ภำพที่ ลายดอกจันทน์ประยุกต์
ขนั ตอนกำรทำ�
๑. ตดั ผา้ สดี า� เปน็ วงกลม เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ ๕-๖ เซนตเิ มตร
ตดิ กระจกกบั ผา้ สดี า� ดว้ ยกาวลาเทก็ ซ ์ สนกระจกดว้ ยดา้ ยสเี ขยี วใหร้ อบกระจก
๓ รอบ ใช้วิธีการเย็บแบบคทั เวริ ์คเพ่ือล็อคกระจกให้ตดิ กบั ผ้า
๒. น�าผ้าสีนา�้ เงนิ ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร
จ�านวน ๔ ชิ้น พบั ๑ ดา้ น เย็บรอบกระจก โดยเยบ็ ไว ้ ๓ จดุ ให้ครบทง้ั ๔ ช้นิ
๓. นา� ผา้ สีเขียว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๔ ช้นิ พับ ๑ ด้าน เย็บทับผา้ สีน้า� เงิน
ให้ชิดกระจก โดยเย็บไว้ ๓ จดุ
๔. นา� ผา้ สสี ม้ ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชน้ิ พบั ๒ ดา้ น เยบ็ ทบั บนผา้ สเี ขยี ว
ให้มมุ สามเหลยี่ มชดิ กระจก โดยเย็บไว้ ๓ จุด ใหค้ รบ ๔ ชนิ้
๕. น�าผ้าสนี า�้ เงนิ ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชนิ้ พบั ๑ ด้าน เย็บทับผ้าสสี ม้
เวน้ ให้เห็นลายหนา้ หมอนเป็นกรอบสี่เหล่ียม
๖. นา� ผ้าขาว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๘ ชน้ิ พับ ๒ ด้าน เยบ็ ทับผา้ สีนา้� เงิน
ตามมุมสเ่ี หลย่ี ม และจดุ กึง่ กลางของดา้ นส่ีเหลย่ี มให้ครบ ๘ ช้ิน โดยเยบ็ ไว้ ๓ จุด
๗. ท�าปกลาย น�าผา้ สามเหลย่ี มสีสม้ และสีแดง อยา่ งละ ๒ ชิน้ พบั ๑ ด้าน เยบ็ ทับทงั้ ส่ดี า้ นเว้นใหเ้ หน็ ลายดอก
เยบ็ สลับสกี ัน ดังภาพแสดงขน้ั ตอนการท�า
ภำพท่ี ภาพแสดงขนั้ ตอนการทา� ลายดอกจนั ทนป์ ระยกุ ต์
ภำพถ่ำยโดย ถิรดา ประจวบสขุ
ขน้ั ตอนที ่ ๑ ขัน้ ตอนที ่ ๒ ขนั้ ตอนที ่ ๓
ข้นั ตอนที ่ ๔ ข้ันตอนท่ ี ๕ ข้นั ตอนท ี่ ๖ ขนั้ ตอนท่ี ๗
49
ภำพท่ี ลายดอกบัวประยุกต์
ขันตอนกำรท�ำ
๑. ตัดผ้าสีด�าเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕-๖
เซนตเิ มตร ตดิ กระจกกบั ผา้ สดี า� ดว้ ยกาวลาเทก็ ซ ์ สนกระจกดว้ ยดา้ ยสเี หลอื ง
ใหร้ อบกระจก ๓ รอบ ใชว้ ธิ กี ารเยบ็ แบบคทั เวริ ค์ เพอื่ ลอ็ คกระจกใหต้ ดิ กบั ผา้
๒. น�าผ้าสีส้ม และสีแดง ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวนอยา่ งละ ๒ ชิน้ พบั ๑ ดา้ น
เยบ็ รอบกระจก โดยเย็บไว้ ๓ จุด ให้ครบทัง้ ๔ ชนิ้ สลับสกี ัน
๓. น�าผ้าสขี าว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ช้ิน พบั ๑ ดา้ น เย็บทับผา้ สีส้ม
และแดง โดยเย็บไว้ ๓ จุด
๔. น�าผ้าสีเหลือง ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๔ ช้ิน พับ ๑ ด้าน เย็บทับ
บนผา้ สีขาว เวน้ ให้เหน็ ลาย โดยเยบ็ ไว้ ๓ จุด ให้ครบ ๔ ชิน้
๕. น�าผ้าสีน�้าเงิน ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๔ ช้ิน พับ ๑ ด้าน เย็บทับ
ผ้าสีเหลืองตรงมมุ ส่เี หลี่ยม
๖. นา� ผ้าสีขาว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ชิ้น พับ ๒ ดา้ น เยบ็ ทบั ผา้ สนี ้�าเงิน
ใหม้ มุ เหลอื่ มกนั เลก็ น้อย โดยเยบ็ ไว้ ๓ จุด
๗. นา� ผา้ สแี ดง ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชนิ้ พบั ๒ ดา้ น เยบ็ ทบั ผา้ สเี หลอื งทา� กรอบ
๘. นา� ผ้าสขี าว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๔ ช้ิน พับ ๒ ดา้ น เย็บทบั ท้งั สด่ี ้าน
เว้นให้เห็นลายดอก จากนั้นท�าปกลาย น�าผา้ สามเหลยี่ มสีสม้ และสเี หลอื ง อย่างละ ๒ ช้ิน พบั ๑ ดา้ น เย็บทบั ผ้าสขี าว
ใหเ้ หล่ือมกนั เลก็ นอ้ ย ดังภาพแสดงขัน้ ตอนการท�า
ภำพที่ ภาพแสดงขน้ั ตอนการท�าลายดอกบัวประยุกต์
ภำพถำ่ ยโดย ถิรดา ประจวบสุข
ขั้นตอนท่ ี ๑ ขั้นตอนที ่ ๒ ข้นั ตอนท ่ี ๓
50
ขนั้ ตอนท่ ี ๔ ข้ันตอนท่ี ๕ ขนั้ ตอนท่ี ๖
ข้ันตอนท ่ี ๗ ข้นั ตอนที ่ ๘
ภำพท่ี ลายดอกมะลิซ้อน
ขนั ตอนกำรท�ำ
๑. ตัดผ้าสีด�าเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕-๖
เซนตเิ มตร ตดิ กระจกกบั ผา้ สดี า� ดว้ ยกาวลาเทก็ ซ ์ สนกระจกดว้ ยดา้ ยสเี หลอื ง
ให้รอบกระจก ๓ รอบ ใชว้ ธิ ีการเย็บแบบถกั เพือ่ ลอ็ คกระจกใหต้ ิดกบั ผา้
๒. น�าผ้าสีส้ม ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวนอย่างละ ๒ ชิ้น พับริม ๑ ด้าน
เย็บรอบกระจก โดยเย็บไว ้ ๓ จุด ใหค้ รบท้ัง ๔ ชน้ิ
๓. นา� ผา้ สแี ดง ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชนิ้ พบั ๑ ดา้ น เยบ็ ทบั ผา้ สสี ม้ โดยเยบ็ ไว ้๓ จดุ
๔. นา� ผา้ สเี หลอื ง ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๘ ชน้ิ พบั ๒ ดา้ น ใหเ้ ปน็ สามเหลยี่ ม
มมุ แหลม เย็บทับบนผ้าสแี ดงตรงมมุ สเี่ หลีย่ ม และจดุ กึง่ กลาง โดยเยบ็ ไว้ ๓ จดุ ใหค้ รบ ๘ ชิ้น
๕. นา� ผา้ สีแดง ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๘ ชน้ิ พับ ๒ ดา้ น ให้เป็นสามเหลย่ี ม
มุมแหลม เยบ็ ทบั ผา้ สีเหลอื งให้เหล่อื มกันเลก็ นอ้ ย
๖. ทา� กรอบ โดยนา� ผ้าสขี าว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ช้ิน พับ ๑ ดา้ น
เยบ็ ทับผา้ สแี ดง เวน้ ใหเ้ ปน็ กรอบสเี่ หลี่ยม
๗. ทา� ปกลาย นา� ผา้ สามเหลยี่ มสสี ม้ และสเี ขยี ว อยา่ งละ ๒ ชน้ิ พบั ๑ ดา้ น เยบ็ ทบั ผา้ สขี าวใหเ้ หลอ่ื มกนั เลก็ นอ้ ย
ดังภาพแสดงขน้ั ตอนการท�า
51
ภำพที่ ภาพแสดงข้นั ตอนการท�าลายดอกมะลิซ้อน
ภำพถ่ำยโดย ถริ ดา ประจวบสขุ
ขน้ั ตอนท ่ี ๑ ขนั้ ตอนที ่ ๒ ขนั้ ตอนท ่ี ๓
ขัน้ ตอนท ่ี ๔ ขน้ั ตอนท ี่ ๕ ขัน้ ตอนที ่ ๖ ขน้ั ตอนท่ี ๗
ภำพท่ี ลายดอกมะลิประยุกต์
ขันตอนกำรท�ำ
๑. ตัดผ้าสีด�าเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕-๖
เซนตเิ มตร ตดิ กระจกกบั ผา้ สดี า� ดว้ ยกาวลาเทก็ ซ ์ สนกระจกดว้ ยดา้ ยสเี หลอื ง
ใหร้ อบกระจก ๓ รอบ ใช้วิธีการเยบ็ แบบถักเพ่ือล็อคกระจกใหต้ ดิ กับผ้า
๒. นา� ผ้าสขี าว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ช้นิ พบั ๑ ดา้ น เย็บรอบกระจก
โดยเยบ็ ไว ้ ๓ จดุ ให้ครบทั้ง ๔ ชนิ้
๓. น�าผ้าสเี ขียว และสีสม้ ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวนอยา่ งละ ๒ ชิ้น พบั ๒ ด้าน
เยบ็ ทับผา้ สีขาวตรงมุมสี่เหลีย่ ม โดยเย็บไว้ ๓ จดุ
๔. น�าผา้ สีแดง ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๔ ช้นิ พบั ๒ ด้าน เยบ็ ทับบนผา้ สขี าว
โดยเย็บไว้ ๓ จุด ใหค้ รบ ๔ ช้ิน
๕. นา� ผ้าสีขาว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๘ ช้ิน พับ ๒ ด้าน ให้เป็นสามเหลยี่ ม
มุมแหลม เยบ็ ทับผ้าสีเหลืองใหเ้ หลอื่ มกนั เล็กน้อย
52
๖. นา� ผา้ สีส้ม ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ช้นิ พับ ๒ ด้าน เย็บทบั ผา้ สขี าว
ตรงกบั มมุ แหลมสามเหล่ียมของผา้ สีแดง
๗. น�าผ้าสีเขียว และสีน�้าเงิน ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวนอย่างละ ๒ ช้ิน
พับ ๒ ดา้ น เย็บทบั ผ้าสขี าว
๘. ท�ากรอบ โดยนา� ผา้ สีขาว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๔ ช้นิ พับ ๑ ดา้ น
เยบ็ ทบั เวน้ ให้เห็นลายดอกให้เป็นกรอบส่เี หลย่ี ม
๙. ท�าปกลาย น�าผ้าสามเหลี่ยมสีส้มและสีแดง อย่างละ ๒ ชิ้น พับ ๑ ด้าน เย็บทับผ้าสีขาวให้เหล่ือมกัน
เลก็ นอ้ ย ดงั ภาพแสดงขั้นตอนการท�า
ภำพที่ ภาพแสดงขัน้ ตอนการท�าลายดอกมะลปิ ระยุกต์
ภำพถ่ำยโดย ถิรดา ประจวบสุข
ขน้ั ตอนที่ ๑ ข้ันตอนท่ ี ๒ ขั้นตอนที่ ๓
ขน้ั ตอนที ่ ๔ ขน้ั ตอนที่ ๕ ขน้ั ตอนที่ ๖
ขั้นตอนท่ี ๗ ขนั้ ตอนที ่ ๘ ขน้ั ตอนท ี่ ๙
53
ภำพท่ี ลายดอกทบั ทมิ
ขนั ตอนกำรทำ�
๑. ตดั ผา้ สดี า� เปน็ วงกลม เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ ๕-๖ เซนตเิ มตร
ติดกระจกกับผ้าสีด�าด้วยกาวลาเท็กซ์ สนกระจกด้วยด้ายสีเหลืองให้รอบ
กระจก ๓ รอบ ใชว้ ธิ กี ารเยบ็ แบบคทั เวิรค์ เพ่ือล็อคกระจกให้ตดิ กบั ผา้
๒. น�าผา้ สนี �้าเงิน ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร
จา� นวน ๔ ชน้ิ พบั รมิ ๑ ดา้ น เยบ็ รอบกระจก โดยเยบ็ ไว ้ ๓ จดุ ใหค้ รบทง้ั ๔ ชน้ิ
๓. น�าผา้ สแี ดง ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ชนิ้ พบั ๒ ด้าน เย็บทับผา้ สีน้�าเงนิ
ตรงมมุ ส่เี หลี่ยมให้ชดิ กระจก โดยเย็บไว้ ๓ จดุ
๔. นา� ผา้ สเี หลอื ง ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชน้ิ พบั ๒ ดา้ น เยบ็ ทบั บนผา้ สแี ดง
โดยเย็บไว ้ ๓ จดุ ให้ครบ ๔ ช้นิ
๕. นา� ผ้าสีเขียว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๔ ชน้ิ พบั ๒ ด้าน ใหเ้ ปน็ มมุ
สามเหลี่ยม เยบ็ ทับผ้าสีแดงให้มมุ เหลอื่ มกนั เลก็ น้อย
๖. นา� ผา้ สนี า้� เงนิ ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชน้ิ พบั ๒ ดา้ น เยบ็ ทบั ผา้ สเี หลอื ง
ใหม้ มุ เหลอื่ มกันเล็กน้อย
๗. ทา� กรอบ โดยน�าผา้ สีขาว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชิ้น พบั ๑ ด้าน
เย็บทบั เว้นใหเ้ หน็ ลายดอกใหเ้ ปน็ กรอบสเ่ี หล่ียม
๘. ท�าปกลาย น�าผ้าสามเหลี่ยมสีส้มและสีแดง อย่างละ ๒ ชิ้น พับ ๑ ด้าน เย็บทับผ้าสีขาวให้เหลื่อมกัน
เลก็ น้อย ดงั ภาพแสดงขั้นตอนการท�า
ภำพที่ ภาพแสดงข้นั ตอนการทา� ลายดอกทับทิม
ภำพถำ่ ยโดย ถิรดา ประจวบสุข
ขัน้ ตอนท่ี ๑ ข้ันตอนท ่ี ๒ ขน้ั ตอนท ่ี ๓
ขน้ั ตอนที ่ ๔ ข้ันตอนท่ ี ๕ ข้นั ตอนท ี่ ๖
54
ขัน้ ตอนท ่ี ๗ ขน้ั ตอนที ่ ๘
ภำพท่ี ลายดอกเบาะหยมุ้ ตีนหมา
ขันตอนกำรท�ำ
๑. ตัดผ้าสีด�าเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕-๖
เซนตเิ มตร ตดิ กระจกกบั ผา้ สดี า� ดว้ ยกาวลาเทก็ ซ ์ สนกระจกดว้ ยดา้ ยสเี หลอื ง
ให้รอบกระจก ๓ รอบ ใชว้ ิธกี ารเย็บแบบถกั เพอ่ื ลอ็ คกระจกใหต้ ดิ กบั ผา้
๒. นา� ผ้าสสี ม้ ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ช้นิ พับริม ๑ ด้าน เย็บรอบกระจก
โดยเย็บไว้ ๓ จดุ ให้ครบทง้ั ๔ ช้ิน
๓. น�าผ้าสีขาว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๔ ชน้ิ พบั ๒ ดา้ น เยบ็ ทบั ผ้าสีสม้
ให้มุมสามเหล่ยี มชดิ กระจก โดยเยบ็ ไว้ ๓ จุด
๔. น�าผ้าสีเขียว และสีสม้ ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวนอยา่ งละ ๒ ชิน้ พับ ๒
ดา้ น เยบ็ ทับบนผา้ สีขาวให้เหล่ือมกันเลก็ นอ้ ย สลับสกี ัน โดยเย็บไว ้ ๓ จุด ใหค้ รบ ๔ ชนิ้
๕. นา� ผา้ สขี าว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชนิ้ พบั ๒ ดา้ น ใหเ้ ปน็ มมุ สามเหลย่ี ม
เยบ็ ทับผา้ สสี ม้ ตรงกบั มุมของส่ีเหล่ยี ม
๖. ทา� กรอบ โดยนา� ผา้ สีขาว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชิ้น พับ ๑ ดา้ น
เย็บทบั เว้นใหเ้ หน็ ลายดอกให้เป็นกรอบสเ่ี หล่ยี ม
๗. ทา� ปกลาย น�าผา้ สามเหลยี่ มสแี ดงและสีเขยี ว อย่างละ ๒ ชิน้ พับ ๑ ดา้ น เยบ็ ทบั ผ้าสีขาวให้เหล่ือมกัน
เล็กน้อย สลบั สีกัน ดังภาพแสดงข้นั ตอนการท�า
ภำพที่ ภาพแสดงขั้นตอนการทา� ลายดอกเบาะหยุม้ ตีนหมา
ภำพถ่ำยโดย ถิรดา ประจวบสขุ
ขั้นตอนท่ ี ๑ ขัน้ ตอนที่ ๒ ข้นั ตอนท่ ี ๓ ขัน้ ตอนที่ ๔
55
ขน้ั ตอนท่ี ๕ ขนั้ ตอนที่ ๖ ขั้นตอนท ่ี ๗
ภำพที่ ลายดอกทานตะวัน หวั เขาจีน
ขนั ตอนกำรทำ�
๑. ตัดผ้าสีด�าเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๕-๖
เซนตเิ มตร ตดิ กระจกกบั ผา้ สดี า� ดว้ ยกาวลาเทก็ ซ ์ สนกระจกดว้ ยดา้ ยสเี หลอื ง
ให้รอบกระจก ๓ รอบ ใช้วธิ ีการเยบ็ แบบถักเพ่ือลอ็ คกระจกให้ติดกับผ้า
๒. นา� ผา้ สเี ขียว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร
จ�านวน ๔ ชิน้ พบั ๑ ดา้ น เยบ็ รอบกระจก โดยเย็บไว ้ ๓ จดุ ให้ครบทงั้ ๔ ชนิ้
๓. น�าผา้ สเี หลอื ง ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๘ ชิน้ พับ ๒ ดา้ น เยบ็ ทบั ผ้าสเี ขยี ว
ตามมมุ สีเ่ หลี่ยมและจุดก่งึ กลางของดา้ น โดยเยบ็ ไว้ ๓ จดุ ใหค้ รบ ๘ ช้นิ
๔. นา� ผา้ สขี าว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวนอย่างละ ๘ ช้ิน พบั ๒ ด้าน เยบ็ ทับ
บนผ้าสเี หลืองตรงมมุ แหลมสามเหลย่ี ม โดยเยบ็ ไว้ ๓ จุด ให้ครบ ๘ ชนิ้
๕. น�าผา้ สสี ม้ และสเี ขียว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวนอยา่ งละ ๒ ชิน้ พับ ๒ ด้าน
ใหเ้ ปน็ มมุ สามเหล่ยี มเยบ็ ทบั ผา้ สีขาวให้มุมเหลอ่ื มกันเล็กนอ้ ย สลับส ี
๖. นา� ผา้ สแี ดง ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชน้ิ พบั ๒ ดา้ น ใหเ้ ปน็ มมุ สามเหลย่ี ม
เยบ็ ทบั ผ้าสเี หลอื ง
๗. ท�ากรอบ โดยน�าผา้ สขี าว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ช้นิ พบั ๑ ด้าน
เย็บทับเว้นใหเ้ หน็ ลายดอกใหเ้ ปน็ กรอบสีเ่ หลีย่ ม
๘. ท�าปกลาย นา� ผ้าสามเหล่ียมสีแดงและสเี ขยี ว อยา่ งละ ๒ ชนิ้ พบั ๑ ด้าน เย็บทับผ้าสีขาวใหเ้ หล่ือมกัน
เล็กนอ้ ย สลบั สีกนั ดงั ภาพแสดงขนั้ ตอนการท�า
ภำพท่ี ภาพแสดงขน้ั ตอนการท�าลายดอกทานตะวัน หวั เขาจีน
ภำพถำ่ ยโดย ถิรดา ประจวบสขุ
ข้นั ตอนท่ี ๑ ขั้นตอนท ่ี ๒ ข้ันตอนท่ี ๓
56
ขนั้ ตอนท ี่ ๔ ข้ันตอนท่ี ๕ ข้ันตอนท ่ี ๖
ขั้นตอนท ่ี ๗ ขั้นตอนที่ ๘
๓.๓ ลายหนาหมอนบา นตลาดควาย ตาํ บลจอมบงึ อาํ เภอจอมบงึ จังหวดั ราชบุรี
ลายหนา้ หมอนบา้ นตลาดควายรปู แบบและขน้ั ตอนวธิ กี ารทา� จะเหมอื นกบั ลายหนา้ หมอนของทอ่ี นื่ ๆ วสั ดทุ ใ่ี ช้
จะเปลยี่ นไปตามสภาพแวดลอ้ มแตล่ ะทอ้ งท ่ี มคี วามแตกตา่ งกนั อยบู่ า้ งในเรอ่ื งของสแี ละการตกแตง่ กง่ึ กลางลวดลาย
ไม่ใช้วิธีสนกระจกตามรูปแบบโบราณแต่จะใช้ กระจกสี่เหลี่ยมแทน ส่วนการเรียกช่ือจะเรียกชื่อแตกต่างจากท่ีอื่น
อยูบ่ า้ งตามแต่จนิ ตนาการของผทู้ �า วสั ดุท่ีใช้ ไดแ้ ก ่ ผ้าไหม หรอื ผ้า ายสส่ี ี คือ สีแดง สีสม้ สีเขยี ว และสีขาว มกี าร
จดั วางใหเ้ กดิ ลวดลายดอกลกั ษณะตา่ งๆ เชน่ เดยี วกบั ทอ่ี นื่ ๆ ลายทน่ี ยิ มทา� มอี ย ู่ ๕ ลายดว้ ยกนั คอื ลายดอกบวั ลายดอกแปด
ลายดอกมะล ิ ลายขาบวั และลายดอกพรม เบญจมาศ ยอดพิกลุ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓
ภำพท่ี ภาพรูปแบบของกระจกส่ีเหลี่ยมทใ่ี ช้ตกแต่งลายหนา้ หมอน
ภำพถ่ำยโดย เบญจา ลขิ ติ ย่งิ วรา
57
ภำพที่ ลายหน้าหมอนบ้านตลาดควายที่มชี อื่ เหมอื นกบั แหล่งอ่นื แต่รูปแบบแตกต่างจากทอี่ นื่
ลำยดอกแปดบ้ำนดอนคลงั ลำยดอกบวั บ้ำนดอนคลัง ลำยดอกแปดบำ้ นตลำดควำย ลำยดอกบัวบำ้ นตลำดควำย
ภำพถำ่ ยโดย ถริ ดา ประจวบสขุ ภำพถ่ำยโดย ทิพย์วรรณ ทบั ทิมหนิ
ภำพที่ ลายหนา้ หมอนบา้ นตลาดควายทม่ี รี ปู แบบเหมอื นกนั แตช่ อ่ื แตกตา่ งจากทอี่ น่ื
ลำยเบำะ ู้แล้วบำ้ นหัวเขำจีน ลำยขำบวั บ้ำนตลำดควำย
ภำพถำ่ ยโดย ถริ ดา ประจวบสขุ ภำพถ่ำยโดย ทพิ ย์วรรณ ทบั ทมิ หิน
ภำพท่ี ลายดอกบวั
ขนั ตอนกำรท�ำ
๑. น�าผ้ามาตัดเป็นสี่เหล่ียมจัตุรัสขนาด กว้าง ๑ นิ้ว ยาว ๑ นิ้ว
ทา� เป็นผา้ รองพื้นลายตดิ กระจกสีเ่ หลี่ยมด้วยกาวลาเท็กซ์ไวต้ รงกลางผา้
๒. ตดั ผา้ สเี หลอื งขนาด กวา้ ง ๑ นวิ้ ยาว ๑ นวิ้ พบั ครง่ึ วางทบั ผา้ สสี ม้ จา� นวน
๔ ชน้ิ เยบ็ ตรงึ ดว้ ยดา้ ยสเี หลอื งทา� ทงั้ ๔ ดา้ นเวน้ ใหเ้ หน็ ชอ่ งสเ่ี หลยี่ มทมี่ กี ระจกตรงกลาง
๓. นา� ผ้าสีขาวพบั ครง่ึ เซนตเิ มตรมาวางขวางบนผา้ สีเหลืองท�าทง้ั ๔ ด้าน เย็บตรึงดว้ ยด้ายสเี หลอื งหรอื สขี าว
๔. เย็บมุมพับผ้าสีเขียวเป็นมุม ากวางบนผ้าสีขาว เร่ิมวางตรงมุมดอก ช้ินท่ี ๒ วางตรงกลาง
ชิน้ ท่ ี ๓ ๘ วางเรยี งกนั ไปจนรอบชน้ิ งาน เย็บดว้ ยดา้ ยสเี ขียว
๕. เย็บมุม พับผ้าสีชมพูเป็นมุม าก วางทับบนผ้าสีเขียว โดยวางเหล่ือมกันให้เห็นมุมผ้าสีเขียว วางผ้า
จ�านวน ๘ ชนิ้ เยบ็ ตรงึ ดว้ ยด้ายสชี มพ ู ดังภาพแสดงขน้ั ตอนการท�า
58
ภำพที่ ภาพแสดงขน้ั ตอนการทา� ลายดอกบัว
ภำพถ่ำยโดย ทิพย์วรรณ ทบั ทิมหิน
ขั้นตอนที่ ๑ ข้นั ตอนที ่ ๒ ขนั้ ตอนที ่ ๓
ขั้นตอนที ่ ๔ ขนั้ ตอนท ่ี ๕
ภำพท่ี ลายดอกแปด
ขนั ตอนกำรทำ�
๑. นา� ผา้ สสี ม้ มาตดั ใหไ้ ดข้ นาด กวา้ ง ๑ นว้ิ ยาว ๑ นว้ิ ทา� เปน็ ผา้ รองพน้ื ลาย
วางกระจกสเ่ี หลยี่ มไว้ตรงกลาง
๒. พับผ้าสีเหลืองครึ่งเซนติเมตรวางทับผ้าสีส้ม จ�านวน ๒ ชิ้น
เยบ็ ตรงึ ด้วยดา้ ยสเี หลอื งเว้นใหเ้ ห็นชอ่ งสเ่ี หลี่ยมท่มี กี ระจกตรงกลาง
๓. พบั ผา้ สีเหลืองครึ่งเซนติเมตรวางทบั ปลายผา้ สเี หลอื ง จา� นวน ๒ ชิ้น เย็บตรึงด้วยด้ายสีเหลอื ง
๔. นา� ผา้ สดี า� พบั ครง่ึ เซนตเิ มตรมาวางขวางบนผา้ สเี หลอื งทา� ทงั้ ๔ ดา้ นเวน้ ชอ่ งกลางตรงกระจกไว ้ เยบ็ ตรงึ ดว้ ย
ด้ายสีเหลอื งหรอื สดี �า
๕. เยบ็ มมุ พบั มมุ ากดว้ ยผา้ สขี าว ขนาด กวา้ ง ๑ นว้ิ ยาว ๑ นวิ้ ๘ ชนิ้ พบั ครง่ึ แลว้ นา� มาวางบนผา้ สดี า� ชนิ้ แรกเรมิ่
วางตรงมมุ ดอก ชิ้นที่ ๒ วางตรงกลาง ชนิ้ ที่ ๓ - ๘ วางเรยี งกันไปจนรอบช้ินงาน เยบ็ ด้วยดา้ ยสขี าว
๖. เย็บมุม พับมุม ากด้วยผ้าสีส้ม วางบนผ้าสีขาว ชิ้นท่ี ๑ และช้ินที่ ๒ วางผ้าให้ตรงกันข้ามกัน เย็บด้วย
ดา้ ยสสี ม้ และเยบ็ มมุ พบั มมุ ากดว้ ยผา้ สเี ขยี ว วางบนผา้ สขี าว ชน้ิ ท ี่ ๑ และชน้ิ ท ี่ ๒ วางผา้ ใหต้ รงกนั ขา้ ม เยบ็ ดว้ ยดา้ ยสเี ขยี ว
59
๗. เย็บมุม พับมุม ากด้วยผ้าสีแดง วางบนผ้าสีขาวระหว่างผ้าสีเขียวและสีส้ม จ�านวน ๔ ช้ิน เย็บด้วย
ด้ายสแี ดง
ภำพท่ี ภาพแสดงขนั้ ตอนการทา� ลายดอกแปด
ภำพถำ่ ยโดย ทิพย์วรรณ ทับทมิ หิน
ขั้นตอนที่ ๑ ขน้ั ตอนท ี่ ๒ ขั้นตอนท่ี ๓
ข้นั ตอนที ่ ๔ ข้นั ตอนท ่ี ๕ ขั้นตอนท่ี ๖
ขนั้ ตอนท ่ี ๗
ภำพท่ี ลายดอกมะลิ
ขนั ตอนกำรท�ำ
๑. นา� ผา้ สสี ม้ มาตดั ใหไ้ ดข้ นาด กวา้ ง ๑ นว้ิ ยาว ๑ นวิ้ ทา� เปน็ ผา้ รองพนื้ ลาย
วางกระจกส่ีเหลี่ยมไวต้ รงกลาง
๒. พับผา้ สเี หลอื งคร่งึ เซนติเมตรวางทับผา้ สสี ม้ จ�านวน ๒ ช้ิน เย็บตรึง
ด้วยดา้ ยสีเหลือง เวน้ ใหเ้ ห็นช่องสเี่ หลีย่ มทมี่ กี ระจกตรงกลาง
๓. พบั ผ้าสีเหลืองคร่งึ เซนติเมตรวางทบั ปลายผา้ สเี หลือง จ�านวน ๒ ชน้ิ เยบ็ ตรึงด้วยด้ายสีเหลอื ง
๔. น�าผา้ สีดา� พบั คร่งึ เซนตเิ มตรมาวางขวางบนผ้าสเี หลอื งท�าทั้ง ๔ ด้าน เยบ็ ตรึงดว้ ยดา้ ยสเี หลืองหรือสีดา�
60
๕. เยบ็ มมุ พบั มมุ ากดว้ ยผา้ สขี าว เพอื่ จบั ดอก วางบนผา้ สดี า� ชน้ิ แรกเรมิ่ วางตรงมมุ ดอก ชนิ้ ท ี่ ๒ วางตรงกลาง
ชน้ิ ท ่ี ๓ ๘ วางเรียงกันไปจนรอบช้นิ งาน เยบ็ ดว้ ยดา้ ยสขี าว
๖. เย็บมุม พบั มุม ากด้วยผา้ สีส้ม วางบนผ้าสีขาว โดยวางขยบั ลงมาให้เหน็ มุมผา้ สีขาว ชนิ้ ท่ ี ๑ และชน้ิ ท่ี ๒
วางผ้าใหต้ รงกันข้าม เยบ็ ดว้ ยดา้ ยสสี ้ม
๗. เย็บมุม พบั มมุ ากดว้ ยผา้ สีเขยี ว วางบนผา้ สีขาว โดยวางขยับลงมาให้เห็นมมุ ผา้ สขี าว ช้นิ ที่ ๑ และ
ชิน้ ที่ ๒ วางผา้ ใหต้ รงกนั ขา้ ม เยบ็ ดว้ ยดา้ ยสเี ขยี ว และเยบ็ มมุ พับมุม ากดว้ ยผ้าสแี ดง วางบนผา้ สีขาว ระหวา่ ง
ผ้าสีเขียวและสีสม้ โดยขยบั ใหเ้ ห็นมุมผา้ สีขาว วางผ้าจ�านวน ๔ ชนิ้ เย็บดว้ ยดา้ ยสแี ดง ดงั ภาพแสดงขั้นตอน
ขั้นตอนที่ ๑ ภำพที่ ภาพแสดงขน้ั ตอนการทา� ลายดอกมะลิ ขน้ั ตอนที่ ๓
ภำพถ่ำยโดย ทิพย์วรรณ ทับทมิ หนิ
ขัน้ ตอนท่ ี ๒
ขนั้ ตอนที ่ ๔ ขนั้ ตอนท ่ี ๕ ขน้ั ตอนที ่ ๖
ขัน้ ตอนท ่ี ๗
61
ภำพที่ ลายขาบัว
ขันตอนกำรทำ�
๑. นา� ผา้ สสี ม้ มาตดั ใหไ้ ดข้ นาด กวา้ ง ๑ นวิ้ ยาว ๑ นวิ้ ทา� เปน็ ผา้ รองพนื้ ลาย
วางกระจกสีเ่ หลี่ยมไว้ตรงกลาง
๒. พับผ้าสีเหลืองครึ่งเซนติเมตรวางทับผ้าสีแดง จ�านวน ๒ ชิ้น
เย็บตรึงดว้ ยด้ายสีเหลือง เวน้ ใหเ้ หน็ ชอ่ งส่ีเหลี่ยมท่ีมกี ระจกตรงกลาง
๓. พบั ผ้าสเี หลอื งครงึ่ เซนตเิ มตรวางทบั ขวางปลายผา้ สเี หลือง จ�านวน ๒ ชน้ิ เย็บตรงึ ด้วยด้ายสีเหลอื ง
๔. นา� ผา้ สเี ขยี วพบั ครง่ึ เซนตเิ มตรมาวางขวางบนผา้ สเี หลอื งทา� ทง้ั ๒ ดา้ น เยบ็ ตรงึ ดว้ ยดา้ ยสเี หลอื งหรอื สเี ขยี ว
๕. น�าผา้ สีสม้ มาพบั ครึง่ เซนตเิ มตร มาวางขวางบนผา้ สเี หลอื งทา� ทง้ั ๒ ด้าน เยบ็ ตรงึ ด้วยดา้ ยสีส้ม
๖. ตดั มมุ ผา้ นา� ผา้ สขี าวมาพบั ครงึ่ เซนตเิ มตร มาวางขวางบนผา้ สเี ขยี วและสสี ม้ ทงั้ ๔ ดา้ น เยบ็ ตรงึ ดว้ ยผา้ สขี าว
๗. ตดั มุมผา้ นา� ผา้ สสี ม้ ๒ ช้ิน และสเี ขียว ๒ ชิน้ พบั เป็นมุม าก เยบ็ ตรงมุมตรงกนั ขา้ ม
๘. เยบ็ มมุ นา� ผา้ สขี าวพบั ครง่ึ เซนตเิ มตร ๔ ชนิ้ วางทบั ผา้ สสี ม้ และเขยี วใหเ้ ปน็ กรอบสเ่ี หลยี่ ม เยบ็ ตรงึ ดว้ ยดา้ ยสขี าว
๙. เย็บมุมพับผ้าสีแดงเป็นรูปสามเหลี่ยมมุม ากขนาดใหญ่กว่าปกติ ๔ ช้ิน วางทับผ้าสีขาว เย็บมุมผ้า
ด้วยดา้ ยสแี ดง ดังภาพแสดงข้นั ตอนการทา�
ภำพที่ ภาพแสดงขน้ั ตอนการท�าลายขาบัว
ภำพถำ่ ยโดย ทิพยว์ รรณ ทับทมิ หิน
ขัน้ ตอนท่ี ๑ ขน้ั ตอนท่ ี ๒ ขน้ั ตอนท ี่ ๓
62
ขนั้ ตอนที่ ๔ ขน้ั ตอนท่ ี ๕ ข้นั ตอนท ี่ ๖
ขนั้ ตอนที ่ ๗ ขั้นตอนที ่ ๘ ข้ันตอนที่ ๙
ภำพท่ี ลายดอกพรม
ขนั ตอนกำรทำ�
๑. นา� ผา้ สขี าวมาตดั ใหไ้ ดข้ นาด กวา้ ง ๑ นว้ิ ยาว ๑ นว้ิ ทา� เปน็ ผา้ รองพน้ื ลาย
วางกระจกสีเ่ หลยี่ มไวต้ รงกลาง
๒. พับขอบผ้าสีเหลืองวางทับผ้าสีขาว จ�านวน ๔ ช้ิน เย็บตรึงด้วย
ดา้ ยสีขาว เว้นให้เหน็ ชอ่ งสเ่ี หลีย่ มทม่ี กี ระจกตรงกลาง
๓. พบั ขอบผ้าสีส้มวางทับขวางผา้ สีเหลืองจา� นวน ๒ ชิน้ เย็บตรึงดว้ ยดา้ ยสีส้ม
๔. พับขอบผ้าสีเขียววางขวางทับผ้าสเี หลืองและส้ม จา� นวน ๒ ชน้ิ เย็บตรึงดว้ ยดา้ ยสขี าว
๕. น�าผ้าสีขาวพบั ครึง่ เซนติเมตร วางทับขวางผ้าสเี ขียวและสสี ้มท้ัง ๔ ด้าน เยบ็ ตรงึ ด้วยด้ายสีขาว
๖. เยบ็ มมุ พบั มมุ ากดว้ ยผา้ สชี มพ ู วางทบั ตรงมมุ สลบั กบั เยบ็ มมุ ผา้ สเี ขยี ว สลบั ไปมาระหวา่ งส ี จา� นวน ๘ ชนิ้
เย็บตรึงด้วยด้ายสีชมพู ดังภาพแสดงขนั้ ตอนการทา�
63
ขน้ั ตอนที่ ๑ ภำพที่ ภาพแสดงขนั้ ตอนการท�าลายดอกพรม ข้นั ตอนที ่ ๓
ภำพถำ่ ยโดย ทพิ ยว์ รรณ ทับทิมหนิ
ข้นั ตอนท่ี ๒
ขั้นตอนท ี่ ๔ ขน้ั ตอนท ี่ ๕ ข้นั ตอนที่ ๖
๓.๔ ลายหนา หมอนบา นวงั ปลา ตาํ บลแกม อน อาํ เภอจอมบงึ จังหวดั ราชบุรี
ลายหน้าหมอนบ้านวังปลา มีกระบวนการท�าเช่นเดียวกับลายหน้าหมอนบ้านหัวเขาจีน ลวดลาย
ที่นิยมท�ามี ๕ ลายด้วยกันคือ ๑ ลายดอกจันทน์ ๒ ลายดอกมะลิ ๓ ลายดอกพรม ๔ ลายดอกแปด และ
๕ ลายดอกพิกลุ ดงั ภาพ
ภำพที่ ลายดอกจนั ทน์ ภำพท่ี ลายมะล ิ ภำพท่ี ลายดอกพรม
ภำพท่ี ลายดอกแปด ภำพที่ ดอกพกิ ุล
ภำพถำ่ ยโดย อมรรตั น์ หรสทิ ธิ์
64
ภำพท่ี ลายดอกจันทน์ บา้ นวงั ปลา
ขนั ตอนกำรท�ำ
๑. ตดั ผา้ สดี า� เปน็ สเี่ หลยี่ ม ตดิ กระจกกบั ผา้ สดี า� ดว้ ยกาวลาเทก็ ซ ์ สนกระจก
ดว้ ยดา้ ยสสี ม้ ใหร้ อบกระจก ๓ รอบ ใชว้ ธิ กี ารเยบ็ แบบคทั เวริ ค์ เพอื่ ลอ็ คกระจก
ใหต้ ิดกบั ผ้า
๒. นา� ผา้ สเี ขยี ว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวนอยา่ งละ ๒ ชนิ้ พบั ๑ ดา้ น เยบ็ รอบกระจก
โดยเยบ็ ไว ้ ๓ จุด ให้ครบท้งั ๔ ช้ิน
๓. น�าผ้าสีแดง ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จ�านวน ๔ ช้นิ พับ ๑ ดา้ น เย็บทบั ผ้าสเี ขยี ว
โดยเย็บด้านละ ๒ จุด เวน้ กึง่ กลางให้หา่ งจากกระจกเล็กนอ้ ยใหเ้ ห็นสีเขยี ว
๔. นา� ผา้ สขี าว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนตเิ มตร จา� นวน ๔ ชน้ิ พบั ๑ ดา้ น เยบ็ ทบั บนผา้ สแี ดง
เว้นใหเ้ หน็ ลาย โดยเยบ็ ด้านละ ๒ จดุ ใหค้ รบ ๔ ชน้ิ เว้นก่ึงกลางให้ห่างจากกระจกเล็กนอ้ ยให้เห็นสแี ดง
๕. นา� ผา้ สีแดง ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๔ ชิ้น พบั เป็นส่ีเหลีย่ มเล็ก เย็บทบั
ผ้าสีขาวตรงมุมสเี่ หล่ยี มทั้งส่ดี า้ น
๖. น�าผ้าสีเขียว ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๒ ช้นิ พับเปน็ สีเ่ หลีย่ มเลก็ เยบ็ ทับ
ผ้าสีแดง ให้มุมชนมุมส่เี หลย่ี มเลก็ ตรงจดุ กงึ่ กลาง วางตรงข้ามกนั
๗. น�าผ้าสสี ม้ ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จา� นวน ๒ ชิน้ พบั เปน็ สี่เหล่ียมเลก็ เย็บทบั
ผา้ สีแดง ให้มุมชนมมุ สีเ่ หลยี่ มเลก็ ตรงจุดกง่ึ กลาง วางตรงข้ามกัน
๘. นา� ผา้ สีขาว ขนาดกว้าง ๒.๕ เซนตเิ มตร ยาว ๒.๕ เซนติเมตร จ�านวน ๔ ชน้ิ พบั ๒ ด้าน เยบ็ ทับทั้งสีด่ ้าน
เวน้ ใหเ้ หน็ ลายดอก
๙. ทา� ปกลายสีแดง น�าผ้าสามเหล่ียมสแี ดง ๒ ช้นิ พบั ๑ ดา้ น เยบ็ ทับผ้าสีขาวใหเ้ หลือ่ มกันเลก็ นอ้ ย
๑๐. ท�าปกลายสีเขียว น�าผ้าสามเหล่ียมสีเขียว ๒ ชิ้น พับ ๑ ด้าน เย็บทับผ้าสีขาวและทับปกสีแดง
ใหเ้ หล่อื มกันเล็กน้อยจะเหน็ กรอบส่เี หล่ยี มสขี าวเปน็ เสน้ สขี าว ดงั ภาพแสดงขั้นตอน
ภำพที่ ภาพแสดงขนั้ ตอนการท�าลายดอกจนั ทน ์
ภำพถำ่ ยโดย อมรรัตน ์ หรสิทธิ์
ขน้ั ตอนท่ี ๑ ขัน้ ตอนท่ ี ๒ ข้ันตอนท่ ี ๓
65
ข้ันตอนท ่ี ๔ ข้นั ตอนท ่ี ๕ ข้นั ตอนที่ ๖
ขัน้ ตอนที ่ ๗ ขน้ั ตอนที่ ๘ ข้นั ตอนท่ี ๙
ข้นั ตอนที ่ ๑๐
ลายหน้าหมอนแบบพับปะติดของบ้านวังปลา จะขอแสดงข้ันตอนวิธีการท�าเพียง ๑ ลายเท่าน้ันหากผู้สนใจ
ต้องการจะประดิษฐ์ลายหน้าหมอนแบบพับปะติดของบ้านวังปลาสามารถดูวิธีการและขั้นตอนการท�าได้
ในลายหนา้ หมอนแบบพบั ปะติดของหัวเขาจีน หน้า ๓๘
66
บทที าย นา มอน บบ รอ าย
ย สน ม รอ ายส
นบททแี่ ลว้ ไดก้ ลำ่ วถงึ ลวดลำยหนำ้ หมอนแบบพบั ปะตดิ บทนจี้ ะกลา่ วถงึ การประดษิ ฐล์ ายหนา้ หมอนแบบปกั
หรอื ลายแซว่ เปน็ งานศลิ ปหตั ถกรรมอยา่ งหนงึ่ ของชาวไทยทรงดา� เปน็ ภมู ปิ ญั ญาทตี่ ดิ ตวั มา การประดษิ ฐล์ ายหนา้ หมอน
ซึง่ นับว่าเป็นสิง่ สา� คญั ของชีวิตลกู ผู้หญิง ทม่ี มี าตงั้ แต่สมยั โบราณ เนอื่ งจากการประดิษฐ์ลายหน้าหมอนเปน็ สว่ นหนง่ึ
ของวิถีชีวิตของมนุษย์ เพราะถือว่าการผลิตข้าวของเครื่องใช้และเครื่องนุ่งห่มซึ่งเป็นหน่ึงในปัจจัยส่ีที่ส�าคัญ
ของมนุษย์ โดยเ พาะผู้หญิงที่จะต้องมีความสามารถในเร่ืองการบ้านการเรือน ชาวไทยทรงด�ามีนิสัยขยันและ
ประหยัดชอบประดิษฐ์ส่ิงของเคร่ืองใช้ด้วยตนเอง โดยเ พาะเสื้อผ้าและเคร่ืองนอนต่างๆ ดังน้ันจึงต้องมีความรู้
ด้านการทอผ้า การประดิษฐ์และการปักลายหน้าหมอน โดยผู้เป็นแม่จะต้องถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวให้แก่ลูกสาว
เม่ือถึงเวลาออกเรือนจะต้องท�าให้สามี และลูกไว้ใช้ในชีวิตประจ�าวันหรือใช้ในพิธีกรรมต่างๆ การประดิษฐ์ลาย
หน้าหมอนในแต่ละกลุ่มชนล้วนมีรูปแบบลวดลายที่แตกต่างกัน บางลวดลายเหมือนกันแต่อาจจะเรียกชื่อต่างกัน
ออกไป ซง่ึ รปู แบบและลวดลายจะบง่ บอกเรอ่ื งเลา่ หรอื เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ทผี่ า่ นระยะเวลามายาวนาน รวมทงั้ ยงั บง่ บอก
ถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรม ความเชื่อ ความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์นั้นๆ โดยลวดลายและสัญลักษณ์เหล่านี้
บางลายกม็ ชี ือ่ เรยี กสบื ต่อกันมาหลายชั่วคน บางลวดลายก็มชี อ่ื เป็นภาษาทอ้ งถิน่ ซึ่งคนในท้องท่ีอ่ืนหรือชุมชนอื่นๆ
อาจไมเ่ ขา้ ใจ เชน่ คา� วา่ ลายแซว่ ถา้ ไมใ่ ชช่ าวไทยทรงดา� กจ็ ะไมร่ วู้ า่ คอื อะไร ซง่ึ ในตอนนจี้ ะกลา่ วถงึ การประดษิ ฐล์ วดลาย
หน้าหมอนด้วยวิธีการปกั หรือแซว่ ท่ีมีความงดงามไมแ่ พ้วธิ ีการประดิษฐล์ ายหน้าหมอนแบบพบั ปะตดิ เลย
การประดิษฐ์ลายหน้าหมอนแบบปักหรือลายแซ่ว คือการปักลวดลายผ้าด้วยไหมสีหรือด้ายสีต่างๆ สีที่เป็น
เอกลกั ษณ์ดงั น้ี สเี ลอื ดหม ู สีแดง สีสม้ สีเขียว และสขี าว ลวดลายท่เี กดิ จากการปกั เปน็ ดอก เปน็ เส้นเปน็ รูปทรงต่างๆ
นนั้ แตล่ ะลายจะมชี อ่ื เรยี กแตกตา่ งกนั ออกไปตามทม่ี า จนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรคข์ องผปู้ ระดษิ ฐ ์ เปน็ ลวดลาย
ท่ีมีมาแต่โบราณนับว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยทรงด�าท่ีเกิดจากภูมิปัญญาของบรรพชน ลวดลายเหล่านี้ ได้แก่
ลายขอกดุ ลายขอกุดดอกแปด ลายเซยี วขอ ลายแซว่ ลายเอื้อ ลายเอ้อื แกน่ แตง ลายเออื้ ดอกแปด ลายรปู สตั ว์ ล
ลวดลายตา่ งๆ ทก่ี ลา่ วมาน้ีเรียกรวมๆ วา่ ลายหน้าหมอน เพราะสง่ิ ส�าคญั คือการนา� ไปตกแต่งหนา้ หมอนแตจ่ ะพบวา่
ลวดลายปักน้ีจะน�าไปใช้ตกแต่งผ้าอน่ื ๆ อกี เชน่ ผา้ เปยว ผา้ ขันลาว เส้ือ ีชาย เส้อื หี ญงิ ผ้าคลุมหัว เปน็ ต้น
67
ภำพท่ี การปักลวดลายดว้ ยไหมสีหรอื ด้ายสี
ที่มำ https://localwisdom.gsb.or.th/detail/index/38
ลวดลายปกดวยไหมสหี รือดายสนี าํ มาตกแตงผาเปยว
ภำพที่ ลวดลาย ภำพที่ ลวดลาย ภำพที่ ลวดลาย
ขอเหลียวดอกแปด ขอเหลยี วขอกดุ ขอกุดดอกแปด
ภำพถ่ำยโดย เบญจา ลขิ ติ ย่งิ วรา
ภำพถำ่ ยโดย เบญจา ลิขติ ย่งิ วรา ภำพถำ่ ยโดย เบญจา ลขิ ิตย่งิ วรา
68
ลวดลายปกดวยไหมสหี รือดายสีนาํ มาตกแตง ผาเปยว ห ิงไทยทรงดาํ ใชผา เปยวในลักษณะตา ง
ภำพท่ี หญงิ โพกศีรษะด้วยผา้ เปยว ภำพท่ี ผา้ โพกศรี ษะปักลวดลาย
ทีม่ ำ https://40c1bd15cb3e. ดว้ ยไหมหรอื ด้ายสี
a te .c m/การแต่งกาย
ภำพถำ่ ยโดย บุญเสริม ตนิ ตะสุวรรณ
ภำพท่ี ใชผ้ ้าเปยวเป็นผ้าสไบพาดบ่า ภำพที่ ใชผ้ ้าเปยวเป็นผ้า ่างนม
ภำพถำ่ ยโดย เบญจา ลขิ ิตยงิ่ วรา ภำพถ่ำยโดย บญุ เสริม ตินตะสุวรรณ
69
ภำพท่ี ลวดลาย ภำพท่ี ผ้าขนั ลาวของหญิงสาว
ปกั บนผา้ ขันลาว ตกแต่งด้วยการปักด้วยไหมสหี รอื ดา้ ยสี
ภำพถ่ำยโดย บุญเสรมิ ตินตะสุวรรณ
ภำพถำ่ ยโดย บุญเสรมิ ตินตะสวุ รรณ
ภำพที่ ลวดลายปัก ภำพท่ี ลวดลายปัก
ทน่ี �ามาตกแตง่ เสอื้ ีหญิง ที่นา� มาตกแต่งเส้อื ชี าย
ภำพถ่ำยโดย บญุ เสริม ตนิ ตะสวุ รรณ ภำพถ่ำยโดย เบญจา ลขิ ติ ยงิ่ วรา
ภำพที่ ลวดลายปกั ภำพท่ี ลวดลายปัก
ท่ีนา� มาตกแตง่ ใต้รักแรเ้ ส้ือ ชี าย ที่นา� มาตกแต่งเสื้อ ชี าย
ภำพถำ่ ยโดย บญุ เสริม ตินตะสุวรรณ ภำพถ่ำยโดย เบญจา ลขิ ติ ยง่ิ วรา
70
ภำพท่ี ลวดลายปักที่นา� มาตกแตง่ สาบเสอื้ และชายเสื้อ ี
ภำพถำ่ ยโดย บญุ เสรมิ ตินตะสวุ รรณ
๑. วัสดอุ ุปกรณท ่ีใชในการปกลายหนาหมอน
ภำพท่ี วัสดอุ ปุ กรณท์ ใี่ ช้ในการปักลายหน้าหมอน
ภำพถ่ำยโดย เบญจา ลขิ ิตยิง่ วรา
๑. สะดงึ คอื อปุ กรณส์ า� คญั ในการปกั ลายหนา้ หมอน เปน็ กรอบไมห้ รอื พลาสตกิ มหี ลาย
รูปทรง เช่น วงกลม ส่เี หลีย่ ม วงรี ส�าหรับขงึ ผ้าใหต้ งึ เพอื่ สะดวกแก่การเยบ็ ปกั ลวดลาย
และมหี ลายขนาด สา� หรบั ผเู้ รมิ่ กปกั ผา้ ควรใชส้ ะดงึ แบบทรงกลม เพราะใชง้ า่ ยคลอ่ งตวั
ราคาไมแ่ พง และหาซอื้ ไดง้ า่ ยตามรา้ นอปุ กรณเ์ ครอ่ื งเขยี น อปุ กรณป์ ระดษิ ฐง์ าน มอื ล
๒. ผ้ำสีต่ำง ท่ีจะน�ามาปักลายหน้าหมอน มีหลากหลายชนิดให้เลือก ท้ังท่ีผลิตจาก
ใยสงั เคราะห ์ เสน้ ใยธรรมชาตแิ ละผา้ เนอ้ื ผสมแบบตา่ งๆ ผา้ ทนี่ า� มาใชป้ กั นยิ มใชผ้ า้ จากเสน้ ใย
ธรรมชาติ ผ้าทอพ้ืนบ้านส่วนใหญ่จะผลิตจากเส้นใยธรรมชาติล้วน เช่น ไหม าย
ลนิ นิ ล กอ่ นใชค้ วรนา� ไปแชน่ า�้ ผสมผงซกั อกออ่ นๆ หรอื แชน่ า้� เปลา่ อยา่ งนอ้ ย ๖ ชว่ั โมง
เพอ่ื ตรวจสอบคณุ ภาพของสยี อ้ มและความหดตวั ของเนอ้ื ผา้ นอกจากนค้ี วรเลอื กความหนา
ของเนื้อผา้ ให้เหมาะสมต่อการใช้งาน สีท่ีนยิ มใชป้ ักลายหนา้ หมอน คือ สดี �าและสีขาว
เพราะเม่อื ปักกบั ด้ายสีจะดูโดดเด่นมาก
71
๓. ดำ้ ยปก ไหมหรอเสน้ ยชนดิ ตำ่ ง ปจั จบุ นั มเี สน้ ใยหลากหลายประเภท สสี นั ผวิ สมั ผสั
ผลติ จากเสน้ าย ไหม หรอื ไนลอ่ น เสน้ ดา้ ยมหี ลายขนาดใหญเ่ ลก็ เลอื กใช ้ ใหเ้ หมาะกบั งาน
สิ่งส�าคัญ คือ ควรเลือกใช้เส้นใยที่คุณภาพดี สีไม่ตกซีด ไม่หดตัวและมีความทนทาน
สา� หรบั ดา้ ยปักท่มี ีสีเข้ม หรือผลิตจากเสน้ ใยธรรมชาติ ควรตัดบางสว่ นไปแชน่ า�้ เสียกอ่ น
เพื่อตรวจสอบคุณภาพ
๔. เขมปก ขนาดของเส้นใยทใี่ ชป้ ัก และความหนาบางของผ้า จะเปน็ ตัวกา� หนดขนาด
เข็มปัก ตาเข็มควรกว้างพอที่จะบรรจุเส้นไหมหรือเส้นด้ายปักได้พอดี ผ้าทอเนื้อแน่น
ควรใชเ้ ขม็ ทีแ่ หลม
๕. กรรไกร มีหลายแบบหลายขนาดให้เลอื ก ควรเลือกท่ีคม ปลายแหลมและขนาดใหญ่
พอสมควรจะตดั ไดส้ ะดวกกวา่ อันเลก็ ๆ
นอกจากอุปกรณ์ที่ส�าคัญดังกล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีอุปกรณ์อ่ืนๆ อีกส�าหรับคนที่เพิ่งจะ กหัดปักลวดลาย
เชน่ ดนิ สอส ี กระดาษลอกลาย กระดาษสกี ดรอย เขม็ หมุด หมอนปักเข็ม
ลวดลายการปกั ผา้ หรอื ลายแซว่ เปน็ ลวดลายจากการปกั ไหมสตี า่ งๆ ทา� ใหเ้ กดิ เปน็ ลวดลาย ซง่ึ แตล่ ะลายจะมชี อ่ื
เรยี กแตกต่างกันออกไปตามทีม่ า และจินตนาการของการสร้างสรรค ์ หรือบางลายอาจจะน�ารูปแบบมาจากลวดลาย
ของลาวและเวียดนาม สิริปตี พมุ่ จันทร์ สัมภาษณ์ ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓ เปน็ ลวดลายทีม่ มี าแตโ่ บราณนับว่า
เปน็ เอกลกั ษณข์ องชาวไทยทรงดา� ทเี่ กดิ จากภมู ปิ ญั ญา ลายเหลา่ น ้ี ไดแ้ ก ่ ลายขอกดุ ลายขอกดุ ดอกแปด ลายเซยี วขอ
ลายแซว่ ลายเออ้ื ลายเอื้อแกน่ แตง ลายเอือ้ ดอกแปด ล ลวดลายเหล่าน้เี รียกรวมๆ ว่าลายหนา้ หมอน แต่จะพบว่า
ลวดลายปกั นจี้ ะนา� ไปใชต้ กแตง่ ผ้าตา่ งๆ เช่น ผา้ เปยว ผ้าขันลาว เส้อื ีชาย ผ้าคลุมหวั เป็นต้น แตท่ ี่เห็นมากที่สดุ
จะนา� ไปตกแต่งหนา้ หมอนทั้งสองด้าน
ลายปักหรือลายแซ่วจะปักด้วยเส้นไหมสีบนลายหน้าหมอน เป็นหัตถกรรมของชาวไทยทรงด�า โดยเ พาะ
ผู้หญิงท่ีจะต้องมีความสามารถในเรื่องการบ้านการเรือน ชาวไทยทรงด�ามีนิสัยขยันและประหยัดชอบประดิษฐ์
สิ่งของเครื่องใช้ด้วยตนเอง ดังจะเห็นได้จากเสื้อผ้าและเครื่องนอนต่างๆ ดังน้ันสตรีชาวไทยทรงด�าจึงต้องมีความรู้
ด้านการทอผ้า การประดิษฐ์และการเย็บปักลวดลายหน้าหมอน โดยผู้เป็นแม่จะต้องถ่ายทอดความรู้ดังกล่าว
ใหแ้ ก่ลูกสาว เมื่อถงึ เวลาออกเรือนจะต้องท�าให้สาม ี และลกู ไว้ใช้ในชีวติ ประจ�าวันหรือใชใ้ นพิธกี รรมต่างๆ ลวดลาย
หนา้ หมอนเดมิ มรี ปู แบบเรขาคณติ เชน่ เปน็ รปู สามเหลยี่ ม รปู สเี่ หลยี่ มจตั รุ สั เปน็ ตน้ ลวดลายตา่ งๆ ของลายหนา้ หมอน
ไม่ว่าจะเป็นลายท่ีใช้เศษผ้าพับปะเย็บเป็นดอกไม้หรือลวดลายท่ีปักด้วยไหมสีก็ตามจะมีสีที่เป็นเอกลักษณ์ดังนี ้
ได้แก ่ สเี ลือดหม ู สแี ดง สีสม้ สีเขียว และสีขาว อยู่ในลวดลายเสมอ ลวดลายปักหรือลายแซ่วจะมลี วดลายเลยี นแบบ
ธรรมชาตแิ ละจากจนิ ตนาการดงั นี้
72
๒. ท่ีมาของลวดลายปกหรือลายแ ว
๒.๑ ลวดลายปักทีจ่ ินตนาการจากพนั ธพ์ุ ชื
ลวดลายปกั ทจ่ี นิ ตนาการจากพนั ธพ์ุ ชื สว่ นใหญจ่ ะไดร้ บั แรงบนั ดาลใจมาจากดอกไมใ้ บไมท้ อ่ี ยตู่ ามสภาพแวดลอ้ ม
ในท้องถิ่นตนได้พบได้เห็นตามหัวไร่ปลายนา หรือไม้ประดับที่ปลูกไว้ในบ้าน แล้วน�ามาสร้างสรรค์เป็นลวดลาย
บางลายอาจจะมีแค่เค้าโครงตามจินตนาการหรือบางลายมีลักษณะของการลดตัดทอนตามแต่ผู้สร้างสรรค์จะ
จินตนาการเป็นลายปักหน้าหมอน และตกแต่งด้วยเส้น รูปทรงเรขาคณิต ลายหน้าหมอนแบบปัก ส่วนใหญ่จะมี
ดอกประธานที่เหมือนๆ กันตามลวดลาย แต่จะมีการสร้างสรรค์หรืออาจเพ่ิมเติมตกแต่งใส่รายละเอียดให้มากขึ้น
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ลายใหมแ่ ละลวดลายทนี่ า� มาประกอบเปน็ ลายรองซง่ึ ทา� ใหล้ ายหนา้ หมอนมคี วามสวยงามและสมบรู ณย์ งิ่ ขน้ึ
หรืออาจมีลายหลักเพียงลายเดียวให้เด่นชัดก็ได้ ในแต่ละท้องถ่ินอาจจะมีการสร้างสรรค์และเรียกช่ือเหมือนกัน
หรอื ไมเ่ หมอื นกนั กไ็ ดต้ ามแตจ่ นิ ตนาการของผสู้ รา้ งสรรค ์ คณุ คา่ ของความงามจะอยทู่ ลี่ วดลายและสสี นั ปจั จบุ นั สสี นั
ที่ใช้ปักได้เปล่ียนไปตามสมัยนิยมจะไม่ค่อยใช้สีท่ีเป็นเอกลักษณ์ท้ัง ๕ สีแล้ว จะใช้สีที่ดู ูด าดดูเด่นสะดุดตา
ลายปักหน้าหมอนชุดท่ี ๑ ส�านักศิลปะและวัฒนธรรมได้ลงพ้ืนท่ีชุมชนไทยทรงด�า พบลวดลายหน้าหมอนต้นแบบ
ส�านักศิลปะและวัฒนธรรมได้น�ามาแกะลวดลายใส่ตาราง เพ่ือเป็นประโยชน์ให้ชนรุ่นหลัง เยาวชนในท้องถิ่นและ
ผู้สนใจที่มีความต้องการจะประดิษฐ์ลวดลายหน้าหมอนแบบปักหรือลายแซ่วได้ง่ายข้ึนเม่ือดูตามแบบที่แกะลายไว้
ขอน�าเสนอดังน้ ี คอื ซ้ายมือจะเปน็ ลายหน้าหมอนตน้ แบบ ขวามือเป็นการแกะลวดลายดงั ตอ่ ไปน้ี
ภำพถำ่ ยโดย เบญจา ลขิ ิตยิง่ วรา เจนคณิต สขุ สัมฤทธ์ิ ถิรดา ประจวบสุข และทิพยว์ รรณ ทับทมิ หนิ
แกะลวดลำยหนำ้ หมอนโดย ชชั วาล อนิ ทรปาลิต และทพิ ย์วรรณ ทับทิมหนิ
ภำพที่ ลายแซว่ ดอกพกิ ลุ
73
ภำพท่ี ลายแซ่วดอกพิกลุ ผสมลายแซ่วตะวนั
ภำพที่ ลายแซ่วดอกพิกลุ
ภำพที่ ลายแซ่วดอกพกิ ุล
ภำพที่ ลายแซ่วดอกพกิ ลุ
74
ภำพท่ี ลายแซว่ ดอกพิกลุ ประยกุ ต์
ภำพที่ ลายแซว่ ดอกพิกุลประยุกต์
ภำพที่ ลายดอกตะวัน หรอื ดอกแปดกลบี
ภำพท่ี ลายดอกตะวนั
75
ภำพท่ี ลายดอกตะวัน
ภำพท่ี ลายดอกตะวนั ประยุกต์ ผสมลายสะพานโคง้ และเอือ้ วี
ภำพที่ ลายดอกตะวนั ประยกุ ต ์ ผสมลายสะพานโค้งและเอือ้ วี
ภำพท่ี ลายดอกแกว้ ประยุกต ์
76
ภำพที่ ลายดอกตะวันประยกุ ต์
ภำพที่ ลายดอกตะวนั ประยกุ ต์
ภำพท่ี ลายตน้ สน
๒.๒ ลวดลายปักท่ีจนิ ตนาการจากขอกดุ
ขอกดุ เปน็ สญั ลักษณบ์ ่งบอกชาติพนั ธ์ไุ ทยทรงดา� หลังคาบ้านตรงหน้าจั่วจะมลี กั ษณะเหมือนเขาววั เขาควาย
โคง้ งอเขา้ หากนั เรยี กวา่ ขอกดุ ซง่ึ เปน็ สญั ลกั ษณแ์ หง่ ชยั ชนะความสา� เรจ็ และเพอื่ เปน็ การยกยอ่ งววั และควายทม่ี บี ญุ คณุ
ถนอม คงยิม้ ละมัย สัมภาษณ์ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๓
77
ภำพที่ ลายขอเหลยี ว
ภำพท่ี ลายขอเหลยี ว
ภำพท่ี ลายขอเหลียวประยุกต์
ภำพท่ี ลายเซยี วขอ
78
ภำพที่ ลายขอเหลยี ว
ภำพท่ี ลายขอเหลียว
ภำพท่ี ลายขอเหลยี ว
๒.๓ ลายหน้าหมอนท่ีไดร้ บั แรงบนั ดาลใจจากสัตว์
ลักษณะการสร้างสรรค์ลวดลายหน้าหมอนแบบปักที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสัตว์ แสดงให้เห็นถึง ความ
รักความผูกพันท่ีมีต่อสัตว์ต่างๆ ทั้งสัตว์เล้ียง สัตว์ท่ีอยู่ตามสภาพแวดล้อมและสัตว์ตามความเช่ือตามจินตนาการ
การสังเกตและเรียนรู้จากธรรมชาติของสัตว์ รูปร่างของสัตว์ ลักษณะรอยเท้า ดวงตา ปก เขาหรือส่วนต่างๆ
ของร่างกายสัตว์ท�าให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ลวดลายหน้าหมอนขึ้น บางลวดลายอาจมีการลดตัดทอน
การจนิ ตนาการและถา่ ยทอดออกมาในรปู แบบของลวดลาย ซงึ่ ชอ่ื ลายบางลายอาจมกี ารเรยี กชอ่ื ไมเ่ หมอื นกนั ในแตล่ ะ
ทอ้ งถน่ิ กเ็ ป็นได้ ท้ังนต้ี ามแตผ่ ้สู ร้างสรรค์จะจินตนาการวา่ ต้องการสอ่ื ถึงอะไร ดังตอ่ ไปน้ ี
79
๒.๓.๑ ลวดลายปกั เปน็ รูปสตั ว์
ภำพที่ ลายมา้
ภำพที่ ลายผเี สื้อ
ภำพที่ ลายไก่
ภำพที่ ลายหงส์
80
๒.๓.๒ ลวดลายปกั ที่จนิ ตนาการจากสตั ว์
ภำพที่ ลายหมายา่�
ภำพท่ี ลายหมาย่า�
ภำพที่ ลายหมายา�่
ภำพท่ี ลายตานกแก้ว หรือลายตาใหญ่
81
ภำพท่ี ลายผสมลายหมาย่า� และลายตานกแกว้
ภำพท่ี ลายตานกแกว้ ประยกุ ต์
ภำพท่ี ลายตานกแก้วประยกุ ต์
ภำพที่ ลายตานกแกว้ ประยกุ ต์
82
ภำพท่ี ลายตานกแก้วประยกุ ต์
ภำพท่ี ลายแมงส่งิ สาวหรือแมงมุม
ภำพท่ี ลายปากนาค
๒.๔ ลวดลายปักท่ีจินตนาการจากอนื่ ๆ
ภำพที่ ลายสะพานโคง้
83
ภำพที่ ลายสะพานโคง้
ภำพที่ ลายสะพานโคง้ ประยุกต์
ภำพท่ี ลายสะพานโคง้ ประยกุ ต์
ภำพที่ ลายพาน
84
ภำพที่ ลายเอ้อื ประยกุ ต ์
ภำพท่ี ลายเอ้อื วี
ภำพที่ ลายเอ้อื วปี ระยุกต์
ภำพที่ ลายเอ้อื ใหม่
85
ภำพที่ ลายเอื้อแก่นแตง
ภำพที่ ลายเออื้ แกน่ แตง
ภำพท่ี ลายบายศรี
ภำพท่ี ลายบายศรี
86
ภำพท่ี ลายเอ้ือลาย า
ภำพท่ี ลายเออ้ื ลาย า
ภำพที่ ลายเออ้ื ลาย า
ภำพท่ี ลายเอ้ือขา้ วหลามตดั
87
ภำพที่ ลายตาแหลว อ่
ภำพท่ี ลายแซ่วตาวัน
ภำพท่ี ลายแซ่วตาวัน
ภำพที่ ลายแซ่วตาวัน
88
ภำพที่ ลายดอกดาว
ภำพท่ี ลายแซ่วตาวันประยุกต์
ภำพท่ี ลายแซว่ พานประยกุ ต์
ภำพที่ ลายดอกแปดประยกุ ต์
89
บทที ๕ บ สร าร ร ิ าย นา มอน
ชำวไทยทรงดำ� ไดร้ บั การถา่ ยทอดการประดษิ ฐล์ วดลายหนา้ หมอนมาจากบรรพบรุ ษุ และเกดิ การถา่ ยทอดจากรนุ่
สรู่ นุ่ และถา่ ยทอดกนั ในชมุ ชน จงึ มกี ารเปลยี่ นแปลงของลวดลายไปตามความตอ้ งการของผปู้ ระดษิ ฐจ์ ะสรา้ งสรรคข์ นึ้
ตามความตอ้ งการและจนิ ตนาการ จงึ ทา� ใหล้ วดลายแตล่ ะทอ้ งทรี่ วมทง้ั การเรยี กชอ่ื อาจมคี วามแตกตา่ งกนั ดงั ทบี่ ญุ เสรมิ
ตนิ ตะสุวรรณ ๒๕๔๕ หนา้ ๘๙ ได้กล่าวไวว้ า่ การประดิษฐ์ลายน้ันมีการถา่ ยทอดกนั ในชมุ ชน สว่ นการเปลย่ี นแปลง
ลวดลายจะมเี พาะลายปะผา้ เท่าน้ัน โดยวิธีการนา� ลายมาผสมกัน เช่น ลายขาบวั กบั ดอกแปด ดอกพรมกบั ดอกแปด
เป็นต้น
เมอื่ ไดศ้ กึ ษาลายหนา้ หมอนจากชมุ ชนตวั อยา่ งทง้ั ๔ แหง่ ในจงั หวดั ราชบรุ ี ทมี่ ชี าวไทยทรงดา� อาศยั อยแู่ ละยงั มี
การประดษิ ฐล์ ายหนา้ หมอน ไดแ้ ก ่ ชมุ ชนบา้ นดอนคลงั ชมุ ชนบา้ นตลาดควาย ชมุ ชนบา้ นวงั ปลา และชมุ ชนบา้ นหวั เขาจนี
ไดพ้ บว่ามีความแตกตา่ งของลายหนา้ หมอนดงั นี้ คือ
๑. ชมุ ชนบำ้ นดอนคลงั การประดษิ ฐล์ ายหนา้ หมอนแบบพบั ปะตดิ จะแตกตา่ งจากดงั้ เดมิ อยบู่ า้ ง แตย่ งั อนรุ กั ษ์
รปู แบบลวดลายเดมิ ไว ้ และมกี ารพัฒนาลวดลายขึน้ มาใหม ่ การใช้สีท่ีโดดเดน่ ใช้สสี ะทอ้ นแสงเขา้ มาชว่ ยให้ลวดลาย
มคี วามโดดเดน่ ยงิ่ ขนึ้ สว่ นจดุ กงึ่ กลางของลวดลายชมุ ชนบา้ นดอนคลงั ใชว้ ธิ กี ารปกั เลอื่ มและลกู ปดั สแี ทนการสนกระจก
ซึ่งเป็นวิธีการแบบดั้งเดิม และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งว่าลายหน้าหมอนแบบพับปะติดจะไม่สูญหายไปจากชุมชนน้ี
ท้ังน้ีเพราะโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการดอนคลัง ได้น�าภูมิปัญญาการประดิษฐ์ลายหน้าหมอนจัดท�าเป็น
หลกั สตู รทอ้ งถน่ิ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนไดเ้ รยี น และยงั มศี นู ย์ กอาชพี ชมุ ชน สงั กดั ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา
ตามอธั ยาศัยเปดอบรมหลกั สตู รระยะสนั้ ให้แกผ่ ูส้ นใจในชมุ ชนไดเ้ รยี นร ู้ สว่ นลายหน้าหมอนแบบปกั หรือวิธกี ารแซว่
มกี ารทา� อยบู่ า้ งสว่ นใหญจ่ ะมกี ารปกั ลงบนผา้ เปยว ลวดลายปกั หนา้ หมอนอนื่ ๆ หาดกู ารทา� ไดย้ าก จากการสมั ภาษณ์
ผเู้ ฒา่ ผแู้ กท่ า่ นกลา่ ววา่ “หมอนแตล่ ะบา้ นทา� ไวเ้ ยอะมคี นมาขอกใ็ หไ้ ป มคี นมาซอ้ื กข็ ายไป หรอื บางบา้ นเผาทง้ิ เหน็ วา่
เกา่ และรก” ปจั จบุ นั ลายหนา้ หมอนแบบปกั หรอื ลายแซว่ จะมใี หเ้ หน็ แตห่ มอนใบเกา่ ทม่ี ขี องนกั สะสมเกบ็ ไวด้ ว้ ยความ
รกั เหน็ คุณคา่ และมองอนาคตว่าอาจจะสญู หายแลว้ ดว้ ยสาเหตุ ๒ ประการคอื ทา� ยาก และไมน่ ยิ มกัน ส่วนใหญ่
จะซอื้ หมอนสา� เรจ็ รปู มาใชส้ ะดวกสบายกวา่ สว่ นของอน่ื ๆ ทม่ี ลี ายปกั หรอื ลายแซว่ ทา่ นกส็ ะสมไวม้ าก ไดแ้ ก ่ ผา้ เปยว
เส้ือไต เส้ือ ี ผา้ ซ่นิ ลายแตงโม ผ้าซ่นิ ตาหม ี่ เครอ่ื งแต่งกายต่างๆ ยา่ ม กระเปาคาดเอวผูช้ าย ผา้ ขันลาว ล ของไทย
ทรงดา� และมีเสือ้ ผา้ เคร่อื งนุ่งหม่ ของชาติพนั ธุ์อื่นๆ อกี มากมาย จนสามารถเปดเปน็ พิพิธภณั ฑ์ไว้ให้ผู้สนใจ ลกู หลาน
ไทยทรงด�าได้ชม นับวา่ เปน็ แหลง่ ศึกษาท่ีมคี ุณค่าอยา่ งยง่ิ ของชมุ ชนบา้ นดอนคลัง
๒. ชมุ ชนบำ้ นหวั เขำจนี เปน็ ชมุ ชนทม่ี กี ารอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมการแตง่ กายของชาวไทยทรงดา� เครอ่ื งนงุ่ หม่ และ
ของใชข้ องชาตพิ นั ธท์ุ บี่ ง่ บอกความเปน็ ตวั ตนเปน็ เอกลกั ษณ ์ ทป่ี ระดบั ตกแตง่ ดว้ ยลายหนา้ หมอน ลายหรอื ดอกหมอน
ยงั สามารถหาดไู ดใ้ นชมุ ชนบา้ นหวั เขาจนี ปจั จบุ นั เพราะชาวไทยทรงดา� ในชมุ ชนแหง่ นยี้ งั ยดึ มนั่ ในวฒั นธรรมประเพณี
90
มีการสืบสาน การสืบทอด รักษาไว้ ให้คงอยู่เพื่อลูกหลานจะไม่ลืมรากเหง้าของตนเอง และภาคภูมิใจในความเป็น
ชาติพันธุ์ไทยทรงด�า การอนุรักษ์ลวดลายหน้าหมอน รูปแบบ สี และวิธีการท�าแต่ด้ังเดิมของลวดลายหน้าหมอนไว้
สีเด่นๆ ซึง่ หลกั การใชส้ ีแต่ดง้ั เดิมของชาวไทยทรงด�าไมว่ า่ จะเปน็ ลายหนา้ หมอนแบบพับปะติดหรือ การปักลวดลาย
หน้าหมอน ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยทรงด�าท่ีมีมาแต่โบราณ สีท่ีใช้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ ได้แก่ สีแดง
เปน็ สหี ลกั มสี เี หลอื ง สสี ม้ และสเี ขยี ว สขี าว เปน็ สรี อง สว่ นจดุ กง่ึ กลางลายจะตกแตง่ ดว้ ยวธิ แี บบดง้ั เดมิ คอื จะนา� กระจก
ตดิ กบั ผา้ ดว้ ยกาวและถกั คทั เวริ ค์ ดว้ ยดา้ ยสลี อ้ มรอบ ๓ ชน้ั เพอื่ ไมใ่ หก้ ระจกหลดุ เรยี กวา่ วธิ สี นกระจก เมอื่ นา� ลวดลาย
หนา้ หมอนมาประดบั และตกแตง่ บนเครอื่ งนงุ่ หม่ ขา้ วของเครอื่ งใช ้ ทเ่ี ปน็ สดี า� สกี รมทา่ เขม้ ซงึ่ เปน็ เอกลกั ษณข์ องชาวไทย
ทรงดา� ลวดลายจะดโู ดดเดน่ สวยงามยงิ่ ขนึ้ สว่ นลายหนา้ หมอนแบบปกั หรอื วธิ กี ารแซว่ ยงั มกี ารทา� อยบู่ า้ งบนผา้ เปยว
และบนเสอ้ื ี มกี ารสรา้ งสรรคล์ ายหนา้ หมอนดว้ ยวธิ กี ารจกโดยใชก้ ซ่ี งึ่ ทางสา� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรมไดจ้ ดั หาวทิ ยากร
มาให้การ กอบรม เพ่อื การพัฒนาลวดลายหน้าหมอนให้คงอยูต่ ่อไป
๓. ชุมชนบ้ำนตลำดควำย การประดิษฐ์ลายหน้าหมอนหรือลายดอกหมอนแตกต่างจากด้ังเดิมอยู่เช่นกัน
ในเร่อื งของสีสันจะใช้สที ีแ่ ตกต่างเพิ่มเตมิ จากด้ังเดิมอย่บู า้ ง การเรียกชอื่ ลวดลายบางลายเรยี กแตกต่างจากแหลง่ อ่ืน
จะเรียกไปตามจินตนาการของผู้สร้างสรรค์ลวดลาย การตกแต่งก่ึงกลางของลวดลายการตกแต่งลวดลายหน้า
หมอนใช้วิธีติดกระจกเงาตัดเป็นส่ีเหลี่ยมไว้ก่ึงกลางลายแทนการสนกระจกตามแบบดั้งเดิม เป็นชุมชนที่ น ูศิลปะ
และวัฒนธรรม ประเพณีของชาวไทยทรงด�าอีกชุมชนหนึ่ง โดยจะมีการจัดงานทุกป เน่ืองจากเป็นชุมชนเล็กมีวัด
เป็นศูนย์กลางการ น ูวัฒนธรรมประเพณีชาวไทยทรงด�า จึงพบว่ามีการประดิษฐ์ลายหน้าหมอนเพียงไม่กี่บ้าน
ส่วนการประดษิ ฐล์ ายหนา้ หมอนแบบปักไมพ่ บว่ามีการทา�
๔. ชุมชนบ้ำนวังปลำ การท�าลวดลายหน้าหมอนจะมีลักษณะท่ียังอนุรักษ์รูปแบบวิธีการท�าแต่ด้ังเดิมของ
ลวดลายหนา้ หมอนไวโ้ ดยไดร้ บั การถา่ ยทอดจากรนุ่ แมส่ รู่ นุ่ ลกู การตกแตง่ กงึ่ กลางของลวดลายมกี ารตกแตง่ ลวดลาย
หน้าหมอนด้วยวิธีการสนกระจกตามแบบดั้งเดิมแต่สีสันจะแตกต่างไปจากเดิมอยู่บ้างตามสมัยนิยม ลายหน้าหมอน
แบบพบั ปะตดิ ทบ่ี า้ นวงั ปลานยิ มทา� ม ี ๕ ลาย สว่ นการประดษิ ฐล์ ายปกั หรอื ลายแซว่ หาดไู ดย้ ากเชน่ กนั แตม่ กี ารพฒั นา
ลวดลายโดยการน�าลายพับปะติดผสมกับลายแซว่ ดสู วยงามดดี งั ภาพ
ภำพท่ี ลวดลายหนา้ หมอนทพ่ี ฒั นานา� ลายหมอนแบบ
พบั ปะติดผสมกับลายปัก
ภำพถ่ำยโดย อมรรตั น์ หรสทิ ธิ์
91
บรรณานุกรม
กระทรวงวฒั นธรรม. ๒๕๕๕ บ้านวงั ปลา ออนไลน์ เขา้ ถงึ ได้จาก : http://mculture. .th/al um/๑๔๘๓๙๒
สบื ค้นเมื่อ ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๖๒.
กานต์นภัส กลบั เครือ. ๒๕๕๒ . ไทยทรงดา� ดอนคลัง. ออนไลน์ เข้าถึงไดจ้ าก : http://tha um . l p t
c m/๒๐๐๙/๐๖/ l -p t ๐๗.html สืบคน้ เมือ่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓.
ไกร ม่ันเพชร. cal m. ๒๕๕๘ . วฒั นธรรมเสอ้ื ผ้าไทยทรงดา� . ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก : http ://
l cal m. . r.th/ eta l/ e /๓๘ สบื ค้นเม่ือ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓.
ความร้เู รอ่ื งอาหารและสขุ ภาพ. ๒๕๕๕ . ผกั แว่น ออนไลน์ เข้าถึงไดจ้ าก : http :// . ace .c m/
a ealth r u/p t /๘๕๒๕๐๗๒๔๔๗๙๘๒๘๙. สบื ค้นเม่อื ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๖๒.
ณัฐพล ซอฐานานุศักดิ์. พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอไทยทรงด�าเชิงพาณิชย์ วารสารศิลปกรรมศาสตร์วิชาการ วิจัยและ
งานสรา้ งสรรค์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี. ปท ่ี ๓. บับที่ ๑ ม.ค. - มิ.ย. ๒๕๕๙ .
เดก็ สกล e a . ม.ป.ป. ตา� บลดอนคลงั อา� เภอดา� เนนิ สะดวก จงั หวดั ราชบรุ ี ออนไลน์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http ://
e a .c m /ratcha ur /๙๕๒๙.html. สืบคน้ เม่อื ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๖๒.
บญุ เสรมิ ตนิ ตะสวุ รรณ. ๒๕๔๕ . ศกึ ษาผา้ และเครอ่ื งนงุ่ หม่ ของชาวไทยทรงดา� ตา� บลหนองปรง อา� เภอเขายอ้ ย จงั หวดั
เพชรบรุ .ี วทิ ยานพิ นธศ์ ลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ ไทยศกึ ษา กรงุ เทพ : บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั รามคา� แหง
ปนดั ดา คงสมยั . ๒๕๕๙ . ผกั พน้ื บา้ นลา้ นนา ออนไลน์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http ://pa ut a ama . r pre .c m
สืบคน้ เม่อื ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓.
. ๒๕๑๖ ผกั พนื้ บา้ นลา้ นนา ออนไลน์ เข้าถึงไดจ้ าก : http ://pa ut a ama . r pre .c m
/๒๐๑๖/๐๗/๑๔/น้า� เตา้ สืบคน้ เมื่อ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓.
สรณา อนสุ รทรางกรู . ๒๕๔๕ . ประเพณพี ธิ กี รรมของไทยโซง่ บา้ นตลาดควาย ตา� บลจอมบงึ อา� เภอจอมบงึ จงั หวดั ราชบรุ ี
รายงานผลการวจิ ยั กรงุ เทพ : มหาวิทยาลยั ราชภฏั ธนบุรี
สา� นกั งานโบราณคดแี ละพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตทิ ่ี ๑ ราชบรุ .ี ๒๕๔๔ . พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตริ าชบรุ ี และจงั หวดั
ราชบรุ ี กรงุ เทพ : สมาพันธ์. หนา้ ๑๗๗-๑๗๙
สา� นกั งานเสรมิ สรา้ งเอกลกั ษณข์ องชาต.ิ ๒๕๕๘ . ประมวลพระราโชวาทและพระราชดา� รสั สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์
พระบรมราชนิ ีนาถ. กรุงเทพ : อมรินทรพ์ ร้นิ ติ้งแอนดพ์ ับลชิ ซิ่ง.
สพุ รรณ สมไทย และคณะ. ๒๕๔๙ . การออกแบบผลติ ภณั ฑข์ องตกแตง่ บา้ นโดยแนวคดิ จากวฒั นธรรมชาวไทยทรงดา�
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนดุสติ กรงุ เทพ . หนา้ ๒๔-๔๖
92
โรงเรียนชุมชนวัดดอนคลังมิตรภาพที่ ๑๗๘ ๒๕๔๒ . ไทยทรงด�าดอนคลัง ต�าบลดอนคลัง อ�าเภอด�าเนินสะดวก
จงั หวดั ราชบุร.ี
ชมุ ชนบา้ นหัวเขาจนี หมบู่ ้านไทยเข้มแข็ง ออนไลน์ เข้าถึงไดจ้ าก : http :// . a l e e .c m
สืบค้นเม่ือ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓.
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลหว้ ยยางโทน ๒๕๖๓ ชมุ ชนบา้ นหวั เขาจนี ออนไลน์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http ://hua a t .
.th/pu l c/l t/ ata/ eta l/ /๖๓๑/me u/๑๒๔๐/pa e/๑ สบื คน้ เมอ่ื ๑๕ มนี าคม ๒๕๖๓.
a ๒๐๒๐ ไทยทรงด�า ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก : http ://๔๐c๑ ๑๕c ๓e. a te .c m.
สืบค้นเมอื่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๓.
93
าก
94
ผใหข อมลและสาธิตการประดษิ ฐลายหนา หมอน
คณุ อไุ ร แหง่ หน ปาอ้อ คณุ สนิท กุมกร ปาโอ
ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ชาวไทยทรงด�า บ้านหวั เขาจีน ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ชาวไทยทรงดา� บ้านหวั เขาจีน
อ.ปากทอ่ จ.ราชบรุ ี อ.ปากทอ่ จ.ราชบุรี
คุณเบญจมาศ ยอดพิกุล คุณประเทอื ง เพชรเอียะ ปาแหม่ม
ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ ชาวไทยทรงดา� ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นชาวไทยทรงดา� บ้านวังปลา
บา้ นตลาดควาย อ.จอมบึง จ.ราชบรุ ี
ต.แก้มอน้ อ.จอมบงึ จ.ราชบรุ ี
95
คณุ กัลยาณี ปสาทรัตน์ ปาม่วย คณุ บุญธาดา สขุ ผล ปาติม
ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ชาวไทยทรงด�าบา้ นดอนคลงั ภมู ิปญั ญาท้องถ่ินชาวไทยทรงดา� บา้ นดอนคลงั
อ.ด�าเนินสะดวก จ.ราชบรุ ี อ.ด�าเนนิ สะดวก จ.ราชบรุ ี
คุณนภิ าพร อังซ้อน นอ้ งปุย คุณส�าราญ ปบัว
ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ชาวไทยทรงดา� บา้ นดอนคลัง เจ้าของพิพิธภัณฑ์เ ือนผ้าไทโซ่ง ต.ดอนคลัง
อ.ด�าเนนิ สะดวก จ.ราชบุรี อ.ด�าเนนิ สะดวก จ.ราชบรุ ี
96
อาจารย์ถนอม คงยมิ้ ละมยั อาจารย์สิรปิ ตี พุม่ จนั ทร์
ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ชาวไทยทรงด�า จ.เพชรบรุ ี ท่ปี รกึ ษาโรงเรียนพพิ ธิ ภัณฑ์ผา้
เจา้ ของพพิ ิธภัณฑ์ปานถนอม
คณุ อาธปิ ย้อนเพชร
ภูมิปัญญาท้องถ่ินชาวไทยทรงด�า จ.สพุ รรณบุรี
97
า อา
ุ ทิ กมุ กร าโอ
มิ าทอง ิ ชา ท ทรง าบา เ าจ อ. ากทอ จ.ราชบุร
สา� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบงึ ขอแสดงความเสยี ใจอยา่ งสดุ ซง้ึ กบั การจากไป
ของคณุ สนทิ กมุ กร ปาโอ ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ ชาวไทยทรงด�า นบั วา่ เป็นการสูญเสียครั้งยงิ่ ใหญท่ ่สี ดุ ทา่ นเป็นผใู้ หญ่
ที่เคารพนับถือของบ้านหัวเขาจีน ท่านมีความสามารถมากมายหลายอย่างด้านศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของ
ชาวไทยทรงดา� ในเรอื่ งของการทอผา้ ปลกู หมอ่ น เลย้ี งไหม ยอ้ มคราม ทอผา้ ซนิ่ ลายแตงโม ผา้ ซน่ิ ตาหม ่ี ทอผา้ ขาวมา้
เยบ็ ปกั ลวดลายหนา้ หมอน ปนั เกลา้ ล ทา่ นไดใ้ หค้ วามเมตตากบั สา� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม โดยสาธติ การทา� ลายหนา้ หมอน
ที่ปรากฏในหนังสือเล่มน้ีส่วนของการประดิษฐ์ลายหน้าหมอนบ้านหัวเขาจีน ท่านได้ ากผลงานไว้เป็นวิทยาทาน
แกช่ นรนุ่ หลงั ผสู้ นใจไดศ้ กึ ษานบั วา่ เปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งยง่ิ เพราะนบั วนั จะหาคนทา� ยากขน้ึ ถา้ ลกู หลานชาวไทยทรงดา�
ไมม่ กี ารสบื ทอด ภมู ปิ ญั ญาเหลา่ นกี้ จ็ ะหายไปกบั กาลเวลา สดุ ทา้ ยน ้ี สา� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรมขอบพระคณุ ทา่ นอยา่ งยง่ิ
ในความเมตตากรณุ าของท่าน ขอให้บญุ กุศลท่ีท่านได้ท�านี้น�าท่านไปสภู่ พภูมิท่ดี ยี ่งิ ๆ ขน้ึ ไปด้วยเถิด
ดว้ ยควำมอำลัยยิ่ง
จาก...ผบู้ รหิ าร เจา้ หน้าท่ี ส�านกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม
และนกั ศกึ ษาชมรมศลิ ปะและวัฒนธรรม
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมูบ่ ้านจอมบึง
98