ISSN 1685 - 0041 การสำรวจภาวะการทำงานของประชากร จังหวัดนครราชสีมา ไตรมาสที่ 1 : มกราคม - มีนาคม 2566 สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
การสำรวจภาวะการทำงานของประชากร จังหวัดนครราชสีมา ไตรมาสที่ 1 : มกราคม – มีนาคม 2566 สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
หน่วยงานเจ้าของเรื่อง สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 3 อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000 โทรศัพท์ 0 4424 2985 โทรสาร 0 4425 6406 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ E-Mail : [email protected] หน่วยงานที่เผยแพร่ กองสถิติพยากรณ์ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทร. 0 2143 1323 ต่อ 17496 โทรสาร 0 2143 8132 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : [email protected] ปีที่จัดพิมพ์ 2566 จัดพิมพ์โดย สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา
คำนำ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้เริ่มจัดทำโครงการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 ในช่วงปี พ.ศ. 2514- 2526 ได้ทำการสำรวจปีละ 2 รอบ โดยรอบแรกเป็นการสำรวจนอกฤดูการเกษตร ระหว่างเดือนมกราคม ถึง เดือนมีนาคม รอบที่ 2 เป็นการสำรวจในฤดูการเกษตรระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง เดือน กันยายน และช่วงปี พ.ศ. 2527 - 2540 ทำการสำรวจเป็นปีละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 สำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ รอบที่ 2 สำรวจในเดือนพฤษภาคม รอบที่ 3 สำรวจในเดือนสิงหาคม และช่วงปี พ.ศ. 2541-2543 ทำการสำรวจ เพิ่มขึ้นอีก 1 รอบ เป็นรอบที่ 4 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลเป็นรายไตรมาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป การสำรวจโครงการนี้ได้จัดทำเป็นรายเดือนทุก ๆ เดือน ส่วนการเสนอผล การสำรวจนั้นในปี พ.ศ. 2544 นำเสนอผลทุกเดือนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนธันวาคม โดยเอาข้อมูลที่ได้ จากการสำรวจครั้งละ 3 เดือนมาประมวลผลและหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 เดือน) ซึ่งผลของการ สำรวจจะสะท้อนถึงค่าประมาณของเดือนที่อยู่กึ่งกลางคาบเวลาสำรวจนั้น ๆ และการเสนอผลตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 เป็นต้นไป จะนำเสนอปีละ 4 ฉบับเป็นรายไตรมาส สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลเป็นรายเดือน ในลักษณะเดิมยังสามารถ ติดต่อขอข้อมูลได้ที่สำนักงานสถิติจังหวัด สำหรับรายงานฉบับนี้ เป็นการเสนอผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรไตรมาสที่ 1 : มกราคม – มีนาคม 2566 ของจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ดำเนินการสำรวจระหว่างเดือน : มกราคม – มีนาคม 2566
ผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 2,051,129 คน ผู้อยู่ในกำลังแรงงานรวม 1,207,367 คน ผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน 843,762 คน ผู้มีงานทำ 1,182,534 คน ทำงานบ้าน 195,667 คน ผู้ว่างงาน 7,087 คน เรียนหนังสือ193,458 คน ผู้รอฤดูกาล 17,746 คน อื่น ๆ 91,944 คน เด็ก/ชรา/ป่วย/พิการจนไม่สามารถ ทำงานได้362,693 คน 34,759 130,835 509,128 386,462 165,263 22,267 116,859 387,084 481,658 174,074 592 0 180,000 360,000 540,000 สถานภาพการท างาน 2565 2566 หน่วย: คน บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรจังหวัด นครราชสีมา ไตรมาสที่ 1: มกราคม – มีนาคม 2566 1. โครงสร้างกำลังแรงงาน จากจำนวนประชากรผู้อยู่ในกำลังแรงงานรวม จำนวน 1,207,367คน ประกอบด้วยผู้มีงานทำ 1,182,534คน เป็นผู้ ว่างงาน 7,087คน เป็นผู้รอฤดูกาล 17,746คน ส่วนผู้ที่ไม่อยู่ใน กำลังแรงงาน 843,762คน (ทำงานบ้าน 195,667คน เรียนหนังสือ 193,458คน เด็ก/ชรา ฯ 362,693 คน และ อื่น ๆ 91,944คน) แผนผังการจำแนกประชากรตามสถานภาพแรงงาน ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2566 2. ภาวะการมีงานทำของประชากร 2.1 อุตสาหกรรม จำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น 1,182,534 คน เปรียบเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จำนวนผู้มีงานทำลดลง 43,913 คน หรือ ร้อยละ3.5 (จาก 1,226,447 คน เป็น 1,182,534คน) หาก พิจารณาตามประเภทอุตสาหกรรมที่สำคัญ พบว่า ภาคเกษตรกรรม มีจำนวนผู้มีงานทำลดลง 8,859 คน หรือ ร้อยละ 2.0 (จาก 428,046 คน เป็น 419,187 คน) ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมลดลง ประมาณ 35,054 คน หรือร้อยละ 4.3 (จาก 798,401 คน เป็น 763,347 คน) เช่น กิจกรรมการก่อสร้าง ลดลง 32,665 คน กิจกรรมการบริหาร ราชการ ลดลง 3,498 คน ในขณะที่มีผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น ในสาขา กิจกรรมการผลิต เพิ่มขึ้น 17,198 คน กิจกรรมการขายส่ง การขาย ปลีก เพิ่มขึ้น 16,524 คน และกิจกรรมที่พักแรม เพิ่มขึ้น 4,289 คน 2.2 สถานภาพการทำงาน เมื่อพิจารณาจากสถานภาพการทำงานของผู้ ทำงานช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนใหญ่พบว่า เป็นผู้ทำงานเป็น ลูกจ้างจำนวน 503,943 คน (ลูกจ้างเอกชน 387,084 คน และ ลูกจ้างรัฐบาล 116,859 คน) ลดลง 136,020 คน จากระยะเวลา เดียวกันของปี 2565 ซึ่งมีลูกจ้าง จำนวน 639,963 คน (ลูกจ้าง เอกชน 509,128 คน และ ลูกจ้างรัฐบาล 130,835 คน) รองลงมา เป็นผู้ทำงานส่วนตัวจำนวน 481,658 คน เพิ่มขึ้น 95,196 คน จาก ปี 2565 จำนวน 386,462 คน รองลงมา เป็นผู้ทำงานช่วย ธุรกิจครัวเรือนมีจำนวน 174,074 คน เพิ่มขึ้น 8,811 คน จาก ปี 2565 ซึ่งมีจำนวน 165,263 คน และผู้ที่มีสถานภาพการ ทำงานเป็นนายจ้าง มีจำนวน 22,267 คน ลดลง 12,492 คน จาก ปี 2565 ซึ่งมีจำนวน 34,759 คน การรวมกลุ่มเพิ่มขึ้น 592คน 3. ภาวะการว่างงานของประชากร สำหรับจำนวนผู้ว่างงาน มีจำนวนผู้ว่างงาน ทั้งสิ้น 7,087 คน คิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.6 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า จำนวนผู้ว่างงาน ลดลง6,376 คน ผู้ที่ทำงานน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน หรือเรียกว่า ผู้เสมือนว่างงาน มีจำนวนสูงถึง 92,524 คน การลดเวลา ทำงาน รายได้ที่ลดลงตามชั่วโมงการทำงาน กลุ่มคนที่ เสมือนว่างงานอาจจะเปลี่ยนสถานภาพเป็นผู้ว่างงานได้ แผนภูมิ 1 เปรียบเทียบผู้มีงานทำจำแนกตามอุตสาหกรรมที่สำคัญ ไตรมาสที่ 1/2565และ 1/2566จังหวัดนครราชสีมา แผนภูมิ2เปรียบเทียบจำนวนผู้มีงานทำจำแนกตามสถานภาพการทำงาน ไตรมาสที่1/2565และ 1/2566จังหวัดนครราชสีมา แผนภูมิ3 เปรียบเทียบจำนวนผู้ว่างงานรายไตรมาส พ.ศ.2562-2566 จังหวัดนครราชสีมา 428,046 194,797 192,858 63,827 88,847 55,443 36,041 33,800 34,312 29,876 419,187 211,995 209,382 68,116 56,182 51,945 33,311 20,238 38,622 28,677 0 200,000 400,000 เกษตรกรรม การผลิต ขายส่ง/ขายปลีก ท่ีพักแรม ก่อสร้าง การบริหาร ราชการ การศึกษา ขนส่งฯ งานด้านสุขภาพ บริการด้านอ่ืนๆ 1/2565 1/2566 ผู้มีงานท า (คน) อุตสาหกรรมที่ส าคัญ
สารบัญ หน้า คำนำ i บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ii สารบัญแผนภูมิ iv สารบัญตาราง v บทที่ 1 บทนำ 1 1. ความเป็นมาและวัตถุประสงค์ 2 2. คุ้มรวม 2 3. สัปดาห์แห่งการสำรวจ 2 4. คำอธิบายศัพท์ แนวคิด คำจำกัดความ 2 บทที่ 2 ผลการสำรวจที่สำคัญ 1. ลักษณะของกำลังแรงงาน 7 2. การมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน 7 3. ผู้มีงานทำ 8 3.1 อาชีพ 8 3.2 อุตสาหกรรม 9 3.3 สถานภาพการทำงาน 10 3.4 ชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ 10 4. การว่างงาน 11 5. การศึกษา 12 ภาคผนวก ภาคผนวก ก ระเบียบวิธี 14 ภาคผนวก ข ตารางสถิติ 15
iv สารบัญแผนภูมิ หน้า แผนผังการจำแนกประชากรตามสถานภาพแรงงานไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2566 ii แผนภูมิ 1 เปรียบเทียบผู้มีงานทำ จำแนกตามอุตสาหกรรมที่สำคัญ ไตรมาสที่ 1/2565 และ 1/2566 จังหวัดนครราชสีมา ii แผนภูมิ 2 เปรียบเทียบจำนวนผู้มีงานทำ จำแนกตามสถานภาพการทำงาน ไตรมาสที่ 1/2565 และ 1/2566 จังหวัดนครราชสีมา ii แผนภูมิ 3 เปรียบเทียบจำนวนผู้ว่างงานรายไตรมาส พ.ศ. 2562– 2566 จังหวัดนครราชสีมา ii แผนภูมิ 4 อัตราการว่างงาน จำแนกตามเพศ ไตรมาสที่ 1/2565และ 1/2566 จังหวัดนครราชสีมา 11 แผนภูมิ 5 อัตราการว่างงาน รายไตรมาส พ.ศ. 2562 – 2566 11 แผนภูมิ 6 อัตราการว่างงาน รายปี พ.ศ. 2554 – 2565 11 แผนภูมิ 7 จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามระดับการศึกษาที่สำเร็จไตรมาส 1/2566 จังหวัดนครราชสีมา 12
v สารบัญตาราง หน้า ตาราง ก. จำนวนประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามสถานภาพแรงงานและเพศ 7 ตาราง ข. จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามอาชีพและเพศ 8 ตาราง ค. จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามอุตสาหกรรมและเพศ 9 ตาราง ง. จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามสถานภาพการทำงานและเพศ 10 ตาราง จ. จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์และเพศ 11 ตาราง ฉ. จำนวนและอัตราการว่างงาน จำแนกตามเพศ 11
vi ตารางสถิติ หน้า ตารางที่ 1 จำนวนและร้อยละของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามสถานภาพแรงงานและเพศ 17 ตารางที่ 2 จำนวนและร้อยละของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามระดับการศึกษาที่สำเร็จและเพศ 18 ตารางที่ 3 จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามอาชีพและเพศ 19 ตารางที่ 4 จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามอุตสาหกรรมและเพศ 20 ตารางที่ 5 จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามสถานภาพการทำงานและเพศ 21 ตารางที่ 6 จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์และเพศ 22 ตารางที่ 7 จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามระดับการศึกษาที่สำเร็จและเพศ 23 ตารางที่ 8 จำนวนและร้อยละผู้เสมือนว่างงาน จำแนกตามภาคอุตสาหกรรม และเพศ 24
บทที่ 1 บทนำ 1. ความเป็นมาและวัตถุประสงค์ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจ ภาวะการทำงานของประชากรทั่วประเทศอย่าง ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2506 โดย ในช่วงแรกทำการสำรวจปีละ 2 รอบ และใน พ.ศ. 2527 ถึง พ.ศ. 2540 ได้ทำการสำรวจปีละ 3 รอบ โดยรอบที่ 1 ทำการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงหน้าแล้งนอกฤดูการเกษตร รอบที่ 2 สำรวจ ในเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่กำลังแรงงานใหม่ที่ เพิ่งสำเร็จการศึกษาเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน รอบที่ 3 สำรวจในเดือนสิงหาคม เป็นช่วงฤดูการเกษตร และ ต่อมาใน พ.ศ. 2541 เป็นต้นมา ได้เพิ่มการสำรวจอีก 1 รอบ รวมเป็น 4 รอบ โดยทำการสำรวจในเดือน พฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว ผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้เพื่อเป็นการนำเสนอ ข้อมูลที่สะท้อนถึงภาวะการมีงานทำ การว่างงานและ การประกอบกิจกรรมต่างๆ ของประชากรทั้งประเทศ เป็นรายไตรมาสและต่อเนื่องครบทุกช่วงเวลาของปี เนื่องจากความจำเป็นต้องการใช้ข้อมูล เพื่อใช้ ในการวางแผนและกำหนดนโยบายในระดับจังหวัด มีมากขึ้น สำนักงานสถิติแห่งชาติจึงได้กำหนดขนาด ตัวอย่างเพิ่มขึ้นโดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2537 ทั้งนี้เพื่อให้ สามารถนำเสนอข้อมูลในระดับจังหวัดได้ โดยเสนอ เฉพาะรอบการสำรวจของเดือนกุมภาพันธ์และเดือน สิงหาคมเท่านั้น การสำรวจรอบที่ 4 ในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 ซึ่งจัดทำเป็นครั้งแรกได้ เสนอผลในระดับจังหวัดด้วยและตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา ผลการสำรวจทั้ง 4 รอบได้เสนอผลใน ระดับจังหวัด หลังจากเกิดภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจกลางปี 2540 ความต้องการใช้ข้อมูลเพื่อการวางแผนและ กำหนดนโยบายด้านแรงงานมีมากขึ้นและเร่งด่วนขึ้น ในปี พ.ศ. 2544 จึงได้เริ่มดำเนินการสำรวจเป็น รายเดือนแล้วนำข้อมูล 3 เดือนรวมกันเพื่อเสนอ ข้อมูลเป็นรายไตรมาส โดยข้อมูลที่สำคัญสามารถ นำเสนอในระดับจังหวัด สำหรับข้อมูลของเดือนที่ตรง กับรอบการสำรวจเดิม คือข้อมูลเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม และสิงหาคม ได้จัดทำสรุปผลการสำรวจ เฉพาะข้อมูลที่สำคัญเพื่อสามารถเปรียบเทียบกับ ข้อมูลแต่ละรอบของปีที่ผ่านมาได้ และการสำรวจ ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2544 เป็นต้นมา สามารถ นำเสนอผลของการสำรวจเป็นรายเดือนทุกเดือนโดย สามารถเสนอผลในระดับภาคเท่านั้น เนื่องจาก ตัวอย่างไม่มากพอที่จะนำเสนอในระดับย่อยกว่านี้ และในขณะเดียวกันได้มีการปรับอายุผู้อยู่ใน กำลังแรงงานจาก 13 ปีขึ้นไปเป็น 15 ปีขึ้นไป เพื่อให้ สอดคล้องกับกฎหมายการใช้แรงงานเด็ก ปรับปรุง การจัดจำแนกประเภทของอาชีพ อุตสาหกรรม และ สถานภาพการทำงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ในปัจจุบันเพื่อให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลกันได้ ปรับเขตการปกครองจากเดิมเขตสุขาภิบาลถูก นำเสนอรวมเป็นนอกเขตเทศบาล มารวมเป็นในเขต เทศบาล เนื่องจากพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะ ของสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. 2542 วัตถุประสงค์ที่สำคัญของการสำรวจภาวะ การทำงานของประชากรเพื่อประมาณจำนวนและ ลักษณะของกำลังแรงงานภายในประเทศและใน จังหวัดต่าง ๆ ในแต่ละไตรมาสของข้อมูลสถิติที่ได้ จากการสำรวจ 1. จำนวนประชากรในวัยทำงาน (อายุ 15 ปี ขึ้นไป) และจำนวนประชากรนอกวัยทำงานจำแนก ตามเพศ 2. จำนวนประชากรในวัยทำงาน จำแนก ตามสถานภาพแรงงาน อายุ เพศ สถานภาพสมรส การศึกษาที่สำเร็จ
2 3. จำนวนผู้มีงานทำ จำแนกตามลักษณะที่ น่าสนใจ เช่น อายุ เพศ การศึกษาที่สำเร็จ อาชีพ อุตสาหกรรม สถานภาพการทำงาน ชั่วโมงทำงาน ค่าจ้าง เงินเดือน และผลประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้รับจาก การทำงาน 4. จำนวนผู้ว่างงาน จำแนกตามลักษณะ บางประการที่น่าสนใจ เช่น ระยะเวลาในการหางานทำ งานที่ทำครั้งสุดท้าย สาเหตุการว่างงาน เป็นต้น 2. คุ้มรวม ประชากรที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนส่วนบุคคล และครัวเรือนกลุ่มบุคคลประเภทคนงาน 3. สัปดาห์แห่งการสำรวจ หมายถึง ระยะเวลา 7 วัน นับจากวันก่อน วันสัมภาษณ์ย้อนหลังไป 7 วัน เช่น วันสัมภาษณ์คือ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 “ ระหว่าง 7 วันก่อนวัน สัมภาษณ์ ” คือ ระหว่างวันที่ 2 ถึง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 4. คำอธิบายศัพท์/แนวคิด/คำจำกัดความ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ปรับปรุงแนวคิด และคำนิยามที่ใช้ในการสำรวจภาวะการทำงาน ของประชากรหลายครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงทางสังคมและ เศรษฐกิจของประเทศตลอดจนความต้องการของ ผู้ใช้ข้อมูล และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) กับองค์การ สหประชาชาติ (UN) แนวคิดและคำนิยามที่ใช้ ในการสำรวจไตรมาสนี้ ได้เริ่มใช้มาตั้งแต่รอบที่ 1 พ.ศ. 2526 มีการปรับปรุงบ้างตามลำดับ และตั้งแต่ ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2544 ได้กำหนดอายุขั้นต่ำของ ประชากรวัยทำงานเป็น 15 ปี คำนิยามที่สำคัญ ๆ ที่ใช้ในการสำรวจ มีดังนี้ ผู้มีงานทำ ผู้มีงานทำ หมายถึง บุคคลที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป และในสัปดาห์แห่งการสำรวจมีลักษณะอย่างหนึ่ง อย่างใด ดังต่อไปนี้ 1. ได้ทำงานตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป โดยได้รับ ค่าจ้าง เงินเดือน ผลกำไร เงินปันผลค่าตอบแทนที่มี ลักษณะอย่างอื่นสำหรับผลงานที่ทำ เป็นเงินสด หรือสิ่งของ 2. ไม่ได้ทำงาน หรือทำงานน้อยกว่า 1 ชั่วโมง แต่เป็นบุคคลที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (ซึ่งจะถือว่าเป็น ผู้ที่ปกติมีงานประจำ) 2.1 ยังได้รับค่าตอบแทน ค่าจ้าง หรือ ผลประโยชน์อื่น ๆ หรือผลกำไรจากงานหรือธุรกิจ ในระหว่างที่ไม่ได้ทำงาน 2.2 ไม่ได้รับค่าตอบแทน ค่าจ้าง หรือ ผลประโยชน์อื่น ๆ หรือผลกำไรจากงานหรือธุรกิจ ในระหว่างที่ไม่ได้ทำงาน แต่ยังมีงานหรือธุรกิจ ที่จะกลับไปทำ 3. ทำงานอย่างน้อย 1 ชั่วโมง โดยไม่ได้รับ ค่าจ้างในวิสาหกิจหรือไร่นาเกษตรของหัวหน้า ครัวเรือนหรือของสมาชิกในครัวเรือน ผู้ว่างงาน ผู้ว่างงาน หมายถึง บุคคลที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป และในสัปดาห์แห่งการสำรวจมีลักษณะอย่างหนึ่ง อย่างใดดังต่อไปนี้ 1. ไม่ได้ทำงานและไม่มีงานประจำ แต่ได้ หางาน สมัครงานหรือรอการบรรจุ ในระหว่าง 30 วันก่อนวันสัมภาษณ์
3 2. ไม่ได้ทำงานและไม่มีงานประจำ และไม่ได้ หางานทำในระหว่าง 30วันก่อนวันสัมภาษณ์แต่พร้อม ที่จะทำงานในสัปดาห์แห่งการสำรวจ กำลังแรงงานปัจจุบัน กำลังแรงงานปัจจุบัน หมายถึง บุคคลที่มี อายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งในสัปดาห์แห่งการสำรวจมี งานทำหรือว่างงาน ตามคำนิยามที่ได้ระบุข้างต้น กำลังแรงงานที่รอฤดูกาล กำลังแรงงานที่รอฤดูกาล หมายถึง บุคคลที่มี อายุ 15 ปีขึ้นไป ในสัปดาห์แห่งการสำรวจเป็นผู้ไม่ เข้าข่ายคำนิยามของผู้มีงานทำ หรือผู้ว่างงาน แต่ เป็นผู้รอฤดูกาลที่เหมาะสมเพื่อที่จะทำงาน และเป็น บุคคลที่ตามปกติจะทำงานที่ไม่ได้รับสิ่งตอบแทน ในไร่นาเกษตร หรือธุรกิจซึ่งทำกิจกรรมตามฤดูกาล โดยมีหัวหน้าครัวเรือน หรือสมาชิกคนอื่น ๆ ใน ครัวเรือนเป็นเจ้าของหรือผู้ดำเนินการ กำลังแรงงานรวม กำลังแรงงานรวม หมายถึง บุคคลทุกคนที่ มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ในสัปดาห์แห่งการสำรวจเป็น ผู้อยู่ในกำลังแรงงานปัจจุบัน หรือเป็นผู้ถูกจัดจำแนก อยู่ในประเภทกำลังแรงงานที่รอฤดูกาลตามคำนิยาม ที่ได้ระบุข้างต้น ผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน ผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน หมายถึง บุคคลที่ ไม่เข้าข่ายคำนิยามของผู้อยู่ในกำลังแรงงานใน สัปดาห์แห่งการสำรวจ คือ บุคคลซึ่งในสัปดาห์แห่งการสำรวจมีอายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ไม่ได้ทำงาน และไม่พร้อมที่จะทำงาน เนื่องจากเป็นผู้ที่ 1. ทำงานบ้าน 2. เรียนหนังสือ 3. ยังเด็กเกินไป หรือชรามาก 4. ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากพิการ ทางร่างกายหรือจิตใจ หรือเจ็บป่วยเรื้อรัง 5. ไม่สมัครใจทำงาน 6. ทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ผลกำไร ส่วนแบ่ง หรือสิ่งตอบแทนอื่น ๆ ให้แก่บุคคลซึ่งมิได้ เป็นสมาชิกในครัวเรือนเดียวกัน 7. ทำงานให้แก่องค์การหรือสถาบัน การกุศลต่างๆ โดยไม่ได้รับค่าจ้างผลกำไรส่วนแบ่ง หรือสิ่งตอบแทนอย่างใด 8. ไม่พร้อมที่จะทำงาน เนื่องจากเหตุผลอื่น งาน งาน หมายถึง กิจการที่ทำที่มีลักษณ ะ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ 1. กิจการที่ทำแล้วได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน หรือสิ่งของ ค่าตอบแทนที่เป็นเงิน อาจจ่ายเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน หรือรายชิ้น 2. กิจการที่ทำแล้วได้ผลกำไรหรือหวังที่จะ ได้รับผลกำไร หรือส่วนแบ่งเป็นการตอบแทน 3. กิจการที่ทำให้กับธุรกิจของสมาชิกใน ครัวเรือน โดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือผลกำไรตอบแทน อย่างใดซึ่งสมาชิกในครัวเรือนที่ประกอบธุรกิจนั้นจะ มีสถานภาพการทำงาน เป็นประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือนายจ้าง อาชีพ อาชีพ หมายถึง ประเภทหรือชนิดของงานที่ บุคคลนั้นทำอยู่ บุคคลส่วนมากมีอาชีพเดียว สำหรับ บุคคลที่ในสัปดาห์แห่งการสำรวจมีอาชีพมากกว่า 1 อาชีพให้นับอาชีพที่มีชั่วโมงทำงานมากที่สุด ถ้าชั่วโมงทำงานแต่ละอาชีพเท่ากันให้นับอาชีพที่มี รายได้มากกว่า ถ้าชั่วโมงทำงานและรายได้ที่ได้รับ จากแต่ละอาชีพเท่ากัน ให้นับอาชีพที่ผู้ตอบสัมภาษณ์ พอใจมากที่สุด ถ้าผู้ตอบสัมภาษณ์ตอบไม่ได้ให้นับ อาชีพที่ได้ทำมานานที่สุด การจัดจำแนกประเภท
4 อาชีพ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2554 ปรับใช้ตาม International Standard Classification of Occupation, 2008 (ISCO – 08)ขององค์การแรงงาน ระหว่างประเทศ (ILO) ก่อน พ.ศ. 2553 การจัดประเภทอาชีพจำแนก ตามความเหมาะสมกับลักษณะอาชีพของประเทศไทย โดยอ้างอิง International Standard Classification of Occupation, 1988 (ISCO –88) อุตสาหกรรม อุตสาหกรรม หมายถึง ประเภทของกิจกรรม ทางเศรษฐกิจที่ได้ดำเนินการโดยสถานประกอบการ ที่บุคคลนั้นกำลังทำงานอยู่ หรือประเภทของธุรกิจ ซึ่งบุคคลนั้นได้ดำเนินการอยู่ในสัปดาห์แห่งการ สำรวจ ถ้าบุคคลหนึ่งมีอาชีพมากกว่าหนึ่งอย่าง ให้บันทึกอุตสาหกรรมตามอาชีพที่บันทึกไว้ การจัด จำแนกประเภทอุตสาหกรรม ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2554 ปรับใช้ตาม Thailand Standard Industrial Classification, (TSIC 2009) ก่อน พ.ศ. 2553 การจัดประเภทอุตสาหกรรม จำแนกตามความเหมาะสมกับลักษณะอุตสาหกรรม ของประเทศไทย โดยอ้างอิง International Standard Industrial Classification of All Economic Activities, (ISIC : 1989) สถานภาพการทำงาน สถานภาพการทำงาน หมายถึง สถานะของ บุคคลที่ทำงานในสถานที่ที่ทำงานหรือธุรกิจ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ 1. นายจ้าง หมายถึง ผู้ประกอบธุรกิจของ ตนเองเพื่อหวังผลกำไร หรือส่วนแบ่ง และได้จ้าง บุคคลอื่นมาทำงานในธุรกิจในฐานะลูกจ้าง 2. ประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง หมายถึง ผู้ประกอบธุรกิจของตนเองโดยลำพังผู้เดียว หรืออาจมีบุคคลอื่นมาร่วมกิจการด้วยเพื่อหวัง ผลกำไร หรือส่วนแบ่งและไม่ได้จ้างลูกจ้างแต่ อาจมีสมาชิกในครัวเรือนหรือผู้ฝึกงานมาช่วย ทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนอย่างอื่น สำหรับงานที่ทำ 3. ช่วยธุรกิจในครัวเรือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง หมายถึง ผู้ที่ช่วยทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างในไร่นา เกษตร หรือในธุรกิจของสมาชิกในครัวเรือน 4. ลูกจ้าง หมายถึง ผู้ที่ทำงานโดยได้รับ ค่าจ้างเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน รายชิ้น หรือเหมาจ่าย ค่าตอบแทนที่ได้รับจากการทำงาน อาจจะเป็นเงิน หรือสิ่งของ ลูกจ้างแบ่งออกเป็น 3 ประเภท 4.1 ลูกจ้างรัฐบาล หมายถึง ข้าราชการ พนักงานเทศบาล พนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตลอดจนลูกจ้างประจำ และชั่วคราวของรัฐบาล 4.2 ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ หมายถึง ผู้ที่ ทำงานให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 4.3 ลูกจ้างเอกชน หมายถึง ผู้ที่ทำงาน ให้กับเอกชน หรือธุรกิจของเอกชน รวมทั้งผู้ที่รับจ้าง ทำงานบ้าน 5. การรวมกลุ่ม หมายถึง กลุ่มคนที่มา ร่วมกันทำงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพึ่งตนเอง และ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สมาชิกแต่ละคนมีความ เท่าเทียมกันในการกำหนดการทำงานทุกขั้นตอน ไม่ว่าเป็นการลงทุน การขาย งานอื่นๆ ของกิจการที่ ทำตลอดจนการแบ่งรายได้ให้แก่สมาชิกตามที่ตกลง กัน (การรวมกลุ่มดังกล่าวอาจจดทะเบียนจัดตั้งในรูป ของสหกรณ์หรือไม่ก็ได้) การจัดจำแนกประเภทสถานภาพการทำงาน ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2544 ใช้ตาม International Classification of Status in Employment, 1993 (ICSE – 93) ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
5 มีสถานภาพการทำงานเพิ่มขึ้นอีก 1 กลุ่มคือ การรวมกลุ่ม (Member of Producers’ Cooperative) ชั่วโมงทำงาน ชั่วโมงทำงาน หมายถึง จำนวนชั่วโมงทำงาน จริงทั้งหมด ในสัปดาห์แห่งการสำรวจ สำหรับบุคคล ที่มีอาชีพมากกว่าหนึ่งอาชีพ ชั่วโมงทำงาน หมายถึง ยอดรวมของชั่วโมงทำงานทุกอาชีพ สำหรับผู้ที่มีงาน ประจำซึ่งไม่ได้ทำงานในสัปดาห์แห่งการสำรวจให้ บันทึกจำนวนชั่วโมงเป็น 0 ชั่วโมง การสำรวจก่อนปี พ.ศ. 2544 ผู้ที่มีงานประจำ ซึ่งไม่ได้ทำงานในสัปดาห์แห่งการสำรวจ ให้นับ จำนวนชั่วโมงทำงานปกติต่อสัปดาห์เป็นชั่วโมง ทำงาน รายได้ของลูกจ้าง รายได้ของลูกจ้าง หมายถึง รายได้ของผู้ที่มี สถานภาพการทำงานเป็น ลูกจ้าง ที่ได้รับมาจากการ ทำงานของอาชีพที่ทำในสัปดาห์แห่งการสำรวจ ซึ่ง ประกอบด้วยค่าจ้างและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นๆ สำหรับลูกจ้าง ระยะเวลาของการหางานทำ ระยะเวลาของการหางานทำ หมายถึง ระยะเวลาที่ผู้ว่างงานได้ออกหางานทำ ให้นับตั้งแต่ วันที่เริ่มหางานทำจนถึงวันสุดท้ายก่อนวันสัมภาษณ์ คาบการแจงนับ คาบการแจงนับ หมายถึง ระยะเวลาที่ พนักงานออกไปสัมภาษณ์บุคคลในครัวเรือนตัวอย่าง ซึ่งโดยปกติเป็นวันที่ 1 - 12 ของทุกเดือน ประเภทของครัวเรือนที่อยู่ในขอบข่ายการสำรวจ ครัวเรือนที่อยู่ในขอบข่ายการสำรวจแบ่งได้ เป็น 2 ประเภท คือ 1. ครัวเรือนส่วนบุคคล ประกอบด้วย ครัวเรือนหนึ่งคน คือ บุคคลเดียวซึ่งหุงหาอาหารและ จัดหาสิ่งอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การครองชีพโดย ไม่เกี่ยวกับผู้ใดซึ่งอาจพำนักอยู่ในเคหสถานเดียวกัน หรือครัวเรือนที่มีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปร่วมกัน จัดหา และใช้สิ่งอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การ ครองชีพร่วมกัน ครัวเรือนส่วนบุคคลอาจอาศัยอยู่ใน เคหะที่เป็นเรือนไม้ ตึกแถว ห้องแถว ห้องชุด เรือแพ เป็นต้น 2. ครัวเรือนกลุ่มบุคคล 2.1 ประเภทคนงาน ได้แก่ ครัวเรือนซึ่ง ประกอบด้วย บุคคลหลายคนอยู่กินร่วมกันในที่อยู่ แห่งหนึ่ง เช่น ที่พักคนงาน เป็นต้น 2.2 ประเภ ทสถาบัน ซึ่งห มายถึง บุคคลหลายคนอยู่ร่วมกันในสถานที่อยู่แห่งหนึ่ง เช่น สถานที่กักกัน วัด กรมทหาร โดยไม่แยกที่อยู่เป็น สัดส่วนเฉพาะคนหรือเฉพาะครัวเรือน นักเรียนที่อยู่ ประจำที่โรงเรียนหรือในหอพักนักเรียน เป็นต้น ไม่อยู่ในคุ้มรวมของการสำรวจนี้ ระดับการศึกษาที่สำเร็จ ได้จำแนกการศึกษาตามระดับการศึกษา ที่สำเร็จดังนี้ 1. ไม่มีการศึกษา หมายถึง บุคคลที่ไม่เคย เข้าศึกษาในโรงเรียน หรือไม่เคยได้รับการศึกษา 2. ต่ำกว่าประถมศึกษา หมายถึง บุคคลที่ สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าชั้นประถมปีที่ 6 หรือชั้นประถม ปีที่ 7 หรือชั้น ม.3 เดิม 3. สำเร็จประถมศึกษา หมายถึง บุคคลที่ สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 6 หรือชั้นประถม ปีที่ 7 หรือชั้น ม.3 เดิมขึ้นไป แต่ไม่สำเร็จระดับการศึกษา ที่สูงกว่า
6 4. สำเร็จมัธยมศึกษาตอนต้น หมายถึง บุคคลที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ชั้น ม.3 ม.ศ.3 หรือ ม.6 เดิมขึ้นไป แต่ไม่สำเร็จระดับการศึกษาที่สูงกว่า 5. สำเร็จมัธยมศึกษาตอนปลาย 5.1 สายสามัญ หมายถึง บุคคลที่สำเร็จ การศึกษาประเภทสามัญศึกษาตั้งแต่ชั้น ม.6 ม.ศ.5 หรือ ม.8 เดิมขึ้นไป แต่ไม่สำเร็จระดับการศึกษาที่สูงกว่า 5.2 อาชีวศึกษา หมายถึง บุคคลที่ สำเร็จการศึกษาประเภทอาชีวศึกษาหรือวิชาชีพที่ เรียนต่อจากระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่า โดยมีหลักสูตรไม่เกิน 3 ปี และไม่สำเร็จระดับ การศึกษาที่สูงกว่า 5.3 วิชาการศึกษา หมายถึง บุคคลที่ สำเร็จการศึกษาประเภทวิชาการศึกษา (การฝึกหัด ครู) ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ขึ้นไปแต่ไม่สำเร็จระดับการศึกษาที่สูงกว่า 6. อุดมศึกษา 6.1 สายวิชาการ หมายถึง บุคคลที่ สำเร็จการศึกษาประเภทสามัญศึกษาหรือสายวิชาการ โดยได้รับวุฒิบัตรระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี โท เอก 6.2 สายวิชาชีพ หมายถึง บุคคลที่ สำเร็จการศึกษาประเภทอาชีวศึกษา หรือสาย วิชาชีพที่ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ เทียบเท่าอนุปริญญา ปริญญาตรี 6.3 สายวิชาการศึกษา หมายถึง บุคคลที่สำเร็จการศึกษาประเภทวิชาการศึกษา และ ได้รับประกาศนียบัตรระดับอนุปริญญ าและ ปริญญาตรี 7. อาชีวศึกษาระยะสั้น หมายถึง บุคคลที่ สำเร็จการศึกษาหรือการฝึกอบรมประเภท อาชีวศึกษา ที่มีหลักสูตรไม่เกิน 1 ปี และได้รับประกาศนียบัตร หรือใบรับรองเมื่อสำเร็จการศึกษา พื้นความรู้ของ ผู้เข้าเรียนได้กำหนดให้แตกต่างตามวิชาเฉพาะแต่ละ อย่างที่เรียน แต่อย่างต่ำต้องจบประถมปีที่ 4 หรือ เทียบเท่า 8. อื่น ๆ หมายถึง บุคคลที่สำเร็จการศึกษา ที่ไม่สามารถเทียบชั้นได้
บทที่ 2 สรุปผลการสำรวจ ตาราง ก จำนวนประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามสถานภาพแรงงาน และเพศ สถานภาพแรงงาน จำนวน รวม ชาย หญิง ผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 2,051,129 973,611 1,077,518 1. ผู้อยู่ในกำลังแรงงานรวม 1,207,367 662,716 544,651 1.1 กำลังแรงงานปัจจุบัน 1,189,621 652,996 536,625 1.1.1 ผู้มีงานทำ 1,182,534 649,378 533,156 1.1.2 ผู้ว่างงาน 7,087 3,618 3,469 1.2 ผู้ที่รอฤดูกาล 17,746 9,720 8,026 2. ผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน 843,762 310,895 532,867 2.1 ทำงานบ้าน 195,667 2,122 193,545 2.2 เรียนหนังสือ 193,458 93,676 99,782 2.3 ยังเด็ก/ชราป่วย/พิการจน ไม่สามารถทำงานได้ ทำงานได้ 362,693 154,060 208,633 2.4 อื่นๆ 91,944 61,037 30,907 อัตราการว่างงาน 0.6 0.5 0.6 หมายเหตุ : อัตราการว่างงาน = จำนวนผู้ว่างงาน x 100 จำนวนผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 1. ลักษณะของกำลังแรงงาน ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร ของจังหวัดนครราชสีมา ไตรมาสที่ 1: มกราคม – มีนาคม พ.ศ. 2566 พบว่า จังหวัดนครราชสีมามีจำนวนประชากร ผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 2,051,129 คน โดยเป็นผู้อยู่ ในกำลังแรงงานรวมจำนวน 1,207,367 คน และเป็นผู้ที่ไม่ อยู่ในกำลังแรงงาน 843,762 คน 2. การมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน สำหรับกลุ่มผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน ทั้งหมด 1,207,367 คน นั้นแยกได้เป็น 1. ผู้มีงานทำ จำนวน 1,182,534 คน หรือ ร้อยละ 97.9 ของผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน รวม 2. ผู้ว่างงาน ซึ่งหมายถึง ผู้ไม่มีงานทำและ พร้อมที่จะทำงาน มีจำนวน 7,087 คน คิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.6ของ ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานรวม 3. ผู้ที่รอฤดูกาล หมายถึง ผู้ที่ไม่ได้ทำงาน และไม่พร้อมที่จะทำงาน มีจำนวน 17,746 คน หรือร้อยละ 1.5 ของผู้ที่อยู่ใน กำลังแรงงานรวม
3. ผู้มีงานทำ 3.1 อาชีพ จากการสำรวจพบว่า จังหวัดนครราชสีมา มีประชากรที่มีงานทำ จำนวน 1,182,534 คน คือ ชาย 649,378 คน และหญิง 533,156 คน หรือร้อยละ 54.9 และ 45.1 ของผู้มีงานทำตามลำดับ สำหรับอาชีพของผู้มี งานทำจากผลการสำรวจ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้ปฏิบัติงาน ที่มีฝีมือในด้านการเกษตร และการประมง จำนวน 346,732 คน หรือ ร้อยละ 29.3 ของผู้มีงานทำโดยชาย มีสัดส่วนมากกว่าหญิง คือ ชาย ร้อยละ 32.8 และหญิง ร้อยละ 25.1 รองลงมาเป็น พนักงานบริการและพนักงาน ในร้านค้าและตลาด มีจำนวน 203,122 คน หรือร้อยละ 17.2 โดยหญิงมีสัดส่วนมากกว่าชายอย่างชัดเจน คือ หญิง ร้อยละ 24.2 และ ชาย ร้อยละ 11.4 ของผู้มีงานทำ ตามลำดับ ส่วนผู้ประกอบอาชีพขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ในด้าน การขายและการให้บริการ ซึ่งมีจำนวน 163,151 คน หรือ ร้อยละ 13.8 โดยชายมีสัดส่วนสูงกว่าหญิง คือ ชาย ร้อยละ 15.2 และ หญิง ร้อยละ 12.2 ผู้ปฏิบัติการ โรงงานและเครื่องจักรและผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ จำนวน 130,204 คน หรือ ร้อยละ 11.0 โดยชายมี สัดส่วนสูงกว่าหญิงคือ ชาย ร้อยละ 12.1และ หญิง ร้อยละ9.6ผู้ปฏิบัติงานด้านความสามารถทางฝีมือและ ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 120,031 คน หรือ ร้อยละ 10.1 โดยชายมีสัดส่วนสูงกว่าหญิง คือ ชาย ร้อยละ 13.7 และ หญิง ร้อยละ 5.8 นอกนั้นเป็น ผู้ประกอบอาชีพอื่น ๆ เช่น ผู้บัญญัติกฎหมาย ข้าราชการระดับอาวุโสและผู้จัดการ ผู้ประกอบวิชาชีพ ด้านต่าง ๆผู้ประกอบวิชาชีพด้านเทคนิคสาขาต่าง ๆ และเสมียน ซึ่งมีสัดส่วนไม่มากนัก คือ อยู่ระหว่าง ร้อยละ 3.1–6.2ของผู้มีงานทำทั้งหมด ตาราง ข จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามอาชีพและเพศ อาชีพ รวม ชาย หญิง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ยอดรวม 1,182,534 100.0 649,378 100.0 533,156 100.0 1. ผู้บัญญัติกฎหมายข้าราชการระดับอาวุโสและผู้จัดการ 46,436 4.0 32,890 5.1 13,546 2.5 2. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่าง ๆ 73,131 6.2 22,004 3.4 51,127 9.6 3. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านเทคนิคสาขาต่าง ๆ 36,666 3.1 22,882 3.5 13,784 2.6 และอาชีพที่เกี่ยวข้อง 4. เสมียน 63,061 5.3 18,480 2.8 44,581 8.4 5. พนักงานบริการและพนักงานในร้านค้า และตลาด 203,122 17.2 73,864 11.4 129,258 24.2 6. ผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตร และการประมง 346,732 29.3 212,847 32.8 133,885 25.1 7. ผู้ปฏิบัติงานด้านความสามารถทางฝีมือและธุรกิจ 120,031 10.1 89,098 13.7 30,933 5.8 อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 8. ผู้ปฏิบัติการโรงงานและเครื่องจักร 130,204 11.0 78,910 12.1 51,294 9.6 และผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ 9. อาชีพขั้นพื้นฐานต่าง ๆในด้านการขายและการให้บริการ 163,151 13.8 98,403 15.2 64,748 12.2 10. คนงานซึ่งมิได้จำแนกไว้ในหมวดอื่น - - - - - - 8
3.2 อุตสาหกรรม เมื่อพิจารณาถึงประเภทอุตสาหกรรมหรือ ลักษณะของการประกอบกิจกรรมของผู้มีงานทำในเชิง เศรษฐกิจ พบว่า ผู้ที่มีงานทำในสาขาเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมง มีจำนวน 419,187 คน หรือร้อยละ 35.4 ของผู้มีงานทำ โดยชายมีสัดส่วนสูงกว่าหญิง คือ ชาย ร้อยละ 40.2และหญิงร้อยละ29.7 รองลงมาคือผู้ทำงาน ด้านการผลิต มีจำนวน 211,995 คน หรือร้อยละ 17.9 โดยหญิงมีสัดส่วนสูงกว่าชาย คือ หญิง ร้อยละ 20.3และ ชายร้อยละ 15.9ส่วนผู้ทำงานในสาขาการขายส่ง การขาย ปลีกฯ ซึ่งมีจำนวน 209,382 คน หรือ ร้อยละ 17.7 โดย หญิงมีสัดส่วนสูงกว่าชายคือ หญิง ร้อยละ19.3 และชาย ร้อยละ16.4 ส่วนผู้ทำงานที่พักแรมและบริการด้านอาหาร มีจำนวน 68,116คน หรือร้อยละ5.8 โดยหญิงมีสัดส่วน สูงกว่าชาย ชัดเจน คือ หญิง ร้อยละ 7.8 และ ชาย ร้อยละ 4.1 เป็นผู้ทำงานด้านการก่อสร้าง 56,182 คน หรือ ร้อยละ 4.7 โดยชายมีสัดส่วน สูงกว่าหญิง คือ ชาย ร้อยละ 7.0 และหญิง ร้อยละ 2.1 เป็นผู้ทำงานการบริหารราชการ ป้องกันประเทศ การประกันสังคม 51,945 คน หรือ ร้อยละ 4.4 เป็นผู้ทำงานกิจกรรมด้านสุขภาพ 38,622 คน หรือ ร้อยละ 3.3 เป็นผู้ทำงาน การศึกษา 33,311 คน หรือ ร้อยละ 2.8 เป็นผู้ ทำงานบริการ ด้านอื่น ๆ 28,677 คน หรือ ร้อยละ 2.4 เป็นผู้ทำงานขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 20,238 คน หรือ ร้อยละ 1.7 ส่วนที่เหลือกระจาย อยู่ในอุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ ซึ่งมีไม่มากนัก ตาราง ค จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามอุตสาหกรรมและเพศ อุตสาหกรรม รวม ชาย หญิง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ยอดรวม 1,182,534 100.0 649,378 100.0 533,156 100.0 1. เกษตรกรรม การป่าไม้และการประมง 419,187 35.4 260,994 40.2 158,193 29.7 2. การทำเหมืองแร่ และเหมืองหิน - - - - - - 3. การผลิต 211,995 17.9 103,499 15.9 108,496 20.3 4. การไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำและไอน้ำ 2,369 0.2 2,060 0.3 309 0.1 5. การจัดหาน้ำ การจัดการและการบำบัดน้ำเสีย ของเสียและสิ่งปฏิกูล 3,395 0.3 2,126 0.3 1,269 0.2 6. การก่อสร้าง 56,182 4.7 45,153 7.0 11,029 2.1 7. การขายส่ง และการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ 209,382 17.7 106,373 16.4 103,009 19.3 8. การขนส่ง และสถานที่เก็บสินค้า 20,238 1.7 19,862 3.1 376 0.1 9. ที่พักแรม และบริการด้านอาหาร 68,116 5.8 26,707 4.1 41,409 7.8 10. ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร 1,498 0.1 - - 1,498 0.3 11. กิจการทางการเงินและการประกันภัย 10,417 0.9 3,198 0.5 7,219 1.4 12. กิจการอสังหาริมทรัพย์ 1,031 0.1 320 0.0 711 0.1 13. กิจกรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และเทคนิค 9,318 0.8 3,836 0.6 5,482 1.0 14. กิจกรรมการบริหาร และการบริการสนับสนุน 8,983 0.8 6,602 1.0 2,381 0.4 15. การบริหารราชการ ป้องกันประเทศ การประกันสังคม 51,945 4.4 33,447 5.2 18,498 3.5 16. การศึกษา 33,311 2.8 9,810 1.5 23,501 4.4 17. กิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 38,622 3.3 7,592 1.2 31,030 5.8 18. ศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ 3,267 0.3 2,545 0.4 722 0.1 19. กิจกรรมบริการ ด้านอื่นๆ 28,677 2.4 15,254 2.3 13,423 2.5 20. กิจกรรมการจ้างงานในครัวเรือนส่วนบุคคล การผลิตสินค้าและ บริการที่ทำขึ้นเองเพื่อใช้ในครัวเรือน 4,601 0.4 - - 4,601 0.9 21. กิจกรรมขององค์การระหว่างประเทศ - - - - - - 22. ไม่ทราบ - - - - - - - 0.0 น้อยกว่าร้อยละ 0.1 9
3.3 สถานภาพการทำงาน ในจำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น 1,182,534 คน นั้น เมื่อพิจารณาถึงสถานภาพการทำงาน ผลการสำรวจครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ทำงานส่วนตัว จำนวน 481,658 คน หรือร้อยละ 40.7 โดยชายมีสัดส่วนมากกว่าหญิง คือร้อยละ 46.3 และ หญิง ร้อยละ 34.0 รองลงมาเป็น ผู้ที่ทำงาน ลูกจ้างเอกชน ซึ่งมีจำนวน 387,084 คน หรือ ร้อยละ 32.7 โดยมีชายสัดส่วนเท่ากับหญิง คือ ร้อยละ 32.7 รองลงมา คือผู้มีสถานภาพการทำงานช่วยธุรกิจครัวเรือน จำนวน 174,074 คน หรือ ร้อยละ 14.7 โดยหญิงมี สัดส่วนสูงกว่าชาย คือ หญิง ร้อยละ 20.2 และชาย ร้อยละ 10.2 นอกนั้นทำงานเป็นลูกจ้างรัฐบาล จำนวน 116,859 คน ร้อยละ 9.9 และผู้ที่มี สถานภาพการทำงาน เป็นนายจ้าง มีจำนวน 22,267 คน หรือ ร้อยละ 1.9 และผู้ที่มีสถานภาพ การทำงาน เป็นการรวมกลุ่มจำนวน 592 คน หรือ ร้อยละ 0.1 ตาราง ง จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามสถานภาพการทำงานและเพศ สถานภาพการทำงาน รวม ชาย หญิง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ยอดรวม 1,182,534 100.0 649,378 100.0 533,156 100.0 1. นายจ้าง 22,267 1.9 17,386 2.7 4,881 0.9 2. ลูกจ้างรัฐบาล 116,859 9.9 52,531 8.1 64,328 12.1 3. ลูกจ้างเอกชน 387,084 32.7 212,665 32.7 174,419 32.7 4. ทำงานส่วนตัว 481,658 40.7 300,357 46.3 181,301 34.0 5. ช่วยธุรกิจครัวเรือน 174,074 14.7 66,439 10.2 107,635 20.2 6. การรวมกลุ่ม 592 0.1 - - 592 0.1 3.4 ชั่วโมงการทำงานในสัปดาห์ ในจำนวนผู้มีงานทำ 1,182,534 คน ซึ่ง ประกอบด้วยผู้ที่ทำงานในสัปดาห์การสำรวจตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ขึ้นไป จำนวน 1,142,127 คน และผู้ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์การ สำรวจแต่มีงานประจำ (ชั่วโมงการทำงาน เป็น“0”) จำนวน 40,407 คน หรือ ร้อยละ 96.6 และ 3.4 ของผู้มีงานทำทั้งสิ้น ตามลำดับ จากการสำรวจพบว่า ผู้ที่ทำงานในสัปดาห์แห่งการ สำรวจสูงที่สุด เป็นผู้ทำงาน 40 – 49 ชั่วโมง มีจำนวน 540,141 คน หรือ ร้อยละ 45.7 โดยชายมีสัดส่วนเท่ากับ หญิง คือ ร้อยละ 45.7 รองลงมาเป็น ผู้ทำงานตั้งแต่ 50 ชั่วโมงขึ้นไป มีจำนวน 275,022 คน หรือร้อยละ 23.3 ซึ่งหญิงมีสัดส่วน สูงกว่าชายคือ หญิง ร้อยละ 23.3 และ ชาย ร้อยละ 23.2 รองลงมาเป็น ผู้ทำงานตั้งแต่ 35 – 39 ชั่วโมง มีจำนวน 123,790 คน หรือ ร้อยละ 10.5 ซึ่งชายมีสัดส่วนสูงกว่าหญิง คือ ชายร้อยละ 10.8 และ หญิง ร้อยละ 10.1 รองลงมาเป็น ผู้ทำงาน 20 – 29ชั่วโมง มีจำนวน 101,801 คน หรือร้อยละ 8.6 ซึ่งหญิงมีสัดส่วน สูงกว่าชาย คือ หญิง ร้อยละ 9.2 และชายร้อยละ 8.2 รองลงมาเป็นผู้ที่ทำงาน 30 - 34 ชั่วโมง มีจำนวน 74,903 คน หรือร้อยละ 6.3 โดยชายมีสัดส่วนสูงกว่าหญิง คือ ชาย ร้อยละ 6.4 และ หญิง ร้อยละ 6.2 ตามลำดับ ส่วนที่เหลือกระจาย อยู่ในชั่วโมงทำงานในสัปดาห์ละ 10 – 19 ชั่วโมง และ 1 - 9 ชั่วโมง ซึ่งมีไม่มากนัก 10
11 ตาราง จ จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตามชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ และเพศ ชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ รวม ชาย หญิง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ยอดรวม 1,182,534 100.00 649,378 100 533,156 100 1. 0 ชั่วโมง 1/ 40,407 3.4 23,608 3.6 16,799 3.1 2. 1 - 9 ชั่วโมง 2,257 0.2 1,275 0.2 982 0.2 3. 10 - 19 ชั่วโมง 24,213 2.0 12,269 1.9 11,944 2.2 4. 20 - 29 ชั่วโมง 101,801 8.6 52,955 8.2 48,846 9.2 5. 30 - 34 ชั่วโมง 74,903 6.3 41,818 6.4 33,085 6.2 6. 35 - 39 ชั่วโมง 123,790 10.5 70,181 10.8 53,609 10.1 7. 40 - 49 ชั่วโมง 540,141 45.7 296,656 45.7 243,485 45.7 8. 50 ชั่วโมงขึ้นไป 275,022 23.3 150,616 23.2 124,406 23.3 1/ ผู้ไม่ได้ทำงานในสัปดาห์การสำรวจ แต่มีงานประจำ 4. การว่างงาน ประชากรของจังหวัดนครราชสีมา มีจำนวน ผู้ที่ว่างงานทั้งสิ้น 7,087 คน เป็นชาย 3,618 คน และหญิง 3,469 คน หรือร้อยละ 51.1 และ 48.9 ของผู้ว่างงานตามลำดับ สำหรับอัตราการว่างงาน ของประชากร หมายถึง สัดส่วนของผู้ว่างงานต่อ จำนวนประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงานรวม พบว่า จังหวัดนครราชสีมา มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.6 โดยหญิงมีอัตราการว่างงานมากกว่าชายคือ หญิง ร้อยละ 0.6 และ ชาย ร้อยละ 0.5 ตาราง ฉ จำนวนและอัตราการว่างงาน จำแนกตามเพศ เพศ ผู้อยู่ในกำลัง แรงงาน ผู้ว่างงาน จำนวน อัตรา ยอดรวม 1,207,367 7,087 0.6 ชาย 662,716 3,618 0.5 หญิง 544,651 3,469 0.6 หมายเหตุ : อัตราการว่างงาน = ผู้ว่างงาน x 100 ผู้อยู่ในกำลังแรงงาน แผนภูมิ 4 อัตราการว่างงาน จำแนกตามเพศ ไตมาสที่ 1/2565 และ 1/2566จังหวัดนครราชสีมา แผนภูมิ 5 อัตราการว่างงาน รายไตรมาส พ.ศ. 2562 – 2566 แผนภูมิ 6 อัตราการว่างงาน รายปี 2554 – 2565
172,080 299,233 217,318 266,494 227,409 14.6 25.3 18.4 22.5 19.2 0.0 10.0 20.0 30.0 40.0 50.0 60.0 0 150,000 300,000 ผู้มีงานท า (คน) ร้อยละผู้มีงานท า 5. การศึกษา หากพิจารณาผู้มีงานทำจำแนกตามระดับ การศึกษา ที่สำเร็จ พบว่า ส่วนมากเป็นผู้จบระดับ ประถมศึกษา 299,233 คน (ร้อยละ 25.3) รองลงมา เป็น ผู้ได้รับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย 266,494 คน (ร้อยละ 22.5) ผู้ที่จบอุดมศึกษา 227,409 คน (ร้อยละ 19.2 ) สำหรับ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 217,318 คน และผู้ไม่ได้รับการศึกษา/ต่ำกว่าประถมศึกษา มีจำนวน 217,318 คน และ 172,080คน(ร้อยละ 18.4 และ 14.6) ตามลำดับ 12 แผนภูมิ 7 จำนวนและร้อยละของผู้มีงานทำ จำแนกตาม ระดับการศึกษาที่สำเร็จไตรมาส 1/2566 จังหวัดนครราชสีมา
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก ระเบียบวิธี
ภาคผนวก ก ระเบียบวิธี 1. วิธีการสำรวจ การสำรวจนี้ประชากรเป้าหมาย ได้แก่ ครัวเรือนส่วนบุคคลและครัวเรือนกลุ่มบุคคลประเภท ครัวเรือนคนงานที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาลทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้น ครัวเรือน ชาวต่างชาติที่ทำงานในสถานทูตหรือองค์การระหว่างประเทศที่มีเอกสิทธิ์ทางการทูต การสำรวจแต่ละเดือน สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ดำเนินการสำรวจในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แผนการ เลือกตัวอย่างที่ใช้เป็นแบบ Stratified Two-stage Sampling โดยหน่วยตัวอย่างขั้นที่หนึ่ง คือ เขตแจงนับ (Enumeration Area : EA) จำนวน 1,990 EA ตัวอย่าง จากจำนวนทั้งสิ้น 127,460 EA และหน่วยตัวอย่างขั้น ที่สอง คือ ครัวเรือนส่วนบุคคลและสมาชิกในทุกครัวเรือนกลุ่มบุคคลประเภทครัวเรือนคนงาน จำนวน 27,960 ครัวเรือนตัวอย่าง หรือคิดเป็นจำนวนประชากรตัวอย่างประมาณ 95,000คน ซึ่งขนาดตัวอย่างในแต่ละเดือน สามารถนำเสนอข้อมูลในระดับภาค (กรุงเทพมหานคร และ 4 ภาค) โดยจำแนกเขตการปกครอง คือ ในเขตเทศบาล และนอกเขตเทศบาล แต่ไม่เพียงพอสำหรับการนำเสนอผลการสำรวจในระดับจังหวัด หรือพื้นที่ย่อยกว่านี้ สำหรับการนำเสนอผลการสำรวจในระดับจังหวัดได้ใช้ข้อมูลของการสำรวจ จำนวน 3 เดือน เพื่อให้ได้ขนาดตัวอย่างเพียงพอ เช่น กรณีสรุปรายงานผลการสำรวจระดับจังหวัดในไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ.2566 ก็ได้นำข้อมูลของเดือนมกราคม กุมภาพันธ์และมีนาคม พ.ศ.2566 มารวมกัน เป็นต้น สำหรับขนาดตัวอย่างของจังหวัดนครราชสีมา ใช้หน่วยตัวอย่างขั้นที่หนึ่ง จำนวน 90 EA ตัวอย่าง หน่วยตัวอย่างขั้นที่สอง จำนวน 1,272 ครัวเรือนตัวอย่าง วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสัมภาษณ์หัวหน้าครัวเรือนหรือสมาชิกในครัวเรือนตัวอย่าง โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ/สำนักงานสถิติจังหวัด โดยผู้ทำการสัมภาษณ์ทุกคนจะมีคู่มือ การปฏิบัติงานเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับใช้ในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติงานไปในทางเดียวกัน ส่วนการประมวลผลข้อมูลนั้นดำเนินการในส่วนกลางตามหลักวิชาการสถิติโดยนำข้อมูลที่ได้จาก ตัวอย่างมาประมาณค่า โดยมีการถ่วงน้ำหนัก (Weighty) ซึ่งค่าถ่วงน้ำหนักคำนวณได้จากสูตรการประมาณค่า ที่สอดคล้องกับวิธีการเลือกตัวอย่าง เพื่อให้ได้ค่าประมาณประชากรใกล้เคียงกับค่าที่แท้จริง 2. คาบการเก็บรวบรวมข้อมูล การสำรวจได้ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 1 – 12 ของเดือน มกราคม – มีนาคม พ.ศ.2566 3. การปัดตัวเลข ข้อมูลในตารางสถิติที่นำเสนอในรายงานฉบับนี้ เป็นค่าประมาณที่ได้จากการถ่วงน้ำหนักซึ่งผลรวมจาก ยอดย่อยในแต่ละรายการอาจไม่เท่ากับยอดรวม ทั้งนี้เนื่องจากการปัดเศษทศนิยมโดยอิสระจากกัน
ภาคผนวก ข ตารางสถิติ
17 ตารางที่ 1 จ านวนและร้อยละของประชากรผู้มีอายุ15 ปีขึ้นไป จ ำแนกตำมสถำนภำพแรงงำนและเพศ สถานภาพแรงงาน รวม ชาย หญิง จ านวน ผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 2,051,129 973,611 1,077,518 1. ผู้อยู่ในก ำลังแรงงำน 1,207,367 662,716 544,651 1.1 ก ำลังแรงงำนปัจจุบัน 1,189,621 652,996 536,625 1.1.1 ผู้มีงำนท ำ 1,182,534 649,378 533,156 1.1.2 ผู้ว่ำงงำน 7,087 3,618 3,469 1.2 ผู้ที่รอฤดูกำล 17,746 9,720 8,026 2. ผู้ไม่อยู่ในก ำลังแรงงำน 843,762 310,895 532,867 2.1 ท ำงำนบ้ำน 195,667 2,122 193,545 2.2 เรียนหนังสือ 193,458 93,676 99,782 2.3 ยังเดก็ /ชรา ป่วย/พิการจนไม่สามารถท างานได้ 362,693 154,060 208,633 2.4 อื่นๆ 91,944 61,037 30,907 ร้อยละ ผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป 100.0 100.0 100.0 1. ผู้อยู่ในก ำลังแรงงำน 58.9 68.1 50.5 1.1 ก ำลังแรงงำนปัจจุบัน 58.0 67.1 49.8 1.1.1 ผู้มีงำนท ำ 57.7 66.70 49.5 1.1.2 ผู้ว่ำงงำน 0.3 0.37 0.3 1.2 ผู้ที่รอฤดูกำล 0.9 1.0 0.7 2. ผู้ไม่อยู่ในก ำลังแรงงำน 41.1 31.9 49.45 2.1 ท ำงำนบ้ำน 9.5 0.2 17.96 2.2 เรียนหนังสือ 9.4 9.6 9.26 2.3 ยังเดก็ /ชรา ป่วย/พิการจนไม่สามารถท างานได้ 17.7 15.8 19.33 2.4 อื่นๆ 4.5 6.3 2.87 1/ 1/
18 ตารางที่2 จ านวนและร้อยละของประชากรอายุ15 ปีขึ้นไป จ าแนกตามระดับการศึกษาที่ส าเร็จและเพศ ระดับการศึกษาที่ส าเร็จ รวม ชาย หญิง ยอดรวม 2,051,129 973,611 1,077,518 1. ไม่มีการศึกษา 29,875 8,056 21,819 2. ต ่ากว่าประถมศึกษา 454,840 188,901 265,939 3. ประถมศึกษา 477,808 241,608 236,200 4. มัธยมศึกษาตอนต้น 388,977 211,731 177,246 5. มัธยมศึกษาตอนปลาย 382,614 183,823 198,791 5.1 สายสามัญ 306252 145295 160957 5.2 สายอาชีวศึกษา 75618 38528 37090 5.3 สายวิชาการศึกษา 744 - 744 6. มหาวิทยาลยั 313,044 138,438 174,606 6.1 สายวิชาการ 178,527 69,899 108,628 6.2 สายวิชาชีพ 89,336 51,758 37,578 6.3 สายวิชาการศึกษา 45,181 16,781 28,400 7. อื นๆ - - - 8. ไม่ทราบ 3,971 1,054 2,917 ยอดรวม 100.0 100.0 100.0 1. ไม่มีการศึกษา 1.4 0.8 2.0 2. ต ่ากว่าประถมศึกษา 22.2 19.4 24.7 3. ประถมศึกษา 23.3 24.8 21.9 4. มัธยมศึกษาตอนต้น 18.9 21.8 16.5 5. มัธยมศึกษาตอนปลาย 18.7 18.9 18.4 5.1 สายสามัญ 14.9 14.9 14.9 5.2 สายอาชีวศึกษา 3.7 4.0 3.4 5.3 สายวิชาการศึกษา 0.1 - 0.1 6. มหาวิทยาลยั 15.3 14.2 16.2 6.1 สายวิชาการ 8.7 7.2 10.1 6.2 สายวิชาชีพ 4.4 5.3 3.5 6.3 สายวิชาการศึกษา 2.2 1.7 2.6 7. อื นๆ - - - 8. ไม่ทราบ 0.2 0.1 0.3 - จ านวน ร้อยละ 1/
19 ตารางที่3 จ านวนและร้อยละของผู้มีงานท า จ าแนกตามอาชีพและเพศ อาชีพ รวม ชาย หญิง ยอดรวม 1,182,534 649,378 533,156 1. ผู้บัญญัติกฎหมาย ข้าราชการระดับอาวุโส และผู้จัดการ 46,436 32,890 13,546 2. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่างๆ 73,131 22,004 51,127 3. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านเทคนิคสาขาต่างๆ และอาชีพที่เกี่ยวข้อง 36,666 22,882 13,784 4. เสมียน 63,061 18,480 44,581 5. พนักงานบริการและพนักงานในร้านค้า และตลาด 203,122 73,864 129,258 6. ผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตร และการประมง 346,732 212,847 133,885 7. ผู้ปฏิบัติงานด้านความสามารถทางฝีมือ และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 120,031 89,098 30,933 8. ผู้ปฏิบัติการโรงงานและเครอื่งจักร และผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ 130,204 78,910 51,294 9. อาชีพขั้นพื้นฐานต่างๆ ในด้านการขาย และการให้บริการ 163,151 98,403 64,748 10. คนงานซึ่งมิได้จ าแนกไว้ในหมวดอื่น - - - ยอดรวม 100.0 100.0 100.0 1. ผู้บัญญัติกฎหมาย ข้าราชการระดับอาวุโส และผู้จัดการ 4.0 5.1 2.5 2. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่างๆ 6.2 3.4 9.6 3. ผู้ประกอบวิชาชีพด้านเทคนิคสาขาต่างๆ และอาชีพที่เกี่ยวข้อง 3.1 3.5 2.6 4. เสมียน 5.3 2.8 8.4 5. พนักงานบริการและพนักงานในร้านค้า และตลาด 17.2 11.4 24.2 6. ผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตร และการประมง 29.3 32.8 25.1 7. ผู้ปฏิบัติงานด้านความสามารถทางฝีมือ และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 10.1 13.7 5.8 8. ผู้ปฏิบัติการโรงงานและเครอื่งจักร และผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ 11.0 12.1 9.6 9. อาชีพขั้นพื้นฐานต่างๆ ในด้านการขาย และการให้บริการ 13.8 15.2 12.2 10. คนงานซึ่งมิได้จ าแนกไว้ในหมวดอื่น - - - จ านวน ร้อยละ
20 ตารางที่ 4 จ านวนและร้อยละของผู้มีงานท า จ าแนกตามอุตสาหกรรม และเพศ อุตสาหกรรม รวม ชาย หญิง ยอดรวม 1,182,534 649,378 533,156 1. เกษตรกรรม การป่าไม้และการประมง 419,187 260,994 158,193 2. การท าเหมืองแร่และเหมืองหิน - - - 3. การผลิต 211,995 103,499 108,496 4. การไฟฟ้า ก๊าซ และการประปา 2,369 2,060 309 5. การจัดหาน า บ าบัดน าเสีย 3,395 2,126 1,269 6. การก่อสร้าง 56,182 45,153 11,029 7. การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์รถจักรยานยนต์ของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน 209,382 106,373 103,009 8. การขนส่ง สถานที่เก็บสินค้า และการคมนาคม 20,238 19,862 376 9. โรงแรม และอาหาร 68,116 26,707 41,409 10. ข้อมูลข่าวสารและการสอื่สาร 1,498 - 1,498 11. กิจการทางการเงนิและการประกันภัย 10,417 3,198 7,219 12. กิจการด้านอสังหาริมทรัพย์การให้เช่า และกิจกรรมทางธุรกิจ 1,031 320 711 13. กิจกรรมทางด้านวิชาชีพและเทคนิค 9,318 3,836 5,482 14. การบริหารและการสนับสนุน 8,983 6,602 2,381 15. การบริหารราชการ และการป้องกันประเทศ รวมทั งการประกันสังคมภาคบังคับ 51,945 33,447 18,498 16. การศึกษา 33,311 9,810 23,501 17. งานด้านสุขภาพ และงานสังคมสงเคราะห์ 38,622 7,592 31,030 18. ศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ 3,267 2,545 722 19. กิจกรรมด้านบริการชุมชน สังคม และการบริการส่วนบุคคลอื่นๆ 28,677 15,254 13,423 20. ลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคล 4,601 - 4,601 21. องค์การระหว่างประเทศและองค์การต่างประเทศอื่นๆและสมาชิก - - - 22. ไม่ทราบ - - - ร้อยละ ยอดรวม 100.00 100.0 100.0 1. เกษตรกรรม การป่าไม้การประมง 35.4 40.2 29.7 2. การท าเหมืองแร่และเหมืองหิน - - - 3. การผลิต 17.9 15.9 20.3 4. การไฟฟ้า ก๊าซ และการประปา 0.2 0.3 0.1 5. การจัดหาน า บ าบัดน าเสีย 0.3 0.3 0.2 6. การก่อสร้าง 4.7 7.0 2.1 7. การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์รถจักรยานยนต์ของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน 17.7 16.4 19.3 8. การขนส่ง สถานที่เก็บสินค้า และการคมนาคม 1.7 3.1 0.1 9. โรงแรม และอาหาร 5.8 4.1 7.8 10. ข้อมูลข่าวสารและการสอื่สาร 0.1 0.3 11. กิจการทางการเงนิและการประกันภัย 0.9 0.5 1.4 12. กิจการด้านอสังหาริมทรัพย์การให้เช่า และกิจกรรมทางธุรกิจ 0.1 0.0 0.1 13. กิจกรรมทางด้านวิชาชีพและเทคนิค 0.8 0.6 1.0 14. การบริหารและการสนับสนุน 0.8 1.0 0.4 15. การบริหารราชการ และการป้องกันประเทศ รวมทั งการประกันสังคมภาคบังคับ 4.4 5.2 3.5 16. การศึกษา 2.8 1.5 4.4 17. งานด้านสุขภาพ และงานสังคมสงเคราะห์ 3.3 1.2 5.8 18. ศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ 0.3 0.4 0.1 19. กิจกรรมด้านบริการชุมชน สังคม และการบริการส่วนบุคคลอื่นๆ 2.4 2.3 2.5 20. ลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคล 0.4 - 0.9 21. องค์การระหว่างประเทศและองค์การต่างประเทศอื่นๆและสมาชิก - - - 22. ไม่ทราบ - - - - 0.0 น้อยกว่าร้อยละ 0.1 จ านวน 1/
WWW.NSO.GO.TH