The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ความรู้ทั่วไปเรื่องภาษี

ptt สอน

สาํ นกั งานสรรพากรพ้ืนที่นครสวรรค

ความรู้เร่อื งภาษี

สาํ นักงานสรรพากรพน้ื ทีน่ ครสวรรค

ภาษี คืออะไร

เง� นห ร อ� ท รัพ ย์ สิ น ท่ี รัฐ เร�ย ก เ ก็ บ จ า ก
ร า ษ ฎ ร ซ่ึง อ า จ เ ป� น ไ ด้ ทั้ ง บุ ค ค ล ธ ร ร ม ด า
และนิ ติ บุ คคล เพ่ื อ นํ าม าใช้ในก ารบ ร�หา ร
ป ร ะ เ ท ศ ใ ห้ เจ ร�ญ ก้ า ว ห น้ า เ ป� น เ ค ร่อ� ง มื อ
ท า ง ก า ร ค ลั ง อ ย่ า ง ห น่ึ ง ท่ี มี ค ว า ม สํ า คั ญ
ในการบรห� ารประเทศ

ประวตั กิ ารจัดเกบ็ ภาษีอากร

การจดั เก็บภาษีสมัยกรุงสุโขทัย

ในรชั สมัยพ่อขุนรามคําแหงมหาราช มีการจดั เก็บจงั กอบ เปน� ภาษีทเ่ี ก็บจากสัตว์และสิง่ ของ
ทน่ี ําเขา้ มาจาํ หนา่ ย ในการจดั เก็บจงั กอบ โดยสถานทเ่ี ก็บจงั กอบรฐั บาลจะตั้งเปน� สถานทค่ี อย
ดักเก็บในสถานทท่ี ส่ี ะดวก
การจดั เก็บภาษีอากรสมัยกรงุ ศรอ� ยธุ ยา

การจดั เก็บภาษีอากรในสมัยกรุงศรอ� ยุธยา หรอ� ทเ่ี รย� กกันในสมัยนั้นวา่ ส่วยสาอากร ได้มีการแบง่
การจดั เก็บออกเปน� 4 ประเภท คือ จงั กอบ อากร ส่วย และฤชา
สมัยกรงุ ศรอ� ยุธยา ได้วางระเบยี บทางการคลัง ได้แบง่ การบรห� ารการปกครองออกเปน� 4 ส่วน
เรย� กวา่ จตุสดมภ์ โดยแต่ละส่วนมีหน้าทดี่ ังน้ี

วเวังกย� งารมมจีหีหนนดั ้า้าเททกว่ีร่ี ็บ่าารชภากชาากรษาปรีสกศคมารลัยอหงกลทรวอ้ งุงงสแทล่ีุโแะขลวท่าะรดัยาูแชลกทารกุ อขร์สรุขถขคอดงีใรนาษพฎระรรพาลชเสมําือนงัก

คลัง มีหน้าทรี่ าชการจดั การพระราชทรพั ย์ เก็บส่วยสาอากรซงึ่ เปน� ผลประโยชน์แผ่นดิน
นา มีหน้าทป่ี ฏิบัติราชการเกี่ยวกับ เรอ่� งนาและสวน การเพาะปลกู พืชพันธธุ์ ญั ญาหาร

การจดั เก็บภาษีอากรในสมัยรชั กาลที่ 7 เปน� ต้นมาจนถึงปจ� จุบนั

การจดั เก็บภาษีอากร ภายหลังจากที่คณะราษฎรไ์ ด้มีการปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ในป� พ.ศ.
2 4 7 5 ไ ด้ มี ก า ร อ อ ก พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ใ น ก า ร จั ด เ ก็ บ ภ า ษี ขึ้ น ใ ห ม่ รัฐ บ า ล ใ น ข ณ ะ นั้ น
มีนโยบายในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและได้เน้นให้ประชาชนเห็นความสําคัญของภาษี
รวมทงั้ ได้มีการวางแนวทางในการจดั เก็บภาษีตามความสามารถในการเสียภาษีของประชาชน
โดยใชก้ ฎหมายประมวลรษั ฎากร ให้สอดคลอ้ งกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยครงั้ หลังสุดในป� พ.ศ. 2535 จนในป�จจุบันมีกฎหมายภาษีอากรและภาษีอากรท่ีอยู่ในความ
รบั ผิดชอบของกรมสรรพากร

สาํ นกั งานสรรพากรพืน้ ทีน่ ครสวรรค หน่วยจดั เก็บภาษีในประเทศไทย

กรมสรรพากร จดั เก็บภาษี กระทรวงการคลัง

ตามประมวลรษั ฎากร ได้แก่ กรมศุลกากร เป�นหน่วยจดั เก็บ
1. ภาษีเงน� ได้บุคคลธรรมดา
2. ภาษีเงน� ได้นิติบุคคล ภาษีศุลกากรทั้งขาเข้าและอากร
3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ขาออกค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
4. ภาษีธรุ กิจเฉพาะ
5. อากรแสตมป�
6. ภาษีเงน� ได้ปโ� ตรเล่ียม
7. ภาษีมรดก

ก ร ม ส ร ร พ ส า มิ ต เ ป� น ห น่ ว ย จั ด เ ก็ บ ภ า ษี จ า ก สิ น ค้ า
และบรก� ารซึ่งมีเหตุผลสมควรที่จะต้องรบั ภาระภาษีสูงกว่าปกติ เช่น
บรโ� ภคแล้วอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและศีลธรรมอันดี มีลักษณะ
ฟ�ุมเฟ�อย และสินค้าและบรก� ารท่ีได้รบั ผลประโยชน์เป�นพิเศษจากกิจการ
ของรฐั เปน� ต้น เฉพาะบางประเภท เชน่ เหล้า บุหร�่

องคก์ รปกครอง หน่วยงานอื่น
ส่วนทอ้ งถน่ิ

ภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง / ภาษีป�าย - ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่าง ๆ - ภาษี

สาํ นักงานสรรพากรพืน้ ที่นครสวรรค

กรมสรรพากรมีภารกิจเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี การเสนอแนะ
และการใช้นโยบายทางภาษีอากร เพื่อให้ได้ภาษีตามเป�าหมาย
อย่างท่ัวถึงและเป�นธรรม เป�นกลไกลในการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคม และเกิดความสมัครใจในการเสียภาษี โดยให้มีอํานาจ
หน้าที่ ดังต่อไปนี้

จดั เก็บภาษีอากรตามประมวลรษั ฎากรและกฎหมายอื่นที่เก่ียวขอ้ ง

เสนอแนะนโยบายการจดั เก็บภาษีอากรต่อกระทรวงการคลัง

ปฏิบตั ิการอ่ืนใดตามทกี่ ฎหมายกําหนดให้เป�นอํานาจหน้าทข่ี องกรม
หรอ� ตามทกี่ ระทรวงหรอ� คณะรฐั มนตรม� อบหมาย

สํานกั งานสรรพากรพื้นท่นี ครสวรรค สถานท่ีตั้ง

กรมสรรพากร

90 อาคารกรมสรรพากร ซ.พหลโยธนิ 7 ถนนพหลโยธนิ
แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400

สํานักงานสรรพากร ภาค 7

1/1 ถนนสิงหวฒั น์ ตําบลในเมือง อําเภอเมือง
จงั หวดั พิษณุโลก 65000

สํานกั งานสรรพากรพ้ืนทีน่ ครสวรรค์

1102/73 หมู่ 10 ถนนไกรลาศ ตําบลนครสวรรค์ตก
อําเภอเมือง จงั หวัดนครสวรรค์ 60000

สํานกั งานสรรพากรพ้ืนที่สาขา

ทวี่ ่าการอําเภอ/สํานักงานเขต/อาคารเชา่

ช่องทางการติดต่อกรมสรรพากร

:The Revenue Department
: www.rd.go.th

: RD Intelligence Center 1161

ชอ่ งทางการติดตอ่ สํานักงานสรรพากรพื้นทน่ี ครสวรรค์

: สํานักงานสรรพากรพ้ืนท่นี ครสวรรค์
: 056-370600
: [email protected]
: เลขที่ 1102/73 ม.10 ต.นครสวรรค์ตก

อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000



สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทนี่ ครสวรรค

"ภาษี แบ่งออกเปน� 2 ประเภท

ภาษีทางตรง เป�นภาษีที่จะไม่สามารถผลักภาระภาษีไปยังผู้อ่ืนได้

เช่น ภ า ษี เง� น ไ ด้ บุ ค ค ล ธ ร ร ม ด า ภ า ษี เง� น ไ ด้ นิ ติ บุ ค ค ล ภ า ษี ป� า ย
ภาษีโรงเรอ� น ภาษีบาํ รุงทอ้ งท่ี ภาษีมรดก ภาษีทรพั ย์สินต่าง ๆ

ภาษีทางอ้อม โดยเป�นภาษีท่ีสามารถผลักภาระทางภาษีทั้งหมด

หรอ� บางส่วนไปยังผู้ซอ้ื หรอ� ผู้บรโ� ภค เป�นผู้รบั ชาํ ระภาษีอากรแทนผู้ขาย
โ ด ย ทั่ ว ไ ป ภ า ษี ท า ง อ้ อ ม เ ช่ น ภ า ษี มู ล ค่ า เ พ่ิ ม ภ า ษี ส ร ร พ า มิ ต
ภาษีธรุ กิจเฉพาะ ภาษีศุลกากร ภาษีทางการค้า ค่าธรรมเนียมอากรต่าง ๆ

ภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดา คืออะไร

คือ ภาษีท่ีจดั เก็บจากบุคคลทั่วไปท่ีมีเง�น
ไ ด้ ไ ม่ ว่ า ป ร ะ เ ภ ท ใ ด ช นิ ด ใ ด ถ้ า ไ ม่ มี
กฎหมายยกเว้นให้แล้วก็อยู่ในข่ายต้อง
เสียภาษี

หรอ� คือ ภาษีท่ีจัดเก็บจากหน่วยภาษีท่ีมีลักษณะพิเศษตามที่กฎหมาย
กําหนดและมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กําหนด ซึ่งโดยปกติจัดเก็บ
เป�นรายป� รายได้ที่ได้รบั ในป�ใด ๆ ผู้มีเง�นได้มีหน้าที่ต้องแสดงรายการ
ด้วยตนเองตามแบบแสดงรายการภาษีท่ีกําหนด ภายในเดือนมกราคมถึง
เดือนมีนาคมของป�ถัดไป ผู้มีเง�นได้บางกรณีกฎหมายยังกําหนดให้
ยื่นแบบฯ เสียภาษีตอนครง่� ป�สําหรบั รายได้ท่ีเกิดข้ึนในช่วงครง่� ป�แรก
เพื่อเป�นการบรรเทาภาระภาษีท่ีต้องชําระและเง�นได้บางกรณีกฎหมาย
ยังกําหนดให้ผู้จ่ายทําหน้าที่หักภาษี ณ ท่ีจ่ายจากเง�นได้ท่ีจ่ายเพื่อ
ให้มีการทยอยชาํ ระภาษีด้วย

สํานักงานสรรพากรพ้ืนทีน่ ครสวรรค

ใครมหี นา้ ทเ่ี สียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ตามกฎหมายประมวลรษั ฎากร กําหนดให้บุคคลธรรมดาทมี่ ีเงน� ได้มี
หน้าทต่ี ้องเสียภาษี โดยได้กําหนดหน่วยภาษีเงน� ได้ไวไ้ ด้แก่

บคุ คลธรรมดา กองมกดกท่ียงั ไมไ ดแ บง คณะบคุ คลทไ่ี มใชน ติ บิ คุ คล

หางหนุ สว นสามญั ผถู งึ แกค วามตาย
ท่ไี มใ ชนิติบุคคล ระหวา งปภ าษี

สํานักงานสรรพากรพืน้ ที่นครสวรรค ประเภทเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา

เงน� ได้ทต่ี ้องเสียภาษีเงน� ได้บุคคลธรรมดา เรย� กวา่ เงน� ได้พึงประเมิน หมายถึง เงน�
ได้อันเข้าลักษณะพึงต้องเสียภาษีเงน� ได้ซงึ่ เกิดจากหน้าทง่ี านทท่ี าํ กิจกรรมทที่ าํ หรอ�
เน่ืองจากทรพั ย์สิน ได้แก่ เงน� ทรพั ย์สิน ประโยชน์อ่ืนใดทค่ี ํานวณได้เปน� ตัวเงน� เงน�
ภาษีทผ่ี ู้จา่ ยออกแทน หรอ� เครดิตภาษีตามทกี่ ฎหมายกําหนด

1. บคุ คลธรรมดาและ เกณฑ์เงนิ ไดพ้ ึงประเมินขน้ั ต่าํ ท่ีผมู้ เี งินได้
ผถู ึงแกกรรม มหี น้าทย่ี ื่นแบบแสดงรายการภาษี
มีเงนิ ไดพงึ ประเมนิ
เกนิ ดังน้ี

ประเภทเงน� ได้ โสด สมรส

เงน� เดือน (ค่าจา้ งเทา่ นั้น) 120,000 220,000

เงน� ได้ประเภทอื่น 60,000 120,000

2. ห้างหุ้นส่วนสามญั ทไ่ี ม่ใชน่ ิติบุคคล 3.
หรอ� คณะบุคคลทไ่ี มใ่ ชน่ ิติบุคคลมีเงน� กองมรดกทย่ี ังไม่ได้แบ่งมเี งน� ได้
ได้พึงประเมินเกิน 60,000 บาท พึงประเมนิ เกิน 60,000 บาท

ประมวลรัษฎากรแบง่ ประเภท
เงินไดพ้ ึงประเมนิ เปน� 8 ประเภท ได้แก่

เงนิ ไดป ระเภทที่ 1 ม.40 (1) ไดแก เงนิ ไดเน่อื งจากการ เงนิ ไดป ระเภทที่ 5 ม. 40(5) เงินไดจากการใหเชา
จา งแรงงาน เงนิ เดือน คา จา ง เบ้ียเลย้ี ง โบนสั เบีย้ หวดั ทรพั ยสนิ ตาง ๆ

1 5บาํ เหน็จ บํานาญ ฯลฯ

เงนิ ไดป ระเภทท่ี 2 ม.40 (2) ไดแก เงนิ ไดเน่อื งจาก เงินไดป ระเภทท่ี 6 ม.40(6) ไดแ ก เงนิ ไดจากวชิ าชพี
อสิ ระตา ง ๆ เชน วชิ ากฎหมาย การประกอบโรคศิลปะ
2 หนาทหี่ รือตาํ แหนง งานทีท่ าํ หรอื ความาสําเรจ็ ของงาน
เชน คา ธรรมเนยี ม คา นายหนา คา สวนลด ฯลฯ 6 (แพทย) วิศวกรร สถาปตยกรรม การบญั ชี ประณีต
เงนิ ไดป ระเภทที่ 3 ม.40 (3) ไดแก คาแหงกดู วลิ ล คา ศลิ ปกรรม หรอื วชิ าชพี อ่นื ซ่งึ จะไดมพี ระราชกฤษฎกี า
กาํ หนดชนดิ ไว
3 แหงลิขสทิ ธิ์หรือสิทธิอยา งอ่นื เงินป หรอื เงินไดท ่ีมี เงินไดป ระเภทท่ี 7 ม. 40 (7) ไดแก เงินไดจากการ
ลกั ษณะ เปน เงินรายปอนั ไดมาจากพินัยกรรม
นิตกิ รรมอยางอ่นื หรือคําพพิ ากษาของศาล 7 รบั เหมาทีผ่ รู บั เหมาตอ งลงทุนดวยการจดั หาสัมภาระ
ในสว นสาํ คญั นอกจากเครื่องมือ เชน การรบั เหมา
4 เงินไดประเภทท่ี 4 ม.40 (4) ไดแก ดอกเบี้ย กอ สรา ง
เงินปนผล เงินสว นแบงกาํ ไร เงินลดทนุ เงินเพม่ิ ทุน เงินไดประเภทท่ี ม. 40(8) ไดแ ก เงนิ ไดจากการธรุ กจิ
ผลประโยชนท ่ีไดจากการโอนหุน ฯลฯ เปน ตน
8 การพาณิชย การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนสง
การขายอสงั หารมิ ทรัพย หรือการอ่นื นอกจากทรี่ ะบุไว
ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทท่ี 7 แลว

สาํ นักงานสรรพากรพ้ืนทน่ี ครสวรรค

ผมู้ เี งินไดม้ หี นา้ ทต่ี อ้ งยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดาอย่างไร และเมอ่ื ใด ?

ภ.ง.ด. 90 มีเงน� ได้พึงประเมินทกุ ประเภท ภายใน มกราคม - มีนาคม ของปภ� าษีถัดไป
ภายใน มกราคม - มีนาคม ของปภ� าษีถัดไป
ภ.ง.ด. 91 มีเฉพาะเงน� ได้พึงประเมินประเภทท่ี 1
ม.40(1) ประเภทเดียว ภายใน กรกฎาคม - กันยายน ของปภ� าษีนั้น

ภ.ง.ด. 94 ย่ืนครง่� ปส� ําหรบั ผู้มีเงน� ได้พึงประเมิน
เฉพาะประเภทท่ี 5,6,7และ8

สาํ นกั งานสรรพากรพ้ืนที่นครสวรรค

วิธีการคาํ นวณภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดา มี 2 วธิ ี

1. วธิ ีเงินได้สุทธิ

2. วิธีเงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ

สูตรคํานวณภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดาวธิ ีที่ 1 (เบ้อื งต้น)

รายได้ – ค่าใช้จา่ ย – คา่ ลดหยอ่ น = เงนิ ไดส้ ุทธิ

เงินไดส้ ุทธิ X อตั ราภาษี = เงินภาษีทีต่ ้องจ่าย

อตั ราภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา

เงินไดส้ ุทธิ (บาท) ช่วงเงินได้ อตั ราภาษี ภาษีแต่ละข้ัน ภาษีสะสมสูงสุด
สุทธิ (บาท) (บาท) (บาท)
150,000 บาทแรก 150,000 ยกเวน้ - -
150,001 - 300,000 150,000 5 7,500 7,500
300,001 – 500,000 200,000 10 20,000 27,000
500,001 – 750,000 250,000 15 37,500 65,000
750,001 – 1,000,000 250,000 20 50,000 115,000
1,000,001 - 2,000,000 1,000,000 25
2,000,001 – 5,000,000 3,000,000 30 250,000 365,000
900,000 365,000

5,000,000 ขึน้ ไป - 35

ผู้มีเงนิ ไดจ้ าก “เงนิ เดอื น” ใหใ้ ช้วิธีคํานวณแบบนเ้ี ท่านนั้

สูตรคาํ นวณภาษีเงนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดาวิธีท่ี 2 (เบ้อื งตน้ )

วธิ คี ํานวณจากเงินได้พึงประเมนิ

ถามรี ายไดที่ไมใชเ งนิ เดือนตามมาตรา 40(1) เกิน 1 ลา นบาท
ตอ งคาํ นวณภาษีวธิ ีท่ี 2 เปรยี บเทียบกบั วธิ ที ี่ 1

รวมเงนิ ได้ท้งั หมด X 0.5% = เงินภาษีที่ต้องจ่าย

**เปรียบเทียบจากภาษที ีต่ องจา ยระหวางวธิ ที ี่ 1 กับวธิ ที ่ี 2**
วิธีใดมากกวา ใหช าํ ระภาษีตามวธิ ีนน้ั

วธิ ี “ขอคืนเงนิ ภาษีอากร”

การขอเงน� คือภาษี เปน� สิทธทิ ผ่ี ู้เสียภาษีสามารถทาํ ได้หากถูกหักภาษี ณ ทจ่ี า่ ย
ระหว่างปไ� ปมากกวา่ ค่าภาษีทต่ี ัวเองมีหน้าทตี่ ้องจา่ ยจรง�

“ขอคนื ภาษี”ทําได้หลังจาก “ยื่น หลงั ยน่ื แบบฯ หากเจา้ หนา้ ทม่ี เี หตสุ งสัย
ภาษีแล้วรอ้ ยแลว้ กรมสรรพากรต้องคนื เงิน อาจขอให้ส่งเอกสารประกอบ
เช่น หลักฐานการบรจิ าคเงิน
ภาษีภายใน 3 เดือน

วิธกี ารตรวจสอบเงินคือภาษี
1. เขา้ เว็บไซต์ www.rd.go.th
2. กรอกขอ้ มูลป�ภาษี, เลขประจาํ ตัวผู้เสียภาษี, ชอ่ื -นามสกุล แล้วคลิก สอบถาม

3. หากได้เงน� คือภาษี จะมีขอ้ ความระบุ “กรมสรรพากรได้นําเงน� คืนภาษี
เขา้ บัญชี xxx แล้ว เม่ือวันท่ี xx/xx/xxxx

ชอ่ งทางการคนื เงินภาษี

พรอ้ มเพย์ ทผี่ ูกกับเลขบัตรประชาชน หนงั สือแจง้ คืนภาษี (ค.21)

สาํ นกั งานสรรพากรพื้นท่นี ครสวรรค การยน่ื แบบแสดงรายการ
ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา

ระบบ My Tax Account

สาํ นกั งานสรรพากรพื้นท่นี ครสวรรค การยน่ื แบบแสดงรายการ
ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา

ระบบ My Tax Account

สาํ นกั งานสรรพากรพื้นท่นี ครสวรรค การยน่ื แบบแสดงรายการ
ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา

ระบบ My Tax Account

สาํ นกั งานสรรพากรพื้นท่นี ครสวรรค การยน่ื แบบแสดงรายการ
ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา

ระบบ My Tax Account

สาํ นกั งานสรรพากรพ้นื ท่นี ครสวรรค การย่นื แบบแสดงรายการ
ภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา

การยื่นแบบผ่านระบบ E-FILING

สาํ นักงานสรรพากรพื้นทีน่ ครสวรรค

ถูกนําขอ้ มูลบัตรประชาชนไปใช้ในทางที่ผดิ

สาํ นักงานสรรพากรพ้นื ที่นครสวรรค ถูกหักภาษี ณ ทจ่ี ่าย
แล้วต้องยื่นภาษีอีกไหม

สาํ นักงานสรรพากรพื้นทน่ี ครสวรรค ภาษีเงนิ ได้นติ บิ ุคคล

ภาษีเง�นได้ นิติ บุคคล เป�นภาษีเง�นได้ ประเภทหน่ึงท่ีเร�ยกเก็บจาก
นิติบุคคลตามประมวลรษั ฎากร) กําหนด โดยมีหลักการคํานวณจาก
ฐานภาษีท้ังหมด 4 ประเภท ดังน้ี

กําไรสุทธิ
ยอดรายได้ก่อนหักรายจา่ ย
เงน� ได้ที่จา่ ยจากหรอ� ในประเทศ
การจาํ หน่ายเงน� กําไรออกไปจากประเทศไทย

โดยปกติแล้วฐานภาษีทถี่ ูกใชบ้ ่อยท่ีสุดในการคํานวณภาษี
เงน� ได้ประเภทน้ีคือ “กําไรสุทธ”ิ ซง่ึ กําหนดให้นิติบุคคลดังต่อไปนี้
ต้องมีหน้าท่ีเสียและคํานวนภาษี

สาํ นักงานสรรพากรพน้ื ทีน่ ครสวรรค ภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคล

- บรษ� ัทหรอ� ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทตี่ ้ังข้นึ ตามกฎหมายไทย
- บรษ� ัทหรอ� ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งข้ึนตามกฎหมาย

ข อ ง ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ที่ มี ก า ร ก ร ะ ทํ า กิ จ ก า ร ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
(ไม่ใช่กิจการขนส่งระหว่างประเทศ) หรอ� มีลูกจ้างหรอ�
ผู้ประกอบการแทน หรอ� ผู้ทําการติดต่อในการประกอบ
กิจการในประเทศไทยที่ทําการในประเทศไทยที่ทําให้ได้
เงน� ได้หรอ� ผลกําไรในประเทศไทย
- กิจการซึ่งดําเนินการเป�นทางการค้าหรอ� หากําไรโดย
รฐั บาลต่างประเทศองค์การของรฐั บาลต่างประเทศ
- กิจการรว่ มค้า

สาํ นกั งานสรรพากรพืน้ ทนี่ ครสวรรค ภาษี เง�นได้ นิติ บุคคลท่ีเสี ยจากฐานกําไรสุ ทธินั้ น
จะมีลั กษณะคล้ายกั บภาษี เง�นได้ บุ คคลธรรมดา
ตรงท่ีมีความสัมพันธก์ ันระหว่าง ภาษีส้ินป� ภาษีครง่� ป�
และภาษีหัก ณ ทจ่ี า่ ย ดังนี้

ความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษีส้ินป� ครงึ่ ป�
และ ภาษีหกั ณ ทจี่ า่ ย

ภาษีเงินไดท้ ต่ี ้องจา่ ยหรือขอคืน

ภาษีเงนิ ได้ - =- ภาษีคร่ึงป� ภาษีท่เี สียเพิ่ม
ปลายป� - ภาษีหกั ณ ที่จา่ ย หรอื ขอคนื

วธิ ีคํานวณภาษีเงนิ ไดน้ ติ ิบุคคล

รายได้ _ คา่ ใชจ้ ่าย = กําไรบัญชี

รายได้ทางภาษี ไม่ใชร่ ายได้ทางภาษี ปรบั ปรุง
ใช้จ่ายหกั ไดเ้ พ่ิม
ค่าใชจ้ า่ ยต้องหา้ ม

ภาษี = กําไรภาษี X อตั ราภาษี





ภาษีมลู คา่ เพ่ิม (Value Added Tax หรอื VAT)

เปน� การเก็บภาษีจากการขายสินค้าหรอ� การให้บรก� ารทถี่ กู ใชภ้ ายในประเทศ
อัตราภาษีคือรอ้ ยละ 10 แต่ป�จจุบนั ลดอัตราการจดั เก็บเหลือเก็บรอ้ ยละ 7

ใครบา้ ง ? มีหน้าทจ่ี ดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพม่ิ

บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่ประกอบธุรกิจท่ีมีรายรบั จากการขายสินค้าหรอ�
ให้บรก� าร เกินกวา่ 1.8 ล้านบาทต่อป�

การย่ืนคําขอจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพิ่ม
มี2 ชอ่ งทาง

- อินเทอรเ์ น็ตทเ่ี วบ็ ไซต์กรมสรรพากร
- ณ สรรพากรพื้นที่ การจดั เตรย� มเอกสาร แบบคําขอจด

ทะเบียน ภ.พ.01 จาํ นวน 3 ชุด เอกสารแนบตามทกี่ ําหนด
2. กรมสรรพากร ออก “ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม”
(แบบ ภ.พ.20) ให้แก่ผู้ประกอบการ

ผู้จดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิ่ม มีหนา้ ที่

1. เรยี กเกบ็ ภาษีมูลค่าเพิ่มจากผซู้ ือ้ สินคา้ หรือผรู้ บั บริการ

2. ออกใบกํากบั ภาษี
2.1 ผู้มีหน้าทอี่ อกใบกํากับภาษี
2.2 การออกใบกํากับภาษีด้วยกระดาษ
2.3 การออกใบกํากับภาษีด้วยอิเล็กทรอนิกส์

3. จัดทํารายงานตามทก่ี ฎหมายกาํ หนด ซง่ึ ไดแ้ ก่
3.1 รายงานภาษีซอ้ื
3.2 รายงานภาษีขาย
3.3 รายงานสินค้าและวตั ถุดิบ

4. ยน่ื แบบแสดงรายการภาษีมลู คา่ เพ่ิม ภายในวนั ท่ี 15 ของเดอื นถดั ไป
4.1 การย่ืนแบบฯและชาํ ระภาษีผ่านอินเทอรเ์ น็ต
4.2 การย่ืนแบบฯและชาํ ระภาษีทส่ี ํานักงานสรรพากรพื้นทส่ี าขา

สํานกั งานสรรพากรพนื้ ทีน่ ครสวรรค

ภาษีธุรกจิ เฉพาะ

ภาษีธุรกิจเฉพาะคือ ภาษีที่เก็บจากกิจการบางประเภท
ท่ีกฎหมายกําหนดเป�นพิเศษแยกจากภาษีมูลค่าเพ่ิม
โดยกรมสรรพากรเป�นผู้จดั เก็บจากธุรกิจท่ีเป�นบุคคล
ธรรมดาหรอ� นิติบุคคล โดยผู้ประกอบการที่มีหน้าที่
เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ต้องย่ืนคําขอจดทะเบียนภาษี
ธุรกิจเฉพาะด้วยแบบคําขอ ภ.ธ.01 ภายใน 30 วัน
นับแต่วันเรม�่ กิจการ

สํานกั งานสรรพากรพืน้ ที่นครสวรรค

กจิ การทต่ี อ้ งเสียธรุ กิจเฉพาะมีอะไรบ้าง

1. กิจการธนาคาร
2. ธรุ กิจเงน� ทนุ ธรุ กิจหลักทรพั ย์ ธรุ กิจเครดิตฟองซเิ อร์
3. การรบั ประกันชวี ต�
4. การรบั จาํ นํา
5. การประกอบการโดยปกติเย่ียงธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ การให้กู้ยืมเงน� คา� ประกัน
แลกเปลี่ยนเงน� ตรา ออก ซอ้ื หรอ� ขายตั๋วเงน� หรอ� รบั ส่งเงน� ไปต่างประเทศ
6. การขายอสังหารม� ทรพั ย์เปน� ทางค้าหรอ� หากําไร
7. การซอื้ และขายคืนหลักทรพั ย์
8. การประกอบธรุ กิจแฟ�กเตอรง่� เป�นธรุ กิจทลี่ ูกค้าตกลงจะโอนหนี้ทางการค้า
ให้แก่ผู้ประกอบธรุ กิจแฟ�กเตอรง่� โดยผู้ประกอบการธรุ กิจแฟ�กเตอรง�่ นั้นตกลง
จะให้สินเชอ่ื รวมถึง การรบั ทจี่ ะดําเนินธรุ กรรมอย่างใดอย่างหนง่ึ ได้แก่ การบรห� าร
ลูกหน้ี การเรย� กเก็บหนี้ เป�นต้น

สาํ นักงานสรรพากรพนื้ ท่นี ครสวรรค

ฐานและอตั ราภาษีสําหรับภาษีธรุ กจิ เฉพาะ

ฐานภาษีสําหรบั การคํานวณภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ รายรบั ก่อนหักรายจา่ ย
ข อ ง ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ภ า ษี ธุ ร กิ จ เ ฉ พ า ะ ไ ม่ ว่ า จ ะ ม า จ า ก ใ น ห ร� อ
นอกราชอาณาจักร โดยคํ านวณจากรายรับตามฐานภาษี ของกิ จการ
แต่ ละประเภท คูณด้ วยอัตราภาษีท่ีกําหนดไว้ รวมกั บภาษีท้องถ่ิ นอีก
รอ้ ยละ 10 ของจาํ นวนเง�นภาษีธุรกิจเฉพาะที่คํานวณได้ โดยอัตราภาษีแสดง
ตามตารางดังต่อไปนี้

กิจการ ฐานภาษี อตั ราภาษีรอยละ
3.0
- ดอกเบย้ี สว นลด คา ธรรมเนียม คา บริการ หรอื
กาํ ไรกอนหักรายจา ย ใดๆ จากการซอ้ื หรือขายต๋วั เงนิ 3.0
1. กิจการธนาคาร,ธุรกจิ เงนิ ทุน ธุรกจิ หลกั ทรัพย, หรอื ตราสารแสดงสทิ ธใิ นหน้ีใด ๆ 2.5
ธุรกจิ เครดิตฟองซเิ อร และการประกอบกจิ การเยี่ยง - กําไรกอ นหักรายจายใดๆ จากการ แลกเปลย่ี น 2.5
ธนาคารพาณิชย หรือซ้ือขายเงนิ ตรา การออกตัว๋ เงนิ หรือการสงเงนิ ไป 2.5
0.1
ตางประเทศ 0.1
(ยกเวน )
2. กจิ การรบั ประกนั ชวี ิต - ดอกเบ้ีย คา ธรรมเนียม คาบริการ 3.0

- ดอกเบ้ีย คา ธรรมเนยี ม 3.0
0.01
3. กิจการโรงรบั จํานาํ - เงนิ ทรัพยสิน คา ตอบแทน หรอื ประโยชนใดๆ 0.01
อนั มีมลู คาท่ไี ดร ับ หรอื พึงไดร บั จากการขายของที่ 0.01
จาํ นาํ หลุดเปน สิทธิ

4. การคาอสังหารมิ ทรพั ย - รายรบั กอ นหกั รายจา ยใดๆ

5. การขายหลกั ทรพั ยใ นตลาดหลกั ทรัพย - รายรับกอ นหกั รายจา ยใดๆ

6. การซื้อและการขายคืนหลกั ทรพั ยท่ีไดร บั - กําไรกอนหกั รายจายใดๆ จากการขายคืน
อนญุ าตจาก คณะกรรมการกํากบั หลักทรัพยแ ละ หลกั ทรพั ย แตไมร วมถงึ ดอกเบี้ย เงินปน ผล หรือ
ตลาดหลกั ทรพั ย ประโยชนใดๆ ทไี่ ดจากหลกั ทรัพย

7. ธรุ กิจแฟกเตอริง - ดอกเบยี้ สวนลด คา ธรรมเนียม หรือคาบรกิ าร

8. การประกอบกจิ การตามพระราชกฤษฎกี าฉบับที่ - ดอกเบี้ย สว นลด คาธรรมเนียม หรือคา บริการ
469

- กาํ ไรกอนหักรายจา ยใดๆ จากการ แลกเปลี่ยน
หรือซอื้ ขายเงินตรา

- กาํ ไรกอนหักรายจา ยใดๆ จากการขายคืน
หลักทรพั ย

สาํ นกั งานสรรพากรพืน้ ท่นี ครสวรรค

ระยะเวลายนื่ แบบแสดงรายการ
ภาษีธรุ กิจเฉพาะ

แบบแสดงรายการ ระยะเวลาในการย่ืนแบบแสดงรายการภาษี

- ยืน่ แบบแสดงรายการเปน� รายเดือนภาษี ภายในวันท่ี 15 ของ
เดือนถัดไป ไม่วา่ จะมีรายรบั ในเดือนนั้น หรอ� ไม่ก็ตาม

ภ.ธ.40 - ภาษีในเดือนภาษีใด เม่ือรวมคํานวณแล้วมีจาํ นวนไม่ถึง
100บาท ผู้ประกอบกิจการไม่ต้องเสียภาษีสําหรบั เดือนภาษี
นั้น แต่ยังคงมีหน้าทตี่ ้องยน่ื แบบแสดงรายการตามปกติ

สาํ นกั งานสรรพากรพืน้ ทน่ี ครสวรรค

อากรแสตมป�

หนึง่ ในภาษีทีค่ วรรู้จกั

อากรแสตมป�เปน� ภาษีตามประมวลรษั ฎากรประเภทหน่งึ จัดเกบ็ จากการกระทาํ
ตราสาร 28 ลักษณะ ตามทก่ี าํ หนดไวใ้ นบัญชีอตั ราอากรแสตมป�

สาํ นกั งานสรรพากรพืน้ ทน่ี ครสวรรค

อากรแสตมปไ� มใ่ ช่แสตมปไ� ปรษณีย์

ใชแ้ ทนกนั ไมไ่ ดแ้ ละหาซอ้ื ได้ท่ี
กรมสรรพากร สรรพากรพ้ืนที่ สรรพากรพื้นทส่ี าขา

และตวั แทนจาํ หน่าย

สาํ นักงานสรรพากรพ้ืนทน่ี ครสวรรค

ตราสารท่ตี อ้ งเสียอากรแสตมป�

คําว่า “ตราสาร” ตามประมวลรษั ฎากร หมายถึง
เอกสารที่ต้องเสียอากรแสตมป� ตามที่กําหนดไว้ในบัญชี
อัตรา อากรแสตมป� ซง่ึ ป�จุจบันมีทั้งหมด 28 ลักษณะตรา
สาร เช่น ตราสารเช่าท่ีกับโรงเร�อน เช่าซ้ือทรัพย์สิน
จ้างทําของ กู้ยืมเง�น ฯลฯ อากรแสตมป�เป�นภาษีอากรท่ี
จัด เ ก็ บ จ า ก ก า ร ก ร ะ ทํ า ต ร า ส า ร โ ด ย คํ า ว่ า ก ร ะ ทํ า
หมายความว่า การลงลาย มือช่ือตามบทบัญญัติแห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

สํานักงานสรรพากรพน้ื ทน่ี ครสวรรค

ตราสารท่ีมไิ ดป้ �ดแสตมป�บรบิ รู ณ์

ตราสารใดไม่ป�ดแสตมปบ� รบ� ูรณ์ จะใชต้ ้นฉบับ คู่ฉบับ
คู่ฉีก หรอ� สําเนาตราสารน้ันเป�นพยานหลักฐาน ในคดีแพ่ง
ไม่ได้ จนกว่าจะได้เสียอากรโดยป�ดแสตมปค� รบจาํ นวนอัตรา
ในบัญชีท้าย หมวดอากรแสตมป� และขีดฆ่าแล้วแต่ทั้งน้ีไม่
เป�นการเสื่อมสิทธทิ จ่ี ะเรย� กเงน� เพ่ิมอากร

นอกจากน้ันกฎหมายยังห้ามเจา้ พนักงานรฐั บาลลงนาม
รบั รู้ ยอมให้ทําหรอ� บันทึกสิ่งใด ๆ ในตราสาร ดังกล่าวด้วย
จนกว่าจะได้มีการเสียอากรให้ครบถ้วนเสียก่อน

บญั ชอี ตั ราอากรแสตมป�

ลักษณะแหง่ ตราสาร ค่าอากร ผทู้ ต่ี ้องเสียอากร ผู้ทตี่ ้องขดี ฆ่า
1. เชาทดี่ นิ โรงเรือน ส่งิ ปลกู สรางอยา งอ่นื หรือแพ แสตมป� แสตมป�
ผใู หเ ชา
ทุกจํานวนเงนิ 1,000 บาท หรอื เศษของเงิน 1,000 บาท 1 บาท ผูเชา
แหงคา เชาหรือเงินกินเปลา หรอื ทั้งสองอยางรวมกันตลอดอายุ
การเชา ผรู ับโอน
ยกเวนไมตองเสยี อากร เชา ทรพั ยสินใชใ นการทํานา ไร สวน
ผเู ชา
2. โอนใบหนุ ใบหนุ กู พนั ธบัตรและใบรับรองหนี้ ซ่ึงบริษทั 1 บาท ผูโอน
สมาคม คณะบุคคลหรอื องคก ารใด ๆ เปนผอู อก

คดิ ตามราคาหุนท่ีชําระแลว หรอื ตามราคาในตราสาร
แลว แตอ ยางใดจะมากกวา ทกุ จาํ นวนเงนิ 1,000 บาท หรือเศษ
ของ 1,000 บาท

ยกเวน ไมต อ งเสียอากร
ก. โอนพันธบตั รของรัฐบาลไทย
ข. โอนใบหุน ใบหุนกู และใบรับรองหนี้ซง่ึ สหกรณ
หรอื ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณการเกษตรเปนผอู อก

3. เชา ซือ้ ทรัพยสิน 1 บาท ผใู หเ ชา
ทกุ จาํ นวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของเงิน 1,000 บาท

แหง ราคาทงั้ หมด
ยกเวนไมตองเสยี อากร
เชา ซอ้ื ทรพั ยสินใชใ นการทํานา ไร สวน

บัญชอี ัตราอากรแสตมป�

ลักษณะแห่งตราสาร ค่าอากร ผู้ทต่ี ้องเสียอากร ผู้ทตี่ ้องขีดฆา่
4. จา งทาํ ของ ทกุ จาํ นวนเงนิ 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 แสตมป� แสตมป�
บาท แหง สินจางท่ีกําหนดไว ผใู หเ ชา
1 บาท ผเู ชา
ยกเวน ไมต องเสยี อากร
สัญญาทท่ี ําขึน้ นอกประเทศไทยและการปฏิบตั ิตามขอ สัญญาน้นั ผกู ู
มไิ ดท าํ ในประเทศไทย

5. กูยมื เงนิ หรอื การตกลงใหเ บกิ เงนิ เกนิ บญั ชีจากธนาคาร
ทุกจํานวนเงิน 2,000 บาท หรอื เศษของเงิน 2,000 บาท
แหงยอดเงนิ ทีก่ ูยืมหรอื ตกลงใหเบกิ เกนิ บัญชี คาอากร
ตามลกั ษณะแหงตราสารน้ี เมอ่ื คํานวณแลวถาเกนิ 10,000 บาท
ใหเ สีย 10,000 บาท 1 บาท ผูใหก ู
ยกเวนไมตองเสียอากร
การกยู มื เงินซงึ่ สมาชกิ กยู ืมจากสหกรณหรอื สหกรณก ยู ืม
จากสหกรณ หรือจากธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ
การเกษตร

บัญชีอัตราอากรแสตมป�

ลักษณะแห่งตราสาร ค่าอากร ผทู้ ตี่ ้องเสียอากร ผู้ทต่ี ้องขีดฆ่า
แสตมป� ผรู บั ประกันภัย แสตมป�
6. กรมธรรมประกนั ภยั ผรู ับประกันภยั ผรู ับประกันภัย
(ก) กรมธรรมป ระกันวนิ าศภยั 1 บาท ผูรบั ประกันภัย ผูรับประกนั ภัย
ทุก 250 บาท หรอื เศษของ 250 บาท แหง เบย้ี ประกันภัย 1 บาท ผูรับประกันภยั
(ข) กรมธรรมประกันชวี ติ 1 บาท ผูรับประกันภัย
ทกุ 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท แหงจํานวน เงินที่ ผรู บั ประกนั ภยั ผูรับประกันภยั
1 บาท ผูร ับประกนั ภัย
เอาประกนั ภยั ผรู ับประกนั ภัย
(ค) กรมธรรมป ระกันภัยอ่นื ๆ กง่ึ อตั ราซ่ึง ผูรบั ประกนั ภัย
ทกุ 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท แหงจํานวนเงนิ ทเี่ อา เรยี กเก็บ
สาํ หรับกรม
ประกนั ธรรมเ ดิม
(ง) กรมธรรมเงนิ ป
ทกุ 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาง แหง ตน ทุนเงินปน น้ั

หรอื ถาไมปรากฏตน ทนุ ใหค ิดทุก 2,000 บาท หรอื เศษของ 2,000 บาท
แหง 33 1/3 เทา ของรายไดป ระจําป

(จ) กรมธรรมประกนั ภัยซึง่ ผรู ับประกันภยั นําไปใหผอู ื่นประกัน
อกี ตอ หนง่ึ

(ฉ) บันทึกการตออายกุ รมธรรมป ระกันภัยเดิม
ยกเวน ไมตองเสียอากร
(ก) การประกนั ภัยสัตวพ าหนะซึ่งใชใ นการเกษตรกรรม
(ข) บนั ทกึ ประกนั ภัยหรอื กรมธรรมประกันภัยชว่ั คราวซ่งึ รับรอง
จะออกกรมธรรมป ระกนั ภัยตวจรงิ แตถา ผทู รงจะเรยี กรองเอาสิทธิอยา ง
อืน่ นอกจากใหสงมอบกรมธรรมประกันภัยตวั จรงิ แลว ตอ งปดแสตมป
เสียกอน เชน เดยี วกับที่จะตองปดสําหรบั ประกันภยั ตัวจริง

บญั ชอี ตั ราอากรแสตมป�

ลักษณะแหง่ ตราสาร ค่าอากร ผทู้ ตี่ ้องเสียอากร ผู้ทต่ี ้องขดี ฆา่
7. ใบมอบอํานาจ คอื ใบต้งั ตวั แทนซ่งึ มิไดก ระทาํ ในรปู ลักษณะตรา แสตมป� ผูมอบอาํ นาจ แสตมป�
สารสัญญา รวมทง้ั ใบต้ังอนุญาโตตุลาการ ผมู อบอํานาจ
(ก)มอบอํานาจใหบุคคลคนเดียวหรือหลายคน การทาํ การครัง้ เดียว 10 บาท ผมู อบอาํ นาจ ผรู บั มอบอํานาจ
(ข)มอบอํานาจใหบคุ คลคนเดียวหรือหลายคนรวมกระทาํ การ 30 บาท ผูร บั มอบอํานาจ
มากกวาครัง้ เดยี ว
(ค) มอบอํานาจใหกระทาํ การมากกวาครัง้ เดียว โดยใหบ ุคคลหลาย 30 บาท ผูรบั มอบอํานาจ
คนตางคนตา งกระทํากจิ การแยกกันได คิดตามรายตัวบุคคลทีร่ ับ
มอบคนละ

ยกเวนไมต องเสียอากร
(1) ใบแตง ทนายและใบมอบอํานาจซ่งึ ทนายความใหแก
เสมียนของตนเพื่อเปน ตวั แทนดาํ เนนิ คดใี นศาล
(2) ใบมอบอาํ นาจใหโ อนหรือใหก ระทาํ การใด ๆ เกี่ยวดวย
สตั วพาหนะตามกฎหมายวาดว ยสตั วห าหนะ
(3) ใบมอบอํานาจใหร บั เงินหรอื ส่ิงของแทน
(4) ใบมอบอํานาจซงึ่ สหกรณเปน ผูมอบและใบมอบอาํ นาจ
ต้งั สหกรณเปน ตัวแทนจัดการใหสหกรณไ ดร บั สทิ ธใิ น
อสังหาริมทรัพย

บญั ชอี ตั ราอากรแสตมป�

ลักษณะแห่งตราสาร ค่าอากร 2ผ้ทู ต่ี ้องเสียอากร ผู้ทต่ี ้องขีดฆ่า
แสตมป� แสตมป�
ผมู อบฉันทะ
: . ใบมอบฉันทะสําหรบั ใหลงมตใิ นท่ีประชุมของบรษิ ัท 20 บาท ผมู อบฉนั ทะ ผมู อบฉันทะ
(ก)มอบฉนั ทะสําหรับการประชมุ ครง้ั เดยี ว 100 บาท ผมู อบฉันทะ ผูสง่ั จา ย
(ข)มอบฉันทะสาํ หรบั การประชุมกวาครั้งเดยี ว ผอู อกต๋ัว

9. (1) ต๋วั แลกเงนิ หรอื ตราสารทาํ นองเดยี วกับท่ใี ชอยา งตัว๋ แลก 3 บาท ผสู ่งั จาย ผูกระทาํ ตราสาร
เงนิ ฉบบั ละ 3 บาท ผูอ อกต๋วั

(2) ตวั๋ สัญญาใชเ งินหรือตราสารทํานองเดียวกับทีใ่ ชอยางตั๋ว
สญั ญาใชเงิน ฉบบั ละ

ยกเวนไมตองเสียอากร
ถาตั๋วออกเปน สาํ รบั และฉบบั แรกในสาํ รับนั้นปดแสตมป
บริบรู ณแ ลว ฉบับอน่ื ๆ ไมต องปด อีก แตตอั งสลกั หลังฉบับนั้น ๆ
ไวว าไดเสยี อากรแสตมปแ ลว

10. บลิ ออฟเลดิง 2 บาท ผกู ระทาํ ตราสาร
หมายเหตุ
ถา ออกเปนสาํ รับใหปด แสตมปต ามอตั ราทกุ ฉบับ

บญั ชีอัตราอากรแสตมป�

ลักษณะแห่งตราสาร ค่าอากร 2ผู้ทตี่ ้องเสียอากร ผู้ทตี่ ้องขดี ฆา่
แสตมป� แสตมป�

11. (1) ใบหุน หรือใบหุน กู หรอื ใบรับรองหนข้ี องบรษิ ัท สมาคม 5 บาท ผูทรงตราสาร ผทู รงตราสาร
คณะบุคคล หรอื องคก ารใด ๆ 1 บาท ผทู รงตราสาร ผทู รงตราสาร

(2) พนั ธบัตรของรัฐบาลใด ๆ ท่ขี ายในประเทศไทย
ทกุ จํานวนเงิน 100 บาท หรือเศษของ 100 บาท
ยกเวนไมตองเสียอากร
ใบหนุ ใบหนุ กู หรือใบรบั รองหนีข้ องสหกรณ

12. เช็ค หรือหนงั สอื คําสง่ั ใด ๆ ซึง่ ใชแ ทนเชค็ ฉบบั ละ 3 บาท ผสู งั่ จา ย ผสู ่งั จา ย
13. ใบรบั ฝากเงนิ ประเภทประจําของธนาคารโดยมดี อกเบ้ีย 5 บาท ผูรับฝาก ผรู ับฝาก
14. เลตเตอรออฟเครดติ
(ก)ออกในประเทศ 20 บาท ผอู อกตราสาร ผูออกตราสาร
30 บาท ผูอ อกตราสาร ผอู อกตราสาร
- เงนิ ตํ่ากวา 10,000 บาท 20 บาท ผูทรงคนแรก ผทู รงคนแรก
- เงนิ ตงั้ แต 10,000 บาท ข้นึ ไป ในประเทศไทย ในประเทศไทย
(ข) ออกในตางประเทศและใหชําระเงนิ ในประเทศไทย
คราวละ

บัญชอี ตั ราอากรแสตมป�

ลักษณะแห่งตราสาร ค่าอากร 2ผู้ทต่ี ้องเสียอากร ผู้ทต่ี ้องขีดฆา่
แสตมป� แสตมป�
ผูออกเช็ค
15. เช็คสาํ หรบั ผูเ ดนิ ทาง 3 บาท ผูออกเช็ค ผูทรงคนแรก
(ก)ออกในประเทศ ฉบับละ 3 บาท ผทู รงคนแรก ในประเทศไทย
(ข) ออกในตางประเทศ แตใ หชาํ ระในประเทศไทย ฉบบั ละ ในประเทศไทย
ผูออกใบรับ
16. ใบรับของ ซึ่งออกใหเ นอื่ งในกิจการรบั ขนสนิ คา โดยทางน้าํ 1 บาท ผอู อกใบรับ
ทางบก และทางอากาศ คอื ตราสารซ่งึ ลงลายมอื ชอื่ พนกั งานหรือ 10 บาท ผูค้ําประกนั ผคู ้ําประกนั
นายสนิ คาของยานพาหนะรบั ขนสง ซ่งึ ออกรบั ของดังระบุไวในใบรบั 1 บาท ผคู า้ํ ประกัน ผูค ํ้าประกัน
น้นั เมอื่ ไมไดออกบลิ ออฟเลดงิ ฉบบั ละ 5 บาท ผคู า้ํ ประกนั ผูค้ําประกนั
17. คํ้าประกัน 10 บาท ผคู ้าํ ประกัน ผคู ํา้ ประกัน
(ก)สาํ หรับกรณีทม่ี ไิ ดจ ํากัดจาํ นวนเงินไว
(ข) สําหรับจาํ นวนเงินไมเกนิ 1,000 บาท
(ค) สําหรับจาํ นวนเงินเกนิ 1,000 บาท แตไ มเ กนิ 10,000 บาท
(ง) สําหรับจํานวนเงินเกนิ 10,000 บาท ข้นึ ไป
ยกเวนไมตอ งเสียอากร

(ก) คํ้าประกนั หนเ้ี น่อื งแตการท่ีรฐั บาลใหร าษฎรกยู ืมหรือ
ยืมเพ่อื การบรโิ ภคหรอื การเกษตรกรรม

(ข) คํา้ ประกันหนเี้ นื่องแตก ารทส่ี หกรณใ หส มาชิกกยู มื หรือ
ยมื

บญั ชีอตั ราอากรแสตมป�

ลักษณะแหง่ ตราสาร ค่าอากร 2ผ้ทู ต่ี ้องเสียอากร ผู้ทตี่ ้องขดี ฆา่
18. จาํ นาํ แสตมป� ผูรบั จาํ นํา แสตมป�
ผูรับจํานํา
จํานวนหนี้ทกุ 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท 1 บาท ผรู บั จํานาํ
ถาการจํานํามิไดจ ํากดั จาํ นวนหนี้ไว 1 บาท ผูรบั จํานํา

ยกเวนไมต องเสียอากร
(ก) ตั๋วจาํ นาํ ของโรงรบั จาํ นําทไ่ี ดร ับอนญุ าตตามกฎหมาย
(ข) จํานําอนั เก่ียวกบั กยู มื ซ่ึงไดปดแสตมปบริบรู ณแลวตาม
ขอ 5

19. ใบรบั ของคลังสนิ คา 1 บาท นายคลงั สนิ คา นายคลงั สนิ คา

20. คําสงั่ ใหส ง มอบของ คือ ตราสารซึง่ บุคคลผปู รากฏชือ่ ในตรา 1 บาท ผูออกคาํ ส่ัง ผอู อกคําสง่ั
สารน้ัน หรือซ่งึ บคุ คลผูน ัน้ ตราชือ่ ไว หรือผูทรงมสี ิทธทิ ี่จะรบั มอบ
สนิ คาอนั อยูใ นอู หรอื เมืองทา หรือคลงั สนิ คา ซ่งึ รบั เก็บหรือรับฝาก
โดยเรียกเกบ็ คา เชา หรือรบั สนิ คาอันอยูที่ทา สินคาโดยที่เจา ของลง
ลายมอื ชื่อ หรอื มีผอู น่ื ลงลายมือชอื่ แทนในเมื่อขายหรอื โอน
ทรพั ยส ินอนั ปรากฎในตราสารนั้น


Click to View FlipBook Version