::: 48 :::
แผนภาพแสดงการเปลย่ี นแปลงพลงั งานในการเกดิ สารประกอบโซเดยี มคลอไรด์ 1 โมล
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างพลงั งานแลตทซิ กบั จดุ หลอมเหลวของสารประกอบไอออนกิ
สารประกอบ พลงั งานแลตทซิ (kj/mol) จดุ หลอมเหลว (°C)
LiF 1,107 845
LiCl 828 610
LiBr 787 550
LiI 732 450
NaCl 787 801
NaBr 736 750
NaI 686 662
MgCl2 2,527 714
Na2O 2,570 ระเหดิ ท่ี 1,275
MgO 3,890 2,800
จากตาราง สามารถสรุปได้ ดงั น้ี
1. พลงั งานแลตทซิ ทม่ี คี ่ามากขน้ึ จะบง่ บอกถงึ ความมเี สถยี รภาพของของแขง็ และการยดึ เกาะกนั ระหวา่ งไอออนท่ี
เพมิ่ ขน้ึ จงึ สง่ ผลใหต้ อ้ งใชพ้ ลงั งานในการหลอมเหลวของแขง็ ชนดิ นนั้ ๆมากขน้ึ ของแขง็ จงึ มจี ดุ หลอมเหลวสงู ขน้ึ
ตามค่าพลงั งานแลตทซิ ทม่ี ากขน้ึ
2. ไอออนทม่ี ปี ระจบุ วกหรอื ประจุลบมากขน้ึ เช่น Mg2+ หรอื O2- จะทาใหเ้ กดิ แรงดงึ ดดู ระหว่างประจุเพมิ่ ขน้ึ
ดว้ ยเหตุน้จี งึ ทาใหส้ ารประกอบ MgCl2 Na2O และ MgO มคี ่าพลงั งานแลตทซิ ทส่ี งู กว่าปกตเิ มอ่ื เทยี บกบั
สารประกอบอ่นื ๆ สว่ นจุดหลอมเหลวทม่ี คี ่าแปรเปลย่ี นไปต่าบา้ งสงู บา้ ง เน่อื งจากมปี ัจจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ระยะหา่ ง
ระหวา่ งประจบุ วกและประจลุ บเขา้ มาเกย่ี วขอ้ งดว้ ย
เอกสารประกอบการเรยี น ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธ์ุ อ่านาคิล
โรงเรยี นชัยนาทพทิ ยาคม
::: 49 :::
แบบฝึ กหดั
เร่ือง พลงั งานกบั การเกิดสารประกอบไอออนิก
กาหนดค่าพลงั งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ซเี ซยี มและฟลอู อรนี ดงั น้ี
ชนิดของพลงั งาน ค่าของพลงั งาน (kj/mol)
พลงั งานแลตทซิ ของ CsF 759
สมั พรรคภาพอเิ ลก็ ตรอนของ F 328
พลงั งานการระเหดิ ของ Cs 76
พลงั งานพนั ธะของ F2 159
พลงั งานไอออไนเซชนั ลาดบั ท่ี 1 ของ Cs 376
จากข้อมลู ตอบคาถามต่อไปนี้
1. เขยี นสมการของปฏกิ ริ ยิ าและสมการของปฏกิ ริ ยิ ายอ่ ยของการเกดิ สารประกอบ
พรอ้ มทงั้ ระบุวา่ แต่ละขนั้ ตอนดดู พลงั งานหรอื คายพลงั งาน
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการเรยี น ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธ์ุ อา่ นาคลิ
โรงเรียนชัยนาทพิทยาคม
::: 50 :::
2. คานวณพลงั งานการเกดิ สารประกอบซซี ยี มฟลอู อไรด์ พรอ้ มทงั้ ระบุวา่ แต่ละขนั้ ตอนดดู พลงั งาน
หรอื คายพลงั งาน
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
3. เขยี นภาพวฏั จกั รบอรน์ – ฮาเบอร์ ของการเกดิ สารประกอบซเี ซยี มฟลอู อไรด์
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธุ์ อา่ นาคลิ
โรงเรียนชยั นาทพิทยาคม
::: 51 :::
2.5 สมบตั ิของสารประกอบไอออนิก
1. สารประกอบไอออนิกมีจดุ หลอมเหลวและจดุ เดือดสงู เน่อื งจากแรงดงึ ดดู ระหวา่ งประจไุ ฟฟ้า
ของไอออนบวกกบั ไอออนลบมคี า่ มาก ทาใหส้ ารประกอบไอออนกิ จดั เรยี งตวั ชดิ กนั อยา่ งเป็นระเบยี บและมคี วาม
หนาแน่นมาก เมอ่ื สารประกอบไอออนิกจะเปลย่ี นสถานะจงึ ตอ้ งใชพ้ ลงั งานความรอ้ นสงู เพ่อื สลายพนั ธะในผลกึ
ทาใหไ้ อออนแยกห่างออกจากกนั ไดจ้ งึ มผี ลใหจ้ ดุ หลอมเหลวและจดุ เดอื ดสงู ดว้ ย
ตารางแสดงจดุ หลอมเหลวและจดุ เดอื ดของสารประกอบไอออนิกบางชนดิ
2. สารประกอบไอออนอกมคี วามแขง็ แต่เปราะ เมอ่ื ทุบหรอื เคาะจะทาใหเ้ กดิ การเคลอ่ื นทข่ี อง
ไอออนทอ่ี ยใู่ นผลกึ ซง่ึ การเคลอ่ื นทเ่ี พยี งเลก็ น้อยกอ็ าจทาใหไ้ อออนชนดิ เดยี วกนั มาอยใู่ กลก้ นั ซง่ึ จะเกดิ แรงผลกั
กนั และเกดิ การแตกของผลกึ ไอออนกิ และพบว่า การแตกของผลกึ ไอออนิกจะเป็นเหลย่ี ม ซง่ึ ไมโ่ คง้ มน
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธุ์ อ่านาคิล
โรงเรยี นชัยนาทพทิ ยาคม
::: 52 :::
3. การนาไฟฟ้าของสารประกอบไอออนิก สารประกอบไอออนิกถา้ อยใู่ นสถานะของแขง็ จะไม่นา
ไฟฟ้าเพราะไอออนจดั เรยี งชดิ กนั อยา่ งหนาแน่นมาก ไมส่ ามารถแสดงอานาจไฟฟ้าได้ แต่เมอ่ื สารประกอบไอ
ออนกิ เปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว ไอออนออกหา่ งจากกนั ไอออนบวกและไอออนลบสามารถแสดงอานาจไฟฟ้า
จงึ ทาใหส้ ารประกอบไอออนกิ นาไฟฟ้าได้ และเมอ่ื สารประกอบไอออนิกละลายน้า จะแตกตวั เป็นไอออนบวก
และไอออนลบอยา่ งอสิ ระเพราะมโี มเลกุลของน้ามาลอ้ มรอบไมใ่ หไ้ อออนบวกและไอออนลบมารวมตวั กนั ให้
สารละลายทน่ี าไฟฟ้าไดเ้ รยี กว่า สารละลายอเิ ลก็ โทรไลต์
สภาพนาไฟฟ้าของสารประกอบไอออนิก
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธ์ุ อา่ นาคลิ
โรงเรยี นชัยนาทพทิ ยาคม
::: 53 :::
4. สภาพละลายไดข้ องสารประกอบไอออนกิ โดยสภาพละลายไดข้ องสารนัน้ เป็นความสามารถ
ของสารละลายไดใ้ นตวั ทาละลายจนกระทงั่ เกดิ การอมิ่ ตวั สภาพการละลายไดส้ ่วนใหญ่ หมายถงึ การละลาย
ของสารในน้า ซง่ึ การบอกสภาพการละลายไดโ้ ดยทวั่ ไป มี 3 ระดบั ดงั น้ี
- ละลายไดด้ ี หมายถงึ ละลายไดม้ ากกวา่ 1 กรมั ในน้า 100 กรมั
- ละลายไดเ้ ลก็ น้อยหรอื ละลายไดบ้ างสว่ น หมายถงึ ละลายไดม้ ากกวา่ 0.1 กรมั แต่ไมเ่ กนิ
1 กรมั ในน้า 100 กรมั
- ไมล่ ะลาย หมายถงึ ละลายไดน้ ้อยกว่า 0.1 กรมั ในน้า 100 กรมั
สารประกอบไอออนิกบางชนดิ มคี ่าสภาพละลายไดใ้ นน้าสงู บางชนิดมี
ค่าสภาพการละลายไดใ้ นน้าต่ามาก และบางชนดิ ไมล่ ะลายน้า
การละลายของสารประกอบไอออนกิ ในน้าจะมพี ลงั งานเขา้ มาเก่ยี วขอ้ ง 2 พลงั งาน ดงั น้ี
1. พลงั งานโครงรา่ งผลกึ หรอื พลงั งานแลตทซิ (lattice energy : Hlatt) เป็นพลงั งานทต่ี อ้ งใชใ้ น
การแยก 1 โมล ของสารประกอบไอออนิกในสถานะของแขง็ ใหเ้ ปลย่ี นไปเป็นไอออนในสถานะ
แก๊ส เชน่
2. พลงั งานไฮเดรชนั (hydration energy : Hhyd) เป็นพลงั งานทค่ี ายออกมาเมอ่ื ไอออนบวกหรอื
ไอออนลบในสถานะแก๊สรวมตวั กบั โมเลกุลของน้า เชน่
สมการรวมสามารถเขยี นได้ ดงั น้ี
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธ์ุ อา่ นาคิล
โรงเรียนชัยนาทพทิ ยาคม
::: 54 :::
การละลายของสารประกอบไอออนกิ ในน้าอาจมกี ารเปลย่ี นแปลงพลงั งานแบบดดู พลงั งานหรอื
คายพลงั งานกไ็ ด้ ขน้ึ อยกู่ บั คา่ พลงั งานแลตทซิ และพลงั งานไฮเดรชนั ดงั น้ี
- ถา้ พลงั งานแลตทซิ (ดดู พลงั งาน) พลงั งานไฮเดรชนั (คายพลงั งาน) การละลายจะเป็น
แบบดดู พลงั งาน ซง่ึ สงั เกตไดจ้ ากอณุ หภมู ขิ องสารละลายจะต่าลงหลงั จากทส่ี ารนนั้ ละลายหมด
- ถา้ พลงั งานแลตทซิ (ดดู พลงั งาน) พลงั งานไฮเดรชนั (คายพลงั งาน) การละลายจะเป็นแบบ
คายพลงั งาน ซง่ึ สงั เกตไดจ้ ากอณุ หภมู ขิ องสารละลายจะสงู ขน้ึ หลงั จากทส่ี ารนนั้ ละลายหมด
- ถา้ พลงั งานแลตทซิ (ดดู พลงั งาน) พลงั งานไฮเดรชนั (คายพลงั งาน) การละลายจะเป็นแบบ
ไมด่ ดู และไมค่ ายพลงั งาน ซง่ึ สงั เกตไดจ้ ากอณุ หภมู ขิ องสารละลายจะไมเ่ ปลย่ี นแปลงหลงั จากทส่ี าร
นนั้ ละลายหมด
- ถา้ พลงั งานแลตทซิ (ดดู พลงั งาน) พลงั งานไฮเดรชนั (คายพลงั งาน) สารนนั้ จะไมล่ ะลายน้า
ความสามารถในการละลายน้าของสารประกอบไอออนิกแต่ละชนดิ จะมคี ่าไมเ่ ท่ากนั
ซง่ึ สามารถพจิ ารณาไดจ้ ากตาราง
สารประกอบไอออนิกทไ่ี มล่ ะลายน้าทค่ี วรทราบ เช่น AgCl ใหต้ ะกอนสขี าว AgI
ใหต้ ะกอนสขี าวนวล PbI2 ใหต้ ะกอนสเี หลอื ง Fe(OH)3 ใหต้ ะกอนวนุ้ สแี ดง และ MnO2 ให้
ตะกอนสนี ้าตาลดา
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธุ์ อา่ นาคิล
โรงเรียนชัยนาทพทิ ยาคม
::: 55 :::
การเขยี นสมการแสดงการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าของสารประกอบไอออนกิ นนั้ สามารถเขยี นได้ 3 ประเภท ดงั น้ี
1. สมการโมเลกุล (molecular equation) เป็นสมการทเ่ี ขยี นแสดงสตู รโมเลกุลของสารตงั้ ตน้
และสารผลติ ภณั ฑท์ เ่ี ขา้ ทาปฏกิ ริ ยิ ากนั เชน่
2. สมการไอออนกิ รวม (total ionic equation) เป็นสมการทเ่ี ขยี นเฉพาะไอออนทเ่ี ขา้ ทา
ปฏกิ ริ ยิ าเท่านนั้ สว่ นสารประกอบใดทไ่ี มเ่ กดิ การแตกตวั จะไมเ่ ขยี นเป็นไอออน เช่น
3. สมการไอออนกิ สุทธิ (net ionic equation) เป็นสมการทเ่ี ขยี นไอออนทเ่ี ขา้ ทาปฏกิ ริ ยิ ากนั
ไดเ้ กลอื ทไ่ี มล่ ะลายน้าหรอื แก๊ส โดยจะหกั ลา้ งไอออนบวกและไอออนลบทเ่ี หมอื นกนั ทางดา้ นสารตงั้ ตน้ และ
ผลติ ภณั ฑอ์ อก เชน่
เอกสารประกอบการเรยี น ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธุ์ อ่านาคิล
โรงเรยี นชยั นาทพิทยาคม
::: 56 :::
แบบฝึ กหดั
เร่อื ง สมการไอออนิก
1. สารละลายทก่ี าหนดใหค้ ่ใู ดทผ่ี สมกนั แลว้ เกดิ ตะกอน เขยี นสมการไอออนิกและสมการไอออนกิ สทุ ธิ พรอ้ มทงั้
ระบุช่อื ของตะกอนทเ่ี กดิ ขน้ึ
1.1 LiCl กบั AgNO3
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 KI กบั Pb(NO3)2
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
1.3 NH4Cl กบั Ca(OH)2
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการเรยี น ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธ์ุ อ่านาคิล
โรงเรียนชยั นาทพิทยาคม
::: 57 :::
2. จากสารทก่ี าหนดใหต้ ่อไปน้ี
KCl Na₂SO₄ CaSO₄ BaCO₃ Mg(OH)₂
AgNO₃ BaCl₂ NaHCO₃ MgSO₄
2.1 สารชนิดใดไมล่ ะลายน้า
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
2.2 สารละลายคใู่ ดทผ่ี สมกนั แลว้ ไดต้ ะกอนแบเรยี มซลั เฟต (BaSO4) และเขยี นสมการไอออนกิ สทุ ธิ
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
3. ตะกอนทก่ี าหนดใหไ้ ดจ้ ากการผสมสารละลายใดไดบ้ า้ ง
3.1 Ag3PO4
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
3.2 MgCO3
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
3.3 PbBr2
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธุ์ อ่านาคิล
โรงเรียนชยั นาทพิทยาคม
::: 58 :::
3. พนั ธะโลหะ (Metallic bonding)
พนั ธะโลหะ หมายถงึ แรงยดึ เหน่ยี วทท่ี าใหอ้ ะตอมของโลหะ อยดู่ ว้ ยกนั ในกอ้ นของโลหะ
โดยมกี ารใชเ้ วเลนตอ์ เิ ลก็ ตรอนรว่ มกนั ของอะตอมของโลหะ โดยทเ่ี วเลนตอ์ เิ ลก็ ตรอนน้ไี มไ่ ดเ้ ป็นของอะตอมหน่ึง
อะตอมใดโดยเฉพาะ เน่อื งจากมกี ารเคล่อื นทต่ี ลอดเวลา ทุกๆอะตอมของโลหะจะอยตู่ ดิ กนั กบั อะตอมอ่นื ๆ
ต่อเน่อื งกนั ไมม่ ที ส่ี น้ิ สดุ จงึ ทาใหโ้ ลหะไมม่ สี ตู รโมเลกุล ทเ่ี ขยี นกนั เป็นสตู รอย่างงา่ ย หรอื สญั ลกั ษณ์ของธาตุ
นนั้ เอง
สมบตั ทิ ส่ี าคญั ของโลหะมี ดงั น้ี
1. มีจดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวสงู เน่อื งจากพนั ธะโลหะเกดิ จากแรง
ดงึ ดดู ทางไฟฟ้าระหว่างไอออนบวกกบั อเิ ลก็ ตรอนทเ่ี คลอ่ื นทอ่ี ยา่ งอสิ ระซง่ึ ยดึ
เหน่ยี วกนั แน่นมาก ดงั นนั้ จงึ ทาใหพ้ นั ธะโลหะมคี วามแขง็ แรงมาก ส่งผลให้
โลหะมจี ดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวทส่ี งู มาก จดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวของ
โลหะจะแปรผนั ตรงกบั ความแขง็ แรงของพนั ธะ และแปรผกผนั กบั ขนาด
โมเลกุลหมายความวา่ โลหะทม่ี ี
อะตอมขนาดเลก็ จะมจี ดุ เดอื ดสงู กวา่ โลหะทม่ี อี ะตอมขนาดใหญ่ เช่น โซเดยี มมจี ดุ เดอื ดสงู กว่าโพแทสเซยี ม
เพราะโซเดยี มมขี นาดอะตอมทเ่ี ลก็ กว่าโพแทสเซยี ม จงึ ทาใหก้ ารหลุดและจบั ของอเิ ลก็ ตรอนเกดิ ไดง้ า่ ย พนั ธะ
มคี วามแขง็ แรงสงู จดุ เดอื ดและจหุ ลอมเหลวจงึ สงู ตามไปดว้ ยในทางกลบั กนั แคลเซยี มจะมจี ดุ เดอื ดต่ากว่า
แมกนเี ซยี ม เพราะแคลเซยี มมขี นาดอะตอมใหญ่กว่าแมกนีเซยี ม จงึ ทาใหก้ ารหลุดและจบั ของอเิ ลก็ ตรอนเกดิ
ไดย้ าก พนั ธะไมค่ ่อยมคี วามแขง็ แรง จดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวจงึ ต่า
2. นาความร้อนและนาไฟฟ้าได้ดี เน่อื งจากเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนเคลอ่ื นทไ่ี ด้ ซง่ึ เมอ่ื ใหค้ วามรอ้ น
แก่โลหะ เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนจะมพี ลงั งานสงู ขน้ึ จงึ เคล่อื นทไ่ี ดเ้ รว็ ขน้ึ เมอ่ื เกดิ การชนกนั จะถ่ายโอนพลงั งาน
บางสว่ นแก่กนั และถูกถ่ายโอนต่อเน่อื งไปจนทวั่ ทงั้ กอ้ นโลหะ โลหะจงึ นาความรอ้ นได้ และการทโ่ี ลหะมเี วเลนซ์
อเิ ลก็ ตรอนทส่ี ามารถเคลอ่ื นทไ่ี ปมาทวั่ ทงั้ กอ้ นโลหะไดท้ ุกทศิ ทุกทาง จงึ ทาใหโ้ ลหะนาไฟฟ้าได้ แต่การนา
ไฟฟ้าของโลหะจะลดลงเมอ่ื อุณหภมู สิ งู ขน้ึ เพราะความตา้ นทานเพมิ่ ขน้ึ เน่อื งจากเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนจะ
เคลอ่ื นทช่ี นกนั มากขน้ึ
3. สามารถสะท้อนแสงได้ หรอื มผี วิ มนั วาว เน่อื งจากกลุ่มอเิ ลก็ ตรอนเคลอ่ื นทไ่ี ดโ้ ดยอสิ ระไป
กระทบกบั แสงทเ่ี ป็นคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า จงึ รบั และกระจายแสงออกมา ทาใหผ้ วิ ของโลหะเกดิ การสะทอ้ นแสง
ไดด้ ี จงึ เหน็ ผวิ ของโลหะเป็นมนั วาว
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธ์ุ อ่านาคิล
โรงเรยี นชยั นาทพทิ ยาคม
::: 59 :::
4. สามารถตีเป็นแผ่นหรอื ดึงเป็นเส้นได้ เน่อื งจากอะตอมโลหะจดั เรยี งตวั เป็นชนั้ ๆ อยา่ งมรี ะเบยี บ
เมอ่ื ทบุ แผน่ โลหะจะเป็นการผลกั ใหช้ นั้ ของอะตอมโลหะเลอ่ื นไถลไปจากตาแหน่งเดมิ แผน่ โลหะจงึ ยาวออกและ
บางลง แต่ตาแหน่งใหมใ่ นอะตอมของโลหะไมห่ ลดุ ออกจากกนั เพราะอนุภาคถกู ยดึ ไวด้ ว้ ยกลุ่มเวเลนซ์
อเิ ลก็ ตรอนทเ่ี คลอ่ื นทไ่ี ดอ้ ยา่ งอสิ ระ ดงั นนั้ จงึ ตหี รอื ทุบโลหะใหแ้ ผอ่ อกเป็นแผ่นบาง ๆ ได้ ตดั ให้โคง้ งอ หรอื
ดงึ ใหเ้ ป็นเสน้ ได้
5. เคาะแล้วมเี สียงกงั วาน เน่อื งจากแรงยดึ เหน่ียวระหว่างไอออนบวกและเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนของโลหะ
มคี วามแขง็ แรงมาก รวมทงั้ ไอออนบวกอยใู่ กลช้ ดิ กนั มาก จงึ ส่งแรงสนั่ สะเทอื นไปถงึ กนั อยา่ งรวดเรว็ เมอ่ื มี
การเคาะโลหะจงึ ทาใหเ้ กดิ เป็นเสยี งดงั กงั วานออกมา
6. ไม่มีสตู รโมเลกลุ เน่อื งจากเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนของอะตอมโลหะยดึ อะตอมไวอ้ ยา่ งเหนียวแน่น โลหะ
จงึ ไมอ่ ยใู่ นรปู อะตอมเดย่ี ว โลหะจงึ มแี ต่สตู รอยา่ งงา่ ย
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธ์ุ อ่านาคลิ
โรงเรียนชัยนาทพทิ ยาคม
::: 60 :::
แบบทดสอบทา้ ยบท
เรอ่ื งพนั ธะเคมี
1.จานวนพนั ธะโคเวเลนตใ์ นโมเลกุล CH4 , SiCl4 , NaCl , NH3 เป็นกพ่ี นั ธะมคี า่ เรยี งตามลาดบั คอื ขอ้ ใด
ก. 4 , 4 , 0 , 3 ข. 6 , 3 , 1 , 0 ค. 4 , 3 , 0 , 3 ง. 5 , 4 , 1 , 0
2. พนั ธะเดย่ี ว หมายถงึ อะไร
ก. พนั ธะทเ่ี กดิ จากการใชเ้ วเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนรว่ มกนั 1 คู่
ข. พนั ธะทเ่ี กดิ จากการใชเ้ วเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนรว่ มกนั 2 คู่
ค. พนั ธะทเ่ี กดิ จากการใชเ้ วเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนรว่ มกนั 3 คู่
ง. พนั ธะทเ่ี กดิ จากการใชอ้์ เิ ลก็ ตรอนค่โู ดดเดย่ี วรว่ มกนั 1 คู่
3. ธาตุในขอ้ ใด เกดิ พนั ธะโคเวเลนตก์ บั ธาตุคลอรนี ไดด้ ที ส่ี ุด
ก. Na ข. Ra ค. C ง. Cs
4. สมบตั ทิ างกายภาพในขอ้ ใด ทใ่ี ชอ้ ธบิ ายสมบตั ทิ างเคมขี องอโลหะ
ก. พลงั งานไอออไนเซชนั สงู ขนาดอะตอมใหญ่ สมั พรรคภาพอเิ ลก็ ตรอนน้อย
ข. พลงั งานไอออไนเซชนั ต่า ขนาดอะตอมใหญ่ อเิ ลก็ โทรเนกาตวิ ติ ตี ่า
ค. พลงั งานไอออไนเซชนั สงู ขนาดอะตอมเลก็ สมั พรรคภาพอเิ ลก็ ตรอนน้อย
ง. พลงั งานไอออไนเซชนั สงู ขนาดอะตอมเลก็ อเิ ลก็ โทรเนกาตวิ ติ สี งู
5. ธาตุ Z มพี ลงั งานไอออไนเซชนั ตงั้ แต่ลาดบั ทห่ี น่งึ ถงึ ลาดบั ท่ี 8 เป็นดงั น้ี 1.320, 3.395, 5.307, 7.476,
10.996, 13.333, 71.343, 84.086 ธาตุ Z มเี วเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนเท่าใด
ก. 1 ข. 4 ค. 6 ง. 7
6. ตารางแสดงค่าพลงั งานพนั ธะเฉลย่ี ในสารไฮโดรคารบ์ อน
การสลายพนั ธะโพรเพน (C3H8) 0.5 โมล จะตอ้ งใชพ้ ลงั งานมากกว่าหรอื น้อยกว่าการสลายพนั ธะอเี ทน (C2H6)
0.5 โมล เทา่ ไร
ก. มากกว่า 587 kJ ข. น้อยกวา่ 283 kJ ค. มากกวา่ 526 kJ ง. น้อยกว่า 278 kJ
7. เหตุใดสารโคเวเลนต์ จงึ มจี ดุ เดอื ด จุดหลอมเหลวต่า
ก. สารโคเวเลนตม์ แี รงยดึ เหน่ยี วระหว่างโมเลกุลน้อย ข. สารโคเวเลนตม์ กั สลายตวั ไดง้ า่ ย
ค. สารโคเวเลนตไ์ มม่ ปี ระจไุ ฟฟ้า ง. สารโคเวเลนตม์ กั มโี มเลกุลขนาดเลก็
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธุ์ อ่านาคลิ
โรงเรยี นชยั นาทพทิ ยาคม
::: 61 :::
8. สารละลายทเ่ี กดิ จากธาตุหมู่ 1 กบั น้า มสี มบตั อิ ยา่ งไร
ก. เป็นกลาง ข. เป็นไดท้ งั้ กรดและเบส ค. เป็นกรด ง. เป็นเบส
9. สาร X เป็นโมเลกุลไมม่ ขี วั้ สาร Y เป็นโมเลกุลมขี วั้ ส่วนสาร Z เป็นพนั ธะไมม่ ขี วั้ ถา้ ขนาดของโมเลกุลของ
X>Y>Z แลว้ สาร X Y และ Z ควรเป็นดงั ขอ้ ใด
ก. CH2 , NH3 , C6H6 ข. BeCl2 , CH2Cl2 , S8 ค. Br2 , H2O , H2 ง. SiH4 , PCl3 , PCl5
10. กาหนดคา่ EN ของธาตุดงั น้ี A = 3.0 , B = 2.8 X= 2.7 , Y = 3.7 จงเรยี งลาดบั ความแรงขวั้ จากมาก
ไปน้อย
ก. A-B , B-X , X-Y ข. A-Y , B-X , A-X ค. Y-B , A-Y , A-X ง. A-X , B-Y , A-Y
11. ถา้ A , B และ C เป็นสารโคเวเลนต์ 3 ชนดิ โดยทงั้ 3 ชนิดมสี ถานะเป็นของเหลว โมเลกุลของสาร A และ B
มขี วั้ สว่ นโมเลกุลของสาร C ไมม่ ขี วั้ สารใดสามารถละลายน้าได้
ก. สาร C ข. สาร A และ C ค. สาร A เเละ B ง. สาร B และ C
12. จงระบวุ า่ สารในขอ้ ใดละลายน้าได้
1) แคลเซยี มคลอไรด์ 2) แอมโมเนยี มซลั เฟต 3 )เมอรค์ วิ ร(ี I)คลอไรด์
4) ไอรอ์ อน(III)ไฮดรอกไซด์ 5) โพแทสเซยี มฟอสเฟต
ก. 1 2 3 ข. 1 2 5 ค. 2 3 4 ง. 2 3 5
13. ถา้ A, B ,C ,D เป็นธาตุทม่ี เี ลขอะตอม 7,11,17 และ 20 ตามลาดบั สตู รของไอออนและสารประกอบ
ไอออนกิ ในขอ้ ใดถกู ตอ้ ง
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธุ์ อ่านาคลิ
โรงเรียนชัยนาทพิทยาคม
::: 62 :::
14. X เป็นสารประกอบของธาตุ Ca และ F มจี ดุ หลอมเหลวสงู ไมน่ าไฟฟ้าทอ่ี ุณหภมู หิ อ้ ง และละลายน้าได้
น้อยมาก ขอ้ สรุปใดต่อไปน้ี ไม่ สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู ขา้ งตน้
ก. พนั ธะในสาร X เป็นพนั ธะไอออนกิ
ข. เมอ่ื X ละลายน้า จะดดู ความรอ้ น ทาใหล้ ะลายไดน้ ้อย
ค. X มสี ตู ร CaF2 ผลกึ มคี วามแขง็ แรงมากจงึ ละลายไดย้ าก
ง. สาร X เมอ่ื หลอมเหลวจะนาไฟฟ้า
15. เมอ่ื ละลาย KCl ในน้าเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเป็นขนั้ ๆ และมกี ารเปลย่ี นแปลงพลงั งาน ดงั น้ี
1) KCl(s) -----> K+(g) + Cl-(aq) H1 = 701.2 kJ/mol
2) K+(g) + Cl-(g) -------> K+(aq) + Cl-(aq) H2 = 684.1 kJ/mol
ปฏกิ ริ ยิ าน้เี ป็นแบบใด
ก. คายพลงั งานเท่ากบั 1385.3 kJ/mol ข. คายพลงั งานเท่ากบั 17.1 kJ/mol
ค. ดดู พลงั งานเทา่ กบั 17.1 kJ/mol ง. ดดู พลงั งานเท่ากบั 1385.3 kJ/mol
16. สาร X , Y , Z มพี ลงั งานพนั ธะเป็น 120 , 200 , 90 kJ/mol ตามลาดบั จงเรยี งความยาวพนั ธะจาก
น้อยไปมาก
ก. X , Y , Z ข. Z , Y , X ค. Y , X , Z ง. Z , X , Y
17. ขอ้ ใดกล่าว ไม่ ถูกตอ้ งเกย่ี วกบั สมบตั ขิ องสารประกอบไอออนิก
ก. นาไฟฟ้าไดท้ กุ สถานะ ข. เกดิ จากการรวมตวั ของไอออนบวกกบั ไอออนลบ
ค. จดั เรยี งตวั เป็นผลกึ ง. มผี ลรวมของประจสุ ทุ ธิ เป็น ศูนย์
18. พนั ธะเคมี หมายถงึ อะไร
ก. แรงยดึ เหน่ยี วระหว่างอะตอม ข. พลงั งานทท่ี าใหอ้ ะตอมสลายตวั
ค. การอยรู่ วมกนั ของอะตอม ง. การอยรู่ วมกนั ของโมเลกุล
19. กาหนดการจดั อเิ ลก็ ตรอนของธาตุให้ ดงั น้ี A 2,8,2 B 2,8,8,1 C 2,8,7 D 2,8,18, 8
ธาตุค่ใู ดมกี ารเกดิ เป็นสารประกอบไอออนิกได้
ก. A กบั D ข. C กบั D ค. B กบั C ง. B กบั D
20. เพราะเหตุใด อโลหะจงึ ยดึ เหน่ยี วกนั ดว้ ยพนั ธะโคเวเลนต์
ก. อโลหะมคี า่ EN สงู เสยี อเิ ลก็ ตรอนยาก ข. อโลหะมคี ่า EN สงู เสยี อเิ ลก็ ตรอนงา่ ย
ค. อโลหะมคี า่ EN ต่าเสยี อเิ ลก็ ตรอนยาก ง. อโลหะมคี า่ EN ต่าเสยี อเิ ลก็ ตรอนงา่ ย
21. ธาตุทเ่ี กดิ พนั ธะไอออนิกกบั ออกซเิ จนไดด้ ที ส่ี ดุ คอื ขอ้ ใด
ก. กามะถนั ข. คลอรนี ค. ดบี ุก ง. โซเดยี ม
เอกสารประกอบการเรยี น ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธ์ุ อา่ นาคิล
โรงเรียนชัยนาทพิทยาคม
::: 63 :::
22. ขอ้ ใดต่อไปน้เี ป็นสตู รของสารประกอบ เมอรค์ ูรกิ ซลั ไฟด์
ก. CuCl ข. KBr ค. PbS ง. HgS
23. การเกดิ สารประกอบ NaF(s) ขอ้ ใดคอื สมการรวมของปฏกิ ริ ยิ า
ก. Na(g) + 1/2F2(g) ------> NaF(s)
ข. Na(s) + 2F2(g) -------> NaF(s)
ค. Na(g) + 1/2F(s) ------> NaF(s)
ง. Na(s) + 1/2F2(g) ------> NaF(s)
24. การทอ่ี ะตอมพยายามปรบั ตวั เองใหอ้ ยใู่ นสภาพเสถยี รโดยทาใหอ้ เิ ลก็ ตรอนวงนอกสดุ เท่ากบั 8
เรยี กกฎน้วี า่ อะไร
ก. กฎออกซเิ ดชนั่ ข. กฎออกเตต ค. กฎโคเวเลนต์ ง. กฎไอออนิก
25. ขอ้ ใด ไม่ เกย่ี วขอ้ งกบั พนั ธะเคมี
ก. รบั อเิ ลก็ ตรอนจากอะตอมอ่นื ข. ใชอ้ เิ ลก็ ตรอนรว่ มกนั
ค. แยง่ อเิ ลก็ ตรอนกบั อะตอมอ่นื ง. ใหอ้ เิ ลก็ ตรอนกบั อะตอมอ่นื
26. ขอ้ ใดกลา่ ว ไม่ ถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั สมบตั ขิ องสารประกอบไอออนกิ
ก. มผี ลรวมของประจสุ ุทธิ เป็น ศนู ย์ ข. เกดิ จากการรวมตวั ของไอออนบวกกบั ไอออนลบ
ค. จดั เรยี งตวั เป็นผลกึ ง. นาไฟฟ้าไดท้ ุกสถานะ
27. การทโ่ี ลหะรวมกบั อโลหะแลว้ โลหะจะใหอ้ เิ ลก็ ตรอนแก่อโลหะ เกดิ ไอออนบวกและไอออนลบ ดงึ ดดู กนั
ดว้ ยแรงดงึ ดดู ไฟฟ้าสถติ สรา้ งพนั ธะไอออนิกขน้ึ ในสารประกอบนนั้ เพราะเหตุใด
ก. โลหะมขี นาดอะตอมเลก็ กว่าอโลหะ
ข. อโลหะมขี นาดอะตอมใหญ่กวา่ โลหะ
ค. โลหะมคี ่า IE ต่า จงึ ใหอ้ เิ ลก็ ตรอนไดง้ า่ ย เพอ่ื ปรบั เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนแบบก๊าซเฉ่ือย
ง. โลหะมคี า่ IE สงู จงึ ใหอ้ เิ ลก็ ตรอนไดง้ า่ ย เพอ่ื ปรบั เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนแบบก๊าซเฉ่อื ย
28. กาหนดให้
1. NaNO3 + KCl 2. NH4Cl + Ca(OH)2 3. K2SO4 + BaCl2
4. AgNO3 + KCl 5. Na2SO4 + Pb(NO3)2 6. Na2CO3 + CaCl2
การผสมสารละลายของสารประกอบไอออนกิ คใู่ ด ทาใหเ้ กดิ ตะกอน
ก. 1 3 4 5 ข. 3 4 5 6 ค. 2 3 4 5 ง. 1 4 5 6
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธุ์ อา่ นาคิล
โรงเรยี นชยั นาทพทิ ยาคม
::: 64 :::
29. สารโคเวเลนตช์ นิดหน่งึ มสี ตู ร AH3 และรปู รา่ งโมเลกุลเป็นสามเหลย่ี มแบนราบ อะตอม A ในสารน้ไี มม่ ี
อเิ ลก็ ตรอนคโู่ ดดเดย่ี ว ขอ้ ใดทน่ี ่าจะเป็นสมบตั ขิ องสาร AH3
ก.โมเลกุลมขี วั้ ละลายน้า จดุ เดอื ดต่า
ข.เกดิ พนั ธะไฮโดรเจน จุดเดอื ดสงู และละลายน้าได้
ค.โมเลกุลไมม่ ขี วั้ และมแี รงแวนเดอรว์ าลส์ (ลอนดอน) เป็นแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งโมเลกุล
ง.โมเลกุลไมม่ ขี วั้ แต่เกดิ พนั ธะไฮโดรเจนได้
30. ตารางขา้ งล่างน้แี สดงจุดหลอมเหว จดุ เดอื ด และความสามารถในการนาไฟฟ้า เมอ่ื หลอมเหลวของ
สารประกอบคลอไรด์ A , B และC
สงิ่ ทส่ี รปุ ไดจ้ ากขอ้ มลู คอื
ก. A และ B เป็นสารประกอบไอออนกิ ข. A,B และ C เป็นสารประกอบไอออนกิ
ค. A เป็นสารประกอบไอออนิกเพยี งสารเดยี ว ง. B เป็นสารประกอบไอออนิกเพยี งสารเดยี ว
31. สารใดมรี ปู รา่ งโมเลกุล ไม่ เหมอื นกนั
ก. HO2 และ SBr2 ข. NOCl และ COS ค. HCl และ CS2 ง. CCl4และ POCl3
32. สารในขอ้ ใด เป็นโมเลกุลมขี วั้ แต่ ไมม่ ี พนั ธะไฮโดรเจน
ก. HF ข. NH3 ค. C2H5OH ง. SO2
กาหนด พลงั งานพนั ธะ(kJ/mol) C-C = 348 C=C = 614 C-H =413 C-Cl = 339 Cl-Cl = 242
C=O = 745 C-O = 358 O-H = 463 O=O = 498
33. ถา้ ไซโคลเฮกซนี (C6H10) เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าการรวมตวั กบั คลอรนี จะมกี ารเปลย่ี นแปลงพลงั งานกก่ี โิ ลจลู ต่อโมล
ก. 170 ข. 340 ค. 412 ง. 242
34. ในการเผาไหมโ้ พรทานอล ( C3H7OH ) 1 โมล ไดผ้ ลติ ภณั ฑเ์ ป็น แก๊ส CO2 และ H2O (ไอน้า)
จะดดู หรอื คายพลงั งาน กก่ี โิ ลจลู ต่อโมล
ก. ดดู พลงั งาน 1.52 kJ ข. คายพลงั งาน 1,525 kJ
ค. ดดู พลงั งาน 1,883 kJ ง. คายพลงั งาน 1,883 kJ
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธุ์ อา่ นาคลิ
โรงเรยี นชยั นาทพิทยาคม
::: 65 :::
35. กาหนดให้ ธาตุ A มพี ลงั งานไอออไนเซชนั ตงั้ แต่ ลาดบั ท่ี 1 ถงึ 8 ดงั น้ี 1.320,3.395, 5.307, 7.476,
10.996, 13.333, 71.343 และ 84.086
ธาตุ B มพี ลงั งานไอออไนเซชนั ตงั้ แต่ลาดบั ท่ี 1 ถงึ 4 ดงั น้ี 800, 2400, 3700 และ 25000
จงพจิ ารณาขอ้ ความต่อไปน้ี
1. สตู รทวั่ ไปของสารประกอบ AB คอื A2B3
2. สารประกอบ AB เมอ่ื ละลายในน้าแลว้ เปลย่ี นกระดาษลติ มสั จากแดงเป็นน้าเงนิ แต่ไมเ่ ปลย่ี นกระดาษ
ลติ มสั จากน้าเงนิ เป็นแดง
3. สารประกอบ AB มจี ดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวสงู
4. สารประกอบ AB ยดึ เหน่ียวกนั ดว้ ยพนั ธะโคเวเลนตแ์ ละมลี กั ษณะเป็นของเหลว
ขอ้ ใดถูก
ก. 1,4 ข. 2,3 ค. ค. เฉพาะ 3 ง. เฉพาะ 4
36. ขอ้ มลู แสดงค่าพลงั งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การละลายสาร A, B, และ C เป็นดงั น้ี
ถา้ ใชส้ าร A, B และ C จานวนโมลเท่ากนั ละลายในน้าทม่ี ปี รมิ าตร 100 cm3 การเปรยี บเทยี บอุณหภมู ขิ องแต่
ละสารละลาย ขอ้ ใดถกู
ก. A > B > C ข. B > A > C ค. B > C > A ง. C > A > B
37. กาหนดให้ พลงั งานแลตทชิ ของ NaCl = 787 kJ/mol
พลงั งานไอออไนเซชนั่ ของ Na(g) = 494 kJ/mol
พลงั งานของ Cl2(g) = 242 kJ/mol
พลงั งานสมั พรรคภาพอเิ ลก็ ตรอนของ Cl(g) = 347 kJ/mol
พลงั งานการระเหดิ ของ Na(s) = 109 kJ/mol
ปฏกิ ริ ยิ า Na(s) + 1/2Cl2 ------> NaCl(s) ท่ี 25 °C
คายพลงั งานความรอ้ นจานวนเท่าใด
ก. 410 kJ ข. 531 kJ ค. 724 kJ ง. 1134 kJ
ง. Sr3S3
38. 38Sr ทาปฎกิ ริ ยิ ากบั 16S สารประกอบทไ่ี ดค้ วรมสี ตู รอยา่ งไร
ก. SrS3 ข. Sr2S3 ค. SrS
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธุ์ อ่านาคลิ
โรงเรยี นชัยนาทพทิ ยาคม
::: 66 :::
39. สตู รโครงสรา้ งลวิ อสิ ตามกฏออกเตตของโมเลกุลและไอออนต่อไปน้ี ขอ้ ใดไมม่ ขี วั้
ก. OF2 ข. FNO ค. CO ง. OCS
40. อะตอมของธาตุใดทอ่ี ยใู่ นสภาพทเ่ี สถยี ร
ก. ฮเี ลยี ม ข. ไนโตรเจน ค. ไฮโดรเจน ง. อารซ์ นิ ิก
41. ขอ้ ความใดต่อไปน้ี ไม่ ถกู ตอ้ ง
ก. พนั ธะโคเวเลนตเ์ ป็นพนั ธะทเ่ี กดิ จากการใชอ้ เิ ลก็ ตรอนเป็นคๆู่
ข. พนั ธะไอออนกิ เป็นแรงดงึ ดดู ระหวา่ งไอออนทม่ี ปี ระจตุ ่างกนั
ค. พนั ธะโลหะเป็นพนั ธะทเ่ี กดิ จากแรงดงึ ดดู ระหวา่ งอะตอมของโลหะกบั อเิ ลก็ ตรอนทงั้ หมดทม่ี อี ยใู่ นโลหะ
ง. พนั ธะไอออนกิ ทาใหส้ ารไอออนกิ ไม่มสี ตู รโมเลกุลและมจี ดุ หลอมเหลวสงู
42. อะตอมทใ่ี หห้ รอื รบั อเิ ลค็ ตรอน จะเกดิ เป็นพนั ธะใด
ก. พนั ธะเคมี ข. พนั ธะไอออนิก ค. พนั ธะโคเวเลนต์ ง. พนั ธะโลหะ
43. ประเภทของพนั ธะหรอื แรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งอนุภาคในสารต่อไปน้ี เหลก็ , น้าตาลกลโู คส, เกลอื แกง
ขอ้ ใดต่อไปน้ี เป็นการเรยี งลาดบั อย่างถูกตอ้ ง
ก. พนั ธะโลหะ , พนั ธะโคเวเลนต,์ แรงลอนดอน ข. แรงลอนดอน, พนั ธะไอออนกิ , พนั ธะโคเวเลนต์
ค. พนั ธะไอออนกิ , พนั ธะโคเวเลนต์, พนั ธะโลหะ ง. พนั ธะโลหะ, แรงลอนดอน, พนั ธะไอออนิก
44. ขอ้ ใดต่อไปน้ผี ดิ
ก. สารประกอบไอออนกิ มกั เกดิ ระหวา่ งธาตุทม่ี พี ลงั งานไอออไนเชชนั ต่ากบั ธาตุทม่ี คี ่า EN สงู
ข. เมอ่ื หลอมเหลวสารประกอบไอออนิกจะเป็นปฏกิ ริ ยิ าดดู ความรอ้ น
ค. การเกดิ สารประกอบไอออนกิ เป็นปฏกิ ริ ยิ าดดู ความรอ้ น
ง. สารประกอบไอออนิกยดึ เหน่ยี วกนั ดว้ ยแรงทางไฟฟ้า
45. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ แรงยดึ เหน่ียวระหว่างโมเลกุล
ก. แรงแวนเดอรว์ าลส์ ข. แรงดงึ ดดู ระหวา่ งขวั้ ค. พนั ธะไฮโดรเจน ง. พนั ธะโคเวเลนต์
46. พสิ จู น์ใดทเ่ี เสดงว่าผลกึ โซเดยี มคลอไรดเ์ ป็นสารประกอบไอออนกิ
ก. ผลกึ โซเดยี มคลอไรดล์ ะลายน้า สารละลายทไ่ี ดจ้ ะมจี ดุ เยอื กเเขง็ ลดลง
ข. โซเดยี มคลอไรดท์ ห่ี ลอมเหลวนาไฟฟ้าได้
ค. โซเดยี มคลอไรดล์ ะลายน้าเเลว้ คายพลงั งาน
ง. โซเดยี มคลอไรดล์ ะลายน้านาไฟฟ้าได้
เอกสารประกอบการเรยี น ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธุ์ อา่ นาคลิ
โรงเรียนชยั นาทพทิ ยาคม
::: 67 :::
47. รปู ร่างโมเลกุลของสารในขอ้ ใดเป็นรปู สามเหลย่ี มแบนราบ ง. PH3 และ CH2O
ก. NH4+ และ SiH4 ข. SO3 และ BF3 ค. CH3Cl และ O3
48. ธาตุ A และ B มเี ลขอะตอม 15 และ 35 ตามลาดบั คลอไรดข์ อง A และ B ควรมรี ปู ร่างอยา่ งไร ตามลาดบั
ก. สามเหลย่ี มแบนราบ และพรี ะมดิ ฐานสามเหลย่ี ม ข. พรี ะมดิ ฐานสามเหลย่ี ม และเสน้ ตรง
ค. ทรงสห่ี น้า และสามเหลย่ี มแบนราบ ง. พรี ะมดิ ค่ฐู านสามเหลย่ี ม และเสน้ ตรง
49. มุมระหวา่ งพนั ธะในโมเลกุลโคเวเลนตเ์ รยี งตามลาดบั จากมากไปน้อยดงั ขอ้ ใด
ก. CS2 > BF3 > CH4 > Cl2O ข. Cl2O > CS2 > BF3 > CH4
ค. BF3 > CS2 > Cl2O > CH4 ง. CS2 > Cl2O > BF3 > CH4
50. ขอ้ ใดเป็นโมเลกุล ไมม่ ขี วั้
ก. CO2, CCl4 และ CH3Cl ข. CO2, SF6 และ BCl3
ค. BCl3, NCl3 และ CCl4 ง. HCN, NCl3 และ CO2
เอกสารประกอบการเรยี น ว30221
โดย ครูมาฆพนั ธ์ุ อ่านาคิล
โรงเรียนชัยนาทพิทยาคม
::: 68 :::
บรรณานุกรม
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2555). ข้อสอบโอลิมปิ ก วิชาเคมี ปี 2550. กรุงเทพฯ :
ซเี อด็ ยเู คชนั่ .
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2558). หนังสือเรียนร้เู พ่ิมเติมเพ่อเสริมศกั ยภาพวิทยาศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4-6 เคมี เล่ม 1. กรุงเทพฯ : พฒั นาคุณภาพวชิ าการ.
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2561). หนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ เคมี 1.
กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พค์ รุ ุสภาลาดพรา้ ว.
พงศธร นนั ทธเนศ และคณะ. (2561). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์
เคมี 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทศั น์.
เอกสารประกอบการเรียน ว30221
โดย ครมู าฆพนั ธ์ุ อ่านาคิล
โรงเรยี นชยั นาทพิทยาคม