๑ ระเบียบโรงเรียนห้วยน ้ำหอมวิทยำคำร ว่ำด้วยควำมประพฤติและกำรปฏิบัติตนของนักเรียน พ.ศ.๒๕65 *************************** ด้วยเป็นการสมควรที ่จะปรับปรุงระเบียบโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร ด้วยความประพฤติ และการปฏิบัติตนของนักเรียน พ.ศ.๒๕66 ให้เหมาะสมยิ่งขึ น เพื่อให้การปกครองนักเรียนเป็นไปด้วย ความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ นักเรียนปฏิบัติตนได้ถูกต้อง อยู่ในระเบียบวินัย อาศัยอ้านาจตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ข้อ 2 แห่งกฎกระทรวงศึกษาธิการ และระเบียบโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคารว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2566 ก้าหนดความประพฤติ ของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 โรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ เครือข่ายผู้ปกครอง คณะกรรมการสภานักเรียน คณะผู้บริหารคณะกรรมการสถานศึกษาขั นพื นฐานโรงเรียนห้วย น ้าหอมวิทยาคาร จึงวางระเบียบไว้ดังต่อไปนี ข้อ ๑ ระเบียบนี เรียกว่ำ “ระเบียบโรงเรียนห้วยน ้ำหอมวิทยำคำร ว่ำด้วยควำมประพฤติและกำร ปฏิบัติตนของนักเรียน พ.ศ. ๒๕65” ข้อ ๒ ระเบียบนี ให้ใช้บังคับกับนักเรียนโรงเรียนห้วยน ้ำหอมวิทยำคำร ตั งแต่ปีกำรศึกษำ ๒๕6๖ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบโรงเรียนห้วยน ้ำหอมวิทยำคำรว่ำด้วยควำมประพฤติและกำรปฏิบัติตนของ นักเรียน พ.ศ. ๒๕61 ข้อบังคับอื่นใดของโรงเรียนที่ขัดแย้งกับระเบียบนี และให้ใช้ระเบียบนี แทน ข้อ ๔ ในระเบียบนี “โรงเรียน” หมายถึง โรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร “ผู้บริหำรโรงเรียน” หมายถึง ผู้อ้านวยการโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร หรือรองผู้อ้านวยการ โรงเรียนหรือบุคคลที่ผู้อ้านวยการโรงเรียนมอบหมายเป็นผู้มีอ้านาจในการก้ากับดูแลนักเรียนให้ปฏิบัติตาม “ครู” หมายถึง ครูโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร “นักเรียน” หมายถึง นักเรียนโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร “ผู้ปกครอง” หมายถึง บุคคลที่รับนักเรียนไว้ในความปกครองหรืออุปการะเลี ยงดู หรือบุคคล ที่นักเรียนอาศัยอยู่ด้วย (ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องผู้ปกครองนักเรียน พ.ศ. 2522) “กำรกระท้ำควำมผิด” หมายถึง การที่นักเรียนประพฤติผิดหรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับฉบับนี “กำรลงโทษ” หมายถึง การลงโทษนักเรียนที่กระท้าความผิดหรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับฉบับนี “ท้ำกิจกรรม” หมายถึง การให้นักเรียนที่กระท้าความผิดท้ากิจกรรมที่โรงเรียนก้าหนด ตามความเหมาะสมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือบ้าเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง สถานศึกษา หรือสังคม “กำรตัดคะแนนควำมประพฤติ” หมายถึง การตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนที่กระท้า ความผิด หรือฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับฉบับนี “ครูกลุ่มบริหำรกิจกำรนักเรียน” หมายความว่า ครูที่ได้รับค้าสั่งแต่งตั งจากผู้อ้านวยการ โรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร ข้อ 5 ให้ผู้อ้ำนวยกำรโรงเรียนห้วยน ้ำหอมวิทยำคำรรักษำกำรให้เป็นไปตำมระเบียบนี
๒ หมวดที่ 1 กำรประพฤติปฏิบัติตนของนักเรียน ข้อ 6 นักเรียนพึงปฏิบัติตนดังนี ข้อ 6.1 แต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน ข้อ 6.2 เคารพเชื่อฟังครูทุกท่าน และท้าความเคารพอย่างถูกกาลเทศะ ข้อ 6.3 ตั งใจศึกษาเล่าเรียน ไม่หนีเรียน หรือออกนอกโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อ 6.4 ประพฤติปฏิบัติตนตามกฎระเบียบวินัยโดยเคร่งครัดสม่้าเสมอ ข้อ 6.5 ช่วยกันถนอมรักษาทรัพย์สมบัติของโรงเรียน และในที่สาธารณะ ข้อ 6.6 มีความสุภาพเรียบร้อย มีมารยาทอันดีงาม ข้อ 6.7 ช่วยกันรักษาความสะอาดห้องเรียน และบริเวณที่ระดับชั นของนักเรียนรับผิดชอบ ข้อ 6.8 รักใคร่สามัคคีช่วยเหลือ เอื อเฟื้อ นักเรียนรุ่นน้องเคารพรุ่นพี่ นักเรียนรุ่นพี่ให้ความรัก เมตตารุ่นน้อง และต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ข้อ 6.9 กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ข้อ 6.10 ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน รู้จักเสียสละต่อส่วนรวมไม่เห็นแก่ตัว ข้อ 6.11 มีความซื่อสัตย์สุจริต มีน ้าใจ และบ้าเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม ข้อ 6.12 มีส่วนร่วมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยและท้องถิ่น ข้อ 7 นักเรียนต้องไม่ประพฤติตน ดังต่อไปนี ข้อ 7.1 หนีเรียนหรือออกนอกสถานศึกษา โดยไม่ได้รับอนุญาตในระหว่างเรียน เว้นแต่ได้รับ อนุญาตแล้ว ข้อ 7.2 เล่นการพนัน จัดให้มีการเล่นการพนัน มั่วสุมในวงการพนัน หรือเล่นในลักษณะที่เหมือน การพนัน ข้อ 7.3 พกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือสิ่งของที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ ข้อ 7.4 ซื้อ จ าหน่าย แลกเปลี่ยน เสพสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา บุหรี่ หรือสารเสพติด ข้อ 7.5 ลักทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ หรือบังคับ ขืนใจเพื่อเอาทรัพย์บุคคลอื่น ข้อ 7.6 ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ท าร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมการหรือกระท าการใด ๆ อันน่าจะ ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ข้อ 7.7 แสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในโรงเรียนและที่สาธารณะ ข้อ 7.8 ออกนอกสถานที่พักเวลากลางคืน เพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่มอันเป็นการสร้างความ เดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น โดยได้รับการร้องเรียนจากบุคคลภายนอก ข้อ 7.9 ใช้เครื่องส้าอางแต่งหน้าเกินความเหมาะสม ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม ซอยผม ดัดผม ไว้หนวดหรือเครา ไว้เล็บยาวหรือทาสีเล็บ ข้อ 7.10 สัก หรือเพ้นท์ลวดลายตามร่างกายนอกร่มผ้า (บริเวณที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน) ข้อ 7.11 ท้าลายทรัพย์สินของโรงเรียน หรือของสาธารณะที่ใช้ร่วมกัน ข้อ 7.12 สั่งซื ออาหาร หรือเครื่องดื่มจากภายนอกโรงเรียน หรือให้บุคคลภายนอกน้าอาหาร หรือเครื่องดื่มมาส่ง ภายในเวลาเรียน (๐๗.๕๐ – ๑๖.๓๐ น.) ข้อ 7.13 การกระท้าอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผม เป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย
๓ ข้อ ๗.๑๔ ไม่ใช้เครื่องมือสื่อสาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดในเวลาเรียน หรือเวลาเข้า ร่วมกิจกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อ 8 กำรแต่งกำย การแต่งกายของนักเรียนให้รวมถึงทรงผม และลักษณะภายนอกด้วย โรงเรียนได้ก้าหนด การแต่งกายของนักเรียนไว้ดังนี ข้อ 8.1 นักเรียนชำย ชั นมัธยมศึกษำตอนต้น - ตอนปลำย 8.1.1 ทรงผม จะไว้ผมสั นหรือยาวก็ได้ ให้เป็นไปตามระเบียบการไว้ทรงผมของ นักเรียนโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร พ.ศ. 2566 โดยต้องตัดให้ถูกระเบียบทุกสิ นเดือน 8.1.2 เสื อ ใช้เสื อเชิ ตแขนสั นปลายแขนพับเข้าข้างใน คอตั ง ไม่มีกระดุมที่ปก เนื อผ้า ขาวเกลี ยง ไม่บางเกินควร ผ่าอกตลอด สาบตลบออกด้านนอกกว้างไม่เกิน ๓ เซนติเมตร ติดกระดุมขาว ไม่รัดรูป มีกระเป๋าที่อกด้านซ้าย ๑ กระเป๋า ขนาดพอเหมาะกับเสื อ แขนเสื อสั นเพียงเหนือข้อศอก 8.1.3 กำงเกง ใช้กางเกงขาสั นสีกากีห้ามใช้ผ้ายีน หรือผ้ามันบาง หรือก้ามะหยี่ ปลายขากางเกงวัดจากสะบ้าหัวเข่าขึ นมาไม่เกิน 5 เซนติเมตร เมื่อยืนตรงส่วนกลางของขากางเกงห่างจากขา ประมาณ ๑๐ - ๑๒ เซนติเมตร ปลายขอบพับเข้าใน มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้าง ข้างละ ๑ กระเป๋า ไม่มีกระเป๋า ด้านหลัง ด้านหน้ามีจีบข้างละ ๒ จีบ ไม่เย็บตายมีหูขนาด ๑ เซนติเมตร ๗ หูเมื่อสวมให้ขอบกางเกงอยู่ที่ระดับเอว จะต้องสวมทับชายเสื อไว้ให้เรียบร้อยตลอดเวลา จนสามารถมองเห็นเข็มขัดได้ 8.1.4 เข็มขัด เข็มขัดหนังแบบนักเรียนสีน ้าตาล ไม่มีลวดลาย ขนาดความกว้าง ประมาณ ๓ - ๔ เซนติเมตร หัวเข็มขัดเป็นโลหะสีทองรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปลอกหนังสีน ้าตาล ๑ ปลอก ส้าหรับ สอดปลายเข็มขัด เวลาคาดต้องร้อยไว้ในหูกางเกงทุกหูและให้พอดีกับขอบเอว ส้าหรับนักเรียนชายชั นมัธยมศึกษา ตอนต้น อนุญาตให้ใช้เข็มขัดลูกเสือได้ 8.1.5 รองเท้ำและถุงเท้ำ รองเท้าผ้าใบสีน ้าตาลเรียบชนิดหุ้มส้น ผูกเชือกสีน ้าตาล สวมถุงเท้าสีน ้าตาลยาวคลุมเหนือข้อเท้า ประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร ข้อ 8.2 นักเรียนหญิง ชั นมัธยมศึกษำตอนต้น 8.2.1 ทรงผม จะไว้ผมสั นหรือผมยาวก็ได้ ให้เป็นไปตามระเบียบการไว้ทรงผมของ นักเรียนโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร พ.ศ. 2566 8.2.2 เสื อ ใช้ผ้าขาวเรียบ ไม่มีลวดลาย ไม่บางเกินควร คอพับปกทหารเรือ ไม่ลึก จนเกินไป แขนเสื อจีบปลายแขนติดกระดุมกิ๊บ หรือเกี่ยวปลายแขนให้เรียบร้อย ความยาวของตัวเสื อยาวถึงข้อมือ เมื่อยืนตรง ผูกด้วยคอซองเป็นรูปหูกระต่ายท้าด้วยผ้าสีกรมท่า และต้องสวมเสื อทับเสื อชั นในสีขาวก่อนสวมเสื อ นักเรียน 8.2.3 กระโปรง สีกรมท่าเรียบ ไม่มีลวดลาย ขอบกระโปรงกว้างไม่เกิน ๑ - ๒ นิ ว ด้านหน้าและด้านหลังพับกลีบด้านละ ๓ กลีบออกด้านนอก กลีบลึก ๒.๕ เซนติเมตร เย็บทับกลีบต่้าจากขอบลงมา ๘ - ๑๐ เซนติเมตร เมื่อสวมใส่ขอบกระโปรงอยู่ระดับเอว ความยาวกระโปรงคลุมเข่าโดยวัดจากกึ่งกลางสะบ้า หัวเข่าลงมาไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร ผ้าที่ใช้ต้องไม่ใช้ผ้ายีน ผ้ามัน หรือผ้าก้ามะหยี่ 8.2.4 รองเท้ำและถุงเท้ำ รองเท้าหนังสีด้าเรียบชนิดหุ้มส้นหัวมน มีสายรัดหลังเท้า ๑ เส้น ไม่มีลวดลาย พื นรองเท้าไม่หนาและส้นไม่สูงเกินไป สวมถุงเท้าสีขาวยาวคลุมเหนือข้อเท้าประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร ข้อ 8.3 นักเรียนหญิง ชั นมัธยมศึกษำตอนปลำย 8.3.1 ทรงผม จะไว้ผมสั นหรือผมยาวก็ได้ กรณีผมสั นความยาวต้องไม่เกินปกคอเสื อ กรณีไว้ผมยาวความยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสม และรวบผูกด้วยริบบิ นสีขาวให้เรียบร้อย ห้ามตัดแต่งทรงผม ซอยผม หรือดัดผม ในลักษณะที่เป็นทรงแฟชั่น หรือย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม และไม่อนุญาตให้ถักเปียผม
๔ 8.3.2 เสื อ ใช้ผ้าขาวเรียบ ไม่มีลวดลาย ไม่บางเกินควร ผ่าอกตลอด สาบเสื อตลบ เข้าด้านใน ติดกระดุมสีขาวกลมแบน 5 เม็ด แขนยาวเหนือข้อศอกเล็กน้อย ปลายแขนจีบข้างละ ๓ จีบ ขอบแขน ประกอบด้วยผ้า ๒ ชิ น กว้างประมาณ ๓ เซนติเมตร ความกว้างของตัวเสื อเหมาะกับตัวไม่รัดรูป ไม่มีเกล็ดด้านหลัง สอดชายเสื อไว้ใต้กระโปรงนักเรียนสามารถมองเห็นเข็มขัดได้และต้องสวมเสื อทับเสื อชั นในสีขาวก่อนสวมเสื อ นักเรียน 8.3.3 เข็มขัด เข็มขัดสีด้าเรียบ กว้าง ๓ - ๔ เซนติเมตร หัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ชนิดหัวกลัดใช้หนังสีด้าหุ้ม มีปลอกขนาดกว้าง ๑ เซนติเมตร ส้าหรับสอดปลายเข็มขัดใช้คาดบนขอบกระโปรง ห้ามใช้เข็มขัดชนิดหนังแก้ว 8.3.4 กระโปรง สีกรมท่าเรียบ ไม่มีลวดลาย ขอบกระโปรงกว้างไม่เกิน ๑ - ๒ นิ ว ด้านหน้าและด้านหลังพับกลีบด้านละ ๓ กลีบออกด้านนอก กลีบลึก ๒.๕ เซนติเมตร เย็บทับกลีบต่้าจากขอบลงมา 8 - ๑๐ เซนติเมตร เมื่อสวมใส่ขอบกระโปรงอยู่ระดับเอว ความยาวของกระโปรงคลุมเข่า โดยเมื่อวัดจากกึ่งกลาง ของหัวเข่าลงมา 5 เซนติเมตร ผ้าที่ใช้ต้องไม่ใช้ผ้ายีน ผ้ามัน หรือผ้าก้ามะหยี่ ปลายกระโปรงไม่แคบหรือกว้าง จนเกินไป 8.3.5 รองเท้ำและถุงเท้ำ รองเท้าหนังสีด้าเรียบชนิดหุ้มส้นหัวมน มีสายรัดหลังเท้า ๑ เส้น ไม่มีลวดลาย พื นรองเท้าไม่หนาและส้นไม่สูงเกินไป สวมถุงเท้าสีขาวยาวคลุมเหนือข้อเท้าประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร ข้อ 8.4 กำรปักอักษรและเครื่องหมำย 8.4.1 ปักอักษรย่อโรงเรียน ห.น.ว. ด้วยด้ายหรือไหมสีน ้าเงินเป็นอักษรภาษาไทย ตามแบบตัวพิมพ์ที่โรงเรียนก้าหนด ขนาดอักษรสูง ๑.๕ เซนติเมตร ไว้ที่หน้าอกเสื อด้านขวาเหนือแนวราวนม 8.4.2 ปักชื่อ – นามสกุล ด้วยด้ายหรือไหมสีน ้าเงินเป็นอักษรภาษาไทยตามแบบ ตัวพิมพ์ที่โรงเรียนก้าหนด ขนาดตัวอักษรสูง ๑ เซนติเมตร ไว้ที่หน้าอกเสื อด้านซ้ายเหนือแนวราวนม 8.4.3 นักเรียนชั นมัธยมศึกษาตอนต้น ปักจุดด้วยด้ายหรือไหมสีน ้าเงิน ขนาด 0.5 เซนติเมตร บริเวณกึ่งกลางเหนือชื่อ - นามสกุล โดยชั นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปักจุด 1 จุด ชั นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปักจุด 2 จุด และชั นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปักจุด 3 จุด 8.4.4 นักเรียนชั นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปักจุดด้วยด้ายหรือไหมสีน ้าเงิน ขนาด 0.5 เซนติเมตร ที่ปลายปกคอเสื อด้านซ้ายของเสื อนักเรียน โดยชั นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปักจุด 1 จุดชั นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปักจุด 2 จุด และชั นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปักจุด 3 จุด ข้อ 8.5 กระเป๋ำนักเรียน ให้ใช้ตามที่โรงเรียนก้าหนด หากผิดระเบียบให้งานปกครองด้าเนินการเก็บรักษาไว้และให้ ผู้ปกครองนักเรียนมาติดต่อขอรับคือ ข้อ 8.6 ชุดพลศึกษำ 8.6.๑ ให้ใช้ชุดพละที่โรงเรียนก้าหนดให้เท่านั น โดยอนุญาตให้สวมชุดพละมาจากบ้านได้ ในวันที่มีเรียนพลศึกษา และต้องปักชื่อ – นามสกุล ด้วยด้ายหรือไหมสีเขียวเป็นอักษรภาษาไทยตามแบบและ บริเวณที่โรงเรียนก้าหนด 8.6.๒ นักเรียนชาย ใช้รองเท้า ถุงเท้า ตามระเบียบข้อ 8.1.5 8.6.๒ นักเรียนหญิง ใช้รองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบชนิดหุ้มส้น ผูกเชือกสีขาว สวมถุงเท้า สีขาว ยาวคลุมเหนือข้อเท้า ประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร ข้อ 8.7 กำรแต่งกำยลูกเสือ – เนตรนำรี– นักศึกษำวิชำทหำร ให้เป็นไปตำมระเบียบว่ำด้วย กำรแต่งกำยของเครื่องแบบนั น ๆ
๕ ข้อ 8.8 เครื่องประดับ ห้ามนักเรียนทุกคนใช้เครื่องประดับทุกชนิด เช่น สร้อยคอทองค้า สร้อยคอแฟชั่น ต่างหู สร้อยข้อมือ แหวนลักษณะต่าง ๆ สร้อยข้อเท้า ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ที่มีสีสัน ฯลฯ หากผิดระเบียบให้งานปกครองด้าเนินการเก็บรักษาเครื่องประดับไว้และให้ผู้ปกครองนักเรียนมาติดต่อขอรับคืน ยกเว้น นาฬิกาข้อมือแบบสุภาพ สร้อยคอสแตนเลสขนาดที่เหมาะสมส้าหรับแขวนพระโดยไม่ให้อยู่นอกเสื อหรือ มีขนาดสั นเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็น ข้อ 9 กำรมำโรงเรียน ข้อ 9.๑ นักเรียนต้องมาให้ทันเข้าแถวเคารพธงชาติเวลา ๐๗.๕๐ น. ข้อ 9.๒ เมื่อเข้ามาในโรงเรียนแล้วจะออกนอกโรงเรียนไม่ได้ถ้าจะออกนอกโรงเรียนจะต้องได้รับ อนุญาตจากกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน และต้องลงชื่อที่ยามหน้าประตูทุกครั ง โดยมีครูหรือผู้ปกครองเป็นผู้ดูแล ออกไป กรณีไม่มีผู้ปกครองให้ครูที่ปรึกษาเป็นคนรับรองนักเรียนในการออกนอกบริเวณโรงเรียน ข้อ 9.๓ ถ้านักเรียนมาโรงเรียนสาย ต้องขออนุญาตเข้าห้องเรียนจากกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน ทุกครั ง พร้อมน้าใบอนุญาตส่วนหนึ่งให้ครูประจ้าวิชาและครูที่ปรึกษา ข้อ 9.๔ ถ้านักเรียนมีความจ้าเป็นต้องหยุดเรียน ต้องมีใบลาพร้อมลายมือชื่อของผู้ปกครองแจ้ง ครูที่ปรึกษาทุกครั ง ข้อ 9.๕ นักเรียนทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธก่อนเข้าบริเวณโรงเรียนต้องไหว้ครูปฏิบัติหน้าที่เวร ประจ้า และพระพุทธรูปประจ้าโรงเรียนทุกครั ง ข้อ 9.๖ ถ้าผู้ปกครองมาส่งหรือมารับให้จอดรถบริเวณหน้าโรงเรียนที่ไม่ใช่บริเวณห้ามจอด ห้ามน้ารถเข้ามาภายในบริเวณโรงเรียน ข้อ 9.๗ แต่งเครื่องแบบนักเรียนทุกครั งที่มาโรงเรียน ถ้าเป็นวันหยุดราชการหรือมาติดต่อในช่วง ปิดภาคเรียนให้แต่งกายสุภาพ ข้อ 9.๘ ห้ามนักเรียนขับรถยนต์มาโรงเรียนโดยเด็ดขาด ข้อ 10 กำรเข้ำแถวเคำรพธงชำติ ข้อ 10.๑ นักเรียนต้องมาถึงโรงเรียนก่อนเวลา ๐๗.๕๐ น. ข้อ 10.๒ สัญญาณเพลงมาร์ช ห.น.ว. เริ่มเวลา ๐๗.๕๐ น. ให้นักเรียนเตรียมพร้อมมาเข้าแถว เคารพธงชาติหน้าเสาธง ข้อ 10.๓ ครูเวรประจ้าวันหรือนักเรียนผู้น้ากิจกรรมสั่งจัดระเบียบแถว “แถวตรง” ให้นักเรียน ทุกคนยืนตรงสงบนิ่ง ข้อ 10.๔ เวลา ๐๘.0๐ น. ผู้น้านักเรียนบอกเคารพธงชาติ ข้อ 10.๕ การเดินแถวเข้าชั นเรียนให้เดินแถวเรียง 2 ให้เรียบร้อย พร้อมเพรียงไม่คุยกันหรือเล่น ขณะเดินแถว ข้อ 11 กำรมำโรงเรียนสำย ข้อ 11.๑ ถ้านักเรียนมาถึงโรงเรียนหลัง ๐๘.2๐ น. เป็นต้นไป ถือว่ามาสายให้นักเรียนใช้ประตูหน้า นักเรียนจะต้องรายงานกับครูเวรและบันทึกลายนิ วมือที่เครื่องสแกนนิ วมือมาสาย หากสแกนนิ วมือไม่ติดนักเรียน ต้องลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน ถ้านักเรียนมาสายเกิน ๓ ครั งใน 1 เดือน โรงเรียนจะเชิญผู้ปกครองมาพบเพื่อแก้ไข ปัญหาต่อไป ข้อ 11.๒ นักเรียนที่มาโรงเรียนสายไม่ทันกิจกรรม HOMEROOM ครูที่ปรึกษาจะแจ้ง กลุ่มบริหารกิจการนักเรียนและนักเรียนจะต้องขออนุญาตเข้าห้องเรียนจากกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนทุกครั ง ข้อ 12 กำรเข้ำพบครูที่ปรึกษำ หลังเข้าแถวเคารพธงชาติเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนเดินแถวไปยังห้อง HOMEROOM เพื่อพบครู
๖ ที่ปรึกษาตามที่โรงเรียนก้าหนด เพื่อฟังค้าชี แจง ดูแลความสะอาดห้องเรียน การแต่งกายและระเบียบต่าง ๆ ของโรงเรียน จนถึงเวลา ๐๘.๓๐ น. จึงเริ่มเรียนคาบเรียนที่ ๑ ข้อ ๑3 กำรออกนอกบริเวณโรงเรียน ข้อ 13.๑ โรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนออกนอกบริเวณโรงเรียน กรณีที่ลืมของ อุปกรณ์ การเรียน สมุดงานหรือรายงาน ข้อ 13.๒ กรณีผู้ปกครองมารับด้วยตนเอง ให้ผู้ปกครองรอหน้าโรงเรียน และนักเรียนด้าเนินการ ขออนุญาตออกนอกโรงเรียนให้เรียบร้อยก่อนออกนอกบริเวณโรงเรียน ข้อ 13.๓ กรณีนักเรียนน้าจดหมายจากผู้ปกครองมาขออนุญาต ต้องขออนุญาตครูประจ้าวิชาก่อน แล้วน้าจดหมายนั นมายืนยันเป็นหลักฐาน เพื่อขออนุญาตจากกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน ข้อ 13.๔ กรณีที่โรงเรียนจัดกิจกรรมนอกบริเวณโรงเรียน โรงเรียนจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ปกครอง ทราบเพื่อขออนุญาต จะมีครูควบคุมดูแลทุกครั ง ข้อ 13.๕ นักเรียนทุกคนที่กลุ่มบริหารกิจการนักเรียนอนุญาตให้ออกนอกบริเวณโรงเรียน ต้องแสดงใบอนุญาต เมื่อกลับเข้ามาบริเวณโรงเรียนแล้วให้น้าใบอนุญาตคืนที่กลุ่มบริหารกิจการนักเรียน ข้อ ๑๓.๖ กรณีนักเรียนป่วย สามารถแจ้งครูห้องพยาบาลและให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับ บ้านได้ ข้อ ๑4 กำรขำดเรียน ข้อ 14.๑ การขาดเรียน ไม่ว่าป่วยหรือลากิจ ต้องส่งใบลาต่อครูที่ปรึกษา ข้อ 14.๒ การขาดเรียนติดต่อกันเกิน ๓ วัน หรือขาดบ่อยครั งโดยไม่ทราบสาเหตุให้ครูที่ปรึกษา ส่งจดหมายแจ้งผู้ปกครอง และเชิญพบที่ห้องกิจการนักเรียน ข้อ 14.๓ กรณีขาดติดต่อกันและครูที่ปรึกษา ส่งจดหมายลงทะเบียนถึงผู้ปกครอง ๒ ครั ง ห่างกัน ๑๕ วัน หากผู้ปกครองไม่มาติดต่อ ให้ครูที่ปรึกษาท้าบันทึกตามล้าดับขั นตอน ข้อ ๑5 กำรพบบุคคลภำยนอก ห้ามนักเรียนนัดบุคคลภายนอกมาพบตามอาคารเรียน ถ้ามีเหตุจ้าเป็น กรณีผู้ปกครองต้องการ ติดต่อพบนักเรียน ให้แจ้งงานประชาสัมพันธ์เมื่อหมดชั่วโมงให้นักเรียนลงมาพบที่หน้าห้องประชาสัมพันธ์เท่านั น ข้อ ๑6 กำรใช้ห้องเรียนและห้องต่ำง ๆ ของโรงเรียน ข้อ ๑7.๑ นักเรียนทุกคนต้องรักษาความสะอาด ตกแต่งห้องเรียนและรักษาสภาพห้องเรียน ให้พร้อมเรียนตลอดเวลา ข้อ ๑7.๒ ไม่ส่งเสียงรบกวนเพื่อนสมาชิกที่เรียนอยู่หรือนักเรียนห้องข้างเคียง ข้อ ๑7.๓ ปิดไฟและพัดลมเมื่อไม่ได้ใช้ ข้อ ๑7.๔ การเข้าห้องพยาบาล ต้องได้รับอนุญาตจากครูผู้สอน และครูพยาบาล พร้อมทั งลงชื่อ ในสมุดห้องพยาบาลทุกครั ง ข้อ ๑7.๕ นักเรียนจะเข้าไปในห้องเรียนคนอื่นไม่ได้ถ้าครูผู้สอนไม่อนุญาตโดยเฉพาะเมื่อไม่มี ครูอยู่ในห้อง ข้อ ๑7.๖ การเดินเรียนจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง ต้องเดินไปอย่างรวดเร็ว เป็นระเบียบ ไม่ส่งเสียงดัง ข้อ ๑7.๗ ระหว่างเรียนต้องขออนุญาตครูผู้สอนก่อนออกจากห้อง ข้อ ๑7.๘ ระหว่างเปลี่ยนชั่วโมงเรียนถ้าจะเข้าห้องเรียนช้าต้องขออนุญาตครูในชั่วโมงต่อไป ข้อ ๑7.๙ ไม่ขีด เขียนโต๊ะ เก้าอี ผนังห้องเรียน และผนังอาคารเรียน ข้อ ๑7.๑๐ การใช้ห้องสุขา ต้องท้าความสะอาดทุกครั งเมื่อใช้แล้ว ผ้าอนามัยที่ใช้แล้วต้องห่อ ให้เรียบร้อยแล้วทิ งในถังขยะที่เตรียมไว้ให้
๗ ข้อ ๑7.๑๑ การรับประทานอาหารในโรงอาหาร ให้นักเรียนรับประทานอาหารอย่างเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงดัง ขณะรับประทานอาหาร เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วให้น้าถ้วย จาน แก้วน ้า ไปวางในที่ ก้าหนดให้พร้อมเทเศษอาหารทิ งลงในภาชนะที่เตรียมไว้ให้ ข้อ ๑7 กำรท้ำควำมเคำรพ ข้อ ๑8.๑ ขณะเข้าแถวเคารพธงชาติเมื่อครูเวรประจ้าวันหรือนักเรียนผู้น้ากิจกรรมบอก “นักเรียน - เคารพ” ให้นักเรียนทุกคนกล่าวค้าว่า “สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”พร้อมยกมือไหว้ หากครูท่านใดมาพบ เพื่อน้าเสนอกิจกรรมหน้าเสาธง ก็ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน ข้อ ๑8.๒ การท้าความเคารพครูในห้องเรียนและหอประชุมให้ใช้ค้าว่า “นักเรียน - เคารพ” นักเรียนทุกคนกล่าวค้าว่า “สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”พร้อมยกมือไหว้ ข้อ ๑8.๓ การเข้าพบครูที่ห้องพักครูต้องได้รับอนุญาตจากครูก่อนแล้วท้าความเคารพทั งเข้าพบ และพบแล้ว ขณะเข้าพบหากครูนั่ง นักเรียนต้องคุกเข่า หากครูยืน นักเรียนยืนอย่างสุภาพในท่าส้ารวม ข้อ ๑8.๔ ขณะเดินสวนกับครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือผู้มาติดต่อ นักเรียนต้องหยุด ชั่วขณะ และยกมือไหว้เพื่อท้าความเคารพ ข้อ ๑8 บัตรประจ้ำตัวนักเรียน นักเรียนทุกคนจะต้องมีบัตรประจ้าตัวและพกติดตัวเสมอ นักเรียนจะต้องแสดงบัตรประจ้าตัวทุกครั ง ก่อนเข้าห้องสอบ หรือรับจดหมายลงทะเบียน พัสดุและธนาณัติหากบัตรหายต้องติดต่อขอท้าบัตรใหม่
๘ หมวดที่ 2 ลักษณะควำมผิด กำรพิจำรณำตัดคะแนนควำมประพฤติ และกำรลงโทษ ข้อ 19 กำรลงโทษแก่นักเรียนที่กระท้ำควำมผิด มี5 สถำน ดังนี ข้อ 20.๑ ว่ำกล่ำวตักเตือน ใช้ส้าหรับนักเรียนที่ได้กระท้าความผิดไม่ร้ายแรง ข้อ 20.2 ตัดคะแนนควำมประพฤติให้เป็นไปตามความประพฤติที่ได้กระท้าผิดตามวิธีการ ลงโทษ โดยการตัดคะแนนความประพฤติและให้ท้าบันทึกข้อมูลเป็นหลักฐาน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี 20.2.๑ ควำมผิดขั นเบำ ได้แก่ ความผิดที่แสดงความประพฤติที่จงใจบ่อยครั ง ตัดคะแนนครั งละ ๒ คะแนน ดังความผิดต่อไปนี ๑) ไม่ตั งใจเรียน หรือไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรม ๒) ไม่มีสมุดหนังสือหรือเอกสารการเรียนการสอน ๓) ไม่ส่งการบ้านหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ๔) รับหรือส่งสิ่งของบริเวณรั วโรงเรียน 5) ออกนอกห้องเรียนบ่อยครั งโดยไม่ได้รับอนุญาต 6) เข้าห้องเรียนช้าเกิน 15 นาที 7) มาโรงเรียนสาย 8) สั่งซื ออาหารหรือเครื่องดื่มจากภายนอกโรงเรียน 9) ไม่ทิ งขยะในบริเวณที่โรงเรียนจัดให้ 10) น้าสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ของโรงเรียนไปใช้ผิดประเภท 11) น้าภาชนะ หรืออาหาร ออกนอกบริเวณโรงอาหาร 12) ไม่รักษาความสะอาด หรือไม่รักษามารยาทที่ดี ในการรับประทานอาหาร 13) รับประทานอาหารไม่ตรงเวลาที่ก้าหนด 14) ไม่ปักอักษรย่อโรงเรียน ชื่อ - นามสกุล หรือเครื่องหมายตามที่โรงเรียนก้าหนด 15) ใส่เสื อผิดระเบียบ หรือปล่อยชายเสื ออกนอกกางเกงทั งในและนอกโรงเรียน 16) กางเกงหรือกระโปรงผิดระเบียบ 17) ใส่ถุงเท้าผิดระเบียบ 18) ใส่รองเท้าผิดระเบียบ หรือเหยียบส้นรองเท้า 19) ใส่เข็มขัดผิดระเบียบ หรือไม่ใส่ 20) ถักเปีย ไม่มัดผม ย้อมสีผม ดัดผม ซอยผม ไว้หนวดเครา หรือบากคิ ว 21) ใช้เป้ หรือกระเป๋าผิดระเบียบ 22) แต่งกายไม่สุภาพ หรือไม่เหมาะสมวันที่มาติดต่อราชการในวันท้าการและวันหยุด 23) ถอดเสื อเล่นกีฬาในบริเวณโรงเรียน โดยไม่ได้ รับอนุญาต 24) แต่งชุดนักเรียนและชุดพละไม่ตรงกับวัน เวลาที่ก้าหนด 25) แต่งชุดนักเรียนและชุดพละไม่เรียบร้อย 26) ไม่แต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารีนศท. ตามวันเวลาที่ก้าหนด 27) แต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารีนศท. ไม่เรียบร้อย 28) เจาะระเบิดหู เจาะลิ น เจาะจมูก เจาะแก้ม และใส่จิว หรือสักบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนอกบริเวณร่มผ้า 29) ไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียนในวันที่มีการเรียนการสอนหรือมาติดต่อโรงเรียนในเวลา ราชการ และในวันที่มีการสอบ 3๐) ไม่พกบัตรนักเรียน
๙ 31) ให้ผู้ปกครองขับรถเข้ามาส่งในโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต 32) ไม่ส่งจดหมาย หรือเอกสารจากทางโรงเรียนให้ผู้ปกครองทราบ 33) เล่น หรือส่งเสียงอึกทึกก่อความร้าคาญขณะที่มีการเรียนการสอน 34) เล่นบริเวณพื นที่ห้ามเล่น เล่นกีฬาในห้องเรียนหรือบนอาคารเรียน 35) ใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น 36) ไว้เล็บยาว หรือทาสีเล็บ 37) ใช้เครื่องส้าอางแต่งหน้าเกินความเหมาะสม หรืออุปกรณ์แต่งหน้าอื่น ๆ เช่น ติดขนตาปลอม กรีดอายไลน์เนอร์ 38) ใส่รองเท้าขึ นอาคารเรียน 39) ชาร์ตโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ 40) กระท้าความผิดอื่น ๆ ที่มีลักษณะความผิดใกล้เคียงกับความผิดดังกล่าวข้างต้น 20.2.๒ ควำมผิดขั นกลำง ได้แก่ ความผิดที่กระท้าให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม และเสียชื่อเสียงของโรงเรียนและหมู่คณะ ซึ่งเป็นเหตุให้นักเรียนประพฤติผิดจากวินัยการเป็นนักเรียนที่ดี ตัดคะแนนครั งละ ๕ - ๑๐ คะแนน ดังความผิดต่อไปนี 1) หลบหนีการเข้าแถวตอนเช้า 2) หลบหนีการเข้าเรียน (โดดเรียน) 3) ไม่เข้าร่วมกิจกรรมส้าคัญต่าง ๆ ตามที่โรงเรียนจัดให้โดยไม่มีเหตุผลอันควร 4) ขับขี่รถยนต์ จักรยานยนต์ในบริเวณโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต 5) กระท้าการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความสกปรกตามผนังตึก หรืออาคารเรียนสถานที่ต่าง ๆ ทั งภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน 6) แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อครู และบุคลากรทางการศึกษา 7) กลั่นแกล้ง รังแก ข่มขู่บุคคลอื่นให้เกิดความเสียหาย 8) ทะเลาะวิวาท เล็กน้อยไม่ได้รับบาดเจ็บ/อันตราย 9) ออกนอกโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต 10) มั่วสุมในห้องต่าง ๆ ทั งในและนอกเวลาเรียน 11 ท้าลายทรัพย์สินของผู้อื่น หรือของโรงเรียน 12 พฤติกรรมท้านองชู้สาว หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในโรงเรียน เช่น จับมือ ซบไหล่ 13 ไม่เข้า - ออก ตามทางที่โรงเรียนก้าหนด 14 ไม่เข้าพบครูเมื่อครูเรียกพบหรือนัดหมาย 15 เผยแพร่ข้อความ ภาพ วีดีโอ หรือเสียงที่ไม่เหมาะสม 16 หลบหนีการกระท้าความผิด 17 เล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียน 18 ตัดแต่งทรงผมในลักษณะที่ไม่เหมาะสม เช่น ท้าลวดลาย 19 ทรงผมผิดระเบียบ ให้ด้าเนินการแก้ไขแต่ไม่ยอมแก้ไขหรือหลบหนีการตรวจผม 20 ไม่แจ้งผู้ปกครองเมื่อกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนต้องการพบผู้ปกครอง ในกรณีที่นักเรียนท้าผิด 21) กระท้าผิดขั นกลางอื่น ๆ ที่มีลักษณะความผิดใกล้เคียงกับความผิดดังกล่าวข้างต้น 20.2.๓ ควำมผิดขั นหนัก ได้แก่ความผิดที่น้าความเสื่อมเสียมาสู่โรงเรียน หรือความผิดที่ กระทบกระเทือน ต่อระเบียบวินัยและศีล ธ ร รมอันดีง ามของส่ วน รวม ตัดคะแนน ๑๕ - ๒๐ คะแนน ดังความผิดต่อไปนี
๑๐ 1) เที่ยวเร่ร่อน มั่วสุม ตามบ้านเรือน ตามสถานที่สาธารณะ หรือสถานเริงรมย์ โดยได้รับการร้องเรียน 2) ปลอมแปลงลายมือชื่อ เอกสาร ปลอมตัวตน หรือแอบอ้างบุคคลอื่นเป็นผู้ปกครอง เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง 3) ทุจริตในการสอบ 4) บีบบังคับ ข่มขู่ผู้อื่นประสงค์ร้าย หรือประสงค์ทรัพย์หรือเจตนาอื่นใดที่ไม่ได้รับการยินยอม 5) ทะเลาะวิวาท ท้าร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ 6) เล่นการพนันทุกชนิด โดยมีอุปกรณ์การเล่นมั่วสุมในวงการพนัน 7) มีสื่อลามกอนาจารทุกชนิดอยู่ในการครอบครอง 8) สูบบุหรี่ในบริเวณโรงเรียน มีบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า หรือมีอุปกรณ์ ที่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ อยู่ในครอบครอง 9) ดื่มสุรา หรือ สิ่งมึนเมา หรือมีอยู่ในครอบครอง 10) แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ก้าวร้าว ดูหมิ่นครูและบุคลากรทางการศึกษา 11) ก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายนอกโรงเรียน ท้าให้เสื่อมเสียชื่อเสียง 12) ร่วมกระท้าการที่ไม่เหมาะสม โดยส่งผลกระทบต่อผู้อื่น 13) มีพฤติกรรมแสดงออกที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นนักเรียนเช่น ใช้กิริยา วาจา หยาบคายไม่สุภาพ โดยการพูด เขียน โพสต์และแสดงท่าทางที่ส่งผลกระทบกับผู้อื่น 14) กระท้าผิดขั นหนักอื่น ๆ ที่มีลักษณะความผิดใกล้เคียงกับความผิดดังกล่าวข้างต้น 20.2.๔ ควำมผิดขั นร้ำยแรง ได้แก่ ความผิดที่ท้าให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติภูมิ ของโรงเรียนอย่างร้ายแรง ครูกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน มีมติพิจารณาโทษตามสมควรแก่ความผิดและเสนอ ผู้อ้านวยการโรงเรียน ตัดคะแนน ๒๕ - ๓๐ คะแนน ดังความผิดต่อไปนี 1) มีอาวุธทุกชนิดไว้ในครอบครอง หรือ ใช้อาวุธท้าร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ 2) เสพสารเสพติดทุกชนิด มีสารเสพติดอยู่ในครอบครอง หรือมีอุปกรณ์การเสพอื่น ๆ อยู่ในครอบครอง 3) มีพฤติกรรมชู้สาวที่ไม่เหมาะสม เช่น กอด จูบ ลูบคล้า และพฤติกรรมอื่น ๆ ที่เสี่ยง ต่อทางเพศ 4) เผยแพร่ข้อความ เสียง ภาพ หรือวีดีโอ ที่ท้าให้บุคคลหรือโรงเรียนเสียชื่อเสียง 5) ทะเลาะวิวาท ท้าร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 6) ท้าร้ายร่างกาย ครู และบุคลากรทางการศึกษา 7) หลบหนีการกระท้าความผิด ทั งที่ท้าผิดกฎระเบียบชัดเจน (ได้ตัวแล้วหลบหนี) 8) เป็นผู้จัดหา หรือจัดจ้าหน่ายสารเสพติดทุกชนิด 9) ลักทรัพย์ของมีค่า วางแผน หรือเตรียมการไว้ก่อน 10) เป็นผู้จัดหา หรือค้าประเวณี 11) ยุยง หรือสร้างความแตกแยกสามัคคี 12) ให้การเท็จ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับ หรือให้การซัดทอด บุคคลอื่นในกรณีที่ไม่ได้กระท้า ความผิดร่วมกัน 13) กระท้าผิดขั นร้ายแรงอื่น ๆ ที่มีลักษณะความผิดใกล้เคียงกับความผิดดังกล่าวข้างต้น 20.2.5 กรณีควำมผิดนอกเหนือจำกที่ระบุไว้ข้ำงต้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อ้านวยการ และครูกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนจะพิจารณาตามสมควรแก่ความผิด
๑๑ 20.2.6 อ้ำนำจในกำรตัดคะแนน ๑) ครูมีอ้านาจตัดคะแนนความผิดขั นเบา และความผิดขั นกลาง ๒) หัวหน้ากลุ่มบริหารกิจการนักเรียน หัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีอ้านาจตัดคะแนนความผิดขั นเบา ความผิดขั นกลาง ความผิดขั นหนัก และความผิดขั นร้ายแรง ๓) ผู้อ้านวยการและรองผู้อ้านวยการ มีอ้านาจตัดคะแนนความพฤติตามความเหมาะสม แก่กรณี 20.2.7 กำรด้ำเนินกำรเมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนควำมประพฤติ 1) แจ้งให้นักเรียนที่ถูกตัดคะแนนรับทราบและลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน 2) งานทะเบียนความประพฤติกรอกคะแนนความประพฤตินักเรียนในสารระบบ การตัดคะแนน ตามที่นักเรียนถูกตัดคะแนน และเก็บคะแนนสะสมเป็นระดับช่วงชั น 3) แจ้งครูที่ปรึกษารับทราบทุกสิ นเดือน 4) ครูที่ปรึกษาแจ้งผลการตัดคะแนนให้นักเรียนทราบ 5) ให้ครูที่ปรึกษาติดตามดูแลนักเรียนที่กระท้าความผิด 6) ให้กลุ่มบริหารกิจการนักเรียน ครูที่ปรึกษา ครูแนะแนวพิจารณาให้การอบรมนักเรียน ที่ถูกตัดคะแนน หรือท้าทัณฑ์บน เป็นกรณีพิเศษ ข้อ 20.3 ท้ำทัณฑ์บน ใช้ในกรณีที่นักเรียนมีความประพฤติไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน หรือกรณีท้าให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติภูมิของโรงเรียน หรือฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียน หรือได้รับโทษว่ากล่าว ตักเตือนแล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบ การท้าทัณฑ์บนท้าเป็นหนังสือหรือเชิญบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มารับทราบ ถึงความผิดหรือรับรองการท้าทัณฑ์บนไว้ด้วย ข้อ 20.4 ท้ำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นักเรียนที่ท้าความผิดจนถูกตัดคะแนนความประพฤติตั งแต่ 3๐ คะแนนขึ นไป ให้กลุ่มบริหาร กิจการนักเรียนน้าเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณาให้นักเรียนท้ากิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ท้าคุณประโยชน์ ต่อสาธารณะ (ท้าความสะอาดโรงเรียน สถานที่สาธารณะ ฯลฯ) พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม (เข้าค่ายอบรมหลักสูตร คุณธรรมจริยธรรม) อื่น ๆ ตามที่ครูกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนเห็นสมควรและเมื่อนักเรียนท้ากิจกรรมปรับเปลี่ยน พฤติกรรมผ่านเกณฑ์ที่ก้าหนดแล้วผลการตัดคะแนนจะเป็น 0 20.4.1 กรณีไม่ท้ำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นักเรียนที่ไม่ท้ากิจกรรมเพื่อปรับพฤติกรรมถือว่าไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของทาง โรงเรียนจะมีผลดังนี ๑) ไม่ผ่านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามระเบียบโรงเรียน ว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้หลักสูตรโรงเรียนห้วยน ้าหอมวิทยาคาร พ.ศ.2551 2) ไม่ได้รับใบ ปพ.๑ พร้อมรุ่น ส้าหรับนักเรียนชั นมัธยมศึกษาปีที่๓ และมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เว้นแต่ได้ด้าเนินการท้ากิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรียบร้อยแล้ว 3) ส้าหรับนักเรียนชั นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่ไม่ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์จะไม่ได้รับ พิจารณาเข้าเรียนต่อในระดับชั นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ประเภทนักเรียนชั นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เดิม ข้อ 20.5 กำรพักกำรเรียน การสั่งพักการเรียน สั่งพักได้ครั งหนึ่งไม่เกิน 7 วัน โดยได้รับความ เห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั นพื นฐาน ซึ่งการกระท้าผิดที่ต้องพักการเรียน มีดังนี 20.5.1 แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเกินกว่าปกติ อันมีผลกระทบต่อร่างกาย หรือจิตใจของผู้อื่น เช่น แสดงกิริยาก้าวร้าว ไม่เหมาะสมต่อครู บุคลากรทางการศึกษา หรือท้าร้ายร่างกายครูและบุคลากรทางการศึกษา 20.5.2 แสดงพฤติกรรมที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือขัดต่อศีลธรรมอันดี อย่างร้ายแรง เช่น น้าอาวุธชนิดร้ายแรงมาโรงเรียน (อาวุธปืน วัตถุระเบิด วัตถุอื่น ๆ ที่มีลักษณะเป็นอันตราย
๑๒ ร้ายแรง ฯลฯ) การท้าการใด ๆ ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียนโดยมีหลักฐานชัดเจน และคณะกรรมการ กลุ่มบริหารกิจการนักเรียนพิจารณาแล้วเห็นว่าได้กระท้าการให้เสื่อมเสียจริง 20.5.3 แสดงพฤติกรรมรุนแรงที่อาจละเมิดสิทธิผู้อื่น เช่น ทะเลาะวิวาทท้าร้ายร่างกาย ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 20.5.4 กระท้าการที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น ติดสารเสพติด มีการตรวจพบ สารเสพติดครั งที่ 1 แล้วให้ด้าเนินการบ้าบัด แต่นักเรียนยังมีการกระท้าผิดเป็นครั งที่ 2 โดยมีผลการตรวจยืนยัน 20.5.5 ถูกท้าทัณฑ์บนครั งที่ 4 หรือถูกตัดคะแนนความประพฤติเกินกว่า 80 คะแนน 20.5.6 การด้าเนินการเมื่อถูกพักการเรียน เพื่อให้นักเรียนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้ปฏิบัติ อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี 1) ท้าคุณประโยชน์ต่อสาธารณะ เช่น ท้าความสะอาดโรงเรียน ฯลฯ 2) พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม เช่น เข้าค่ายอบรมหลักสูตรคุณธรรม 3) ส่งจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาเพื่อการบ้าบัดฟื้นฟู โดยด้าเนินการร่วมกัน ระหว่างโรงเรียนและบิดา มารดา หรือผู้ปกครองนักเรียน ข้อ 21 กำรเชิญผู้ปกครองมำพบ ข้อ 21.1 ขาดเรียนเกินกว่า 3 วันใน 1 เดือน หรือขาดเรียนติดต่อกันเกิน 7 วัน ใน 1 เดือน ข้อ 21.2 มาโรงเรียนสายเกินกว่า 3 วัน ใน 1 เดือน ข้อ 21.3 กระท้าผิดขั นเบาเป็นประจ้าไม่ยอมแก้ไขพฤติกรรม กระท้าผิดขั นกลาง กระท้าผิดขั นหนัก และกระท้าผิดขั นร้ายแรง ข้อ 22 กำรพิจำรณำเพื่อขอรับรำงวัล “เด็กดีศรีห.น.ว.” นักเรียนที่ท้าความผิดจนถูกตัดคะแนนความประพฤติเกินกว่า 10 คะแนน หรือมาสายเกิน ๓ ครั งขึ นไป จะไม่มีสิทธิได้รับรางวัล“เด็กดีศรีห.น.ว.” ประจ้าปี ข้อ 23 กำรส่งเสริมนักเรียนที่มีควำมประพฤติดี นักเรียนที่มีความประพฤติดีหรือประกอบคุณงามความดีในการช่วยเหลือบ้าเพ็ญประโยชน์ ต่อโรงเรียน สังคม ชุมชน หรือน้าชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน สมควรได้รับการยกย่องชมเชยประกาศเกียรติคุณ และเชิดชูเกียรติในฐานะเป็นแบบอย่างที่ดีให้ครูที่พบหรือทราบ เสนอครูกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน เพื่อ พิจารณาเพิ่มคะแนนความประพฤติดีดังนี ข้อ 23.๑ กรณีสร้ำงชื่อเสียงให้กับโรงเรียน 23.๑.๑ สร้างชื่อเสียงระดับโรงเรียน ให้เพิ่มคะแนนสูงสุดครั งละไม่เกิน ๑๐ คะแนน 23.๑.๒ สร้างชื่อเสียงระดับจังหวัด ให้เพิ่มคะแนนสูงสุดครั งละไม่เกิน ๑๕ คะแนน 23.๑.๓ สร้างชื่อเสียงระดับเขต ให้เพิ่มคะแนนสูงสุดครั งละไม่เกิน ๒๐ คะแนน 23.๑.๔ สร้างชื่อเสียงระดับประเทศ ให้เพิ่มคะแนนสูงสุดครั งละไม่เกิน ๒๕ คะแนน ข้อ 23.๒ กรณีเป็นคณะกรรมกำรหรือคณะท้ำงำนให้กับโรงเรียน นักเรียนที่เป็นคณะกรรมการหรือคณะท้างานให้กับโรงเรียนด้านต่างๆเช่น คณะกรรมการสภานักเรียน กรรมการคณะสีนักดนตรีหรือวงโยธวาทิตโรงเรียน และนักกีฬาโรงเรียน ให้เพิ่มคะแนน ๑๐ คะแนน ข้อ 23.๓ กรณีให้ควำมร่วมมือหรือช่วยเหลือกิจกรรมหรือเป็นตัวอย่ำงที่ดี นักเรียนที่ให้ความร่วมมือหรือช่วยเหลือกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เป็นตัวอย่างที่ดีของ นักเรียนคนอื่น ในเรื่องการแต่งกาย กริยา มารยาท ความประพฤติการรักษาระเบียบวินัย เช่น เก็บของหรือสมบัติ มีค่าคืนเจ้าของ บ้าเพ็ญตนเป็นประโยชน์ในเรื่องต่าง ๆ ที่มีหลักฐานเอกสารชัดเจน ให้เพิ่มคะแนนครั งละ ๕ คะแนน
๑๓ ข้อ 23.4 กำรเพิ่มคะแนนควำมดี ควำมประพฤติดี ให้ครูที่ปรึกษาหรือครูผู้ควบคุมดูแล ท้าบันทึกเสนอต่อผู้อ้านวยการโรงเรียน พร้อมแนบเอกสาร รับรอง เพื่อขอเพิ่มคะแนนความดีผ่านรองผู้อ้านวยการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน ข้อ 23.5 ผลของกำรเพิ่มคะแนนควำมดี 23.5.1 นักเรียนที่มีคะแนนความดีสะสมระหว่าง 60 – 79 คะแนน จะได้รับเกียรติ บัตรผู้มีความประพฤติดี “ระดับดี” 23.5.2 นักเรียนที่มีคะแนนความดีตั งแต่ 80 คะแนนขึ นไป จะได้รับเกียรติบัตรผู้ มีความประพฤติดี “ระดับดีเยี่ยม” 23.5.3 นักเรียนที่จะได้รับเกียรติบัตรผู้มีความประพฤติดี ต้องไม่ถูกตัดคะแนนความ ประพฤติเกิน 20 คะแนน 23.5.4 คะแนนความประพฤติดีสามารถน้ามาลบล้างคะแนนความประพฤติผิดได้ 23.5.5 คะแนนความประพฤติดีจะถูกเก็บสะสมเป็นระดับช่วงชั น (ม.ต้น และ ม.ปลาย) และพิจารณามอบเกียรติบัตรให้กับนักเรียนเมื่อส้าเร็จการศึกษาตามระดับช่วงชั น