The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงานคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เทอม 2 (หลักสูตรฉบับปรับปรุง 2560)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by popboy2003, 2021-11-11 23:41:19

ใบงานคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เทอม 2 (หลักสูตรฉบับปรับปรุง 2560)

ใบงานคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เทอม 2 (หลักสูตรฉบับปรับปรุง 2560)

4 สถิติ(1) ใบงาน แผนภูมริ ปู ภาพ(1)
สาระที่ 3 สถติ ิและความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

คาช้แี จง ให้นักเรยี นพจิ ารณาขอ้ มลู ตอ่ ไปนี้ แลว้ ตอบคาถาม
ขอ้ มูลชุดที่ 1 แสดงปริมาณอาหารของคนเแต่ละกลุ่มใน 1 วัน และขอ้ มูลชดุ ท่ี 2 แสดงพลังงานจากโดนทั แบรนด์ M

ขอ้ มูลชดุ ท่ี 1 ขอ้ มูลชดุ ท่ี 2

ท่มี า : www.lovefitt.com

1. คนกลุ่มใดทส่ี ามารถกินโดนทั สตรอเบอร์รี รงิ 10 ชนิ้ แลว้ ไมท่ าให้ปรมิ าณอาหารท่ไี ดร้ บั เกนิ ปรมิ าณ

อาหารท่เี หมาะสมในแตล่ ะวัน
ตอบ

2. โดนัทชนิดใดบา้ งทีผ่ ู้สงู อาย,ุ เดก็ อายุ 6-13 ปี และหญิงวยั ทางาน สามารถกินได้ 7 ชน้ิ

แล้วไมท่ าให้ปรมิ าณอาหารทีไ่ ดร้ บั เกินปริมาณอาหารท่ีเหมาะสมในแต่ละวัน
ตอบ

3. ถ้าต้องการกนิ โดนัทใหค้ รบทุกชนิดอย่างละ 1 ชนิ้ คนกล่มุ ใดบ้างทสี่ ามารถกนิ ไดแ้ ล้วไมท่ าใหป้ ริมาณ

อาหารท่ีได้รบั เกนิ ปริมาณอาหารทเี่ หมาะสมในแต่ละวนั
ตอบ

4 สถิติ(1) ใบงาน แผนภูมริ ปู ภาพ(2)
สาระที่ 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาข้อมลู ตอ่ ไปน้ี แล้วตอบคาถาม

แทน 1 ลา้ นคน

ที่มา : www.nso.go.th สานกั งานสถิติแห่งชาติ

1. ผทู้ างานในสาขาใดมจี านวนมากที่สดุ และมีประมาณเทา่ ใด

ตอบ

2. ผู้ทางานในสาขาใดบ้างมจี านวนเท่ากัน และมปี ระมาณเทา่ ใด

ตอบ

3. ผู้ทางานในสาขาการผลิตมีจานวนตา่ งจากผูท้ างานในสาขาอนื่ ๆ ประมาณเทา่ ใด

ตอบ

4. ผทู้ างานในสาขาใดบ้าง มจี านวนน้อยกว่า 2 ลา้ นคน

ตอบ

4 สถติ ิ(1) ใบงาน นาเสนอขอ้ มลู โดยใชแ้ ผนภมู แิ ทง่
สาระท่ี 3 สถิตแิ ละความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

คาช้แี จง ให้นกั เรยี นนาเสนอขอ้ มลู ทกี่ าหนดให้ตอ่ ไปนี้ โดยใชแ้ ผนภมู แิ ทง่

สถิตอิ ตั ราการเกิดของประชากรจาแนกตามเพศ ระหวา่ งปี พ.ศ. 2557-2562

ปี พ.ศ. ชาย หญิง รวม

2557 451,042 424,946 875,988

2558 427,209 404,694 831,903

2559 409,731 386,357 796,088

2560 409,348 384,311 793,659

2561 343,099 323,010 666,109

2562 317,708 300,485 618,193

ท่ีมา : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

จากข้อมูลข้างต้น นาเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภูมแิ ท่ง ไดด้ ังน้ี

4 สถติ ิ(1) ใบงาน แผนภมู แิ ทง่
สาระท่ี 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาข้อมลู ตอ่ ไปนี้ แล้วตอบคาถาม

จานวนประชากร(คน) สถติ ิประชากรในประเทศไทย จาแนกตามกลุ่มวยั
ในปี พ.ศ. 2553 – 2562 เป็นดังน้ี

ปี พ.ศ.

ทม่ี า : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

1. ในปี พ.ศ. 2553-2562 ประชากรในประเทศไทยกลุ่มวัยใดมีจานวนมากทส่ี ุด
ตอบ

2. ประชากรในประเทศไทยกลุ่มวัยใด ที่มแี นวโน้มจะลดลงในอนาคต
ตอบ

3. ประชากรในประเทศไทยกลมุ่ วัยใด ที่มแี นวโน้มจะเพิ่มข้ึนในอนาคต
ตอบ

4. ปี พ.ศ. 2562 ประชากรในประเทศไทยทกุ กลุ่มวัยมีจานวนประชากรรวมประมาณเทา่ ใด
ตอบ

5. เมอ่ื พจิ ารณาข้อมลู ขา้ งต้น นกั เรียนสามารถคาดการณอ์ ะไรได้บา้ งสาหรับจานวนประชากรแต่ละกล่มุ วัยในอนาคต
ตอบ

4 สถติ ิ(1) ใบงาน กราฟเสน้ (1)
สาระที่ 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

การนาเสนอขอ้ มลู โดยใชก้ ราฟเสน้ (line graph) เหมาะสาหรับการแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง
ตัวแปรต้นและตัวแปรตามทเ่ี ป็นขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ และต้องการแสดงแนวโนม้ ของขอ้ มูลทเ่ี กิดขน้ึ

เมือ่ มีการขยายตัวของชุมชมเมอื งและการปรบั เปล่ยี นวิถชี ีวิตจากสังคมเกษตรกรรมสู่สงั คมเมืองในหลายพ้ืนท่ี รวมทัง้ การสง่ เสริม
การท่องเท่ยี วของประเทศไทยทาให้มนี ักท่องเทีย่ วเพิ่มขนึ้ ส่งผลให้ปริมาณขยะมลู ฝอยทเ่ี กิดข้นึ ท่ัวประเทศ เป็นดังนี้

ทมี่ า : กรมควบคมุ มลพษิ (2562)

คาช้แี จง จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. ประเทศไทยมีแนวโน้มของปริมาณขยะมูลฝอยท่เี กดิ ขน้ึ ทง้ั หมด ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2560-2561 เป็นอย่างไร

ตอบ

2. จากข้อ 1 นกั เรยี นคิดวา่ ปริมาณขยะมูลฝอยทีเ่ ปลยี่ นแปลงไปในทางตรงกันขา้ มคอื อะไร
ตอบ

3. เม่ือพจิ ารณาข้อมูลข้างตน้ หลังปี พ.ศ. 2557 มีแนวโน้มในการนาขยะมลู ฝอยไปใช้ประโยชน์เป็นอยา่ งไร
ตอบ

4 สถติ ิ(1) ใบงาน กราฟเสน้ (2)
สาระที่ 3 สถิติและความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

จานวนพนักงานของบริษทั แห่งหนึง่ จาแนกตามลาดับเงนิ เดือน

คาชี้แจง จากขอ้ มลู ข้างตน้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. จานวนพนักงานชายที่มเี งินเดือน 10,001-11,000 บาท กค่ี น

ตอบ
2. จานวนพนกั งานหญงิ ที่มีเงนิ เดือน 13,001-14,000 บาท ก่ีคน

ตอบ
3. จานวนพนักงานชายของบรษิ ัทน้ีมีมากกวา่ หรือนอ้ ยกว่าจานวนพนักงานหญิงกคี่ น

ตอบ
4. ลาดับเงนิ เดอื นชว่ งใดทมี่ จี านวนพนกั งานรวมกนั มากทส่ี ดุ

ตอบ
5. ลาดบั เงินเดือน 14,001-15,000 บาท มจี านวนพนักงานกคี่ น

ตอบ

4 สถติ ิ(1) ใบงาน ทบทวนแผนภมู ริ ปู วงกลม
สาระที่ 3 สถติ ิและความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

แผนภูมิรปู วงกลม (pie chart หรือ circular chart) เป็นการนาเสนอขอ้ มลู โดยการ
แบ่งพ้นื ทข่ี องวงกลมหน่ึงวงออกเปน็ ส่วน ๆ ตามสดั สว่ นของข้อมูลท่ีตอ้ งการนาเสนอ

ผลสารวจความนยิ มการด่ืมนมของนกั เรยี นโรงเรียนประถมศกึ ษาแห่งหน่ึงในกรงุ เทพมหานคร

คาชแ้ี จง จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและตอบคาถามตอ่ ไปน้ี

1. ความนยิ มของนกั เรียนโรงเรียนประถมศึกษาแหง่ น้ี ชอบด่ืมนมชนิดใดมากทีส่ ุด
ตอบ

2. ความนิยมของนักเรียนทชี่ อบด่มื นมเปรี้ยวต่างจากนกั เรยี นที่ชอบดื่มนมหวานก่ีเปอร์เซ็นต์
ตอบ

ถ้าจานวนนักเรยี นทชี่ อบด่ืมนมชอ็ กโกแลต มที ัง้ หมด 240 คน ดงั นัน้ โรงเรยี นแห่งนี้จะมีนักเรยี น
3. ทั้งหมดกค่ี น

ตอบ

4. ถ้าในโรงเรยี นแห่งน้มี ีนักเรยี นทงั้ หมด 500 คน ดังน้ันนกั เรยี นที่ชอบดืม่ นมรสอน่ื ๆ จะมกี ่ีคน
ตอบ

4 สถิติ(1) ใบงาน การอา่ นแผนภมู ริ ปู วงกลม
สาระที่ 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

จากแบบรายงานสถิติจานวนนักเรียนทเ่ี ขา้ รว่ มชุมนมุ ต่าง ๆ ของโรงเรยี นฤทธาวทิ ยา โดยการเขา้ กิจกรรม
ชมุ นุมคนละหน่ึงชุมนุม จากชมุ นมุ ทม่ี ีให้เลือก 4 ชมุ นมุ พบว่านักเรียนสมัครเข้าร่วมชุมนมุ ต่าง ๆ ดังนี้

แผนภูมิแสดงจานวนนกั เรียนทีเ่ ขา้ ร่วมชุมนุมใน 4 ชุมนมุ ของโรงเรยี นฤทธาวิทยา

คาชแี้ จง จากขอ้ มลู ข้างตน้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1. โรงเรยี นฤทธาวทิ ยามีจานวนนักเรียนทเ่ี ข้าร่วมชมุ นมุ ต่าง ๆ ท้ังหมดกคี่ น

ตอบ

2. ชมุ นมุ คณิตศาสตรม์ จี านวนนกั เรยี นเขา้ ร่วมกิจกรรมของชุมนมุ คดิ เปน็ กี่เทา่ ของจานวนนักเรียนทีเ่ ขา้ ร่วม
ชมุ นมุ ศิลปะ

ตอบ

3. ชุมนุมวิทยาศาสตร์มีจานวนนักเรยี นเขา้ รว่ มก่เี ปอรเ์ ซน็ ตข์ องจานวนนักเรยี นท้ังหมด

ตอบ

4. จานวนนกั เรียนที่เข้าร่วมชุมนมุ วิทยาศาสตรม์ ีมากกว่าจานวนนกั เรียนทเ่ี ขา้ ร่วมชมุ นุมดนตรี
คดิ เป็นก่ีเปอรเ์ ซน็ ต์ของจานวนนกั เรยี นทง้ั หมด

ตอบ

4 สถิติ(1) ใบงาน การเขยี นแผนภมู ริ ปู วงกลม
สาระที่ 3 สถิตแิ ละความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

จากการสารวจความคดิ เห็นเก่ียวกบั กีฬาทีน่ กั เรยี นโรงเรียนสุขใจวิทยาคมชอบจานวน 2000 คน

โดยใหเ้ ลอื กกีฬาคนละหน่งึ ชนดิ จากกฬี าทม่ี ีใหเ้ ลือก 4 ชนิด ผลสารวจเปน็ ดังนี้

ชอบฟุตบอล 1,120 คน

ชอบแบดมนิ ตัน 350 คน

ชอบกรฑี า 300 คน

และชอบวอลเลย์บอล 230 คน

คาชแี้ จง จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ ให้นักเรยี นนาเสนอข้อมลู นดี้ ว้ ยแผนภมู ริ ปู วงกลม

กฬี า จานวนนักเรยี น(คน) ขนาดของมมุ ท่จี ุดศนู ย์กลางของวงกลม(องศา)

ฟุตบอล 1,120 1120
แบดมินตัน 350 2000 × 360 ≈ 202
300
กรฑี า 230 350
วอลเลยบ์ อล 2,000 2000 × 360 = 63
300
รวม 2000 × 360 = 54
230
2000 × 360 ≈ 41

360

จากตาราง เขยี นแสดงแผนภมู ิรปู วงกลมไดด้ ังน้ี ..

แผนภมู ิแสดงกฬี าทีน่ กั เรียนโรงเรยี นสขุ ใจวทิ ยาคมชอบ 4 ชนดิ

4 สถิติ(1) แบบทดสอบทา้ ยบท
สาระที่ 3 สถติ ิและความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1

คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบทถี่ กู ตอ้ งทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดยี ว 4. จากข้อมูลขา้ งต้น นกั เรียนคดิ ว่าแนวโนม้ ในการนอน
โรงพยาบาลของผปู้ ว่ ยเปน็ อย่างไร
1. ข้อใดต่อไปนี้ไมเ่ ป็นคาถามทางสถติ ิ ก. จานวนวันในการนอนของผู้ปว่ ยจะเพม่ิ ขึ้นเมอ่ื อายเุ พ่ิมขนึ้
ก. นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 มีความสงู โดยเฉลย่ี ข. จานวนวนั ในการนอนของผ้ปู ่วยจะลดลงเม่อื อายเุ พ่มิ ข้ึน
เปน็ เท่าไร ค. อายุไมส่ ง่ ผลต่อจานวนวันในการนอนโรงพยาบาล
ข. ฉนั ออกกาลงั กายวันละก่นี าที ง. สรปุ ไมไ่ ด้
ค. นกั เรียนโรงเรยี นเด็กดวี ิทยาลยั ส่วนใหญเ่ ดนิ ทางมา
โรงเรียนโดยวธิ ใี ด พิจารณาแผนภมู แิ ทง่ ตอ่ ไปน้ี แล้วตอบคาถามขอ้ 5
ง. เด็กไทยท่มี ชี ว่ งอายุระหวา่ ง 13-15 ปี ใช้เวลาใน
การอา่ นหนงั สือโดยเฉลีย่ วนั ละเทา่ ใด ปรมิ าณการอา่ นหนงั สอื ของประชากร จาแนกตามกลมุ่ วยั

2. มารโิ อ้นับจานวนรถยนตท์ ่ีเข้ามาใชบ้ ริการลานจอดรถ
แหง่ หนง่ึ ใน 1 ชั่วโมง มาริโอค้ วรใชก้ ระบวนการเก็บ
รวบรวมขอ้ มูลโดยวิธีการใด
ก. วธิ ีการบนั ทกึ ข้อมูล
ข. วธิ ีการสมั ภาษณ์
ค. วิธีการสอบถาม
ง. วิธีการสงั เกต

พจิ ารณาแผนภมู ริ ปู ภาพตอ่ ไปนี้ แล้วตอบคาถามขอ้ 3-4

จานวนวนั ในการนอนโรงพยาบาลเฉลย่ี ของผปู้ ว่ ยจาแนกตามกลมุ่ อายุ ท่มี า : www.marketingoops.com

กาหนดให้รปู แทนจานวนวันในการนอนโรงพยาบาลเฉล่ยี 1 วัน 5. ปริมาณการอ่านหนงั สอื ของประชากรกลุ่มวัยใดท่ตี ่างกัน
มากทสี่ ุด
ทมี่ า : ทดี อี ารไ์ อชวนอ่าน (2019) ก. วยั เดก็ กบั วัยทางาน
ข. วยั รนุ่ กับวยั ทางาน
3. การนอนในโรงพยาบาลเฉลีย่ ของผู้ปว่ ยอายเุ ทา่ ใดที่มี ค. วัยรุน่ กับวัยสงู อายุ
จานวนวนั ในการนอนเทา่ กนั และเทา่ กนั กว่ี ัน ง. วยั เด็กกับวัยสงู อายุ
ก. อายุ 40-59 กับอายุ 60 ปีขน้ึ ไป นอน 8 วนั
ข. อายุ 15-39 ปี กบั อายุ 40-59 ปี นอน 7 วัน มตี ่อหนา้ หลัง
ค. อายุตา่ กวา่ 15 ปกี บั อายุ 15-39 ปี นอน 4 วัน
ง. อายตุ า่ กว่า 15 ปีกบั อายุ 60 ปขี น้ั ไป
นอน 4 วัน

4 สถิติ(1) แบบทดสอบทา้ ยบท(ต่อ)
สาระที่ 3 สถิติและความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 ม.1/1 8. ในปี พ.ศ. 2557 อตั ราการสูบบุหรรี่ วมของประชากร
ไทยอายุ 15 ปขี น้ึ ไป เพ่ิมข้ึนหรือลดลงร้อยละเทา่ ใด
พิจารณาแผนภมู แิ ทง่ ตอ่ ไปน้ี แล้วตอบคาถามข้อ 6 ก. เพิม่ ขนึ้ ร้อยละ 0.76
ข. เพ่มิ ขน้ึ ร้อยละ 1.5
อตั ราการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั ิเหตุบนทอ้ งถนนทว่ั โลก ค. ลดลง รอ้ ยละ 0.76
ง. ลดลง ร้อยละ 0.15

พิจารณาแผนภมู วิ งกลมตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคาถามขอ้ 9-10

มกราคม – 4 เมษายน 2563

6. ภูมิภาคใดบา้ งทม่ี ีอัตราการเสยี ชีวิตจากการเกิด ทีม่ า : www.prachachat.net
อุบัตเิ หตุบนท้องถนนลดลงจากปี 2013
ก. แอฟริกา, เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกา 9. ถา้ จานวนคนไทยทตี่ ิดเช้อื ในตา่ งจงั หวัดจากการสัมผสั
ข. แอฟรกิ า, ยโุ รป และแปซิฟกิ ตะวนั ตก ใกล้ชดิ ผปู้ ่วยยืนยนั มีทง้ั หมด 340 คน ดงั นัน้ จานวน
ค. เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก, อเมริกา และยุโรป คนไทยทต่ี ดิ เช้อื ในตา่ งจังหวดั มที ั้งหมดกคี่ น
ง. แปซฟิ ิกตะวันตก, อเมรกิ า และยโุ รป ก. 600 คน
ข. 770 คน
พิจารณากราฟเสน้ ตอ่ ไปน้ี แล้วตอบคาถามขอ้ 7-8 ค. 810 คน
ง. 1,000 คน
7. จากกราฟ ข้อใดถกู ตอ้ ง
ก. เพศหญงิ มีอัตราการสบู บุหร่ีมากกวา่ เพศชาย 10. จานวนคนไทยทตี่ ดิ เชื้อในตา่ งจังหวัดจากการประกอบ
ข. ปี พ.ศ. 2534-2557 ประชากรไทยอายุ 15 ปี อาชีพเสีย่ งมีมากกว่าหรือน้อยกว่าการสมั ผัสผ้เู ดนิ ทางจาก
ขนึ้ ไป เริม่ สูบบุหรีค่ รง้ั แรกในอายุท่ีตา่ ลง ต่างประเทศคิดเปน็ ก่ีเปอรเ์ ซ็นต์
ค. ปี พ.ศ. 2534-2557 แนวโน้มการสบู บุหรเี่ พิ่มขน้ึ ก. มากกว่า 12%
ง. ไมม่ ีข้อถูก ข. มากกวา่ 16%
ค. นอ้ ยกว่า 11%
ง. น้อยกว่า 2%

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั
กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของ
จานวน ผลท่เี กิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชวี้ ดั
ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจานวนตรรกยะและความสัมพนั ธ์ของจานวนตรรกยะ และใช้สมบัตขิ องจานวน
ตรรกยะในการแก้ปญั หาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชีวิตจริง
ค 1.1 ม.1/2 เขา้ ใจและใช้สมบตั ิของเลขยกกาลังที่มเี ลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็มบวกในการแกป้ ัญหา
คณติ ศาสตรแ์ ละปัญหาในชีวติ จรงิ
ค 1.1 ม.1/3 เขา้ ใจและประยกุ ตใ์ ชอ้ ตั ราสว่ น สัดส่วนและร้อยละ ในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์
และปญั หาในชวี ติ จรงิ
มาตรฐาน ค 1.3
ตัวชว้ี ดั ใชน้ ิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธห์ รือช่วยแกป้ ัญหาทีก่ าหนดให้
ค 1.3 ม.1/1
เขา้ ใจและใช้สมบตั ขิ องการเทา่ กนั และสมบัติของจานวน เพ่อื วิเคราะหแ์ ละแก้ปัญหา
ค 1.3 ม.1/2 โดยใชส้ มการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว
ค 1.3 ม.1/3 เขา้ ใจและใช้ความรเู้ กีย่ วกับกราฟในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์และปญั หาในชีวติ จริง
เขา้ ใจและใชค้ วามรู้เก่ยี วกบั ความสัมพนั ธเ์ ชงิ เส้นในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์และ
ปัญหาในชีวติ จรงิ

มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณติ สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง
รูปเรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ดั
ค 2.2 ม.1/1 ใชค้ วามรทู้ างเรขาคณิตและเคร่ืองมอื เช่น วงเวียนและสันตรง รวมทง้ั โปรแกรม
The Geometer’s Sketchpad หรือโปรแกรมเรขาคณิตพลวตั อืน่ ๆ เพื่อสรา้ ง
รูปเรขาคณติ ตลอดจนนาความรเู้ กีย่ วกบั การสรา้ งนไี้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการแก้ปัญหาใน
ชีวิตจรงิ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั (ต่อ)
กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1

มาตรฐาน ค 2.2 (ตอ่ )

ตัวชว้ี ดั เขา้ ใจและวเิ คราะห์รูปเรขาคณติ สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง
ค 2.2 ม.1/2 รูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้

เขา้ ใจและใช้ความร้ทู างเรขาคณติ ในการวเิ คราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างรปู เรขาคณติ
สองมติ ิและรูปเรขาคณิตสามมติ ิ

มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรทู้ างสถิติในการแก้ปัญหา

ตัวชวี้ ดั เขา้ ใจและใช้ความรทู้ างสถิตใิ นการนาเสนอขอ้ มลู และแปลความหมายข้อมลู รวมทง้ั
ค 3.1 ม.1/1 นาสถติ ไิ ปใช้ในชวี ิตจริงโดยใช้เทคโนโลยีทเี่ หมาะสม

ใบงานตามมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ัด
กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)


Click to View FlipBook Version