The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 4 ประถม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wijitra, 2022-06-15 03:33:00

หน่วยที่ 4 ประถม

หน่วยที่ 4 ประถม

หน่วยที่ 4
การจดั การและกำจดั วสั ดทุ ี่ใชแ้ ล้ว

เรือ่ งท่ี 1 การจดั การวสั ดทุ ่ใี ชแ้ ลว้ ด้วยหลัก 3R

3R เป็นหลกั การจดั การวสั ดุทใี่ ชแ้ ลว้ เพอ่ื ลดปรมิ าณวสั ดุทใ่ี ช้แลว้ โดยใชห้ ลกั การ
ใชน้ ้อยหรอื ลดการใช้ (Reduce) การใชซ้ ้ำ (Reuse) และการผลติ ใชใ้ หม่ (Recycle) เพ่อื เป็น
แนวทางปฏบิ ัตใิ นการลดปรมิ าณการใช้วสั ดใุ นครัวเรอื น โรงเรียน และชุมชน ดังนี้
1. การใชน้ อ้ ยหรอื ลดการใช้ (Reduce) มีวิธกี ารปฏบิ ัติดังน้ี

1.1 ปฏิเสธหรอื หลีกเล่ยี งสิ่งของหรือบรรจภุ ัณฑท์ จ่ี ะสรา้ งปญั หาขยะ
1.1.1 ปฏเิ สธการใชบ้ รรจภุ ัณฑ์ฟุ่มเฟือยรวมท้ังวสั ดทุ ี่เปน็ มลพิษตอ่ สงิ่ แวดล้อม อาทิเชน่ กลอ่ ง

โฟมถุงพลาสตกิ หรอื วัสดมุ ีพษิ อ่นื ๆ

ภาพท่ี 4.1 สญั ลกั ษณ์ Reduce
ท่ีมา : http://demo10.rpu.ac.th

1.1.2 หลีกเล่ยี งการเลอื กซ้ือสนิ คา้ หรอื ผลิตภัณฑ์ท่ีใชบ้ รรจุภัณฑห์ อ่ หุ้มหลายชั้น
1.1.3 หลกี เลีย่ งการเลือกซ้ือสนิ ค้าชนิดใชค้ รั้งเดยี ว หรอื ผลติ ภณั ฑท์ ่ีมีอายกุ ารใช้งานต่ำ
1.1.4 ไมส่ นับสนนุ รา้ นค้าทก่ี ักเก็บและจ้าหน่ายสินค้าทีใ่ ชบ้ รรจภุ ณั ฑ์ฟุ่มเฟอื ย และไม่มีระบบ
เรยี กคนื บรรจุภัณฑ์ใชแ้ ล้ว

1.1.5 กรณีการเลอื กซ้ือผลติ ภัณฑป์ ระจ้าบา้ นที่ใช้เป็นประจา้ เช่น สบู่ผงซกั ฟอก น้ำยาลา้ งจาน
ใหเ้ ลือกซ้ือผลติ ภณั ฑท์ ม่ี ีปริมาณบรรจมุ ากกวา่ เนือ่ งจากใช้บรรจภุ ัณฑ์นอ้ ยกว่าเมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั
หน่วยนา้ หนกั ของผลติ ภณั ฑ์

1.2 เลอื กใช้สนิ คา้ ที่สามารถส่งคืนบรรจุภัณฑ์สู่ผ้ผู ลิตได้
1.2.1 เลอื กซ้ือสินค้าหรือใชผ้ ลิตภัณฑ์ที่มกี ารน้าบรรจภุ ัณฑ์หมุนเวยี นกลับไปบรรจใุ หม่ เช่น

เครือ่ งดื่มชนดิ ขวดแกว้
1.2.2 เลือกซ้ือสินคา้ หรอื ผลิตภณั ฑ์ที่สามารถนา้ กลับไปรไี ซเคิลได้ หรือมสี ่วนประกอบของวัสดุ

รีไซเคลิ เชน่ เครอ่ื งใชท้ ี่ท้าจากพลาสตกิ
1.2.3 เลอื กซื้อสินคา้ หรือผลติ ภณั ฑ์ท่ีผู้ผลติ เรยี กคืนซากบรรจุภัณฑ์หลังจากการบริโภคของ

ประชาชน

ภาพที่ 4.2 การรณรงค์ลดใชถ้ งุ พลาสติกของหนว่ ยงานต่าง ๆ

ทมี่ า : http://www.bloggang.com

2. ใช้ซ้ำ (Reuse)
ใชซ้ ้ำ เปน็ หนง่ึ ในแนวทางการใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรท่ีมีอยูอ่ ย่างรู้คณุ คา่ การใชซ้ ้ำเปน็

การท่ีเราน้าส่ิงต่าง ๆ ทใี่ ช้งานไปแล้ว และยังสามารถใชง้ านได้ กลบั มาใชอ้ กี เปน็ การลดการใช้
ทรพั ยากรใหม่ รวมทั งเปน็ การลดปริมาณวัสดทุ ่ใี ชแ้ ล้วที่จะเกดิ ขึ้นอกี ดว้ ย ตัวอยา่ งของการใช้ซ้ำ
ไดแ้ ก่

2.1 เลอื กซื้อหรือใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ทีอ่ อกแบบมาใหใ้ ชไ้ ดม้ ากกวา่ 1 ครั้ง เชน่ แบตเตอรี่ประจุ
ไฟฟา้ ใหม่ได้

2.2 ซ่อมแซมเครอื่ งใช้ และอปุ กรณต์ ่าง ๆให้สามารถใชป้ ระโยชน์ต่อไปไดอ้ ีก
2.3 บำรงุ รักษาเครอื่ งใช้ อปุ กรณต์ า่ ง ๆ ให้สามารถใช้งานได้คงทนและยาวนานขึ้น

ภาพที่ 4.3 สญั ลักษณ์ Reuse

ที่มา : http://demo10.rpu.ac.th

2.4 นำ้ บรรจุภณั ฑแ์ ละวัสดเุ หลอื ใชอ้ น่ื ๆ กลับมาใชป้ ระโยชนใ์ หม่ เชน่ การใชซ้ ้ำถุงพลาสตกิ ถงุ ผ้า ถุง
กระดาษ และกลอ่ งกระดาษ การใชซ้ ้ำขวดน้าดื่ม เหยือกนม และกลอ่ งใส่ขนม

ภาพที่ 4.4 การลดปริมาณขยะด้วยการใช้ซ้ำ โดยใชแ้ ก้วน้าเซรามคิ หรอื แกว้ ใส
แทนแก้วพลาสติก หรือแกว้ กระดาษเคลือบ

2.5 ยืม เช่า หรอื ใชส้ ิ่งของหรือผลิตภณั ฑ์ท่ีใช้บอ่ ยคร้ังร่วมกนั เช่น หนังสอื พมิ พ์วารสาร
2.6 บรจิ าคหรอื ขายส่ิงของเครือ่ งใชต้ ่าง ๆ เช่น หนงั สอื เส้ือผ้า เฟอรน์ เิ จอรแ์ ละเคร่อื งมือใชส้ อยอน่ื ๆ
2.7 น้ำส่งิ ของมาดัดแปลงให้ใชป้ ระโยชนไ์ ด้อกี เช่น การนา้ ยางรถยนต์มาทา้ เก้าอี้ การน้ำขวดพลาสตกิ
มาดดั แปลงเป็นทีใ่ ส่ของ แจกัน การนำเศษผ้ามาทา้ เปลนอน เปน็ ตน้
2.8 ใช้ซ้ำวสั ดสุ ำนกั งาน เชน่ การใชก้ ระดาษท้ังสองหน้า เปน็ ตน้

ภาพท่ี 4.5 เก้าอี จากขวดนา้ ภาพที่ 4.6 พรมเช็ดเทา้ จากเศษผ้า
ท่มี า : https://www.l3nr.org
ทีม่ า : http://www.oknation.net

ภาพท่ี 4.7 กระถางตน้ ไม้จากรองเท้าเก่า ภาพท่ี 4.8 ตุก๊ ตาตกแตง่ สวนจากยางรถยนต์เก่า

ท่มี า : http://www.jeab.com ทมี่ า : http://www.jeab.com

1. การแปรรูปนากลับมาใชใ้ หม่ (Recycle)
การรไี ซเคิลหรือแปรรูปกลับมาใชใ้ หม่ หมายถงึ การนำเอาวัสดทุ ย่ี ังสามารถน้ากลบั มาใช้ใหม่ มา
หมุนเวียนเขา้ สู่กระบวนการผลติ ตามกระบวนการของแต่ละประเภทเพอื่ น้ากลับมาใชป้ ระโยชน์ใหม่
ซง่ึ นอกจากจะเปน็ การลดปรมิ าณวสั ดุทใี่ ชแ้ ล้ว ยงั เปน็ การลดการใช้พลงั งานและลดมลพิษทเี่ กิดกับ
สิง่ แวดล้อม วัสดรุ ีไซเคิล โดยทว่ั ไปแยกได้เปน็ 4 ประเภท คือ แก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะและ

อโลหะ สว่ นบรรจุภัณฑบ์ างประเภทอาจจะใช้ซ้ำไม่ได้ เชน่ กระปอ๋ งอลมู เิ นยี ม หนงั สือเก่าขวด
พลาสตกิ ซ่ึงแทนทีจ่ ะนำไป ก็รวบรวมนำมาขายใหก้ บั ร้านรบั ซื้อของเก่า เพื่อส่งไปยงั
โรงงานแปรรปู เพื่อนา้ ไปผลิตเปน็ ผลิตภัณฑ์ตา่ ง ๆ ดังนี้

1) นำขวดพลาสตกิ มาหลอมเปน็ เม็ดพลาสตกิ
2) นำกระดาษใชแ้ ลว้ แปรรูปเป็นเยือ่ กระดาษ เพ่อื น้าไปเปน็ สว่ นผสมในการผลิต
เปน็ กระดาษใหม่
3) นำเศษแกว้ เกา่ มาหลอม เพอื่ ข้ึนรปู เป็นขวดแกว้ ใบใหม่
4) นำเศษอลูมเิ นียมมาหลอมข้ึนรปู เป็นแผ่น น้ามาผลติ เป็นผลิตภัณฑอ์ ลูมิเนยี ม
รวมทั้งกระปอ๋ งอลูมิเนียม

ภาพท่ี 4.9 สัญลกั ษณ์ Recycle

ท่ีมา : http://demo10.rpu.ac.th

ภาพท่ี 4.10 การแปรรูปผลติ ภณั ฑ์น้ากลับมาใชใ้ หม่

ท่มี า : http://www.bantub.go.th

กลา่ วโดยสรปุ 3R เปน็ หลักการจดั การวัสดทุ ี่ใชแ้ ล้ว เพอื่ ลดปรมิ าณวัสดุทใ่ี ช้แลว้ ในครวั เรือน โรงเรยี น
และชุมชน หากทกุ คนมีส่วนรว่ มในการช่วยลดปรมิ าณวสั ดุท่ีใชแ้ ลว้ โดยเรมิ่ ทคี่ นในครอบครวั และ
ชักชวนไปสู่ชุมชน หมู่บ้าน และสถานที่ท้างาน ปัญหาท่ีเกดิ จาการใช้วสั ดุจนล้นเมืองก็จะลดนอ้ ยลง
ชุมชนและสังคม มีสิ่งแวดลอ้ มท่ดี ี และน่าอยู่ยงิ่ ข้ึน

เร่ืองท่ี 2 การกาจดั และการทาลาย

ปัญหาที่เกิดข้ึนจากวัสดุที่ใช้แล้วในปัจจุบัน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญ

และร่วมมือกันแก้ไข เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนทุกระดับ และนับวันจะทวีความรุนแรงมาก

ยิง่ ขน้ึ ท้ังนี้ เนือ่ งจากความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ การเพม่ิ ขึ้นของจำนวนประชากร ตลอดจน

พฤติกรรมการอุปโภค บริโภคของคนเราเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยใช้ตะกร้าเวลาไปจ่ายตลาด ใช้

ใบตองซึ่งเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายห่ออาหาร แต่ปัจจุบันมีการใช้สินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์จ ำพวก

พลาสติก โฟม แกว้ กระดาษ โลหะ อลูมิเนยี ม เพิ่มขึ้นเร่อื ย ๆ ทา้ ให้ปรมิ าณวสั ดทุ ถ่ี กู ใชเ้ พิ่มขนึ้ ตามไป

ดว้ ย

2.1 ระยะเวลาการยอ่ ยสลายของวัสดุ

วสั ดแุ ต่ละชนดิ ที่ย่อยสลายได้จะมอี ัตราเรว็ ในการยอ่ ยสลายต่างกนั วัสดุบางชนดิ มอี ัตราเร็วของการ

ย่อยสลายต่ำมากสามารถยอ่ ยสลายได้เองตามธรรมชาติ แต่วสั ดุบางชนดิ เชน่ แกว้ กไ็ ม่สามารถย่อย

สลายได้ อตั ราเรว็ ของการย่อยสลายของขยะแตล่ ะชนดิ มีความแตกตา่ งกัน ดังน้ี

วสั ดุ ประเภท ระยะเวลา

ผลติ ภัณฑ์ การยอ่ ยสลาย

วสั ดธุ รรมชาติ 5 วัน – 1 เดือน

เศษพืชผัก

วสั ดุธรรมชาติ 3 เดอื น

ใบไม้

วัสดุ ประเภท ประเภท
ผา้ ฝ้าย ผลิตภณั ฑ์ ผลิตภัณฑ์
เศษกระดาษ วัสดธุ รรมชาติ 1 - 5 เดอื น
เปลือกสม้ 2 - 5 เดือน
วัสดุสังเคราะห์ 6 เดือน

วัสดธุ รรมชาติ 1 ปี

วัสดสุ งั เคราะห์ 5 ปี

ผา้ ขนสตั ว์ วสั ดสุ ังเคราะห์
กลอ่ งนมเคลอื บพลาสติก

วสั ดุ ประเภท ระยะเวลา
เชือก ผลติ ภัณฑ์ การยอ่ ยสลาย
ไม้ วัสดสุ ังเคราะห์ 3 - 14 เดอื น
ก้นกรองบหุ ร่ี
รองเทา้ หนัง วสั ดุธรรมชาติ 13 ปี
กระป๋องอลมู ิเนียม
วสั ดสุ งั เคราะห์ 12 - 15 ปี
วัสดุสังเคราะห์ 25 - 40 ปี

วัสดสุ ังเคราะห์ 80 - 100 ปี

วัสดุ ประเภท ระยะเวลา
ผลติ ภัณฑ์ การยอ่ ยสลาย

กระปอ๋ งโลหะ วัสดุสงั เคราะห์ 100 ปี
ถุงพลาสติก วัสดุสังเคราะห์
ขวดพลาสติก วสั ดุสังเคราะห์ 450 ปี
ผา้ อ้อมเดก็ ชนดิ ส้าเร็จรปู วสั ดสุ งั เคราะห์ 450 ปี

500 ปี

วสั ดุ ประเภท ระยะเวลา

ผลติ ภณั ฑ์ การยอ่ ยสลาย

วัสดสุ ังเคราะห์ ไมย่ ่อยสลาย

โฟม

วสั ดสุ ังเคราะห์ ไม่มกี ารเปลย่ี นแปลง

ขวดแกว้

ภาพท่ี 4.11 แสดงระยะเวลาในการยอ่ ยสลายขยะแต่ละประเภท

2.2 การกาจัดวัสดุที่ใช้แลว้
วธิ ีการกำจดั วัสดุทใี่ ช้แลว้ ท่ใี ชต้ ่อเนอ่ื งกนั มาต้ังแต่อดตี จนถึงปจั จบุ ันมหี ลายวิธี เช่น นำไปกองท้ิง

บนพ้ืนดนิ นำไปท้ิงลงทะเล เผากลางแจ้ง เผาในเตาเผาและฝังกลบอยา่ งถกู หลักสขุ าภบิ าล เป็นตน้
การกำจดั วสั ดุดังที่กลา่ วมานั้นบางวธิ ีเป็นการกำจดั ท่ไี ม่ถกู ต้องทา้ ให้เกดิ ภาวะเปน็ พิษต่อ
สภาพแวดลอ้ ม และมีผลกระทบต่อสขุ ภาพ ดงั นั้น ก่อนจะเลือกใชว้ ิธกี ารกำจัดวัสดุแตล่ ะประเภทตอ้ ง
ศกึ ษารปู แบบทเ่ี หมาะสมวธิ ีการกำจัดวัสดุท่ใี ช้แล้วที่ถูกหลกั วิชาการ ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

(1) ไม่ทำให้บริเวณท่กี ำจัดวสั ดทุ ่ีใชแ้ ล้วเปน็ แหลง่ อาหาร แหล่งเพาะพนั ธุ์
สัตว์และแมลงน้าโรค เช่น แมลงวัน ยุง และแมลงสาบ เปน็ ตน้

(2) ไม่ทำใหเ้ กิดการปนเป้อื นแกแ่ หล่งน้ำและพ้ืนดนิ
(3) ไม่ทำให้เกิดมลพิษต่อส่ิงแวดลอ้ ม
(4) ไม่เปน็ สาเหตุแห่งความรำคาญ อนั เนือ่ งมาจาก กลนิ่ ควนั ทศั นวสิ ัยและวิธกี ารกองท้ิงบน
ดนิ การน้าไปทิ้งทะเล รวมท้ังการเผากลางแจ้ง ถอื วา่ เป็น

วธิ กี ารกำจัดขยะวสั ดุทใ่ี ช้แลว้ ท่ไี มถ่ กู ต้อง เพราะทา้ ให้เกดิ ปญั หาภาวะมลพษิ ต่อสภาพแวดล้อม
วธิ ีการกำจดั วัสดุทีถ่ กู ตอ้ งตามหลกั สุขาภิบาล คือ การเผาในเตาเผา และการฝังกลบ

ภาพที่ 4.12 การเก็บขนวสั ดุทใ่ี ชแ้ ลว้
ทมี่ า : คมู่ อื การกำจัดขยะมูลฝอย แบบฝงั กลบอย่างถูกสุขาภบิ าล กรมควบคุมมลพษิ หนา้ 3,9

2.2.1 การเผา
การเผาสามารถท้าลายวสั ดุได้เกือบทกุ ชนิด เตาเผามหี ลายชนิดขึ้นอยูก่ บั ลักษณะของวัสดุ ถา้ เปน็ วสั ดุ
ประเภทที่ตดิ ไฟงา่ ย สามารถใช้เตาเผาชนดิ ทไี่ มต่ อ้ งใชเ้ ชื้อเพลิง
ช่วย แตถ่ ้าวัสดมุ ีความช้ืนมากกวา่ ร้อยละ 50 เตาเผาตอ้ งเปน็ ชนดิ ทีใ่ ชเ้ ชื้อเพลงิ จ้าพวกน้ำมัน
เตา ชว่ ยในการเผาไหม้ การเผาในเตาเผาใชเ้ นื้อที่นอ้ ย สว่ นทเี่ หลือจากการเผาไหม้ เช่น ข้ี เถ้า
สามารถนำไปใช้ถมทด่ี นิ หรอื ใช้ประโยชนอ์ ยา่ งอ่นื ได้การกำจัดวัสดทุ ี่ใชแ้ ลว้ ด้วยการเผา สามารถแบง่
ออกเปน็ 2 กลุ่มใหญ่ คอื

1. วสั ดุท่ใี ช้แลว้ ท่ีเผาไหมไ้ ด้ ไดแ้ ก่ กระดาษ ผา้ หรอื สิ่งทอ ผกั ผลไมเ้ ศษอาหาร พลาสตกิ
หญ้าและไม้

2. วสั ดทุ ใ่ี ชแ้ ลว้ ท่ีเผาไหม้ไม่ได้ ไดแ้ ก่ เหล็กหรือโลหะอ่ืน ๆ แกว้ หินกระเบื้อง เปลอื กหอย
ฯลฯ

การกาจดั วสั ดุที่ใชแ้ ลว้ โดยใช้เตาเผา
เป็นการทำลายวัสดทุ ใ่ี ช้แล้วด้วยวิธีการเผาท้าลายในเตาเผาทไ่ี ด้รับการออกแบบก่อสร้างที่

ถูกตอ้ งและเหมาะสม โดยตอ้ งให้มอี ุณหภูมิในการเผาท่ี 850 – 1,200 องศา-เซลเซยี ส เพ่ือให้การท้า
ลายทีสมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากความแตกต่างและลักษณะขององค์ประกอบของวัสดุแต่ละชนิด ดังนั้ น
รูปแบบของเตาเผาจึงแตกต่างกนั ไปดว้ ย เปน็ ต้นวา่ ถา้ ชมุ ชนทีม่ วี ัสดุที่ใชแ้ ล้วซ่ึงสว่ นใหญเ่ ปน็ ชนิดที่เผา
ไหมไ้ ด้งา่ ยเตาเผาอาจใช้ชนิดท่ีไม่ต้องใชเ้ ชื้อเพลิงอย่างอ่ืนช่วยในการเผาไหม้ แต่ถ้าองค์ประกอบของ
วัสดุมีสว่ นท่เี ผาไหมไ้ ด้ง่ายต่ำกว่าร้อยละ 30 (โดยนา้ หนกั ) หรือมีความชนื่ มากกว่ารอ้ ยละ 50 เตาเผา
ท่ีใชต้ ้องเปน็ ชนดิ ท่ีตอ้ งมเี ชื้อเพลิงช่วยในการเผาไหม้นอกจากน้ี เตาเผาทกุ แบบ จะตอ้ งมกี ระบวนการ
ควบคุมอุณหภูมิ ควันไอเสีย ฝุ่นผงและขี้เถ้า ที่อาจปนออกไปกับควันและปลิวออกมาทางปล่องควนั
เตาเผาทีม่ ปี ระสิทธภิ าพจะตอ้ งลดปริมาณของวสั ดุท่ีใช้แล้วลงไปจากเดิมให้มีเหลือนอ้ ยที่สดุ และส่วน
ที่เหลือจากการเผาไหม้นั้นก็จะต้องมีลกั ษณะคงรูป ไม่มีการย่อยสลายได้อีกต่อไป และสามารถน้ำไป
ใช้ประโยชน์ได้อยา่ งปลอดภัย
ขอ้ ดีของการกาจัดวสั ดุที่ใชแ้ ล้วโดยใชเ้ ตาเผา

1. ใช้พนื้ ที่ดนิ นอ้ ย เม่ือเทียบกบั วธิ ีฝังกลบ
2. สามารถทา้ ลายขยะมูลฝอยได้เกือบทกุ ชนดิ
3. สามารถสร้างเตาเผาในพื นทท่ี ่ีไม่ห่างไกลจากแหล่งกำเนดิ ขยะทำให้ประหยัดค่าขนส่ง
4. ไมม่ ผี ลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงสภาพอากาศ
5. สว่ นทเี่ หลอื จากการเผาไหม้ (ขี้เถ้า) สามารถน้าไปถมท่ีดินได้หรือทำวัสดุกอ่ สรา้ งได้

ข้อเสียของการกำจัดวัสดุที่ใช้แล้วโดยใชเ้ ตาเผา
1. คา่ ลงทนุ ในการกอ่ สรา้ งและคา่ ใช้จ่ายในการซ่อมแซม บำรุงรักษาคอ่ นข้างสงู
2. อาจเกิดปญั หาภาวะมลพิษทางอากาศได้

ภาพที่ 4.13 ระบบการเผาในเตาเผา

ทีม่ า : http://www.pcd.go.th

2.2.2 การฝงั กลบ
การกำจัดวัสดุทใ่ี ช้แล้วโดยการฝงั กลบ เปน็ การนา้ วสั ดุทใ่ี ช้แลว้ มาเทลงในพื้นท่ี ท่เี ตรยี มเอาไว้

ซ่งึ จะมกี ารวางระบบตา่ ง ๆ เพ่ือป้องกนั มใิ ห้มีการปลดปล่อยมลสารต่าง ๆ ออกส่ภู ายนอก แล้วใช้
เครอ่ื งจักรกลเกล่ียและบดอัดใหย้ บุ ตวั ลง หลงั จากนั้นใชด้ ินกลบทับและบดอดั ใหแ้ น่นอกี ครั้งหนึง่ จน
เต็มพนื้ ที่ เพอ่ื ปอ้ งกันปญั หาด้านกลน่ิ แมลง สัตว์ พาหะน้ำฝนชะล้างและเหตุรำคาญอ่นื ๆ
วิธกี ารฝังกลบวสั ดุทีใ่ ชแ้ ลว้ มี 3 วธิ ี คือ

1. วธิ ีฝังกลบแบบพื้นราบเปน็ วธิ กี ารฝังกลบท่ีเรมิ่ จากระดับดนิ เดิมโดยไม่มีการขุดดิน ทำการ
บดอดั วัสดุตามแนวราบกอ่ น แลว้ คอ่ ยบดอัดทบั ในชนั ถดั ไปสงู ข้ึนเรอื่ ย ๆ จนได้ระดับตามทีก่ ำหนด
การฝังกลบวสั ดทุ ีใ่ ชแ้ ลว้ โดยวิธนี ี้ จำเป็นต้องทา้ คนั ดินตามแนวขอบพ้ืนที่ เพอ่ื ทำหน้าทเี่ ปน็ ผนงั หรือ
ขอบยันการบดอัดและท้าหนา้ ทีป่ อ้ งกันน้ำเสยี ทเ่ี กดิ จากการย่อยสลายของวสั ดุเพ่อื ไม่ใหซ้ ึมออกมา
ด้านนอก ลกั ษณะของพ้ืนท่ี ทจี่ ้าเป็นต้องใชว้ ิธีน้ี คอื ที่ราบลุ่มหรือที่ ทม่ี รี ะดับน้ำใตด้ นิ อยู่ตำ่ กวา่ ผวิ
เลก็ นอ้ ย (ไม่เกิน 1 เมตร) ซง่ึ ไม่สามารถขดุ ดินเพื่อกำจดั ดว้ ยวธิ ีฝังกลบแบบขดุ รอ่ งได้เพราะอาจทา้ ให้

เกิดการปนเปอ้ื นของน้ำเสยี จากวัสดทุ ่ีใชแ้ ล้วลงส่นู ้ำใต้ดนิ ได้ง่าย การกำจัดด้วยวิธีนี้ จำเป็นต้องจดั หา
ดนิ จากทอี่ ื่นเพอื่ มาทำคนั ดิน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสงู ขึ้น

ภาพที่ 4.14 วิธีฝงั กลบแบบพ้ืนราบ
ท่ีมา : คู่มอื การกำจดั ขยะมูลฝอย แบบฝังกลบ
อย่างถูกหลกั สุขาภิบาล กรมควบคุมมลพษิ หนา้ 6

2. วิธีฝังกลบแบบขุดเป็นร่องเปน็ วิธีฝังกลบที่เริ่มจากระดับที่ต่ำกว่าระดับดินเดิมโดยทำการ
ขุดดินลึกลงไปใหไ้ ด้ระดับตามท่ีกำหนด แล้วจึงเริม่ บดอัดให้เปน็ ช้ันบาง ๆ ทับกันหนาข้ึน
เรื่อย ๆจนได้ระดับตามที่กำหนด โดยทั่วไปความลึกของการขุดร่อง จะถูกกำหนดด้วย
ระดับน้ำใต้ดินไม่น้อยกว่า 1 เมตร โดยยึดระดับน้ำในฤดูฝนเป็นเกณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้
เกิดการปนเปื้อนต่อน้ำใต้ดิน การฝังกลบแบบขุดเป็นร่อง ไม่จ้าเป็นต้องทำคันดิน เพราะ
สามารถใช้ผนังของร่องขดุ เปน็ กำแพงยันวัสดุที่จะบดอัดได้ ทำให้ไมต่ อ้ งขนดินมาจากด้าน
นอก และยังสามารถใชด้ นิ ท่ีขุดออกแล้วนั้น

ภาพท่ี 4.15 วิธฝี งั กลบแบบขุดร่อง
ท่มี า : คมู่ ือการกำจดั ขยะมูลฝอย แบบฝังกลบ
อย่างถูกหลกั สขุ าภิบาล กรมควบคมุ มลพิษ

หน้า 7
3. วิธฝี งั กลบแบบหบุ เขาเป็นวธิ กี ารฝังกลบบนพ้ืนทท่ี ม่ี ลี ักษณะเปน็ แอ่งขนาดใหญ่ ซ่ึงอาจ
เกดิ ขน้ึ ตามธรรมชาตหิ รืออาจเกิดจากการขุด เชน่ หบุ เขา ห้วย บ่อ เหมือง ฯลฯ วธิ กี ารในการฝงั กลบ
และอัดวสั ดใุ นบอ่ แตล่ ะแหง่ อาจแตกตา่ งกันไปทั้งนี้ ข้นึ อยกู่ บั สภาพภมู ิประเทศของพื้นท่นี ้ัน ๆ เชน่ ถ้า
พน้ื ทีข่ องบ่อมีขนาดค่อนข้างราบ อาจใช้วธิ กี ารฝงั กลบแบบขุดร่องหรอื แบบทรี่ าบแล้วแตก่ รณี

ภาพท่ี 4.16 วธิ ฝี งั กลบแบบหบุ เขา
ท่มี า : คู่มอื การกำจัดขยะมูลฝอย แบบฝงั กลบ
อยา่ งถกู หลักสุขาภิบาล กรมควบคุมมลพษิ

หนา้ 7

ข้อดขี องวธิ ีการฝังกลบ
1. เป็นระบบทไี่ มย่ ุ่งยากซบั ซอ้ น
2. ระบบมคี วามยดื หย่นุ ดี กรณีที่เกิดปญั หาสามารถแก้ปัญหาได้ทนั ท่วงทไี มเ่ กิดปัญหาวัสดุท่ี
ใชแ้ ล้วตกคา้ ง
3. ไมม่ ีเศษเหลอื ตกคา้ งที่จะต้องนำไปกำจดั ต่อไป
4. สามารถกำจดั วัสดไุ ดท้ ุกประเภท ทุกขนาด ยกเวน้ ของเสียอันตรายและของเสียตดิ เชื้อ
5. เมอื่ ทำการฝงั กลบเตม็ พน้ื ท่แี ล้ว สามารถปรบั ปรงุ พ้ืนที่เดิม เพ่อื ทำเปน็ สวนสาธารณะ
สนามกีฬา
6. กา๊ ซทีเ่ กดิ จากการฝังกลบสามารถพัฒนาไปใช้เป็นเชื้อเพลงิ ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและอนื่
ๆ ได้

ภาพท่ี 4.16 วิธีฝงั กลบแบบหบุ เขา
ที่มา : คูม่ ือการกำจดั ขยะมูลฝอย แบบฝงั กลบ
อย่างถกู หลกั สขุ าภบิ าล กรมควบคุมมลพิษ

หนา้ 7

ข้อเสยี ของวธิ กี ารฝังกลบ
1. ตอ้ งการพ้ืนที่ฝังกลบขนาดใหญ่ ท้าให้ประสบปัญหาในการจดั หาพื้นที่
2. อยู่ห่างไกลชุมชน ทา้ ให้ต้องเสยี คา่ ใชจ้ ่ายในการขนส่งสงู
3. จำเป็นตอ้ งใชด้ นิ กลบทบั จำนวนมาก
4. ในชว่ งฤดูฝนอาจมปี ัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานและไม่สามารถทำการฝังกลบไดอ้ ย่าง
ตอ่ เนื่อง
5. อาจก่อให้เกดิ ปัญหาแมลงวันและกล่ินเหม็น หากดำเนนิ การฝังกลบไมถ่ ูกตอ้ งตามหลัก
สุขาภิบาล

ภาพท่ี 4.17 วธิ ฝี งั กลบจำเป็นตอ้ งการพื นท่ีฝงั กลบขนาดใหญ่
ทม่ี า : คู่มือการกำจัดขยะมูลฝอย แบบฝงั กลบอยา่ งถกู หลกั สขุ าภิบาล

กรมควบคุมมลพิษ หนา้ 14

กลา่ วโดยสรปุ ปัญหาทีเ่ กดิ ขึ้นจากการใชว้ ัสดใุ นปจั จบุ ัน เปน็ สาเหตสุ ำคัญทท่ี ้าใหม้ ี
ปริมาณวัสดทุ ใี่ ชแ้ ล้วเพ่มิ มากขึ้น ท้ังน้ี เนอื่ งจากความเจรญิ เตบิ โตทางด้านเศรษฐกิจ การเพม่ิ ข้ึน
ของจำนวนประชากร ตลอดจนกระบวนการผลติ และความต้องการในการบริโภคในสงั คม
ปัจจบุ ันเปลี่ยนแปลงไป การกำจดั วสั ดุท่ใี ชแ้ ล้ว มหี ลายวิธี แต่วธิ กี ารกำจดั ขยะวสั ดทุ ีใ่ ช้แล้วทถี่ กู
หลกั สุขาภบิ าล และเปน็ ทยี่ อมรบั วา่ เปน็ วิธกี ำจัดทีถ่ ูกตอ้ ง คอื การเผาในเตาเผาและการฝังกลบ


Click to View FlipBook Version