รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 48
กิจกรรมอยา่ งอิสระ ตามความต้องการความสนใจและความสามารถของเด็ก ครูส่งเสริมให้เดก็ ไดม้ ีการเรียนรู้
จากประสบการณ์ตรง มีพัฒนาการด้านการดารงตนอยู่ในสังคม มีวินัยในตนเอง มีมารยาทที่ดี มีสัมมา
คารวะ รู้จักช่วยเหลือตนเองและผู้อ่ืน เป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม ครูเยี่ยมบ้านเด็ก จัดทาสมุดประวัติของเด็ก
รายบุคคลทั้งด้านพฤติกรรม การเรียนและครอบครัว ใช้ผลการวิเคราะห์ข้อมูลมาพัฒนาเด็กรายบุคคลทั้ง
การเรียนและส่งเสริมคุณภาพชีวิต มีการจัดกิจกรรมทางด้านศิลปะ ดนตรี ให้นักเรียนได้วาดภาพ ระบายสี
เพื่อสร้างจินตนาการและมีอารมณ์แจ่มใส ให้เด็กได้ทากิจกรรมด้วยความสนุกสนาน มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับ
เพ่ือน ทัง้ ในและนอกห้องเรียน โดยความรว่ มมอื ของพ่อแม่ และครอบครัว ชุมชน และ ผู้เกยี่ วขอ้ ง
2. สร้ำงโอกำสให้เด็กได้รบั ประสบกำรณ์ตรง เลน่ และปฏิบัตอิ ย่ำงมคี วำมสุข
โรงเรียนให้ความสาคัญในการส่งเสริมและพัฒนาเด็ก จึงได้จัดทาโครงการเรียนรู้สู่โลกกว้าง การ
เรียนรูจ้ ากประสบการณ์ตรงจะช่วยใหเ้ ด็กเกดิ การเรยี นร้ไู ดด้ ีทส่ี ุด กิจกรรมทัศนศกึ ษานานกั เรียนศกึ ษาแหล่ง
เรียนรู้ท้ังในและนอกสถานศึกษา เพ่ือให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากการไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ท้ังในและ
นอกห้องเรียน กิจกรรมหนูน้อยยอดนักคิดนักวิทยาศาสตร์นอ้ ย ได้กาหนดกิจกรรมที่ส่งเสริมการดาเนินงาน
ในโครงการดงั กลา่ วโดยสง่ เสรมิ ใหค้ รจู ดั ประสบการณ์การเรียนรใู้ นรปู แบบของโครงงาน เปดิ โอกาสให้เด็กได้
เลือกทากิจกรรมอย่างอิสระตามความต้องการ ความสนใจและความสามารถ ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรูใ้ นสิง่ ที่
สนใจโดยใช้ประสาทสัมผัสท้ังห้า ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการแสวงหา
ความรู้ผา่ นกิจกรรมทหี่ ลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสใหเ้ ด็กได้นาเสนอองค์ความรู้จากประสบการณ์ที่เรยี นรู้และ
นาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. จัดบรรยำกำศที่เอื้อตอ่ กำรเรียนรู้ใชส้ ือ่ และเทคโนโลยีทเ่ี หมำะสมกบั วัย
โรงเรียนจัดทาโครงการพัฒนาอาคารสถานท่ี และปรับภูมิทัศน์ในโรงเรียน พัฒนาแหล่งเรียนรู้
ภายในสถานศึกษา และพัฒนาห้องเรียนคุณภาพ โดยครูได้จัดบรรยากาศและสภาพห้องเรียนท่ีเอื้อต่อการ
เรียนรู้ ห้องเรียนมีบรรยากาศสีสันสดใส สะอาด อากาศถ่ายเทแจ่มใส กว้างขวางพอเหมาะ มีมุมเสริม
ทักษะ เสรมิ ประสบการณอ์ ย่างหลากหลายโดยเด็กมสี ่วนร่วมในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน สรา้ งสอ่ื /
นวัตกรรมการเรียนรู้ที่เอ้ือต่อการจัดประสบการณ์การเรียนการสอน ใช้ส่ือและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย
เพื่อใหเ้ ด็กเกดิ การเรยี นร้ไู ดท้ ุกท่ีไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
4. ประเมินพัฒนำกำรเด็กตำมสภำพจริงและนำผลกำรประเมินพัฒนำกำรเดก็ ไปปรับปรุงกำรจัด
ประสบกำรณ์และพฒั นำเด็ก
โรงเรียนส่งเสริมให้ครูปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางในการวัดและประเมินผลตาม
สภาพจริง คิดค้นเครื่องมือและนาเทคนิคการวัดผลที่มีความเหมาะสมมาใช้ในการวัดพฤติกรรมการ
แสดงออกใช้วิธีในการเก็บข้อมูลหลากหลายวิธี ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การ
สอบถาม การสารวจ และกาหนดเกณฑ์ในการประเมินให้มีความชัดเจนและมีจานวนมากพอที่จะ
ประเมินผลท่ีเกิดข้ึนกับตัวเด็กได้อย่างมั่นใจ โดยความร่วมมือของพ่อแม่และครอบครัว ชุมชน และ
โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาบรุ ีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 49
ผู้เกี่ยวข้อง ครูมีการประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง และนาผลการประเมินท่ีได้ไปวิเคราะห์ผลเพื่อ
นาไปปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของเด็ก จัดทาวิจัยในช้ันเรียนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเด็กอย่างน้อยภาค
เรียนละ 1 เร่ือง และครูจัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) อย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้นาแนวทาง
และวิธกี ารมาใชใ้ นจัดประสบการณ์เพอื่ พฒั นาเด็กได้อย่างมีคุณภาพ
โรงเรียนมีโครงการ/กิจกรรมท่ีดาเนินการเพ่ือส่งเสริมสนับสนุนกระบวนการจัดประสบการณ์ท่ีเน้น
เดก็ เป็นสาคญั ดงั ตอ่ ไปนี้
1. โครงการการนเิ ทศภายใน
2. โครงการพฒั นาเดก็ ปฐมวัยอยา่ งมคี ุณภาพ
3. โครงการพัฒนาอาคารสถานที่ และปรับภูมิทัศน์ในโรงเรียน สภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้
ได้แก่ กจิ กรรมปรบั ปรงุ สนามเด็กเล่น กิจกรรมห้องเรยี นคุณภาพ กิจกรรมปกู ระเบ้อื งในอาคาร
4. โครงการรักษ์วัฒนธรรมไทย ได้แก่ กิจกรรมวันเข้าพรรษาและวันอาสาฬหบูชา กิจกรรมวัน
มาฆบูชา วันวิสาฃบูชา กจิ กรรมวันลอยกระทง กิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระประจาสัปดาห์ กจิ กรรมวนั ไหว้ครู
กิจกรรมจิตอาสา
5. โครงการบ้านนกั วิทยาศาสตรน์ อ้ ย มีกิจกรรมการสืบคน้ ทดลอง และแสดงความคิดเห็น
6. โครงการส่งเสริมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้แก่ กิจกรรมการออมทรัพย์ กิจกรรม
มารยาทงาม กจิ กรรมทาความสะอาด และกจิ กรรมการเกษตร
7. ทาโครงการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย เช่น กิจกรรมส่งเสริม
พัฒนาการด้านร่างกาย กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้าน
สังคม กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา กิจกรรมแข่งขันทักษะทางวิชาการนักเรียน กิจกรรมเล่น
กฬี า กจิ กรรมทัศนศกึ ษาแหล่งเรียนรนู้ อกสถานท่ี กิจกรรมสง่ เสริมพัฒนาการเด็กปฐมวยั กจิ กรรม
8. ครูวดั ผลประเมินตามสภาพจริงดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลาย เชน่ สังเกต สอบถาม สัมภาษณ์
3. ผลทีเ่ กดิ จำกกำรพัฒนำ
โรงเรียนได้ดาเนินการในการพัฒนาเด็กทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ครูจัดประสบการณ์การ
เรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นสาคัญ เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากการเล่นปนเรียนและปฏิบัติกิจกรรมอย่างมี
ความสุข เด็กได้รับการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานที่กาหนด ซ่ึงกระบวนการพัฒนาในแต่ละประเด็นส่งผล
ดังนี้
1. จัดประสบกำรณ์ท่สี ่งเสรมิ ให้เด็กมีพฒั นำกำรทุกด้ำนอย่ำงสมดุลเต็มศักยภำพ
ครูมีการจัดประสบการณ์ท่ีส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้าน อย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ร้อยละ 89
ซงึ่ สูงกวา่ คา่ เปา้ หมายทกี่ าหนด ส่งผลให้เด็กมพี ัฒนาการทางดา้ นรา่ งกาย ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ด้านสงั คม และ
ด้านสติปญั ญาอย่างสมดุลเตม็ ศักยภาพโดยความรว่ มมอื ของพ่อแมแ่ ละครอบครวั ชมุ ชน และผู้เก่ยี วข้อง
โรงเรียนอนุบาลกระสงั สานกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาบุรีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 50
2. สรำ้ งโอกำสใหเ้ ด็กได้รับประสบกำรณ์ตรง เล่นและปฏบิ ัตอิ ยำ่ งมคี วำมสขุ
ครูผู้สอนจัดกิจกรรมระดับปฐมวัย 6 กิจกรรมหลัก ส่งผลให้เด็กร้อยละ 87 มีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน
ในระดบั ดี จดั ประสบการณ์ทเ่ี ชอื่ มโยงกับประสบการณเ์ ดิม ให้เดก็ เล่นตามความสนใจ จัดกจิ กรรมทส่ี ง่ เสริม
พัฒนาการเด็กเรียนรู้จากการได้ปฏบิ ัติจรงิ จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการท้ัง 6 กิจกรรม ประกอบด้วย
กิจกรรมเสรี ได้แก่ การเล่นกับส่ือ และเครื่องเล่น กิจกรรมสร้างสรรค์ ได้แก่ การเขียนภาพ การปั้น การฉีก
ตดั ปะ การพิมพ์ภาพ การรอ้ ยลกู ปดั และการประดิษฐ์ กจิ กรรมเคล่ือนไหว ไดแ้ ก่ การเคล่ือนไหวตามจังหวะ
เพลง คาคล้องจอง เคร่ืองเคาะจังหวะ อุปกรณ์อื่น ๆ อย่างเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ได้แก่ การจัด
กิจกรรมด้วยวิธีการสนทนา อภิปราย การเล่านิทาน การสาธิต การทดลอง การศึกษานอกสถานที่ บทบาท
สมมุติ การเล่นเกม คาคล้องจอง กิจกรรมกลางแจ้งได้แก่ การเล่นเครื่องสนาม เล่นทราย และเล่นน้า
กิจกรรมเกมการศึกษา โดยเล่นคนเดียวหรือเล่นเป็นกลุ่ม เกมจับคู่ เกมแยกประเภท เกมการจัดหมู่ เกม
เรียงลาดับ และภาพตดั ตอ่
3. จดั บรรยำกำศทเ่ี อือ้ ตอ่ กำรเรยี นรใู้ ชส้ ่อื และเทคโนโลยีทีเ่ หมำะสมกับวยั
ครูมกี ารจดั บรรยากาศทเี่ อ้ือต่อการเรยี นรู้ใช้สื่อและเทคโนโลยี ทีเ่ หมาะสมกบั วัย รอ้ ยละ 85 ซ่ึงสูง
กวา่ ค่าเป้าหมายท่ีกาหนด ครจู ดั หอ้ งเรยี นให้สะอาด อากาศถา่ ยเท ปลอดภัย มพี ืน้ ท่ี แสดงผลงานเด็ก พ้ืนที่
สาหรับมุมประสบการณ์และการจัดกิจกรรม เด็กมีส่วนร่วมในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน เช่น ป้าย
นิเทศ การดูแลต้นไม้ จัดบรรยากาศที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับช่วงอายุ
ระยะ ความสนใจ และวิถีการเรียนรู้ของเด็ก เช่น คอมพิวเตอร์ สาหรับการเรียนรู้กลุ่มย่อย สื่อของเล่นที่
กระต้นุ ใหค้ ิดและหาคาตอบ
4. ประเมินพฒั นำกำรเด็กตำมสภำพจริงและนำผลกำรประเมินพัฒนำกำรเด็กไปปรับปรุงกำรจัด
ประสบกำรณ์และพฒั นำเด็ก
ครูมีการประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนาผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการ
จัดประสบการณ์และพฒั นาเด็ก ร้อยละ 86 ซึ่งสูงกวา่ ค่าเป้าหมายที่กาหนด โดยครปู ระเมินพฒั นาการเด็ก
จากกิจกรรมและกจิ วัตรประจาวันดว้ ยเคร่ืองมือและวิธกี ารทห่ี ลากหลาย ผูป้ กครองและผู้เก่ียวข้องมีส่วนร่วม
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดประสบการณ์และมีการนาผลการประเมินเป็นข้อมูลในการปรับปรุง พัฒนา
คณุ ภาพเด็กใหด้ ยี ่ิงข้ึน
โรงเรียนอนุบาลกระสังมีการรายงานและเปิดเผยผลการประเมินคุณภาพของเด็ก สมุดรายงานผล
พัฒนาการของเด็กต่อผู้ปกครองนักเรียนภาคเรียนละ 1 ครั้ง และนาเสนอการจัดกิจกรรมการจัด
ประสบการณ์ การจัดกิจกรรมต่างๆ โดยการเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เฟสบุ๊คของโรงเรียน
จดหมายขา่ ว กลุ่ม Line ผู้ปกครองนกั เรียน การประชมุ ผ้ปู กครอง การจัดนิทรรศการ Open house ตอ่
คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน ชุมชน และผู้มีส่วนเก่ียวข้อง รวมถึงการจัดส่งรายงานการ
ประเมินตนเองของสถานศกึ ษาให้หนว่ ยงานต้นสงั กดั และผ้เู กยี่ วขอ้ งในทุกปีการศกึ ษา
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาบุรรี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 51
4. ข้อมลู หลกั ฐำน เอกสำรเชิงประจักษ์ ทส่ี นบั สนนุ ผลกำรประเมนิ ตนเอง
ประเดน็ พจิ ำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลกั ฐำนเชิงประจกั ษ์/ผลงำนโดดเดน่
1. จัดประสบการณ์ที่ - โครงการพฒั นาคุณภาพการจดั การเรยี น - หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัย
สง่ เสริมใหเ้ ด็กมี การสอนระดับปฐมวัย พทุ ธศกั ราช 2561 (ตามหลักสูตร
พัฒนาการทกุ ด้านอย่าง - กจิ กรรมหลกั 6 กิจกรรม แกนกลางการศึกษาปฐมวยั
สมดลุ เตม็ ศกั ยภาพ - กจิ กรรมเดก็ ดีมจี ิตอาสา พทุ ธศกั ราช 2560)
- กจิ กรรมเด็กดีมมี ารยาท - แผนการจดั ประสบการณท์ ่เี น้นเด็ก
2. สร้างโอกาสใหเ้ ด็ก - กิจกรรมอนรุ ักษ์สง่ิ แวดล้อม เปน็ สาคญั
ไดร้ บั ประสบการณ์ตรง - จัดกจิ กรรมทางด้านศลิ ปะ ดนตรี - บนั ทกึ ผลการจดั ประสบการณ์
เลน่ และปฏิบัติอยา่ งมี - แบบบันทกึ การวเิ คราะหน์ ักเรียนเปน็
ความสุข - โครงการหนนู ้อยยอดนักคิด รายบุคคล
นกั วิทยาศาสตรน์ ้อย - แบบประเมนิ พฒั นาการเด็ก
3. จัดบรรยากาศทเ่ี อ้ือ - กจิ กรรมการเรยี นแบบโครงงาน - สมุดรายงานประจาตวั นักเรียน
ตอ่ การเรียนรู้ใชส้ ื่อและ - กิจกรรมศึกษาแหลง่ เรียนรู้ภายใน/ - รายงานผลการทดสอบสมรรถภาพ
เทคโนโลยที เี่ หมาะสมกับ ภายนอกสถานศกึ ษา - รายงานสรุปโครงการ/กจิ กรรม
วยั - กจิ กรรมทศั นศกึ ษา - ภาพถา่ ยกจิ กรรม
- โครงการพัฒนาอาคารสถานที่ และปรบั - แฟ้มสะสมงานนกั เรยี น
4. ประเมินพัฒนาการเด็ก ภมู ทิ ัศนใ์ นโรงเรยี น - รายงานสรุปโครงการ/กิจกรรม
ตามสภาพจริงและนาผล - การสร้างสอ่ื /นวตั กรรมเพอื่ การศึกษา - ภาพถ่ายกจิ กรรม
การประเมินพฒั นาการ - กิจกรรมหอ้ งเรียนคุณภาพ
เดก็ ไปปรบั ปรุงการจัด - กจิ กรรมพฒั นาแหล่งเรียนรู้ภายใน - ส่อื /นวตั กรรม
สถานศึกษา - แบบบนั ทึกการสร้างสอ่ื /นวัตกรรม
- สร้างเคร่อื งมือวัดผลและประเมนิ ผล - แบบรายงานการใช้สื่อ/นวัตกรรม
- การวัดผลและประเมนิ ด้วยวิธกี ารท่ี - บันทึกการนเิ ทศภายใน
หลากหลาย - รายงานสรุปโครงการ/กิจกรรม
- ภาพถา่ ยกิจกรรม
- เคร่ืองมือวัดและประเมินผล
- วิจัยในชัน้ เรียน
- แบบบันทึกกจิ กรรมแลกเปลย่ี น
เรยี นร้ทู างวิชาชพี (PLC)
โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาบรุ รี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 52
ประเดน็ พจิ ำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลกั ฐำนเชงิ ประจักษ์/ผลงำนโดดเด่น
ประสบการณ์และพัฒนา - ประชุมแลกเปลีย่ นเรียนรทู้ างวชิ าชีพ - แบบการสังเกตแบบการสมั ภาษณ์
เด็ก (PLC) เด็ก ผ้ปู กครองนกั เรยี น
- แบบบันทกึ ผลพัฒนาการเด็ก
- ภาพถ่ายกจิ กรรม
5. จดุ เดน่
1. ครูมีตั้งใจมุ่งม่ันในการพัฒนาการสอน มีการจัดประสบการณ์และกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้เด็กมี
พัฒนาการทกุ ดา้ นอยา่ งสมดลุ สามารถใชช้ วี ิตในสังคมได้และปฏิบัตติ นในชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างมีความสขุ
2. เด็กไดเ้ รยี นรูจ้ ากการเลน่ และปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. ครจู ัดบรรยากาศชน้ั เรียนทีส่ ่งเสรมิ การเรยี นรู้ มีสอ่ื การเรยี นร้ทู เ่ี อือ้ ต่อการจดั การเรยี นการสอน
6. จดุ ควรพัฒนำ
1. การประเมนิ พฒั นาการเด็กควรใหผ้ ู้ปกครองและผู้เก่ยี วข้องมสี ว่ นร่วมในการประเมินและให้ข้อมูล
ยอ้ นกลับในการพฒั นาการจดั ประสบการณข์ องเดก็
2. ควรนาผลพัฒนาการเด็กไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกิจกรรม PLC และสร้างเครือข่ายครูปฐมวัย
ระหวา่ งโรงเรียนในกลมุ่ อาเภอทีม่ บี รบิ ทโรงเรียนคล้ายคลงึ กนั
7. แผนพัฒนำคุณภำพใหส้ งู ข้นึ
1. จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการครอบคลุม 4 ด้าน โดยความร่วมมือของพ่อแม่
ผู้ปกครองนักเรยี น ครอบครัว ชมุ ชนและผู้มสี ว่ นเกยี่ วขอ้ ง
2. จัดการเรียนรู้แบบสะเต็มระดับการศึกษาปฐมวัย ซึ่งเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง
และการสรา้ งนวัตกรรมใหม่ เตรียมเด็กให้พรอ้ มสาหรบั การศกึ ษาในระดับที่สงู ขึ้น
3. พัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กโดยการจัดโครงการ
หอ้ งเรียนคณุ ภาพและโครงการพัฒนาแหล่งเรยี นร้ภู ายในโรงเรยี น
4. สง่ เสริมการจดั ทาวิจยั ในชนั้ เรียนเพื่อพัฒนาผู้เรยี นให้สามารถเรยี นรู้ได้เต็มศักยภาพ และสง่ เสริม
การวดั ประเมนิ ผลดว้ ยวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย โดยการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครอง
โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ รี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 53
ระดบั กำรศกึ ษำขั้นพน้ื ฐำน
มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพของผู้เรียน
1. ระดับคณุ ภำพ
มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพของผู้เรียน ระดับคุณภำพ: ดี
มำตรฐำน/ประเด็นพิจำรณำ ค่ำเปำ้ หมำย ผล สรุป
กำรประเมนิ
(ร้อยละ)
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรยี น
1.1 ผลสมั ฤทธ์ทิ างวิชาการของผูเ้ รียน 79 80.52 บรรลเุ ป้าหมาย
1) มีความสามารถใน การอา่ น การเขียน การสือ่ สาร
บรรลเุ ปา้ หมาย
และการคิดคานวณ 80.52
2) มคี วามสามารถใน การคดิ วเิ คราะห์ คิดอย่างมี 77.92 บรรลเุ ป้าหมาย
90.91 บรรลุเปา้ หมาย
วจิ ารณญาณ อภิปราย แลกเปล่ียน ความคดิ เห็นและการ 76
83.36 บรรลเุ ป้าหมาย
แกป้ ัญหา 90.91 บรรลุเป้าหมาย
3) มีความสามารถในการสร้างนวตั กรรม 76 บรรลุเป้าหมาย
98.70
4) มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 84
และการส่ือสาร 98.70 บรรลุเปา้ หมาย
100 บรรลเุ ป้าหมาย
5) มีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นตามหลกั สตู รสถานศึกษา 74
97.40 บรรลุเปา้ หมาย
6) ความรู้ ทักษะพน้ื ฐาน และเจตคติท่ีดตี ่องานอาชีพ 84
1.2 คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ของผเู้ รียน
1) การมคี ณุ ลักษณะและคา่ นยิ มที่ดีตามท่ีสถานศึกษา 86
กาหนด
2) ความภูมใิ จในทอ้ งถิน่ และความเป็นไทย 89
3) การยอมรบั ทจ่ี ะอยู่ร่วมกนั บนความแตกต่าง 86
และความหลากหลาย
4) สุขภาวะทางรา่ งกายและลักษณะจิตสังคม 86
2. กระบวนกำรพัฒนำ
โรงเรียนอนุบาลกระสังส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยการ
ดาเนินงาน/ กิจกรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ งานหลักสูตร มีการประชุมปฏิบัติการ ปรับปรุงหลักสูตร
สถานศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2560) เพื่อให้ครูใช้เป็นกรอบในการ
จัดการเรียนการสอน การพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมายที่ว่า “การจัดการ
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ รี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 54
ศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ท้ังร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และ
คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข ซ่ึงสอดรับ
กับจดุ มงุ่ หมายของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ทไ่ี ด้ม่งุ พฒั นาใหผ้ ู้เรยี นเปน็ คน
ดี มีปัญญา มีความสุข อีกทั้งยังเสริมทักษะแห่งอนาคตใหม่ในศตวรรษที่ 21 (21ST Century Skills) ซ่ึง
เป็นทักษะท่จี าเป็นต่อการดารงชีวติ ของประชาชนคนไทย ในฐานะการเป็นพลเมืองของโลก ที่มีการดารงชีวิต
ทา่ มกลางโลกแห่งเทคโนโลยี โดยโรงเรียนอนุบาลกระสงั ดาเนนิ การ ดังน้ี
1. ผลสัมฤทธท์ิ ำงวชิ ำกำรของผู้เรียน
1.1 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำร
สือ่ สำรและกำรคดิ คำนวณ
นักเรียนมีทักษะความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคานวณ ซึ่งเกิดจาก
กระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยเทคนิควิธีการจัดการเรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เช่น การเรียนรู้แบบบูรณาการ การ
เรียนรโู้ ดยใหน้ กั เรยี นไดล้ งมอื ปฏิบัติจริง ยดึ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ข้ันพื้นฐาน และหลักสูตรสถานศึกษา มีผลการประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนในระดับดีและดีเยี่ยม
ร้อยละ 66.69 นักเรียนช้ัน ป.1 - ม.3 จานวน 559 คน มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ
90.88 ผลการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ร้อยละ 84.94 ผลเกิดจากนักเรียนชั้น ป.1 – ม.3 ฝึก
นาเสนอภาษาอังกฤษและภาษาไทยวันละคาหลังเคารพธงชาติที่โฮมรูมทุกวนั นกั เรียนช้นั ป.1- ม.3 ร้อยละ
100 ฝกึ อา่ นคาพืน้ ฐานภาษาไทยในช้ันเรียน กจิ กรรมเขียนตามคาบอกตามคาพ้ืนฐาน กิจกรรมคณิตคิดเร็ว
สูตรคณู คล่อง กิจกรรมเพ่ือนสอนเพื่อน นกั เรียนมีความสามารถในการอ่านออกเขียนไดต้ ามมาตรฐานในแต่
ละระดบั ช้ัน เชน่ นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1-3 สามารถอา่ นเรื่องสั้น นยิ าย นทิ าน บอก และ แสดงความ
คิดเห็น ความรู้สึกจากเรื่องท่ีอ่านได้ ช้ันประถมศึกษาป่ีที่ 4-6 มีความสามารถอ่าน เขียน เร่ืองจาก
ประสบการณ์ เหตุการณ์ ต่าง ๆ โดยเช่ือมโยงเร่ืองราวได้อย่างมีเหตุผล โดยได้ดาเนินการพัฒนาผู้เรียนด้วย
วิธีการท่ีหลากหลาย มีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับผู้เรียนตลอดจนการประเมินสมรรถนะ
ของผู้เรียน โดยมีการจัดการเรียนรู้ท้ังรูปแบบการระดมสมอง แบบลงมือปฏิบัติจริง แบบร่วมมือกันเรียนรู้
แบบใชก้ ระบวนการคดิ แกป้ ัญหาแบบโครงงาน
1.2 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ คิดอย่ำงมี
วจิ ำรณญำณ อภปิ รำย แลกเปลยี่ น ควำมคิดเหน็ และกำรแกป้ ญั หำไดอ้ ย่ำงเหมำะสม
นักเรียนชั้น ป.1 – ม.3 จานวน 559 คนร้อยละ 97.85 ผ่านการประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์
และเขียน ในระดับดีข้ึนไป นักเรียน ป.1 – ม.3 จานวน 515 คน ร้อยละ 92.13 ผ่านการประเมินสมรรถนะ
สาคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการคิด ในระดับดีขึ้นไป นักเรียน ป.1 – ม.3 จานวน 503 คนร้อยละ
89.98 ผ่านการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการแก้ปัญหา ในระดับดี จากการ
ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนให้เป็นไปตามศักยภาพของผู้เรียนทาใหเ้ กิดการระดม
สมอง นักเรียนได้รับการฝึกทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็น และแก้ปัญหาร่วมกันผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การจัดการเรียนการสอนแบบ
โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 55
Active learning ศึกษาแห่งเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง
จนเกิดทักษะ และการเรียนรู้ร่วมกัน มีการแลกเปล่ียนความคิดเห็น และแก้ปัญหาร่วมกันอย่างมีเหตุผล
ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืนท่ีแตกต่าง ในลักษณะเป็นผู้นาและผู้ตามท่ีดี ยอมรับการเปล่ียนแปลง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางานร่วมกันเป็นทีมนาความรู้ความสามารถ และประสบการณ์มาใช้ในการจัดทา
โครงการ โครงงาน หรอื ชน้ิ งานจนประสบความสาเร็จโดยมีครูเป็นผู้สนับสนนุ และ ประสานความร่วมมือกับ
ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน หาวิธีการนาเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสม สร้างบรรยากาศเพื่อให้นักเรียน
ได้คิดหาเหตผุ ลและพฒั นาไปในทางท่ีดีขึ้นกว่าเดิม โดยการเสนอความรู้ ขอ้ คดิ ให้ผู้เรยี นถกเถียง แลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นซ่ึงกันและกัน ครูผู้สอนมีหน้าที่ดูแล รักษาความเป็นระเบียบวินัย ควบคุมความประพฤติของ
ผูเ้ รยี นไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ผู้เรยี นได้ใช้สตปิ ญั ญาไปในทางที่ถกู ต้อง
1.3 จัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ท่ีสง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นมีควำมสำมำรถในกำรสร้ำงนวัตกรรม
ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ผลจากการ
ดาเนินการผลิตส่ือและนวัตกรรม กิจกรรมการสอนแบบโครงงาน การเรียนการสอนบูรณาการตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมโรงเรียนวิถีพุทธ กิจกรรมนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการ
ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ร้อยละ 84.08 อยู่ในระดับดีขึ้นไป ซ่ึงสูงกว่าค่า
เป้าหมายที่กาหนด มีการนากระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา
(Constructivism) ท่ีเน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเน้ือหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเช่ือมโยงความรู้
หรอื สร้างความรู้ให้เกิดข้ึนในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัตจิ ริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ทาใหก้ ารเรียนรู้
เป็นไปอย่างมีความหมายและสามารถสรา้ งองคค์ วามรู้และช้ินงานเป็นของตนเองได้
1.4 จดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผูเ้ รียนมีควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ
และกำรสอ่ื สำรไดเ้ หมำะสมตำมวัย
นักเรียน ป.1 – ม.3 จานวน 379 คน ร้อยละ 67.80 มีความสามารถในการสืบค้นข้อมูลจาก
อินเตอร์เน็ตและสรุปองค์ความรู้ได้ ในระดับ ดี และผ่านการประเมินสมรรถนะสาคัญของนักเรียนด้าน
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในระดับ ดีและดีเย่ียม โดยนักเรียนระดับชั้น ป.1-3 มีความสามารถใช้
โปรแกรมกราฟิก (Paint) และโปรแกรมฝึกพิมพ์พ้ืนฐาน นักเรียนระดับชั้น ป.4-ม.3 มีความสามารถใช้
โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ค (Microsoft Word) โปรแกรมเอ็กเซลล์(Microsoft Excel) โปรแกรมเพาเวอร์
พอยต์(Microsoft Power Point) โปรแกรมสแครช (Scratch) สามารถสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตจาก
Google chrome อีกท้ังนักเรียนมีความสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสารจากแหล่งเรียนรู้
นาเทคโนโลยีมาปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์
1.5 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนตำมหลักสูตร
สถำนศกึ ษำ
โรงเรียนอนุบาลกระสังส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียน
การสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและเน้นการนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง
ของผู้เรียน ตามแนวทางของ Active Learning ได้แก่ การสรา้ งบรรยากาศของการมีสว่ นรว่ ม เจรจาโต้ตอบ
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ ีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 56
ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏสิ ัมพันธท์ ่ีดีกับครูผู้สอนและเพื่อนในชน้ั เรียน จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสรมิ
ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมท้ังกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสาเร็จในการเรียนรู้ จัดสภาพการ
เรียนรู้แบบร่วมมือท่ีส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลมุ่ ผู้เรยี น จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้
โอกาสผู้เรยี นได้รับวธิ ีการสอนท่ีหลากหลาย วางแผนเกย่ี วกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ท้งั ใน
ส่วนของเน้ือหาและกิจกรรม รวมทั้งเปิดโอกาส ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดเห็น
ของผเู้ รยี น ผ่านการเรยี นรู้แบบต่างๆ เช่น การเรียนรแู้ บบแลกเปลย่ี นความคิด การเรยี นรแู้ บบร่วมมือ การ
เรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน การเรียนรู้แบบใช้เกม การเรียนรู้แบบ
วิเคราะห์วีดีโอ การเรียนรู้แบบแผนผังความคิด เป็นต้น เมื่อผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการ
ประเมินค่าจากสิ่งท่ีได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทาให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนาไปใช้ใน
สถานการณ์อืน่ ๆไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ส่งผลใหผ้ ู้เรียนมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นตามหลักสตู รสถานศกึ ษา
1.6 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนควำมรู้ ทักษะพื้นฐำน และเจตคติท่ีดีต่องำน
อำชีพตำมควำมถนัดและควำมสนใจอย่ำงเต็มตำมศักยภำพ
โรงเรยี นอนบุ าลกระสังสง่ เสรมิ ให้ครดู าเนินการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั โดย
ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ตามความสนใจ เช่น
โครงการเศรษฐกจิ พอเพียงในสถานศึกษา ซึ่งเปน็ โครงการทมี่ ีกจิ กรรมหลากหลายทสี่ ง่ เสริมและพฒั นาผู้เรียน
ให้เกิดการเรียนรู้ ได้แก่ กิจกรรมออมทรัพย์ กิจกรรมการปลูกพืชผักสวนครัว กิจกรรมน้ายาอเนกประสงค์
กิจกรรมสเปรย์สมุนไพรดับกล่ิน กิจกรรมชอล์กไล่มดจากเปลือกไข่ จากการดาเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ
ผ้เู รียนได้ลงมือ เพอื่ พฒั นาผ้เู รยี นใหม้ ีความรู้ ทักษะพ้ืนฐาน และเจตคติทีด่ ีตอ่ งานอาชีพ
2. คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ของผเู้ รียน
2.1 จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ลักษณะและคำ่ นยิ มท่ดี ีตำมทสี่ ถำนศึกษำกำหนด
โรงเรยี นอนุบาลกระสังจัดกิจกรรมส่งเสริมคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ของผเู้ รียน การมีคณุ ลักษณะ
และค่านิยมท่ีดีตามที่สถานศึกษากาหนด โดยการการดาเนินโครงการส่งเสริมวินัยนักเรียน โครงการส่งเสริม
ประชาธิปไตยในโรงเรียน โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ กิจกรรมโรงเรียนปลอดขยะ โครงการโรงเรียนสุจริต
กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี โครงการส่งเสริมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การ
แข่งขันกีฬาสี กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ โครงการวันสาคัญ กิจกรรมวันมาฆบูชา กิจกรรมวันวิสาขบูชา
กิจกรรมวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา กิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระประจาสัปดาห์ กิจกรรมวันไหว้ครู
กิจกรรมครูพระสอนศีลธรรม กิจกรรมเข้าค่ายธรรมะกิจกรรมจิตอาสา เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาการเรียนรู้
อยา่ งย่งั ยืน
2.2 จดั กิจกรรมสง่ เสริมใหผ้ ้เู รยี นมีควำมภมู ิใจในท้องถิ่นและควำมเป็นไทย
โรงเรียนอนุบาลกระสังจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย
โดยการดาเนินโครงการส่งเสริมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมการแต่งกายผ้าไทยประจา
สัปดาห์ กจิ กรรมวนั สาคญั ของชาติ กิจกรรมวนั สนุ ทรภู่ กิจกรรมวันภาษาไทย กจิ กรรมวันเฉลมิ ชนมพรรษาฯ
กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ กิจกรรมวันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ กิจกรรมถวายราชสดุดีพระมาหาธีรราชเจ้า
โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาบุรรี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 57
กิจกรรมวันปิยมหาราช กิจกรรมวันลอยกระทง วันพ่อแห่งชาติและวันชาติไทย กิจกรรมวันคริสต์มาส
กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมวันสาคัญทางศาสนาและวันสาคัญอน่ื ๆ
เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นมีความรัก ความผกู พนั ความศรัทธา และความภูมใิ จในท้องถ่ินและความเปน็ ไทย
2.3 จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนกำรยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนควำมแตกต่ำงและ
หลำกหลำยอย่ำงมีควำมสขุ
โรงเรียนอนุบาลกระสังจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็น
ไทย โดยการดาเนินโครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานท่ี โครงการสัมพันธ์ชุมชน โครงการส่งเสริม
ประชาธิปไตยในโรงเรียน โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ กิจกรรมธรรมะ กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมการแข่งขัน
กีฬาสี กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความ
แตกต่างและหลากหลายอยา่ งมคี วามสขุ
2.4. จัดกจิ กรรมส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นผู้เรียนมสี ขุ ภำวะทำงร่ำงกำย จิตสังคม
โรงเรียนอนุบาลกระสังจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย จิตสังคม โดยการ
ดาเนินกิจกรรมการแข่งขันกีฬาสี กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมสวดมนต์
ประจาสัปดาห์ กิจกรรมโครงงาน กิจกรรมการงานอาชีพ กิจกรรมอาหารปลอดภัย กิจกรรมหนูน้อยฟันดี
กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้ผู้เรียนมีสุขภาพ
อนามยั ท่ีแข็งแรงสมบรู ณ์ มีสุขภาพจติ ท่ีเข้มแข็ง
โรงเรียนมีโครงการ /กิจกรรมที่ดาเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนกระบวนการจัดการเรียน รู้ที่ยึด
ผู้เรียนเป็นสาคญั ดงั ต่อไปนี้
๑. โครงการพฒั นาส่งเสริมและยกระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น
๒. โครงการส่งเสรมิ การอา่ นออกเขียนได้ และพัฒนาหอ้ งสมดุ มีชวี ิต
๓. โครงการโรงเรยี นวิถพี ทุ ธ
๔. โครงการโรงเรยี นสง่ เสริมสุขภาพ
๕. โครงการนเิ ทศภายใน
๖. โครงการประกันคณุ ภาพภายใน
๗. โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
๘. โครงการพฒั นาครูสู่มืออาชพี
๙. โครงการวนั สาคญั ตา่ ง ๆ
๑๐.โครงการเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศกึ ษา
๑๑.โครงการโรงเรยี นสจุ รติ
๑๒.โครงการสง่ เสริมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
๑๓.โครงการพัฒนาอาคารสถานที่และปรับภมู ิทศั น์ในโรงเรียน
๑๔.โครงการสมั พันธช์ มุ ชน
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาบุรรี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 58
3. ผลท่ีเกิดจำกกำรพัฒนำ
โรงเรียนอนุบาลกระสังได้ดาเนินการในการพัฒนาผู้เรียนทุกด้านอย่างเต็มตามศักยภาพ ครูจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning คือ จัดให้
ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาศักยภาพของสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และ
การนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้สูงสุดทั้งในด้านการสร้างองค์
ความรู้ การสร้างปฏิสมั พันธร์ ว่ มกนั มคี วามรบั ผดิ ชอบร่วมกัน มีวนิ ยั ในการทางาน เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนบรู ณา
การข้อมูลข่าวสารและหลกั การความคิดรวบยอด จนสามารถจัดระบบการเรียนรู้ได้ดว้ ยตนเอง โดยครูผู้สอน
เป็นผู้อานวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้
ทาให้ผ้เู รยี นได้รับการพฒั นาตามเกณฑ์มาตรฐานที่กาหนด ส่งผลดังนี้
1. ผลสัมฤทธท์ิ ำงวชิ ำกำรของผู้เรียน
1.1 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำร
สื่อสำรและกำรคิดคำนวณ
ครูมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การ
ส่ือสารและการคิดคานวณอย่างเต็มตามศักยภาพ โดยโรงเรียนดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ี
เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ เน้นการปฏิบัติจริงในรูปแบบของการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม
โครงงาน การบูรณาการการใช้ส่ือ โดยดาเนินการตามโครงการพัฒนาส่งเสริมและยกระดับผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนทั้ง 8 กลุ่มสาระ โดยเน้น 4 กลุ่มวิชาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
ภาษาต่างประเทศ การดาเนินกิจกรรมภาษาไทยวันละคา ภาษาอังกฤษวันละคา กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรัก
การอา่ น กิจกรรมวันสุนทรภู่ กจิ กรรมวันภาษาไทย และกิจกรรมคณิตคิดเร็ว ผลจากการดาเนินงานส่งผล
ให้ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคานวณ อยู่ในระดับดีขึ้นไป ซึ่งสูง
กวา่ คา่ เป้าหมายท่ีกาหนด
1.2 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ คิดอย่ำงมี
วจิ ำรณญำณ อภิปรำย แลกเปลย่ี น ควำมคิดเห็นและกำรแก้ปัญหำไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม
โรงเรยี นจดั โครงการพัฒนาสง่ เสริมและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ครูการจัดการเรียนการ
สอนแบบโครงงาน มีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน จัดการเรียนรู้ทั้งรูปแบบการ
ระดมสมอง แบบลงมอื ปฏบิ ัตจิ ริง ร่วมมือกันเรียนรู้ แบบใชก้ ระบวนการคดิ กระบวนการใช้ปัญหาเป็นหลัก
ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดจาแนกแยกแยะใคร่ครวญไตร่ตรอง พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยใช้
เหตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล อยู่ใน
ระดบั ดีขึน้ ไป ซึง่ สงู กว่าคา่ เปา้ หมายท่กี าหนด
1.3 จัดกจิ กรรมกำรเรยี นรทู้ ่สี ่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วำมสำมำรถในกำรสรำ้ งนวัตกรรม
ครูจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนมีความสามารถในการสรา้ งนวัตกรรม
โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาบรุ ีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 59
ผลจากการดาเนินการผลิตสื่อและนวัตกรรม กิจกรรมการสอนแบบโครงงาน การเรียนการสอนบูรณาการ
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมโรงเรียนวิถีพุทธ กิจกรรมนิทรรศการแสดงผลงานทาง
วิชาการ ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม อยู่ในระดับดีขึ้นไป ซ่ึงสูงกว่าค่าเป้าหมายท่ี
กาหนด
1.4 จัดกจิ กรรมกำรเรียนรทู้ ่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนมคี วำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศ
และกำรสือ่ สำรได้เหมำะสมตำมวยั
ครูพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยเกิดการศึกษาในรูปแบบใหม่ปรับปรุงและพัฒนาระบบ
สารสนเทศและ ICT กระตุ้นความสนใจแก่ผู้เรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอน (Computer-
Assisted Instruction : CAI) การเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์ (Computer-Assisted Learning : CAL) และ
จาก Electronic Sources เช่น ชื่อของ Web ต่าง ๆ ให้ผู้เรียนแสวงหาข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็น
คาตอบ สร้างเป็นองค์ความรู้ต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมือช่วย และครูช่วยกากับผลการเรียนรู้ให้
เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพที่ต้องการ ทาให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้
ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสารได้เหมาะสมตามวยั
ผลการดาเนินกิจกรรมปรับปรุงและพัฒนาระบบสารสนเทศและ ICT การเรียนการสอน
คอมพิวเตอร์ กิจกรรมภาษาอาเซยี น ส่งผลให้ผู้เรียนมคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สอ่ื สาร รอ้ ยละ 67.80 อยใู่ นระดับดีขน้ึ ไป ซึง่ สงู กวา่ คา่ เป้าหมายท่ีกาหนด
1.5 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนตำมหลักสูตร
สถำนศึกษำ
นักเรียน ป.1 – ม.3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ระดับ 3 ข้ึนไป และ
คะแนนเฉลี่ยทุกกลุ่มสาระภาพรวมในปีการศึกษา 2564 สูงกว่าเป้าหมายของโรงเรียนท่ีกาหนดไว้ ผลจาก
การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสาคัญ นักเรียนใฝ่รู้ใฝ่เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง จากสื่อ
เทคโนโลยี ส่งเสริมนักเรยี นท่ีมีความสามารถ ซอ่ มเสริมนักเรียนท่เี รยี นช้า โดยมีระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียน
อย่างครบวงจร ต้ังแต่เข้าโรงเรียนจนกระท่ังเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย มีการวิเคราะห์นักเรียน คัด
กรองนักเรียน 100% ทาให้รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อให้การส่งเสริม และช่วยเหลือนักเรียนได้อย่าง
ตรงประเด็น แก้ปัญหาด้านการเรียนโดยการวิเคราะห์นักเรียน วิเคราะห์ผลการทดสอบรายวิชาแล้วนา
แนวทางมาพัฒนาทาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นไปตามเป้าหมายของโรงเรียน โรงเรียนอนุบาลกระสังได้
ดาเนนิ การนเิ ทศระหว่างเพื่อนครูแบบกัลยาณมิตร จัดกิจกรรมการแลกเปลีย่ นเรยี นร้รู ะหวา่ งผบู้ ริหารกับครู
และเพ่ือนครูกับเพื่อนครู (PLC) ส่งเสรมิ ให้ครพู ฒั นาการจดั การเรียนการสอนแบบ Active Learning สง่ ผล
ให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา อยู่ในระดับดีข้ึนไป ซ่ึงสูงกว่าค่าเป้าหมายท่ี
กาหนด
1.6 จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนควำมรู้ ทักษะพ้ืนฐำน และเจตคติที่ดีต่องำน
อำชพี ตำมควำมถนัดและควำมสนใจอยำ่ งเตม็ ตำมศกั ยภำพ
โรงเรียนอนุบาลกระสงั สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาบรุ รี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 60
นักเรียนมีความรู้ทักษะพื้นฐาน และเจตคติทีดีต่องานอาชีพจากการจัดกิจกรรมแนะแนวการ
สารวจตนเอง เจตคติดา้ นการเรียนต่อและประกอบอาชีพ โรงเรียนอนบุ าลกระสังได้จัดกิจกรรมใหน้ ักเรียนได้
เรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว การทาน้ายาล้างจาน การทา
ขนมหวานและการทาสเปรย์สมุนไพรดับกล่ิน จัดหาแหล่งศึกษาเรียนรู้ ให้แก่นักเรียนและชุมชนตามหลัก
ศาสตร์พระราชา จนเกิดทักษะความชานาญ มีความสามารถตามศักยภาพของตนเอง เกิดความพร้อมท่ีจะ
เรยี นต่อ หรือทางานประกอบอาชพี ในอนาคต สง่ เสรมิ การดาเนินการจัดกจิ กรรมต่าง ๆ เพอื่ พฒั นาผเู้ รยี นให้
มีความรู้ ทักษะพ้นื ฐาน และเจตคตทิ ด่ี ตี ่องานอาชีพ สง่ ผลให้ผูเ้ รยี นมคี วามรู้ ทักษะพนื้ ฐาน และเจตคติท่ีดี
ต่องานอาชพี ระดบั ดขี ึ้นไป ซงึ่ สูงกวา่ ค่าเปา้ หมายที่กาหนด
2. คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน
2.1 จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ คณุ ลักษณะและค่ำนิยมทด่ี ตี ำมท่สี ถำนศึกษำกำหนด
นักเรียน ป.1 - ม.3 ผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่าน ระดับดีข้ึนไป
นักเรียนช้ัน ป.1- ม.3 ผ่านการประเมินกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์นักเรียนทุกคน มีการวาง
แผนการใช้จ่ายอย่างประหยัด โดยมีการฝากออมทรัพย์ นักเรียนมีพฤติกรรมการแสดงออกถึงความเป็นผู้มี
คุณธรรม จริยธรรมอันดีงาม ได้อย่างเหมาะสม เช่น มีความกตัญญูต่อ บิดา มารดา ครูอาจารย์ และผู้มี
พระคุณ มีความซื่อสัตย์สุจริต พูดความจริง ไม่หยิบฉวยของผู้อ่ืนมาเป็นของตน รักและสามัคคีในหมู่คณะ มี
น้าใจช่วยเหลือผู้อ่ืน มีจิตอาสา สานึกรักษ์ส่ิงแวดล้อม รักความสะอาด ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็น
ต้นแบบท่ีดีเพ่ือให้นักเรียนได้ปฏิบัติตาม และจัดการเรียนรู้ ฝึกฝนท้ังในห้องเรียน และนอกห้องเรียน ผ่าน
กจิ กรรม โครงการตา่ ง ๆ ทท่ี างโรงเรยี นจัดให้ เชน่ กิจกรรมสวดมนต์นง่ั สมาธิชว่ งเที่ยง กจิ กรรมสวดมนต์ไหว้
พระแผเ่ มตตาประจาสปั ดาห์ กจิ กรรมวนั ไหวค้ รู กิจกรรมโครงการประชาธิปไตย โครงการลกู เสอื เนตรนารี
2.2 จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นมคี วำมภูมใิ จในท้องถิ่นและควำมเปน็ ไทย
นักเรียนช้ัน ป.1 - ม.3 มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รักษาประเพณี วัฒนธรรมของ
ท้องถ่ิน และของชาติ ร่วมกิจกรรมวันสาคัญตามประเพณี เช่น ถวายเทียนพรรษา ในวันสาคัญทางศาสนา
ประเพณลี อยกระทง งานประเพณีสงกรานต์ รว่ มงานทอดผา้ ป่า กจิ กรรมวนั ภาษาไทยแห่งชาติ แตง่ ผ้าไทย
ทุกวันอังคาร นักเรียนชั้น ป.1 - ม.3 แสดงออกถึงความรักในสถาบันหลักของชาติ ร่วมกิจกรรมวันแม่
แห่งชาติ วันพ่อแห่งชาติ ร่วมเดินรณรงค์การใช้สิทธิ์ใช้เสียงในการเลือกต้ังตามระบอบประชาธิปไตย
นักเรยี นสามารถเรยี นรู้ ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2.3 จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนกำรยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนควำมแตกต่ำงและ
หลำกหลำยอย่ำงมีควำมสุข
นักเรียนอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างระหว่างวัยท้ังนักเรยี นปกติและนักเรียนพิเศษเรยี นร่วม
ดูแลซึ่งกันและกัน พ่ีดูแลน้อง คอยบริการให้ความช่วยเหลืออานวยความสะดวกด้านต่าง ๆ เช่น จัดแถว ตัก
อาหาร สอนการบ้าน ฯลฯ ยอมรับความคิดเห็นให้เกียรติซ่ึงกันและกัน เคารพการตัดสินใจ มีความสุขตาม
อัตภาพฐานะของตน จากการร่วมกิจกรรมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาสี กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ นักเรียนชั้น
โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 61
ป.1 – ม.3 มีความคิดทัศนคติที่ดีต่อสังคมชุมชนและประเทศชาติ จากการจัดและประเมินผลในรายวิชา
หน้าท่พี ลเมอื งเพม่ิ เตมิ
2.4. จัดกจิ กรรมส่งเสริมให้ผ้เู รียนผเู้ รียนมีสขุ ภำวะทำงรำ่ งกำย จติ สังคม
นักเรียนชั้น ป.1 - ม.3 มีน้าหนัก ส่วนสูง และพัฒนาการทางร่างกายเจริญเติบโตตามเกณฑ์
มาตรฐาน นักเรียนชั้น ป.1 - ม.3 ด่ืมนมและรับประทานอาหารกลางวันครบห้าหมู่ ที่สะอาดถูกสุขลักษณะ
ปลอดภัย ที่ทางโรงเรียนจัดทาตลอดปีการศึกษา 2564 มีการจัดกิจกรรมการออกกาลังกายหลังเคารพธง
ชาติ และจัดกิจกรรมโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพกิจกรรมกีฬาสีภายใน กิจกรรมการจัดการเรียนการ
สอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดจิตสานึกในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง
ให้แข็งแรง ส่งผลให้ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย จิตสังคม ระดับดีขึ้นไป ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายท่ีกาหนด
นักเรียนช้ัน ป.1 - ม.3 มีสมรรถภาพทางร่างกายอยู่ในระดับคุณภาพ ปานกลาง ดี และดีมาก ตามเกณฑ์
มาตรฐานของกรมพลศึกษา
4. ข้อมูล หลักฐำน เอกสำรเชิงประจกั ษ์ ที่สนบั สนุนผลกำรประเมินตนเอง
ประเด็นพจิ ำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลกั ฐำนเชงิ ประจกั ษ/์ ผลงำน
โดดเดน่
มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพผู้เรียน - โครงการพัฒนาส่งเสรมิ และ
1.1 ผลสัมฤทธทิ์ ำงวชิ ำกำรของ ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน - หลักสูตรสถานศึกษา
ผู้เรียน - ยกระดบั การเรียนการสอน 8 กลุ่ม พทุ ธศกั ราช 2561 (ตามหลกั สูตร
สาระการเรียนรู้ (ภาษาไทย แกนกลางการศึกษา พทุ ธศักราช
1) มคี วามสามารถในการอ่าน คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และ 2551)
การเขยี น การสื่อสารและการคดิ เทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนา - แผนการจดั การเรียนรู้ทเี่ น้น
คานวณ และวัฒนธรรม ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ
สุขศกึ ษาและพลศึกษา - บันทกึ ผลการวเิ คราะหน์ ักเรียน
การงานอาชพี ศิลปะ เป็นรายบุคคล
ภาษาต่างประเทศ) - แบบบนั ทึกการสอนซ่อมเสริม
- การสอนซอ่ มเสริม - สมดุ รายงานประจาตัวนกั เรียน
- เปิดบ้านวิชาการ - แบบบนั ทึกการอา่ น
- สง่ เสรมิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ - รายงานสรปุ โครงการ/กจิ กรรม
- คลงั ความรู้และคลงั เครื่องมือการ - ภาพถา่ ยกิจกรรม
วัดปนะเมนิ ท่ีหลากหลาย - แฟ้มสะสมงานนกั เรียน
- โครงการสง่ เสริมการอา่ นออกเขียน
ไดแ้ ละพฒั นาห้องสมดุ
โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาบุรรี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 62
ประเด็นพิจำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลักฐำนเชงิ ประจกั ษ/์ ผลงำน
โดดเดน่
2) มีความสามารถใน การคดิ - โครงการสง่ เสรมิ การอ่านออกเขยี น - รายงานสรปุ โครงการ/กจิ กรรม
วิเคราะห์ คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ ไดแ้ ละพฒั นาห้องสมดุ - ภาพถ่ายกิจกรรม
อภปิ ราย แลกเปลย่ี น ความคิดเหน็ - กิจกรรมสง่ เสรมิ การคิดวิเคราะห์ - แฟ้มสะสมงานนกั เรียน
และการแก้ปัญหา - กิจกรรมภาษาไทยวันละคา - ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน
- กิจกรรมภาษาองั กฤษวันละคา
- โครงการพัฒนาสง่ เสรมิ และ
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
3) มีความสามารถในการ - โครงการพัฒนาส่งเสรมิ และ - รายงานสรปุ โครงการ/กจิ กรรม
สร้างนวตั กรรม ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน - ภาพถา่ ยกิจกรรม
- การเรยี นแบบโครงงาน - แฟม้ สะสมงานนกั เรียน
- โครงการสง่ เสริมการอ่านออกเขยี น - ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น
ได้และพฒั นาห้องสมุด
4) มคี วามสามารถในการใช้ - โครงการพฒั นาสง่ เสริมและ - รายงานสรปุ โครงการ/กจิ กรรม
เทคโนโลยสี ารสนเทศ และการ ยกระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน - ภาพถ่ายกิจกรรม
ส่อื สาร - โครงการสง่ เสรมิ การอ่านออกเขยี น - แฟ้มสะสมงานนกั เรียน
ไดแ้ ละพัฒนาห้องสมดุ
5) มีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน - โครงการพฒั นาส่งเสรมิ และ - สื่อ/นวตั กรรม
ตามหลกั สตู รสถานศึกษา ยกระดบั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน - แบบบันทกึ การสรา้ งสอื่ /
- โครงการสง่ เสริมการอา่ นออกเขียน นวัตกรรม
ไดแ้ ละพฒั นาห้องสมุด - แบบรายงานการใช้สือ่ /
- โครงการพัฒนาครูสมู่ ืออาชีพ นวตั กรรม
- การนเิ ทศภายใน - บันทึกการนิเทศภายใน
- โครงการระบบประกนั คุณภาพ - ข้อมลู การคัดกรองนักเรยี น
ภายในสถานศกึ ษา - บนั ทึกการเยี่ยมบา้ น
- โครงการส่งเสรมิ กจิ กรรมพัฒนา - แฟม้ สะสมงานนกั เรียน
ผเู้ รยี น - ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
- โครงการชุมชนการเรยี นรู้ทาง - รายงานสรปุ โครงการ/กิจกรรม
วิชาชพี PLC - ภาพถา่ ยกจิ กรรม
6) ความรู้ ทักษะพ้ืนฐาน และ - โครงการเศรษฐกจิ พอเพยี งใน - รายงานสรปุ โครงการ/กิจกรรม
เจตคติทด่ี ตี ่องานอาชีพ สถานศกึ ษา - ภาพถา่ ยกิจกรรม
- กิจกรรมออมทรพั ย์ - แผนการจัดกิจกรรมชุมนุม
โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาบรุ ีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 63
ประเดน็ พจิ ำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลกั ฐำนเชงิ ประจักษ/์ ผลงำน
โดดเด่น
- กจิ กรรมการปลูกพืชผกั สวนครวั - แฟ้มสะสมงานนักเรียน
- กจิ กรรมน้ายาอเนกประสงค์
- กจิ กรรมทาขนมหวาน
- กิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์
- กิจกรรมชุมนุมการงานอาชีพ
1.2 คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงคข์ อง - โครงการโรงเรียนวถิ พี ทุ ธ - รายงานสรปุ โครงการ/กิจกรรม
ผู้เรยี น - กจิ กรรมสวดมนต์ประจาสัปดาห์ - ภาพถา่ ยกิจกรรม
1. การมีคณุ ลักษณะและค่านิยมท่ี - กจิ กรรมสวดมนตว์ นั ศุกร์ - แบบบนั ทกึ ประเมินคุณลกั ษณะ
ดตี ามที่สถานศกึ ษากาหนด - โครงการสง่ เสริมประชาธปิ ไตยใน อันพงึ ประสงค์
โรงเรียน - ใบประ
- โครงการวนั สาคญั
2. ความภมู ิใจในท้องถ่ินและความ - โครงการสง่ เสริมกจิ กรรมพัฒนา - รายงานสรปุ โครงการ/กจิ กรรม
เปน็ ไทย ผเู้ รียน - ภาพถ่ายกจิ กรรม
- โครงการโรงเรียนวิถพี ทุ ธ
- กจิ กรรมการแตง่ กายผ้าไทยประจา
สัปดาห์
- โครงการเศรษฐกจิ พอเพียงใน
สถานศกึ ษา
- โครงการวนั สาคัญ
- กิจกรรมวันสาคญั ของชาติ
- กิจกรรมวนั ภาษาไทย
- กิจกรรมวนั ลอยกระทง
- โครงการสัมพันธ์ชุมชน
3. การยอมรบั ทจ่ี ะอยูร่ ว่ มกันบน - โครงการส่งเสรมิ กิจกรรมพัฒนา - รายงานสรปุ โครงการ/กิจกรรม
ความแตกต่างและความ ผ้เู รียน - ภาพถ่ายกิจกรรม
หลากหลาย - โครงการสัมพนั ธช์ มุ ชน
4. สุขภาวะทางรา่ งกายและ - โครงการส่งเสริมกจิ กรรมพัฒนา - รายงานสรุปโครงการ/กิจกรรม
ลักษณะจิตสังคม ผู้เรยี น - ภาพถ่ายกจิ กรรม
- โครงการโรงเรียนสง่ เสรมิ สุขภาพ - ใบประกาศนยี บัตร
- กิจกรรมวันพระ
- กจิ กรรมอาหารปลอดภัย
โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาบรุ รี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 64
ประเด็นพจิ ำรณำ โครงกำร/กิจกรรม หลักฐำนเชิงประจักษ์/ผลงำน
โดดเด่น
- กิจกรรมหนนู ้อยฟนั ดี
5. จุดเด่น
1. ครูมีความมุ่งม่ันในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็ม
ตามศักยภาพ นักเรียนทุกระดับชั้นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้โดยรวม สูงกว่า
เป้าหมายท่ีทางโรงเรียนกาหนด
2. ผู้เรียนมสี ขุ ภาพกาย สุขภาพจติ ดี กลา้ แสดงออก มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมทพ่ี ึงประสงค์
สามารถอยรู่ ว่ มกบั ผู้อืน่ อย่างมคี วามสขุ และมีความพร้อมต่อการเรยี นรู้
3. การจัดบรรยากาศชั้นเรียนท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ มีสื่อการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน
ปลูกฝังใหน้ ักเรยี นใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น ศึกษาหาความรูอ้ ยเู่ สมอ
4. ครูมีเครือ่ งมอื วดั ผลและประเมินผลใชก้ ารประเมินผลดว้ ยวิธีการทหี่ ลากหลาย
6. จุดควรพัฒนำ
1. จดั กิจกรรมการฝึกวเิ คราะห์และคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ และ
แก้ปัญหา ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยการบูรณาการเข้ากับรายวิชาพ้ืนฐาน เน้นให้นักเรียนได้
ฝึกปฏิบัติอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
2. ฝกึ ฝนและส่งนกั เรยี นเข้าแข่งขนั ความสามารถทางวชิ าการ ในระดบั หนว่ ยงานต่าง ๆ ใหม้ ากขึน้
3. จดั กิจกรรมสง่ เสริมความก้าวหน้าทางการเรียน ตามหลกั สตู รสถานศึกษาและผลสมั ฤทธิ์ทางการ
เรียนรู้ เพือ่ พัฒนาผลการทดสอบระดับชาตอิ ยา่ งเขม้ และต่อเน่อื ง
7. แผนพฒั นำคุณภำพให้สูงข้ึน
1. ส่งเสริมโครงการปฏิรูปการเรียนรู้ โครงการพัฒนาทักษะอ่านเขียนในภาษาไทย โครงการ
พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร โครงการทักษะการคิดเลขเร็ว เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่าน คิด
วเิ คราะห์และเขียนใหส้ งู ขึ้นอยา่ งต่อเน่อื ง
2. พฒั นาแหลง่ เรยี นรู้ท้ังในและนอกหอ้ งเรียนให้เออ้ื ต่อการเรยี นรู้ของเด็ก
3. ส่งเสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนมีการสร้างนวตั กรรมทส่ี ามารถนาไปใชไ้ ด้และเผยแพร่ได้
โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาบุรรี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 65
มำตรฐำนที่ 2 ดำ้ นกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร
มำตรฐำนที่ 2 ด้ำนกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร ระดับคณุ ภำพ : ดี
1. ระดับคุณภำพ
มำตรฐำน/ประเดน็ พจิ ำรณำ ค่ำเป้ำหมำย ผลกำร สรุป
(ร้อยละ) ประเมิน บรรลุเป้าหมาย
1. มเี ปา้ หมายวิสยั ทศั น์และพันธกิจที่ ดีเลศิ บรรลเุ ป้าหมาย
สถานศึกษากาหนดชดั เจน ดี บรรลเุ ปา้ หมาย
2. มรี ะบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพของ ดี ดี บรรลุเป้าหมาย
สถานศกึ ษา บรรลเุ ปา้ หมาย
3. ดาเนินงานพฒั นาวชิ าการที่เนน้ ดี ดี
คุณภาพ ผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสตู ร บรรลุเปา้ หมาย
สถานศกึ ษา และทุกกลุม่ เป้าหมาย ดี ดเี ลศิ
4. พฒั นาครูและบุคลากรให้มีความ
เชย่ี วชาญ ทางวชิ าชพี ดี ดี
5. จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและ
สังคม ทีเ่ อือ้ ต่อการจัดการเรียนรู้อยา่ งมี ดี ดี
คณุ ภาพ
6. จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือ
สนับสนุนการบริหารจัดการและการ
จัดการ เรียนรู้
2. กระบวนกำรพัฒนำ
โรงเรียนอนุบาลกระสังมีการจัดระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา มีการกาหนดเป้าหมาย
วิสัยทัศน์และ พันธกิจอย่างชัดเจน สามารถดาเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตาม
หลักสูตรสถานศึกษา ในทุกกลุ่มเป้าหมาย จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ดาเนินการพัฒนาครูและ
บุคลากรให้มี ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการ
และการเรียนรู้ รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่ีเอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ โดยโรงเรียน
ดาเนินการดงั น้ี
โรงเรียนอนุบาลกระสงั สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ ีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 66
1. มีเป้ำหมำยวิสยั ทัศนแ์ ละพนั ธกจิ ที่ สถำนศึกษำกำหนดชดั เจน
โรงเรียนได้ดาเนนิ การจัดทาวิสัยทศั น์พนั ธกจิ เป้าหมาย เพอื่ กาหนดทศิ ทางในการจัดการศึกษา โดยได้
ประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา เพ่อื สร้างความ ตระหนัก ความรู้ความ
เข้าใจ ความสาคัญ และวิธีการจัดทาวิสัยทัศน์มีการวิเคราะห์ SWOT เพื่อหาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และ
อุปสรรคของโรงเรยี น มีการกาหนดภาพในอนาคตร่วมกัน จัดทาแผนพัฒนาการจดั การศึกษา แผนปฏิบัติการ
ประจาปี ทส่ี อดคล้องกบั งบประมาณท่ีได้รบั จัดสรรและใชจ้ ่ายอยา่ งมีประสิทธภิ าพเกิดประสิทธิผลตามโครงการ
ระดมปัญญาสู่การปฏิรูป ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือส่งเสริมให้คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานมีความรู้ ความ
เข้าใจในบทบาทและหน้าท่ี มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาทาง
โรงเรียนกาหนด ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความรู้ความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการเรียนการ
สอนท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ และผ้บู รหิ ารมีนวัตกรรมในการบรหิ ารจดั การ
2. มีระบบบริหำรจัดกำรคุณภำพของสถำนศึกษำ
โรงเรียนมีระบบการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพ
สถานศึกษา แผนปฏิบัติการประจาปี ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการ
ปฏิรูปการศึกษา มีคาส่ังแต่งตั้งคณะทางาน เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับ
หน้าที่ มีการกากับนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และปรับปรุง พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง มีการ
บริหารอัตรากาลัง ทรพั ยากรทางการศึกษา และระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น มีการนเิ ทศภายใน นาข้อมูลมา
ใชใ้ นการพฒั นาบุคลากร ดาเนินงานด้านระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียน ได้กาหนดใหค้ รูประจาชั้นออกเย่ียมบ้าน
นักเรียน อย่างน้อย 1 ครั้ง /ภาคเรียน เพื่อเก็บข้อมูลด้านต่าง ๆ ของนักเรียนและผู้ปกครอง เพ่ือดูแลและ
ช่วยเหลอื ในดา้ นต่าง ๆ เช่น มอบทนุ การศึกษา, จดั หาอปุ กรณ์การเรยี นให้ การคดั กรองเพือ่ รบั ทุนปัจจัยพน้ื ฐาน
นักเรียนยากจน ทุนนักเรียนเสมอภาค ให้ครูผู้สอนจัดทาและวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียนรายบุคคล คัดกรอง
ออกเป็นกลุม่ และจัดการเรียนการสอนโดยคานึงถงึ ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล มีการจัดระบบประกนั คุณภาพ
ภายใน เพื่อควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบทบทวนคุณภาพ และประเมินคุณภาพอย่างเป็นระบบโดยการมีส่วน
ร่วมของผบู้ ริหาร คณะครู ผู้มสี ว่ นเก่ียวข้องและหน่วยงานต้นสังกัด
3. ดำเนินงำนพัฒนำวิชำกำรที่เน้นคุณภำพ ผู้เรียนรอบด้ำน ตำมหลักสูตรสถำนศึกษำ และทุก
กล่มุ เปำ้ หมำย
โรงเรียนและผูเ้ กยี่ วข้องทุกฝ่ายมีส่วนในการวางแผน ปรบั ปรุง พัฒนาและรว่ มกันรับผิดชอบต่อการจัด
การศึกษา มีการบริหารจัดการเกี่ยวกับงานวิชาการ รวมถึงการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มเรียนร่วมด้วย
กาหนดให้ครูวิเคราะห์หลักสูตร จัดทาหน่วยการเรียนรู้ จัดทาแผนการจัดการจัดการเรียนรู้ และกาหนดการ
สอนทกุ กลุ่มสาระฯ ส่งเสรมิ ให้ครจู ัดกระบวนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ จดั การเรยี นการสอน
ทั้งในและนอกห้องเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงให้กับนักเรียนและครู โดยการนานักเรียนไป
โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 67
ศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ ให้ครูใช้กระบวนการวิจัยในช้ันเรียน ในการแก้ไขและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
อย่างน้อย 1 เร่ือง/ภาคเรียน และส่งเสริมให้ครูจัดทานวัตกรรมในการพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้มีการบริหาร
จดั การช้ันเรยี นเชิงบวก ผูบ้ รหิ ารสนบั สนนุ มกี ารจดั ระบบนิเทศภายใน กาหนดปฏิทินหรือแผนการนเิ ทศภายใน
เพื่อกากับ นิเทศ ติดตามการดาเนินงาน/กิจกรรม/โครงการ เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริหารและ
บคุ ลากรในโรงเรียน ครมู ีการประเมนิ ผลแลว้ รายงานผลอยา่ งต่อเน่ือง
4. พฒั นำครแู ละบุคลำกรให้มีควำมเชี่ยวชำญทำงวิชำชีพ
โรงเรียนส่งเสริม สนับสนุนให้ครูทุกคนได้รับการพัฒนาศักยภาพ พัฒนาครูและบุคลากรตรงตามความ
ตอ้ งการตามโครงการพฒั นาครสู ู่มืออาชพี สง่ เสริมการจดั กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ทางวชิ าชพี (PLC) มาใช้ใน
การพัฒนางานและการเรียนรู้ของผู้เรียน จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สนับสนุนการบริหารจัดการ และการ
จดั การเรียนรทู้ ่ีเหมาะสม และครูสามารถนาความรู้ท่ีไดจ้ ากการอบรมพัฒนามาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนได้
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
5. จดั สภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพและสงั คม ทีเ่ อื้อต่อกำรจัดกำรเรียนรูอ้ ย่ำงมคี ุณภำพ
โรงเรียนจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ ปรับปรุงและพัฒนา จัด
สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกช้นั เรียน และสภาพแวดล้อมทางสงั คมทีเ่ อื้อต่อการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียน
มีสภาพแวดล้อมท่ีร่มร่ืน ปลอดภัย เช่น ปูพ้ืนกระเบ้ืองในห้องเรียนและจัดสวนหย่อม ปรับปรุงและทาสี
อาคารเรียนและอาคารประกอบต่างๆ จัดทาจุดเช็คอิน มีการตัดแต่งต้นไม้ มีการซ่อมแซมอาคารเรียน
ปรับปรุงสนามเด็กเล่น พัฒนาบริเวณภายในบริเวณโรงเรียนอาคารสถานท่ีให้มีความปลอดภัย สะอาด น่าดู
นา่ อยู่ นา่ เรยี น โดยความรว่ มมอื จากชมุ ชน ผูป้ กครอง และคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน
6. จัดระบบเทคโนโลยสี ำรสนเทศเพ่อื สนับสนนุ กำรบรหิ ำรจัดกำรและกำรจัดกำรเรียนรู้
จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สนับสนุนการบริหารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับ
สภาพของโรงเรียน พัฒนาบริการด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ มีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพ่ือใช้ในการ
บริหารจัดการและการจัดการเรยี นร้อู ย่างเหมาะสม ติดต้ัง TV LCD ระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพ่ือกระจาย
สัญญาณ WIFI ให้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งบริเวณสถานศึกษา เพ่ือให้ครู นักเรียน สามารถเข้าถึงระบบสารสนเทศ
ของสถานศึกษาไดง้ า่ ยขนึ้
3. ผลที่เกดิ จำกกำรพฒั นำ
1. มีเป้ำหมำยวิสยั ทัศนแ์ ละพันธกจิ ทสี่ ถำนศกึ ษำกำหนดชัดเจน
โรงเรียนกาหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา
ความตอ้ งการของชุมชน ทอ้ งถ่นิ วตั ถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลและของต้นสังกัด
มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ โดยโรงเรียนกาหนดวิสัยทัศน์ “ภายในปี 2566 โรงเรียนอนุบาลกระสัง มุ่ง
โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาบุรีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 68
พฒั นาผู้เรียนใหเ้ ป็นคนดี มีความรู้ คู่คุณธรรม อยา่ งมคี ุณภาพและมาตรฐานบนพื้นฐานความเป็นไทย โดยยดึ
หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง”
2. มรี ะบบบรหิ ำรจัดกำรคณุ ภำพของสถำนศึกษำ
โรงเรียนมีโครงสร้างการบริหารท่ีชัดเจน ตามความเหมาะสมโดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มงาน (กลุ่มบริหาร
งบประมาณ กลุ่มบริหารงานวิชาการ กลุ่มบริหารงานบุคคล และกลุ่มบริหารงานท่ัวไป) ผู้บริหารใช้การบริหาร
แบบ PDCA เพ่อื ให้บรรลตุ ามพันธกิจและวัตถุประสงค์ของแผนกลยุทธ์ มแี ผนปฏิบัติการและดาเนินการพัฒนา
คุณภาพการบริหารและการจดั การศกึ ษาท่ีเหมาะสมครอบคลุม
ดาเนินการตามระบบประกันคุณภาพภายใน 5 องค์ประกอบอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง มีระบบบริหาร
จัดการคุณภาพของสถานศึกษาท่ีชัดเจนมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษา โดยได้รับความรว่ มมอื จากผเู้ กย่ี วข้องทุกฝา่ ย มีการนาข้อมูลมาใช้ในการปรบั ปรุง พัฒนางานอยา่ ง
ต่อเน่ือง และได้จัดทารายงานการประเมินตนองของสถานศึกษาเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดและสาธารณชน
ทราบทุกปกี ารศกึ ษา
3. ดำเนินงำนพัฒนำวิชำกำรท่ีเน้นคุณภำพผู้เรียนรอบด้ำน ตำมหลักสูตรสถำนศึกษำ และทุก
กลุ่มเปำ้ หมำย
โรงเรยี นมหี ลกั สตู รสถานศึกษาและบริหารจัดการเกี่ยวกับงานวิชาการ ทัง้ ด้านการพัฒนาหลักสูตร โดย
ดาเนินการตามโครงการจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา การจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี ที่เน้นส่งเสริม
คุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ครทู ุกคนมแี ผนการจดั การเรียนรู้ตามรายวิชาทีต่ นเองรบั ผิดชอบ ครูมกี ารจัดทาสื่อการ
เรียนรู้ท้ังที่จัดทา / จัดซ้ือ / จัดหามาจากระบบออนไลน์มาพัฒนาผู้เรียนอย่างสม่าเสมอ และผู้บริหารมีการ
นิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้เป็นระยะ ๆ ส่งผลให้ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ตรงตามที่หลักสูตร
กาหนดไวแ้ ละเปน็ ท่พี ึงพอใจของชมุ ชนและผปู้ กครอง
4. พฒั นำครแู ละบคุ ลำกรให้มีควำมเช่ียวชำญทำงวชิ ำชีพ
ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ตามมาตรฐานตาแหน่ง มีความรู้
ความสามารถและปฏิบัติตนตามมาตรฐาน จรรยาบรรณของวิชาชีพ และพัฒนาตนเองด้านการจัดการเรียนการ
สอนและด้านวิชาชีพอย่างต่อเน่ือง คิดเป็นร้อยละ 100 ครูเข้าร่วมการอบรมพัฒนาตนเองเฉล่ีย 170 ช่ัวโมง :
คน : ปี ครูสามารถนาความรู้ที่ได้จากการอบรมพัฒนามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลใหก้ ารจดั การเรยี นการสอนมีประสิทธผิ ลเป็นที่น่าพอใจ
โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาบรุ ีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 69
5. จัดสภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพและสังคม ที่เอือ้ ตอ่ กำรจัดกำรเรยี นร้อู ยำ่ งมคี ุณภำพ
โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกโรงเรียน อาคารสถานท่ีสะอาด สวยงาม ปลอดภัย เอื้อ
ตอ่ การจดั การเรยี นรู้เพียงพอตอ่ การใชง้ านและการให้บรกิ ารแกช่ มุ ชน ครนู กั เรียน ผ้ปู กครองมีความพึงพอใจต่อ
จดั สภาพแวดล้อมให้เออ้ื ตอ่ การจัดการเรียนรู้
6. จัดระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศเพือ่ สนบั สนุนกำรบริหำรจดั กำรและกำรจัดกำรเรียนรู้
โรงเรียนมีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จานวน 1 ห้อง ท่ีสามารถใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้เป็น
อย่างดี จัดระบบการจัดหาและการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการบริหารจัดการโดยมีระบบ
อินเทอร์เน็ตเพียงพอต่อความต้องการ สนับสนุนส่งเสรมิ ให้ครูใช้สื่อในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนมุ่งผลสู่
นกั เรยี นเปน็ สาคัญ
ผู้บริหารส่งเสริมให้มีช่องทางในการติดต่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผลงาน การดาเนินกิจกรรม โดย
การเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ของโรงเรียน เฟสบุ๊คของโรงเรียนอนุบาลกระสัง จดหมาย
ข่าวผ่านเพจโรงเรียน กลุ่ม Line ผู้บริหารกลุ่มโรงเรียน กลุ่ม Line ส่วนราชการเขตพ้ืนท่ีการศึกษา กลุ่ม
Line ผู้ปกครองนักเรียน การประชุมผู้ปกครอง การจัดนิทรรศการ Open house ต่อคณะกรรมการ
สถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน ชุมชน รวมถงึ การจดั สง่ รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาให้หน่วยงาน
ต้นสังกัดและผู้เกย่ี วข้องในทกุ ปกี ารศกึ ษา
4. ข้อมูล หลักฐำน เอกสำรเชงิ ประจักษ์ ที่สนบั สนุนผลกำรประเมินตนเอง
ประเดน็ พิจำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลักฐำนเชิงประจักษ์/ผลงำน
โดดเด่น
1. มเี ป้าหมายวิสัยทัศน์และ โครงการระบบประกันคณุ ภาพ
พันธกิจที่สถานศึกษากาหนด ภายในสถานศึกษา - มาตรฐานของโรงเรยี น
ชดั เจน
2. มีระบบบริหารจดั การ โครงการระบบประกันคณุ ภาพ - ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรยี น
คุณภาพของสถานศึกษา ภายในสถานศึกษา - รายงานผลการประกนั คณุ ภาพ
- มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
3. ดาเนนิ งานพฒั นาวชิ าการท่ี โครงการพัฒนาหลักสตู ร - หลกั สตู รสถานศึกษา
เนน้ คุณภาพผู้เรียนรอบด้าน สถานศึกษา - หลกั สูตรรายวชิ าเพิ่มเติม
ตามหลักสูตรสถานศึกษา และ
ทุกกลุ่มเป้าหมาย
โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาบรุ รี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 70
ประเด็นพิจำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลักฐำนเชงิ ประจักษ์/ผลงำน
โดดเด่น
4. พฒั นาครแู ละบุคลากรให้มี - โครงการพัฒนาครูสู่มืออาชพี - แผนการพัฒนาตนเอง (ID Plan)
ความเชยี่ วชาญทางวชิ าชพี - กจิ กรรมอบรม ประชมุ - รายงานเข้าร่วมประชมุ /อบรม/สมั มนา
สมั มนาวชิ าการ - ภาพกิจกรรม/เกยี รติบัตร
- นเิ ทศภายใน - แผนการนเิ ทศภายใน
- ประชมุ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ทาง - บันทึกการนเิ ทศภายใน
วชิ าชีพ (PLC) - แบบบันทึกกจิ กรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- สร้างสื่อ/นวตั กรรมการเรยี น ทางวิชาชีพ (PLC)
การสอน - รายงานการประเมินตนเองของ
สถานศึกษา (Self Assessment
Report : SAR)
- รายงานสรุปโครงการ/กิจกรรม
- ภาพถ่ายกิจกรรม
5. จดั สภาพแวดลอ้ มทาง โครงการพฒั นาอาคารสถานท่ี - สนามเด็กเลน่
กายภาพและสงั คม ทเ่ี อ้ือต่อ และปรับภูมทิ ัศน์ในโรงเรียน - มีหอ้ งปฏิบตั ิการต่างๆ เช่น
การจัดการเรียนรู้อย่างมี - ปรับปรงุ ภมู ทิ ศั น์ ปลูกดอกไม้ หอ้ งสมดุ
คณุ ภาพ จดั สวนหย่อม หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์
- ติดป้ายความร้รู อบบรเิ วณ - แหลง่ เรียนรู้ภายในสถานศึกษา
โรงเรียน
6. จดั ระบบเทคโนโลยี โครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยี - บนั ทึกการใช้งานห้องปฏิบตั ิ
สารสนเทศเพ่ือสนับสนนุ การ คอมพิวเตอร์
บรหิ ารจัดการและการจดั การ - ห้องปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์
เรียนรู้
5. จดุ เด่น
1. โรงเรียนมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่กาหนดไว้ชัดเจน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม
สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของโรงเรียนตามความตอ้ งการของท้องถิ่นและนโยบายของต้นสังกดั
2. ดาเนินงานด้วยกระบวนการ PDCA มีการบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ บริหารงานตาม
หลักธรรมาภิบาล มกี ารนิเทศ กากับ ตดิ ตามอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาบุรรี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 71
3. ครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพมีการดาเนินการนเิ ทศกากับติดตามประเมินผลการ
ดาเนนิ งานและจดั ทารายงานผลการจดั การศกึ ษา
4. ครูได้ปฏิบัติหน้าท่ีตรงกับความรู้ความสามารถหรือคุณวุฒิทาให้งานมีคุณภาพ ได้รับการยอมรับจาก
ผูป้ กครองและชมุ ชนในการจดั การศึกษา
5. หอ้ งเรยี น หอ้ งปฏบิ ัติการ อาคารเรยี น สะอาดและปลอดภยั อยู่ในสภาพใช้การได้ดีสภาพแวดล้อม
ร่มรนื่ และมีแหล่งเรียนร้สู าหรบั ผ้เู รียน
6. โรงเรยี นมอี ินเตอร์เน็ตความเรว็ สงู ท่ีครอบคลุมทุกพน้ื ที่
6. จุดที่ควรพฒั นำ
1. สร้างเครือข่ายความรว่ มมอื ของผูท้ ม่ี สี ่วนเก่ียวข้องในการจดั การศึกษาของโรงเรยี น
2. ส่งเสริมการจัดห้องเรียนและหอ้ งปฏบิ ตั ิการต่าง ๆ เปน็ ห้องเรียนคณุ ภาพ
3. สง่ เสรมิ ให้ครูเข้ารับการพัฒนาตามมาตรฐานตาแหน่ง และสรา้ งความร่วมมือแลกเปล่ียน เรียนรทู้ าง
วชิ าการ
4. สง่ เสริมให้ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาใชน้ วัตกรรมประกอบการเรียนการสอนและการรายงานผล
การใช้นวัตกรรมที่เกิดข้ึนกับผู้เรียนอย่างตอ่ เน่อื ง
7. แผนพัฒนำเพอื่ ยกระดับคณุ ภำพใหส้ ูงขน้ึ
1. ส่งเสริมให้ครูเห็นความสาคัญของการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ การจัดทาการวิจัยใน
ชัน้ เรยี นเพื่อพฒั นาผู้เรียนให้สามารถเรยี นรู้ไดเ้ ตม็ ศักยภาพ
2. การพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรขู้ องชุมชน
3. พฒั นาวิชาการ เน้นคุณภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลกั สตู รสถานศึกษา ทุกกล่มุ เป้าหมาย
4. ปรับปรุงและพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ โดยการปรับปรุงสภาพแวดล้อม
อาคารสถานที่ ใหม้ คี วามพร้อมและน่าดู นา่ อยู่ น่าเรียน
5. จัดหาและการพัฒนาและบริการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใชใ้ นการบรหิ ารจัดการและจัดการเรียนรู้ที่
เหมาะสม
โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ ีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 72
มำตรฐำนที่ 3 กำรจัดประสบกำรณ์ทเี่ นน้ เดก็ เปน็ สำคญั
มำตรฐำนท่ี 3 กำรจดั ประสบกำรณท์ ีเ่ นน้ เดก็ เป็นสำคัญ ระดับคณุ ภำพ : ดี
1. ระดับคณุ ภำพ
มำตรฐำน/ ประเด็น ค่ำเปำ้ หมำย ผลกำร สรปุ
(รอ้ ยละ) ประเมนิ
พจิ ำรณำ บรรลเุ ปา้ หมาย
82 85 บรรลุเป้าหมาย
มำตรฐำนที่ 3 กำรจดั ประสบกำรณ์ 82 84 บรรลุเปา้ หมาย
85 87
ทีเ่ นน้ เด็กเป็นสำคญั
3.1 จดั การเรยี นรผู้ ่านกระบวนการคิด
และปฏบิ ัติจริงและนาไปประยกุ ต์ใช้
3.2 ใชส้ ่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศและ
แหลง่ เรียนร้ทู เ่ี อื้อต่อการเรยี นรู้
3.3 มกี ารบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก
3.4 ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอยา่ ง 82 84 บรรลุเป้าหมาย
เปน็ ระบบและนาผลมาพฒั นาผเู้ รยี น 82 85 บรรลเุ ปา้ หมาย
3.5 มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรู้และใหข้ ้อมลู
ป้อนกลับเพือ่ ปรับปรุงและพัฒนาการ
จัดการเรียนรู้
2. กระบวนกำรพฒั นำ
โรงเรียนอนุบาลกระสังได้ดาเนินการโดยครูผู้สอนส่งเสริมจัดการเรียนรู้ท่ีครอบคลุมเหมาะสมกับ
นักเรียนอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ครูวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียนรายบุคคล มีการจัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลายท้ัง
ภายในและภายนอกห้องเรียน ครูสามารถจดั บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกช้นั เรยี นท่ีเอื้อต่อ
การเรียนรู้ของนักเรียน ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ครูมีการวัดและประเมินผล
นักเรียนเป็นรายบุคคลและนาผลมาพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียน เพ่ือบรรลุตามเป้าหมายที่สถานศึกษา
กาหนดไวโ้ ดยโรงเรยี นดาเนินการดงั นี้
1. จัดกำรเรียนรู้ผ่ำนกระบวนกำรคดิ และปฏบิ ตั จิ รงิ และนำไปประยกุ ตใ์ ช้
มีรูปแบบเทคนิค วิธีการจัดการเรียนรู้ พัฒนากระบวนการคิด สู่การปฏิบัติ และนักเรียนสามารถ
นาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ครูมีการศึกษาเอกสารประกอบหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ วิเคราะห์
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดรายวิชา จัดกระบวนการเรียนรู้จากการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
รายวิชาทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ลงสู่แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาบุรีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 73
Active learning เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้วยการคิด ปฏิบัติจริง ฝึกทักษะ แสดงความ
คิดเห็น กล้าแสดงออกทางสร้างสรรค์ ป้อนคาถามให้นักเรียนเกิดความคิด จาแนก แยกแยะ พิจารณาอย่าง
รอบคอบ มีเหตุผล เช่น การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เช่น กิจกรรม
ทาน้ายาล้างจาน ปลูกพืชผักสวนครวั โดยน้อมนาศาสตรพ์ ระราชา และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มา
บูรณาการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน โดยนานักเรียนศึกษากับภูมิปัญญาท้องถิ่น ศึกษาแหล่งเรียนรู้ท้ังในโรงเรียน
และนอกโรงเรียน ในปีการศึกษา 2564 เป็นการจัดการเรียนการสอนในชว่ งสถานการณ์โควิค-19 โรงเรียนได้มี
การเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานในรูปแบบ On Hand Online และ On Site
ให้นักเรียนได้จัดกิจกรรมในชว่ งอยู่บ้านผ่านช่องทาง Online กลุ่มกับครูผู้สอน ทาใบงาน และเม่ือเปิดภาคเรยี น
โรงเรียนไดจ้ ดั กิจกรรมท่ีเว้นระยะห่าง เออ้ื ตอ่ การเรียนการสอน
2. ใช้สอ่ื เทคโนโลยสี ำรสนเทศและแหลง่ เรียนรูท้ ่เี ออื้ ต่อกำรเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และสามารถสร้างองค์ความรู้ให้แก่นักเรียน และใช้
บริการส่ือจากห้องคอมพิวเตอร์ในการจัดการเรียนการสอนส่งเสริมให้นักเรียนได้ปฎิบัติจริงจากการใ ช้สื่อท่ี
ทันสมัย สามารถสร้างงานจากการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีผลให้ผู้เรียนพอใจ
สนกุ กับการเรยี นรู้ ครรู อ้ ยละ 100 จัดการเรยี นรู้ โดยนาแหลง่ เรยี นรู้ ภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่นทเี่ อื้อต่อการเรียนรู้มาใช้
ในการจัดการศึกษาให้กับนักเรียน ทั้งจากแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน เช่น ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ โรง
อาหาร แปลงเกษตร ปา้ ยนิเทศต่าง ๆ แหลง่ เรยี นร้ภู ายนอกโรงเรียน เช่น วดั ทา่ สวา่ ง สานักงานเกษตรอาเภอ
กระสัง โรงพยาบาลกระสัง สถานตี ารวจภธู รอาเภอกระสงั ฟาร์มบา้ นนาบ้านเรา ฯลฯ
3. มีกำรบรหิ ำรจัดกำรชั้นเรียนเชงิ บวก
โรงเรียนอนุบาลกระสังมีการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนรายบุคคลให้มีคุณภาพ โดยการตรวจ
สขุ ภาพอนามัย เยยี่ มบ้านนักเรียน กิจกรรมโฮมรมู บนั ทึกการด่มื นม การชง่ั น้าหนัก วดั สว่ นสงู และคานวณภาวะ
โภชนาการ การออมทรัพย์ สอนซ่อมเสริม แนะแนวนักเรียน บันทึกการแปรงฟัน บันทึกการท่องสูตรคูณ และ
เข้าแถวเดินแถวกลับบ้านอย่างปลอดภัย มีการคัดกรองนักเรียนโดยครู ร้อยละ 100 เป็นประจาทุกปีการศึกษา
เพื่อช่วยเหลือดูแลนักเรียนได้อย่างถูกต้อง ครูและนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มีการ
แบ่งกลุ่มนักเรียนตามความรู้ ความสามารถ นาผลการวัดประเมินไปส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ ให้
ความช่วยเหลือนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการวัดประเมินความพึง
พอใจต่อการจดั การเรยี นการสอนของครูประจาช้นั และนาผลมาพัฒนาการจัดการศึกษา
4. ตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอย่ำงเปน็ ระบบและนำผลมำพัฒนำผู้เรียน
มกี ารวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริงอย่างเปน็ ระบบ จากการทคี่ รมู ีแผนการจัดการเรียนร้นู าไปใช้
และบันทึกหลังสอน มีการวัดผลประเมินตามสภาพจริง การบันทึกการอ่าน/ การเขียนตามคาบอก บันทึกการ
อา่ น บนั ทึกผลการเรียนรายวิชา (ปพ.5) รายงานผลการเรียนนักเรียนเป็นรายบุคคล (ปพ.6) แบบสรุปการอ่าน
ออก – เขียนได้ e-Mes ผลงาน/ช้ินงานนักเรียน มีวิธีการวัดและประเมินผลนักเรียนด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย
โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาบุรีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 74
ตามสภาพจริง ให้ข้อมูลย้อนกลับนาผลมาพัฒนานักเรียน ดังจะเห็นได้จากครูผู้สอนมีการวิเคราะห์ผลการ
ทดสอบ RT ในชั้น ป.1, วิเคราะห์ผลการทดสอบ NT ในช้ัน ป.3 และ วิเคราะห์ผลการทดสอบ O-NET
ในชนั้ ป.6 ทงั้ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาองั กฤษ ครูทุกคนมี
เครื่องมือวัดและวธิ กี ารประเมนิ ผลอย่างหลากหลายที่เหมาะสมกับเป้าหมายการเรียนรู้และความหลากหลายของ
นักเรียน ครูทุกคนจัดทาวิจัยในช้ันเรียนและนวัตกรรมทางการศึกษาเพ่ือส่งเสริมและพัฒนานักเรียนอย่างน้อย
ภาคเรียนละ 1 เรื่อง และครูจัดประชุมแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ชมุ ชนทางวิชาชีพ (PLC) อย่างต่อเนื่อง เพ่ือจะได้นา
แนวทางและวิธกี ารมาใชใ้ นจัดการเรียนรู้เพอื่ พัฒนาเดก็ ได้อยา่ งมคี ุณภาพ
5. มกี ำรแลกเปล่ียนเรียนรแู้ ละให้ขอ้ มูลป้อนกลับเพื่อปรบั ปรุงและพัฒนำกำรจดั กำรเรียนรู้
โรงเรียนอนุบาลกระสังส่งเสริมให้ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกันด้วยกระบวนการ PLC
เพอ่ื เปน็ แนวทางในการส่งเสรมิ และพัฒนานักเรียน มกี ารนิเทศภายในระหว่างครูดว้ ยกันการนิเทศภายในร่วมกัน
ระหว่างผู้บริหารและเพื่อนครู มีการประชุมผู้ปกครองชั้นเรียนเพ่ือปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ได้ดี
ย่ิงข้ึน
โรงเรียนมีโครงการ/กิจกรรมที่ดาเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนกระบวนการจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเด็ก
เปน็ สาคญั ดังต่อไปน้ี
1. โครงการการนเิ ทศภายใน
2. โครงการพัฒนาส่งเสรมิ และยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น
3. โครงการพัฒนาอาคารสถานที่ และปรับภูมิทัศน์ในโรงเรียน สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเรียนรู้ได้แก่
กจิ กรรมปรับปรุงสนามเด็กเลน่ กิจกรรมหอ้ งเรยี นคุณภาพ กิจกรรมปกู ระเบื้องในอาคาร
4. โครงการวันสาคัญ ได้แก่ กิจกรรมวันเข้าพรรษาและวันอาสาฬหบูชา กิจกรรมวันมาฆบูชา วันวิ
สาขบชู า กจิ กรรมวนั ลอยกระทง กิจกรรมสวดมนตไ์ หว้พระประจาสัปดาห์(ทกุ วนั ศุกร์)
5. โครงการส่งเสรมิ การอา่ นออกเขียนไดแ้ ละพฒั นาห้องสมดุ มชี ีวติ
6. โครงการส่งเสริมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ กิจกรรมการออมทรัพย์ กิจกรรม
มารยาทงาม กิจกรรมทาความสะอาด กิจกรรมการเกษตรปลูกพืชผักสวนครัว ทาน้ายาล้างจาน ทาสเปรย์
สมนุ ไพรดับกล่ิน และทาชอล์กไล่มดจากเปลอื กไข่
7. โครงการะบบดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น
8. โครงการพฒั นาครสู ู่มืออาชพี
3. ผลทเ่ี กิดจำกกำรพัฒนำ
โรงเรียนอนุบาลกระสังได้ดาเนินการในการพัฒนานักเรียนทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ครูจัดการ
เรียนการสอนที่เน้นเด็กเป็นสาคัญ เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้แบบลงกระทาปฏิบัตกิ ิจกรรมอย่าง
โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาบรุ รี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 75
มีความสุข นักเรียนได้รับการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานท่ีกาหนดซึ่งกระบวนการพัฒนาในแต่ละประเด็นส่งผล
ดังน้ี
1. ครูจดั กำรเรียนรผู้ ำ่ นกระบวนกำรคดิ และปฏิบัติจริงและนำไปประยกุ ต์ใช้
ครูร้อยละ 85 สามารถจัดการเรียนรู้ท่ีส่งผลให้นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนตามหลักสูตร
สถานศึกษาในระดับดีขึ้นไป เนื่องจากโรงเรียนมีโครงการส่งเสริมพัฒนายกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดย
ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษาท่ีเน้นให้ผู้เรียน โดย
ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนาไปจัดกิจกรรมได้จริงมีรูปแบบการ
จัดการเรียนรู้เฉพาะสาหรับผู้ที่มีความจาเป็น และต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะ
แสดงออก แสดงความคิดเห็น สรปุ องค์ความรู้ นาเสนอผลงาน และสามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ ได้
2. ครใู ชส้ อื่ เทคโนโลยสี ำรสนเทศและแหลง่ เรยี นรูท้ ่เี อื้อต่อกำรเรยี นรู้
ครูร้อยละ 84 ดาเนินการจัดการเรียนรู้โดยสร้างโอกาสให้ผ้เู รียนได้แสวงหาความร้ดู ้วยตนเองจากส่ือที่
หลากหลาย จากกิจกรรมห้องสมุดมีชีวิต ครูสามารถใช้ส่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญา
ท้องถ่ินที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างเหมาะสม กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในเน้ือหาที่กาลังจะ
เรยี น ทาให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามจุดประสงค์ หรอื จดุ มุง่ หมายทว่ี างไว้เปน็ อย่างดี ช่วยใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ เรียนรู้ได้ดขี ึน้ จากประสบการณ์ท่มี ีความหมายในรปู แบบต่างๆเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง เรยี นรู้ได้ง่าย
และเข้าใจได้ชัดเจนจดจาได้นาน เกิดความประทับใจและม่ันใจในการเรียนให้ผู้เรียนได้คิดและแก้ปัญหาได้ด้วย
ตนเอง
3. ครมู กี ำรบริหำรจัดกำรชนั้ เรียนเชิงบวก
ครูร้อยละ 87 มีการดาเนินการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในการจัดการเรียนการสอนทุกรายวิชา
และโรงเรียนมีกิจกรรมส่งเสริมการใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในการพัฒนาตนเอง จัดกิจกรรมสวดมนต์
ทกุ วนั ศุกร์อย่างต่อเน่ือง ครจู ัดห้องเรียนให้สะอาด อากาศถา่ ยเท ปลอดภยั มีพืน้ ท่ี แสดงผลงานนักเรียน เดก็ มี
ส่วนรว่ มในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน เช่น ปา้ ยนเิ ทศ การดแู ลต้นไม้ ดูแลความสะอาดห้องเรียน ครูใช้
ส่ือและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับช่วงอายุ ระยะความสนใจ และวิถีการเรียนรู้ของนักเรียน เช่น แท็บเล็ต
คอมพิวเตอร์ สาหรับการเรียนรู้กลุ่มย่อย สื่อ DLTV ส่ือออนไลน์ ท่ีกระตุ้นให้คิดและหาคาตอบ ทาให้เป็นท่ี
ยอมรบั และพึงพอใจของนักเรียนและผูป้ กครองนักเรียนต่อการจัดการเรียนการสอนของครูร้อยละ 87
4. ครมู กี ำรตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอยำ่ งเปน็ ระบบและนำผลมำพัฒนำผู้เรยี น
ครูร้อยละ 84 มีการตรวจสอบประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบจากกิจกรรมที่จัดขึ้น มีขั้นตอนโดยใช้
เครื่องมือและวิธีการวัดผลที่เหมาะสมในการจัดการเรียนรู้ให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียน เช่น การสังเกต
สัมภาษณ์ แบบประเมินพัฒนาการนักเรียน มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ชุมชนวิชาชีพ (PLC) ในโรงเรียน สร้าง
เครอื ข่ายการเรียนรู้กล่มุ โรงเรยี นอาเภอหว้ ยราช พัฒนาการจัดการเรยี นร้แู ละมีการนาผลการประเมนิ เป็นข้อมูล
ในการปรบั ปรงุ พฒั นาคณุ ภาพนกั เรียนใหด้ ียิ่งขึ้น
โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ ีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 76
5. ครูมกี ำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ขอ้ มลู ป้อนกลบั เพ่ือปรบั ปรุงและพัฒนำกำรจดั กำรเรียนรู้
โรงเรียนมีโครงการระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และโครงการพัฒนาสู่มืออาชีพ โดย
ดาเนินการจัดกจิ กรรมประชมุ อบรม สมั มนา พฒั นาบุคลากรในการจัดการเรยี นการสอนท่ีเน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ
สร้างเครือข่ายการจัดการเรียนการสอนแลกเปล่ียนเรียนรู้เพ่ือการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ส่งผลให้ครูร้อยละ
100 มคี วามรว่ มมือ รว่ มใจกัน และสามารถดาเนนิ การตามกระบวนการพฒั นาการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ เพ่อื การ
พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครูทุกคนมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพ่ือนครูในโรงเรียน ผ่านการประชุม PLC
(Professional Learning Community) เพื่อนาไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภายใน
ห้องเรียนของตนเอง โรงเรียนอนุบาลกระสังมีการรายงานและเปิดเผยผลการประเมินคุณภาพของนักเรียนสมุด
รายงานผลการเรียนของนักเรียนต่อผู้ปกครองนักเรียนภาคเรียนละ 1 ครั้ง และนาเสนอการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ การจัดกิจกรรมต่างๆ โดยการเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Facebook ของโรงเรียนบ้านโชค
กาด จดหมายข่าวผ่านเพจโรงเรียน กลุ่ม Line ผู้บริหารกลุ่มโรงเรียน กลุ่ม Line ส่วนราชการเขตพ้ืนที่
การศึกษา กลุ่ม Line ผู้ปกครองนักเรียน การประชุมผู้ปกครอง รวมถึงการจัดส่งรายงานการประเมินตนเอง
ของสถานศึกษาใหห้ น่วยงานต้นสงั กัดและผ้เู ก่ียวข้องในทุกปีการศึกษา
4. ขอ้ มลู หลักฐำน เอกสำรเชงิ ประจกั ษ์ ท่ีสนับสนนุ ผลกำรประเมินตนเอง
ประเด็นพจิ ำรณำ โครงกำร/กจิ กรรม หลกั ฐำนเชิงประจกั ษ/์ ผลงำน
โดดเดน่
1. จดั การเรียนร้ผู ่านกระบวนการ - โครงการพฒั นาส่งเสรมิ และ
คิดและปฏบิ ัติจรงิ และนาไป ยกระดับผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน - หลกั สูตรสถานศกึ ษา
ประยุกตใ์ ช้ - กจิ กรรมเดก็ ดจี ิตอาสา พทุ ธศักราช 2561 (ตามหลกั สูตร
- กจิ กรรมเด็กดีมีมารยาท แกนกลางการศึกษา พทุ ธศักราช
- กจิ กรรมอนรุ ักษส์ ่งิ แวดล้อม 2551)
- จดั กจิ กรรมทางด้านศิลปะ ดนตรี - แผนการจัดการจดั การเรยี นรู้
- บันทึกผลการจดั การเรียนรู้
- แบบบนั ทึกการวิเคราะหน์ ักเรียน
เป็นรายบุคคล
- แบบประเมินพัฒนาการเด็ก
- สมดุ รายงานประจาตวั นกั เรียน
- รายงานผลการทดสอบ
สมรรถภาพ
- รายงานสรปุ โครงการ/กิจกรรม
- ภาพถา่ ยกจิ กรรม
โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาบุรรี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 77
ประเดน็ พจิ ำรณำ โครงกำร/กิจกรรม หลักฐำนเชงิ ประจักษ/์ ผลงำน
โดดเดน่
2. ใช้สอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ - โครงการพัฒนาสง่ เสรมิ และ - แฟ้มสะสมงานนกั เรยี น
และแหลง่ เรยี นรู้ทเ่ี อื้อตอ่ การ ยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน - รายงานสรุปโครงการ/กจิ กรรม
เรียนรู้ - กจิ กรรมการเรียนแบบโครงงาน - ภาพถ่ายกจิ กรรม
- กิจกรรมศึกษาแหลง่ เรยี นรู้ภายใน/
ภายนอกสถานศึกษา
- กจิ กรรมทศั นศกึ ษา
3. มกี ารบรหิ ารจัดการชัน้ เรยี นเชงิ - โครงการพฒั นาอาคารสถานที่ และ - ส่อื /นวตั กรรม
บวก ปรับภมู ทิ ัศน์ในโรงเรยี น - แบบบันทกึ การสร้างสือ่ /
- การสร้างส่อื /นวัตกรรมเพอ่ื นวตั กรรม
การศกึ ษา - แบบรายงานการใช้สื่อ/
- กิจกรรมห้องเรยี นคณุ ภาพ นวตั กรรม
- กิจกรรมพฒั นาแหล่งเรยี นรู้ภายใน - บันทึกการนเิ ทศภายใน
สถานศึกษา - รายงานสรปุ โครงการ/กิจกรรม
- สารวจความพงึ พอใจต่อการจัดการ - แบบสอบถามความพึงพอใจ
เรียนการสอนของนักเรียนและ - ภาพถ่ายกิจกรรม
ผปู้ กครองนักเรียน
4. ตรวจสอบและประเมินผู้เรยี น - สร้างเครื่องมือวัดผลและประเมนิ ผล - เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล
อย่างเป็นระบบและนาผลมา - การวดั ผลและประเมนิ ดว้ ยวิธกี ารท่ี - วิจัยในชน้ั เรียน
พัฒนาผเู้ รยี น หลากหลาย - แบบบันทึกกจิ กรรมแลกเปลย่ี น
- ประชมุ แลกเปล่ียนเรยี นร้ทู าง เรียนร้ทู างวิชาชีพ (PLC)
วชิ าชีพ (PLC) - แบบการสังเกตแบบการ
สมั ภาษณ์เดก็ ผู้ปกครองนกั เรียน
- แบบบันทึกผลพัฒนาการของ
ผเู้ รยี น
- คลงั ขอ้ สอบ
- ภาพถ่ายกจิ กรรม
5. มกี ารแลกเปลี่ยนเรียนร้แู ละให้ - โครงการพัฒนาครสู มู่ ือดาชีพ - แบบบนั ทึกกิจกรรมแลกเปลี่ยน
ขอ้ มลู ป้อนกลบั เพื่อปรับปรุงและ - ประชุมแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ทาง เรียนรู้ทางวชิ าชพี (PLC)
พัฒนาการจดั การเรียนรู้ วิชาชีพ (PLC)
โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 78
ประเดน็ พจิ ำรณำ โครงกำร/กิจกรรม หลกั ฐำนเชิงประจักษ์/ผลงำน
โดดเด่น
- แบบบนั ทกึ ผลพัฒนาการของ
ผู้เรยี น
- รายงานสรุปโครงการ/กิจกรรม
- ภาพถา่ ยกจิ กรรม
5. จดุ เดน่
1. ครูมีความต้ังใจ มุ่งมั่นในการพัฒนาการสอน โดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ ที่เน้นทักษะ
กระบวนการคิด ได้ปฏิบัติจริง และใช้แหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ส่งเสริมให้นักเรียนแสวงหาความรู้ ด้วยตนเอง
อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
2. มีการจัดการเรียนรูโ้ ดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project-based learning) ทาให้นักเรียนไดล้ งมอื ปฏิบัติ
และสรา้ งองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง
3. นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อม บรรยากาศชั้นเรียนส่งเสริมการเรียนรู้ มีสื่อ
การเรียนรู้ท่เี ออ้ื ต่อการจัดการเรียนการสอน
4. ครูมีเครื่องมือวัดผลและประเมินผลใช้การประเมินผลด้วยวิธีการที่หลากหลายตอบสนองความ
แตกต่างระหว่างบุคคลของผ้เู รยี น
6. จุดควรพัฒนำ
1. ควรสร้างเครือขา่ ยระหว่างโรงเรียนในกลมุ่ อาเภอและนาผลพัฒนาการผู้เรียนไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน
กจิ กรรม PLC ระหว่างเพือ่ นครทู สี่ อนนกั เรียนในระดบั หรือวชิ าเอกเดียวกัน
2. เสริมทักษะการสื่อสารภาษาต่างประเทศมากย่ิงขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตในโลกไร้
พรมแดนและการประกอบอาชีพในอนาคต
7. แผนพฒั นำคุณภำพให้สงู ขนึ้
1. เปิดโอกาสให้พ่อแม่ ผู้ปกครองหรือชุมชน ร่วมกันจัดกิจกรรมกับครูในหอ้ งเรียนเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะ
การบรหิ ารจดั การตนเองของนกั เรียน
2. ส่งเสริมการจัดประสบการณ์ตรง ให้นักเรียนได้เรียนรู้แบบลงมือกระทาและปฏิบัติกิจกรรมด้วย
ตนเองอย่างมีความสุขผา่ นรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายมากย่ิงขึ้น เช่น MACRO model: รูปแบบการจัดการ
เรียนรสู้ าหรับศตวรรษท่ี 21 Technology Based Paradigm: การจัดการศึกษาโดยใช้ฐานเทคโนโลยี
โรงเรียนอนุบาลกระสงั สานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ รี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 79
ส่วนท่ี ๓
สรปุ ผลกำรประเมินและแนวทำงกำรพัฒนำ
ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาถือเป็นข้อมูลสารสนเทศสาคัญที่สถานศึกษาจะต้องนาไป
วิเคราะห์ สังเคราะห์เพ่ือสรุปนาไปสู่การเชื่อมโยงหรือสะท้อนภาพความสาเร็จกับแผนพัฒนาการจัดการศึกษา
ของสถานศึกษา และนาไปใช้ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ดังน้ันจากข้อมูลการ
ดาเนินของสถานศึกษาและผลจากการดาเนินงาน จึงสามารถสรุปเปน็ จดุ เดน่ จดุ ควรพฒั นาของแต่ละมาตรฐาน
พร้อมทั้งแนวทางการพัฒนาในอนาคตและความต้องการความช่วยเหลอื ได้ ดงั นี้
สรปุ ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำในภำพรวมระดับปฐมวัย อยู่ในระดับ ดี
จากผลการดาเนินงานตามโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ในปีการศึกษา 2564 ส่งผลให้สถานศึกษา
จัดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประสบผลสาเร็จตามท่ีต้ังเป้าหมายไว้ในแต่ละมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวยั
ดังนี้
ผลกำรประเมินในภำพรวมระดบั ปฐมวัย อยู่ในระดบั ดี
ผลกำรประเมินรำยมำตรฐำนระดบั ปฐมวัย
มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของเด็ก อยู่ในระดับ ดี
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ อยู่ในระดบั ดี
มาตรฐานที่ 3 การจดั ประสบการณ์ท่เี นน้ เดก็ เป็นสาคญั อยู่ในระดับ ดี
ทั้งน้ีเพราะโรงเรียนอนุบาลกระสังมีหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยท่ีเน้นพัฒนาการท้ัง 4 ด้าน
โดยบูรณาการ สอดแทรก ความต้องการของท้องถ่ิน เพื่อจัดประสบการณ์แบบบูรณาการการเรียนการสอนครบ
ท้ัง 6 กิจกรรมให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น เรียนปนเล่น การปฏิบัติจริง การฝึกทักษะด้านต่าง ๆ ตรงตาม
หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั ครจู ดั ประสบการณส์ ง่ เสรมิ ให้เด็กมีพัฒนาการดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และ
สติปัญญาอย่างสมดุล มีการวิเคราะห์เด็กเป็นรายบุคคล จัดทาแผนการจัดประสบการณ์สอดคล้องพัฒนาการ
ของเด็กตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย มีการบันทึกหลังแผนการจัดประสบการณ์ และประเมินเด็กเป็น
รายบคุ คลตามพัฒนาการท้งั 4 ดา้ นเด็กปฐมวัย ทกุ สปั ดาห์ จดั ทาแผนการจดั ประสบการณ์ 6 กิจกรรมหลัก มี
การออกแบบการจัดประสบการณ์ที่เตรียมความพร้อมและไม่เร่งรัดวชิ าการ เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการ
ลงมือปฏิบัติจริง โดยโรงเรียนได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย มีการดูแลให้เด็กด่ืมนมและ
แปรงฟันเป็นประจาทุกวนั มีการชั่งน้าหนกั วดั สว่ นสงู อยา่ งน้อยภาคเรียนละ 2 ครั้ง มกี จิ กรรมส่งเสริมออก
กาลังกายหน้าเสาธงก่อนเข้าเรียนทุกวัน จัดโครงการอาหารกลางวันเพ่ือให้เด็กได้รับประทานอาหารท่ีสะอาด
ถูกสุขลักษณะ ปริมาณเหมาะสมตามวัย ปลูกฝังให้เด็กช่วยเหลือตนเอง เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม มีวินัยใน
โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาบุรรี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 80
ตนเอง มีสมั มาคารวะกับผู้ใหญ่ มมี ารยาทท่ดี ี ยมิ้ ไหว้ ทกั ทาย ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกจิ วตั รประจาวัน
มีการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรและมแี ผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเสริมในการพัฒนาเดก็ อยา่ งเป็น
ระบบและต่อเนื่อง เช่น โครงการบ้านวิทย์น้อย หนูน้อยฟันสวย หนูน้อยรักการอ่าน กิจกรรมเคลื่อนไหวและ
จงั หวะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ กิจกรรมเสรี กจิ กรรมกลางแจง้ กจิ กรรมเกมการศึกษา
และมีการประเมินพัฒนาของเด็กด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย มีการจัดสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียนให้มีความ
ปลอดภยั มีแสงสวา่ งเพียงพอเอื้อต่อการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน จัดทาส่อื เพือ่ การเรียนรู้อย่างพอเพียงและ
หลากหลาย มีการจัดมุมประสบการณ์ เช่น มุมของเล่น มุมหนังสือนิทาน มุมบทบาทสมมุติ ซ่ึงเหมาะต่อการจัด
จัดการเรยี นรู้เด็กปฐมวัย
ในด้านกระบวนการบรหิ ารจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา มีผลประเมินอยู่ในระดับยอดเย่ียม โดยการ
จัดระบบบริหารจัดการคุณภาพภายในสถานศึกษากาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาท่ีสอดคล้องกับ
มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย มีการบริหารจัดการครูให้เหมาะสมกับจานวนเด็กและช้ันเรียน โดยโรงเรียนอนุบาล
กระสังได้เปดิ สอนชนั้ อนบุ าล 2 และ 3 เมอ่ื พิจารณาอัตราส่วนเด็กต่อครูแล้วไม่เกนิ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ครูสามารถ
จดั ประสบการณ์ให้เด็กได้อย่างทั่วถึง โรงเรยี นจงึ ทาการควบรวมชั้นภายใตก้ ารดูแลของครูท่จี บการศึกษาปฐมวัย
โดยตรง ครูปฐมวัยเข้ารับการอบรมพัฒนาตนเองเก่ียวกับวิชาชีพ และการจัดการเรียนรู้สาหรับเด็กปฐมวัยอยู่
เสมอ นาความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาทักษะในการจัดประสบการณ์
สังเกตและประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก ผู้ปกครองและชุมชน โรงเรียนจัด
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีเครือข่ายครูปฐมวัยทางอินเทอร์เน็ตเพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โรงเรียน
ดาเนินการของบประมาณเพื่อปรับปรุงอาคารเรียนห้องเรียนเด็กปฐมวัย จัดทาโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์
ห้องเรียนสะอาด เป็นระเบียบ อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีห้องน้าเฉพาะสาหรับเด็กใกล้ห้องเรียน มีโต๊ะ
รบั ประทานอาหารสาหรับเดก็ อนุบาลเพียงพอและเหมาะสมกับเด็ก มกี ารประสานความรว่ มมือจากโรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตาบลบ้านตะโก และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาเภอห้วยราช ในการดูแลส่งเสริมสุขภาพอนามัย
ของเดก็ ทั้งการตรวจสขุ ภาพ การดูแลสุขภาพฟนั การฉดี วัคซีน รวมท้ังดแู ลส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามัยของเด็ก
ในด้านการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสาคัญมีผลประเมินอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ครูปฐมวัยจัด
กิจกรรมระดับปฐมวัย 6 กิจกรรมหลัก ส่งผลให้เด็กร้อยละ 97.62 มีพัฒนาการท้ัง 4 ด้านในระดับ ดี จัด
ประสบการณ์ท่ีเชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิม ให้เด็กเล่นตามความสนใจ จัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
เรยี นรจู้ ากการได้ปฏิบัตจิ รงิ จดั การเรยี นการสอนแบบบรู ณาการทง้ั 6 กจิ กรรม ประกอบด้วย กจิ กรรมเสรี ได้แก่
การเล่นกับส่อื และเครอื่ งเล่น กิจกรรมสร้างสรรค์ ได้แก่ การเขียนภาพ การปน้ั การฉีกตดั ปะ การพมิ พภ์ าพ การ
ร้อยลูกปัดและการประดิษฐ์ กิจกรรมเคล่ือนไหว ได้แก่ การเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง คาคล้องจอง เคร่ือง
เคาะจังหวะ อุปกรณ์อื่น ๆ อย่างเสรี กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ได้แก่ การจัดกิจกรรมด้วยวิธีการสนทนา
อภิปราย การเล่านิทาน การสาธิต การทดลอง การศึกษานอกสถานที่ บทบาทสมมุติ การเล่นเกม คาคล้องจอง
กจิ กรรมกลางแจ้งได้แก่ การเลน่ เครือ่ งสนาม เลน่ ทราย และเล่นน้า กจิ กรรมเกมการศึกษา โดยเลน่ คนเดยี วหรือ
โรงเรียนอนุบาลกระสงั สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาบรุ ีรมั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 81
เล่นเป็นกลุ่ม เกมจับคู่ เกมแยกประเภท เกมการจัดหมู่ เกมเรียงลาดับ และภาพตัดต่อ เด็กระดับปฐมวัยรอ้ ยละ
90.48 มีพัฒนาการท้ัง 4 ด้าน อยู่ในระดับยอดเย่ียม ครูประเมินพัฒนาการเด็กท้ัง 4 ด้านจากกิจกรรมและ
กิจวัตรประจาวันดว้ ยเครอื่ งมือและวธิ กี ารทีหลากหลาย โดยวิธีสังเกตและบันทึกการร่วมกิจกรรมทั้ง 6 กิจกรรม
ครูบันทึกพัฒนาการเด็ก วิเคราะและประเมินพัฒนาการโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อนามาปรุงปรุงพัฒนาการ
จดั การเรียนการสอนใหม้ ีคณุ ภาพดีขึ้นและมีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้การจัดประสบการณท์ ่ีมปี ระสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยงั ข้อมลู ท่ีเปน็ จุดเด่น จุดทีต่ ้องพัฒนาของสถานศกึ ษา รวมท้ังแนวทางการพัฒนาและความ
ต้องการชว่ ยเหลือ ในการจดั การศึกษระดับปฐมวยั ดงั นี้
จดุ เด่นของสถำนศึกษำ จุดทค่ี วรพฒั นำของสถำนศกึ ษำ
1. ดำ้ นคณุ ภำพของเดก็ 1. ด้ำนคณุ ภำพของเดก็
- เด็กมรี า่ งกายแข็งแรงเติบโตตามวัย เคล่ือนไหว - ส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ กลา้ คดิ กล้าแสดงออก เนื่องจากมี
รา่ งกายไดค้ ล่องแคลว่ ใช้กล้ามเนอื้ เล็กได้ประสาน เดก็ บางคนยังขาดความมั่นใจในตนเอง
สมั พันธ์กนั โดยไดร้ บั การสนับสนนุ อาหารเสริม (นม) - จัดกิจกรรมสง่ เสรมิ เด็กด้านทักษะทางภาษาและ
และการไดร้ ับการตรวจสขุ ภาพจากเจ้าหน้าท่ี กระบวนการคดิ ใหม้ ีความหลากหลายมากยิ่งขึน้
สาธารณสขุ
- เด็กมีความพรอ้ มทางด้านรา่ งกาย มสี ุขภาพจติ ดี
อารมณร์ า่ เริงแจ่มใส รูจ้ กั ช่วยเหลือ แบ่งปันเพ่ือน มี
จติ อาสา มคี วามซอ่ื สตั ย์ต่อตนเองและผู้อน่ื ใชจ้ ่าย
ทรัพย์และวัสดุสงิ่ ของอยา่ งประหยัดและรู้คุณค่า
- เด็กมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม และช่วยเหลอื
ตนเองในการปฏิบตั กิ จิ วตั รประจาวันได้ดี
2. ด้ำนกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร 2. ด้ำนกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร
- สถานศกึ ษามหี ลกั สตู รการศึกษาปฐมวัยที่ - พฒั นาสนามเด็กเลน่ กลางแจง้ สนามเดก็ เล็กควร
ครอบคลุมพัฒนาการท้งั 4 ด้าน สอดคล้องกับ ปรบั ปรงุ ใหป้ ลอดภยั ฝนตกไม่มนี ้าท่วมขัง
บรบิ ทของท้องถิน่
- ครูมคี วามรู้ความสามารถตรงสาขาวชิ าทส่ี อน
และมีประสบการณ์ในการปฏิบัตกิ ารสอนปฐมวัย ทา
ใหค้ รูสามารถออกแบบการเรียนรใู้ ห้ประสิทธภิ าพ
- มกี ารผลิตสื่อ และจดั หาส่อื เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้
อยา่ งพอเพยี งและหลากหลาย
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ ีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 82
จดุ เดน่ ของสถำนศกึ ษำ จดุ ท่ีควรพฒั นำของสถำนศกึ ษำ
- ผบู้ ริหารโรงเรยี นเปน็ ผมู้ วี สิ ยั ทัศน์ มกี ารบริหาร
จดั การอยา่ งเปน็ ระบบ เปน็ ผู้นาทางวิชาการ มคี วาม
ยุติธรรม และยึดหลกั ธรรมาภิบาล
- คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองและชุมชน
เขา้ มามสี ว่ นร่วมในการพัฒนาสถานศกึ ษา
3. ดำ้ นกำรจดั ประสบกำรณ์ทเ่ี นน้ เด็กเป็นสำคญั 3. ดำ้ นกำรจัดประสบกำรณ์ทีเ่ น้นเดก็ เปน็ สำคัญ
- ครูสามารถจัดประสบการณใ์ หเ้ ดก็ สามารถใช้ - การประเมินพัฒนาการเด็กควรใหผ้ ปู้ กครองและ
ชีวิตในสังคมได้และปฏิบตั ิตนในชีวติ ประจาวันได้ ผเู้ กี่ยวข้องมีสว่ นร่วมในการประเมินและให้ข้อมลู
อย่างมีความสุข ย้อนกลับในการพฒั นาการจดั ประสบการณ์ของเดก็
- สร้างโอกาสใหเ้ ดก็ ไดร้ บั ประสบการณ์ตรงท่ี มากย่งิ ข้นึ
หลากหลายผ่านการเรียนปนเลน่ และสรา้ งองคค์ วามรู้
ดว้ ยตนเองอย่างมีความสขุ ภายใต้กิจกรรมหลัก 6
กิจกรรม
- มีการจดั บรรยากาศและจดั มมุ ห้องเรียนท่เี ด็ก
สามารถใช้เวลาว่างรว่ มกนั ได้อย่างเพลดิ เพลินและ
เกดิ ประโยชน์
แนวทำงกำรพฒั นำในอนำคต
1. จัดกระบวนการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียนด้วยเทคนิควิธีการสอนแบบใหม่ ๆ ท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญมา
ใช้ในสภาพจริงของโรงเรียน เช่น การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มระดับการศึกษาปฐมวัยท่ีส่งเสริมการทา
กิจกรรมแบบบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็น
พ้ืนฐานในการสร้างความรู้ด้วยตนเองและสรา้ งนวตั กรรมใหม่ เพื่อเตรียมเด็กใหพ้ ร้อมสาหรบั การศึกษา
ในระดบั ท่ีสูงขน้ึ
2. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมพัฒนาการ
ของเด็ก มกี ารรายงานผล สะทอ้ นผลการจัดกจิ กรรมใหผ้ ู้ปกครองรบั ทราบในรูปแบบออนไลน์เพ่มิ
3. ส่งเสรมิ การจดั การเรยี นร้แู บบโครงงานเปน็ ฐาน (Project-based Learning)
โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาบรุ รี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 83
4. ส่งเสรมิ การดาเนินกจิ กรรมบา้ นนักวทิ ยาศาสตร์น้อยต่อเนือ่ ง
ควำมตอ้ งกำรกำรชว่ ยเหลือ
1. การจัดสรรชุดอุปกรณ์การทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายเพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของเด็ก
ปฐมวยั ใหด้ ียิง่ ขึ้น
2. สื่อเทคโนโลยีที่จะชว่ ยให้ครูจัดประสบการณใ์ ห้เดก็ ปฐมวัยได้หลากหลายมากยิง่ ขน้ึ
สรุปผลกำรประเมินตนเองของสถำนศกึ ษำในภำพรวมระดบั กำรศึกษำข้ันพนื้ ฐำน อยู่ในระดับ ดี
จากผลการดาเนินงานตามโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ในปีการศึกษา 2564 ส่งผลให้สถานศึกษา
จัดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประสบผลสาเร็จตามท่ีต้ังเป้าหมายไว้ในแต่ละมาตรฐานการศึกษาระดับ
การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ดงั น้ี
ผลกำรประเมนิ ในภำพรวมระดบั กำรศกึ ษำขั้นพ้นื ฐำน อยใู่ นระดับ ดี
ผลกำรประเมินรำยมำตรฐำนระดับกำรศกึ ษำขั้นพ้นื ฐำน
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผ้เู รยี น อยู่ในระดับ ดี
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ อยูใ่ นระดับ ดี
มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ อยใู่ นระดับ ดี
ท้ังนี้เพราะโรงเรียนอนุบาลกระสังมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทกุ
ดา้ นดว้ ยวิธกี ารที่หลากหลาย สอดคลอ้ งกบั บริบทและจุดเนน้ ของสถานศึกษาที่เป็นโรงเรียนวิถีพุทธพระราชทาน
โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนปลอดขยะ สถานศึกษาสีขาว ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสงู ขน้ึ
นักเรียนกล้าแสดงออก ร่าเริงแจ่มใส สุขภาพร่างกายแข็งแรง สมรรถภาพทางกายและน้าหนักส่วนสูงตาม
เกณฑ์ นักเรียนรับรู้และตระหนักถึงโทษและพิษภัยของส่ิงเสพติด เลือกรับประทานอาหารที่สะอาดและมี
ประโยชน์ รักการออกกาลังกาย และเปน็ ผู้มีคุณธรรมจริยธรรม นกั เรียนอ่านและเขยี นได้เหมาะสมตามระดับช้ัน
สามารถสื่อสารภาษาไทยได้เข้าใจ ชัดเจน กล้าแสดงออก มีความคิดริเร่ิม และสร้างสรรค์ผลงานด้วยความ
ภาคภูมิใจ โดยมีการสืบค้นข้อมูล หรือแสวงหาความร้จู ากส่อื เทคโนโลยไี ด้ด้วยตนเอง สามารถวิเคราะห์ จาแนก
แยกแยะได้ว่าส่ิงไหนดี สาคัญ จาเป็น รวมท้ังรู้เท่าทันสื่อและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักเรียนมีความ
ภาคภูมิใจในท้องถิ่น ในความเป็นไทยและเห็นคุณค่าเก่ียวกับภูมิปัญญาไทย และ แสดงออกได้อย่างเหมาะสม
เป็นทยี่ อมรับของชุมชน
ในด้านกระบวนการบริหารจัดการของผู้บริหารสถานศึกษามีผลประเมินอยู่ในระดับดีเลิศ
โรงเรียนอนุบาลกระสังมีการกาหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจที่ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ
สถานศกึ ษา ความต้องการชุมชน นโยบายรฐั บาลและแผนการศึกษาแห่งชาติ แผนปฏิบัตกิ ารมีความเป็นไปได้ใน
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาบุรรี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 84
การนาไปปฏิบัติ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาท่ีชัดเจน มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารใช้การบริหาร
แบบ PDCA มีความต้ังใจ มีความมุ่งมัน่ มหี ลกั การบรหิ าร และมีวสิ ัยทัศน์ท่ีดีในการบริหารงาน สามารถเป็น
แบบอย่างที่ดีในการทางาน คณะกรรมการสถานศึกษามีความต้ังใจ และมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ตาม
บทบาท เพื่อให้บรรลุตามพันธกิจและวัตถุประสงค์ของแผนกลยุทธ์ ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการสอน
โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ จัดการเรียนการสอนทั้งในและนอกห้องเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้จากประสบการณ์
ตรงให้กับนักเรียนและครู โดยการนานักเรียนไปศึกษาแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ ให้ครูใช้กระบวนการวิจัยในชัน้ เรยี น
ในการแก้ไขและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน อย่างน้อย 1 เร่ือง/ภาคเรียน และส่งเสริมใหค้ รูจดั ทานวตั กรรมในการ
พัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ผู้บริหารสนับสนุนมีการจัดระบบนิเทศภายใน
กาหนดปฏิทินหรือแผนการนิเทศภายใน เพื่อกากับ นิเทศ ติดตามการดาเนินงาน/กิจกรรม/โครงการ
เป็นระยะอย่างต่อเน่ือง โดยผูบ้ ริหารและบุคลากรในโรงเรียน ครูมีการประเมนิ ผลแลว้ รายงานผลอย่างต่อเน่ือง
นอกจากนี้โรงเรียนยังส่งเสริม สนับสนุนให้ครูทุกคนได้รับการพัฒนาศักยภาพ พัฒนาครูและบุคลากรตรงตาม
ความต้องการตามโครงการพัฒนาครูสู่มืออาชีพ ส่งเสริมการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)
มาใช้ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ของผู้เรียน จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สนับสนุนการบริหารจัดการ
และการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสม และครูสามารถนาความรู้ท่ีได้จากการอบรมพัฒนามาใช้ในการจัดการเรียน
การสอนไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ในด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ อยู่ในระดับดีเลิศ ซึ่งเป็นผลจากการ
จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา
ครูดาเนินการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีสามารถนาไปจัดกิจกรรมได้จริง เน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มี
นักเรียนเปน็ ศูนยก์ ลาง ใหน้ ักเรยี นได้ลงมอื ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยมคี รูเป็นผอู้ านวยความสะดวกและคอยชีแ้ นะให้
นักเรียนเกิดทักษะตามเป้าหมายท่ีกาหนด สามารถนาส่ิงท่ีได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ครูนาส่ือเทคโนโลยี
สารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ รวมท้ังภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือวัสดุเหลือใช้ท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้มาใช้ในการ
จดั การเรยี นการสอนให้ผู้เรียนไดร้ ับประสบการณ์ตรงมากท่ีสุด ซึ่งการจดั การเรียนการสอนในชว่ งสถานการณ์โค
วิค 19 แพร่ระบาดหนัก โรงเรียนได้มีการปรับตัวและเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนแบบ
ผสมผสานในรูปแบบ Onhand Online และ On site ใหน้ กั เรยี นไดท้ ากิจกรรมทบ่ี า้ นผา่ นชอ่ งทาง Online กลมุ่
กับครูผู้สอนและเพ่ือน มีการทาใบงานทั้งแบบเอกสารและแบบออนไลน์ และเม่ือเปิดภาคเรียนโรงเรียนได้จัด
กจิ กรรมทเี่ วน้ ระยะห่าง เอ้ือตอ่ การเรียนการสอนและความปลอดภยั ของนักเรยี น
นอกจากนี้ยังข้อมูลท่ีเป็นจุดเด่น จุดท่ีต้องพัฒนาของสถานศึกษา รวมทั้งแนวทางการพัฒนาและความ
ตอ้ งการช่วยเหลือ ในการจัดการศกึ ษระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ดงั นี้
โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาบรุ ีรัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 85
จดุ เดน่ ของสถำนศกึ ษำ จุดทีค่ วรพฒั นำของสถำนศกึ ษำ
1. ดำ้ นคุณภำพของผเู้ รียน 1. ด้ำนคณุ ภำพของผ้เู รยี น
- นักเรยี นมคี วามสามารถในการอ่าน การจดั กิจกรรมที่มงุ่ เนน้ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ ยัง
การเขยี น การส่ือสาร การคิดคานวณ รวมทงั้ มี ขาดการปฏบิ ตั ทิ ่ีตอ่ เน่ืองจริงจัง การยกระดับ
ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาของ ผลสัมฤทธแ์ิ ต่ละกลุ่มสาระประสบผลสาเร็จในระดบั
โรงเรยี นอนุบาลกระสงั หนึง่ นักเรียนส่วนใหญย่ งั ตอ้ งได้รับการพฒั นาต่อไป
- ผเู้ รยี นมีสุขภาพกาย สุขภาพจติ ดี กลา้ ผลสมั ฤทธร์ิ ะดบั ชาติของนักเรียนมีแนวโน้ม
แสดงออก มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมท่ีพึง เปล่ยี นแปลงพัฒนาข้ึนโดยรวม แต่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ใน
ประสงค์ สามารถอย่รู ว่ มกบั ผู้อน่ื อยา่ งมีความสุข และ บางกลมุ่ สาระการเรียนรู้ จงึ ต้องมุ่งเนน้ พฒั นาต่อไป
มีความพร้อมต่อการเรยี นรู้ จัดกิจกรรมด้านการอ่าน การเขยี น คานวณให้กับ
- นักเรียนภาคภมู ใิ จในทอ้ งถ่นิ และความเปน็ ไทย นกั เรยี นเรียนร่วม เปรียบเทียบความก้าวหนา้ และ
ยอมรบั ทจี่ ะอย่รู ว่ มกันบนความแตกต่างและ การพัฒนาของนักเรียนเป็นรายบุคคล
หลากหลายของวัฒนธรรม
2. ดำ้ นกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร 2. ด้ำนกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร
- โรงเรยี นมีเป้าหมาย วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจท่กี าหนด - สง่ เสรมิ การจดั ห้องเรียนและห้องปฏิบตั ิการให้
ไวช้ ัดเจน ทนั ต่อการเปล่ยี นแปลงของสงั คม เป็นหอ้ งเรียนคุณภาพ
สอดคล้องกบั บรบิ ทของโรงเรยี นตามความต้องการ - พัฒนาสถานศกึ ษาให้เป็นสังคมแหง่ การเรยี นรู้
ของทอ้ งถนิ่ และนโยบายของตน้ สังกดั ของชมุ ชน เน้นคุณภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลักสูตร
- ดาเนนิ งานด้วยกระบวนการ PDCA มีการ สถานศึกษา
บริหารและจดั การอย่างเป็นระบบ ยึดหลักธรรมาภิ
บาล มีการนิเทศ กากบั ตดิ ตามอย่างตอ่ เน่ือง
- ครผู ู้สอนสามารถจัดการเรยี นรไู้ ด้อย่างมคี ุณภาพ
มกี ารดาเนนิ การนิเทศกากับติดตามประเมินผลการ
ดาเนินงานและจดั ทารายงานผลการจดั การศึกษา
- ครมู ีความมงุ่ มั่นในการพัฒนากระบวนการ
จดั การเรียนรทู้ ่ีสง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนได้รบั การพัฒนาเตม็
ตามศกั ยภาพ นักเรียนทุกระดับชัน้ มีผลสมั ฤทธิ์
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบุรรี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 86
จุดเด่นของสถำนศึกษำ จดุ ที่ควรพัฒนำของสถำนศึกษำ
ทางการเรยี นรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนร้โู ดยรวม สงู
กวา่ เปา้ หมายท่ีทางโรงเรียนกาหนด
- โรงเรียนมีอินเตอร์เนต็ ความเร็วสงู ที่ครอบคลมุ
ทุกพ้ืนที่
3. ดำ้ นกระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนที่ 3. ดำ้ นกระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนท่ี
เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ
- การจัดบรรยากาศช้ันเรยี นทีส่ ง่ เสรมิ การเรียนรู้ - ฝกึ ฝนและส่งนกั เรียนเข้าแขง่ ขนั ความสามารถ
มีส่ือการเรียนรู้ทเ่ี อื้อต่อการจัดการเรียนการสอน ทางวิชาการ ในระดับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ให้มากขึ้น
- ปลูกฝงั ใหน้ ักเรยี นใฝร่ ้ใู ฝ่เรยี น ศกึ ษาหาความ - สรา้ งเครอื ข่ายระหวา่ งโรงเรยี นเพื่อนา
รู้อยเู่ สมอ กระบวนการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาใน
- มสี อ่ื การเรียนรทู้ ี่หลากหลายเอ้อื ต่อการจัดการ เครอื ข่ายทน่ี า่ สนใจและเป็นประโยชนมาปรบั ใช้ให้
เรยี นการสอนสาหรับนกั เรียนแต่ละช้ัน เข้ากบั บรบิ ทของหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
- มกี ารจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแนวทาง Active
Learning คือ ผ้เู รียนเปน็ ศูนย์กลางของการเรียนการ
สอน
- ครมู เี ครอื่ งมือวัดผลและประเมินผล ใช้การ
ประเมนิ ผลดว้ ยวิธกี ารทีห่ ลากหลายเหมาะสมกบั
ผู้เรยี น
- นาผลการพฒั นาผู้เรียนไปแลกเปลี่ยนเรยี นรใู้ น
กิจกรรม PLC
โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาบุรรี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หน้า 87
แนวทำงกำรพัฒนำในอนำคต
1. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการพฒั นาผู้เรียนเปน็ รายบคุ คลใหช้ ดั เจนมากข้ึน
2. การส่งเสรมิ ให้ครูเห็นความสาคญั ของการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั
การจดั ทาการวิจยั ในชน้ั เรยี นเพอ่ื พัฒนาผู้เรียนใหส้ ามารถเรียนร้ไู ด้เต็มศกั ยภาพ
3. การพัฒนาบุคลากรโดยส่งเขา้ รับการอบรม แลกเปล่ียนเรียนรู้ในงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
ตดิ ตามผลกาดดรนาไปใช้ และผลทีเ่ กดิ กับผู้เรยี นอยา่ งตอ่ เนื่อง
4. การพัฒนาสถานศกึ ษาให้เป็นสังคมแห่งการเรยี นรู้ของชมุ ชน
ควำมต้องกำรกำรช่วยเหลอื
1. การพัฒนาครผู ู้สอนในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ท่สี อดคลอ้ งกบั การพัฒนาผ้เู รียนใน
ศตวรรษที่ 21
2. การสร้างข้อสอบท่สี อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั ตามแนวทางของการ
ประเมนิ O-NET
3. การจัดสรรครผู สู้ อนให้ตรงตามวิชาเอกทโี่ รงเรยี นมีความต้องการและจาเปน็
4. การสร้างความตะหนักให้กบั ครทู ุกคน ถึงความสาคัญของนักเรยี นท่ีตนเองรับผดิ ชอบ
ท้ังในฐานะครูทปี่ รึกษาและห้องทีส่ อนทกุ ๆชั่วโมงท่ีทาการสอน
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาบุรรี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 88
บรรณำนุกรม
สานักทดสอบทางการศึกษา.(๒๕๕๙). คู่มือการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน
เพอื่ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พส์ านกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ซาติ.
สานักทดสอบทางการศึกษา. (๒๕๕๙). แนวทางการเขียนรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา
(Self Assessment Report (SAR). กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์สานักงานพระพทุ ธศาสนา แห่งซาต.ิ
สานกั ทดสอบทางการศึกษา.(๒๕๕๔).แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน
เพอ่ื การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพส์ านกั งาน พระพทุ ธศาสนาแห่งซาติ.
สานักทดสอบทางการศึกษา.(๒๕๕๔). แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย
เพื่อการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งซาติ.
สานักทดสอบทางการศึกษา.(๒๕๖๑).แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาระดับ
ปฐมวัยระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ.กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์
ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด.
โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ รี ัมย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 89
สว่ นท่ี ๔
ภาคผนวก
โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบรุ รี มั ย์ เขต 2
รายงานประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (Self – Assessment Report : SAR) หนา้ 89
ภาคผนวก ก
- คณะทางาน
- ประกาศโรงเรยี นอนุบาลกระสงั เรื่อง กาหนดมาตรฐานการศึกษา
ระดับปฐมวัย ระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน
- ประกาศโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั เรอ่ื ง กาหนดคา่ เปา้ หมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
ระดับปฐมวัยและระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา
- ประกาศโรงเรียนอนุบาลกระสัง เรอื่ ง แต่งต้ังคณะกรรมการตดิ ตาม ตรวจสอบ
และประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ประจาปีการศึกษา 2564
- ประกาศโรงเรียนอนบุ าลกระสัง เร่อื ง แตง่ ตัง้ คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินคุณภาพ
ภายในสถานศกึ ษา
- คาส่งั โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง ท่ี 42 /2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมิน
คณุ ภาพภายในสถานศึกษา ประจาปีการศึกษา 2564
- คาสั่งโรงเรยี นอนุบาลกระสัง ท่ี 11/2565 เรือ่ ง แตง่ ต้งั คณะกรรมการจดั ทารายงานการประเมนิ ตนเอง
(SAR) ประจาปีการศึกษา 2565
โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาบุรีรัมย์ เขต 2
คณะผจู้ ดั ทำรำยงำนกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำ ประจำปีกำรศกึ ษำ 2564
โรงเรยี นอนุบำลกระสัง
ที่ปรึกษำ
นายอภชิ าต เรืองจินดาวลยั
ตาแหน่ง ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐานโรงเรียนอนุบาลกระสงั
๑. นายสมชาย ไกรศทุ ธิกานต์ คณะทำงำน ประธานกรรมการ
๒. นายสญั ญา อนนั ต์ กรรมการ
๓. นางรัมภา ศรีวรานันท์ ผ้อู านวยการโรงเรยี น กรรมการ
๔. นางกฤษณาพร คาผาย รองผู้อานวยการโรงเรยี น กรรมการ
๕. นางสาวจาเนียร เจริญรมั ย์ ครู กรรมการ
๖. นางสาลนิ ี กลุ วงษ์ ครู กรรมการ/เลขานกุ าร
ครู
ครู
ประกาศโรงเรยี นอนุบาลกระสงั
เรือ่ ง กาหนดมาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดบั การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน
.....................................................................
โดยที่มปี ระกาศใช้กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2561 ลงวนั ท่ี 20 กมุ ภาพันธ์
2561 ไดก้ าหนดระบบ หลักเกณฑ์ละวธิ ีการประกันคณุ ภาพการศึกษา อนั ส่งผลให้การดาเนนิ งานการประกัน
คุณภาพการศกึ ษาทั้งหนว่ ยงานต้นสงั กดั หรอื หน่วยงานกากบั ดแู ล และหนว่ ยงานภายนอกทส่ี ะทอ้ นสภาพงานท่ี
แท้จรงิ และเกิดประสทิ ธภิ าพ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่อื ง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดบั ปฐมวยั
ระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน และระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประกาศ ณ วนั ท่ี 6 สิงหาคม
พ.ศ. 2561
โรงเรียนอนุบาลกระสงั สังกดั สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาบรุ รี ัมย์ เขต 2 มภี ารกิจ
จัดการศกึ ษาระดับปฐมวัย และระดับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน จงึ กาหนดมาตรฐานการศกึ ษาระดบั ปฐมวยั และ
ระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน เพือ่ นาไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย
และระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน และเพื่อการประเมนิ คุณภาพภายในและรองรบั การประเมินคุณภาพ
ภายนอก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ในการประชมุ คร้งั ที่ 1 / 2564
เม่ือวนั ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2564
โรงเรยี นอนุบาลกระสัง จงึ ประกาศใช้มาตรฐานการศึกษาระดบั ปฐมวัย และระดบั การศกึ ษาขั้น
พน้ื ฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา เพื่อเป็นเปา้ หมายในการพฒั นาคุณภาพการศึกษา
ต้ังแต่ปีการศึกษา 2564 เปน็ ตน้ ไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี 10 มิถนุ ายน พ.ศ. 2564
(นายสมชาย ไกรศุทธกิ านต์)
ผอู้ านวยการโรงเรียนอนบุ าลกระสงั
มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดับปฐมวยั
แนบท้ำยประกำศโรงเรยี นอนบุ ำลกระสงั
เรอื่ ง กำหนดมำตรฐำนกำรศกึ ษำ ระดบั ปฐมวัย ระดับกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน
ฉบบั ลงวันที่ 10 เดือน มถิ ุนำยน พ.ศ. 2564
…………………………………………………….
มาตรฐานการศึกษา ระดบั ปฐมวัย พ.ศ. 2564 มจี านวน 3 มาตรฐาน ได้แก่
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก
มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ
มาตรฐานท่ี 3 การจัดประสบการณท์ ่ีเนน้ เดก็ เป็นสาคญั
แต่ละมาตรฐานมรี ายละเอยี ดดงั นี้
มำตรฐำนท่ี 1 คุณภำพของเด็ก
1.1 มพี ฒั นาการดา้ นรา่ งกาย แข็งแรง มสี ุขนิสยั ทีด่ ี และดแู ลความปลอดภัยของตนเองได้
1.2 มีพัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ควบคมุ และแสดงออกทางอารมณไ์ ด้
1.3 มพี ัฒนาการดา้ นสังคม ชว่ ยเหลอื ตนเองและเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องสังคม
1.4 มีพัฒนาการดา้ นสติปญั ญา ส่ือสารได้ มีทักษะการคิดพ้ืนฐานและแสวงหาความรู้ได้
มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร
2.1 มหี ลกั สตู รครอบคลุมพฒั นาการทั้ง 4 ดา้ น สอดคล้องกับบริบทของท้องถ่นิ
2.2 จดั ครูให้เพียงพอกบั ช้นั เรียน
2.3 สง่ เสริมใหค้ รมู ีความเชย่ี วชาญด้านการจดั ประสบการณ์
2.4 จดั สภาพแวดล้อมและสอ่ื เพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ
2.5 ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรูเ้ พ่ือสนบั สนุนการจดั ประสบการณ์
2.6 มรี ะบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสใหผ้ เู้ ก่ยี วข้องทุกฝ่ายมีสว่ นร่วม
มำตรฐำนท่ี 3 กำรจัดประสบกำรณท์ เ่ี น้นเด็กเปน็ สำคญั
3.1 จดั ประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เดก็ มพี ฒั นาการทุกดา้ นอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ
3.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัตอิ ยา่ งมีความสุข
3.3 จดั บรรยากาศท่ีเอ้ือตอ่ การเรียนรู้ ใชส้ ือ่ และเทคโนโลยีท่เี หมาะสมกับวยั
3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนาผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรงุ
การจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก
มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน
แนบทำ้ ยประกำศโรงเรยี นวัดบ้ำนแสลงคง
เรื่อง กำหนดมำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับปฐมวัย ระดบั กำรศึกษำขัน้ พ้นื ฐำน
ฉบับลงวนั ที่ 10 เดือน มถิ ุนำยน พ.ศ. 2564
…………………………………………………….
มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พ.ศ. 2564 มจี านวน 3 มาตรฐาน ได้แก่
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผเู้ รยี น
1.1 ผลสมั ฤทธิ์ทางวิชาการของผเู้ รียน
1.2 คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ของผู้เรยี น
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ
มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเี่ น้นผู้เรียนเป็นสาคญั
แตล่ ะมาตรฐานมรี ายละเอยี ด ดังน้ี
มำตรฐำนที่ 3 คุณภำพผู้เรียน
1.1 ผลสมั ฤทธิ์ทางวิชาการของผเู้ รียน
1) มคี วามสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคดิ คานวณ
2) มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ อภปิ รายแลกเปลีย่ นความ
คิดเหน็ และแก้ปัญหาได้
3) มีความสามารถในการสรา้ งนวัตกรรม
4) มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
5) มผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนตามหลกั สูตรสถานศึกษา
6) มีความรู้ ทักษะพืน้ ฐานและเจตคติทด่ี ตี อ่ งานอาชีพ
1.2 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ของผู้เรียน
1) การมีคุณลกั ษณะและค่านิยมทีด่ ีตามทส่ี ถานศึกษากาหนด
2) ความภูมใิ จในทอ้ งถ่ินและความเปน็ ไทย
3) การยอมรับทีจ่ ะอย่รู ่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย
4) สุขภาวะทางร่างกายและจิตสงั คม
มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร
2.1 มีเป้าหมาย วิสัยทศั นแ์ ละพนั ธกจิ ทส่ี ถานศึกษากาหนดชดั เจน
2.2 มรี ะบบบริหารจัดการคณุ ภาพของสถานศึกษา
2.3 ดาเนินงานพฒั นาวิชาการทเ่ี น้นคณุ ภาพผเู้ รียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษาและทกุ
กลมุ่ เป้าหมาย
2.4 พฒั นาครูและบคุ ลากรให้มคี วามเชีย่ วชาญทางวชิ าชพี
2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภายและสงั คมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนร้อู ยา่ งมีคุณภาพ
2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนทศเพ่ือสนับสนนุ การบรหิ ารจัดการและการจดั การเรียนรู้
มำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนท่เี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ
3.1 จดั การเรียนรู้ท่ผี า่ นกระบวนการคิดและปฏิบตั ิจริง และสามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ น
ชีวติ ได้
3.2 ใชส้ อื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรยี นรู้ทีเ่ อื้อต่อการเรยี นรู้
3.3 มีการบรหิ ารจดั การช้ันเรยี นเชงิ บวก
3.4 ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอย่างเปน็ ระบบ และนาผลมาพัฒนาผู้เรียน
3.5 มกี ารแลกเปล่ยี นเรยี นรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจดั
การเรยี นรู้
ประกาศโรงเรียนอนบุ าลกระสัง
เรือ่ ง กาหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา ระดบั ปฐมวัยและ
ระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน เพ่ือการประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา
.....................................................................
โดยท่ีมีประกาศใช้กฎกระทรวง การประกนั คณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ลงวันท่ี 20
กุมภาพนั ธ์ 2561 ไดก้ าหนดระบบ หลกั เกณฑล์ ะวิธีการประกันคุณภาพการศกึ ษา อันสง่ ผลให้การ
ดาเนินงานการประกนั คุณภาพการศึกษาท้ังหน่วยงานตน้ สงั กดั หรอื หน่วยงานกากับดแู ล และหน่วยงาน
ภายนอกทส่ี ะทอ้ นสภาพงานที่แท้จรงิ และเกิดประสทิ ธภิ าพ และประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่อื ง ให้ใช้
มาตรฐานการศกึ ษา ระดับปฐมวัย ระดบั การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน และระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานศนู ย์
การศกึ ษาพิเศษ ประกาศ ณ วนั ที่ 6 สงิ หาคม พ.ศ. 2561
โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 มี
ภารกจิ จดั การศึกษาระดบั ปฐมวยั และระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน จงึ กาหนดมาตรฐานการศกึ ษาระดับ
ปฐมวยั และระดับการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน เพ่อื นาไปสู่การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาตามมาตรฐาน
การศึกษาระดับปฐมวัย และระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน และเพ่ือการประเมนิ คณุ ภาพภายในและ
รองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน
ในการประชุม ครั้งที่ 1/ 2564 เมอ่ื วนั ท่ี 8 มิถุนายน พ.ศ. 2564
โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั จึงกาหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
ระดบั ปฐมวัยและระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน เพื่อการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา ตงั้ แต่
ปีการศกึ ษา 2564 เปน็ ตน้ ไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี 10 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2564
(นายสมชาย ไกรศุทธกิ านต)์
ผอู้ านวยการโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง
กำรกำหนดค่ำเป้ำหมำยตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ ระดับปฐมวยั
เพอ่ื กำรประกนั คุณภำพภำยในของสถำนศกึ ษำ ประจำปีกำรศึกษำ 2564
โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาบุรรี มั ย์ เขต 2
แนบทา้ ยประกาศโรงเรียนอนุบาลกระสงั วันท่ี 8 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2564
มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา คา่ เปา้ หมายมาตรฐาน/ประเด็น
การพิจารณา
มาตรฐานที่ 1 ดา้ นคุณภาพของเดก็ ดี
1.1 เด็กมีพัฒนาการดา้ นรา่ งกาย แข็งแรง มีสขุ นิสยั ท่ีดีและ 76
ดูแล
ความปลอดภัยของตนเองได้
1.2 มีพฒั นาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออก 78
ทางอารมณ์ได้
1.3 มีพฒั นาการด้านสงั คม ชว่ ยเหลือตนเองและเป็นสมาชิกที่ 79
ดขี องสังคม
1.4 มพี ัฒนาการดา้ นสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคดิ 80
พนื้ ฐานและ
แสวงหาความรู้ได้
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ดี
2.1 มหี ลกั สตู รครอบคลุมพฒั นาการท้ัง 4 ด้าน สอดคล้องกับ ดี
บริบท ของทอ้ งถิน่
2.2 จัดครูให้เพยี งพอกบั ช้ันเรยี น ดี
2.3 สง่ เสริมใหค้ รมู ีความเช่ยี วชาญด้านการจดั ประสบการณ์ ดี
2.3 จดั สภาพแวดล้อมและส่อื เพือ่ การเรยี นรู้ อยา่ งปลอดภัย ดี
และเพยี งพอ
2.5 ใหบ้ ริการสอ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศและสื่อการเรยี นรู้ เพอื่ ดี
สนบั สนุน
การจดั ประสบการณ์
2.6 มีระบบบรหิ ารคุณภาพท่ีเปิดโอกาสให้ผเู้ กี่ยวข้องทุกฝ่าย ดี
มีสว่ นร่วม
มาตรฐานท่ี 3 การจดั ประสบการณท์ เี่ น้นเด็กเป็นสาคัญ ดี
3.1 จดั ประสบการณ์ท่สี ่งเสรมิ ให้เดก็ มีพัฒนาการทกุ ด้าน 78
อยา่ งสมดุลเต็มศักยภาพ