1 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
2 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
3 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ค ำน ำ โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ. เป็นโรงเรียนเอกชนระดับอาชีวศึกษาของกองทัพบก ด าเนินการโดยกรมการขนส่งทหารบก เปิดท าการสอนเมื่อ พ.ศ. 2509 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ค านึงถึงการศึกษา ของเยาวชนในชาติเป็นส าคัญ เน้นระเบียบวินัย วิชาการ คุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ โรงเรียนได้พัฒนาวิธีการสอนด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้ทันสมัยตาม เทคโนโลยี และความต้องการของสังคม นักเรียนสามารถประกอบอาชีพได้ ด ารงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสุข ดังปรัชญาของโรงเรียน “มีวินัย สนใจวิชำกำร สรรค์สร้ำงคุณธรรม” คู่มือนักเรียน-นักศึกษา เล่มนี้ โรงเรียนจัดท าขึ้นเพื่อให้ครู ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษาตลอดจน สถานประกอบการในระบบทวิภาคี ได้ทราบระเบียบ ข้อปฏิบัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน นักศึกษาโดยตรง รวมทั้งสาระส าคัญต่างๆ ที่ครู ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา และสถานประกอบการในระบบทวิภาคีควรจะ ทราบเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือนักเรียน-นักศึกษาเล่มนี้ จะเกิด ประโยชน์ ต่อครู ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา ที่มุ่งหวังความส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนต่อไป โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่ำงกล ขส.ทบ.
4 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 สำรบัญ เรื่อง หน้ำ ปรัชญาโรงเรียน 5 สัญลักษณ์โรงเรียน 6 ประวัติโรงเรียน 7-8 การประกันคุณภาพการศึกษา 9 สภาพปัจจุบัน 9 เกียรติคุณต่างๆ 10-12 แผนภูมิการบริหาร 13 คณะผู้บริหาร 14-16 ปรัชญา อัตลักษณ์เอกลักษณ์วิสัยทัศน์พันธกิจ และเป้าหมายโรงเรียน 17-20 แนะแนวการศึกษาต่อ 21 ศูนย์การศึกษาระบบทวิภาคี 22-36 หลักเกณฑ์การประเมินผลการเรียน 37-41 เรื่องควรทราบ 42-50 ระเบียบโรงเรียน 51-57 เครื่องแบบและการแต่งการระดับ ปวช.2-3, ปวส.2 58-60 เครื่องแบบและการแต่งกายระดับ ปวช.1 และ ปวส.1 61-76 ช่องทางการติดต่อกับโรงเรียน 77
5 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
6 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
7 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
8 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
9 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 กำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2544 โรงเรียนฯ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ การศึกษาจากส านักงานคณะกรรมการการศึกษา เอกชน กระทรวง ศึกษาธิการปีการศึกษา 2543-2547 พ.ศ.2545 โรงเรียนฯ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ การศึกษาจากส านักงานคณะกรรมการรับรอง มาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) พ.ศ.2549 โรงเรียนฯ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ การศึกษาจากส านักงานคณะกรรมการรับรอง มาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ในระดับดี พ.ศ.2554 โรงเรียนฯ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ การศึกษาจากส านักงานคณะกรรมการรับรอง มาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ในระดับดี พ.ศ.2564 โรงเรียนฯได้ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพ การศึกษาจากส านักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพ การศึกษา (สมศ.) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์2564 ผลการประเมิน ผ่านมาตรฐานตามที่สมศ. ก า หนด เพราะคุณภาพชีวิตมีจุดเริ่มต้นจากรากฐานการศึกษาโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ช่างกลขส.ทบ.จึงมีเป้าหมายการ ด าเนินการตามเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของกองทัพบกที่ต้องการสนับสนุน การศึกษาตลอด54 ปีที่ผ่านมาโรงเรียนมุ่งมั่นผลิต สภำพปัจจุบัน สถำนภำพโรงเรียน เป็นโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษาสาขาวิชาอุตสาหกรรม สังกัดส า นักงานคณะกรรมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ และอยู่ภายใต้การก ากับดูแลของกองทัพบก โดยมีเจ้ากรมการขนส่ง ทหารบก เป็นผู้รับ ใบ อนุ ญ า ต และเจ้าของโรงเรียนโดยต าแหน่ง จ ำนวนนักเรียน-นักศึกษำ จ านวนนักเรียน-นักศึกษาปัจจุบัน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประมาณ 1,146 นาย ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประมาณ 371 นาย จ านวนนักเรียน-นักศึกษาที่จบการศึกษาแล้ว ประมาณ 26,575 นาย สำขำที่เปิดสอน และหลักสูตร ระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ (ปวช.) หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2562 เปิดสอน 3สาขาวิชา คือ 1. สาขาวิชาช่างยนต์ สาขางานยานยนต์ 2. สาขาวิชาช่างไฟฟ้าก าลัง สาขางานไฟฟ้าก าลัง 3. สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2563 และสาขาช่างอากาศยาน หลักสูตร พ.ศ.2564 เปิดสอน 3 สาขาวิชา ดังนี้.- สาขาวิชาช่างอากาศ สาขางานช่างอากาศยาน สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล สาขางานธุรกิจดิจิทัล
10 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนกำรสอน 1.นักเรียนที่จบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สามารถสอบเข้าศึกษาต่อใน สถาบันของรัฐ ปีละประมาณ 30% 2.การติดตามความส าเร็จของนักเรียน โดยการใช้ไปรษณียบัตร แบบสอบถาม และใบตรวจสอบวุฒิ ดังนี้ - ด้ำนระดับกำรศึกษำ ปริญญาโท-เอก 2 % ปริญญาตรี 55 % ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 35 % ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 8 % ด้ำนกำรประกอบอำชีพ ข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ 50 % บริษัทเอกชน 30 % ประกอบอาชีพส่วนตัว 20 % เกียรติคุณต่ำงๆ ที่โรงเรียนได้รับ พ.ศ.2553 ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทรถต้นแบบแห่งอนาคต ในรายการ เชลล์อีโค-มาราธอน เอเชีย 2010 ซึ่งบริษัทเชลล์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย ระหว่าง วันที่ 8--10 กรกฏาคม 2553 ณ สนามแข่งขัน เซปังอินเตอร์เนทชั่น แนลเซอร์กิต กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จากทีมเข้าร่วมแข่งขัน 10 ประเทศ 81 ทีม ด้วยการได้รับรางวัล ชนะเลิศสถิติสูงสุด ประเภทเครื่องยนต์แก๊สโซลีน และประเภทรวมเครื่องยนต์สันดาปภายใน ท าสถิติที่ 1,521.9 ก.ม./ลิตร ได้รับเกียรติบัตรรางวัลเหรียญทองการแข่งขันทักษะวิชาชีพ ครั้งที่ 25 ณ เทคโนโลยีหมู่บ้านครู ในสาขางานติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร สาขางานช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และสาขางานเทคนิคพื้นฐาน (งานตะไบ) ได้รับเกียรติบัตรรางวัลเหรียญเงินการประกวดสิ่งประดิษฐ์งานแข่งขันทักษะวิชาชีพ ครั้งที่ 2 ณ เทคโนโลยีหมู่บ้านครู ผลงานโซลาเซลล์หมุนตามแสงอาทิตย์ ผลงานตู้ยาส าหรับผู้พิการทางสายตาได้รับโล่รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ตอบ ปัญหาวิชาการทางพระพุทธศาสนา ได้รับโล่รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 สวดมนต์ 49 คน, ประกวดแสดง ละครธรรมะ และร้องเพลงส่งเสริมศีลธรรม 2011” และรางวัลเหรียญเงินพร้อมถ้วยรางวัล Internal Combustion (Prototype) Second Prize พ.ศ.2554 ได้รับรางวัลเหรียญทองและถ้วยรางวัลชนะเลิศสถิติสูงสุด Gasoline Prototype ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน5.12 กรัม คิดเป็นสถิติ 1,608 กม./ลิตร ในรายการแข่งขัน “Shell Eco-Marathon Asia ระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2554 ณ สนามแข่งเซปังอินเตอร์เนทชั่นแนลเซอร์กิต กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียพร้อม ถ้วยรางวัล Internal Combustion (Prototype ) Second Prize ระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2554 ณ สนามแข่ง เซปังอินเตอร์เนทชั่นแนลเซอร์กิต กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียได้รับ-เกียรติบัตรรางวัล เหรียญทอง การแข่งขันทักษะวิชาชีพ ครั้งที่ 26 ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีมีนบุรีโปลีเทคนิคในสาขาวิชาจักรยานยนต์, สาขาวิชาเครื่องยนต์เล็ก, สาขางานช่างเทคนิคพื้นฐาน (งานตะไบ) และสาขางานช่างกลโรงงาน (งานกลึง) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 สวดมนต์ หมู่ 49 คน, ร้องเพลงส่งเสริมศีลธรรม ระดับมัธยมและรางวัล ชมเชย ตอบปัญหาวิชาการพระพุทธศาสนา ของมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ณ ศาลากองอ านวยการ
11 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 พ.ศ.2556 ได้รับถ้วย Second Place Gasoline Fuel Prototypeกิจกรรมการแข่งขันยานยนต์ประหยัดเชื้อเพลิง รายการ Shell Eco-Marathon Asia 2014 - สิ่งประดิษฐ์ประเภทสื่อการสอนของครู-อาจารย์ ได้รับเกียรติบัตรเหรียญทองชุดสาธิตวงจร - พัดลมไฟฟ้าได้รับเกียรติบัตรเหรียญเงินแผงสาธิตกระจกไฟฟ้ารถยนต์ได้รับเกียรติบัตรเหรียญทองแดงแผง - สาธิตไฟฟ้ารถยนต์,แผงฝึกต่อวงจรจุดระเบิดจักรยานยนต์,ชุดสาธิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์,แผงทดลอง เครื่องวัด ไฟฟ้า, แผงทดลองการใช้มัลติมิเตอร์,แผงสาธิตกระจกไฟฟ้า การแข่งขันทักษะวิชาชีพภายนอก -ได้รับเกียรติบัตรเหรียญทอง สาขาจักรยานยนต์ สาขางานซ่อมรถยนต์ สาขางานการควบคุมมอเตอร์ และ - สาขางานการพันมอเตอร์ไฟฟ้า 3 เฟส ได้รับเกียรติบัตร - เหรียญเงิน สาขางานการพันมอเตอร์ไฟฟ้า 3 เฟส - ได้รับเกียรติบัตรรางวัลเหรียญเงิน การแข่งขันพูดสุนทรพจน์ - ได้รับโล่รางวัลชนะเลิศวาดภาพพุทธศาสนา - ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1สวดมนต์หมู่ทีมละ 99 คน วันมาฆบูชา - ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 สวดมนต์หมู่ทีมละ 59 คน ฉลองการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า - ได้รับเกียรติบัตรเหรียญทองโรงเรียนสีขาวส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา - ได้รับโล่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ตอบปัญหาธรรมมะ - ได้รับเกียรติบัตรสนับสนุนงานมหกรรมวัฒนธรรมนนท์ เทิดไท้องค์ราชินี 2556 - ได้รับเกียรติบัตรครู-นักเรียน ผู้ส่งเสริมพระพุทธศาสนาดีเด่น จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย - ได้รับเกียรติบัตรและเหรียญเงิน การแข่งขันประกวดมารยาทไทยและการสมาคม - ได้รับเกียรติบัตรเหรียญเงิน การแข่งขันประกวดสุนทรพจน์ประเภทภาษาอังกฤษ และได้รับเกียรติบัตร เหรียญทองแดง การแข่งขันประกวดสุนทรพจน์ประเภท ภาษาไทย - โครงงานและสิ่งประดิษฐ์นักเรียนได้รับเกียรติบัตรเหรียญทองเครื่องยกยางรถใหญ่ เครื่องตั้งลูกกอล์ฟ อัตโนมัติ เครื่องฉีดน้ าแบบหยอดเหรียญ เครื่องเป่ากรองอากาศรถยนต์ ได้รับเกียรติบัตรเหรียญเงิน เครื่องตัดข้าว ดีด เครื่องส่งรหัสมอส ชุดสื่อการสอนมอเตอร์สตาร์ท ชุดแผงสาธิตวิทยุติดรถยนต์ แผงสาธิตของกระจกไฟฟ้า รถเข็นอ านวยความสะดวก รถเก็บลูกเทนนิส รถบดวาล์วอัตโนมัติ เครื่องมือพิเศษตัวประกอบบู๊ชดุมล้อหลัง ลิฟท์ยกรถ รถพลังงานลม เครื่องบีบกระป๋อง เครื่องย่างไก่ ถังขยะเสียงพูด รถเข็นผ่อนแรงพลังงานไฟฟ้า เครื่อง โรยฝอยทอง ได้รับเกียรติบัตรเหรียญเงิน เครื่องส่องไฟส าหรับเด็กตัวเหลือง เครื่องกายภาพบ าบัดขา รถเข็นพยุง ผู้ป่วย รถเข็นอ านวยความสะดวก เครื่องบีบกระป๋องจักรยานออกก าลังกายและชาร์ตไฟฟ้า ตู้ฟักไข่พลังงาน แสงอาทิตย์ พ.ศ.2557 การแข่งขันทักษะวิชาชีพภายนอกได้รับเกียรติบัตรเหรียญทอง สาขาจักรยานยนต์ สาขางานเครื่องยนต์เล็ก พ.ศ.2558 การแข่งขันทักษะวิชาชีพภายนอกได้รับเกียรติบัตรเหรียญทอง สาขางานจักรยานยนต์ สาขางานเครื่องยนต์ เล็ก
12 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 พ.ศ.2559 - การแข่งขันทักษะช่างซ่อมเครื่องยนต์ดีเซลมิตซูบิชิ มอเตอร์ระดับประเทศ เหรียญทอง รองชนะเลิศ อันดับ 1 - การแข่งขันทักษะวิชาชีพภายนอกได้รับเกียรติบัตร เหรียญทอง สาขางานจักรยานยนต์สาขางานเครื่องยนต์เล็ก พ.ศ.2560 -การแข่งขัน YAMAHA MOTO CHALLENGE 2017 ได้รับรางวัลถ้วยรวมรองชนะเลิศ อันดับ 4 ชิงแชมป์ประเทศไทย - การแข่งขันทักษะวิชาชีพภายนอกได้รับเกียรติบัตร เหรียญทอง สาขางานเครื่องยนต์เล็ก, เกียรติบัตรเหรียญเงิน สาขา งานจักรยานยนต์ - การแข่งขันทักษะช่างซ่อมเครื่องยนต์ดีเซลมิตซูบิชิ มอเตอร์ระดับมอเตอร์ระดับประเทศเหรียญทองชนะเลิศอันดับ 1 พ.ศ.2561 - ประกวดมารยาทไทยและการสมาคมในการแข่งขันทักษะ วิชาชีพ ครั้งที่ 33 ได้รับเหรียญทอง ล าดับที่ 13 - รางวัลชนะเลิศการประกวดสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรม ประเภทสิ่งประดิษฐ์ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผลงานจักรยาน สามล้อขับหน้าพลังงานแขน ในกิจกรรมแข่งขันทักษะวิชาชีพ ภายนอก ครั้งที่ 33 จัดโดยสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีว เอกชน แห่งประเทศไทย - การแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิประจ า ปี 2561 MISUBISHI MOTORS SKILLS CONTEST 2018 พ.ศ.2563 - แข่งขันทักษะวิชาชีพช่างยนต์ระดับจังหวัดนนทบุรี ประจ า ปี2563 สาขางานจักรยานยนต์ได้รับ เหรียญทองแดง - แข ่งทักษะของ อศจ. ระดับจังหวัดนนทบุรี สาขางานจักรยานยนต์สาขาเครื่องยนต์เล็กได้รับเหรียญเงิน - การแข่งขันทักษะวิชาชีพ การประกวดนวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์สถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน ระดับชาติประจ า ปี การศึกษา พ.ศ.2563 - ประเภทวิชาการประกวดมารยาทไทยได้รับเหรียญเงิน
13 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
14 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 คณะผู้บริหำรโรงเรียน
15 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 คณะผู้บริหำรโรงเรียน
16 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน
17 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ปรัชญำ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้ำหมำยของโรงเรียน ปรัชญำ โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ. ได้ตระหนักว่า ความมีระเบียบวินัยของนักเรียน-นักศึกษา เป็นรากฐานที่ส าคัญ ในการศึกษา การประกอบอาชีพ และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข จึงได้น าแบบธรรมเนียมทหารบางส่วนมาปรับใช้ในการฝึก บุคลิกภาพของ นักเรียน-นักศึกษา และการจัดการศึกษาวิชาการตามหลักสูตรจนกลายเป็น นักเรียน-นักศึกษา ที่มีวินัยน าหน้าและมี ความรู้ความสามารถตามมา จึงก าหนดเป็นปรัชญาของโรงเรียนตามความต้องการของสังคม เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์แก่ผู้เรียนในทุก ๆ ด้าน คือ “ มีวินัย สนใจวิชำกำร สรรค์สร้ำงคุณธรรม ”โดยมีความหมายดังนี้ มีวินัย หมายถึง การสร้างจิตส านึกของ นักเรียน-นักศึกษาให้เป็นผู้มีเหตุผลในทางปฏิบัติ ด้วยการเคารพกฎระเบียบของ สังคม รู้จักหน้าที่ มีความรับผิดชอบ มีความซื่อสัตย์ และรักความถูกต้อง การประพฤติปฏิบัติในสิ่งเหล่านี้ต้องกระท าอย่างสม่ าเสมอ จนกลายเป็นความเคยชิน เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีสันติสุข สนใจวิชำกำร หมายถึง การปลูกฝังเจตคติให้นักเรียน– นักศึกษา มีนิสัยรักการศึกษา ใฝ่หาความรู้ทั้งด้านเทคโนโลยี ศิลปะ วัฒนธรรม และเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ อันจะน าไปสู่การยกระดับความรู้ ความสามารถทางวิชาการและทักษะการ ปฏิบัติงาน เพื่อประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ สรรค์สร้ำงคุณธรรม หมายถึง การอบรม ปลูกฝังให้นักเรียนประพฤติตนเป็นคนดีทั้งกาย วาจา ใจ กล้าแสดงออกใน ความถูกต้อง ดีงาม มีความซื่อสัตย์สุจริต กตัญญูกตเวที และเสียสละ อันจะน าไปสู่การด ารงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข อัตลักษณ์ของโรงเรียน “ บุคลิกดี มีวินัย ” บุคลิกดี หมายถึง ผู้เรียนแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ถูกต้องตามระเบียบของสถานศึกษา คือนักเรียนตัดผมสั้น และสวม รองเท้าหนังทุกคน มีวินัย หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา ความเป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียนคือการน า แบบ ธรรมเนียมทหารบางส่วนมาใช้ในการปรับบุคลิกภาพนักเรียนให้มีลักษณะความเป็นผู้น า เอกลักษณ์ของโรงเรียน “ วินัยทหำร สรรค์สร้ำง คุณภำพผู้เรียน ” หมายถึง โรงเรียนน าวินัยทหารมาฝึกอบรมผู้เรียนให้เป็นผู้มีวินัย มีความสามารถทางทักษะและวิชาการ วิสัยทัศน์ โรงเรียนมีวิสัยทัศน์ในการด าเนินการดังนี้ “เป็นองค์กรแห่งกำรเรียนรู้ ปลูกฝังและพัฒนำให้เยำวชนไทยมีวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม ควำมรู้ และทักษะในสำขำ วิชำชีพ ผ่ำนกระบวนกำรเรียนรู้อย่ำงเป็นระบบ เพื่อมุ่งสู่ประชำคมอำเซียน” พันธกิจ จากปรัชญาและวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ซึ่งใช้เป็นแม่แบบของการบริหารจัดการ โรงเรียนมีขั้นตอนการด าเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันจะเกิดเป็นความรู้ ความสามารถทางด้านทักษะ ประสบการณ์ โรงเรียนจึงก าหนดพันธกิจเป็น เป้าหมายในการท างานดังนี้
18 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 1. พัฒนาบุคลากรและทรัพยากรการเรียนการสอน ให้มีประสิทธิภาพ 2. ปลูกฝังและพัฒนาให้ผู้เรียน มีวินัย มีคุณธรรม จริยธรรมและมีสุขภาพแข็งแรง 3. จัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีความรู้ และทักษะในสาขางานวิชาชีพ โดยสามารถก าหนด กรอบแนวคิดตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง 4. พัฒนาระบบการบริหารการจัดการที่ทันสมัย เอื้อต่อการพัฒนาโรงเรียน และชุมชนโดยให้ทุกคนในหน่วยงานและสังคม ภายนอกมีส่วนร่วม เป้ำหมำย 1. ผู้เรียนระดับปวช. และปวส.มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.5 ขึ้นไป 2. ผู้เรียนได้รับความพึงพอใจด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์จากสถานประกอบการ หน่วยงาน ชุมชน 3. ผู้เรียนที่ส าเร็จการศึกษามีงานท า หรือประกอบอาชีพอิสระหรือศึกษาต่อภายใน 1 ปี 4. สถานศึกษามีความร่วมมือกับสถานประกอบการในการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของ สถานประกอบการ หรือประชาคมอาเซียน 5. สถานศึกษามีการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญด้วยเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย มุ่งเน้นสมรรถนะ อาชีพ และบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม คุณลักษณะที่พึงประสงค์และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 6. สถานศึกษามีการส่งเสริมสนับสนุน ให้มีการจัดท าและเผยแพร่นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ หรืองานวิจัยที่เป็น ประโยชน์หรือชุมชน 7. สถานศึกษามีการให้มีการบริการวิชาการและวิชาชีพสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น ชุมชน 8. สถานศึกษามีการจัดท าโครงการ/กิจกรรมปลูกฝังจิตส านึกและเสริมสร้างความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ในด้านการ รัก เทิดทูนพระมหากษัตริย์ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข 9. สถานศึกษามีการส่งเสริมผู้เรียนในการปลูกฝังจิตส านึกด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 10. สถานศึกษามีการจัดโครงการ/กิจกรรมทะนุบ ารุง ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 11. สถานศึกษาส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมกีฬาและนันทนาการ 12. สถานศึกษามีการจัดตั้งคณะกรรมการสถานศึกษาหรือสถานศึกษา และ มีการจัดท าแผนบริหารจัดการสถานศึกษา 13. สถานศึกษามีการพัฒนาสถานศึกษาตามอัตลักษณ์ 14. สถานศึกษาเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 15. สถานศึกษามีจัดการระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ 16. สถานศึกษามีโครงการบริหารความเสี่ยงและการจัดระบบดูแลผู้เรียนให้เป็นช่างที่มีวินัย 17. สถานศึกษามีการพัฒนาและดูแลสภาพแวดล้อมอาคารสถานที่ 18. สถานศึกษามีการบริหารวัสดุครุภัณฑ์อย่างเพียงพอ 19. สถานศึกษามีการระดมทรัพยากรในการจัดการกับเครือข่าย 20. สถานศึกษามีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาในด้านวิชาการหรือวิชาชีพ 21. สถานศึกษาจัดการบริหารการเงินและงบประมาณสอดคล้องกับแผนปฏิบัติงานประจ าปี 22. สถานศึกษาจัดระบบการประกันคุณภาพภายใน โดยด าเนินงานตามมาตรฐานการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2555 23. สถานศึกษาน าผลจากการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษา
19 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 คุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผู้ส ำเร็จกำรศึกษำอำชีวศึกษำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร นิยำมศัพท์ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ในคู่มือการบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และลักษณะอันพึงประสงค์ในการเรียนการสอน ส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2542 จึงนิยามศัพท์ที่ส าคัญไว้ดังนี้ 1. การบูรณาการ หมายถึง การผสมผสานสิ่งต่างๆ ให้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 2. คุณธรรม จริยธรรม หมายถึง การประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม ทั้งกาย วาจา และจิตใจ โดยถือปฏิบัติ เป็นประจ า และเป็น แบบอย่างที่ดีทั้งการปฏิบัติต่อตนเอง ต่อผู้อื่นและต่อสังคม 3. ค่านิยม หมายถึง ความชอบในสิ่งต่างๆ ของบุคคล ที่เห็นว่ามีคุณค่าในการด าเนินชีวิตและเป็น จุดหมาย ปลายทางของการ ด าเนินชีวิต หรือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นว่ามีคุณค่า น่ายกย่องและยึดถือปฏิบัติในการด าเนินชีวิต 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หมายถึง คุณสมบัติหรือพฤติกรรมที่ผู้เรียนอาชีวศึกษาในสถานศึกษา กรมอาชีวศึกษาพึงมี และ ปฏิบัติในการด าเนินชีวิต 5. การเรียนการสอนอาชีวศึกษา หมายถึง การเรียนการสอนที่มุ่งสอนทางช่างฝีมือ ตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ เทคนิค (ปวท.) ของกรม อาชีวศึกษา ในที่นี้ความรวมถึงการเรียนการสอนทั้งวิชาสามัญ และวิชาชีพ 6. การมีมนุษยสัมพันธ์ หมายถึง ความสัมพันธ์ในทางสังคมระหว่างบุคคลซึ่งท าให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน ส่งผลให้บุคคล แต่ละคนสามารถเข้ากับบุคคลอื่นได้ 7. ความมีวินัย หมายถึง การปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือข้อตกลง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม จ าแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ วินัยภายนอก และวินัยภายใน 8. ความรับผิดชอบ หมายถึง การยอมรับผลการกระท าของตนเอง ทั้งในสิ่งที่ดีหรือไม่ดี และสามารถ ควบคุมตนเองได้ มีความ มุ่งมั่นและเพียรพยายามในการเรียนและการปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ ทันก าหนดเวลา มีการวางแผนการปฏิบัติงาน การใช้เวลาอย่างมีระบบและเหมาะสมตลอดทั้งปฏิบัติอย่างครบถ้วน โดยการค านึงถึง ความปลอดภัยต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม ส่วนรวม 9. ความซื่อสัตย์ หมายถึง ความประพฤติที่ตรงและจริงใจ ไม่คิดทรยศ ไม่คิดโกง ไม่หลอกลวง และ ประพฤติชอบในทางที่ชอบ เช่น พูดความจริง ไม่ลักขโมย ไม่แอบอ้างผลงานของตนเอง ไม่ทุจริตในการสอบ 10. ความเชื่อมั่นในตนเอง หมายถึง ความมั่นใจ แน่ใจในแนวความคิดและการกระท าของตนเอง อย่างมี เหตุผล มีหลักการใน การที่จะท างานหรือสิ่งต่างๆ ให้ส าเร็จลุล่วงได้ถูกต้องและเหมาะสม 11. การประหยัด หมายถึง ความระมัดระวัง การรู้จักยับยั้งในการใช้ทรัพยากรต่างๆ เช่น เงิน วัสดุอุปกรณ์ น้ า ไฟฟ้า ฯลฯ ทั้ง ของตนเองและส่วนรวมให้พอเหมาะพอควร เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างคุ้มค่า
20 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 12.ความสนใจใฝ่รู้ หมายถึง ความตั้งใจ ความพยายามหรือความกระตือรือร้นของบุคคลที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 13.ความรักสามัคคี หมายถึง ความรู้สึกพอใจ ชื่นชมยินดี ความพร้อมเพรียงปรองดองกันของบุคคลที่มี ต่อกันและกัน ตลอดจนบุคคลอื่นในสังคม 14.การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน หมายถึง การประพฤติปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งเสพติด และการเล่นการพนัน 15.ความกตัญญูกตเวที หมายถึง การแสดงออกถึงการรู้คุณหรือการสนองบุญคุณต่อผู้ที่มีพระคุณ หน่วย งานที่ตนท างานของ บุคคลทั้งด้านความคิดและการกระท า 16.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถในการคิดสิ่งแปลกใหม่ โดยสามารถที่จะเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ของ ความรู้ต่างๆ ที่มีอยู่ในแง่มุมใหม่ และเป็นกระบวนการใช้ความคิดในด้านต่างๆ เพื่อน าไปแก้ปัญหา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 17.การพึ่งตนเอง หมายถึง ความสามารถในการด าเนินชีวิต ทั้งด้านการเรียนและการท างานด้วยตนเอง 18.ความอดกลั้น หมายถึง การที่บุคคลสามารถระงับใจ ควบคุมสติสัมปชัญญะ กริยามารยาท อารมณ์ ในสถานการณ์ที่ไม่พึง ประสงค์ หรือชักจูงไปในทางที่ไม่ดีได้
21 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 จบกำรศึกษำ ระดับ ปวช. ช่างยนต์ / ช่างไฟฟ้าก าลัง/คอมพิวเตอร์ธุรกิจ จบ ปวช. สามารถเข้าเรียน ปวส. หลักสูตร ทวิภาคี ของโรงเรียนฯ สถำบันที่เปิดรับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาลัยเทคนิคในสังกัดของกรมอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัยของรัฐ / มหาวิทยลัยราชภัฎ มหาวิทยาลัยเอกชน สถาบันการบินพลเรือน / โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ/ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี จบกำรศึกษำ ระดับ ปวส. ไฟฟ้าก าลัง / เทคนิคยานยนต์ / อากาศยาน/สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ตัวอย่ำงคณะที่จะเข้ำศึกษำต่อ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม / คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ / คณะเทคโนโลยี / คณะอุตสาหการ/คณะสารสนเทศศาสตร์ หรือ เทคโนโลยี สารสนเทศ /คณะดิจิทัลมีเดีย /คณะดิจิทัลอาร์ต /คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ /คณะบริหารธุรกิจ / คณะวิทยาการจัดการ/ คณะบัญชี/ คณะ เศรษฐศาสตร์/ คณะศิลปศาสตร์ /คณะมนุษยศาสตร์/ คณะ อักษรศาสตร์ สถำบันที่เปิดรับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า มหาวิทยาลัยของรัฐ / มหาวิทยลัยราชภัฎ / มหาวิทยาลัย เอกชน / สถาบันการบินพลเรือน ศึกษาต่อ ปริญญาตรีต่อเนื่อง / เทียบโอน ศึกษาต่อ ระดับ ปวส.2 ปี ปริญญาตรี รร.ทบอ.ช่างกล ขส.ทบ. การแนะแนวการศึกษาเมื่อส าเร็จการศึกษา
22 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ศูนย์การศึกษาระบบทวิภาคี โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ช่างกล ขส.ทบ. วิสัยทัศน์ (Vision) ปรัชญำ “ให้ควำมร่วมมือ ให้ควำมจริงใจ ให้ควำมส ำเร็จร่วมกัน” มุ่งเน้นให้ผู้เรียน มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ด้านวิชาชีพ จากการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ อย่างมี คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการประกอบอาชีพอิสระ ด้วยความ รับผิดชอบ และมีคุณธรรม พันธกิจ (Mission) 1.จัดให้มีความร่วมมือกันระหว่างสถานศึกษา กับสถานประกอบการ ด้านการจัดหาก าลังพลที่มีคุณภาพ ป้อนสู่ สถานประกอบการและตลาดแรงงาน โดยให้ มีรายได้ตลอดจนสวัสดิการต่างๆที่เหมาะสมเป็นธรรม 2.จัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคีตามหลักสูตร และให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา 3.จัดให้มีการเรียนการสอน โดยใช้วิธีการสมัยใหม่ร่วมกันระหว่างสถานศึกษา กับสถานประกอบการ เพื่อพัฒนา ก าลังพล อย่างมี ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ยุทธศำสตร์ (Strategy) 1.สร้างเครือข่าย และส่งเสริมความร่วมมือ 2.พัฒนาการจัดการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้มีคุณภาพมาตรฐาน 3.ขยายโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4.ประชุมสัมมนาครูฝึก ครูนิเทศ เพื่อร่วมกันวางแผนพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี 5.ติดต่อประสานงานกับแหล่งงานและสถานประกอบการ เพื่อการจัดหาที่ฝึกงานให้กับนักเรียน นักศึกษา 6.จัดท าปฏิทินการปฏิบัติงาน เสนอโครงการและรายงานการปฏิบัติงานตามล าดับชั้น 7.จัดท าโครงการและกิจกรรมความร่วมมือเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร 8.ดูแล บ ารุงรักษาและรับผิดชอบทรัพย์สินของสถานศึกษาที่ได้รับมอบหมาย 9.ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
23 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 งำนส ำนักงำนศูนย์กำรศึกษำระบบทวิภำคีและควำมรับผิดชอบ 1. จัดการศึกษาวิชาชีพโดยร่วมกับสถานประกอบการและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถ ไป ประกอบอาชีพได้ 2.จัดท าแผนและคู่มือการฝึกตามโครงสร้างของหลักสูตรร่วมกับสถานประกอบการในการวิเคราะห์จุดประสงค์ รายวิชาและมาตรฐานรายวิชาที่จะฝึกอาชีพ 3. วางแผนร่วมกับสถานประกอบการในการนิเทศ ติดตามการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ มีการวัดผล ประเมินผลควบคุมก ากับดูแลปัญหาต่างๆ 4. ประชุมสัมมนาครูฝึก ครูนิเทศ เพื่อร่วมกันวางแผงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบ ทวิภาคีติดต่อประสานงานกับแหล่งงานและสถานประกอบการเพื่อการจัดหาที่ฝึกงานให้กับนักเรียนนักศึกษา 6. จัดท าปฏิทินการปฏิบัติงานเสนอโครงการและรายงานการปฏิบัติงานตามล าดับชั้น 7. จัดท าโครงการและกิจกรรมความร่วมมือเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร 8. ดูแล บ ารุงรักษาและรับผิดชอบทรัพย์สินของสถานศึกษาที่ได้รับมอบหมาย - งานพนักงานธุรการ ส านักงาน - งานตอบรับเอกสาร - งานทะเบียน - งานการเงิน - งานความร่วมมือกับ ภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งใน และต่างประเทศ - งานนิเทศ - งานอาจารย์ที่ปรึกษา - งานหลักสูตรและการสอน - งานวัดและประเมินผล คณะกรรมการอ านวยการ คณะกรรมการที่ปรึกษา ผู้อ านวยการศูนย์การศึกษาระบบทวิภาคี รอง/ผู้ช่วยผู้อ านวยการศูนย์การศึกษาระบบทวิภาคี กลุ่มงานธุรการทั่วไป กลุ่มงานความร่วมมือ กลุ่มงานหลักสูตรและการสอน ติดตามและประเมินผล กลุ่มงานสนับสนุน - งานประชาสัมพันธ์ - งานแนะแนวฯ - งานปกครอง - งานสวัสดิการ ผังโครงสร้ำงกำรบริหำรงำนส ำนักงำน ศูนย์กำรศึกษำระบบทวิภำคี โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่ำงกล ขส.ทบ.
24 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 กำรศึกษำระบบทวิภำคี (Dual Vocational Education : DVE) การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษา กับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องการจัดหลักสูตร การเรียนการสอน การวัดและการประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลา ส่วนหนึ่งเรียนในสถานศึกษา และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อประโยชน์ใน การผลิต และพัฒนาก าลังคน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง และสามารถพัฒนาขีดความสามารถใน การแข่งขัน ทั้งด้านการผลิตและบริการของประเทศ ควำมหมำยของกำรจัดกำรศึกษำระบบทวิภำคี คือการจัดการศึกษาสายอาชีพ ให้กับ นักศึกษา โดยมีข้อตกลง จัดสรรภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบร่วมกัน ระหว่าง สถานศึกษา กับสถานประกอบการ ในเรื่อง 1.การจัดหลักสูตร 2.การจัดการเรียนการสอน 3.การจัดการฝึกอาชีพ 4.การวัดและประเมินผล กำรแบ่งเวลำเรียนและท ำงำนในสถำนประกอบกำร เรียนภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติบางส่วน ในสถานศึกษา 1 ภาคเรียน เรียนภาคปฏิบัติ หรือฝึกอาชีพ ในสถานประกอบการ ภาคเรียนที่ 2 ทั้งภาคเรียน วัตถุประสงค์หลักของกำรจัดกำรศึกษำระบบทวิภำคี 1.เตรียมก าลังคนที่มีความช านาญงานเข้าสู่ตลาดแรงงาน 2.ผลิต ก าลังคนที่มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ 3.เปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้ฝึกอาชีพในแหล่งงานที่แท้จริง 4.เปิดโอกาสให้บุคคลในวัยเรียนได้พัฒนาตนเองสู่โลกอาชีพ 5.เปิดโอกาสให้หน่วยงานเป็นแหล่งอาชีพ เข้ามามีส่วนรวมในการจัดการศึกษา ประโยชน์ที่ได้รับจำกกำรจัดกำรศึกษำระบบทวิภำคี สถำนประกอบกำร ผลประโยชน์ด้ำนธุรกิจ 1. สามารถพัฒนาบุคลากรให้มีฝีมือ ความรู้ ตรงตามความต้องการ 2. สามารถวางแผนก าลังคนอย่างเป็นระบบในระยะยาว เป็นการเตรียมบุคลากรที่มี คุณภาพ เพื่อรองรับความต้องการ แรงงานในอนาคต 3. ได้รับประโยชน์ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมอาชีพ+
25 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ผลประโยชน์ด้ำนสังคม 1. เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ประชาสัมพันธ์องค์กร ต่อสังคม 2. เป็นการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา ให้โอกาสได้ฝึกปฏิบัติจริงจากประสบการณ์จริง 3. เป็นการช่วยเหลือคุณภาพชีวิตแก่ผู้เรียน ในด้านค่าเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการอื่นๆ 4. เป็นการตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นส่วนส าคัญในการพัฒนาประเทศชาติ สถำนศึกษำ 1. สถานศึกษาผลิตผู้เรียนที่มีทักษะความช านาญเฉพาะด้าน ได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน 2. สร้างความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกัน ระหว่างภาครัฐและเอกชน 3. พัฒนาความรู้ ความสามารถของครู 4. แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์กับสถานประกอบการ เพื่อการพัฒนาหลักสูตรให้ก้าวหน้าทันสมัย ผู้เรียน 1. ได้รับประสบการณ์จริงจากการปฏิบัติงานวิชาชีพ ในสถานประกอบการ 2. สามารถน าความรู้ทางทฤษฎีที่เรียนกับสถานศึกษา ไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับภาคปฏิบัติในสถานประกอบการได้ 3. มีทักษะในการปฏิบัติงานวิชาชีพ ที่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ 4. ได้เรียนรู้และเข้าใจระบบการท างานในสถานประกอบการ 5. พัฒนาบุคลิกภาพที่ดี มีความรับผิดชอบ มีลักษณะนิสัยที่ดีในการปฏิบัติงาน 6.ได้งานที่มีรายได้ดี หรือมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าของกิจการ องค์ประกอบของกำรจัดศึกษำระบบทวิภำคีบทบำทหน้ำที่ของสถำนศึกษำ สถานศึกษาที่จะด าเนินการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ก าหนดไว้ จ าเป็นจะต้องจัดตั้ง องค์กรภายในสถานศึกษา ซึ่งประกอบด้วย 1.ส านักงานศูนย์การศึกษาระบบทวิภาคี มีที่ตั้งที่เหมาะสมเป็นสัดส่วน(นักศึกษาติดต่อได้สะดวก) มีสิ่งอ านวยความ สะดวก วัสดุ ครุภัณฑ์ที่เพียงพอ ตลอดจนยานพาหนะที่ใช้ส าหรับประสานงานกับสถานประกอบการ 2.มีผังโครงสร้างการบริหารงานบุคลากรที่รับผิดชอบ เพื่อบริหารงานส านักงานศูนย์การศึกษาระบบทวิภาคี ตามสาย งานอย่างชัดเจน กำรจัดบุคลำกรของสถำนศึกษำ และหน้ำที่ 1.ผู้บริหารสถานศึกษา มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี คือ 1.1 ผู้อ านวยการสถานศึกษา เป็นผู้ให้การสนับสนุนการด าเนินงานของ ส านักงานการศึกษาระบบทวิภาคี ให้เป็นไป ตามนโยบายของสถานศึกษา เป็นผู้น าในการพบปะเจรจาตกลงกับผู้บริหารระดับสูงของสถานประกอบการ 1.2 รอง/ผู้ช่วยผู้อ านวยการสถานศึกษาฝ่ายต่างๆ ร่วมประชุมหารือ เป็นกรรมการและประสานงานตามภารกิจที่ ได้รับมอบหมาย 2.ผู้อ ำนวยกำรศูนย์กำรศึกษำระบบทวิภำคี เป็น หัวหน้ำงำนกำรศึกษำระบบทวิภำคี มีหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีดังนี้ 2.1 วางแผนส ารวจความต้องการ และพิจารณาความเหมาะสมของสถานประกอบการ 2.2 ประชาสัมพันธ์การจัดการศึกษาระบบทวิภาคี โดยวางแผนประชาสัมพันธ์ตามกลุ่มเป้าหมายและใช้ สื่อที่เหมาะสม 2.3 จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการด าเนินการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี 2.4 จัดท าข้อมูลเกี่ยวกับสถานประกอบการ ข้อมูลจ านวนนักศึกษาทวิภาคีและรายงานผลการด าเนินงาน การศึกษาระบบทวิภาคีต่อสถานศึกษาทุกภาคเรียน
26 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 2.4 จัดท าข้อมูลเกี่ยวกับสถานประกอบการข้อมูลจ า นวน นักศึกษาทวิภาคีและรายงานผลการด าเนินงานการศึกษา ระบบ ทวิภาคีต่อสถานศึกษาทุกภาคเรียน 2.5 ประสานงานการฝึกอาชีพของนักศึกษาในสถานประกอบการ 2.6 ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา และสถานประกอบการในการจัดท า แผนการเรียนการสอน และ แผนการฝึกอาชีพ 2.7 จัดปฐมนิเทศนักศึกษาทวิภาคี 2.8 จัดประชุมผู้ปกครองนักศึกษาทวิภาคี 2.9 วางแผนจัดนิเทศติดตาม ประเมินผลการฝึกอาชีพใน สถานประกอบการ 2.10 ร่วมประสานงานกับสถานประกอบการ เพื่อแก้ไข ปัญหานักศึกษากระท า ผิดกฎระเบียบระหว่างฝึกอาชีพใน สถาน ประกอบการ 2.11 ด าเนินการประเมินผลครึ่งหลักสูตร (Interim) และ ประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final) ร่วมกับสถานประกอบการ 2.12 ประสานงานจัดการทดสอบพื้นฐานฝีมือร่วมกับสถาน ประกอบการ 2.13 จัดวางแผนการประชุมสัมมนาครู-อาจารย์ผู้ควบคุม การฝึกและครูฝึก 2.14 เสนอโครงการปฏิบัติงานตามล าดับขั้นตอน 3. รอง/ผู้ช่วยผู้อ านวยการศูนย์การศึกษาระบบทวิภาคีเป็น ผู้ช่วย หัวหน้างานการศึกษาระบบทวิภาคี มีหน้าที่ในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีคือ 3.1 การติดต่อประสานงานกับสถานประกอบการและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.2 เก็บรวบรวมข้อมูลของนักศึกษาและ สถานประกอบการ 3.3 ประสานงานและด า เนินการร่วมกับหัวหน้างานการ ศึกษาระบบทวิภาคีจัดปฐมนิเทศนักศึกษา จัดประชุม ผู้ปกครอง จัดประชุมสัมมนาผู้ควบคุมการฝึก ครูฝึก อาจารย์นิเทศ ปฏิบัติ และจัดการทดสอบมาตรฐานฝีมือ 3.4ดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในส า นักงานการศึกษา ระบบทวิภาคี 3.5 ติดตามการประเมินผลการฝึกอาชีพของนักศึกษาใน สถานประกอบการ 3.6 รายงานผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ต่อผู้บังคับบัญชา ตามล าดับขั้น 3.7 ปฏิบัติงานตามโครงการและงานที่ได้รับมอบหมาย 4. หัวหน้าคณะวิชา/หัวหน้าแผนกวิชา มีหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับงานการศึกษาระบบทวิภาคีคือ 4.1ให้การสนับสนุนจัดการเรียนการสอนการศึกษาระบบ ทวิภาคี 4.2 ประสานงานกับหัวหน้างานการศึกษาระบบทวิภาคี ในการส ารวจความต้องการของสถานประกอบการเกี่ยวกับการ จัดการ ศึกษาระบบทวิภาคีและพิจารณาความเหมาะสมของสถานประกอบการ ที่เข้าร่วมโครงการ 4.3 น าข้อมูลที่ได้จากการส ารวจ ประชุมปรึกษากับผู้บริหาร เพื่อวางแผนการด า เนินการร่วมกับหัวหน้างานการศึกษา ระบบ ทวิภาคี 4.4 ก าหนดจ านวนนักศึกษาร่วมกับสถานประกอบการให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่การฝึกเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ ตลอดจน อัตราส่วนของนักศึกษากับครูฝึกตามสาขาวิชา 4.5 จัดท า แผนการเรียนการสอนและแผนการฝึกอาชีพ ร่วมกับหัวหน้างานการศึกษาระบบทวิภาคีและสถาน ประกอบการ 4.6 จัดอาจารย์ประจ า แผนกวิชาเป็นเจ้าหน้าที ่ทวิภาคี ประจ าแผนกวิชา อาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์นิเทศ เพื่อดูแล ความประพฤติและการเรียนของนักศึกษา 4.7 จัดท า แผนการนิเทศติดตามการฝึกอาชีพในสถาน ประกอบการของนักศึกษา ร่วมกับหัวหน้างานการศึกษาระบบ ทวิภาคี 4.8 จัดการสอนและการฝึกอบรมเพิ่มเติมให้แก่นักศึกษา ตามความต้องการของสถานประกอบการ
27 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 4.9 ในกรณีที่สถานประกอบการไม่สามารถจัดสอนหรือ ฝึกอาชีพได้ครอบคลุมตามหลักสูตร ให้จัดครู-อาจารย์สอนหรือ ฝึก อาชีพเพิ่มเติมให้ครบตามหลักสูตร 4.10 เสนอรายชื่อครู-อาจารย์และครูฝึกในสถานประกอบการ ร่วมเป็นคณะกรรมการประเมินผลครึ่งหลักสูตร (Interim) และ ประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final) 4.11 รายงานผลการปฏิบัติงานต่อสถานศึกษา 5. เจ้าหน้าที่ทวิภาคีประจ าแผนกวิชา มีหน้าที่เกี่ยวกับงานการ ศึกษาระบบทวิภาคีคือ 5.1 ประสานงานกับหัวหน้างานการศึกษาระบบทวิภาคี หรือผู้ช่วยหัวหน้างานการศึกษาระบบทวิภาคี เกี่ยวกับกิจกรรม ต่างๆ ของนักศึกษาทวิภาคีในแผนกวิชา 5.2 ประสานงานกับหัวหน้าแผนกวิชาอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์นิเทศ และงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษา 5.3 ด า เนินการจัดท า แผนการฝึกอาชีพร่วมกับหัวหน้า แผนกวิชา หัวหน้างานการศึกษาระบบทวิภาคีและสถาน ประกอบการ 5.4 ท า หน้าที่นิเทศการฝึกอาชีพของนักศึกษาในสถาน ประกอบการ 5.5 ประสานงานกับผู้ควบคุมการฝึก หรือครูฝึกในสถาน ประกอบการ 5.6 รายงานผลการปฏิบัติงาน 6. ครู/อาจารย์ที่ปรึกษา มีหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ ศึกษาระบบทวิภาคีคือ 6.1 ให้การปรึกษาแนะน าการท า และตรวจสอบหลักฐาน สัญญาการเป็นนักศึกษา และสัญญาการฝึกอาชีพ 6.2 ปฐมนิเทศนักศึกษาในความรับผิดชอบในด้านการเรียน ความประพฤติระเบียบและข้อบังคับต่างๆของสถานศึกษา รวมทั้งให้ ความรู้เกี่ยวกับแหล่งบริการและสวัสดิการต่างๆ ของสถานศึกษา ที่นักศึกษาจะเข้าไปขอความช่วยเหลือ 6.3 ให้ความเห็นชอบแก่นักศึกษาในการลงทะเบียนรายวิชา (การลงทะเบียนและ/หรือลงทะเบียนสอบเทียบความรู้หรือ ประสบการณ์) การขอเปลี่ยน ขอเพิ่ม และขอถอนรายวิชา 6.4 ให้ค า ปรึกษาและให้ความเห็นชอบในการขอผ่อนช าระ เงินค่าลงทะเบียนรายวิชาของนักศึกษาที่อยู่ในความ รับผิดชอบ 6.5 จัดท า จัดเก็บรวบรวมประวัติข้อมูลการเรียน และ พฤติกรรมของนักศึกษาที่อยู่ในความรับผิดชอบเพื่อเป็นข้อมูลใน การออกหนังสือต่างๆ 6.6 ติดตาม ช่วยเหลือ และให้ค า ปรึกษาเกี่ยวกับการเข้าร่วมกิจกรรมชมรมตามที่ก าหนดไว้ 6.7 ให้ค า ปรึกษาเกี่ยวกับการเรียน การค า นวณหาค่าระดับ คะแนนเฉลี่ยแก่นักศึกษา ที่อยู่ในความรับผิดชอบ 6.8 แนะน า หาทางป้องกันและติดตาม นักศึกษาที่ขาดเรียน และขาดการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ 6.9 เสนอความคิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับการก า หนด รายวิชาในการลงทะเบียนแต่ละภาคเรียน 6.10 ติดต่อประสานงานกับผู้ปกครอง พร้อมทั้งรายงาน การเรียนและพฤติกรรมของนักศึกษาที่อยู่ในความรับผิดชอบ ให้ผู้ ปกครองทราบ 6.11 ติดตาม แนะน าและช่วยแก้ปัญหาให้นักศึกษาที่ขอ ผ่อนผันการช า ระเงินค่าลงทะเบียนรายวิชาก่อนวันสอบปลาย ภาค เรียน และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ 6.12 ให้ค า ปรึกษา ตักเตือน ดูแล แก้ไข และปรับปรุง ความประพฤติของนักศึกษาที่อยู่ในความรับผิดชอบ 6.13 ประสานงานกับแผนกวิชาหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 6.14 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย 7. ครู/อาจารย์นิเทศ มีหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ ศึกษาระบบทวิภาคีคือ 7.1 ประสานงานกับหัวหน้างานการศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อจัดท าข้อมูลส า หรับการนิเทศให้พร้อมและเป็นระบบ เช่น ศึกษา ลักษณะกิจการของสถานประกอบการสถานที่ตั้ง หมายเลขโทรศัพท์ รายชื่อครูฝึก ผู้ควบคุมการฝึก รายชื่อนักศึกษาใน สถานประกอบการ 7.2 นัดหมายกับผู้ควบคุมการฝึก ครูฝึก ของสถาน ประกอบการล่วงหน้าก่อนการออกนิเทศ 7.3 ศึกษาแผนการฝึกอาชีพของสถานประกอบการที่จะ ไปนิเทศ
28 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 7.4ให้ค าปรึกษาในการสอนงาน และการประเมินผลแก่ ครูฝึก 8. พนักงานธุรการประจ าส านักงานการศึกษาระบบทวิภาคี มีหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี เกี่ยวกับ การปฏิบัติงานทั่วไปตามที่ได้รับมอบหมาย 9. หัวหน้างานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง งานการศึกษาระบบทวิภาคีมี ความจ าเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและเกี่ยวข้องกับงาน อื่น ๆ ใน สถานศึกษาตามภาระหน้าที่ของงาน ดังนี้ 9.1งานทะเบียน ด า เนินการเกี่ยวกับการสมัคร การลง ทะเบียน การขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาการยื่นค าร้องอื่นใดที่ เกี่ยวข้อง กับงานทะเบียน 9.2 งานการเงิน ด า เนินการเกี่ยวกับการรับเงินค่าลงทะเบียน ในแต่ละภาคเรียน 9.3 งานการประชาสัมพันธ์ด า เนินการเกี่ยวกับการแจ้ง ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้บุคลากรในสถานศึกษาและสถาน ประกอบ การรวมทั้งนักศึกษาทวิภาคีได้รับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 9.4 งานหลักสูตรและการสอน ประสานงานกับงานการ ศึกษาระบบทวิภาคีแผนกวิชาและสถานประกอบการ เพื่อ จัดท าแผนการเรียนการสอนและแผนการฝึกอาชีพ พร้อมทั้งจัดตารางเรียน ให้สอดคล้องกับความต้องการสอน และแผนการ ฝึกอาชีพ พร้อมทั้ง จัดตารางเรียนให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ 9.5งานวัดผลและประเมินผลก าหนดเกณฑ์การวัดผล และประเมินผลตามรายวิชาร่วมเป็นคณะกรรมการในการ ประเมินผลครึ่งหลักสูตร (Interim) และประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final) 9.6 งานปกครอง มีหน้าที่ในการควบคุมดูแลด้านการแต่งกาย และความประพฤติของนักศึกษาทวิภาคีให้ปฏิบัติ ตามระเบียบและ ข้อบังคับ 9.7 งานกิจกรรม ติดต่อประสานงานกับงานการศึกษา ระบบทวิภาคีเพื่อแจ้งให้นักศึกษาทวิภาคีได้มีโอกาสเข้า ร่วม กิจกรรมต่างๆ ที่สถานศึกษาจัดขึ้น เช่น การรับสมัครนักศึกษา รักษาดินแดน (ร.ด.) กิจกรรมไหว้ครู กิจกรรม กีฬาสีการแข่งขัน ทักษะวิชาชีพ เป็นต้น 9.8 งานสวัสดิการพยาบาล มีหน้าที่ในการจัดท าประกันอุบัติเหตุให้กับนักศึกษาและอ านวยความสะดวกในการ ติดตามค่า ชดเชย กรณีเกิดอุบัติเหตุ 9.9 งานแนะแนวอาชีพและจัดหางาน 9.9.1 แนะแนวการศึกษาระบบทวิภาคีให้แก่นักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมัธยมศึกษาตอนปลายระดับ ปวช.ระดับ ปวส. และบุคลากรในสถานประกอบการ 9.9.2 แนะแนวการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ ให้กับนักศึกษาทวิภาคี บทบาทหน้าที่ของสถานประกอบการ สถานประกอบการคือสถานศึกษาแห่งที่สองของ นักศึกษา มีหน้าที่ให้ความรู้ในด้านการปฏิบัติงาน เพื่อฝึกทักษะใน สถาน ประกอบการ ตลอดระยะเวลาที่ นักศึกษาอยู่ในสถานประกอบการ โดยสถำนประกอบกำรที่ตกลงร่วมโครงกำรกำรศึกษำระบบทวิภำคี จะมีบทบำทหน้ำที่ต่ำง ๆ คือ 1. คุณสมบัติของสถานประกอบการ 1.1 เป็นผู้ประกอบกิจการที่สามารถด า เนินการฝึกอาชีพได้ 1.2 มีความพร้อมในการฝึกอาชีพตามสาขาวิชานั้นๆ 1.3 สามารถจัดให้มีผู้ควบคุมการฝึกและครูฝึกท า หน้าที่ ประสานงาน ดูแลการฝึกและการสอนอาชีพ ให้แก่ นักศึกษา 1.4 สามารถจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออ า นวยต่อการฝึกอาชีพได้ 1.5 สามารถจัดการฝึกอาชีพได้ตลอดระยะเวลา 2 ปี ส า หรับหลักสูตร ปวส. และระยะเวลาอีก 2 ปีส า หรับผู้ศ ศึกษาต่อ ระดับปริญญาสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ 1.6 สามารถจัดส่งบุคลากรเข้าร่วมประชุมสัมมนากับ สถานศึกษาได้ 1.7 สามารถจัดสวัสดิการ ตลอดจนมาตรการเกี่ยวกับ สวัสดิการให้แก่นักศึกษาที่เข้ารับการฝึกอาชีพได้ 1.8 อยู่ในท าเลที่สามารถติดต่อได้สะดวก
29 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 2. วัตถุประสงค์ของการฝึกอาชีพ 2.1 เพื่อพัฒนาบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 2.2เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีฝีมือความรู้ความสามารถ ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการและสามารถ ประกอบ 2.3 เพื่อเตรียมบุคลากรไว้ทดแทนการขาดแคลนในอนาคต 3. บทบาทและหน้าที่ของสถานประกอบการ 3.1 สนับสนุนและจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ส าหรับการฝึกอาชีพให้แก่นักศึกษา 3.2 ร่วมมือกับสถานศึกษาจัดท าแผนการฝึกอาชีพให้กับ นักศึกษาให้ครอบคลุมเนื้อหาวิชาตามรายวิชาตลอดทั้ง หลักสูตร 3.3 จัดให้มีผู้ควบคุมการฝึกครูฝึกในสถานประกอบการ 3.4 ด า เนินการคัดเลือกนักศึกษาร่วมกับสถานศึกษา 3.5 สถานประกอบการต้องจัดให้มีการท าสัญญาการฝึก อาชีพกับ นักศึกษาโดยได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองและ สถาน ศึกษาเพื่อสิทธิประโยชน์ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกอาชีพ พ.ศ.2537 3.6 จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลครึ่ง หลักสูตร (Interim) และคณะกรรมการประเมินผลมาตรฐาน ฝีมือ สิ้นสุดหลักสูตร (Final) ร่วมกับสถานศึกษา 4. ระเบียบข้อบังคับการฝึกอาชีพ สถานประกอบการร่วมกับสถานศึกษา ก าหนดระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการฝึกอาชีพ ให้แก่นักศึกษา 5. การจัดบุคลากรรับผิดชอบ 5.1 ผู้ควบคุมการฝึก คือ ผู้ที่สถานประกอบการมอบ หมายให้ท า หน้าที่ประสานงานกับสถานศึกษาในการจัดการอา ชีว ศึกษาทวิภาคีการจัดท าแผนการฝึกอาชีพและรับผิดชอบดูแลการฝึก อาชีพของนักศึกษาในสถานประกอบการ 5.2 ครูฝึก คือ ผู้ท า หน้าที่สอนฝึกอบรม ให้แก่นักศึกษา ในสถานประกอบการที่ โดยมีคุณสมบัติดังนี้ - เป็นผู้ช านาญงานในสถานประกอบการที่มีความรู้ความ สามารถ และช านาญการในสาขาที่รับนักศึกษาเข้าฝึกอาชีพ - มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ - สามารถเข้ารับการประชุมสัมมนาร่วมกับสถานศึกษา - เป็นผู้ช านาญงานในสถานประกอบการที่มีความรู้ความ สามารถและช านาญการในสาขาที่รับนักศึกษาฝึกอาชีพ - มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ - สามารถเข้ารับการประชุมสัมมนาร่วมกับสถานศึกษา 6. การสอนนักศึกษาทวิภาคี สถานประกอบการ ร่วมกับสถานศึกษา ัดท าแผนการ ฝึกอาชีพของสถานประกอบการให้ ครอบคลุมตารางของสถาน ประกอบการและหลักสูตร ตลอดระยะเวลาที่นักศึกษาฝึกอาชีพ อยู ่ในสถานประกอบการ 6.1 วิชาชีพพื้นฐาน วิชาชีพเฉพาะ วิชาชีพเลือกเสรี โครงงานหรือโครงการวิชาชีพและกิจกรรมเสริมหลักสูตรจัดสอน ในสถานประกอบการหรือสถานศึกษาโดยให้เป็นไปตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย 6.2 จัดให้มีการฝึกอาชีพให้เป็นไปตามแผนการฝึกที่ ก าหนดไว้ 6.3 จัดให้นักศึกษาฝึกการใช้เครื่องมือ เครื่องจักร โดย ค านึงถึงความปลอดภัย 6.4 ดูแลให้ค าแนะน าแก่นักศึกษาในการบันทึกสมุด รายงานการฝึกอาชีพโดยตรวจสอบอย่างสม่ า เสมอ และเก็บ รวบรวมจากนักศึกษา เพื่อใช้ในการประเมินผลการฝึกอาชีพ 6.5 ก าหนดระเบียบข้อปฏิบัติในการฝึกอาชีพของนักศึกษาทวิภาคี 6.6 เป็นคณะกรรมการร่วมกับสถานศึกษาในการ ประเมินผลครึ่งหลังสูตร (Interim) และประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final)
30 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 7. การวัดผลและประเมินผล กฎเกณฑ์และระเบียบการประเมินผลการเรียนในระบบ ทวิภาคีให้ปฏิบัติตามระเบียบ ว่าด้วยการประเมินผลการเรียน ของ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช2542และของส า นักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557 และ ผู้ศึกษาต่อระดับปริญญาสายเทคโนโลยีหรือ สายปฏิบัติการพุทธศักราช 2556 โดยสถานประกอบการจะประเมินผลการเรียนตามรายวิชา ที่เรียนหรือฝึกอาชีพที่สถาน ประกอบการทุกภาคเรียน และร่วมกับ สถานศึกษาและสถานประกอบการอื่นๆเป็นคณะกรรมการมาตรฐาน ฝีมือในการ ประเมินผลครึ่งหลักสูตร (Interim) และประเมินผลสิ้น สุดหลักสูตร (Final) 7.1 การประเมินผลรายวิชา ในแต่ละภาคเรียน นักศึกษา จะต้องลงทะเบียนรายวิชาที่เรียนในสถานประกอบการ ซึ่ง สถาน ประกอบการจะต้องประเมินผลความรู้ทักษะและคุณธรรมตามแบบ ประเมินที่สถานประกอบการ 7.2 การประเมินผลครึ่งหลักสูตร (Interim) หลังจากที่ นักศึกษาได้ผ่านการฝึกอาชีพไปแล้วครึ่งหนึ่งของระยะเวลา ทั้งหมด ที่ฝึกในสถานประกอบการ สถานศึกษาหรือสถานประกอบการจะ ด า เนินการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผล ประกอบด้วยตัวแทน ของสถานประกอบการ และสถานศึกษาไม่น้อยกว่า 7คน โดยผู้แทน จากสถานประกอบการและ สถานศึกษาเป็นกรรมการและเลขานุการ ท าการก าหนดการสอบและวิธีการสอบ - ประเมินความรู้ทางทฤษฎีโดยสอบข้อเขียน - ประเมินความสามารถในการปฏิบัติงาน โดยการสอบ - สัมภาษณ์ตามบันทึกจากสมุดรายงานการฝึกอาชีพ 7.3 การประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final) หลังจาก นักศึกษาผ่านการประเมินผลครึ่งหลักสูตรแล้วในภาคเรียนสุดท้าย ก่อนจบการศึกษา คณะกรรมการประเมินผลจะต้องจัดให้มีการสอบ มาตรฐานฝีมือ เพื่อประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร - ประเมิน ความรู้ทางทฤษฎีโดยการสอบข้อเขียนและ การสัมภาษณ์ตามบันทึกสมุดรายงานการฝึกอาชีพ - ประเมินความสามารถในการ ปฏิบัติงาน โดยการท า โครงงานหรือการท า โครงการวิชาชีพหรือผลิตชิ้นงานหรือวิเคราะห์งาน -อัตราส่วนของการประเมินผล ครึ่งหลักสูตร (Interim) ร่วมกับการประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final) ตามอัตราส่วน 3:7 8. ต้องส่งผู้ควบคุมการฝึกและครูฝึกเข้าประชุมสัมมนา กับสถานศึกษา 9. ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่และพนักงานของสถาน ประกอบการทราบถึงการเข้าร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคีกับ สถานศึกษา 10. ต้องออกใบรับรองผ่านงานให้กับ นักศึกษาเมื่อสิ้นสุด การฝึกอาชีพและส าเร็จการศึกษา บทบาทหน้าที่ของ ผู้เรียน และผู้ปกครอง นักศึกษาที่สมัครใจเรียนทวิภาคีจะเป็นผู้เรียนในสถานศึกษา และฝึกอาชีพในสถานประกอบการไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้มี ความรู้ ทางด้านวิชาพื้นฐาน วิชาชีพพื้นฐานและวิชาอื่น ๆ ที่อยู่ในสาขาวิชาจากสถานศึกษา ตลอดจนการปฏิบัติงานจริง ใน ด้านวิชาชีพเฉพาะ เพื่อให้เกิดทักษะวิชาชีพ ความช านาญและมีประสบการณ์ตรงจาก สถานประกอบการเมื่อส าเร็จการศึกษา แล้วมีความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของสถานประกอบการ 1.กำรเข้ำเรียน 1.1.ผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าเรียนอาชีวศึกษาทวิภาคี ต้องปฏิบัติดังนี้ 1.1.1 สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสถานประกอบการ ที่ร่วมจัดการอาชีวศึกษาทวิภาคีที่สถานศึกษา 1.1.2 สมัครเข้าเรียนกับสถานศึกษาและ/หรือสถานประกอบการ 1.1.3 คัดเลือกตามที่สถานประกอบการและ/หรือสถานศึกษาก าหนด 1.1.4เมื่อผ่านการคัดเลือกและสถานประกอบการรับเข้าเป็นนักศึกษาจะต้องท าสัญญาการฝึกอาชีพกับสถาน ประกอบการนั้นๆ 1.1.5รายงานตัวและขึ้นทะเบียนเป็น นักศึกษาที่สถานศึกษา 1.2 คุณสมบัติของผู้เข้าเรียน ดังนี้ 1.2.1 มีอายุไม่ต่ ากว่า 17 ปีบริบูรณ์ในวันท าสัญญาการ ฝึกอาชีพกับสถานประกอบการ 1.2.2 จบการศึกษาระดับ ปวช. หรือเทียบเท่า เพื่อเข้า ศึกษาต่อระดับ ปวส. และจบการศึกษาระดับ ปวส.หรือ เทียบเท่า เพื่อเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ
31 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 1.2.3 มีความประพฤติเรียบร้อย 1.2.4 มีร่างกายแข็งแรงเหมาะสมในการเรียน การฝึก อาชีพในสาขาวิชานั้น 1.2.5 ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจหรือติดยาเสพติด 1.2.6 ผู้เคยถูกลงโทษให้ออกจากสถานศึกษา เพราะ ความผิดร้ายแรงจะต้องพ้นสภาพมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีนับ ถึงวัน สมัคร 1.2.7 เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกจากสถานศึกษา 1.2.8เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกจากสถานประกอบการให้เข้า รับการฝึกอาชีพ 2. บทบำทของนักศึกษำ นักศึกษาทวิภาคีจะมีบทบาทที่เป็น ผู้เรียนของสถานศึกษา และเป็นผู้รับการฝึกอาชีพของสถานประกอบการ 2.1 การเรียนและการฝึกอาชีพ 2.1.1 เรียนหมวดวิชาสามัญ วิชาชีพพื้นฐาน วิชาชีพ เฉพาะ วิชาเลือกเสรีทั้งทฤษฏีและปฏิบัติในสถานศึกษาตาม แผน การเรียนที่ก า หนดไว้ 2.1.2 ฝึกอาชีพในสถานประกอบการตามรายวิชาชีพ เลือก วิชาชีพเฉพาะ หรือวิชาเลือกเสรีท า โครงการหรือ โครงงาน วิชาชีพ และร่วมกิจกรรมในสถานประกอบการ ตลอดหลักสูตร ตามแผนการฝึกอาชีพที่ก า หนดไว้ 2.2 การบันทึกสุมดรายงานฝึกอาชีพ 2.2.1 นักศึกษาทวิภาคีทุกคนต้องจดบันทึกการปฏิบัติ งานฝึกอาชีพประจ าวัน ลงในสมุดรายงานการฝึกอาชีพ ด้วยตนเอง อย่างสม่ า เสมอตามแบบฟอร์มที่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการจัดให้ 2.2.2 สมุดรายงานการฝึกอาชีพที่บันทึกแล้วจะต้อง ให้ครูฝึกหรือผู้ควบคุมการฝึกและครูนิเทศตรวจลงนาม อย่างสม่าเสมอ 2.2.3สมุดรายงานฝึกอาชีพทั้งหมดของนักศึกษาจะต้องน าไปใช้ในการประเมินผลครึ่งหลักสูตร (Interim) และ ประเมินผล สิ้นสุดหลักสูตร (Final) 2.3 การส าเร็จการศึกษา 2.3.1 นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียน และประเมินผล ผ่านทุกรายวิชาครบตามโครงสร้างของหลักสูตร 2.3.2 ผ่านการประเมินผลครึ่งหลักสูตร(Interim) และ ประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final) 2.3.3 ผ่านการร่วมกิจกรรมทุกภาคเรียน 2.3.4 นักศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือปริญญาสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการตาม ระดับที่ ศึกษาอยู่ 2.3.5 นักศึกษาจะได้รับใบผ่านการฝึกอาชีพจากสถาน ประกอบการ 3. หน้ำที่ของนักศึกษำ 3.1เข้ารับการปฐมนิเทศร่วมกับผู้ปกครองที่สถานศึกษาและสถานประกอบการก าหนด 3.2 ขึ้นทะเบียนเป็น นักศึกษากับสถานศึกษาและช าระเงิน ค่าบ า ุงสถานศึกษาตามระเบียบว่าด้วยการเก็บเงินบ ารุง การศึกษา ภายหลังท าสัญญาการฝึกอาชีพกับสถานประกอบการแล้ว จึงจะมี สภาพการเป็น นักศึกษาโดยสมบูรณ์ 3.3 ท ากรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ 3.4 เข้าเรียนรายวิชาในสถานศึกษา ตามวันเวลาที่สถานศึกษาก าหนด 3.5 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 3.6 เข้ารับการฝึกอาชีพในสถานประกอบการตามวัน เวลา ที่ก าหนด 3.7 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานประกอบการ 3.8 รับทราบข่าวสารข้อมูลของสถานศึกษาและสถาน ประกอบการ
32 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 4. ข้อพึงปฏิบัติส ำหรับ นักศึกษำ 4.1 มีความตั้งใจในการรับการฝึกอาชีพและการเรียนรู้ 4.2 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานศึกษาและสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด 4.3 ให้ความเคารพครู-อาจารย์ของสถานศึกษาและครูฝึกในสถานประกอบการ 4.4 ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความตั้งใจและรับผิดชอบไม่ให้เกิดความเสียหาย 4.5 แต่งกายให้เหมาะสมกับการเป็น นักศึกษาหรือแต่งเครื่องแบบของสถานประกอบการ 4.6เป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์มีความเสียสละอดทน รับผิดชอบ ตรงต่อเวลาและมีความซื่อสัตย์สุจริต 4.7 มีทัศนะคติที่ดีต่อวิชาชีพ 5. หน้ำที่ของผู้ปกครอง 5.1 เข้ารับการปฐมนิเทศร่วมกับนักศึกษาตามที่สถานศึกษา หรือสถานประกอบการก าหนด 5.2 ให้ความยินยอมในการท าสัญญาการฝึกอาชีพระหว่าง นักศึกษากับสถานประกอบการ 5.3 ร่วมมือกับสถานประกอบการและสถานศึกษาในการ ควบคุมดูแล นักศึกษาในปกครอง ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ 5.4 ติดต่อประสานงานกับสถานประกอบการหรือสถาน ศึกษาทันทีเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับนักศึกษาในเรื่องการเรียนหรือ การ ฝึกอาชีพ กำรลงนำมควำมร่วมมือทำงวิชำกำรระหว่ำงสถำนศึกษำกับ สถำนประกอบกำร การจัดการศึกษาระบบทวิภาคีนั้น เป็นการท าความร่วมมือทางวิชาการร่วมกันสองฝ่ายคือสถานประกอบการ และ สถานศึกษา โดยที่ทั้งสองฝ่าย มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการจัดการอาชีวศึกษา และฝึกอบรมวิชาชีพ เพื่อผลิตบุคลากรในระดับ ช่างฝีมือ ช่างเทคนิค และนักเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติงานในสถาน ประกอบการ และส่งเสริมสนับสนุนให้ ผู้เรียนได้พัฒนาการเรียนรู้ ทักษะและจากประสบการณ์จริงจากสถานประกอบการโดยในปีการศึกษา2558 โรงเรียนกองทัพบก อุปถัมภ์ช่างกล ขส.ทบ.ได้ท าบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถานประกอบการต่างๆ มีรายละเอียดข้อตกลงดังนี้ ข้อ 1. วัตถุประสงค์ เพื่อประสานความร่วมมือในการจัดการอาชีวศึกษาในระบบปกติ และระบบทวิภาคีโดยสนับสนุนการฝึกงาน/การฝึก อาชีพ/การฝึกเตรียมเข้าท างานให้แก่ผู้เรียนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.)และผู้เรียนหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล-สาขางานเทคนิคยานยนต์,สาขาวิชาช่าง ยนต์-สาขางานซ่อมบ า รุงอากาศยาน และสาขาวิชาไฟฟ้า-สาขางานไฟฟ้าก าลังเพื่อผลิตและพัฒนาก าลังคนให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลและความต้องการ ของสถานประกอบการ ข้อ 2. สถำนที่ด ำเนินกำร หน่วยงานก ากับดูแลทั้งสองฝ ่าย 3. ควำมรับผิดชอบของแต่ละฝ่ำย 3.1 ความรับผิดชอบของ “สถานศึกษา” 3.1.1 วางแผนการด าเนินงานร่วมกับสถานประกอบการ ในการจัดท า แผนการเรียนแผนการฝึกงาน/การฝึก อาชีพ/การฝึกเตรียมเข้าท างานและการประเมินผลให้สอดคล้องกับหลักสูตร และความต้องการของสถานประกอบการ 3.1.2 ประสานงานกับสถานประกอบการในการจัดส่งผู้เรียนเข้ารับการฝึกงาน/การฝึกอาชีพ/การฝึกเตรียมเข้าท า งาน 3.1.3 ร่วมกับสถานประกอบการจัดปฐมนิเทศแก่ผู้เรียน และผู้ปกครอง 3.1.4เป็นพยานการท าสัญญาการฝึกงาน/การฝึกอาชีพ/การฝึกเตรียมเข้าท างานระหว่างผู้เรียนและสถาน ประกอบการ โดย ได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง 3.1.5จัดการเรียนการสอนในรายวิชาสามัญและวิชาชีพพื้นฐานภายในสถานศึกษา 3.1.6จัดท าแผนการนิเทศนักศึกษาระหว่างการฝึกงาน
33 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 3.1.6จัดท าแผนการนิเทศนักศึกษาระหว่างการฝึกงาน/ การฝึกอาชีพ/การฝึกเตรียมเข้าท างานในสถาน ประกอบการ 3.1.7 จัดครูนิเทศการฝึกงาน/ฝึกอาชีพ/การฝึกเตรียม เข้าท างานของผู้เรียน 3.1.8 วัดและประเมินผลการฝึกงาน/การฝึกอาชีพ/การ ฝึกเตรียมเข้าท า าน ่วมกับสถานประกอบการ 3.1.9 ติดตามและประเมินผลการด าเนินงานแก้ไขปัญหา อุปสรรคเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการศึกษา ระบบทวิภาคี 3.1.10 จัดครูผู้ประสานงานความร่วมมือกับสถานประกอบการเพื่อเป็นคณะท างานตามโครงการความร่วมมือ โดยร่วมกันพัฒนาหลักสูตรพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้มีความทันสมัยและสอดคล้อง กับการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการ และเทคโนโลยีใหม่ๆและน า เสนอ ผลการด า เนินงานให้ฝ่ายบริหารรับทราบเป็นระยะ 3.1.11ร่วมเสนอแนะแนวทางการด า เนินงาน ร่วมประชุม วางแผน จัดระบบ ระเบียบ และจัดกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่ทั้งสองฝ่าย จะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อพัฒนาก า ลังคน อย่างมีประสิทธิภาพและให้การด า เนิน งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ ของข้อตกลงความร่วมมือ 3.2 ความรับผิดชอบของ “สถานประกอบการ” 3.2.1 วางแผนการด า เนินงานร่วมกับสถานศึกษาในการพัฒนาหลักสูตรจัดท าแผนการเรียนแผนการฝึกงาน/ การฝึกอาชีพ/ การฝึกเตรียมเข้าท างาน 3.2.2 ประสานงานกับสถานศึกษาในการรับผู้เรียนเข้ารับการฝึกงาน/การฝึกอาชีพ/การฝึกเตรียมเข้าท างาน ใน สถานประกอบการ 3.2.3ร่วมกับสถานศึกษาจัดปฐมนิเทศแก่ผู้เรียนและผู้ปกครอง 3.2.4 ท าสัญญาการฝึกงาน/การฝึกอาชีพ/การฝึกเตรียม ข้าท างานระหว่างผู้เรียนและสถานประกอบการโดย ได้รับการยินยอม จากผู้ปกครอง 3.2.5 จัดบุคลากรที่รับผิดชอบท าหน้าที่ผู้ควบคุมการฝึกและครูฝึกเพื่อสอนงานแนะน าให้ค า ปรึกษาแก่ผู้เรียน ให้เป็นไปตาม หลักสูตร และรายงานผลการด า เนินงานให้ฝ่ายบริหารรับทราบเป็น 3.2.6 จัดการเรียนการสอนวิชาชีพด้านช่างอุตสาหกรรม โดยการฝึกปฏิบัติจริงในสถานประกอบการ 3.2.7 ประเมินผลการฝึกงาน/การฝึกอาชีพ/การฝึกเตรียม เข้าท างานของผู้เรียนตามหลักสูตร 3.2.8ออกใบรับรองการฝึกอาชีพให้แก่ผู้เรียนที่ผ่านเกณฑ์ ตามหลักสูตร 3.2.9 ให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่ผู้เรียน ที่เข้าฝึกงาน/ฝึกอาชีพ/ฝึกเตรียมเข้าท า งาน ตามที่ตก ลงกันร่วมกับ สถานศึกษา และการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ร่วมกัน 3.2.10 ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่และพนักงานของ สถานประกอบการรับทราบถึงการเข้าร่วมการจัด อาชีวศึกษาระบบ ทวิภาคีและให้ความสะดวกในการเข้าตรวจของครูนิเทศ 3.2.11 ร่วมประชุม วางแผน จัดระบบ ก า หนดระเบียบ ปรับปรุงหลักสูตร เสนอแนะแนวทางการด า เนินงาน การประเมินผล และอื่น ๆเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาก าลังคนที่ครบวงจร เข้าสถาน ประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ และ ให้การด า เนินงานบรรลุตาม วัตถุประสงค์ของข้อตกลงความร่วมมือ 3.2.12สนับสนุนด้านวิชาการโดยจัดให้บุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ในหน่วยงานร่วมสนับสนุน ร่วม พัฒนาหลักสูตร พัฒนาสื่อการเรียนการสอน ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับ การเปลี่ยนแปลงของวิทยาการและ เทคโนโลยีใหม่ๆ ร่วมกับสถาน ศึกษาและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน
34 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ. จัดการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) ทวิ ภาคี จ านวน 2 สาขาวิชา (ใช้เวลาศึกษา 2 ปี) ได้แก่ 1. สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล-สาขางานเทคนิคยานยนต์ 2.สาขาวิชาไฟฟ้า-สาขางานไฟฟ้าก าลัง คุณสมบัติของผู้สมัครศึกษำต่อ ระดับ ปวส. ทวิภำคี 1.อายุ 17 ปีขึ้นไป 2.จบการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า 3.มีระดับคะแนนเฉลี่ย 5 ภาคไม่น้อยกว่า 2.50 4.มีความประพฤติเรียบร้อยไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมและมารยาทอันดี 5.ไม่เป็นผู้มีโรคติดต่อร้ายแรง ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและมีบุคลิกภาพดี ไม่ขัดต่อวิชาชีพที่จะเข้าศึกษา ขั้นตอนด ำเนินกำรจัดกำรศึกษำระบบทวิภำคี การจัดการศึกษาระบบทวิภาคี หรือ อาชีวศึกษาทวิภาคี เป็นการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างสถานศึกษาและสถาน ประกอบการ ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความเข้าใจที่ตรงกันทั้งสถานประกอบการสถานศึกษาผู้ปกครองและนักศึกษา โดยมีแนวด าเนินการดังนี้ 1.กำรประชำสัมพันธ์ - สถานศึกษาท าการประชาสัมพันธ์ให้ครู-อาจารย์ บุคลาการทุกคนในสถานศึกษามีความรู้ความเข้าใจในการ จัดการศึกษาระบบทวิภาคีและให้มีส่วนร่วมในการด าเนินงาน -สถานศึกษาท าการประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี โดยใช้เอกสารสื่อต่างๆและจัดส่งบุคลากรเข้าไปชี้แจงโดยตรง
35 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 2. กำรส ำรวจควำมต้องกำรของสถำนประกอบกำร - สถานศึกษาจัดเตรียมเอกสารและส ารวจข้อมูลของสถานประกอบการ - สถานศึกษาจัดบุคลากรประสานงานกับสถานประกอบการ - พิจารณาสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ, การลงนามบันทึกความร่วมมือ - พิจารณาความต้องการของสถานประกอบการในด้านจ านวน นักศึกษาและสาขาที่เปิดสอน 3. กำรเตรียมควำมพร้อมของสถำนศึกษำและสถำนประกอบกำร - ก าหนดสาขาวิชาที่เปิดสอนทวิภาคีโดยพิจารณาข้อมูลที่ได้รับจากสถานประกอบการ - จัดท าแผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพ แต่ละสาขาวิชาตลอดหลักสูตร - จัดเตรียมครู-อาจารย์และบุคลาการรับผิดชอบการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี - ประสานงานกับสถานประกอบการเพื่อเตรียมบุคลาการรับผิดชอบการฝึกอาชีพ 4.กำรรับสมัครและสอบคัดเลือก การประกาศรับสมัครและสอบคัดเลือกสามารถท าได้โดยสถานศึกษาหรือสถานประกอบการสามารถด าเนินการร ร่วมกัน ดังนี้ - สถานประกอบการ ประกาศรับสมัครและสอบคัดเลือกและส่งรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกให้สถานศึกษา ด าเนินการ - สถานศึกษาประกาศรับสมัคร สอบคัดเลือกแล้วส่งให้สถานประกอบการด าเนินการสอบสัมภาษณ์อีกครั้งหนึ่ง 5.กำรรับขึ้นทะเบียนเป็น นักศึกษำ - สถานศึกษาจัดให้มีการขึ้นทะเบียนให้เป็น นักศึกษาของสถานศึกษา - ผู้ปกครองท าสัญญาการมอบตัวการเป็น นักศึกษา ให้กับสถานศึกษา - สถานศึกษาจัดให้ นักศึกษาลงทะเบียนเรียนรายวิชาโดยอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้แนะน า 6.กำรท ำสัญญำกำรฝึกอำชีพ - การท าสัญญาการฝึกอาชีพ เป็นข้อตกลงระหว่างสถานประกอบการกับนักศึกษาในช่วงระยะเวลาการฝึกอาชีพ เป็นการแสดงว่า นักศึกษาที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ เป็นการประกอบอาชีพเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือ - สถานศึกษาจะต้องประสานงานให้ผู้ปกครอง นักศึกษาจัดท าสัญญาการฝึกอาชีพกับสถานประกอบการ - สถานศึกษาลงนามเป็นพยานและผู้ปกครองลงนามยินยอมและค้ าประกันในสัญญาการฝึกอาชีพ 7.กำรจัดประชุมผู้ปกครองและกำรปฐมนิเทศ - สถานศึกษาต้องจัดประชุมผู้ปกครองและปฐมนิเทศ นักศึกษาใหม่ - สถานศึกษาร่วมกับสถานประกอบการ ชี้แจงกฎระเบียบปฏิบัติของสถานศึกษาและสถานประกอบการ 8.กำรจัดกำรเรียนกำรสอน - สถานศึกษาต้องจัดแผนการเรียนและตารางเรียนตามหลักสูตรที่ก าหนดร่วมกัน - สถานศึกษาต้องประสานงานกับสถานประกอบการ ในการก าหนด จ านวนวัน เวลา ที่เรียนในสถานศึกษา และ สถานประกอบการ - จัดท าปฏิทินการศึกษา - สถานศึกษาจัดสอนและฝึกอาชีพเพิ่มเติมในส่วนที่สถานประกอบการไม่สามารถจัดสอนและฝึกอาชีพได้ เพื่อให้ ครบตามหลักสูตร 9.กำรนิเทศติดตำมผล สถานศึกษาแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์นิเทศติดตามผลการฝึกอาชีพของนักศึกษาในสถานประกอบการ อาจารย์นิเทศต้องด าเนินการต่อไปนี้ - นัดหมายกับสถานประกอบการล่วงหน้าก่อนการออกนิเทศ - ศึกษาลักษณะกิจการของสถานประกอบการ - ศึกษาแผนการฝึกอาชีพของสถานประกอบการที่จะไปนิเทศ - ประสานกับผู้ควบคุมการฝึก ครูฝึก ติดตามพฤติกรรมของนักเรียน นักศึกษา
36 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 10.การวัดผลและการประเมินผล - สถานศึกษาวัดผลและประเมินผลการเรียนที่เรียนในสถานศึกษาทุกภาคเรียน - สถานประกอบการวัดผลการเรียนในรายวิชาที่เรียนหรือฝึกอาชีพที่สถานประกอบการทุกภาคเรียน แล้ว ส่งผลการเรียน การฝึกอาชีพให้สถานศึกษา - สถานศึกษาเสนอรายชื่อครู อาจารย์ ผู้ควบคุมการฝึก หรือครูฝึกในสถานประกอบการร่วมเป็นคณะกรรมการประเมินผล ครึ่งหลักสูตร ( Interim ) การประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final)เมื่อนักศึกษาได้ผลการประเมินผ่านรายวิชาหมวดวิชาชีพ เฉพาะได้จ านวนหน่วยกิตอย่างน้อยกึ่งหนึ่งตามที่ก าหนดไว้ในโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา และสถานประกอบการร่วมกัน จัดให้มีการประเมินผลครึ่งหลักสูตร โดยวิธีดังนี้ - ประเมินความรู้ทางทฤษฏี โดยการสอบข้อเขียน - ประเมินความสามารถในการปฏิบัติงานโดยการสอบสัมภาษณ์จากสมุดบันทึกรายงานการฝึกอาชีพ เมื่อ นักศึกษาลงทะเบียนครบทุกรายวิชาตามโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาจัดให้มีการประเมินผลสิ้นสุดหลักสูตร (Final) หรือ สอบมาตรฐานฝีมือ โดยวิธีการดังนี้ - ประเมินความรู้ทางทฤษฎีโดยการสอบข้อเขียน และสัมภาษณ์จากสมุดบันทึกรายงานกานฝึกอาชีพ - ประเมินความสามารถในการปฏิบัติงานโดยการท าโครงงานหรือการท าโครงการฝึกอาชีพหรือชิ้นงาน หรือ วิเคราะห์งาน 11.การส าเร็จ การศึกษาตามหลักสูตร สถานศึกษาต้องแจ้งเกณฑ์การจบหลักสูตรให้ นักศึกษาทราบดังนี้ - สอบได้รายวิชาในหมวดวิชาชีพพื้นฐาน หมวดวิชาชีพเฉพาะและหมวดวิชาเลือกเสรี ครบตามที่ก าหนดไว้ใน หลักสูตรแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชาได้จ านวนหน่วยกิต สะสมครบถ้วยตามโครงสร้าง - ผ่านกิจกรรมทุกภาคเรียน - สอบผ่านมาตรฐานฝีมือ - สถานศึกษาอนุมัติผลการเรียนและการจบหลักสูตร 12.การรับประกาศนียบัตร และใบรับรองการผ่านงาน - สถานศึกษามอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ส าเร็จการศึกษา - สถานประกอบการมอบใบรับรองการผ่านงาน ให้แก่ผู้ส าเร็จการศึกษา
37 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 หลักเกณฑ์กำรประเมินผลกำรเรียน ของ รร.ทบอ.ช่ำงกล ขส.ทบ. ระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ (ปวช.) และระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพชั้นสูง (ปวส.) ตำมหลักสูตรส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำกระทรวงศึกษำธิกำร วิธีกำรประเมินผลกำรเรียน 1.1 การประเมินผลการเรียนเป็นรายวิชา ให้มีการประเมินผลตามสภาพจริงต่อเนื่องตลอดการเรียน และเมื่อสิ้นภาค เรียนหรือเมื่อสิ้นสุดการเรียนทั้งภาคทฤษฏี ภาคปฏิบัติ โดยประเมินจาก เจตคติ งานที่มอบหมาย และการทดสอบ ให้ ครอบคลุมจุดประสงค์เนื้อหาที่เรียน ตามแผนการสอนที่ก าหนดไว้ 1.2 ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียนในแต่ละรายวิชา ดังต่อไปนี้ ระดับผลกำรเรียน ควำมหมำย 4.0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ดีเลิศ 80 คะแนนขึ้นไป 3.5 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ดีมาก 75 คะแนนขึ้นไป 3.0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ดี 70 คะแนนขึ้นไป 2.5 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ดีพอใช้ 65 คะแนนขึ้นไป 2.0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ พอใช้ 60 คะแนนขึ้นไป 1.5 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ อ่อน 55 คะแนนขึ้นไป 1.0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ อ่อนมาก 50 คะแนนขึ้นไป 0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ตก 49 คะแนนลงมา
38 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ระดับผลกำรเรียน ควำมหมำย ข.ร. ขาดเรียนไม่มีสิทธิเข้าสอบปลายภาคเรียน เนื่องจากเวลา เรียนต่ ากว่าร้อยละ 80 โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็น ว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ข.ป. ขาดการปฏิบัติงานหรือปฏิบัติงานไม่ครบ โดยสถานศึกษา พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุอันสมควร ข.ส. ขาดการสรุปผลการประเมินผลการเรียน โดยสถานศึกษา พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุอันสมควร ถ.ล. ถอนรายวิชาภายหลังก าหนด โดยสถานศึกษาพิจารณา แล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควร ถ.น. ถอนรายวิชาภายในก าหนด ท. ทุจริตในการสอบ หรืองานที่มอบหมายให้ท า ม.ส. ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการประเมินครบ ทุกครั้ง หรือไม่ส่งงานอันเป็นส่วนประกอบของการเรียน ตามที่ก าหนดด้วยเหตุจ าเป็นอันสุดวิสัย ม.ท. ไม่สามารถเข้ารับการประเมินทดแทนการประเมินส่วนที่ ขาดของรายวิชาที่ไม่สมบูรณ์ภายในภาคเรียนถัดไป ผ. ได้เข้าร่วมกิจกรรมตามก าหนดและผ่านการประเมินผล ม.ผ. ไม่เข้าร่วมกิจกรรม หรือผลการประเมินไม่ผ่าน ม.ก. การเรียนโดยไม่นับจ านวนหน่วยกิตมารวม 1.3 รายวิชาใด แสดงระดับผลการเรียนตามข้อ 1.2 ไม่ได้ ให้ใช้อักษรต่อไปนี้ 1.4 ในกรณีต่อไปนี้ให้ตัดสินผลการเรียนเป็นระดับ 0 (ศูนย์) เฉพาะรายวิชามีผลการเรียนต่ ากว่าเกณฑ์ขั้นต่ า (ตก) -ได้ ข.ร. -ได้ ข.ป. -ได้ ข.ส. -ได้ ถ.ล. -ได้ ท. -ได้ ม.ท. 1.5 ผู้ที่ได้ ม.ส. เนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการประเมินครบทุกครั้งปลายภาคเรียน ต้องสอบทดแทนการสอบปลาย ภาค ภายใน 10 วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา หากพ้นก าหนดนี้ ถือว่าไม่สามารถเข้าสอบทดแทน (ม.ท.) ยกเว้น มีเหตุจ าเป็นอันสุดวิสัย ให้สถานศึกษาพิจารณาเป็นรายๆ ไป ทั้งนี้ให้ประเมินทดแทนในรายวิชาที่ไม่สมบูรณ์ให้เสร็จสิ้น ภายในภาคเรียนถัดไป ผู้ที่ได้ ม.ส. เนื่องจากไม่ส่งงานอันเป็นส่วนประกอบของรายวิชาตามก าหนดต้องส่งงานนั้นให้สมบูรณ์ภายใน 10 วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชาหากพ้นก าหนดให้สถานศึกษาท าการตัดสินผลการเรียนในรายวิชานั้นได้ตามคะแนนที่มี อยู่จริง ยกเว้นมีเหตุจ าเป็นอันสุดวิสัย ให้สถานศึกษาพิจารณาเป็นรายๆไป
39 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 2. การตัดสินผลการเรียน ให้เป็นไปดังนี้ 2.1 การตัดสินผลการเรียนเพื่อส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ให้ ถือเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ได้รายวิชาและจ านวนหน่วยกิตสะสมในทุกหมวดวิชาครบถ้วนตามที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแต่ละประเภทวิชาและ สาขาวิชาและตามแผนการเรียนที่สถานศึกษาก าหสด (2) ได้ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ ากว่า 2.00 (3) ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานวิชาชีพ (4) ได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมเสริมหลักสูตรตามแผนการเรียนที่สถานศึกษาก าหนด และ “ผ่าน” ทุกภาคเรียน (5) รายวิชาที่มีระดับผลการเรียนที่ ตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป ถือว่าประเมินผ่านและให้นับจ านวนหน่วยกิตของรายวิชานั้นเป็น จ านวนหน่วยกิตสะสม (6) เมื่อได้ประเมินผลการเรียนแล้ว นักเรียนที่มีระดับผลการเรียน 0 (ศูนย์) ให้นักเรียนรับการประเมินใหม่ได้อีก 1 ครั้ง ภายในเวลาที่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการก าหนดไม่เกิน 10 วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา เว้นแต่มีเหตุ จ าเป็นที่หัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาเห็นสมควร หากผลการประเมินใหม่ไม่ผ่าน ถ้าเป็นรายวิชาบังคับให้เรียนซ้ ารายวิชานั้น ถ้าเป็นรายวิชาเลือกที่จะเรียนซ้ า หรือเรียนรายวิชาอื่นแทนได้ โดยจ านวนหน่วยกิจต้องไม่น้อยกว่ารายวิชาที่เรียนแทน และให้ ลงหมายเหตุในระเบียน (7) การประเมิน ให้ระดับผลการเรียนได้ไม่เกิน 1.0 (8) ให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้อนุมัติผลการเรียน และการส าเร็จการศึกษาหลักสูตร (9) เมื่อนักเรียนได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ 2 ภาคเรียนและได้รับการประเมินใหม่แล้ว หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ย สะสมต่ าว่า 1.50 ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไปหรือพ้นสภาพนักเรียน เมื่อได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ 4 ภาคเรียน และได้รับการประเมินแล้ว หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยต่ ากว่า 1.75 ให้ สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไป หรือให้พ้นสภาพนักเรียน เมื่อได้ลงทะเบียนรายวิชา ครบ 6 ภาคเรียน และได้รับการประเมินใหม่แล้ว หากได้ค่าระดับเฉลี่ยสะสมต่ ากว่า 1.90 ให้ สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไป หรือพ้นสภาพนักเรียน (10) นักเรียนที่เรียนแบบเต็มเวลาและได้ลงทะเบียนรายวิชารวม 6 ภาคเรียนแล้วแต่ยังไม่เข้าเกณฑ์การส าเร็จการศึกษา ตามหลักสูตร ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภาพนักเรียน ทั้งนี้ ให้เรียนได้ไม่เกิน 12 ภาคเรียน นับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนโดยไม่นับภาคเรียนที่ลาพักการเรียน 2.2 การตัดสินผลการเรียนเพื่อส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พุทธศักราช 2563 ให้ถือเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (2) ได้ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ ากว่า 2.00 (3) ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานวิชาชีพ (4) ได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมหลักสูตรตามแผนการสอนที่สถานศึกษาก าหนดและ “ผ่าน” ทุกภาคเรียน (5) รายวิชาที่มีระดับผลการเรียนตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป ถือว่าประเมินผ่านและให้นับจ านวนหน่วยกิตของรายวิชาเป็นจ านวน หน่วยกิตสะสม (6) เมื่อได้ประเมินผลการเรียนแล้ว นักศึกษาที่มีระดับผลการเรียน 0 (ศูนย์) ให้เรียนซ้ ารายวิชานั้น ถ้าเป็นรายวิชาเลือก จะเรียนซ้ า หรือเรียนรายวิชาอื่นแทนก็ได้ จ านวนหน่วยกิตต้องไม่น้อยกว่ารายวิชาที่เรียนแทน และให้ลงหมายเหตุในระเบียน แสดงผลการเรียน ว่าให้เรียนแทนรายวิชาใด (7) ให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้อนุมัติผลการเรียน และการส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร
40 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 (8) เมื่อนักศึกษาที่ลงทะเบียนรายวิชาครบ 2 ภาคเรียน หากได้ช าระ 40 หน่วยกิต หากได้ค่าเฉลี่ยสะสมต่ ากว่า 1.75 ให้ สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อ หรือพ้นสภาพนักศึกษา เมื่อได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ 4 ภาคเรียน หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ ากกว่า 1.90 ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้ เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภาพนักศึกษา (9) นักศึกษาที่เรียนแบบเต็มเวลาและได้ลงทะเบียนรายวิชารวม 4 ภาคเรียนแล้วยังไม่เข้าเกณฑ์การส าเร็จการศึกษาตาม หลักสูตร ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภาพนักศึกษา ทั้งนี้ ให้เรียนได้ไม่เกิน 8 ภาคเรียน นับตั้งแต่วันขึ้น ทะเบียนเป็นนักศึกษาโดยไม่นับภาคเรียนที่ลาพักการเรียน 3. สัดส่วนของกำรส่งคะแนน 3.1 คะแนนรวมตลอดทั้งปี 100 คะแนน แบ่งเป็น 2 ช่วงๆ ละ 50 คะแนน 3.2 คะแนน 50 คะแนน ประกอบด้วย คะแนนพฤติกรรม งานมอบหมาย และคะแนนสอบ 4. กำรปฏิบัติในกำรประเมินผล 4.1คะแนนกลางภาค เมื่ออาจารย์ประจ าวิชาบันทึกคะแนนกลางภาค ลงในแบบบันทึกคะแนน (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) เรียบร้อยแล้วให้ส่งต้นฉบับคะแนนส่งให้ หน.หมวด/หน.แผนกวิชา ตรวจสอบและลงนามพร้อมส่งให้งานวัดและประเมินผลด าเนินการ ต่อไป 4.2 ส าหรับนักเรียนที่ขาดสอบกลางภาค อาจารย์ผู้สอนจะต้องบันทึกคะแนนพฤติกรรมและงานมอบหมายเท่านั้น และได้ คะแนนสอบเป็น 0 4.3 นักเรียนที่ขาดสอบปลายภาค และไม่มาขอสอบตามก าหนด ให้ถือว่านักเรียนผู้นั้นไม่ผ่านการประเมินผลในวิชานั้น 4.4 คะแนนสอบปลายภาค ด าเนินการตามข้อ 4.1 ส าหรับต้นฉบับคะแนนปลายภาคให้อาจารย์ประจ าวิชาด าเนินงานรวม คะแนนกลางภาคและปลายภาค เพื่อจะน าเข้าสู่กระบวนการประเมิน 4.5 การประเมินผล ให้อาจารย์ประจ าวิชา หน.แผนกฯ ร่วมกันประเมินผลตามหลักการวัดและประเมินผลเมื่อด าเนินการเสร็จ เรียบร้อย หน.แผนกฯ รวบรวมเอกสารทั้งหมด ซึ่งประกอบใบความถี่ (TALLY) และอื่นๆ ถ้ามีน าส่งงานวัดและประเมินผล เพื่อพิจารณา ขั้นต้น พร้อมน าเสนอผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาความเหมาะสมและลงนามอนุมัติ 4.6 เมื่อผู้บริหารอนุมัติผลแล้ว ให้งานทะเบียนด าเนินการ บันทึกผลการเรียนประจ าภาคเรียนต่อไป กำรพ้นสภำพนักเรียน/นักศึกษำ เป็นไปตามกรณีใดกรณีหนึ่ง ต่อไปนี้ (1) ส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร (2) พ้นสภาพนักเรียน ตามข้อ 2.1 (8) หรือข้อ 2.2 (8,9) (3) ลาออก (4) ถึงแก่กรม (5) สถานศึกษาสั่งให้พ้นสภาพนักเรียน/นักศึกษา ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ต่อไปนี้ ก.ขาดเรียน ขาดการฝึกอาชีพ หรือขาดการติดต่อกับสถานศึกษาและหรือสถานประกอบการเกินกว่า 15 วัน ซึ่งสถานศึกษาหรือ สถานประกอบการพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือมีพฤติกรรมอย่างอื่นที่แสดงว่าไม่มีความตั้งใจที่จะศึกษาเล่าเรียนหรือ รับการฝึกอาชีพ ข.ไม่ยื่นค าขอกลับเข้าเรียนภายใน 15 วัน นับแต่วันถัดจากวันครบก าหนดลาพักการเรียนหรือฝึกอาชีพ ค.ไม่มาติดต่อเพื่อรักษาสภาพนักเรียน/นักศึกษา ง.ต้องโทษคดีอาญา โดยค าพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้จ าคุก เว้นแต่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่กระท าโดยประมาท จ.ขาดพื้นความรู้ หรือคุณสมบัติของผู้เข้าเรียนผู้ที่พ้นสภาพนักเรียน/นักศึกษา ถ้าประสงค์จะขอคืนสภาพเพื่อกลับเข้าเรียนในสถานศึกษา หรือฝึกอาชีพในสถานประกอบการ จะต้องยื่นค าร้องขอต่อสถานศึกษาแห่ง นั้นภายใน 1 ปี นับแต่วันถัดจากวันพ้นสภาพนักเรียน/นักศึกษา เมื่อสถานศึกษาพิจารณาเห็นสมควร ก็ให้รับเข้าเรียนได้
41 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 กำรขอคืนสภำพเพื่อกลับเข้ำเรียน ให้ปฏิบัติดังนี้ (1) ต้องเข้าเรียนภายในสัปดาห์แรกของภาคเรียน เว้นแต่กลับเข้าเรียนในภาคเรียนเดียวกัน (2) ต้องเรียนตามหลักสูตรที่ใช้อยู่ในขณะนั้น (3) ให้น าจ านวนหน่วยกิตของรายวิชาที่ประเมินได้ไว้ และเป็นรายวิชาที่ยังปรากฏอยู่ในหลักสูตรนี้มานับรวม เพื่อพิจารณาตัดสิน การส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร กำรพักกำรเรียน สถานศึกษาและสถานประกอบการอาจพิจารณาอนุญาตให้นักเรียน/นักศึกษาลาพักการเรียนหรือฝึกอาชีพได้ตามที่ เห็นสมควร เมื่อมีเหตุจ าเป็นกรณีใดกรณีหนึ่ง ต่อไปนี้ (1) ได้รับทุนการศึกษาให้ไปศึกษา หรือดูงาน หรือเป็นตัวแทนของสถานศึกษาหรือสถานประกอบการ ในการเข้าร่วมประชุม หรือกรณีอื่นๆ อันควรแก่การส่งเสริม (2) เจ็บป่วยต้องพักการเรียน (3) กรณีลาพักเพื่อรับราชการทหารกองประจ าการให้ลาพักได้จนกว่าจะได้รับการน าปลด (4) เหตุจ าเป็นอย่างอื่น ตามที่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการจะพิจารณาเห็นสมควร ในกรณีที่มีนักเรียนลาพักการเรียนหรือฝึกอาชีพตั้งแต่ต้นปีเป็นระยะเวลานานเกินกว่า 1 ปี สถานศึกษาหรือสถาน ประกอบการอาจพิจารณารับนักเรียน/นักศึกษาอื่นเข้าเรียนหรือฝึกอาชีพแทนที่ได้ตามที่เห็นควร นักเรียน/นักศึกษาที่ขอใบอนุญาตลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพ ต้องยื่นค าขอเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสถานศึกษาและสถาน ประกอบการ โดยมีผู้ปกครองเป็นผู้รับรอง ส าหรับผู้ที่บรรลุนิติภาวะจะมีผู้รับรองหรือไม่ก็ได้ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพได้ มิฉะนั้นจะถือว่าขาดเรียนเว้นแต่เหตุสุดวิสัย การอนุญาตให้นักเรียน/นักศึกษาลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพ ให้สถานศึกษาท าหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ ผู้ปกครองทราบ เว้นแต่ผู้ที่บรรลุนิติภาวะที่ไม่มีผู้ปกครองมอบตัวให้แจ้งนักเรียน/นักศึกษาทราบโดยตรง นักเรียน/นักศึกษาที่ลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพ เมื่อครบก าหนดเวลาที่ลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพแล้ว ให้ยื่นค า ขอกลับเข้าเรียนพร้อมด้วยหลักฐานการอนุญาตให้ลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพต่อหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ภายใน 15 วัน นับแต่วันถัดจากวันครบก าหนดหากพ้นก าหนดนี้ ให้ถือว่าพ้นสภาพนักเรียน/นักศึกษา เว้นแต่เหตุสุดวิสัย
42 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566
43 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 เรื่องที่ควรทรำบ 1. เวลำเรียน จัดตำมหลักสูตรของกระทรวงศึกษำธิกำร ปวช. สาขาวิชาช่างยนต์-ช่างไฟฟ้าก าลัง คอมพิวเตอร์ธุรกิจ เวลา 07.30-15.30 น. เรียนวันจันทร์—วันศุกร์ (ปรับเปลี่ยนตามตารางเรียน) ปวส. สาขางานช่างอากาศยาน—สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล เวลา 07.30 –15.30 น. เรียนวันจันทร์—วันศุกร์ (ปรับเปลี่ยนตามตารางเรียน) ปวส. สาขางานยานยนต์—สาขางานไฟฟ้าก าลัง เวลา 16.50 –21.00 น. เรียนวันจันทร์—วันเสาร์ (ปรับเปลี่ยนตามตารางเรียน) ปวส. (ทวิภาคี) สาขางานยานยนต์—สาขางานไฟฟ้าก าลัง เวลา 07.30—15.30 เรียนวันจันทร์—ศุกร์ ปี 1 และ ปี 2 ฝึกงานกับสถานประกอบการ 3. กำรได้รับเกียรติบัตรและโล่เกียรติยศจำกโรงเรียน นักเรียนมีสิทธิ์ได้รับเกียรติบัตร และโล่เกียรติยศจากโรงเรียนตามเงื่อนไขดังนี้ 3.1 สอบภาคปลายได้คะแนนยอดเยี่ยม 3 อันดับแรก ของชั้น ปวช.1 และปวช.2 จะได้รับเกียรติบัตร เรียนดียอดเยี่ยมประจ าปี การศึกษา 3.2 สอบภาคปลายชั้น ปวช.3 ได้คะแนนยอดเยี่ยม 3 อันดับแรก แต่ไม่ต่ ากว่า 3.5 จะได้รับโล่เกียรติยศ 3.3 สอบภาคต้นได้เป็นอันดับที่ 1 ของห้องเรียนจะได้รับเกียรติบัตรเรียนดียอดเยี่ยมประจ าภาคต้น 3.4 ผู้มีความอุตสาหะในการเรียน โดยสามารถท าคะแนนผลการเรียนได้สูงขึ้นกว่าเดิม 0.5 ของแต่ละ ภาคเรียนในชั้นของตน จะได้รับเกียรติบัตรยกย่องชมเชยความมานะอุตสาหะ 3.5 ไม่เคยถูกตัดคะแนนความประพฤติ 3 ปี ติดต่อกัน จะได้รับเกียรติบัตรความประพฤติดียอมเยี่ยม ของโรงเรียน 4. กำรลำกิจจ ำเป็นออกนอกสถำนศึกษำ 5.1 ให้นักเรียนน าจดหมายขอลากิจจากผู้ปกครองแสดงต่ออาจารย์ที่ปรึกษาประจ าชั้นเพื่อตรวจสอบลายมือ ชื่อผู้ปกครอง เมื่อ ตรวจสอบถูกต้องนักเรียนมาขอรับใบลาได้ที่แผนกปกครอง 5.2 น าใบลาไปกรอกข้อความ แล้วให้อาจารย์ที่ปรึกษาประจ าชั้น และหัวหน้าแผนกปกครองลงลายมือชื่ออนุญาต 5.3 นักเรียน ฉีกใบลาออกเป็น 4 ส่วน ส่วนที่ 1 มอบให้แผนกปกครอง ส่วนที่ 2 มอบให้อาจารย์ที่ปรึกษาประจ าชั้น ส่วนที่ 3 นักเรียนน าติดตัวไปด้วย เพื่อแสดงต่อกองรักษาการณ์ และสารวัตรนักเรียนเมื่อขอดู ส่วนที่ 4 นักเรียนน าไปใส่ในแฟ้มบันทึกการสอนในห้องเรียน 5. กำรประกันอุบัติเหตุทุกคนได้รับกำรประกันอุบัติเหตุ มีวิธีปฏิบัติดังนี้ 5.1 เมื่อประสบอุบัติเหตุสามารถเข้ารักษาได้ที่โรงพยาบาล เอกชน โรงพยาบาลรัฐบาล หรือ คลีนิก - โรงพยาบาลเอกชน ไม่ต้องส ารองจ่าย - โรงพยาบาลรัฐบาลหรือคลินิกต้องส ารองจ่ายและน าใบ สร็จตัวจริงพร้อมใบรับรองแพทย์ (โดยระบุสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุให้ ชัดเจน) - น าส่งฝ่ายกิจการนักเรียน เพื่อด า เนินการเบิกค่ารักษาพยาบาล กับทางบริษัทประกัน โดยใช้เวลาไม่เกิน 15-30 วันท าการ 5.2 ส าหรับนักเรียน/นักศึกษาที่ส ารองจ่ายเมื่อบริษัทประกัน ด าเนินการเรียบร้อยแล้ว จะติดตามนักเรียน/นักศึกษา มารับเงิน 5.3 ความคุ้มครองเงื่อนไขตามกรมธรรม์ที่บริษัทประกันได้ ก าหนดไว้
44 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 6. ทุนการศึกษา ทุนการศึกษาของโรงเรียน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยให้ได้รับเท่ากับค่าธรรมเนียมการเรียน 1 ภาคเรียน ของปีการศึกษา ศึกษานั้น คือ 6.1 ทุนสร้างแรงจูงใจในการเรียนดีแบ่งออกเป็น 6.1.1 ทุนผู้สอบได้ที่1ระดับ ปวช. มี6 ทุน ต้อง มีคุณสมบัติดังนี้ 6.1.1.1 ให้เฉพาะนักเรียนผู้สอบได้ที่ 1 ของ ภาคเรียนที่1ต่อระดับชั้นปีต่อสาขาวิชา รวม 6 ทุนต่อ 1 ภาคเรียน 6.1.1.2 กรณีที่มีผู้ที่ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากัน มากกว่า 1 คน ให้ตัดสินจากผลรวมของคะแนนดิบในทุกสาขาวิชา 6.1.1.3 ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติ เกิน 20 คะแนน 6.1.2 ทุนผู้มีผลการเรียนดี มี 6 ทุน ต้องมี คุณสมบัติดังนี้ 6.1.2.1 สอบได้คะแนนเฉลี่ยประจ า ภาคเรียน ตั้งแต่3.5 ขึ้นไป ของภาคเรียนที่ 1 6.1.2.2 ทุนที่ได้สาขาละ3 ทุน ชั้นปีละ2 ทุน รวม 6 ทุน 6.1.2.3 ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติ เกิน 20 คะแนน 6.2 ทุนช่วยเหลือบุตรข้าราชการทหารที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียน แบ่งออกเป็น 6.2.1 ทุนบุตรข้าราชการประจ าการ มี6 ทุน ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 6.2.1.1 ต้องเป็นบุตร หรือบุตรบุญธรรม ข้าราชการทหารประจ าการ ซึ่งเสียชีวิตหรือ ทุพพลภาพจากการ ปฏิบัติ หน้าที่ 6.2.1.2 ทุนที่ได้มีจ า นวนชั้นปีละ 2 ทุน จน จบการศึกษาของโรงเรียน 6.2.1.3 ผู้ที่จะได้รับทุนต้องสอบได้คะแนน รวมเฉลี่ย ประจ า ภาคเรียนก่อนหน้ารับทุน ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป เว้น ใน ชั้นปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ไม่ต้องน าผลการสอบมาพิจารณา 6.2.1.4 ผู้รับทุนต้องถูกตัดสิทธิ์ในการรับทุน เมื่อถูกพักการเรียนตลอดปีการศึกษาหรือไม่มีสิทธิ์สอบไล่หรือสอบ ตกซ ้าชั้น 6.2.1.5 ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติ เกิน 20 คะแนน 6.2.2 ทุนบุตรขส.ทบ.6 ทุน ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 6.2.2.1 เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมข้าราชการ ทหารลูกจ้างประจ า หรือพนักงานราชการ ที่รับราชการ หรือ ปฏิบัติงาน ในสังกัด ขส.ทบ. มีผลการเรียนเฉลี่ยประจ า ภาคเรียน ที่ 1 ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป เว้นในชั้นปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ไม่ต้องน าผล การสอบ มาพิจารณา 6.2.2.2 ทุนที่ได้มีจ า นวน ชั้นปีละ 2 ทุน รวม 6 ทุน กรณีมีผู้มีสิทธิ์มากกว่า 6 รายให้พิจารณาคัดเลือกจากผู้ที่มี คะแนนความประพฤติสูงสุดไล่ล าดับลงมา หากยังไม่สามารถตัดสินได้ ให้พิจารณาจากผู้ที่มีคะแนนรวมสูงสุดไล่ล าดับลงมา หากยังไม่ สามารถ ตัดสินได้ให้คณะกรรมการพิจารณาตัดสิน 6.2.2.3 ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติ เกิน 20 คะแนน 7.3 ทุนช่วยเหลือบุตรข้าราชการและพลเรือนทั่วไป มี6 ทุน ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ .- 6.3.1 เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมข้าราชกาและ พลเรือนทั่วไป มีผลการเรียนเฉลี่ยประจ า ภาคเรียนที่ 1 ตั้งแต่ 2.00 ขึ้น ไป 6.3.2 บิดามารดา มีบุตรหรือบุตรบุญธรรมตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป มีเงินรายได้รวมกันไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท (รวมท ั้ง เงินเพิ่มพิเศษ) 6.3.3 ทุนที่ได้มีจ า นวนชั้นปีละ 2 ทุน รวม 6 ทุน 3.3.4 ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 20 คะแนน
45 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 6.4 ทุนช่วยเหลือบุตร ครู– อาจารย์ผู้ปฏิบัติงานภายใน โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ช่างกล ขส.ทบ. ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 6.4.1 เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ครู– อาจารย์ ผู้ปฏิบัติงานภายโรงเรียนกองทัพบก อุปถัมภ์ช่างกล ขส.ทบ. มีผล การ เรียนเฉลี่ยประจ า ภาคเรียนที่ 1 ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป เว้นในชั้นปี ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ไม่ต้องน าผลการสอบมาพิจารณา 6.4.2 ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 20 คะแนน 6.5 ทุนบริจาคจากบุคคลทั่วไปหรือทุนที่ได้จากเงินจัดสรร ผลก า ไรร้านค้าสวัสดิการ โดยไม่จ ากัดจ า นวน ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 6.5.1 เป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดี 6.5.2 บิดามารดามีฐานะยากจน 6.5.3 ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 20 คะแนน 6. สวัสดิกำรและกำรให้บริกำร 6.1 เพื่อเป็นการสร้างขวัญ และก าลังใจแก่นักเรียนและ นักศึกษา ทางโรงเรียนได้มีการจัดของเยี่ยมนักเรียน/นักศึกษาที่ เจ็บป่วยเข้าพักรักษาตัวในสถานพยาบาล และโรงพยาบาล และมี ใบรับรองแพทย์ของสถานพยาบาล ให้พักรักษาตัวอย่างน้อย 3 วัน ขึ้นไป รายละ 500 บาท (ยกเว้นการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นหรือเป็นแผล มาจากกามโรค, โรคพิษสุราเรื้อรัง, ยาเสพติดให้โทษ,การท า ร้ายตัว เอง และโรคเอดส์) โดยอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ด า เนินการ และอยู่ ในดุลยพินิจของกรรมการ 6.2 จัดพวงหรีดเคารพศพนักเรียน/นักศึกษา บิดา มารดา ของนักเรียน รายละ 500 บาท และเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท โดย อาจารย์ที่ปรึกษาประจ าชั้นเป็นผู้ด า เนินการและให้ฝ่ายวิชาการ จัดผู้แทนของโรงเรียนไปร่วมพิธี 6.3 จัดให้มีการตรวจสุขภาพทุกปี 7. ห้องพยำบำล โรงเรียนได้ค านึงถึงความปลอดภัยสุขภาพอนามัยของนักเรียนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากจะให้นักเรียนท า ประกันอุบัติเหตุแล้ว ยังมี ห้อง พยาบาลซึ่งจะเป็นสถานพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะน า นักเรียนส่ง โรงพยาบาล เมื่อไม่สามารถรักษาได้ภารกิจทั่วไปคือน า นักเรียนไป ส่งโรงพยาบาล ท าแผล จ่ายยาและให้ค าแนะน าบางประการแก่นักเรียน เพื่อความสะดวกโรงเรียนได้แยกห้องพยาบาล หญิงชาย ให้สอดคล้องกับการรับนักเรียนหญิงเข้ามา ระเบียบกำรใช้ห้องพยำบำล (1) เมื่อรู้สึกไม่สบายในขณะเรียน ให้รายงานอาจารย์ประจ า วิชาทราบ และขออนุญาตมาห้องพยาบาล (2) แจ้งอาการให้พยาบาลทราบ และลงชื่อ ชั้น อาการ ลงในสมุด (หากใช้บริการ 2 ครั้งใน 1 วัน ลงชื่อ เฉพาะครั้งแรก เท่านั้น) หากเคยแพ้ยาต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย (3) ในรายที่ไม่สามารถเรียนหนังสือได้ต้องมีใบอนุญาต นอนพักจากห้องพยาบาลไปให้อาจารย์ประจ าวิชาลงชื่ออนุญาตก่อน จึง จะนอนพักได้ (4) ถ้านักเรียนป่วยมากไม่สามารถกลับบ้านได้เจ้าหน้าที่ จะแจ้งให้ฝ่ายปกครองทราบ เพื่อแจ้งผู้ปกครองมารับกลับบ้าน ข้อ ห้าม : ห้ามขอยาให้กันโดยเด็ดขาด 9. ห้องสมุด ระเบียบปฏิบัติในกำรใช้ห้องสมุด (1) แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ตามระเบียบของ โรงเรียนฯ (2) นักเรียน-นักศึกษาเข้าใช้บริการห้องสมุดได้ขณะอยู่ นอกเวลาเรียนเท่านั้น (3) ฝากกระเป๋า หนังสือ และสิ่งของต่างๆ ไว้ที่ชั้นวางของ ห้องสมุด (4) ห้ามน าอาหาร เครื่องดื่ม ขนม หรือของขบเคี้ยว ฯลฯ ทุกชนิดเข้ามาภายในห้องสมุด (5) ห้ามจับกลุ่มสนทนา หรือส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น (6) ห้ามนอนหลับในห้องสมุด (7) ห้ามขีด เขียน วาด หรือฉีกท าลายหนังสือ หากฝ่าฝืน จะถูกปรับ 10 เท่า ของราคาหนังสือ (8) หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร เมื่ออ่านเสร็จแล้ว กรุณาเก็บเข้าที่เดิม (9) เก็บเก้าอี้เข้าที่เดิมทุกครั้งอย่างเป็นระเบียบเมื่อเลิกใช้ (10)การติดต่อขอยืม-คืน สื่อสารสนเทศต่างๆต้องปฏิบัติ ตามระเบียบ (11) ผู้ใช้ห้องสมุดต้องปฏิบัติตามระเบียบฯ ทุกครั้ง มิฉะนั้น จะเชิญออกจากห้องสมุดทันที
46 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 บริกำรยืมคืนสื่อสำรสนเทศ (1) ผู้มีสิทธิ์ยืมสื่อสารสนเทศ ต้องเป็นนักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ผู้ปฏิบัติงาน และข้าราชการ ขส.ทบ. (2) หนังสือฝากคืนได้ฝากยืมไม่ได้ (3) หนังสือช า รุด สูญหาย ปรับ 2 เท่าของราคาหนังสือ หรือจากการประเมินราคาของบรรณารักษ์หรือสมาชิกซื้อหนังสือ ต้อง คืนห้องสมุดภายใน 7 วัน การยืมทั่วไป นักเรียน นักศึกษา (1) มีสิทธิ์ยืมได้ไม่เกิน 3 เล่ม ระยะเวลาการยืม 7 วัน/เล่ม (2) ส่งคืนช้าเกินก าหนด ปรับเล่มละ 1 บาท/วัน ครู อาจารย์ ผู้ปฏิบัติงาน ข้าราชการ ขส.ทบ. (1) มีสิทธิ์ยืมได้ไม่เกิน 5 เล่ม ระยะเวลาการยืม 14 วัน/เล่ม (2) ส่งคืนช้าเกินก าหนด ปรับเล่มละ 1 บาท/วัน การยืมถ่ายเอกสาร (1)กรอกแบบฟอร์มการยืมถ่ายเอกสาร พร้อมแนบบัตรประจ าตัวนักเรียน / บัตรประชาชนหรือบัตรประจ าตัวข้าราชการขส.ทบ. (2) ก าหนดส่งคืนสื่อสารสนเทศ ภายในวันที่ยืม (3) ส่งคืนช้าเกินก าหนด ปรับเล่มละ 5 บาท/วัน บริกำรค้นคว้ำทำงอินเทอร์เน็ต (1) ผู้เข้าใช้ต้องท าการลงชื่อเพื่อเข้าใช้งาน ที่ระบบบันทึกข้อมูลการเข้าใช้อินเตอร์เน็ตก่อนใช้งานทุกครั้ง (2) บันทึกข้อมูลที่จ าเป็นในการระบุตัวตน ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยให้ระบุ ชื่อ-สกุล / เลขประจ าตัว / หมายเลขเครื่องที่ใช้ / วันที่เข้าใช้ / เวลาที่เข้าใช้ (3) การลงชื่อเข้าใช้บริการในแต่ละครั้ง จะใช้บริการได้ 15 นาที เท่านั้น (4) ไม่อนุญาตให้เล่นเกมส์ สนทนาออนไลน์ หรือเปิดสื่อไม่เหมาะสม (5) ไม่อนุญาตให้ดาวน์โหลด อัพโหลด หรือฝากไฟล์ใดๆ ทั้งสิ้น (6) ก่อนจะใช้งานอุปกรณ์บันทึกข้อมูล ต้องท าการสแกนไวรัสก่อน (7) มีการเก็บบันทึกการเข้าถึงสื่อของผู้ใช้ (Log File) ตลอดการใช้งาน (8) ความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นของผู้ใช้งาน ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 บริกำรให้นักเรียน-นักศึกษำเข้ำค้นคว้ำในห้องสมุดในระหว่ำงเวลำเรียน (1) ครู -อาจารย์ ติดต่อเจ้าหน้าที่ห้องสมุด เพื่อขอเข้าใช้บริการ (2) เขียนแบบฟอร์มการขออนุญาตให้นักเรียน-นักศึกษาเข้าค้นคว้าในห้องสมุดในระหว่างเวลาเรียน (3) นักเรียน นักศึกษา เข้าค้นคว้าในห้องสมุดตามระยะเวลาที่ขออนุญาต โดยต้องมีอาจารย์ก ากับ บริกำรหนังสือพิมพ์ นิตยสำร วำรสำร และสิ่งพิมพ์พิเศษ (1) หนังสือพิมพ์ ไม่อนุญาตให้ยืมออกนอกห้องสมุด (2) นิตยสาร วารสาร และสิ่งพิมพ์พิเศษ ติดต่อยืมเป็นรายกรณี บริกำรมัลติมีเดียเพื่อกำรเรียนรู้ (1) ผู้เข้าใช้ต้องท าการลงชื่อเพื่อเข้าใช้งาน ที่ระบบบันทึกข้อมูลการเข้าใช้มัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ก่อนใช้งานทุกครั้ง (2) ใช้บริการมัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ตามระยะเวลาที่ก าหนดบริการอื่นๆ (1) บริการสื่อโสตทัศนวัสดุ (CD-ROM) (2) บริการสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) (3) บริการจองหนังสือ (4) บริการตอบค าถาม และช่วยค้นคว้าข้อมูล
47 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 บริกำรห้องสมุดออนไลน์ (E-Library) บริการยืม คืน หนังสือ สื่อ ออนไลน์ นักเรียน นักศึกษาสามารถยืมคืนได้โดยไม่ต้องมาที่ห้องสมุดเพียงดาวโหลด แอฟ ฟิเคชั่น โดยรองรับทั้ง IOS และ Android สามารถขอรหัสเข้าใช้งานได้ที่อาจาร์ยที่ปรึกษาของ นักเรียน นักศึกษา
48 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 10. กำรคิดค่ำระดับคะแนนเฉลี่ยประจ ำภำค และระดับคะแนน เฉลี่ยสะสม ขั้นที่ 1 น า เกรดที่ได้ในแต่ละวิชาคูณหน่วยกิตของวิชานั้น ขั้นที่ 2 น าผลคูณของแต่ละวิชามาบวกกัน ขั้นที่ 3 น าผลลัพธ์ที่ได้ในขั้นที่2 หารด้วยผลบวกของ หน่วยกิต ในภาคนั้น จะได้ระดับคะแนนเฉลี่ยประจ า ภาค ขั้นที่4 น าผลลัพธ์ที่ได้ในขั้นที่2ของแต่ละภาคมารวมกัน หารด้วย ผลบวกของหน่วยกิตของทุกภาคที่เรียนมาแล้ว จะได้ระดับ คะแนนเฉลี่ยสะสม ตัวอย่าง ภาคเรียนที่ 1 เรียน 3 วิชาคือ ล าดับที่ รหัส รายชื่อวิชา หน่วยกิต เกรดที่ได้ 1 20001301 สังคมศึกษา1 2 4 2 20001101 ภาษาไทย1 2 3 3 20001201 ภาษาอังกฤษ 1 2 2 ขั้นที่1 คือ (2 x 4 = 8), (2 x 3 = 6), (2 x 2 = 4) ขั้นที่2 คือ 8 + 6 + 4 = 18 ขั้นที่3 คือ 18 - (2 + 2 + 2) = 18 - 6 = 3.00 ขั้นที่4 คือ ยังไม่มีระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมเพราะเรียนภาคแรก ตัวอย่าง ภาคเรียนที่ 2 เรียน 3 วิชาคือ ล าดับที่ รหัส รายชื่อวิชา หน่วยกิต เกรดที่ได้ 1 20001302 สังคมศึกษา 2 2 2 2 22001102 ภาษาไทย 2 2 1 3 20001201 ภาษาอังกฤษ 2 2 0 ขั้นที่1 คือ (2 x 2 = 4), (2 x 1 = 2), (2 x 0 = 0) ขั้นที่2 คือ 4 + 2 + 0 = 6 ขั้นที่3 คือ 6 - (2 + 2 + 2) = 6 - 6 = 1.00 ขั้นที่4 คือ (18 + 6) - (6 + 6) = 24 - 12 = 2.00 นั่นคือในภาคเรียนที่ 2 ระดับคะแนนเฉลี่ยประจ า ภาค คือ 1.00 ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม คือ 2.00 ซึ่งในการคิดภาคที่ 3 ระดับ คะแนนเฉลี่ยประจ า ภาคคิดเหมือนตัวอย่างระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ต้องคิด 3 ภาค ซึ่งท า เช่นเดียวกัน ในภาคที่ 4, 5 และ 6 11. กำรขอใบรับรองสภำพนักเรียน และใบรับรองผลกำรศึกษำ มีขั้นตอนในการปฏิบัติคือ 11.1 ขอใบค า ร้องท า ใบรับรอง ที่แผนกทะเบียนฯ กรอก ข้อความให้ชัดเจนและครบถ้วน 11.2 รูปถ่ายสีขนาด1 นิ้ว(ถ่ายไม่เกิน 6เดือน)จ า นวน 1รูป ระดับ ปวช. - เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่เห็นซับใน ไม่ติดกระดุมคอเสื้อ - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของ โรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ ระดับ ปวส. - ใส่สูทผูกไทคสีกรม - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอย์ 11.3 ส่งค า ร้องที่แผนกทะเบียนฯ พร้อมเงิน 5 บาท 11.4 หลังจากยื่นค าร้องแล้วให้มารับใบรับรอง ภายใน 3วัน ท าการ ที่แผนกทะเบียนฯ
49 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 12.กำรขอใบระเบียนแสดงผลกำรศึกษำ และใบ Transcript มีขั้นตอนกำรปฏิบัติคือ 12.1 ขอใบค าร้องท า ใบระเบียน หรือ Transcript ที่แผนก ทะเบียนฯ กรอกข้อความให้ชัดเจนและครบถ้วน 12.2 รูปถ่ายสีขนาด1 นิ้ว(ถ่ายไม่เกิน 6เดือน)จ านวน 1รูป ระดับ ปวช. - เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่เห็นซับใน ไม่ติดกระดุมคอเสื้อ - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของ โรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ ระดับ ปวส. - ใส่สูทผูกไทคสีกรม - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง -ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ 12.3 ส่งค า ร้องท า ใบระเบียน หรือใบ Transcript ที่แผนก ทะเบียนฯ พร้อมเงิน 10 บาท 12.4 หลังจากยื่นค าร้องแล้ว ให้มารับเอกสารภายใน 5 วัน ท าการที่แผนกทะเบียนฯ 13. กำรขอใบรับรองควำมประพฤติมีขั้นตอนกำรปฏิบัติคือ 13.1 ขอใบค าร้องที่แผนกปกครองฯกรอกข้อความให้ชัดเจน และครบถ้วน นักเรียน / นักศึกษาต้องถูกตัดคะแนนความ ประพฤติไม่เกิน 20 คะแนน ทุกกรณี 13.2 รูปถ่ายสีขนาด1 นิ้ว(ถ่ายไม่เกิน 6เดือน) จ านวน 1รูป ระดับ ปวช. - เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่เห็นซับใน ไม่ติดกระดุมคอเสื้อ - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของ โรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ ระดับ ปวส. - ใส่สูทผูกไทคสีกรม - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ 13.3 ส่งค า ร้องที่แผนกปกครอง พร้อมเงิน 5 บาท 13.4 หลังจากยื่นค า ร้องแล้วให้มารับเอกสารภายใน 5วัน ท าการ ที่แผนกปกครอง 14. กำรขอจบกำรศึกษำ (กรณีไม่ส ำร็จกำรศึกษำภำยใน 3 ปี) 14.1 ขอใบค าร้องขอจบการศึกษา ที่แผนกทะเบียนฯกรอก ข้อความให้ชัดเจนและครบถ้วน 14.2 รูปถ่ายสีขนาด1 นิ้ว(ถ่ายไม่เกิน 6เดือน) จ านวน 6รูป ระดับ ปวช. - เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่เห็นซับใน ไม่ติดกระดุมคอเสื้อ - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของ โรงเรียน - ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอย ระดับ ปวส. - ใส่สูทผูกไทคสีกรม - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ 14.3 หลังจากยื่นค า ร้องแล้วให้มารับเอกสารภายใน 5 วัน ท าการ ที่แผนกทะเบียนฯ 15. การขอพักการเรียน หรือขอลาออก 15.1 ขอใบค า ร้องทั่วไป กรณีพักการเรียน ค าร้องลาออก กรณีลาออก กรอกข้อความให้ชัดเจนและครบถ้วน
50 คู่มือนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566 ระดับ ปวช. - เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่เห็นซับใน ไม่ติดกระดุมคอเสื้อ - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของ โรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ ระดับ ปวส. - ใส่สูทผูกไทคสีกรม - ไม่สวมแว่นตา ทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนฯ ไม่หวีผมแสกกลาง - ไม่รับรูปถ่ายโพลาลอยด์ 15.3 หลังจากยื่นค าร้องแล้ว ให้มารับเอกสารภายใน 5 วัน ท าการ ที่แผนกทะเบียนฯ 16. กำรท ำบัตรนักเรียน (ท ำใหม่กรณีหำย หรือช ำร ุด) 16.1. เขียนใบค า ร้องขอท า บัตรที่แผนกปกครอง 16.2. ช าระเงินค่าท าบัตร 100 บาท 16.3. ให้หัวหน้าแผนกปกครองเซ็นอนุมัติการท าบัตร 16.4. ให้นักเรียนน า ใบส่วนที่ 2 ไปให้ที่ปรึกษาเซ็นวันมารับบัตร 16.5. รับบัตรมาส่งนักเรียน พร้อมขอใบส่วนที่ 2 ที่ให้ที่ ปรึกษาเซ็นเก็บไว้ที่แผนกปกครอง ให้นักเรียนเซ็นรับบัตร 17. บัตรผ่ำน เข้ำ - ออก พื้นที่ของโรงเรียน (สติ๊กเกอร์) 17.1 นักเรียนต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ จากกรมการขนส่งทางบก หรือใบอนุญาตผ่านการอบรมจราจร จาก เจ้าหน้าที่ต ารวจ 17.2 สภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จะน า มาโรงเรียน ต้องอยู่ในสภาพเรียนร้อย ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น มี ป้ายทะเบียน ป้ายแสดงการช า ระภาษีเข็ดขัดนิรภัย เป็นต้น 17.3 รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จะน า มาโรงเรียนต้อง ผ่านการตรวจสอบสภาพรถ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง พร้อม ทั้งยื่นเอกสารการขอท า บัตรผ่าน เข้า -ออก พื้นที่สถานศึกษา ที่แผนกปกครองและแนะแนว โดยมีเอกสารดังนี้ 17.3.1 เอกสารค าร้องขอน ายานพาหนะ เข้า – ออก พื้นที่สถานศึกษา 17.3.2. ส าเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์รถจักรยานยนต์ และ ส าเนาบัตรนักเรียน/นักศึกษา 173.3. ส าเนาทะเบียนรถยนต์รถจักรยานยนต์ต้อง ไม่ขาดต่อภาษีประจ าปี ี 17.3.4. ส าเนาเอกสาร พรบ. รถยนต์รถจักรยานยนต์ 17.3.5. ส าเนาเอกสารเจ้าของรถ(หากเป็นรถของผู้อื่น) 17.4. ต้องมาถึงโรงเรียนก่อน ระดับ ปวช. เวลา 07.45 น. ระดับ ปวส. เวลา 17.00 น. 17.5 ห้ามขับขี่ด้วยความเร็วเกินที่ก า หนด (ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 20 กม./ชม.) และเร่งเครื่องเสียงดัง ภายในโรงเรียน และใน เขต พื้นที่โรงเรียนทหารขนส่ง 17.6 เมื่อน า รถยนต์รถจักรยานยนต์มาโรงเรียน ให้น าไปจอดที่โรงเรียนก าหนดพร้อมทั้งล็อคกุญแจให้เรียบร้อยส าหรับการน า รถยนต์รถจักรยานยนต์ไปจอดบริเวณโดยรอบโรงเรียน ถือว่ามีเจตนา ประพฤติผิดกฎของโรงเรียน เป็นการรบกวนหรือสร้างความ เดือดร้อน ให้แก่ บุคคลอื่นๆ หรือสถานที่ราชการ 17.7 ในระหว่างที่มีการเรียนการสอนในโรงเรียนจะไม่อนุญาตให้น ารถออกบริเวณจนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียนเว้นแต่กรณี มี ความจ า เป็น ให้ขออนุญาตตามระเบียบของโรงเรียน 17.8 การน ารถยนต์รถจักรยานยนต์มาโรงเรียน โรงเรียนจะอ านวยความสะดวกในด้านสถานที่จอด แต่หากเกิดความเสียหาย หรือช า รุด ผู้ปกครองและนักเรียน ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น 17.9 นักเรียนจะต้องมีบัตรอนุญาตที่ได้รับอนุญาตติดไว้ที่ ยานพาหนะ ในต าแหน่งที่ตรวจสอบได้ 17.10. ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้อาจถูกยกเลิกการน า รถยนต์มาจอดภายในโรงเรียน รวมทั้งหากเป็นการฝ่าฝืนระเบียบจะ ถูกลงโทษตามบทนั้นๆ