The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ที่ตั้งและความสำคัญของอารยธรรมอินเดีย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 50733.teerawee, 2022-09-04 10:37:01

ที่ตั้งและความสำคัญของอารยธรรมอินเดีย

ที่ตั้งและความสำคัญของอารยธรรมอินเดีย

หน่วยการเรียนรู้ที่6

ที่ตั้งและความสำคัญของ
อารยธรรมอินเดีย

รายวิชา ประวัติศาสตร์ ส21102
เสนอ คุณครูญานี อนันตอาจ

ที่ตั้งและความสำคัญของ
อารยธรรมอินเดีย

แผนที่แสดงที่ตั้งของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ

อ า ร ย ธ ร ร ม อิ น เ ดี ย มี แ ห ล่ ง กำ เ นิ ด ใ น บ ริ เ ว ณ ลุ่ ม
แ ม่ น้ำ สิ น ธุ ท า ง ต อ น เ ห นื อ ข อ ง อิ น เ ดี ย ใ น

อ ดี ต ( ปั จ จุ บั น อ ยู่ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ป า กี ส ถ า น ) มี ค ว า ม
เจริญรุ่งเรืองอยู่ในช่วงประมาณ 2,500-1500 ปี
ก่อนคริสต์ศักราช และได้มีพัฒนาการต่อเนื่องมา

โดยตลอด

แหล่งอารยธรรมอินเดีย

1.อารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์
พัฒนาการความเจริญของอินเดียเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เมื่อ
ประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ ปีมาแล้วโดยพบหลักฐานโบราณคดีสมัยหินเก่าในลุ่ม
แม่น้ำโซน (Soan) แคว้นปัญจาบเรียกว่าวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโซนในสมัย
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุมีเมืองสำคัญคือเมืองฮารัปปาและเมืองโมเฮนโจ-ดา
โรเมืองทั้งสองมีความโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมและการวางผังเมืองมีป้อม
ตลาดเขตที่อยู่อาศัยศาสนสถานต่อมาเมื่อประมาณ ๑,๕๐๐ ปีก่อนคริสต์
ศักราชชาวอารยันจากเอเชียกลางได้อพยพมายังตอนเหนือของอินเดียและขับ
ไล่พวกดราวิเดียนซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเดิมให้ถอยลงไปอยู่ทางใต้

เมืองโมเฮนโจ-ดาโร

แสดงอารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศศาสตร์

ยุคหินเก่า

ประมาณ 4,000,000 - 150,000 ปีมาแล้ว

ดังพบเครื่องมือหินหลายแห่ง เช่น ทมิฬนาดู

ทางใต้ของอินเดีย มนุษย์ดำรงชีพด้วยการ ยุคหินกลาง
เก็บของป่า ล่าสัตว์ อาศัยอยู่ในถ้ำ

ประมาณ 40,000 - 10,000 ปีมาแล้ว

มนุษย์ใช้เครื่องมือหินที่เล็กและเบา

พบในหลายบริเวณเช่น ในแคว้นมัธยประเทศ

รู้จักเขียนภาพบนผนังถ้ำ

ยุคหินใหม่

ประมาณ 7,000 - 4,000 ปีมาแล้วมนุษย์ปลูกข้าวสาลี

ข้าวบาร์เลย์ ข้าวเจ้า เลี้ยงสัตว์ อยู่ร่วมกัน

เป็นชุมนุม สร้างบ้านด้วยดินหนียว พบในแคว้น

บาลูจิสถานและตอนเหนือของแคว้นซินต์ ยุคโลหะ

ประมาณ 4,500 - 3,000 ปีมาแล้ว

เป็นยุคแห่งความรุ้งเรือง

ของอินเดียโบราณ ที่เรียกว่า

อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ

พวกอารยันเป็นพวกเร่ร่อนจึงไม่มีการบันทึกประวัติศาสตร์ไว้หลัก
ฐานที่ใช้ศึกษาอารยธรรมของอารยันได้จากคัมภีร์พระเวทคัมภีร์
ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอารยันซึ่งบันทึกขึ้นภายหลังสมัยที่พวกอารยันอพยพ
เข้ามาและสร้างอารยธรรมนี้จึงเรียกว่าสมัยพระเวท (๑,๕๐๐-๑๐๐ ปี
ก่อนคริสต์ศักราช) และสมัยมหากาพย์ (๙๐๐-๕๐๐ ปีก่อนคริสต์

ศักราช)

2.อารยธรรมอินเดียสมัยประวัติศาสตร์

หลังสมัยพระเวทเรียกว่าสมัยพุทธกาล (ประมาณ ๕๖๒-๓๐๐ ปีก่อน
คริสต์ศักราช) สมัยนี้เกิดศาสนาสำคัญ ๒ ศาสนาคือพระพุทธ
ศาสนาและศาสนาเชนต่อมาอินเดียถูกเปอร์เซียและกรีกสมัย

พระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราชรุกรานครั้นถึง ๓๒๑ ปีก่อนคริสต์
ศักราชพระเจ้าจันทรคุปต์ผู้ตั้งราชวงศ์เมารยะได้ขยายอำนาจออก
ไปทางเหนือของอินเดียนับเป็นราชวงศ์แรกของอินเดียจักรพรรดิ
องค์สำคัญคือพระเจ้าอโศกมหาราชในระยะแรกได้ขยายดินแดน
ให้กว้างใหญ่ยิ่งขึ้นต่อมาได้เปลี่ยนไปนับถือพระพุทธศาสนาและ

เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังดินแดนต่่างๆ

สถูปสาญจี

เรื่องน่ารู้

เรื่องน่ารู้เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชจัดเป็นประติมากรรมเนื่อง
ในพระพุทธศาสนาที่มีความงดงามที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันในสมัยพระเจ้าอโศก
มหาราชเมื่อขยายอาณาเขตไปถึงบริเวณใดก็จะสร้างเสาหินปักไว้เพื่อแสดงขอบเขตพระราช
อำานาจเสาหินโดยทั่วไปสร้างด้วยหินทรายขัดมันมีลักษณะเป็นเสากลมบนหัวเสาเป็นรูป
ดอกบัวเหนือขึ้นไปเป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆที่พบมากคือราชสีห์ช้างวัวจากบรรดาเสาหินทั้ง
หลายเสาหินทีสารนาถนับว่ามีความสวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดซึ่งหัวเสาทำเป็นรูปสิงโต ๔
ตัวหันหลังชนกันยืนอยู่บนแท่นที่สลักเป็นรูปช้างม้าวัวและราชสีห์และคั่นด้วยธรรมจักรเล็ก
ๆ ปัจจุบันเสาหินเหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ที่เมืองสารนาถในรัฐอุตตรประเทศ

ภายหลังจากที่อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นคือยวาหร์
ลาลเนห์รูได้นำรูปของหัวเสาหินนี้เป็นตราประจำชาติและนำตราธรรมจักรไปประดับไว้

กลางชาติอินเดียมาจนถึงปัจจุบัน

หัวเสาอโศกที่สารนาถ ธงชาติอินเดีย

เมื่อราชวงศ์เมารยะหมดอำนาจอินเดียถูกต่างชาติรุกรานทำให้อินเดียแตกแยกและอ่อนแอ
จนกระทั่ง ค.ศ. ๓๒๐ พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ ๑ แห่งราชวงศ์คุปตะ (ค.ศ. ๓๒๐-๕๕๐) เริ่ม
รวมประเทศและขยายอำนาจออกไปจากแคว้นมคธสมัยนี้ศาสนาพราหมณ์ได้พัฒนาเป็น
ศาสนาฮินดู แต่พระพุทธศาสนาก็ยังคงเจริญรุ่งเรืองมีพระจีนเดินทางไปศึกษาพระพุทธ

ศาสนาและนำพระไตรปิฎกไปจีนนอกจากนี้ยังเป็นสมัยแห่งความรุ่งเรืองทางด้าน
วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์โดยเป็นผู้เริ่มใช้เลขอารบิกและเลข 0 (เลขศูนย์) 0

ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ ๒-๑๐ อารยธรรมอินเดียทั้งด้านศาสนาศิลปะวรรณกรรม
กฎหมายได้แพร่หลายไปยังอาณาจักรต่างๆเช่นลังกาพม่าทวารวดีเขมร

อัฟกานิสถานจีนหลังการสิ้นสุดของราชวงศ์คุปตะอินเดียแตกแยกและอ่อนแอทาง
เหนือถูกต่างชาติรุกรานศาสนาอิสลามเริ่มเผยแผ่เข้าสู่อินเดียทางเหนือ แต่ทาง
อินเดียใต้ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ ๙-๑๓ ศาสนาพราหมณ์ฮินดูยังคงเจริญรุ่งเรือง

ภายใต้อาณาจักรโจฬะนอกจากนี้ยังมีความรุ่งเรืองทางด้านการค้าด้วย

ในระหว่างต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ ถึ
งต้น
คริสต์ศตวรรษที่ ๑๖ อินเดียถูกปกครองโดย
สุลต่านแห่งเดลีหรือราชวงศ์มัมลูกในสมัยนี้
ศาสนาอิสลามได้เผยแผ่ออกไปทั่วอินเดียและ

มีการนำวิธีการทำกระดาษดินปืนเครื่อง
กระเบื้องจากจีนมาเผยแพร่ในอินเดีย

พระเจ้าอักบาร์มหาราช

ราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองอินเดียคือราชวงศ์โมกุลหรือมุลในต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๖
ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ ผู้ตั้งจักรวรรดิโมกุลคือพระเจ้ายาบุรีและจักรพรรดิที่มีชื่อ
เสียงคือพระเจ้ากบารมหาราชพระองค์ทรงส่งเสริมให้มีขันติธรรมทางศาสนาสุลต่านที่
สำคัญอีกพระองค์หนึ่งคือชาห์จะฮานผู้สร้างทัชมาฮัลอนุสรณ์แห่งความรักที่สวยงาม
จักรวรรดิโมกุลหมดอำนาจลงใน ค.ศ. ๑๙๕๘ โดยอังกฤษเข้ายึดครองอินเดียจนถึง
พ.ศ. ๑๙๔๗ อินเดียจึงได้รับเอกราชอารยธรรมอินเดียได้สร้างสรรค์ความเจริญต่างๆ
มากมายซึ่งมีผลสำคัญต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคเอเชียใต้และ
ภูมิภาคอื่น ๆ ที่รับอารยธรรมอินเดียอิทธิพลทางอารยธรรมที่สำคัญคือด้านศาสนาเช่น
ศาสนาพราหมณ์ฮินดูพระพุทธศาสนาและด้านภูมิปัญญาแขนงต่างๆ (ดูรายละเอียด
เพิ่มเติมในหัวข้อที่ ๒ อิทธิพลของอารยธรรมโบราณที่มีต่อทวีปเอเชียในปัจจุบัน)

ทัชมาฮาล

ลำดับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์

•สมัย อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ ๒,๕๐๐-๑,๕๐๐ ปีก่อน ค.ศ.
เมืองฮารัปปาและโมเฮนโจ-ตาโรเจริญรุ่งเรือง

•สมัย พระเวทและมหากาพย์ ๑,๕๐๐-๕๐๐ ปีก่อน ค.ศ. พวกอารยัน
อพยพเข้าสู่อินเดียรวบรวมคัมภีร์ฤคเวทแต่งคัมภีร์อุปนิษัทกำเนิด
ศาสนาพราหมณ์เกิดระบบวรรณะ
•สมัย พระพุทธเจ้า ๔๖๓-๔๘๓ ปีก่อน ค.ศ. พระพุทธเจ้าประสูติ-
ปรินิพพาน
•สมัย อะเล็กซานเดอร์มหาราช ๓๒๗ ปีก่อน ค.ศ. พระเจ้า
อะเล็กซานเดอร์มหาราชกษัตริย์ศรีกรุกรานอินเดียทางเหนือ

•สมัย ราชวงศ์เมารยะ ๓๒๑-๑๘๕ ปีก่อน ค.ศ. ราชวงศ์แรกของ
อินเดียมีจักรพรรดิที่สำคัญคือพระเจ้าจันทรคุปต์พระเจ้าอโศก

มหาราชทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังประเทศต่างๆรวมทั้งเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้

•สมัย ราชวงศ์คุปตะ ค.ศ. ๓๒๐-๕๕๐ มีศูนย์อำนาจที่แคว้น
มคธแม่น้ำคงคาศาสนาพราหมณ์มีการพัฒนาเป็นศาสนาฮินดู

แต่พระพุทธศาสนายังคงเจริญรุ่งเรืองวิทยาศาสตร์และ
คณิตศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามาก

•สมัย แตกแยกและอ่อนแอคริสต์ศตวรรษที่ ๖-๑๐ หลังสมัย
คุปตะทางเหนือถูกต่างชาติรุกรานและตั้งอาณาจักรศาสนาอิสลาม
เริ่มเผยแผ่เข้าสู่อินเดียทางเหนือในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ ๔
ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ อาณาจักรโจฬะทางใต้ของอินเดีย

นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดูมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า

•สมัย สุลต่านแห่งเดลีหรือราชวงศ์มัมลูก ค.ศ. ๑๒๐๖-๑๕๒๖
ตั้งโดยผู้นำมุสลิมเชื้อสายเติร์กเรียกว่าราชวงศ์มัมลูก แต่

เนื่องจากตั้งเมืองหลวงที่เดลีจึงมักเรียกว่าสุลต่านแห่งเดลีมีการ
รับวิธีการทำกระดาษดินปืนเครื่องกระเบื้องจากจีนใน ค.ศ.

๑๔๙๘ โปรตุเกสเดินทางถึงอินเดียทางเรือ

•สมัย จักรวรรดิโมกุลหรือมูล ค.ศ. ๑๕๒๖-๑๕๕๘ ตั้งโดยบาบูร์
เชื้อสายพวกมองโกลสุลต่านที่ยิ่งใหญ่คืออักบามหาราช (ค.ศ.
๑๕๕๖-๑๖๐๕) ส่งเสริมให้มีขันติธรรมทางศาสนาเพื่อให้คนที่
นับถือศาสนาแตกต่างกันอาศัยอยู่ร่วมกันได้และชาห์จะฮาน (ค.ศ.
๑๖๒๘-๑๖๕๘) ผู้สร้างทัชมาฮัลต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘
ราชวงศ์โมกุลเสื่อมอำนาจชาติตะวันตกขยายอำนาจในอินเดีย

•สมัย อังกฤษปกครองอินเดีย ค.ศ. ๑๙๕๘-๑๙๔๗ อินเดียอยู่ภาย
ใต้การปกครองของอังกฤษโดยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเป็น
จักรพรรดินีของอินเดียรัฐบาลอังกฤษตั้งข้าหลวงใหญ่หรืออุปราชเป็นผู้
ปกครองในปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ ชาวอินเดียเริ่มเรียกร้องเอกราช

ผู้นำที่สำคัญ ได้แก่ มหาตมาคานธียวาหลาลเนห์รู

•สมัย อินเดียได้เอกราชแบ่งเป็น 2 ประเทศ ค.ศ. ๑๙๔๗ อินเดียได้
รับเอกราช แต่ประเทศแบ่งเป็น 2 ส่วนคืออินเดียซึ่งประชากรส่วนใหญ่
เป็นฮินดูกับปากีสถานซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมทั้ง ๒ ประเทศมี

ความขัดแย้งเรื่องแคว้นแคชเมียร์มาจนถึงปัจจุบัน

•สมัย บังกลาเทศ ค.ศ. ๑๙๗๑ ปากีสถานตะวันออกแยกออกจาก
ประเทศปากีสถานเป็นประเทศใหม่คือบังกลาเทศ

I LOVE INDIA

รายชื่อสมาชิกกลุ่ม

ด.ช.จิรัฎฐ์ เพชรหมอง เลขที่2 ม.2/8

ด.ช.ธีรวีร์ ระบอบ เลขที่6 ม.2/8

ด.ช.นเรนทร์ฤทธิ์ สุวรรณนิตย์ เลขที่9 ม.2/8

ด.ช.ภาวิณ ศรีสงคราม เลขที่15 ม.2/8

ด.ช.รัชพล วิเศษศรี เลขที่16 ม.2/8

ด.ญ.ฐิตาภรณ์ ฟักทอง เลขที่21 ม.2/8

ด.ญ.ณวภัคร ครุธจีน เลขที่22 ม.2/8

ด.ญ.ณัฎฐณิชา จันสารี เลขที่24 ม.2/8

ด.ญ.พรทิพย์ รอดสัมฤทธิ์ เลขที่28 ม.2/8

ด.ญ.วิศรุตา จ่าอยู่ เลขที่35 ม.2/8

ด.ญ.สวรรณรัตน์ แนบเนียน เลขที่36 ม.2/8

ด.ญ.สุทัตตา โพธิ์พันธุ์ เลขที่38 ม.2/8

ด.ญ.อนัญญา ศรทอง เลขที่39 ม.2/8

อารยธรรมอินเดีย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือรายวิชาพื้นฐานวิชาประวัติศาสตร์ ม.2

ของ อักษรเจริญทัศน์


Click to View FlipBook Version