The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-04-12 02:45:28

พรบ.วินัยทหารพ.ศ.๒๕๗๖

ระเบียบปฏิบัติ

Keywords: ระเบียบปฏิบัติ

พระราชบญั ญตั ิ
วาดวยวนิ ัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖

_____________

ประชาธิปก ป.ร.

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาประชาธปิ ก พระปกเกลาเจาอยูหวั มพี ระบรมราชโองการโปรด
เกลา ฯ ใหป ระกาศวา

โดยท่ีสภาผูแทนราษฏรถวายคําปรึกษาวา เพื่อปฏิบัติการตามความในมาตรา 7 แหงประมวล
กฎหมายอาชญาทหาร และเนื่องจากทหารบก ทหารเรือ ไดรวมเปนกระทรวงเดียวกัน สมควรตรา
บทบัญญัติวาดวยวินัยทหารเสยี ใหม

จง่ึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบัญญัติข้ึนไวโดยคําแนะนํา และยินยอมของสภา
ผแู ทนราษฏรด่ังตอ ไปน้ี

หมวด ๑
บทเบ็ดเสร็จท่วั ไป

_____________

มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีใหเรียกวา "พระราชบัญญัติวาดว ยวินัยทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๖"
มาตรา ๒ ใหใชพระราชบญั ญัตินี้ต้ังแตวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป
มาตรา ๓ ใหยกเลกิ กฎวา ดวยยุทธวนิ ัยและการลงอาญาทหารบกฐานละเมิดยุทธวินัย ลงวันท่ี
๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๖๔ กฎเสนาบดีวาดวยอํานาจลงอาญาทหารเรือ ลงวันท่ี ๑๑ กันยายน
พุทธศกั ราช ๒๔๖๕ และบรรดากฎขอบังคับอื่น ๆ ในสวนที่มีบัญญัติไวแลวในพระราชบัญญัติน้ี หรือซ่ึง
แยง กบั บทแหง พระราชบญั ญัติน้ี

หมวด ๒
วาดวยวนิ ยั

_____________

มาตรา ๔ วนิ ัยทหาร คือ การที่ทหารตองประพฤติตามแบบธรรมเนียมทหาร
มาตรา ๕ วินัยเปนหลักสําคัญท่ีสุดสําหรับทหาร เพราะฉะน้ันทหารทุกคนจักตองรักษาโดย
เครง ครัดอยูเสมอ ผใู ดฝาฝนทานใหถือวาผนู ั้นกระทาํ ผิด
ตัวอยางการกระทําผิดวินัยมีดง่ั ตอ ไปนี้
(๑) ดอ้ื ขัดขนื หลีกเลี่ยง หรือละเลยไมป ฏิบตั ิตามคําสัง่ ผูบงั คับบญั ชาเหนือตน
(๒) ไมรักษาระเบียบการเคารพระหวา งผใู หญผ นู อย
(๓) ไมร กั ษามรรยาทใหถกู ตองตามแบบธรรมเนียมของทหาร
(๔) กอใหแตกความสามคั คใี นคณะทหาร
(๕) เกยี จคราน ละท้ิง หรอื เลนิ เลอ ตอหนา ทีร่ าชการ
(๖) กลาวคําเทจ็
(๗) ใชก ริ ยิ าวาจาไมส มควร หรือประพฤตไิ มส มควร
(๘) ไมตกั เตอื นสัง่ สอน หรอื ลงทณั ฑผูใตบ ังคับบญั ชาทก่ี ระทาํ ผดิ ตามโทษานโุ ทษ

(๙) เสพเครอื่ งดองของเมาจนถงึ เสยี กริ ยิ า
มาตรา ๖ ผูบังคบั บัญชามีหนา ทจ่ี ดั การระวังรกั ษาวนิ ัยทหารทีต่ นเปน ผูบังคับบัญชาอยูน้ันโดย
กวดขัน ถาหากวาในการรักษาวินัยทหารนั้น จําเปนตองใชอาวุธ เพื่อทําการปราบปรามทหารผูกอการ
กําเรบิ กด็ ี หรือเพอ่ื บังคับทหารผูละทง้ิ หนาที่ใหก ลบั ทาํ หนา ทข่ี องตนก็ดี ผบู งั คบั บัญชาและผูที่ชวยเหลือ
ในการนั้น จะไมตองรับโทษในการท่ีตนไดกระทําไปโดยความจําเปนนั้นเลย แตเม่ือมีเหตุด่ังกลาวน้ี
ผูบังคับบัญชาจักตองรายงานไปยังผูบังคับบัญชาเหนือตน และรายงานตอไปตามลําดับช้ันจนถึง
รฐั มนตรวี าการกระทรวงกลาโหมโดยเร็ว
มาตรา ๗ ทหารผูใ ดกระทําผิดตอวินัยทหารจักตองรับทัณฑตามวิธีที่ปรากฏในหมวด ๓ แหง
พระราชบญั ญตั ินี้ และอาจตอ งถกู ปลดจากประจําการ หรอื ถูกถอดจากยศทหาร

หมวด ๓
อํานาจลงทัณฑ

_____________

มาตรา ๘ ทัณฑทจ่ี ะลงแกผ กู ระทําผิดตอวินยั ทหารดง่ั กลาวไวใ นหมวด ๒ น้นั ใหกําหนดเปน ๕
สถาน คือ

(๑) ภาคทณั ฑ
(๒) ทณั ฑกรรม
(๓) กกั
(๔) ขงั
(๕) จําขัง
มาตรา ๙ ภาคทณั ฑ คอื ผูกระทาํ ผิดมคี วามผดิ อนั ควรตองรับทัณฑสถานหนึง่ สถานใดด่ังกลาว
มาแลว แตม เี หตุอันควรปราณี จ่งึ เปน แตแ สดงความผดิ ของผูนนั้ ใหป รากฏ หรือใหทําทัณฑบนไว
ทณั ฑกรรม นัน้ ใหกระทาํ การสุขา การโยธา ฯลฯ เพม่ิ จากหนา ทป่ี ระจําซง่ึ ตนจะตอ งปฏิบัติอยู
แลว หรือปรบั ใหอ ยูเวรยาม นอกจากหนา ทปี่ ระจํา
กกั คือ กกั ตัวไวในบริเวณใดบรเิ วณหนึง่ ตามแตจะกําหนดให
ขงั คอื ขงั ในทค่ี วบคุมแตเ ฉพาะคนเดียวหรือรวมกนั หลายคนแลว แตจะไดมีคาํ ส่ัง
จําขัง คอื ขงั โดยสง ไปฝากใหอ ยใู นความควบคุมของเรอื นจาํ ทหาร
นอกจากทัณฑท ่กี ลา วไวน้ี หามมิใหคดิ ข้ึนใหม หรอื ใชวธิ ีลงทัณฑอ ยางอน่ื เปนอันขาด
มาตรา ๑๐ ผมู อี าํ นาจบงั คับบัญชาซงึ่ ลงทัณฑแกผูกระทําผิดไดนั้น คอื
(๑) ผบู งั คบั บญั ชา หรอื
(๒) ผูซ่ึงไดรับมอบอํานาจใหบังคับบัญชาตามท่ีกระทรวงกลาโหม สวนราชการที่ขึ้นตรงตอ
กระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรอื กองทพั อากาศ กาํ หนด
ในการท่จี ะลงทัณฑ ใหก ระทําไดแ ตเฉพาะตามกําหนดในตารางกาํ หนดทัณฑท ายพระราชบญั ญัติ
นี้
สวนผูมีอํานาจบงั คับบัญชาชั้นใดจะมอี าํ นาจเปนผลู งทัณฑช ั้นใด และผูอยใู นบงั คบั บัญชาชั้นใดจะ
เปน ผูร บั ทัณฑช้ันใด ใหถอื เกณฑเทยี บดังตอ ไปนี้

ตารางเกณฑเทยี บชั้นผลู งทัณฑแ ละผูรบั ทัณฑ

ตาํ แหนงชน้ั เปน ผูล ง เปน ผูรบั
ทัณฑช นั้ ทณั ฑชัน้
๑. รฐั มนตรีวาการกระทรวงกลาโหม (พล.อ.,ผบ.ทบ.)
๒. แมทพั (พล.ท.) ๑ -
๓. ผูบ ัญชาการกองพล ผบู งั คับการกองเรือ ผบู ัญชาการกองพลบนิ (พล.ต.) ๒ -
๔. ผูบังคับการกรม ผูบงั คบั หมวดเรือ ผบู งั คบั กองบิน (พ.อ.พิเศษ) ๓ -
๕. ผบู ังคับหมูเ รือชน้ั ๑ (พ.อ.) ๔ ก
๖. ผบู งั คบั กองพัน ผบู งั คับหมูเรือชนั้ ๒ ผบู งั คับการเรอื ชน้ั ๑ ผบู งั คับฝูงบิน (พ.ท.) ๕ ข
๗. ผูบังคับหมเู รอื ชนั้ ๓ ผบู งั คบั การเรอื ช้นั ๒ ตน เรอื ชัน้ ๑ ผบู ังคบั หมวดบนิ ชั้น ๑ (พ.ต.) ๖ ค
๘. ผูบงั คบั กองรอย ผบู งั คบั การเรอื ช้นั ๓ ตนเรอื ชน้ั ๒ นายกราบเรือ ๗ ง
ผบู ังคบั หมวดบินชัน้ ๒ (ร.อ.)
๙. ผบู งั คบั หมวด ตน เรอื ชน้ั ๓ ผูบ ังคบั หมวดบินชั้น ๓ (ร.ต. ร.ท.) ๘ จ
๑๐. ผบู งั คบั หมู นายตอน (นายทหารประทวน)
๑๑. นกั เรียนทหารซึ่งเมื่อสาํ เรจ็ การศึกษาแลวจะไดเปนนายทหารช้นั สัญญาบัตร ๙ ฉ
บคุ คลซงึ่ อยใู นระหวา งเขารับการฝกวชิ าทหารโดยคาํ สัง่ รฐั มนตรีวา การกระทรวงกลาโหม - ช
ตามกฎหมายวา ดว ยการสงเสรมิ การฝกวชิ าทหาร
๑๒. นักเรียนทหารซ่ึงเมื่อสําเร็จการศึกษาแลวจะไดเ ปน นายทหารประทวน ลูกแถว -ซ

-ฌ

มาตรา ๑๑ ผูลงทัณฑ หรอื ผูรบั ทณั ฑ ถาตาํ แหนงไมตรงตามความในมาตรา ๑๐ แหงหมวดน้ี
แลว ใหถือตามที่ไดเ ทียบตาํ แหนงไวใ นขอ บงั คับสาํ หรับทหาร

มาตรา ๑๒ กาํ หนดอาํ นาจลงทัณฑต ามท่ีตราไวนี้ ผมู อี าํ นาจลงทัณฑสั่งลงทัณฑเต็มที่ไดสถาน
ใดสถานหนึ่ง
แตสถานเดียว ถา สง่ั ลงทัณฑท ้ังสองสถานพรอ มกัน ตองกําหนดทัณฑไ วเพยี งกึ่งหนึ่งของอัตราในสถานนั้น

ๆ หามมใิ หลงทัณฑคราวเดียวมากกวาสองสถาน
มาตรา ๑๓ กอนที่ผมู ีอาํ นาจลงทัณฑจะลงทณั ฑครั้งคราวใดก็ดี ใหพ ิจารณาใหถ วนถี่แนนอนวา

ผทู ี่จะตองรับทัณฑนั้นมคี วามผิดจริงแลว จึ่งส่ังลงทัณฑน้ัน ตองระวังอยาใหเปนการลงทัณฑไปโดยโทษ

จรติ หรอื ลงทัณฑแกผูที่ไมมีความผิดโดยชัดเจนน้ันเปนอันขาด เมื่อพิจารณาความผิดละเอียดแลวตอง
ช้ีแจงใหผูกระทําผิดน้ันทราบวากระทําผิดในขอ ใด เพราะเหตใุ ด แลว จ่งึ ลงทัณฑ

มาตรา ๑๔ ถา ผูมีอาํ นาจบงั คับบัญชาไดลงทัณฑข าราชการช้ันสัญญาบัตร ตองสงรายงานการ

ลงทัณฑน ้นั
เสนอตามลําดับชน้ั จนถึงรฐั มนตรวี าการกระทรวงกลาโหม

มาตรา ๑๕ เม่ือผูมอี ํานาจบังคบั บัญชาไดท ราบวา ผซู งึ่ อยูในบงั คับบัญชาของตนมีความผิดจน

ปรากฎแนนอนแลว แตความผิดนั้นควรรบั ทัณฑท่ีเหนอื อาํ นาจจะสง่ั กระทาํ ได กใ็ หรายงานน้แี จงความผิด
นน้ั ท้งั ออกความเห็นวา ควรลงทัณฑเ พียงใด เสนอตามลาํ ดับชั้นจนถึงผูมอี าํ นาจลงทณั ฑไ ดพ อกบั ความผดิ
เพ่ือขอใหผูนั้นสงั่ การตอ ไป

มาตรา ๑๖ ถาเปนความผิดซ่ึงมีวิธีวางอัตรากําหนดทัณฑไวแนนอนแลว เชน ฐานขาดหนี
ราชการทหาร เปนตน หากกาํ หนดทัณฑนน้ั เหนอื อาํ นาจของผบู ังคบั บัญชาทจี่ ะส่ังลงทณั ฑไ ด ก็ใหนําเสนอ
เพยี งชัน้ ทก่ี ลาวตอไปน้ี

(๑) ฝา ยทหารบก ผมู อี าํ นาจบงั คบั บัญชาตาํ แหนงชั้นผูบังคับการกรม หรือช้ันผูบังคับกองพันที่
อยูตางทอ งถน่ิ กบั ผมู อี ํานาจบังคับบัญชาช้ันผูบ ังคับการกรม

(๒) ฝายทหารเรอื ผูมีอาํ นาจบงั คบั บญั ชาตาํ แหนง ชนั้ ผูบ ังคบั หมวดเรือ หรอื ชัน้ ผบู งั คับกองพนั ที่
อยตู างทองถนิ่ กับผมู ีอาํ นาจบงั คบั บญั ชาชัน้ ผูบงั คับหมวดเรือ

(๓) ฝา ยทหารอากาศ ผูม ีอํานาจบังคับบญั ชาตาํ แหนง ชน้ั ผูบังคับกองบนิ
แมว า กําหนดทัณฑน ัน้ จะเหนืออาํ นาจกด็ ี กใ็ หผ ูบงั คบั บัญชาชน้ั ทก่ี ลา วน้ีมอี าํ นาจลงทัณฑไดทเี ดียว ไมต อ ง
นําเสนอตามลาํ ดับช้นั ตอไปอีก

มาตรา ๑๗ นายทหารที่เปนหัวหนาทําการควบคุมทหารไปโดยลําพัง ใหมีอํานาจที่จะสั่งลง
ทัณฑผ อู ยูใตอาํ นาจ
ในระหวางเวลาที่ควบคุมอยูนั้นเสมอผูมีอํานาจเหนือจากตําแหนงของตนข้ึนไปอีกชั้นหนึ่งได เวนแต
นายทหารซ่ึงมีอาํ นาจเปน ผูล งทัณฑช นั้ ๒ ข้นึ ไป จึ่งไมต อ งเพิ่ม

มาตรา ๑๘ ถาผูมอี ํานาจลงทัณฑไ ดสั่งลงทณั ฑผูกระทําผดิ ในฐานขังแลว และผูท่รี ับทัณฑขังนั้น
กระทําผิดซํ้าอีก ผูมีอํานาจลงทัณฑจะส่ังเพิ่มทัณฑ ก็ใหพิจารณาดูกําหนดทัณฑไดส่ังไวแตเดิมน้ันกอน
หามมิใหกําหนดเวลาใหผ ตู อ งถูกขัง ท้ังกําหนดเดิมและกําหนดที่เพิ่มใหมรวมกันเกินกวากําหนดอํานาจ
ของผสู ่งั ลงทณั ฑน้นั เปน อันขาด หากผูก ระทาํ ผิดน้ันควรตองรบั ทณั ฑเ กนิ กวากําหนดอํานาจของผูที่จะส่ัง
ลงทัณฑน น้ั แลว กใ็ หป ฏิบตั กิ ารตามท่ีกลาวไวในมาตรา ๑๕ แหงหมวดนี้

มาตรา ๑๙ นับต้ังแตว ันทปี่ รากฏหลกั ฐานแหงความผดิ ของผูกระทาํ ผิดซ่ึงจะตอ งรับทัณฑ
ตามพระราชบัญญัตินี้โดยแนนอนแลว ถาผูมีอํานาจลงทัณฑมิไดจัดการท่ีจะใหผูนั้นไดรับทัณฑภายใน
กาํ หนดสามเดอื น เปน อันนับวาลวงเลยเวลาทีจ่ ะลงทณั ฑต ามพระราชบญั ญตั ิน้เี สยี แลว จะส่ังลงทัณฑโ ดย
อาํ นาจตนเองมิได เวน เสยี แตผ ทู ีก่ ระทาํ ผดิ นัน้ ขาดหนีราชการเสียแตเม่ือกอนครบกําหนดสามเดือน จึ่งมิ
ใหน ับวนั ทข่ี าดหนีนเ้ี ขาในกําหนดเวลาลว งเลย ใหนับตง้ั แตวนั ที่ไดตัวผูน้ันกลับมายังที่รับราชการ

มาตรา ๒๐ เมื่อผูมีอํานาจไดสั่งลงทัณฑตามพระราชบัญญัตินี้แลว ผูที่สั่งลงทัณฑหรือผูมี
อาํ นาจบงั คบั บัญชาเหนอื ผทู สี่ ่งั ลงทณั ฑนัน้ มีอํานาจทจี่ ะเพม่ิ ทณั ฑหรอื ลดทัณฑ หรือยกทัณฑเสียก็ได แต
ถา เพมิ่ ทณั ฑแ ลว ทณั ฑท ีส่ ง่ั เพ่ิมข้ึนนั้นรวมกบั ทีส่ ่ังไวแลวเดมิ ตองมใิ หเกินอํานาจของผทู ่ีสง่ั ใหมนัน้

หมวด 4
วธิ ีรองทุกข

_____________

มาตรา ๒๑ ในการที่จะรักษาวนิ ยั ทหารใหเ ปน ระเบียบเรียบรอยอยเู สมอ ยอมเปนการจําเปน ที่
ผบู ังคับบัญชาจักตอ งมีอาํ นาจในการบงั คับบญั ชา หรือลงทัณฑอยูเองเปนธรรมดา แตผูบังคับบัญชาบาง
คนอาจใชอ าํ นาจในทางท่ผี ดิ ยตุ ิธรรม ซ่ึงเปนการสมควรทจี่ ะใหผ ใู ตบ งั คับบัญชามีโอกาสรอ งทุกขไดใ นทาง
เปน ระเบยี บไมก า วกา ย

มาตรา ๒๒ คาํ ชี้แจงของทหารวา ผบู งั คบั บัญชากระทําแกตนดวยการอันไมเปนยุติธรรม หรือ
ผิดกฎมาย หรอื แบบธรรมเนียมทหารวา ตนมไิ ดร บั ผลประโยชนหรอื สิทธติ ามทีค่ วรจะไดรบั ในราชการนั้น
เรียกวา "รองทกุ ข"

มาตรา ๒๓ ทหารจะรองทุกขไดแตสําหรับตนเองเทานั้น หามมิใหรองทุกขแทนผูอื่นเปนอัน
ขาด และหามมใิ หล งช่ือรวมกัน หรอื เขา มารองทุกขพ รอ มกันหลายคน และหามมิใหประชุมกันเพ่ือหารือ
เรือ่ งจะรอ งทกุ ข

มาตรา ๒๔ หา มมิใหรอ งทกุ ขใ นเวลาที่ตนกําลังเขาแถว หรือในขณะท่ีกําลังทําหนาท่ีราชการ
อยางใดอยา งหน่ึง เชน เวลาเปนยาม เปน เวร ด่ังนีเ้ ปนตน และหา มมใิ หร องทกุ ขกอนเวลาลวงไปแลวยี่สิบส่ี
ชง่ั โมง นับตง้ั แตท ่มี ีเหตจุ ะตองรองทุกขเกดิ ขนึ้

มาตรา ๒๕ หา มมิใหร องทุกขว า ผูบงั คบั บญั ชาลงทัณฑแรงเกนิ ไป ถาหากวาผูบังคับบัญชาน้ัน

มิไดล งทัณฑเ กนิ อาํ นาจที่จะทาํ ไดต ามความในหมวด ๓ แหงพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๒๖ ถา จะกลา วโทษผูใดใหรองทุกขตอผูบังคับบัญชาโดยตรงของผูนั้น จะรองทุกขดวย

วาจา หรือจะเขียนเปนหนังสือก็ได ถาผูรองทุกขมารองทุกขดวยวาจา ใหผูรับการรองทุกขจดขอความ

สาํ คญั ของเรอื่ งทรี่ องทุกขน ้นั ใหผรู องทุกขล งลายมือชือ่ ไวเ ปนหลักฐานดวย ถาหากวาผูรองทุกขไมทราบ
ชัดวา ตนไดรบั ความเดือดรอ นเพราะผใู ดแน ก็ใหรองทุกขตอผูบังคับบัญชาโดยตรงของตน เพ่ือเสนอไป
ตามลําดบั ช้นั จนถงึ ทีส่ ดุ คือผทู ่จี ะสง่ั การไตส วน และแกค วามเดอื ดรอ นนัน้ ได

มาตรา ๒๗ ถาเขยี นความรองทุกขเ ปนจดหมายแลว จดหมายน้นั ตองลงลายมือชื่อของผูรองทกุ ข
ใบรอ งทุกขฉ บบั ใดไมม ลี ายมอื ชอ่ื ผูบ งั คับบัญชาไมมีหนา ทจี่ ะตองพิจารณา

มาตรา ๒๘ เมื่อใดไดรอ งทุกขตอ ผบู งั คับบญั ชาตามระเบียบท่วี ามานี้แลว และเวลาลวงพนไปสิบ

หาวันยังไมไดรับ ความช้ีแจงประการใด ทั้งความเดือดรอนก็ยังไมปลดเปลื้องไป ใหรองทุกขใหมตอ
ผูบังคับบัญชาช้ันท่ีสูงถัดข้ึนไปเปนลําดับอีก และในการรองทุกขครั้งน้ีใหชี้แจงดวยวา ไดรองทุกขตอ
ผูบงั คับบัญชาชน้ั ใดมาแลวแตเม่อื ใด

มาตรา ๒๙ ถาผูบังคับบัญชาไดรับเร่ืองรองทุกขเม่ือใด ตองรีบไตสวนและจัดการแกไขความ
เดอื ดรอน หรอื ช้ีแจงใหผูยน่ื ใบรองทกุ ขเ ขาใจ จะเพิกเฉยเสยี ไมไดเ ปนอนั ขาด ผูใดเพกิ เฉยนับวา กระทําผิด
ตอ วนิ ัยทหาร

มาตรา ๓๐ ถา ผูบังคบั บญั ชาทีไ่ ดรบั เร่อื งรอ งทกุ ขไดชี้แจงใหผ รู อ งทกุ ขท ราบแลว แตผูรองทุกขยัง
ไมหมดความสงสัย กใ็ หรอ งทกุ ขต อผูบงั คบั บัญชาชนั้ เหนอื ขึ้นไปได และตองชี้แจงดวยวาไดรองทุกขนี้ตอ
ผใู ด และไดรับคาํ ชี้แจงอยา งไรแลว ดวย

มาตรา ๓๑ ถาหากปรากฏชัดวา ขอ ความทรี่ อ งทกุ ขเ ปน ความเทจ็ หรือการรอ งทุกขนนั้ กระทําไป
โดยผดิ ระเบียบ ท่ีกลา วมา ผรู องทุกขจ ะตองมคี วามผิดฐานกระทําผดิ ตอ วนิ ยั ทหาร

มาตรา ๓๒ ใหรัฐมนตรีวา การกระทรวงกลาโหม มหี นา ท่ีรักษาการใหเปนไปตามพระราชบัญญัติ

นี้
ประกาศมา ณ วนั ท่ี ๑๒ สงิ หาคม พทุ ธศักราช ๒๔๗๖ เปน ปท่ี ๙ ในรชั กาลปจ จบุ ัน
ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ

นายพันเอก พระยาพหลพลพยหุ เสนา
นายกรัฐมนตรี

(ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๔๗๖)

ตารางกําห

ผลู ง จาํ ขัง ขัง ช้นั ช ชั้น ซ
ทณั ฑ ผูรับทัณฑ
ช้ัน ช. ช้นั ฌ. ผรู ับทัณฑ

ชน้ั ก ชั้น ข ช้นั ค ชนั้ ง ขน้ั จ ชั้น ฉ

ชั้น ๑ ๔ เดือน ๖ เดอื น - - - - ๒ ด ๓ ด ๔ ด ๔ ด

ชั้น ๒ ๓ เดือน ๕ เดือน - - - - ๑ ด ๒ ด ๓ ด ๓ ด

ชนั้ ๓ ๔๕ วนั ๓ เดอื น - - - - ๑๕ว ๑ ด ๒ ด ๒ ด

ช้นั ๔ ๑ เดือน ๒ เดือน - - - - ๗ว ๑๕ว ๑ ด ๑ ด

ชน้ั ๕ ๒๐ วัน ๔๕ วนั - - - - ๓ว ๑๐ว ๒๐ว ๒๐ว

ชั้น ๖ ๑๕ วนั ๑ เดือน - - - - - ๗ว ๑๕ว ๑๕ว

ชั้น ๗ ๗ วัน ๑๕ วัน - - - - - ๓ว ๑๐ว ๑๐ว

ชั้น ๘ - - - - - - - - ๗ว ๗ว

ชน้ั ๙ - - ---- - ---

คําอธิบาย ๑. กาํ หนดทณั ฑใ นตารางน้ี คอื กาํ หนดทสี่ ูงทสี่ ุด ผูล งทณั ฑจ ะสง่ั เก
๒. ทัณฑกรรมที่กําหนดไวเ ปน วัน ๆ หมายความวาทาํ ทณั ฑกรรมท
ไดไ มเ กินกวาวนั ละ ๖ ชัว่ โมง แตถ า ใหอยเู วรยามในวันหน่งึ ไมเ ก

ทัณฑกรรมกว่ี ัน และวนั ละเทา ใด

(ตารางกําหนดทณั ฑแ กไขใหมโดยมาตรา ๓ แหง พระราชบัญญัตวิ า

หนดทัณฑ

กัก ทัณฑกรรม

ผรู ับทณั ฑ ผูรับทณั ฑ

ชั้น ฌ ชัน้ ก ชน้ั ข ช้ัน ค ช้นั ง ชั้น จ ช้ัน ฉ ช้ัน ช ชั้น ซ ชน้ั ฌ ช้ัน ซ ชนั้ ฌ

๕ ด ๑๕ว ๒๐ว ๒๐ว ๑ ด ๔๕ว ๒ ด ๓ ด ๓ ด ๔ ด ๓ วัน ๓ วนั

๔ ด ๗ว ๑๐ว ๑๕ว ๒๐ว ๑ ด ๔๕ว ๒ ด ๒ ด ๓ ด ๓ วัน ๓ วนั

๓ ด - ๕ว ๗ว ๑๐ว ๑๕ว ๒๐ว ๔๕ว ๔๕ว ๒ ด ๓ วัน ๓ วัน

๒ ด - - ๓ว ๕ว ๗ว ๑๐ว ๑ ด ๑ ด ๔๕ว ๓ วัน ๓ วัน

๔๕ว - - - ๓ว ๕ว ๗ว ๒๐ว ๒๐ว ๑ ด ๓ วัน ๓ วัน

๑ ด ๓ว ๗ว ๑๕ว ๑๕ว ๑ ด ๓ วัน ๓ วัน

๒๐ว ๕ว ๑๐ว ๑๐ว ๒๐ว ๑ วนั ๒ วนั

๑๕ว ๓ว ๗ว ๗ว ๑๕ว ๑ วนั ๒ วนั

- ๓ว ๓ว ๗ว - ๑ วนั

กินกําหนดนไี้ มได แตต่ํากวาน้นั ได
ทุก ๆ วันจนกวาจะครบกําหนดในวันหนง่ึ นน้ั ผทู ่จี ะส่ังลงทัณฑจ ะกําหนดทัณฑกรรม

กินกาํ หนดเวลาอยูเวรยามตามปกติ ผูใ ดจะสัง่ ลงทณั ฑกรรมใหกําหนดโดยชดั เจนวา

าดว ยวนิ ยั ทหาร แกไ ขเพ่มิ เตมิ พทุ ธศักราช ๒๔๗๗)


Click to View FlipBook Version