The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชื่อโครงงาน สุนัขพันธุ์บางแก้ว 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by gilf.goog, 2020-02-20 23:48:36

สุนัขพันธุ์บางแก้ว

ชื่อโครงงาน สุนัขพันธุ์บางแก้ว 1

ชอื่ โครงงาน สนุ ัขพันธ์บุ างแก้ว

ชอ่ื ผจู้ ดั ทา 6222040056
6222040042
นายธนาวุฒิ นาคแกว้ 6222040073
นางสาวกุลิดา ลาเนาว์
นางสาวอภริ ณา ศรีรกั ษา

โครงงานน้เี ปน็ สว่ นหนึง่ ของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชพี
ประเภทวชิ าบริหารธรุ กิจ สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ
วิทยาลัยอาชวี ศกึ ษาพษิ ณโุ ลก
ปีการศกึ ษา 2562

หวั ขอ้ โครงงาน สนุ ัขพันธบุ์ างแก้ว
คณะผู้จัดทา นายธนาวุฒิ นาคแกว้ รหสั นกั ศึกษา 6222040056
นางสาวกลุ ธดิ า ลาเนาว์ รหสั นักศึกษา 6222040042
สาขาวชิ า นางสาวอภริ ณา ศรรี กั ษา รหัสนกั ศกึ ษา 6222040073
ปกี ารศกึ ษา คอมพิวเตอร์ธรุ กจิ
อาจารยท์ ี่ปรกึ ษา 2562
นายภมู ิพฒั น์ วนพิพฒั นพ์ งศ์

บทคดั ยอ่
จากทีก่ ลา่ วมาข้างตน้ ผู้จัดทาโครงงานได้เหน็ ปญั หาดังกลา่ วจงึ ตอ้ งมีเทคโนโลยีเขา้ มาชว่ ยในการ
ดาเนนิ การต่าง ๆ
เพอ่ื ให้มชี ่องทางในการแนะนา สุนขั พนั ธบ์ุ างแก้ว ทนี่ ่าสนใจใหม้ ีความรจู้ กั แพรห่ ลายผลการดาเนินโครงงาน
พบว่ากล่มุ ตวั อย่างมีคะแนนการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มตี ่อ สนุ ขั พนั ธุ์บางแก้ว

สารบญั

บทคดั ยอ่ หนา้

กติ ตกิ รรมประกาศ ก
สารบญั
บทท่ี 1 บทนา ข

ความเป็นมาและความสาคัญ
1
วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน 2
ขอบเขตของโครงงาน 2
นิยามศัพท์เฉพาะ 2
ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ 2

บทท่ี 2 แนวคดิ ทฤษฎี เอกสารและงานโครงงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง 3
บทที่ 3 ประวตั ิของ สขุ นขั พันธ์บุ างแก้ว 3
ความหมายสตอรบี่ อร์ด 7
แนวคดิ สือ่ มัลติมีเดียเพ่อื การนาเสนอ 11
โปรแกรม Microsoft Power point 2013 12
โปรแกรม Premiere Pro 13
โปรแกรม Youtube
วธิ ีดาเนินโครงงาน 16
17
เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ดาเนนิ โครงการ 18
18
ขน้ั ตอนการดาเนินโครงงาน
การจัดทาขอ้ มูลของโครงงาน
นาเสนออาจารย์

บทที่ 4 ผลการดาเนนิ การโครงงาน ผล
19
การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 19
ความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ตี อ่ โครงงานสขุ นัขพนั ธุ์บางแก้ว
20
บทท่ี 5สรุปผลโครงงานอภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 20
วตั ถุประสงคข์ องโครงการ 20
วธิ ีการดาเนนิ โครงการ 22
สรปุ ผล
บรรณานกุ รม 24
27
ภาคผนวก 29
ภาคผนวก ก แบบสอบความพงึ พอใจ
ภาคผนวก ข เบ้อื งหลังการถา่ ยทา
ภาคผนวก ค ประวตั ิผ้จู ดั ทา

บทที่ 1
บทนา
1.1 ความเปน็ มาและความสาคัญ

บ้านไทยบางแก้ว บ้านไทยบางแก้วเข้าปีท่ี 6 เริ่มแรกซ้ือบางแก้วตามถ่ินกาเนิด ซ้ือมาเล้ียง พอ
ซ้ือมาแล้วผสมก็กลาย กลายก็คือ มีกละ แล้วก็ซื้อมาเร่ือยผิดเรื่อยๆ แล้วก็เลยหันมาดูว่าสายที่พัฒนาแล้ว
ออกมาสวยเป็นยังไง ก็เลยศึกษาพอศึกษา จริงๆจังๆ ก็เหมือนออกมาไดเ้ ริ่มดีขึ้น การถ่ายทอดทางพนั ธุกรรมดี
ขน้ึ จนเป็นบางแกว้ ท่ีสวยงาม

รูปร่างลักษณะท่ัวไป : เป็นสุนัขขนาดกลาง โครงสร้างเป็นรูปส่ีเหล่ียมจัตุรัส มีสัดส่วนที่กลมกลนื
ประกอบด้วยกลา้ มเนอ้ื ท่ี

สมบรู ณ์ แข็งแรง มกี ารเคลอื่ นไหวทแ่ี คลว่ คลอ่ ง
- หวั : กะโหลกคอ่ นขา้ งใหญ่ ไดส้ ัดส่วนกบั ลาตวั ดง้ั จมูก (Snout) มีมมุ หกั เลก็ นอ้ ย
- จมกู : มสี ีดา ขนาดได้สดั สว่ นกับปาก
- ปาก : ยาวปานกลาง โคนปากใหญเ่ รยี วจรดปลายจมูก
- ฟัน : เล็กและแหลมคม ขบกันแนบสนทิ แบบกรรไกร (Scissors Bite) โดยฟันบนเกยอยูด่ า้ นนอก อนุโลมให้
ฟนั ขบเสมอกนั พอดี สุนขั โตควรมฟี นั ครบ 42 ซี
- ตา : เล็ก คล้ายเม็ดอัลมอนต์ (Almond) มีสีํน้าตาลเข้ม - หู : รูปสามเหล่ียม มีขนาดเล็กไดส้ ัดส่วนกับหัว ต้ัง
ปอ้ งไปข้างหนา้ มขี นอ่อนท่ีกกหู และหลังใบหู
- คอ : ใหญํ่ล่าสนั รบั กับหวั และชว่ งไหล่ มแี ผงขนยาวรอบคอ
- หลงั : เสน้ หลงั ตรง
- อก : กวา้ งและลกึ ไดร้ ะดับกบั ข้อศอก
- สะโพก : ใหญ่และแข็งแรง สว่ นหลังมีขนยาวลามมาจนถึงข้อขาหลังทอ่ นบน
- ขาหน้า : ใหญ่กวา่ ขาหลงั เวลายืนเหยียดตรงและขนานกัน ข้อเทา้ สนั้ ทามมุ เฉียงเล็กนอ้ ย หลังขามยี นยาว
ลักษณะคล้ายแข็งสิงห์
- ขาหลัง : เลก็ กว่าขาหน้า เวลายืนทามุมพอเหมาะ มองจากดา้ นหลงั ขอ้ เทา้ หลงั ตัง้ ไดฉ้ ากและขนานกนั
- เทา้ : องุ้ เท้ากลมคลา้ ยอุ้งเทา้ แมว มีขนยาวคลมุ นิ้วเทา้
- หาง : โคนหางใหญ่ ขนหางเปน็ พวง ปลายโคง้ เขา้ หาเส้นหลงั
- ขน : ยาวปานกลางมี 2 ชนั้ ชั้นในละเอยี ดออ่ นนมุ่ ช้นั นอกเส้นใหญ่เหยียดตรง ยาวคลุมบริเวณแผ่นหลงั
- สี : ขาว - น้าาตาล ,ขาว - ดา ,ขาว – เทา
- ความสงู : เพศผู้ สงู 19-21 น้วิ (48-53 เซนตเิ มตร) เพศเมยี สงู 17-19 น้ิว (43-48 เซนติเมตร) อนุโลมให้ สูง
และํต่ากว่านีไ้ ด้ 0.50 น้วิ (1-2 เซนตเิ มตร)
- นา้ หนัก : เพศผ้หู นกั 19-21 กิโลกรัม เพศเมียหนกั 16-18 กิโลกรมั
- พฤติกรรม/อารมณ์ : ตื่นตัว ร่าเริง เช่ือมั่นในตนเอง จิตประสาทมันคงไม่ขลาดกลัว กล้าหาญ ซ่ือสัตย์ หวง
แหนทรพั ยส์ นิ ฉลาด ปราดเปรยี ว สามารถฝกึ ใชง้ านได้

บ้านไทยบางแก้ว พิษณุโลก อยู่ท่ี 88/7 หมู่ 7 หมู่บ้านเอื้ออาทร บึงพระ ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ซอ่ งทางตดิ ตอ่ Facebook:บา้ นไทยบางแกว้

ส่ือมัลติมีเดียเข้าไปช่วยในการทาโครงงานเพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ สุนัขพันธ์ุบางแก้ว ดังนั้นผู้จัดทา จึง
เห็นถงึ ความสาคัญ ขา้ งต้น จึงได้จัดทา

1.2 วัตถุประสงคข์ องการโครงงาน

1.2.1 เพอ่ื พัฒนาทกั ษะการตดั ต่อ VDO ดว้ ยโปรแกรม Adobe Premiere Pro 2019
1.2.2 เพือ่ สื่อเผยแพร่ ให้กับเยาวชนทั่วไป

1.3 ขอบเขตการโครงงาน

1.3.1 ไปสอบถามประวตั คิ วามเปน็ มาและลักษณะของสขุ นัขพนั ธบ์ุ างแกว้

1.4 นิยามศพั ท์เฉพาะ

1.4.1 สุนขั พนั ธ์บุ างแกว้ หมายถงึ บางคนอาจคิดวา่ เป็นสตั วท์ ดี่ รุ ้าย ถา้ ฝกึ ฝนเป็นอยา่ งดีก็จะนา่ รัก รา่ เริง

1.5 ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รับ

1.5.1 ไดร้ ับทักษะการตัดต่อ VDO ด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro 2019
1.5.2 ทาใหค้ นรจู้ ักย่งิ มากข้นึ

บทท่ี 2
เอกสารท่ีเกี่ยวข้อง

ในการศึกษาโครงงานเรื่อง สุขนัขพันธ์ุบางแก้ว ผู้จัดทาได้รวบรวมแนวคิดต่างๆจากเอกสารท่ีเก่ียวข้อง
ดงั ตอ่ ไปนี้

2.1 แนวคดิ สุนขั พันธุ์บางแกว้
2.2 ความหมายสตอร่ีบอรด์
2.3 แนวคดิ สอื่ มลั ติมเี ดียเพือ่ การนาเสนอ
2.4 โปรแกรม Microsoft Powerpoint 2016
2.5 โปรแกรม Adobe Premiere Pro 2019
2.6 โปรแกรม Youtube

2.1 สุนขั พันธุบ์ างแก้ว

สุนัขบางแก้ว เป็นสุนัขท่ีมีถิ่นกาเนิดท่ีบ้านบางแก้ว ตาบลท่านางงาม อาเภอบางระกา จังหวัด
พิษณุโลก สุนัขพนั ธบ์ุ าง แก้ว เป็นสายเลือดผสมระหวา่ งสุนัขพันธ์ุไทยพืน้ บา้ นกับสุนัขปา่ เนื่องจากภูมิประเทศ
แถบบ้านบางแก้วสมัยก่อน มีป่าไม้หนาแน่น เป็นที่อาศัยของพวกสุนัขจิ้งจอก และสุนัขไน หรือท่ีเรียกว่า
“หมาใน ทาให้เกิดผสมพันธุ์กันระหว่าง สุนัข ทั้ง 3 สายพันธ์ุ จนใน ท่ีสุดก็ได้เป็น ท่ีมีลักษณะหลายสีเหมือน
สุนัขบ้าน มีขนยาวสองชั้นเหมือนสุนัขป่า หูป้องไปข้างหน้าเหมือนสุนัขจ้ิงจอก ตุรักถ่ินฐาน เหมือนสุนัขบ้าน
และกลา้ หาญเหมือนสุนขั ใน

2.2 ความหมายสตอร่ีบอร์ด

สตอร่ีบอร์ดคือ การเขียนภาพน่ิงเพ่ือสร้างเป็นภาพเคล่ือนไหวในรูปของสื่อมัลติมีเดีย
(Multimedia) หรือส่ือ ประสม หมายถึงสือหลายแบบ เป็นการใช้ส่ือในหลายรูปแบบ ทั้งข้อความ เสียง
รูปภาพหรือภาพเคลื่อนไหว เพ่ือกาหนดแนวทางให้ทีมผู้ผลิต เกิดความเข้าใจไปในแนวทางเดยี วกันในการถ่าย
ทาเป็นภาพเคล่ือนไหวรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ภาพยนตร์ ภาพยนตร์โฆษณา ภาพยนตร์ สั้น ภาพยนตร์การ์ตูน
ภาพยนตร์สารคดี หรือแม้แต่การทาผลงาน โดยแสดงออกถึงความต่อเนื่องของการเล่าเรื่อง จุดประสงค์ของ
สตอรี่บอร์ดคือ เพ่ือการเล่าเรื่อง ลาดับเร่ือง มุมกล้อง ภาพไม่จาเป็นต้องละเอียดมาก แค่บอกองค์ประกอบ
สาคัญได้ ตาแหนง่ ตวั ละครทสี่ ัมพันธ์กับฉากและตวั ละครอน่ื ๆ มุมกล้อง แสงเงา เปน็ การสเก็ตซภ์ าพของเฟรม
(Shot) ต่างๆ จากบท เหมือนการ์ตูนและ วาดตัวละครเป็นวงกลม ส่ีเหล่ียม ฉากเป็นสี่เหล่ียม การสร้างสตอร่ี
บอร์ดจะช่วยให้ Producer และผู้กากับได้เห็นภาพของรายการท่ี จะถ่ายทาเปน็ รูปธรรมชดั เจนขึ้นไดใ้ นแต่ละ
เฟรมทีจ่ ะดาเนนิ การ

2.2.1 สว่ นประกอบของสตอร่บี อรด์

สตอร่ีบอร์ด ประกอบด้วยชุดของภาพ Sketches ของ shot ต่างๆ พร้อมคาบรรยายหรือบท
สนทนาในเร่ือง อาจเขียนเรื่อง ย่อและบทก่อน หรือ Sketches ภาพก่อน แล้วจึงใส่คาบรรยายท่ีจาเป็นลงไป
ส่ิงสาคัญที่ต้องพิจารณาคือ ภาพและเสียงต้องให้ไป ด้วยกันได้ อาจมีบทสนทนาหรือไม่มีบทสนทนาก็ได้ หรือ
อาจมีบทบรรยายหรือไม่มีบทบรรยายก็ได้ โดยมีเสียงประกอบดว้ ย ไดแ้ ก่ เสียงดนตรี เสียงธรรมชาติหรือเสียง
อ่นื ๆ สาหรับการผลิต

ชลพรรษ ดวงปัญญา, การเขยี นสตอรีบ่ อรด์ (Story Board) [Online], 9 กนั ยายน 2553, แหลง่ ท่ีมา

http://province.rnculture.go.th/trat/storyboard 2553/2.pdf รายการที่สั้นๆ อย่างภาพยนตร์โฆษณา
สามารถทาโดยใชส้ ตอร่บี อรด์ เปน็ หลัก มติ ้องเขียนบทหรือเขียนสครปิ ตข์ ึ้นมา

2.2.2 ความร้พู นื้ ฐานก่อนเขยี นสตอรีบ่ อร์ด

ก่อนเขียนสตอร่ีบอร์ดจะต้องศึกษาการเขียนเรื่อง บทบรรยาย (Notation) รวมท้ังมุมกล้องให้
เขา้ ใจกอ่ น จงึ จะสามารถ เขยี นสตอรีบ่ อรด์ ได้

ศิลปะการเล่าเรื่อง ศิลปะการเล่าเร่ือง ไม่ว่าจะเป็นนิทาน นิยาย ละครหรือภาพยนตร์ ล้วนแต่มี
รากฐานแบบเดียวกัน นั่น คือการเล่าเรื่องราวท่ีเกิดข้ึนของมนุษย์หรือสตั ว์ หรือแม้แต่อะไรก็ตามที่เกิดขนึ้
ช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง ณ สถานที่ใดที่หนหน่ึงเสมอ ฉะน้ัน องค์ประกอบท่ีสาคัญที่ขาดไม่ได้คือ ตัวละคร
สถานที่และเวลา ส่ิงสาคัญในการเขียนบทหนังส้ันก็คือ การเร่ิมค้นหาวัตถุดิบ หรือแรงบันดาลใจ ให้ได้ว่า
เราอยากจะพูด จะนาเสนอเร่ืองเกี่ยวกับอะไร ตัวเราเองมีแนวความคิดเก่ียวกับเรื่องนั้นๆ อย่างไร ซึ่งแรง
บนั ดาลใจในการเขียนบทท่ีเราสามารถนามาใช้ในก็คือ ตัวละคร แนวความคิดและเหตกุ ารณ์ ควรจะมอง
หาวัตถุดิบในการสร้างเรื่อง ให้แคบอยู่ในสิ่งท่ีเรารู้สึก รู้จริง เพราะคนทาหนังส้ันมักจะทาเรื่องที่ไกลตัว
หรือไมก่ ไ็ กลเกนิ จนทาใหเ้ ราไม่สามารถจากัดขอบเขตได้

2.2.3การเขียนเรื่องสั้น การเขียนเร่ืองสั้น ต้องให้กระชับ ตัวละครมีบทสนทนาไม่มาก
เทคนคิ การเขยี นเรอ่ื งสน้ั มดี งั น้ี

1. ต้องมีการระบายสภาพและบรรยากาศ หมายถึงการพรรณนาภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง เพ่ือนา
ความคดิ ของผู้อ่านให้ ซาบซงึ้ ในท้องเรือ่ ง ใหเ้ หน็ ฉากท่เี ราวาดดว้ ย ตัวอกั ษรนั้นตอ้ งชัดเจน

2. การวางโครงเรอ่ื ง มกี ารเร่มิ นาเรอ่ื งจนถึงปลายยอดเร่อื ง หรือทเ่ี รยี กว่า ไคลแมกซ์และจบเรอ่ื ง
ลงโดยเร็ว ให้ผูอ้ ่านโล่ง ใจ เขา้ ใจและสะเทือนใจ หรอื เป็นแบบสองซอ้ นเหตกุ ารณ์

3. การจัดตัวละครและให้บทบาท เป็นตวั ละครที่สาคัญในเรื่อง เพื่อแสดงลักษณะนิสัยอย่างหนึ่ง
อย่างใด กอ่ ให้เกดิ เร่อื งราวข้นึ

4. การบรรยายเรื่อง แบบการมีตัวตนท่ีเข้าไปอยู่ในตัวเรื่อง และการเป็นบุรุษท่ีสาม ได้แก่ ตัว
ละครแสดงบทบาทของ ตนเอง เปน็ วิธที ี่ดีทสี่ ดุ

5. การเปิดเรื่อง อาจทาไดโ้ ดยการใหต้ ัวละครพูดกัน การบรรยายตัวละคร การวางฉาก
6. บทเจรจา หรือคาพูดของตัวละคร ต้องเขียนให้เป็นภาษามนุษย์พูดกัน และต้องให้เหมาะกับ
บทบาทและเหตกุ ารณ์ที่ เกยี่ วกับตัวละคร
7. ต้องมคี วามแน่น คือพูดให้ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย ใชค้ าไม่ฟมุ่ เฟือย
8. การตั้งชื่อตัวละคร ควรให้ชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อคนจริงๆ ส่วนชื่อเรื่องก็ควงเป็นข้อความที่
ก่อให้เกิดความอยากอ่าน ใช้ คาสั้นๆ แต่ใหน้ ่าทง่ึ
9. การทาบท คอื การบรรยายให้ตัวละครแสดงบทบาทเชน่ เดยี วกับการแสดงละคร ต้องพรรณนา
ถึงกริ ิยาท่าทาง อาการ ราพึงราพัน เปน็ ตน้

2.2.4 การทาสตอร่บี อร์ด

การทาสตอร่ีบอร์ดเป็นการสร้างตารางข้ึนมาเพื่อร่างภาพลงไปตามลาดับขั้นตอนของเร่ืองต้ังแต่
ต้นจนจบ เพื่อให้ทุกๆ ฝ่ายสามารถมองเห็นภาพรวมของงานท่ีจะลงมือทาได้ล่วงหน้า ซ่ึงหากมีข้อที่ต้องแก้ไข
ใดๆ เกิดข้ึนก็สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ และทาสตอรี่บอร์ดใหม่ได้ การทาสตอรี่บอร์ดน้ันโดยหลักแล้ว จะ
เป็นต้นแบบของการนาไปสร้างภาพจริง และเป็นตัวกาหนดในการ ทางานอื่นๆ ไปด้วยเข่าน เสียงพากย์

เสียงดนตรี เสียงประกอบอืน่ ๆ (9ecial effect จึงเป็นการรา่ งภาพ พรอ้ มกับการระบุ รายละเอยี ดทจ่ี าเปน็ ตอ้ ง
ทาลงไป

2.2.5 หลกั การเขียนสตอรบี่ อรด์

รปู แบบของสตอรีบ่ อรด์ จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคอื ส่วนเสียงกบั ส่วนภาพ โดยปกตกิ ารเขยี นสตอ
รี่บอร์ด 20 เฟรม คือภาพ 24 ภาพ เม่ือถ่ายทาเป็นภาพยนตร์ใช้เวลา 1 นาที ถ้าเป็นภาพยนตร์โฆษณา
ในเวลา 30 วินาที ต้องเขียน 12 เฟรม การ เขียนบทบรรยายจะเปน็ ส่วนสนับสนุนการนาเสนอภาพ มิใช่
การนาเสนอบทบรรยายนัน้ ความยาวของคาบรรยายมหี ลักการในการ จัดทา 3 ประการคอื

1. ต้องเหมาะสมกบั ลักษณะของผ้ชู ม
2. ตอ้ งมคี วามยาวพอท่จี ะครอบคลมุ วตั ถุประสงค์ทกี่ าหนด
3. ต้องให้สัน้ ที่สุดเทา่ ท่ีจะทาได้
สาหรับรายการท่ีใช้การบรรยายแบบ “Voice Over” ควรมีภาพของผู้บรรยายปรากฏขึ้นในตอนเร่ิมรายการ
ก่อน จะทา ให้รายการดูเป็นกันเองมากขึ้น และถ้ารายการยาวมาก ควรให้ผู้บรรยายมากกว่า 1 คน จะทาให้
ลดความเบื่อหน่ายจาเจของรายการ ลงได้ เสียงบรรยายไม่จาเป็นต้องมีอยู่ตลอด ควรทิ้งช่วงโดยใช้ดนตรีและ
เสยี งอ่ืนประกอบด้วย สงิ่ สาคัญที่อย่ใู นสตอร่ีบอรด์ ประกอบด้วย
1.Subject หรือ Character ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ ส่ิงของ สถานท่ีหรือตัวการ์ตูน และท่ีสาคัญคือ
พวกเขากาลงั เคล่อื นไหวอยา่ งไร
2.กล้อง ทง้ั ในเรื่องของขนาดภาพ มมุ ภาพและการเคลือ่ นกล้อง
3.เสยี ง การพดู กันระหวา่ งตัวละคร มเี สยี งประกอบหรอื เสยี งดนตรีอย่างไร

2.2.6 วิธีการเขยี นสตอรบี่ อรด์

สตอร่ีบอร์ด (Story board) คือการเขียนกรอบแสดงเร่ืองราวที่สมบูรณ์ของภาพยนตร์หรือหนัง
แต่ละเร่ือง โดยมีการแสดง รายละเอียดที่จะปรากฏในแต่ละฉากหรือแต่ละหน้าจอ เช่น ข้อความ ภาพ
ภาพเคลื่อนไหว เสียงดนตรี เสียงพูดและแต่ละอย่างนั้นมี ลาดับของการปรากฏ ว่าอะไรจะปรากฏข้ึนก่อน-
หลัง อะไรจะปรากฎพร้อมกัน เป็นการออกแบบอย่างละเอียดในแต่ละหน้าจอ ก่อนท่ีจะลงมือสร้างเอนิเมชัน
หรือหนงั ข้ึนมาจริงๆ

2.2.7 การออกแบบตัวละคร

การออกแบบตัวละครเป็นขั้นตอนของสร้างตัวละครข้ึนมาตามเน้ือเร่ืองท่ีเราสร้างขึ้น โดยตัว
ละครใดๆก็ตาม ถ้าระบายสีดา ลงไปในตัวละครนั้นทั้งตัวซ่ึงจะทาให้มองเห็นแต่โครงร่างเท่าน้ัน หากตัวละคร
ตวั นน้ั ดโู ดดเด่นและมบี ุคลิกที่สามารถจดจาได้งา่ ย น่ัน ละที่เรียกวา่ ตัวละครท่ดี ี
นอกจากน้ียังมีส่ิงท่ีเราต้องคานึงถึงอีกมากมายเช่นความสวยงาม และส่ิงหน่ึงที่ทาเม่ือลงมือออกแบบสามหนู
กับหนึ่งแมว แดงใหญ่คือ เรียบง่าย และมีบุคลิกภาพเฉพาะท่ีเป็นตัว นั่นเป็นเพราะเช่ือว่ามันจะช่วยทาให้
ขั้นตอนการลงมือวาดจรงิ นั้นจะดาเนิน
ไปได้อย่างราบร่ืน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ และสาหรับภาพประกอบด้านบนคือสามหนูกับหนึ่งแมวแดงใหญ่ใน
ร่างแรกก่อนที่จะพฒั นา ขัดเกลาแบบจนได้ตัวจรงิ

2.2.8สว่ นประกอบตา่ งๆของ storyboard มีดังน้ี

- Title คือช่ือเร่อื ง
-ภาพแสดงการเคลอ่ื นไหวในฉากๆนั้น (อยภู่ ายในกรอบส่ีเหลีย่ ม)
-Description คาอธบิ ายเกยี่ วกัน
-Scene ชอ่ื ฉาก
-Timing เวลาในการแสดงฉากนนั้
-Sound FX เสยี งประกอบ
-Music BG ดนตรีประกอบ

ตัวอย่าง storyboard

2.3 แนวคดิ สอื่ มลั ตมิ ีเดยี เพอื่ การนาเสนอ
2.3.1 ความหมายของส่อื มัลติมีเดยี

ส่ือมัลติมีเดีย คือ การใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ในการส่ือความหมายโดยการ
ผสมผสาน สื่อหลายชนดิ เชน่ ขอ้ ความ กราฟกิ ภาพเคล่อื นไหว เสยี ง และวีดทิ ศั น์ เปน็ ตน้ และถา้ ผูใ้ ช้สามารถ
ที่จะควบคุมส่ือให้นาเสนอออกมาตามต้องการได้จะ เรียกว่า สื่อมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ การปฏิสัมพนั ธ์ของผู้ใช้
สามารถจะกระทาได้โดยผา่ นทางคีย์บอรด์ เมาส์ หรอื ตัวช้ี เปน็ ต้น การใช้ สอื่ มัลตมิ เี ดียในลักษณะปฏสิ มั พนั ธก์ ็
เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียน รู้หรือทากิจกรรม รวมถึงดูส่ือต่างๆ ด้วยตนเองได้ส่ือต่างๆ ท่ีนามา รวมไว้ในส่ือ
มัลติมีเดีย เช่น ภาพ เสียง วีดิทัศน์ จะช่วยให้เกิดความหลากหลายในการใช้คอมพิวเตอร์อันเป็นเทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์ ในแนวทางใหม่ท่ีทาให้การใช้คอมพิวเตอร์น่าสนใจ และเร้าความสนใจ เพ่ิมความสนุกสนานใน
การเรียนรูม้ ากยงิ่ ขน้ึ

2.3.2 ความเป็นมาของสอ่ื มัลติมีเดีย

สื่อมัลติมีเดียเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในวงการธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะได้นามาใช้ใน
การฝึกอบรมและให้ความ บันเทิง ส่วนในวงการศึกษามัลติมีเดียได้นามาใช้เพื่อการเรียนการสอนในลักษณะ

แผ่นซีดี รอม หรืออาจใช้ในลักษณะห้องปฏิบัติการ มัลติมีเดียโดยเฉพาะก็ได้ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า มัลติมีเดียจะ
กลายมาเป็นเคร่ืองมือท่ีสาคัญทางการศึกษาในอนาคต ทั้งน้ีเพราะว่า มัลติมีเดียสามารถที่จะนาเสนอได้ท้ัง
เสียง ข้อความ ภาพเคล่ือนไหว ดนตรี กราฟิก ภาพถ่ายวัสดุตีพิมพ์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ ประกอบกับ
สามารถทีจ่ ะจาลองภาพของการเรียนการสอนที่ผเู้ รยี นสามารถเรียนรู้ ไดด้ ้วยตนเองแบบเชิงรุก

ส่ือมัลติมีเดียเริ่มต้นในราว ๆ ต้นปี พ.ศ. 2534 พร้อม ๆ กับการใช้ระบบปฏิบตั ิการวินโดวส์ 3.0
ซง่ึ เป็นระบบปฏิบตั ิการท่ีใช้
เคร่ืองพธิ ี และเป็นระบบปฏิบัติการท่เี รียกว่า กราฟกิ ยุซเซอรอ์ เิ ทอรเ์ ฟท หรอื ที่เรยี กย่อ ๆ วา่ GUI สาหรับ GUI
เป็นอินเทอร์ เฟทที่สามารถแสดงได้ท้ังข้อความ และกราฟิก ซ่ึงง่ายต่อการใช้งานต่อมาในราว ๆ ต้นปี
พ.ศ.2535 บริษัทไมโครซอฟต์ได้พฒั นา โปรแกรมมัลติมีเดียเวอร์ชั่น 1.0 ที่ใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์
3.0 ทาให้ระบบปฏบิ ตั กิ ารวนิ โดวส์มีศักยภาพเพ่ิมข้ึนในเร่ือง ของภาพและเสยี ง ซึง่ เป็นจดุ เริม่ ตน้ ของมาตรฐาน
มัลติมีเดียที่เรียกว่า มาตรฐานเอ็มพีซี (IMPC : Multimedia PartGrial Computer) ซึ่งมาตรฐานนี้จะเป็นส่ิง
กาหนดระบบพ้ืนฐานทจ่ี าเป็นสาหรบั มัลตมิ ีเดียท่ี เล่นบนระบบ ปฏิบัตกิ ารวินโดวส์

การเร่ิมนาเอาวินโดวส์ 3.1 เข้ามาแทนวินโดวส์ 3.0 ในราว ๆ ต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2536 ทาให้
การใช้มัลติมีเดียกว้างขวาง ย่ิงขึ้น โดยเฉพาะมีศักยภาพในการเล่นไฟล์เสียง (Wave) ไฟล์มีดี (MIDI) ไฟล์
ภาพเคลื่อนไหว (Anirnation) และภาพยนตร์จาก แผ่น ซีดีรอม (CD-ROM) จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ
มลั ตมิ ีเดียทีใ่ ชก้ ับเคร่ืองคอมพวิ เตอร์พซี จี นถงึ ปจั จบุ นั

2.3.3 บทบาทของส่ือมัลตมิ เี ดยี

เน่ืองจากประสิทธิภาพของส่ือมัลติมีเดีย ที่สามารนาเสนอเนื้อหาได้ท้ังข้อความ ภาพนิ่ง
ภาพเคลื่อนไหว เสียง วีดิทัศน์ และ อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ประจวบเหมาะสมระบบติดต่อผู้ใช้ (GUI:
Graphics User Interface) ที่ทาให้ผู้ใชม้ ีความสะดวกในการ ใช้งาน สร้างสรรค์งาน ทาให้บทบาทของสื่อฯ มี
มากขึ้นตามลาดับ มีการนาสื่อมัลติมีเดีย มาประยุกต์ใช้กับงานต่างๆ มากมาย เช่น การเรียนการสอน การ
ถ่ายทอดความรู้ การนาเสนอข้อมูล การประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ปัจจุบันความก้าวหน้าของ เทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์ เอ้ือให้นักออกแบบส่ือมัลติมีเดีย สามารถประยุกต์ส่ือประเภทต่างๆ มาใช้ร่วมกัน ได้บนระบบ
คอมพิวเตอร์ ตัวอย่างสื่อเหล่าน้ี ได้แก่ เสียง วีดิทัศน์ กราฟิก ภาพน่ิง และภาพเคลื่อนไหวต่างๆ การนาสื่อ
เหล่านี้มาใช้ ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เรารวมเรียกสื่อประเภทน้ีว่า มัลติมีเดีย (Multimedia) การพัฒนา
ระบบมัลติมีเดียมีความก้าวหน้าเป็น ลาดับ จนถึงข้ันท่ีผู้ใช้โปรแกรมสามารถโต้ตอบกับระบบคอมพิวเตอร์ใน
รูปแบบต่างๆ กันได้ เช่น การใช้คีย์บอร์ด การใช้เม้าส์ การ สัมผัสจอภาพ และการใช้เสียง เทคโนโลยีต่างๆ
เหล่านี้ได้พัฒนาข้ึนพร้อมๆ กับการพัฒนาฮาร์ดแวร์ เช่น การพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้อ่าน และบันทึกข้อมูล การ
พัฒนาหน่วยความจาให้มีขนาดเล็กลง แต่มีความจุมากขึ้น และมีสมรรถนะในการเข้าถึงข้อมูลเร็วข้ึน
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี ด้านอุปกรณ์ต่อพ่วงสาคัญๆ เช่น เครื่องกราดภาพ (Scanner) เครื่อง
บันทึกภาพและเสียง ระบบดิจิทัล เครื่องอ่านพิกัด (Digitizer) และอ่ืนๆ ซ่ึงล้วนสนับสนุนการออกแบบ
โปรแกรมคอมพวิ เตอรใ์ ห้นา่ สนใจ และมี ประสิทธิภาพเพ่อื ใช้ในการตดิ ต่อสือ่ สารกบั ผใู้ ชโ้ ปรแกรม แนวคดิ ใหม่
ในการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์เกิดข้ึนอย่างต่อเนื่อง บางแนวคิดเกิดข้ึนมานานแล้ว แต่ขัดข้องท่ีไม่
สามารถนาเสนอด้วยส่ือรูปแบบอื่นท่ีไม่ใช่คอมพิวเตอร์ได้ บางแนวคิดเกิดขึ้นมาพร้อม กับการพัฒนาด้าน
ศกั ยภาพของระบบคอมพวิ เตอร์

2.3.4 ขน้ั ตอนในการสร้างส่อื มัลติมเี ดยี

ข้ันตอนการสร้างส่ือมัลติมีเดียโดยละเอียด ท้ังหมด 7 ขั้นตอน เพื่อสะดวกกับผู้เร่ิมต้นท่ีสนใจใน
การสร้างสือ่ มัลติมีเดีย (สกุ รี รอดโพธ์ิทอง 2538 : 25-33) ดังน้ี

1.ขัน้ การเตรยี ม (Preparation)
2.ขนั้ ตอนการออกแบบบทเรยี น (Design Instruction)
3.ขั้นตอนการเขยี นผังงาน (Flowchart Lesson)
4.ขนั้ ตอนการสร้างสตอร่ีบอรด์ (Create Storyboard)
5.ขน้ั ตอนการสรา้ งและการเขยี นโปรแกรม (Program Lesson)
6.ข้นั ตอนการประกอบเอกสารประกอบบทเรยี น (Produce Supporting Materials)
7.ขนั้ ตอนในการประเมินผลและแก้ไขบทเรยี น (Evaluate and Revise)

2.3.5 ส่อื มัลตมิ ีเดยี เพ่อื การเรยี นการสอน

เสอ่ื มัลตมิ เี ดียเพ่ือการเรียนการสอนนน้ั คอื โปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ี่อยแบบเพียใจในกาเรยี นการ
สอน โดยผูอ้ อกแนกหรือ กล่มุ ผู้ผลติ โปรแกรมไดบ้ ูรณาการเอาข้อมูลรูปแบบต่างๆ เชน่ พนี้ เพเคล่อื นไหว เสยี ง
“ต่ทัศน์ แลอยความ เข้าไปเป็น องค์ประกอบเพื่อการส่ือสารและการให้ประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ ท่ีมี
ประสิทธิภาพน้ันเอ) การอยแบบเสียมัลติมีเดียเพื่อ การศึกษา มีข้อแตกต่างจากสื่อมัลติมีเดียที่ใช้เพื่อการ
นาเสนอข้อมูลหรือการปรยพ) สัมพันก็อยู่หลายด้าน บทบาทของสือ มันเติมีเดียท้ัง 2 ลักษณะจึงมีดังน้ี สื่อ
มัลติมีเดยี เพอื่ การเรยี นการสอน มจี ุดประสงคห์ ลักๆ ดังนี้

- เปา้ หมายคือ การสอน อาจใช้ชว่ ยในการสอนทรียสอนเสรมิ ก็ได้
- ผูเ้ รียนใหเ้ รียนดว้ ยตนเอง หรือเรยี นเปน็ กลุ่มย่อย 2-3 คน
- มีวตั ถุประสงคท์ ว่ั ไปและวตั ถเุ ฉพาะ โดยครอบคลมุ ทกั ษะความรู้ ความจา ความเข้าใจ และเจต
คติ
- เป็นลักษณะ: การสอ่ื สารแบบสองทาง
- ใชเ้ พ่ือการเรียนการสอน แต่ไมจ่ ากัดว่าต้องอยู่ในระบบโรงเรยี นเทา่ นน้ั
- ระบบคอมพิวเตอร์ส่อื มัลติมเี ดียเปน็ ขคุ ของฮารด์ แวร์ที่ใชใ้ นการสง่ และรบั ขอ้ มลู
- รูปแบบการสอนจะเน้นการออกแบบการสอน การมีปฏิสัมพันธ์ การตรวจสอบความรู้โดย
ประยกุ ต์ทฤษฎจี ิตวทิ ยา และ ทฤษฎกี ารเรยี นร้เู ป็นหลัก
- โปรแกรมไดร้ ับการออกแบบใหผ้ ู้เรยี นเป็นผ้คู วบคุมกิจกรรมการเรยี นทง้ั หมด
- การตรวจสอบประสิทธิภาพของส่ือ นบั เปน็ ขั้นตอนสาคัญที่ตอ้ งกระทา

2.3.6 สื่อมลั ติมีเดยี เพ่อื การนาเสนอขอ้ มูล มจี ดุ ประสงค์หลักๆ ดงั นี้

- เปา้ หมายคอื การนาเสนอข้อมูลเพอ่ื ประกอบการคิด การตดั สินใจ ใชไ้ ดก้ ับทุกสาขาอาชีพ
- ผรู้ บั ขอ้ มูลอาจเปน็ รายบคุ คล กลุม่ ยอ่ ย จนถึงกลมุ่ ใหญ่
- มีวัตถุประสงคท์ ่วั ไปเพื่อเน้นความรแู้ ละทัศนคติ
- เปน็ ลักษณะการส่ือสารแบบทางเดยี ว

ชม และ - ใชม้ ากในการโฆษณา ประชาสัมพนั ธ์งานดา้ นธุรกิจ
- อาจตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์ตอ่ พ่วงอื่นๆ เพื่อเสนอขอ้ มลู ทมี่ ีความซบั ซ้อน หรือเพอ่ื ตอ้ งการให้ผู้ชมไดช้ ่นื
คลอ้ ยตาม
- เน้นโครงสรา้ งและรปู แบบการใหข้ อ้ มูลเป็นต้น ไมต่ รวจสอบความรู้ของผรู้ บั ขอ้ มลู
- โปรแกรมส่วนมากจะควบคมุ ดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์ หรอื ผ้นู าเสนอ

2.3.7 สอื่ มลั ติมเี ดียเพ่อื การนาเสนอ

การนาเสนอ หรือเรียกตามศัพท์ภาษาอังกฤษว่าการพรีเจ้นท์ (Presentation) เป็นการบรรยาย
หรือนาเสนอข้อมูล ให้แก่ผู้ฟังโดยอาจมีอุปกรณ์ประกอบการบรรยายหรือไม่ก็ได้ อดีตการเตรียมงานนาเสนอ
แต่สักช้ินต้องเตรียมตัวกันมากพอสมควร ตัวอย่างง่ายๆ ได้แก่ การบรรยายหน้าชั้นเรียนของอาจารย์ผู้สอน
การเตรียมอปุ กรณส์ าหรับการนาเสนอคอ่ นข้างยงุ่ ยาก เรม่ิ จาก
การเตรียมเนื้อหา นาภาพมาประกอบ นาข้อมูลท่ีมีเขียนลงบนแผ่นสไลด์ (หรือเขียนบนแผ่นใส) และบางครั้ง
อาจมกี ารอัดเสยี ง ประกอบการบรรยายรว่ มด้วย

2.3.8 การผลิตและใชส้ อ่ื มลั ติมีเดยี ในโรงเรยี น

การนาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในโรงเรียนมีหลายรูปแบบ โดยทั่วไปจะนาคอมพิวเตอร์มาใช้ใน
ด้านการเรียนการสอน และด้านบริหารจัดการ เช่น การเงนิ งานพสั ดุ งานกจิ การนกั เรยี น งานห้องสมดุ การใช้
คอมพิวเตอร์เพ่ือการบริหารจัดการ โรงเรียน ควรจัดเตรียมระบบคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับงาน จัดเตรียม
โปรแกรม หรือจัดหาโปรแกรมที่จาเป็นต้องใช้และวางแผนการใช้ให้ ชัดเจน การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียน
การสอนมีองค์ประกอบที่สาคัญก็คือสื่อมัลติมีเดียน่ันเอง ส่ือมัลติมีเดียเพื่อการเรียนการสอน ช่วยส่งเสริมการ
ใชค้ อมพวิ เตอร์ในการเรียนการสอนใหค้ ้มุ ค่ามากขึ้น

2.3.9 สอ่ื มัลติมเี ดยี เพื่อการนาเสนอขอ้ มูล มีจดุ ประสงค์หลักๆ ดงั น้ี

1. เป้าหมายคือ การนาเสนอข้อมูลเพอ่ื ประกอบการคดิ การตดั สนิ ใจ ใชไ้ ด้กับทุกสาขาอาชพี
2. ผรู้ บั ขอ้ มูลอาจเป็นรายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ย จนถงึ กลุม่ ใหญ่
3. มีวตั ถปุ ระสงค์ทัว่ ไปเพ่อื เน้นความร้แู ละทศั นคติ
4. เปน็ ลกั ษณะการสอ่ื สารแบบทางเดียว
5. ใชม้ ากในการโฆษณา ประชาสมั พันธ์งานด้านธุรกจิ
6. อาจต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงอ่ืนๆ เพ่ือเสนอข้อมูลที่มีความซับซ้อน หรือเพื่อต้องการให้ผู้ชมได้
ช่นื ชม และคลอ้ ยตาม
7. เนน้ โครงสรา้ งและรูปแบบการใหข้ ้อมูลเป็นต้น ไม่ตรวจสอบความรขู้ องผู้รบั ข้อมูล
8. โปรแกรมส่วนมากจะควบคมุ ด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ หรือผ้นู าเสนอ
แหลง่ ทม่ี า : http://rodjana899.blogspot.com/2010/12/blog-post_8879.html

2.4 โปรแกรม Microsoft Power point 2013

โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2013 เป็นโปรแกรมหนึ่งในตระกูล Microsoft Office
เหมาะสาหรับการจัดสร้าง งานนาเสนอข้อมูล (Presentation) สาหรับนาไปประยุกต์ใช้ในงานได้หลาย
ประเภท เช่น การนาเสนอข้อมูลสินค้าและบริการ การ จัดทา Stide Show การออกแบบแผ่นพับ เป็น
ต้น

2.4.1 หลักการทางานของ PowerPoint

สาหรับ หลักการทางานของ Presentation ที่สร้างจาก PowerPoint จะสร้างออกเป็น slide
ย่อยๆ แต่ละ stide สามารถใส่ข้อมูล รูปภาพ ภาพเคล่ือนไหว หรือเสียง เพ่ือสร้างความน่าสนใจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้เรายังสามารถกาหนดให้ Presentation ของเรา นาเสนอออกมาแบบในรูปแบบอัตโนมัติได้โดยไม่
จาเป็นตอ้ งมกี ารกดเลอื กใหแ้ สดงทลี่ ะ slide

กอ่ นเรม่ิ ต้นสรา้ ง Presentation ควรกาหนดรปู แบบของ Presentation ของเรากอ่ นวา่ ตอ้ งการ
ให้แสดงออกในรูปแบบ ได้ เช่น ต้องการให้ส่วนด้านบน แสดงเป็นช่ือหัวข้อ ด้านล่างเป็นชื่อบริษัท และฉาก
หลังให้แสดงเป็นสีํน้าเงิน เป็นต้น แต่ถ้ายังคิดไม่ ออก สามารถเลือกรูปแบบจาก ตัวอย่าง Themes (เวอร์ช่ัน
เก่าเรียกวา่ Template) ท่โี ปรแกรมมีไว้ใหไ้ ด้ เชน่ เดียวกัน

2.4.2 สรปุ ความสามารถพน้ื ฐานของ PowerPoint 2013

สาหรับนาเสนอข้อมูลในรูปแบบของ ข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคล่ือนไหวสามารถตกแต่ง
ตัวอักษรให้สวยๆ ด้วย?WordArt ที่ พิเศษกว่า PowerPoint 2003?การทางานจะแบ่งออกเป็นหน้าๆ แต่ละ
หน้าเรียกว่า Slide (คลิกแท็ปเมนู Home เลือก New Slide)การสร้างจะมี Slide Layout ช่วยในการ
ออกแบบและใส่ข้อมูล? (คลิกแท็ปเมนู Home เลือก Layout)รูปแบบหรือ Themes จะมี Design สาหรับรูป
ช่วยให้สร้าง Presentation ได้สะดวกมากข้ึน (คลิกแท็ปเมนู Design)รองรับไฟล์ข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น
ตารางจาก Microsoft Excel เป็นต้น รองรับภาพเคล่ือนไหวเช่น? Flash, Gif Animation, Video เป็นต้น
สามารถส่ังรนั แบบ อตั โนมัติได้สามารถส่งั พิมพ์ในรปู แบบต่างๆ เช่น พิมพ์แบบ Stide, Handout เปน็ ตน้ ไฟลท์ ี่
จะสร้างจาก Powerpoint 2007 มี นามสกุล PPTX ถ้าเป็นเวอร์ช่ันเก่า จะมีนามสกุล PPTถ้าไฟล์ท่ีสร้างเป็น
ไฟล์ PPSX จะสามารถรับ Presentation แบบอัตโนมัติ ได้ขั้นตอนการใช้โปรแกรม Microsoft Powerpoint
2013 แหลง่ ทม่ี า : https://sites.google.com/site/porkaermpowerpoint/1

2.5 โปรแกรม Premiere Pro

Adobe Premiere เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อภาพและเสียง ซ่ึงตัวโปรแกรมเองมี
ความสามารถในการตกแต่งและ ตัดต่อภาพ-เสียง และ ใส่ Effect และ Transition ให้กับภาพและเสียง
โปรแกรม Premiere เป็นโปรแกรมทถี่ กู พัฒนาขึน้ โดย บรษิ ัท Adobe

2.5.1 ลาดบั ข้ันตอนของงานตดั ต่อ ด้วยโปรแกรม Premiere Pro

1. วางแผน คือ การเตรียมการทางานว่ามีขั้นนตอนใดบ้าง เป็นการร่างแบบไว้ในกระดาษ
Storyboard เพอื่ ให้เห็น รายละเอียดทช่ี ัดเจนของงาน

2. เตรยี มวตั ถุ ดิบ คอื การเตรยี มไฟลข์ ้อมูล เช่น ไฟล์วดิ ีโอ, ไฟลภ์ าพ, ไฟลเ์ สียง เป็นต้น
3. ตัดต่อ คือ การนาข้อมูลท่ีเตรียมไว้มาตัดต่อเข้าด้วยกันตามท่ีวางแผน คือ ข้ันตอนการ ใช้
โปรแกรมในการตดั ต่อ
4. ประมวลผล คือ การประมวลผล (Reinder) เพ่ือให้ชิ้นงานเสร็จสมบูรณ์อยู่ในรูปไฟล์ วิดีโอ
พรอ้ มท่ีจะใชง้ านด้วย โปรแกรมแสดงผลวดิ ีโออ่นื ๆ
5. ส่งออก คือ การนาวิดีโอท่ีตัดต่อ และประมวลผลแสร็จสมบูรณ์แล้วไปใช้งาน เช่น เผยแพร่
ทางอินเทอรเ์ นต็ , หรอื ออกอากาศไปยังสถานโี ทรทัศน์ เปน็ ต้น

2.5.2 การเริม่ ต้นใช้งานโปรแกรม Premiere Pro

หนา้ ตา่ งนจ้ี ะประกอบไปดว้ ย
1. ส่วน Recent Project สาหรบั คลกิ เลอื กงานเกา่ ท่ีเคยบันทกึ ไว้
2. ปุ่ม New Project สาหรบั สรา้ งไฟล์ ใหม่
3. ปมุ่ Open Project สาหรับคลกิ เปดิ ไฟลท์ ี่ได้บนั ทกึ เก็บไว้
4. ปมุ่ Help สาหรับเปดิ เอกสาร ช่วยเหลือ
5. ปมุ่ Exit สาหรับออกจากโปรแกรม ส่วนประกอบของ

2.5.3 ส่วนประกอบของโปรแกรม Premiere Pro

1. สว่ นของแถบ Menu Bar สาหรับรวบรวมคาสั่งต่าง ๆ
2. สว่ นแสดงกลมุ่ หน้าตา่ งการทางาน ประกอบด้วย

- หน้าตา่ ง Media Browser ใชเ้ รียกคน้ หาหรอื เปดิ ดู ไฟล์ต่าง ๆ
- หน้าต่าง Info แสดงรายละเอยี ดของ ไฟล์งาน
- หน้าต่าง Effects เลือกรายการเอฟเฟ็ค

- หน้าต่าง History เกบ็ ขั้นตอนทท่ี างาน เพื่อย้อนการทางานได้
3. แถบ Toolbox หรือแถบกลอ่ งเครื่องมือ

3.1 เครอ่ื งมือ Selection สาหรับคลกิ เลือกหรอื ลากย้ายตาแหนง่
3.2 เครือ่ งมอื สาหรับเลือกแทง่ คลิปทัง้ หมด
3.3 เครือ่ งมือสาหรับคลิกแล้วลากที่ส่วนหัวหรอื ส่วนทา้ ย เพ่อื ตดั ความยาวส่วนเกิน
3.4 เครือ่ งมอื สาหรบั คลิกแลว้ ลากที่สว่ นหัวหรอื ส่วนทา้ ย เพื่อตดั คลิปทรี่ อยตอ่ ระหวา่ งแห่งคลิป

3.5 เครื่องมอื สาหรับคลกิ แล้วลากยอหรือขยายความยาวของคลิป

3.6 เครอ่ื งมอื สาหรับตัดแบง่ คลิป
3.7 เครือ่ งมอื สาหรับคลกิ แล้วลากย้ายชว่ งเวลาภายในคลปิ
3.8 เคร่อื งมอื สาหรับคกิ แลว้ ลากยา้ ยตาแหนง่ ในคลิป โดยแท่งคลิปอ่ืน ๆ ท่ีตดิ กนั จะโดนย้ายตามไปด้วย
3.9 เครอื่ งมือปากกาสาหรบั กาหนดเส้น
3.10 เคร่อื งมอื สาหรบั คลิกแล้วลากย้ายตาแหนง่
3.11 เคร่อื งมือสาหรับยอหรอื ขยายมุมมองของหน้าตา่ ง
4. หนา้ ตา่ ง Project Panel ทาหน้าที่จัดเกบ็ ข้อมูลใน การตดั ตอ่ เช่น รปู ภาพ, วดิ โี อ, เสยี ง เป็นตน้
5. หนา้ ตา่ ง Audio Meter Panel สาหรับควบคุม ระดับเสยี ง
6. หน้าต่าง AMoniter Panel (ด้านซ้ายมอื ) สาหรบั เปิดแสดงไฟล์วิดีโอ ตน้ ฉบบั ทยี่ ังไมไ่ ดท้ าการตดิ ต่อ
7. หนา้ ตา่ ง Monitor Panel (ดา้ นขวามอื ) สาหรับแสดงไฟล์วดิ ีโอท่ีทาการ ตดั ต่อแลว้
8. หน้าต่าง Timeline Panel เป็นพ้ืนที่สาหรับทางาน โดยต้องนาคลิปต่าง ๆ มาวางเรียง ตัด หรือ ต่อกันในหน้า ต่าง
ประกอบด้วย
- Track Video
- Track Audio
9. สว่ นสาหรับแสดงกลุ่มหน้าตา่ งกาหนดรายละเอียดต่างๆ
9.1 หนา้ ต่าง Effect Control สาหรับความคมุ เอ็ฟเฟคท่เี ลือกใชง้ าน
9.2 หนา้ ตา่ ง Audio Mixer สาหรับควบคุม รายละเอียดของเสียง
9.10 หนา้ ต่าง Meta Data สาหรับ แสดงหรือกาหนดข้อมูลรายละเอยี ดของ ไฟล์คลิป

2.5.4การสรา้ งตวั อักษร Title Designer

1. กลอ่ งเครื่องมอื (Toolbox) สาหรบั เกบ็ เครือ่ งมือตา่ งๆ
2. ชดุ เครอ่ื งมอื สาหรบั จัดเรยี งตัวอังษรหรอื ภาพวาด
3. พนื้ ที่ทางาน Title Designer
4. แถบสาหรบั กาหนดรายละเอยี ดใหก้ บั ตัวอักษร
5. ตัวเลือกสาหรับเลอื กรูปแบบ ของ (สไตล์) ของตัวอักษร
6. สวนของ Properties สาหรับ กาหนดรายละเอียดเพมิ่ เติม

2.6 โปรแกรม Youtube
2.6.1 ความหมายของ Youtube

Youtube เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรีคะ โดยนาเทคโนโลยีของ Adobe
Flash มาใช้ ในการแสดงภาพวิดีโอ เน้ือหาของ YouTube ประกอบด้วย คลิปวิดีโอ ที่ให้บริการรับชมกันผ่านหน้าเว็บ
แบบฟรีๆ ไม่เสียเงิน โดย คลิปวิดีโอส่วนใหญ่จะมาจากทางบา้ น หรือใครๆ ทต่ี ้องการโชว์ความสามารถต่างๆ ของตนเอง
กส็ ามารถอพั โหลดไฟล์วดิ โี อขึ้นส่หู นา้ เว็บได้

YouTube ใช้ระบบในการให้บริการโดยใช้โปรแกรม Adobe Flash เรียบเรียงเน้ือหาบนเว็บไซต์ รวมไปถึง
ไฟลว์ ิดีโอ ตัวอย่าง ไฟลห์ นังละคร มิวสิกวดิ ีโอ และวดิ โี อจากทางบา้ น โดยไฟล์วดิ ีโอทีเ่ ผยแพรอ่ ยูบ่ นเวบ็ ไซตส์ ว่ นมากเป็น
เพียงไฟล์คลิปสั้นๆ เทา่ นน้ั ความยาวเพียงไม่กี่นาที ทาให้ผู้ใชบ้ ริการสามารถเขา้ ชมไดง้ ่าย โดยมกี ารแบ่งประเภทและจัด
อันดับไฟล์คลิปวิดีโอ ไม่ว่าจะ เป็นไฟล์ล่าสุด ไฟล์ที่มีผู้ชมมากที่สุด ไฟล์ท่ีได้รับความนิยมมากท่ีสุด เพ่ือให้ผู้ชมสามารถ
เลือกชมได้อย่างสะดวก เพ่ือเลือกสิ่งท่ีพอใจ สูงสุด และยังมีบริการที่สามารถดูวิดีโอได้ที่ละเฟรม โดยเลือกดูส่วนใดๆ
ของวิดีโอกไ็ ด้

2.6.2 การใช้งานและการทางานของ Youtube

ในปัจจุบันมีการใช้งาน Youtube ผ่านทางโทรศัพท์มือถือดังรูป การทางานของเว็บไซต์แสดงผลวิดีโอผ่านทางใน
ลักษณะ อะโดบี แฟลช ซ่ึงเนื้อหามีหลากหลายรวมถึง รายการโทรทัศน์มิวสิกวิดีโอ วีดีโอจากทางบ้าน งานโฆษณาทาง
โทรทัศน์ และบางส่วนจากภาพยนตร์ และผู้ใช้สามารถนาวีดีโอไปใส่ไว้ในบล็อกหรือเว็บไซต์ ส่วนตัวได้ ผ่านทางคาสั่งที่
กาหนดให้ของยูทูบ ยูทูบถือว่าเป็นหน่ึงในเว็บ 2.0 ช้ันนาของอันดับต้น ๆ ของโลก ยูทูบมีนโนบายไม่ให้อัปโหลดคลิปที่มี
ภาพโป๊เปลอื ย และคลิปทีม่ ีลิขสทิ ธ์ินอกเสียจากเจ้าของลิขสทิ ธไ์ิ ดอ้ ปั โหลดเอง โดยผใู้ ชส้ ามารถ ทาการแจง้ ลบได้

เมอ่ื สมคั รสมาชิกแล้วผ้ใู ช้จะสามารถใส่ภาพวดิ ีโอเขา้ ไป แบง่ ปันภาพวิดีโอใหค้ นอ่ืนดดู ว้ ย แต่หากไม่ได้สมคั รสมาชิก
ก็ สามารถเข้าไปเปิดดูภาพวิดีโอที่ผู้ใช้คนอื่น ๆ ใส่ไว้ใน Youtube ได้ แม้จะก่อตั้งได้เพียงไม่นาน (youtube ก่อตั้งข้ึน
เม่ือเดือน กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005) Youtube เติบโตอย่างรวดเร็วมาก เป็นท่ีรู้จักันแพร่หลายและได้รับความนิยมท่ัวโลก
ตอ่ มาปี ค.ศ.2006 กู เกลิ้ ซื้อยูทูบ ตอนนีย้ ทู ูบจึงกลายเป็นส่วนหน่งึ ของกูเกลิ้ แล้ว

ปัจจุบัน YouTube เป็นเว็บไซต์ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วอยากมาเก1นคนเดอร์ 26 ไอดคาสติก 100 % คลิป
วิดีโอดูถึง 100 ล้านเร่ืองต่อวัน และในแต่ละวันจะมีผู้เข้ามารัพโหลดคลิปวิดีโอใคร ๆ 88 80 f/) คน แ ต่งดอก เข้ามาเยีย่ มชม
เว็บไซต์น้ีถึง 20 ล้านคน ภายในเว็บไซต์ (Tube มีไฟล์วิดีโอ ศ.ดรมากitr , นาค โดดเดินควส กรอง บน YouTub42 มีทั้ง
ภ า พ ยน ต ร์ ค ลิ ป จ า ก ร า ยก า ร ที วี แ ล ะ มิ ว สิ ค วิ ดี โ อ ร า ม ก็ ว ที่ โ อ ส โ ค ว เ ช่ น ที่ เ รี ย ก ว่ า เ ด็ ก ไ ด้ an: b e roob
blogspot.com/2016/06 youtube

2.6.3 ประโยชนข์ อง Youtube

ประโยชน์ของ Youtube มีอยู่มากมาย สามารถดูเทล 3 รสสิควิดีโอ) หนังสั้น แnะทปเกมหกเดือย ที่เราอยาว 12266
บางอยา่ งอาจเป็นแนวทางในการค้นหาคาตอบ เช่น การดูคลิปการฝกึ เตนก็โตาร์ คลิปผีเหน็ 2016 (1) ศเป็นต้น ซ่งึ จะเหน็ ได้ก
Youtube นั้น มีประโยชน์ต่อเราเป็นอย่างมาก อีกอย่าง focuse ยังจะสามารถที่จะอัพโหรเทคโปของเราท้ังกายคนได้คนน้ี
สนใจเข้าชมเว็บ Youtube ไว้ดูได้อีก ด้วย ที่มา : http://th.wipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B5 46 :
f/5962244.74%) 625 คน 21 คน 2 2558

บทท่ี 3
วิธีการดาเนนิ งานโครงงาน

ในการศกึ ษาโครงงานเรอื่ ง สุนัขพันธบุ์ างแก้วผจู้ ดั ทาไดด้ าเนินงานโครงงานดงั ต่อไปน้ี
3.1 เคร่อื งมอื ทีใ่ ชด้ าเนินโครงการ
3.2 ข้นั ตอนการดาเนนิ โครงงาน
3.3 การจดั ทาขอ้ มลู ของโครงงาน

3.1 เครอ่ื งมอื ที่ใช้ดาเนนิ โครงการ

เคร่ืองมือทใ่ี ช้ดาเนนิ โครงการคร้ังนี้ คือ โปรแกรม premiere proเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตัดตอ่
วดี โี อ

3.2 ขั้นตอนการดาเนินโครงงาน

เริ่ม

คดิ หัวข้อโครงงาน

เสนอหวั ขอ้ โครงงาน
เกบ็ รวบรวมข้อมลู และออกแบบส่อื

มลั ติมเี ดีย
พัฒนาสอื่ มลั ติมีเดยี
ทดสอบสื่อมัลติมีเดีย
ออกแบบ Story Board

แกไ้ ขสอ่ื มลั ติมีเดียใหส้ มบรู ณ์

รายงานและนาเสนอ

สร้าง QR Code และเผยแพร่

จัดทำเอกสำรโครงงำน

จบ

3.4 การจัดทาขอ้ มลู ของโครงงาน
3.3.1 คิดหัวข้อโครงงาน

- โดยรวบรวมความคดิ เหน็ ของกลุม่ เหน็ ว่าเปน็ เรื่อง สนุ ัขพันธบ์ุ างแก้ว มคี วามสาคัญจงึ ไดเ้ ลอื กมาทาเป็นโครงงาน

3.3.2 นาเสนออาจารย์

- สอบถามหวั ข้อโครงงานเรื่อง สุนัขพันธ์ุบางแก้ว โดยเสนอ อาจารย์ภูมิพัฒน์ วนพิพัฒน์พงศ์ เห็นด้วยกับโครงงาน
ดังกล่าวและให้ทาเป็นโครงงานต่อไป

3.3.3 สืบคน้ ขอ้ มูล

- ศึกษารวบรวมข้อมลู จาก Internet - ศึกษาลงพืน้ ท่ีจริง จากการสัมภาษณ์

บทท่ี 4
ผลการดาเนนิ งานโครงงาน

การดาเนินการจัดทาโครงงานคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาความพึงพอใจเร่ือง สุนัขพันธ์ุบางแก้ว คณะ

ผจู้ ดั ทาไดผ้ ลการดาเนินโครงงานดงั ตอ่ ไปน้ี

4.1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลทวั่ ไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม

4.2 ความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ีต่อโครงงานสนุ ัขพันธบุ์ างแก้ว

4.1 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม

ตอนท่ี 1 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ทวั่ ไปของผูต้ อบแบบสอบถาม

ตารางที่ 4.1 จานวนและร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามเกี่ยวกบั เพศ

เพศ จานวน(คน) รอ้ ยละ

ชาย 16 56

หญงิ 14 44

รวม 30 100

จากครางท่ี 4.1 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามความพงึ พอใจ จานวน 30 คน เกยี่ วกบั เพศเพศหญิง จานวน 14 คน คดิ เปน็ 18! ละ
4.4 และเพศชาย จานวน 16 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 57

ตารางที่ 1.2 แสดงจานวนร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถามเกยี่ วกบั อายุ อายุ

อายุ จานวน(คน) รอ้ ยละ

ตา่ กว่า ปี 15 0 0
52
15-25 15 40

25-35 12 8

35 ปขี นึ้ ไป 3

รวม 30 100

จากตารางที่ 4.2 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามความพงึ พอใจ จานวน 30 คน เก่ียวกับอายสุ ่วนใหญ่ มีอายุ 15-25
ปี จานวน 15 คน คิดเปน็ ร้อยละ 52 อายุ 25-35 ปี จานวน 12 คน คิดเปน็ ร้อยละ 40 อายุ 25-35 อายุ 36 ปี
ข้นึ ไป จานวน 3 ตน คดิ เปน็ ร้อย ละ 8 ตากว่า 15 ปี ไม่มผี ตู้ อบแบบสอบถาม คดิ เปน็ ร้อยละ 0

บทที่ 5
สรุปผล อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ

การจัดทาการแนะนาเก่ียวกับสัตว์เล้ียง ครั้งน้ี มีวัตถุประสงค์ของโครงการ วิธีดาเนินการ และผลของ
โครงการ สรปุ ได้ ดังนี้

5.1 วัตถุประสงคข์ องโครงการ

5.1.1 เพือ่ ศกึ ษาความเปน็ มา และเผยแพรใ่ หค้ นรู้จักมากข้นึ
5.1.2 พฒั นาทกั ษะการตดั ต่อ VDO มลั ติมีเดีย ดว้ ยโปรแกรม Adobe Premiere Pro 2019

5.2 วิธีการดาเนินโครงการ

การดาเนินการจดั ทาโครงการครงั้ นเี้ ปน็ การแนะนาสถานทีท่ อ่ งเท่ยี วมีขน้ั ตอนการดาเนินโครงการดงั นี้
5.2.1 ประชากรกลมุ่ ตวั อย่าง
5.2. 1.1 ประชากรกล่มุ ตัวอย่าง คือ ระดับช้นั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นปที ่ี 1 ห้อง 2 แผนกคอมพิวเตอร์
ธุรกิจ วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาพษิ ณโุ ลก ทัง้ หมดจานวน 28 คน
ผู้ตอบแบบสอบถาม คอื นกั ศกึ ษา ระดบั ชน้ั ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปที ่ี 1 หอ้ ง 2 แผนกคอมพวิ เตอร์

ธรุ กิจ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาพิษณุโลก ทัง้ หมดจานวน 28 คน

5.2.2 เครือ่ งมือทใี่ ชด้ าเนนิ โครงการ

5.2.2.1 เครอ่ื งมือทใี่ ชด้ าเนินโครงการครง้ั นี้ คอื โปรแกรม Adobe Premiere Pro 2019 เป็นโปรแกรมท่ี

ใช้ในการตัดต่อ วีดโี อ และ แบบสอบถาม เรือ่ ง ความพึงพอใจของโครงงาน สนุ ขั พนั ธุ์บางแกว้

5.3 สรปุ ผล _

พบวา่ มีความเหมาะสมและน่าสนใจของเน้อื หา มคี ่าเฉลี่ย ( ) ) 4.96 _และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน
(ระดับ) ระดบั มากทสี่ ุด รองลงมาคอื ความถกู ต้องของภาษาทใ่ี ช้ มีค่าเฉล่ีย ( ) ) 4.25 และส่วน
เบ_ี่ยงเบนมาตรฐาน (ระดบั ) ระดบั มาก รองลงคอื ความ เหมาะสมของระยะเวลาในการนาเสนอ มคี ่าเฉลีย่
( ) ) 4.10 และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (ระดบั ) ระด_ับมาก รองลงมาคือภาพ ของ VDO มคี วามคมชดั
กบั ขนาดของตัวอกั ษรทใี่ ชใ้ นการนาเสนอ มีคา่ เฉลีย่ ( ) ) 4.07 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐา_น (ระดบั )
ระดบั มาก รองลงมาคือการเรียงลาดับเน้อื หากับเสยี งบรรยายประกอบนา่ สนใจ มคี า่ _เฉล่ยี ( ) ) 4 และ
ส่วน เบียงเบนมาตรฐาน (ระดบั ) ระดบั มาก รองลงมาคือความรูท้ ไ่ี ดร้ บั มคี ่าเฉล่ยี ( ) ) 3.9_6 และสว่ น
เบย่ี งเบนมาตรฐาน (ระดบั ) ระดบั มาก รองลงมาคือความราบรน่ื ในการนาเสนอ มีค่าเฉลยี่ _( ) ) 3.75
และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน (ระดับ) ระดบั มาก รองลงมาคือ ภาพรวมของสอ่ื มีค่าเฉลี่ย ( ) ) 3.71

บรรณานกุ รม

โครงงาน เรอ่ื ง รา้ น สุนัขพันธ์ุบางแกว้
https://www.phitsanulokhotnews.com/2017/11/30/112128

โปรแกรม Microsoft Power Point 2013 สืบค้นมาจาก
https://sites.google.com/site/porkaermpowerpoint/1

แนวคิดสอ่ื มัลตมิ ีเดียเพ่อื การนาเสนอ

https://sites.google.com/site/423313researchsaeauideesorn/bth-thi-2-

wrrnkrrm-thi-keiywkhxng/khgo

ความหมายของ story board สืบคน้ มาจาก
http://province.m-culture.go.th/trat/storyboard2553/2.pdf

โปรแกรม premiere pro สบื ค้นมาจาก

https://www.youtube.com/watch?v=CP1OZKDtQzc&t=311s

ความหมายของโปรแกรม youtube
https://sites.google.com/site/senxnganyoutub/home/hna-phec-thi-2

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก

แบบสอบถามความพึงพอใจ



ภาพตวั อยา่ ง แบบสอบถามความพงึ พอใจ โครงงาน เร่อื ง สนุ ัขพนั ธุ์บางแกว้

ภาคผนวก ข

เบื้องหลังวีดีโอ

เบ้ืองหลังการถ่าย

ภาพเบื้องหลงั การถา่ ยทา วีดีโอ โครงงาน สนุ ัขพนั ธ์บุ างแก้ว

จัดทาโดย
นกั ศึกษาช้ัน ปวช. 1.2
วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาพิษณโุ ลก


Click to View FlipBook Version