The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่๘ การเขียนโครงการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ploinapat Anujon, 2023-06-29 14:09:13

หน่วยที่๘ การเขียนโครงการ

หน่วยที่๘ การเขียนโครงการ

สารบัญ ๑. ความหมายของโครงการ๒. จุดมุ่งหมายของการจัดท าโครงการ๓. ประเภทของโครงการ๔. ลักษณะโครงการที่ดี๕. ประโยชน์ของโครงการ๖. หลักการเขียนโครงการ๗. ส่วนประกอบของโครงการ๘. รูปแบบของโครงการ๙. วิธีการเขียนโครงการ ๑๐. การใช้ภาษาในการเขียนโครงการ ๑๑. ปัญหาในการเขียนโครงการ ๑๒. แนวทางการเขียนโครงการวิชาชีพ แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง หน้า ค าน า


๑. ความหมายของโครงการ การเขียนโครงการ คือ การวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นแนวทาง ของการด าเนินงานในกิจกรรมย่อยหลายกิจกรรมที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน ไม่ว่า จะเป็นการด าเนินงาน หรือการด าเนินชีวิตของบุคคล หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจน หน่วยงานภาครัฐบาล โดยมีการก าหนดจุดประสงค์ ระยะ เวลาในการเริ่มต้นและสิ้นสุดที่แน่นอน การจัดท าโครงการต้องใช้ทรัพยากรในการ ด าเนินงาน และคาดหวังที่จะได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า แต่ละโครงการจะมีเป้าหมาย เพื่อการผลิตหรือการให้บริการเพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพของแผนงานในหน่วยงาน ๒. จุดหมายของการจดท าโครงงาน การจัดท าโครงการทุกประเภท มักจะแบ่งจุดมุ่งหมายออกได้เป็น ๒ ประเภท คือ ๒.๑ เพื่อแก้ปัญหา เป็นการปรับปรุงแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาขึ้นในบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กรต่างๆ หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ๒.๒ เพื่อพัฒนางาน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการท างาน หรือเพิ่มปริมาณของผลผลิตในบุคคลกลุ่ม บุคคล องค์กรต่าง ๆ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ๓. ประเภทของโครงการ การแบ่งประเภทของโครงการแบ่งได้หลายลักษณะ ในที่นี้แบ่งออกเป็น ๔ ประเภท ใหญ่ ๆ ดังนี้ ๓.๑ โครงการที่แบ่งตามระยะเวลา เป็นการแบ่งโดยถือระยะเวลาเป็นส าคัญ ได้แก่ โครงการระยะยาว โครงการระยะ ปานกลาง และโครงการระยะสั้น ๓.๒ โครงการที่แบ่งตามเนื้อหา ได้แก่ ๓.๒.๑ โครงการวิชาการ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นวิธีการ กระบวนการตามหลักวิชาการและการประยุกต์หลักการ ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการบริการชุมชน สังคมทั่วไป ๓.๒.๒ โครงการทางธุรกิจ เป็นโครงการที่มุ่งเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการพัฒนาธุรกิจหรือส่งเสริมธุรกิจให้ ประสบความส าเร็จ หรือมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ๓.๓ โครงการที่แบ่งตามผู้เสนอ ได้แก่ โครงการที่เสนอโดยบุคคล โครงการที่เสนอโดยกลุ่มและโครงการที่เสนอโดย หน่วยงาน ๓.๔ โครงการที่แบ่งตามลักษณะ ได้แก่ โครงการที่เป็นรูปธรรม และโครงการที่เป็นนามธรรม


๔. ลักษณะโครงการที่ดี ๔.๑ ความส าคัญของโครงการ โครงการที่จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกจะต้องเป็นโครงการที่มีความส าคัญต่อบุคคล องค์กร หน่วยงานหรือส่วนรวม สามารถแก้ปัญหาของหน่วยงานนั้น ๆ ได้ ๔.๒ ความเป็นไปได้ หมายถึง โครงการนั้นมีรายละเอียดต่อเนื่องสอดคล้องสัมพันธ์กัน วัตถุประสงค์ เป้าหมายต่าง ๆ ชัดเจน สามารถด าเนินงานได้จริง ๔.๓ ประหยัด เป็นโครงการที่ไม่ใช้งบประมาณมากเกินไป หรือตั้งงบประมาณไว้สูงเกินไปจนไม่คุ้ม กับผลที่จะได้รับ ๔.๔ ให้ประโยชน์สูง คือ สามารถตอบสนองความต้องการและสอดคล้องกับแผนงานหลักของหน่วยงาน กลุ่มชน สังคมและประเทศชาติ อ านวยประโยชน์แก่ผู้จัดท าโครงการ หรือส่วนรวม อย่างคุ้มค่า ๔.๕ ระยะเวลา ไม่ใช้เวลาในการด าเนินงานมากเกินไป ท าให้สิ้นเปลืองทรัพยากรมากเกินความ จ าเป็น มีระยะเวลาการด าเนินงานที่แน่นอน ระบุวันเริ่มต้น และสิ้นสุด ๔.๖ บุคลากร ก าหนดตัวบุคคลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบชัดเจน ๔.๗ ความทันสมัย โครงการที่เลือกมาปฏิบัตินั้นควรเป็นโครงการที่เหมาะสม และสอดคล้องกับ สภาวการณ์ปัจจุบัน ไม่ล้าสมัยหรือเห็นผลในระยะยาวเกินไป ๔.๘ ความเป็นจริง โครงการต้องก าหนดขึ้นจากข้อมูลจริงที่ได้ศึกษาวิเคราะห์แล้ว ๔.๙ ประเมินผลได้ โครงการที่ดีต้องสามารถติดตามประเมินผลได้อย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนชัดเจน


๕. ประโยชน์ของโครงการ ๕.๑ การเขียนโครงการ ท าให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างมี คุณภาพ ประหยัด และ ๕.๒ มีการวางแผนการปฏิบัติงานล่วงหน้า โครงการที่ดีจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจด าเนินการสั่งการหรือควบคุม และ ตรวจสอบผลการปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจน มีข้อผิดพลาดน้อยลง ๕.๓ มีแนวทางการปฏิบัติที่แน่นอน โครงการช่วยลดงานที่ซ้ าซ้อน ลดปัญหาการผลักภาระงานและควบคุมให้ผลการ ปฏิบัติงานเป้นไปตามแผนงาน ๕.๔ ช่วยให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามขั้นตอน บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ก าหนด ๕.๕ มีหลักฐานยืนยันผลงาน ช่วยให้เก็บรวบรวมผลการปฏิบัติงานเป็นระบบน่าเชื่อถือ ๕.๖ สามารถควบคุมและติดตามผลการปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการรายงานความก้าวหน้าของโครงการตามระยะเวลาที่ก าหนด การเขียนโครงการอย่างถูกต้องให้ได้รับการอนุมัติสูง ควรค านึงถึงหลัก 6W +1H คือการตั้งค าถามและตอบค าถามก่อนลงมือเขียนโครงการ ดังนี้ ๑. W1 = what (จะท าอะไร): โครงการนิ้มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างไร มีความ สอดคล้องกันนโยบายหลักมากน้อยเพียงใด และเป็นโครงการที่ควรจะอยู่ในแผนงาน ใด ๒. W2 = why (จะท าไปท าไม): มีเหตุผลหรือความจ าเป็นอย่างไรที่จะต้องจัดท า โครงการนิ้ท าแล้วจะแก้ปัญหาหรือพัฒนาองค์การให้ดีขึ้นได้หรือไม่ เพียงใด ๓. W3 = when (จะท าเมื่อใด):โครงการนิ้จะเริ่มด าเนินการและสิ้นสุดเมื่อใด ระยะเวลาและช่วงเวลาการด าเนินงานเหมาะสมหรือไม่ ๔. W4 = where (จะท าที่ไหน):สถานที่ในการปฏิบัติงานโครงการอยุ่ที่ใด เป้นสถานที ที่เหมาะสมหรือไม่ ๕. W5 = who (ใครท า):ใครเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนั้น เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและ ความเหมาะสมหรือไม่ ๖. หลักการเขียนโครงการ


โครงการเป็นส่วนย่อยของแผนงาน การเขียวโครงการจึงต้องมีส่วนประกอบ ครบถ้วน เพื่อให้การลงมือปฏิบัติสมบูรณ์ตามแผนงานนั้นๆไม่ว่าโครงการจะมีขนาด เช่นใด ชนิดแะประเภทใด ย่อยต้องมีส่วนประกอบดังนี้ ๖. W6 = whom (ท าเพื่อใคร):ใครเป็นผู้รับประโยชน์จากการจัดท าโครงการและ ได้รับไปมากน้อยเพียงใดผู้รับประโยชน์มีความเหมาะสมหรือไม่เป็นคนส่วนใหญ่หรือ คนส่วนน้อย เป็นต้น เป็นการบอกให้ทราบถึงผลที่คาดว่าจะได้รับจ่กการปฏิบัติ โครงการและเป็นเครื่องบ่งชิ้ถึงคุ้มค่าของโครงการ ๗. H = How (ท าอย่างไร):มีวิธีในการด าเนินงานอย่างไงบ้าง ใช้ทรัพยากรอย่างไร และเท่าไรเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่ก าหนดไว้ ๗. ส่วนประกอบของโครงการ ๗.๑ ส่วนน า ส่วนน า คือ ส่วนต้นของโครงการ เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเบิ้องต้นเกี่ยวกับโครงการ นั้นๆในส่วนนิ้จะอธิบายว่าเป็นโครงการอะไร เกี่ยวข้องกับใคร มีหลักการ เหตุผล ความเป็นมา ความส าคัญอย่างไรมีวัตถุอย่างไร ส่วนน าจะเป็นต้องมีรายละเอียดเพียง พอที่จะให้ข้อมูลเบี้องต้นเกี่ยวกับโครงการนั้น ดังนั้นส่วนน าของโครงการจึง ประกอบด้วยหัวข้อย่อยดังต่อไปนิ้ 7.1.1 ชื่อโครงการ 7.1.2 ชื่อผู้รับผิดชอบหรือด าเนินโครงการ 7.1.3 หลักการเเละเหตุผล 7.1.4 วัตถุประสงค์ของโครงการ ๗.๒ ส่วนเนื้อความ เป็นส่วนส าคัญที่สุดของโครงการ เพราะกล่าวถึงวิธีการด าเนินโครงการเพื่อให้ งานบรรลุเป้าหมายตามแผนงาน สาระส าคัญของส่วนประกอบด้วยการจัดล าดับ ขั้นตอนในการปฏิบัติโดยก าหนดสถานที่ด าเนินงานเป็นหลัก หรืออาจจะจัดล าดับตาม ลักษณะเฉพาะของโครงการก็ได้ บางกรณีอาจแยกอธิบายเป็นตอนๆ โดยมีแผนผังบอก วิธีด าเนินงานตามเวลา และสถานที่ให้เห็นอย่างชัดเจน ๑. ๒. ๓. ส่วนน า ส่วนเนื้อความ ส่วนขยายความ


๗.๓ ส่วนขยายความ เป็นส่วนที่ให้รายละเอียดต่างๆเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาตัดสินใจ อนุมัติให้ด าเนินโครงการฯเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนงานที่วางไว้ ส่วนขยายความ ได้แก่ ๑. งบประมาณ หรือค่าใช้จ่ายของโครงการ หรือทรัพยากรที่ท าให้เกิดโครงการ ๒. เป้าหมายของโครงการ ๓. ระยะเวลาในการด าเนินโครงการ ๔. ผลที่คาดวาสจะได้รับจากโครงการ ๕. การประเมินและการติดตามผลโครงการ ๖. ปัญหาของโครงการและแนวทางแก้ไขปัญหา ๗. ชื่อผู้เสนอโครงการ ผู้เสนอโครงการควรลงนามพร้อมทั้งวัน เดือน ปีที่เสนอ โครงการเพื่อเป็นหลักฐานด้วย โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบหรือ ด าเนินโครงการ ๘. รูปแบบของโครงการ การเขียนโครงการมีหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมเขียนกันอยู่โดยทั่่วไปไปเรียกว่า การเขียนโครงการแบบดังเดิมหรือแบบประเพณีนิยม(conventional Method) รูปแบบการเขียนโครงการอาจมีหัวข้อและรายละเอียดแตกต่างกันไปตามลักษณะหริ อประเภทของโครงการ บางโครงการมีรายละเอียดมาก บางโครงการมีรายละเอียด น้อย บางโครงการอาจเพิ่มเติมหัวข้อที่ส าคัญ เช่นโครงการด้านวิชาการ อาจเพิ่ม หัวข้อเอกสารอ้างอิง เพื่อให้ผู้อ่านโครงการ หรือผู้ปฏิบัติโครงการเข้าใจได้ง่ายและ ชัดเจน โดยทั่วไปทีโครงสร้าฃ(structure)หรือรูปแบบ(form) ดังนิ้


๙ การเขียนเขียนโครงการ สิ่งส าคัญในการเขียนโครงการคือ การใช้ภาษาในการเขียนต่างๆ ต้องมีความ ชัดเจนกระชับได้ใจความ สื่อความหมายได้ตรงตามวัตถุประสงค์ จึงจะท าให้โครงการ นั้นน่าสนใจและมีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาสูง โดยมีรายละเอียนดังนี้ ๙.๑ชื่อโครงการ (โครงการชื่ออะไร) ชื่อโครงการ เป็นส่วนที่บอกว่าโครงการนั้นเป็นเรื่องอะไร ชื่อโครงการควรมี ความชัดเจนให้ผู้อ่านเข้าใจได้ทันที ระบุจุดหมายปลายทางที่ต้องการ บอกให้ทราบ ว่าจะกระท าสิ่งใด เพื่ออะไรเป็นการแสดงลักษณะเฉพาะหรือเฉพาะงานที่ต้องการ ปฏิบัติ ดังนั้นการก าหนดชื่อโครงการจึงต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของ โครงการด้วย เช่น โครงการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โครงการซ่อมแซมเครื่องเล่นของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โครงการอบรม............... ของศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี โครงการซิอมบ ารุงคอมพิวเตอร์ ๙.๒ ผู้รับผิดชอบ(ใครท า) ผู้รับผิดชอบ เป็นส่วนที่บอกให้รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ บางกรณีอาจมี ผู้รับผิดชอบคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม หรือทั้งหน่วยงานเป็นผู้รัผิดชอบ การเขียน ตัวอย่าง แบบฟอร์มการเขียนโครงการ ๑.ชื่อโครงการ……………………………………………………….............………………………….. ๒.ชื่อบุคคลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ…………………………………………………………… ๓.หลักการและเหตุผล………………………………………………………........…………………… ๔.วัตถุประสงค์………………………………………………………………………...........………….. ๕.เป้าหมาย เชิงปริมาณ………………………………………………………………………….....……… เชิงคุณภาพ……………………………………………………………………………....…… ๖.สถานที่ด าเนินการ………………………………………………………………………………...... ๗.วิธีด าเนินโครงการ………………………………………………………………………………...... ๘.ระยะเวลาด าเนินการ…………………………………………………………………………….... ๙..งบประมาณ……………………………………………………………………………………........ ๑๐.แหล่งเงินทุน……………………………………………………………………………………..... ๑๑.ค่าใช้จ่าย………………………………………………………………………………………....... ๑๒.ผลที่คาดว่าจะได้รับ……………………………………………………………………………... ๑๓.การประเมินผล………………………………………………………………………………...... ๑๔.ปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข………………………………………………………… (ลงชื่อ………………………….) (…………………………………) ผู้น าเสนอโครงการ


โครงการจึงต้องระบุชื่อบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ได้รับมอบหมาย ให้จัดท าโครงการ เพื่อจะได้ทราบว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ หากมีปัญหาจะติดตาม ตรวจสอบได้จากที่ใด เช่น ผู้รับผิดชอบโครงการ นักศึกษา ปวส. ๑ แผนกวิชาเทคนิคอุตสาหกรรม กลุ่ม๑ ๙.๓ หลักการและเหตุผล (ท าไมต้องท า) หลักการและเหตุผล เป็นการอธิบายความเป็นมาและความส าคัญของ โครงการโดยระบุถึงภูมิหลังสาเหตุ สภาพปัญหา หรือความจ าเป็นที่ต้องจัดท า โครงการขึ้นมา ผู้เขียนควรหาเหตุผล หลักการ และทฤษฎีต่างๆ มาสนับสนุน โครงการอย่างสมเหตุสมผล ชี้แจงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโครงการการที่จะท าก่อให้ เกินผลดีอย่างไร หรือถ้าไม่ท าจะเกินผลเสียอย่างไร เช่น ๙.๔ วัตถุประสงค์ (ท าแล้วได้อะไร) วัตถุประสงค์ เป็นการชี้แงจุดมุ่งหมายของโครงการวา เมื่อด าเนินการตาม โครงการเสร็จสิ้นไปแล้วจะก่อใหกินผลอย่างไร เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแลแนวทางการ จัดท าโครงการ เป้นการก าหนดทิศทางของการด าเนินงานตลอดจนแนวทางในการ ปฏิบัติงาน ควรเขียนให้ชัดเจนรักุม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพียงข้อเดียว อาจมี วัตถุประสงค์รองๆ เพิ่มเติมแต่ไม่ควรหลายข้อนัก มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ กล่าวคือค านึกถึงความพร้อมทางด้านทรัพยากรที่มีอยู่ ขีดความสามารถในการ ด าเนินงาน ระยะเวลาที่คาดว่าจะแล้วเสร็จรวมทั้งข้อจ ากัดอื่นๆ ด้วยทั้งนี้เพื่อป้องกัน ไม่ให้ก าหนดวัตถุประสงค์ของโครงการเกินความจริง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหาย หากว่ามีการด าเนินโครงการไปแล้วต่ไม่บรรลุเป้าหมาย เช่น


วัตถุประสงค์ ๑.เพื่อซ่อมแซมเครื่องเล่นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๒. เพื่อใช้ทักษะวิชาชีพบ าเพ็ญประโยชน์แก่สังคม ๙.๕ เป้าหมาย (ท าแค่ไหน) เป้าหมาย เป็นการก าหนดทิศทางในการด าเนินงาน เพื่อให้เกิดปริมาณงาน หรือคุณภาพของงานตามวัตถุประสงค์ เป็นการคาดหวังไว้ล่วงหน้าถึงผลที่จะได้รับ โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้ ๙.๕.๑ ควรก าหนดเป้าหมายของโครงการให้เป็นรูปธรรม ชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่คลุมเครือ หรือกว้างจนเกินไป หากระบุเป็นตัวเลขก็จะ ช่วยให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น เช่น จ านวนผลผลิตต่อไรที่เพิ่มขึ้น จ านวนคนที่ได้รับ บริการหรือผลประโปยชน์จากดครงการ ๙.๕.๒ เป้าหมายของโครงการที่ก าหนดขึ้นมานั้น ควรมีลักษณะ จ าเพาะเจาะจง ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการ หรือผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับ โครงการ เป้าหมาย เชิงปริมาณ นักศึกษาระดับ ปวส. ๑ แผนกวิชาเทคนิคอุตสาหกรรมกลุ่ม ๑ จ านวน ๑๐ คน ร่วมกันซ่อมแซมเครื่องเล่นของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เชิงคุณภาพ เครื่องเล่นของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีสภาพใช้งานได้ดี มีความปลอดภัย


Click to View FlipBook Version