51
การทํางานของระบบ Mechanical Shut Down กอนทจ่ี ะ Start เครอ่ื งซ่ึงมีระบบ
Mechanical Shut Down สิ่งแรกทตี่ อ งทําคือ เปด ล้นิ ปดอากาศ (Air Shut Down Valve) เสียกอ น
ถาลิน้ ปดอยจู ะ Start เคร่ืองไมตดิ เม่อื เครื่องติดแลว ล้นิ ปดอากาศน้ีจะตอ งเปด คางไวจ นกวากาํ ลังดันใน
ระบบน้าํ มันหลอเพียงพอที่จะยึดสลักของลน้ิ ปด อากาศใหอ ยูในตําแหนงเปด ในระหวา งท่เี คร่ืองเดนิ อยู
กาํ ลังดนั นํา้ มันหลอตกตา่ํ กวา ที่ตงั้ ไวใน Bellow สปรงิ ใน Bellow จะดดี สลัก Air Shut Down Valve
ปด อากาศเขาเครอ่ื งเครื่องจะดับ ถาระบบระบายความรอนน้าํ จืดรอ นผิดปกติ หรอื นํ้าจืดขาดระบบ
เครื่องจะรอ น Copper Plug กจ็ ะรอ นและจะไปดนั ลิน้ Temperature Sening เปด ใหนํ้ามันหลอใน
ระบบ Shut Down ไหลลงหอ งแครง ก กําลังดนั ใน Bellow จะตกสปริงของ Bellow จะดึงสลักปด ไมใ ห
อากาศเขาเครอ่ื ง ถา รอบเครอ่ื งเกิน Overspeed Governor กจ็ ะเปด ใหน ํ้ามนั หลอลง Sump สปริงของ
Bellow ก็จะดึงลิ้นอากาศปดใหเ ครอื่ งดับ
หมายเหตุ เมอ่ื เคร่อื งหยดุ ดว ยการ Shut Down เคร่อื งจะสตารทไมไ ด จะตองใชเครอื่ งมอื พเิ ศษทาํ
ให Air Shut Down Valve เปดเสียกอน และตองหาสาเหตุทท่ี าํ ใหเครื่องหยุดเสียกอ น การปรบั แตง
Mechanical Shut Down ปรับแตง ท่จี าํ เปน มีเพยี งกาํ ลงั ดนั น้ํามนั หลอใน Bellow และ Overspeed
Governor สวน Temperature Sening Valve สามารถถอดออกเปล่ยี นไดเ มื่อทํางานไมถ ูกตอง
การปรบั แตงกาํ ลังดันนา้ํ มนั หลอใน Bellow ทําตามขนั้ ตอนดังนี้ ติดเคร่ืองจนถงึ อุณหภูมิใชงาน
(160°-185°ฟ.) และกาํ ลงั ดันนาํ้ มันหลอคงที่ จากน้นั ลดรอบเครอ่ื งลงชา ๆจน Mechanical Shut
Down ทาํ งาน จดกําลงั ดันน้ํามันหลอไว (ควรประมาณ 5-10 ปอนด/ตร.นว้ิ ท่ี 450-600 รอบ/นาทหี รือ
กองฝก การชา งกล กองการฝกกองเรอื ยุทธการ
52
15-20 ปอนด/ ตร.น้ิวที่ 1400 รอบ/นาท)ี ถาจาํ เปน ตอ งปรับคลาย Lock Nut บน Bellow และหมนุ
Adjusting Screw ตามเขม็ นาฬกิ า เพอื่ เพิ่มกําลงั ดนั หรือทวนเข็มนาฬกิ า เพือ่ ลดกาํ ลงั ดันเม่ือไดก าํ ลงั
ดนั ตามตองการแลว กวด Lock Nut
หมายเหตุ ต้งั กําลังดันนา้ํ มนั หลอ ใน Bellow ใหใกลเ คียงกับกาํ ลงั ดนั สงู สดุ ขณะที่เครอ่ื งเดนิ รอบ
ตํา่ สดุ ท่กี ําหนดไวส ําหรับเคร่อื งทีใ่ ช Dual Speed Governor ใหต้ังกาํ ลงั ดันน้าํ มันหลอใหเ ทากบั
Governor ตรวจการทํางานของ Temperature Sening Valve โดยถอดฝาครอบดา นบนของหมอ ระบาย
ความรอน ขณะท่เี คร่ืองกาํ ลงั ทาํ งานอยู และจดอุณหภมู ขิ องนํา้ ที่ออกจาก Temperture Sening Valve
ล้ินปดอากาศจะตองปด และหยดุ เคร่ืองยนตทีอ่ ณุ หภูมขิ องนา้ํ ระบายความรอ นอยูระหวาง 200°-210°
ฟ. ถาเครือ่ งยนตไ มห ยุดในยา นอุณหภมู ดิ งั กลา ว (200°-210°ฟ.) ใหเ ปลี่ยน Temperature Sening
Valve ถา เครือ่ งยนตหยดุ ท่อี ุณหภมู นิ ้าํ ระบายความรอนต่าํ กวา 200°ฟ. ตรวจการไหลวนเวยี นของนํ้า
ระบายความรอ นทผ่ี าน Plug และ Adaptor ถาการไหลวนเวียนของนา้ํ ปกติ ก็ใหเ ปลี่ยน Temperature
Sening Valveใหม
หมายเหตุ ถา เครือ่ งยนตห ยุดกอ นใหล องตรวจดูที่ Copper Plug สปริงและ Plunger อาจจะคางได
การปรบั แตง Overspeed Governor เดินเครอื่ งจนถงึ อุณหภมู ิใชง าน จากนน้ั เพิม่ รอบเครอื่ ง
จนถงึ ความเร็วรอบทต่ี อ งการ จะตงั้ Overspeed แลว จึงคลายนัตล็อคท่ี Ajusting Screw ของ
Overspeed Governor หมุน Ajusting Screw (ตามเขม็ นาฬิกา เพ่มิ ทวนเข็มนาฬิกา ลด)เสรจ็ แลว
กวดนัตล็อคใหแนน
2. Automatic Electrical Shut Down System
การหยดุ เคร่อื งโดยอัตโนมัติดวยระบบไฟฟา ดงั แสดงในรูป ปอ งกนั เครอ่ื งยนตข าดนํ้าระบาย
ความรอน,น้ําระบายความรอนมีอุณหภูมิสูงเกินเกณฑ,ขาดกําลังดันน้ํามันหลอ ล่ืนหรอื ความเร็วสงู เกนิ
เกณฑ เม่ือปรากฏการณอยางหน่งึ อยางใดดงั กลาวแลว เกิดขนึ้ กบั เครอื่ งยนตสวทิ ชจ ะปด วงจรไฟฟา
และปลอ ยใหก ระแสไฟฟา ไหลไปทีส่ วิทชโ ซลินอยด โซลินอยดจ ะทาํ งานปลอ ยใหก ระเดอ่ื งลิน้ ปด อากาศ
ตกลง ทาํ ใหเครือ่ งยนตห ยดุ เดนิ
การทาํ งาน
วงจรไฟฟา จะไมใหก ระแสไฟฟาไหลเมอ่ื เครอื่ งยนตเ ดนิ ในสภาพปกติ เมือ่ เรมิ่ เดนิ เครื่องยนต
สวิทชก ําลังดันนาํ้ มันเชื้อเพลงิ จะปดวงจร เมอ่ื กาํ ลงั ดันเพม่ิ ข้ึนประมาณ 20 ปอนด/ ตร.นวิ้ และเมือ่
ความเร็วของเครอื่ งยนตเ พมิ่ ข้นึ สวิทชกาํ ลงั ดนั นํ้ามันหลอ จะเปดวงจรเมอ่ื กาํ ลังดันนํ้ามนั หลอประมาณ
27 ปอนด/ ตร.น้วิ และทคี่ วามเร็ว 1,000-1,100 รอบ/ นาที สวทิ ชใ น Overspeed Governor จะปด วง
จร และในขณะเดียวกัน สวิทชอ ณุ หภมู ินาํ้ จืดจะเปดวงจร
ถา กาํ ลังดนั นา้ํ มันหลอ ตกลงตํ่ากวา 27 ปอนด/ ตร.น้วิ สวทิ ชก ําลังดนั นาํ้ มันหลอ จะปดวงจร
และปลอยใหกระแสไฟฟาไหลไปท่โี ซลินอยด สง อาการทางกลไปปด Shut Down ทาํ ใหเ คร่อื งหยุด
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรอื ยุทธการ
53
ถา เครื่องยนตขาดนํา้ ระบายความรอน หรือน้าํ ระบายความรอ นมีอณุ หภมู มิสูงขึน้ ถึงประมาณ
203°ฟ. สวทิ ชอ ุณหภมู นิ ้าํ จืดจะปดวงจร ทําใหไ ฟฟาไหลครบวงจร สง อาการทางกลไปทาํ การหยุด
เครอื่ ง
สวทิ ชอณุ หภูมนิ า้ํ จืด ประกอบดว ยลิน้ รับอาการดว ยอุณหภูมิ (Temperature Sening Valve)
และไมโครสวทิ ช (Micro Switch) ล้นิ หนาสมั ผัสปลกั๊ ทองแดง ประกอบย่ืนเขา ไปทท่ี อทางออกของแกส
เสยี นํ้าทไ่ี หลวนเวียนจะผา นตวั ลิ้นหนาสมั ผสั โดยตรง เมื่ออณุ หภูมนิ ้าํ จดื เพม่ิ ข้ึนประมาณ 203°ฟ.ตัว
ลิน้ จะปด หนาสมั ผสั ในไมโครสวิทช และปลอยใหกระแสไหลครบวงจรของระบบ ถาขาดนํ้าระบายความ
รอ น (นาํ้ แหง) ความรอนของแกส เสยี จะสง ผานไปท่ปี ลั๊กทองแดงไปยังลน้ิ รับอาการดวยอุณหภูมิ และ
ทาํ ใหว งจร Shut Down มีกระแสไฟไหล ทาํ การหยดุ เครื่องเชนเดียวกนั
ถาความเรว็ ของเครอื่ งยนตเ พ่มิ สูงขน้ึ เกนิ เกณฑท ่ีไดต ั้งไว สวทิ ชของเครือ่ งควบคมุ ความเรว็ จะ
ปดวงจร ทาํ ใหก ระแสไฟฟาไหลครบวงจร สงอาการทางกลไปหยุดเคร่อื ง เม่อื เคร่อื งยนตหยุด ความเรว็
ลดลง จะเปดวงจร สวทิ ชข องเครอื่ งควบคมุ ความเร็ว กาํ ลงั ดันนํ้ามนั หลอ และนา้ํ มนั เชือ้ เพลงิ ลดลง
สวทิ ชก าํ ลังดันน้ํามนั เช้อื เพลงิ จะเปดวงจร และสวทิ ชก าํ ลังดันน้ํามนั หลอจะปดวงจร จะไมม ีกระแสไฟ
ฟา ไปเขาวงจรโซลินอยด
สาเหตขุ องการหยุดเครื่องโดยวิธหี นงึ่ วิธใี ดดงั กลา วแลว จะตอ งแกไขเสียกอน กอนทจี่ ะทําการ
เดนิ เครื่องตอไป ลิ้นปดอากาศจะตอ งต้งั ใหม ในตาํ แหนง เปดกอนเสมอ กอนท่ีจะทาํ การเร่มิ เดินเครื่อง
ยนต
ในเครอื่ งยนตบางเคร่อื งจะประกอบ Hot Wire Relay และสวิทชกาํ ลงั ดันนํ้ามนั หลอรวมกับ
ระบบหยุดเครอ่ื งอตั โนมัติดว ยไฟฟา (ตามรปู )
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรอื ยทุ ธการ
54
ในบางครง้ั กําลังดนั น้าํ มันเช้อื เพลงิ จะสงู ข้นึ อยา งรวดเร็ว สวทิ ชก าํ ลังดนั นาํ้ มันเชอ้ื เพลิงจะปด
วงจรกอ นทีส่ วิทชก าํ ลังดนั นํา้ มันหลอ จะเปดวงจร จะสง อาการไปทําใหร ะบบหยุดเคร่อื งโดยอัตโนมตั ิ ทํา
การหยุดเครื่องตวั Hot Rire Relay จะทําหนา ท่หี นว งเวลาการปด วงจรของสวิทชก าํ ลังดันน้าํ มันเชือ้
เพลงิ ไว 3 ถึง 10 วินาที เพ่ือคอยใหกาํ ลงั ดนั นํ้ามันหลอสูงขึน้ เปดหนาสมั ผัสท่สี วทิ ชกาํ ลังดันน้ํามันหลอ
เมอื่ กาํ ลังดนั น้ํามนั หลอ ตกลงตา่ํ กวา 10 ± 2 ปอนด/ ตร.นว้ิ หนาสัมผัสในสวิทชกําลังดนั น้ํามัน
หลอ จะปดวงจร กระแสไฟฟา จะไหลผา น Hot Wire Relay ระยะเวลา 2-3 วินาทกี อน Hot Wire
Relay จะรอนเปน เวลาทเี่ พยี งพอท่จี ะทําใหหลีกเลีย่ ง การหยุดเคร่ืองยนตดวยระบบน้ี อนั เนื่องมาจาก
กาํ ลงั ดันน้ํามันหลอ ตํ่า หรอื โดยเหตทุ ีม่ ีฟองอากาศในระบบ หรือหนวงเวลาชวั่ ขณะในการทาํ งานรวมกนั
ของสวิทชก าํ ลังดนั นํา้ มันหลอ กบั สวิทชกําลงั ดนั นํา้ มนั เชอ้ื เพลิง เม่อื ทําการเรม่ิ เดิน หรอื หยดุ เครือ่ งยนต
การติดต้งั ระบบหยุดเครอื่ งโดยอัตโนมตั ิน้ัน จะใชแ บบสวทิ ชอณุ หภมู ิน้ําจดื สงู ซึ่งอาจประกอบ
ไวใ นทอ ทางนาํ้ จดื หรอื ใชแ บบล้ินรบั อาการอุณหภูมิรวมกบั Micro Switch ซึง่ อาจประกอบไวท ่ที อ ทาง
แกส เสยี ออกก็ได
ในระบบหยุดเครื่องอัตโนมตั ดิ วยระบบไฟฟาท่ีใชลนิ้ รับอาการอณุ หภูมิ และปล๊กั ทองแดงที่ใช
ในแบบทางกลไกสามารถนาํ มาใชร วมได โดยนําสวทิ ชกาํ ลงั ดนั นํา้ มันหลอ มาตดิ ต้งั ในทอ ทางของน้าํ มัน
หลอ กบั ลน้ิ ปด -เปด เมอื่ อณุ หภมู ิของนํ้าจืดรอนเพ่ิมขนึ้ ตวั ลน้ิ ก็จะเปด ปลอ ยใหน ํ้ามนั หลอ ลนื่ ไหลกลับ
ไปหอ งแครง ก เปนการลดกาํ ลังดนั นํา้ มันหลอ สวทิ ชก าํ ลงั ดนั นาํ้ มันหลอ จะปดวงจรปลอ ยกระแสไฟฟา
ไหลไปเขา ตัวโซลินอยด ทาํ การหยุดเครื่อง กําลงั ดนั นาํ้ มันหลอต่ําจะเปน สาเหตุทาํ ใหห นา สัมผสั ของส
วทิ ชกําลังดนั นํ้ามันหลอ ปดวงจรหยดุ เคร่ืองยนต
3. ระบบสญั ญาณเตอื น (Alarm System)
ระบบสญั ญาณเตือน ตามรูปท6่ี คลายๆ กับระบบหยุดเคร่ืองโดยอตั โนมัติดว ย ระบบไฟฟา แต
ใชสญั ญาณระฆงั หรือไซเรนซ แทนล้นิ ปดอากาศหยุดเคร่อื ง สญั ญาณจะตองเตอื นเมือ่ เครอ่ื งยนตเ ดิน
ใชก าร ถา เครื่องยนตมคี วามรอ นสงู หรอื กาํ ลังดนั นา้ํ มนั หลอ ตาํ่ กวา ทไ่ี ดกาํ หนดไว
เมอื่ เร่ิมเดินเคร่อื งยนต กาํ ลงั ดันน้ํามนั หลอ จะเปด หนา สัมผสั สวทิ ชกาํ ลงั ดนั น้ํามนั หลอ (กาํ ลงั
ดันทจี่ ะเปด วงจรบอกไวท่ฝี าครอบสวิทช) สวิทชส ัญญาณเตอื นจะตองตง้ั ดวยมือเม่ือตองการใหท าํ งาน
สวิทชอุณหภมู ินา้ํ จดื เปน แบบปกตเิ ปด เม่อื นํ้าระบายความรอ นของเคร่ืองยนตเ พ่มิ ข้นึ 200-205° ฟ.
สวิทชอ ุณหภูมนิ ํ้าจืดจะปดวงจร ทาํ ใหก ระแสไหลครบวงจร ทาํ ใหระฆงั หรือไซเรนซดังขน้ึ และในทํานอง
เดียวกนั ถากําลังดนั น้ํามนั หลอ ตกตํ่าลงกวาท่ไี ดต้ังไว ทส่ี วทิ ชกําลงั ดันนํา้ มนั หลอสวิทชก ําลังดันนา้ํ มัน
หลอจะปดวงจรทาํ ใหร ะฆังหรอื ไซเรนซด ังเชน กัน สญั ญาณระฆงั หรือไซเรนซ จะดงั ตอเน่อื งกันไปตลอด
จนกวา จะไปหมุนสวทิ ชสัญญาณในตาํ แหนง ปด สวิทชสญั ญาณควรอยใู นตําแหนงปดกอ นทีจ่ ะหยดุ
เครื่อง เพราะการลดกําลงั ดนั นาํ้ มันหลอจะทาํ ใหสวิทชกําลงั ดันนา้ํ มนั หลอปดวงจร ทาํ ใหว งจรสญั ญาณ
เตือนครบวงจร ระฆงั หรอื สญั ญาณไซเรนซจ ะดังขึ้น
ถา หากมสี ัญญานระฆงั หรือไซเรนซดังขึน้ ในขณะท่ีกาํ ลังเดินเครอื่ งใชการอยู ใหหยดุ เครอ่ื ง
ยนตท นั ที ตรวจหาสง่ิ ท่ีผดิ ปกติ และแกไขใหเรียบรอยกอนท่จี ะเริม่ เดนิ เคร่ืองครั้งตอไป
กองฝก การชางกล กองการฝกกองเรือยทุ ธการ
55
ระบบสัญญาณเตือนอาจจะนํามาประกอบใชในระบบการหยุดเครื่องโดยอัตโนมัติดวยระบบ
ไฟฟา ตามรปู ในระบบน้ี ถาเกิดเหตุขดั ของขน้ึ เครอ่ื งจะหยดุ สัญญาณเตอื นจะดงั ขนึ้ เพ่อื เตอื นผูใ ช
เครอื่ ง สญั ญาณเตือนจะดังอยอู ยางตอเนอื่ ง จนกวาผใู ชเคร่ืองจะกดปมุ เพื่อปลดวงจรรเี รย ระบบ
สญั ญาณเตือนดงั รปู ที8่ จะประกอบดวยลิน้ รับอาการอุณหภูมิ สวิทชกาํ ลงั ดนั นํ้ามนั หลอ ตาํ่ ,ลิ้น
ความเร็วสูงเกินเกณฑ ซ่ึงใชในระบบหยุดเคร่ืองดว ยระบบกลไก
เมอ่ื เครื่องเร่ิมเดนิ สวิทชกาํ ลังดนั นํ้ามนั หลอ จะเปดวงจร เม่ือมีกําลังดันนา้ํ มันหลอ 10 ปอนด/
ตร.น้วิ และสวิทชกาํ ลงั ดนั นํา้ มนั เชื้อเพลิงจะปด วงจร เมือ่ มีกําลังดันนํา้ มันเชอื้ เพลงิ 20 ปอนด/ ตร.นิว้
ถา เครือ่ งยนตร อ นจัด หรอื ขาดนํ้าระบายความรอ น ล้นิ รับอาการอณุ หภูมสิ ูง จะเปดลิ้นและปลอ ยใหน าํ้
มันหลอ ไหลกลบั ลงหอ งแครงก การลดกําลังดนั นํ้ามันหลอ ตาํ่ ลง หนา สมั ผสั ท่สี วิทชก ําลงั ดนั น้ํามันหลอ
จะปด วงจร ทําใหวงจรสัญญาณมีกระแสไฟฟา ไหล เพือ่ ทําใหเ กดิ สัญญาณเตอื นการขาดกาํ ลังดันนํา้ มนั
หลอ ของเครอ่ื งยนต หรอื ความเรว็ ของเครอ่ื งยนตเกนิ เกณฑที่กาํ หนด จะทาํ ใหล้นิ นํ้ามันหลอและลิน้
ความเร็วสูงเกินเกณฑปด วงจร ทาํ ใหวงจรสัญญาณเตอื นทาํ งาน เม่อื วงจรสญั ญาณเตอื นทํางาน ระฆงั
หรอื ไซเรนซจะดังตอ ไปอยา งตอ เน่ืองจนกวาผใู ชเ ครื่องจะมาหยุดเครือ่ ง
ในขณะเครือ่ งยนตหยดุ เดิน กําลงั ดนั นา้ํ มันเช้อื เพลงิ จะลดลง สวทิ ชก าํ ลงั ดนั นา้ํ มันเช้ือเพลิงจะ
เปด วงจรไฟฟา กอนทก่ี าํ ลงั ดนั นํ้ามันหลอ ลดลง จะตอ วงจรไฟฟา ซงึ่ จะทาํ ใหว งจรสญั ญาณทํางาน
ในเครอ่ื งยนตแ บบ 16V-71 สวนประกอบของโลหะควบคูทที่ อ แกสเสยี และสวทิ ชอณุ หภมู ิได
รับการปอ งกันจากน้ําระบายความรอนของเครอื่ งยนตไหลผาน ในระบบนี้ นํ้าระบายความรอนจะไหล
วนเวียนรอบๆสวนประกอบของสวทิ ชปองกนั สวทิ ชท าํ งานจากการสง ตอความรอนจากแกสเสีย ดังน้ัน
สวิทชน ี้จะไมแ สดงการทาํ งาน ถาหากนํา้ ระบายความรอนยังไหลวนเวียนตามปกติ สวทิ ชจะทาํ งานก็ตอ
เม่ืออุณหภมู ิทางสงของนํา้ ระบายความรอ นสูงข้นึ ถึง 200-205°ฟ.
สวิทชกําลังดนั นา้ํ มันหลอ ทางดานกาํ ลงั ดนั ตาํ่ และล้นิ ความเรว็ สูงเกนิ เกณฑ จะทาํ งานทาง
สัญญาณเตอื น เมอื่ กาํ ลงั ดันนา้ํ มนั หลอตา่ํ กวากาํ ลงั ดนั ที่ต้ังไวที่สวิทช ลิ้นความเรว็ สงู เกนิ เกณฑจ ะ
ทํางานเมือ่ ความเร็วของเคร่อื งยนตส งู เกนิ เกณฑก ําลังดันนํ้ามันหลอจะสง เขา ไปที่ตัวลน้ิ เม่อื กําลังดนั น้าํ
มนั หลอตกลงตํ่ากวาทไ่ี ดต ั้งไวท ี่ความเร็วสูงกวา 1200 รอบ/ นาที ตวั ลนิ้ จะทาํ งานลดกาํ ลงั ดนั นาํ้ มัน
หลอทตี่ วั สวิทช ซ่งึ จะทาํ ใหว งจรสญั ญาณเตอื นทาํ งาน ความเรว็ ตํ่ากวา 1200 รอบ/ นาทีสวทิ ชก าํ ลังดัน
น้าํ มันหลอ จะปด วงจร เพราะวา กาํ ลังดันน้าํ มันหลอ ต่ํากวา กาํ ลังดนั ทต่ี ง้ั ไวท ่ตี ัวสวทิ ช
ความเรว็ สูงเกินเกณฑจ ะรูโดย การทาํ งานของล้ินซึ่งจะทาํ ใหส วิทชก ําลงั ดันนํา้ มันหลอปด การ
เล่อื นตัวของลูกสูบท่ตี ัวลิน้ ซ่งึ จะตอ งปรับแตง เพอ่ื ควบคมุ ความเรว็ สงู เกนิ เกณฑ
การใช Relay ก็เพื่อปองกันการชาํ รุดของสวทิ ชกําลังดันนํา้ มนั หลอ และสวิทชอุณหภมู ซิ ึ่งจะ
ปลอ ยกระแสทสี่ งู ไปทาํ งานในวงจรสัญญาณ
เมอ่ื มสี ญั ญาณเตือนดังข้นึ ในทกุ กรณี เครือ่ งยนตจ ะตองหยดุ ในทันที และคนหาสาเหตแุ ละทํา
การแกไ ข กอนทจ่ี ะเดินเครื่องครงั้ ตอ ไป
กองฝก การชางกล กองการฝกกองเรอื ยุทธการ
56
กองฝกการชางกล กองการฝกกองเรือยุทธการ
57
ช่อื เรอื่ ง เคร่ืองยนต DETROIT DIESEL SERIES 71
ความมุงหมาย เพอ่ื ใหนกั เรยี นไดร ถู ึง การใชการบาํ รุงรักษาเครือ่ งยนต
หลักฐาน 1. DETROIT DIESEL V-71 SERVICE MANUAL
2. DETROIT DIESEL OPERATORS MANUAL
3. SERVICE MANUAL DETROIT DIESEL ENGINE IN-LINE 71
เนือ้ เร่ือง
การใชก ารบาํ รุงรกั ษาเคร่ืองยนต
1 การปฏบิ ตั บิ าํ รงุ รักษาเครอ่ื งยนต
1.1 ตรวจดรู ะดบั นมล.ทกุ คร้งั กอนเดนิ เครอื่ ง ถาระดบั นมล.ตํา่ เลก็ นอยกเ็ ติมใหอยใู น
ระดับใชก าร (ดจู ากเหลก็ วัด)
• ใชน้าํ มนั ตามเกรดทก่ี ําหนดไวในคําแนะนาํ
• เปล่ยี น นมล.ทุก 100 ชม.ใชก าร หรอื แลวแตผลการวิเคราะหน า้ํ มนั ของหอ ง
ทดลองวา เหมะสม (จึงกําหนดเปน มาตรฐาน)
1.2 เปลยี่ นไสกรอง นมล.และแปกก้งิ ทุกครั้งทเ่ี ปลีย่ น นมล.แลว ใหต รวจเชค็ การร่ัวไหล
ตามที่ตางๆหลังจากเดนิ เคร่อื งสกั พัก
1.3 ตรวจดรู ะดับนํา้ จืดทุกวนั และใหอ ยูใ นระดับเกอื บถึงฝาปดถงั (ตํ่ากวา 2 น้วิ )
• ทําความสะอาดระบบน้ําจืดดบั ความรอ นทุก 1,000 ชม. โดยใชยาคอม
เปาวดต ามคาํ แนะนําของเครื่อง วิธที ําความสะอาดโดยลา งระบบทอ ทาง
ดวยน้ําจืดแลว เติมนาํ้ สะอาดซ่ึงผสมดวยนํ้ายาเคมีปอ งกนั สนิม การเติมน้ํา
ยาอยางถูกตองควรเติมตามระยะเวลาท่ีสมควรอาจจะนานๆเติมคร้ังหรือ
แลวแตการตรวจพบสนิมหรือตะกอนที่จับอยูในระบบดับความรอนและทํา
ความสะอาดหรอื เปล่ียนสังกะสีกันกรอนทุกครั้งที่ทําความสะอาดระบบดับ
ความรอ น
1.4 ตรวจดทู อ ทางตางๆ ของระบบนาํ้ หลอดบั ความรอนอยางนอยทุก 500 ชม.เพือ่ คนหา
วามกี ารผุกรอ นหรือไมถาพบวามีการผกุ รอนใหจ ัดการเปลี่ยนใหม
1.5 ถายนา้ํ ออกจากระบบ ถอดทอ ทางพดั น้าํ ทะเลดา นหมอดบั ความรอนออก แลว เปดฝา
ออกตรวจทกุ ๆ 1000 ชม.และตรวจหลอดหมอดับความรอน ถาเห็นวาชองหลอด
สกปรกมากใหทาํ ความสะอาด
1.6 ใหถ า ยนํา้ ออกจากหมอ ดบั ความรอ นทกุ 500 ชม. ทั้งทางน้ําเขา และนํา้ ออกแลว ถอด
สังกะสีกันกรอนจากทั้งทางดานพัดน้ําและหมอดับความรอนทําความสะอาดสังกะสี
กันกรอ นดวยแปลงลวดถา มกี ารกรอ นมากเกินกวา 50% ก็ใหเ ปลย่ี นใหม
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรือยุทธการ
58
1.7 ตรวจเชค็ ท่เี ตมิ น้าํ (PRIME) ดานพัดนํ้าทะเล ไมค วรเดินเคร่ืองในขณะทสี่ บู นาํ้ ไมมีนา้ํ
หลอ เลย ถาจําเปนตอ งเติมนํา้ หลอ กใ็ หถอดจุกทท่ี อนาํ้ เขา PIPE-PLUG ดานน้ําเขา
ตรงทอโคง ออกแลวเติมน้าํ
1.8 พยายามเตมิ นม.ชพ. ใหมอี ยเู สมอเพ่ือลดการกลั่นตัวหรือการระเหยใหนอ ยทีส่ ุด และ
ใหโบลวก นถงั น้าํ มนั ทกุ ๆ 500 ชม.เพ่ือใหผ งตะกอนหรือนาํ้ ออก
1.9 ทุกวันใหโบลว นม.ชพ. ทกี่ อกกน หมอ กรองละเอยี ดหรือหมอกรองหยาบทุกๆ หมอ
กรอง เม่อื ครบ 300 ชม. หรอื ตรวจพบวาหมอกรองตนั ใหเปลี่ยนไสกรองใหม วธิ ีทจ่ี ะรู
วา หมอกรองตันหรือไมใหด กู าํ ลังดนั นม.ชพ.ท่ีทอ นม.ชพ. เขา บนยอดหวั สูบหรือดทู ี่
ทางเขาพัด นม.ชพ.กําลังทางเขาพดั นม.ชพ.ตามปกต(ิ ถาหมอกรองสะอาด) สงู สดุ
ประมาณไมเกิน 6 ตารางนิว้ ปรอทท่ีความเรว็ 1600-2100 รอบ/นาทีกําลงั ดันนม.ชพ.
ทางเขา ยอดหวั สูบประมาณ 45-47 ปอนด/ ตร.น้ิว ถากําลงั ดนั ทีพ่ ัดน้าํ มนั เพ่ิมขึน้ ถงึ
12 นวิ้ ปรอท เมือ่ เครอื่ งเดนิ 1600-2100 รอบ/นาทีแลวก็ใหเ ปลย่ี นไสกรองใหมแ ละถา
กาํ ลงั ดนั ท่ีทางเขา หัวสบู ตกตาํ่ กวา 45 ปอนด/ ตร.นว้ิ กต็ องเปลย่ี นเหมอื นกนั
1.10 ขณะท่เี ครื่องยนตกาํ ลงั เดนิ ตรวจทางระบายอากาศของหองพักอากาศ (AIR BOX
DRAIN) ทกุ 1,000 ชม. ถา พบวา ทอ ตนั ใหถอดทําความสะอาดเสียใหม ทอ ทาง
ระบายอากาศจะตอ งทําความสะอาดตามเวลาถงึ แมวา จะยังไมพบวา ตันกต็ าม
1.11 ตรวจทาํ ความสะอาดตะแกรงกรองเครอื่ งพดั อากาศทกุ 1,000 ชม.โดยการแชใน นม.
ชพ.แลวเปาดวยอากาศเปลีย่ นแปกกิง้ ใหมแ ลวประกอบเขา ที่
1.12 มอเตอรส ตารท บางอนั ไมต อ งมีการหลอลื่น แตถ า เคร่ืองใดมกี ารหลอลน่ื เปนถว ยบรรจุ
จาระบี ก็ใหท ําการเตมิ ทกุ 300 ชม. ถา เติม นมล.ก็ใหเ ติม 8-10 หยด โดยใช นมล.
เกรดเดยี วกบั เครอื่ ง
1.13 ตรวจนํ้ากลนั่ แบตเตอร่ีทกุ 100 ชม. หรอื แลว แตสภาพการใชงาน ระดับนํ้ากลน่ั ใน
แบตเตอร่คี วรใหไดระดับคอื สูงกวาแผนแร 1 นิว้ หรือสงู กวา แผน กัน้ 1 นว้ิ
24
1.14 หลอล่นื เครื่องวดั รอบตรงบรเิ วณเพลาขับทุก 100 ชม. ดว ยจาระบที ใี่ ชอ ยทู ัว่ ไป
1.15 หลอล่ืนคันบังคับ (THROTTLE CONTROL) ทกุ 200 ชม. ดวยจาระบีหลอล่นื คนั
บงั คับคลัทชและสว นบังคบั อ่นื ๆ ดว ย นมล.
1.16 สาํ หรับการปรบั แตง เครื่อง TUNE-UP น้ัน ไมม รี ะยะเวลาท่แี นนอนตราบใดทเี่ คร่อื งยงั
ทํางานเปนปกติก็ไมม ีการปรับแตงอีก การปรับแตงท่สี ําคญั เชน หวั ฉีดเคร่อื งควบคุม
ความเร็วนั้น ควรปรบั แตง เมอื่ มกี ารสกึ หรอเกดิ ข้ึนเทานั้น
1.17 ทุกวันตรวจดูระดบั นมล. เกยี รต ามหอ งเฟอ งเกยี รต างๆ ถา ระดับนมล.พรองใหเตมิ ให
ไดร ะดับ การเชค็ นีใ้ หเช็คในขณะทเ่ี ครื่องเดนิ ดว ยความเรว็ ต่าํ เม่ือครบ 200 ชม.ให
เปน นมล.ใหม ทกุ ครงั้ ทเ่ี ปลย่ี น นมล.หองเกยี รใหถ อดไสก รอง นมล.ทาํ ความสะอาด
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรอื ยุทธการ
59
ดว ย นม.ชพ.แลว เปา ดว ยอากาศ และจะตองเปล่ยี นไสก รองของหมอ กรองละเอียด
ดวย
การปฏบิ ัตติ ามตารางปฏิบัติ
การบาํ รงุ รักษาประจําวัน (10 ชม. ใชการ)
- ตรวจสอบระดับ นมล. ในหองแครงกใ หไ ดต ามเกณฑ
- ตรวจสอบระดับ นมล. ในหอ งเกียรใ หไดต ามเกณฑ
- ตรวจสอบระดบั นาํ้ จดื ในหมอ พักน้าํ จืดใหไ ดตามเกณฑ
- ตรวจระบบน้าํ ทะเลทไี่ หลวนเวียน
- ตรวจสอบทอระบายอากาศวา อุดตันหรอื ไม
- ตรวจ นม.ชพ.ในถังใชการวาเตม็ หรอื ไม
- เครน นม.ชพ.ท่ีกน หมอ กรองทุกใบ
- ตรวจรอยรั่วซมึ ตามเกลียวขอ ตอทอ ยางตามระบบตางๆ
การบาํ รุงรักษา 100 ชม. ใชการ
- เปลย่ี น นมล.ในหองแครงก
- เปลย่ี นไสก รอง นมล.
- ทําความสะอาดกรองอากาศ,เปล่ียน นมล.
- ตรวจซอมรอยรั่วซึมในระบบตางๆ
- ตรวจขอตอสายไฟ,สายพาน,หมอแบตเตอรี่
- ทําความสะอาดทอระบายหองอากาศ
- อัดจาระบีขอ ตอ ,สายวัดรอบ,ลกู ปนตา งๆทตี่ องการหลอ ลน่ื
- เครือ่ งใหมหรือหลงั การปรับซอ มใหญ ปรบั แตง เคร่อื ง
การบํารุงรักษา 200 ชม. ใชก าร
- เปล่ยี น นมล. เกยี ร ลา งทาํ ความสะอาดหองเกยี ร
- เปลี่ยนหมอ กรอง นมล. เกยี ร
- หลอ ล่ืนคันบงั คบั คลัทชและสว นบงั คับอน่ื ๆ
การบาํ รงุ รกั ษา 300 ชม. ใชก าร
- เปลย่ี นไสก รองหยาบหมอ กรองละเอยี ด นม.ชพ.
- เครนสง่ิ สกปรกออกจากกนถัง นม.ชพ.
- หลอ ลื่นมอเตอรส ตารท ไดชารจ
การบาํ รุงรกั ษา 500 ชม. ใชก าร
- ตรวจสงั กะสกี ันกรอ นหมอดับความรอนนํา้ หลอ
- ตรวจทอ ยางระบบน้าํ หลอเคร่อื งถา ชาํ รดุ ใหเ ปลีย่ นใหม
- ตรวจดูแปรงถานไดชารจ
กองฝก การชา งกล กองการฝกกองเรือยทุ ธการ
60
การบํารุงรักษา 1,000 ชม. ใชก าร
- ทาํ ความสะอาดระบบนํา้ จืด ลา งทอ ทางในระบบดวยฝาคอมเปานด
- ทาํ ความสะอาดทางระบายอากาศหอ งพักอากาศ
- ตรวจวัดระยะเบยี ดของเคร่ืองพดั อากาศ
- ตรวจทาํ ความสะอาด
- ตรวจทําความสะอาดชองอากาศดที ีไ่ ลเนอร, ตรวจลูกสูบ,และแหวน
- ตรวจและทาํ ความสะอาดหมอดบั ความรอ น นมล.
- ปรับแตงเคร่อื ง
2 การเตรียมการกอนการเดินเครือ่ ง
2.1 ระบบ นม.ชพ.
• ตรวจ นม.ชพ. ในถังใชการใหม ี นม.ชพ. อยูในระดับใชการ
• เปดกอกระบายน้ําตะกอนกน ถัง
• เปด ลิน้ นม.ชพ. พรอมกับตรวจดูการรัว่ ไหลและสภาพของระบบ
• ระบายน้ําผงตะกอนทหี่ มอ กรอง นม.ชพ. ทุกใบ
• ไลอากาศ PRIMARY FUEL FILTER ดว ยการเปดจุกเกลียวบนหมอ กรอง รอ
จนมนี ้าํ มนั ไหลออกมาและไมมฟี องอากาศจงึ ปดใหส นทิ (ถาหมอกรองอยู
เหนือระดบั นา้ํ มนั ใหเติม นม.ชพ. ลงไปจนเต็มแลวปด ฝาใหส นทิ )
• ไลอ ากาศใน SECONDARY FUEL FILTER โดยการคลายจกุ เกลยี วบน
หมอ กรอง A.C.FUEL FILTER และเติม นม.ชพ. ทส่ี ะอาดจนเตม็ แลวปดจกุ
เกลียวใหสนทิ
• การไลอากาศใหทําทุกคร้ังที่ทําความสะอาดหมอกรองหรือนํ้ามันขาดสาย
ระวงั อยาให นม.ชพ.ดเขาไปในสูบเพราะจะทําใหเกิดแรงดันมากเกนิ กาํ หนด
เมอ่ื เกิดการเผาไหม
2.2 ระบบ นมล.
• ตรวจเดนิ นมล.ในหอ งแครง กใหอ ยูในระดับใชก าร
• ตรวจดูวามีนาํ้ หรือ นม.ชพ. ปนหรือไม
• ตรวจเติม นมล. เกียร
• ตรวจสภาพภายนอกเคร่อื งยนตแ ละเกียรด ูการร่วั ซมึ ของ นมล.
2.3 ระบบระบายความรอน
2.3.1 ระบบน้าํ จดื
• ตรวจเติมนา้ํ จดื ในหมอ พกั น้ําจืดใหถ งึ ระดบั ใชก าร ปดฝาหมอพกั
นํา้ จดื ใหเรียบรอย
กองฝก การชา งกล กองการฝกกองเรือยทุ ธการ
61
2.3.2 ระบบน้ําทะเล
• เปดลนิ้ ทางดูดนํ้าทะเล
• ตรวจทําความสะอาดหมอ กรองนา้ํ ทะเล
• เปดล้ินทางสงนา้ํ ทะเลเขา ระบบ
• ตรวจความเรยี บรอ ยทอ ทางตางๆ
2.4 ระบบอากาศ
• ตรวจสง่ิ กดี ขวางระบบอากาศ
• ทําความสะอาดหมอ กรองอากาศ ตรวจดู นมล.
• ตรวจล้ินปด อากาศ
2.5 ระบบเรมิ่ เดนิ
• ตรวจระบบไฟแบตเตอรีใ่ หระดบั นํ้ายาอยูในเกณฑใ ชก าร
• สายไฟขอ ตอ ตา งๆสะอาดและแนน สนทิ หรือไม
• ตรวจดมู อเตอรส ตารท สภาพขอตอสายไฟ แปลงถา นซีค่ อม
• ผลเสยี ทแี่ บตเตอร่ีมไี ฟนอ ย เครือ่ งหมนุ ชา ติดยาก
• MOTOR START ชาํ รดุ เพราะหมนุ ชาทาํ ใหรอนจัดอาจไหมได
2.6 การตรวจอนื่ ๆ
• การหลอ ลื่นทร่ี าวลน้ิ (ถา เคร่ืองไมไ ดเดนิ เปน เวลานาน) เปดฝาครอบใช
นมล.เทราดลงบนราวลิ้นโดยตลอดเพือ่ การหลอลนื่ เพลากระเดอ่ื งกดลนิ้ และ
ลกู เบีย้ วในตอนเริ่มเดิน
• ตรวจทดลองหวั ฉดี เพือ่ ปองกันการติดแนน ไมท าํ งาน
• ตรวจสง่ิ กีดขวางภายในโดยการหมนุ เคร่ืองดวยมือ
• ตรวจสภาพสายพานตา งๆ ใหต งึ ไมฟรี
• ตรวจสอบระบบปอ งกันอนั ตรายสัญญาณเตือนภัย
3 การปฏบิ ัติในการเดนิ เคร่ือง
3.1 กอนกดปุมเริม่ เดนิ เครือ่ ง
• ตั้งคนบงั คบั ไวในตาํ แหนงเดนิ เบา หรอื เดนิ
• กดปมุ เร่ิมเดินเครอื่ ง
• อยากดปุม START ใหนานเกนิ 30 วินาที
• ถาเคร่ืองไมติดใหรอประมาณ 2 นาทีกอ น START ใหม
• ถา START 2-3 ครั้งยังไมตดิ ใหตรวจหาสาเหตุ
กองฝกการชางกล กองการฝก กองเรอื ยทุ ธการ
62
3.2 เมือ่ เครื่องเดนิ แลว
• สงั เกตกําลัง นมล. ตอ งปรากฏภายใน 10-15 วินาที
• ถา นมล.ไมข นึ้ ตอ งหยุดเครอ่ื งทันทีแลว ตรวจหาสาเหตุ
• กาํ ลังดนั นมล.ควรอยรู ะหวาง 30-50 ปอนด/ ตร.นว้ิ ท่ีรอบ 1200-2100 รอบ/
นาที
• ถาต่าํ กวา 25 ปอนด/ ตร.นิว้ ใหหยดุ เครือ่ งตรวจหาสาเหตุขัดขอ งและดาํ เนนิ
การแกไ ข
• ตรวจดูการวนเวยี นของนาํ้ ระบายความรอ น
• ตรวจดูการรว่ั ไหลของระบบตางๆ
4 การปฏบิ ัตขิ ณะใชเ ครือ่ ง
• แนวปฏบิ ตั ิในการใชแ ละควบคมุ เคร่ือง ตอ งมีการบนั ทกึ รายละเอยี ดของสภาพการใช
เครื่องเชน กาํ ลงั ดนั อุณหภมู ติ ามเวลาทีก่ าํ หนดเปน ชม.หรอื ครง่ึ ชม. การผดิ แผกแตก
ตางไปจากสภาพปกติ จะเปนแนวทางใหส ามารถตรวจพบสาเหตใุ นการขัดของได
4.1 ภาระในการทํางาน
• ถา เร่มิ เดินเครื่องในขณะเครอ่ื งเยน็ ควรจะรอใหเ ครอื่ งเดนิ ตวั เปลาชว่ั ขณะประมาณ 5
นาทหี รือสังเกตอณุ หภมู ินํ้าหลอ เครื่องได 130°F เพอ่ื อนุ เคร่ืองกอ นแลว จึงคอยๆ เพม่ิ
ภาระใหกบั เครือ่ ง เพ่อื ปอ งกันไมใหเกิดการเสยี หายแกส ว นประกอบของเครอ่ื งยนตอนั
เนือ่ งจากการขยายตวั ไมเทากันและการหลอ ลนื่ ทไ่ี มมปี ระสทิ ธภิ าพและอณุ หภูมติ ่ํา
• ไมควรใชเครื่องยนตเ ปนเวลานาน ถาภาระในการทาํ งานของเครอ่ื งต่ํากวา 1 ของ
3
ภาระในการทํางานตามปกติ การเผาไหมภายในสูบเมอื่ ภาระในการทาํ งานนอ ยจะทํา
ใหเ กิดคราบเขมาตกคา งมาก เพราะ นม.ชพ. และ นมล.มีการเผาไหมไ มห มด ซ่ึงเปน
เหตุใหเ กิดการชาํ รดุ ทล่ี ้ิน,กานลิ้น,แหวนลูกสูบ และระบบแกสเสีย อาจทําใหลน้ิ ติด
แนนหรอื ลน้ิ แกส เสยี ไหมได ถามคี วามจําเปน ตอ งใชเ ครื่องดวยภาระในการทาํ งานตํ่า
กวา 30% หรือตาํ่ กวาเปน เวลานานเกนิ 30 นาที แนะนาํ ใหเพิ่มความเร็วเครื่องใหส ูง
กวา 50% ในโอกาสแรกท่ที าํ ได
• ไมควรใชเครอ่ื งทาํ งานเกนิ กาํ ลงั OVER LOAD เวนแตเปนกรณฉี กุ เฉินหรอื จําเปน
การทเ่ี ครอื่ งทาํ งานเกนิ กําลงั อาจทราบไดจ าก
1. อณุ หภมู แิ กส เสยี สงู มาก
2. แกส เสยี มคี วันดํา
3. กาํ ลังดันการเผาไหมส งู
4.2 การหลอ ลน่ื
• ระดับ นมล.ในอาง นมล.จะตองคอยตรวจและเติม
กองฝกการชางกล กองการฝก กองเรอื ยุทธการ
63
4.3 กาํ ลังดนั และอณุ หภูมิ ตอ งพยายามรักษากําลงั ดันและะอณุ หภมู ใิ หอ ยูใ นเกณฑใ ช
การ ถาไมสามารถควบคมุ ไดต องหยุดเคร่อื งตรวจหาสาเหตุ
• กาํ ลังดนั นมล.ปกติ 30-50 ปอนด /ตร.นิ้วที่ 1200-2100ร./น.และตอ งไมต า่ํ กวา 25
ปอนด /ตร.นวิ้
• อุณหภูมิ นมล.ปกติ 180-210°F ตองไมเกินกวา 230°F
• อณุ หภูมนิ ํ้าหลอเคร่อื งปกติ 160-185°F ตอ งไมเ กิน 200°F
• นํ้าทะเลดับความรอนนํา้ จดื ตอ งไมเกนิ 130°F ถา อุณหภมู สิ ูงจะทําใหเ กดิ คราบขี้
เกลือในทอ ทางและหมอระบายความรอน
• ควรตรวจระบบระบายความรอ ยบอ ยๆเพื่อดกู ารรวั่ ไหล
4.4 ความเรว็ อนั ตราย
• อยาใชเคร่ืองยนตท่ีความเร็วอันตรายหรือความเร็วใกลเคียงเพราะจะเกิดการสั่น
สะเทือนมากและเกิดการเสียหายอยางรา ยแรงไดเ นอื่ งจากทุกเครื่องมีการส่ันสะเทอื น
อยูตามปกติ ซ่งึ ผูใชเครือ่ งไมอ าจแกไขไดน อกจากไมใชเครือ่ งทคี่ วามเรว็ อนั ตรายน้ัน
รายละเอยี ดจะปรากฏอยใู นคําแนะนําการใชเครื่องทกุ เครอื่ ง ควรจะทําเครื่องหมายที่
เกจวัดความเรว็ แสดงยานความเร็วอนั ตรายไว เพอื่ คอยเตอื นผูใชเ คร่อื งไมใหใ ชเ ครื่อง
ทยี่ านความเรว็ อนั ตรายนัน้
4.5 นํ้ามนั เชือ้ เพลงิ
• นม.ชพ.ในถงั ใชก ารจะตองมีปริมาณที่เหมาะสมและเพยี งพอ ตรวจการรว่ั ไหลของ
ระบบ นม.ชพ.
• หมั่นทาํ ความสะอาดหมอ กรองโดยเครนกอกกนหมอกรอง เพือ่ ระบายสิ่งสกปรกและ
นาํ้ ออก ถามีเครอื่ งแยกนํ้ามนั จะตองให นม.ชพ.ผานเครื่องแยกกอน
4.6 น้าํ
• ระดบั นาํ้ จืดทหี่ มอพกั นาํ้ จืดจะตอ งตรวจบอยๆ ถา นอ ยกเ็ ตมิ นํ้าสะอาดลงไป ถาระดับ
นํ้าต่ํามากอยาเติมน้ําจํานวนมากเขาไปภายในเครื่องทันทีจะทําใหเกิดการยืดหดตัว
ของสวนประกอบไมเ ทากัน อาจเปนสาเหตใุ หปลอกสูบราว,ฝาสบู รา ว,สบู ติด เมื่อ
อุณหภมู ิสูงมากและไมสามารถเพิ่มปรมิ าณน้าํ ดบั ความรอนไดต องหยุดเคร่ือง
4.7 ความสะอาด
• ความสะอาดเปนความสําคัญของการทํางานอยางมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต
ดเี ซล จะตองรักษาให นม.ชพ.สะอาด อากาศดีสะอาด นาํ้ ดับความรอนสะอาด นํ้ามัน
หลอ ล่ืนสะอาด และการเผาไหมท ีส่ ะอาดตวั เครื่องกต็ อ งรกั ษาใหส ะอาดตลอดเวลาเพ่ื
องปองกันนํา้ มันหลอ สะสมภายในสวนตา งๆ
5 การหยดุ เครือ่ ง
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรอื ยุทธการ
64
5.1 เดนิ ตัวเปลา
• ลดรอบเคร่ืองลงโดยโยกคนั บงั คบั ความเร็วไปในตําแหนง เดินเบา
• ปลดภาระของเครื่องออก
• ปลอ ยใหเ ครอื่ งเดินเบาประมาณ 5 นาที
• โยกคันหยดุ (STOP LEVER) ไปตาํ แหนง หยดุ
• หา มหยดุ เครอื่ งโดยวิธีปด ลิ้นอากาศ ยกเวนฉุกเฉินเทานัน้ เพราะจะทําให นมล.ถกู ดดู
ผา นซลี เขา ไปในโบลเออรม าก
5.2 ระบบ นม.ชพ.
• ปดลนิ้ นม.ชพ.ตลอดระบบ
• เตมิ นม.ชพ.ใหเ ตม็ ถังเพอื่ ลดการกลนั่ ตัวของน้ํามนั
5.3 ระบบระบายความรอน
• ปดลนิ้ นํ้าทะเลตลอดระบบ
• นา้ํ จืด ถาในอากาศเย็นจัดนํา้ อาจแขง็ ตวั ใหเติมนํ้ายากันแขง็ หรอื ระบายทง้ิ เสียใหห มด
5.4 ระบบ นมล.
• ตรวจสอบระดบั นมล.ในหองแครง กด ว ยไมว ัด (ตอ งรอใหหยุดเครอ่ื งแลว 20 นาทีเพ่ือ
ใหน ้ํามันตกลงมากอ น)
• เตมิ นมล.ถา จําเปน จนถึงระดบั ใชการ
• ตรวจสอบระดับ นมล. เกยี ร และเติมจนถงึ ระดับใชการ
5.5 ทําความสะอาด
• ทําความสะอาดและตรวจความเรียบรอยของเคร่ืองเพ่ือใหแนใจวาพรอมท่ีจะเดิน
เครื่องในครงั้ ตอไป
• ทําการซอ มทําปรับแตงแกไขอนั เปน ผลมาจากการเดนิ เครือ่ งครง้ั ที่แลวท่ีมีการชาํ รุด
• เขียนหมายเหตุในสิ่งท่ีที่จะเปนประโยชนตอการใชเคร่ืองของผูท่ีมารับหนาที่ตอ ไปไว
ในปมู
กองฝก การชา งกล กองการฝกกองเรือยทุ ธการ
65
ชอ่ื เร่ือง เคร่อื งยนต DETROIT DIESEL SERIES 71
ความมงุ หมาย เพอื่ ใหน ักเรียนไดร ูถึง การปรับแตง TUNE-UP เคร่อื ง
หลักฐาน 1. DETROIT DIESEL V-71 SERVICE MANUAL
2. DETROIT DIESEL OPERATORS MANUAL
3. SERVICE MANUAL DETROIT DIESEL ENGINE IN-LINE 71
เนือ้ เรอ่ื ง
การปรับแตง TUNE-UP เคร่อื ง
ระยะเวลาในการปรบั แตง
เครื่องทเ่ี ร่ิมใชงานใหมหรือเครื่องที่หลังการปรบั ซอ มใหญ (OVERHAVL) ประมาณ 100 ชม.ใช
งานหรอื ระยะทางประมาณ 3,000 ไมลท่เี รือวิ่ง เครื่องทใี่ ชง านปกตปิ ระมาณ 1,000 ชม.ใชง านหรอื
ประมาณ 30,000 ไมลทีเ่ รือว่งิ การปรับแตงเคร่อื งอยูในฐานะทคี่ นประจาํ เรอื ทาํ เองไดไ มม ขี อ ยุงยาก
อยาไดละเลยในการปรบั แตงเครอื่ ง การปรับแตงเครื่องจะทาํ ใหเครอ่ื งอยใู นสภาวะพรอ มไวอ ยางมีประ
สทิ ธิภาพอยูเ สมอ ถาฝาสบู ,กอฟเวอรเ นอร,หวั ฉดี ไดม ีการซอมทําหรอื เปลย่ี นจะตอ งมกี ารปรบั แตง
เคร่อื งดว ย การปรบั แตง (TUNE-UP) น้ีจะมีการผกู พนั อยูกบั กอฟเวอรเ นอร ฉะนนั้ เราจงึ เรียกวา ขัน้ ตอน
การปรบั แตงแมคคานดิ กอฟเวอรเ นอร (TUNE-UP SEQUENCE FOR MECHANICAL GOVERNOR)
ดังน้ี
1. การแตง ระยะลิ้นแกสเสยี
2. การตั้งหวั ฉดี
3. การแตง ระยะแกปกอฟเวอรเ นอร
4. การต้งั ระยะคันแร็ค
5. การต้งั ความเรว็ สูงสดุ ไมม โี หลด
6. การตง้ั ความเร็วเดนิ เบา
7. การตง้ั บัฟเฟอรส กรู
8. การแตงบสู เตอรส ปริง
1. การปรบั แตงระยะลิ้นแกส เสีย
- ใหป รบั แตง ที่นดั กานสง PUSH-ROD หา มปรับทสี่ ลักตวั ปรบั แตงสะพานล้ินแกส เสียเปน อัน
ขาดการปรบั แตงทาํ ตามจังหวะการทํางานของเคร่ือง (FIRING ORDER)
การปรับแตงระยะล้ินแกส เสยี เมอ่ื เคร่อื งเย็น
- หมนุ เคร่ืองจนกระเด่ืองกดหวั ฉีดกดเต็มท่ีซึ่งแสดงวาขณะน้ันสบู นน้ั อยใู นจังหวะทํางาน
ฉะน้นั แกสเสียของสบู นนั้ จะปด สนิท
- คลายนตั ลอ็ คกา นสง ใชฟล เลอรเ กจขนาด .017 นวิ้ สอดเขาไประหวางกระเด่ืองกดลิ้นกับ
สะพานลน้ิ (แบบ UN LOADED) ถา เปน แบบ SPRING LOADED ใหส อดฟล เลอรเกจระหวางปลาย
กานล้นิ กบั สะพานลน้ิ ปรบั แตงนัตล็อคจนฟลเลอรเ กจขนาด .017 นิว้ สอดเขาออกได กวดนัตล็อคตรวจ
กองฝกการชางกล กองการฝก กองเรอื ยุทธการ
66
สอบระยะเคลยี แรนซอีกครั้งถาถกู ตอ งฟล เลอรเ กจขนาด .017 นวิ้ จะไมสามารถสอดเขาได แตฟ ล เลอร
เกจขนาด .015 น้วิ จะผา นเขา - ออกไดสะดวก
การปรบั แตง ระยะลน้ิ แกสเสียเมือ่ เครอ่ื งรอน
- เดินเคร่อื งใหอ ุณหภูมทิ าํ งานตามปกติ คอื 160 185°ฟ.ถาระยะลิ้นแกส เสียถูกตองฟล เลอร
เกจขนาด .013 นวิ้ จะผา นเขาออกสะดวก แตฟลเลอรเ กจขนาด .015 น้ิวจะผานเขา ไมไ ด
ข้นั ตอนการตัง้ สะพานล้นิ ของ V-71
ถอดสะพานล้ินออกมาแลว จบั ดวยปากกา คลายนตั ถอดบนสลกั ปรบั แตงระยะของสะพานลน้ิ
ขอ ควรระวัง การถอดหรอื คลายนตั ลอ็ คโดยไมถ อดสะพานลิน้ ออกมา อาจทาํ ใหป ลอกสะพานงอ
หรือทาํ ใหก านลิ้นอันหลังงอได
- ประกอบสะพานลน้ิ เขา กบั สะพาน (ไมตองใสสปรงิ )
- กดสะพานลิ้นลงไป หมุนสลกั ปรับแตงระยะตามเข็มนาฬกิ าจนสลกั แตะกับกานล้ินแลวหมุน
ตอไปอีก 1 ถงึ 1 รอบตามเขม็ นาฬกิ ากวดนตั ลอ็ คดว ยมอื
84
- ถอดสะพานลนิ้ ออกมา จบั ดวยปากกา ใชไขควงจับสลกั ปรับแตงระยะใหแ นน แลว กวดนัต
ลอ็ คถึง 20-25 ฟตุ -ปอนด
- เอาน้าํ มนั หลอทาปลอกสะพานและสะพานลิ้น
- ประกอบสะพานลิ้นเขา ทีเ่ ดิมยงั ไมตอ งใสส ปรงิ
- ใชฟลเลอรเ กจ .0015 นว้ิ 2 อนั ลน้ิ ละอนั ใสเ ขา ไปใตสะพานลนิ้ เมอ่ื กดลงไปท่สี ะพานล้นิ
แลวจะทาํ ใหฟ ลเลอรเกจทัง้ สองขา งตดิ แนน แตถ าฟลเลอรเกจไมต ดิ แนนกับสปริงใหแ ตง ใหม
- ถอดสะพานลิ้นออกมาแลว ใสส ปริงเขา ที่
- ปรบั แตง สะพานลน้ิ สูบตอๆไปเชนเดียวกนั
- แลวประกอบคันกระเดื่องกดลน้ิ เขา ท่ี ตรวจดูใหแ นวา สะพานลิน้ อยูใ นตําแหนง ที่ถกู ตอ ง คอื
กานลน้ิ อันหลงั เขาทีเ่ พอ่ื ปองกนั ไมใ หล ิน้ เสยี หายได เสร็จแลวกวดสลกั เพลาคันกระเด่อื งใหแ นนตาม
เกณฑ 90-100 ฟุต-ปอนด
2. การตั้งหัวฉีด TIMING FUEL INJECTORS
- การประกอบหวั ฉีดลงบนฝาสบู ทาํ ความสะอาดรทู ่จี ะประกอบหวั ฉดี
- สวมหัวฉดี ลงไปในชองของแตล ะสบู โดยใหคันเฟองหวหี นั ไปทางทอแกสเสีย
กองฝกการชางกล กองการฝกกองเรือยุทธการ
67
- ประกอบตัวล็อคหวั ฉดี ใหทางดานที่เปนงา มของตัวบงั คบั หัวฉดี สวมเขา ไปบงั คับท่ีหนาของตวั
หัวฉีดแลวใชสลักกวดดวยกาํ ลัง 20-24 ฟตุ -ปอนด
- ประกอบคนั ราวเฟองหวใี ชผ า อุดรูน้าํ มนั ท่ีอยูขางๆเสียกอ นเพอ่ื ปองกันมิใหน ัตตกลงไป
- สวมเพลา LOCKER ARM เขา ไปในรูพรอมกับใสขายึดเพลา กวดสลักขายึดเพลาดว ยกําลงั
90-100 ฟุต-ปอนด
วธิ กี ารตง้ั หัวฉดี
- หมนุ เครอื่ งจนลน้ิ แกส เสียถูกกดเต็มที่
- ใชเ ครอ่ื งมอื ตัง้ หัวฉดี TIMING GAUGE แหยปลายลา งสดุ ลงไปในรูเล็กๆบนเรือนหัวฉีด ให
บาอีกดา นหน่ึงทาบกบั ดา นบนฝาประกบสปริงหวั ฉดี ถา ไมไ ดร ะดับใหปรับแตงที่เกลยี วสําหรับปรับแตงท่ี
กา นสงตัวกลางของหัวฉีด จนไดระยะคือดานบนของเครอื่ งมือต้งั หวั ฉดี สัมผสั กบั ดา นบนฝาประกบสปริง
หวั ฉีด
- กวดนัตลอ็ คใหแ นน ต้งั สบู ตอไป
การปรบั แตง GOVERNOR
- LIMITING SPEED GOVERNOR .0015 นวิ้
- VABIABLE SPEED GOVERNOR .006 นวิ้
การปรบั แตง VARIABLE SPEED MECHANICAL GOVERNOR
3. ปรบั แตงระยะหาง GOVERNOR GAP
- ทาํ ในขณะที่เครือ่ งหยุดทีอ่ ุณหภูมใิ ชการ
- ถอดสายควบคุมท่ีติดตอ กบั คนั ควบคมุ
- คลาย BUFFER SCREW ออกประมาณ 5/8 นิว้ จาก LOCK NUT
กองฝกการชา งกล กองการฝกกองเรอื ยุทธการ
68
- ถอดฝาปดเรอื น GOVERNOR ออก
- ต้งั คนั ควบคุมความเร็วไวใ นตําแหนง ความเรว็ สงู สุด
- ใช FEELER GAGE .006 น้ิวสอดเขา ระหวา ง SPRING PLANGER และ PLANGER
GUIDE คลาย LOCK NUT และปรบั แตง จนกระท่งั FEELER GAGE เคล่ือนตัวไดค ลอ ง
- กวด LOCK NUT ใหแนน แลว ตรวจสอบระยะใหม
4. การตัง้ ตาํ แหนงคันควบคมุ แรก็ หัวฉดี
- ตาํ แหนงของคันควบคุมแรก็ หวั ฉีดจะตอ งถกู ตองสมั พนั ธก ับ GOVERNOR เพราะจะเปนส่ิงที่
กําหนดการฉีดนม.ชพ.เขา แตละสบู และจะตอ งพอดกี ับภาระตําแหนงทีถ่ กู ตองท่ภี าระเต็มที่ FULL
LOAD คอื
- คันควบคุมความเร็วอยใู นตําแหนง ความเร็วสูงสดุ
- คันหยดุ เคร่อื งอยใู นตาํ แหนงเดินเครื่อง
- ระยะลูกสูบเลือ่ นสปริงความเรว็ สงู สงมาในเรือน GOVERNOR ตองอยูระหวา ง .005-.007
นิว้
- คันแร็กหวั ฉีดจะอยใู นตําแหนงฉีด นม.ชพ.เตม็ ที่
- การตั้งแร็ก ถอด CLEVIS PIN ออกจาก FUEL ROD ของ CONTROL TUBE BANK ขวา
- คลายนัตตวั ในและตัวนอกของ RACK CONTROL BANK ซา ยคลายสกรูใหหลวม
- หมุน CONTROL LEVER ใหอยใู นตําแหนงเรงสูงสุด
- หมุน STOP LEVER ในตาํ แหนง RUN ใชนวิ้ จบั STOP LEVER เอาไวเ บาๆใชไขควงกวดสก
รูตวั ในของ RACK CONTROL ที่สบู 1 ซาย จนกระทั่งมีความรสู กึ ที่ STOP LEVER กวดสกรตู วั นอกจน
มีความรูสกึ ยนั กวดนตั ลอ็ คตัวในตัวนอก อยา กวดแนนเกนิ ไป กวด 24-36 ปอนด/ ตร.น้ิว
กองฝก การชางกล กองการฝก กองเรอื ยทุ ธการ
69
- เพือ่ ความแนใจวา RACK อยูในตําแหนง ที่ถูกตองหมนุ STOP LEVER อยใู นตาํ แหนง RUN
ใชไขควงกด INJECTOR RACK เขาไปเมือ่ ปลอ ยสปริงจะถอยหลังกลับท่ีเดมิ ถาไมก ลบั ท่ีเดมิ ใหป รับ
แตง ใหม กวดสกรตู ัวในแร็กเขามาก กวดตวั นอกแร็กเขานอย
- ทาํ ใหครบทุกสูบ BANK ซา ย
- ใส CLEVIS PIN BANK ขวาตั้งสบู 1 ขวาตอ ไป
5. การตั้งความเร็วสูงสดุ ไมมีโหลด
- เมอ่ื มีการซอมทําหรือเปลย่ี น GOVERNOR ใหม เพื่อใหแ นใจวา ความเรว็ สงู สุดตวั เปลาของ
เคร่ืองจะไมเ กนิ เกณฑก ําหนดจึงตอ งปรบั แตงใหม
- เดินเคร่ืองจนอุณหภูมใิ ชก ารปกติ ใชเ คร่ืองมอื วดั ความเร็วเครอ่ื งอยางละเอยี ดด ACCUSATE
HAND TACHOMETER วดั ความเรว็ สงู สุดตวั เปลา แลวเลกิ เครอ่ื ง ถา ความเรว็ ไมไดตามกําหนดใหปรบั
แตงดังนี้
- ปลดสปรงิ เพ่ิมกําลงั BOOSTER SPRING และสปริงคันเลกิ เครือ่ ง
- ถอดเรอื นสปรงิ เปลยี่ นความเรว็ และตัวก้นั สปรงิ ออกจากเรือน GOVERNOR
- เพม่ิ หรือลดชมิ จนกระทั่งไดค วามเร็วตามกาํ หนด
- ใหพิจารณาดูแถบกนั้ หรอื ชมิ ใหถูกตองตามเบอรตามตาราง
- ประกอบฝาครอบสปรงิ เปลย่ี นความเร็ว และเรอื นกวดสลกั ยึดใหแนน
- ตอสปรงิ เพิ่มแรง และสปรงิ คนั เลกิ เครื่อง แลวเดนิ เคร่อื งตรวจสอบอกี ครง้ั
6. การปรับแตง ความเร็วเดินเบาตวั เปลา IDLE SPEED
- กระทําเม่ือปรับแตงความเร็วตวั เปลา สูงสุดถกู ตอ งแลว
- ต้ังคันเลกิ เครอ่ื งไวใ นตาํ แหนง RUN และคันควบคมุ ความเรว็ ไวในตําแหนง เดินเบาตัวเปลา
- เดนิ เครื่องจนถงึ อณุ หภมู ิใชก ารปกติ คลายเกลยี วรบั แรง BUFFER SCREW
- คลาย LOCK NUT และหมุนเกลยี วสปริงความเร็ว กวดเขา เพ่ิมความเร็ว คลายออกลด
ความเรว็ จนกระทั่งความเร็วไดป ระมาณตา่ํ กวา ความเร็วตวั เปลาทีก่ ําหนด 15 รอบ/ นาที
- กวดนัตลอ็ คใหแ นน
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรือยทุ ธการ
70
7. การปรบั แตง BUFFER SCREW
- เดนิ เคร่ืองจนถึงอุณหภูมิใชก ารปกติ หมนุ BUFFER SCREW เขาจนกระทั่งไปแตะสมั ผัสกับ
คา แสดงความแตกตาง DIFFERENTIAL LEVER ใหน อยทสี่ ดุ จงึ หยดุ เพอื่ ใหอ าการสนั่ ของเคร่อื งหมด
ไปการหมุน BUFFER SCREW อยาใหความเรว็ เดินเบาตัวเปลาสูงเพม่ิ มากขึน้ มากกวา 15 รอบ/ นาที
- กวดนตั ล็อคใหแนน
8. การปรับแตง สปริงเพ่มิ กาํ ลงั BOSSTER SPRING
- กระทําในขณะปรบั แตงความเร็วตัวเปลา
- ดนั คันควบคมุ ความเร็วไปในตาํ แหนงเดนิ เบา
- คลายนัตบงั คับสปริงเพมิ่ แรงบนคนั ควบคมุ ความเรว็
- คลายนตั ลอ็ คบนสลักยดึ สปรงิ ตวั นอก
- เลื่อนสลกั ในชอ งคันควบคุมความเร็ว จนถงึ ตําแหนง กึง่ กลางของสลกั หรือเลยตําแหนงกง่ึ
กลางไปทางดานตําแหนงความเรว็ เดนิ เบาเลก็ นอ ยแลว กวดนัตลอ็ คใหแนน
- เรม่ิ เดนิ เครือ่ งและโยกคันควบคมุ ความเร็วไปตําแหนง ความเร็วสูงสดุ แลว ปลอยคนั ควบคุม
ความเรว็ จะเลือ่ นกลบั ไปอยูตําแหนง เดินเบา ถา ไมเลอื่ นกลบั ใหป รับลดกําลังดึงของสปรงิ ถา เลอื่ นกลบั
ใหปรับเพิ่มกําลังดึงสปริงจนกระท่ังไมเลื่อนกลับแลวจึงปรบั ลดกําลงั ดึงสปริงลงมาจนกระท่งั ถึงจุดทีค่ ัน
ควบคมุ ความเรว็ เลื่อนกลับมาอยตู าํ แหนงเดินเบาอีก กวดนตั ล็อคสลักใหแนน ซง่ึ จะเปน ผลใหก ารใชคัน
ควบคุมความเร็วตองการแรงนอยที่สุด
- ตอ สายควบคมุ กบั คนั ควบคุม
กองฝกการชางกล กองการฝกกองเรอื ยทุ ธการ
71
ช่อื เรอ่ื ง เคร่อื งยนต DETROIT DIESEL SERIES 71
ความมงุ หมาย เพื่อใหนกั เรียนไดร ูถงึ ขอขัดของและการแกไข TROUBLE CHOOTING
เพ่อื ใหนักเรียนไดรูถึง การแกไขขอ ขัดขอ งตา งๆ ทเ่ี กิดข้ึน
หลักฐาน 1. DETROIT DIESEL V-71 SERVICE MANUAL
2. DETROIT DIESEL OPERATORS MANUAL
3. SERVICE MANUAL DETROIT DIESEL ENGINE IN-LINE 71
เนอื้ เร่อื ง
ขอขัดขอ งและการแกไข TROUBLE CHOOTING
เพ่อื ใหทราบถึงสภาพการทํางานของเคร่ืองเม่ือเกดิ มอี าการผิดปกตใิ นการทาํ งาน เพ่ือใหร ู
สาเหตุตา งๆท่เี กดิ ข้นึ ก็จําเปนจะตอ งดูทต่ี ารางแสดงขอขดั ของ (TROUBLE SHOOTING CHART) ตา
รางน้ีจะชวยยน ระยะเวลาในการหาสาเหตุและแกไขในขณะเดินเครื่อง
หลกั เบือ้ งตน ในการทาํ งานของเครื่อง ขน้ึ อยูกบั องคป ระกอบเหลาน้ี
1. มีการสง อากาศเขา ไปในสบู อยางเพียงพอและกาํ ลังดันทีส่ งู พอ
2.หัวฉดี จะตองฉีดนํ้ามนั อยา งถูกตอ งท้งั เวลาและจาํ นวนนา้ํ มันการทเ่ี ครอ่ื งไมมีกาํ ลงั ,
มีการส่ันสะเทือนมากขณะเดนิ เครอ่ื ง ตดิ เครอ่ื งไดย าก อาจจะมาจากสาเหตกุ ําลงั อดั ตํา่ หรอื หวั ฉดี ขดั
ขอ งในสบู ใดสบู หน่ึงหรือหลายสบู หรอื อาจจะมาจากอากาศเขาสบู ไมเ พยี งพอก็ได ดังนน้ั ถา กําลังอัดถกู
ตอ ง นา้ํ มันและอากาศเขาอยางเพยี งพอแลวสิ่งเหลาน้ีนบั วา สําคญั ตอ เครอื่ งยนตมาก
การตรวจหาสาเหตุขอ ขดั ขอ ง
1. การตรวจหาสบู ท่ีไมต ดิ
1.1 สตารท เครอ่ื ง แลว เดินเคร่อื งจนกระท่ังอุณหภมู สิ ูงถงึ อณุ หภูมิใชก าร
1.2 หยุดเครือ่ งเปด ฝาครอบลิ้น
1.3 วัดระยะหา งของลนิ้ CLEARANCE .008 น้วิ แบบ 2 ลิน้ และ .013 น้วิ แบบ 4 ลนิ้
1.4 เดินเครื่องที่ IDLE SPEED ใชไ ขควงกดลงไปท่บี นหลงั หัวฉดี เพือ่ ไมใหหวั ฉดี ทํางาน ถา สบู
น้ไี มทาํ งานเสยี งเครอื่ งยนตจ ะปกติ แตถาสูบนี้ทาํ งานเม่อื กดหวั ฉีดลงไปจะทําใหเกดิ เสยี งการเดินของ
เคร่อื งผิดปกตไิ ปทันที
1.5 ถา หากมีการทํางานตามปกติเลอ่ื นไปทดลองกับสูบอน่ื ๆตอ ไปจนกวาจะพบสบู ท่ไี มม กี าร
ทาํ งาน
1.6 ทดลองเปลี่ยนหวั ฉดี ใหมใ นสูบที่ไมท ํางาน
1.7 ถาหากเปลยี่ นแลวยงั ไมด ขี ึ้นใหตรวจดูกําลงั อัดอากาศ
2. การตรวจกําลงั อัดอากาศภายในกระบอกสบู
ตารางการทดลองตาม TABLE 1 หนา 143 DETROIT MANUAL OPERATION การทดสอบ
ตามขนั้ ตอนดังน้ี
2.1 เดินเครือ่ ง จนกระทั่งถึงยา นอุณหภมู ใิ ชก าร
กองฝกการชางกล กองการฝกกองเรอื ยุทธการ
72
2.2 หยุดเคร่ืองถอดทอ นม.ชพ. ออกจากหวั ฉีดสบู 1
2.3 ถอดหัวฉดี ออกแลวติดตงั้ ADAPTOR J7915-02 และเกจวัดกําลงั ดนั เขา แทน (รูป1)
2.4 ใชท อ นม.ชพ. ทอหนึ่งทําเปนสายตอ JUMPER ระหวา ง นม.ชพ. เขากับ นม.ชพ. ไหลกลบั
เพือ่ ใหน ้ํามันไหลกลับไปยงั ทางกลับถงั
2.5 เดนิ เครื่องท่ี 600 ร/น วัดคากําลงั อดั ทแี่ สดงบนเกจวัดกําลงั ดนั แลว จดไว (อยาใชการหมนุ
เครื่องดวยมอเตอรสตารท)
2.6 วดั ทุกๆ สูบ กาํ ลงั อัดจะตอ งไมตา่ํ กวา 425 PSI ท่ี 600RPM แตล ะสบู จะตอ งตางกันไมเกิน
25 PSI
สาเหตขุ องกําลงั อัดภายในสูบตา่ํ อาจมาจาก
- แหวนลูกสบู ติดหรือหกั การตรวจสอบแหวนลกู สูบถอดฝาปดหองอากาศ แลวกดแหวนอัด
ดวยเคร่ืองมือ แหวนทีต่ ิดหรือหักจะไมม แี รงสปริง
- กาํ ลงั อัดอาจรัว่ ผา น GASKET ของฝาสูบ, บาล้นิ , หัวฉดี หรือรภู ายในสบู
3. เครอ่ื งยนตห มดน้าํ มัน ENGINE OUT OF FUEL
ปญหาทีเ่ กดิ ข้นึ ในการติดเครื่องหลังจากทเี่ ครื่องหมดน้าํ มนั สาเหตหุ ลังจากท่ีนํา้ มันหมดถัง นํา้
มนั จะถกู ดูดจากหมอกรองหยาบและหมอ กรองละเอียด จึงจาํ เปนจะตองเตมิ นํา้ มันลงไปในหมอ กรอง
เหลาน้ีและไลอ ากาศใหห มดไปเพือ่ ที่จะใหน าํ้ มนั เขา ไปในหัวฉีดใหพอในการเร่ิมเดนิ เคร่ืองใหม ดังนนั้ ถา
หากเคร่อื งยนตหมดนํา้ มันแลวดับลงจะตองดาํ เนนิ การตามขัน้ ตอนดงั นี้
3.1 เตมิ นํ้ามนั ลงไปในถงั ใชก ารใหเต็ม
3.2 ถอดหมอกรองหยาบ โดยถอดฝาหมอออกเตมิ นม.ชพ. ลงไปใหเ ตม็ แลว ประกอบเขาทเ่ี ดิม
3.3 ถอดจกุ ฝาหมอ กรองละเอยี ดออก เตมิ นม.ชพ.ใหเ ตม็
3.4 เดินเครอื่ งแลวตรวจหาการร่วั ไหล ของหมอกรองหยาบ-ละเอียด
4. การทดสอบการไหลของ นม.ชพ. FUEL FLOW TEST
4.1 ปลดทอ นม.ชพ.ไหลกลับ ออกจากถังใชก ารแลวแยลงในถังรอง
4.2 สําหรบั เคร่ืองท่ไี มมีเทอรโ บชารท เดนิ เครือ่ งที่ 1200 รอบ/ นาที วัดปริมาณ นม.ชพ. ทไี่ หล
กลับภายใน 1 นาทีจะไดป ริมาตรนาํ้ มนั ประมาณ 0.8 แกลลอน สําหรบั เครอ่ื ง 16 สบู จะไดประมาณ
1.2 แกลลอน/นาที สําหรับเครือ่ งทีม่ ีเทอรโบชารทเดินเครือ่ งท่ี 1800 รอบ/นาที จะไดประมาณ 1.8
แกลลอน/ นาที
4.3 จมุ ปลายทอ ทาง นม.ชพ. ลงไปในอา ง นม.ชพ. ดูฟองอากาศภายในระบบ ถา หากมีฟอง
อากาศ ถอดขอตอทอทางระหวา งถงั ใชก ารกับพดั นม.ชพ. ถาหากจํานวน นม.ชพ.นอ ยเกนิ ไปตรวจดู
หมอกรองหยาบและหมอกรองละเอียดหรือพัด นม.ชพ.
5.กําลงั ดันในหอ งขอ เสอื CRANK CXASE PRESSURE
5.1 กาํ ลงั ดันของอากาศภายในหองแครงดจะบอกกถึงปริมาณของอากาศที่ผา นระหวางแหวน
กบั กระบอกสูบ
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรือยทุ ธการ
73
5.2 สาเหตทุ ่ที ําใหก ําลังดันในหองขอ เสอื สูง อาจเกิดจากการสึกหรอของแหวนลกู สบู กาํ ลงั อัด
รวั่ ลงหอ งขอเสือได หรอื เกดิ จากรอยราวบนยอดลกู สบู หรือกาํ ลงั ดันตานแกสเสยี สูงเกนิ ไป หรอื ทอ
ระบายอากาศหอ งขอเสอื อดุ ตัน
5.3 กําลงั ดันในหอ งขอ เสือ ตรวจเชค็ ดว ยเครื่องมือมานอมเิ ตอร โดยตอ มานอมิเตอร็เขากับชอง
ทางวัด นมล. แลวเช็คกาํ ลังดนั ตามความเร็วของเคร่ืองแลว เอาไปเทยี บกบั ตาราง 3 หนา 146
6 กําลงั ดนั ตานแกสเสยี EXHAUST BACK PRESSURE
6.1 กําลงั ดนั ตานแกส เสยี ถามีคามากเกินไปจะมผี ลอยา งมากตอการทํางานของเครื่อง เพราะ
จะทาํ ใหก ําลังดันในหอ งอากาศเพ่มิ มากขนึ้ ทาํ ใหลดประสิทธิภาพของ BLOWER ทาํ ใหมีอากาศนอ ยไม
เพียงพอตอการไลแกสเสีย ทําใหการเผาไหมไ มสมบูรณแ ละเครอื่ งมีอุณหภูมสิ งู กวาปกติ
6.2 กําลังดนั ของแกส เสยี สูงอาจเปน ผลมาจากมีหมอ ระงับเสยี งผิดแบบ ยาวเกินไป,เลก็ เกินไป,
มีสว นงอโคง หักมากเกินไป เปนผลทําใหแ กสเสียไหลออกไดไ มส ะดวก หรอื อาจมีการอดุ ตนั ของเขมาใน
ทอ ทาง
6.3 การวัดกําลงั ดันตานกลับของแกส เสีย วัดเปน นืว้ ปรอทโดยใชม านอมเิ ตอรตอเขาทางทอ
แกส เสีย ตรวจคากาํ ลังดันของแกสเสียทุกความเร็ว (ไมตองใส LOAD) เทียบกับตาราง 4 หนา 146
7. กาํ ลงั ดันในหอ งอากาศ AIR BOX PRESSURE
7.1 กาํ ลังดันภายในหองอากาศ ถกู ตองตามเกณฑแ ลว จะทาํ ใหมอี ากาศพอเพยี งสําหรับการ
เผาไหมและการกวาดลางแกส เสีย ถากําลังอากาศในหอ งอากาศต่าํ เกิดจากทางดูดของอากาศเลก็ เกิน
ไปหรือแคบมาก หรือโบลเออรชาํ รดุ มกี ารร่วั ของอากาศ กําลงั ดันในหอ งอากาศตา่ํ น้ี สังเกตไดจาก
เครอื่ งกําลังตก ควนั แกสเสยี มีสีดาํ หรอื เทา
7.2 การตรวจสอบหากําลงั ดนั อากาศในหองอากาศใชมานอมเิ ตอรตอ เขา กบั ชอ งระบายอากาศ
จากหองอากาศ แลว เช็คกําลังดันตามตาราง 6 หนา 147
8. ทางเดินอากาศเขา ตบี -ตนั AIR INLET RESTRIETION
8.1 ถา ทางเดินอากาศเขา ตีบ-ตัน จะทําใหเ กิดผลตามมาคือมีอากาศเขา สบู นอย การเผาไหม
ไมดี เครือ่ งกาํ ลงั ตก
8.2 ถา หากมีการอดุ ตนั ในทางอากาศเขา หรือมสี ่งิ สกปรกในระบบทางดูดอากาศ หมอ กรอง
อากาศสกปรกเปนสาเหตทาํ ใหอากาศเขา สบู ไดน อ ย
8.3 การตรวจทอทางอากาศเขาทาํ ไดโดยใชม านอมเิ ตอร (ใชน ํ้า) ตอเขากับทอ ตรงทางชอ ง
อากาศเขา การเช็คการตบี ตนั จุดน้คี วรเชค็ ท่ีความเรว็ คงทไ่ี มม ี LOAD แลวถอดครอบลมและหมอ กรอง
อากาศออก แลว เดนิ เคร่ืองดวยความเรว็ เทา เดมิ จดคา กาํ ลังดนั ทต่ี า งกันทม่ี าตรวดั คา กาํ ลงั ดันอากาศ
ในการวัด 2 ครัง้ ทแี่ ตกตา งกันระหวา งติดตง้ั ตะแกรงและหมอกรองอากาศกบั ไมไ ดต ดิ ต้งั เลยนั้น ถอื วา
เปนการตีบ-ตันทเี่ กดิ จากหมอ กรองอากาศ ดูตาราง 5 หนา 146
กองฝก การชางกล กองการฝกกองเรือยทุ ธการ
74
ตาราง
ตารางแสดงกาํ ลังกดทีแ่ ตกตา งกันของมานอมิเตอร
1 น้ิวนํ้า = .0735 นิ้วปรอท
1 นว้ิ นํา้ = .0361 ปอนด/ ตร.นิว้
1 นว้ิ ปรอท = .491 ปอนด/ ตร.นว้ิ
1 นวิ้ ปรอท = 13.6 นิว้ น้ํา
1 ปอนด = 27.7 นิว้ น้ํา
1 ปอนด = 2.036 นว้ิ ปรอท
ขอ ขดั ของและการแกไข
1.เครอ่ื งติดยาก
สาเหตุการขดั ขอ ง รายการตรวจ การแกไขขอขดั ขอ ง
1.1 เครอื่ งไมหมุน 1. แบตเตอรี่ออ น รอยตอตา งๆ 1 . ต ร ว จ ส อ บ แ บ ต เ ต อ รี่ แ ล ะ
หลวม มอเตอรสตารทขดั ของ มอเตอรสตารท
2. สวิตชของมอเตอรส ตารท ขัด 2.ถอดสวิตชมอเตอรสตารทหรือ
ขอ ง เปลยี่ นใหม
3. เครอ่ื งติดแนน มีส่ิงขัดตัว ภาย 3.หมุนเครือ่ งดวยมืออยา งนอย 1
ใน รอบถาเครื่องหมนุ ไมครบ 1 รอบ
แสดงวาภายในมีสิ่งชํารุดและจะ
ตองถอดออกดูใหรวู า มีอะไรยดึ อยู
1.2 เคร่อื งหมนุ ชา 1นํ้ามันหลอล่ืนมีความเหนียวเกนิ 1.ใช นมล. ท่ีมีความหนดื ถกู ตอง
ไปเพราะจะใชผดิ เกรด ตามคาํ แนะนํา และใหถ กู เกรด
2.ประจแุ บตเตอรซี่ ํ้าอีก ถา นํา้ ยา
2.แบตเตอร่ีมีไฟนอย มีถพ.ตํ่าหรือถอดเปลี่ยนแบตเตอร่ี
เมื่อมันชํารุดหรือเส่ือมประจุไฟไม
เขา ควรถอดออกและเปลีย่ นขว้ั ตอ
ตา งๆท่ชี าํ รุดสกึ หรอ
3.ขั้วตอของมอเตอรสตารทหลวม 3.ตรวจความแนนของข้ัวตอตางๆ
หรือชํารดุ ของระบบสตารท ตรวจความแนบ
สนิทของแปรงถานกับซค่ี อมมิวเต
เตอร เปลยี่ นแปรงถาน ถาสึกไป
มาก และซอ มใหญมอเตอรเมื่อซี
คอมมิวเตเตอรชาํ รุดมาก
สาเหตุการขัดขอ ง รายการตรวจ การแกไขขอ ขัดขอ ง
กองฝก การชา งกล กองการฝกกองเรือยุทธการ
75
1.3 ไมม ีนา้ํ มนั เขา 1.อากาศรั่วเขาทางสาย ชพ.ทอ 1.ตรวจร่ัวสายทางดดู ระบบ ชพ.
1.4 กาลํ งั อดั ตา่ํ
ตีบตัน พดั นม.ชพ. ขดั ของ การ ตรวจพดั น้าํ มันเชื้อเพลิง ตรวจการ
ประกอบอปุ กรณต า งๆผิด ประกอบสวนตางๆของพัดนํ้ามัน
และทอทางตางๆและดูที่รายการ
“น้ํามันนอยหรอื ไมเขาหัวฉดี ”
2.ระยะคันแร็กเรง น้าํ มนั ไมเ ตม็ ท่ี 2.ตรวจอาการทํางานของกอฟเวอร
เนอรและสวนที่สงอาการไปบังคับ
หัวฉีดและทําใหสามารถทํางานใน
ตําแหนงเบาไดเม่ือแกไขเรียบรอย
แลว แตงคนั บงั คับกอฟเวอรเนอร
และแตงคันบังคับอาการการฉีด
นม.ชพ.ใหมถ า จาํ เปน
1.ลิน้ ปด ไมส นิทหรือแตก 1.ตองยกฝาสูบออกปรับซอมใหญ
เปล่ียนลนิ้ และสวนที่ชาํ รดุ
2.แหวนอดั สกึ หรอมากหรอื หัก 2.ตรวจแหวนอัดทางชองอากาศ
เขาสูบและซอมเปลยี่ นแหวนลูกสูบ
ใหม เมื่อพบวา แหวนหลวมมาก
3.แปกกิง้ ฝาสบู รั่วหรือแตก หรอื หัก
3.ตรวจแปกกิ้งฝาสูบโดยเปดฝา
ครอบฝาสบู ออก เดินเคร่อื งสังเกต
ควนั ท่อี อกมา จะเหน็ วา ร่ัวหรือมี
รอยราว ไมแปกกิง้ กฝ็ าสูบแตก
ถอดฝาสูบเปลี่ยนหรือเปล่ียนแปก
กง้ิ ฝาสูบ และตรวจรั่วรอยรา วฝา
สบู โดยเครอื่ งตรวจสอบทีใ่ ชก ําลัง
อดั กอ นจะประกอบเขา เครือ่ ง
4.แตง ระยะเคลียแรนซข องลนิ้ ผดิ 4.ตรวจและตั้งระยะเคลยี แรนซข อง
ลิน้ ใหม
5.โบลเออรไ มหมุน 5.ตรวจเพลาขับโบลเออร และหัว
ตอเปลี่ยนสวนท่ีชํารดุ
2. แกสเสียมีควันมาก รายการตรวจ การแกไ ขขอขัดของ
สาเหตุการขดั ขอ ง
กองฝกการชา งกล กองการฝก กองเรือยุทธการ
76
2.1 ควันดําหรือสีเทา 1.เผาไหม นม.ชพ. ไมหมดจด 1.แกสเสียมีกําลังดันสูงหรือทาง
อากาศดีมีสิ่งกีดขวางทําใหอากาศ
ดีเขาสูบนอยไมเพียงพอที่จะผสม
กับน้ํามันเช้ือเพลิงแกสเสียมีกําลัง
ดันสูงก็เพราะวาทอระงับเสียงแกส
เสียหรือทอรวมแกสเสียมีส่ิงกีด
ขวางหรือตบี ตัน ตอ งตรวจแกไขเอา
ออกเสยี มีสงิ่ กดี ขวางทางอากาศดี
เขาสูบ ที่ชองไลเนอร หมอกรอง
อากาศตนั มีสง่ิ กีดขวางและบงั ท่ี
ชองโบลเออรกับชอ งอากาศดี ให
ทํ าความสะอาดหมอกรองและ
ตรวจชองตางๆตรวจคันดับเคร่ือง
ฉุกเฉนิ ใหเ ปด เต็มท่ี ถา จําเปน ตอ ง
เปดออกตรวจและตองแกไขให
อากาศดีเขาไปทํ างานในสูบให
เพียงพอจากสวนตางๆดังกลาว
2.การฉดี น้ํามันไมด ี (ไมเ ปน ฝอย) 2.เช็คการต้ังคันแร็กของหัวฉีดให
หรือฉดี นํา้ มันเกนิ อตั รา ถูกตองและเช็คไทม่ิงดวยไทม่ิงเกจ
และแตงกอฟเวอรเนอรใหทํางาน
ใหถูกตองไมตองคิดถอดแกไขท่ีหัว
ฉดี ถาแตง คันแร็กและไทม่ิงทาํ ให
เคร่ืองเดนิ เรียบแลว ถา แกไ ขดีแลว
การเผาไหมที่ไมด ีก็จะหมดไปและ
ไปดหู ัวขอ “การใชเครื่อง”
3.ใชน ้ํามันเชอ้ื เพลงิ ผดิ เกรด 3.ตรวจเกจนํ้ามันเช้ือเพลิงวาถูก
กับสเปกหรือไม และเปลยี่ นใหถ กู
ตอ ง
สาเหตุการขัดของ รายการตรวจ การแกไ ขขอ ขัดขอ ง
2 ควนั เขียวหรอื นํา้ เงนิ
1.เชื้อเพลิงจะไมทํ าการจุด 1.ตรวจการรวั่ ไหลตา งๆ ภายใน
ระเบิดในหัวสบู และมนี ํา้ มนั หลอ การร่ัวไหลของน้ํามันหลอจะเขา ไป
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรอื ยุทธการ
77
ลื่นปนในหัวสูบ และไหลผา นออก ในหวั สูบได และดูหวั ขอ “การหมด
ทอ แกส เสีย (ลกู สูบอาจแตกหรอื เปลืองนาํ้ มนั หลอ ลื่นสงู ” ตรวจการ
ฝาสูบแตก) ร่ัวไหลของนํ้ามันเชื้อเพลิงภายในท่ี
จะรั่วเขาไปทางชองอากาศดีและ
รอยรวั่ ทหี่ ัวฉดี
2.3 ควนั ขาว 1.ไฟริ่งออเดอรผดิ สบู (อาจใส 1.ตรวจการผดิ ปกติของหัวฉีด ถา
เพลาลูกเบ้ยี วกลับ) จาํ เปนกถ็ อดออกตรวจซอ ม
ตรวจกําลังอดั ภายในสบู และดหู วั
ขอ “เครอื่ งติดยาก”
การใชนํ้ามันเช้ือเพลิงที่มีซีเทนนัม
เบอรต่ําจะทําใหเกิดเหตุดังกลาว
การแกไขคอื อา นและปฏิบัตติ ามตา
รางสเปกของน้ํามนั เช้ือเพลงิ
3. เครือ่ งเดินผิดปกติ
3.1 เครือ่ งเดินไมเ รียบ 1. อุณหภูมนิ ้าํ หลอ ตา่ํ 1. ดทู ห่ี นา ปด อุณหภมู ินํ้าจดื ถา
หรือฮ้ันท ไมอยูใ นระหวา ง 160-185°F
ข ณ ะ เ ดิ น เ ค รื่ อ ง ใ ห ดู ท่ี หั ว ข อ
2.เช้อื เพลิงไมเพียงพอ “อาการผิดปกตขิ องนา้ํ หลอเครอ่ื ง”
2. ดูนา้ํ มันเชอ้ื เพลงิ ไหลกลบั ถา ตํา
กวา 1 แกลลอน/นาที ใหไปดทู ่ี
1
2
หัวขอ “ไมมีนํา้ มนั เขาหรอื น้ํามนั
เขา ไมพ อ”
3.การฉดี น้าํ มนั ไมด ีหรือไมถ ูกตอ ง 3.ตรวจระยะของไทม่ิงหัวฉีดและ
ระยะคันแรก็ ถา อาการของเครือ่ ง
ไมดีขึ้นก็จะเปนการขัดของของ
ปลายกระจายฝอย (สเปรยทิฟ
ถอดหวั ฉดี ออกแกไ ข)
สาเหตกุ ารขดั ขอ ง รายการตรวจ การแกไ ขขอขัดของ
4.กําลงั อดั ในสูบไมด ี 4. เช็คกาํ ลังอัดลูกสบู และดูทหี่ ัว
ขอ “เครอื่ งติดยาก” ถากาํ ลังอัดใน
สบู ตา่ํ
กองฝก การชา งกล กองการฝกกองเรือยทุ ธการ
78
5.กอฟเวอรเนอรทํางานแกวงหรอื 5.เคร่ืองที่ฮั้นเปนเพราะเครื่องตอ
ฮน้ั ท อาการของกอฟเวอรเนอรกับหัวฉีด
ไมดหี รือมกี ารขัดตัว หรือแตงระยะ
ไมไดที่ทั้งที่แตงระยะคันบังคับและ
หั ว ฉี ด แ ล ว ใ น ก ร ณี น้ี อ า จ ป ฏิ บั ติ
กาารแกไขใหเหมาะสมโดยปรับ
แตง ระยะตางๆของเครอื่ งใหม เชน
สันนิษฐานวา เปนทกี่ อฟเวอรเ นอร
3.2 เครื่องกําลงั ตก 1.การแตง เครอ่ื งไมถ ูกตอ ง การตง้ั 1.ถาไมต้ังกอฟเวอรเ นอรค ันแรก็ หวั
สาเหตุการขดั ขอ ง
และการใสเฟองทายเคร่ืองไมถูก ฉีด ระยะสูงหวั ฉดี และระยะหาง
ตอ ง ของลนิ้ และผลกาํ ลังเคร่ืองตกอีก ก็
ควรปรับแตงใหมตามหลักการท่ี
วางไวท ง้ั หมด
ตรวจมารกหมูเ ฟอ งทายเครือ่ ง ถา
ผิดก็มีผลทําใหกําลังของเคร่ืองตก
โดยสงอาการผิดไปยังลิ้นและหัว
ฉีดทาํ ใหจ งั หวะทาํ งานผดิ ไป
2.เชื้อเพลิงเขาไมเพียงพอ 2.ตรวจเชอ้ื เพลิงไหลกลับถัง ถา
นอั ยกวา 1 แกลลอน/ นาที ก็ให
1
2
ไปดทู ่ีหวั ขอ “นํ้ามนั ไหลเขาไมพ อ
3.การใชเ คร่อื ง หรือน้ํามันไมเขา ”
3.ตรวจความเสียหายหรือความ
สกปรกและส่ิงผิดปกติของหมอ
ก ร อ ง อ า ก า ศ แ ล ะ ล า ง ซ อ ม ห รื อ
เปลีย่ นใหม
อากาศเขาไมเ พยี งพอ เปน สาเหตุ
ทาํ ใหก าํ ลงั เครื่องตก ตอ งทาํ ให
อากาศเขา สูบใหเ พียงพอใหได
รายการตรวจ การแกไ ขขอขัดของ
ตรวจดูไลเนอรโดยผานทางชอง
อากาศเขาสูบโดยเปดฝาที่เรอื นสูบ
ออก ถาชอ งอากาศตนั มากกวา
50% ตอ งลางออก
กองฝกการชา งกล กองการฝก กองเรอื ยทุ ธการ
79
เม่ือแนใจวาอากาศไมมีทางที่จะ
เขาสบู ไดเพยี งพอแลว จะไมพ อแก
การเผาไหมใหตรวจสิง่ ชาํ รุด การ
อุดตันของหมอกรองอากาศและ
ชอ งอากาศเขาสูบโบลเออร ซงึ่ จะ
ขัดขวางการไหลเขา ของอากาศทํา
ใหควันดํ ามากจะตองทํ าความ
สะอาดสวนตางๆเหลา นัน้ ซอมทาํ
หรอื เปลีย่ นใหม
ตรวจกําลังอัดภายในสูบถาพบวา
ต่ําใหดูท่ีหวั ขอ “เครอื่ งติดยาก”
4.เชือ้ เพลงิ ไหลกลบั อุณหภมู ิสงู 4. ถาคิดจะใชเ ครื่องท่ีกําลงั ไมดีก็
จะสิ้นเปลืองโดยเปลาประโยชนถา
เปลย่ี นใหมก จ็ ะมีผลดีกวา
ก า ร ดํ าเนิน ก าร แ ก ไ ข แ ล ะ ก า ร ใ ช
เคร่ืองจะตองทําตามหลักการของ
การใชเ คร่อื งโดยถูกตอ ง
5.อากาศรอ นจดั (ภายนอกเครือ่ ง) 5.ดูวา อากาศรอบๆ เครอ่ื งเทาใด
เพราะกาํ ลังเครอ่ื งจะลดลง 0.15-
0.5 แรงมา ตอ สูบ เม่ือความรอน
อากาศภายนอกสงู กวา 90° F
ทกุ ๆ 10 องศาตองทําใหอากาศเขา
เครือ่ งเยน็ ลง
6.การใชเคร่ืองในระดับสูง(บน
เขา) 6.การใชเ เครือ่ งในระดับสงู (บน
เขา)เราไมมปี ญ หา
สาเหตกุ ารขัดของ รายการตรวจ การแกไขขอขัดขอ ง
3.3 ไมจดุ ระเบดิ
1.น้ํามันหลอปนเขาไปกับอากาศ 1.ตรวจระดับ นมล. ในหมอ กรอง
ดี อากาศและใช นมล. ใหถกู เกรด มี
ความหนดื ถกู ตอง (ทางเรือไมใช
นมล.)
ทําความสะอาดเช็ดชองอากาศเขา
กองฝกการชางกล กองการฝกกองเรอื ยทุ ธการ
80
สบู ทมี่ ี นมล. มาปนกับอากาศหรือ
นํา้ มันสะสมอยแู ละไปยงั ยอดสูบ
ตรวจสอบโบลเออรที่ล้ินก้ันน้ํามัน
เปดทางอากาศของโบลเออรออก
เช็ดนํ้ามันท่ีกระจายอยูในโบลเออร
ออกใหห มด เดินเครอื่ งสกั ครู และ
ถามีนํ้ามันผานซีลออกมาตองทํา
การซอ มทาํ โบลเออร
2.อณุ หภมู ินา้ํ หลอตา่ํ 2.ไปดหู ัวขอ “เครอ่ื งเดินไมเ รยี บ
หรือฮั้นท”
3.การฉีดนํ้ามันเชื้อเพลิงไมถูก 3.เช็คไทม่ิงและระยะคันแร็กของ
ตอ ง หัวฉีดถาเคร่ืองอาการไมดีขึ้นตอง
ปรบั แตง ใหม ถายงั ไมดีข้นึ อาจจะมี
ปญหาของการเชค็ หวั ฉีด ล้ินร่ัว
สเปรยทพิ ทะลุหรอื แตก รนู ้าํ มันโต
ตองถอดหัวฉีดท้ังหมดออกตรวจ
ความเสยี หายและสวนชํารดุ ตา งๆ
4.นา้ํ มันไมเ ขา หัวฉดี หรือเขาไมพ อ
4.1 อากาศรั่วเขา ได 1.น้าํ มนั ในถงั นอ ย 1.ทางดูดของเคร่ืองสูบอยูสูงกวา
ระดับนํ้ามันในถังน้ํามันเช้ือเพลิง
แมจ ะเตม็ กต็ าม
2.รั่วตามหัวตอหรือทอระหวางถัง 2.ดูการรวั่ ไหลของเชื้อเพลงิ และ
นม.ชพ.กับเคร่ืองสูบแตกชํารุด อากาศเขา ได ใหถ อดทอ ทางสายที่
หรือในถังขดั ขอ ง แตก ทห่ี ลวมออกตรวจซอ ม
3.แปก กงิ้ หมอ กรอง แตก รัว่ 3.ดูการรั่วไหลของเช้ือเพลิงและ
อากาศโดยถอดเปล่ียนหมอกรอง
น้ํามันเชอ้ื เพลิง
สาเหตกุ ารขดั ขอ ง รายการตรวจ การแกไขขอขัดขอ ง
4.2 มสี ง่ิ กีดขวางการ 1.หมอกรองหรือสายน้ํามันตีบ- 1.ดูการไลของน้ํามันโดยดูจากการ
ไหลของ นม.ชพ. ตัน ยกตัวกรองออกจากหมอกรองหรือ
ถ อ ด ส า ย ท อทางออกตรวจถาจํ า
เปน
2.อุณหภูมติ ํา่ กวา 10° F ต่าํ กวา 2.อานตารางสเปกของน้ํามันเชื้อ
จุดแข็งตวั ของน้ํามนั เช้ือเพลิง เพลิงและใชน้ํามันเชื้อเพลิงท่ีมีการ
กองฝก การชา งกล กองการฝกกองเรือยุทธการ
81
รบั รองแลว
4.3 พดั นํ้ามันเช้อื เพลงิ 1.ลิ้นผอนกําลังดันของนํา้ มนั ปด 1.ดูการไหลของน้ํามันถาไมเพียง
ขัดขอ ง ไมสนิท พอ ทาํ ความสะอาดและตรวจลิน้
ทัง้ หมด
2.พดั น้าํ มนั เช้อื เพลิง ทัง้ เฟอง 2.ถอดท้ังเฟองและเพลาหรือทั้งตัว
และเรือนเครอ่ื งสูบสึกหรอมาก ของเคร่ืองสูบนํ้ามันเชิ้อเพลิงถามี
การชาํ รุด
3.พดั น้ํามนั เช้อื เพลงิ ไมหมนุ 3.ตรวจการหมุนของพัดนํ้ามันเชื้อ
เพลงิ และถอดส่ิงทช่ี ํารดุ บกพรอง
ออก
4.4 การประกอบ 1.ทอ ทางดดู เล็กไป 1.ถอดสายทอทางระหวางถังใหญ
สวนตา งๆผดิ เม่อื สายตอ ยาวมาก ออกมาตรวจ
2.ทอทางกลับของนํ้ามันเชื้อเพลิง 2 .ประกอบ-กวดสายนํา้ มนั กลบั ถงั
ป ร ะ ก อ บ ไ ม แ น น ห รื อ ไ ม ไ ด
ประกอบตวั จาํ กัด นม.ชพ.กลับถงั
3.ล้ินทางจายน้ํามันเขาสายไม 3.ดูและแกไขล้ินท่ีตอกลับสายน้ํา
ทาํ งาน(CHECK VALVE) มันวาเปด สุด และถา จําเปนขยบั
ปด -เปด ใหค ลอ ง ถาลิ้นไมทํางาน
ควรเปลี่ยนใหมท ้ังชุด
4.อุณหภูมิ ชพ. ไหลกลบั ถงั สงู 4.ตรวจนาํ้ มันไหลกลบั ถงั อณุ หภมู ิ
ตองนอ ยกวา 150°F หรือตา่ํ กวา
เมื่อใชเครื่องกาํ ลังดนั นอ ยลง ใน
กรณีน้ีจะทําใหนํ้ามันในสายดีขึ้น
พดั น้ํามัน ชพ.จะทํางานไดถงึ 48
น้ิว หรอื ดีกวา หรอื ทําถังน้ํามันให
อยูใ นทที่ จี่ าํ เปน
5.การหมดเปลือง นมล.สูง
สาเหตุการขัดขอ ง รายการตรวจ การแกไขขอ ขดั ขอ ง
5.1 เกิดการรัว่ ไหลภาย 1.รั่วที่หัวตอหรือตามทอทางเดนิ 1.กวด หรือถอดออกซอมทําสวนที่
นอก น้ํามันหลอลื่น ชาํ รดุ
2.แปกกงิ้ ตางๆหรือซีล นมล.รั่ว 2.ถอดเปลี่ยนแปก กง้ิ หรอื ซีล นมล.
ทีช่ ํารุด
3.กําลังดันแก็สในหองแครงกสูง 3.ใหดูและพิจารณาจากหัวขอ
กองฝกการชางกล กองการฝก กองเรอื ยทุ ธการ
82
มาก “หอ งแครงกม ีกําลงั ดันสูง”
4.มนี ํา้ มันหลอ มากเกินไป ใน 4.ใหดูและพิจารณาจากหัวขอ
ชองอากาศดีเขา สูบ “เครือ่ งเดินผดิ ปกต”ิ
5.2 การรั่วไหลภายใน 1.รั่วทซ่ี ีลของโบลเออร 1.เปดทางเขาของอากาศดีตรวจ
แผน หวั -ทา ยโบลเออร เดินเครอื่ ง
สกั ครู ถามนี ้าํ มันหลอ ออกมาจาก
หัว-ทายของใบพัดกระจายจากซีล
นมล.ตองทาํ การซอมใหญโ บลเออร
2.ดูนํ้าท่ีหมอดับความรอนวามนี ้ํา
2.รั่วทห่ี มอั ดับความรอ น มันหลอปนอยูหรือเปลาถาพบถอด
หมอดับความรอนน้ํามันหลอตรวจ
ซอ ม แลวใชน าํ้ ลา งนํ้ามันหลอ จาก
ระบบหลอเย็น
5.3 ระบบน้ํามนั หลอ ใน 1.แหวนกวาดน้ํามันสึกหรอมาก 1.ถอดเปลี่ยนแหวนกวาดนํ้ามัน
ลกู สูบ หรอื แตก หรอื ใสก ลบั ทาง หลอ ลื่น
2.ฝาปดหัว-ทายสลักลูกสูบหลวม 2.ถอดเปล่ียนสลักลูกสูบและสวน
หรือรั่วได ชํารดุ
3.มีรองที่ไลเนอรลูกสูบหรือแหวน 3.ถอดเปลยี่ นส่ิงท่ีชํารดุ
กวาดนํา้ มันหลอลนื่ (รอยขดู )
4.ลูกสูบและกานสูบไมไดศูนย 4.ถอดเปลยี่ นสิ่งที่ชํารุด
(เหตุเพราะแบร่ิงกนั รนุ สกึ มาก)
5.มุมของทอ ทางดูดนํา้ มนั หลอ 5.ปรับระดับเคร่ืองใหอยูในแนว
รวม
6.นํา้ มันหลอลื่นนอ ย 6.เติมนํ้ามันหลอลื่นในหองแครงก
ใหอ ยใู นระดบั ใชก าร
6. กาํ ลงั ดนั แกสในหองแครงกผ ดิ ปกติ
สาเหตุการขัดขอ ง รายการตรวจ การแกไขขอ ขดั ขอ ง
1.ตรวจกําลงั อัดภายในสูบ ถา สูบ
6.1 แกสรั่วจากหวั สูบลง 1.รั่วที่แปก กง้ิ ฝาสูบ ใดสบู หนึง่ มกี ําลังอัดตํ่า ตอ งยกฝา
สูบและเปล่ียนแปกกิ้งฝาสูบใหม
หอ งแครง ก 2.ตรวจสลักลูกสบู ไลเนอร และ
ถอดเปลีย่ นสว นทีช่ าํ รดุ
2.ลูกสูบชํารดุ หรือทะลุ 3.เปล่ียนแหวนใหม
3.แหวนอดั สึกหรอมากหรือหกั
กองฝก การชางกล กองการฝก กองเรือยุทธการ
83
6.2 การระบายออกไมด ี 1.มีส่งิ กีดขวางทางระบายออก 1.ทําความสะอาดหรือซอมเปลี่ยน
พอ สว นที่ชาํ รดุ อุดตนั น้ันๆ
6.3 รั่วจากโบลเออรลง 1.มีการชํารุดเสียหายของแปกกิ้ง 1.ถอดโบลเออรออกเปลี่ยนแปกก้ิง
หอ งแครง ก ของโบลเออรก บั เส้ือสูบ ใหมท ีเ่ สื้อสูบ
2.แปกกิ้งแผนปดหัว-ทายของ 2.เปล่ียนแปกก้ิงหัว-ทายของเรือน
เรือนสบู ชํารดุ ร่วั สบู
6.4 แกสเสยี กําลังดันสูง 1.แผนก้ันในหมอระงับเสียงอาจมี 1.ตรวจกําลังดันของแกสเสียและ
การอุดตนั รอยตอตา งๆ
2.ทอแกส เสยี ผดิ ปกติหรอื ตีบตนั 2.ทอเลก็ เกนิ ไป หรอื ยาว หรืองอ
มากเกนิ ไป ตองเปล่ยี นขนาดให
ใหญขน้ึ
7.กําลังดันน้าํ มนั หลอตก (อณุ หภมู ินา้ํ จืดออกจากเคร่ืองใหไ ดอุณหภูมติ ่ําทส่ี ุดที่ 160°F
สาเหตกุ ารขัดของ รายการตรวจ การแกไ ขขอ ขดั ของ
7.1 นํ้ามนั หลอลนื่ 1.นํ้ามนั หลอล่นื ไมเ ขา ทางดูด 1.ตรวจน้ํามันหลอล่ืนและเติมให
อยูในระดับใชก าร หรอื ปรบั ระดบั
เครื่องใหอยูในแนวรวม
2.นํ้ามนั หลอลนื่ ใสเกนิ ไป 2.ใชนาํ้ มนั หลอ ลื่นใหถูกตอ ง
ตรวจดูการร่ัวไหลของนํา้ มนั ชพ.ซ่ึง
จะปนลงไปผสมกบั นมล.ทําให
นมล.ใสขน้ึ
7.2 การไหลวนเวยี น 1.หมอระบายความรอนนํ้ามัน 1. บรเิ วณลูกอดุ ท่ีหมอระบาย
ความรอนจะบอกใหรูถึงอุณหภูมิท่ี
ของนํา้ มันหลอลืน่ ไมด ี หลอลนื่ ตัน สูงเกินไปของนา้ํ มนั หลอ ลืน่ ให
ถอดทาํ ความสะอาดตัวหมอระบาย
ความรอน ทางนํ้ามนั หลอ ล่นื ไหล
สาเหตกุ ารขดั ขอ ง รายการตรวจ การแกไขขอ ขดั ของ
2.ล้ินบายพาสที่หมอระบายความ 2.ถอดล้ินบายพาสออกมาทําความ
รอ นไมถกู ตอ ง สะอาด ตรวจปลอกลิ้น สปริงลน้ิ
และเปลยี่ นสวนที่ชํารุด
3.ลิ้นแตงกําลังดันน้ํามันหลอลื่น 3.ถอดลิ้นแตงกําลังดันนํ้ามันหลอ
ทํางานไมถกู ตอง ลน่ื ออกทาํ ความสะอาด ตรวจ
ปลอกลนิ้ สปรงิ ลิ้นเปล่ียนสวนที่
ชาํ รุด
4.แบริง่ เพลาขอ เสอื หลวมมาก 4. เปลีย่ นแบรง่ิ ใหมหมด พิจารณา
กองฝก การชางกล กองการฝก กองเรือยทุ ธการ
84
เปล่ียนนํ้ ามันหลอใหเหมาะสม
และเปลี่ยนชนิดการใชไสกรองให
ถูกตองกับน้ํามันหลอลื่นในเกรดที่
ใชอ ยู
5.ลูกอัดตางๆในตัวเพลาขอเสือ 5.เปลยี่ นลกู อุดหรอื ใสใ หม
เพลาลูกเบีย้ วชํารดุ หลวมไป
7.3 เกจวัดกําลังดัน 1.เกจวัดกําลังดันน้ํามันหลอล่ืน 1.ตรวจกําลังดันน้ํามันหลอล่ืนดว ย
ชํารุด เกจที่เชือ่ ถือได และเปลย่ี นเกจใหม
ถาพบวา ชี้ไมถ ูกตอง
2.สายตอ เขา เกจตบี ตนั 2.ถอดออกและทําความสะอาดทอ
ทางกําลังดันน้ํามันหลอลื่นเขาเกจ
เปลย่ี นใชของใหมถ า จาํ เปน
3.รทู กี่ น เกจตัน 3.ถอดเกจออกทาํ ความสะอาดรูกน
เกจอาจมีผงอดุ ตัน
4.ตอสายไฟแจงเหตุทีห่ นาปด ผดิ 4.ซอมและเปลี่ยนสวนที่ชํารุดเสีย
เสน หาย
7.4 พัดนาํ้ มันหลอล่นื 1.ตะแกรงกรองกระโปรงทางดูด 1.ถอดทําความสะอาดอางนํ้ามัน
ขดั ของ น้ํามันหลอในหองแครงกต นั เปน หลอลื่นและตะแกรงกรองทางดูด
บางสว น อานพิจารณาจากคูมือแจงคุณ
สมบัติของน้ํามันหลอล่ืนสําหรับใช
เกรดท่เี หมาะสม พรอ มท้ังเปลยี่ น
ไสก รองใหเ หมาะสมดว ย
สาเหตุการขดั ของ รายการตรวจ การแกไ ขขอ ขัดของ
2.ล้นิ ผอนตา งๆปดไมส นทิ 2.ถอดลิ้นออกตรวจ และตรวจชอ ง
ลิ้นและสปริงลิ้น เปลี่ยนสว นที่
ชาํ รุด
3.อากาศร่ัวเขาทางดูดของพัดนํ้า 3.ถอดทอตางๆออก เปลีย่ นแปก ก้งิ
มนั หลอ ลนื่ ใหม
4.พัดน้ํามันหลอล่ืนสึกหรอมาก 4.ถอดพัดน้ํามันหลอล่ืนออกทํา
หรอื ชํารุด ค ว า ม ส ะ อ า ด แ ล ะ เ ป ลี่ ย น ที่ ชํ ารุด
เสียใหม
8. อณุ หภมู นิ ํ้าหลอเครอื่ งผดิ ปกติ
กองฝก การชา งกล กองการฝก กองเรือยทุ ธการ
85
8.1 สูงกวา ปกติ 1.การถา ยเทความรอนไมเ พียงพอ 1.ระบบน้ําหลอเครื่องตองทาํ ความ
สะอาดดวยน้ํายาเคมีท่ีมีคณุ ภาพดี
เพื่อขจัดคราบและผงติดแนนอยูใน
สวนตางๆในระบบ
ภายนอกทางดานน้ําทะเลไหลผาน
ตอ งสะอาดโดยเปดฝาออกทัง้ 2
ขางและเมื่อทําความสะอาดแลว
อากาศธรรมดาตองผานไดสะดวก
ปรับความตึงของสายพานใหถูก
ตองเพอ่ื ปอ งกันสลิปลนื่
ตรวจสอบการติดต้ังเครื่องยนต
ขนาดของหมอระบายความรอนที่
เล็กไปพื้นที่ผิวถายเทความรอนไม
พอเพยี ง
2.การไหลวนเวยี นไมดี 2.ตรวจระดับนา้ํ จืดใหเ ตม็ ถัง (ต่าํ
จากขอบบนของถัง 1 นิว้ ) เติมให
ถงึ ระดบั ใชก ารถาระดับตํา่ เกินไป
ตรวจดทู ถี่ า เดนิ ของนา้ํ จืด อาจ
เบยี ดกันจนแบนตบี ถา พบใหจดั
การแกไ ข
สาเหตุการขัดขอ ง รายการตรวจ การแกไ ขขอ ขดั ของ
เทอรโ มสตัตอาจไมทาํ งาน ถอด
ออกตรวจทดลอง เปลยี่ นใหมเมือ่
เหน็ วาชํารดุ
ตรวจใบพัดของพัดน้ําท่ีหลวมหรือ
ชํารุด
ตรวจการไหลผานของน้ําหมอดับ
ความรอนนา้ํ จืด ถา มกี ารอดุ ตนั จะ
ทาํ ใหน าํ้ หลอเครอื่ งไมพ อ ทาํ ความ
สะอาดภายในหมอระบายความ
รอนนาํ้ จืด
กองฝกการชางกล กองการฝก กองเรือยุทธการ
86
เปด ฝาทางเตมิ นํา้ จืดแลว เดิน
เครื่องตรวจดูวาแกสการทํางานหัว
สูบจะรั่วเขามาในระบบน้ําจืดหรือ
เปลา ถามีแกส ร่วั เขามาได แสดง
วา ฝาอาจแตกราว หรือแปก ก้งิ ฝา
สบู ร่ัว
ตรวจการร่ัวไหลในทางดูดของพัด
น้ําจืดและเปลยี่ นสวนที่ชํารุด
8.2 ตํ่ากวาปกติ 1.การไหลวนเวียนไมด พี อ 1.ลิ้นเทอรโมสตัตอาจเปด อยูตลอด
เวลา ใหถอดออกทําความสะอาด
และประกอบเขา ทใ่ี หม
เทอรโมสตตั อาจไมป ด ถอดออก
ตรวจทดลอง ถาจาํ เปน ก็เปล่ยี น
เสยี ใหม
2.การร่ัวผานลิ้นเทอรโทสตัตของ
2.เทอรโ มสตตั ไมคอ ยดี นา้ํ ไหล น้ําจดื ถา มากเกนิ ไปจะเปน เหตใุ ห
ผา นลัดทางมากเกนิ ไป การระบายความรอนของเครื่อง
ยนตไ มดี เมื่อเกิดการขดั ขอ งเชนน้ี
ควรถอดเปลี่ยนซีลของเทอรโ มสตัต
เสียใหม (แหวนยางทเ่ี ทอรโมสตัต)
กองฝกการชา งกล กองการฝกกองเรือยทุ ธการ