The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยการพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ MIA

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pattaporn Mitjam, 2023-10-13 08:29:34

วิจัยการพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ MIA

วิจัยการพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ MIA

44 บ้านเกาะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าว โดยภาพรวมที่ระดับ ปานกลาง อภิปรายผลการวิจัย จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวในบทที่ 4 ประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาสู่การอภิปรายผลการวิจัย ประกอบด้วย ผลการพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียน และระดับความพึงพอใจของนักเรียน แต่ละประเด็นดังกล่าว นำมาอภิปราย ดังนี้ 1. ผลการพัฒนาผลการเรียนรูของนักเรียน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า เมื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ระหว่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่องการพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษโดยใช้ Audio sound กับการจัดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่องเดียวกันโดยทดลองใช้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA ทำให้นักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเกาะ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่1 ปีการการศึกษา2566 เพิ่มขึ้นจาก เดิมร้อยละ 10.93 รวมถึงมีผลต่อการพัฒนาระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้นดังกล่าว ซึ่งผลดังกล่าว สอดคล้องกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการ วิธีการของ เมอร์ดอค (Murdoch, 1986) มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การ ถามคำถาม นำก่อนอ่าน (Priming Question) 2) การทำความเข้าใจคำศัพท์ (Understanding, Vocabulary) 3) การอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the Text) 4) การทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง (Understanding the Text) 5) การ ถ่ายโอนข้อมูลในรูปแบบอื่น (Transferring Information) 6) การทำแบบฝึกหัตต่อชิ้นส่วนประโยคและเรียง โครงสร้างอนุเฉท (jigsaw Exercise and Paragraph-Structure) และ 7) การประเมิน และการแก้ไข (Evaluation and Correction) จากขั้นตอนที่กล่าวมานั้น ผู้วิจัยเห็นว่าเป็นวิธีที่เหมาะในการนำมาเป็น แนวทางประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนกับเด็กระดับประถมศึกษาโดยมีการจัดกิจกรรม มีสื่อการเรียนรู้ ที่เหมาะสม ได้แก่ ภาพยนตร์ ภาพการ์ตูน การเล่นเกม สิ่งดังกล่าวนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาการของ เด็กในด้านอารมณ์ภาษาและสติปัญญา นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุ ภิญญา ยี่หมัดอะหลี(2556) ที่ทำการวิจัยเรื่องผลการใช้วิธีสอนแบบ MIA ร่วมกับเทคนิคผังกราฟิกที่มีต่อ ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษและความสามารถในกาคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ MIA โดยมีวัตถุประสงค์1.) เพื่อสร้างแผนการจัดการ เรียนรู้สำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA 2.) เพื่อการศึกษาการทดลองใช้แผนการ จัดการเรียนรู้สำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA 3.) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้


45 กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA ผลการวิจัยพบว่างานวิจัยของ สุภิญญา ยี่หมัดอะหลี (2556) ทำวิจัยเรื่องผล การใช้วิธีสอนแบบ MIA ร่วมกับเทคนิคผังกราฟิกที่มีต่อความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ และความสามารถในกาคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ ด้วยวิธีการสอนอ่านแบบ MIA (Murdoch Integrated Approach) ร่วมกับเทคนิคผังกราฟิกมีความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษและความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ 3.01 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ นราธิป เอกสินธุ์ (2557) ได้วิจัยเรื่อง การพัฒนาความสามารถ ในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษโดยใช้สาระการเรียนรู้ท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามแนวการสอนอ่านของเมอร์ดอค (MIA) ผลจากการวิจัยพบว่า ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ ภาษา อังกฤษโดยใช้สาระการเรียนรู้ท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามแนวการสอนอ่านของ เมอร์ดอค (MIA) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากการอภิปรายผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จึงลงข้อสรุปว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่นออกเสียง เรื่องการพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA โดยการทดลองใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบ MIA มีผลต่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยที่กำหนดขึ้นคือ การพัฒนาผล การเรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดกิจกรรมเรื่องเดียวกันโดย ทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการสอนรูปแบบ MIA เดิม 2. ระดับความพึงพอใจของนักเรียน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการทดลองใช้แผนการจัดการ เรียนรู้รูปแบบ MIA ที่ระดับ ปานกลาง ทั้งนี้เป็นเพราะว่าพบว่า เมื่อวิเคราะห์โดยภาพรวมกลุ่มเป้าหมายมีความ พึงพอใช้ต่อการทดลองใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้าน การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษเป็นการวิจัยตามตัวชี้วัด ที่ระดับปานกลาง (� = 3.02 . =.948) แต่เมื่อ วิเคราะห์เป็นรายด้านโดยเรียงลำดับระดับค่าเฉลี่ยจากระดับมากสุดไปหาน้อยสุด 3 ลำดับ พบว่า นักเรียนมี ความพึงพอใจต่อด้านเนื้อหารายวิชา (� =3.22 = .806) สูงสุด มีความพึงพอใจระดับปานกลาง รองลงมา คือด้านการวัดและประเมินผล (� =3.16 =1.103) ความพึงพอใจระดับปานกลางและลำดับสุดท้ายคือ ด้านครูผู้สอน (� =3.11 =.925) มีความพึงพอใจระดับปานกลาง ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการ วิธีการของเมอร์ดอค (Murdoch, 1986) ที่มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การถามคำถาม นำก่อนอ่าน (Priming Question) 2) การทำความเข้าใจคำศัพท์ (Understanding, Vocabulary) 3) การอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the Text) 4) การทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง (Understanding the Text) 5) การ ถ่ายโอนข้อมูลใน รูปแบบอื่น (Transferring Information) 6) การทำแบบฝึกหัตต่อชิ้นส่วนประโยคและเรียงโครงสร้างอนุเฉท (jigsaw Exercise and Paragraph-Structure) และ 7) การประเมิน และการแก้ไข (Evaluation and


46 Correction) จากขั้นตอนที่กล่าวมานั้น ผู้วิจัยเห็นว่าเป็นวิธีที่เหมาะในการนำมาเป็นแนวทางประยุกต์ใช้ในการ จัดการเรียนการสอนกับเด็กระดับประถมศึกษาโดยมีการจัดกิจกรรม มีสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสม ได้แก่ ภาพยนตร์ ภาพการ์ตูน การเล่นเกม สิ่งดังกล่าวนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาการของเด็กในด้านอารมณ์ ภาษาแลสติปัญญา นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุภิญญา ยี่หมัดอะหลี (2556) ที่ทำการวิจัยเรื่องผลการใช้วิธีสอนแบบ MIA ร่วมกับเทคนิคผังกราฟิกที่มีต่อความสามารถในการอ่าน เพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษและความสามารถในกาคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ MIA โดยมีวัตถุประสงค์ 1.) เพื่อสร้างแผนการจัดการเรียนรู้สำหรับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย ใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA 2.) เพื่อการศึกษาการทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA 3.) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ มีต่อการทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านการอ่านออกเสียง ภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA จากการ อภิปรายผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จึงลงข้อสรุปว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการพัฒนา ทักษะด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการ เรียนรู้รูปแบบ MIA โดยการทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ MIA มีผลต่อระดับความพึงพอใจของ นักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยที่กำหนดขึ้น คือ การพัฒนาทักษะด้านการอ่านออกเสียง ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ MIA มีผลต่อระดับ ความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ขอเสนอแนะ 1. ขอเสนอแนะการใชประโยชนผลการวิจัย 1.1 ต้องการให้มีเพลง ดนตรี เข้ามาเป็นสื่อหรือส่วนประกอบของแผนเพื่อให้นักเรียนได้ฟังการออก เสียงและร้องตาม ทั้งนี้เพราะเพลงช่วยให้นักเรียนได้ฝึกออกเสียงและเกิดความสนุกสนาน 2. ขอเสนอแนะการศึกษาเพิ่มเติมหรือทําวิจัยตอยอด 2.1 ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ MIA อย่างละเอียด ทั้งนี้ เพื่อให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถอ่านออกเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


47 เอกสารอางอิง ชนิกานต์ โนหลักหมื่น. (2563). การพัฒนาความสามารถดานการอานภาษาอังกฤษ โดยวิธีสอนแบบบูรณา การของเมอรด็อค รวมกับเทคนิคการใชคําถามสําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่5 โรงเรียน บานสีเสียดบํารุง(วิทยานิพนธปริญญามหาบัณฑิต). อุตรดิตถ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ สุภิญญา ยีหมัดอะหลี. (2556). ผลการใชวิธีสอนแบบ MIA รวมกับเทคนิคผังกราฟกที่มีตอ ความสามารถ ในการอานเพื่อความเขาใจภาษาอังกฤษและความสามารถ ในการคิดวิเคราะหของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1(บ.ก.). สงขลา: มหาวิทลัยหาดใหญ่. อธิตา ประพันธ์พจน์. (2565). ผลของการใชวิธีการสอนอานแบบ MIA รวมกับการเรียนรูแบบรวมมือ เทคนิค LT เพื่อสงเสริมทักษะการอานภาษาอังกฤษเพื่อความเขาใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาป ที่ 3 (วิทยานิพนธปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปกร. วราภรณ์ พูลสวัสดิ์. การจัดเรียนรูแบบMIAเพื่อพัฒนาความสามารถในการอานเพื่อความเขาใจและการคิด วิเคราะหวิชาภาษาอังกฤษ (โรงเรียนสาธิต "พิบูลบำเพ็ญ" มหาวิทยาลัยบูรพา , 2564) สุนารี เธียรธารณา. (2549). การพัฒนาความเขาใจในการอานของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 โดยวิธี MIA. สารนิพนธ ศศ.ม. (การสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาตางประเทศ). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.


48 ภาคผนวกที่1 เอกสารเชิญผู้เชี่ยวชาญประเมินเครื่องมือวิจัย


49


50


51


52


53


54 ภาคผนวกที่ 2 เครื่องมือการวิจัยที่ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วย 1. แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสม แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านทักษะการอ่านสำหรับนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบ MIA 2. แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบวัดความพึงพอใจ


55


56


57


58


59


60


61


62


63


64


65


66


67


68


69


70 ภาคผนวกที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ MIA จำนวน 10 แผน


71 แผนการจัดการเรียนรู 1 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ รหัสวิชา อ14101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน หนวยการเรียนรูที่ 1 School Day เรื่อง What have you got ? ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 1 ชั่วโมง สอนโดย โรงเรียนวัดบานเกาะ สอนวันที่.........เดือน.......พ.ศ..... 1. มาตรฐานการเรียนรู / ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้า จังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย ตรงตามความหมายของประโยค และข้อความสั้นๆ ที่ฟังหรืออ่าน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว 2. สาระสําคัญ การเรียนรู้คำศัพท์และประโยคเกี่ยวกับวิชาเรียนการให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาเรียน การอ่านออกเสียง คำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียนการอ่านข้อความและระบุข้อมูลได้ทำให้นักเรียนได้ฝึกใช้ภาษาเพื่อสื่อสารใน สถานการณ์ต่างๆ และสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารกับบุคคลภายนอกได้อย่างเหมาะสม 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 ด้านความรู้(Knowledge) - นักเรียนเขียนชื่อรายวิชาต่างๆเป็นภาษาอังกฤษได้


72 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process) - นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงประโยคที่กำหนดได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน 4. สาระการเรียนรู Function: What have you got? Structure: A : What have you got on Monday at eleven o’clock? B: I have got Math Vocabulary: Music, Art, P.E, Math, Science, Library, Thai, English, Social studies, Citizenship, Dance, Boy scout, Girl guide, Home economics, Computer, Guidance. 5. สมรรถนะที่สําคัญของผูเรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. กิจกรรมการเรียนรู การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ MIA 1. ขั้นถามนำก่อนการอ่าน (Priming Questions) - ครูแสดงภาพเกี่ยวกับวิชาต่างๆในการเรียนแล้วถามคำถาม เช่น What can you see? 2. ขั้นการทำความเข้าใจคำศัพท์ (Understanding Vocabulary) - นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 5 และค้นหาความหมายของคำศัพท์ในหนังสือเรียน พร้อม เขียนความหมายใต้ภาพ - ครูชูบัตรภาพคำศัพท์ให้นักเรียนช่วยกันทาย จากนั้นครูอ่านออกเสียงแล้วให้นักเรียนอ่านตาม


73 3. ขั้นการอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the Text) - ครูอ่านทีละประโยคในหนังสือเรียนหน้า 5 ข้อที่ 3 โดยนักเรียนเติมคำศัพท์ในประโยคจากที่ ครูอ่าน คำไหน ประโยคไหน ที่นักเรียนไม่เข้าใจสามารถช่วยกันหาคำศัพท์ได้ 4. ขั้นทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง (Understanding the Text) - ครูถามนักเรียนจากประโยคที่นักเรียนได้เติมคำศัพท์ในหนังสือ มีคำศัพท์รายวิชาอะไรบ้าง คุณครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยและทำความเข้าใจประโยคให้ถูกต้อง จากนั้นอ่านออกสียงพร้อม กันทั้งห้อง 5. ขั้นการถ่ายโอนข้อมูลในรูปแบบอื่น (Transferring Information) - ให้นักเรียนเปิดหนังสือหน้าที่ 6 ข้อ 5 อ่านตาราง และคุณครูถามนักเรียนดังนี้ A: What have you got on Monday at eleven o’clock? B: I have got Math - ครูแจกใบงานตารางเรียนให้นักเรียน โดยให้นักเรียนฟังประโยคจากครู จากนั้นให้นักเรียน เขียนคำศัพท์วิชานั้นๆในตารางให้ถูกต้อง - นักเรียนทำใบงานเสร็จ ครูถามนักเรียนซ้ำด้วยประโยคเดิมและให้นักเรียนตอบเป็นชื่อรายวิชา ตามตารางที่นักเรียนได้ทำในใบงาน จากนั้นตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง 6. ขั้นการทำแบบฝึกหัดต่อชิ้นส่วนประโยคและเรียงโครงสร้างของอนุเฉท - นักเรียนจับกลุ่ม 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้นักเรียนต่อประโยคที่ครูกำหนดให้ถูกต้อง เช่น What/you/o’clock?/got/Monday/at/ten/on/ have I /Art./got/ have 7. ขั้นการประเมินและการแก้ไข (Evaluation and Correcting) - นักเรียนและครูร่วมเฉลยประโยคของแต่ละกลุ่มและแก้ไขให้มันถูกต้อง จากนั้นแต่ละกลุ่มนำ ประโยคของตนเองโดยอ่านออกเสียงให้เพื่อนฟังและเพื่อนอ่านตาม จากนั้นถามความหมาย ของประโยคจากเพื่อนๆ 7. สื่อการเรียนรู / แหลงการเรียนรู 7.1 หนังสือเรียน smile 4 หน้าที่ 5 7.2 ใบงานที่ 1 ตารางเรียน


74 8. การวัดผลประเมินผล รายการวัดและประเมินผล วิธีการประเมิน เครื่องมือ ประเมิน เกณฑการประเมิน ดานความรู (K) - นักเรียนเขียนชื่อรายวิชา ต่างๆเป็นภาษาอังกฤษได้ ตรวจใบงานตาราง เรียน ใบงานที่ 1 นักเรียนมีคะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ดานกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่านออก เสียงประโยคที่กำหนดได้ สังเกตการปฏิบัติจริง แบบสังเกตการอ่านออก เสียง นักเรียนมีคะแนนระดับ ดีขึ้นไป ดานคุณลักษณะ (A) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนมีคะแนนระดับ 2 ขึ้นไปจาก Rubric Scoring 4 ระดับ


75 เกณฑการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค พฤติกรรมบ่งชี้ ปรับปรุง 1 ปานกลาง 2 ดี 3 ดีเยี่ยม 4 มีวินัย ปฏิบัติตาม ข้อตกลง ของกิจกรรม และรับผิดชอบ ในงาน ที่มอบหมาย ไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลง และ ไม่รับผิดชอบ ต่องานที่รับ มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้บาง ประเด็น และ ไม่ รับผิดชอบต่องาน ที่มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี รับผิดชอบใน มอบหมายเพียง บางส่วน ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี และ รับผิดชอบในงาน ที่มอบหมาย ตั้งใจเรียน ใฝ่เรียนรู้ เอา ใจใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ และร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ ไม่ค่อยตั้งใจ เรียน เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายามใน การเรียนรู้และร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ บางครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจใส่ และ มีความเพียร พยายามในการ เรียนรู้และร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ บ่อยครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายาม การเรียนรู้และ เต็มใจร่วม กิจกรรม การเรียนรู้ทุกครั้ง ตั้งใจและรับผิดชอบใน งานที่มอบหมาย ทำงานด้วยความเพียร พยายาม และอดทน เพื่อให้งานสำเร็จตาม เป้าหมาย ไม่ตั้งใจทำงาน ที่มอบหมาย และเกินเวลาที่ กำหนด ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับ มอบหมายให้ สำเร็จ ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จ มีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้น ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จมีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้นภายใน เวลาที่กำหนด


76 แบบประเมินการออกเสียงคําศัพท ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเกาะ คําชี้แจง ครูผู้สอนประเมินการออกเสียงของนักเรียนและใส่คะแนนในช่องรายการประเมิน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง เลขที่ ชื่อ ความถูกตอง (4) ความ คลองแคลว (4) รวม คะแนน (8) ระดับ คุณภาพ เกณฑการประเมิน 8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 6-7 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี 4-5 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ 1-3 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑการใหคะแนนการออกเสียงคําศัพท ความถูกตอง 4 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง 3 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียงเป็นส่วนใหญ่ 2 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องบางส่วน 1 ออกเสียงคำศัพท์ผิดหลักการออกเสียง ความคลองแคลว 4 ออกเสียงคำได้ชัดเจน ไม่ติดขัด 3 ออกเสียงคำได้ค่อนข้างชัดเจน ติดขัดน้อย 2 ออกเสียงคำได้บ้าง แต่ติดขัดเป็นส่วนใหญ่ 1 ออกเสียงคำไม่ได้ และตะกุกตะกัก


77 แผนการจัดการเรียนรู 2 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ รหัสวิชา อ14101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน หนวยการเรียนรูที่ 1 School Day เรื่อง Favorite Subject ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 1 ชั่วโมง สอนโดย โรงเรียนวัดบานเกาะ สอนวันที่.........เดือน.......พ.ศ..... 1. มาตรฐานการเรียนรู / ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้า จังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย ตรงตามความหมายของประโยค และข้อความสั้นๆ ที่ฟังหรืออ่าน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว 2. สาระสําคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับวิชาเรียน การขอข้อมูลเกี่ยวกับวิชาที่ชอบการถาม-ตอบเกี่ยวกับวิชาที่เรียน การอ่านคำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียนการอ่านข้อความและระบุข้อมูลได้ทำให้นักเรียนได้ฝึกใช้ภาษาเพื่อสื่อสาร ในสถานการณ์ต่างๆ และสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารกับบุคคลภายนอกได้อย่างเหมาะสม 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 ด้านความรู้(Knowledge)


78 - นักเรียนสามารถระบุความหมายเกี่ยวกับชื่อที่ใช้เรียกวิชาต่างๆเป็นภาษาอังกฤษได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process) - นักเรียนสามารถอ่านประโยคที่กำหนดได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน 4. สาระการเรียนรู Function: Favorite subject Structure: A : What is your favorite subject? B : My favorite subject is ________. Vocabulary: Music, Art, P.E, Maths, Science, Library, Thai, English, Social studies, Citizenship, Dance, Boy scout, Girl guide, Home economics, Computer, Guidance. 5. สมรรถนะที่สําคัญของผูเรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. กิจกรรมการเรียนรู - การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ MIA 1. ขั้นถามนำก่อนการอ่าน (Priming Questions) - ครูถามคำถามนักเรียน วิชาที่นักเรียนชอบคืออะไร - ครูชูบัตรภาพคำศัพท์ให้นักเรียนช่วยกันทาย จากนั้นครูอ่านออกเสียงแล้วให้นักเรียนอ่านตาม 2. ขั้นการทำความเข้าใจคำศัพท์ (Understanding Vocabulary) - นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 6 และค้นหาความหมายของคำศัพท์ในหนังสือเรียน พร้อม เขียนความหมายใต้ภาพ


79 3. ขั้นการอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the Text) - นักเรียนอ่านบทสนทนานาในหนังสือหน้าที่ 6 ข้อที่ 4 นักเรียนและครูร่วมกันอ่านไปทีละ ประโยค โดยคำไหน ประโยคไหน ที่นักเรียนไม่เข้าใจสามารถช่วยกันหาคำศัพท์ได้ 4. ขั้นทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง (Understanding the Text) - ครูสอนโครงสร้าง A:What is your favorite subject B:My favorite subject is English. ครูถามนักเรียน A:What is your favorite subject และให้นักเรียนตอบ B:My favorite subject is English. จากนั้นให้นักเรียนถามเพื่อนข้างๆ 5. ขั้นการถ่ายโอนข้อมูลในรูปแบบอื่น (Transferring Information) - ให้นักเรียนเขียนประโยคที่เรียนลงในสมุดเป็นของตัวเอง 6. ขั้นการทำแบบฝึกหัดต่อชิ้นส่วนประโยคและเรียงโครงสร้างของอนุเฉท - ครูแจกใบงานที่ 2 ให้นักเรียน เรียงประโยคให้ถูกต้อง 7. ขั้นการประเมินและการแก้ไข (Evaluation and Correcting) - นักเรียนและครูร่วมเฉลยใบงานและแก้ใขให้มันถูกต้อง 7. สื่อการเรียนรู / แหลงการเรียนรู 7.1 หนังสือเรียน smile4 หน้าที่ 6 7.2 ใบงานที่ 2 8. การวัดผลประเมินผล รายการวัดและประเมินผล วิธีการประเมิน เครื่องมือ ประเมิน เกณฑการประเมิน ดานความรู (K) - นักเรียนสามารถระบุ ความหมายเกี่ยวกับชื่อที่ใช้ เรียกวิชาต่างๆเป็น ภาษาอังกฤษได้ ตรวจใบงาน ใบงานที่ 2 นักเรียนมีคะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป


80 ดานกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่าน ประโยคที่กำหนดได้ สังเกตการปฏิบัติจริง แบบสังเกตการอ่านออก เสียง นักเรียนมีคะแนนระดับ ดีขึ้นไป ดานคุณลักษณะ (A) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนมีคะแนนระดับ 2 ขึ้นไปจาก Rubric Scoring 3 ระดับ เกณฑการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค พฤติกรรมบ่งชี้ ปรับปรุง 1 ปานกลาง 2 ดี 3 ดีเยี่ยม 4 มีวินัย ปฏิบัติตาม ข้อตกลง ของกิจกรรม และรับผิดชอบ ในงาน ที่มอบหมาย ไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลง และ ไม่รับผิดชอบ ต่องานที่รับ มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้บาง ประเด็น และ ไม่ รับผิดชอบต่องาน ที่มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี รับผิดชอบใน มอบหมายเพียง บางส่วน ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี และ รับผิดชอบในงาน ที่มอบหมาย ตั้งใจเรียน ใฝ่เรียนรู้ เอา ใจใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ และร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ ไม่ค่อยตั้งใจ เรียน เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายามใน การเรียนรู้และร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ บางครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจใส่ และ มีความเพียร พยายามในการ เรียนรู้และร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ บ่อยครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายาม การเรียนรู้และ เต็มใจร่วม กิจกรรม การเรียนรู้ทุกครั้ง ตั้งใจและรับผิดชอบใน งานที่มอบหมาย ทำงานด้วยความเพียร พยายาม และอดทน เพื่อให้งานสำเร็จตาม เป้าหมาย ไม่ตั้งใจทำงาน ที่มอบหมาย และเกินเวลาที่ กำหนด ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับ มอบหมายให้ สำเร็จ ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จ มีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้น ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จมีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้นภายใน เวลาที่กำหนด


81 แบบประเมินการออกเสียงคําศัพท ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเกาะ คําชี้แจง ครูผู้สอนประเมินการออกเสียงของนักเรียนและใส่คะแนนในช่องรายการประเมิน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง เลขที่ ชื่อ ความ ถูกตอง (4) ความ คลองแคลว (4) รวมคะแนน (8) ระดับ คุณภาพ เกณฑการประเมิน 8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 6-7 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี 4-5 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ 1-3 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑการใหคะแนนการออกเสียงคําศัพท ความถูกตอง 4 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง 3 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียงเป็นส่วนใหญ่ 2 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องบางส่วน 1 ออกเสียงคำศัพท์ผิดหลักการออกเสียง ความคลองแคลว 4 ออกเสียงคำได้ชัดเจน ไม่ติดขัด 3 ออกเสียงคำได้ค่อนข้างชัดเจน ติดขัดน้อย 2 ออกเสียงคำได้บ้าง แต่ติดขัดเป็นส่วนใหญ่ 1 ออกเสียงคำไม่ได้ และตะกุกตะกัก


82 แผนการจัดการเรียนรู 3 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ รหัสวิชา อ14101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน หนวยการเรียนรูที่ 1 School Day เรื่อง About Myself ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 1 ชั่วโมง สอนโดย โรงเรียนวัดบานเกาะ สอนวันที่.........เดือน.......พ.ศ..... 1. มาตรฐานการเรียนรู / ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้า จังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย ตรงตามความหมายของประโยค และข้อความสั้นๆ ที่ฟังหรืออ่าน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว 2. สาระสําคัญ การแนะนำตัวเอง การพูดบอกสิ่งที่ตนเองชอบ การออกเสียงเกี่ยวกับตัวเลข และสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 ด้านความรู้(Knowledge) - นักเรียนสามารถเขียนคำศัพท์ที่กำหนดได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process) - นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงประโยคที่กำหนดได้


83 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน 4. สาระการเรียนรู Function: about yourself Structure: A : What is your name B : My name is..................... A :How old are you? B : I am ten years old. Vocabulary: Number 1-20 5. สมรรถนะที่สําคัญของผูเรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. กิจกรรมการเรียนรู - การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ MIA 1. ขั้นถามนำก่อนการอ่าน (Priming Questions) - ครูถามคำถามนักเรียน What is your name? How old are you? 2. ขั้นการทำความเข้าใจคำศัพท์ (Understanding Vocabulary) - ให้นักเรียนอ่านบทความในหนังสือเรียนหน้า 7 ข้อ 6 และพูดคุยกับเพื่อนพร้อมหาคำศัพท์ที่ตน ไม่รู้จัก - ครูสอนคำศัพท์เกี่ยวกับตัวเลข Number 1-20 และอ่านออกเสียงให้นักเรียนฟัง หลังจากนั้นให้ นักเรียนจับคู่กับเพื่อน สลับกันนับเลขอ่านออกเสียงด้วยกัน 3. ขั้นการอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the Text)


84 - ให้นักเรียนอ่านบทสนทนาในหนังสือหน้าที่ 7 ข้อที่ 6 นักเรียนและครูร่วมกันอ่านไปทีละ ประโยค โดยคำไหน ประโยคไหน ที่นักเรียนไม่เข้าใจสามารถช่วยกันหาคำศัพท์ได้ หลังจากนั้นคุณครูสอนโครงสร้าง A : What is your name B : My name is..................... A :How old are you? B : I am ten years old. ให้นักเรียนฝึกถาม-ตอบสลับกับเพื่อน 4. ขั้นทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง (Understanding the Text) - ให้นักเรียนทำความเข้าใจเนื้อเรื่องจากนั้นคุณครูสอนนักเรียนอ่านบทความ ในหนังสือเรียน หน้าที่ 7 พร้อมอธิบายความหมาย 5. ขั้นการถ่ายโอนข้อมูลในรูปแบบอื่น (Transferring Information) - ให้นักเรียนเขียนประโยคที่เรียนลงในสมุดเป็นของตัวเอง เช่น Jack is nine years old. 6. ขั้นการทำแบบฝึกหัดต่อชิ้นส่วนประโยคและเรียงโครงสร้างของอนุเฉท - ครูให้นักเรียนแบบฝึก true/false ในหนังสือเรียนหน้าที่ 7 7. ขั้นการประเมินและการแก้ไข (Evaluation and Correcting) - นักเรียนและครูร่วมเฉลยใบงานและแก้ไขให้มันถูกต้อง 7. สื่อการเรียนรู / แหลงการเรียนรู 7.1 หนังสือเรียน smile4 หน้าที่ 7


85 8. การวัดผลประเมินผล รายการวัดและประเมินผล วิธีการประเมิน เครื่องมือ ประเมิน เกณฑการประเมิน ดานความรู (K) - นักเรียนเขียนคำศัพท์ที่ กำหนดได้ ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นักเรียนมีคะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ดานกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่านออก เสียงประโยคที่กำหนดได้ สังเกตการปฏิบัติจริง แบบสังเกตการอ่านออก เสียง นักเรียนมีคะแนนระดับ ดีขึ้นไป ดานคุณลักษณะ (A) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนมีคะแนนระดับ 2 ขึ้นไปจาก Rubric Scoring 3 ระดับ


86 เกณฑการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค พฤติกรรมบ่งชี้ ปรับปรุง 1 ปานกลาง 2 ดี 3 ดีเยี่ยม 4 มีวินัย ปฏิบัติตาม ข้อตกลง ของกิจกรรม และรับผิดชอบ ในงาน ที่มอบหมาย ไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลง และ ไม่รับผิดชอบ ต่องานที่รับ มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้บาง ประเด็น และ ไม่ รับผิดชอบต่องาน ที่มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี รับผิดชอบใน มอบหมายเพียง บางส่วน ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี และ รับผิดชอบในงาน ที่มอบหมาย ตั้งใจเรียน ใฝ่เรียนรู้ เอา ใจใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ และร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ ไม่ค่อยตั้งใจ เรียน เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายามใน การเรียนรู้และร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ บางครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจใส่ และ มีความเพียร พยายามในการ เรียนรู้และร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ บ่อยครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายาม การเรียนรู้และ เต็มใจร่วม กิจกรรม การเรียนรู้ทุกครั้ง ตั้งใจและรับผิดชอบใน งานที่มอบหมาย ทำงานด้วยความเพียร พยายาม และอดทน เพื่อให้งานสำเร็จตาม เป้าหมาย ไม่ตั้งใจทำงาน ที่มอบหมาย และเกินเวลาที่ กำหนด ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับ มอบหมายให้ สำเร็จ ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จ มีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้น ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จมีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้นภายใน เวลาที่กำหนด


87 แบบประเมินการออกเสียงคําศัพท ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเกาะ คําชี้แจง ครูผู้สอนประเมินการออกเสียงของนักเรียนและใส่คะแนนในช่องรายการประเมิน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง เลขที่ ชื่อ ความถูกตอง (4) ความ คลองแคลว (4) รวม คะแนน (8) ระดับ คุณภาพ เกณฑการประเมิน 8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 6-7 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี 4-5 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ 1-3 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑการใหคะแนนการออกเสียงคําศัพท ความถูกตอง 4 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง 3 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียงเป็นส่วนใหญ่ 2 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องบางส่วน 1 ออกเสียงคำศัพท์ผิดหลักการออกเสียง ความคลองแคลว 4 ออกเสียงคำได้ชัดเจน ไม่ติดขัด 3 ออกเสียงคำได้ค่อนข้างชัดเจน ติดขัดน้อย 2 ออกเสียงคำได้บ้าง แต่ติดขัดเป็นส่วนใหญ่ 1 ออกเสียงคำไม่ได้ และตะกุกตะกัก


88 แผนการจัดการเรียนรู 4 กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ รหัสวิชา อ14101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน หนวยการเรียนรูที่ 1 School Day เรื่อง Classroom ชั้นประถมศึกษาปที่ 4 เวลา 1 ชั่วโมง สอนโดย โรงเรียนวัดบานเกาะ สอนวันที่.........เดือน.......พ.ศ..... 1. มาตรฐานการเรียนรู / ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตุผล ต 1.1 ป.4/2 อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้า จังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมาย ตรงตามความหมายของประโยค และข้อความสั้นๆ ที่ฟังหรืออ่าน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว 2. สาระสําคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับวิชาเรียน การขอข้อมูลเกี่ยวกับวิชาที่ชอบการถาม - ตอบเกี่ยวกับวิชาที่ เรียน การอ่านคำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียนการอ่านข้อความและระบุข้อมูลได้ทำให้นักเรียนได้ฝึกใช้ภาษาเพื่อ สื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ และสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารกับบุคคลภายนอกได้อย่างเหมาะสม 3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 ด้านความรู้(Knowledge)


89 - นักเรียนเขียนและบอกความหมายคำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียนได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (Process) - นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงประโยค คำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียนได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน 4. สาระการเรียนรู Vocabulary: Cafeteria, playground, do homework, go to bed, science lab, classroom, art room, gym, library 5. สมรรถนะที่สําคัญของผูเรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด 6. กิจกรรมการเรียนรู - การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ MIA 1. ขั้นถามนำก่อนการอ่าน (Priming Questions) - ครูผู้สอนแสดงภาพเกี่ยวกับวิชาต่างๆในการเรียนแล้วถามคำถามเพื่อทบทวนคำถาม เช่น What is your favourite subject? What has she got on Monday at 11.00? 2. ขั้นการทำความเข้าใจคำศัพท์ (Understanding Vocabulary) - ครูสอนคำศัพท์นักเรียน science lab, classroom, art room, gym, library ฝึกให้นักเรียนอ่านกับเพื่อน ทำความเข้าใจคำศัพท์ 3. ขั้นการอ่านเนื้อเรื่อง (Reading the Text) - ครูสอนนักเรียนอ่านประโยค 1. Jack is in the science lab. 2. Henry is in the classroom with Mr. Parker. 3. Emma is in the art room.


90 4. Catherine is in the gym. 5 John is in the library. หลังจากนั้นให้ฝึกอ่านกับเพื่อนดูความถูกต้องของการออกเสียง 4. ขั้นทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง (Understanding the Text) - นักเรียนดูรูปภาพ ในแบบฝกหัด หนา 5 ขอ 1 Find six words and phrases about school. แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกคำศัพท์ที่คิดว่ารูปภาพต้องการจะสื่อ เมื่อได้คำตอบว่าเป็น รูปอะไรแล้ว ครูให้นักเรียนจับคู่กัน ช่วยกันหาคำที่ซ่อนอยู่ในตารางตัวอักษร (แนวนอน) go to bed, maths, library, homework, art (แนวตั้ง) gym 5. ขั้นการถ่ายโอนข้อมูลในรูปแบบอื่น (Transferring Information) - นักเรียนเล่นเกม Mime Gesture โดยครูขออาสาสมัคร 6 คน ให้ออกมาหน้าชั้นเรียน เพื่อ แสดงท่าทางใบ้คำกริยาที่ครูกำหนดให้ และให้นักเรียนคนอื่นๆ ทายว่าคำกริยาที่อาสาสมัคร ดังกล่าว ทำท่าทางใบ้นั้นสัมพันธ์กับวิชาอะไร เช่น Teacher: What subject is he/she acting? อาสาสมัคร 1 ทำท่าเล่นกีตาร์ และร้องเพลงแบบไม่มีเสียง โดยขยับปากไปมา Students: music อาสาสมัคร 2 ทำท่ากดแป้นพิมพ์ (keyboard) คอมพิวเตอร์ คลิกเมาส์ (mouse) จ้องจอคอมพิวเตอร์ ขยี้ตา Students: computers อาสาสมัคร 3 ทำท่าเล่นกีฬาบาสเกตบอล เลี้ยงลูกบาส เล็งและชู้ตลูกบาสให้ เข้าห่วง Students: P.E. อาสาสมัคร 4 ทำท่านับเลขด้วยนิ้วมือ เกาศีรษะเป็นบางครั้ง Students: maths อาสาสมัคร 5 ทำท่าถือจานสีด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาถือพู่กัน แล้วทำท่าระบาย


91 สีภาพ Students: art อาสาสมัคร 6 ทำท่าทางเทของเหลวใส่ขวดแก้วที่อยู่ในมือทั้ง 2 ข้างไปมา (ผสม สูตรสารเคมี) Students: science Teacher: Excellent! 6. ขั้นการทำแบบฝึกหัดต่อชิ้นส่วนประโยคและเรียงโครงสร้างของอนุเฉท - นักเรียนอ่านตัวอักษรที่กำหนดให้ในกรอบ ในแบบฝกหัด หนา 5 ขอ 2 Write the words เรียงประโยคให้ถูกต้อง 7. ขั้นการประเมินและการแก้ไข (Evaluation and Correcting) - นักเรียนและครูร่วมเฉลยแบบฝึกหัดและแก้ไขให้มันถูกต้อง 7. สื่อการเรียนรู / แหลงการเรียนรู 7.1 หนังสือเรียน smile4 หน้าที่ 5 7.2 แบบฝึกหัด 8. การวัดผลประเมินผล รายการวัดและประเมินผล วิธีการประเมิน เครื่องมือ ประเมิน เกณฑการประเมิน ด้านความรู้ -นักเรียนสามารถเขียนและ บอกความของคำศัพท์ เกี่ยวกับวิชาที่เรียนได้ ทำแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นักเรียนมีคะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ดานกระบวนการ (P) - นักเรียนสามารถอ่านออก เสียงประโยค คำศัพท์ เกี่ยวกับวิชาที่เรียนได้ สังเกตการปฏิบัติจริง แบบสังเกตการอ่านออก เสียง นักเรียนมีคะแนนระดับ ดีขึ้นไป


92 ดานคุณลักษณะ (A) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทํางาน สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนมีคะแนนระดับ 2 ขึ้นไปจาก Rubric Scoring 3 ระดับ เกณฑการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค พฤติกรรมบ่งชี้ ปรับปรุง 1 ปานกลาง 2 ดี 3 ดีเยี่ยม 4 มีวินัย ปฏิบัติตาม ข้อตกลง ของกิจกรรม และรับผิดชอบ ในงาน ที่มอบหมาย ไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลง และ ไม่รับผิดชอบ ต่องานที่รับ มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้บาง ประเด็น และ ไม่ รับผิดชอบต่องาน ที่มอบหมาย ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี รับผิดชอบใน มอบหมายเพียง บางส่วน ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงได้ดี และ รับผิดชอบในงาน ที่มอบหมาย ตั้งใจเรียน ใฝ่เรียนรู้ เอา ใจใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ และร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ ไม่ค่อยตั้งใจ เรียน เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายามใน การเรียนรู้และร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ บางครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจใส่ และ มีความเพียร พยายามในการ เรียนรู้และร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ บ่อยครั้ง เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนเอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายาม การเรียนรู้และ เต็มใจร่วม กิจกรรม การเรียนรู้ทุกครั้ง ตั้งใจและรับผิดชอบใน งานที่มอบหมาย ทำงานด้วยความเพียร พยายาม และอดทน เพื่อให้งานสำเร็จตาม เป้าหมาย ไม่ตั้งใจทำงาน ที่มอบหมาย และเกินเวลาที่ กำหนด ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับ มอบหมายให้ สำเร็จ ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมายให้ สำเร็จ มีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้น ตั้งใจและ รับผิดชอบ ในการทำงานที่ ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จมีการ ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้นภายใน เวลาที่กำหนด


93 แบบประเมินการออกเสียงคําศัพท ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเกาะ คําชี้แจง ครูผู้สอนประเมินการออกเสียงของนักเรียนและใส่คะแนนในช่องรายการประเมิน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง เลขที่ ชื่อ ความถูกตอง (4) ความ คลองแคลว (4) รวม คะแนน (8) ระดับ คุณภาพ เกณฑการประเมิน 8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 6-7 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี 4-5 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ 1-3 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑการใหคะแนนการออกเสียงคําศัพท ความถูกตอง 4 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง 3 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียงเป็นส่วนใหญ่ 2 ออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องบางส่วน 1 ออกเสียงคำศัพท์ผิดหลักการออกเสียง ความคลองแคลว 4 ออกเสียงคำได้ชัดเจน ไม่ติดขัด 3 ออกเสียงคำได้ค่อนข้างชัดเจน ติดขัดน้อย 2 ออกเสียงคำได้บ้าง แต่ติดขัดเป็นส่วนใหญ่ 1 ออกเสียงคำไม่ได้ และตะกุกตะกัก


Click to View FlipBook Version