The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสร์ ม.๒ รวมสามแผน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by plepin032, 2021-09-22 11:47:21

แผนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ม.๒

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสร์ ม.๒ รวมสามแผน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1

กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหัสวิชา ค 22102

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง สถิต(ิ 2) เวลา 11 ช่ัวโมง

เรอื่ ง การนาเสนอ การวิเคราะห์ และการแปรความหมายขอ้ มูล เวลา 1 ชว่ั โมง

ครผู ู้สอน ……………………………………………….. วันท่.ี .......เดอื น.................................พ.ศ. …………..

1.มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติและใชค้ วามรูท้ างสถติ ิในการ
ตัวช้วี ดั

ค 3.1 ม.2/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนาเสนอข้อมูลละวิเคราะห์ข้อมูลจากแผนภาพจุด แผนภาพต้น-
ใบ ฮิสโทแกรม และค่ากลางของข้อมูล และแปรความหมายของผลลัพธ์ รวมท้ังนาสถิติไปใช้ในชีวิต
จริง โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม

2.จุดประสงค์การเรียนรู้
1) นกั เรียนอธิบายความหมายเกี่ยวกบั การนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพจดุ ได้
2) นกั เรียนสามารถการนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพจดุ ได้ถูกต้อง

3.สาระสาคัญ
สถิติ หมายถึง ตวั เลขท่ีแสดงขอ้ เทจ็ จริงเกีย่ วกับเรื่องใดเร่ืองหนึ่ง
การนาเสนอขอ้ มูล หมายถึง การส่อื สารเพ่ือเสนอข้อมลู ความรู้ ความคิดเห็น หรอื ความตอ้ งการไปสผู่ ้รู บั สาร โดยใช้

เทคนิคหรือวธิ ีการต่างๆ อันจะทาให้บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ
แผนภาพจุด(dot plot) เป็นการนาเสนอข้อมลู โดยใช้จุดแทนจานวนหรือความถี่ของขอ้ มูลแตล่ ะกลุ่มซึ่งโดยท่วั ไปใช้

วงกลมขนาดเล็ก ( ) แทนจุดของข้อมลู

4.สาระการเรยี นรู้
- การนาเสนอข้อมูลทางสถติ ิแบบแผนภาพจดุ

5.ช้นิ งาน หรือภาระงาน
- แบบฝกึ ทักษะเรื่อง แผนภาพจดุ

6.กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน

1) ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ ักเรยี นทราบ

2) ครูสนทนาเกย่ี วกบั ส่ิงแวดล้อมรอบ ๆ ตวั เรา และยกตัวอยา่ งการแสดงข้อมลู ทางสถิติ เพ่ือให้ผรู้ บั รู้ข้อมูลจดั
ระเบียบข้อมลู สามารถพิจารณารายละเอียดท่ีต้องการทราบได้ง่าย ถูกต้องและรวดเรว็ พร้อมยกตัวอย่าง ดัง
รูปภาพ

ข้นั พัฒนาการเรียนรู้
3) หลังจากทนี่ ักเรยี นดตู วั อยา่ งการนาเสนอข้อมูลทางสถิติในรูปแบบต่างๆแลว้ ครูได้ให้ความหมายเกีย่ วกบั ข้อมูลสถิติ
การนาเสนอข้อมลู และแผนภาพจดุ ดงั น้ี

สถติ ิ หมายถึง ตัวเลขทีแ่ สดงขอ้ เทจ็ จริงเก่ยี วกับเรือ่ งใดเรือ่ งหนง่ึ
การนาเสนอขอ้ มลู หมายถึง การสอื่ สารเพอ่ื เสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือ ความต้องการไปสู่
ผ้รู บั สาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการตา่ งๆ อันจะทาให้บรรลุผลสาเร็จตามจดุ มุ่งหมายของการนาเสนอ
แผนภาพจดุ (dot plot) เป็นการนาเสนอข้อมลู โดยใชจ้ ุดแทนจานวนหรือความถ่ีของขอ้ มลู แตล่ ะกลุม่
ซึ่งโดยท่ัวไปใช้วงกลมขนาดเล็ก ( ) แทนจุดของข้อมลู

4) หลังจากนักเรียนเข้าใจความหมายเร่ืองแผนภาพจุดแล้ว ครูยกตัวอย่างการนาเสนอข้อมูลแบบแผนภาพจุดบน
กระดาน ดงั น้ี

ตวั อย่างที่ 1 ขอ้ มลู จานวนประตทู ที่ าได้ของทมี ฟตุ บอลบุรรี ัมย์ ยูไนเตด็ ในการแขง่ ขนั ฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก 2019
ตั้งแต่วันท่ี 9 มีนาคม ถึง 5 สงิ หาคม พ.ศ.2562 เป็นดงั นี้

2123223213020
4245202242222

วธิ ที า จากข้อมูลข้างตน้ สามารถเขยี นแผนภาพจุด ได้ดังนี้
จานวนประตูท่ีทาได้ของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก 2019 ตั้งแต่วันท่ี 9

มนี าคม ถงึ 5 สงิ หาคม พ.ศ.2562

จานวนประตทู ี่ทาได้

1 2 3 45

ข้นั รวบยอด

5) หลงั จากครยู กตัวอยา่ งการเขียนแผนภาพจดุ ครตู ัง้ คาถามในตวั อย่างเพือ่ ทดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นดงั นี้

1. ทีมฟุตบอลบุรีรมั ย์ ยไู นเตด็ ส่วนใหญ่สามารถทาประตไู ดเ้ ทา่ ไร

(สามารถทาประตไู ด้ 2 ประตู ต่อ จานวนการแข่งขัน 1 ครงั้ )

2. ทีมฟุตบอลบรุ ีรัมย์ ยไู นเตด็ สามารถทาประตไู ด้มากทีส่ ดุ เท่าไร

(สามารถทาประตูได้ 5 ประตู ตอ่ จานวนการแข่งขนั 1 ครงั้ )

3. ในการแข่งขนั ตั้งแตว่ นั ท่ี 9 มีนาคม ถงึ 5 สิงหาคม พ.ศ.2562ทีมฟตุ บอลบุรรี ัมย์ ยไู นเต็ด สามารถ

ทาประตไู ดม้ ากกว่า 2 ประตูกีค่ รงั้

(มากกวา่ 2 ประตู จานวน 7 คร้ัง)

6) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ การนาเสนอข้อมลู ทางสถิตแิ บบแผนภาพจดุ ดงั น้ี

สถติ ิ หมายถึง ตัวเลขที่แสดงข้อเทจ็ จริงเกยี่ วกบั เรื่องใดเร่ืองหนงึ่

การนาเสนอข้อมลู หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคดิ เหน็ หรือ ความตอ้ งการไปสู่
ผู้รบั สาร โดยใชเ้ ทคนคิ หรือวิธกี ารตา่ งๆ อันจะทาให้บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ

แผนภาพจุด(dot plot) เป็นการนาเสนอข้อมลู โดยใช้จุดแทนจานวนหรือความถ่ีของขอ้ มลู แตล่ ะกลมุ่
ซ่ึงโดยทั่วไปใช้วงกลมขนาดเลก็ ( ) แทนจดุ ของข้อมูล

7) นกั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ เรื่อง แผนภาพจดุ

7.ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
สื่อการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นสาระการเรยี นรู้พื้นฐานคณติ ศาสตร์ เลม่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2
2. แบบฝึกทกั ษะเร่ือง แผนภาพจดุ
แหลง่ การเรียนรู้
1. ห้องสมุดโรงเรยี น
2. ขอ้ มลู จากแหล่งเรียนรอู้ น่ื ๆ

8.กระบวนการวดั และการประเมนิ ผล
การวดั ผลตามสภาพจรงิ
การสังเกตการมสี ว่ นร่วม
การตอบคาถาม
ความกระตอื รือรน้
ตรวจแบบฝึกทักษะ เร่ือง แผนภาพจุด

การวดั และประเมินผล แบบ Rubrics scoring

แนวทางการประเมินใหค้ ะแนนดา้ นความรู้
ใชเ้ กณฑ์การประเมิน แบ่งออกเปน็ 4 ระดบั

พฤติกรรมการเรียนรทู้ ่ี ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ
ระดับ 4 ระดบั 3 ระดับ 2 ระดบั 1
แบบฝึกทกั ษะเรื่อง เขียนแผนภาพจุด เขยี นแผนภาพจดุ ถูกต้อง
แผนภาพจดุ ไดถ้ ูกตอ้ งทง้ั หมด เขียนแผนภาพจุด เขียนแผนภาพจดุ บางสว่ นและตอบคาถาม
และตอบคาถาม ไมถ่ ูก
ถูกท้งั 3 ขอ้ ไดถ้ ูกต้องทงั้ หมด ได้ถูกตอ้ ง

และตอบคาถามถูก บางส่วน

2 ข้อ และตอบคาถาม

ถกู 1 ข้อ

การประเมินให้คะแนนดา้ นความรู้ ระดับ 4 หมายถึง ดีมาก
ดี
ระดบั 3 หมายถงึ ปานกลาง
ปรับปรงุ
ระดบั 2 หมายถงึ

ระดบั 1 หมายถงึ

ระดบั 2 ขึ้นไปผา่ นเกณฑ์

แนวทางการประเมินให้คะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ
ใช้เกณฑ์การประเมิน แบ่งออกเป็น 3 ระดับ

พฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ

ทป่ี ระเมิน ระดับ 3 ระดับ 2 ระดับ 1

นกั เรียนใชภ้ าษาในการ นกั เรยี นใช้ภาษาในการ นกั เรียนใชภ้ าษาในการ นักเรียนใช้ภาษาในการ

ส่อื สาร ส่ือความหมาย สอื่ สาร ส่อื ความหมาย สอ่ื สาร สอ่ื ความหมาย สอ่ื สาร สือ่ ความหมาย

ชดั เจน เข้าใจงา่ ย เขา้ ใจง่ายค่อนข้างมาก เข้าใจงา่ ยคอ่ นข้างน้อย

ทางการประเมินใหค้ ะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ ระดับ 3 หมายถงึ ดี

ระดบั 2 หมายถงึ ปานกลาง

ระดบั 1 หมายถงึ ยอมรับได้

ระดับ 2 ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

แนวทางการประเมินใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ใช้เกณฑ์การประเมนิ แบ่งออกเป็น 3 ระดบั

พฤติกรรมการเรียนรู้ท่ี ระดับคณุ ภาพ การ

ประเมนิ ระดบั 3 ระดบั 2 ระดบั 1

นกั เรียนมีความ นักเรียนต้งั ใจเรยี นและส่ง นักเรยี นต้งั ใจเรียนและสง่ นักเรยี นตัง้ ใจเรียนบ้าง

กระตือรอื ร้นใฝ่รใู้ ฝ่เรียน งานกอ่ นเวลาหรือทนั เวลา งานชา้ กวา่ เวลาท่กี าหนด และส่งงานชา้ มาก

ท่กี าหนด เลก็ นอ้ ย

ประเมินให้คะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับ 3 หมายถงึ ดี

ระดบั 2 หมายถึง ปานกลาง

ระดบั 1 หมายถึง ยอมรบั ได้

ระดับ 2 ขน้ึ ไปผ่านเกณฑ์

บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้

กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน รหัสวิชา ค 22102

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง สถิติ(2) เวลา 11 ช่ัวโมง

เรือ่ ง การนาเสนอ การวเิ คราะห์ และการแปรความหมายข้อมูล เวลา 1 ช่ัวโมง

ครผู ูส้ อน…………………………………………วัน/ เดือน/ ปีท่สี อน .....................................เวลา .................................

บันทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้

การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ ผลการเรียนรู้

1) นักเรียนอธบิ ายความหมายเกยี่ วกบั การนาเสนอ นกั เรียนทั้งหมด............................ คน

นักเรยี นผ่านเกณฑ.์ ...............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.........

นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์............คน คิดเป็นร้อยละ.........

เลขท่นี กั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ.์ ..........................................

2) นักเรยี นสามารถการนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพจุด นักเรียนทง้ั หมด............................ คน

ไดถ้ ูกต้อง นกั เรยี นผ่านเกณฑ.์ ...............คน คิดเป็นร้อยละ.........

นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ.์ ...........คน คดิ เป็นร้อยละ.........

เลขท่ีนกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์...........................................

การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ นักเรยี นทงั้ หมด............................ คน
นักเรียนทีไ่ ด้ระดบั ดเี ย่ียม..............คน ระดบั ด.ี ........ คน
ข้อที่ 4 ใฝเ่ รยี นรู้
ตัวชวี้ ดั ที่ 4.1 ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้า ระดับผา่ น...........คน ระดับไมผ่ า่ น........คน
รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ เลขทนี่ กั เรียนไม่ผ่านการประเมนิ ..................................

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพจุดและตอบคาถามต่อไปน้ี

จานวนโทรศพั ทท์ ่ีรา้ นขายเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าแหง่ หน่งึ ขายไดใ้ นสัปดาหห์ นึ่ง เป็นดงั น้ี

วัน จานวนทีโ่ ทรศพั ทข์ ายได้ (เครอ่ื ง)

วันจันทร์ 1
วันอังคาร 4
วันพธุ 4
วันพฤหสั บดี 1
วันศุกร์ 2
วนั เสาร์ 1
วนั อาทติ ย์ 3

แผนภาพจดุ ทีไ่ ด้

คาถาม

1. จานวนโทรศัพทท์ ีร่ ้านขายเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าขายได้ในสัปดาห์น้ี รวมทง้ั หมดกี่เครื่อง
ตอบ....................................................................................................................

2. วนั ใดในสปั ดาหน์ ท้ี ่ีขายโทรศัพท์ไดม้ ากที่สดุ
ตอบ....................................................................................................................

3. จานวนโทรศพั ท์ที่ขายได้มากที่สดุ และขายได้นอ้ ยที่สดุ ของร้านตา่ งกันจานวนเท่าไร
ตอบ....................................................................................................................

ช่ือ-สกลุ ............................................. ชนั้ ม.2 / ..... เลขที่ .....



แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2

กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน รหัสวิชา ค 22102

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง สถิติ(2) เวลา 11 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง การนาเสนอ การวิเคราะห์ และการแปรความหมายข้อมูล(ตอ่ ) เวลา 1 ช่วั โมง

ครผู สู้ อน นางสาลินี กลุ วงษ์ วันที่........เดือน.................................พ.ศ. …………..

1.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิและใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการ
ตวั ช้วี ดั

ค 3.1 ม.2/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนาเสนอข้อมูลละวิเคราะห์ข้อมูลจากแผนภาพจุด แผนภาพต้น-
ใบ ฮิสโทแกรม และค่ากลางของข้อมูล และแปรความหมายของผลลัพธ์ รวมทั้งนาสถิติไปใช้ในชีวิต
จรงิ โดยใชเ้ ทคโนโลยที ี่เหมาะสม

2.จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1) นักเรยี นอธิบายความหมายเกย่ี วกับการนาเสนอข้อมูลแบบแผนภาพตน้ -ใบได้
2) นกั เรียนสามารถการนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพตน้ -ใบได้ถูกตอ้ ง

3.สาระสาคญั
สถติ ิ หมายถงึ ตวั เลขท่ีแสดงขอ้ เท็จจรงิ เกย่ี วกบั เร่ืองใดเรื่องหนึ่ง
การนาเสนอขอ้ มลู หมายถึง การส่อื สารเพ่ือเสนอข้อมูล ความรู้ ความคดิ เห็น หรอื ความต้องการไปสู่ผรู้ บั สาร โดยใช้

เทคนคิ หรือวิธีการต่างๆ อนั จะทาใหบ้ รรลุผลสาเร็จตามจุดมุง่ หมายของการนาเสนอ
แผนภาพตน้ -ใบ (stem and leaf plot) แผนภาพต้น-ใบ เป็นแผนภาพทจ่ี ดั ข้อมลู เป็นกลมุ่ แสดงการแจกแจงความถ่ีและ

วเิ คราะห์ข้อมลู เบอื ้ ต้นไปพร้อม ๆกนั

4.สาระการเรยี นรู้
- การนาเสนอข้อมลู ทางสถิติแบบแผนภาพตน้ -ใบ

5.ชิน้ งาน หรอื ภาระงาน
- แบบฝกึ ทักษะเรื่อง แผนภาพตน้ -ใบ

6.กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
8) ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ใหน้ ักเรียนทราบ
9) ครูทบทวนความรเู้ กีย่ วกับความหมายของข้อมูลสถิติ การนาเสนอข้อมลู และแผนภาพต้น-ใบ

ข้ันพฒั นาการเรยี นรู้
10) หลังจากท่ีนักเรียนดูตัวอย่างการนาเสนอข้อมูลทางสถิติในรูปแบบต่างๆและให้ความหมายเก่ียวกับข้อมูลสถิติ การ
นาเสนอขอ้ มูลและแผนภาพตน้ -ใบ ดงั น้ี

สถติ ิ หมายถงึ ตัวเลขทีแ่ สดงขอ้ เทจ็ จริงเกี่ยวกบั เร่อื งใดเร่ืองหน่ึง

การนาเสนอขอ้ มลู หมายถึง การส่อื สารเพ่อื เสนอขอ้ มูล ความรู้ ความคดิ เห็น หรือ ความต้องการไปสู่
ผรู้ ับสาร โดยใชเ้ ทคนคิ หรอื วิธกี ารต่างๆ อันจะทาให้บรรลุผลสาเรจ็ ตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ

แผนภาพตน้ -ใบ (stem and leaf plot) เป็นแผนภาพทจ่ี ัดขอ้ มลู เปน็ กลุ่มแสดงการแจกแจงความถ่ี
และวเิ คราะหข์ ้อมลู เบื้อตน้ ไปพร้อม ๆกัน

11) หลังจากนกั เรยี นเข้าใจความหมายเร่ืองแผนภาพต้น-ใบ แล้ว ครูยกตวั อยา่ งการนาเสนอขอ้ มลู แบบแผนภาพต้น-ใบ
บนกระดาน ดังนี้

ตวั อยา่ ง ครูผู้สอนรายวิชาคอมพิวเตอร์ได้ทดสอบความรู้ความสามารถในการพิมพ์ตัวอักษรของนักเรียน
ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 30 คน ซ่ึงใชเ้ วลา 2 นาที นกั เรียนสามารถพมิ พจ์ านวนคาไดด้ งั นี้

81 59 60 74 67 75 48 80 71 62
52 67 76 76 65 63 68 51 48 53
71 75 74 77 68 73 61 66 80 79
วธิ ีทา จากข้อมลู ขา้ งต้น นกั เรียนสามารถสร้างแผนภาพต้น-ใบ ดงั นี้

จะเห็นว่า จานวนคาท่ีนักเรียนพิมพ์ได้ภายในเวลา 2 นาที เป็นจานวนท่ีมีสองหลัก โดยมี 4,5,6,7และ 8 เป็น
เลขโดดในหลักสิบ จงึ แบ่งจานวนคาทนี่ ักเรยี นพิมพไ์ ด้ออกเป็น 5 กลุ่ม ตามเลขโดในหลักสิบ ดังน้ี

กลมุ่ ที่มี 4 เป็นเลขโดดในหลักสิบ ได้แก่ 48 48
กลุ่มทมี่ ี 5 เป็นเลขโดดในหลักสบิ ได้แก่ 59 52 51 53
กลมุ่ ท่ีมี 6 เปน็ เลขโดดในหลกั สบิ ได้แก่ 60 67 62 67 65 63 68 61 66
กลุม่ ทมี่ ี 7 เปน็ เลขโดดในหลักสบิ ไดแ้ ก่ 74 75 71 76 76 71 75 74 77 79
กล่มุ ที่มี 8 เปน็ เลขโดดในหลักสบิ ได้แก่ 81 80 80

นาข้อมูลมาจัดเป็นลาต้นและใบ โดยใช้เลขโดดในหลักหนว่ ยเป็นใบและใชเ้ ลขโดดในหลักสิบเป็น ลา
ตน้ ซ่งึ นาเสนอข้อมลู โดยใช้แผนภาพต้น-ใบ ดังนี้

ต้น ใบ

4 88
5 9213
6 0727538816
7 45166154739
8 100

เม่ือเรยี งลาดบั ข้อมลู จากน้อยไปมาก นาเสนอข้อมลู โดยใช้แผนภาพตน้ -ใบ ดังนี้
ต้น ใบ

4 88
5 1239
6 0123567788
7 11344556679
8 001

ข้ันรวบยอด
12) หลังจากครยู กตวั อย่างการเขยี นแผนภาพตน้ -ใบ ครูต้ังคาถามในตัวอย่างเพ่ือทดสอบความเข้าใจของนักเรียนดังนี้
4. ภายในเวลา 2 นาที นักเรยี นส่วนใหญส่ ามารถพมิ พ์จานวนคาไดเ้ ทา่ ไร
(นักเรยี นสามารถพิมพ์จานวนคาได้ 70-79 คา มีมากท่สี ุด ซ่งึ กล่าวไดว้ า่ ภายในเวลา 2 นาที นักเรียนส่วนใหญ่
สามารถพมิ พ์จานวนคาได้ 70-79 คา)
5. ภายในเวลา 2 นาที นกั เรยี นสามารถพิมพจ์ านวนคาได้มากท่สี ุดเท่าไร และนอ้ ยท่สี ุดเทา่ ไร
(ภายในเวลา 2 นาที นกั เรยี นสามารถพิมพจ์ านวนคาไดม้ ากทสี่ ุด 81 คา และน้อยทีส่ ุด 48 คา)

13) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปการนาเสนอข้อมลู ทางสถิตแิ บบแผนภาพตน้ -ใบ ดงั นี้

สถิติ หมายถึง ตัวเลขท่ีแสดงข้อเทจ็ จริงเกี่ยวกับเร่อื งใดเรื่องหนง่ึ
การนาเสนอขอ้ มูล หมายถึง การสอ่ื สารเพ่อื เสนอข้อมลู ความรู้ ความคิดเหน็ หรอื ความต้องการไปสู่
ผู้รับสาร โดยใชเ้ ทคนคิ หรือวิธกี ารต่างๆ อนั จะทาให้บรรลุผลสาเรจ็ ตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ
แผนภาพต้น-ใบ (stem and leaf plot) เป็นแผนภาพท่จี ดั ขอ้ มลู เป็นกลุ่มแสดงการแจกแจงความถ่ี
และวเิ คราะหข์ ้อมลู เบื้อตน้ ไปพรอ้ ม ๆกัน

14) นกั เรียนทาแบบฝึกทักษะ เร่ือง แผนภาพตน้ -ใบ

7.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

สอื่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรพู้ นื้ ฐานคณติ ศาสตร์ เลม่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2
2. แบบฝกึ ทกั ษะเร่ือง แผนภาพต้น-ใบ

แหล่งการเรียนรู้
3. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น
4. ขอ้ มลู จากแหล่งเรียนรอู้ น่ื ๆ

8.กระบวนการวัดและการประเมนิ ผล
การวัดผลตามสภาพจริง
การสังเกตการมีส่วนร่วม
การตอบคาถาม
ความกระตอื รือร้น
ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ เรื่อง แผนภาพจดุ

การวัดและประเมนิ ผล แบบ Rubrics scoring

แนวทางการประเมนิ ให้คะแนนด้านความรู้
ใช้เกณฑ์การประเมนิ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ

พฤตกิ รรมการเรียนรู้ที่ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน
ระดับ 4 ระดับ 3 ระดบั 2 ระดบั 1
แบบฝกึ ทักษะเร่ือง เขยี นแผนภาพ เขียนแผนภาพตน้ -ใบ
แผนภาพต้น-ใบ ตน้ -ใบไดถ้ ูกต้อง เขยี นแผนภาพต้น- เขยี นแผนภาพ ถูกต้องบางส่วนและตอบ
ทง้ั หมด คาถามไม่ถูก
และตอบคาถาม ใบไดถ้ ูกต้อง ตน้ -ใบไดถ้ ูกต้อง
ถกู ทั้ง 2 ข้อ
บางสว่ น บางสว่ น

และตอบคาถามถูก และตอบคาถาม

2 ข้อ ถูก 1 ข้อ

การประเมินให้คะแนนดา้ นความรู้ ระดับ 4 หมายถงึ ดมี าก
ดี
ระดับ 3 หมายถงึ ปานกลาง
ปรบั ปรุง
ระดบั 2 หมายถึง

ระดบั 1 หมายถงึ

ระดับ 2 ขนึ้ ไปผ่านเกณฑ

แนวทางการประเมนิ ให้คะแนนดา้ นทักษะกระบวนการ
ใช้เกณฑ์การประเมนิ แบ่งออกเป็น 3 ระดบั

พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดับคณุ ภาพ

ทปี่ ระเมนิ ระดับ 3 ระดับ 2 ระดบั 1

นกั เรยี นใชภ้ าษาในการ นกั เรียนใชภ้ าษาในการ นักเรียนใช้ภาษาในการ นักเรียนใช้ภาษาในการ

สอ่ื สาร สื่อความหมาย สื่อสาร ส่อื ความหมาย ส่อื สาร สอื่ ความหมาย สอื่ สาร ส่ือความหมาย

ชัดเจน เขา้ ใจง่าย เข้าใจง่ายคอ่ นข้างมาก เขา้ ใจง่ายค่อนข้างน้อย

ทางการประเมนิ ให้คะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ ระดบั 3 หมายถึง ดี

ระดบั 2 หมายถึง ปานกลาง

ระดับ 1 หมายถงึ ยอมรบั ได้

ระดบั 2 ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

แนวทางการประเมินให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบ่งออกเป็น 3 ระดบั

พฤติกรรมการเรยี นรทู้ ี่ ระดับคณุ ภาพ การ

ประเมิน ระดับ 3 ระดับ 2 ระดับ 1

นักเรียนมคี วาม นกั เรยี นตง้ั ใจเรียนและสง่ นักเรียนตง้ั ใจเรียนและส่ง นักเรยี นตัง้ ใจเรยี นบา้ ง

กระตือรอื ร้นใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น งานกอ่ นเวลาหรือทันเวลา งานช้ากวา่ เวลาท่ีกาหนด และสง่ งานช้ามาก

ท่ีกาหนด เล็กนอ้ ย

ประเมินใหค้ ะแนนด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับ 3 หมายถงึ ดี

ระดบั 2 หมายถงึ ปานกลาง

ระดับ 1 หมายถึง ยอมรับได้

บันทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้

กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน รหสั วิชา ค 22102

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ือง สถติ ิ(2) เวลา 11 ชั่วโมง

เรื่อง การนาเสนอ การวิเคราะห์ และการแปรความหมายข้อมูล(ต่อ) เวลา 1 ชั่วโมง

ครผู ู้สอน…………………………………………วนั / เดอื น/ ปีท่ีสอน .....................................เวลา .................................

บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้

การประเมนิ ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นตามจุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ ผลการเรยี นรู้

1) นักเรียนอธบิ ายความหมายเกยี่ วกับการนาเสนอ นักเรยี นทง้ั หมด............................ คน

นักเรยี นผา่ นเกณฑ์................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.........

นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์............คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.........

เลขที่นักเรียนไม่ผา่ นเกณฑ.์ ..........................................

2) นักเรยี นสามารถการนาเสนอข้อมูลแบบแผนภาพ นกั เรียนทงั้ หมด............................ คน

ตน้ -ใบไดถ้ ูกต้อง นักเรียนผ่านเกณฑ์................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.........

นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.........

เลขทนี่ ักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์...........................................

การประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการเรียนรู้
จดุ ประสงค์ นักเรียนท้งั หมด............................ คน
นักเรยี นท่ไี ด้ระดบั ดเี ยี่ยม..............คน ระดับด.ี ........ คน
ขอ้ ที่ 4 ใฝเ่ รียนรู้
ตวั ชว้ี ดั ที่ 4.1 ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้า ระดบั ผ่าน...........คน ระดับไม่ผา่ น........คน
รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ เลขทน่ี กั เรยี นไมผ่ า่ นการประเมิน..................................

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพตน้ -ใบ และตอบคาถามต่อไปน้ี

ผลสารวจอายุ(ป)ี ของผู้เข้าชมงานนิทรรศการแห่งหนงึ่ ในชว่ งเวลา 10.00 น.-12.00น. เป็นดงั นี้
7 13 22 32 43 52 5 17 21 34
42 58 39 38 41 46 36 38 47 47
14 24 38 39 39 49 57 23 49 44

แผนภาพต้น-ใบ

คาถาม

4. อายขุ องผู้เข้าชมนิทรรศการสว่ นใหญ่อายุเท่าใด
ตอบ....................................................................................................................

5. อายุของผเู้ ขา้ ชมนทิ รรศการมากทีส่ ดุ และน้อยทส่ี ุดเปน็ เท่าใด
ตอบ....................................................................................................................

ชื่อ-สกลุ ............................................. ชนั้ ม.2 / ..... เลขที่ .....



แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2

กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน รหัสวิชา ค 22102

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่อื ง สถิต(ิ 2) เวลา 11 ชว่ั โมง

เรอื่ ง การนาเสนอ การวิเคราะห์ และการแปรความหมายขอ้ มูล(ตอ่ ) เวลา 1 ชั่วโมง

ครผู ้สู อน นางสาลินี กุลวงษ์ วันท่ี........เดือน.................................พ.ศ. …………..

1.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติและใช้ความรู้ทางสถติ ิในการ
ตัวชวี้ ดั

ค 3.1 ม.2/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนาเสนอข้อมูลละวิเคราะห์ข้อมูลจากแผนภาพจุด แผนภาพต้น-
ใบ ฮิสโทแกรม และค่ากลางของข้อมูล และแปรความหมายของผลลัพธ์ รวมท้ังนาสถิติไปใช้ในชีวิต
จริง โดยใช้เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม

2.จุดประสงค์การเรียนรู้
1) นกั เรยี นอธิบายความหมายเกี่ยวกบั การนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพตน้ -ใบได้
2) นักเรยี นสามารถการนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพตน้ -ใบได้ถูกตอ้ ง

3.สาระสาคัญ
สถติ ิ หมายถึง ตวั เลขที่แสดงข้อเท็จจรงิ เกยี่ วกับเรื่องใดเร่ืองหนึง่
การนาเสนอข้อมลู หมายถงึ การสอื่ สารเพ่ือเสนอข้อมูล ความรู้ ความคดิ เหน็ หรือ ความต้องการไปสผู่ รู้ บั สาร โดยใช้

เทคนคิ หรือวิธีการตา่ งๆ อันจะทาใหบ้ รรลุผลสาเรจ็ ตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ
แผนภาพตน้ -ใบ (stem and leaf plot) แผนภาพต้น-ใบ เป็นแผนภาพที่จดั ข้อมลู เป็นกลมุ่ แสดงการแจกแจงความถี่และ

วเิ คราะห์ข้อมลู เบอื ้ ต้นไปพร้อม ๆกนั

4.สาระการเรียนรู้
- การนาเสนอข้อมูลทางสถติ ิแบบแผนภาพตน้ -ใบ

5.ช้ินงาน หรือภาระงาน
- แบบฝกึ ทกั ษะเรื่อง แผนภาพตน้ -ใบ

6.กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน

15) ครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ
16) ครทู บทวนความรู้เกยี่ วกับความหมายของข้อมูลสถิติ การนาเสนอข้อมูลและแผนภาพตน้ -ใบ
ขั้นพฒั นาการเรียนรู้
17) หลังจากท่ีนักเรียนดูตวั อย่างการนาเสนอข้อมูลทางสถิติในรปู แบบต่างๆและให้ความหมายเก่ียวกับข้อมูลสถิติ การ

นาเสนอขอ้ มูลและแผนภาพตน้ -ใบ ดงั น้ี

สถติ ิ หมายถึง ตัวเลขท่แี สดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกบั เรื่องใดเร่ืองหน่งึ

การนาเสนอข้อมูล หมายถงึ การสือ่ สารเพอื่ เสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรอื ความต้องการไปสู่
ผูร้ ับสาร โดยใชเ้ ทคนคิ หรือวิธกี ารต่างๆ อนั จะทาให้บรรลผุ ลสาเร็จตามจดุ มุ่งหมายของการนาเสนอ

แผนภาพตน้ -ใบ (stem and leaf plot) เปน็ แผนภาพทจ่ี ัดข้อมลู เปน็ กลุ่มแสดงการแจกแจงความถ่ี
และวเิ คราะหข์ ้อมลู เบ้ือต้นไปพรอ้ ม ๆกนั

18) หลังจากนกั เรียนเข้าใจความหมายเรื่องแผนภาพต้น-ใบ แลว้ ครยู กตัวอยา่ งการนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพต้น-ใบ
บนกระดาน ดงั นี้

ตวั อย่าง ครูผู้สอนรายวิชาคอมพิวเตอร์ได้ทดสอบความรู้ความสามารถในการพิมพ์ตัวอักษรของนักเรียน
ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 30 คน ซึ่งใช้เวลา 2 นาที นกั เรียนสามารถพิมพ์จานวนคาไดด้ งั นี้

81 59 60 74 67 75 48 80 71 62
52 67 76 76 65 63 68 51 48 53
71 75 74 77 68 73 61 66 80 79
วิธที า จากขอ้ มูลข้างต้น นกั เรยี นสามารถสรา้ งแผนภาพตน้ -ใบ ดังนี้

จะเห็นว่า จานวนคาท่ีนักเรียนพิมพ์ได้ภายในเวลา 2 นาที เป็นจานวนท่ีมีสองหลัก โดยมี 4,5,6,7และ 8 เป็น
เลขโดดในหลกั สบิ จงึ แบง่ จานวนคาทีน่ กั เรยี นพิมพ์ได้ออกเป็น 5 กลุม่ ตามเลขโดในหลักสบิ ดงั น้ี

กลมุ่ ท่ีมี 4 เป็นเลขโดดในหลักสิบ ได้แก่ 48 48
กลุ่มทม่ี ี 5 เปน็ เลขโดดในหลกั สบิ ได้แก่ 59 52 51 53
กลมุ่ ที่มี 6 เป็นเลขโดดในหลกั สิบ ได้แก่ 60 67 62 67 65 63 68 61 66
กล่มุ ที่มี 7 เปน็ เลขโดดในหลกั สบิ ได้แก่ 74 75 71 76 76 71 75 74 77 79
กล่มุ ทม่ี ี 8 เปน็ เลขโดดในหลักสิบ ไดแ้ ก่ 81 80 80

นาขอ้ มลู มาจัดเปน็ ลาต้นและใบ โดยใชเ้ ลขโดดในหลักหน่วยเปน็ ใบและใช้เลขโดดในหลักสิบเป็น ลา
ตน้ ซ่ึงนาเสนอขอ้ มลู โดยใชแ้ ผนภาพต้น-ใบ ดงั น้ี

ต้น ใบ

4 88

5 9213
6 0727538816
7 45166154739
8 100

เมื่อเรยี งลาดบั ขอ้ มลู จากน้อยไปมาก นาเสนอข้อมูลโดยใชแ้ ผนภาพต้น-ใบ ดังนี้
ต้น ใบ

4 88
5 1239
6 0123567788
7 11344556679
8 001

ขั้นรวบยอด
19) หลังจากครยู กตัวอย่างการเขียนแผนภาพตน้ -ใบ ครตู ัง้ คาถามในตัวอย่างเพ่ือทดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นดงั นี้
6. ภายในเวลา 2 นาที นกั เรยี นส่วนใหญ่สามารถพิมพจ์ านวนคาได้เทา่ ไร
(นักเรยี นสามารถพิมพ์จานวนคาได้ 70-79 คา มีมากทีส่ ดุ ซ่งึ กลา่ วได้วา่ ภายในเวลา 2 นาที นกั เรยี นส่วนใหญ่
สามารถพิมพ์จานวนคาได้ 70-79 คา)
7. ภายในเวลา 2 นาที นกั เรยี นสามารถพิมพ์จานวนคาได้มากทส่ี ดุ เทา่ ไร และน้อยทส่ี ดุ เทา่ ไร
(ภายในเวลา 2 นาที นกั เรียนสามารถพิมพจ์ านวนคาไดม้ ากทสี่ ุด 81 คา และน้อยท่ีสดุ 48 คา)

20) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ การนาเสนอข้อมลู ทางสถติ ิแบบแผนภาพตน้ -ใบ ดงั นี้

สถิติ หมายถึง ตัวเลขที่แสดงข้อเทจ็ จริงเกย่ี วกับเรือ่ งใดเร่ืองหนึ่ง
การนาเสนอข้อมูล หมายถงึ การสอ่ื สารเพอื่ เสนอข้อมูล ความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื ความต้องการไปสู่
ผ้รู ับสาร โดยใชเ้ ทคนคิ หรือวิธกี ารตา่ งๆ อนั จะทาให้บรรลุผลสาเรจ็ ตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ
แผนภาพตน้ -ใบ (stem and leaf plot) เปน็ แผนภาพท่ีจัดข้อมลู เปน็ กลุ่มแสดงการแจกแจงความถี่
และวิเคราะหข์ ้อมูลเบื้อตน้ ไปพรอ้ ม ๆกัน

21) นกั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะ เร่ือง แผนภาพตน้ -ใบ

7.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
สือ่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรยี นสาระการเรียนรู้พ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ เลม่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2

2. แบบฝึกทักษะเร่ือง แผนภาพต้น-ใบ
แหลง่ การเรียนรู้

5. ห้องสมดุ โรงเรยี น
6. ข้อมลู จากแหล่งเรยี นร้อู ่นื ๆ

8.กระบวนการวัดและการประเมินผล
การวดั ผลตามสภาพจรงิ
การสังเกตการมสี ่วนรว่ ม
การตอบคาถาม
ความกระตือรือร้น
ตรวจแบบฝึกทักษะ เร่ือง แผนภาพจดุ

การวัดและประเมินผล แบบ Rubrics scoring

แนวทางการประเมินให้คะแนนดา้ นความรู้
ใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน แบ่งออกเป็น 4 ระดับ

พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ที่ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน
ระดับ 4 ระดบั 3 ระดบั 2 ระดบั 1
แบบฝึกทักษะเร่อื ง เขยี นแผนภาพ เขียนแผนภาพตน้ -ใบ
แผนภาพตน้ -ใบ ตน้ -ใบไดถ้ ูกต้อง เขียนแผนภาพต้น- เขียนแผนภาพ ถูกต้องบางส่วนและตอบ
ทงั้ หมด คาถามไม่ถกู
และตอบคาถาม ใบไดถ้ ูกต้อง ตน้ -ใบได้ถูกต้อง
ถูกทั้ง 2 ข้อ
บางส่วน บางสว่ น

และตอบคาถามถูก และตอบคาถาม

2 ข้อ ถูก 1 ข้อ

การประเมนิ ใหค้ ะแนนด้านความรู้ ระดบั 4 หมายถึง ดมี าก
ดี
ระดับ 3 หมายถึง ปานกลาง
ปรบั ปรงุ
ระดับ 2 หมายถงึ

ระดบั 1 หมายถงึ

ระดับ 2 ข้ึนไปผา่ นเกณฑ์

แนวทางการประเมนิ ให้คะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ
ใช้เกณฑก์ ารประเมิน แบ่งออกเป็น 3 ระดบั

พฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดับคุณภาพ

ทป่ี ระเมนิ ระดับ 3 ระดบั 2 ระดับ 1

นักเรยี นใชภ้ าษาในการ นกั เรยี นใชภ้ าษาในการ นกั เรียนใชภ้ าษาในการ นกั เรยี นใชภ้ าษาในการ

สื่อสาร สอื่ ความหมาย ส่ือสาร ส่ือความหมาย สอ่ื สาร สอ่ื ความหมาย ส่ือสาร สอ่ื ความหมาย

ชดั เจน เข้าใจง่าย เข้าใจง่ายค่อนขา้ งมาก เข้าใจงา่ ยค่อนขา้ งน้อย

ทางการประเมินใหค้ ะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ ระดบั 3 หมายถงึ ดี

ระดับ 2 หมายถึง ปานกลาง

ระดับ 1 หมายถึง ยอมรบั ได้

ระดับ 2 ขน้ึ ไปผา่ นเกณฑ์

แนวทางการประเมนิ ให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ

พฤติกรรมการเรยี นรู้ที่ ระดับคณุ ภาพ การ

ประเมนิ ระดับ 3 ระดับ 2 ระดบั 1

นักเรียนมีความ นักเรียนตั้งใจเรยี นและส่ง นักเรยี นต้ังใจเรียนและสง่ นกั เรียนตงั้ ใจเรียนบ้าง

กระตือรอื รน้ ใฝร่ ู้ใฝ่เรียน งานก่อนเวลาหรือทันเวลา งานช้ากว่าเวลาทก่ี าหนด และส่งงานชา้ มาก

ทกี่ าหนด เล็กนอ้ ย

ประเมินใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับ 3 หมายถงึ ดี

ระดับ 2 หมายถึง ปานกลาง

ระดบั 1 หมายถงึ ยอมรบั ได้

บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน รหัสวิชา ค 22102

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรื่อง สถิติ(2) เวลา 11 ช่ัวโมง

เรื่อง การนาเสนอ การวิเคราะห์ และการแปรความหมายข้อมูล(ต่อ) เวลา 1 ชั่วโมง

ครูผูส้ อน…………………………………………วัน/ เดอื น/ ปีท่สี อน .....................................เวลา .................................

บันทึกผลการจัดการเรียนรู้

การประเมนิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามจุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ ผลการเรยี นรู้

1) นกั เรียนอธบิ ายความหมายเกีย่ วกับการนาเสนอ นกั เรียนทั้งหมด............................ คน

นักเรียนผา่ นเกณฑ.์ ...............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.........

นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑ.์ ...........คน คดิ เป็นร้อยละ.........

เลขที่นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์...........................................

2) นกั เรยี นสามารถการนาเสนอข้อมูลแบบแผนภาพ นกั เรียนทั้งหมด............................ คน

ตน้ -ใบไดถ้ ูกต้อง นักเรียนผ่านเกณฑ์................คน คิดเปน็ ร้อยละ.........

นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ.์ ...........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.........

เลขท่ีนกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑ์...........................................

การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์ นกั เรียนทงั้ หมด............................ คน
นักเรียนทไี่ ด้ระดับดีเยี่ยม..............คน ระดับด.ี ........ คน
ข้อที่ 4 ใฝ่เรยี นรู้
ตัวชีว้ ดั ที่ 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้า ระดบั ผา่ น...........คน ระดับไมผ่ ่าน........คน
รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ เลขทนี่ กั เรยี นไมผ่ า่ นการประเมนิ ..................................

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพตน้ -ใบ และตอบคาถามต่อไปน้ี

ผลสารวจอายุ(ปี) ของผเู้ ข้าชมงานนทิ รรศการแห่งหน่งึ ในช่วงเวลา 10.00 น.-12.00น. เป็นดงั น้ี
7 13 22 32 43 52 5 17 21 34
42 58 39 38 41 46 36 38 47 47

14 24 38 39 39 49 57 23 49 44

แผนภาพตน้ -ใบ

คาถาม

6. อายุของผู้เข้าชมนทิ รรศการสว่ นใหญ่อายเุ ทา่ ใด
ตอบ....................................................................................................................

7. อายขุ องผเู้ ขา้ ชมนิทรรศการมากท่สี ุดและน้อยท่ีสดุ เป็นเท่าใด
ตอบ....................................................................................................................

ชื่อ-สกลุ ............................................. ชนั้ ม.2 / ..... เลขท่ี .....



แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3

กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหัสวชิ า ค 22102

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง สถติ ิ(2) เวลา 11 ช่ัวโมง

เรื่อง การนาเสนอ การวิเคราะห์ และการแปรความหมายขอ้ มูล(ต่อ) เวลา 1 ชว่ั โมง

ครผู ้สู อน นางสาลนิ ี กลุ วงษ์ วนั ท.่ี .......เดอื น.................................พ.ศ. …………..

1.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิและใชค้ วามรทู้ างสถติ ใิ นการ
ตัวชี้วดั

ค 3.1 ม.2/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนาเสนอข้อมูลละวิเคราะห์ข้อมูลจากแผนภาพจุด แผนภาพต้น-
ใบ ฮิสโทแกรม และค่ากลางของข้อมูล และแปรความหมายของผลลัพธ์ รวมท้ังนาสถิติไปใช้ในชีวิต
จรงิ โดยใช้เทคโนโลยีทีเ่ หมาะสม

2.จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) นักเรียนอธิบายความหมายเกย่ี วกบั การนาเสนอข้อมูลในรปู ฮสิ โทแกรม
2) นกั เรียนสามารถการนาเสนอข้อมูลในรูปฮิสโทแกรมได้ถูกต้อง

3.สาระสาคัญ
ฮิสโตแกรม (Histogram) เป็นแผนภูมแิ ท่งท่บี อกถงึ ความถ่ีทีเ่ กิดขนึ้ ในแตล่ ะอันตรภาคชั้น โดยแตล่ ะแท่งจะวางเรียง

ตดิ กัน แกนนอนจะกากับดว้ ยค่าขอบบนและขอบลา่ งของช้นั นนั้ หรอื ใช้คา่ กลาง(Midpoint) แกนตั้งเปน็ ค่าความถีใ่ นอันตรภาค
ชนั้ ดงั น้ันความสงู ของแตล่ ะแทง่ จะขึน้ อยู่กับความถี่

4.สาระการเรียนรู้
- การนาเสนอข้อมูลในรปู ฮสิ โทแกรม

5.ช้ินงาน หรือภาระงาน
- แบบฝึกทักษะเรื่อง ฮิสโทแกรม

6.กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน

22) ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ ักเรยี นทราบ

23) ครูทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับ การนาเสนอข้อมลู แบบแผนภาพจุดและแผนภาพตน้ -ใบโดยการเล่นเกมส์สถิติน่า
คน้ หา โดยการให้นักเรยี นแบ่งกล่มุ ๆละ 5-6 คน แลว้ ครูแจกข้อมลู สถติ ิใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ แล้วใหน้ ักเรยี น
ชว่ ยกนั หาคาตอบ โดยการเลือกใชส้ ถติ ิทเ่ี คยเรียนมาก่อนหนา้ น้ี

24) หลังจากท่ีนักเรียนดูตัวอย่างการนาเสนอข้อมูลทางสถิติในรูปแบบต่างๆและให้ความหมายเกี่ยวกับข้อมูลสถิติ การ
นาเสนอขอ้ มูลในรูปฮิสโทแกรม ดงั น้ี

ฮสิ โตแกรม (Histogram) เปน็ แผนภมู ิแทง่ ทบี่ อกถึงความถท่ี ่ีเกิดข้นึ ในแต่ละอนั ตรภาคชน้ั
โดยแตล่ ะแท่งจะวางเรยี งติดกัน แกนนอนจะกากบั ดว้ ยค่าขอบบนและขอบล่างของช้ันนนั้ หรอื ใชค้ ่า
กลาง(Midpoint) แกนต้ังเป็นคา่ ความถี่ในอนั ตรภาคช้ัน ดงั น้นั ความสงู ของแต่ละแทง่ จะขนึ้ อยู่กับ
ความถี่

ขน้ั พัฒนาการเรยี นรู้

25) หลังจากนั้นครูแจกใบความรู้เรือ่ ง ข้ันตอนการสร้างตารางแจกแจงความถี่ ให้นักเรียนได้ศึกษา ครูยกตัวอย่างการ
นาเสนอขอ้ มลู ในรูปฮิสโทแกรม บนกระดาน ดังนี้

ตัวอย่าง จากการสารวจพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้หวัดนกของประชาชนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปรากฏว่า
คะแนนพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้หวัดนกของประชาชนมีค่าตั้งแต่ 10-30 คะแนน และผู้สารวจได้จัดทาตารางแจกแจง
ความถี่ของคะแนนไว้ ดังน้ี

คะแนนพฤติกรรม รอยขีด ความถ่ี (จานวนคน)
10 - 12 2
13 - 15 5
16 - 18 13
19 - 21 23
22 - 24 18
25 - 27 10
28 - 30 4
75
รวม

วธิ ีทา จากตารางแจกแจงความถขี่ ้างตน้ เขยี นแสดงขอบลา่ งและขอบบนได้ดังน้ี

คะแนนพฤตกิ รรม คะแนนพฤติกรรม ความถี่ (จานวน)
แสดงขอบล่าง-ขอบบน
10 - 12 2
13 - 15 09.50 – 12.50 5
16 - 18 12.50 – 15.50 13
19 - 21 15.50 – 18.50 23
22 - 24 18.50 – 21.50 18
25 - 27 21.50 – 24.50 10
28 - 30 24.50 – 27.50 4
27.50 – 30.50 75
รวม

จากข้อมลู ในตาราง สามารถนามาสรา้ งฮสิ โทแกรมได้ ดงั น้ี

จานวนประชากร(คน)

25
20
15
10
5

0 คะแนนพฤตกิ รรม(คะแนน)

ข้นั รวบยอด
26) หลังจากนน้ั ครตู งั้ คาถามในตวั อย่างเพ่ือทดสอบความเขา้ ใจของนักเรียนดงั นี้
8. ขอบล่างและขอบบนของอนั ตรภาคชน้ั 13-15 เทา่ กับเทา่ ใด
(ขอบล่างและขอบบนของอันตรภาคชั้น 13-15 เท่ากบั 12.50 และ 15.50 ตามลาดับ)
9. อนั ตรภาคช้ัน 13-15 มคี วามกวา้ งของอนั ตรภาคช้นั เทา่ กับเท่าใด
(อนั ตรภาคชัน้ 13-15 มคี วามกวา้ งของอันตรภาคชั้นเทา่ กับ 3)
10. แต่ละอนั ตรภาคชั้นมคี วามกวา้ งเทา่ กนั หรอื ไม่
(แต่ละอนั ตรภาคชั้นมีความกว้างเทา่ กนั คือ 3)
9.50
12.50
15.50
18.50
21.50
24.50
27.50
30.50

11. ประชาชนทส่ี ารวจไดค้ ะแนนพฤตกิ รรมการปอ้ งกันโรคไข้หวัดนกตกอยูใ่ นชว่ งใดมากที่สุดและมจี านวนกี่คน
(อยู่ในชว่ ง 19-21 คะแนนมากท่สี ุด มีจานวน 23 คน)

12. ประชาชนที่ได้คะแนนพฤตกิ รรมการปอ้ งกนั โรคไข้หวดั นกน้อยกวา่ 16 คะแนน เปน็ เทา่ ใด
(ประชาชนท่ไี ดค้ ะแนนพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้หวัดนกน้อยกว่า 16 คะแนน มจี านวน 16 คน)

27) ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปการนาเสนอข้อมูลแบบฮสิ โทแกรม ดงั น้ี

28) นกั เรยี นทาแบบฝึกทักษะ เร่ือง ฮิสโทแกรม

7.ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นสาระการเรียนรู้พ้นื ฐานคณิตศาสตร์ เลม่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2
2. แบบฝึกทักษะเร่ือง ฮสิ โทแกรม
แหลง่ การเรียนรู้
7. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น
8. ขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรูอ้ ืน่ ๆ

8.กระบวนการวดั และการประเมนิ ผล
การวัดผลตามสภาพจริง
การสังเกตการมสี ว่ นร่วม
การตอบคาถาม
ความกระตอื รือรน้
ตรวจแบบฝกึ ทักษะ เรื่อง ฮิสโทแกรม

การวัดและประเมินผล แบบ Rubrics scoring

แนวทางการประเมินให้คะแนนดา้ นความรู้
ใช้เกณฑ์การประเมิน แบ่งออกเป็น 4 ระดับ

พฤตกิ รรมการเรียนรู้ที่ ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ
ระดับ 4 ระดบั 3 ระดับ 2 ระดับ 1
แบบฝึกทกั ษะเรอ่ื ง เขยี นรูปแบบการ เขียนรูปแบบการนาเสนอ
ฮสิ โทแกรม นาเสนอข้อมูล เขยี นรปู แบบการ เขียนรูปแบบการ ข้อมลู ฮสิ โทแกรม
ฮิสโทแกรม ได้
นาเสนอข้อมูล ฮสิ นาเสนอข้อมลู

โทแกรม ได้ถูกต้อง ฮิสโทแกรม ได้

ถูกต้องทงั้ หมด ทงั้ หมด ถูกต้องบางสว่ น ถกู ต้องบางสว่ นและตอบ
และตอบคาถาม และตอบคาถามถูก และตอบคาถาม คาถามไม่ถกู
ถูกทัง้ 4 ขอ้ 3 ข้อ ถูก 1-2 ข้อ

การประเมินใหค้ ะแนนดา้ นความรู้ ระดบั 4 หมายถงึ ดมี าก
ดี
ระดบั 3 หมายถึง ปานกลาง
ปรบั ปรงุ
ระดบั 2 หมายถงึ

ระดบั 1 หมายถึง

ระดบั 2 ขึ้นไปผา่ นเกณฑ์

แนวทางการประเมินให้คะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ
ใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบ่งออกเปน็ 3 ระดบั

พฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ

ทป่ี ระเมนิ ระดับ 3 ระดบั 2 ระดับ 1

นักเรยี นใช้ภาษาในการ นกั เรียนใชภ้ าษาในการ นักเรียนใชภ้ าษาในการ นักเรียนใช้ภาษาในการ

สือ่ สาร ส่ือความหมาย ส่อื สาร ส่ือความหมาย สอ่ื สาร ส่ือความหมาย ส่อื สาร สอ่ื ความหมาย

ชดั เจน เข้าใจงา่ ย เขา้ ใจงา่ ยค่อนข้างมาก เขา้ ใจงา่ ยค่อนข้างน้อย

ทางการประเมนิ ใหค้ ะแนนด้านทักษะกระบวนการ ระดบั 3 หมายถงึ ดี

ระดับ 2 หมายถงึ ปานกลาง

ระดบั 1 หมายถงึ ยอมรบั ได้

ระดบั 2 ขึ้นไปผา่ นเกณฑ์

แนวทางการประเมินให้คะแนนดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ใช้เกณฑ์การประเมิน แบ่งออกเป็น 3 ระดบั

พฤติกรรมการเรียนรูท้ ี่ ระดบั คณุ ภาพ การ

ประเมิน ระดบั 3 ระดับ 2 ระดับ 1

นกั เรียนมคี วาม นักเรยี นตั้งใจเรียนและสง่ นกั เรยี นตงั้ ใจเรียนและส่ง นักเรียนต้ังใจเรยี นบ้าง

กระตือรอื ร้นใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น งานก่อนเวลาหรือทนั เวลา งานช้ากวา่ เวลาทีก่ าหนด และสง่ งานช้ามาก

ทีก่ าหนด เล็กน้อย

ประเมินให้คะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั 3 หมายถงึ ดี

ระดบั 2 หมายถึง ปานกลาง

ระดับ 1 หมายถึง ยอมรบั ได้

ระดบั 2 ขนึ้ ไปผ่านเกณฑ์

บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน รหัสวชิ า ค 22102

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง สถติ ิ(2) เวลา 11 ชั่วโมง

เรอื่ ง การนาเสนอ การวิเคราะห์ และการแปรความหมายขอ้ มูล(ต่อ) เวลา 1 ช่ัวโมง

ครผู ้สู อน…………………………………………วนั / เดอื น/ ปีทีส่ อน .....................................เวลา .................................

บนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้

การประเมนิ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ ผลการเรียนรู้

1) นักเรียนอธิบายความหมายเกีย่ วกับการนาเสนอ นักเรยี นทั้งหมด............................ คน

นักเรียนผา่ นเกณฑ.์ ...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.........

นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.........

เลขทน่ี กั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ.์ ..........................................

2) นกั เรยี นสามารถการนาเสนอข้อมูลในรปู ฮิสโทแกรม นกั เรียนทั้งหมด............................ คน

ไดถ้ ูกต้อง นกั เรียนผ่านเกณฑ.์ ...............คน คดิ เป็นร้อยละ.........

นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.........

เลขท่ีนักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ.์ ..........................................

การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการเรียนรู้
จุดประสงค์ นกั เรยี นท้ังหมด............................ คน
นักเรียนท่ไี ด้ระดับดเี ย่ยี ม..............คน ระดับด.ี ........ คน
ขอ้ ที่ 4 ใฝเ่ รียนรู้
ตวั ชวี้ ัดท่ี 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้า ระดบั ผา่ น...........คน ระดับไมผ่ า่ น........คน
ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ เลขที่นกั เรยี นไม่ผ่านการประเมิน..................................

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนนาเสนอขอ้ มูลแบบฮิสโทแกรม และตอบคาถามต่อไปน้ี

จานวนชว่ั โมงทใ่ี ชใ้ นการนอนของนักเรยี น 30 คน เป็นดังน้ี
8 9 9 8 9 10 8 9 7 6
8 9 7 9 8 10 7 8 9 8
7 10 9 7 8 8 9 8 8 9

ตารางแจกแจงความถี่

ฮสิ โทแกรม

คาถาม

8. นกั เรยี นสว่ นใหญ่มีจานวนทีใ่ ช้ในการนอนเปน็ เทา่ ใด
ตอบ....................................................................................................................

9. นกั เรยี นท่ีมีจานวนชัว่ โมงทีใ่ ชใ้ นการนอนเท่ากบั 8 ชวั่ โมง มีจานวนกี่คน
ตอบ....................................................................................................................

10.นกั เรียนที่มีจานวนชัว่ โมงทีใ่ ช้ในการนอนน้อยกวา่ 8 ชัว่ โมง มจี านวนกค่ี น
ตอบ....................................................................................................................

11.นกั เรียนทม่ี จี านวนชว่ั โมงที่ใช้ในการนอนมากกว่า 9 ชัว่ โมง มจี านวนกคี่ น
ตอบ....................................................................................................................

ช่ือ-สกลุ ............................................. ชนั้ ม.2 / ..... เลขที่ .....


Click to View FlipBook Version