อปุ กรณ์
คอมพิวเตอร์
นางสาวเกศกนก สุขแจ่ม หอ้ ง 2
รหัส 61111806056
1.จอภาพ
(Monitor)
เปน็ อปุ กรณท์ ีม่ หี น้าทแี่ สดงผลลพั ธ์การ
ประมวลผล การทางานของเครื่องคอมพวิ เตอร์
ดา้ นหลงั จอภาพมีสายไว้ต่อเขา้ กับการ์ดจอ
จอภาพมีหลายขนาดให้เลอื กใชง้ าน
2.เคส
(Case)
คอื กลอ่ งหรอื โครงสรา้ งสาหรบั เกบ็
ประกอบอุปกรณต์ า่ งๆ คอมพวิ เตอร์ไว้
ภายในนั้น ซง่ึ ขนาดของเคสกจ็ ะแตกต่าง
กนั ออกไป
3.พาวเวอรซ์ พั พลาย
(Power Supply)
เปน็ อปุ กรณ์ที่ทาหน้าท่ใี นการจา่ ย
กระแสไฟฟา้ ให้กบั ช้ินส่วนอุปกรณ์
คยี ์บอร์ดหรือแป้นพมิ พ์
(Keyboard)
ทาหนา้ ทรี่ บั คาส่ังและขอ้ มูล เข้าเครื่อง
คอมพิวเตอร์ โดยผ่านทางปมุ่ ตา่ งๆท่ีอยู่บน
แปน้ พิมพ์ ซ่งึ มีลกั ษณะเปน็ ตัวอกั ษร ตัวเลข
และสัญลกั ษณ์
4.เมาส์
( Mouse )
ทาหนา้ ทีใ่ นการช้ีตาแหน่ง และใชเ้ ลือก
ไอคอนตา่ งๆ ท่อี ยูบ่ นหนา้ จอภาพคอมพิวเตอร์
5.ไมโครโฟน
( Microphone )
ทาหน้าท่รี บั ข้อมลู เสยี ง หรอื รบั เสียงท่เี ราพดู
ออกมาให้เราได้ยนิ ทางลาโพง หรือ หฟู ัง
6.ซีพยี ู (CPU)
ทาหน้าท่ีรับข้อมูลเสยี ง หรอื รบั เสียงที่เราพดู
ออกมาให้เราไดย้ นิ ทางลาโพง หรือ หูฟัง
7.ลาโพง
(Loudspeaker)
ทาหนา้ ท่ีสง่ ข้อมลู ทีอ่ ยูใ่ นลักษณะของเสยี ง
ตา่ งๆ ให้ผู้ใช้ไดย้ ิน
8.เมนบอร์ด
(Main board)
แผ่นวงจรไฟฟา้ แผ่นใหญ่ที่รวมเอาชน้ิ สว่ น
อิเล็กทรอนกิ สท์ ีส่ าคัญๆมาไว้ดว้ ยกัน ซ่ึงเปน็
ส่วนที่ควบคมุ การทางานของ อปุ กรณต์ ่างๆ
ภายในพีชีทงั้ หมด
9.การด์ แสดงผล
(Display Card)
การด์ แสดงผลใช้สาหรบั เกบ็ ขอ้ มลู ที่ได้
รบั มาจากซีพียู โดยที่การ์ดบางรุน่ สามารถ
ประมวลผลไดใ้ นตวั การ์ด ซึง่ จะช่วยแบง่ เบา
ภาระการประมวลผลให้ซีพียู
10. แรม (RAM)
เป็นหนว่ ยความจาหลกั แตไ่ มถ่ าวร ซึ่ง
จะต้องมีไฟมาหลอ่ เลย้ี งอุปกรณต์ ลอดในการ
ทางาน โดยถ้าเกดิ ไฟฟา้ กระพริบหรือดับ
ข้อมลู ทถี่ กู บนั ทึกไวใ้ นหน่วยความจาจะหายไป
ทนั ที
11. ฮาร์ดดิสก์
(Hard disk)
เปน็ อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นการเก็บขอ้ มูลหรือ
โปรแกรมต่างๆ ของคอมพิวเตอร์
12. CD-ROM / CD-
RW / DVD / DVD-RW
เปน็ ไดรฟ์สาหรบั อา่ นขอ้ มลู จากแผ่น
ซีดรี อม หรอื ดีวีดีรอม ซงึ่ ถ้าหากตอ้ งการ
บนั ทึกข้อมูลลงบนแผน่ จะต้องใช้ไดรฟท์ ่ี
สามารถเขยี นแผ่นไดค้ อื CD-RW หรอื
DVD-RW
13. ฟล็อปปีด้ สิ ก์
(Floppy Disk)
เป็นอุปกรณท์ ก่ี าเนดิ มากอ่ นยุคของพีซเี สยี
อีกในปัจจุบนั การใช้งานฟลอ็ ปปีด้ สิ กน์ นั้
น้อยลงไปมากเพราะ เนอื่ งจากจขุ ้อมูลไดน้ อ้ ย
ซง่ึ ไมเ่ พียงพอกับความตอ้ งการ