The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chonnipa6251, 2021-06-10 12:19:20

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์

เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์
เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์

ความหมาย
เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ หมายถงึ เคร่ืองมือในการตรวจสอบและศกึ ษาส่ิงทีอ่ ยบู่ น
พืน้ ผิวโลก และบรรยากาศของโลก จงึ ได้ถกู ออกแบบมาเพ่อื ตรวจสอบและบนั ทกึ ข้อมลู
ทางด้านภมู ิศาสตร์ ทงั้ ทางด้านข้อมลู เชิงปริมาณและข้อมลู ทางคณุ ภาพ เชน่ การกาหนดพกิ ดั
บนพืน้ ผิวโลก การวดั ทศิ ทางการเกบ็ ข้อมลู ภาคสนาม ในพนื ้ ที่ตา่ ง ๆ หรือใช้เป็นเคร่ืองมือ
ประกอบการเรียนรู้ในห้องปฏิบตั กิ ารท่ีเกี่ยวข้องกบั ภมู ิศาสตร์

เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ หมายถงึ ส่งิ ท่ีใช้ในการศกึ ษาข้อมลู ทางภมู ิศาสตร์ เกี่ยวกบั
ตาแหนง่ ทาเลทีต่ งั้ การกระจาย ขอบเขต ความหนาแนน่ ของข้อมลู และปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ

1. ประเภทให้ข้อมูล
1.1 แผนท่ี (Map)
เป็นเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ขนั้ พืน้ ฐานอยา่ งหนง่ึ โดยการยอ่ ข้อมลู ตา่ ง ๆ ที่

ปรากฏบนพนื ้ โลกให้มีขนาดเลก็ ลงตามมาตราสว่ น และแสดงข้อมลู ดงั กล่าวด้วยสญั ลกั ษณ์ลง
บนวสั ดตุ า่ ง ๆ เชน่ กระดาษ ผ้า แผน่ พลาสติก ฯลฯ ข้อมลู ท่แี สดงในแผนที่ มี 2 ลกั ษณะ
คอื 1) ข้อมลู ด้านกายภาพ เป็นสง่ิ ท่เี กิดขนึ ้ เองโดยธรรมชาติ เชน่ แมน่ า้
ภเู ขา ชายฝั่งทะเล เกาะ และป่าไม้

2) ข้อมลู ด้านวฒั นธรรม เป็นสงิ่ ที่มนษุ ย์สร้างขนึ ้ เชน่ ถนน เข่ือน ที่วา่ การ
อาเภอ โรงเรียน สถานีอนามยั ฯลฯ

ชนิดของแผนท่ี
1. แผนท่ที ่วั ไป เป็นแผนท่ีท่ีแสดงลกั ษณะโดยทว่ั ไปได้แก่แผนที่

แสดงลกั ษณะภมู ิภาคตา่ งๆ โดยจะแสดงด้วยสี เพื่อให้เห็นความแตกตา่ งของลกั ษณะแผน่ ดิน
2. แผนท่อี ้างอิง เป็นแผนท่ีท่ีใช้เป็นหลกั ในการทาแผนท่ชี นิดอืน่

ๆ แผนที่อ้างอิงที่สาคญั ได้แก่ แผนท่ีภมู ิประเทศ คือ แผนทท่ี ่ีใช้แสดงลกั ษณะภมู ิประเทศบน
พืน้ ผิวโลก เช่น ทรี่ าบ ท่ีราบสงู เนินเขา แมน่ า้ เกาะ ถนน เมอื ง และแผนที่ชดุ คอื แผนทหี่ ลาย

เเผน่ ทมี่ มี าตราสว่ นและรูปแบบเป็นอยา่ งเดียวกนั และครอบคลมุ พืน้ ที่ใดพนื ้ ท่ีโดยเฉพาะ
3. แผนท่เี ฉพาะเร่ือง เป็นแผนที่ทแี่ สดงลกั ษณะเฉพาะตาม

จดุ มงุ่ หมาย เช่น แผนท่ี แสดงป่าไม้ แผนท่ีแสดงเส้นทางคมนาคม แผนท่ีแสดงแหลง่
ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น สามารถแบง่ ได้ดงั นี ้

3.1 แผนท่รี ัฐกจิ (political map) คอื แผนที่แสดง
อาณาเขตทางการปกครอง เชน่ เขตจงั หวดั หรือประเทศ แผนทชี่ นิดนีจ้ ะต้องแสดงอาณาเขต
ตดิ ตอ่ กบั ดินเเดนของประเทศหรือรัฐอนื่ พร้อมทงั้ แสดงท่ีตงั้ ช่ือเมืองหลวง เมืองทา่ หรือเมือง
สาคญั อนื่

3.2 แผนท่ภี มู อิ ากาศ (climatic map) เป็นแผนท่ี
สาหรับแสดงข้อมลู ด้านภมู ิอากาศโดยเฉพาะ เช่น แผนท่ีเขตภมู ิอากาศของโลก แผนท่ีปริมาณ
ฝนเฉลยี่ ของประเทศไทย แผนท่ีปริมาณฝนเฉล่ยี ของโลกแผนทีอ่ ณุ หภมู ิเฉลย่ี ของ
โลก 3.3 แผนท่ธี รณีวทิ ยา (geologic map) เป็น
แผนท่ีท่ีจดั ทาขนึ ้ เพื่อเเสดงอายุ ประเภท และการกระจายตวั ของหนิ เปลือกโลก การตกตะกอน
ทบั ถมของสารตา่ ง ๆท่ีผิวโลกรวมทงั้ แสดงรอยเลือ่ นท่ีปรากฎบนผิวโลก และลกั ษณะทาง
ธรณีวิทยาอืน่ ๆ

3.4 แผนท่กี ารถอื ครองท่ดี นิ (cadastral map) เป็น
แผนท่ีที่จดั ทาขนึ ้ เพ่ือเเสดงอาณาเขตที่ดินในพืน้ ที่ใดพืน้ ทีห่ นง่ึ เชน่ ในเขตตาบล อาเภอ หรือ
จงั หวดั โดยแบง่ ออกเป็นแปลงๆ และแตล่ ะเเปลงตา่ งก็แสดงสทิ ธิการครอบครองโดยการเเสดง
การเป็นเจ้าของ

3.5 แผนท่พี ชื พรรณธรรมชาติ (natural
vegetation map) เป็นแผนท่ีท่จี ดั ทาขนึ ้ เพ่ือเเสดงประเภทของพชื พรรณธรรมชาติและ
การกระจายตวั ของพืชพรรณชนิดนนั้ ๆ ทป่ี รากฎบนโลก ภมู ิภาค หรือประเทศตา่ งๆ

3.6 แผนท่ที ่องเท่ยี ว (tourist map) เป็นแผนทีท่ ่ีจดั ทา
ขนึ ้ เพือ่ แนะนาสถานทนี่ นั้ เพ่ืออานวยความสะดวกแก่นกั ทอ่ งเท่ียว โดยแสดงรายละเอยี ด
เกี่ยวกบั ตาแหน่งและสถานที่ทจ่ี าเป็นและเก่ียวข้องสาหรับการทอ่ งเทย่ี ว เชน่ เส้นทางการ

คมนาคมทงั้ ทางบก เรือ อากาศ ทพี กั ร้านอาหาร ภตั ตาคาร สถานท่ีทอ่ งเท่ียวทางธรรมชาติ
เช่น ชายหาด นา้ ตก เกาะ แก่ง ภเู ขา อทุ ยาน เป็นต้น

1.2 รูปถ่ายทางอากาศ (Aerial Photography)
เป็นรูปภาพแสดงภมู ิประเทศท่ปี รากฏบนพืน้ ผิวโลก ถา่ ยโดยใช้กล้อง

ถา่ ยรูปติดไว้กบั เครื่องบนิ สว่ นหนว่ ยงานทจ่ี ดั ทารูปถา่ ยทางอากาศ คอื กรมแผนทท่ี หาร
กระทรวงกลาโหม การนาไปไปใช้ประโยชน์ มหี นว่ ยราชการอื่น ๆ นารูปถา่ ยทางอากาศไปใช้
ประโยชน์ทางด้านวิชาการและการพฒั นาความเจริญของบ้านเมือง ดงั นี ้

1) ทาให้ทราบถึงความเปลยี่ นแปลงในลกั ษณะทางกายภาพของพืน้ ทีต่ า่ ง
ๆ โดยเปรียบเทยี บจากรูปทีถ่ า่ ยในระยะเวลาแตกตา่ งกนั เชน่ การสญู เสยี พืน้ ท่ปี ่าชายเลน การ
พงั ทลายของตลงิ่ ริมแม่นา้ ทเ่ี กิดจากการกดั เซาะของคลน่ื และการขยายตวั ของชมุ ชนเมืองเข้า
ไปในพนื ้ ที่เกษตรกรรม

2) การวางแผนพฒั นาการใช้ที่ดิน โดยนารูปถา่ ยทางอากาศไปใช้เพ่ือ
จดั ทาแผนทีแ่ ละจาแนกประเภทการใช้ทด่ี นิ ของประเทศ โดยกาหนดโซนหรือแบง่ พนื ้ ท่ีเป็นเขต
อตุ สาหกรรม เขตเกษตรกรรม และเขตชมุ ชนทีอ่ ยอู่ าศยั

3) การอนรุ ักษ์พืน้ ท่ปี ่าไม้ รูปถ่ายทางอากาศทาให้ทราบถงึ สภาพความ
อดุ มสมบรู ณ์ของป่าไม้ในพืน้ ท่ีตา่ ง ๆ เพือ่ กาหนดแนวทางการอนรุ ักษ์และพฒั นาตอ่ ไป
การศกึ ษาข้อมลู จากรูปถา่ ยทางอากาศ ทาได้ 2 วธิ ี คือ ศกึ ษาด้วยตาเปลา่ ศกึ ษาด้วยกล้อง
สามมิติ เนื่องจากรูปถา่ ยทางอากาศไมม่ ีคาอธิบายใด ๆ ทงั้ สนิ ้ จงึ ควรศกึ ษาควบคกู่ บั แผนที่
ด้วยจะทาให้เข้าใจงา่ ย

1.3 ภาพจากดาวเทยี ม
1.3.1 ภาพจากดาวเทยี ม (Satellite Imagery) ให้ประโยชน์อย่าง

มากในการศกึ ษาข้อมลู เพื่อสารวจแหลง่ ทรัพยากรธรรมชาติ ในปัจจบุ นั ประเทศไทยมีสถานีรับ
สญั ญาณภาพดาวเทยี มลาดกระบงั ตงั้ อยทู่ เ่ี ขตลาดกระบงั กรุงเทพมหานครทาให้สิน้ เปลือง
คา่ ใช้จ่ายน้อยกวา่ ท่ีเคยพง่ึ พาตา่ งประเทศ

1.3.2 การทางานรับภาพของดาวเทยี ม เรียกวา่ กระบวนการรีโมทเซนซงิ

(Remote Sensing) โดย ดาวเทยี มจะเก็บข้อมลู ของวตั ถหุ รือพืน้ ท่ีเปา้ หมายบน
พืน้ ผิวโลก จากรังสีท่ีสะท้อนขนึ ้ ไปจากผิวโลกหรือจากอณุ หภมู ิของวตั ถนุ นั้ ๆ บนพืน้ ผิวโลก
จากนนั้ ดาวเทียมจะสง่ ข้อมลู เป็นคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ มายงั สถานีภาคพืน้ ดิน ซงึ่ จะบนั ทกึ เป็น
ข้อมลู เชิงตวั เลขในแถบบนั ทกึ ข้อมลู เพ่ือนาไปประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ และนาเสนอเป็น
แผน่ ฟิล์ม

1.3.3 ภาพจากดาวเทยี วให้ประโยชน์ในการศกึ ษาทางภมู ิศาสตร์ คือ
นามาใช้จดั ทาแผนทแ่ี สดงภมู ิประเทศของพืน้ ทีต่ า่ ง ๆ ซงึ่ จะให้รายละเอียดของตาแหน่งตา่ ง ๆ
บนพืน้ โลกชดั เจนย่ิงขนึ ้

1.4 อนิ เทอร์เน็ต

1.4.1 อนิ เทอรเ์ น็ต (Internet) หรอื ไซเบอรส์ เปซ
(Cyber Space) คอื ระบบการสอ่ื สารดว้ ยเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ี่
เชอื่ มโยงระหวา่ งผใู ้ ชง้ านทั่วโลกเขา้ ดว้ ยกนั ทาใหเ้ กดิ การ
แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร และความรดู ้ า้ นตา่ ง ๆ อยา่ งสะดวก
และรวดเร็ว จนทาใหโ้ ลกในปัจจบุ นั เขา้ สยู่ คุ “การสอ่ื สารไร ้
พรมแดน”

1.4.2 บรกิ ารในอนิ เทอรเ์ น็ต (World Wild Web :
WWW) จะใหบ้ รกิ ารขอ้ มลู ในรปู แบบตา่ ง ๆ ทงั้ ตวั อกั ษร รปู ภาพ
เสยี ง หรอื ภาพยนตร์ ขอ้ มลู เหลา่ น้ี เรยี กวา่ “เว็บเพ็จ” (Web
Page) มกี ารเชอ่ื มโยงถงึ กนั ท่ัวโลกคลา้ ยใยแมงมมุ

1.5 ลกู โลกจำลอง
ลกู โลกจาลองเป็ นสง่ิ ทมี่ นุษยส์ รา้ งขนึ้ เพอื่ จาลอง

ลกั ษณะของโลก แสดงทต่ี งั้ อาณาเขต พรมแดนของประเทศ
ตา่ งๆและลกู โลกจาลองยงั สามารถใชเ้ ป็ นสอื่ ในการเรยี นการ
สอนเกย่ี วกบั โลกไดเ้ ป็ นอยา่ งดี

2. ประเภทเครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์
อปุ กรณท์ างภมู ศิ าสตร์ หมายถงึ อปุ กรณท์ ใี่ ชว้ ดั หรอื

เก็บขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตรใ์ นดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ ทศิ ระยะทาง ความ
สงู ตาแหน่งทต่ี งั้ อณุ หภมู ขิ องอากาศ และปรมิ าณฝน เป็ นตน้

สรปุ ไดด้ งั น้ี
2.1 เข็มทศิ (Compass)เป็ นเครอ่ื งมอื บอกทศิ อยา่ ง

งา่ ย ๆ โดยจะทาปฏกิ ริ ยิ ากบั แมเ่ หล็กโลกและแสดงคา่ ของมมุ
บนหนา้ ปัด วธิ ใี ชเ้ ข็มทศิ คอื วางเข็มทศิ ในแนวระนาบ ปรับหมนุ
หนา้ ปัดใหเ้ ขม็ บอกคา่ บนหนา้ ปัดอยใู่ นตาแหน่งทห่ี นั ไปทางทศิ
เหนอื แมเ่ หล็กโลกตอ่ จากนัน้ จงึ นาเข็มทศิ หนั เขา้ หาตาแหน่งที่
ตอ้ งการวดั มมุ เชน่ เสาธงโรงเรยี น เขม็ ทศิ ก็จะบอกใหท้ ราบวา่
เสาธงของโรงเรยี นอยใู่ นทศิ ใด และทามมุ กอี่ งศากบั ทศิ เหนอื
แมเ่ หล็กโลก

2.2 เครอ่ื งมอื วดั พนื้ ท่ี (Planimeter)มลี กั ษณะคลา้ ย
ไมบ้ รรทดั ทาดว้ ยโลหะยาวประมาณ 1 ฟตุ ใชส้ าหรับวดั พน้ื ทใี่ น
แผนที่ โดยเครอ่ื งจะคานวณใหท้ ราบคา่ ของพน้ื ทแ่ี ละแสดงคา่
บนหนา้ ปัด

2.3 เทปวดั ระยะทางใชส้ าหรับวดั ระยะทางของพน้ื ท่ี
เมอื่ ลงไปสารวจหรอื เกบ็ ขอ้ มลู ภาคสนาม เทปวดั ระยะทางมี 3
ชนดิ ไดแ้ ก่ เทปทท่ี าดว้ ยผา้ เทปทที่ าดว้ ยโลหะ และเทปทท่ี า
ดว้ ยโซ่

2.4 เครอื่ งยอ่ ขยายแผนท่ี (Pantograph) เป็ นอปุ กรณ์
ทใี่ ชจ้ ัดทาแผนทอ่ี ยา่ งหนง่ึ เพอ่ื ยอ่ หรอื ขยายแผนทใ่ี หไ้ ดข้ นาด
หรอื มาตราสว่ นตามทต่ี อ้ งการ โดยทัว่ ไปนยิ มใชแ้ บบโตะ๊ ไฟ ซงึ่
มแี ทน่ วางแผนทต่ี น้ ฉบบั และมไี ฟสอ่ งอยใู่ ตก้ ระจก ทาใหเ้ ห็น
แผนทต่ี น้ ฉบบั ปรากฏเป็ นเงาบนกระจกอยา่ งชดั เจน ทงั้ นี้
ผจู ้ ดั ทาแผนทดี่ งั กลา่ ว จะตอ้ งลอกลายเพอ่ื ยอ่ หรอื ขยายแผนที่
ดว้ ยมอื ของตนเอง

2.5 กลอ้ งวดั ระดบั (Telescope)เป็ นอปุ กรณว์ ดั ระดบั
ความสงู จากพน้ื ดนิ เพอื่ สารวจพน้ื ทสี่ รา้ งถนน โดยจะชว่ ย
กาหนดระดบั แนวถนนไดต้ ามทต่ี อ้ งการ

2.6 กลอ้ งสามมติ ิ (Stereoscope)เป็ นอปุ กรณท์ ใี่ ชด้ รู ปู
ถา่ ยทางอากาศ เพอื่ พจิ ารณาความสงู ตา่ ของ
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ในพน้ื ทนี่ ัน้ ๆ

2.7 กลอ้ งสามมติ แิ บบพกพา

2.8 เครอ่ื งมอื วดั ลกั ษณะอากาศแบบตา่ ง ๆ
(1) เทอรโ์ มมเิ ตอร์ (Thermometer) เป็ นอปุ กรณ์
ทใ่ี ชว้ ดั อณุ หภมู ขิ องอากาศ โดยท่วั ไปนยิ มใชแ้ บบหลอดแกว้ ที่

บรรจปุ รอทหรอื แอลกอฮอลไ์ วภ้ ายใน คา่ ของอณุ หภมู มิ ี 2 ระบบ
ดงั นี้
- ระบบเซลเซยี ส (0 – 100 องศา C)
- ระบบฟาเรนไฮต์ (32 – 212 องศา F)
(2) บาโรมเิ ตอร์ (Barometer) เป็ นอปุ กรณท์ ใ่ี ช ้
วดั ความกดอากาศ มี 2 ชนดิ คอื
- แบบปรอท ซง่ึ ประกอบดว้ ยอปุ กรณส์ าคญั
2 อยา่ ง คอื หลอดแกว้ และอา่ งแกว้ ทบ่ี รรจปุ รอท

- แบบแอนริ อยด์ (Aneroid) เป็ นแบบตลบั
โลหะขนาดเล็ก ทหี่ นา้ ปัดจะมเี ข็มแสดงคา่ ความกดอากาศไว ้

(3) เครอ่ื งวดั น้าฝน (Rain Gauge) ทาดว้ ยโลหะ
ทรงกระบอกซอ้ นกนั 2 ชนั้
(4) แอโรแวน (Aerovane) เป็ นอปุ กรณส์ าหรับ
วดั ทศิ ทางและความเร็วของลม แยกตามลกั ษณะการใชง้ านได ้
2 ชนดิ ดงั นี้
- แอนนโิ มมเิ ตอร์ (Anemometer) ใชว้ ดั
ความเร็วของลม
- วนิ แวน (Wind Vane) ใชว้ ดั ทศิ ทางของ
ลม มสี ญั ลกั ษณเ์ ป็ นรปู ไกห่ รอื ลกู ศร
(5) ไฮโกรมเิ ตอร์ (Hygrometer)ใชว้ ดั ความชนื้
ของอากาศโดยมเี สน้ ผมเป็ นอปุ กรณส์ าคญั ถา้ อากาศมคี วามชนื้
สงู จะทาใหเ้ สน้ ผมยดื ตวั แตถ่ า้ มคี วามชนื้ นอ้ ยเสน้ ผมจะหดตวั
ทงั้ นห้ี นา้ ปัดจะแสดงคา่ ความชน้ื บนกระดาษกราฟใหเ้ ห็น

(6) ไซโครมเิ ตอร์ (Psychrometer) เป็ นอปุ กรณ์
ใชว้ ดั ความชนื้ ของอากาศอกี แบบหนง่ึ ประกอบดว้ ย

เทอรโ์ มมเิ ตอร์ 2 อนั คอื เทอรโ์ มมเิ ตอรป์ รอท (เทอรโ์ มมเิ ตอร์
ตมุ ้ แหง้ ) และเทอรโ์ มมเิ ตอรท์ ใ่ี ชผ้ า้ มัสลนิ หลอ่ น้าใหเ้ ปียกอยู่

ตลอดเวลา (เทอรโ์ มมเิ ตอรต์ มุ ้ เปียก)


Click to View FlipBook Version