42 2งานส่วนที่ 2 งานระบบท่อลมและแผ่นอคิลิค 2.1ท่อสังกะสีและท่อฉากขนาด 12x12 นิ้ว หนา 0.7 มม. 1งาน 7,000 7,000 2,400 2,400 9,400 2.2ท่อสังกะสีและท่อฉากขนาด 10x10 นิ้ว หนา 0.7 มม. 1งาน 6,800 6,800 2,300 2,300 9,100 2.3ท่อสังกะสีและท่อฉากขนาด 8x8 นิ้ว หนา 0.5 มม. 1งาน 5,000 5,000 2,300 2,300 7,300 2.4ท่อสังกะสีคลอบชุดดูดส่งลมขนาด 18x18 นิ้ว หนา 0.7 มม. 4ชุด 1,500 6,000 100 400 6,400 2.5ตะแกรงอลูมิเนียมหัวเตียงปรับ ซ้ายขวา ขนาด 18x18 นิ้ว 4ชุด 1,000 4,000 400 1,600 5,600 2.6แผ่นอคิลิด หนา 4 มิลิเมตร.กว้าง 190 ซม.สูง 190 ซม. 16แผ่น 2,500 37,200 800 12,800 50,000 2.7ตะแกรงอลูมิเนียมหัวเตียงปรับ ซ้ายขวา ขนาด 18x18 นิ้ว 4ชุด 1,000 4,000 400 1,600 5,600 2.8อลูมิเนียมโฟร์ฟรายขนาด 1x1 นิ้ว 4ชุด 3,000 12,000 1,400 5,600 17,600 2.9 UVC 254 nm 10 Watt 4ชุด 1,000 4,000 1,000 4,000 8,000 ราคาค่าวัสดุและค่าแรง ส่วนที่ 2 119,000 3งานส่วนที่ 3 งานระบบไฟฟ้า 3.1เมนไฟฟ้าเบรกเกอร์ สายไฟ ท่อร้อยสายไฟ 1ชุด 25,000 25,000 3,000 3,000 28,000 3.2ตู้ควบคุมการท างาน 1ชุด 20,000 20,000 3,000 3,000 23,000 3.3 UVC 254 nm 18 Watt 2ชุด 3,000 6,000 1,000 2,000 8,000 ราคาค่าวัสดุและค่าแรง ส่วนที่ 3 59,000 รวมราคาค่าวัสดุและค่าแรง 340,000 รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 42
บทที่4 ผลการศึกษา 4.1 การตรวจวัดคุณภาพอากาศในโรงพยาบาล 4.1.1 การตรวจสอบการระบายอากาศ การระบายอากาศ คือ การถ่ายเทอากาศร้อนหรืออากาศเสียภายในห้องออก ภายนอกห้อง และให้มี อากาศที่บริสุทธิ์กว่าเติมเข้าไปแทนที่อากาศที่ไหลออก ซึ่งการถ่ายเทนี้จะคิด กันเป็นเท่าต่อชั่วโมง หรือจะเรียกกันเป็นAir Change สมมติว่า 10 Air change ก็คืออากาศภายใน ห้องทั้งหมดจะถ่ายเทออกภายนอก จ านวน 10 ครั้ง ภายใน 1 ชั่วโมง หรือใช้เวลาประมาณ 6 นาที สามารถถ่ายเทอากาศได้หมดห้อง 4.1.2 การตรวจสอบอัตราการหมุนเวียนอากาศภายในห้อง สามารถท าได้เฉพาะพื้นที่ที่ เป็นแบบปิดเท่านั้น โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. วัดขนาดปริมาตรของห้อง (ความกว้าง x ความยาว x ความสูง) 2. วัดอัตราการไหลของอากาศเข้าหรือออกจากห้อง 3. ค านวณอัตราการหมุนเวียนอากาศ และเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน อัตราการไหลของอากาศ หมายถึงปริมาตร หรือปริมาณอากาศที่เคลื่อนที่ผ่านจุดใดจุดหนึ่งในหนึ่ง หน่วยเวลา อัตราการไหล ของอากาศสัมพันธ์กับความเร็วเฉลี่ยของอากาศ และพื้นที่หน้าตัดของจุดที่อากาศเคลื่อนที่ผ่าน ตารางที่ 4.1 การตรวจวัดคุณภาพอากาศ COHORT WARD บริเวณที่ตรวจวัด ความเข้มข้นฝุ่น ขนาด 10 µm อุณหภูมิ ºC ความชื้นสัมพัทธ์ % RH ด้านนอกอาคาร COHORT WARD 0.030 29.6 68.2 ภายในห้อง 1 0.008 26.3 54.4 ภายในห้อง 2 0.009 26.9 55 ภายในห้อง 3 0.004 27 54 เกณฑ์มาตรฐาน <0.012 mg/m3 17-27 45-55 รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 43
42 รูปที่4.1 การตรวจวัดคุณภาพอากาศ COHORT WARD ตารางที่ 4.2 การทดสอบการระบายอากาศ COHORT WARD ความดันสัมพัทธ์ (Differential Air Pressure) (Pascal) ความเร็วลม (m/s) ลูกบาศก์เมตร ต่อชั่วโมง (m3 /h) อัตราการหมุนเวียนอากาศ (Air Charge Per Hour) ACH ห้อง 1 - 5 0.58 417.6 12.23 ห้อง 2 - 5 0.65 468 13.71 ห้อง 3 - 6 1.21 871.2 12.76 รูปที่4.2 การทดสอบการระบายอากาศ COHORT WARD รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 44
43 ตารางที่ 4.3 การทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศ COHORT WARD ขนาดอนุภาค (µm) จ านวนอนุภาคหน้า แผงกรอง HEPA (จ านวน/m3 ) จ านวนอนุภาคหลัง แผงกรอง HEPA (จ านวน/m3 ) จ านวนอนุภาค ที่กรองได้ (จ านวน/m3 ) ร้อยละของ การกรอง (%) 0.3 87693360 44141630 43551730 50 0.5 16470390 5002898 11467492 70 5.0 7951 4099 3852 48.4 รูปที่4.3 การทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศ COHORT WARD ตารางที่ 4.4 การทดสอบการระบายอากาศอุโมงค์ลม ระดับพัดลม ความเร็วลม (m/s) ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3 /h) อัตราการหมุนเวียนอากาศ (Air Charge Per Hour) ACH 1 0.28 192 28 2 0.18 123.12 17.94 3 0.13 88.72 12.96 รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 45
44 รูปที่4.4 การทดสอบการระบายอากาศอุโมงค์ ตารางที่ 4.5 การทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศอุโมงค์ลม ขนาดอนุภาค (µm) จ านวนอนุภาคหน้า แผงกรอง HEPA (จ านวน/m3 ) จ านวนอนุภาคหลัง แผงกรอง HEPA (จ านวน/m3 ) จ านวนอนุภาค ที่กรองได้ (จ านวน/m3 ) ร้อยละของการ กรองอนุภาค (%) 0.3 69539680 54255120 17084560 75.43 0.5 8902580 7137986 1764594 80.17 5.0 30035 20283 9752 67.53 รูปที่4.5 การทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศอุโมงค์ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 46
45 จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศอุโมงค์ลม เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศ ขนาดอนุภาค 0.3, 0.5 และ 5.0 ไมครอน ระบบระบายอากาศ และการกรองอากาศสามารถควบคุม และลดอนุภาคในอากาศที่ผ่านการกรองได้ผลว่าจ านวนอนุภาคลดลง ประสิทธิภาพการกรองอนุภาค ขนาด 0.3 อยู่ที่ 75.43%, ขนาด 0.5 อยู่ที่ 80.17% และขนาด 5.0 อยู่ที่ 67.53% (เนื่องจากเครื่องมือ วัดไม่สามารถสร้างขนาดอนุภาคตามที่ก าหนดได้ ท าให้อนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าสามารถผ่านการกรอง และตรวจวัดได้) การตรวจวัดระบบระบายอากาศ และกรองอากาศ COHORT WARD เพื่อทดสอบ ประสิทธิภาพการกรองอากาศ ขนาดอนุภาค0.3,0.5 และ5.0 ไมครอน ระบบระบายอากาศ และการ กรองอากาศสามารถควบคุมและลดอนุภาคในอากาศที่ผ่านการกรองได้ผลว่าจ านวนอนุภาคลดลง ประสิทธิภาพการกรองอนุภาค ขนาด 0.3 อยู่ที่ 50%, ขนาด 0.5 อยู่ที่ 70% และขนาด 5.0 อยู่ที่ 48.4% อัตราการหมุนเวียนอากาศต่อหนึ่งชั่วโมงต่อปริมาตรพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 12 ACH ความดัน สัมพัทธ์ต่ ากว่าเมื่อเทียบกับพื้นที่ข้างเคียง -5 Pascal ทั้งนี้COHORT WARD โรงพยาบาลจิตเวช ขอนแก่นราชนครินทร์ เปิดใช้งานจริงในช่วงการระบาดรอบเดือนเมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2564 ถึง วันที่ 25 เมษายน 2564 มีผู้ป่วย COVID-19 เข้ารับการรักษา จ านวน 9 คน รักษาหายไม่พบเชื้อ แพทย์ให้กลับไปกักตัวต่อเนื่องอีก 14 วัน ส าหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ปลอดภัย ผลตรวจ COVID-19 ไม่พบการติดเชื้อ ปัจจุบัน COHORT WARD พร้อมใช้งาน อนาคต สามารถพัฒนาต่อยอด เพื่อประยุกต์น าไปใช้ในโอกาสเป็นหอผู้ป่วยแยกโรคแพร่เชื้อทางอากาศ หรือ เป็นสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการผู้มีความเสี่ยงโรคติดต่อ หรือผู้ป่วยในนอนพักรักษาอาการโรคติดต่อ และโรคอื่นๆได้ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 47
บทที่5 อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 แนวทางการจัดท าหอผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศในโรงพยาบาล COHORT WARD ส ำหรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ2019 (COVID-19) ในสถำนกำรณ์ฉุกเฉินฉบับวันที่ 30 มีนำคม 2563 ส ำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนำ2019 (COVID-19) ที่ยืนยันผลกำรตรวจแล้ว และจ ำเป็นจะต้องท ำหัตถกำรที่เกี่ยวข้องกับกำรก่อให้เกิดฝอยละอองและกำรฟุ้งกระจำยอนุภำคที่มี กำรปนเปื้อนในอำกำศ เช่น ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหำยใจ ผู้ป่วยที่มีกำรพ่นยำ ควรอยู่ในห้องแยกผู้ป่วย แพร่กระจำยเชื้อทำงอำกำศ (AIIR) เพื่อใช้เป็นพื้นที่รักษำผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนำ2019 รูปที่5.1 บุคลำกรผลัดแรก COHORT WARD เตรียมรับผู้ป่วย COVID-19 เข้ำรับกำรรักษำ ช่วงกำรระบำดเดือนเมษำยน 2564 รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 48
47 5.2 สรุปภาพรวมประเด็น ข้อเสนอแนะน าแนวทางการจัดท า COHORT WARD ในโรงพยาบาล กรณีโรงพยาบาลที่ได้ด าเนินการติดตั้งระบบระบายอากาศ 5.2.1 Nurse Station ควรแยกออกมำจำกพื้นที่ผู้ป่วยและควบคุมควำมดันอำกำศให้เป็น บวกเมื่อเทียบกับ COHORT WARD และควรมีระบบกล้องวงจรปิดส ำหรับติดตำมและเฝ้ำระวังผู้ป่วย ใน COHORT WARD 5.2.2 จัดให้มีระบบสื่อสำรด้วยเสียงแบบ 2 ทิศทำง (Intercom) ติดตั้งในห้องปฏิบัติงำน พยำบำล (Nurse Station) ส ำหรับกำรติดต่อสื่อสำรระหว่ำงเจ้ำหน้ำที่และผู้ป่วยใน COHORT WARD 5.2.3 จัดระบบเส้นทำงสัญจรระหว่ำงห้องปฏิบัติงำนพยำบำล (Nurse Station) และ COHORT WARD ให้ชัดเจน 5.2.4 ควรมีพื้นที่ส ำหรับถอดเครื่องป้องกันร่ำงกำย (PPE) ที่ปนเปื้อน หรือบริเวณอื่นที่ เหมำะสม โดยปฏิบัติตำมมำตรฐำนกำรป้องกันกำรติดเชื้อ และแพร่กระจำยเชื้อที่เกี่ยวข้อง 5.2.5 ประตูทำงเข้ำออกในพื้นที่ ควรมีระบบล็อคป้องกัน แยกระหว่ำงห้องปฏิบัติงำน พยำบำล (Nurse Station) และ Isolate เพื่อควำมปลอดภัยของเจ้ำหน้ำที่และสำมำรถควบคุม กำร เข้ำ-ออก ของผู้ป่วย 5.2.6 มีแสงสว่ำงในพื้นที่เพียงพอและมีระบบไฟฟ้ำส ำรองพร้อมใช้งำน 5.2.7 มีห้องน้ ำ มีอ่ำงล้ำงมือ แยกเฉพำะไม่ปะปนกับผู้ป่วยอื่น 5.2.8 ห้องน้ ำต้องมีกำรระบำยอำกำศและท ำกำรกรองอำกำศร่วมกับห้องIsolate 5.2.9 มีภำชนะส ำหรับรองรับมูลฝอยติดเชื้อส ำหรับผู้ป่วยทุกคน และน้ ำยำล้ำงมือ (Alcohol hand rub) ไว้ประจ ำทุกเตียง 5.2.10 มูลฝอยในห้องผู้ป่วย ห้องน้ ำและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ทั้งหมดถือเป็น มูลฝอยติดเชื้อ ให้ก ำจัดตำมแนวทำงกำรก ำจัดมูลฝอยติดเชื้อ 5.2.11 กำรใช้อุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคลของบุคลำกรให้เป็นไปตำมหลัก Isolation Precautions และปฏิบัติตำมมำตรฐำนกำรป้องกันกำรติดเชื้อและแพร่กระจำยเชื้อที่ เกี่ยวข้อง 5.2.12 กำรจัดกำรน้ ำเสียให้เพิ่มมำตรกำรกำรเฝ้ำระวังกำรรั่วซึมของระบบท่อรวบรวมน้ ำ เสียและกระบวนกำรฆ่ำเชื้อโรคโดยเพิ่มควำมถี่ในกำรตรวจสอบคุณภำพน้ ำประจ ำวันในกำรฆ่ำเชื้อโรค ก่อนปล่อยสู่ล ำรำงสำธำรณะ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 49
48 5.2.13 กำรบ ำรุงรักษำอุโมงค์ลมระบำยอำกำศควำมดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อำคำรผู้ป่วยในเป็นโรงพยำบำล COHORT WARD 5.3 การค านวณค่าไฟฟ้า ที่ใช้ในอาคาร COHORT WARD จำกสูตร ค่ำไฟฟ้ำ = ก ำลังไฟฟ้ำ (kw) x อัตรำค่ำไฟฟ้ำต่อหน่วย ก ำลังไฟฟ้ำ = มอเตอร์ 660W + UVC 40W + UVC 20W + มอเตอร์40W = 760W (0.76 kw) ดังนั้น ค่ำไฟฟ้ำ = 0.76 kw x 4.6 บำท x 24 ชั่วโมง = 84 บำท/วัน ล าดับ การบ ารุงรักษาประจ าวัน 1 ตรวจสอบแรงดันอำกำศ Ante Room ค่ำที่อ่ำนได้จำกเครื่องวัดแรงดันหน้ำห้องมีแรงดัน เป็นลบ อยู่ระหว่ำง 5/10 Pascal 2 ตรวจสอบแรงดันอากาศ Isolate Room ค่าที่อ่านได้จากเครื่องวัดแรงดันหน้าห้อง มีแรงดันเป็นลบ อยู่ระหว่าง 10/15 Pascal 3 ตรวจสอบระบบแสงสว่ำงของหลอดยูวี 4 ตรวจสอบท ำควำมสะอำดภำยในห้อง ล าดับ การบ ารุงรักษาประจ าเดือน 1 ท ำควำมสะอำดหลอดยูวี ทุกๆเดือน 2 ตรวจท ำควำมสะอำดช่องระบำยอำกำศทุกเดือน 3 ตรวจสอบและท ำควำมสะอำดแผ่นกรองอำกำศของชั้นต่ำงๆ ทุก 1 เดือน ล าดับ การบ ารุงรักษาประจ าปี 1 เปลี่ยนแผ่นกรองใหม่เมื่อเครื่องวัดแรงดันตกคร่อมของแผ่นกรองอำกำศอ่ำนค่ำได้ มำกกว่ำ 2.5 in.wg หรือแผ่นกรองมีอำยุกำรใช้งำนมำกกว่ำ 3 ปี 2 หลอดฆ่ำเชื้อยูวี มีอำยุใช้งำน 4000 ชั่วโมงหรือ 3 ปี ควรเปลี่ยนหลอดใหม่ 3 ท ำควำมสะอำดหรือเปลี่ยนแผ่นกรองอำกำศเมื่อช ำรุดชั้นต้น (Pre Filter) 4 เปลี่ยนกรอง Medium Filter ทุก 1 ปี 5 เปลี่ยนกรอง HEPA Filter ทุก 3 ปี รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 50
49 5.4 ข้อแนะน า 5.3.1 ในช่วงที่อำกำศภำยนอกมีควำมชื้นสูงๆ อำจเกิดน้ ำเกำะ(Condensation) ที่ผนังท่อส่ง ลมได้แนะน ำให้หุ้มฉนวนหุ้มท่อส่งลม เพื่อป้องกันและลดกำรเกิดน้ ำเกำะที่ท่อส่งลม 5.3.2 ระบบปรับอำกำศในห้องเป็นเครื่องปรับอำกำศชนิดSprit Type กรณีพยำบำลหรือ บุคลำกรทำงกำรแพทย์เข้ำปฏิบัติงำนใน Isolate Room ควรจะปิดเครื่องปรับอำกำศภำยในห้องก่อน แต่ยังคงเปิดระบบดูดอำกำศไว้ โดยแยกรีโมท Control Air อยู่บริเวณด้ำนหน้ำห้อง เพื่อให้พยำบำล หรือบุคลำกรทำงกำรแพทย์สำมำรถปิดเครื่องปรับอำกำศก่อนเข้ำไปปฏิบัติงำน 5.3.3 ควรทดสอบระบบต่ำงๆ เช่นควำมดัน,อัตรำกำรหมุนเวียนอำกำศต่อชั่วโมง, Manometer ที่ใช้ส ำหรับวัดกำรอุดตันของแผ่นกรองอำกำศ HEPA ว่ำค่ำเกินก ำหนดที่ยอมรับได้ หรือไม่ เช่น แรงดันตกคร่อมต้องไม่เกิน 2.5 นิ้วน้ ำ เป็นต้น เพื่อเตรียมควำมพร้อมใช้งำน 5.3.4 ควรมีกำรทดสอบระบบต่ำงๆ อย่ำงน้อย 1 ครั้ง/สัปดำห์ 5.3.5 กำรบ ำรุงรักษำFilter (Pre-Filter, Medium Filter, HEPA filter) ตำมบริษัทผู้ผลิต แนะน ำ และก ำจัดโดยก ำหนดเป็นขยะติดเชื้อ 5.3.6 ในอนำคตควรเปลี่ยนแผ่นกรองประสิทธิภำพสูง (HEPA )ที่มีประสิทธิภำพกำรกรอง สูงขึ้นตำมมำตรฐำนก ำหนด และแผ่นกรองชั้นกลำง (Medium Filter) แผ่นกรองชั้นต้น (Pre Filter) ที่มีประสิทธิภำพกำรกรองสูงขึ้น 5.3.7 ควรจัดท ำคู่มือกำรใช้งำน กำรบ ำรุงรักษำ กำรแก้ไขเบื้องต้น และค ำนวณค่ำใช้จ่ำย ไฟฟ้ำ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 51
รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 52
บันทึกแนบท้ายสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย สัญญาเลขที่ วช.อว.(อ)(ภอ)/463/2563 ลงวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๓. บันทึกแนบท้ายสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย/ทุนอุดหนุนการวิจัย สัญญาเลขที่ วช.อว.(อ)(ภอ)/463/2563 ฉบับนี้ทำขึ้น ณ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๙๖ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕๖๔ ระหว่างสำนักงานการวิจัย แห่งชาติโดย นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ซึ่งต่อไปใน บันทึกต่อท้ายสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้ทุน” ฝ่ายหนึ่ง กับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ เลขที่๘๘/๔๔ ซอย. สาธารณสุข๘ ถนน ติวานนท์แขวง/ตำบล ตลาดขวัญ เขต/อำเภอ เมือง จังหวัด นนทบุรี โดย . ตำแหน่ง .ซึ่งต่อไปในบันทึกต่อท้ายสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับทุน” อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงและมีความประสงค์จะแก้ไขสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย สัญญาเลขที่ วช.อว.(อ)(ภอ)/463/256๓ ลงวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๓ และคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจึงได้จัดทำบันทึกแนบท้าย สัญญาฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานไว้ต่อกัน ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ทั้งสองฝ่ายตกลงปรับเพิ่มระยะเวลาการทำการวิจัย ตามสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย ข้อ ๑ จากเดิม ๖ (หก) เดือน เปลี่ยนเป็น ๙ (เก้า) เดือน เนื่องจากมาตรการและแนวทางการดำเนินการเพื่อ การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๓ ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.๒๕๕๘ กำหนดควบคุมและสังเกตอาการไม่น้อยกว่า ๑๔ วัน ดังนั้นเพื่อการทดสอบระบบระบายอากาศตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในระยะเวลาที่กำหนด จึงส่งผลให้งานวิจัยล่าช้า จึงจำเป็นต้องขอขยายระยะเวลาทำการวิจัย เพื่อให้โครงการวิจัยดังกล่าวบรรลุ เป้าหมายและดำเนินการวิจัยแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ของงานวิจัยที่ตั้งไว้ ข้อ ๒ ผู้ให้ทุนยินยอมให้ผู้รับทุนเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการส่งรายงานการวิจัยตามสัญญารับ ทุนอุดหนุนการวิจัย ข้อ ๗ ดังนี้ ๒.๑ ส่งร่างรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ ภายในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ๒.๒ ส่งรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ภายในวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ บรรดาข้อความที่กำหนดไว้ในสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยและหรือบันทึกอื่นใดที่ได้จัดทำขึ้นตามสัญญา ดังกล่าวก่อนบันทึกแนบท้ายฉบับนี้ให้ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบันทึกแนบท้ายฉบับนี้ บันทึกแนบท้ายนี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความ โดยละเอียดตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานของแต่ละฝ่ายและ ต่างเก็บไว้ฝ่ายละฉบับ (ลงชื่อ) ผู้รับทุน ( ) ตำแหน่ง . หน่วยงาน . (ลงชื่อ) ผู้ให้ทุน (นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง) ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (ลงชื่อ) พยาน (.............................................................) ตำแหน่ง . หน่วยงาน . (ลงชื่อ) พยาน (นางสาววราภรณ์ สุชัยชิต) นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 53
รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 54
รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 55
รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 56
52 รูปที่1 การประชุมร่วมคณะกรรมการบริหาร โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์เพื่อก าหนดแนว ทางการด าเนินงานระบบระบายอากาศส าหรับ COHORT WARD รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 57
53 รูปที่2 การส ารวจสถานที่ด าเนินงาน โครงการวิจัย ตึกศรีตรัง โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 58
54 รูปที่3 บริเวณภายในตึกศรีตรัง ก่อนด าเนินงานโครงการวิจัย รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 59
55 รูปที่4 งานติดตั้งท่อส่งลมระบบระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วย COHORT WARD ตึกศรีตรัง โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 60
56 รูปที่5 งานติดตั้งชุดกรองอากาศ COHORT WARD รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 61
57 รูปที่6 การทดสอบระบบระบายอากาศ COHORT WARD รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 62
58 รูปที่7 ผู้บริหารโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เยี่ยมชมการทดสอบ ระบบระบายอากาศ COHORT WARD รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 63
59 รูปที่8 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ประเมินความพร้อมใช้งาน COHORT WARD และอุโมงค์ลมระบายอากาศ ก่อนรับผู้ป่วย COVID -19 รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 64
60 รูปที่9 ความพร้อม COHORT WARD และอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียง โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ ก่อนรับผู้ป่วย COVID -19 รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 65
61 รูปที่10 COHORT WARD โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ รับผู้ป่วย COVID -19 เข้ารับการ รักษาในช่วงการระบาดเดือนเมษายน 2564 จ านวนผู้ป่วย 9 คน รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 66
62 รูปที่11 เจ้าหน้าที่ COHORT WARD ส่งผู้เข้ารับการรักษา COVID -19 กลับบ้านหลังเข้ารับการ รักษาไม่พบเชื้อแล้ว รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 67
รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 68
(ร่าง) ระเบียบวาระการประชุม การประชุมคณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการ เรื่อง การวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 ด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ชุดที่ ๑) ในวันจันทร์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๕.๓๐ น. ณ ห้องประชุม ศาสตราจารย์ ดร. ประดิษฐ์ เชี่ยวสกุล ชั้น ๒ อาคาร วช. ๒ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องที่ประธานฯ แจ้งต่อที่ประชุมทราบ (ถ้ามี) ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องเพื่อพิจารณา ๐๙.๓๐ - ๑๐.๐๐ น. ๒.๑ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “การคัดเลือกแอนติเจนของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 และการผลิตชุดตรวจภูมิคุ้มกันชนิดแอนติบอดีโดยการศึกษาการตอบสนอง ทางซีโรโลยีของบุคคลที่หายจากโรคโควิค-19” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี ผศ.ดร. จีระพงษ์ ทะนงศักดิ์ศรีกุล / มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๑๐.๐๐ - ๑๐.๓๐ น. ๒.๒ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “การพัฒนาชุดตรวจเชื้อโควิด-19 โดยใช้ เทคโนโลยี CRISPR-Cas12/13” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี ดร.กัญญารัตน์ ถึงอินทร์ / มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ๑๐.๓๐ - ๑๑.๐๐ น. ๒.๓ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “การวิเคราะห์และทดสอบเป็บไทด์ที่ จำเพาะต่อการจับตัวกับ spike protein ของไวรัส COVID-19” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี รศ.ดร. สุรพล พิบูลโภคานันท์ / มหาวิทยาลัยมหิดล ๑๑.๐๐ - ๑๑.๓๐ น. ๒.๔ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “การพยากรณ์การระบาดของโรคโควิด19 และการศึกษามาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่เหมาะสมเพื่อรองรับการการระบาดใน ระลอกถัดไปในประเทศไทย โดยการจำลองการระบาดที่คำนึงถึงการเกิดเหตุการณ์ super spreading” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี รศ.ดร.ชรินทร์ โหมดชัง / มหาวิทยาลัยมหิดล ๑๑.๓๐ - ๑๒.๐๐ น. ๒.๕ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “การพัฒนาเทคนิคการตรวจและ จำแนกชนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ด้วยวิธีวิเคราะห์ High-resolution melt” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี ผศ.ดร.เบญจพร เลิศอนันตวงศ์ / มหาวิทยาลัยมหิดล ๑๒.๐๐ - ๑๒.๓๐ น. ๒.๖ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “ความเสี่ยงของการเกิดโรคไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นตัวรังโรค” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี ดร.ธรรมาพร พิจิตราศิลป์ / มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ๑๒.๓๐ - ๑๓.๐๐ น. พักรับประทานอาหารกลางวัน ๑๓.๐๐ - ๑๓.๓๐ น. ๒.๗ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “การใช้อนุภาคแม่เหล็กนาโน (magnetic nanoparticles) ในการสกัด DNA/RNA เพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสก่อโรค โควิด 19 อย่างรวดเร็ว” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี ผศ.ดร.วรรณวิภา ศิริวัฒน์เวชกุล/ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๑๓.๓๐ - ๑๔.๐๐ น. ๒.๘ รายงานความก้าวหน้าของการวิจัย โครงการ “ผลกระทบและความเสี่ยงต่อโรคโควิด19 ในกลุ่มประชากรชาวเขาในพื้นที่ตะเข็บชายแดนและความพร้อมต่อการป้องกันและ ควบคุมโรคกรณีเกิดการระบาดระรอกสอง” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี ผศ.ดร.ธวัชชัย อภิเดชกุล / มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 69
๑๔.๐๐ - ๑๔.๔๕ น. ๒.๙ ร่างรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์โครงการ “การพัฒนาผ้าชนิดไม่ถักไม่ทอที่สามารถ ยับยั้งไวรัสโคโรนาสำหรับชุดป้องกันส่วนบุคคลทางการแพทย์” ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมี ผศ.ดร.สิริลักษณ์ เจียรากร / มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ๑๔.๔๕ - ๑๕.๓๐ น. ๒.๑๐ ร่างรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการ “การสร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบ หัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ โดยมี นายปรีชา ชื่นชมภู/ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี) รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 70
สรุปการด าเนินงานโครงการวิจัย เรื่อง สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยใน เป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD งบประมาณของส านักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประจ าปีงบประมาณ 2563 คณะผู้วิจัย ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพ ที่7 โดย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 71
ระยะเวลาด าเนินงานเริ่มต้นสิ้นสุดต่อโครงการ 6 เดือน 28 กันยายน พ.ศ. 2563 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 3 เดือน 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 หัวหน้าโครงการหน่วยงานงบประมาณสถานที่ท าวิจัย นายปรีชา ชื่นชมภู ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่7 340,000บาทโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ แผนงาน / โครงการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD ส่งร่างรายงานการวิจัยและนวัตกรรมฉบับสมบูรณ์ ระหว่าง 28 กันยายน พ.ศ. 2563 – 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564สรุปผลการด าเนินงาน มกราคม พ.ศ. 2564 ประชุมออกแบบวางแผนการปรับปรุง กุมภาพันธุ์ พ.ศ. 2564 จัดจ้างเหมาออกแบบ,ทดสอบระบบ มีนาคม พ.ศ. 2564 จัดจ้างเหมาติดตั้งระบบ เมษายน พ.ศ. 2564 ทดสอบเก็บข้อมูล บันทึกผลการใช้งานจริง พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ประชุมสรุปผลงาน จัดท ารายงาน มิถุนายน พ.ศ. 2564 ประชุมสรุปผลงาน ประชุมรายงานผล รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 72
ข้อเสนอแนะจากคณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการรายละเอียดในการปรับปรุง/แก้ไข/เพิ่มเติม 1.ตามหลัก6ข้อการควบคุมป้องกันเชื้อ ควรศึกษาการควบคุม ความคุณภาพอากาศ COHORT WARD 1.1 จัดท าช่องรับลมจากหัวเตียงผู้ป่วย แต่ละเตียงปรับเพิ่ม/ลดความเร็วลมได้ ส่งลมไปชุดกรองอากาศผ่านการกรองก่อนปล่อยอากาศสู่ภายนอก 1.2 ทดสอบการกรอง เพื่อศึกษาจ านวนอนุภาคก่อน และหลังผ่านการกรอง 1.3 ตรวจวัดปริมาณฝุ่น เพื่อศึกษาจ านวนฝุ่นในสถานที่ปิดเทียบกับภายนอก 1.4ตรวจวัดอุณหภูมิ และความชื้นสัมพัทธ์ เพื่อศึกษาสภาวะแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงอันอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของจุลชีพบางชนิด 2. โมเดลอุโมงค์ลม ต่างจากที่อื่นอย่างไร? 2.1ท าให้เป็นโมเดลส าหรับโรงพยาบาลผู้ป่วยทางจิตเวช พิจารณาถึงความปลอดภัย ต่อผู้ให้การรักษา และผู้ป่วย ขณะท าการรักษากรณีเกิดการฟุ้งกระจายในอากาศ สามารถเลือกความเร็วการดูดอากาศภายในอุโมงค์ได้จากน้อย ปานกลาง สูงสุด ตามอัตราความเสี่ยงการฟุ้งกระจายจากการรักษาแต่ละกรณี ที่ผู้ท าการรักษา พิจารณา โครงสร้างแข็งแรง ผนังอะคริลิคหนาพิเศษ เคลื่อนย้ายได้สะดวก พื้นที่ ปฏิบัติงานภายในอุโมงค์เพียงพอ สังเกตุอาการผู้ป่วยจากภายนอกได้ 2.2 อุโมงค์แผกใช้ได้กับสถานที่ที่ยังไม่มีระบบกรองอากาศ เช่นห้องตรวจผู้ป่วย แพร่เชื้อทางอากาศ ห้องใส่ท่ออุปกรณ์ช่วยหายใจผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศ ห้อง แยกผู้ป่วยวัณโรค เป็นต้น สรุปการด าเนินงานตามค าแนะน าของคณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการ ? รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 73
ข้อเสนอแนะจากคณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการรายละเอียดในการปรับปรุง/แก้ไข/เพิ่มเติม 3. เมื่อมีความชื้นสัมพัทธ์สูงหรือต ่า 3.1 ปรับเพิ่มลดอัตราการไหลของอากาศ 3.2 ให้ความรู้เจ้าหน้าที่ 4. เปรียบเทียบเครื่องปรับอากาศ(อากาศที่หมุนเวียนถ่ายเทภายใน ห้อง และอากาศจากภายนอก) สามารถควบคุมความชื้นเครื่องปรับอากาศได้ -ต้องใช้อุปกรณ์ดูดความชื้น -ติดตั้งเครื่องดูดความชื้น -เพิ่มความเร็วลมมากกว่า 12รอบต่อนาที 5. การทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศ COHORT WARD 5. ผลการทอดสอบวัดค่าการกรองจากเครื่องมือวัด สรุปการด าเนินงานตามค าแนะน าของคณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 74
การตรวจวัดคุณภาพอากาศ COHORT WARD บริเวณที่ตรวจวัด ความเข้มข้นฝุ่น ขนาด 10 µ m อุณหภูมิ ºCความชื้น สัมพัทธ์ % RH ด้านนอกอาคาร 0.030 29.6 68.2 ภายในห้อง 1 0.008 2 6.3 54.4 ภายในห้อง 2 0.009 26.9 55 ภายในห้อง 3 0.004 27 54 เกณฑ์มาตรฐาน < 0.012 mg/m3 17-27 45-55 ผลการศึกษา 1 2 3 ประมวลภาพการออกแบบติดตั้ง สรุปผลการด าเนินงาน รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 75
-ตรวจวัดคุณภาพอากาศ โดยวัดความเข้มข้นฝุ่น ,อุณหภูมิ ,ความชื้น บริเวณภายนอกอาคารและภายในห้อง เพื่อบันทึกผลเปรียบเทียบค่าวัด -ทดสอบการระบายของอากาศและประสิทธิภาพในการกรองอากาศ COHORT WARD ,อุโมงค์ลม ประมวลภาพ การตรวจวัดคุณภาพอากาศ ทดสอบระบบการท างาน COHORT WARD รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 76
1 การทดสอบการระบายอากาศ COHORT WARD ความดันสัมพัทธ์ (Differential Air Pressure) (Pascal) ความเร็วลม (m/s) ลูกบาศก์เมตรต่อ ชั่วโมง (m3/h)อัตราการหมุนเวียนอากาศ (Air Charge Per Hour) ACH ห้อง 1 - 5 0.58 417.6 12.23 ห้อง 2 - 5 0.65 468 13.71 ห้อง 3 - 6 1.21 871.2 12.76 3 การทดสอบการระบายอากาศอุโมงค์ลม ระดับพัดลมความเร็วลม (m/s)ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3/h) อัตราการหมุนเวียนอากาศ (Air Charge Per Hour) ACH 1 0.28 192 28 2 0.18 123.12 17.94 3 0.13 88.72 12.96 2 1 2 3 รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 77
การทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศ COHORT WARD ขนาด อนุภาค (µm)จ านวนอนุภาคหน้าแผงกรอง HEPA (จ านวน/m3)จ านวนอนุภาคหลังแผงกรอง HEPA (จ านวน/m3)จ านวนอนุภาค ที่กรองได้ (จ านวน/m3)ร้อยละของ การกรอง (%) 0.3 87693360 44141630 43551730 50 0.5 16470390 5002898 11467492 70 5.0 7951 4099 3852 48.4 0.3µm 0.5µm 5.0µm การทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศอุโมงค์ลม ขนาด อนุภาค (µm)จ านวนอนุภาคหน้าแผงกรอง HEPA (จ านวน/m3)จ านวนอนุภาคหลังแผงกรอง HEPA (จ านวน/m3)จ านวนอนุภาค ที่กรองได้ (จ านวน/m3)ร้อยละของ การกรอง (%) 0.3 69539680 54255120 17084560 75.43 0.5 8902580 7137986 1764594 80.17 5.0 30035 20283 9752 67.53 0.3µm 0.5µm 5.0µm 0.3µm 0.5µm 5.0µm 0.3µm 0.5µm 5.0µm รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 78
COHORT WARD โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ ใช้งานจริงช่วงการระบาด รอบเดือนเมษายน 2564 ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 9ราย รักษาหายไม่พบเชื้อผู้ป่วย COVID19เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกคน ปลอดภัยตรวจไม่พบเชื้อ 12-25 เมษายน 2564 ปัจจุบัน COHORT WARDพร้อมใช้งาน สามารถพัฒนาต่อยอด เพื่อประยุกต์น าไปใช้ในโอกาสเป็นหอผู้ป่วยแยกโรคแพร่เชื้อทางอากาศ หรือเป็นสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการผู้มีความเสี่ยงโรคติดต่อ หรือผู้ป่วยในนอนพักรักษาอาการโรคติดต่อ และโรคอื่นๆได้ ข่าวประชาสัมพันธ์ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 79
เรื่องที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม ระบบกรองอากาศ -วัสดุที่ใช้ท าแผ่นกรอง HEPA Filter, Medium Filter และPre Filter -การทดสอบประสิทธิภาพการกรอง ในแต่ละวัสดุที่ใช้ท าแผ่นกรอง ระบบหมุนเวียนอากาศ -ประสิทธิภาพของพัดลมดูดระบายอากาศแต่ละชนิด -เทคนิคการออกแบบและติดตั้งพัดลมดูดระบายอากาศ ข้อเสนอแนะและการต่อยอด -การเข้าถึงการตรวจสอบ และบ ารุงรักษาระบบปรับอากาศและระบายอากาศ -หุ้มฉนวนหุ้มท่อส่งลม เพื่อป้องกันและลดการเกิดน ้าเกาะที่ท่อส่งลม เนื่องจาก อากาศภายนอกมีอุณหภูมิสูงกว่าภายในห้อง อาจเกิดน ้าเกาะ (Condensation) ที่ผนังท่อส่งลม -เลือกเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพอากาศส าหรับ COHORT WAR D รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 80
วัตถุประสงค์ผลผลิต (Out put) ที่ได้ผลลัพธ์ที่คาดหมายผลกระทบที่คาดว่าเกิดขึ้นแนวทางผลักดันและผู้ใช้ ประโยชน์ 1.เพื่อสร้างระบบการ หมุนเวียนอากาศ และ กรองอากาศส าหรับ COHORT WARD ใน สถานการณ์ระบาด COVID-19 การกรองอากาศสามารถ ควบคุมและลดอนุภาคใน อากาศที่ผ่านการกรอง ได้ผลว่าจ านวนอนุภาค ลดลงระบบระบายอากาศ และ การกรองอากาศสามารถ ควบคุมและลดอนุภาคใน อากาศที่ผ่านการกรองได้ระยะความยาวของท่อส่ง ระบายอากาศ อาจส่งผล กระทบต่อประสิทธิภาพใน การหมุนเวียนและระบาย อากาศให้ลดน้อยลงประยุกต์น าไปใช้เป็นหอ ผู้ป่วยแยกโรคแพร่เชื้อทาง อากาศ หรือเป็นสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการผู้มีความ เสี่ยงโรคติดต่อ หรือผู้ป่วย ในนอนพักรักษาอาการ โรคติดต่อ และโรคอื่นๆได้ 2.เพื่อเป็นแนวทางการ ด าเนินงานพัฒนาระบบ ปรับอากาศ และการ ระบายอากาศเพื่อลดสิ่ง ปนเปื้อนทางอากาศที่ เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลการกรองอากาศสามารถ ควบคุมและลดอนุภาคใน อากาศที่ผ่านการกรอง ได้ผลว่าจ านวนอนุภาค ลดลงระบบระบายอากาศ และ การกรองอากาศสามารถ ควบคุมและลดอนุภาคใน อากาศที่ผ่านการกรองได้ขนาดของ เครื่องปรับอากาศต้องมี ขนาดเหมาะสมกับปริมาตร ของห้อง เพราะอาจส่งผล ต่อประสิทธิภาพการ ระบายอากาศ จัดท าแผนบ ารุงรักษา เครื่องปรับอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ เครื่องปรับอากาศให้คงที่ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 81
วัตถุประสงค์ผลผลิต (Out put) ที่ได้ผลลัพธ์ที่คาดหมายผลกระทบที่คาดว่าเกิดขึ้นแนวทางผลักดันและผู้ใช้ ประโยชน์ 3. ป้องกันการฟุ้งกระจาย อนุภาคที่อาจมีเชื้อโรค ปนเปื้อนในอากาศขณะ ท าหัตถการ ป้องกันการฟุ้งกระจายของ อนุภาคที่ปนเปื้อนใน อากาศขณะท าหัตการกับ ผู้ป่วย ก าหนดทิศทางการ ไหลอากาศจากสะอาดมาก ไปสะอาดน้อย ดูดอากาศ บริเวณหัวเตียงผู้ป่วยผ่าน การกรอง และฆ่าเชื้อด้วย รังสียูวี และดูดอากาศก่อน ออกจาก COHORT WARD ลดการฟุ้งกระจายของ อนุภาคปนเปื้อนในอากาศ อันเกิดจากตัวผู้ป่วยเฉพาะ ราย ควบคุมทิศทางการ ไหลของอากาศบริเวณ โดยรอบเตียงผู้ป่วย ขณะ ท าหัตการการรักษาผู้ป่วย ได้ต่อเนื่อง ผ่านการกรอง และฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี -ประสิทธิภาพของอุโมงค์ ลมอาจลดน้อยลงเนื่องจาก ปัจจัยจากสถานที่และ สภาพแวดล้อมที่ไม่รองรับ กับต้นแบบตัวโครงสร้าง -สถานที่คับแคบท าให้ไม่ สะดวกในการท าหัตถการ ศึกษาข้อมูล พัฒนาต่อยอด การระบายอากาศในอุโมงค์ ลม เพื่อพัฒนประสิทธิภาพ ให้เพิ่มมากขึ้น รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 82
วัตถุประสงค์ผลผลิต (Out put) ที่ได้ผลลัพธ์ที่คาดหมายผลกระทบที่คาดว่าเกิดขึ้นแนวทางผลักดันและผู้ใช้ ประโยชน์ 4.ส่งเสริม พัฒนา ศักยภาพเจ้าหน้าที่ของ โรงพยาบาลให้มีความรู้ ความเข้าใจ และแนวทาง การป้องกัน และลด จ านวนอนุภาคที่อาจมีเชื้อ โรคปนเปื้อนในอากาศ ตามมาตรฐานที่ก าหนด เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล มีองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม ความปลอดภัยใน โรงพยาบาล ด้านระบบ ปรับอากาศและการระบาย อากาศ เป็นแนวทางในการ ป้องกัน และลดจ านวน อนุภาคที่อาจมีเชื้อโรค ปนเปื้อนในอากาศตาม มาตรฐาน การพัฒนาองค์ความรู้แนว ทางการใช้งาน การ บ ารุงรักษา การเตรียม ความพร้อม วิศวกรรม ความปลอดภัยใน โรงพยาบาล ด้านระบบ ปรับอากาศและการระบาย อากาศ ความไม่คุ้นชินในการใช้ งานด้านระบบระบาย อากาศ และการแก้ไข ปัญหาเบื้องต้นเนื่องจาก ความเข้าใจทางเทคนิค จัดท าสื่อการเรียนรู้ด้าน วิศวกรรมความปลอดภัย คู่มือการใช้งาน การ บ ารุงรักษา การแก้ไข เบื้องต้น และค านวณ ค่าใช้จ่ายไฟฟ้า รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 83
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ด้านวิชาการด้านนโยบายด้านชุมชน สังคม สาธารณะด้านเศรษฐกิจ เป็นแหล่งเรียนรู้การให้ค าแนะน า การจัดท า COHOT WARD ใน โรงพยาบาล สถานบริการสุขภาพ ส่วนภูมิภาค เพื่อมีสถานที่รองรับการรักษาผู้ป่วย แพร่เชื้อทางอากาศ COHORT WARD ที่มีมาตรฐานการป้องกัน และลดการแพร่กระจายเชื้อทาง อากาศ โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต ป้องกันและลดการฟุ้งกระจายของ อนุภาคปนเปื้อนในอากาศอันเกิดจาก ตัวผู้ป่วยเฉพาะราย ควบคุมทิศ ทางการไหลของอากาศบริเวณ โดยรอบเตียงผู้ป่วย ขณะท าหัตการ การรักษาผู้ป่วยได้ต่อเนื่อง ผ่านการ กรอง และฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี เตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ส าหรับการรักษา ผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง ประหยัดงบประมาณภาครัฐ ในการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ป้องกันส่วนบุคคล กรณีการ เกิดโรคระบาดภาวะฉุกเฉิน และรอการจัดสรร฿ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 84
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 7 ขอขอบพระคุณ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 85
การวิจัยฉบับสมบูรณ คณะผูตรวจสอบทางวิชาการไดมีคําแนะนําเพิ่มเติม และคณะผูวิจัยตอบ ประเด็น ดังนี้ 1. ควรกําหนดเกณฑในการสรางอุโมงคลมระบายอากาศเพื่อใหไดมาตรฐานตามที่ผูวิจัยไดศึกษา (หนา 31-42) และแนบ TOR รายงานความกาวหนา 2. ควรกําหนดการบํารุงรักษาวาควรทําอยางไร เสียงกระทบกับผูปวยหรือไม (หนา 48 ) การบํารุงรักษาอุโมงคลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผูปวยปองกันเชื้อ COVID-19 อาคาร ผูปวยในเปนโรงพยาบาล COHORT WARD 3. แกไขบทคัดยอภาษาอังกฤษกอนเผยแพร ดําเนินการแกไขแลว 4. ขาดขอมูลการนําเสนอการฟุงกระจายของอนุภาคเชื้อโรค อนุภาคจะมีทิศทางการไหลของอากาศไปในทิศทางเดียวจะไมมีการฟุงกระจายของอนุภาคเชื้อโรค (หนา 7-9) 5. หากมี virus covid ตางสายพันธุ จะเปนปญหาหรือไม ในกรณีมีไวรัสโคโรนาตางสายพันธุจะไมเปนปญหาในการควบคุมการฟุงกระจาย เพราะมีการควบคุมความ ดันอากาศและการไหลเวียนอากาศไปในทิศทางเดียวมีการกรองฆาเชื้อตามมาตรฐานการฟุงกระจายของเชื้อ 6. ขาดการวัดการบรรลุวัตถุประสงค (หนา 41-45) ผลการศึกษา การตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตามตารางที่ 4.1 ถึง 4.5 7. อาจนํามาประยุกตกับโรงพยาบาลสนามไดในอนาคต สามารถสรางและนํามาประยุกตใชกับโรงพยาบาลทั่วไปโดยมีขนาดเทาเดิมและเพิ่มพื้นที่การรักษาไดโดยมี การเปดหมุนดานซายขวา หนา 29-32 8. ขาดการแสดงผลทดสอบประสิทธิภาพที่วัดได อางผลการศึกษาของการตรวจวัดทดสอบประสิทธิภาพจากการใชวัสดุที่ไดมาตรฐาน วสท.มาประกอบและจัด สราง ตามหนาที่ 7 ถึงหนาที่ 16 และผลการศึกษา ตารางที่ 4.1 ถึง 4.5 9. นําเสนอใหกรมควบคุมโรคนําไปประยุกตใชในโรงพยาบาลบุษราคัม ตนแบบในการจัดจางใชงานจริงจะมีตนทุนที่นอยกวาตนแบบที่ใชในการสรางทดสอบที่สรางติดตั้งโรงพยาบาล ทางจิตเพราะตองมีความแข็งแรงเปนพิเศษ 10. คาใชจายในสวนของคาไฟโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นหรือไม การคํานวณคาไฟที่ใชในอาคาร COHORT WARD ตามอภิปรายผลบทที่ 5 หนา 48 ขอมูลจําเพาะ คุณสมบัติใบพัดแบบโคงหลัง หมายเหตุ การไหลเวียนอากาศ สงสุด ปานกลาง เงียบ การใชพลังงาน (วัตต) -37 21 18 อัตราไหลเวียนอากาศ 2.8/3.2 ตารางเมตร/นาที 1.4/1.1 ตารางเมตร/นาที 0.9/0.6 ตารางเมตร/นาที ความดังเสียงตํ่ากวา 43 เดซิเบล 20 เดซิเบล 16 เดซิเบล ขอมูลแผนกรองอากาศ ผานกรองหยาบชั้นแรก แผนกรองอุภาคขนาดเล็ก 20-35% EP-DX40E-902 95-97% EP-BX40-002 ตอบประเด็น คณะกรรมการฯ รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 86
บรรณานุกรม จริยา แสงสัจจาและคณะ, 2560. การปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในสถานพยาบาล. สถาบันบ าราศ นราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และสมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศ ไทย, 2547. ข้อแนะน าเฉพาะกาลส าหรับการออกแบบและติดตั้งระบบปรับอากาศ และระบายอากาศของสถานพยาบาล รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 87
ภาคผนวก ข แบบฟอร์มการตรวจสอบ บ ารุงรักษาความพร้อมของอุโมงค์ลม เพื่อรองรับผู้ป่วย COVID-19 ก รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 88
64 แบบฟอร์มการตรวจสอบ บ ารุงรักษาความพร้อมของอุโมงค์ลม เพื่อรองรับผู้ป่วย COVID-19 โรงพยาบาล................................................................................... จังหวัด ………………………………………………... กลุ่ม/งาน ....................................................................................... วันที่ ……………………………………………………. รายการ พร้อม ไม่พร้อม หมายเหตุ 1. โครงสร้าง ส่วนประกอบ 1.1 โครงสร้าง ผนัง ไม่มีการแตกร้าว ไม่มีเหลี่ยมคม ไม่สะสม สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง 1.2 ขอบยาง ต่อร่วมกับช่องรับลมสนิท เพื่อป้องกันการรั่วไหล และ ควบคุมการหมุนเวียนอากาศอุโมงค์ลม 1.3 ล้อ และการเคลื่อนย้ายอุโมงค์ลมคล่องตัว 2. ระบบกรองอากาศและการหมุนเวียนอากาศ 2.1 ช่องหัวเตียงอากาศด้านทางเข้าชุดดูดอากาศอุโมงค์ ไม่มีการอุด ตันของแผงกรองอากาศ 2.2 ช่องอากาศออกอุโมงค์ไม่มีการอุดตันของแผงกรองอากาศ 2.3 อุณหภูมิ °C (21-24 °C) 2.4 ความชื้นสัมพัทธ์ %RH (40-60 %RH) 2.5 อัตราการหมุนเวียนอากาศ ไม่น้อยกว่า 12 เท่าของปริมาตรห้อง ต่อชั่วโมง (ACH) ทั้ง 3 ระดับของการปรับเลือกความเร็วของพัดลม 2.6 ตรวจสอบแรงดันอากาศ Ante Room ค่าที่อ่านได้จากเครื่องวัด แรงดันหน้าห้องมีแรงดันเป็นลบ (อยู่ระหว่าง 5/10 Pascal) 2.7 ตรวจสอบแรงดันอากาศ Isolate Room ค่าที่อ่านได้จาก เครื่องวัดแรงดันหน้าห้องมีแรงดันเป็นลบ (อยู่ระหว่าง 10/15 Pascal) รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 89
65 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะของผู้ใช้ห้อง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ............................................................ผู้ตรวจสอบ (......................................................) ต าแหน่ง ........................................................ วันที่ .................................................................... ลงชื่อ............................................................เจ้าหน้าที่ รพ. (......................................................) ต าแหน่ง ........................................................ วันที่ .................................................................... รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 90
ภาคผนวก ค One Page สรุปผลการด าเนินงานวิจัย ข รายงานการวิจัย สร้างอุโมงค์ลมระบายอากาศความดันลบหัวเตียงผู้ป่วยป้องกันเชื้อ COVID-19 อาคารผู้ป่วยในเป็นโรงพยาบาลสนาม COHORT WARD 91