The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การตัดต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำเกลียว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-05-29 00:47:04

การตัดต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำเกลียว

การตัดต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำเกลียว

Keywords: การตัดต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำเกลียว

วิธีการปฏิบตั ทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice)
เร่ือง “การตดั ต่อเพลามอเตอรด์ ้วยวิธที ำเกลียว”

โรงงานเครือ่ งกล กองโรงงานเครื่องกล
อูท่ หารเรือพระจุลจอมเกลา้
กรมอทู่ หารเรือ

.

สารบัญ หน้า

๑. ทีมงานชุมชนนกั ปฏบิ ัติ (Community of Practice, CoP) ๑
โรงงานเครือ่ งกล กองโรงงานเคร่อื งกล อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอทู่ หารเรือ

๒. บทนำ ๔
๓. วัตถปุ ระสงค์ ๕

ผลทจ่ี ะไดร้ บั ๖
๔. แผนภูมิกระบวนการทำงาน ๖
๕. รายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการทำงาน ๖

๕.๑ การเตรียมความพร้อม ๗
๕.๑.๑ การตรวจสอบตำแหนง่ การชำรุดของเพลามอเตอร์ ๗
๕.๑.๒ ทำการถ่ายแบบตัวเลขจากขนาดจริง ๙
๑๐
๕.๒ การตัดต่อเพลา ๑๑
๕.๒.๑ การตดั สว่ นเพลาทีช่ ำรดุ ออกและปาดหน้าใหเ้ รียบ
๕.๒.๒ เจาะทำเกลียวในเพลาโรเตอร์ (ชนิ้ เดิม) และทำเกลยี วนอกทีป่ ลายเพลาใหม่ ๑๒
๕.๒.๓ ต่อเพลาท้ังสองโดยการกวดเกลียว
๕.๒.๔ การกลึงขอบบรเิ วณรอยต่อของเพลาทง้ั สองที่จะต่อเขา้ หากันใหเ้ ป็น ๑๓
รูตัววี V เพอ่ื ใหแ้ นวแลน่ ประสานมีความแข็งแรง
๕.๒.๕ การเชือ่ มรอยตอ่ ท้ังสอง ควรเชอ่ื มด้วยอาร์กอน เนื่องจากจะส่งผลให้ ๑๔
แนวเชอื่ มมคี วามเรียบเนียน ๑๕
๕.๒.๖ กลึงแต่งผิวให้ไดต้ ามขนาด ๑๕

๕.๓ การตรวจสอบ
ตรวจสอบเพลาทงั้ หมดใหไ้ ดต้ ามที่ได้เขียนแบบไว้

๕.๔ สรุปและประเมณิ ผล
๖. แหลง่ จัดเก็บความรู้

รายชื่อผู้ร่วมทำงาน
เรือ่ ง การตดั ตอ่ เพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำเกลียว

ว่าที่ ร.อ.เกียรติพงษ์ ทรงกลิ่น
หวั หนา้ คณะทำงาน

พ.จ.อ.บุญฤทธิ์ กล่นิ ชื่น
รองหัวหน้าคณะทำงาน

นายธเนตร ชุ่มใจ นายสมชาย กศุ ลส่ง นายชัยศกั ดิ์ ศรีเมฆ นายสุรเชษฎ์ ปลื้ม
เปล่ียน

นายอนุสรณ์ ไตรรตั น์ นายสุรพศ วงษ์เชย นายณฐพงศ์ เตา่ ทอง
เจ้าหนา้ ที่

รายชื่อผู้ร่วมทำงาน

๑. ร.ท.เกียรตพิ งษ์ ทรงกลิ่น หวั หน้าคณะทำงาน
๒. พ.จ.อ.บญุ ฤทธิ์ กล่นิ ช่นื รองหัวหน้าคณะทำงาน
๓. นายธเนตร ชมุ่ ใจ เจา้ หน้าท่ี
๔. นายสมชาย กศุ ลส่ง เจา้ หนา้ ท่ี
๕. นายชัยศกั ดิ์ ศรเี มฆ เจา้ หนา้ ท่ี
๖. นายสุรเชษฎ์ ปลม้ื เปลีย่ น เจา้ หนา้ ท่ี
๗. นายอนุสรณ์ ไตรรตั น์ เจ้าหน้าท่ี
๘. นายสรุ พศ วงษเ์ ชย เจา้ หน้าท่ี
๙. นายณฐพงศ์ เต่าทอง เจ้าหน้าที่

บทนำ

ปัจจุบันท้ังภาครัฐและเอกชน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความรู้ภายในองค์กร
หรือ Knowledge Management (KM) กันมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการจัดการสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้
(Intangible Asset) ดังเช่น ความรู้ ความสามารถในการเรียนรู้และการพัฒนาองค์กร เพื่อสร้างคุณค่า
และมูลค่าเพิ่มให้กบั องคก์ ร ให้กลายเป็นความสามารถในแข่งขนั ทย่ี งั่ ยืน การบริหารความรู้ท่ีมีอย่ภู ายในองค์กร
ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อนำองค์กรไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นส่ิงท่ีท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลง
ในยุคปัจจุบัน เพราะหัวใจขององค์กรแห่งการเรียนรู้ คือความสามารถในการบริหารจัดการความรู้ท่ีมีอยู่
ให้เกิดเป็นรูปธรรม และบริหารให้บุคลากรขององค์กรมีจิตสำนึกในการพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเอง
อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม การส่งเสริมการเรียนรู้ การใช้เคร่ืองจักร เคร่ืองมือกลและเทคโนโลยี
สนับสนุนการแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน (Knowledge Sharing) ดังนั้น เป้าหมายของ KM คือ
ต้องการดึงความรู้ในตัวผู้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นความรู้แบบ Tacit Knowledge หรือความรู้แบบฝังลึกในตัวบุคคล
ให้กลายเป็น Explicit Knowledge หรือความรู้ที่ปรากฏแจ้งชัด เพื่อสร้างสรรค์วิธีปฏิบัติท่ีเป็นเลิศในการ
ทำงานให้บุคคลอื่นได้ทดลองนำไปใช้ การจะไปถึงเป้าหมายนี้ได้ต้องอาศัยเครื่องมือในการจัดการความรู้แบบ
ต่าง ๆ (KM Tools) และเคร่ืองมือที่นิยมใช้เพ่ือจัดการความรู้อย่างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน คือการรวมกลุ่มแบ่งปัน
ความรู้ซึ่งกันและกัน ระหว่างคนท่ีทำงานร่วมกัน เป็นวิธีการหน่ึงที่สำคัญในการจัดการความรู้ขององค์กร และ
จะนำไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ การรวมกลุ่มข้ึนเพ่ือแลกเปล่ียนแบ่งปันความรู้ ทักษะ ประสบการณ์
ของผู้ท่ีสนใจในเร่ืองเดียวกัน มีวัตถุประสงค์หรืออุดมการณ์เดียวกัน ผ่านท้ังรูปแบบท่ีเป็นทางการและ
ไม่เป็นทางการ ซ่ึงจะเป็นการทำให้เกิดการทำงานท่ีมีการประสานร่วมมือกัน ปรึกษาหารือกัน มีลักษณะเป็น
การทำงานแบบเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย ที่มีการแบ่งปันความรู้ร่วมกันในการทำงาน นอกจากจะทำให้
บุคลากรไม่เพียงแต่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งแล้ว ยังอาจจะทำให้บุคลากรมีความรู้
ความสามารถทห่ี ลากหลายมากขน้ึ เมอ่ื ไดม้ กี ารแบง่ ปนั ความรู้ซง่ึ กนั และกนั

โรงงานเครอ่ื งกล กรก.อจปร.อร. เป็นหน่วยงานหนึ่งทต่ี ระหนักถึงความสำคัญ ในแนวคิดเร่อื ง
การจัดการความรู้ จึงก่อให้เกิดการรวมกลุ่มร่วมกันทำงาน เพื่อถ่ายทอดแลกเปลี่ยน ทักษะ ประสบการณ์
รว่ มกันระหว่างบุคคลในกลุ่มขึ้นภายใน รง.เครอื่ งกล ฯ ภายใต้การตัดสินใจนำกรณี การตัดต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธี
ทำเกลียว ซึ่งในการจัดหาเพลามอเตอร์ ซึ่งมีราคาสูงและทรัพยากรในอีกหลาย ๆ ด้าน ตลอดจนส่งผลกระทบ
ต่อระยะเวลาในการซ่อมทำเรือ ของอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ เป็นอย่างมาก จากการ
รวมกลุ่มแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกันของบุคคลภายในกลุ่ม จนสามารถค้นพบแนวทางและ
กระบวนการตัดต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำเกลียว จากประสบการณ์น้ีเอง จึงถือได้ว่าบุคลากรที่ร่วมกลุ่มกัน
ทำงานจนประสบความสำเร็จ โดยการแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ จนเกิดเป็นรูปธรรมขึ้น
สามารถพัฒนาข้ันตอนการทำงานที่มีอุปสรรค ข้อขัดข้องจนประสบผลสำเร็จ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อ รง.
เครื่องกล กรก.ฯ และอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ตลอดจนสามารถกำหนดเป็นแนวทางเพื่อใชใ้ น
การปฏบิ ตั ิตอ่ ๆ ไปไดใ้ นอนาคต

วตั ถุประสงค์
๑. เพอ่ื แก้ไขปัญหาการชำรดุ ของเพลาโดยไมจ่ ำเป็นตอ้ งหาเพลาโรเตอรท์ ดแทน ชว่ ยลดงบประมาณ

ในการจัดซื้อ
๒. เพือ่ ปรับปรงุ และพัฒนากระบวนการซ่อมทำเพลาภายในโรงงานเคร่ืองกล กรก.ฯ ให้มีประสิทธภิ าพ

สูงข้ึน และเกิดประโยชนส์ งู สดุ ต่อทางราชการ
๓. เพื่อบริหารจดั การองค์ความรู้ในตวั บคุ คลผู้ปฏบิ ัติงาน ซึง่ เป็นทรัพยากรท่มี คี ุณค่ามิให้สญู หายไป

กับตัวผปู้ ฏบิ ัตงิ าน
๔. เพื่อรวบรวมองค์ความร้เู ฉพาะด้าน ซง่ึ ซ่อนลึกอยู่ในตวั บคุ คลใหส้ ามารถจับต้องได้เปน็ รปู ธรรม

ผลที่จะไดร้ ับ
๑. สามารถนำกระบวนการทำงานไปใช้เป็นแนวทาง ในงานซ่อมทำเพลามอเตอรด์ ้วยวิธีทำเกลียวของเรือ

ทีม่ ใี ช้ในราชการของกองทัพเรอื ได้ในอนาคต
๒. เกดิ องค์ความรู้อยคู่ ูก่ ับองค์กร
๓. ประหยัดงบประมาณและลดการสูญเสียทรัพยากร เพ่ิมประสทิ ธิภาพและเกิดการพฒั นาคุณภาพ

งานซ่อมทำเพลามอเตอร์
๔. สง่ เสรมิ พัฒนาบคุ ลากรใหม้ ีทักษะในการแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผล สามารถเกิดความคิด

สร้างสรรคใ์ นตัวบคุ ลากรผู้ปฏิบัตงิ าน

กระบวนการทำงาน (Flow Process Chart)

๑.การเตรียม
ความพรอ้ ม

๔.สรุปและ
ประเมิณผล

๒.การตัดตอ่
เพลา

๓.การตรวจสอบ

๕. รายละเอยี ดขั้นตอนต่างในกระบวนการทำงาน
ในงานตัดต่อเพลามอเตอร์ดว้ ยวธิ ที ำเกลียว มี ๔ ข้นั ตอน ดังนี้

๕.๑ การเตรยี มความพร้อม
๕.๑.๑ การตรวจสอบตำแหน่งการชำรดุ ของเพลามอเตอร์ว่ามีการสึกหรอหรือชำรดุ ตรงตำแหน่งใด

เช่นตำแหนง่ ของซีลกล (Mechanacal Seal) ตำแหน่งของล่มิ ของใบพัดนำ้ หรอื ตำแหน่งบริเวณปลายเพลาท่ี
เป็นเกลียวยึดใบพดั น้ำ

รปู ภาพท่ี ๑

รปู ภาพที่ ๒

๔.๑.๒ ทำการถ่ายแบบตวั เลขจากขนาดจรงิ เชน่ ค่าความโต ค่าความยาวขนาดรอ่ งลิ่ม เปน็ ตน้
เพื่อเกบ็ เป็นค่าอา้ งอิง

รปู ภาพที่ ๓

รูปภาพที่ ๔

๕.๒ การตดั ต่อเพลา
๕.๒.๑ นำโรเตอรข์ ึ้นเคร่อื งกลึงเพื่อทำการตดั ส่วนเพลาท่ีชำรุดออก และปาดหนา้ ใหเ้ รียบ

รปู ภาพท่ี ๕

รปู ภาพท่ี ๖

๕.๒.๒ เจาะทำเกลยี วในเพลาโรเตอร์ (ช้นิ เดิม) และทำเกลยี วนอกทีป่ ลายเพลาใหม่ และจำเปน็ ต้องมี
ขนาด ระยะเกลยี วท่ีพอดีทสี่ ามารถเขา้ กบั เกลยี วในของชน้ิ งานเพลาส่วนทตี่ ดิ ต้งั โรเตอร์

รูปภาพท่ี ๗

รูปภาพท่ี ๘

๕.๒.๓ ตอ่ เพลาท้งั สองโดยการกวดเกลยี วให้แน่นท่ีสุดเพื่อทำใหเ้ ป็นเหมือนวตั ถุช้นิ งานเดียวกนั
รปู ภาพที่ ๙
รูปภาพท่ี ๑๐

๕.๒.๔ ทำการกลงึ ขอบบริเวณรอยต่อของเพลาทั้งสองท่ีจะต่อเขา้ หากนั ใหเ้ ปน็ รตู วั วี V เพ่ือใหแ้ นว
แลน่ ประสานมีความแขง็ แรง

รปู ภาพที่ ๑๑
๕.๒.๕ ทำการเช่ือมรอยต่อทั้งสอง ควรเชือ่ มด้วยอาร์กอน เนอ่ื งจากจะสง่ ผลให้ แนวเชือ่ มมีความเรียบ
เนียน และละเอียดมากวา่ การเชอ่ื มต่อแบบไฟฟ้าท่วั ไป

รปู ภาพท่ี ๑๒

รูปภาพท่ี ๑๓
รปู ภาพท่ี ๑๔
รูปภาพที่ ๑๕

๕.๒.๖ กลงึ แต่งผวิ ให้ไดต้ ามขนาด
รูปภาพท่ี ๑๖
รปู ภาพที่ ๑๗

๕.๓ การตรวจสอบ
๔.๓.๑ ตรวจสอบเพลาทั้งหมดใหไ้ ด้ตามทีไ่ ดเ้ ขียนแบบไว้

รูปภาพที่ ๑๘

๕.๔ สรุปและประเมิณผล
สงิ่ ทช่ี มุ ชนนกั ปฏิบตั ิ รง.เครือ่ งกล ฯ จะตอ้ งดำเนนิ การตอ่ ไป
แก้ไข ปรับปรุง อุปสรรค ข้อขัดข้อง และปัญหาจากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา ในงานตัดต่อเพลา

มอเตอรด์ ้วยวธิ ีทำเกลียว

ข้อเสนอแนะ
ตามแนวคิดของชุมชน ฯ รง.เคร่ืองกล มีขอเสนอแนะท่ีต้องการให้ชุมชนนักปฏิบัติ อู่ทหารเรือพระ
จุลจอมเกล้า ท่ีปฏิบัติงานในสายงานปกติแล้วประสบปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องต่างๆ นำมาจัดทำกิจกรรม
ชมุ ชน ฯ เพอ่ื แลกเปล่ียนเรยี นรู้ มุ่งสู่ความสำเร็จ ทั้งประสทิ ธภิ าพ และประสิทธผิ ลของงานตอ่ ไป

๖. แหลง่ จัดเกบ็ ความรู้
๖.๑ เอกสารวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เร่ือง “งานตัดต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำ

เกลยี ว”
๖.๒ ไฟลห์ นังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์ “งานตดั ต่อเพลามอเตอร์ด้วยวิธีทำเกลียว”

ในคอมพวิ เตอรส์ ่วนกลางของโรงงานเคร่ืองกล กรก.อจปร.อร.

***********************************


Click to View FlipBook Version