1
2
Internet of Things Anything of Life
จัดทำโดย
1. นำยพงศ์ระพี ปูนำศรี 623052009
623052012
2. นำงสำวพิมพพ์ ิศำ ศวิ ะวิชชกิจ 623052016
623052020
3. นำยสกนต์ สบื ภู่
4. นำงสำวอินทิรำ ยอดรัก
เสนอ
อำจำรย์ นลิณภสั ร์ รตนวิบลู ยส์ ขุ
รำยงำนเลม่ นเ้ี ป็นส่วนหนึ่งของรำยวชิ ำสมั มนำ
ภำคเรยี นท่ี 2 ปีกำรศกึ ษำ 2563
วทิ ยำลัยเทคโนโลยที ำงกำรแพทย์และสำธำรณสขุ กำญจนำภิเษก
ก
คำนำ
ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการดาเนินชีวิตของมนุษย์เรามากข้ึนกว่าเมื่อก่อนไม่ใช่เพียง
สภาวการณ์ทางสังคม วัฒนธรรมหรือการเมืองเท่าน้ันแต่ยังมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ีมีเป็น
อิทธพิ ลตอ่ สังคมเปน็ อย่างมากในวงกว้าง ซ่ึงการใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการส่ือสาร การศึกษา การ
ค้นหาข้อมูล ด้านสุขภาพ อุตสาหกรรมได้กลายเป็นส่วนหน่ึงในกิจวัตประจาวันของใครหลายๆคน จนเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตเป็นเรอื่ งปรกติในสงั คมปจั จุบัน และด้วยความท่ีเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างกว้างขวาง จึงได้มีการ
รเิ ริ่มแนวคดิ Internet of Thing หรอื IoT เป็นการเชื่อมโยงเทคโนโลยที ั้งหมดเข้าด้วยกัน สาหรับในบทความนี้
ก็จะมีการกล่าวถึง การริเริ่มแนวคิดท่ีมาของการทา Internet of Thing ประโยชน์ของ Internet of Thing
ในทางด้านสุขภาพ ในการจัดทาบทความในคร้ังน้ีหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ท่ีต้องการศึกษา หรือมีความสนใจ
ในบทความฉบับน้ี
คณะผ้จู ัดทำ
ข
บทคดั ย่อ
ในปัจจุบันเครือข่อยอินเตอร์เน็ตถือเป็นเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง ท่ีสามารถเช่ือมต่อคนท้ังโลกเข้า
ด้วยกันได้ และในอนาคตไม่เพียงแต่ผู้คนเท่านั้นที่จะถูกเช่ือต่อเข้าด้วยกัน แต่อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ก็จะถูก
เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้เช่นกัน ซ่ึงแนวคิดน้ีถูกเรียกว่า Internet of Things (IOT)
เป็นแนวคิดมีการริเร่ิมขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เพ่ิงจะกลายเป็นท่ีจับตามองเม่ือไม่ก่ีปีมาน้ี เนื่องจากเทคโนโลยี
สมัยใหมท่ ่ีถูกพฒั นาขน้ึ มาสามารถลองรบั แนวความคิดน้ไี ด้
สำรบัญ ค
เรอ่ื ง หน้ำ
ความหมายของ Internet of Things (IoT) 1
Internet of Things (IoT) ในยคุ 2020 8
Smart Healthcare 12
การใชง้ าน Internet of Things (IoT) ในโรงพยาบาล 15
ข้อดีและข้อจากดั ของ Internet of Things (IoT) 26
แนวโน้ม Internet of Things (IoT) ในยคุ 5G 28
ง
กิตตกิ รรมประกำศ
รายงานสมั มนาเลม่ นีส้ าเร็จลลุ ว่ งได้ด้วยความกรุณา และความช่วยเหลอื เปน็ อย่างดียิ่งจากทา่ นอาจารย์นลิน
ภัสร์ รตนวิบูลย์สุข ภาควิชาโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการการแพทย์และสาธารณสุข
กาญจนาภิเษก ที่ได้กรุณาเสียสระเวลาอันมีค่ายิ่งในการให้คาปรึกษาแนะนาเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ แก่
คณะผู้จัดทาสมั มนาขอขอบคณุ อย่างสูงไว้ ณ ทีน่ ้ี
ขอบคุณท่านวิทยากร ที่ได้ให้ข้อมูลและบรรยายเรื่อง Internet of Things Anything of Life ผู้เข้าร่วม
การสมั มนาในครัง้ น้ี คณะผู้จัดทาสัมมนาจงึ ขอบคุณเปน็ อยา่ งสูง
ขอบคุณอาจารย์และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนยบัตรวิชาชีพช้ันสูงสาขาโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ ที่
ใหค้ วามรว่ มมอื ในการเขา้ ร่วมสัมมนาในครง้ั นี้ คณะผู้จัดทาสมั มนาขอขอบคณุ ไว้ ณ โอกาสน้ี
คณะผ้จู ดั ทำ
จ
บทนำ
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายเข้ามาเพ่ือช่วยอานวยความสะดวกสบายแก่มนุษย์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะ
เป็นการคมนาคม การแพทย์ การศึกษา รวมถึงการใช้ IOT (Internet of things) หรือช่ือภาษาไทยคือ
“อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง” มาใช้ในชีวิตประจาวัน ใช้อินเทอร์เน็ตในการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์
เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าต่างๆ ไดต้ ามทเี่ ราตอ้ งการ
ผู้เรียนด้านสาธารณสุขก็ต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี สามารถนามาใช้งาน พัฒนา ต่อยอด เพ่ือให้เกิด
นวัตกรรมหรือส่ิงประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ขึ้น ซ่ึงเป็นไปตามนโยบาย/เป้าหมายของรัฐบาล ในการพัฒนาและส่งเสริม
การใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรมเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา เรอื่ งการยกระดบั คุณภาพผเู้ รียนเขา้ สู่มาตรฐานสากลดว้ ย
ทางคณะผู้จัดทาจึงจัดทาโครงการสัมมนา Internet of things (IOT) ขึ้น ซึ่งการใช้เครือข่าย
อินเทอรเ์ นต็ ไมว่ า่ จะเปน็ การสอื่ สาร การศึกษา การค้นหาข้อมูล ด้านสุขภาพ อุตสาหกรรมได้กลายเป็นส่วนหน่ึง
ในกิจวัตประจาวันของใครหลายๆคน จนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องปกติในสังคมปัจจุบัน และด้วยความท่ี
เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างกว้างขวาง จึงได้มีการริเริ่มแนวคิด Internet of Thing หรือ IoT เป็นการ
เช่ือมโยงเทคโนโลยีทั้งหมดเข้าด้วยกัน สาหรับในบทความน้ีก็จะมีการกล่าวถึง การริเร่ิมแนวคิดที่มาของการทา
Internet of Thing ประโยชนข์ อง Internet of Thing ในทางด้านสุขภาพ
ฉ
วัตถปุ ระสงค์
1. เพ่ือให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจกับ ปัญญาประดิษฐ์ Internet of things (IOT) ในเครือ
ขอ่ ยอินเตอรเ์ นต็
2. เพ่ือให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง Internet of things (IOT) โดยใช้เครือข่อย
อนิ เตอรเ์ นต็
3. เพือ่ ใหผ้ ู้เข้ารว่ มสัมมนานาความร้ไู ปประยุกต์ใช้ในหนว่ ยงานโสตทศั นศึกษา
ผลคำดวำ่ จะไดร้ บั
ผู้เข้าร่วมสัมมนาเกิดความรู้ ความเข้าใจในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ Internet of things (IOT) ในเครือ
ข่อยอนิ เตอร์เนต็ เพอื่ นาไปประยุตใ์ ชใ้ นงาน โสตทัศนศกึ ษาหรือในโรงพยาบาล
หลกั กำรและเหตผุ ล
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายเข้ามาเพื่อช่วยอานวยความสะดวกสบายแก่มนุษย์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะ
เป็นการคมนาคม การแพทย์ การศึกษา รวมถึงการใช้ IOT (Internet of things) หรือช่ือภาษาไทยคือ
“อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพส่ิง” มาใช้ในชีวิตประจาวัน ใช้อินเทอร์เน็ตในการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์
เครื่องใช้ไฟฟ้าตา่ งๆ ไดต้ ามทเ่ี ราตอ้ งการ
ผู้เรียนด้านสาธารณสุขก็ต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี สามารถนามาใช้งาน พัฒนา ต่อยอด เพ่ือให้เกิด
นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ข้ึน ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย/เป้าหมายของรัฐบาล ในการพัฒนาและส่งเสริม
การใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรมเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา เรือ่ งการยกระดับคุณภาพผู้เรียนเขา้ สูม่ าตรฐานสากลด้วย
ทางคณะผู้จัดทาจึงจัดทาโครงการสัมมนา Internet of things (IOT) ข้ึน ซึ่งการใช้เครือข่าย
อินเทอรเ์ น็ต ไมว่ า่ จะเป็นการสื่อสาร การศึกษา การค้นหาข้อมูล ด้านสุขภาพ อุตสาหกรรมได้กลายเป็นส่วนหน่ึง
ในกิจวัตประจาวันของใครหลายๆคน จนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเร่ืองปกติในสังคมปัจจุบัน และด้วยความที่
เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างกว้างขวาง จึงได้มีการริเร่ิมแนวคิด Internet of Thing หรือ IoT เป็นการ
เช่ือมโยงเทคโนโลยีท้ังหมดเข้าด้วยกัน สาหรับในบทความนี้ก็จะมีการกล่าวถึง การริเร่ิมแนวคิดท่ีมาของการทา
Internet of Thing ประโยชนข์ อง Internet of Thing ในทางดา้ นสขุ ภาพ
1
บทท่ี 1
ควำมหมำย Internet of Things (IoT)
IoT คืออะไร
ในยคุ ท่ที ุกๆ สิง่ มกี ารพัฒนาอย่างรวดเร็วและไม่หยุดย้ัง Internet of Things หรือ IoT คือส่ิง
สาคญั ที่เข้ามามีบทบาทท้ังในด้านการใช้งานในชีวิตประจาวันหรือในการทางานก็ตามซ่ึง IoT นั้นเป็น
เทคโนโลยีท่ีสาคัญและน่าสนใจมากๆ เพราะเปน็ การเชื่อมทุกส่ิงเข้าหากันผ่านอินเทอร์เน็ต ทั้งในส่วน
ของโทรทศั น์ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ นาฬิกา หลอดไฟ รถยนต์ ไปจนถึงการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
และส่งข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ หรือแม้กระทั่งการควบคุมระบบหรือแอปพลิเคชันผ่านทางสมาร์ต
โฟนหรอื คอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น Internet of Things คอื เทคโนโลยีท่ีทาให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
สามารถเชื่อมโยงและรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้อย่างง่ายดายและสามารถสั่งการเพื่อควบคุมอุปกรณ์
ต่างๆ ได้ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Smart Device, Smart Home, Smart
Network เป็นต้น ซ่ึงการเช่ือมโยงน้ัน จะสามารถเก็บและรวบรวมข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ
นอกจากน้ีแล้ว ยังมีระบบคลาวด์ที่จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลผ่านออนไลน์ โดยที่เราสามารถ
ควบคุมหรือกาหนดความเป็นส่วนตัวและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ประโยชน์ในการใช้งาน
IoT คือการที่สามารถนาเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งข้อมูลใน
รูปแบบดิจิทลั ตลอดเวลา และสามารถทางาน ได้ทันที อีกทั้งยังช่วยในการลดภาระงานของบุคลากร
รวมไปถึงการเข้าไปตรวจสอบในจุดที่อาจตกหล่น ท้ังนี้ เพ่ือช่วยลดความเสี่ยงท่ีอาจจะเกิดข้ึนได้อีก
ด้วย นอกจากน้ีแล้ว ส่ิงสาคัญในการทางานร่วมกับ Internet of Things คือการจัดการข้อมูลและ
วเิ คราะหส์ ่งิ ต่างๆ ได้อยา่ งทนั ทว่ งทแี ละในรูปแบบเรียลไทมไ์ มว่ ่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
หรือจัดการข้อมูลระดับย่อย การเช่ือมต่อระบบอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย AI การทางานในยุคปัจจุบันนี้
Internet of Things คือ ตัวช่วยที่เข้ามาทาให้การทางานน้ันง่ายข้ึน โดยเฉพาะการเข้ามาทางานใน
ด้านธุรกิจ เพอื่ ตอบโจทย์การพัฒนาและการนาขอ้ มูลทีร่ วบรวมไว้เป็น Big Data ที่สามารถนาไปใช้ใน
การวิเคราะหเ์ พือ่ ทาความเขา้ ใจผู้บรโิ ภคอย่างแท้จริง และเพ่ือพัฒนาระบบธุรกิจให้สามารถทางานได้
อย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพมากยิ่งขึ้นในสาหรบั ทกุ ๆองค์กรไม่รับถึงแค่ องค์กรภาครัฐหรือเอกชนเท่านั้น
แต่ยังหมายรวมถึงาคประชาชนท่ีได้เข้ามามีส่วนรวมในเทคโนโลยีกาลังมีการพัฒนาไปอย่างก้าว
กระโดด สงิ่ สาคัญคอื การปรบั ตัวใหพ้ รอ้ มกับการโลกแห่งอนาคตทีจ่ ะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการ
ทางาน โดยเฉพาะการใช้งานระบบคลาวด์ ซ่ึงเป็นหนึ่งใน Internet of Things ท่ีสาคัญในการทางาน
อย่างมาก เพื่อการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมไปถึงการนา
เทคโนโลยีต่างๆ มาเชื่อมต่อเข้ากับระบบต่างๆ เพ่ือให้สามารถทางานผ่านระบบออนไลน์ได้อย่าง
งา่ ยดาย
Padraig Scully, Knud Lasse Luet (2016) โดยพ้ืนฐานแล้ว Internet of Things คือ
แนวความคิดทอ่ี ธบิ ายการเช่ือมต่อ (Connecting) กับวัตถุทางกายภาพใด ๆ หรือ“สิ่ง (Thing)” ผ่าน
2
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งการเชื่อมต่อกับวัตถุต่าง ๆ แบบน้ี ส่งผลกระทบสาคัญในการจัดการข้อมูล
หรืออุปกรณ์จานวนมากมายที่ต้องปรับเปลี่ยนให้สามารถเช่ือมต่อหรือส่ือสารกันได้ ดังนั้น Internet
of Thingsจึงเป็นการนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาฝังไว้ในสิ่งต่าง ๆ เพื่อเก็บรวบรวมและแลกเปล่ียน
ข้อมูลต่าง ๆ สามารถสื่อสารหรือเช่ือมโยงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะไม่ติดต่อกับมนุษย์
โดยตรง แต่จะมีอยู่ในสิ่งแวดล้อม อาคารสถานท่ี ต้นไม้ รถยนต์ ฯ ทุกอย่างสามารถเช่ือมต่อได้ ซึ่ง
บางคร้งั เรยี กวา่ “Smart Objects”
กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช (2559) ได้ให้ความหมายInternet of Things คือ สภาพแวดล้อมอัน
ประกอบด้วยสรรพสิ่งที่สามารถส่ือสารและเชื่อมต่อกันได้ผ่านโพรโทคอลการสื่อสารทั้งแบบใช้สาย
และไร้สาย โดยสรรพสิ่งต่าง ๆมีวิธีการระบุตัวตนได้ รับรู้บริบทของสภาพแวดล้อมได้ และมี
ปฏิสัมพันธ์โต้ตอบและทางานร่วมกันได้ ความสามารถในการสื่อสารของสรรพส่ิงนี้จะนาไปสู่
นวตั กรรมและบริการใหมอ่ กี มากมาย ตวั อย่างเช่น เซ็นเซอร์ภายในบ้านตรวจจับการเคล่ือนไหวของผู้
อยู่อาศัย และส่งสัญญาณไปส่ังเปิด-ปิดสวิตซ์ไฟตามห้องต่าง ๆ ที่มีคนหรือไม่มีคนอยู่ อุปกรณ์วัด
สัญญาณชีพของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุและส่งข้อมูลไปยังบุคลากรทางการแพทย์ หรือส่งข้อความเรียก
หน่วยกชู้ พี หรอื รถฉุกเฉิน เป็นต้น
Internet of Things (IoT) ในด้ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศ
Internet of Things หรือ IoT เป็นกรอบแนวคิดของระบบโครงข่ายท่ีรองรับการเช่ือมต่อกับ
อุปกรณ์หลากหลายชนิต ต้ังแต่ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคล่ือนท่ี อุปกรณ์โครงข่าย อุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ เซนเซอร์ และวัตถุต่างๆ เข้าด้วยกัน อันเป็นผลให้ระบบต่างๆสามารถ ติดต่อสื่อสาร
และท างานร่วมกันได้อย่างเป็นอัตโนมัติทั้งยังเป็นผลให้มนุษย์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลาย
ย่งิ ขนึ้ ควบคมุ อปุ กรณ์และระบบตา่ งๆ ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพมากข้นึ
IoT อาจถือเป็นแนวคิดใหม่ที่มีการกล่าวถึงไม่นานมาน้ี แต่ IoT เป็นผลสืบเนื่องของการพัฒนา
ระบบอินเทอร์เนต็ ซ่งึ มวี ัตถุประสงคเ์ พือ่ การสรา้ งโครงข่ายเพอ่ื เชื่อมโยงอุปกรณ์ท่ีมีมาตรฐานแตกต่าง
กนั ให้สามารถส่อื สารกันได้ โดย IoT จะเปดิ โอกาสให้มีการเช่ือมต่อในรูปแบบท่ีหลากหลายมากยิ่งข้ึน
และรองรับอุปกรณ์ท่ีพัฒนาโดยผู้ผลิตที่มีเทคโนโลยีแตกต่างกันมากกว่าเดิม ในปัจจุบันสามารถจัด
กลุ่มการเช่ือมต่ออปุ กรณต์ ่างๆ เข้ากบั โครงข่ายอนิ เทอร์เน็ต ได้ตามรูปแบบดงั ต่อไปนี้
การเช่ือมต่อผ่านอุปกรณ์สื่อสารระยะส้ัน (Short-Range Devices) เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อ
อุปกรณ์ในระยะส้ันมากโดยใช้ก าลังส่งต่ ามาก เหมาะส าหรับการสื่อสารในพื้นท่ีครอบคลุม
ขนาดเล็ก ซ่ึงอยู่ในลักษณะการเช่ือมต่อระหว่างอุปกรณ์ (peer-to-peer) หรือ การเช่ือมต่อ
3
แบบโครงข่ายก็ได้ ตัวอย่างของการเช่ือมต่อในลักษณะดังกล่าวได้แก่ WiFi, Bluetooth, Z-
Wave, ZigBee ฯลฯ
การเช่ือมต่อผ่านโครงข่ายโทรศัพท์เคล่ือนท่ี เป็นรูปแบบการให้บริการที่มีพื้นที่ครอบคลุม
กว้าง โดยอาศัยการเช่ือมต่ออุปกรณ์เคร่ืองลูกข่าย IoT เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของระบบ
โทรศัพท์เคล่ือนที่ที่มีอยู่แล้วตัวอย่างของการ เช่ือมต่อในลักษณะดังกล่าวได้แก่ เทคโนโลยี
NB-IoT และ LTE-M
การเช่ือมต่อผา่ นโครงขา่ ย LPWAN เป็นรปู แบบการเช่อื มตอ่ ผา่ นโครงข่ายก าลังส่งต่ าบริเวณ
กว้าง LowPower Wide Area Network (LPWAN) โดยเน้นใช้งานในลักษณะการสื่อสาร
แบบ Narrow Band หรือUltra Narrow Band ที่มีอัตราการส่งข้อมูลต่ามาก ประหยัด
พลังงานมาก และมีราคาอุปกรณ์ต่อหน่วยที่ต่า ตัวอย่างของการ เช่ือมต่อในลักษณะดังกล่าว
ได้แก่ LoRaWAN, SigFox, และ Ingenu ฯลฯ
การเช่ือมต่อผ่านข่ายสื่อสารดาวเทียม ซึ่งมีเหมาะสมกับการใช้งานท่ีมีพ้ืนท่ีครอบคลุมการ
ให้บริการที่กว้างมาก แต่การเชื่อมต่อดังกล่าวจะมีระยะเวลาการตอบสนอง (latency) ที่ช้า
กว่าการเช่ือมตอ่ รูปแบบอืน่ ๆเนอ่ื งจากระยะเวลาท่สี ญั ญาณเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างอุปกรณ์
สอ่ื สารภาคพนื้ โลกและดาวเทียม
Internet of Things (IoT) ในดำ้ นเทคโนโลยที ำงด้ำนควำมปลอดภัย
คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยี Internet of Things น้ีสามารถตอบสนองความต้องการของ
ผู้ใช้ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพท่ีตรงใจผู้ใช้ ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ยิ่งไปกว่าน้ัน
Internet of Things มีการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ สามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น
ปัญหาทางธุรกิจ ทางสังคม หรือแม้แต่ช่วยแก้ไขปัญหาในชีวิตประจาวันได้ เทคโนโลยี Internet of
Things มีประโยชน์ในหลายด้านทั้งเรื่องการเก็บข้อมูลท่ีแม่นยาและเป็นปัจจุบัน ช่วยลดต้นทุน แถม
ยงั ช่วยเพ่ิมผลผลติ ของพนักงานหรือผใู้ ช้งานได้ แต่แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีท้ังข้อดีและข้อเสีย การที่
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเช่ือมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ตย่อมทาให้เกิด
ความเส่ียงต่อข้อมูลเหล่าน้ัน ย่ิงอุปกรณ์เช่ือมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้มากข้ึนเท่าไหร่ เครือข่ายของ IoT
ก็จะย่ิงซับซ้อนมากขึ้นเท่าน้ันและข้อมูลท่ีละเอียดอ่อนยิ่งข้ึนก็จะมีความเสี่ยง จึงจาเป็นอย่างย่ิงท่ี
จะต้องมีการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย หาวิธีป้องกันที่สามารถรับมือกับเหล่า Hacker หรือผู้
ไม่หวังดีท่ีต้องการโจมตีเครือข่าย ขโมยข้อมูลหรือใช้ช่องโหว่ในการเข้าควบคุมเครือข่าย ฉะนั้น
ผูเ้ ช่ยี วชาญดา้ นความปลอดภัยทาง IoT จงึ จาเป็นต้องพฒั นามาตรการและระบบรักษาความปลอดภัย
เพื่อให้ธุรกิจและการใช้งาน IoT สามารถดาเนินต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้จึงมี Internet Of Things (IoT)
4
Security เกิดขึน้ เทคโนโลยีดา้ น IoT Security ที่มีความน่าสนใจจะเข้ามามีบทบาทสาคัญในอนาคต
ยกตัวอย่างเช่น การพิสูจน์ตัวตนบน Internet Of Things (IoT) การพิสูจน์ตัวตนช่วยให้สามารถ
ตรวจสอบได้ว่า ใครเป็นเจ้าของอุปกรณ์ Internet Of Things (IoT) รวมไปถึงสามารถบริหารจัดการ
ผู้ใช้เม่ือมีการใช้อุปกรณ์เช่น รถยนต์อัจฉริยะ ร่วมกันได้ การพิสูจน์ตัวตนบนอุปกรณ์ Internet Of
Things (IoT) จะเริ่มเปล่ียนจากการใช้รหัสผ่านหรือ PIN แบบเดิมๆ ไปเป็นการใช้การพิสูจน์ตัวตนที่
ทันสมยั และปลอดภัยมากย่ิงข้นึ เชน่ 2-Factor Authentication เป็นวิธีการยืนยันตัวตนรูปแบบหน่ึง
ท่ีจะต้องให้ผู้ใช้งานใส่รหัสอีกหนึ่งชุด นอกเหนือจาก password ของเราเอง และรหัสน้ียังมีเวลา
หมดอายุอีกด้วย โดยจะมีอายุประมาณ 20 วินาที ใครใสไ่ ม่ทนั ก็จะมรี หสั ชดุ ใหม่ถกู สรา้ งออกมา หรือ
จะเป็น Digital Certificate คือใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บ่งบอกถึงความ
มีตัวตนของผู้ ใช้ ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งออกโดยผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certification
Authority : CA) ทาให้ผู้ท่ีประกอบธุรกรรมต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตสามารถม่ันใจได้ว่าบุคคลหรือ
อุปกรณ์เครือข่าย เช่น Web Server ที่ทาการติดต่อด้วยมีตัวตนจริง และ Biometrics คือวิธีการใช้
ข้อมลู ทางชีวภาพ ไมว่ า่ จะเปน็ ลกั ษณะเฉพาะทางกายภาพหรือพฤติกรรม มาใช้ในการตรวจสอบสิทธิ
หรือแสดงตน เช่น ลายน้ิวมือ เสียง ม่านตา ใบหน้า ดีเอ็นเอ ลายเซ็น เพื่อป้องกันการโจมตี อีกอย่าง
หนึ่งคือ Security Analytics บน Internet of Things เราสามารถใช้อุปกรณ์ Internet of Things
เพอ่ื เก็บรวบรวมข้อมูลแล้วนามาวิเคราะหเ์ พ่อื ค้นหาเหตกุ ารณ์ที่ผิดปกติ หรอื ขดั กับนโยบายด้านความ
ปลอดภัยได้ ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะมีการนา AI, Machine Learning และ Big Data
Analytics เข้ามาใช้สาหรับการคาดการณ์และตรวจจับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงลดอัตรา
การเกิด False Positive หรือผลลวงได้ การทา Security Analytics บนอุปกรณ์ IoT น้ีจะ
เข้ามาปิดจุดอ่อนของระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดมิ ทไี่ ม่สามารถตรวจจับและป้องกันการโจมตีที่
พุ่งเป้าอุปกรณ์ IoT ได้จากที่ได้กล่าวไป เทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT จะช่วย
เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของเราและสังคมรอบข้างไปในทางท่ีดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะความสะดวกสบาย
ความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจาวัน หรือการเพ่ิมประสิทธิภาพของธุรกิจ แต่เราก็ต้องคานึงถึง
ความปลอดภัยของข้อมูลเราด้วยเช่นกันดังน้ันในฐานะผู้ใช้เราจาเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ
Internet of Things และระมัดระวังในการใชง้ านเพอื่ ให้ไม่เกดิ ความประมาท
Internet of Things (IoT) ในด้ำนเทคโนโลยที ำงดำ้ นเศรษฐกจิ และอุตสำหกรรม
ความสามารถในการเชอ่ื มต่ออุปกรณ์ทห่ี ลากหลายเขา้ กับโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเปิดโอกาสให้มี
การประยุกต์ใช้งานท่ีหลากหลายและกว้างขวางมาก โดยรูปแบบการเชื่อมต่ออุปกรณ์เซนเซอร์ต่างๆ
จานวนมากเข้ากับโครงข่าย จะชว่ ยให้สามารถตรวจวัดข้อมูลที่หลากหลายประเภทได้เป็นจานวนมาก
5
และช่วยให้สามารถนาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และแสดงผลแบบกราฟฟิกเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
ได้เม่ือน าระบบดังกล่าวผนวกเข้ากับระบบ Big Data จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลท่ีมีความ
ซับซ้อน มีจานวนมากและทันเหตุการณ์ (Real-time) ตัวอย่างของการประยุกต์ใช้งาน Internet of
Things มีดงั ต่อไปนี้
1.กำรเกษตรแม่นยำ (Precision Farming)
การเกษตรแม่นยาอาศัยการทางานร่วมกันของระบบเซนเซอร์ท่ีวัดความชื้น ปริมาณแสงแดด
อุณหภูมิระบบฐานข้อมูลพืช และระบบให้น้า ปรับปริมาณแสง และระบบปรับอุณหภูมิ ท่ีทางาน
สอดคล้องกันเพ่ือสร้างสภาวะแวดล้อมท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชมากท่ีสุด และแม่นยา
ที่สุด ระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้เกษตรกรประหยัดและใช้ทรัพยากรเท่าท่ีจาเป็น ยังช่วยให้
เกษตรกรสามารถประมาณการช่วงเวลาเก็บเก่ียวและปริมาณพืชผลท่ีจะผลิตได้ ภาพแสดงตัวอย่าง
ของการรวบรวมและประมวลผลปรมิ าณความชืน้ ในพน้ื ทเ่ี พาะปลกู ทเ่ี ก็บจากโครงขา่ ยของเซนเซอร์ใน
ระบบ PrecisionFarming ที่ช่วยเฝ้าระวังความช้ืนและความแห้งแล้ง โดยพ้ืนที่สีฟ้าแสดงพ้ืนท่ีท่ีมี
ความชน้ื สูง พ้นื ทส่ี ีเขียวแสดงพ้ืนทที่ มี่ ีความชนื้ ต่า ซึ่งการแสดงผลดังกล่าวจะชว่ ยใหเ้ กษตรกรสามารถ
ตดั สินใจในการควบคมุ ปรมิ าณน้าไดด้ ขี ้นึ
ภาพ ตัวอยา่ งการแสดงผลแผนทซ่ี ึง่ ไดจ้ ากการวดั ข้อมลู ความชื้นในพน้ื ที่เพาะปลูกผา่ นเซนเซอรใ์ นระบบ
ของ GeoVantage
2.อินเทอร์เน็ตอตุ สำหกรรม (Industrial Internet)
อินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม คือ โครงข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ท่ีเช่ือมต่ออุปกรณ์ เคร่ืองจักร
เคร่อื งวดั และระบบการควบคมุ ในระบบอุตสาหกรรมเข้าด้วยกนั การส่งขอ้ มูลผา่ นโครงข่ายจะช่วยให้
อุปกรณ์และระบบต่างๆ มีการท างานที่แม่นย าสามารถท างานสอดคล้องกันได้โดยไม่ต้องใช้
6
แรงงานคน การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพของเครื่องจักรเช่น อุณหภูมิ การส่ัน การหมุน นอกจากจะ
ช่วยตรวจสอบความผิดปกตขิ องเครอื่ งจักรแลว้ ยังช่วยคาดการณ์เวลาที่จาเป็นต้องเปล่ียนอะไหล่ของ
อุปกรณ์เมือ่ ชารุด ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ท่ีไม่จาเป็น นอกจากนี้การเช่ือมต่อ
ข้อมูลระหว่างร้านสะดวกซื้อ ระบบโลจิสติกส์ และโรงงาน จะช่วยให้สามารถบริหารการผลิตและ
กระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน ซึ่งประเทศไทยในฐานะที่มีสัดส่วนการผลิตใน
ภาคอุตสาหกรรมอยู่ในระดับสูง จะมีโอกาสได้ประโยชน์จากการเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตและลด
ต้นทนุ ท่ไี ม่จาเป็น
Internet of Things (IoT) ในดำ้ นเทคโนโลยีทำงดำ่ นสำธำรณสขุ และสขุ ภำพ
ระบบสำธำรณสขุ (Smart Health/Human)
ในยคุ อุตสาหกรรม4.0 คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ไม่รู้จักคาว่า “Internet of Things” หรือ “IoT”
และเม่ือเราเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว หลายคนอาจยังสงสัยว่าสิ่งน้ีมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ซ่ึง Jamie
Carter ได้เขียนถึงเทคโนโลยีใหม่ท่ีจะเข้ามามีบทบาทในด้านการดูแลสุขภาพของประชากร ในใน
เว็บไซต์ techradar.com ดงั น้ี
“ คนที่เคยไปใช้บริการในโรงพยาบาลต่างทราบดีถึงเวลาที่ต้องใช้ไปกับการตรวจวัดความดัน
เลือด และการตรวจพ้ืนฐานอ่ืนๆ ถ้าหากโรงพยาบาลสามารถใส่อุปกรณ์สวมใส่บางอย่างให้กับผู้ป่วย
เพือ่ ให้ขัน้ ตอนการตรวจเหล่าน้ีเป็นไปไดโ้ ดยอัตโนมัติ จะสามารถประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก และ
น้ันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ การที่ Internet of Things จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการในเร่ืองของการ
ดูแลสุขภาพ ”
ต่อไปจากนี้การรักษาแบบด้ังเดิมระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยจะเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นการใช้
อุปกรณ์เพ่ือตรวจติดตามสุขภาพข้ันพ้ืนฐาน และกาหนดตารางการดูแลสุขภาพต่างๆ ด้วย IoT
sensors ท้ังในบ้านและท่ีติดอยู่กับตัวเรา และส่ิงนี้เองที่จะทาให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้ตัวตัวเอง
ซึ่งมีโอกาสมากมายสาหรับการออกแบบอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตท่ีจะมาปฏิวัติการดูแลสุขภาพ
และนอกจากทาหน้าท่ีในการช่วยตรวจรักษา อุปกรณ์เหล่านี้ยังสามารถใช้เป็นเคร่ืองมือในการสร้าง
ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ป่วยได้ด้วย ทีมเทคโนโลยีและนวัตกรรม จาก tech agency PHA Media ซ่ึง
ทาโครงการ ‘bionic doctor’ ได้กล่าวถึง gadget บางตัว เช่น ‘Dario’ เคร่ืองวัดระดับน้าตาลแสน
ฉลาด, Tricella Pillbox กลอ่ งใสย่ าท่ีสามารถเช่ือมต่อกับสมาร์ทโฟน เพ่ือส่งสัญญาณ และข้อความ
เตือนเม่ือมีการลืมกินยา, Pancreum Genesis อุปกรณ์สวมใส่เพื่อช่วยควบคุมการทางานของตับ
อ่อน และ Lechal รองเท้าอัจฉริยะท่ีสามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน และนาทางผู้สวม
7
ใส่โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ผู้พิการทางสายตา ให้สามารถไปในที่ท่ีต้องการได้ ซึ่งเป็นตัวอย่างของผลิตภัณฑ์
IoT แถวหน้าในยุคของ digital health การดูแลสุขภาพแบบ DIY (Do it yourself) ต่อไปจะไม่ได้
เป็นเพียงทางเลือก แต่จะกลายเป็นเรื่องสาคัญสาหรับประเทศที่มีประชากรสูงอายุเป็นจานวนมาก
อุปกรณ์ท่ีแรกเริ่มเป็นการตรวจติดตามความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายผ่านสายรัดข้อมืออัจฉริยะ
จะกลายเป็น gadgets ทจ่ี ะตรวจตดิ ตามสุขภาพเพอ่ื การป้องกนั โรค ซ่งึ จะช่วยประหยัดเวลาในการไป
รบั การรักษาท่โี รงพยาบาล
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT เพ่ือระบบสาธารณสุขอัจฉริยะสามารถท าได้โดยการใช้
อุปกรณ์ IoT ที่เก็บข้อมูลสุขภาพ หรือการใช้อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable devices) เพื่อวัดสัญญาณ
ทางร่างกาย (Bio signals) เชน่ ชพี จร ความดันโลหิต คุณภาพการนอน การเคล่ือนท่ี และการหายใจ
จะสามารถตวจวัดปริมาณน้าในร่างกาย และช่วยได้แม้กระทั่งในเรื่องปัญหาความอ้วน การคานวน
ปริมาณน้าในร่างกาย และติดตามข้อมูลด้านโภชนาการอย่างละเอียด จะกลายเป็นบทบาทที่สาคัญ
ของ IoT sensor ในอนาคต มีการคาดการณ์ถึงการออกแบบเซ็นเซอร์ในลักษณะที่เป็นแผ่นพลา
สเตอร์แบบง่ายๆ ติดที่บริเวณหน้าอก ซึ่งจะวัดระดับปริมาณน้าในร่างกาย ด้วยการอ่านค่าการเต้น
ของหัวใจ ความชื้นในร่างกาย ความดัน และอุณหภูมิในร่างกาย ความอ้วนก็สามารถจัดการได้ด้วย
เซ็นเซอร์น้ีเช่นกัน เซ็นเซอรท่ีติดอยู่กับตัวผู้ป่วยจะสามารถติดตามพฤติกรรมการกิน สิ่งท่ีกิน
เปรียบเทียบกับอารมณ์ในแต่ละวัน และจะถูกบันทึกไว้ผ่านแอพพลิเคช่ันในสมาร์ทโฟน ซ่ึงจะเป็น
ข้อมลู ให้ NHS (National Healthcare Service ระบบการดูแลสุขภาพ ในฐานะพลเมืองของสหราช
อาณาจกั ร) มาทาการติดตามเปรียบเทียบ และนาไปสู่การแก้ปัญหาการบริโภคเกินความต้องการของ
ผู้คน เพ่ือรวบรวมและประมวลผลข้อมูลด้านสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงการคาดการณ์และการวินิจฉัย
การเจ็บป่วยล่วงหน้า (Predictive diagnostic) การแจ้งเตือนการเจ็บป่วยทันที และระบบติดตาม
การแพร่กระจายของโรค ซึ่งข้อมูลสถิติการเจ็บป่วยและสุขภาพของประชาชนโดยรวมจะเป็น
ประโยชน์ต่อการวางนโยบายด้านสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม การรักษาโดยตรงกับผู้ป่วย ซ่ึงเป็นส่ิงที่
IoT มุ่งม่ันจะไปให้ถึงนั้น ยังต้องการข้อมูลความรู้อีกมากมายในเร่ืองระบบการทางานของร่างการ
มนุษย์ และการออกแบบ algorithms (กระบวนการหรือชุดของกฎท่ีจะใช้ในการคานวณหรือการ
ดาเนินการอื่น ๆ ในการแก้ปัญหาท่ีเกิดข้ึนสาหรับคอมพิวเตอร์) ที่มีความซับซ้อน ท่ีจะเข้าไปค้นหา
ข้อมูลทางพันธุกรรมของผู้ป่วยเพื่อให้เจอข้อบกพร่องทางพันธุกรรม ซ่ึงหากทาได้สาเร็จ IoT จะมี
บทบาททสี่ าคญั ในการวนิ จิ ฉัย และรักษาโรคต่างๆ เชน่ โรคมะเรง็ ได้ ในอนาคต
8
บทท่ี 2
ขอ้ มูล Internet of Things (IoT) ในยุค 2020
ภายในปี 2020 “Data Automation และ IoT” จะพลิกโฉมวิถีชีวิต และการทางาน เม่ือ
Internet เช่ือมโยงทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเข้าหากัน มันจะส่งผลกระทบต่อวิถีการดาเนินชีวิตของ
มนุษย์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ แนวคิดเรื่อง Internet of Things (IoT) คือ
แนวคดิ ท่ไี ด้รบั การกลา่ วถงึ เปน็ อยา่ งมาก ณ ปัจจบุ นั นี้ และมันกาลังเป็นความจรงิ ขึน้ เร่อื ยๆ
ย้อนกลับไปในปี 1999 Kevin
Ashton คือผู้เสนอแนวคิด Internet of
Things ขณะท่ีเขาได้เร่ิมต้นโครงการ
Auto-ID Center ท่ีมหาวิทยาลัย
Massachusetts Institute of
Technology หรือ MIT จากเทคโนโลยี
RFID ที่จะทาให้เป็นมาตรฐานระดับโลก
สาหรับ RFID Sensors ต่างๆที่จะ
เชื่อมต่อกันได้ ต่อมาในยุคหลังปี 2000 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีใช้คาว่า Smart ก็ได้ถูกผลิตคิดค้น
ขึ้นมาเป็นจานวนมาก ซึ่งได้แก่ smart device, smart grid, smart home, smart network,
smart intelligent transportation อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ล้วนมีโครงสร้างพ้ืนฐานที่สามารถเช่ือมต่อ
กับโลกอนิ เตอร์เนต็ ได้ และการเช่ือมตอ่ เหล่านนี้ ั้นเองที่พัฒนามาเป็นแนวคิดที่ว่าอุปกรณ์เหล่าน้ีก็ต้อง
สามารถสื่อสารกันได้โดยอาศัยตัว Sensor ในการสื่อสารถึงกัน หมายความว่านอกจาก Smart
devices ต่างๆจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้แล้ว มันยังสามารถเช่ือมต่อไปยังอุปกรณ์ตัวอื่นได้ด้วย โดย
Kevin นิยามมันไว้ ณ ขณะน้ันว่าเป็น “internet-like” หรือพูดง่ายๆก็คืออุปกณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่ง
สามารถสือ่ สารพูดคยุ กนั เองได้ สว่ นคาศัพท์ที่ว่า “Things” ก็ใช้แทนอุปกณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่าน้ัน น้ี
จึงที่มาของแนวคิด Internet of Things (IoT) ผู้เช่ียวชาญด้านเทคโนโลยีได้คาดการณ์ว่าภายในปี
2020 เทคโนโลยี IoT จะเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆในโลกน้ีเข้าไว้ด้วยกันเป็นจานวนไม่ต่ากว่า 2 – 3
หม่ืนล้านชิ้นเลยทีเดียว เพราะในขณะน้ีเทคโนโลยี IoT ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในภาคธุรกิจ
ซึ่งในปี 2015 ท่ีผ่านมา ทางด้าน Technology Business Research (TBR) ก็ได้ทาการสารวจ
ยอดขายของบริษัทชั้นนากว่า 21 แห่ง โดยมี Verizon, Microsoft, Intel, Google, Amazon,
Siemens, Cisco, Ericsson และ Oracle รวมอยู่ในบริษัทที่ถูกสารวจด้วย การเก็บข้อมูลอย่าง
9
ต่อเนอ่ื งแสดงใหเ้ หน็ อย่างชัดเจนว่าทุกๆบริษัทท่ีมีความเก่ียวข้องกับวงการ IT ท้ังในแง่ของผลิตภัณฑ์
และบริการจะมีผลประกอบการเติบโตควบคู่ไปกับการขยายตัวของตลาด IoT ซ่ึงแสดงให้เห็นว่า
เทคโนโลยี IoT มีส่วนสาคัญในการผลักดันตลาด IT ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางด้าน Cloud ซึ่ง
ถือเป็นหน่ึงในปัจจัยหลักที่มีความสัมพันธ์กับเทคโนโลยี IoT ก็ได้มีการเติบโตขึ้นถึง 79% เมื่อเทียบ
กับปีก่อนหน้า และในส่วนของ IT Infrastructure เองก็มีการเติบโตข้ึน 51.4% เช่นกัน ซ่ึงสิ่งท่ีกล่าว
มาข้างต้นน้ันสอดคล้องกับการเพ่ิมขึ้นอย่างรวดเร็วของปริมาณข้อมูลท่ีมาจากเทคโนโลยี IoT ซ่ึงใน
ปัจจุบันน้ีอเมริกาเหนือยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตของ IoT ด้วยมีส่วนแบ่งตลาด IoT ที่สูงถึง
40.3% ในขณะท่ี APAC และ CALA น้นั ยังคงมสี ่วนแบง่ ตลาดเพยี ง 24.8% และ 5.5% ตามลาดับ
กล่าวโดยสรุปจากรายงานของ Technology Business Research (TBR) กล่าวได้ว่า ตลาด
ของธุรกิจ Internet of Things (IoT) ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2015 มีการเติบโตสูงถึง 14.8% เม่ือ
เทียบกบั ไตรมาสเดยี วกนั ของปีท่ีแล้ว และมียอดขายรวม 6,700 ล้านเหรียญ หรือราว 234,500 ล้าน
บาท ส่วน Cloud Computing และระบบ IT Infrastructure นั้นก็ได้รับผลผลักดันสาคัญจากการ
เติบโตของตลาด IoT ในแง่ของความจาเป็นท่ีจะต้องจัดการกับข้อมูลปริมาณมหาศาล จึงทาให้
Cloud Computing และระบบ IT Infrastructure มีการเติบโตด้วยเช่นกัน นับว่าส่ิงที่ผู้เชี่ยวชาญได้
คาดการณ์เอาไว้ว่า เมื่อถึงปี 2020 เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) จะทาการเช่ือมต่ออุปกรณ์
ต่างๆเข้าไว้ดว้ ยกนั เปน็ จานวนไมต่ ่ากวา่ 2 – 3 หมื่นล้านช้ินนั้น คงจะสามารถเกิดข้ึนจริงได้ในอนาคต
และจะสง่ ผลใหว้ ทิ ยาการพัฒนาไปอยา่ งกา้ วกระโดดอย่างไม่อาจจินตนาการได้
IoT สำมำรถช่วยองค์กรดำ้ นกำรดแู ลสุขภำพ
Smart Healthcare คือ ระบบการดูแลสขุ ภาพอจั ฉรยิ ะท่ีมกี ารนาเอาเทคโนโลยี Iot (Internet
of Things) เขา้ มาใช้ โดยจะมีการเชื่อมตอ่ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ ด้วยกันโดยท่มี ีการควบคุมส่งั การโดย
มนุษยผ์ า่ นเครือข่ายอินเตอร์เนต็ ซึง่ สามารถทาให้เข้าถงึ ขอ้ มลู ไดอ้ ย่างยืดหยุ่น และเช่อื มโยงผู้คน
อปุ กรณ์ และสถาบนั ดา้ นการดูแลสุขภาพเข้าด้วยกนั เพ่อื ให้สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพและ
สนองตอบต่อความต้องการทางการแพทย์ไดอ้ ยา่ งทันทว่ งทีซึ่งถ้าหากมองให้ลึกจะพบว่า
Smart Healthcare นั้นจะไม่ใช่เพียงแค่ระบบการดูแลสุขภาพด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะเท่านั้น แต่
จะต้องเป็นการเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์แบบยุคดิจิตอล ด้วยระบบ Iot และการบริการด้าน
สุขภาพบนคลาวด์ ซ่ึงสิ่งที่ควรจะได้รับการยกระดับด้าน Smart Healthcare ในประเทศไทย มี 4
ปัจจยั ดงั น้ี
10
1. การประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยเี ขา้ กับระบบการทางาน
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ากับงาน ถือเป็นด่านแรกท่ีจะต้องพบเจอ เพราะระบบการแพทย์
และพยาบาลน้นั ถือเปน็ ระบบทีม่ ีมาตรฐานแบบเดิม ท่ีถกู วางเอาไว้อย่างสมบูรณ์ และปฏิบัติยึดถือกัน
มาจนเป็นระเบียบแบบแผนท่ีชัดเจน ซ่ึงการท่ีจะปรับเปล่ียนระบบใหม่เข้าไปนั้นมักจะเกิดปัญหา
โดยเฉพาะในด้านของการจัดเก็บข้อมูลและในส่วนของทางการแพทย์ก็ไม่สามารถท่ีจะนาเอาข้อมูล
เหล่านั้นออกมาวิเคราะห์ได้ดั่งเช่นในระบบเดิมที่ทุก ๆ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างคุ้นเคย ซ่ึงแพทย์เองจะ
โฟกัสในเรื่องของการรักษาคนไข้เป็นหลัก และถือเป็นภาระงานท่ีสาคัญท่ีสุด ดังนั้นในส่วนของ
เทคโนโลยีจะต้องแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถที่จะช่วยส่งเสริมให้การปฏิบัติหน้าท่ีทางการแพทย์
เป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากกวา่ เดิม และตอ้ งแสดงใหเ้ ปน็ ประจักษอ์ ยา่ งเปน็ รูปธรรม
2. การรักษาแบบ Smart Healrhcare
Smart Healthcare ในประเทศไทยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นไปในลักษณะของการติดตามและเฝ้า
ระวังผู้ป่วยเท่านั้น แต่สาหรับแนวทางการรักษาแบบ Smart Healthcare นั้นแม้ว่าหลักการจะดี
แต่เมอื่ นามาปฏบิ ัติจรงิ จะตอ้ งพบกับอุปสรรคสาคัญก็คือในเร่ืองของการจัดเก็บข้อมูล เพราะการท่ีจะ
สามารถวิเคราะห์และพยากรณ์ด้านการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องมีการ Input ข้อมูล
เขา้ ระบบเป็นจานวนมาก
3. Smart Data เพ่อื การแพทย์อัจฉริยะ
สาหรับแนวคิดการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลเข้าด้วยกันจะช่วยทาให้บูรณาการ
ข้อมลู ตา่ ง ๆ มาใช้ประโยชนท์ างการแพทยไ์ ด้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ส่ิงนี้จะสามารถเกิดขึ้นจริงได้
น้ันจะต้องได้รับการผลักดันจากหลายภาคส่วน ซ่ึงปัจจุบันมีความพยายามจากโรงพยาบาลของรัฐ
หลายแหง่ ที่จะเชื่อมโยงขอ้ มลู เขา้ ดว้ ยกนั รวมถงึ ในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาลกว่า
50 แห่งของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพนั้น ก็ถือเป็นหน่ึงในกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้มีการเชื่อมโยงข้อมูล
ด้านการรักษาคนไข้เข้าด้วยกันเพราะผู้ป่วยที่รักษากับโรงพยาบาลในเครือของโรงพยาบาลกรุงเทพ
สามารถทจ่ี ะเขา้ รบั การบรกิ ารได้กับโรงพยาบาลในเครือแห่งใดก็ได้ เพยี งแค่โรงพยาบาลในเครือน้ัน ๆ
ทาการดึงแฟ้มประวัติคนไข้และประวัติการรักษาจากฐานข้อมูลส่วนกลาง ก็จะสามารถทาการดูแล
รักษาคนไข้ต่อไปได้เลย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วยจะต้องอยู่บนพ้ืนฐานของ
กฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพราะข้อมูลเหล่าน้ีถือเป็นความลับ และมีเพียงแพทย์ที่ได้รับอนุญาต
เท่านัน้ จงึ จะสามารถดูข้อมลู ได้
11
4. ความปลอดภยั ของผ้ปู ่วยคือสง่ิ สาคัญ
สาหรบั การก้าวเข้าสู่ Smart Healthcare นั้นเป้าหมายอันสาคัญสูงสุดก็คือความปลอดภัยของ
ผู้ป่วย ซ่ึงเทคโนโลยีคือส่ิงท่ีจะเข้ามาช่วยสนับสนุนเป้าหมายสูงสุดนี้ให้สามารถดาเนินไปได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ซึ่งส่ิงเหล่านี้จะเกิดข้ึนได้จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน และ
บคุ ลากรทางการแพทยม์ คี วามพรอ้ มท่จี ะปฏบิ ตั งิ านในระบบใหม่ทีแ่ ตกต่างไปจากเดิม
12
บทท่ี 3
Smart Healthcare
Smart Healthcare คือ ระบบการดูแลสุขภาพอัจฉริยะที่รู้จักกันในชื่อ Internet of Things (IoT) ที่
อปุ กรณต์ ่าง ๆ สงิ่ ตา่ ง ๆ ได้ถูกเชื่อมโยงกันสูโ่ ลกอินเตอร์ทาให้มนุษย์สามารถส่ังการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่าง
ๆ ผา่ นทางเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ตบนมอื ถอื และเขา้ ถงึ ข้อมูลแบบท่ีมีความยืดหยุน่ หรอื การเช่ือมโยงผู้คน วัสดุ และ
สถาบันที่เกีย่ วขอ้ งกับการดูแลสขุ ภาพ จากนั้นจัดการและตอบสนองต่อความตอ้ งการทางการแพทย์ได้
Smart Healthcare ระบบการดูแลสุขภาพที่ชาญฉลาดน้ี ไม่ใช่การดูแลสุขภาพของอุปกรณ์อัจฉริยะ แต่
เป็นการเปล่ยี นกระบวนทางการแพทย์สาหรับชาวดิจิตอล IoT และบริการด้านการดูแลสุขภาพบนคลาวด์ส่งเสริม
การตรวจสอบผู้ป่วยและการส่งมอบการดูแลสุขภาพท่ีดี ซึ่งมีความสาคัญต่อการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพใน
ศตวรรษ ที่ 21 แต่สถาบันสุขภาพหลายแห่งไม่เข้าใจว่าการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อส่งมอบการดูแล
สุขภาพ เพ่ือส่งเสริมการเฝ้าสังเกต ผู้ป่วยและการส่งมอบการดูแลสุขภาพท่ีดี ซ่ึงมีความสาคัญต่อการบริการด้าน
สุขภาพในศตวรรษที่ 21 โดยผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ คือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ความเข้าใจใน
การใช้อุปกรณ์แอพพลิเคชั่นและบริการไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ป่วยรู้วิธีการจัดการสุขภาพและชีวิตตนเองท่ีดีเท่าน้ัน
แตย่ งั ช่วยผใู้ หบ้ ริการด้านการแพทย์ได้ยกระดบั กระบวนการทางานทางการแพทย์ได้ดขี นึ้ ด้วยเชน่ กนั
นอกจากนั้นการใช้เทคโนโลยีเหล่าน้ี ยังช่วยในการรายงานและตรวจสอบไปพร้อมกันกับการเช่ือมต่อแบบ
end-to-end และความสามารถเชื่อมโยงการจัดประเภทและการวิเคราะห์ข้อมูลความช่วยเหลือทางการแพทย์
ระยะไกล การตดิ ตาม และการแจ้งเตอื น
อุปกรณ์ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สาหรับระบบการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ได้รับการ
เปิดเผยเพื่อยกระดับการให้บรกิ ารทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ผลการวิจัยพบว่าโทรศัพท์มือถือ ที่มี
ความสามารถระบุตัวด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFID) สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสาหรับการส่งมอบการดูแล
สขุ ภาพ ทดี่ เี ย่ียม
13
กำรเชอ่ื มต่อและกำรทำงำนร่วมกนั
เทคโนโลยี IoT ขับเคล่ือนการเชื่อมต่อของอุตสาหกรรมและการปฏิวัติ อุปกรณ์ท่ีเชื่อมต่อและเทคโนโลยีที่
สวมใส่ได้ทาให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพสามารถตรวจสอบผู้ป่วยจากระยะไกลด้วยเซ็นเซอร์และใช้ข้อมูล
ทางการแพทยข์ องพวกเขาสาหรับการวนิ จิ ฉัยการรักษาและใบสงั่ ยา
ความผิดพลาดบางอยา่ งท่ีอุตสาหกรรมเผชิญคือปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูล และความเป็นส่วนตัว
เก่ียวกับข้อมูลทางการแพทย์ที่มีความละเอียดอ่อนและการกระจายตัว และความซับซ้อนของระบบการดูแล
สุขภาพอัจฉรยิ ะและโซลูชั่นการทางานรว่ มกนั
โดยสรปุ สาหรับผู้ใชท้ ่วั ไป จะสามารถช่วยให้การจัดการสุขภาพด้วยตนเองดีขนึ้ เข้าถงึ บริการทางการแพทย์
ไดท้ ันเวลาและเหมาะสมเมื่อจาเป็น และเนือ้ หาของบริการทางการแพทยจ์ ะเปน็ ส่วนตวั ยงิ่ ข้นึ
สาหรับสถาบันการแพทย์การดูแลสุขภาพทช่ี าญฉลาด สามารถลดคา่ ใชจ้ ่าย ลดแรงกดดันบคุ ลากร บรรลุ
การจดั การวัสดแุ ละข้อมลู แบบรวมศูนย์ และปรบั ปรงุ ประสบการณ์ทางการแพทย์ของผู้ป่วยได้ดี โดยมหี วั ข้อดังนี้
1. Wath/Wristband สายรัดข้อมือ ยุคนี้มันยุคของเทคโนโลยีอย่างเเท้จริง สังเกตได้จากนวัตกรรมต่างๆ
ท่สี ร้างข้ึนมาเพื่ออานวยความสะดวกให้เเก่ผู้ใช้งาน เพ่ือเป็นการจัดสรรกลุ่มคนได้อย่างชัดเจน รวมถึงการบ่งบอก
ตัวตนของคนน้นั ในสายงานตา่ งๆ ได้ เชน่ การใช้ Wristband หรือ ริสแบนด์ RFID ในงานลงทะเบยี น งานสัมมนา
งานคอนเสริ ต์ การเข้างานอีเว้นท์ รวมไปถึง ทางการแพทย์ เป็นต้น ท้ังนี้ ริสแบนด์เหล่านี้ยังสามารถทดแทนบัตร
ตา่ ง ๆ ไดด้ ้วย เพื่อใหเ้ หมาะสมแกก่ ารนาไปใช้งาน Wristband ยังทางานไดด้ งั ต่อไปนี้
- movement step record : บนั ทกึ การเคล่ือนไหวโดยประมาณ
- mileage : บนั ทกึ ระยะการเคลื่อนไหวโดยประมาณ
- Calories : คานวณการเผาผลาญแคลอรีโดยประมาณ
- Call reminders : แจ้งเตือนการโทร
- Blood oxygen : ออกซิเจนในเลือดโดยประมาณ
- Information push : แจง้ เตอื น
- Message Alarm clock : นาฬิกาปลกุ
- Blood pressure : วัดความดันโลหิตโดยประมาณ
- Heart rate monitoring : วัดอตั ราการแตน้ หวั ใจโดยประมาณ
14
2. Glass แว่นตา มาช่วยในการรักษาผู้ป่วย หรือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ต่างๆ โดยประยุกต์ใช้แว่น
Google Glass ในการเปน็ เครือ่ งมอื ดูอาการผูป้ ่วยแล้ว โดยสามารถ นาภาพถ่ายอาการผู้ป่วยท่ีถ่ายด้วยภาพหรือ
วีดีโอของ แว่น Google Glass ไป hangout รายงานถึงคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ท่ีโรงพยาบาลใหญ่ในเกาหลีใต้
ช่วยวินจิ ฉัยอาการและบอกแนวทางการรักษาไดท้ ันที
นอกจากนี้ คุณหมอใช้แว่นตา Google Glass ในการติดตามอาการผู้ป่วยโดยบันทึกเป็นวีดีโอไว้ ใน
บางครั้งก็จะดึงข้อมูลผู้ป่วยมาแสดงบนหน้าจอแว่น Google Glass เพื่อเช็คเปรียบเทียบอาการล่าสุดของผู้ป่วย
และผู้ท่ีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ซ่ึงการรักษาอาการของผู้ป่วย โดยคุณหมอใช้แว่นอัจฉริยะ Google
Glass ใช้งานจริงแล้วในโรงพยาบาล Myongji ประเทศเกาหลีใต้ เรียกได้ว่า แว่นตาอัจฉริยะ Google Glass เป็น
อุปกรณ์ไอทสี วมใส่ได้ ( Wearable ) ที่กลายเป็นส่วนหน่ึงของ Telemedicine (เทคโนโลยีการรักษาโรคทางไกล)
ไปแลว้
3. health care system นับได้ว่าเป็นระบบย่อยท่ีมีความสาคัญมากระบบหนึ่งในระบบสุขภาพ
ความหมายของระบบบริการสุขภาพจะกว้างขวางครอบคลุมเพียงไร ขึ้นกับความหมายของคาว่า
สุขภาพ ศาสตราจารย์ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ได้ให้ความหมายของ ระบบบริการสุขภาพ” ว่า คือ“ระบบ
บริการสุขภาพ ครอบคลุมตง้ั แต่บริการเพ่ือการใช้ชีวิต การร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมท่ีสร้างเสริมสุขภาพรวมถึงการ
สขุ าภิบาล การมอี าหาร นา้ และอากาศที่ปลอดภัย อาจรวมไปถึงการมเี ศรษฐานะ ระบบการปกครอง ระบบการค้า
ระบบการประกอบอาชีพท่ีช่วยแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งส่งผลให้ช่วยเหลือตนเองในการดูแลสุขภาพได้ การ
ได้รับการศึกษาและข้อมูลเพ่ือให้รู้เท่าทันโดยใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมและรักษาสุขภาพท่ีดีไว้ได้ ระบบป้องกันโรคท่ี
ปอ้ งกนั ได้ เมื่อเกดิ โรคข้ึนก็มีระบบบริการรักษาโรค ซึ่งมีรปู แบบและระบบความซับซอ้ นจากการใช้เทคโนโลยีต่างๆ
มากมาย เมื่อพิการก็มีเทคโนโลยีในการลดความพิการและเพิ่มความสามารถในการดารงชีวิต รวมไปถึงการปรับ
สภาพสังคมทั้งด้านกายภาพ กฎเกณฑ์สังคม และค่านิยม เพ่ือให้ผู้พิการทางกาย จิต และทางสังคม เช่น โรคท่ี
สงั คมรงั เกยี จ ฯลฯ ได้มสี ขุ ภาวะทด่ี ีทสี่ ุดทีพ่ งึ จะมีได้” (จรสั สวุ รรณเวลา 2543 : 35-36)
15
บทท่ี 4
กำรใชง้ ำน IOT (Internet of Thing) ในโรงพยำบำล
รัฐบาลต่างๆในต่างประเทศได้กาหนดนโยบายในการใช้ Wi-Fi, Bluetooth, 3G, GPS และ RFID เพ่ือ
สร้างเครือข่ายทางการแพทย์เคล่ือนท่ีและเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการดูแลระย ะยาวที่เกิดจาก
โครงสร้างอายุประชากร ให้การดูแลทางการแพทย์จากระยะไกล ภายใต้การหมักของปัญหาอุตสาหกรรม
การแพทย์ยงั ไดร้ บั การผลกั ดันให้รวมอินเทอร์เนต็ ของสงิ่ ต่างๆไว้ในขั้นตอนต่อไปของการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีการประยกุ ตใ์ ช้หลกั ของอนิ เทอรเ์ นต็ ของเทคโนโลยีส่ิงต่างๆในสาขาทางการแพทย์ที่ชาญฉลาดเป็นหลัก
สามด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีการจัดการข้อมูลวัสดุเทคโนโลยีการแปลงข้อมูลทางการแพทย์และเทคโนโลยีการ
ประมวลผลแบบดจิ ิทัล
1. กำรเฝ้ำระวงั และกำรจัดกำรเครอ่ื งมอื แพทย์และยำเสพตดิ
ดว้ ยความช่วยเหลอื ของเทคโนโลยี RFID เราจงึ เรม่ิ ใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพสาหรับการจัดการวัสดุ
ในสถาบันทางการแพทย์เพื่อให้เกิดการผลิตการจัดจาหน่ายการต่อต้านการปลอมแปลงและการตรวจสอบ
ย้อนกลับของอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาหลีกเลี่ยงปัญหาด้านความปลอดภัยในทางการแพทย์และการติดตาม
การใช้ยา และอุปกรณ์ติดตามจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการผลิต การตรวจสอบตลอดเวลาแบบเรียลไทม์
ของการไหลเข้าสู่ขั้นตอนการใช้งานมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงคุณภาพของการดูแลทางการแพทย์และลด
ตน้ ทนุ การจัดการ
องค์การอนามัยโลกกล่าวว่าสัดส่วนของยาปลอมในโลกมีมากกว่า 10% และมียอดขายเกินกว่า
32,000 ล้านหยวน ตามข้อมูลจากสมาคมเภสัชกรรมแห่งประเทศจีนอย่างน้อย 200,000 คนในแต่ละปีกาลังจะ
ตายจากยาผดิ และการใช้ยาอย่างไมถ่ กู ต้องและร้อยละ 26 ถงึ รอ้ ยละ 26 ใช้ยาเสพตดิ ทไ่ี ม่เหมาะสม
และประมาณ 10% ของข้อผิดพลาดในการใช้ยา ดังน้ันเทคโนโลยี RFID จึงมีบทบาทสาคัญในการติดตามและ
ตรวจสอบยาเสพติดและอุปกรณ์ตลอดจนแกไ้ ขและกาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
โดยเฉพาะทศิ ทางการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตของสง่ิ เทคโนโลยีในดา้ นการจดั การวัสดุมลี กั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี :
1. อุปกรณท์ างการแพทยแ์ ละยาปอ้ งกนั การปลอมแปลง
การระบุฉลากท่ีแนบมากับผลิตภัณฑ์น้ันมีลักษณะเฉพาะตัวยากท่ีจะคัดลอกและสามารถมีบทบาทในการ
สอบถามข้อมูลและการตอ่ ตา้ นการปลอมแปลง จะเป็นมาตรการท่ีสาคัญมากสาหรับผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบและ
ของท่ีด้อยกว่า ตัวอย่างเช่นข้อมูลยาเสพติดถูกส่งไปยังฐานข้อมูลสาธารณะและผู้ป่วยหรือโรงพยาบาลสามารถ
ตรวจสอบเนอื้ หาของแท็กและบนั ทกึ ในฐานข้อมลู เพ่ือระบยุ าเสพติดปลอมไดง้ า่ ย
2 การตรวจสอบแบบเรียลไทมแ์ บบเตม็ เวลา
ยาเสพติดจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การผลิตการจัดจาหน่ายและการใช้กระบวนการทั้งหมดแท็ก RFID
สามารถตรวจสอบทกุ รอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการจดั สง่ จากโรงงานเมอื่ เครื่องบรรจุโดยอัตโนมัติผู้อ่านท่ีติดตั้ง
ในสายการผลิตจะสามารถระบุข้อมูลของยาแต่ละชนิดโดยอัตโนมัติส่งข้อมูลไปยังฐานข้อมูลและสามารถบันทึก
ข้อมลู ขั้นกลางไดต้ ลอดเวลา ของการไหลเวยี นเพือ่ ใชส้ ายการตรวจสอบทง้ั หมด
16
3 การจัดการสแปมทางการแพทย์
ด้วยความร่วมมือของโรงพยาบาลที่แตกต่างกันและ บริษัท ขนส่งเทคโนโลยี RFID สามารถใช้เพ่ือสร้าง
ระบบติดตามขยะทางการแพทย์ที่ติดตามได้เพ่ือให้สามารถติดตามการจัดส่งขยะทางการแพทย์ไปยังโรงงานแปร
รูปและเพอื่ หลกี เลย่ี งการกาจัดขยะทางการแพทยอ์ ยา่ งผิดกฎหมาย
ประกำรท่ีสองโรงพยำบำลดจิ ิทลั
Internet of Things มีแนวโน้มการประยุกต์ใช้ในวงกว้างในการจัดการข้อมูลทางการแพทย์และอ่ืน
ๆ ปจั จุบนั ความตอ้ งการด้านการจดั การขอ้ มลู ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสว่ นใหญ่เนน้ ไปท่ีประเดน็ ต่อไปนี้ :
กำรระบตุ วั ตนตวั อย่ำงและกำรระบตุ ัวตน
ในหมู่พวกเขาการระบุส่วนใหญ่รวมถึงการระบุตัวตนของผู้ป่วยและบัตรประจาตัวของแพทย์; การระบุตัวอยา
งตัวอยางรวมถึงการระบุยาเสพติดการระบุอุปกรณทางการแพทยการระบุผลิตภัณฑในห้องปฏิบัติการ ฯลฯ การ
ระบุตัวตนของกรณีรวมถึงการบ่งชี้ถึงสภาพและการระบุสัญญาณทางกายภาพ แอพพลิเคชันเฉพาะจะแบ่ง
ออกเป็นสว่ นตา่ งๆตอ่ ไปน้ี
1. การจดั การข้อมลู ผปู้ ว่ ย
ประวตั ิครอบครัวของผูป้ ว่ ยประวตั ทิ างการแพทย์ทผี่ า่ นมาการสอบต่างๆบนั ทกึ การรกั ษาอาการแพ้ยาและ
ขอ้ มลู สุขภาพทางอเิ ล็กทรอนิกสอ์ ื่น ๆ สามารถช่วยให้แพทย์สามารถกาหนดแผนการรักษาได้ แพทย์และพยาบาล
สามารถตรวจสอบข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับสัญญาณชีพจรของผู้ป่วยเคมีบาบัด ฯลฯ ป้องกันไม่ให้ใช้ยาผิดเข็มและ
ปรากฏการณอ์ ืน่ ๆ โดยอตั โนมัตเิ ตือนพยาบาลท่จี ะดาเนนิ การยาเสพติดการตรวจสอบและการทางานอื่น ๆ
2 การจัดการเหตุฉุกเฉนิ ทางการแพทย์
ในสถานการณ์พิเศษของผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวและผู้ป่วยวิกฤตได้ด้วยวิธีการ
จัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลเทคโนโลยี RFID ท่ีเชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพข้อมูลระบุตัวตนของผู้ป่วยสามารถ
ยืนยันได้อย่างรวดเร็วและช่ืออายุเลือดของเขา ประเภท, หมายเลขติดต่อฉุกเฉินเป็นต้นสามารถกาหนด
ได้ รายละเอยี ดเกี่ยวกับประวตั ทิ างการแพทยท์ ่ผี า่ นมาสมาชกิ ในครอบครวั ฯลฯ ข้นั ตอนการลงทะเบียนเข้ารับการ
รักษาในโรงพยาบาลและเวลาอันมีค่าสาหรบั ผู้ปว่ ยในกรณีฉุกเฉนิ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์วิดีโอ 3G ได้รับการติดต้ังในรถพยาบาล เม่ือผู้ป่วยอยู่ระหว่างเดินทางไปท่ีโรงพยาบาล
ห้องฉกุ เฉนิ สามารถเข้าใจสภาวะทางสรรี วิทยาของผู้ปว่ ยและต่อสู้เพื่อโอกาสในการช่วยชีวิตสีทอง หากพวกเขาอยู่
หา่ งไกลพวกเขายงั สามารถใช้ระบบการถา่ ยภาพทางการแพทย์ระยะไกลสาหรบั การชว่ ยเหลอื ฉุกเฉิน
3 การเกบ็ รักษายาเสพติด
เทคโนโลยี RFID ใช้กับการจัดเก็บใช้และการตรวจสอบเภสัชภัณฑ์เพ่ือลดความยุ่งยากในการประมวลผล
ด้วยตนเองและการบันทึกเอกสารป้องกันไม่ให้สินค้าหมดและอานวยความสะดวกในการเรียกคืนยาเสพติดให้
หลีกเลี่ยงความสับสนระหว่างช่ือยาปริมาณและรูปแบบยาท่ีคล้ายคลึงกันและเสริมสร้างการจัดการยา ตรวจสอบ
ให้แน่ใจว่ามเี วลาเพียงพอในการจัดหายา
4 การจัดการข้อมูลเลอื ด
การใช้เทคโนโลยี RFID ในการจัดการโลหิตสามารถหลีกเลยี่ งขอ้ เสียของความสามารถในการผลิตบาร์โค้ด
ขนาดเล็กได้ตระหนักถึงการรับรู้ท่ีไม่ติดต่อลดมลพิษทางเลือดบรรลุการรับรู้หลายเป้าหมายและปรับปรุง
ประสิทธิภาพในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
17
5 การเตรยี มยาเสพตดิ ป้องกันความผิดพลาด
โดยการเพิ่มกลไกการป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดในระหว่างการรับยาและการจ่ายยาสามารถรับรู้ได้จาก
การเปดิ รบั ยาการจัดส่งการดูแลการใชย้ าของผู้ป่วยการตดิ ตามประสทิ ธิภาพของยาเสพติดการจัดการสินค้าคงคลัง
ยาการจดั ซือ้ ยาการเก็บรกั ษาและการรกั ษาสภาพแวดล้อม สาหรบั การจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมยาให้ยืนยัน
ประเภทของการเตรียมการที่ใช้โดยผู้ป่วยบันทึกการไหลเวียนของการใช้งานของผู้ป่วยและบันทึกหมายเลขแบทช์
ฯลฯ เพื่อหลกี เลี่ยงการสูญเสียยาและความปลอดภยั ของยาสาหรับผปู้ ว่ ย
6 อปุ กรณ์ทางการแพทยแ์ ละตรวจสอบยอ้ นกลบั ยาเสพติด
รวมถึงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไม่
พึงประสงคพ์ ื้นที่ทผี่ ลติ ภัณฑท์ ่ีมีปัญหาด้านคุณภาพเดียวกันอาจเกิดข้ึนผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นปัญหา
ตาแหน่งผลิตภัณฑ์ท่ีไม่ได้ใช้ ฯลฯ ติดตามย้อนกลับไปยังผลิตภัณฑ์ที่ไม่ดีและผู้ป่วยท่ีเก่ียวข้องควบคุมอุปกรณ์
ทางการแพทย์และยาเสพติดทัง้ หมดท่ยี ังไม่ไดน้ ามาใชแ้ ละให้การสนบั สนนุ อย่างดีสาหรับการจัดการกับอุบตั ิเหตุ
7 การเช่อื มต่อข้อมลู ร่วมกัน
ผ่านการแชร์ข้อมูลและการเช่ือมต่อข้อมูลทางการแพทย์และเร็กคอร์ดเครือข่ายทางการแพทย์ที่
ครอบคลุมและได้รับการพัฒนาขึ้น ในด้านหนึ่งแพทย์ท่ีได้รับอนุญาตสามารถตรวจสอบประวัติทางการแพทย์
มาตรการรักษาและรายละเอียดการประกันของผปู้ ่วยได้ ผูป้ ่วยยังสามารถเลือกหรือเปลี่ยนแพทย์และโรงพยาบาล
ได้อย่างอิสระ ในทางกลับกันพวกเขาสนับสนุนโรงพยาบาลในเมืองและชุมชนให้เชื่อมต่อกับโรงพยาบาลกลางได้
อย่างลงตัวในด้านข้อมูลและสามารถเข้าถึงคาแนะนาจากผู้เช่ียวชาญจัดระเบียบและได้รับการฝึกอบรมแบบ
เรียลไทม์
8 ระบบป้องกนั การเกิดก่อนวยั อนั ควร
การจัดการการระบตุ ัวตนของมารดาและทารกการจดั การการป้องกันการโจรกรรมทารกและการมีส่วนใน
ช่องทางของแผนกสูติกรรมและนรีเวชของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ท่ีมีอยู่สามารถนามารวมกันเพื่อป้องกันไม่ให้
บุคคลภายนอกเข้าไปและออกได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะอย่างย่ิงหลังจากท่ีทารกคลอดแล้วจะต้องสวม "สายรัด
ข้อมือ RFID" ซ่ึงสามารถระบุตัวตนที่ไม่ซ้ากันของทารกและทาให้ข้อมูลของทารกไม่ซ้ากับข้อมูลของมารดา เพ่ือ
ตรวจสอบว่าเป็นเด็กท่ีผิดเพียงแค่เปรียบเทียบแม่ ข้อมูลข้อมือ "RFID wristband" ของทารกดีใช้เพ่ือหลีกเล่ียง
การเกดิ ลูกนอ้ ย
9 ระบบเตือนภยั
ผู้ป่วยได้รับแจ้งให้ส่งสัญญาณความทุกข์ฉุกเฉินเพ่ือป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยออกจากพ้ืนท่ีส่วนตัวเพื่อป้องกัน
ไมใ่ ห้อุปกรณท์ ่ีมคี า่ เสยี หายหรอื ถกู โจรกรรมและเพื่อป้องกันยาเสพตดิ ทไ่ี วตอ่ อุณหภมู ิ และตัวอย่างหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร
ประกำรที่สำมกำรตรวจสอบทำงกำรแพทยจ์ ำกระยะไกล
การตรวจสอบทาง telemedicine ส่วนใหญ่จะใช้อินเทอร์เน็ตของเทคโนโลยี Things เพื่อสร้างการให้
คาป รึกษาแบบเ ป็น ผู้ป่ว ยเ ป็นศูนย์กลา งทา งไกลและระบ บบริ กา ร กา รต รวจ สอบอย่ างต่ อเ นื่องโด ยอิงจา ก
ผู้ป่วยหนัก เทคโนโลยีการตรวจสอบทางเทเลโดเมดิคถูกออกแบบมาเพื่อลดจานวนผู้ป่วยท่ีเข้าโรงพยาบาลและ
คลินกิ
ตามรายงาน 2005 ของศนู ย์ควบคุมโรคแห่งอเมรกิ า (CDC) ประมาณ 50% ของชาวอเมริกันประสบปัญหา
โรคเร้อื รังอย่างนอ้ ยหนึ่งโรคและคา่ รักษาพยาบาลของพวกเขาคดิ เปน็ กวา่ 4 ใน 4 ของค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ของ
18
ประเทศถึง 2 ล้านลา้ นราย นอกเหนือจากคา่ ใชจ้ า่ ยสูงในการรักษาและการผ่าตัดท่ีมีเทคโนโลยีสูงแล้วแพทย์มักใช้
จ่ายเงินหลายพนั ลา้ นดอลลารใ์ นการตรวจรา่ งกายประจาหอ้ งทดลองและบรกิ ารตรวจติดตามอ่นื ๆ
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี telemedicine เซ็นเซอร์ท่ีซับซ้อนได้รับความสอดคล้องกันอย่างมี
ประสิทธิภาพภายในขอบเขตของร่างกายของผู้ป่วยและการให้ความสาคัญกับการตรวจสอบทาง telemedicine
ได้เปล่ียนไปเร่ือย ๆ จากการปรับปรุงวิถีชีวิตเพ่ือให้ข้อมูลที่ช่วยชีวิตได้ทันท่วงที แลกเปลี่ยนแผนการ
รกั ษาพยาบาล
1. การประยุกต์ใช้ RFID เพื่อช่วยผู้สูงอายุให้อยูอ่ ยา่ งอสิ ระ
นักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยแอดิเลดเป็นผู้นาโครงการพัฒนาระบบตรวจจับ RFID
แบบใหม่เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุยังคงเป็นอิสระและปลอดภัย นักวิจัยใช้เทคโนโลยี RFID และเซ็นเซอร์เพื่อ
ระบแุ ละตรวจสอบกจิ กรรมของผใู้ ช้โดยอตั โนมตั ิ พวกเขาสามารถกาหนดการบารุงรักษาตามปกติตามปกติของแต่
ละบุคคลและให้ความช่วยเหลือทันเวลาเมื่อเกิดอันตรายขึ้นและมีมูลค่ามหาศาลที่อาจเกิดข้ึนในยุคของการ
เส่ือมสภาพของประชากร
คา่ ใชจ้ ่ายในการปอ้ นข้อมลู ของระบบต่ามากไมม่ ีปญั หาเรื่องความเป็นส่วนตัวและการเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่าง
เขม้ งวดวัตถุท่ีไดร้ บั การตรวจสอบ (ผู้สูงอายุ) ไม่จาเป็นต้องสวมใส่สงิ่ ของเพิม่ เตมิ
2. การใช้รถเข็นอัจฉรยิ ะ
งานของรถเข็นอัจฉริยะคือการส่งผู้ใช้ไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยและง่ายดายแล ะดาเนินการ
ตามท่ีตั้งใจไว้ ในระหว่างการออกกาลังกายรถเข็นคนพิการไม่เพียง แต่ต้องยอมรับคาแนะนาของผู้ใช้ แต่ยังต้อง
รวมข้อมูลด้านส่ิงแวดล้อมเพ่ือเร่ิมต้นการหลีกเล่ียงปัญหาอุปสรรคการนาทางและโมดูลการทางานอื่น ๆ ด้วย ไม่
เหมือนหุ่นยนตเ์ คลื่อนท่ีในกระบวนการใชง้ านรถเข็นคนพิการและผูใ้ ชก้ ลายเป็นระบบการทางานร่วมกัน
ในระหว่างการออกกาลังกายรถเข็นคนพิการไม่เพียง แต่ต้องยอมรับคาแนะนาของผู้ใช้ แต่ยังต้องรวม
ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพ่ือเร่ิมต้นการหลีกเลี่ยงปัญหาอุปสรรคการนาทางและโมดูลการทางานอื่น ๆ ด้วย ไม่
เหมือนหนุ่ ยนต์เคลอ่ื นทใ่ี นกระบวนการใช้งานรถเข็นคนพิการและผู้ใช้กลายเป็นระบบการทางานร่วมกัน น้ีต้องใช้
คนทีจ่ ะใช้ปจั จยั นี้ในการพิจารณาทจ่ี ุดเร่ิมต้นของการออกแบบ ดังน้ันความปลอดภัยความสะดวกสบายและความ
สะดวกในการใช้งานจึงเป็นปัจจัยสาคัญท่ีสุดในการออกแบบเก้าอ้ีอัจฉริยะ ความแตกต่างในความสามารถทาง
กายภาพของผู้ใชก้ าหนดวา่ รถเข็นอจั ฉริยะต้องได้รับการออกแบบให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีความหลากหลาย
ในการทางานซง่ึ สามารถตอบสนองความต้องการไดห้ ลายระดบั ในขณะทค่ี วามจาเพาะท่ีดีท่ีสุดสะท้อนถึงคุณสมบัติ
ของความคล่องตัวของระบบแต่ละผู้ใช้สามารถเลือกการรวมโมดูลท่ีเหมาะสม ข้ึนอยู่กับชนิดของตัวเองและระดับ
ของความพิการและผู้ออกแบบสามารถบนพื้นฐานที่มีอยู่โดยการเพิ่มโมดูลการทางานจะสะดวกมากในการ
ปรบั ปรงุ การทางานของรถเขน็ คนพกิ าร
ฟังก์ชั่นท้ังหมดของรถเข็นอัจฉริยะสามารถแบ่งออกเป็นฟังก์ชันย่อยดังต่อไปน้ี: การรับรู้สภาพแวดล้อม
และฟงั กช์ ันการนาทางฟังก์ชั่นการควบคุมการขับขี่และการทางานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ด้วยการ
วิเคราะห์ฟังก์ชันและการแบ่งส่วนของรถเข็นอัจฉริยะรวมกับเน้ือหาการวิจัยท่ีเฉพาะเจาะจงและวัตถุประสงค์ใน
การควบคุมท่ีคาดไว้ระบบประกอบด้วยโมดูลเซ็นเซอร์โมดูลควบคุมไดรฟ์และโมดูลปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับ
เครื่องจักร ในหมู่พวกเขาโมดูลเซ็นเซอร์ส่วนใหญ่ประกอบด้วยการรับรู้ของรัฐภายในและการรับรู้สภาพแวดล้อม
ภายนอก ผา่ นเซน็ เซอรท์ ่าทางขอ้ มลู ท่าทางของรถเข็นตัวเองจะถูกกาหนด; และข้อมูลตาแหน่งด้วยตัวเองจะได้รับ
ผ่านทางความเร็วและระยะห่างของตวั เข้ารหัส
19
วิสัยทัศน์อัลตราซาวนด์และสวิทช์ความใกล้ชิดมีหน้าท่ีรับผิดชอบในการรับข้อมูลระยะทางเก่ียวกับ
สภาพแวดล้อมและอปุ สรรคอยา่ งต่อเนือ่ ง เราใชว้ ธิ กี ารขบั เคล่ือนลอ้ หลงั ลอ้ หลังแตล่ ะหลังจะตดิ ตั้งมอเตอร์เพ่ือให้
พวงมาลัยไปข้างหน้าย้อนกลับและหมุนพวงมาลัยรถเข็นไฟฟ้าภายใต้การควบคุมของตัวควบคุม อินเทอร์เฟซ
สาหรับการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ถูกป้อนข้อมูลโดยคันโยกปฏิบัติการและข้อมูลส่วนติดต่อ
คอมพวิ เตอร์สว่ นบุคคลในสองวิธเี พือ่ ให้เห็นถึงฟังก์ชันพ้ืนฐานของการปฏสิ มั พนั ธ์ระหว่างมนษุ ย์และคอมพวิ เตอร์
รถเขน็ คนพกิ ารอจั ฉรยิ ะมีลอ้ ขับเคลอ่ื นสองลอ้ ที่เปน็ อสิ ระแต่ละตวั มีตัวเข้ารหสั มอเตอร์ เซ็นเซอร์ตรวจจับ
ตาแหน่งสัมพัทธ์แบบวัดระยะทางประมาณถูกต้ังข้ึนโดยข้อมูลการตรวจจับแบบเรียลไทม์ของเครื่องเข้ารหัสสอง
เคร่ือง ในขณะเดียวกันจะมีการติดต้ังเซ็นเซอร์วัดความเอียงและเคร่ืองวัดการหมุนวนเพื่อวัดสถานะท่านั่งรถเข็น
ระหวา่ งเดนิ ทาง ใช้เซนเซอรอ์ ัลตราโซนกิ และสวทิ ชค์ วามใกลเ้ คียงเพือ่ รบั ร้ขู ้อมูลแวดล้อม เพ่ือให้ได้ข้อมูลอุปสรรค
ที่กว้างข้ึนระบบจะติดตั้งเซนเซอร์อินฟราเรด 8 ดวงและเซ็นเซอร์อัลตราโซนิค 8 ตัว นอกจากน้ียังติดต้ังกล้อง
CCD เพือ่ กาหนดข้อมลู ความลกึ ในการเดนิ ทางไปข้างหน้า
ความสามารถในการปรับสมดุลของร่างกายด้วยเพียงสองล้อ คุณลักษณะเด่นนี้ต้องการให้มีโครงสร้าง
พิเศษ ความคิดในการออกแบบขั้นพื้นฐานคือการทาให้ล้อสองล้อขับเคล่ือนด้วยมอเตอร์กระแสตรงอิสระและ
เพื่อให้ศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงของตัวถังรถเหนือแกนบนแกนเดียวโดยใช้มุมเอียงของตัวตรวจจับ เซ็นเซอร์รับ
ขอ้ มูลทัศนคติของตวั ถงั รถในแบบเรียลไทม์ โปรเซสเซอร์ของหุน่ ยนต์ประมวลผลสัญญาณเซ็นเซอร์คานวณปริมาณ
การควบคุมเพ่ือควบคุมความเร็วในการหมุนและระบบบังคับเล้ียวของมอเตอร์ตามข้ันตอนการควบคุมบางอ ย่าง
ขับเคลือ่ นห่นุ ยนตไ์ ปขา้ งหนา้ หรอื ขา้ งหลังและทาใหส้ มดลุ ของร่างกายได้
รถเข็นคนพิการอัจฉริยะใช้การรวมกันของเซ็นเซอร์ความเอียงและตัววัดการหมุนวนเพ่ือสร้างเซ็นเซอร์
ท่าทางเพือ่ ตรวจจบั ทา่ ทางการว่ิงของแท่นยกของร่างกาย เซน็ เซอร์วดั ความเอยี งจะใช้ในการวัดมุมของเก้าอ้ีรถเข็น
จากทิศทางแนวตั้งและใช้ตัววดั การหมนุ วนเพอ่ื วดั ความเรว็ เชงิ มมุ
3. มือถอื ทางการแพทย์
รวมท้ังข้อมูลต่างๆเช่นน้าหนักตัวเนื้อหาของคอเลสเตอรอลเนื้อหาไขมันและปริมาณโปรตีนของแต่ละ
บุคคลสาหรับลูกค้าแต่ละรายสถานะทางสุขภาพของมนุษย์ได้รับการวิเคราะห์ตามเวลาจริ งและด้านสรีรวิทยา
ข้อมูลตัวชี้จะถูกส่งกลับสู่ชุมชน บุคลากรทางการพยาบาลหรือหน่วยงานทางการแพทย์ท่ีเก่ียวข้องสามารถให้
คาแนะนาเกย่ี วกับการปรับเปลี่ยนโภชนาการและการรักษาพยาบาลให้กับลูกค้าได้ทันท่วงทีและยังสามารถจัดหา
โรงพยาบาลและสถาบันวจิ ยั ดว้ ยวัสดุการวิจยั ทางวิทยาศาสตร์
4. สายรัดข้อมอื RFID
ในอนาคตอนั ใกล้นโ้ี ทรศพั ทม์ อื ถือจะกลายเปน็ แพทยส์ ่วนบคุ คลของทกุ คน
คาดวา่ เราทกุ คนรูส้ ึกวา่ เปน็ เรือ่ งปกตมิ ากทจ่ี ะต้องรอคิวท่ีโรงพยาบาล การรอคอยและความวิตกกังวลเป็นคาพูดที่
พบมากที่สดุ บนใบหน้าของผูค้ น ความขมขนื่ นบี้ างคร้ังทาให้คนทกุ ขท์ รมานมากกว่าโรค เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถ
ทนทกุ ข์ทรมานกบั การเข้ารบั การตรวจของแพทยแ์ ละต้องเผชิญหน้ากับผู้ป่วยนอกหลายพันรายทุกวันโรงพยาบาล
จึงจมน้าลึก แต่ในอนาคตอนั ใกลน้ ้จี ะมีการเปลย่ี นแปลง ผูเ้ ช่ยี วชาญจะ "อยู่ใน" โทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์มือถือ
จะกลายเป็นแพทย์ส่วนบุคคลสาหรับทุกคน นี่คือมุมมองสาหรับอินเทอร์เน็ตที่มีสุขภาพดีในสิ่งที่ Yu Mengjun
รองประธานสมาคมวิศวกรรมชีวการแพทย์แห่งประเทศจีนและนักวิชาการของ Chinese Academy of
Engineering หวังวา่ จะไดเ้ หน็
มนุษย์ทุกคนต้องการท่ีจะหาผู้เช่ียวชาญ แต่มีผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนเราสามารถให้บริการประชาชนได้
อย่างไร? แต่ในอนาคตนี้จะเป็นจริง ส่ิงที่สาคัญท่ีสุดสาหรับผู้เชี่ยวชาญคือประสบการณ์และประสบการณ์เหล่านี้
20
มักได้รับการรวบรวมตามตัวช้ีข้อมูลที่ได้รับจากความเจ็บป่วยของผู้ป่วย หากฐานข้อมูลประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญ
สามารถสะสมเมอ่ื พารามเิ ตอร์ของฐานขอ้ มูลท่ีมีความอุดมสมบูรณ์พอตราบใดที่ผู้ป่วยป่วยด้วยการป้อนข้อมูลของ
ตัวชีพ้ ารามิเตอร์ท่ฐี านขอ้ มลู โดยอัตโนมัติจะเหน็ ผปู้ ่วยและฐานข้อมูลเป็นท่สี ุด "ผ้เู ชย่ี วชาญด้านหนุ่ ยนต์"
ฐานข้อมูลที่กระตุกเหล่าน้ีอาจไม่เป็นท่ีเข้าใจของคนจานวนมาก แต่ตัวอย่างเช่นถ้าผู้เช่ียวชาญเชี่ยวชาญ
ในด้านมะเร็งตราบเท่าท่ีมีผู้เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะได้รับแผนการรักษาแผนการรักษาเหล่านี้รวมกับตัวบ่งชี้ทาง
พยาธิวิทยาของผู้ป่วยและมีการจัดต้ังผู้เช่ียวชาญไว้ โมเดลฐานข้อมูลตัวอย่างเช่นเม่ือมีการเก็บข้อมูลตัวชี้วัด
ฐานข้อมูลสาหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวจานวน 10,000 คนมีฐานข้อมูลนี้มี 10,000 วิธีในการรักษามะเร็ง
เม็ดเลือดขาว กล่าวคือผู้ท่ีเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวร่วมกันตราบเท่าท่ีพารามิเตอร์ทางห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ถูก
ป้อนเข้าไปในฐานขอ้ มูลฐานข้อมูลจะสรา้ งแผนการรักษาขนึ้ โดยอาศยั ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญก่อนหน้าน้ีและ
แผนการรักษานี้เป็นประสบการณ์การรักษาของผูเ้ ชย่ี วชาญทุกวนั
เช่นฐานข้อมูลในท่ีสุดจะกลายเป็นซอฟต์แวร์ท่ีสร้างไว้ในโทรศัพท์มือถือ เม่ือมีอาการป่วยซอฟต์แวร์ใน
โทรศัพท์มือถือจะได้รับการรักษาโดยอัตโนมัติ หากมีสถานการณ์ใดที่ไม่สามารถตัดสินได้ผู้เชี่ยวชาญจะเดิน
ทางผ่านอนิ เทอร์เน็ตเพ่ือรบั การรกั ษาผู้ปว่ ย โทรศพั ทม์ ือถอื ของพลเมืองทุกคนจะเปน็ "เครือ่ งแพทยส์ ่วนตวั "
5. การประยุกต์ใช้จพี ีเอสของคนโรคหวั ใจ
ทุกคนต้องสร้างฐานข้อมูลสุขภาพของตนเอง หากผู้ป่วยโรคหัวใจมีประวัติสุขภาพดิจิตอลเมื่ออัตราการ
เต้นของหัวใจผิดปกติหรือแม้กระท่ังความเสี่ยงสูงข้อมูลจะถูกส่งกลับทันทีท่ีระบบของเรา ผ่านการวางตาแหน่ง
GPS เราสามารถชว่ ยใหผ้ ูป้ ่วยโทร 120 ทนั ทีและติดต่อโรงพยาบาลทใี่ กลท้ ่สี ดุ เพ่อื ขอความชว่ ยเหลือ
นค่ี ือ Internet of Things ทใ่ี ช้งานง่าย แต่บา้ นของพลเมืองทุกแห่งจะมีอุปกรณ์ตรวจรา่ งกาย ตราบเท่าท่ี
ประชาชนวางมือบนอุปกรณน์ แ้ี ลว้ อปุ กรณจ์ ะเก็บความดันโลหิตอัตราการเต้นของหัวใจชีพจรอุณหภูมิร่างกายและ
ปัจจัยอน่ื ๆ ในอนาคตแมแ้ ต่การทดสอบแบบง่ายๆก็สามารถทาได้สาเร็จบนอปุ กรณ์ หลังจากรวบรวมข้อมูลเหล่าน้ี
แล้วขอ้ มลู เหล่านจ้ี ะถูกส่งไปท่ีศูนย์ข้อมูลของโรงพยาบาลโดยอัตโนมัติ เม่ือสถานการณ์เกิดข้ึนแล้วแพทย์จะให้การ
ตรวจสอบเพิ่มเติมหรอื ใชม้ าตรการรกั ษาทนั ที ถา้ จาเปน็ ให้มกี ารตรวจสุขภาพประจาวันของผู้ปว่ ย
6. ตราบเท่าท่แี พทย์ "บตั ร, สายรัดข้อมอื "
ทุกคร้ังที่ผู้คนเข้าสู่สถานีรถไฟใต้ดินพวกเขารู้สึกผ่อนคลายและทุกอย่างสามารถแก้ไขได้โดยการกวาดการ์ดใน
อินเทอร์เนต็ สุขภาพของส่ิงท่เี ห็นแพทยเ์ ป็นเหมอื นการใช้รถไฟใต้ดิน ตราบเท่าที่การ์ดใบเดียวได้รับการแก้ไขอย่าง
สมบูรณ์
ในกระบวนการทางการแพทย์ผู้ป่วยใช้บัตรประจาตัวประชาชนเป็นหลักฐานทางกฎหมายเฉพาะสาหรับ
ระบุตวั ตนเพ่อื สแกนเครื่องอ่านบตั รอตั โนมตั ิ (reader reader) โดยเฉพาะและฝากเงนิ สารองไว้จานวนหนึ่ง เครื่อง
บัตรอัตโนมัติจะถูกสร้างขึ้นภายในไม่กี่วินาที "บัตรเข้าชม RFID" (คุณสามารถใช้บัตรประกันสุขภาพโดยเฉพาะ)
เพื่อลงทะเบียนได้ ผู้ป่วยถือบัตรโดยตรงไปยังแผนกใด ๆ สาหรับการรักษา ระบบจะส่งข้อมูลผู้ป่วยไปยัง
เวิร์กสเตชันของแพทย์แผนกท่ีเก่ียวข้องโดยอัตโนมัติ ในระหว่างข้ันตอนการวินิจฉัยและการรักษาแพทย์จะ
ตรวจสอบข้อมูลยาและข้อมูลการรักษาจะถูกส่งไปยังแผนกท่ีเกี่ยวข้อง ด้วย "RFID card" ท่ีสแกนไปยังผู้อ่านของ
หนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้องคณุ สามารถตรวจสอบใช้ยาและรักษายาได้ ไม่จาเป็นต้องข้ามไปอีกเพื่อดูราคาของผลิตภัณฑ์
และค่าธรรมเนียม หลังจากส้ินสุดการเข้าชมแล้วคุณสามารถถือบัตรไปที่สานักเก็บค่าผ่านทางเพ่ือพิมพ์ใบแจ้งหนี้
และรายการค่าใช้จา่ ย
นอกจากน้ี "สายรัดข้อมือ RFID RFID" ที่ตรงกับ "บัตรเข้าชม RFID" ประกอบด้วยข้อมูลเช่นชื่อผู้ป่วยเพศ
อายุอาชีพเวลาในการลงทะเบียนเวลาการให้คาปรึกษาเวลาในการวินิจฉัยเวลาการตรวจสอบและสถานะ
21
ค่าใช้จ่าย การได้มาของข้อมูลประจาตัวของผู้ป่วยไม่จาเป็นต้องมีการป้อนข้อมูลโดยผู้ใช้และข้อมูลจะถูกเข้ารหัส
เพื่อให้ม่ันใจว่าข้อมูลเอกลักษณ์เฉพาะของผู้ป่วยจะเป็นข้อมูลเดียวหลีกเลี่ยงการป้อนข้อผิดพลาดที่เป็นไปได้ด้วย
ตนเองและการเขา้ รหัสและรกั ษาความปลอดภัยข้อมลู นอกจากน้ีสายรัดข้อมือมีความสามารถในการระบุตาแหน่ง
และคนสวมสายรัดข้อมอื ไม่สามารถหลบออกจากโรงพยาบาลได้
เมื่อมคี นร้ือสายรัดขอ้ มือ RFID หรือผู้ป่วยเกินกว่าช่วงท่ีโรงพยาบาลระบุไว้ระบบจะแจ้งเตือน การสวมใส่
"RFID ข้อมือ" ท่ีมีการตรวจสอบสัญญาณท่ีสาคัญ (ลมหายใจ, หัวใจ, ความดันโลหิต, ชีพจร) และการต้ังค่า "ค่าที่
สาคัญ" "ด้วย" สามารถตรวจสอบสัญญาณชีพจรเปล่ียนแปลงตลอด 24 ช่ัวโมงเมื่อ "วิกฤติ" ถึงระบบจะ ปลุกโดย
อัตโนมัติทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เข้ามาแทรกแซงในคร้ังแรก ในกระบวนการทางการแพทย์ข้อมูลเช่น
การทดสอบการถ่ายภาพรังสีการผ่าตัดและการจัดส่งยาท่ีผู้ป่วยสามารถได้รับการยืนยันโดย "สายรัดข้อมือ RFID"
และสามารถบันทึกเวลาเร่ิมต้นของแต่ละงานเพื่อให้ม่ันใจได้ว่าแพทย์และผู้ตรวจการปฏิบัติตามคาแนะนาของ
แพทย์ ในสถานที่และไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจึงดาเนินการควบคุมคุณภาพอย่างเต็มรูปแบบของการวินิจฉัยและ
การรกั ษาทัง้
ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบสถานะของค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ได้ตลอดเวลาท่ีผู้อ่าน / นักเขียนท่ีกาหนด
ผ่านทางสายรัดข้อมือ RFID และสามารถพิมพ์ผลค่าใช้จ่ายของตัวเองรวมท้ังนโยบายการประกันทางการแพทย์
กฎระเบียบและคาแนะนาการพยาบาลแผนงานทางการแพทย์และ ข้อมูลยาเสพติดและปรับปรุงความสะดวกและ
ความพึงพอใจของผู้ป่วยในการเข้าถึงขอ้ มลู ทางการแพทย์
ประการทสี่ ีอ่ นิ เทอร์เน็ตของส่ิงทีใ่ ชเ้ ทคโนโลยีในปัญหาการดูแลทางการแพทย์
ปจั จุบนั ยงั คงมีปัญหำดำ้ นเทคนคิ หลำยอยำ่ งทีต่ ้องแกไ้ ขในกำรใชง้ ำนทำงกำรแพทย์สำหรับ Internet
of Things:
1. ความคล่องตัวแบบไดนามิกและการจัดการการเคลือ่ นท่ีของโหนดในเครือขา่ ยขนาดใหญ่
เมื่อระบบการตรวจสอบถูกขยายไปยังชุมชนเมืองหรือแม้แต่ประเทศเครือข่ายมีขนาดใหญ่และทั้งโหนดการ
ตรวจสอบและสถานีฐานมีความคล่องตัวบางอย่าง ดังนั้นต้องมีการออกแบบโครงสร้างการจัดการโครงสร้าง
โทโพโลยีและวิธีจดั การการจัดการโหนด
2. ความสมบรู ณข์ องข้อมูลและการบีบอัดข้อมูล
โหนดบางคร้ังต้องใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงในการตรวจสอบพารามิเตอร์ของมนุษย์ ปริมาณข้อมูลท่ีเก็บ
รวบรวมมีขนาดใหญ่และความจุของไฟล์มีขนาดเล็ก อัลกอริทึมการบีบอัดมักใช้เพื่อลดการจัดเก็บและการส่งผ่าน
ข้อมูล อย่างไรก็ตามอัลกอริทึมการบีบอัดข้อมูลแบบเดิมไม่เหมาะสาหรับเซ็นเซอร์ค่าใช้จ่ายสูง ปม นอกจากน้ี
อลั กอรธิ ึมการบบี อัดยังไมส่ ามารถสร้างความเสยี หายกับข้อมลู ต้นฉบับมิฉะนน้ั จะทาใหเ้ กิดการวนิ ิจฉัยผิดพลาด
3. ความปลอดภัยของข้อมลู
โหนดเครือข่ายเซนเซอร์ไร้สายใช้วิธีการจัดระเบียบแบบฟอร์มเพื่อสร้างเครือข่ายและเส่ียงต่อการถูก
โจมตี นอกจากน้ีควรเก็บข้อมูลผู้ป่วยไว้เป็นความลับ กาลังการคานวณของโหนดเซ็นเซอร์ค่อนข้าง จากัด และ
ความปลอดภัยแบบด้งั เดิมและเทคโนโลยีการเข้ารหัสไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้นต้องมีการออกแบบอัลกอริธึมการ
เตมิ สาหรบั โหนดเซน็ เซอร์
22
ในระยะสั้นสมาร์ทแพทย์มีบริการหลากหลายรวมถึงการรักษาระยะยาวการป้องกันและการตรว จหาโรค
เรื้อรังในระยะเร่ิมแรก ผ่านทางอินเทอร์เน็ตของส่ิงเทคโนโลยีการพัฒนาในท่ีสุดจะสร้างความเช่ือมโยงระหว่าง
โรงพยาบาลและด้านนอกของโรงพยาบาลแม้กับผู้ป่วย ระบบท่ีเชื่อมโยง IoT เน้นใช้งานกับ RFID โดย Smart
Asset Tracking มีการเก็บข้อมูลบน IoT วิเคราะห์ ประมวลผลข้อมูลจากตัวอ่าน RFID หากมีการนาออกมาใช้
หรือเคลื่อนย้าย
ในโรงพยาบาลจะมี tag แปะอยู่บนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ถุงมือ ขวดพลาสติก ผ้าก๊อซ
รวมไปถงึ เครอื่ งมอื แพทย์ ใช้นบั ชิ้นวัตถสุ ิน้ เปลอื ง มีเครื่องอ่านอยู่ในห้องพยาบาล เช่น บนกาแพง ประตู ส่งข้อมูล
มกี ารตรวจจบั เชือ่ มกบั แผนทขี่ องโรงพยาบาล ถ้าแพทยแ์ ละพยาบาลต้องการใช้งาน IoT จะค้นหาสิ่งของที่อยู่ใกล้
ท่ีสุด และบอกตาแหน่งท่ีวางของการกลับมาอีกคร้ังกับการสัมภาษณ์เรื่องราวของการทา Digital
Transformation กับคุณสาธิต พันธ์ไพศาล ผู้ดารงตาแหน่ง Country Manager แห่ง Alcatel-Lucent
Enterprise Thailand โดยในครั้งนี้เราจะเจาะลึกในเรื่องราวของการเปล่ียนแปลงในโรงพยาบาล จากการนา
เทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้เพ่ือสร้างประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ป่วยและการรักษาพยาบาล ซึ่งทีมงาน
TechTalkThai กข็ อสรุปบทสนทนาในครง้ั นีเ้ อาไวใ้ นบทความนี้
23
“โครงสรำ้ งระบบเครอื ข่ำยที่ม่นั คงปลอดภยั คือก้ำวแรกท่ีสำคญั ของทกุ ๆ โรงพยำบำล”
คุณสาธิตได้เริ่มตน้ เปิดบทสนทนานี้ด้วยเรื่องราวที่ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ของตนเอง จากการเขา้ ไปมี
ส่วนรว่ มในโครงการของหลายๆ โรงพยาบาลทีม่ ีความต้องการจะนาเทคโนโลยใี หม่ๆ มาใช้ ซึง่ แทบทุกโรงพยาบาล
นัน้ จะต้องเจอกบั โจทย์เดียวกันคือ “การจัดระเบยี บระบบเครือข่าย”
เดิมทีนั้นระบบเครือข่ายในโรงพยาบาลถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเช่ือมต่อไปยังระบบ Application
สาคัญทางการแพทย์เป็นหลัก และจึงมีระบบเครือข่ายไร้สายสาหรับรองรับอุปกรณ์ทางการแพทย์บางส่วน
ในขณะที่ส่วนใหญ่น้ันคือการเปิดให้แพทย์, พยาบาล, เจ้าหน้าท่ี และผู้ป่วยได้เชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อใช้งาน
Internet ควบคู่กันไป แต่ปัจจุบันระบบเครือข่ายท่ีออกแบบเอาไว้เดิมนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว ด้วยแนวโน้ม
ของอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหมดท่ีจะผันตัวไปสู่การเป็น Internet of Things หรือ IoT กันมากขึ้นเร่ือยๆ ก็ทาให้
ความม่ันคงปลอดภัยของระบบเครือข่ายและการจัดการอุปกรณ์การแพทย์เหล่าน้ีผ่านระบบเครือข่ายกลายเป็น
เร่ืองสาคัญมากอย่างท่ีไม่เคยเป็นมาก่อน ในขณะท่ีการให้บริการผู้ใช้งานเพื่อเชื่อมต่อ Internet เองนั้น ก็ต้อง
ประเมนิ ถงึ Workload รูปแบบใหม่ๆ อย่างเชน่ Chat หรอื Video Streaming เข้ามาเก่ยี วข้องดว้ ย
การเข้าถึงข้อมูลในระบบ Application สาคัญของโรงพยาบาลเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมท่ีการ
ทางานกับกระดาษในการเดินตรวจวอร์ดแล้วค่อยนาข้อมูลมาบันทึกลงในระบบ Application นั้น ก็จะถูก
เปลีย่ นไปเป็นการเขา้ ถงึ ข้อมูลผ่าน Tablet กันมากข้ึน ซึ่งตรงนี้เองท่ีระบบเครือข่ายไร้สายจะเข้ามามีบทบาทเป็น
อย่างมาก การออกแบบระบบเครือข่ายให้มีความทนทานเองก็สาคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การใช้
งาน Power-over-Ethernet หรือ PoE สาหรับเหล่าอุปกรณ์ IoT กาลังได้รับความนิยมนี้ ก็ย่ิงทาให้การออกแบบ
ระบบไฟฟ้าและพลงั งานเพ่อื รองรบั ต่อระบบเครือขา่ ยย่งิ ทวีความสาคัญขนึ้ ไปอกี
คุณสาธิตเองยังได้เน้นย้าถึงความสามารถของเทคโนโลยีระบบเครือข่ายของ Alcatel-Lucent Enterprise
ทั้งในส่วนของ LAN, Wireless LAN, Network Management และ Security ว่าถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงาน
ในระดับ Mission Critical อย่างโรงพยาบาลได้อยู่แล้ว อีกท้ังยังง่ายต่อการใช้งานและม่ันใจได้ในความมั่นคง
ปลอดภยั ซง่ึ ทผ่ี ่านมาโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วโลกเองกไ็ ด้เลอื กใช้ Alcatel-Lucent Enterprise อยู่แล้ว
24
การส่ือสารระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผปู้ ว่ ยจะต้องคานึงถึงประเด็นเร่ืองความม่ันคงปลอดภยั มากขึน้ จาก
กฎหมายใหม่ๆ ท่ีประกาศบงั คับใช้ในไทย
อกี Workload หน่งึ ทีค่ ณุ สาธิตเหน็ ว่าน่าจบั ตามองนั้นก็คอื ระบบ Chat ทป่ี ัจจบุ ันหลายๆ โรงพยาบาลยังคง
ใช้บริการสาธารณะในการพูดคุย แต่ในอนาคตอันใกล้น้ีทุกๆ โรงพยาบาลคงจะต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบ Chat
ภายในของโรงพยาบาลเอง เพ่ือให้มั่นใจได้ในการควบคุมด้านการเข้าถึงข้อมูล Chat ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวของ
ผปู้ ว่ ย ใหต้ อบรบั ต่อข้อกฎหมายท่ีจะบงั คับใชเ้ พ่ือปกป้องความเปน็ ส่วนตัวของประชาชนชาวไทย
คุณสาธิตได้อธิบายเพ่ิมเติมว่า บริการ Chat สาธารณะถึงแม้จะมีการเข้ารหัสข้อมูลอยู่แล้ว แต่หากคิดถึง
Workflow โดยรวมท้ังหมด ทางโรงพยาบาลไม่สามารถม่ันใจได้เลยว่าจริงๆ แล้วข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเข้าถึงโดย
ใครบ้าง รวมถึงหากบคุ ลากรคนน้ันๆ ลาออกหรือยา้ ยโรงพยาบาลไป การทีเ่ ขา้ ถึงข้อมูลเหล่าน้ีได้อยู่จะสร้างปัญหา
ตามมาภายหลงั ใหก้ ับโรงพยาบาลหรือไม่
ในมุมของ Alcatel-Lucent Enterprise เองน้ัน มีบริการท่ีสามารถตอบโจทย์นี้ได้คือ Rainbow for
Healthcare ซ่ึงเป็นระบบ Cloud Collaboration ท่ีรองรับทั้ง Chat, Voice, Video ในหน่ึงเดียว และเปิดให้
โรงพยาบาลสามารถควบคุมสิทธิก์ ารใช้งานและการเข้าถงึ ขอ้ มลู ได้ทงั้ หมด รวมถึงยังสามารถเปดิ ให้บุคคลภายนอก
อย่างเช่นผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยเข้ามามีส่วนร่วมภายในระบบได้ สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสื่อสารทางด้าน
การแพทย์ไดแ้ ละยงั คงมคี วามมน่ั คงปลอดภยั ซงึ่ ตรวจสอบไดต้ ามทีข่ ้อกฎหมายต้องการ
อีกหน่ึงความสามารถที่น่าสนใจของ Rainbow ก็คือการท่ีมี API เปิดให้เช่ือมต่อใช้งานร่วมกับระบบอ่ืนๆ
รวมถึงยังเช่ือมต่อกับ API ของระบบอื่นๆ ได้ ทาให้ Rainbow นั้นทาหน้าท่ีเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนหรือ
รับส่งข้อมูลได้หลากหลาย และเป็นหัวใจสาคัญของการทา Digital Transformation ด้านการส่ือสารของ
โรงพยาบาลได้เลยในอนาคต IoT จะกลายเป็นส่วนหน่ึงของการรักษาพยาบาลแห่งอนาคต กลับมาต่อกับประเด็น
ทคี่ ณุ สาธิตเล่าค้างเอาไวก้ ่อนหน้านี้ คอื เรอ่ื งของการท่ีอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้นจะมีความเป็น IoT มากข้ึน ซึ่งคุณ
สาธติ เองกใ็ ห้ความเหน็ เอาไว้ว่า สุดท้ายแล้วจานวนของอุปกรณ์เหล่านี้จะมีหลากหลายและมีจานวนมหาศาลมาก
ในโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ซ่ึงการจัดการด้านระบบเครือข่ายให้มีความมั่นคงปลอดภัยสาหรับอุปกรณ์เหล่าน้ีก็ถือ
เป็นส่ิงท่ีจาเป็น แนวทางหนึ่งที่คุณสาธิตนาเสนอก็คือการทา Network Segmentation สาหรับอุปกรณ์ IoT
โดยเฉพาะ ซง่ึ การทา Segmentation นี้จะต้องมคี วามละเอยี ดทสี่ ูงมาก คุณสาธติ แนะนาวา่ แนวทางที่โรงพยาบาล
25
ในตา่ งประเทศนยิ มใช้ ก็คอื การสรา้ งระบบเครอื ขา่ ย 1 VLAN ต่ออุปกรณ์ IoT 1 ประเภทเท่านั้น และจากัดสิทธิ์ใน
การเช่ือมต่อเครือข่ายของแต่ละอุปกรณ์ให้มีความชัดเจน กาหนดแนวทางในการบริหารจัดการให้ชัดเจน เพื่อลด
ความเสีย่ งท่ีอุปกรณ์เหล่านีจ้ ะถูกโจมตีจากภายนอกหรือภายในโรงพยาบาลเองให้น้อยท่ีสุด แน่นอนว่าการดาเนิน
ตามแนวทางเหล่านี้ถือว่ามีความซับซ้อนไม่น้อย แต่นี่ก็คือสิ่งท่ีหลีกเล่ียงไม่ได้หากต้องการความมั่นใจในความ
ม่ันคงปลอดภัย และการเลือกใช้เทคโนโลยี Software-Defined Networking (SDN) หรือ Network
Automation นั้นก็ถือว่าสาคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเลือกระบบ Network Management ที่สามารถตอบ
โจทย์เหลา่ นไี้ ด้เป็นอย่างดกี ถ็ ือเป็นอีกส่ิงหนึง่ ท่ีผูด้ แู ลระบบ IT ต้องให้ความสาคัญ
Smart Hospital = Smart Building + Smart Home สร้างประสบการณ์ใหม่ในการรักษาพยาบาลด้วย
ข้อมูลก้าวถัดมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุปกรณ์การแพทย์นั้น ก็คือการ Transform โรงพยาบาลอย่างเต็ม
รูปแบบ เปล่ียนประสบการณ์การรักษาพยาบาลให้เป็น Digital มากข้ึน ด้วยการผสานนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้
รว่ มกบั การออกแบบประสบการณ์ใหม่ๆ
Smart Hospital หรือโรงพยาบาลอัจฉริยะนั้นคือแนวคิดที่กาลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยแนวคิด
น้ันก็คือการผสานนา Smart Building เข้ามาปรับให้การใช้พลังงานของโรงพยาบาลมีประสิทธิภาพและความ
คุ้มค่ามากขึ้น รวมถึงการควบคุมด้านความปลอดภัยภายในอาคารมีความทันสมัยมากข้ึน และผสานนา Smart
Home เขา้ มาเสริมประสบการณ์หอ้ งพักของผูป้ ว่ ยใหผ้ ปู้ ่วยสามารถพกั ผ่อนได้อย่างเต็มที่ ส่ือสารได้ง่าย และได้รับ
ประสบการณด์ ีๆ ในการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
วางรากฐานด้านการสร้างและจัดเก็บข้อมูลให้ดี เตรียมเปิดรับเทคโนโลยี AI ในอนาคตอันใกล้ในระยะยาว
แล้วอีกประเด็นหน่ึงที่ทุกๆ โรงพยาบาลต้องเร่ิมคานึงถึงนั้นก็คือประเด็นด้านข้อมูล โดยการวางกลยุทธ์ว่าใน
อนาคตจะมกี ารพัฒนาต่อยอดในแงม่ ุมใดเพ่อื ใหก้ ารจัดเก็บข้อมูลมีความสอดคล้องนั้นคือสิ่งท่ีหลายๆ โรงพยาบาล
ตอ้ งเริม่ คิดแลว้ และแนวทางเหล่านีย้ ังต้องไมข่ ัดกับกฎหมายดา้ นความเป็นสว่ นตวั ของข้อมลู ดว้ ย
26
บทที่ 5
ขอ้ ดีและข้อจำกดั ของ Internet of Thing
ข้อดี Internet of Thing
1. หากทุกสิ่งถูกเชื่อมตอ่ กนั ด้วยอนิ เทอรเ์ น็ต จะก่อให้ประโยชน์มากมายที่จะส่งผลดีต่อการดาเนินชีวิตของ
มนุษย์ในแง่ของความสะดวกสบาย และรวดเร็ว เนื่องจากอุปกรณ์เทคโนโลยีทุกชิ้น สามารถติดต่อส่ือสารกันเอง
เพอ่ื อานวยความสะดวกใหก้ บั ผูใ้ ชไ้ ด้มากที่สดุ ซ่ึง Internet of Thing นั้นมปี ระโยชนต์ อ่ การใช้งานในดา้ นตา่ งๆ
เชน่ สั่งโอนเงินธนาคารผ่านแอปพลเิ คชนั ในโทรศัพท์มอื ถือ ตง้ั คา่ ให้ชาระเงินในเวลาท่ีกาหนดแบบอัตโนมัติ
อุปกรณส์ วมข้อมอื ท่สี ามารถส่งข้อมูลสขุ ภาพถึงสถานพยาบาลทุกวนั ขอ้ มลู สขุ ภาพถูกระบบติดตามตลอดเวลา หัว
ใจเตน้ ช้าลง ความดนั โลหิตสูงขนึ้ ผปู้ ว่ ยได้รบั การดแู ลใกลช้ ิดแม้อยู่บา้ น
เชน่ หลอดไฟทีเ่ ปิดหรือปดิ เองไดเ้ ตามเวลาทตี่ ้งั ไว้ผ่านมือถือ เป็นต้น
2. IoT จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานให้แม่นยาและรวดเร็วย่ิงข้ึน เน่ืองจากความสามารถในการ
ทางานและการส่งผ่านข้อมูลของ IoT น้ันสูงกว่าการใช้มนุษย์ทางาน การทางานของมนุษย์อาจจะทาให้เกิด
Human Error และเกิดข้อจากัดด้านพลังงาน, เวลา และสถานที่ได้ แต่ IoT มีความสามารถในการเก็บข้อมูล
ประมวลผล สง่ ผา่ น และแสดงผลไดอ้ ย่างรวดเร็วและสามารถรองรบั ข้อมลู ไดเ้ ป็นจานวนมหาศาล
3. ช่วยลดต้นทุนในหลาย ๆ ด้านเนื่องจาก IoT มีความแม่นยาและไรข้อจากัดด้านเวลาและสถานที่ ทาให้
ช่วยลดต้นทุนไดห้ ลาย ๆ ดา้ น อย่างเช่นต้นทนุ การจ้างงาน ตน้ ทุนค่าเสียโอกาส หรอื ตน้ ทุนการผลิต
ตัวอย่างต้นทุนการผลิตที่ลดลง อธิบายได้ง่าย ๆ เช่นถ้าหากว่าเราทราบข้อมูลความต้องการสินค้าอย่างละเอียด
และเฉพาะเจาะจง เราะจะสามารถผลิตได้ตามความต้องการของลูกค้าในทันท่วงที ตามจานวนการสั่ง หรือท่ี
เรยี กว่า Just In Time (JIT) การผลิตแบบน้ีจะชว่ ยลดตน้ ทุนจมในการผลติ ทเ่ี กนิ มาได้อยา่ งมนี ยั สาคัญ
พัฒนาประสิทธิภาพในการใช้ทรัพย์สิน การผลิต และประสิทธิภาพของขบวนการสามารถประหยัดรายจ่าย
อย่างเชน่ การวิเคราะห์คาดเดาและวินิจฉยั แบบฉับพลันชว่ ยลดค่าซ่อมบารุง
ขอ้ จำกดั Internet of Thing
1. ปัญหาด้านความปลอดภัย : เมอื่ ทกุ สงิ่ ถูกเช่ือมต่อเข้าด้วยกัน การรักษาความปลอดภัยยิ่งสามารถทาได้
ยากยิ่งข้ึน เน่ืองจากหากสามารถเจาะเข้าอุปกรณ์ช้ินหน่ึงในเครือข่ายนั้นได้ ก็จะสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ชิ้นอื่นได้
ง่ายข้ึน เน่ืองจากแนวความคิด Internet of Thing นั้นคือการเช่ือมต่อทุกส่ิงเข้าด้วยกัน ดังนั้นอุปกรณ์ทุกช้ินจึง
เปรียบเสมือนอยู่ในเครือข่ายข้อมูลเดียวกัน เท่ากับว่าข้อมูลทุกชนิดท่ีอุปกรณ์ช้ินหนึ่งได้รับ อุปกรณ์ช้ินอ่ืนก็จะ
ได้รับด้วย เน่ืองจากต้องนาไปประมวลผลเพ่ือทางานร่วมกัน ซ่ึงก่อนท่ีแนวคิดน้ีจะถูกพัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์คง
ตอ้ งมกี ารพฒั นาดา้ นการรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มลู เสยี กอ่ น
2. ปญั หาด้านการสง่ ขอ้ มูล : หวั ใจหลกั ของแนวคดิ Internet of Thing คอื ระบบเครือข่ายท่ีเป็นตัวกลางใน
การรับส่งข้อมูลของอุปกรณ์ต่างๆ และเครือข่ายท่ีสาคัญท่ีสุดคือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หมายความว่าแนวคิดนี้
จะตอ้ งพง่ึ พาเครอื ขา่ ยอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ซึ่งถ้าหากเครือข่ายดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้ช่ัวคราว หรือเกิดการ
ผดิ พลาดทางการส่งข้อมูล ก็จะส่งผลให้อปุ กรณ์ตา่ งๆ ไมส่ ามารถทางานได้
27
3. ปัญหาการประมวลผลผิดพลาด : ถึงแม้แนวคิด Internet of Thing คือต้องการให้อุปกรณ์ต่างๆ
ติดต่อส่ือสารกันเอง และกระทาส่ิงต่างๆ อัตโนมัติโดยไม่ต้องรอคาส่ังของผู้ใช้ แต่อย่างไรก็ต้องป้อนข้อมู ล และ
เขียนโปรแกรมคาสั่งเพื่อให้อุปกรณ์นั้นๆ สามารถทางานได้ ซึ่งบางคร้ังอาจจะเกิดความผิดพลาดจากการเขียน
คาสั่งไม่รัดกุม หรือครอบคลุมพอแนวความคิด Internet of Thing นั้นคือการเชื่อมต่อทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ดังน้ัน
หากอปุ กรณช์ ิน้ หนง่ึ ประมวลผลผิดพลาด ก็มแี นวโน้มวา่ อุปกรณช์ นิ้ อ่ืนจะทางานผดิ พลาดตามไปด้วย และหากเกิด
ข้อผิดพลาดขึ้นมาคร้ังหนึ่ง ก็จะส่งผลให้หมดความน่าเชื่อถือไปทันที เพราะเก่ียวข้องกับชีวิตประจาวัน ที่ต้องทา
เป็นประจาทกุ วัน
ปัญหาเกี่ยวกับผู้ใช้งาน : การที่มีส่ิงอานวยความสะดวกมากไปจะส่งผลเสียต่อการดาเนินชีวิต ซ่ึงจะทาให้
ผู้ใช้ติดความสบาย จนไม่สามารถทาเรื่องพื้นฐานได้ด้วยตนเอง รวมถึงการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้
อย่างมีประสทิ ธิภาพก็เปน็ เร่ืองสาคัญท่ีการรบั รขู้ องแตล่ ะบคุ คลไมเ่ ทา่ เทยี มกนั
28
บทที่ 6
แนวโน้ม Internet of Things (IoT) ในยุค 5G
เทคโนโลยี 5G จะชว่ ยเร่งการพัฒนาแอพพลเิ คชัน IoT รูปแบบใหม่ๆ
เทคโนโลยี 5G กาลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอินเทอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ (Internet of Things: IoT) โดย
เป็นเทคโนโลยีอันทรงพลังท่ีจะผลักดันให้เกิดเคสการใช้งาน (use case) ใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จาก edge
computing ในการทาให้ IoT ทางานได้อย่างมีประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งข้นึ
สภาพแวดล้อมในการประมวลผลท่ีมีพลวัตและทรงพลังมากข้ึน ที่เร่ิมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นพร้อมๆ กับการท่ี
กลุ่มธรุ กิจด้านโทรคมนาคมเร่ิมออกแบบเครือข่ายสาหรับรองรับ 5G ขึ้นมาใหม่ จะเร่งให้เกิดการนาแอพพลิเคชัน
และบรกิ าร IoT มาใชท้ ่วั ทั้งอตุ สาหกรรม
ประเทศไทยถือเป็นชาติแรกในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่เริ่มใช้บริการส่ือสาร 5G ในเชิงพาณิชย์ โดยจาก
(ร่าง) แผนฯ ของคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติค าดว่าเครือข่าย 5G จะเข้าถึงร้อยละ 98 ของประชากร
ทกุ พื้นท่ขี องเขตสง่ เสรมิ เศรษฐกิจพเิ ศษในพนื้ ท่ี EEC และประชากรทงั้ หมดในแต่ละจงั หวัดท่ีได้รับการประกาศเขต
ใหเ้ ป็น Smart City ภายในปี 2570
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เห็นชอบในหลักการของมาตรการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี 5G ในภาคอุตสาหกรรม ซ่งึ ครอบคลมุ ถึงมาตรการภาษใี นการสง่ เสรมิ การวางโครงข่ายไฟเบอร์ ส่งเสริม
การลงทุนขยายโครงข่าย เช่น การลดภาษีเงินได้ (Corporate Tax) สาหรับการลงทุนในโครงข่ายและ
อุตสาหกรรมอ่นื
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกเก่ียวกับการใช้งาน IoT รูปแบบใหม่ๆ เรามาดูประโยชน์ต่างๆ ของการประมวลผล
ผ่าน Edge อันทรงพลังท่ีจะเป็นจริงได้ด้วยเทคโนโลยี 5G ด้วยแบนด์วิดธ์ท่ีสูงข้ึนและมีเวลาแฝงต่ากว่าเครือข่าย
4G และ LTE ท่ีใช้ในปจั จุบนั
แบนด์วิดธท์ ีเ่ พมิ่ ขนึ้ จะช่วยให้สามารถส่งขอ้ มูลไดม้ ากขน้ึ ในช่วงเวลาท่ีกาหนด ซ่ึงจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ กบั เพย์โหลดท่ีมีความตอ้ งการใช้งานสงู อย่างเชน่ วิดีโอ เป็นต้น มีการคาดการณ์ว่าผลจากการท่ี
มีความจุของช่องสัญญาณเพ่ิมขึ้น จะทาให้มีการใช้เซนเซอร์วิดีโอและการสตรีมข้อมูลวิดีโอเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
29
ซ่ึงจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้ระบบตรวจสอบและติดตามแบบที่ไม่ต้องมีผู้ควบคุม (โดรนและหุ่นยนต์) อย่าง
แพร่หลายมากขน้ึ
เวลาแฝง (เวลาท่ีใช้ในการส่งข้อมูลไปถึงปลายทาง) ของ 5G ที่ต่ากว่ามาก จะทาให้เราสามารถตอบสนอง
ต่อข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งข้ึน ในขณะท่ีเวลาแฝงโดยเฉล่ียของการเช่ือมต่อแบบ 4G อยู่ท่ี 50–100 มิลลิวินาที เวลา
แฝงของการเชื่อมต่อแบบ 5G อาจจะอย่ทู ี่ 10 มลิ ลวิ ินาทีหรอื น้อยกวา่ น้ัน
ในทางกลับกัน แบนด์วิดธ์ท่ีสูงขึ้นและเวลาแฝงที่ต่าลงของ 5G จะเร่งให้เกิดการนา edge computing มา
ใช้ ซึง่ เป็นการประมวลผลในจุดท่ีอยใู่ กลก้ บั แหล่งกาเนดิ ข้อมูลและจุดท่ีกจิ กรรมต่างๆ เกดิ ขน้ึ มากทสี่ ดุ
แนวทางการใช้งานกบั IoT
การผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยี 5G และ edge computing สามารถนาสู่การใช้งานและนวัตกรรม
ใหม่ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น ไอบีเอ็มและ Verizon กาลังร่วมมือกันพัฒนาโซลูชัน 5G และ
โซลชู ัน edge ไมว่ า่ จะเปน็ การมอนเิ ตอร์จากระยะไกลและการตรวจสอบด้วยภาพ หุ่นยนต์ที่ควบคุมจากระยะไกล
การวิเคราะห์วิดีโอแบบกึ่งเรียลไทม์ ระบบการทางานอัตโนมัติประเภทต่างๆ ในโรงงาน รวมถึงการทางานแบบ
อัตโนมัติในสภาพแวดล้อมท่ีอยู่ห่างไกลในสเกลท่ีใหญ่ขึ้น เช่น เหมืองแร่ ยานยนต์อัจฉริยะ เป็นต้น เรามาดู
ตวั อย่างการใชง้ านหลายๆ รูปแบบในสภาพแวดล้อม IoT กันคะ่
กำรตรวจสอบจำกระยะไกล
ช่างเทคนิคในหลายๆ อุตสาหกรรมต้องทาหน้าท่ีตรวจสอบและบารุงรักษาอุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลหรือเข้าถึง
ได้ยาก เช่น เสาไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ในโครงข่ายพลังงานที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เป็น
ระยะทางหลายพันไมล์ ซึ่งงานเหล่าน้ีมักเป็นการส่งช่างไปตรวจสอบอุปกรณ์ด้วยตัวเองเพ่ือให้สามารถระบุปัญหา
ต่างๆ งานเหล่าน้ีมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องใช้ทรัพยากรมาก เทคโนโลยี 5G จะเข้าช่วยให้สามารถใช้โดรนหรือกล้อง
ระยะไกลในการตรวจสอบ ส่งภาพ วิดีโอ และข้อมูลเซ็นเซอร์อื่นๆ ไปยัง AI ในระบบคลาวด์เพื่อตรวจจับปัญหา
โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างหน่ึงของการใช้งานในด้านนก้ี ็คือ โซลชู ันโครงสร้างพื้นฐานด้านวศิ วกรรมโยธาท่ีไอบีเอ็มกาลังพัฒนา
เพื่อตรวจสอบสะพาน อุโมงค์ ทางหลวง และทางรถไฟทใ่ี ชง้ านมาเป็นระยะเวลายาวนาน โซลูชันนี้จะใช้ข้อมูล IoT
ก่ึงเรยี ลไทมท์ ส่ี ร้างจากเซ็นเซอร์ท่ีติดต้งั อยบู่ นโครงสรา้ งต่างๆ รวมไปถึงกลอ้ งวงจรปิดและโดรน โซลูชันดังกล่าวจะ
รวมข้อมลู IoT กับโมเดลการวเิ คราะห์ทีเ่ ฉพาะเจาะจง เพื่อช่วยระบุและวัดผลกระทบของความเสียหาย เช่น รอย
รา้ ว สนมิ และการกัดกร่อน รวมไปถึงการสัน่ สะเทอื นของการกระจดั และความเค้น
โดรนสามารถตรวจสอบโครงสร้าง สายไฟ และท่อส่งก๊าซจากทางอากาศ โดยส่งข้อมูลภาพกลับมา การ
ตรวจสอบจากระยะไกลสามารถดาเนินการได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการส่งทีมงานออกไป ช่วยให้สามารถ
ตรวจพบสัญญาณบ่งชี้ปัญหาได้ตั้งแต่เน่ินๆ ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายด้านโครงสร้างท่ีอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติ
การรว่ั ไหลของทอ่ กา๊ ซ หรือสายไฟท่ีตกลงมา
กำรตรวจสอบดว้ ยภำพ
ในกระบวนการผลิตนั้น เทคโนโลยี 5G ช่วยให้การตรวจสอบเครื่องจักรที่ใช้ในการดาเนินงานและ
สายการผลิตด้วยภาพเป็นจริงได้ เนื่องจากมีเวลาแฝงต่า ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบตรวจสอบ คุณภาพของ
ผลิตภัณฑ์ โดยกล้องจะจับภาพในขณะท่ีสินค้าถูกลาเลียงไปตามสายการผลิต ภาพจะถูกวิเคราะห์โดย AI เพื่อ
ตรวจจับข้อบกพรอ่ งหรือปญั หาดา้ นคุณภาพ โดยเทคโนโลยี 5G จะทาให้ฟังก์ชันท่ีใช้กันทั่วไปในปัจจุบันมีความล้า
สมัยยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันไอบีเอ็มมีระบบการตรวจสอบด้วยภาพท่ีทางานด้วย AI เพ่ือใช้ในการตรวจจับ
ขอ้ บกพรอ่ งของผลิตภัณฑ์และอปุ กรณ์ได้อย่างถูกต้องแม่นยา
ในระดับท่ีกว้างขึ้นไปน้ัน เทคโนโลยี 5G ช่วยให้โรงงานต่างๆ สามารถเพ่ิมเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ไร้สายได้
อย่างง่ายดาย ซึ่งสามารถเช่ือมต่อโดยตรงกับเครือข่าย 5G โดยไม่ต้องใช้สายหรืออุปกรณ์ไอทีเฉพาะในการ
30
บารุงรักษาและจัดการ การเชื่อมต่ออุปกรณ์การผลิตเข้ากับบริการต่างๆ บนระบบคลาวด์โดยตรง เช่น ระบบ
บารุงรักษาเชงิ คาดการณ์ จะชว่ ยใหร้ ะยะเวลาทางานเปน็ ไปอยา่ งต่อเน่ืองสงู สุดและลดต้นทนุ ในการบารุงรกั ษา
ความช่วยเหลือสาหรับช่างเทคนิคผ่าน AI และโลกเสมือน (AR): ช่างเทคนิคมักจะต้องขอคาแนะนาและ
แนวทางในการแก้ปัญหาจากแหล่งข้อมูลหรือผู้ท่ีมีประสบการณ์มากกว่า เทคโนโลยี 5G และการประมวลผลผ่าน
edge จะนาสู่แบนด์วิดธ์และการจัดการเวิร์คโหลดแบบไดนามิคเพื่อให้ช่างเทคนิคสามารถทางานได้ใน
สภาพแวดล้อมท่ีหลากหลาย ด้วยการใช้ระบบเสมือนจริง (Virtual Reality) และโลกเสมือน (Augmented
Reality) ได้อย่างน่าเชื่อถือ ทาให้ช่างเทคนิคได้รับคาแนะนาและความช่วยเหลือจากระยะไกลได้ทุกท่ี ทุกเวลาที่
ต้องการ ตัวอย่างเช่น IBM Assist ท่ีช่วยให้ช่างเทคนิคภาคสนามสามารถปรึกษา AI และทางานร่วมกันบน AR
แบบสองทิศทาง เพื่อช่วยให้การทางานของช่างเทคนิคในภาคสนามง่ายขึ้น รู้ว่า “next best action” คืออะไร
อกี ทัง้ ยังได้รับคาแนะนาโดยตรงผา่ นภาพจากผเู้ ชี่ยวชาญที่อยู่อกี ท่ีหนึ่ง
กำรจัดกำรอำคำรและสถำนที่
เทคโนโลยี 5G จะช่วยใหส้ ามารถเชอื่ มตอ่ เซ็นเซอร์ในอาคารได้ง่ายข้ึนเพื่อผลักดันโซลูชันใหม่ๆ สาหรับการ
ประหยดั พลงั งาน การจัดการการเขา้ พกั และประสบการณข์ องผู้ที่มาติดต่อ ซ่ึงจะเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นสาหรับ
สถานท่ีที่มีขนาดใหญ่ ที่มีทรัพย์สินจานวนมากที่ต้องการการตรวจสอบและการบารุงรักษา เช่น สนามกีฬา
สนามบนิ หา้ งสรรพสนิ ค้า และโรงเรียน
ยำนยนต์อัจฉรยิ ะ
รถยนต์สมัยใหม่ได้มีการรวบรวมข้อมูลจานวนมากไว้ในรถ ซ่ึงคาดว่าอาจมากกว่า 1 เทราไบต์ต่อวัน เวลา
แฝงที่ตา่ ลงของเทคโนโลยี 5G ประกอบกบั แบนด์วิดธ์ที่มากขึ้น และการเชื่อมต่อที่เช่ือถือได้มากยิ่งขึ้น จะนาสู่การ
ใช้งานกับรถยนตอ์ จั ฉรยิ ะท่หี ลากหลายย่ิงข้ึน
เวลาแฝงต่าของเทคโนโลยี 5G ช่วยเปิดโอกาสในการส่ือสารแบบสองทิศทางมากขึ้น ซึ่งอาจนาสู่การแชร์
ข้อมูลกับรถคันอ่ืนๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเพ่ือขยายขอบเขตความสามารถในการ “มองเห็น” รถรอบข้าง ส่ิงน้ีจะมี
ความสาคัญเป็นอย่างย่ิงสาหรับรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งข้อมูลท่ีรวบรวมจากรถยนต์จานวนมากในพ้ืนที่หนึ่งจะช่วย
ขยายการเข้าถึงเซ็นเซอร์ที่ติดต้ังอยู่ในรถแต่ละคัน ทาให้รถสามารถมองเห็นได้ไกลข้ึน และมองทะลุผ่านส่ิงกีด
ขวางและบริเวณทางโคง้ เพ่อื ความปลอดภัยในการขับขี่มากย่งิ ข้ึน
กำรขนสง่ และโลจสิ ตกิ ส์
สามารถติดตามและตรวจสอบการขนส่งสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์จานวนมากได้อย่างต่อเนื่อง ทาให้
สามารถควบคมุ และคาดการณ์ระบบโลจิสติกส์ในห่วงโซ่อุปทานไดอ้ ย่างแมน่ ยายิ่งข้ึน
เกษตรกรรม
โดรนจะบินสารวจพืชผลในไร่โดยไม่ต้องมีผู้ควบคุม และจะใช้การวิเคราะห์ด้วยภาพท่ีทางานใกล้
แหล่งข้อมูลมากที่สุดเพื่อประเมินปัจจัยต่างๆ รวมถึงอัตราการเติบโตของพืชและการสูญเสียผลผลิตเนื่องจาก
ศตั รพู ชื ขอ้ มูลนจี้ ะช่วยให้เกษตรกรปรับระยะเวลาในการเก็บเกย่ี วผลผลติ ใหเ้ หมาะสมและกาหนดเป้าหมายในการ
พน่ ยากาจัดศตั รพู ชื หรือดาเนนิ การอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขน้ึ
ท่ีผ่านมา คณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ได้เห็นชอบการดาเนินการโครงการนาร่องในการต่อยอด
การใช้ประโยชน์ 5G ของประเทศไทยในระยะสั้น ประกอบดว้ ยโครงการนาร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G ณ
อ.ดอยตุง จ.เชยี งราย และโครงการร้อยใจรักษ์ อ. แมอ่ าย จ.เชียงใหม่ รวมถึงโครงการนาร่องโรงพยาบาลอัจฉริยะ
(Smart Hospital) ที่โรงพยาบาลศริ ิราชเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
เครือข่าย 5G ได้รับการออกแบบมาเพ่ือให้รองรับการใช้งาน IoT ประเภทต่างๆ ซึ่งต่างกับเครือข่าย 3G
และ 4G ส่ิงน้ีจะนาสู่โมเดลการกาหนดราคารูปแบบใหม่ และการนาระบบการเช่ือมต่อแบบไร้สายมาใช้กับแอพ
พลิเคชัน IoT ที่หลากหลายมากยิง่ ข้ึน
31
5G จะนาสู่การเพ่ิมข้ึนของการสื่อสารผ่านเครือข่ายแบนด์วิดธ์สูงที่เชื่อถือได้ และการกระจายพลัง
ประมวลผลที่มีอยู่อย่างรวดเร็วไปท่ัวทั้งเครือข่าย ทาให้ต้องใช้วิธีการที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมมากในการสร้างและติดต้ั ง
แอพพลิเคชันและโมเดล AI ต่างๆ เพ่ือให้สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในการประมวลอย่างคุ้มค่ามากท่ีสุด
ปัจจุบันโมเดล AI เหล่าน้ีสามารถทางานบนอุปกรณ์ที่ประมวลผลผ่าน edge ซ่ึงเช่ือมต่อกับเครือข่ายของ edge
ทาใหก้ ารประมวลผลข้อมลู มคี วามปลอดภัยและมปี ระสทิ ธิภาพมากยิ่งข้นึ
32
อำ้ งองิ
กล่มุ แอดวานซ์ รีเสริ ช์ . (2559). Internet of Things (IoT)คอื อะไร “คน กับ อินเทอร์เนต็ ” ไปสู่ “สง่ิ ของกับ
อินเทอร์เนต็ ”. สืบคน้ เมอ่ื 23 มกราคม 2563 . จาก http://www.ar.co.th/kp/th/15
กสท. (2557). INTERNET OF THINGS…เติมสมองใหอ้ ุปกรณผ์ ่ำนอนิ เทอรเ์ นต็ . สบื ค้นเมือ่ 2 ตุลาคม 2562
จาก http://www.catdatacom.com/ th/site/news/news_detail/182
บรษิ ทั อทิ ธฤิ ทธิ์ เทคโนโลยี จากัด. 2015. 5 ประโยชน์ของ IoT. สบื ค้นเมือ่ 23 มกราคม 2563. จาก
http://itthirittechnology.com/
บริษทั อจั ฉริยะเทคโนโลยี จากดั . 2018 . Smart Healthcare . สบื ค้นเม่ือ 23 มกรำคม 2563. จาก
http://m.th.rfidtagcn.com/news/what-are-the-applications-of-iot-technology-in-
14028173.html
ปฐมา จันทรักษ์. 2564. แนวโน้ม Internet of Things (IoT) ในยคุ 5G . สืบคน้ เม่ือ 23 มกราคม 2563.
จาก https://www.marketingoops.com/tech-2/5g-iot/
มหาวิทยาลยั กรุงเทพ. 2556. ข้อบกพรอ่ งของ Internet of Thing. สบื คน้ เม่อื 23 มกราคม 2563 . จาก
https://sites.google.com/a/bumail.net/iot/khx-bkphrxng-khxng-internet-of-thing
สุธีร์ กจิ เจรญิ การกุล. (2561, 11 มกราคม). 6 เทคโนโลยีดำ้ น IoT Security สุดฮอตท่คี วรจับตำมอง. สืบคน้
เม่ือ 23 มกราคม 2563. จาก https://www.catcyfence.com/it-security/article/6-technology-in-
iot-security/
อนนท์ เทวานาครี . 2012 . ระบบงำนดำ้ นสขุ ภำพ. สืบค้นเมือ่ 23 มกราคม 2563. จาก
https://www.gotoknow.org/posts/380927
Adslihailand . 2562. โรงพยำบำลอจั ฉริยะ (Smart Hospital). สืบคน้ เม่อื 23 มกรำคม 2563. จาก
https://www.adslthailand.com/post/5321
Byrd. (2562). IoT คอื อะไร? เรำจะมำอธบิ ำยอยำ่ งงำ่ ยๆให้คุณเขำ้ ใจ. สบื ค้นเม่ือ 23 มกราคม
2563. จาก https://siambc.com/iot-คืออะไร-เราจะมาอธบิ ายอ/
Copyright. 2014. Smart Healthcare กำรดูแลสขุ ภำพทชี่ ำญฉลำด . สืบคน้ เม่ือ 23 มกราคม 2563. จาก
https://www.mostori.com/blog_detail.php?b_id=64
it24hrs . 2014 . แวน่ Google Glass . สบื ค้นเมอื่ 23 มกราคม 2563. จาก
https://www.it24hrs.com/2014/google-glass-telemedicine/
Jamie Carter. 2558. เทคโนโลยี Internet of Things และนโยบำย Thailand 4.0 กสทช. สืบคน้ เมื่อ 23
มกราคม 2563. จากhttp://www.techradar.com/news/world-of-tech/future-tech/how-the-
internet-of-things-will-revolutionise-medicine-1303066/1
TechTalkThai . 2019. โรงพยำบำลแห่งอนำคต . สืบค้นเมือ่ 23 มกรำคม 2563. จาก
https://www.techtalkthai.com/interview-with-alcatel-lucent-enterprise-on-smart-hospital/
XINNA A. (2019). RFID Wristband. สบื คน้ เมอื่ 23 มกรำคม 2563. จาก
https://www.zipeventapp.com/blog/2019/11/15/rfid-wristband/
Zakura Kim. (2560, 12 สงิ หาคม). IoT (Internet of Things) คืออะไร เทคโนโลยอี ะไรท่ชี ่วยเปลีย่ นชวี ิต
คนยุคดิจิทัลให้ดีขึ้นบ้ำง. สืบค้นเม่ือ 23 มกราคม 2563. จาก https://www.iphonemod.net/what-
is-iot-internet-of-things-true-iot.html
33
34