เศรษฐศาสตร์ ม.3
ใบความรู้
ปัญหาการว่ างงาน
UNEMPLOYMANT
ประเภทและสาเหตุการว่างงาน
ผลกระทบของการว่างงาน
แนวทางการแก้ปัญหาการว่างงาน
นายพีระพัฒน์ พรหมเกิด
ประะเภทและ
สาเหตุการว่างงาน
การว่างงาน คือ
การว่างงาน (Unemployment) คือ ภาวะบุคคลที่อยู่ในวัยทำงาน
(ช่วงอายุ 15 - 60 ปี) มีความสามารถในการทำงานและต้องการที่จะทำงาน
ประเภท 1.การว่างงานโดยเปิดเผย
ของ (Open Unemployment)
การว่างงาน
2.การว่างงานแอบแฝง
(Disguised Unemployment)
1.การว่างงานโดยเปิดเผย หมายถึง บุคคลที่ไม่มีงานทำในช่วงเวลาที่ทำการสำรวจ
(Open Unemployment) ซึ่งอาจจะเป็นการว่างงานชั่วคร่าวหรือว่างงานเป็นระยะ
ยาวนานก็ได้
1.1การว่างงานชั่วคราว(Frictional Unemployment)
1.2การว่างงานจากโครงสร้างเศรษฐกิจ(Structural Unemployment)
1.3การว่างงานตามฤดูกาล(Seasonal Unemploymant)
1.4การว่างงานเนื่องจากวัฎจักรเศรษฐกิจ(Cyclical Unemployment)
1.การว่างงานโดยเปิดเผย
(Open Unemployment)
1.1การว่างงานชั่วคราว(Frictional Unemployment)
การไม่มีงานทำในช่วงสั้น เกิดจากหลายปัจจัย เช่น
1.ไม่รู้ว่ามีงานให้ทำ
2.รู้ว่ามีงานแต่ไม่สามารถไปทำงานได้
3.อยู่ในช่วงป่วย
1.2การว่างงานจากโครงสร้างเศรษฐกิจ(Structural Unemploymen
เกิดการเปลี่ยนเเปรงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ทำให้แรงงาน
ปรับตัวไม่ทัน เช่น
1.การย้ายแหล่งอุตสาหกรรม
2.การเปลี่ยนแปรงในรสนิ ยมของผู้บริโภค
3.การใช้เทคโนโลยี
1.3การว่างงานตามฤดูกาล(Seasonal Unemploymant)
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ เช่น การปลูกข้าว
ที่ต้องปลูกตามฤดูกาล หรือการท่องเที่ยวที่จะมีงานแค่ใน
ช่วงเทศกาลหรือในช่วงการท่องเที่ยวเท่านั้ น
1.4การว่างงานเนื่ องจากวัฎจักรเศรษฐกิจ(Cyclical
Unemployment)
ช่วงเศรษฐกิจรุ่งเรืองมีการลงทุน มีการว่าจ้าง ส่วนในช่วง
เศรษฐกิจหดตัวการลงทุนก็จะน้อย การจ้างงานก็จะน้อยตามไป
ด้วยซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดวนไปเป็นวัฏจักร
2.การว่างงานแอบแฝง หมายถึง เป็นการว่างงานที่มองไม่เห็นว่ามีการว่าง
(Disguised Unemployment) งาน คือ แรงงานยังคงทำงานอยู่ แต่ทำงานใน
ระดับที่ต่ำกว่าความรู้ ความสามารถของตน
สาเหตุของ
ปัญหาการว่างงาน
มีเทคโนโลยี ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
เข้ามาแทนที่มนุษย์ บริษัทขาดทุน
ทำให้ต้องโดนเลิกจ้าง
ต้องเลิกจ้างพนั กงาน
เพื่อพยุงบริษัทเอาไว้
เรียนในสาขาวิชาที่ เกิดโรคระบาด
มีความต้องการของ จนทำให้
ตลาดแรงงานน้ อย ไม่สามารถ
ประกอบอาชีพได้
สงครามการค้า การเข้าไม่ถึงงาน
ระหว่างจีนกับสหรัฐ ไม่ทราบว่ามีการจ้างงาน
ทำให้เศรษฐกิจโลก หรือเจองานแต่ไม่สามารถ
ไปทำงานได้เพราะอยู่ไกล
เกิดการชะลอตัว
ผลกระทบ
จากการว่างงาน
การออมและการลงทุนลดลง
เมื่อเกิดการว่างงานหรือตกงานประชาชนก็จะขาดรายได้ เมื่อไม่มีรายได้การที่จะ
เกิดการออมเงินก็ไม่มีตามไปด้วยแล้วเมื่อเศรษฐกิจไม่มีการที่จะเกิดการลงทุน
ต่างๆ ก็ต้องเกิดการชะงักตามไปด้วยนั้ นเอง
รัฐเก็บภาษี ได้น้ อยลง
เมื่อคนไม่มีงานทำคนเหล่านั้ นก็จะไม่มีรายได้ เมื่อไม่มีรายได้การเอาเงิน
ออกมาใช้จ่ายก็น้ อยลง เมื่อเงินถูกเอามาจ่ายน้ อยลงรัฐก็เก็บภาษีได้น้ อยลง
การเมืองขาดเสถียรภาพ
เมื่อประชาชนตกงาน เกิดการว่างงานขาดรายได้ ก็ย่อมทำให้เกิดความไม่
พอใจในรัฐบาลในการบริหารการจัดการจนนำไปสู่ การชุมนุมประท้วง
เกิดปัญหาสุขภาพ
เกิดปัญหาความเครียดจากการตกงาน
และหางานทำไม่ได้จนนำไปสู่ ปัญหาอื่นๆ
ปัญหายาเสพติด
การขาดรายได้จากการเป็นคนว่างงานอาจจะทำให้คนบางคนหันไปยุ่งเกี่ยวกับ
ยาเสพติด เพราะเป็นช่องทางที่หาเงินได้ง่ายและไว หรือบางคนอาจจะใช้ยาเสพ
ติดเพื่อบรรเทาความเครียดจากการว่างงาน
ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว
ปัญหาเรื่องการว่างงานนั้ นย่อมสร้างความเครียดและความเครียดนั้ นเองก็
อาจจะไปลงกับครอบครัวหรืออาจเกิดการทะเลาะกันเรื่องงานจนนำไปสู่
ปัญหาการหย่าร้างกัันได้ในที่สุด
ปัญหาอาชญากรรม
การไม่มีรายได้นั้ นส่งผลเสียอย่างร้ายแรง ยิ่งสำหรับคนที่หมดหนทางที่จะ
หางานแล้วอาจจะเลือกทางผิดโดยการไปก่ออาชญากรรม การลักขโมย
การปล้น หรืออื่นๆได้
การใช้ประโยชน์ จากแรงงานได้ไม่เต็มที่
เมื่อเกิดการว่างงานหรือตกงานประชาชนก็จะขาดรายได้ เมื่อไม่มี
รายได้การที่จะเกิดการออมเงินก็ไม่มีตามไปด้วย แล้วเมื่อเศรษฐกิจ
ไม่มีการที่จะเกิดการลงทุนต่างๆ ก็ต้องเกิดการชะงักตามไปด้วยนั้ น
เอง
แนวทาง
การแก้ปัญหาการว่างงาน
ใช้นโยบายการเงิน เช่น
- ซื้อคืนพันธบัตร เพื่อนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
- ลดเงินสดสำรองของธนาคร
- ลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เกิดการลงทุน
การเพิ่มปริมาณ อัตราดอกเบี้ย การลงทุนใน
เงินในประเทศ ลดลง ประเทศเพิ่มขึ้น
มีการผลิตและ รายได้ประชาชาติ
ขยายตัวมากขึ้น
การจ้างงานมากขึ้น
ใช้นโยบายการคลัง
รัฐลดการ ประชาชนมี รัฐเพิ่มการใช้จ่าย เกิดการจ้างงาน
จัดเก็บภาษี รายได้เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างนโยบาย
ที่จะช่วยแก้ปัญหาการว่างงาน
สร้างคุณค่าเพิ่มให้ทรัพยากรมนุษย์
การฝึกฝนทักษะใหม่หรือเพิ่มพูนทักษะเดิมเพื่อให้เหมาะกับตำแหน่ งงานว่างใน
อุตสาหกรรมยุคใหม่ เช่น ทักษะด้านดิจิตอล การจัดการคลังสินค้า
อุดหนุนให้เกิดการจ้างงาน
นโยบายอุดหนุนการจ้างงานคือการสร้างแรงจูงใจทางการเงินให้นายจ้างเปิดตำแหน่ งงานเพื่อจ้าง
พนั กงานใหม่ โดยรัฐสนั บสนุนผ่านการชดเชยเงินเดือนบางส่วน เสนอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ให้คำปรึกษา
จากผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงมอบเงินให้เปล่า
อุดหนุนให้แรงงานหางานทำ
เช่น ระบบที่เรียกว่า Workfare ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างการทำงาน (Work) และสวัสดิการ (Welfare)
โดยรัฐบาลจะมอบสวัสดิการให้แก่ครอบครัวที่ยากจน ในขณะที่คนในครอบครัวนั้ นจะต้องมาทำงานให้
โครงการระยะสั้นในท้องถิ่นซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างถนน ซ่อมบำรุง
ระบบชลประทาน หรือการปลูกป่า
เพิ่มโอกาสจับคู่แรงงานและนายจ้าง
เช่น ประเทศไอร์แลนด์ได้ทำการปฏิรูปกระบวนการจัดหางานทั้งหมด โดยให้ผู้ขอรับผลประโยชน์ การ
ว่างงานต้องทำแบบสอบถามเพื่อประเมินระดับความน่ าจะเป็นที่จะหางานได้
(Probability of Exit: PEX) สำหรับผู้ได้คะแนนสูงจะได้รับความช่วยเหลือในการหางานที่ตรงกับความ
สามารถ ส่วนกลุ่มที่ได้คะแนนระดับกลางจะต้องเข้ากลุ่มรับคำปรึกษาเพื่อหาโครงการเพิ่มศักยภาพ
ก่อนจะมองหานายจ้าง ขณะที่คนที่ได้คะแนนต่ำหรือว่างงานติดต่อกันเกิน 12 เดือน จะได้รับคำ
ปรึกษาตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญที่ออกแบบแผนพัฒนาความสามารถและเส้ นทางอาชีพส่ วนบุคคล
แรงจูงใจไม่ให้พนั กงานถูกเลิกจ้าง
กลไกบรรเทาผลกระทบคือนโยบายป้องกันไม่ให้พนั กงานถูกเลิกจ้างโดยใช้แรงจูงใจทางการเงิน
เช่น การอุดหนุนเงินเดือนพนั กงานภาคเอกชนโดยรัฐบาลในช่วงเวลาที่บริษัทเผชิญปัญหาสภาพคล่อง
บรรณานุกรม
กระมล ทองธรรมชาติและคนอื่นๆ. หนั งสือเรียนรายวิชาพื้นฐานสังคมศึกษาศาสนา
และวัฒนธรรม ม.3. กรุงเทพ ฯ : บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท.จำกัด,2551
ประภัสสร คำสวัสดิ์. ระบบเศรษฐกิจกับปัญหาการว่างงาน. วารสารวิชาการศรีปทุม
ชลบุรี 2551 :13-25
มยุรี มิงวรวงศ์. การว่างงาน. (ระบบออนไลน์ ). สืบค้นเมื่อ 7 ธันวาคม 2564,
แหล่งที่มา :http://119.46.166.126/self_all/selfaccess9/m3/200/social_lesson9
สุดารัตน์ พิมลรัตนกานต์. เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น,2557