บ้านห้วยทราย หมู่ที่ 5 คณะผู้จัดทำ นักศึกษาฝึกภาคปฏิบัติ 2 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำ ปาง
ฐานข้อมูลชุมชนฉบับนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการจัด ทำ ฐานข้อมูลชุมชนหมู่ที่ 5 บ้านห้วยทรายเพื่อให้เกิดการศึกษารวบรวมและจัด เก็บข้อมูลชุมชนบ้านห้วยทรายอย่างมีส่วนร่วร่ม และเพื่อสร้าร้งกระบวนการเรียรีน รู้ร่รู้วร่มกันระหว่างนักศึกษาและชุมชนในการจัดการระบบฐานข้อมูลชุมชนบ้าน ห้วยทราย รวมทั้งเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการศึกษาหาสาเหตุของแต่ละ ปัญหา และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งฐานข้อมูลมี เนื้อหาเกี่ยวกับมิติแต่ละด้าน อันได้แก่ ประวัติชุมชน ข้อมูลมิติสังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง สวัสดิการสังคม สุขภาพ ประเพณี วัฒนธรรมของบ้านห้วยทราย และ ปัญหาความต้องการของคนในชุมชนบ้าน ห้วยทรายเป็นต้น ผู้จัดทำ หวังว่า ฐานข้อมูลฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านที่กำ ลังหาข้อมูล หากมีข้อแนะนำ หรือรืข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำ ขอน้อมรับรั ไว้และขออภัย มา ณ ที่นี้ คำ นำ 26/01/2566 คณะผู้จัดทำ
สารบัญ คำ ขวัฐหมู่บ้าน วิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็น ยุทธศาสตร์ ประวัติหมู่บ้านห้วยทราย พัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านห้วยทราย ข้อมูลด้านกายภาพ ข้อมูลด้านประชากร ลักษณะชุมชนและข้อมูลพื้นฐาน มิติด้านสังคมของหมู่บ้านห้วยทราย มิติการเมืองการปกครอง มิติวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา มิติเศรษฐกิจ มิติสวัสดิการสังคม ปัญหาความต้องการของคนในชุมชนบ้านห้วยทราย หน้า 1 2 3 4 5 6-8 9-10 11-17 18-19 20-24 25 4
คำ ขวัญหมู่บ้าน วิสัยทัศน์ องค์พระธาตุห้วยทรายเป็นศรี ของดีกู่คูบากู้(คู่)บ้าน OTOP ผ้าฝ้ายงามตระการ สมัครสมานบ้านห้วยทรายสามัคคี พันธกิจ 1. ชุมชนมีความสามัคคี 2. ชุมชนสนับสนุนเด็กผู้ด้อยโอกาสเพื่อให้ดํารงชีวิตอยู่ในชุมชนได้อย่างเท่าเทียมกัน 3. ชุมชนร่วร่มกันวางแผนโครงการอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ 4. ชุมชนเข้มแข็งกันสอดส่องดูแลสิ่งที่จะทําให้ชุมชนเสียหาย 5. ชุมชนต้องส่งเสริมริบุคคลที่มีความสามารถ 6. ชุมชนต้องอนุรักรัษ์วัฒนธรรม ประเพณี ศีลธรรม จริยริธรรมให้คนรุ่นรุ่หลังไว้สืบทอด 7. ชุมชนต้องดํารงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยริ แกร่งร่คุณธรรม ร่วร่มใจพัฒนา ชาวประชาอยู่เป็นสุข ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. ส่งเสริมริด้านอาชีพพื้นฐานเพื่อคนในชุมชนมรี ายได้เพิ่มข้ึน 2. ส่งเสริมริองค์กรภายในชุมชนให้เข้มแข็ง 3. จัดอบรมให้ความรู้ด้รู้ ด้านการเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลักให้ได้ประโยชน์สูงสุด 4. ส่งเสริมริด้านสาธารณูปโภคและบริกริาร 5. ส่งเสริมริด้านความสงบเรียรีบร้อร้ยภายในชุมชน 6. ส่งเสริมริและความร่วร่มมือกับฝ่ายปกครองและฝ่ายพัฒนาเพื่อให้เกิดความสามัคคีก้าวหน้า 7. ส่งเสริมริด้านเศรษฐกิจภายในชุมชนทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมริ 8. ส่งเสริมริด้านความร่วร่มมือระหว่างชุมชนเพื่อการดําเนินการรูปแบบของเครือรืข่ายองค์กร 9. ส่งเสริมริด้านการเรียรีนรู้ใรู้ห้แก่เยาวชนด้านศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น 10. แก้ไขปัญหาหนี้สินเพื่อให้เกิดความสมดุลด้านรายรับรัรายจ่าย 11. ใช้ระบบการวิเคราะห์ มาใช้การแก้ไขจุดอ่อนของชุมชนเพื่อแกไ้ ขวิกฤตเป็นโอกาส 12. ส่งเสริมริ ให้ชุมชนได้แสดงความคิดเห็นร่วร่มกันแก้ไขปัญหา 1
บ้านห้วยทรายได้แยกออกมาจากบ้านแปะ ซึ่งเป็นชุมชนแรกที่ ตั้งขึ้นในตำ บลบ้าน แปะ กลุ่มชาวบ้านที่ได้อพยพมาเพื่อต้องการหาแหล่งที่ทํามาหากินแห่งใหม่ เนื่องจากบ้าน แปะมีจํานวน ประชากรเพิ่มมากขึ้น จึงทําให้พื้นที่ที่เหมาะสําหรับรัทําการเพาะปลูกมีน้อยลง ทั้งนี้เพราะภูมิประเทศของบ้านแปะเป็นพื้นที่ราบเชิงเขามีลักษณะสูงต่ำ ที่ไม่สม่ำ เสมอกันทํา ให้พื้นที่ราบมีอยู่น้อย ประกอบกับพื้นดินมีหินผาอยู่ทั่วทำ ให้เป็นอุปสรรคต่อการทําเกษตร ซึ่งตรงข้ามกับบริเริวณที่เป็นบ้านทรายขณะนั้นกลับมีที่ราบกว้างใหญ่ ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ไม่มีหินผาในฤดูฝนยังสามารถนําน้ำ จากน้ำ ห้วยแม่แปะมาใช้ในการทําไร่ทํร่ ทํานาได้อย่าง เพียงพออีกด้วย กลุ่มชาวบ้านที่อพยพมากลุ่มแรก ๆ นี้ในตอนแรกมีจํานวนไม่มากนัก ต่อมา ก็มีการอพยพเพิ่ม เข้ามาเรื่อย ๆ จนมีจํานวนเพิ่มมากขึ้นจนในที่สุดก็สามารถจัดตั้งเป็น หมู่บ้านได้ และชื่อของชุมชนมีที่มาจาก สมัยก่อนในบริเริวณหมู่บ้านห้วยทรายส่วนใหญ่จะ เป็นห้วย และในสมัยนั้นเมื่อถึงหน้าแล้งจะมีความแห้งแล้ง เป็นอย่างมาก ขาดแคลนน้ำ ทํา ให้บริเริวณที่เป็นห้วยมีแต่ทรายเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านในปัจจุบัน ประวัติหมู่บ้าน ห้วยทราย พ่อครูจันทร์ สอนธื ผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติชุมชน 2
2293-2313 2485 2500-2506 2523 2528 2530-2533 2532 2535-2540 2537 2553 2556 เมื่อชุมชนบ้านห้วยทรายมีการจัดตั้งเป็นหมู่บ้าน และชุมชนเริ่มขยายตัว มีจํานวนประชากรในชุมชน เพิ่มมาก ขึ้น ทําให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เริ่มตามมา และได้เกิดสิ่งต่าง ๆ ขึ้น ดังนี้ 1. ในประมาณปี พ.ศ. 2293-2313 หรือรืเมื่อ 250-270ปีก่อน ได้มีการสร้าร้งวัดห้วยทรายขึ้น 2. ในประมาณปีพ.ศ.2485ได้มีการสร้าร้งโรงเรียรีนบ้านห้วยทรายขึ้นซึ่งมีอาคารเรียรีนแบบตึกชั้นเดยีว หลังคา ปั้นหยา จํานวน 4 ห้องเรียรีนโดยใช้ชื่อว่า โรงเรียรีนบ้านห้วยทรายสามัคคี เปิดทําการในระดับ ประถมศึกษาตั้งแต่ชั้นป.1-ป.4 3. ในปีพ.ศ.2500-2506ได้มีการพัฒนาถนนเป็นถนนลูกรังรัจากแต่ก่อนเป็นถนนลําลองและต่อรัฐรับาล ได้มีการสร้าร้งถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ตัดผ่านหมู่บ้าน (ไม่ทราบปีพ.ศ.) 4. ในประมาณปี พ.ศ. 2523 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีการดําเนินนําสายไฟเข้ามาในหมู่บ้านทําให้ บ้านเรือรืนมีไฟฟ้าใช้ตั้งแต่นั้นมา 5. ในปีพ.ศ.2528มีการสร้าร้งสถานีอนามัยและต่อมาได้ยกฐานะเป็นโรงพยาลส่งเสริมริสุขภาพประจํา ตําบล (รพ.สต.) บ้านห้วยทราย มีบุคลากรทางการแพทย์ประจําอยู่ 24 ชั่วโมง 6. ในปีพ.ศ. 2530-2533 ได้มีการปรับรั ปรุงเป็นถนนคอนกรีตรีแอสฟัลต์ 2 ช่องทาง 7. ในปีพ.ศ.2532มีเหมืองพลังงานไฟฟ้าแม่ปิงเพื่อนําน้ํามาใช้ในการเกษตร 8. ในประมาณปีพ.ศ. 2535-2540 ในชุมชนบ้านห้วยทรายเริ่มมีการใช้โทรศัพท์ใช้ตามบ้าน และภายใน โรงเรียรีนเริ่มมีคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เร์น็ตใช้กันต่อมาเริ่มมีการใช้โทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ และใน ปัจจุบันมีโทรศัพท์มือถือใช้กันเกือบทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่สําคัญและจําเป็นใน ชีวิตประจําวัน 9. ในปีพ.ศ.2537มีเหมืองพลังไฟฟ้าแม่แจ่มเพื่อนําน้ําจากแม่น้ําแจ่มมาใช้ในการเกษตร 10. ในปีพ.ศ. 2553 ได้มีการพัฒนาถนนเป็น 4 ช่องทาง หรือรื 4เลนส์ตั้งแต่ตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอําเภอฮอด ความยาวประมาณ 98 กิโลเมตร 11. ในประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฮอด (กฟภ.ฮอด) ได้มาสร้าร้งสถานีจ่ายไฟฟ้า ย่อยไว้ ที่ท้ายหมู่บ้าน ทําให้ภายในชุมชนสามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้เพิ่มมากขึ้น พัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของ หมู่บ้านห้วยทราย 3
ข้อมูลด้านกายภาพ หมู่บ้านห้วยทรายเป็นหมู่บ้านหมู่บ้านเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของอําเภอจอมทอง ห่างจากตัวอําเภอ จอมทอง ไปทางทิศใต้ ตามถนนเชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงหมายเลข 108) ทิศเหนือ ติดต่อกับบ้านแปะ และบ้านม่อนหิน ทิศใต้ ติดต่อกับบ้านโฮ่งมะค่า และบ้านท่าข้ามเหนือ ทิศตะวันออก ติดต่อกับบ้านข่วงเปาใต้ และบ้านข่วงเปา ทิศตะวันตก ติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง แผนที่เดินดินบ้านห้วยทราย ข้อมูลด้านประชากร จำ นวนหลังคาเรือรืนบ้านห้วยทราย มีทั้งหมด 309 หลังคาเรือรืน จํานวนประชากรในชุมชนบ้านห้วยทราย ทั้งหมด 929 คน ผู้หญิง 501 คน ผู้ชาย 428 คน หญิงญิ 53.9% ชาย 46.1% ชุมชนบ้านห้วยทรายได้มีการแบ่งเขตของหมู่บ้านออกเป็น 4 หมวด คือ หมวด1 หมวด2 หมวด3 และหมวด4 โดยวัตถุประสงค์ของการแบ่งหมวดในการบริหริารจัดการ หมู่บ้านก็เพื่อความสะดวกสบายในการบริหริารงานและเพื่อความง่าย และสะดวกต่อการสื่อสารและ ประสานงานในเรื่องต่าง ๆ โดยในแต่ละหมวดจะมีหัวหน้าหมวด และคณะกรรมการเป็นตัวแทน ซึ่งมีกฎเกณฑ์ และข้อตกลงเป็นของตนเอง โดยในการแบ่งหมวด มีการอาศัยเส้นเขตธรรมชาติจําแนกในการแบ่งหมวด เช่น ถนน ลําเหมือง ลําห้วยที่มีอยู่ภายในหมู่บ้านเป็นหลัก 4
ลักษณะชุมชนเป็นชุมชนชนบท พื้นที่อยู่อาศัย 120 ไร่ พื้นที่ทําเกษตร 500 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ทำ นา 200 ไร่ และพื้นที่ทำ สวน 300 ไร่ ป่าชุมชน 1 แห่ง จํานวน 300 ไร่ แหล่งน้ําสาธารณะ 4 แห่ง ประปา 2 แห่ง ผู้ใช้ 309 ครัวรัเรือรืน โรงเรียรีนระดับประถมถึงมัธยมต้น 1 แห่ง (โรงเรียรีนบ้านห้วยทราย) วัดห้วยทราย 1 แห่ง จํานวนผู้ใช้ไฟฟ้า 309 ครัวรัเรือรืน หอกระจายข่าว 1 แห่ง ศูนย์ส่งเสริมริการเรียรีนรู้ชุรู้ชุมชน 1 แห่ง ที่อ่านหนังสือประจําหมู่บ้าน 2 แห่ง ศาลาประชาคม 1 แห่ง อื่น ๆ อาคารเก็บของวัสดุ อุปกรณ์ครัวรัเรือรืน 1 แห่ง ลักษณะชุมชน และข้อมูลพื้นฐาน 5
คนในชุมชนบ้านห้วยทรายเป็นระบบเครือรืญาติ และพึ่งพาอาศัยกันเป็น ส่วนใหญ่ โดยชุมชนถือเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีจํานวนหลังคาเรือรืนที่ ค่อนข้างมาก อีกทั้งในแต่ละหลังคาเรือรืนไม่ได้มีระยะห่างที่ไกลจากกันจึงทําให้มี ความสนิทสนมและสามารถดูแล พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้ ความสัมพันธ์ ของคนในหมู่บ้าน ห้วยทราย มิติทางสังคม 6
คนในชุมชนมีสิทธิรักรัษาพยาบาลขึ้นตรงกับ โรงพยาบาลส่งเสริมริสุขภาพประจําตําบลบ้านห้วยทราย โดยเป็นศูนย์ส่งเสริมริสุขภาพที่มีการรักรัษาพยาบาลครอบคลุม ทั้ง 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านห้วยทราย หมู่ที่5 บ้านแปะ หมู่ที่ 4 บ้านข่วงเปาใต้หมู่ที่ 6 บ้านโฮ่งมะค่า หมู่ที่ 16 และบ้านข่วงเปาใต้ หมู่ที่ 19 ซึ่งจะเป็นการรักรัษาพยาบาลเบื้องต้นเพียงเท่านั้นและหากเมื่อมี อาการป่วยที่รุนแรงหรือรืเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง ทางเทศบาลตํา บลบ้านแปะจะมีการให้บริกริารในเรื่องของรถพยาบาลฉุกเฉิน เพื่อรับรัผู้ป่วยไปส่งต่อยังโรงพยาบาลจอมทอง ระบบสุขภาพชุมชน โรคประจำ ตัว คนในชุมชนบ้านห้วยทราย ส่วนใหญ่จะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคมะเร็งร็ปากมดลูก ถุงลมโป่งพอง ทั้งนี้คนในชุมชนยังมี อาการป่วยจากการที่ได้รับรัผลกระทบจา กการทําโรงโม่หิน ที่อยู่บริเริวณใกล้เคียง กับชุมชน เช่น การป่วยเป็นโรคมะเร็งร็ ปอด หอบหืด และในช่วงนี้คนใน ชุมชนมีอาการเป็นหวัด เนื่องจากมีการ แพร่รร่ะบาดของเชื้อไวรัสรั โควิด-19 ที่เพิ่ม มากขึ้น บริกริารด้านสุขภาพ สิทธิการรักรัษาพยาบาล กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) ภายในชุมชนบ้านห้วยทรายมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจํา หมู่บ้าน (อสม.) เข้ามาอํานวยความสะดวกในเรื่องของการตรวจ สุขภาพประจําปีของคนในชุมชน โดยปัจจุบันในหมู่บ้านห้วย ทรายมีจํานวนอสม. ทั้งสิ้นจํานวน 26 คน ซึ่งมีการแบ่งการรับรัผิด ชอบดูแล10-15ครัวรัเรือรืนต่ออสม.1คน มีบทบาท หน้าที่ในการเป็นแกนนําในด้านการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ อนามัยของประชาชนในหมู่บ้านและเป็นผู้สื่อสารระหว่างเจ้า หน้าที่สาธารณสุขกับประชาชนในหมู่บ้าน การแบ่งหมวดการดูแล 4 หมวด คือ หมวด 1 มีอสม. ดูแลอยู่ 7 คน หมวด 2 มี อสม. ดูแลอยู่ 6 คน หมวด 3 มีอสม.ดูแลอยู่ 6 คน หมวด 4 มีอสม. ดูแลอยู่ 7 คน ผู้ดูแล Care Giver (CG) ภายในชุมชนบ้านห้วยทรายมี Care Giver (CG) ที่มีบทบาทในการดูแลผู้สูงอายุที่ป่วยติด เตียงอยู่ จํานวน 2 คน โดยมีบทบาทหน้าที่ ในการรับรัคําสั่งจากแพทย์ในการดูแลผู้ป่วย มีการช่วยผู้ป่วยทํากายภาพบําบัด ซึ่งจะมีการ ทํางานร่วร่มกับผู้ป่วย และญาติผู้ป่วย โดยจะมี การเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงที่ได้รับรัการ ประเมินเมื่อได้คะแนนADLต่ํากว่า11โดยระยะ เวลาในการลงเยี่ยมบ้านเพื่อดูแลผู้ป่วยติด เตียง ผู้ดูแล Care Giver (CG) จะได้รับรัค่า ตอบแทนครั้งละ100บาท 7
ระบบการศึกษา ในการศึกษาของชุมชนบ้านห้วยทราย มีการศึกษาทั้งในระบบ และนอกระบบ โดยเด็กส่วนใหญ่ ภายในชุมชนบ้านห้วยทรายเข้าถึงการศึกษาได้เกือบครบทุกคน ซี่งการศึกษาในระบบของชุมชนบ้านห้วย ทราย ส่วนใหญ่จะมีการศึกษากันที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านห้วยทราย และโรงเรียรีนบ้านห้วยทราย ทั้งนี้ การศึกษา นอกระบบของชุมชนบ้านห้วยทราย จะมีการศึกษาที่กศน. โดยจะมีการเรียรีนการสอนที่ศูนย์ การศึกษานอก ระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอจอมทอง โรงเรียรีนบ้านห้วยทราย สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 มีเขตพื้นที่บริกริาร 9 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านห้วยทราย หมู่ที่ 5 บ้านแปะ หมู่ที่4 บ้านท่ากอม่วง หมู่ที่ 10 บ้านทุ่งพัฒนา หมู่ที่ 13 บ้านข่วงเปาใต้ หมู่ที่ 6 บ้านวังตวง หมู่ที่ 9 บ้านท่าข้ามเหนือ หมู่ที่ 7 บ้านสบแจ่มฝั่งซ้าย หมู่ที่ 11 และบ้านม่อนหิน หมู่ที่ 3 ปัจจุบันเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น อนุบาล1- ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 มีนักเรียรีนทั้งหมด 165คน โรงเรียรีนบ้านห้วยทรายถือเป็น สถานศึกษาระดับประถมวัยภายในชุมชนบ้านห้วยทราย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมส่งลูกหลานเข้ามาเล่าเรียรีน ภายในโรงเรียรีน เนื่องจากเป็นโรงเรียรีนขยายโอกาสที่ ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ มีการส่งเสริมริการศึกษาในหลาย ๆ ด้าน ส่งผลให้คนในชุมชน และคนนอกชุมชนนิยมส่งลูก หลานมาเรียรีนกันในโรงเรียรีนบ้านห้วยทราย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านห้วยทราย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านห้วยทราย เป็นสถานศึกษาระดับ ปฐมวัยที่ตั้งอยู่ภายในชุมชนบ้านห้วยทราย เด็กที่เรียรีนใน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านห้วยทรายส่วนใหญ่มาจากบ้านนา กบ หมู่ที่ 2 บ้านม่อนหิน หมู่ที่ 3 บ้าน ห้วยทราย หมู่ที่ 5 บ้านข่วงเปาใต้ หมู่ที่ 6 บ้านสบแจ่มฝั่งซ้าย หมู่ที่ 11 บ้าน ข่วงเปา หมู่ที่19 และอีกบางส่วน มาจากอําเภอฮอด ปัจจุบันศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีการโอน ย้ายอํานาจจากกระทรวงศึกษาธิการมายังองค์กร ปกครอง ส่วนท้องถิ่น คือเทศบาลตําบลบ้านแปะ ทําให้ในศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กมีเพียงเด็กอายุ 3- 4 ขวบเพียง เท่านั้น เด็ก ที่เรียรีนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กที่อยู่ในบ้านห้วยทราย เพียง 9 คน เท่านั้น 8
มิติการเมืองการ ปกครอง ชุมชนบ้านห้วยทราย หมู่ที่ 5 มีการปกครองแบบระบอบประธิปไตยตามกฎหมายรัฐรัธรรมนูญ โดยมี การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน และผู้นําในการบริหริารกลุ่มต่าง ๆ ภายในชุมชน ล้วนมาจากการเลือกตั้ง และการคัดเลือกจากคนในชุมชน เพื่อให้เป็นผู้บริหริารดูแลความ สงบเรียรีบร้อร้ย และการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของหมู่บ้าน โครงสร้าร้งการบริหริารงาน ภายในชุมชน รายชื่อผู้นำ ชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน นายวุฒิ ธรรมปาละ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายวิทูล เทพคํา นายอรัญรั โพงมา สมาชิกสภาเทศบาลตําบล นายเฉลิม แสนสี กรรมการหมู่บ้านฝ่ายการคลัง นายประเสริฐริน้อยมูล ประธานอาสาสมัครสุขภาพ นางสาวพัทธนันท์ อุปนันท ประธานแม่บ้าน นางสาวดาว สุพรรณ ประธานกองทุนบทบาทสตรี นางสาวลําไพร รินริแก้ว ประธานเยาวชน นางพิษณุ เก่งการทํา ผู้นําทางศาสนา นายเรือรืน นันต๊ะเสน กรรมการแม่บ้าน หมวดที่1 นางนุชรีย์รี ย์ชัยชมชื่น กรรมการแม่บ้าน หมวดที่ 2 นางสายฝน มูลรังรัมี กรรมการแม่บ้าน หมวดที่ 3 วนิดา คําอ้ายอุด กรรมการแม่บ้าน หมวดที่ 4 แสงจันทร์ กันทะยวง หัวหน้าหมวดพัฒนา หมวด 1 นายทองสุก อุโมง หัวหน้าหมวดพัฒนา หมวด 2 นาย บุญเลียบ ศิริวัริวัชระพงษ์ หัวหน้าหมวดพัฒนา หมวด 3 นายทอง สุพรรณ หัวหน้าหมวดพัฒนา หมวด 4 นายสม ศรีสรีอนใจ หัวหน้าฌาปนกิจ หมวด 1 นายปั๋น กันทะคํา หัวหน้าฌาปนกิจ หมวด 2 นายทวี ตุ้ยต่อมา หัวหน้าฌาปนกิจ หมวด 3 นายบุญปั๋น ศรีบุรีบุตร หัวหน้าฌาปนกิจ หมวด 4 นายเกษม กันทะยวง หัวหน้าการเงินฌาปนกิจ หมวด 1 นายเฉลิม แสนสี กรรมการการเงินฌาปนกิจ หมวด 2 นายอินสอน เจริญริสุข กรรมการการเงินฌาปนกิจ หมวด 3 นายแก้ว ทวิตา กรรมการการเงินฌาปนกิจ หมวด 4 นายบุญเลิศ เขียวกินยะ กรรมการฝ่ายรักรัษาความสงบเรียรีบร้อร้ย นายสม ศรีสรีอนใจ นายอินสอน ทิพย์สิงค์ นายสุจาห์ ทิพย์สิงห์ นายอัศนัย เจริญริผล นายธีรยุทธ ทองแกง นายสิงห์คํา เกิดเป็ง นายขุนไกร แก้วสุดใจ นายสาคร อุ่นใจละ นายธีรชัย วิชัย นายอํานวย ศรีสรีอนใจ นายวิชาญ สุภาใจ นายวรากร จินาวงค์ นายอภิชาติ กันทาใจ นายอินสอน เจริญริสุข 9
รายชื่อผู้นำ ชุมชน (ต่อ) กรรมการฝ่ายรักรัษาความสงบเรียรีบร้อร้ย นายอินสอน เจริญริสุข นายวรวุฒิ จินาตุ้ย นายอุเทน มูลบ่อง นายราเชนทร์ ขัดสีแสง นายพงษ์สวัสดิ์ ลอบทายี่ นายเชษฐา ศรีวรีงศ์ นายนิกร แก้วสุดใจ นายแดนณรงค์ คําใจ นายสมยศ ใจมาเปี้ย กรรมการการเงินหมู่บ้าน หมวด 1 นายประเสริฐริน้อยมูล กรรมการการเงินหมู่บ้าน หมวด 2 นายวรวุมิ จินาตุ้ย กรรมการการเงินหมู่บ้าน หมวด 3 นายเชษฐา ศรีวรีงค์ กรรมการการเงินหมู่บ้าน หมวด 4 นายขุนไกร แก้วสุดใจ ไวยากรณ์ (อาจารย์วัด) นายเรือรืน ทันตะเสน ประธานกรรมการวัด นายคําจันทร์ หล้ามาตั้ง กรรมการวัด นายไกสร สิงห์สา นายบุญเลิศ เขียวกันยะ นายบุญเร่งร่ ฟูเมือง นายยุทธชัย ชัยชมชื่น นายปลี อินต๊ะคํา นายอินสอน สุภาใจ นายสมพงษ์ กันทะทิพย์ นายกามรินริบุญธรรม นายทวี ศรีชัรีชัย นายแก้วลูน สุขสามพัน นายบุญชู เก่งการทํา ปราชญ์ชุมชน นายจันทร์ สอนธิ ปราชญ์ชุมชนด้านประวัติชุมชน และวัฒนธรรมชุมชน อายุ 72 ปี นายบุญเร่งร่ ฟูเมือง ปราชญ์ชุมชนด้านประธานกลุ่มผู้สูงอายุ อายุ 74 ปี ชุมชนบนห้วยทรายผ่านการปกครอง และเปลี่ยนผ่านผู้ใหญ่บ้าน มาแล้ว 12 คน ดังนี้ คนที่ 1 ชื่อ นายแสนนิยม ศรีสรีองเมือง ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. .... คนที่ 2 ชื่อ นายสมหมาย สมคําดี ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. .... คนที่ 3 ชื่อ นายเฮือง สุภาใจ ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. .... คนที่ 4 ชื่อ นายดวงแก้ว วงค์กันฟู ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. .... คนที่ 5 ชื่อ นายสม วรรณการ ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง รายชื่อผู้ใหญ่บ้าน คนที่ 6 ชื่อ นายจู จันตาบุญ ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. .... คนที่ 7 ชื่อ นายหน่อแก้ว จันตาบุญ ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่. พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. .... คนที่ 8 ชื่อ นายจรัสรั ชัยนาวาดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. 2537 คนที่ 9 ชื่อ นายจันตา จินาวงศ์ ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. 2537 ถึง พ.ศ. 2542 คนที่ 10 ชื่อ นายหิรัญรัเฟืองคํา ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. 2542 ถึง พ.ศ. .... คนที่ 11 ชื่อ นายคําจันทร์ หล้ามาตั้งดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง พ.ศ. .... คนที่ 12 ชื่อ นายวุฒิ ธรรมปาละ (ปัจจุบัน) ดำ รงตำ แหน่งตั้งแต่พ.ศ. .... ถึง ปัจจุบัน กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 10
โดยทั่วไปในการแต่งกายประชาชนในชุมชนบ้านห้วยทราย จะมีการแต่งกายเหมือนกับคนในหมู่บ้านอื่น คือแต่งกายสุภาพ และ เหมาะสมตามโอกาส และสถานที่ เช่น งานศพ หรือรืงานไว้อาลัย การแต่งกายจะเป็น การแต่งเสื้อผ้าสีดํา หรือรื สีขาว และเมื่อมีงานบุญ ก็จะมีการแต่งกายสีขาว หรือรืแต่งตามสบาย หรือรื ในตอนที่ต้อง ทํานา หรือรืทําสวนก็จะมีการแต่งตัวมิดชิด เพื่อป้องกันแสงแดด มีการสวมหมวก สวมเสื้อแขนยาว และ ผ้าขาวม้า มิติวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา วัฒนธรรมทางด้านการแต่งกาย วัฒนธรรมทางด้านการกิน การรับรัอาหารภายในครอบครัวรัของคนในชุมชนบ้านห้วยทราย จะมีการ รับรั ประทานข้าวเหนียวเป็น หลัก อาจมีการรับรั ประจานข้าวสวยเป็นบ้างบางครั้ง ทั้งนี้ในการรับรั ประทานอาหารเมื่อ 40-50 ปีก่อน คนใน ชุมชนจะหาวัตถุดิบ ตามแหล่งอาหารที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เห็ดป่า ผักหวานป่า หน่อไม้ หรือรื ปลูกตามไร่ตร่ามสวน เนื้อสัตว์ที่เลี้ยงไว้เป็นอาหาร เช่น หมู ไก่ วัว และควาย มาปรุงเป็นอาหารด้วยตนเอง ต่อมาเมื่อบ้านเมืองเริ่มมีความ เจริญริขึ้น เริ่มมีร้าร้นอาหารขายอาหารสําเร็จร็รูปมากขึ้นในหมู่บ้าน คนในชุมชนจึง หันไปรับรั ประทานอาหารเหล่านี้กันมากขึ้นเพราะมีความสะดวกสบายมากกว่า การที่จะต้องไปหาอาหารเองตาม แหล่งธรรมชาติ ซึ่งมีความเหมาะสมกับยุค สมัยใหม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงไป 11
ประเพณีตานหลัวหิงไฟพระเจ้า ซึ่งเจ้าอาวาสหรือรืผู้ที่ ได้รับรัมอบหมายจะเป็นผู้จุดกองหลัว และตีฆ้องกอง บูชาเพื่อป่าวประกาศให้ชาวบ้านมาร่วร่มทำ บุญที่สัดใน เวล่รุ่งรุ่เช้า ประเพณีดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อจุดถวายพุทธ บูชา และเพื่อผ่อนคลายความหนาวให้แก่พระภิกษุ สงฆ์ สามเณรและชาวบ้านที่มาทำ บุญ ประเพณีทั้ง สองนั้นจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเชื่อความศรัทรัธา ของชาวล้านนาที่มีต่อพระพุทธศาสนาและการขอพร จากสิ่งศักดิ์ตดิ์ามความเชื่อของบรรพบุรุษที่สืบทอดกัน มาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ในวันเดียวกันนั้นจะมี ประเพณีผิงหลัวหรือรืผิงไฟพระเจ้า เนื่องจากในวันที่ มีพิธีตาลเข้าใหม่นั้นจะเป็นช่วงเวลาฤดูหนาวทำ ให้ สภาพอากาศในตอนเช้ามีความหนาวเน็บจึงได้มี การนำ เอาเฟิร์นร์มาเผาที่มีความเชื่อว่าเพื่อให้ พระพุทธเจ้าได้ผิงไฟชาวบ้านห้วยทรายจึงมีการนำ ฟืนมาเผาไฟผิงให้เกิดความอบอุ่นประเพณีนี้จะมี ความเชื่อว่าพระพุทธเจ้าหรือรืพระพุทธรูปในวิหารจะมี ความรู้สึรู้ สึกถึงความหนาวเย็นเช่นเดียวกัน ความเชื่อนี้ เป็นความเชื่อที่มีทั้งชาวล้านนาและชาวบ้านห้วยทราย รวมถึงบริบริทแวดล้อมที่มีความหนาวเย็นจึงเกิดการผิง ไฟที่นอกจากจะทำ ให้เพิ่มความอบอุ่นแล้วยังสามารถ ไล่ความชื้นในอากาศที่เป็นสาเหตุของความเจ็บป่วย ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในการเผาฟืนนั้นในภาษาเหนือจะ ใช้คำ ว่า หลัว เป็นภาษาเหนือหมายถึงฟืนเป็นไม้จี้ และคำ ว่า หิงเป็นภาษาเหนือหมายถึง การผิงไฟ และ คำ ว่า พระเจ้า เป็นภาษาล้านนาหมายถึง องค์พระ สัมมาสัมพุทธเจ้า ประเพณีตานหลัวหิงไฟพระเจ้า ประเพณี ประเพณีตานข้าวใหม่ เป็นประเพณีที่ชาวบ้าน ห้วยทรายได้ปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงทุกวัน นี้ ประเพณีนี้เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุรู้คุณ ของลูกหลานที่มีต่อบรรพบุรุษ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ซึ่ง ได้บุกเบิกที่ดินไว้ทํานาน ปลูกข้าวและได้เป็นมรดก ตกทอดสืบมาจนถึงสมัยลูกหลานในปัจจุบัน ถึงแม้ว่า ที่นาเหล่านั้นในเวลาถัดมาใน ปัจจุบันจะถูกปรับรั เปลี่ยนจากปลูกข้าวมาปลูกพืชอื่น ๆ เช่น มะม่วงและ ลําไย แต่อย่างไรก็ตามลูกหลานก็ไม่ได้ มีการลืมว่า แม้มีการเปลี่ยนแปลงการปลูกลงบนผืนดินเดิมที่ บรรพบุรุษให้ไว้นั้นเอง โดยการตานข้าวใหม่นี้จะมีปี ละครั้งซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ําเดือน 4 เหนือ ของทุกปี ซึ่งเป็นเวลาที่ชาวบ้าน ได้เก็บเกี่ยวมาไว้ในหลอง ข้าว(ยุ้งข้าว) เรียรีบร้อร้ยแล้วว่าข้าวใหม่ขณะเดียวกัน จะนําข้าวเปลือกบางส่วนไปสีเป็น ข้าวสารเพื่อเตรี ยมนําไปตานข้าวใหม่ การตานข้าวใหม่จะแบ่งออก เป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 นําไปทําบุญที่วัด โดยชาวบ้านจะนําข้าวสาร ข้าวใหม่ไปรวมกันเรียรีกว่า การตานข้าวล้นบาตร หรือรื หล่อเข้าบาตร ส่วนที่ 2 จะนําไปตานให้พ่อแม่ ป้ออุ้ยแม่อุ้ยและคน เฒ่าคนแก่ที่เคารพนับถือในหมู่บ้านและนิยมทํา ก่อน ถึงวันที่ 15 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกเพราะในวันขึ้น 15 ค่ํา นั้นจะต้องไปทําบุญร่วร่มกันที่วัด การตานข้าวใหม่ นั้นสิ่งที่จะต้องเตรียรีมนอกจากข้าวสารที่นึ่งสุกและมี อาหารต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสุขภาพของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีผลไม้และขนมนมเนยเมื่อทุกอย่าง พร้อร้มแล้วก็จะนําไปตานให้พ่อแม่เสียก่อนเพื่อเป็น สิริมริงคล ส่วนพ่อแม่ก็จะให้ศีลให้พรถือเป็นอันเสร็จร็ สิ้น ส่วนพ่อแม่ที่อยู่ในครอบครัวรัเดียวกัน หลานก็ จะทําอาหารที่คิดว่า พ่อแม่ชอบรับรั ประทาน มาร่วร่ม กันรับรั ประทานด้วยกันในมื้อใดมื้อหนึ่งเมื่อทุกคน พร้อร้มแล้วก็จะมานั่งล้อมวงกัน โดยจะให้พ่อแม่หรือรืผู้ ที่มีอาวุโสที่สุดได้กินก่อนเป็นคําแรกแล้วลูกหลานจึง ได้กินคําต่อไป อันเป็นวัฒนธรรมการ รับรั ประทาน อาหารภายในครอบครัวรัที่ได้ปฏิบัติสืบต่อมา ประเพณีตานข้าวใหม่ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา 12
ประเพณี ประเพณีสรงน้ําพระธาตุ ประเพณีสรงน้ําพระธาตุจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ําเดือน 4ล้านนา ของทุกปี ตอนเช้าจะมี พิธีทําบุญตัก บาตรที่วัด ช่วงสายจะอัญเชิญพระธาตุลงจากพระวิหารเพื่อนําไปยังหอสรงเพื่อ ให้พุทธศาสนิกชนและคนทั่วไป ได้เข้าสรงน้ําพระธาตุ เมื่อเสร็จร็พิธีก็จะมีการแจกจ่ายน้ําขมิ้น ส้มป่อยที่เป็นน้ําสรงพระธาตุให้ประชาชนได้นําไป พรมตามบริเริวณบ้านของตนเองเพื่อความ เป็นสิริมริงคลแก่ครอบครัวรัอนึ่งในงานนี้ได้จัดให้มีมหรสพต่างๆเช่น ลิเก ซอและดนตรี เป็นต้นมา แสดงเพื่อให้ผู้ที่มาในงานได้ชมได้ฟัง ซึ่งผู้มาทําบุญนี้นอกจากคนในหมู่บ้านห้วย ทรายแล้วก็ยังมีที่มาจากหมู่บ้านใกล้เคียงเช่น บ้านช่วงเปาใต้ ท่าข้าม วังตวง ม่อนหิน นากบ และบ้านแปะ เป็น ต้น นอกจากนี้หากมีผู้มีจิตศรัทรัธาจากทั้งในและนอกหมู่บ้านมาจองคิวเพื่อ ตั้งโรงทานเพื่อให้บริกริารด้านอาหาร การกินแก่ผู้มาเที่ยวหรือรืมาทําบุญในงานฟรีตรีลอดทังวัน รดน้ําดําหัวผู้อายุ, สืบชะตาหมู่บ้าน, แห่ไม้ค้ําโพธิ์ (แต่ละกลุ่มจะฮอมเงินมางานแห่ไม้ค้ําโพธิ์) แห่ไม้ค้ําโพธิ์ หรือรืแห่ไม้ก๊ําสลี เป็นประเพณีที่คนล้านนาให้ความสําคัญ และมีความเชื่อ ความศรัทรัธาว่าหากถวายไม้ค้ําโพธิ์จะเป็นการช่วยค้ําชูพระพุทธศาสนาให้มีการสืบต่อไป ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ปฏิบัติกัน มานาน และสืบทอดกันมาจะมีการทําในช่วงเทศกาล สงกรานต์มาจากการที่มีความเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่มีเทวดา อารักรัษ์รักรัษาอยู่ยิ่งไปกว่านั้นหาก เป็นต้นโพธิ์ที่ธิ์ที่มี ขนาดใหญ่และมีอายุที่ยืนนานมีแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มร่เงามี ความร่มร่รื่นเชื่อกัน ว่ามีสิ่งที่เหนือธรรมชาติหรือรื สิ่งศักดิ์สิดิ์ สิทธิ์คุ้ธิ์คุ้มครองอยู่ โดยเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งคือ ต้น โพธิ์ ที่มีไม้ก้ําไว้จะหักได้ยากและจะยืนต้นอยู่นาน รวมถึงเป็นการอนุรักรัษ์ ทรัพรัยากรธรรมชาติให้คงอยู่ ซึ่งสําหรับรั ชาวบ้านห้วยทราย การจัดประเพณีนี้จะมีเป็นประจํา ทุกปีติดต่อกันมาอย่างยาวนาน และเป็นประเพณีสําคัญที่ ชาวบ้านให้ความเคารพและนับถือ ปฏิบัติสืบต่อกันมาทางนี้ได้มีการแบ่งกิจกรรมในหมู่บ้านคือการแบ่งการแห่ ออกเป็น 4 หมวดตามหมวดของบ้าน คือหมวด 1 หมวด 2 หมวด หมวด3 และหมวด 4 นอกจากนี้ยังมี กลุ่ม ของผู้สูงอายุและเยาวชนในหมู่บ้านเมื่อถึงเวลาสงกรานต์แต่ละหมวดและกลุ่มจะไปหา ไม้ตามมาจากในป่าที่อยู่ ติดกับหมู่บ้านแต่ต้องเป็นที่มีไม้เนื้อแข็งและมีขนาดใหญ่ที่สามารถ ช่วยทําให้ต้นไม้ไม่โค่นล้มได วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา 13
1. ก๋วยขี้เปี้ย เป็นก๋วยขนาดเล็กคล้ายชะลอมเมื่อบรรจุสิ่งของเต็ม จากนั้นจะมัดรวบส่วนปลายด้วย ตอก เสียบช่อดอกไม้ และยอดสลากก๋วยชนิดนี้มักจะอุทิศไปให้สัตว์เลี้ยงที่ตายไปแล้วหรือรืสรรพ สัตว์ต่างๆ ได้ 2. ก๋วยขนาดกลางก๋วยชนิดนี้จะมีมากกว่าชนิดอื่นมีข้าวของและยอดสลากจํานวนมากกว่าก๋วยขี้เปี้ย 3. ก๋วยสลากโจ้ก (โจ้คหมายถึงโชค) เป็นก๋วยหรือรืกระบุงขนาดใหญ่บรรจุของกินของใช้ไว้มากเป็น พิเศษ ที่สําคัญคือยอดต้องดกเป็นหลักพันหรือรืหลายๆพันขึ้นไป ยอดสลากนี้นิยมนําไปหักไว้บนต้น คา เชื่อกันว่าาใครได้เป็นเจ้าคนนั้นก็ได้บุญมาก ประเพณีตานก๋วยสลากจึงเป็นประเภทที่ทําเนื่องในพุทธศาสนาที่ช่วยสร้าร้งปฏิสัมพันธ์ที่ดีร่วร่มกัน ระหว่างวัดและชุมชนเป็นการสร้าร้งความสามัคคีในหมู่เครือรืญาตินอกจากจะเป็นการทําบุญให้กับคนที่ได้ เสียชีวิตไปแล้วยังเป็นการทําทานให้คนที่เป็นอยู่อีกด้วย เป็นประเพณีของชาวล้านนาโดยเฉพาะมีเป็น ประจํา ทุกปีในระหว่างเดือน 11 และเดือน 12เมือง (สิงหาคมและกันยายน) และมีรูปแบบการปฏิบัติที่ คล้ายๆกันคือ การนําของกินผลไม้ ยารักรัษาโรค และสิ่งของเครื่องใช้ที่จําเป็นสําหรับรัพระสงฆ์ไปในสมัย โบราณชาวบ้านจะนํา สิ่งของเหล่านี้ไปบรรจุลงในภาชนะที่สานด้วยตอกไม้ไผ่ที่เรียรีกว่า ก๋วยสลาก ท่ีต้น สลากจะมีการนําเอาสิ่งชองที่ มีน้ําหนักเบาเช่นยาแก้ปวดหัว ทําใจ ผงชักผ้า สบู่ สมุดดินสอเป็นต้น ไป ผูกไว้ที่ปลายเรียรีวไม้ซึ่งเกิดจากการ นําเอาไม้ไผ่มาเหลาให้มีขนาดเล็กอ่อนโค้งที่ปลายของไม้เรียรีวนี้จะมี เศษไม่ไผ่ที่เหลาไปรวมกันเป็นกระจุกคล้าย พู่แล้วนําไปปักยึดไว้กับต้นคาบ้าง ส้มโอหรือรืมะพร้าร้วที่วาง ไว้ที่กันก๋วยส่วนสิ่งของที่น้ําหนักมากก็จะใสไว้ในก๋วย มีการนําเอาธนบัตรไปเสียบไว้ด้วยเรียรีวไม้ปักไว้ที่ ยอดก๋วยเรียรีกว่า ยอดสลาก จํานวนเงินมากน้อยแล้วแต่ เจตนามีการเขียนชื่อเจ้าของก๋วยพร้อร้มระบุว่า ก๋วยสลากนี้จะอุทิศส่วนกุศลไปให้ใครไปภายหน้า บรรพบุรุษที่ล่วงลับ เทวบุตรเทวดา เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ต่างๆเป็นต้น ติดไว้ที่ข้างก๋วยเพื่อให้พระกรวดน้ําอุทิศ ส่วนกุศลไปให้ ก๋วยสลากนี้มีหลาย ขนาดและมีชื่อเรียรีกต่างกันดังนี้ ในปัจจุบันก๋วยขนาดกลางและก๋วยสลากโจ้กมีการนําเอาวัสดุที่เป็นพลาสติกเช่นตะกร้าร้พลาสติก กะละมัง หรือรืถังมากขึ้นทั้งสามชนิด ชาวบ้านจะจัดเตรียรีมแต่งดาวไว้ให้พร้อร้มกันก่อนวันตาลก๋วยคือวันที่ 15 ค่ําเดือนยี่ ประเพณี ประเพณีถวายเครื่องสักการะเสื้อบ้าน (อาฮัก) เสื้อบ้านหรือรือาฮักคือ วิญญาณบรรพบุรุษของหมู่บ้านที่ได้ล่วงลับไปแล้ว และคอยยังวนเวียนคอยปก ปักรักรัษาดูแลทุกข์สุขของูกหลายอยู่ของชาวบ้านหมวด 1 จนถึงหมวด 3 จะสร้าร้งหอไว้ที่โคนต้นมะขามขนาด ใหญ่อายุหลายร้อร้ยปีอยู่นอกกําแพง วัดด้านทิศใจ้สําหรับรัเป็นที่สถิตของเสื้อบ้าน ซึ่งเสื้อบ้านของหมวด 4 จะ แยกออกไปอีกต่างหาก ประเพณีนี้ของหมวด 1 ถึงหมวด 3 จะไม่มีการเซ่นไหว้ด้วยเนื้อสัตว์แต่อย่างใด สําห รับรัหมวด 1 ถึงหมวด 3 เมื่อถึงกําหนดวันที่จะทําพิธีชาวบ้านทั้ง 3 หมวดก็จะนําเอาข้าวตอกดอกไม้ธูป เทียน ผลหมากกรากไม้ขนมนมเนยไปรวมกันที่บ้าน ตั้งเข้าเพื่อให้ตั้งเข้านําไปประกอบพิธีกรรมและถวายเสื้อ บ้าน ตามเคยปฏิบัติมา ประเพณีนี้จะทํากันปีละ 1 ครั้ง ส่วนประเพณีเลี้ยงอาฮักของหมวด 4 ก็จะทําคล้ายกัน เพียง แต่มีการฆ่าสัตว์ (ไก่) เพื่อนําไปเป็นเครื่องเซ่นไหว้เท่านั้น การเลี้ยงอาฮักนี้ก็จะทําปีละ 1 ครั้ง อย่างใด ประเพณีเลี้ยงอาฮักนี้จะทําเหมือนกันทั้ง 4 หมวดแต่หมวด 4 จะมีการแยกออกไปทําเอง ประเพณีตานก๋วนสลาก วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา 14
คนในชุมชนบ้านห้วยทรายมีการใช้ภาษาคําเมือง หรือรืภาษาล้าน นาเป็นภาษาหลักที่ใช้ใน ชีวิตประจําวันส่วนภาษาเขียนจะมีการใช้ ภาษาไทยกลางในการเขียนแม้ว่าอักษรล้านนาจะไม่เป็นที่นยิมใช้ แต่ก็ ยังคงมีการใช้เขียนอยู่ ส่วนมากจะมีการนําไปใช้เขียน หรือรืจารึกรึลงใน ใบลาน หรือรืที่เรียรีกว่าคัมภีร์ใร์บลาน เป็นคําเทศน์ภาษาล้านนา ปัจจุบันภาษาคําเมืองเริ่มมีการใช้ผสมผสานกับภาษาไทยกลาง และภาษาอิสานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้ภาษาอังกฤษมาใช้ แทนคําในภาษาไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก และเยาวชน สําหรับรั ภาษาอังกฤษ ส่วนมากจะถูกนําไปใช้ในโลกออนไลน์ หรือรื โซเชียล ทั้งนี้โรงเรียรีนถอว่ามีส่วนสําคัญอย่างมากในการใช้ภาษาใน การสื่อาร ของเด็ก เพราะครูในโรงเรียรีนจะใช้ภาษาไทยกลางในการสื่อสารกับ เด็กนักเรียรีนตลอดเวลาเมื่ออยู่ใน โรงเรียรีน เด็กจึงเกิดความคุ้นชิน หรือรืคุ้นเคยกับภาษาไทยกลางมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เด็กนําภาษาไทย กลางมา สื่อสารกับคนในครอบครัวรัและในกลุ่มเพื่อนมากขึ้น วัฒนธรรมด้านภาษา ปู่ และย่า เรียรีก อุ๊ยเซ่น อุ๊ยแก้ว หรือรืหม่อนแก้ว ตา และยาย เรียรีก อุ๊ยเซ่น อุ๊ยดวง หรือรือุ๊ย ตัวอย่าง ชาวในชุมชนส่วน ใหญ่มีการนับถือศาสนา พุทธ และมีการทําพิธีกรรม และกิจกรรมทางศาสนาที่ วัดห้วยทราย ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา 15
การจัดงานกีฬาหมู่บ้าน ซึ่ง เป็นการจัดในช่วงของการ ว่างจากการทําเกษตรกรรม หรือรืการทํานา เพื่อให้ สมาชิกภายในชุมชนได้มี การทํากิจกรรมร่วร่มกัน ผ่านการละเล่นกีฬา ประเพณี โรงเรียรีนห้วยทราย ค่าน้ําค่าไฟวัดห้วยทราย ผู้สูงอายุบ้านห้วยทราย โรงพยายบาลส่งเสริมริสุขภาพตําบลบ้านห้วยทราย แม่บ้านหมวด1 (ซึ่งเป็นหมวดที่เป็นเจ้าของดูแลจัดการในเรื่องของครัวรั ภายในงาน) กลุ่มแม่บ้านทุกหมวดในบ้านห้วยทราย กู้ชีพ และกู้ภัยเทศบาลบ้านแปะ กองทุนการศึกษา พระครู เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ ความเชื่อในการจัดงานฌาปนกิจศพ คนในชุมชนบ้านห้วยทรายจะไม่นิยมเก็บ อัฐิของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แต่จะมีบางครอบครัวรัเท่านั้นที่ยังคงเก็บไว้ และใน การฌาปนกิจศพ (เผาศพ) ผู้สูงอายุจะมีการฌาปนกิจศพบนเมรุ ส่วนคนหนุ่ม สาวจะมีการ ฌาปนกิจศพตรงเชิงตะกอน โดยเจ้าภาพจะมีการมอบทุนให้แก่ กลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน อาทิ ความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา 16
ประเพณีเลี้ยงผีป่ยู่า เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องกัน มารุ่นรุ่ต่อรุ่นรุ่กว่า 100 ปี นิยมจัดกันในเดือน 4 และเดือน 9 ของทุกปี (เดือน 4 และเดือน 9 เป็นการรับรัเดือนแบบปฏิทิน ล้านนาจะตรงกับเดือน 6 และเดือน 11 ของทางภาคกลาง) นอกจากนี้ยังมีคําบางคําที่เกี่ยวข้องกับประเพณีเลี้ยงผี ปู่ย่าก็คือคําว่า ผิดผี เสียผี ใส่ผี คําว่า ผิดผี หมายถึง ชายหญิง ที่ยังไม่ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันให้ถูกต้องตามประเพณีได้ทํา ผิดประเพณีเช่นการถูกเนื้อต้องตัวกันจนที่สุดฝ่ายหญิงได้เสีย ตัวให้กับฝ่ายชาย และไม่ว่าการละเมิดนี้จะอยู่ในสถายที่ใด เวลาใดก็ตามถือว่าเป็น การ ผิดผี คือได้กระทําที่ไม่ถูกต้อง ตามประเพณีและเมื่อมีการผิดผีเกิดขึ้น แล้วต่อมาถ้าฝ่ายชาย ไม่เต็มใจที่จะรับรัผิดชอบต่อการกระทําที่เกิดขึ้นและเลิกร้าร้ง กันไปกรณีนี้ถือว่าฝ่ายหญิงเป็นผู้เสียหายต้องแจ้งต่อบิดา มารดา หรือรืผู้ปกครองฝ่ายชายทราบเพื่อให้มาทําการ เสียผี ให้ถูกต้องตามประเพณี ค่าผีนี้เป็นเงินจํานวนหนึ่งซึ่งไม่ มาก นักแต่อาจมีค่าเสียหายอื่นที่ฝ่ายหญิงเรียรีกร้อร้งเพิ่มเติมแล้วแต่ จะตกลงกัน ฝ่ายหญิงก็จะนําเงินค่าผีที่ได้มานั้นซื้อไก่หรือรื หัวหมูจัดเตรียรีมเครื่องสักการะอื่น ๆ เมื่อพร้อร้มแล้วตั้งข้าวก็ จะนําหัวหมู และเครื่องสักการะทั้งหมดนี้ไปทําพิธีขอขมาต่อผี ปู่ย่าก็เป็นอันเสร็จร็พิธี ในกรณีเช่นนี้ถ้าฝ่ายหญิงเพิกเฉย ไม่ ได้ทําพิธีขอขมาดังกล่าวผีปู่ย่าก็จะบันดาลให้เกิดการเจ็บป่วย หรือรืมีอันเป็นไปต่าง/ในหมู่เครือรืญาติของฝ่ายหญิงโดยไม่ ทราบสาเหตุ กรณีเดียวกันนี้ถ้าฝ่ายชายรับรัผิดชอบที่จะมาอยู่ กินกับฝ่ายหญิงฉันท์สามี ภรรยาทั่วไปก็ให้ให้ฝ่ายชายมา ใส่ ผี เสียให้ถูกต้องตามประเพณี การใส่ผีก็คือการที่ฝ่ายชายต้อง นําเงินค่าผีมาให้ฝ่ายชายต้องนําเงินค่าผีมาให้ฝ่ายหญิงเพื่อจะ ได้นําไปซื้อเครื่องเซ่นไหว้ผีปู่ย่าให้ถูกต้องตามประเพณีเมื่อ ได้ กระทําเช่นนี้ แล้วฝ่ายก็จะสามารถมาอยู่กินกับฝ่ายหญิง ได้ จะมีญาติพี่น้อง นัดแนะกันว่าจะเลี้ยงผีปู่ย่า แต่ละ คนก็จะ เอาไก่ไปคนละตัว เขาก็จะมีหิ้งไว้ บนบ้าน ทํากรวยดอกไม้ เป็นคู่ ๆ ตามจํานวนสมาชิกครอบครัวรัมีน้ํามี ขนม ถวายจน เสร็จร็ให้บรรพบุรุษกินจนเทียนดับ ก็จะยกลงมาประกอบ อาหารกนด้วยกันในเครือรืญาติ แบ่งกัน กิน เช่น เช่น งาน แต่ง ผู้หญิงจะแต่งงาน ผู้ชายจะมาขอ แม่ฝั่งเจ้าสาวจะถามว่า ค่าผีเท่าไหร่ ขอค่าผีปู่ย่า 2,000500บาทเพราะจะต้องนําไปซื้อ หัวหมูยกตัวอย่างเช่นแฟนลูกสาวมาขอแม่มาสู่ขอแต่ไม่แตง่ งาน สินสอดทองหมั้นไม่รู้ แต่แม่จะเรียรีกขอค่าผี พอได้เงิน แม่ก็ไปซื้อหัวหมูไปขึ้นไว้ และบอกกล่าวผีปู่ย่า ว่าแฟน ใคร มาขอ มาใส่ แม่จะเอามาซื้อหัวหมู เอามาขึ้นไว้ แล้วบอกกล่าว ว่า วันนี้ยังบ่ใช่วันดี ถ้าวันดี เดือน 4 จะมา เลี้ยง ถ้าถึงเดือน 4 วันดี จะมีการไปซื้อหัวหมู ซื้อไก่ แล้วนําไปทําพิธีบอกกล่าว ว่า ใครกําลังจะแต่งงานมีสามี แล้ว ถือว่าเป็นอันจบ ไม่ต้องมี การแต่งงานสินสอดทองหมั้น ในอดีตประมาณผู้สูงอายุ 70- 80 ปีเขาถือว่าถ้าเอา ใส่ผี ถือว่าเป็นสามีภรรยากัน สามารถ ไปไหนมาไหนด้วยกันได้ และสามารถทํากิจวัตร หรือรื กิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกันได้ ถึงเวลาวันดีฝ่ายชายก็เก็บเสื้อผ้า มานอนบ้านผู้หญิง ปัจจุบันเลี้ยงผีแล้ว ก็มีการแต่งงานอีกรอบ ผูกข้อไม้ข้อมือ บอกกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นประเพณีมาใหม่ แม้จะ มีกาลเวลาเปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงประเพณีเลี้ยงผี ปู่ย่าไว้ไม่ให้ หายไป วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา ประเพณีเลี้ยงผีปู่ย่า ประเพณี 17
มิติเศรษฐกิจ ชุมชน คนในชุมชนบ้านห้วยทรายส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม โดยมีการทําสวนลําไย และการปลูก ข้าวเป็นหลัก โดยที่ในอดีตนั้นคนในชุมชนส่วนใหญ่จะมีอาชีพทําสวนถั่วลิสงและ ทํานาข้าว ซึ่งจะได้รับรัผลผลิต ที่ไม่มาก จากนั้นได้หันมาทํา หอมแดงซึ่งได้รายได้ที่ไม่เพียงพอเช่นเดียวกันจึงมาทําลําไยใน เมื่อ 40 ปีให้หลัง จึง พบว่ารายได้มีมากขึ้นจึงทําให้ชาวบ้านส่วน ใหญ่เริ่มมาทําสวนลําไยเป็นส่วนใหญ่เป็นต้นมา อาชีพส่วนใหญ่ของชุมชบ้านห้วยทราย อาชีพเสริมริ ทำ นา 198 ครัวรัเรือรืน ทำ สวน 204 ครัวรัเรือรืน รับรัราชการ 8 ครัวรัเรือรืน ค้าขาย 23 ครัวรัเรือรืน รับรัจ้าง 30ครัวรัเรือรืน รายได้เฉลี่ยของประชากร (ตามเกณฑ์ จปฐ. ปี 2560) 30,000 บาท/คน/ปี รายได้เฉลี่ยของแต่ละวัน (บางวัน/คน) 300 บาท/คน/ วัน รายได้เฉลี่ย 18
การปลูกข้าว คนในชุมชนบ้านห้วยทรายจะมี การปลูกข้าว โดยปลูกในช่วงเดือน สิงหาคม และเริ่มเก็บเกี่ยวในช่วง เดือนพฤศจิกายน การเกษตร การทําสวนลําไย คนในชุมชนบ้านห้วยทรายมีการทําสวน ลําไยทั้งปี โดยในช่วงเดือนมกราคมเป็นช่วง ในฤดูที่ลําไยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยจะ เริ่มมีดอกและใช้ระยะเวล7เดือนในการออก ผลผลิตซึ่งจะมีการเก็บเกี่ยว ลําไยในช่วง เดือนกรกฎาคม ทั้งนี้การทําสวนลําไยจะมีทั้ง การทํานอกฤดู และในฤดู การรับรัจ้าง คนในชุมชนบ้านห้วยทรายส่วนใหญ่ที่จะ เป็นการทําการเกษตรแล้วยังมีการรับรัจ้าง ซึ่ง จะเป็นการรับรัจ้างทําการเกษตร เช่น การเก็บข้าวโพด หรือรืการทํางานใน โรงงานข้าวโพดโดย มีระยะเวลาในการ รับรัจ้าง ตลอดทั้งปี 19
มิติสวัสดิการสังคมภายในชุมชน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และคนพิการ เป็นสวัสดิการจากภาครัฐรัที่มีหน้าที่ในการดูแลประชาชน ซึ่งถือเป็นรากฐานในการดูแล ประชาชนที่บัญญัติไว้ในกฎหมายรัฐรัธรรมนูญ 2560 ที่ได้มีการบัญญัติเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการแก่ ผู้สูงอายุ มาตรา 48 บุคคลซึ่งมีอายุเกินหกสิบปีและไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพมีสิทธิได้รับรั สวัสดิการ สิ่งอำ นวยความสะดวก อันเป็นสาธารณะอย่างสมศักดิ์ศดิ์รี และความช่วยเหลือที่เหมาะ สมจากรัฐรัรวมทั้ง พระราชบัญญัติส่งเสริมริและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มาตรา ๒๐ คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอํานวยความสะดวก อันเป็นสาธารณะตลอดจน สวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐรั โดยการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการ กําหนดในระเบียบ ซึ่งภายในชุมชนบ้านห้วยทรายพบว่า มีผู้สูงอายุที่ ขึ้นทะเบียน จำ นวน 110 และจำ นวนคนพิการที่ขึ้นทะเบียนจำ นวน 37 ราย กองทุนหมู่บ้าน (กองทุนเงินล้าน) เป็นกองทุนสวัสดิการสังคมที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐรับาล เพื่อมีความต้องการวางรากฐาน ความมั่นคงในระดับรากหญ้า โดยให้ชุมชนมีการจัดการบริหริารเงินด้วยตนเอง จากเงิน ที่รัฐรับาลได้มีการจัดสรรงบประมาณ ลงมา โดยภายในชุมชนบ้านห้วยทรายจะมีกฎ ระเบียบภายในชุมชนเป็นของตนเองในการกู้ยืม ซึ่งจะมีหัวหน้า หมวดในแต่ละหมวด เป็นผู้ที่ดูแลจัดการเงินกู้ของตนเอง รับรัผิดชอบเงินกู้ในส่วนของหมวดตนเอง ทั้งนี้กฎ ระเบียบภายในกลุ่มของแต่ละหมวดที่ถือเป็นหัวใจสำ คัญ คือ การที่หัวหน้าหมวดจะไม่ สามารถเป็นผู้ที่เป็นคณะกรรมการจะต้องห้ามค้ำ เงินกู้ เนื่องจากปัญหาที่ตามมานั้นมี มาก และยากที่จะแก้ไข 20
สวัสดิการเรื่องการเกิด สมาชิก (มารดา) สมาชิก (มารดา) ที่คลอดบุตร บุตรที่คลอดมาจะ ได้รับรัคำ รับรัขวัญเด็กแรกเกิด คนละ 500 บาท โดยเด็กจะต้องเข้า ร่วร่มเป็นสมาชิก ชดเชยมารดาหลังคลอด ครั้งละ 500 บาท สวัสดิการเรื่องการศึกษา โดยสมาชิกที่เป็นนักเรียรีน นักศึกษา ให้ได้รับรัสวัสดิการดังนี้ สมาชิกจบอนุบาล 3 ได้รับรัสวัสดิการ 300 บาท สมาชิกจบ ป.6 ได้รับรัสวัสดิการ 500 บาท สมาชิกจบ ม.3 ได้รับรัสวัสดิการ 700 บาท สมาชิกจบ ม.6 หรือรื ปวช. ได้รับรัสวัสดิการ 900 บาท สมาชิกจบ ปวส. ได้รับรัสวัสดิการ 1,000 บาท สมาชิกจบปริญริญาตรี ได้รับรัสวัสดิการ 1,200 บาท สวัสดิการเรื่องการเจ็บป่วย สมาชิกเจ็บป่วยต้องเข้ารับรัการรักรัษาตัวอยู่โรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ได้รับรัสวัสดิการคืนละ 200 บาท และใช้สิทธิได้ไม่เกิน 7 คืน ต่อปี กองทุนสวัสดิการชุมชน เป็นกองทุนที่เกิดจากการรวมตัวของประชาชนในพื้นที่ซึ่งประกอบ ด้วย ชุมชนบ้านห้วยทราย เทศบาลตำ บลบ้านแปะ และรัฐรับาลซึ่งมาจากฐานคิดที่ต้องการจะสร้าร้ง หลักประกัน เพื่อ ความมั่นคงร่วร่มกันของคนในชุมชน และ เป็นกระบวนการที่ไม่ได้มองเพียงเรื่อง เงินเพียงอย่างเดียวแต่หมายรวมถึงการดูแลเอื้อเฟื้อต่อกันผ่านรูปแบบที่หลากหลาย โดยสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกส่งเงินสมทบสะสมครบ 6 เดือน (180) วันจะได้รับรัสวัสดิการ ดังนี้ กองทุนสวัสดิการชุมชน 21
สวัสดิการเรื่องการเสียชีวิต สมาชิกเสียชีวิตก่อนเป็นสมาชิกครบ 180 วัน (6 เดือน) จะไม่ได้รับรัเงิน สวัสดิการจากกองทุนและไม่มีการคืนเงินสมทบที่สะสม โดยให้ถือเป็นทุน ในการดำ เนินงานของกองทุนต่อไป สมาชิกเสียชีวิตหลังเป็นสมาชิกครบ 180 วัน (6 เดือน) จะได้รับรัสวัสดิการ จากกองทุนแต่จะไม่มีการคืนเงินสมทบสะสมของผู้เสียชีวิตสะสมไว้เพราะ ถือเป็นการสมทบที่จ่ายขาดให้กับ กองทุนฯ โดยจะได้รับรัสวัสดิการ ดังนี้ สวัสดิการเรื่องการบวช สมาชิกที่บรรพชาเป็นสามเณรครบ 1 พรรษาขึ้นไป ได้รับรัสวัสดิการ 500 บาท สมาชิกที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ครบ 1 พรรษาขึ้นไป ได้รับรัสวัสดิการ 1,000 บาท สวัสดิการเรื่องการเกณฑ์ทหาร สมาชิกที่ได้รับรัคัดเลือกเป็นทหารกองประจำ การในการเกณฑ์ทหาร ได้รับรั สวัสดิการ 500 บาท สวัสดิการผู้สูงอายุ สมาชิกที่มีอายุ 80 ปีบริบูริบูรณ์ขึ้นไป และผ่านการสมทบครบ 10 ปี จะได้ รับรัสวัสดิการเป็นเงิน จ่ายทดแทนกองทุนสวัสดิการชุมชนวันละ 1 บาท ปีละไม่เกิน 360 บาท และยังคงสามารถรับรัสวัสดิการด้านอื่น ๆ ได้ สวัสดิการเพื่อที่อยู่อาศัยประสบภัยธรรมชาติ ผู้ขอรับรัสวัสดิการเพื่อที่อยู่อาศัยประสบภัยพิบัติธรรมชาติ ต้องเป็น สมาชิกทั้งครอบครัวรัและเป็นสมาชิกครบ 1 ปี ได้รับรัสวัสดิการเป็นเงิน หรือรื สิ่งของไม่เกินครั้งรั้ละ 1,000 บาท สวัสดิการบ้านใหม่หลังแรก สมาชิกทำ บุญขึ้นบ้านใหม่หลังแรก รายละ 1,000 บาท สวัสดิการการเจ็บป่วยด้วยโรคร้าร้ยแรง 3 โรค สมาชิกที่ป่วยด้วยโรคร้าร้ยแรง 3 โรค (โรคหลอดเลือดสมอง , โรคหลอด เลือดหัวใจ , โรคมะเร็งร็ ได้รับรัสวัสดิการละ 500 บาท ครั้งเดียว สวัสดิการการแต่งงาน สมาชิกที่แต่งงาน(ครั้งแรก) ได้รับรัสวัสดิการ 500 บาท ครั้งเดียว - เป็นสมาชิกครบ 6 เดือน ได้รับรัค่าทำ ศพ 1,000 บาท - เป็นสมาชิกครบ 1 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 1,500 บาท - เป็นสมาชิกครบ 2 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 2,000 บาท - เป็นสมาชิกครบ 3 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 4,000 บาท - เป็นสมาชิกครบ 4 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 4,500 บาท - เป็นสมาชิกครบ 5 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 5,500 บาท - เป็นสมาชิกครบ 6 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 6,000 บาท - เป็นสมาชิกครบ 7 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 7,000 บาท - เป็นสมาชิกครบ 8 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 8,000 บาท - เป็นสมาชิกครบ 9 ปี ได้รับรัค่าทำ ศพ 9,000 บาท - เป็นสมาชิกครบ 10 ปี ขึ้นไป ได้รับรัค่าทำ ศพ 10,000 บาท กองทุนสวัสดิการชุมชน 22
เป็นกลุ่มที่มีการจัดตั้งโดยการรวมตัวกันของชาวบ้านเพื่อช่วยเหลือตนเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและ กัน โดยการเก็บออมทรัพรัย์ แล้วนำ มาสะสมรวมกันทีละเล็กละน้อยเป็นประจำ อย่างสม่ำ เสมอ เพื่อใช้เป็น ทุนให้สมาชิกที่มีความจำ เป็นเดือดร้อร้นกู้ยืมไปใช้ในการ ลงทุนประกอบอาชีพ หรือรืเพื่อสวัสดิการของ ตนเองและ ครอบครัวรัเป็นกลุ่มที่จัดขึ้นโดยสมาชิกภายในชุมชนจัดตั้งขึ้นมาได้ประมาณ 15 ปี ปัจจุบันมี คณะกรรมการที่ ดูแลจัดการ และดูแลกลุ่มอยู่ 5 คน ในหมวด 1 จะมีคณะกรรมการ 1 คน หมวด 2จะมีคณะกรรมการ 1 คน หมวด 3 มีคณะกรรมการ 2 คน (ในหมวด 3 จะมี 2 เขต หรือรื พื้นที่จึงแบ่งคณะกรรมการออกเป็นพื้นที่ละ 1 คน) และ หมวด 4 มีคณะกรรมการ 1 คน มีวัตถุประสงค์ใน การจัดตั้งคือไม่ต้องการให้คนในชุมชนไปกู้เงิน เป็นหนี้ในที่อื่น หรือรืนอกระบบ และมีความจำ เป็นที่จะ ต้องใช้เงินในการส่งเสียลูกเรียรีน ทั้งค่าหอ และค่าเทอม ซึ่งกลุ่มนี้ใน หมู่บ้านอื่นจะไม่มี มีในเพียงชุมชน บ้านห้วยทรายเพียงเท่านั้น โดยจะมีการหมุนเวียนเงินกันภายในชุมชน จะมี การออมทุกเดือนโดยเงินของ ทุกคนที่เป็นสมาชิกของชุมชน กลุ่มออมทรัพรัย์เพื่อการผลิต บ้านห้วยทราย กลุ่มผลิตน้ำ ดื่มชุมชน เป็นการจัดตั้งโดยการจัดเวทีประชาคมของชุมชนในเรื่องของความต้องการของชุมชน โดยชุมชนบ้าน ห้วยทราย ถือเป็นชุมชนนำ ร่อร่งในการจัดทำ น้ำ ดื่มภายในชุมชน เพื่อลดต้นทุนจากการเสียเงินในการซื้อน้ำ ดื่มจากที่อื่นมาบริโริภค ทั้งนี้ยังถือเป็นการบริหริารเงินให้มีการหมุนเวียนกันภายในชุมชน ซึ่งจะมีการปันผล ในทุก ๆ ปี กลุ่มปุ๋ยเศรษฐกิจชุมชน เป็นกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ทำ การเกษตร โดยจะเป็นการให้ปุ๋ยแก่สมาชิก ภายในกลุ่ม เพื่อนำ มาใช้ในการเกษตร โดยจะมีการลงปุ๋ยเพื่อให้ สมาชิกภายในกลุ่มได้เลือกใช้ตามความพอใจ และความเหมาะสมของการเกษตรของตนเอง แต่ใน ปัจจุบันเริ่มมีผู้ที่ต้องการกู้เงินภายในกลุ่มเพื่อนำ ไปใช้ หมุนเวียนในการทำ เกษตรของตนเอง จึงทำ ให้ กลุ่มต้องมีการเปลี่ยนจากกลุ่มที่ให้ปุ๋ย มาเป็นกลุ่มที่ต้องมีการกู้ เงินเพื่อนำ มาใช้ในการเกษตรแทน 23
ประเพณีที่สืบสานอย่างยาวนาน เช่น ประเพณีตานข้าวใหม่ ประเพณีตาน หลัวหิงไฟพระเจ้า ประเพณีเลี้ยงผีปู่ย่า ทุนมนุษย์ ได้แก่ -คนในชุมชนบ้านห้วยทรายมีความสามัคคีใน การร่วร่มทำ กิจกรรมต่าง ๆ ภายในชุมชน -คณะกรรมการมีการทำ งาน และประสานกันได้เป็นอย่างดี - ภายในชุมชนมีกลุ่มชุดรักรัษาความสงบภายชุมชนที่มีความเข้ม แข็ง - เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งในเรื่องของการออมเงิน แหล่งทรัพรัยากรน้ำ หมู่บ้าน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำ หมู่บ้าน อ่าง เก็บน้ำ พลังไฟฟ้า จุดเด่น/จุดแข็งภายในชุมชน ปราชญ์ชุมชน ได้แก่ ปราชญผู้สูงอายุ คือ นายบุญเร่งร่ ฟูเมือง ปราชญ์ด้านวัฒนธรรม คือ นายจันทร์ สอนธิ ทุนสถาบัน ได้แก่ วัดบ้านห้วยทราย, โรงพยาบาลส่งเสริมริสุข ภาพตำ บล, โรงเรียรีนบ้านห้วยทราย และ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านห้วยทราย 24
ปัญหาความต้องการของคนในชุมชน บ้านห้วยทราย ปัญหา/ความ ต้องการ ผลกระทบที่ เกิดขึ้น สาเหตุของ ปัญหา แนวทางการ แก้ไขปัญหา เลือกแนวทางใน การแก้ไขปัญหา ทุนชุมชนต่าง ๆ ที่ จะเข้ามาสนับสนุน การแก้ไขปัญหา ถนนภายใน ชุมชนเกิดการ ชำ รุด ขับขี่ไม่ปลอดภัย เกิดอุบัติเหตุได้บ่อย ครั้ง ถนนเป็นถนน คอนกรีตรีและ ขาดการบำ รุง รักรัษา และ ซ่อมแซม -ได้รับรังบประมาณจาก เทศบาลตำ บลบ้าน แปะ -เขียนหนังสือในการ ของบประมาณจากโรง โม่หิน การได้รับรังบประมาณจากเทศบาล ในการซ่อมแซมถนน เนื่องจากถือ เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักใน การดูแลจัดการ และบริหริารบริกริาร ขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชน ทุนมนุษย์ คณะกรรมการหมู่บ้าน อุบัติเหตุบนถนน ใหญ่หมายเลข 108 มีผู้ที่ได้รับรับาด เจ็บ ไม่มีสัญญาณ จราจรที่แน่ชัด ควรมีสัญญาณจราจรบน ท้องถนนเพื่อลดการเกิด อุบัติเหตุ ติดตั้งป้ายเพื่อใช้ในการ เตือนและแนะนำ เกี่ยว กับการขับขี่ในบริเริวณ ชุมชน ทุนมนุษย์ คณะกรรมการหมู่บ้าน รายได้น้อย และ ไม่มีอาชีพเสริมริ รายได้ไม่เพียงพอ ต่อการดำ รงชีวิต -สินค้าเกษตรราคา ตกต่ำ -สภาพแวดล้อมของ ชุมชนบ้านห้วยทราย ไม่เหมาะแก่การทำ เกษตรที่หลากหลาย -ได้รับรัการสนับสนุนจาก เทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง -การมีส่วนร่วร่มร่วร่มกัน ระหว่างคนในชุมชนกับ OTOP บ้านห้วยทราย การให้คนในชุมชน ได้เข้าไปมีส่วนร่วร่ม ในการจัดทำ ผลิตภัณฑ์ร่วร่มกับ ร้าร้น OTOP บ้านห้วย ทราย ทุนมนุษย์ คณะกรรมการหมู่บ้านทุนสถาบัน เทศบาลตำ บลบ้านแปะ โรคเรื้อรื้รังรั สมาชิกในชุมชนเกิด อาการเจ็บป่วยที่เพิ่ม มากขึ้น และเสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น พฤติกรรมการกิน ของคนในชุมชน คนในชุมชนขาด ความรู้เรู้รื่องสุขภาพ -แนะนำ และให้ความรู้ แก่ชุมชนในด้านสุข อนามัยเพิ่มมากขึ้น -จัดให้มีการตรวจ สุขภาพประจำ ปีให้แก่ คนในชุมชนนอกเหนือ จากการได้รับรัตรวจจาก โรงโม่หิน การจัดให้ความรู้กัรู้ กับ คนในชุมชนนด้านสุข อนามัยเพิ่มมากขึ้น ทุนสถาบัน รพสต.บ้านห้วยทรายทุนมรุษย์ อสม ไม่สามารถเข้า ถึงการตลาดได้ อย่างมี ประสิทธิภาพ คนในชุมชนถูก เอาเปรียรีบจาก การถูกกดราคา จากพ่อค้าคนกลาง คนในชุมชนมี การคมนาคมที่ ไม่สะดวก -สร้าร้งกลุ่มเกษตร - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้ามาให้ความรู้ เกี่ยวกับการทำ ธุรกิจ การส่งออกให้แก่คนใน ชุมชน คนในชุมชนควร มีการจัดตั้งกลุ่ม เกษตรอย่าง จริงริจัง และเป็น ทางการ ทุนมนุษย์ ความสามัคคีของคนใน ชุมชน ลำ ห้วยใน หมู่บ้าน เกิดน้ำ ท่วมในเขต ชุมชน การทับถมของ ขยะ และสิ่ง ปฏิกูล -ได้รับรัการสนับสนุนจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คนในชุมชนมีการช่วยขุดลอก ดูแลรักรัษาและร่วร่มกันกำ จัด สิ่งปฏิกูล สร้าร้งการมีส่วนร่วร่มของ คนในชุมชนในการช่วย ขุดลอกลำ ห้วย และดูแล รักรัษา ทุนมนุษย์ การมี ส่วนร่มร่ของคนใน ชุมชน 25
บ้านห้วยทราย หมู่ที่ 5