรียน โดยใชก้ ลมุ่
เพอ่ื ชว่ ยเพื่อน ซงึ่ ในแต่ละข้ันตอนได้ใช้กระบวนการวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเขา้ ไปในการดาเนินการสอนตาม
ความสัมพนั ธต์ ่อเน่ืองเปน็ วงจรของ 4 ขนั้ ตอนหลกั คือ ขั้นวางแผน (Plan) ข้ันปฏิบัติ (Act) ข้ันสงั เกต
(Observe) และขัน้ สะท้อนผล (Reflect) นนั้ พบวา่ นักเรียนมกี ารชว่ ยเหลอื กนั เวลาปฏิบัติงานเป็นอยา่ งดมี ี
ความกระตือรือร้นในการทางาน

2. นักเรียนมีผลการเรียนรผู้ า่ นเกณฑ์จานวน 16 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 แสดงว่า การจดั
กิจกรรมการเรียนรู้ โดยใชก้ ลุม่ เพ่ือนช่วยเพ่อื น พบว่า ช่วยให้นักเรียนมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นสงู ขนึ้ ประสบ
ผลสาเร็จในการเรียนรู้ ทั้งนี้เน่อื งมาจากการจดั กจิ กรรมการเรียนร้โู ดยใช้กลุ่มเพือ่ นช่วยเพอ่ื น นักเรยี นมสี ่วน
ร่วมในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ได้แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ได้ช่วยเหลอื กนั ภายในกลุ่ม มีความสามัคคี มคี วามมั่นใจ
และกลา้ แสดงออกมากข้ึน มคี วามภมู ิใจที่ไดช้ ่วยเหลือเพื่อน และสามารถประสบความสาเรจ็ ร่วมกันได้

ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการทาวจิ ยั เชิงปฏิบตั กิ ารในชนั้ เรยี นเกี่ยวกบั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชร้ ูปแบบการ
จัดการเรยี นการสอนแบบกลุ่มเพ่ือนช่วยเพือ่ นในวชิ า อนื่ ๆ หรือระดบั ชั้นอ่ืน ๆ
2. ควรทาการวจิ ัยน้ี ไปเปรียบเทียบกันกับห้องอนื่ ๆ ด้วย

บรรณานุกรม

กิตตพิ ร ปัญญาภิญโญผล. วิจยั เชิงปฏบิ ตั กิ าร : แนวทางสาหรบั ครู. บริษทั นันทพันธพ์ ริน้ ต้ิง จากดั ,
2549.

รุ่งทิวา ควรชม. การพฒั นารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ ที่เน้นการเรยี นแบบรว่ มมือกนั เรยี นรู้
สาหรับนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลยั
มหาสารคาม, 2546.

สนุ ันทา โพธช์ิ ัย. การพฒั นาการจัดการเรียนรแู้ บบกลุ่มเพอ่ื นชว่ ยเพอื่ น เรอ่ื ง เศษส่วน วิชา
คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม, 2547.

ภาคผนวก


Click to View FlipBook Version