เปน็ เสาสเ่ี สา เพอ่ื ใหเ้ ครอ่ื งจกั สานมคี วามแขง็ แรงทนทาน ตอ่ การใชง้ านหนกั ลวดลาย
ท่ีน�ำมาตกแต่งเครื่องจกั สานอาสาท่ีพบมี ๔ ลายดงั น้ีคือ
๑.๔.๑ ลายมดั หวาย ใชเ้ สน้ หวายส่วนท่ีเปน็ ผวิ เหลาให้ขนาดพอเหมาะ
กับขอบปากแล้วน�ำมาผูกและถักตกแต่งขอบปาก การเรียกชื่อจะเรียกตามจ�ำนวน
เสน้ หวายทม่ี ดั จากการศกึ ษาพบวา่ หตั ถกรรมจกั สานอาสาสว่ นใหญจ่ ะใชล้ ายมดั หวายคู่
และตกแตง่ ดว้ ยลวดลายอนื่ รว่ ม จงึ ทำ� ใหจ้ กั สานของบา้ นโพหกั มคี วามงดงาม ประณตี
การเขา้ ขอบกอ่ นการผูกลายมัดหวายค ู่ ภาพ : เบญจา ลิขติ ย่ิงวรา
ลายมัดหวายคู่
ลายมัดหวายค ู่ ภาพ : เบญจา ลขิ ิตย่งิ วรา
การเข้าขอบกอ่ นการผูกลายมัดหวายค ู่ ภาพ : เบญจา ลิขิตยิง่ วรา
49
ข้ันตอนการผูกลายมัดหวายคู่ ข้ันตอนที่ ๒
ขัน้ ตอนที่ ๑
ขน้ั ตอนท่ี ๓ ขน้ั ตอนท่ี ๕
ข้ันตอนที่ ๕ ขนั้ ตอนที่ ๖
ภาพวาดขั้นตอนการมดั หวายคู่ ท่ีมา : เบญจา ลขิ ิตยงิ่ วรา
๑.๔.๒ ลายยายจงู หลาน ใชว้ ธิ กี ารถกั หวายสอดรอ้ ยใหล้ ายตอ่ เนอื่ งกนั ไป
จนจบ การตง้ั ชอื่ ลวดลายแสดงถงึ ความอบอนุ่ และความรกั กนั ในครอบครวั การแสดง
ความเคารพต่อผู้ใหญ่ ในยุคก่อนซ่ึงเป็นครอบครัวแบบครอบครัวขยาย ในปัจจุบัน
ยงั คงรกั ษาเอกลักษณข์ องครอบครัวไทยพื้นถิ่นไว้ดังเดิม
50
ลายยายจงู หลาน
ลายยายจูงหลาน ภาพ : เบญจา ลขิ ิตยงิ่ วรา
ขั้นตอนการถกั ลายยายจูงหลาน ขนั้ ตอนท่ี ๒
ขั้นตอนท่ี ๑
ขั้นตอนท่ี ๓ ขน้ั ตอนท่ี ๔
ขน้ั ตอนการถักลายยายจูงหลาน ท่ีมา : เบญจา ลขิ ติ ยิ่งวรา
51
๑.๔.๓ ลายสันปลาช่อน เป็นชื่อลวดลายตกแต่งส่วนบนของขอบปาก
เพิ่มความสวยงามและความแข็งแรงให้เคร่ืองจักสาน ลวดลายสานด้วยหวาย
เปน็ ลายขดั กอ่ นจะสานลายจะหนนุ ดว้ ยเสน้ หวายกลมเพอื่ ใหเ้ กดิ ความนนู เปน็ สนั ทำ� ให้
มีความสวยงามไมเ่ หมือนใคร ซงึ่ เปน็ เอกลักษณ์ของเครอื่ งจักสานบ้านโพหกั โดยแท้
ขัน้ ตอนการถักลายสนั ปลาช่อน ขัน้ ตอนท่ี ๒
ขน้ั ตอนที่ ๑
ข้ันตอนท่ี ๓ ขนั้ ตอนท่ี ๔
ขัน้ ตอนที่ ๕ ขั้นตอนท่ี ๖
ข้นั ตอนท่ี ๗ ขัน้ ตอนท่ี ๘
ภาพวาดขั้นตอนการถกั ลายสันปลาช่อน ท่มี า : เบญจา ลิขติ ยงิ่ วรา
52
๑.๔.๔ ลายเกลด็ ปลา เปน็ ลายตกแตง่ ขอบเครอื่ งจกั สานทถ่ี กั ดว้ ยหวาย
เพ่ือเพ่ิมความยึดแน่นให้กับส่วนขอบและตัวเคร่ืองจักสานให้ยึดติดกันแน่นมากขึ้น
อีกทั้งยังท�ำให้เคร่ืองจักสานมีความสวยงามละเอียดประณีต จะเห็นได้ว่าชาวโพหัก
มีความผูกพันกับธรรมชาติ การตั้งชื่อลวดลายจึงเป็นช่ือท่ีอยู่ในวิถีชีวิต และน�ำมาใช้
ตกแตง่ เครื่องจักสานได้อยา่ งลงตัว
ลายเกล็ดปลา
ลายเกลด็ ปลา ภาพ : เบญจา ลขิ ิตยิง่ วรา
ข้นั ตอนการจักสานถกั เกล็ดปลา ขั้นตอนท่ี ๒
ขน้ั ตอนท่ี ๑
53
ข้นั ตอนที่ ๓ ข้ันตอนท่ี ๔
ขน้ั ตอนท่ี ๕ ขน้ั ตอนที่ ๖
ขน้ั ตอนท่ี ๗ ข้นั ตอนท่ี ๘
ภาพวาดขนั้ ตอนการถักลายเกลด็ ปลา ที่มา : เบญจา ลิขติ ยิ่งวรา
54
๒. อตั ลกั ษณข์ องเครื่องจกั สานอาสา
หัตถกรรมจักสานอาสา มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ประเภท
ของเครื่องจักสานอาสาท่ีพบมีไม่กี่ชนิด ซึ่งฝ่ายว่าท่ีเจ้าบ่าวจะอาสาท�ำงานให้ฝ่าย
ว่าท่ีเจ้าสาวและหัตถกรรมเครื่องจักสานเป็นงานหน่ึงของงานอาสาท่ีฝ่าย
ว่าท่ีเจ้าบ่าวท�ำให้เพ่ือเป็นข้าวของเครื่องใช้ในการเกษตร ของใช้ในชีวิตประจ�ำวัน
ลวดลายและการตกแต่งจะถูกเลือกสรรและบรรจงสร้างให้งดงามและมีความเป็น
อัตลักษณ์ของท้องถ่ิน เม่ือฝ่ายหญิงน�ำไปใช้จะรู้สึกถึงความรักที่ ว่าที่เจ้าบ่าวมีให้
โดยจะสื่อออกมาทางฝีมือท่ีบรรจงสร้างสรรค์ รูปแบบเคร่ืองจักสานท่ีพบได้แก่
กระบุงอาสา ตะกร้าอาสา กระจาดหาบอาสา กระโล่ กระจาดกระเดียด งอบอาสา
ในการศึกษาครั้งน้ีเบญจา ลิขิตยิ่งวรา (๒๕๕๔) กล่าวถึงเฉพาะหัตถกรรม
เครอื่ งจักสานทีอ่ ยใู่ นประเพณีอาสาเท่านน้ั ดังรายละเอยี ดมีดงั นี้
๒.๑ กระบุงอาสา เป็นหัตถกรรมเคร่ืองจักสานท่ีสานด้วยไม้ไผ่ท�ำขึ้น
เพื่อใส่ข้าวของเคร่ืองใช้ไปนา ใส่เมล็ดข้าวเปลือก ต้นกล้าและใช้ตวงข้าว เป็นต้น
ลวดลายทใ่ี ช้จกั สาน ไดแ้ ก่ สว่ นคอสานเปน็ ลายไพลขดั ทึบเพ่อื ความแข็งแรง ระหว่าง
การตอ่ ลายจะใชห้ วายสเี่ สน้ ถกั เปน็ เกลยี วโดยรอบเรยี กว่ารดั เอวแลว้ จงึ สานลายดคี วำ�่
ที่ส่วนล�ำตัวของผลิตภัณฑ์ ตกแต่งขอบปากด้วยลายสันปลาช่อนด้านบน ด้านข้าง
ขอบเป็นลายยายจูงหลาน และถักลายเกล็ดปลาที่ใต้ขอบปาก ด้วยหวาย ๕ เส้น
เพ่ือเพ่ิมความคงทนของเครื่องจักสาน ส่วนของก้นเป็นส่ีเหล่ียมจัตุรัส ใต้ก้นจะใช้
ไม้ไผ่เหลาเป็นแท่งกลมปลายแหลมขัดรองเป็นกากบาทเพ่ือให้ก้นกระบุง มีความ
แข็งแรงมากข้นึ
55
ก้นกระบุงอาสาไม้เหลาเสยี บ
เสากระบงุ ลวดลายการตบแต่งขอบปากกระบุง
ส่วนปาก
ส่วนคอผลิตภัณฑ์
รดั เอวถกั ดว้ ยหวายส่เี สน้
ส่วนลำ� ตวั ผลติ ภณั ฑ์
ส่วนฐาน
โครงสร้างเครื่องจักสานอาสา (กระบุงอาสา) และการตกแต่ง
ภาพ : เบญจา ลขิ ิตยิ่งวรา
56
๒.๒ ตะกร้าหิ้วอาสา เป็นหัตถกรรมเครื่องจักสานที่สานด้วยไม้ไผ่ใช้เทคนิค
การจักสานขั้นสูง ประณีต ท�ำข้ึนเพ่ือใส่ของห้ิวไปตามท่ีต่างๆ หรือใส่ขันข้าว
ไปท�ำบุญท่ีวัด ลวดลายท่ีสานเป็นลายไพลขัดทึบหรืออาจจะเป็นลายผสมก็ได้
เพ่ือให้มีความแข็งแรง ลวดลายตกแต่งที่ขอบปากมัดด้วยเส้นหวายเป็นลาย
มัดหวายคู่เป็นช่วง แต่มีความถ่ีมากกว่ากระบุง ตกแต่งลายขอบปากด้วยลาย
สันปลาช่อนด้านบน ด้านข้างขอบลายยายจูงหลาน และถักลายเกล็ดปลา
ท่ีใต้ขอบปากด้วยหวาย ๓ เส้น เพ่ือเพิ่มความคงทนของเคร่ืองจักสาน ส่วนของก้น
เป็นรูปทรงส่ีเหลี่ยมจัตุรัส หูหิ้วใช้หวายทั้งเส้นม้วน ขด ยึดเกาะ อย่างแน่นหนา
โอบไปรับน�้ำหนักที่ก้นตะกร้า ด้านมือจับ ผูกหวายเป็นช่วงๆ เป็นลายมัดหวายคู่
และตกแตง่ ด้วยลายสนั ปลาชอ่ นดา้ นบน
ตะกร้าหิ้วอาสา
ตะกร้าหิว้ อาสาลายไพลและลายดีคว่ำ� รูปทรงและลายก้นตะกรา้
ภาพ : เบญจา ลขิ ติ ยิง่ วรา
57
๒.๓ กระจาดหาบอาสา เป็นหัตถกรรมเคร่ืองจักสานที่สานด้วยไม้ไผ่
ใช้เป็นคู่มีสาแหรกที่ท�ำด้วยหวายทั้งเส้นรองรับ ในส่วนบนของสาแหรกท�ำเป็นห่วง
ต้องใช้ร่วมกับไม้คานสอดวางบนบ่าเพื่อแบกข้าวของไปไร่ไปนาหรือใส่ส�ำรับอาหาร
ไปทำ� บญุ ทว่ี ดั กระจาดอาสาจะสานดว้ ยลายตาเฉลว มลี กั ษณะโปรง่ เปน็ ตาหกเหลย่ี ม
ทั้งใบ ตกแต่งที่ขอบปากด้วยหวาย ผูกขอบปากด้วยลายมัดหวายคู่ และสานเป็น
ลายสันปลาช่อน ด้านข้างขอบปากสานเป็นลายยายจูงหลานและเพ่ือความแน่นหนา
ยิ่งขึ้นใต้ขอบปากสานเป็นลายเกล็ดปลา ส่วนล่างใช้หวายสามเส้นซ้อนกันเฉพาะมุม
ท�ำเป็นฐาน ส่วนก้นเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ใต้ก้นจะใช้ไม้ไผ่เหลาเป็นแท่งกลม
ปลายแหลม ขดั รองเพอ่ื ใหก้ ้นกระบุงมคี วามแข็งแรงมากขน้ึ
ถา่ ยภาพกระจาดหาบอาสาพรอ้ มกระโลแ่ ละไม้คาน
กระจาดหาบอาสาและการตกแตง่ ส่วนบนของสาแหรกถ่ายภาพ
ภาพ : เบญจา ลขิ ติ ยงิ่ วรา
58
๒.๔ กระโล่อาสา เป็นหัตถกรรมเครื่องจักสาน ที่มีลักษณะเหมือนกระด้ง
แต่ขนาดจะเล็กกว่าใช้ส�ำหรับวางบนปากกระจาดหาบไว้วางของ เช่น ส�ำรับกับข้าว
เวลาไปทำ� บญุ ทว่ี ดั ใสข่ องหาบไปทงุ่ นา เปน็ ตน้ ขนาดของกระโลจ่ ะขน้ึ กบั กระจาดหาบ
เวลาช่างจักสานหรือว่าที่เจ้าบ่าวจักสานจะสานให้เป็นชุดเพื่อให้ว่าที่เจ้าสาวได้ใช้
ทั้งชุด รูปทรงของกระโล่เป็นทรงกลมลวดลายท่ีใช้สานจะมีหลายลายตามความ
เหมาะสมหรอื ความสามารถของผจู้ กั สาน ไดแ้ ก่ ลายสอง ลายสาม ลายดคี วำ�่ ลายดหี งาย
มีการตกแต่งขอบปาก เช่นเดียวกับกระบุงและกระจาดหาบซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของ
จกั สานอาสาบา้ นโพหัก
กระโล่อาสา ภาพ : เบญจา ลิขติ ยิ่งวรา
59
๒.๕ ตะกร้าเชี่ยนหมากอาสา เป็นหัตถกรรมเคร่ืองจักสานท่ีมีรูปทรงรูปไข่
หรือวงรีมีฝาปิด ส�ำหรับใส่ข้าวของเครื่องใช้ของสตรีท�ำหน้าท่ีเป็นกระเป๋าถือหรือ
ใส่หมากพลูของผู้เฒ่าผู้แก่ส่วนล�ำตัวสานด้วยลายไพลขัดทึบ ขอบปากตกแต่งด้วย
ลายมัดหวายคู่และขอบบนตกแต่งด้วยลายสันปลาช่อน ฝาปิดสานด้วยลายสอง
ตกแต่งขอบฝาด้วยลายมัดหวายคู่ หูหิ้วท�ำด้วยหวายทั้งเส้นตกแต่งลวดลายท่ีมือจับ
ดว้ ยลายมดั หวายและสนั ปลาชอ่ น กน้ รปู ทรงเปน็ สเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ สานดว้ ยลายขดั ตาโปรง่
บ้างกจ็ ะสานลายขัดตาทบึ แลว้ แตว่ ตั ถุประสงค์การใช้งาน
ตะกร้าเชยี่ นหมากอาสา
ดา้ นในตะกรา้ เช่ียนหมากอาสา ฝาปดิ ตะกร้าเช่ียนหมากอาสา
ภาพ : เบญจา ลิขิตย่ิงวรา
60
๒.๖ กระจาดกระเดียดอาสา
เป็นเคร่ืองจักสาน ท่ีใช้ประโยชน์เช่นเดียวกับกระจาดหาบต่างกัน
ตรงท่ใี ช้ใส่เอวแล้วกระเดียดไปไหนมาไหนแทนการหาบ ลวดลายทจ่ี กั สานใช้ลายไพล
ขัดทึบหรือลายสานอ่ืนๆ เช่น ลายผสมระหว่างลายดีคว่�ำและลายไพลหรือลายสอง
กับลายไพล เป็นต้น ส่วนปากกว้างและมีรูปทรงกลม ลวดลายท่ีตกแต่งขอบปาก
เช่นเดียวกับกระบุงและกระจาดหาบ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของจักสานอาสาบ้านโพธ์ิหัก
ส่วนก้นของกระจาดกระเดียดมีรูปทรงเป็นส่ีเหล่ียมจัตุรัส ใต้ก้นจะใช้ไม้ไผ่เหลาเป็น
แทง่ กลมปลายแหลมขดั รองเปน็ กากบาททมี่ มุ เพอื่ ใหก้ น้ กระจาดมคี วามแขง็ แรงมากขน้ึ
กระจาดกระเดียดอาสา
งอบอาสาดา้ นนอกและด้านใน (สมบตั ิคณุ ลงุ หมอเลยี บ แก้วทมิ า)
ภาพ : เบญจา ลขิ ติ ยิ่งวรา
61
๒.๗ งอบอาสา เป็นท่ีบังแดดบังฝนเม่ือเวลาออกนอกบ้าน ปีกกว้างท�ำให้
ป้องกันแดดและฝนได้ดี โครงของงอบสานด้วยลายเฉลวหรือลายตาชะลอม และใช้
ใบลานเย็บทับโครงงอบ ความละเอียดของงอบอยู่ที่ฝีเข็มของการเย็บงอบ เช่น ๑๕
๑๗ ๑๙ ฝีเขม็ สว่ นท่สี วมศีรษะ เรยี กว่า รงั งอบ สานด้วยไมไ้ ผช่ ักเลยี ดให้เป็นเส้นกลม
เป็นลายโปร่งท�ำให้อากาศถ่ายเทได้ดี ผู้สวมใส่จะไม่รู้สึกร้อน ปัจจุบันบ้านโพหัก
ไม่มีการท�ำงอบแล้ว หากต้องการใช้ก็จะซ้ืองอบส�ำเร็จรูป แล้วน�ำมาตกแต่งลวดลาย
การตกแต่งลวดลายภายในโครงงอบจะแทรกกระดาษอังกฤษสะท้อนแสงเพื่อเวลา
สวมใสก่ ระดาษจะสะทอ้ นแสงเขา้ ใบหนา้ ผสู้ วมใสท่ ำ� ใหห้ นา้ นวล นบั วา่ เปน็ ภมู ปิ ญั ญา
ของชาวโพหัก ที่ใช้เทคนิคการตกแต่งให้เกิดความพึงพอใจของผู้รับ ส่วนลวดลายที่
ขอบงอบ จะใช้เส้นหวายที่ชักเลียดน�ำมาสานเป็นลายขัดเพ่ือความแข็งแรงและ
ยึดตวั งอบตดิ กบั ขอบไมใ่ ห้หลุดงา่ ยและมคี วามเป็นเอกลักษณแ์ ละสวยงามยิ่งข้ึน
โครงงอบ ๔.๖๖ รงั งอบ
ทมี่ า : http://www.otoptoday.com/wisdom/provinces/center/วนั ท่ี ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔
ลวดลายการตกแตง่ ขอบ ภาพ : เบญจา ลขิ ิตยิง่ วรา
62
๓. รูปแบบและแนวทางการอนรุ ักษ์และฟนื้ ฟูเครอ่ื งจักสานอาสา
รปู แบบและแนวทางการอนรุ กั ษห์ ตั ถกรรมเครอ่ื งจกั สานอาสาของตำ� บลโพหกั
จังหวัดราชบุรี จากความคิดเห็นของปราชญ์ชาวบ้านผู้ทรงภูมิปัญญา เจ้าอาวาส
วดั ใหญ่โพหกั ผนู้ �ำชุมชน สรปุ ไดเ้ ป็น ๕ ประเด็นดังนี้
๑. ประวัติความเป็นมาของจักสานอาสา
๒. ความส�ำคัญของจักสานอาสา ปญั หา และอุปสรรคของงานจกั สานอาสา
๓. จิตสำ� นกึ ในการอนรุ กั ษ์เครอ่ื งจกั สานอาสาและประเพณีอาสา
๔. การมีส่วนร่วมในการอนุรกั ษ์งานจักสานอาสา
๕. รูปแบบและวธิ กี ารในการอนรุ ักษเ์ ครอื่ งจักสานอาสาใหค้ งอยู่ตอ่ ไป
๑. ประวัติความเปน็ มาของงานจกั สานอาสา
จากข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของงานจักสานอาสา
บ้านโพหัก ซึ่งได้มาจากการสัมภาษณ์ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ทรงภูมิปัญญาที่เคยผ่าน
ประเพณอี าสามาแล้ว
หมอเลย่ี ม แกว้ ทมิ า และคนอน่ื ๆซงึ่ เปน็ ผทู้ รงภมู ปิ ญั ญาและผา่ นงานประเพณอี าสา
เป็นบ่าวหนุ่ม ได้เป็นผู้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของงานจักสาน และจักสานอาสา
ว่างานจักสาน เป็นภูมิปัญญาของผู้เฒ่าผู้แก่บรรพบุรุษที่ต้องการให้มีการมีส่วนร่วม
ระหว่างหนุ่ม - สาวและพ่อแม่ของฝ่ายหญิง โดยเมื่อชายและหญิงชอบพอกัน
หรือการสู่ขอ ที่เกิดจากการตกลงปลงใจของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แต่ก่อนหน้านั้น
ฝา่ ยหญิงและชาย จะไม่มีโอกาสได้ใกลช้ ดิ กนั จนกวา่ จะไดส้ ู่ขอ เมอ่ื ผา่ นการสขู่ อแลว้
ฝา่ ยชายจะอาสามาช่วยงานในบ้านของฝา่ ยหญงิ สาว ทุกอยา่ ง เชน่ งานเกษตรกรรม
งานจกั สาน ฯลฯ เปน็ เวลา ๑-๒ ปี ซง่ึ จะเปน็ ชว่ งดใู จกนั ฝกึ ความอดทนไมช่ งิ สกุ กอ่ นหา่ ม
ฝ่ายชายจะต้องเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้น�ำหัวหน้าครอบครัว เป็นโอกาส
63
ท่ีพ่อแม่ของฝ่ายหญิงได้ดูความประพฤติของว่าท่ีลูกเขยด้วยว่า จะสามารถ
ดูแลลูกสาวของตนให้มีความสุข ได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานอาสาที่จะต้องท�ำ
เครื่องจักสานไว้ใช้ในชีวิตประจ�ำวันให้กับบ้านของฝ่ายว่าท่ีเจ้าสาว จนกลายเป็น
ภูมิปัญญางานจักสานอาสาในท้องถ่ินของบ้านโพหัก เม่ือย้อนอดีตไป ๙๔ ปีว่า
งานจักสานส่วนใหญ่ท�ำขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในภาคเกษตรกรรม เช่น สานกระบุง
ไว้ใส่ของหาบไปปลูกข้าวท่ีท้องนา สานกระบุงตักน�้ำโดยน�ำน�้ำมันยางชโลมอุดรูร่ัว
เพื่อตักน�้ำใส่โอ่งไว้ใช้ในบ้านเรือน สานกระจาดให้หญิงสาวหาบไปท�ำบุญท่ีวัด
กระบุงที่สานท�ำจากไม้ไผ่สีสุกซ่ึงมีปลูกกันท่ัวไปที่บ้านโพหัก สาเหตุท่ีต้อง
เป็นไม้ไผ่สีสุกบ้านโพหักเท่าน้ันเพราะดินบ้านโพหักเป็นดินดีท�ำให้ไม้ไผ่มีเนื้อเหนียว
มันเป็นเงา น�ำมาจักสานจะทนทาน และสวยงาม สอดคล้องกับ วิบูลย์ ล้ีสุวรรณ,
(พ.ศ. ๒๕๓๙ หน้า ๙๓-๑๕๘) ที่กล่าวว่าไผ่สีสุกจะมีลักษณะเน้ือหนา
เหนียวทนทาน หากเลือกไผ่ที่มีอายุ ๒-๓ ปี มาใช้งานก็จะมีความยืดหยุ่น ไม่หัก
จักสานได้ง่าย จึงเหมาะท่ีจะน�ำไปท�ำเครื่องจักสานประเภทของใช้ เฟอร์นิเจอร์
และเครื่องมือประมง เครื่องจักสานเหล่านี้ยังน�ำไปใช้ในครอบครัว เม่ือแยกเรือน
ออกไปแล้ว จึงเป็นท่ีมาของงานจักสานอาสาซ่ึงสอดคล้องกับโอเคเนช่ัน, (๒๕๕๓)
ซ่ึงกล่าวว่าประเพณีอาสาหรือประเพณีท�ำของอาสาเป็นขนบธรรมเนียมประเพณี
ก่อนการแตง่ งานของหน่มุ สาวบ้านโพหักในอดตี โดยแท้
การทำ� ของอาสา คอื ขา้ วของเครอ่ื งใชท้ วี่ า่ ทเี่ จา้ บา่ วและวา่ ทเี่ จา้ สาวตา่ งขนั อาสา
จะท�ำด้วยฝีมือตนเองอยา่ งประณตี บรรจงให้แกก่ นั ประมาณ ๑-๒ ปกี อ่ นการแตง่ งาน
จนเกดิ เปน็ ประเพณปี ฏบิ ตั สิ บื ตอ่ กนั มา (สบื คน้ ไดจ้ าก http://www. oknation.net/
blog/ วนั ท่ี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๔)
คุณฉลวย บุญแวดล้อม (สัมภาษณ์ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๔) ผู้ทรงภูมิปัญญา
และเคยท�ำงานจักสานอาสาได้ให้ความเห็นว่างานจักสานอาสาจะหมดไปในอนาคต
เพราะงานอาสาเป็นการอวดฝีมือของฝ่ายชายและเป็นความภูมิใจของฝ่ายหญิง
ซ่ึงเป็นผู้รับ ในสมัยต่อๆ มา ฝ่ายชายท�ำงานจักสานไม่เป็นก็จะจ้างให้ผู้อื่นท�ำ
เช่น งอบอาสาท�ำเพื่อให้ฝ่ายหญิงได้น�ำไปใช้สวมใส่ไปไหนๆ ซ่ึงผู้เล่าเคยรับท�ำงาน
64
อาสาให้ฝ่ายเจ้าบ่าวมาแล้ว นอกจากนี้ท่านยังกล่าวถึงสังคมของบ้านโพหักว่าเป็น
สงั คมเกษตรกรรม ทำ� นาท�ำสวน จบั ปลาในหนา้ น�ำ้ ดงั น้นั อุปกรณ์ทใี่ ชจ้ ะเป็น โลหะ
ดนิ ไม้ ทใ่ี ชใ้ นการทำ� มาหากินของแตล่ ะอาชพี เช่น ประมง ใช้สุม่ เกษตร ใช้กระบุง
กระจาด เป็นต้น ซึ่งสิ่งของเหล่านี้จะมีอยู่ทุกบ้าน บ้านไหนไม่มีก็จะไหว้วาน
คนมีฝีมือในการจักสานมาท�ำงานจักสานอาสาให้แทน และท่านยังกล่าวต่อไปอีกว่า
ในงานวันแต่งงาน จะมีกระจาดหาบ มีคานหาบ (ไม้คาน) กระจาดท�ำด้วยไม้ไผ่
มีงอบ โดยฝ่ายชายต้องหางอบท่ีท�ำจากช่างที่มีฝีมือให้ฝ่ายเจ้าสาวไว้สวมใส่
ท�ำชะลอม ส�ำหรับใส่ของฝากหรือใส่ไข่ ท�ำตะกร้า ส�ำหรับหาบหญ้า เม่ือเวลา
ไปเก่ียวหญ้าให้วัว ในปัจจุบันไม่ได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้แล้ว จึงท�ำให้งานจักสาน
ค่อยๆ สูญหายไปและผู้เฒ่าผู้แก่ที่ท�ำงานจักสานเป็นก็เสียชีวิตจากไปพร้อมกับ
ภูมิปัญญา ซึ่งปัจจุบันผู้ท่ีท�ำงานจักสานอาสาเป็นนั้น คงเหลืออยู่น้อยมาก
และท่านได้สรุปว่างานอาสาในปัจจุบันน้ีเป็นงานไหว้วานกันท�ำหรือจ้างท�ำ เคร่ืองมือ
เคร่อื งใช้ เพ่อื ใช้สอยในครอบครวั เทา่ นนั้
คุณฉลวย บุญแวดล้อม กล่าวเสริมว่างานจักสานและงานจักสานอาสา
บา้ นโพหกั เชน่ การสานกระจาดฝมี ือจะมีความละเอยี ดออ่ นคล้ายๆ กนั เกือบทกุ บา้ น
จะประณีตเห็นได้จากการใช้หิ้วไปท�ำบุญที่วัด ส่วนใหญ่จะเป็นการน�ำมาอวดฝีมือกัน
ในวันส�ำคัญๆ งานบุญต่างๆ โดยจะแต่งตวั แข่งขนั กัน แสดงให้เห็นว่าฐานะจะบง่ บอก
ดว้ ยกระจาดของใช้ คนรวยดดู ว้ ยการแตง่ กาย คนดีดทู อี่ ปุ กรณท์ ีแ่ สดงออก (ฝมี อื )
คุณทศพล แก้วทิมา (สัมภาษณ์ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๔) ในขณะที่สัมภาษณ์
ด�ำรงต�ำแหน่งประธานสภาวัฒนธรรมต�ำบลโพหัก ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ประวตั ิความเปน็ มา
ของจักสานอาสาบ้านโพหัก ว่าวิถีงานอาสาเป็นการแข่งขันท่ีเกิดจากการแสดงออก
ที่จะมอบให้คนท่ีรัก เกิดจากความรัก ได้ยกตัวอย่างการมอบให้ด้วยความรัก
ทป่ี ระสบกบั ตนเอง คอื ไดร้ บั ไมพ้ ายจากพอ่ เมอ่ื ตอนบวช เนอื่ งจากพระในตำ� บลโพหกั
ในสมยั นนั้ ตอ้ งมพี ายไวใ้ ชพ้ ายเรอื นอกจากนที้ า่ น ยงั กลา่ วตอ่ ไปอกี วา่ งานอาสายงั เปน็
การแข่งขันในการที่จะแสดงให้เห็นว่าคนที่ชายหนุ่มรักเห็นถึงความรักของตน
ในขณะที่จีบหญิงสาว การแสดงออกที่จะมอบให้คนที่รัก เม่ือหนุ่มจีบสาว พ่อแม่
65
ฝ่ายเจ้าสาวจะดูจากการเอาใจใส่และฝีมือของชายหนุ่มว่าจะเล้ียงลูกสาวของตน
ได้หรือไม่ ซ่ึงในท่ีสุดงานอาสาน้ีจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างครัวเรือน
และระหว่างตระกูล การอาสาจึงถือได้ว่าเป็นเวลาแห่งการดูใจของชายหนุ่ม
และหญิงสาวว่าทั้งสองฝ่ายมีความรักต่อกันมากแค่ไหน และเม่ือแยกเรือนไปแล้ว
จะอยู่ด้วยกันตลอดไปอย่างราบร่ืนหรือไม่ เป็นการเรียนรู้ความสามารถ น�้ำใจ
และนสิ ัยของกนั และกันซึ่งนบั วา่ เป็นการดีทีไ่ ดศ้ ึกษากนั ก่อนแต่งงาน
ว่าที่ร้อยตรีสุภักดิ์ อนุกูล (สัมภาษณ์ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๔) ผู้ทรงภูมิปัญญา
และนักวิชาการของอ�ำเภอบางแพ ได้เล่าให้ฟังถึงงานอาสาที่ท่านได้พบเห็นมา
ว่าในอาคารหลังหนึ่ง ท่ีวัดใหญ่โพหักมีงานอาสาท่ีงดงามราวกับเทวดาท�ำ
ซึ่งแสดงถึงจิต-วิญญาณ ที่ฝ่ายเจ้าบ่าวต้องการแสดงถึงความอดทน ความละเอียด
รอบคอบ ผลงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมกับการเป็นผู้น�ำครอบครัว
ของเจ้าบ่าว รูปแบบของงานกระจาด และลวดลายสวยงามทั้งส้ิน แต่น่าเสียดาย
ท่ีงานบางชิ้นถูกท�ำลาย หาไม่ได้ เม่ือเป็นเช่นน้ีในไม่ช้างานเหล่านี้จะหมดสูญส้ินไป
และท่านได้ให้ความเห็นในเร่ืองของงานจักสานอาสาไว้อีกว่ามีจุดประสงค์หลัก
ในการทำ� ๓ ข้อ คือ
๑. ทำ� ขนึ้ เพอ่ื ใชง้ านในชวี ติ ประจำ� วนั ฝมี อื ละเอยี ดออ่ น เชน่ ชะลอม ตะกรา้ สมุ่
๒. ทำ� ขึ้นเพอ่ื งานอาสาโดยเฉพาะ เชน่ กระจาดอาสา งอบอาสา กระบงุ อาสา
๓. ท�ำเปน็ งานอดเิ รก เช่น พัด
พระคุณเจ้าส�ำเริง เจ้าอาวาสวัดใหญ่โพหัก (สัมภาษณ์ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๔)
ได้เล่าให้ฟังถึงสมัยเด็กๆ ว่าขณะเดินไปโรงเรียนท่านเคยพบเห็นเครื่องจักสาน
และผคู้ นนงั่ จกั สานงานอาสาทบ่ี า้ นโพหกั ตามธรรมเนยี มทย่ี ดึ ถอื กนั มาซง่ึ สอดคลอ้ งกบั
หลกั ธรรมทว่ี า่ บดิ า มารดา มหี นา้ ทเ่ี ลย้ี งดบู ตุ ร ใหศ้ ลิ ปวทิ ยา และหาคคู่ รองทเี่ หมาะสม
ดังนั้น งานอาสาของบ้านโพหักจึงเป็นหน้าท่ีของผู้เป็นพ่อ แม่ ที่หวังหาคู่ครอง
ที่เหมาะสมให้กับบุตรสาว โดยการทดสอบผู้ชายท่ีจะมาเป็นคู่ชีวิตของลูกสาว
และจะวางเฉย (อเุ บกขา) ได้เมื่อเกดิ ความวางใจในฝ่ายชาย
66
จากข้อมูลที่ผู้รู้ได้กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปความเป็นมาของงานจักสาน
และงานจกั สานอาสาต�ำบลโพหกั จงั หวัดราชบรุ ี ไดด้ งั น้ี
๑. งานจักสานเกิดจากความจ�ำเป็นในการด�ำรงชีวิต ด้วยการประดิษฐ์
เคร่ืองมือ ภาชนะเครื่องใช้ต่าง ๆ ซ่ึงมีความจ�ำเป็นต่อชีวิตประจ�ำวัน โดยน�ำวัตถุ
จากธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ มาสานจนกลายเป็นรูปทรงของภาชนะที่ต้องการ
เพือ่ ประโยชน์ในการใช้สอย
ส�ำหรับชาวบา้ นโพหัก งานจกั สานเป็นผลงานด้านหตั ถกรรมจกั สานที่สวยงาม
ประณตี ไม่แพท้ ี่อืน่ ๆ เนือ่ งจากเปน็ ผลพวงจากการทม่ี ปี ระเพณอี าสาทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์
เฉพาะถ่ินท่ีฝ่ายชายมีความตั้งใจที่จะท�ำข้ึนเพ่ือให้กับหญิงสาวที่จะขอเป็นคู่ครอง
นอกจากนอี้ าชพี ของชาวโพหักในอดตี ส่วนใหญ่จะท�ำนา เมื่อว่างเว้นจากการท�ำนาจึง
ใช้เวลาว่างในการประดิษฐ์จักสานส่ิงของเคร่ืองใช้ต่างๆ เช่น กระบุง ส�ำหรับใส่ข้าว
กระบุงลดั ใช้ตวงข้าว กระบงุ โกย ใช้โกยข้าว กระจาด สำ� หรับหาบหรือหวิ้ กระทาย
ส�ำหรบั ใสข่ องเบด็ เตลด็ กะโลส่ �ำหรับใช้ฝดั ข้าว กระดง้ ใช้ปดิ กระจาดหาบอกี ที พ้อม
ภาชนะใสข่ า้ ว ฝาชี สำ� หรบั ครอบอาหาร กระเพาะ สำ� หรบั ใสข่ า้ วเปลอื ก สมุ่ ขอ้ ง ลอบ
สำ� หรับเปน็ อปุ กรณจ์ บั ปลา เป็นต้น
๒. งานจักสานอาสาเป็นข้ันตอนหน่ึงของประเพณีแต่งงานเมื่อชายหญิง
คู่หนึ่งตกลงปลงใจว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน ฝ่ายชายจะส่งเถ้าแก่ไปสู่ขอและเม่ือฝ่ายหญิง
ตอบรับ การหมั้นหมายจึงเกิดข้ึน ก่อนที่จะถึงการแต่งงานซ่ึงกินเวลานานข้ามปี
อันเป็นท่ีนิยมของชาวโพหัก เป็นช่วงเวลาของการ “อาสา” คือ การท่ีท้ังสองฝ่าย
ปฏิบัติการใดๆ ให้แต่ละฝ่ายพึงพอใจ ส่วนใหญ่มักเป็นการปฏิบัติของฝ่ายชาย
โดยเฉพาะการ “ขันอาสา” ท�ำข้าวของเคร่ืองใช้ตามฤดูกาลเพื่อก�ำนัลแก่ฝ่ายหญิง
ตลอดจนลงแรงชว่ ยฝ่ายหญิงทั้งงานในนาและงานบญุ ในการทำ� งานจกั สาน ฝ่ายชาย
จะน�ำไม้ไผ่สีสุกมาผลิตเป็นเครื่องใช้สอยให้กับฝ่ายหญิง ฝ่ายชายจะท�ำด้วยความ
ประณีตบรรจงเพื่ออวดโชว์ฝีมือให้ผู้อ่ืนได้พบเห็น และท�ำให้ฝ่ายหญิงเกิดความ
ภาคภูมิใจ ภาชนะท่ีท�ำได้แก่ กระจาดอาสา ไม้คานอาสา งอบอาสา กระบุงอาสา
ตะกรา้ อาสา เป็นต้น
67
๓. งานจักสานอาสาเกิดจากความรักของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวเป็นความ
เพยี รพยายาม ความอดทน ของฝา่ ยชายในการทำ� เครอ่ื งใชไ้ มส้ อย “ของพเิ ศษ สำ� หรบั
คนพเิ ศษ” ให้ฝ่ายหญงิ ไวใ้ ชง้ าน หรือสวมใส่เพ่อื ความสวยงาม เชน่ งอบอาสา
๔. งานอาสาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้น�ำ ความจริงใจของฝ่ายชายท่ีมา
สู่ขอฝ่ายหญิง เป็นส่ิงดีงามเบ้ืองต้นของการสร้างครอบครัวให้ม่ันคงแข็งแรงด้วย
ชายคนท่ีจะมาเป็นผู้น�ำครอบครัวในอนาคตได้ผ่านการพิสูจน์ให้เห็นน�้ำใจ นิสัยใจคอ
พฤติกรรมและยังเป็นเหมือนกุศโลบายให้ทั้งสองฝ่ายได้รู้จักซ่ึงกันและกันของการ
อาสาท�ำงานให้กับฝ่ายหญิง อีกทั้งยังเป็นเคร่ืองพิสูจน์ให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเกิด
ความไว้วางใจทจี่ ะยกลูกสาวให้แตง่ งานดว้ ย
ด่งั บทกลอนท่ไี ดก้ ลา่ วถงึ ประเพณอี าสาของคนโพหักไว้ว่า คนโพหักแตด่ งั้ เดมิ
ถือว่าการอาสา คือการให้เกียรติและดูใจกันของคู่บ่าวสาว ใครอยู่กินกันโดยไม่อาสา
ถือเป็นเร่ืองน่าอับอาย วันพระจะเป็นวันที่ดูรู้ว่าหญิงใดมีคนมาสู่ขอแล้วซ่ึงดูได้จาก
หาบคอนที่ใสข่ องมาทำ� บุญที่วดั นั่นเอง
ดังค�ำกลอนท่ีเกี่ยวกับประเพณีอาสาว่า (ศักด์ิชัย สุรสิงห์ไกรสร และคณะ,
๒๕๔๔, หน้า ๘๗)
ของอาสาภมู ิปญั ญานา่ กล่าวขาน เกดิ ต�ำนานความรกั จักใดเหมอื น
ตอกทกุ เสน้ หวายทุกสายแทนใจเตือน แมด่ วงเดือนรบั ไวแ้ ทนไมตรี
ทั้งกระจาดคราดไถพายอาสา สอื่ นำ� พาดวงจติ แทนใจพ่ี
ขอมอบใหท้ รามวยั เจ้าคนด ี หมดหน้านาปีน้หี วงั ตตี รา
ค�ำว่า อาสา เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีก่อนการแต่งงานของชาวโพหัก
เป็นค�ำที่ใช้เรียกชื่องานที่ฝ่ายชายได้ปฏิบัติให้กับฝ่ายหญิง หลังจากท่ีฝ่ายชายไป
สู่ขอฝ่ายหญิง และครอบครัวของฝ่ายหญิงกับฝ่ายชายตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
กอ่ นการแตง่ งาน ๑-๒ ปี และการทำ� ขา้ วของเครอื่ งใชต้ า่ งๆ ดว้ ยฝมี อื ตนเองอยา่ งประณตี
บรรจงเรียกว่าการท�ำงานอาสา พอสรุปได้ดังน้ี (สัมภาษณ์ลุงหมอเล่ียม แก้วทิมา,
๑๒ ธนั วาคม ๒๕๕๔)
68
วตั ถปุ ระสงค์ของงานอาสา
๑. เพอื่ เปน็ เกยี รตแิ กเ่ จา้ สาว การทฝี่ า่ ยชายแสดงความจรงิ ใจมาสขู่ อฝา่ ยหญงิ
เปน็ สง่ิ ดงี ามเบอ้ื งตน้ ของการสรา้ งครอบครวั และประกาศใหร้ วู้ า่ ไดท้ ำ� ตามขนบธรรมเนยี ม
ประเพณขี องชมุ ชน
๒. เพ่ือเป็นตัวอย่างแก่ลูกหลานของตนเองว่าได้แต่งงานตามขนบธรรมเนียม
ประเพณีของชมุ ชน
๓. เป็นกศุ โลบายใหท้ ั้งสองฝา่ ยไดร้ ้จู ักซ่งึ กนั และกนั กอ่ นแต่งงาน
๔. เพ่ือให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวมีการเตรียมส่ิงของเครื่องใช้ภายในครัวเรือนของ
ตนเองกอ่ นทจี่ ะทำ� พธิ แี ตง่ งานจะมาเปน็ ผนู้ ำ� ครอบครวั ใหม้ น่ั คงแขง็ แรงตอ่ ไปในอนาคต
๕. เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นน้�ำใจ นิสัยใจคอ พฤติกรรมต้องการศึกษาถึง
นสิ ยั ใจคอของฝ่ายชายว่าเป็นคนอย่างไร
๖. เพื่อดูภาวะผู้น�ำของฝ่ายเจ้าบ่าวว่าสามารถจะดูแลลูกสาวของตนเอง
และจะมาเป็นผูน้ ำ� ครอบครวั ในอนาคตไดห้ รอื ไม่ (อ�ำนาจ กรมมา และคณะ, ๒๕๕๑,
หน้า ๖๔, และนกน้อยแห่งโพหัก, http://www.oknation.net /blog/ print.
php?id=๔๒๗๗๕๗.๒๔/๐๒/๒๕๕๕)
69
๒. ความสำ� คัญของจักสานอาสาและปัญหาอปุ สรรค
ของงานจักสานอาสา
จากข้อมูลท่ีผู้รู้ งานจักสานทั่วไปท�ำขึ้นเพ่ือใช้งานในชีวิตประจ�ำวัน
ส่วนงานจักสานอาสาท�ำขึ้นเพ่ือแสดงความรัก ความจริงใจ และความปรารถนาดี
ของชายหนุ่มท่ีมีให้กับหญิงสาว เป็นหัตถกรรมท่ีมีคุณค่าทางใจเปรียบเสมือน
ชีวิตและจิต-วิญญาณของการอาสาท�ำเครื่องใช้สอยให้แก่ผู้รับเป็นเอกลักษณ์
อันโดดเด่นเฉพาะถิ่น เป็นภูมิปัญญาซ่ึงจะเป็นพื้นฐานขององค์ความรู้สมัยใหม่
ท่ีจะช่วยในการเรียนรู้ การแก้ปัญหาและการปรับตัวในการด�ำเนินชีวิตของคนเรา
ซง่ึ ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ เป็นความร้ทู ม่ี ีอยทู่ ว่ั ไปในสังคมชุมชนและในตัวผ้รู เู้ อง
คุณทศพล แก้วทิมา ประธานสภาวัฒนธรรมต�ำบลโพหัก ได้กล่าวว่า
งานอาสาเปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา ตามวิถีของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ทางด้านวัตถุ ท�ำให้คนรุ่นใหม่เข้าไม่ถึงแก่นงานอาสาท่ีแท้จริง ซ่ึงสอดคล้องกับ
ว่าท่ีร้อยตรีสุภักดิ์ อนุกูล ผู้ทรงภูมิปัญญา ท่ีกล่าวว่างานจักสานจะเปลี่ยนแปลง
ไปตามวิวัฒนาการสมัยใหม่ในยุคอุตสาหกรรมซ่ึงสามารถผลิตงานได้ในระยะเวลา
อันส้นั งานจกั สานไมส่ ามารถเร่งมอื ในการผลิตออกสู่ตลาดไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เน่อื งจาก
ต้องใช้เวลา ความประณีต ความอดทนของผู้ท�ำ ดังนั้นงานอุตสาหกรรมพลาสติก
ซง่ึ สามารถผลติ ไดเ้ ร็วและมคี วามคงทนกว่าจงึ เข้ามาแทนที่ทำ� ให้งานจกั สานอาสาเริ่ม
สูญหายไป
หมอเลี่ยม แก้วทิมา ผู้ทรงภูมิปัญญาและได้เคยผ่านงานอาสา กล่าวว่า
งานจกั สานอาสาหนงึ่ ชน้ิ ใชเ้ วลาในการทำ� เกือบปี จงึ เป็นงานทท่ี รงคุณค่าท่ีเกดิ จากใจ
ที่เต็มไปด้วยความรัก ขั้นตอนและกรรมวิธีค่อนข้างยาก โดยต้องเริ่มต้ังแต่การ
คัดเลือกไม้ไผ่สีสุกที่มีอายุที่เหมาะสม น�ำมาตัดจักตอก และสาน สามารถเกิด
เป็นช้ินงานอาสาได้ หากท�ำขายจึงไม่คุ้มค่า เด็กสมัยปัจจุบันหากไม่อยู่กับปู่ ย่า
ตา ยาย จะท�ำงานจักสานไม่เป็น ไม่รู้การจักตอก หากอยู่กับผู้สูงวัยที่ผ่านงานอาสา
และยังคงท�ำจักสานเพื่อใช้งานในชีวิตประจ�ำวัน เด็กเหล่านั้นยังพอท�ำได้บ้างแต่
ผู้คนทีม่ ฝี มี อื ในการทำ� งานจักสานจะค่อยๆ ล้มหายตายจากไป
70
พระคุณเจ้าส�ำเริง เจ้าอาวาสวัดใหญ่โพหัก กล่าวว่าจากการที่สังคม มีการ
เปลี่ยนแปลงไปท�ำให้การด�ำรงชีวิตของผู้คนในปัจจุบันเปล่ียนไปด้วยจะเห็นได้จาก
ในสมัยก่อนชาวบ้าน ไถนา ด�ำนา ผลิตข้าวกินเองในครอบครัว แต่ปัจจุบัน
หันไปซื้อจากตลาดแทน เคร่ืองจักสานก็เช่นกัน ในอดีตมีการท�ำเคร่ืองจักสาน
ส�ำหรบั ใชใ้ นครัวเรือน แต่ปัจจบุ นั เร่ิมสญู หายไป
คุณเกษม ลือกระจ่าง รองนายกเทศมนตรีต�ำบลโพหัก ได้ให้เหตุผลที่
ท�ำให้งานจักสานสูญหายไปว่าเป็นเพราะขาดวัตถุดิบ เช่น ไม้ไผ่ ในสมัยก่อน
การตดั ไมไ้ ผม่ าใชง้ านจะเปน็ การตดั แบบดแู ลรกั ษากง่ิ เพอื่ คำ� นงึ ถงึ การใชง้ านในอนาคตดว้ ย
แต่ปัจจุบันไม้ไผ่มีไม่เพียงพอ สูญหายไปเน่ืองจากการขุดลอกคู คลอง หรือบางคร้ัง
ชาวบ้านตัดไปเพื่อปลูกบ้าน เป็นเหตุให้วัตถุดิบในการจักสานเร่ิมหายากแล้วหมดไป
นอกจากน้ี คุณฉลวย บุญแวดล้อม และคุณพัชราภา มนัสปัญญากุล นักวิชาการ
วัฒนธรรมยังได้กล่าวถึงอุปสรรคด้านสุขภาพร่างกายของผู้ท�ำ เพราะเป็นงาน
ที่ต้องใช้สายตาและเวลาในการท�ำ เน่ืองจากต้องใช้ความละเอียดผู้จักสาน
อายุน้อยท่ีสุดคือ ๖๐ กว่าปี สายตาจะเร่ิมมองไม่เห็นแล้วและประการส�ำคัญคือ
ไม่มีผู้สืบทอด เพราะเด็กสมัยใหม่ขาดความอดทนและไม่เห็นความส�ำคัญ
ท่านกล่าวว่า “แค่เหลาตอกเขาก็หนีแล้ว” งานจักสานจึงมีโอกาสสูงท่ีจะสูญไป
จากโพหัก
จากข้อมูลที่ได้กล่าวมาจึงสามารถสรุป ปัญหาและอุปสรรคของงานจักสาน
และงานจักสานอาสาตำ� บลโพหกั จังหวดั ราชบรุ ี แยกเป็นประเดน็ ไดด้ ังนี้
๑. ความเปล่ียนแปลงทางสังคม ความเจริญและวิวัฒนาการทางด้าน
อตุ สาหกรรม การผลติ ทที่ นั สมยั อยา่ งรวดเรว็ เขา้ มาในสงั คมมผี ลใหก้ ารทำ� งานจกั สาน
และจกั สานอาสาคอ่ ยๆ สญู หายไปทลี ะน้อยๆ
๒. ข้อจ�ำกัดทางด้านเวลา งานจักสานเป็นงานท่ีมีข้อจ�ำกัดของเวลา
ในการท�ำงาน งานหนึ่งช้ินต้องใช้ความละเอียดอ่อนจึีงท�ำได้ยาก หลายข้ันตอน
และใชเ้ วลานาน เม่อื เทยี บกบั งานทผี่ ลติ จากอตุ สาหกรรมสมัยใหมซ่ งึ่ มคี วามสามารถ
จะผลติ ไดใ้ นปรมิ าณมากแตใ่ ชเ้ วลานอ้ ยกวา่ จงึ ทำ� ใหไ้ มเ่ หมาะสมทจี่ ะผลติ งานจกั สาน
เพอื่ จ�ำหนา่ ย ในปัจจบุ ันจึงเปน็ การผลิตเพือ่ การอนรุ ักษ์ เก็บรักษาใหค้ งไวม้ ากกวา่
71
๓. การขาดวัตถุดิบในการผลิต ในปัจจุบันไม้ไผ่หายากเพราะขาดการดูแล
ตกแต่งกอไผ่ ท�ำให้ไผ่รุ่นใหม่ที่งอกแทนท่ีไม่สวยงาม ล�ำต้นไม่ตรง ไม่เหมาะกับการ
น�ำมาใช้งาน และไม่ระมัดระวังในการตัดไม้ไผ่มาใช้งาน ประการส�ำคัญคือการ
ปรับทด่ี ินในการปลูกสรา้ งบา้ นเรือนและการทำ� บ่อเลยี้ งกุ้ง
๔. ผลติ ภณั ฑ์เครอื่ งจักสานมรี าคาสงู เมอื่ เทียบกบั ผลิตภณั ฑร์ ปู แบบเดียวกนั
ทผ่ี ลติ จากววิ ฒั นาการสมยั ใหม่ ผคู้ นหนั ไปใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ผ่ี ลติ ขนึ้ ใหมม่ รี าคาถกู มากกวา่
จงึ ทำ� ใหผ้ ผู้ ลติ งานจกั สานพน้ื บา้ นหมดกำ� ลงั ใจในการผลติ เนอ่ื งจากไมพ่ อกบั คา่ ใชจ้ า่ ย
ในการครองชพี ในยุคปัจจบุ นั
๕. ปัญหาทางด้านสุขภาพทางสายตา งานจักสานเป็นงานท่ีต้องใช้สายตา
ในการประดิษฐ์ ดังน้ันปัญหาด้านสุขภาพทางสายตาจึงเป็นอีกปัญหาของการผลิต
งานจักสาน โดยเฉพาะในปัจจุบันผู้ที่สามารถประดิษฐ์งานจักสานและจักสานอาสา
ท่ีงดงามจะเป็นผู้สูงวัยเป็นส่วนมาก ซ่ึงมีสุขภาพทางสายตาท่ีไม่ดีนักซึ่งเป็นอุปสรรค
ต่อการผลติ งานทีท่ รงคุณคา่
๖. ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ งานจักสานอาสา เป็นงานที่ใช้ความประณีต
บรรจง เป็นงานที่ใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่ในปัจจุบันชาวบ้านต้องใช้เวลาในการ
ประกอบอาชีพหลักเสียส่วนใหญ่จึงไม่มีเวลาให้กับการท�ำงานจักสาน ซึ่งต้องใช้
เวลานานกวา่
๗. ขาดผสู้ บื ทอดรนุ่ ใหม่ ดงั ทกี่ ลา่ วมาแลว้ วา่ เปน็ งานทใ่ี ชค้ วามประณตี บรรจง
ต้องใช้ความอดทนสูง คนรุ่นใหม่ไม่สนใจที่จะฝึกหัด ดั่งค�ำกล่าวที่ว่า “แค่เหลาตอก
เขาก็หนีแล้ว” ท�ำให้อนาคตงานจักสานอาสาจะเลือนหายไปจากวิถีชีวิตของคน
ในชมุ ชน
๘. ผู้ทรงภูมิปัญญาด้านจักสานก�ำลังจะหมดไป ผู้จักสานส่วนใหญ่เป็น
ผู้สูงวัยนับวันท่านก็จะจากไปความรู้เร่ืองการจักสานก็จะติดตัวท่านไปด้วย ก็คงจะ
เหลือผลงานท่ีทรงคุณค่าโชว์ไว้ในพิพิธภัณฑ์ให้ลูกหลานชื่นชมและเรื่องเล่ากล่าวขาน
ว่าคร้ังหน่ึง ณ ชุมชนบ้านโพหัก มีประเพณีท่ีงดงามคือประเพณีอาสา เมื่อชายหนุ่ม
รกั หญงิ สาวจะตอ้ งอาสาทำ� งานเพอื่ พสิ จู นค์ วามรกั และจะทำ� “ของพเิ ศษ สำ� หรบั คนพเิ ศษ”
คงจะเหลอื ไวเ้ ป็นต�ำนานเท่าน้ัน
72
๓. จิตส�ำนกึ ในการอนรุ กั ษ์เครอ่ื งจักสานอาสา และประเพณอี าสา
จากค�ำบอกเล่าของคุณลุงหมอเล่ียม แก้วทิมา ปราชญ์ชาวบ้านผู้เคย
ผ่านการแต่งงานตามประเพณีอาสาอย่างเคร่งครัด ท�ำให้ทราบว่างานจักสานอาสา
จะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องประกอบไปด้วยค�ำว่า “จิตส�ำนึก” และ “จิตอาสา” หากเรา
ศึกษาความหมายของค�ำดังกล่าวพอสรุปได้ว่า จิตส�ำนึก หมายถึง สภาวะที่เรา
รู้สึกตัวขณะถูกเร้าด้วยส่ิงเร้าภายนอกและสิ่งเร้าภายใน จึงมีความระมัดระวัง มีการ
เตรียมตัวและต่ืนตัว จึงเกิดสภาวะจิตส�ำนึก ปกติเราจะใช้ในการกระท�ำใดๆ
ในชีวิตประจ�ำวัน ขนบธรรมเนียมประเพณีนับเป็นสิ่งเร้าภายนอกท่ีท�ำให้คนมี
จติ สำ� นกึ ทจี่ ะทำ� งานอาสาตามสงิ่ เรา้ ภายในใจของคนๆ นน้ั ซง่ึ กค็ อื ความรกั ในหญงิ สาว
และการที่คนเราจะท�ำงานอาสาได้จะต้องมี จิตอาสา ซึ่งหมายถึง ผู้ที่มีจิตใจท่ีเป็น
ผู้ให้ ให้ท้ังที่เป็นส่ิงของ ให้เงิน หรือให้ความช่วยเหลือด้วยก�ำลังแรงกาย แรงสมอง
ซึ่งเป็นการเสียสละส่ิงท่ีตนเองมีแม้กระทั่งเวลาเพื่อเผ่ือแผ่ให้กับส่วนรวม และนอก
จากนี้ผู้มีจิตอาสา จะต้องไม่นิ่งดูดายต่อสังคม หรือเม่ือเห็นความทุกข์ยากของผู้อ่ืน
แล้วปรารถนาเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยจิตใจท่ีเป็นสุขท่ีได้ช่วย ไม่ใช่แค่ท�ำประโยชน์
เพ่ือผู้อ่ืนอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนา “จิตวิญญาณ” ของเราด้วย และท่านได้
สรุปเก่ียวกับงานอาสา เป็นสิ่งหน่ึงท่ีสร้างจิตส�ำนึก จึงเป็นที่มาของค�ำว่า “อาสา”
และจักสานอาสา หนุ่มทจ่ี ะมีครอบครัวต้องมีจติ อาสา หรอื ขนั อาสา มีความเปน็ ผูน้ �ำ
จงึ เกดิ งานอาสาจนถงึ ปจั จบุ นั เชน่ ฝา่ ยเจา้ บา่ วมจี ติ อาสาทจี่ ะสานกระบงุ เพอ่ื ใหเ้ จา้ สาว
ได้ใช้สอยใส่ของไปนา เช่น กระจาด ท�ำให้ฝ่ายเจ้าสาวใช้หาบใส่ของไปท�ำบุญ
ท่ีวัด เม่ือแยกเป็นครอบครัวออกไปก็น�ำไปใช้ จึงเป็นท่ีมาของจิตอาสาสอดคล้อง
กับความเห็นของผู้ทรงภูมิปัญญาและผ่านงานอาสาในรูปแบบต่างๆ มาแล้ว
คือ คุณฉลวย บุญแวดล้อม กล่าวถึง งานอาสาในสมัยต่อๆ มาว่างานอาสา
กลายเป็นงานท่ีวานกันท�ำ ซ่ึงในปัจจุบันคนที่ท�ำงานอาสานั้นหายาก หากฝ่ายชาย
หมู่บ้านอื่นมาชอบพอฝ่ายหญิงในหมู่บ้านโพหัก เพ่ือเป็นการรักษาประเพณีก็จะมี
งานอาสามามอบให้กับฝ่ายหญิง แต่เป็นงานอาสาที่ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายชาย เช่น
ปู่ ย่า ตา ยาย ท�ำไว้ให้กับลูกหลานเพ่ือเป็นสมบัติติดตัวไปเมื่อออกเรือนเป็น
ส่วนใหญ่หรืองานอาสาท่ีจ้างวานให้ผู้ที่เคยผ่านงานอาสาช่วยท�ำให้ นอกจากนี้
คุณฉลวย บุญแวดล้อม ยังให้ความเห็นอีกว่าอยากให้มีการอนุรักษ์
73
งานจักสานอาสาให้คงอยู่ตลอดไป แต่วิถีการด�ำรงชีวิตของชาวบ้านในปัจจุบันน้ัน
ไม่เอ้ืออ�ำนวยให้ยึดอาชีพจักสานเป็นหลัก เพราะมีหนี้สิน และบางงานมีคุณค่าต่อ
ผู้ท�ำมากแต่ผู้ซื้อมองแค่อยากได้สินค้าท่ีราคาถูกเท่าน้ัน วิธีหนึ่งที่จะอนุรักษ์
งานจกั สาน คอื ฝกึ ใหล้ กู ๆ ทำ� ใหเ้ ปน็ เพอื่ เปน็ การรกั ษาไวซ้ งึ่ ภมู ปิ ญั ญาดา้ นงานจกั สาน
โดยอาจมีการพัฒนาดัดแปลงบ้างเพ่ือให้ดียิ่งขึ้น เพราะถึงแม้ผู้สร้างงานจักสาน
จะสิ้นไป แต่ผลงานยังคงอยู่ให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชอบ อีกวิธีหนึ่งท่ีจะอนุรักษ์ให้
งานจักสานคงอยู่ คือ การฝึกให้นักเรียนท�ำในโรงเรียนโดยผู้รู้ซึ่งเป็นภูมิปัญญา
ท้องถน่ิ สละเวลาเปน็ ผสู้ อน เพราะดว้ ยนักเรยี นยังมีสายตาที่ดี ทง้ั นค้ี วรเลือกนักเรียน
ที่มีใจรักและยินดีที่จะสืบสานงานจักสานต่อไป ไม่ใช่ท�ำเพียงชิ้นเดียวแล้วไม่ท�ำต่อ
อีกเลย
คุณทศพล แก้วทิมา ประธานสภาวัฒนธรรมต�ำบลโพหัก ได้กล่าวถึง
งานอาสา หรือประเพณีอาสาว่าเป็นรากเหง้าของชาวโพหัก ซ่ึงเป็นอารยธรรม
รปู แบบเดยี วทเ่ี ปน็ เอกภาพของบา้ นโพหกั สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ชมุ ชน แตป่ จั จบุ นั
สภาวการณเ์ ปลย่ี นไปตามสงั คมทเี่ ปลยี่ นแปลง กลมุ่ นายทนุ อตุ สาหกรรม ผลติ ภาชนะ
รูปแบบเดิมแต่ด้วยนวัตกรรมการผลิตแบบใหม่มาทดแทนผลิตภัณฑ์ด้ังเดิม ที่เคยใช้
หรือเคยมีอยู่ อีกทั้งความทันสมัยของคนยุคใหม่ท่ีไปเรียนต่างประเทศ เม่ือกลับมา
ได้น�ำวิวัฒนาการใหม่ๆ เข้ามาแทนของเดิมไม่รักษาประเพณีท�ำให้งานอาสา
เร่ิมสูญหายไป ยังคงหลงเหลืออยู่ก็เฉพาะผู้ท่ีได้กิน ได้อยู่ ได้ใช้สิ่งของเหล่าน้ัน
ในการดำ� รงชพี เทา่ นนั้ การทจี่ ะอนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาประเพณอี าสาใหค้ งอยคู่ วู่ ฒั นธรรม
บ้านโพหักหรือท่ีอื่นๆ ก็ดี จึงท�ำให้มีการพูดถึงค�ำว่า ภูมิปัญญา เพ่ือให้เกิดความ
ตระหนกั ในงานจกั สาน
จากขอ้ มูลขา้ งต้นพอสรุปเกี่ยวกับการสร้างจิตส�ำนกึ ในการอนรุ ักษง์ านจักสาน
อาสาต�ำบลโพหัก จงั หวัดราชบุรี ได้ว่า ปราชญ์ผู้รูแ้ ละชาวบา้ นปจั จบุ ันควรทจี่ ะรักษา
และพฒั นาประเพณอี าสาใหค้ งอยคู่ วู่ ฒั นธรรมบา้ นโพหกั โดยการสบื คน้ รวบรวม ศกึ ษา
ถ่ายทอด พัฒนาและน�ำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางโดยภูมิปัญญาท่ีมีประกอบ
กับวัฒนธรรมประเพณีมาช่วยกันรักษาไว้ให้เยาวชนรุ่นใหม่เกิดความตระหนักในงาน
จกั สานอาสาของชมุ ชน
74
๔. การมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษง์ านจกั สานอาสาของบุคคล
ทเ่ี กีย่ วข้อง
จากการศึกษางานวิจัยเก่ียวกับการมีส่วนร่วม (participation) พบว่า
เก่ียวข้องทางด้านจิตใจและอารมณ์ของบุคคลหน่ึงที่ได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม ซึ่งเร้าใจ
ให้กระท�ำการให้บรรลุจุดมุ่งหมายของกลุ่มท�ำให้เกิดการมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
กบั กลมุ่ ดงั กลา่ ว (นิรันดร์ จงวุฒเิ วศย,์ ๒๕๒๗, หนา้ ๑๘๓) การท่บี ุคคลใดไดเ้ ข้าร่วม
กิจกรรมกลุ่มไม่มากก็น้อยด้วยการตัดสินใจอย่างอิสระ เสมอภาค จึงเรียกว่า การมี
ส่วนร่วม (นรินทร์ชัย พัฒนพงศา, ๒๕๔๖, หน้า ๔) นอกจากนี้ผลจากการมีความ
ตอ้ งการจะเขา้ รว่ มในกจิ กรรมนำ� ไปสกู่ ารเกดิ ความคดิ รเิ รมิ่ โครงการหรอื เกดิ การปฏบิ ตั ิ
หรอื กระทำ� การใหม่ๆ เกดิ ขน้ึ ในตำ� บลโพหกั (ยพุ าพร รูปงาม, ๒๕๔๕, หน้า ๕)
ส�ำหรับการส่งเสริมให้ประชาชนหรือชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
งานจักสานอาสานั้นจึงควรเร่ิมจากการสร้างจิตส�ำนึกให้คนในชุมชนเกิดความรัก
และความภาคภูมิใจในประเพณีอันงดงามของท้องถิ่นของตน ผู้น�ำท้องถ่ินหรือ
ผู้เกี่ยวข้องจึงควรท่ีจะส่งเสริมให้ประชาชน หรือ ชุมชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม
ในการคิด ตัดสินใจ ในการก�ำหนดนโยบายพัฒนาและมีส่วนร่วมในการจัดโครงการ
สืบสานประเพณีจกั สาน รวมทัง้ มสี ว่ นในการรบั ผดิ ชอบ ควบคมุ ประเมินผลโครงการ
ต่างๆ ของท้องถ่ินด้วย การอนุรักษ์จึงควรเร่ิมจากการสร้างความสามัคคี รวมทั้ง
การสร้างจติ ส�ำนึกใหเ้ กิดในหมคู่ ณะ
จากเวทกี ารประชมุ กลมุ่ ยอ่ ยผรู้ ทู้ า่ นหนง่ึ ไดเ้ สนอแนะวธิ กี ารอนรุ กั ษห์ ตั ถกรรม
เคร่ืองจักสานว่าควรสนับสนุนให้มีการผลิตงานจักสานโดยผู้น�ำท้องถิ่นส่งเสริม
ดา้ นสถานทจ่ี ดั จำ� หนา่ ย ทำ� ใหช้ าวบา้ นในแตล่ ะชมุ ชนทผี่ ลติ ผลงานสามารถทจ่ี ะจำ� หนา่ ย
และมีรายได้เล้ียงชีพได้โดยท่ีสถานที่วางจ�ำหน่ายสินค้าอาจเป็นตามตลาดชุมชน
หรือตลาดวัฒนธรรมท่ีเป็นเส้นทางการสัญจรของคนท่ัวไป หากเป็นเช่นน้ีเชื่อว่า
การผลิตงานจักสานจะต้องมีจ�ำนวนมากขึ้น บุตร-หลานของแต่ละบ้านท่ีผลิต
จะซึมซับประเพณีจักสานจากการได้เห็น ได้เรียนรู้ ได้สัมผัสเสมือนกับเป็นการมี
ส่วนรว่ มในการอนุรักษ์งานจกั สาน และพฒั นาเปน็ จกั สานอาสาได้
75
นักวิชาการด้านวัฒนธรรมท่านหน่ึง ได้แสดงทัศนะของท่านว่า การร่วมกัน
อนุรักษ์งานจักสานอาสาบ้านโพหักไว้นับว่าเป็นความจ�ำเป็นอย่างย่ิง เนื่องจาก
ในอนาคตทิศทางคนรุ่นใหม่ในเมืองส่วนมากจะกลับสู่ท้องถ่ินบ้านเกิดซ่ึงจะท�ำให้
ในท้องถ่ินแต่ละท้องถิ่นเกิดการเปล่ียนแปลงไปตามแนวคิดของคนรุ่นใหม่ ดังนั้น
คนรุ่นเกา่ ต้องเป็นแรงขับเคลอ่ื นใหค้ นรุน่ ใหม่ ร่วมกันอนรุ กั ษ์ รวมท้งั รว่ มกนั ผลกั ดนั
ให้เกิดเทศบัญญัติหรือข้อก�ำหนดเพื่อรักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านไว้ให้คงอยู่ นอกจากน้ี
ควรจัดการอบรมเด็กรุ่นใหม่ให้หัดท�ำงานจักสานซึ่งอาจจะจัดไว้ในหลักสูตร
ภูมิปัญญาท้องถ่ินนี้ เข้าในหลักสูตรการเรียนของนักเรียนในโรงเรียนในชุมชนด้วย
แต่ทั้งน้ีต้องได้รับความร่วมมือจากชุมชนในท้องถิ่นและผู้น�ำ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย
ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในท้องถ่ิน ให้ความช่วยเหลือ
ดา้ นการสง่ บุคลากร และนกั ศึกษามาให้ความรูแ้ ก่ชนรุ่นใหม่
การมีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์งานจกั สานอาสา สรปุ ได้ ๕ ข้อดังนี้
๑. การอนรุ กั ษง์ านจกั สานอาสาจะคงอยไู่ ดต้ อ้ งอาศยั ความสามคั คขี องหมคู่ ณะ
๒. คนรนุ่ เกา่ ซงึ่ มคี วามรดู้ า้ นวถิ วี ฒั นธรรมพน้ื ถน่ิ รว่ มกนั ถา่ ยทอดสคู่ นรนุ่ ใหม่
เพ่อื รักษาวัฒนธรรมไวใ้ ห้คงอยูต่ อ่ ไป
๓. ชุมชนและท้องถิ่นต้องร่วมมือกันอาศัยวิถีชนบท บ้าน โรงเรียน และวัด
ในการอนุรักษ์
๔. ส่งเสริมในการอนุรักษ์และสร้างสรรค์ผลงาน ต้องอาศัยกลยุทธ์เชิงธุรกิจ
เข้าช่วย
๕. ผนู้ ำ� ระดบั ทอ้ งถน่ิ อำ� เภอ จงั หวดั และมหาวทิ ยาลยั ในทอ้ งถน่ิ ควรมสี ว่ นรว่ ม
ในการอนุรักษ์
76
๕. รปู แบบและวิธีการในการอนุรกั ษ์เครื่องจักสานอาสา
ผทู้ รงภมู ปิ ญั ญา พระคณุ เจา้ สำ� เรงิ เจา้ อาวาสวดั ใหญโ่ พหกั ผรู้ หู้ ลายทา่ นกลา่ ววา่
ปจั จบุ นั คนทท่ี ำ� งานจกั สานเปน็ มอี ยนู่ อ้ ย คงเหลอื ทม่ี ชี วี ติ อยปู่ ระมาณ ๗-๘ คนเทา่ นนั้
ดงั น้นั จงึ เปน็ ความจำ� เป็นท่หี นว่ ยงานวัฒนธรรมตำ� บลโพหกั ต้องหาวธิ ีการอนุรักษ์วัด
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชุมชน ควรร่วมมือในการอนุรักษ์งานจักสานอาสาให้คงอยู่
โดยการจดั ทำ� เปน็ พพิ ธิ ภณั ฑใ์ นศาลาเรอื นไมเ้ พอื่ แสดงประวตั แิ ละผลงานจกั สานอาสา
ทเ่ี ปน็ ของบา้ นโพหกั โดยมงุ่ หวงั ใหค้ นรนุ่ หลงั มาศกึ ษาเพอ่ื ใหเ้ หน็ คณุ คา่ ของงานอาสา
มากยงิ่ ขน้ึ และยงั รว่ มเสนอแนวทางรกั ษาภมู ปิ ญั ญาไวใ้ หเ้ ปน็ รปู ธรรมคอื การถา่ ยทอด
ผา่ นลกู หลาน โดยการถา่ ยทอดผา่ นวธิ กี ารทำ� เปน็ ขน้ั เปน็ ตอน ใหเ้ หน็ ใหท้ ำ� โดยเขยี น
เป็นแผนภาพไดด้ ังนี้
องค์ความรู้ ถา่ ยทอด สง่ เสริม รักษาไว้ใหค้ งอยู่
๑. ด้านองค์ความรู้ มาจากปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งมีภูมิปัญญาเป็นองค์ความรู้
ท่ถี า่ ยทอดโดยผ่านการฝึกฝนและพฒั นาฝมี อื จนช�ำนาญ
๒. ด้านการถ่ายทอด คือ การที่ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อและแม่ ถ่ายทอด
องค์ความรู้ท่ีผ่านการพัฒนาฝีมือจนช�ำนาญแล้วให้กับผู้อ่ืนท้ังภายในครอบครัว
ในสถานศึกษา หรือหน่วยงานภาครัฐ ซ่ึงนับเป็นการอนุรักษ์รูปแบบและภูมิปัญญา
ให้คงอยู่เฉพาะถ่นิ แตล่ ะถิน่
๓. ด้านการส่งเสริม คือ การได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ
และเอกชนในด้านต่างๆ เช่น การเรียน การสอน หรือการจัดแสดงนิทรรศการ
ประเพณีวัฒนธรรมประจ�ำถ่ิน เพ่ือโชว์ผลงาน มีการประกวด แข่งขันและมีรางวัล
เป็นสิ่งจูงใจ เม่ือมีผู้เข้าร่วมแข่งขันมาก การแสดงผลงานที่ท�ำก็มีมากขึ้น มีความ
หลากหลาย ผทู้ ่เี ข้าชมจะมีโอกาสไดพ้ บเห็นผลงานอนั ทรงคณุ ค่าของทอ้ งถน่ิ
๔. การรักษาให้คงอยู่ คือ การท่ีบุคคลหรือหน่วยงานแสดงบทบาทในการ
อนุรักษ์วัฒนธรรม และประเพณีไทยเฉพาะงานจักสานอาสาให้คงอยู่ต่อไปชั่วลูก
ช่ัวหลาน โดยที่บุคคลเหล่านี้ควรเป็นผู้น�ำท้องถ่ิน สภาวัฒนธรรมท้องถ่ิน สถาบัน
การศกึ ษา หนว่ ยงานภาครฐั เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลยั
77
สรปุ แนวทางการอนรุ กั ษ์ไดด้ ังนี้ คอื
๑. จัดต้งั กล่มุ อาสาท่ีจกั สาน ท�ำงานด้วยจติ อาสาแลว้ น�ำผลงานมาแสดง
๒. จัดท�ำผลิตภัณฑ์ ประเภทของฝาก ชิ้นเล็ก ช้ินใหญ่ เพ่ือเป็นการเผยแพร่
ของดีโพหกั
๓. จัดกลุ่มสอนการเรียนรู้ของกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มอาสาเพ่ือท�ำงานจักสาน
เป็นอาชีพ เม่ือเป็นอาชีพแลว้ ก็จะคงอย่ไู มส่ ญู หาย
๔. การจัดท�ำสื่อการเรียนการสอนท่ีบ้าน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ท่ัวถึงทุกบ้าน
อาจท�ำเป็นซีดี วีซีดี ที่แสดงข้ันตอนการท�ำงานแต่ละชิ้น หากท�ำได้จะเป็นประโยชน์
อย่างมากและหัตถกรรมเครื่องจักสานอาสาบ้านโพหักก็จะยังคงอยู่ตลอดไป ท้ังยัง
แสดงถงึ เอกลักษณ์เฉพาะ ทีค่ นพืน้ ทอี่ นื่ ไมส่ ามารถเลยี นแบบได้
สรุปรูปแบบและวิธีการในการอนุรกั ษเ์ ครือ่ งจกั สานอาสา
ข้อมูลจากการประชุมกลุ่มย่อยด้านรูปแบบของการอนุรักษ์และฟื้นฟู
เคร่ืองจักสานอาสาซึ่งเป็นภูมิปัญญาของท้องถ่ินต�ำบลโพหัก จังหวัดราชบุรี จาก
ความคิดเห็นของผู้ทรงภูมิปัญญา ช่างจักสาน ผู้น�ำท้องถิ่น นักวิชาการ สามารถ
สรุปสาระส�ำคญั ของรูปแบบและวธิ กี ารอนุรักษ์เครอ่ื งจกั สานอาสา ดังนี้
๑. เรม่ิ ทก่ี ารใหค้ วามรกู้ บั คนในชมุ ชน ควรศกึ ษา คน้ ควา้ วจิ ยั และเกบ็ รวบรวม
ข้อมูล องค์ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นในด้านต่างๆ ในอดีตและปัจจุบัน
มาถ่ายทอดให้เกิดความตระหนักในวิถีของวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี
ของทอ้ งถน่ิ
๒. น�ำภูมิปัญญาท่ีผ่านการฝึกฝนจนช�ำนาญไปถ่ายทอด ให้คนในครอบครัว
รุ่นลูกหลานและคนในสังคมได้รับรู้ เกิดความเข้าใจตระหนักในคุณค่า คุณประโยชน์
และปฏิบัติได้ นอกจากน้ีสถาบันการศึกษาในท้องถิ่นควรร่วมมือในการจัดกิจกรรม
ทางวัฒนธรรม สร้างจิตส�ำนึกของความเป็นคนในท้องถิ่นนั้นๆ ให้ร่วมกันอนุรักษ์
78
ภมู ปิ ญั ญาท่ีเปน็ เอกลักษณ์ของท้องถ่นิ สบื ไป
๓. เผยแพร่ผลงานที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักของคนท่ัวไป
โดยการจดั ทำ� ของฝาก ของทีร่ ะลกึ
๔. จัดต้ังพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อแสดงสภาพชีวิตและความเป็นมาของชุมชน
โดยเก็บรวบรวมผลงานจักสานอาสาท่ีแท้จริงของบ้านโพหัก เพ่ือให้เยาวชนรุ่นหลัง
มโี อกาสไดด้ ไู ดศ้ กึ ษาหาความรดู้ า้ นประวตั คิ วามเปน็ มาอนั จะสรา้ งความภมู ใิ จในชมุ ชน
ทราบปญั หาและอปุ สรรคในการสรา้ งงานในปจั จบุ นั และเพอ่ื ใหค้ นตา่ งถนิ่ ทมี่ าเยยี่ มชม
ได้เห็นเอกลักษณพ์ ้ืนถ่ินของบ้านโพหัก
๕. รเิ รมิ่ ทจี่ ะพฒั นา สรา้ งสรรคแ์ ละปรบั ปรงุ ภมู ปิ ญั ญาใหเ้ หมาะสมกบั ยคุ สมยั
และเกิดประโยชน์ในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันโดยใช้ภูมิปัญญาเป็นพื้นฐานในการ
รวมกลุ่มการพัฒนาอาชีพโดยน�ำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยเพ่ือ
ตอ่ ยอดการผลติ การตลาด และการบรหิ าร ตลอดจนการปอ้ งกนั และอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม
๖. จัดกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการสืบสานและพัฒนาภูมิปัญญา
ของชมุ ชนโดยการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมท้องถิน่ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๗. เสรมิ สรา้ งปราชญท์ อ้ งถน่ิ โดยการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ และพฒั นาศกั ยภาพ
ของคนรนุ่ ใหมโ่ ดยการสรา้ งหลกั สตู รและอบรมการจกั สาน โดยผทู้ รงภมู ปิ ญั ญาความรู้
ใหค้ นรุน่ ใหม่ไดเ้ รยี นรูแ้ ละสบื สานวัฒนธรรมท้องถ่นิ ตอ่ ไป
79
บรรณานกุ รม
กรมศลิ ปากร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๔๔). พพิ ธิ ภณั ฑแ์ หง่ ชาติ ราชบรุ แี ละจงั หวดั ราชบรุ .ี
กรุงเทพฯ: สมาพนั ธ.์
จิรวัฒน์ นาคพนม. (๒๕๔๙). การพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถ่ินในด้าน
อาชีพจกั สานของชุมชนในจงั หวดั อา่ งทอง. ปรญิ ญานพิ นธก์ ารศกึ ษาดุษฎบี ัณฑติ
สาขาวชิ าการศกึ ษาผ้ใู หญ่ บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ.
นกน้อยแห่งโพหัก. (๒๕๕๒). ประเพณีอาสา-เครื่องจักสานบ้านโพหัก. [ระบบออนไลน์].
แหลง่ ทม่ี า http://www.oknation.net/blog/nonglek /๒๐๐๙/๐๔/๑๘/entry-๑.
สบื คน้ เม่อื ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๔.
นรนิ ทรช์ ยั พฒั นพงศา. (๒๕๔๖). การมสี ว่ นรว่ ม หลกั การพน้ื ฐาน เทคนคิ และกรณตี วั อยา่ ง.
กรุงเทพฯ: ๕๙๘ Print.
นิรันดร์ จงวุฒิเวศย์. (๒๕๒๗). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนา. กรุงเทพฯ:
มหาวิทยาลัยมหดิ ล.
ยุพาพร รปู งาม. (๒๕๔๕). การมีสว่ นร่วมของข้าราชการส�ำนักงบประมาณ ในการปฏิรูป
ระบบราชการ. ภาคนพิ นธศ์ ลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร.์
วิบูลย์ ลส้ี ุวรรณ. (๒๕๓๓). หตั ถกรรมพืน้ บ้าน. เอกสารการสอนชดุ วชิ าศิลปะ การละเล่น
และการแสดงพน้ื บา้ นไทย. นนทบรุ :ี มหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช.
.................... (๒๕๓๙). เครื่องจักสานในประเทศไทย (พิมพ์ครั้งที่ ๒). กรุงเทพฯ:
โอ.เอส.พริ้นต้ิงส.์
ศักดิ์ชัย สิงห์ไกรสร และคณะ. (๒๕๔๔). วิถีชวี ิตชาวโพหกั . ราชบรุ ี: เทศบาลตำ� บลโพหกั .
สดุ ใจ ขวญั ดำ� . (๒๕๕๓). ผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งจกั สานไมไ้ ผ:่ กรณศี กึ ษาผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งจกั สาน
ไม้ไผ่ใน ตำ� บลบางเจา้ ฉ่า อ�ำเภอโพธิท์ อง จงั หวดั อ่างทอง. วทิ ยานพิ นธก์ ารศกึ ษา
มหาบณั ฑิต สาขาวชิ าศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั
ศรีนครินทรวิโรฒ.
80
วำรสำร จกั สำนอำสำภูมปิ ัญญำทอ้ งถิน่ บ้ำนโพหกั
เจ้ำของ
สา� นกั ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวทิ ยาลัยราชภัฏหมบู่ า้ นจอมบึง
โทรศัพท ์ ๔๖ หม่ ู ๓ ตา� บลจอมบงึ อา� เภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
วัตถปุ ระสงค ์ ๐-๓๒๗๒-๐๕๓๒ เวบ็ ไซต ์ : http://culture.mcru.ac.th/
ทป่ี รึกษำ เพื่อรวบรวมและเผยแพร่องค์ความรู้จกั สานอาสาภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นบา้ นโพหัก
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยฤทธิ ์ ศลิ าเดช
บรรณำธกิ ำรบริหำร รักษาราชการแทนอธิการบด ี มหาวิทยาลัยราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบงึ
บรรณำธิกำร ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยเ์ บญจา ลขิ ติ ยงิ่ วรา ผอู้ า� นวยการสา� นกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม
ผชู้ ่วยบรรณำธกิ ำร อาจารย์ดรุณ ี ร่า� รวย ผูช้ ่วยผ้อู า� นวยการส�านักศลิ ปะและวัฒนธรรม
คณะท�ำงำน นางถิรดา โสมนสั เจา้ หน้าทบ่ี ริหารงานทั่วไป
อาจารย์ ดร. ประภสั สร มนี อ้ ย รองผูอ้ �านวยการสา� นกั ศลิ ปะและวัฒนธรรม
อาจารยเ์ จนคณิต สุขสมั ฤทธ์ ิ รองผ้อู า� นวยการสา� นักศิลปะและวัฒนธรรม
อาจารย์ชชั วาล อินทรปาลติ รองผอู้ �านวยการสา� นักศิลปะและวัฒนธรรม
นางสาวทิพยว์ รรณ ทบั ทิมหิน เจา้ หนา้ ทบ่ี ริหารงานท่ัวไป
ออกแบบปกและรูปเล่ม นางอมรรตั น ์ หรสิทธิ์ เจ้าหน้าทบ่ี รหิ ารงานทว่ั ไป
พมิ พท์ ่ี ส�านักศลิ ปะและวัฒนธรรม มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมู่บ้านจอมบงึ
เมืองราชการพิมพ์ ๔๔/๓๖-๓๗ ถ.เพชรเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุร ี
จ.ราชบรุ ี ๗๐๐๐๐ โทรศัพท์ ๐-๓๒๓๒-๓๗๗๗
ประมวล สำ� นักศิลปะและวัฒนธรรม
ภำพกจิ กรรม OFFICE OF ARTS AND CULTURE
มหำวิทยำลยั รำชภัฏหมู่บำ้ นจอมบึง
Muban Chombueng Rajabhat University
ออกแบบและพิมพ์ : เมืองรำชกำรพมิ พ์ จ.รำชบุรี โทร. ๐๘๕-๑๙๓๗๒๗๙, ๐๓๒-๓๒๓๗๗๗