The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การอ่านแบบเพื่อสร้างบล๊อกตัวเรือ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-06-10 01:09:15

การอ่านแบบเพื่อสร้างบล๊อกตัวเรือ

การอ่านแบบเพื่อสร้างบล๊อกตัวเรือ

Keywords: การอ่านแบบเพื่อสร้างบล๊อกตัวเรือ

การจัดการความรู้ อ่รู าชนาวีมหิดลอดุลยเดช
กรมอู่ทหารเรือ

ค่มู ือการปฏิบัติงาน
(Work Manual)

เรอื่ ง

การอ่านแบบเพื่อสร้างบล๊อกตวั เรือ

กองโรงงานเรอื เหลก็ ฯ

จัดทําโดย..คณะกรรมการจดั การความรู้ กองโรงงานเรอื เหล็ก อรม.อร ๑ ม.ี ค.๒๕๖๕

คูม่ อื การปฏิบตั ิงาน
การอา่ นแบบเพ่ือสร้างบลอ๊ กตวั เรือ

1. วัตถุประสงค์
 

2.การพัฒนาบุคลากรและ
องค์ความรดู้ า้ นการสรา้ งเรอื

และซ่อมเรอื

1.การพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐาน ยุทธศาสตร์การพฒั นา 3.การพัฒนาและสร้าง
ด้านการสรา้ งเรือและซ่อมเรือ ขีดความสามารถด้าน มาตรฐานเรือและการสร้างเรอื

ของกองทัพเรอื

6.การสนบั สนนุ ให้เกดิ นิคม การอตุ สาหกรรมการสรา้ งเรือ 4.การจัดทําระบบฐานข้อมลู ดา้ น
อตุ สาหกรรมการสร้างเรือ ของกองทัพเรอื การสร้างเรือและซอ่ มเรือ

และซ่อมเรอื

5.การจดั ตั้งศูนย์วิจยั เกยี่ วกบั

อุตสาหกรรมทางทหาร (Defense-

related industry research)  

๑. ด้านองค์บคุ คล เพ่อื เปน็ การพัฒนาบคุ ลากร ใหม้ ีความรู้และประสบการณด์ ้านการสร้างเรอื
๑.๑ บุคลากรในด้านการออกแบบเรือและวิศวกรในสาขาต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้อง (Naval Architecture &
Marine Engineering) มีความรู้และประสบการณ์ในการสร้างเรือ สามารถเข้าใจถึงข้ันตอนในการสร้าง
การวางแผน การบริหารจัดการโครงการ การควบคุมคุณภาพ มาตรฐานในการสร้างเรือ รูปแบบและ
ลกั ษณะการออกแบบท่ถี ูกต้องเหมาะสม การใช้เทคโนโลยีตา่ ง ๆ เข้ามาชว่ ยในขั้นตอนของการออกแบบ
และสรา้ งเรอื
๑.๒ ช่างเทคนิคและช่างฝีมือ มีโอกาสในการปฏิบัติงานจริงในการสร้างเรือ ส่งผลให้มีความรู้
ประสบการณ์ ในขั้นตอนการเตรียมช้ินงาน การประกอบโครงสร้าง การอา่ นแบบ มาตรฐานในการสร้าง
การเตรียมแนวเช่อื ม การเช่อื มชิน้ งาน การแก้ไขข้อผิดพลาดทเี่ กิดข้นึ ในการทาํ งาน และสง่ ผลให้มีทักษะ
และความชาํ นาญมากขึน้
๑.๓ บุคลากรด้านการควบคุมคุณภาพ มีความรู้ ประสบการณ์และความเข้าใจในกระบวนการควบคุม
คุณภาพในทุกข้ันตอน สามารถทําการตรวจและรับรองงานของฝ่ายสร้างต้ังแต่ขั้นตอนการตัดเตรียม
ช้ินงาน การประกอบ การเตรียมแนวเช่ือม การเชื่อม จนถึงขั้นการตรวจสอบเม่ืองานประกอบบล็อก
เสร็จสมบูรณ์ ให้เป็นไปตามมาตรฐานท่ีกําหนดไว้ และสามารถประสานงานในการรับการตรวจจาก
สมาคมจดั ช้นั เรอื หรือ LR ได้

๒. ด้านองคว์ ตั ถุ มีการพฒั นาโครงสรา้ งพ้นื ฐานเพ่ือใชใ้ นการสร้างเรอื
๒.๑ มีการวางผังโครงสร้างพ้ืนฐานเพื่อรองรับในการสร้างเรือทั้งในปัจจุบันและอนาคต ส่งผลให้มีความ
พร้อมในการสร้างเรือขนาดใหญ่ เช่น โครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง โครงการสร้างเรือฟริเกต
สมรรถนะสูงขนาดไมเ่ กิน 3,000 ตนั
๒.๒ สามารถนําเอาเทคโนโลยที ่ีทันสมัยมาใช้ในกระบวนการสรา้ ง เชน่ โปรแกรม TRIBON M3 มาใช้ใน
งานด้านการสร้างเรือได้
๒.๓ มีการจัดหา/สร้าง อุปกรณ์และเครื่องมือเคร่ืองใช้ในการสร้างเรือ เช่น เคร่ืองตัดเหล็กด้วยระบบ
CNC (Computer Numerical Control) กล้อง Total station เครื่องเช่อื มกึ่งอัตโนมัติ เครอ่ื งประกอบ
โครงสร้างตวั เรอื
๒.๔ มีการปรับปรุง/สร้างมาตรฐานหรือข้ันตอนที่ใช้ในกระบวนการสร้างเรือ เช่น ข้ันตอนการควบคุม
คุณภาพในทุกข้นั ตอน (QC in Process)

๓. ด้านการบริหารจัดการ ผู้บริหารตั้งแต่ระดับนายช่าง ขึ้นไป มีความรู้ ความเข้าใจในการบริหารโครงการ
สามารถบริหารจัดการหน่วยงานในการสร้างเรือซ่ึงมีกระบวนการสร้างท่ียาวนานและมีความซับซ้อน สามารถ
แกไ้ ขปัญหาท่เี กิดขึน้ ได้เปน็ อย่างดี

2. ขอบเขต
กระบวนการสรา้ งเรอื ของกรมอู่ทหารเรือ ในชุดเรือ ต.๙๑ - ต.๙๙ น้ันใช้วธิ ีการสร้างเรือแบบดั้งเดิมกระบวนการ
ในการสร้างเรือหน่ึงลํานั้น เป็นเร่ืองที่มีความซับซ้อน ใช้งบประมาณเป็นจํานวนมาก และใช้ระยะเวลาในการ
ดําเนินการเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังจําเป็นต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ของช่างและวิศวกรผู้ชํานาญการ
จํานวนมาก ต้ังแต่ข้ันตอนของการออกแบบไปจนถึงขั้นตอนในการสร้าง ทดสอบและทดลองเรือ โดยส่วนมาก
แล้วเรือรบขนาดใหญ่ที่มีประจําการอยู่ในกองทัพจะได้รับการออกแบบและสร้างจากต่างประเทศ สําหรับการ
สรา้ งเรือในชดุ ต่อๆมา ซึ่งมีขน้ั ตอนในการสร้างดงั นี้

๑. การแปรรูปเหล็ก (Fabrication) คือขั้นตอนการทําช้ินส่วนเหล็กแผ่นและเหล็กโครงสร้างต่างๆตาม
แบบซ่ึงเปน็ ข้ันตอนทีต่ ้องทําเหมอื นกับการตอ่ เรอื แบบดงั้ เดิม ในขั้นตอนนี้จะประกอบดว้ ย

๑.๑ การขยายแบบ คือ การ ขยายแบบจากแบบลายเส้นต่างๆท่ีเขียนในกระดาษด้วยอัตราส่วน
๑:๕๐ หรือ ๑:๑๐๐ ทําการขยายลงบนพ้ืนทข่ี ยายแบบด้วยอัตราส่วน ๑:๑ ด้วยการ Fairing Line ทําให้ลายเส้น
ของแบบทกุ แบบที่ขยายออกมคี วามสัมพนั ธ์กนั และมีส่วนโคง้ ที่สวยงามเส้นมคี วามราบเรียบ

๑.๒ การทําไม้แบบ คือการทําแบบตัวอย่าง (Templates) ของชิ้นงานต่างๆ ด้วยไม้ เพื่อนําไปทํา
หมายตัดลงแผ่นเหลก็ ที่ใชใ้ นการสรา้ งเรอื

๑.๓ การตัดแผ่นเหล็ก
๑.๔ การดัดแผ่นเหล็ก คอื การข้ึนรูปชิน้ งานที่มีความโคง้ โดยการดดั ให้ไดร้ ปู ตามแบบตวั อย่าง
๒. การประกอบชิ้นส่วนย่อย (Sub Assembly) คือการนําเหล็กท่ีแปรรูปแล้วมาประกอบเป็นส่วนต่างๆ
เชน่ กง,กระดกู งู, ฝาก้ัน
๓. การประกอบบล๊อก (Block Assembly) คือการช้ินส่วนย่อยต่างๆมาประกอบกันเป็นบล็อก (Block)
หรือ บล็อกย่อย (Sub Block)
๔. การประกอบตัวเรือ (Erection) คือขั้นตอนการนําบล็อก (Block) หรือ บล็อกย่อย(Sub Block) มา
ประกอบกันเปน็ ตวั เรือ
จากเรือ ต.๙๑ ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ จนถึง เรือ ต.๙๙ ในปี พ.ศ.๒๕๓๐ ซ่งึ เป็นเรอื ขนาดความยาวประมาณ
๓๐ เมตร ต่อมา ได้มีการศึกษาและพัฒนาการต่อเรือที่ใหญ่ข้ึน เพ่ือทดแทนเรือเดิม ที่ปลดระวางประจําการ
และให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเสริมสร้างกําลังรบ ของกองทัพเรือ จึงมีโครงการต่อเรือตรวจการณ์ขนาด

ความยาว ประมาณ ๖๐ เมตร สมรรถนะสูง ติดตั้งระบบอาวุธ อุปกรณ์ตรวจจับ และอุปกรณ์ระบบต่างๆท่ีมี
ความทันสมัยมากขึ้น โดยได้คัดเลือกแบบเรอื ตรวจการณ์ ปราบเรือดํานํ้าของ บริษัท VOSPER THORNYCROFT
Ltd. ประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นแบบท่ีได้รับการปรับปรุงแก้ไขมาจากแบบของเรือชุด PROVINCE Class
ซึ่งกองทัพเรือสหราชอาณาจักรได้ใช้งาน ได้ผลดีมาแล้ว (Well Proven) โดย กองทัพเรือสร้างเองหน่ึงลํา คือ
ร.ล.ล่องลม ส่วนอีก ๒ ลํา ให้ บริษัท อิตัลไทย มารีน จํากัด ดําเนินการสร้าง คือ ร.ล.คํารณสินธุ และ ร.ล.ทยาน
ชล เรือท้ังสามลําน้ีได้ถูกสร้างเสร็จและได้รับ การข้ึนระวางประจําการ ในกองทัพเรือ ในปี พ.ศ.๒๕๓๕
และ พ.ศ.๒๕๓๖ หลังจากประสบความสําเร็จในการต่อเรือขนาด ๖๐ เมตร แล้ว กองทัพเรือโดยกรมอู่ทหารเรือ
จึงได้มีโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี
๒๕๕๐ นั้น กองทัพเรือได้รับความเหน็ ชอบจากรฐั บาลให้ดําเนินการสร้าง จํานวน ๓ ลําคือ เรือ ต.๙๙๑ ต.๙๙๒
และ ต.๙๙๓ โดยมอบหมายให้กรมอู่ทหารเรือ ดําเนินการสร้างเรือ ต.๙๙๑ ณ อู่ทหารเรือธนบุรี ภายใต้การ
ดําเนินงานออกแบบและกํากับดูแลการสร้างเรือโดยวิศวกรซ่ึงเป็นนายทหารเรือของกรมอู่ทหารเรือทั้งสิ้น ส่วน
เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งอีกสองลํากองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัทมาร์ซัน จํากัด ซึ่งเป็นอู่เรือเอกชนภายในประเทศที่มี
ชือ่ เสียงแห่งหน่ึงของประเทศไทยเป็นผู้สร้าง ในการออกแบบเรือชุดนี้ กรมอู่ทหารเรอื ได้จัดหาโปรแกรม Tribon
M3 ซึ่งเปน็ ซอฟตแ์ วร์ รปู แบบ 3D สาํ หรบั ชว่ ยในการออกแบบเรือ (Ship Design) และสรา้ งเรอื (Shipbuilding)
ทพ่ี ัฒนาข้นึ มาเพือ่ ใช้ในอตุ สาหกรรมตอ่ เรือโดยเฉพาะมาชว่ ยในการออกแบบ ซึ่งเป็นการเพ่มิ ศกั ยภาพและพัฒนา
บุคลากรของกองทัพเรือให้มขี ีดความสามารถในการออกแบบและสร้างเรือในระดับสากล นับเป็นก้าวแรกในการ
นําแบบในรูปแบบ 3D มาใช้ในการสร้างเรือจากการสร้างเรอื ขนาด ๖๐ เมตร สู่การสร้างเรือขนาด ๙๐ เมตร ซ่ึง
เป็นเรือขนาดใหญ่ท่ีสุดที่กองทัพเรือเคยสร้าง โดยใช้แบบซ่ึงใช้โปรแกรม 3D มาช่วยในการออกแบบ น่ันคือ
โครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี ๒๕๕๔
โครงการสร้าง ร.ล.กระบ่ี โดยซ้ือแบบสร้างของบริษัท BVT Surface Fleet สหราชอาณาจักร ซึ่งใช้โปรแกรม
Tribon M3 ในการออกแบบเรืออย่างเต็มรูปแบบ จึงนับไดว้ ่าเปน็ อกี กา้ วหนง่ึ ท่ีมีการพัฒนาต่อยอดความรู้การใช้
โปรแกรม Tribon M3 ในการสร้างเรือ จากการสร้างเรือ ต.๙๙๑ ซึ่งเรานําโปรแกรมมาช่วยออกแบบในบางส่วน
ก้าวไปสู่แบบเรอื 3D ทีไ่ ดอ้ อกแบบมา ครบถ้วนทุกระบบสามารถนาํ ไปใชไ้ ดจ้ ริง

Tribon Application
Tribon เป็นกลมุ่ ของโปรแกรมทใ่ี ช้ในการจดั การฐานข้อมูลทถ่ี กู สร้างขน้ึ สําหรับการสร้างเรือ ซ่งึ

ฐานขอ้ มลู นีจ้ ะถกู สรา้ งให้อยใู่ นรปู แบบท่ีสามารถแสดงออกมาเปน็ ลักษณะของภาพสามมติ ิ โดยจะมรี ายละเอียด
ของช้ินส่วนตา่ งๆ ที่ใชใ้ นการสรา้ ง

3. คําจาํ กัดความ

บัญญัติศพั ทว์ ศิ วกรรมตอ่ เรือ

A

ABAFT
ไปทางทา้ ยเรือ
AFT
ท้ายเรอื , ไปทางท้าย
AFTERBODY
สว่ นของตวั เรอื ต้งั แตก่ ลางลํา จนถงึ ทา้ ยเรือ (ตรงข้ามกบั F0REBODY)
AFTER PEAK
หอ้ งทา้ ยเรอื สดุ
AFTER PERPENDICULAR (AP)
เส้นต้งั ฉากท้ายเรอื เปน็ เส้นดง่ิ ทีล่ ากผา่ นจดุ ตัดของเสน้ แนวน้าํ บรรทุก (LOAD LINE) และผวิ ท้ายของ
RUDDER POST หรือเส้นผา่ ศูนย์กลางของ RUDDER STOCK ถา้ ไม่มี RUDDERPOST
AFT SHEER (SA)
ระยะสงู ทีท่ า้ ยเรือ ของแนวโคง้ ดาดฟา้ ทางตามยาว
AIR PIPE
ทอ่ อากาศซึง่ ตอ่ ออกจากดา้ นบนของถัง นม.ชพ. ถังนํา้ อบั เฉา หรือถังนาํ้ ตา่ งๆ ขน้ึ ไปถึงดาดฟ้าช้ันบนเพือ่ ปอ้ งกนั
การเกดิ AIR LOCKS เม่ือของเหลวสูบส่งเขา้ ไปในถงั หรือดดู ออกจากถัง ส่วนท่ออากาศของถงั นม.ชพ. ใช้การ
(F.O DAY TANK) จะติดต้ังไว้ทีม่ ุมถังดา้ นบนมีลกั ษณะเปน็ ทอ่ คอห่าน (GOOSENECK) ตรงขา้ มกบั ทอ่ ทางเขา้
AIR PORT
ช่องหนา้ ต่างกระจกรูปกลม อยู่ข้างเรือ หรือท่ี DECKHOUSE
AMIDSHIPS
กลางลําเรอื กง่ึ กลางระหว่างหัวเรือและทา้ ยเรอื
APPENDAGES
ส่วนของเรือท่ีย่นื ออกนอกตัวเรอื ใต้แนวนํ้าเชน่ หางเสือ, ใบจกั ร, โยงโย่
ATHWARTSHIP
ทางขวางของเรอื ซ่งึ ตั้งฉากกบั เส้นกลางลาํ หวั -ทา้ ยเรือ
AUXILIARY MACHINERY หรอื AUXILIARIES
เครอื่ งจักรช่วย คอื เครอื่ งจกั ร อุปกรณ์ หรอื เครอ่ื งมอื ตา่ งๆทไ่ี ม่ได้เป็นเคร่อื งทใ่ี ชใ้ นการขับเคลอื่ นเรือ หรอื
เครอ่ื งจกั รใหญ่ เชน่ เครอ่ื งกําเนดิ ไฟฟ้า เครือ่ งสูบน้ํามนั เชือ้ เพลงิ เครอ่ื งสบู น้ําทะเล และเครอ่ื งกลั่นนํา้ เป็นตน้

B

BALE CUBIC
ความจขุ องสินคา้ วดั จากด้านในของกง หรอื CARGO BATTENS

BALLAST
อบั เฉา – นาํ้ หนกั ทใ่ี ช้ถว่ งเรอื

BASE LINE
เส้นฐาน - เป็นเส้นอา้ งองิ แนวหวั -ท้ายเรือ อย่บู นผวิ หนา้ ของแผน่ กระดกู งู ท่ี CENTERLINE (C.L) ใช้ตัวย่อวา่
MBL (MOULDED BASELINE)
BEAM
๑. ความกว้าง ทม่ี ากท่สี ุดของเรอื (BREADTH)
๒. คานรองรับดาดฟา้ (DECK BEAM), เปน็ โครงสร้างท่ีให้ความแข็งแรง ทางขา้ งเรือ

BEAM KNEE
แผ่น BRACKET ที่ต่อระหว่าง DECK BEAM และกง (FRAME)
BERTH
เรอื อยูใ่ นอ,ู่ สถานที่ใช้หลับนอนในเรอื
BETWEEN DECKS (‘TWEEN DECKS)
ที่วา่ ง (SPACE) ระหว่างดาดฟ้า
BILGE
แผ่นทตี่ อ่ ระหว่างท้องเรอื และขา้ งเรอื (มกั จะเป็นส่วนโคง้ )
BILGE WATER
นาํ้ ทอ้ งเรอื
BILGE KEEL
ครบี กนั โคลง - มีลกั ษณะเปน็ ครบี ยาวไปทางหวั เรอื และท้ายเรือ
BITT
พกุ - หลกั บนดาดฟา้ เรือสําหรบั เอาเชอื กคล้อง หรอื ผกู เรอื เพื่อยึดเรอื ไว้ มีชอ่ื เรียกอกี อยา่ งวา่ BOLLARD มกั จะ
ทาํ ด้วยเหลก็ หล่อ มีท้ังหลักเดย่ี ว และหลักคู่ (SINGLE & DOUBLE
BOLLARD)
BLOCK COEFFICIENT
เรโช ของปริมาตรใตแ้ นวนาํ้ ของเรอื ตอ่ ปริมาตรของรูปหีบ (RECTANGULAR BLOCK) ทล่ี อ้ มรอบตัวเรือ
BODY PLAN
รปู วาดแสดงรูปหนา้ ตดั ครง่ึ หนงึ่ ของเรอื ซกี ดา้ นซ้ายมอื (ของผูด้ )ู เปน็ รปู หน้าตัดตง้ั แตส่ ่วนท้ายเรือจนถงึ กลางลาํ
เรือ ซีกดา้ นขวามอื เป็นรูปหน้าตดั ตงั้ แตส่ ว่ นหัวเรือ จนถึงกลางลําเรือ BODY PLAN เป็นสว่ นหน่งึ ของ LINES
DRAWING
BOLLARD
พุก - เป็นหลกั เดย่ิ วหรือหลกั ค่ทู าํ ด้วยเหลก็ หล่อใช้สาํ หรบั ผูกเชือกเพ่ือยึดเรือไวก้ บั ท่า หรือกบั เรอื ลาํ อน่ื
เช่นเดยี วกับ BITT
BOLLARD PULL
กาํ ลงั ดึงของเรอื ลากจงู (ตนั ) ทําการวดั โดยใชเ้ ชือก คล้องทเ่ี สาพุกบนบก ซึง่ ติดตงั้ เคร่ืองวดั กาํ ลังดึงไว้ และท่ี
TOWING HOOK ของเรอื ลากจงู
BONJEAN CURVES
ชุดเสน้ โค้งของพื้นท่หี น้าตดั ตามขวาง (AREARS OF TRANSVERSE SECTION), แตล่ ะเส้นโคง้ แสดงคา่ ของ
พ้ืนท่ีหน้าตดั ทีต่ ําแหนง่ น้นั ๆ ซง่ึ ข้นึ อยกู่ ับระดับแนวนา้ํ โดยวัดจากเสน้ ฐาน , MBL , เสน้ โคง้ นม้ี ปี ระโยชนส์ าํ หรบั
ใชค้ ํานวณปรมิ าตรระวางขบั น้าํ โดยเฉพาะเมือ่ เรือมที รมิ (ระดบั กนิ นํ้าลกึ หวั -ท้าย ไมเ่ ท่ากนั )

BOOM
เป็นช่อื ทัว่ ๆไป ทใ่ี ชเ้ รียกทอ่ น(เหล็ก)กลมยาว ยื่นจากฐานทตี่ งั้ ซึ่งเป็นข้อพบั เฉยี งสงู ขนึ้ ไป ดา้ นปลายถกู ดงึ ไว้

ด้วยเชือกลวด หรือตดิ อยู่กับลูกรอก เพอื่ ใช้ยกของ หรือสนิ ค้า เรยี กว่า CARGO BOOM
BOW
หัวเรือ - หวั เรือจะมีลักษณะต่างๆกนั เม่อื มองดจู ากด้านขา้ งของเรือ ดงั นี้
๑. ถา้ หวั เรือเกือบต้ังตรงหรือต้ังฉากกบั แนวนํา้ หรือเฉยี งเลก็ น้อย เรียกว่า STRAIGHT หรือ VERTICAL BOW
ซึง่ เปน็ แบบเรือรนุ่ เกา่
๒. เรอื แบบสมยั ใหมม่ ลี ักษณะเฉยี งเป็นมุมประมาณ ๗๐ องศากบั แนวนา้ํ เรียกวา่ RAKED BOW

๓. หวั เรือแบบ MAIERFORM มีลกั ษณะเฉยี งคลา้ ยกับ หวั เรือแบบ RAKED แตบ่ ริเวณหวั เรอื ทีต่ ดั กบั ท้องเรอื จะ
มนเพอื่ ใหเ้ ขา้ รูปกับแนวท้องเรือของ MAIERFORM
๔. หัวเรือแบบ CLIPPER คล้ายกบั หวั เรือแบบ RAKED แต่บริเวณของหัวเรือที่พน้ จากแนวนาํ้ ข้ึนไปจะมลี ักษณะ
โค้งผายออก เปน็ แบบเรือสมัยใหม่ หรอื เรอื ทม่ี ีความเร็วสูง เช่น PASSENGER LINER
๕. หวั เรือแบบ CUTTER คลา้ ยกับหวั เรือแบบ CLIPPER แตห่ วั เรือจะมีลกั ษณะโคง้ มน
เข้า เรอื รบในสมยั โบราณมักจะทาํ ส่วนของหวั เรือใต้แนวน้ําใหย้ ื่นออกไปขา้ งหน้า เรยี กวา่ RAM มไี ว้เพือ่ แลน่ เข้า
ชนเรอื ขา้ ศึก แต่ในปจั จบุ นั ทําไวเ้ พื่อลดคลนื่ ท่ีเกิดขึน้ จากหวั เรอื เรียกวา่ BULBOUS BOW ซง่ึ จะทําให้เรอื มี
ความต้านทานนอ้ ยลง
BRACKET
แผน่ โลหะ มกั จะเปน็ รปู สามเหล่ียม ใชย้ ดึ ส่วนโครงสร้าง ๒ อนั หรอื มากกวา่ ให้มนั่ คงแข็งแรงข้นึ เช่น ระหวา่ ง
DECK BEAM กบั FRAME, BULKHEAD STIFFENER กบั TANK TOP หรือ DECK BRIDGE HOUSE สะพาน
เดินเรือ ห้องท่ีสรา้ งข้ึนบน UPPER DECK หรือ SUPERSTRUCTURE DECK ห้องจะขยายออกไปจากกราบ
เรอื ขา้ งหนึ่งถงึ กราบเรืออกี ขา้ งหน่ึง เปน็ ตาํ แหนง่ ทด่ี ีทีส่ ดุ สาํ หรับพักอาศัย จดั ไวใ้ หเ้ ป็นทส่ี ําหรับใช้ในการเดนิ เรือ
และปกคลมุ ทางออกของหอ้ งเคร่ืองจักร และหอ้ งหมอ้ น้ํา
BULK CARGO
สินค้าเทกอง, สินคา้ ทไี่ ม่ใส่ถงุ หรือหบี ห่อ เช่น นํ้ามนั , ถา่ นหิน และเมลด็ พืช
BULKHEAD (BHD)
ฝากัน้ คอื ผนงั ซงึ่ แบ่งที่วา่ งภายในเรือออกเปน็ ห้องๆ มลี ักษณะและชื่อเรยี กต่างๆกนั เชน่
FORE-PEAK BHD OR COLLISION BHD, AFT PEAK BHD, HOLD BHD,
TWEEN DECK BHD, ENGINE ROOM BHD, SUPERSTRUCTURE END BHD,
LONGITUDINAL BHD, TRANSVERSE BHD, OILTIGHT BHD, WATERTIGHT
BHD และ GASTIGHT BHD เป็นต้น
BULKHEAD DECK
เปน็ ดาดฟา้ ชั้นสงู สุดทีฝ่ าก้นั กันนา้ํ ตามขวาง (TRANSVERSE WATERTIGHT BHD)
บรรจบกับแผน่ พนื้ ดาดฟ้าเรือ
BULKHEAD RECESS
ช่วงของพื้นดาดฟา้ ทีม่ ฝี ากั้นดา้ นบนและดา้ นล่างตงั้ เหลอ่ื มกัน
BULWARK
แผน่ เหล็ก ที่ต่อขนึ้ จากขอบบนของแผน่ SHEER STRAKE ตามทางหวั และท้ายเรอื
BUOY (บอย)
ท่นุ คือ ทห่ี มายใช้ในการเดินเรอื

BUOYANCY
กําลังลอย, มีทิศทางตรงกนั ขา้ มกับ นา้ํ หนกั หรอื ระวางขบั นํา้
BUTTOCK
เป็นรอยตัดที่เกิดขึ้นจาก VERTICAL LONGITUDINAL PLANE ตัดลงไปท่ีดา้ นขา้ งของเรอื (ไม่ใช่ท่ี
CENTERLINE)

C

CAMBER
ความสูงของความโค้งดาดฟ้าท่ีแนวกลางลาํ เรอื (ดูจากรปู ตัดทางขวางของเรือ) มอี ีกช่ือว่า
ROUND OF BEAM มคี วามสูงประมาณ ๑/๕๐ ของความกวา้ งของเรอื
CB (B)
เป็นตัวย่อของ CENTER OF BUOYANCY หรือ จดุ ศนู ยก์ ลางกําลังลอย CG (G) เปน็ ตัวย่อของ CENTER OF
GRAVITYหรือ จดุ ศูนยถ์ ่วง ซ่งึ เปน็ จดุ ทีถ่ ือเสมือนว่า น้ําหนักทง้ั หมดของวตั ถุน้ันๆกระทาํ ลงในแนวด่งิ ท่ีจดุ น้ี ซึ่ง
ตรงกันข้ามกบั จดุ CB
COFFERDAM (C/D)
ห้องว่างแคบๆ ระหวา่ งสองฝากัน้ หรือ FLOORS หอ้ งน้ใี ชส้ าํ หรบั ปอ้ งกนั การรัว่ ซมึ
จากหอ้ งหนง่ึ ไปยงั อีกห้องหนงึ่
COLLISION BULKHEAD
ฝากน้ั นํา้ ตามขวาง อย่ทู างหัวเรอื สุดจากทอ้ งเรอื สงู ขึน้ ไปถงึ FREEBOARD DECK ออกแบบไว้เพอื่ กันน้าํ ไม่ใหเ้ ข้า
ทอ้ งเรอื ทางดา้ นหวั เรอื ในกรณที ่ีเกิดความเสียหายเนอ่ื งจากการชนทางหวั เรอื

D

DEADRISE
ในรปู BODY PLAN นี้ DEADRISE คอื เส้นท่ีลากจากทอ้ งเรือทกี่ ระดกู งู ซงึ่ ทํามมุ กับHORIZONTAL PLANE
ระยะสูง (RISE) ขนึ้ ไปจาก BASE LINE ที่ HALF-BREADTH DEADRISE บางทกี เ็ รยี กวา่ RISE OF FLOOR
หรอื RISE OF BOTTOM
DEADWEIGHT
ผลรวมของน้าํ หนักตา่ งๆท่เี รอื บรรทุก ในขณะทเ่ี รอื กนิ นา้ํ ลึกตามที่ไดอ้ อกแบบไว้ ไดแ้ ก่ นํา้ หนกั ของ CARGO,
F.O, L.O, F.W, STORE, CREW PASSENGERS, BAGGAGE และ PROVISION
DECK
ดาดฟา้ เรอื เป็นลกั ษณะเช่นเดยี วกับพ้ืนในอาคาร มชี อ่ื ต่างๆ เช่น BOAT DECK, BRIDGE
DECK, UPPER DECK และ MAIN DECK, ในเรอื โดยสารขนาดใหญ่ จะให้ชื่อตามตวั อักษร เช่น “A” DECK,
“B” DECK เป็นตน้

ตาม CLASSIFICATION จะแบ่งชนดิ ของดาดฟ้าออกเป็นดังนี้
๑.) แบ่งตามความแขง็ แรง (LONGITUDINAL STRENGTH) ของดาดฟ้าเรอื ประกอบด้วย

๑.๑) STRENGTH DECK คอื ดาดฟา้ ชน้ั บนสดุ ซง่ึ แผ่นเปลอื กเรอื ขึน้ ไปถงึ และใน
SUPERSTRUCTURE DECK ทมี่ คี วามยาว 0.15L หรอื มากกวา่ กเ็ รยี กดาดฟา้ นนั้
ว่า STRENGTH DECK ด้วย
๑.๒ EFFECTIVE DECK คอื ดาดฟ้าทอี่ ย่ใู ต้ STRENGTH DECK ใช้เป็นโครงสร้าง
ท่ีใหค้ วามแข็งแรงตามทางยาว
๑.๓) PLATFORM DECK เป็นดาดฟ้าชั้นล่างลงมาท่ไี มไ่ ด้ถือวา่ เปน็ ดาดฟ้าสาํ คัญ หรอื

EFFECTIVE DECK
๒.) แบ่งตามตําแหนง่ แหล่งทข่ี องดาดฟ้าในเรอื น้ัน ประกอบดว้ ย
๒.๑) UPPER DECK คอื ดาดฟา้ ท่ยี าวต่อเนือ่ งกนั ตลอด อยชู่ น้ั บนสุด ถา้ เป็นเรือประเภท
SHELTER DECKER จะเปน็ ดาดฟ้าทอี่ ย่ตู ํ่าลงไป
๒.๒) LOWER DECK คอื ดาดฟ้าตา่ งๆทอ่ี ยู่ใต้ UPPER DECK และรวมทง้ั ดาดฟ้าช้นั ท่ี
สองและช้นั ทีส่ าม ดาดฟา้ ชน้ั ตาํ่ สดุ บางครงั้ ก็เรยี กวา่ ORLOP DECK
2c.) ดาดฟา้ ตา่ งๆทอี่ ยู่เหนอื UPPER DECK ไดแ้ ก่ FORECASTLE DECK,
BRIDGE DECK และ POOP DECK, รวมท้ังดาดฟา้ ตา่ งๆของ DECKHOUSE
คอื UPPER BRIDGE DECK, PROMENADE DECK, NAVIGATION
DECK, FLYING BRIDGE DECK และ COMPASS DECK.
๓.) เก่ยี วกบั สภาพ หรือจดุ มุ่งหมาย
๓.๑) EXPOSED DECK หรอื WEATHER DECK
๓.๒) SHELTER DECK
๓.๓) FREEBOARD DECK
๓.๔) TONNAGE DECK
DECKHOUSE
ห้องบนดาดฟ้าเรือ ซ่งึ ดา้ นขา้ งห้องทงั้ สองขา้ ง ไม่ได้ขยายออกไปถึงขา้ งเรอื ถา้ ขยายออกไปถึงข้างเรอื ท้ังสอง
กราบ กเ็ รยี กหอ้ งนีว้ า่ SUPER-STRUCTURE
DEEP TANKS
ถงั ท่มี คี วามลึก ตง้ั แต่จากท้องเรือ หรอื จาก TANK TOP จนถึงหรือสงู เลยกวา่ พน้ื ดาดฟา้ ทีต่ ํา่ ท่สี ดุ มักจะติดตงั้ ชอ่ ง
เปิดบนดาดฟา้ (HATCH) ไวด้ ้วย เพื่อว่าอาจจะใช้ใส่สนิ คา้ แห้ง แทน นม.ชพ., นา้ํ มัน หรอื นาํ้ อบั เฉา
DERRICK (เด-รคิ )
ป้ันจั่น หรอื CRANE เป็นอุปกรณใ์ ช้ยกสินค้า ประกอบดว้ ย BOOM ซง่ึ เป็นท่อเหล็กกลมยาวปลายล่างอยู่
บนดาดฟ้าหรือใกลโ้ คนเสา ปลายอกี ด้านหนึ่งใช้ยกสนิ คา้ ใหข้ ้ึน-ลงได้ และมีเส้นลวด (GUY ไก) ใช้ดงึ ให้ BOOM
เคลือ่ นไปทางข้างๆได้
DISPLACEMENT, LIGHT
ระวางขับนํ้าเรอื เบา ประกอบด้วย นา้ํ หนกั ของโครงสร้างตวั เรือหรือเหล็ก เคร่อื งประกอบตวั เรือ และเครอ่ื งจักร
ตา่ งๆท่ีตดิ ตงั้ อยู่บนเรอื บางคร้ังกเ็ รียกว่า LIGHT WEIGHT หรือ LIGHT SHIP
DISPLACEMENT, LOADED
ระวางขับนํา้ บรรทกุ - เปน็ ระวางขบั น้าํ ในสภาพทเ่ี รือกนิ นา้ํ ลึกมากท่ีสุดที่ยอมใหไ้ ด้ หรอื ตามท่ีออกแบบไว้ ซ่งึ
เท่ากับผลรวมของ LIGHT SHIP กบั DEADWEIGHT DOUBLE BOTTOM หอ้ งหรอื ถงั ทอ้ งเรือซง่ึ อยู่ระหว่าง
INNER BOTTOM และ SHELL PLATING ใชส้ าํ หรับเป็นถงั น้าํ อับเฉา, ถังนาํ้ มนั หรือถงั น้ําจืด

DRAUGHT, DRAFT
ระดบั กินน้ําลกึ ใชว้ ัดในแนวดิง่ จากระดับแนวน้าํ ถงึ สว่ นที่ตา่ํ ท่สี ุดของตัวเรอื มี ๓ แบบ คือ
๑. ถา้ วดั ถงึ ส่วนที่ยนื่ ออกไปจากตัวเรือท่ีตํา่ ทส่ี ดุ เรียกวา่ EXTREME DRAFT
๒. ถ้าวดั ทห่ี ัวเรอื เรียกว่า FORWARD DRAFT
๓. ถ้าวดั ทท่ี ้ายเรอื (STERN) เรียกวา่ AFTER
DRAFT หรือ AFT DRAFT
คา่ เฉล่ยี ของระดับกินนา้ํ ลึกหวั -ท้าย เรียกว่า MEAN DRAFT และระดับกินนา้ํ ลกึ เฉลย่ี เมอื่ บรรทกุ เตม็ ท่เี รยี กวา่
LOAD DRAFT
DRAFT MARKS
ตัวเลขแสดงระดับกนิ น้ําลึกอยทู่ ่ขี า้ งเรือทงั้ สองข้าง ทีห่ ัวเรอื และท้ายเรอื บางลํากแ็ สดงไว้ทกี่ ลางลาํ เรือดว้ ย ทกุ
ระยะความลกึ ๑๐ ซม.
DUNNAGE
การทําใหเ้ ปน็ เบาะรองรบั การใชส้ ิ่งของวางไวห้ ลวมๆข้างใตห้ รือระหวา่ งสนิ ค้าใน ระวางเรือเพ่ือปอ้ งกันสินคา้
เคลือ่ นท่ี หรอื เสียดสีกนั

E

ENDS
สว่ นหัวสดุ หรอื ทา้ ยสดุ ของเรอื ภายในช่วงความยาว ๐.๑L
ENTRANCE
ส่วนของตวั เรอื ทางดา้ นหวั เรือของ PARALLEL MIDDLE BODY หรอื ท่ีจดุ ซง่ึ ค่า SLOPE ของ SECTIONAL
AREA CURVE เปน็ ศนู ย์
EVEN KEEL
ระดบั กนิ น้ําลึกหัว-ท้ายเท่ากัน หรอื เรืออยู่ในสภาพไมม่ ีทริม

F

FATHOM
ฟาทอม - เปน็ หนว่ ยวดั ความยาว เท่ากบั ๖ ฟุต (๑.๘๒๒๘ เมตร) ใช้วัดความลึกของนํ้า หรือ ความยาวของโซ่
สมอ ในปัจจุบันและเพื่อความสะดวกในการคาํ นวณจะใชค้ วามยาวเปน็ เมตร
FENDER
กนั กระแทก – เปน็ อุปกรณ์ที่ทาํ ตดิ กับตัวเรือ หรอื แขวนไวข้ ้างเรือ เช่น ยางลอ้ รถยนต์ เพ่อื ป้องกนั แผน่ เปลอื ก
เรอื ครูดหรอื ถูกบั ท่าเรือหรอื เรือลําอนื่ ๆ อาจจะทาํ ด้วยไม้เนอ้ื แขง็ หรอื เหล็ก ติดกับตัวเรือตามทางยาวหัว-ทา้ ย
เรอื เหนือแนวนํา้
FOREBODY
สว่ นของตวั เรือ ตง้ั แตก่ ลางลาํ จนถงึ หัวเรอื
FLARE
ความผายออกของตัวเรือทางส่วนหัวเรือ ตามรูปหนา้ ตดั ทางขวาง จากท้องเรอื ข้นึ ไปบนดาดฟา้ ขา้ งเรือ ขา้ งเรือ
จะคอ่ ยๆผายออก เพอื่ ป้องกันดาดฟา้ ไม่ใหเ้ ปียกน้าํ เมอ่ื หัวเรอื ฟาดคล่ืน

FLOODABLE LENGTH (FL)
ความยาวของหอ้ งในเรือ ซง่ึ เม่ือนํา้ ร่ัวเข้าในเรอื จนเต็มห้องน้นั แล้ว เรอื จะไมจ่ มลงไปเกินกว่าแนว SAFETY OR

MARGIN LINE ค่า FL ของเรือเปลี่ยนไปทุกๆจุด ตลอดความยาวเรือ มากทีส่ ดุ ที่กลางลาํ และนอ้ ยทส่ี ุดทบี่ ริเวณ
๑/๔ ของความยาวเรือ
FLOOR
แผน่ ตง้ั - เป็นแผน่ ทางขวางในแนวต้ัง อยู่เหนือแผน่ ท้องเรือทกุ ๆกง ยน่ื ไปจนถึง BILGE ท้งั สองขา้ ง แผ่นตงั้ มี
หลายชนิดต่างๆกัน คือ
๑. WATERTIGHT FLOOR เปน็ แผ่นก้ันสําหรับถงั นํ้าหรอื นา้ํ มนั แผน่ ปิดด้านบนเรียกว่า

TANK TOP
๒. SOLID FLOOR เป็นแผน่ ตง้ั ทเ่ี ป็นแผ่นเดยี วกนั ตลอด อาจเจาะชอ่ งไวเ้ พื่อใหม้ ีนํ้าหนกั
นอ้ ยลง หรอื เพอื่ ใหน้ ํ้าไหลผา่ นถงึ กนั ได้
๓. OPEN FLOOR เป็นลักษณะท่ีเปิดโล่ง ไม่มแี ผ่น TANK TOP ปดิ ไว้
๔. BRACKET FLOOR เป็นลกั ษณะทม่ี ี BRACKET ท่ี VERTICAL KEEL และท่ี
BILGE
FORE
ข้างหนา้ , ไปทางหวั เรอื หรอื ระหว่างกลางลาํ และหัวเรือ
FORE SHEER (SF)
ระยะสูงทห่ี ัวเรอื ของแนวโคง้ ดาดฟา้ ทางตามยาว
FORECASTLE (FO’C’SLE)
หอ้ งทางหวั เรอื สดุ ทอ่ี ยู่บน UPPER DECK มักจะใชเ้ ปน็ ทอี่ ยูข่ องกะลาสี หรือ ลูกเรือ
FOREPEAK
ห้องทางหัวเรือสดุ ที่นาํ้ เขา้ ไม่ได้ ใชเ้ ป็นถงั นา้ํ แต่งทรมิ หวั เรอื อยรู่ ะหว่าง COLLISION BHD และหัวเรอื
FORWARD PERPENDICULAR (FP)
เส้นต้ังฉากหัวเรือ เปน็ เสน้ ดิง่ ทล่ี ากผ่านจุดตดั ของเส้นแนวนํา้ บรรทกุ (LOAD LINE) และผวิ ของแผ่นหวั เรือ
FRAME
กงเรอื เป็นสว่ นทส่ี ําคญั สว่ นหน่ึงของโครงสรา้ งทางขวาง กระทําคล้ายกระดกู ซโี่ ครงของตัวเรือ กงเป็นตวั เสรมิ
ความแข็งแรงของแผน่ ภายนอกเรอื และรกั ษารูปรา่ งทางขวางของเรอื ให้คงไว้
FRAME SPACE
ระยะห่างระหวา่ งกง โดยทั่วไป CLASS ของเรอื นั้นๆจะเป็นตวั กาํ หนดระยะหา่ งระหว่างกง
FREEBOARD
ระยะจากแนวนาํ้ ถึงผวิ หนา้ ของ FREEBOARD DECK ทด่ี า้ นข้างเรือ
FREEING PORT
ชอ่ งเปิด อยทู่ สี่ ว่ นลา่ งของ BULWARK เพือ่ ให้น้ําบนดาดฟ้าไหลออกนอกเรอื ได้ ความสูงของชอ่ งนี้ ต้องนอ้ ยกวา่
230 มม.
FROUDE NUMBER (Fn)
ตวั เลขทไ่ี ม่มหี นว่ ย ใช้แสดงความเกย่ี วพันระหวา่ งความเรว็ เรอื และความยาวเรอื ทีแ่ นวน้ํา ช่ือน้ีมา จาก
นักวิทยาศาสตรช์ าวอังกฤษ ชอ่ื WILLIAM FROUDE
การหาค่า FROUDE NUMBER (Fn)
Fn = v/SQRT(gL)
ซ่งึ Fn : FROUDE NUMBER

v : ความเร็วเรือ, m/s
g : ACCELERATION DUE TO GRAVITY, m/s2
L : ความยาวเรือท่ีแนวนา้ํ , m
FUNNEL, SMOKESTACK
ปล่องเรอื

G

GANGWAY
ทางเดินแคบๆ ใช้เปน็ ทางขน้ึ -ลงเรอื
GARBOARD STRAKE
แผ่นเหล็กท้องเรือทอี่ ยูช่ ดิ กับแผ่นกระดกู งู
GIRDER
แผ่นเหล็กโครงสรา้ งของเรอื วางยาวต่อเนือ่ งกนั ตลอดตามทางหัว-ทา้ ยของเรือ
GIRDER, DECK
แผ่นเหลก็ ทอ่ี ยใู่ ตด้ าดฟ้าเรยี กว่า DECK GIRDER สรา้ งขึ้นเพือ่ รองรบั ดาดฟ้าและคานดาดฟ้า(DECK BEAM)
โดยทั่วไปจะมีเสาคาํ้ (PILLAR) รองรับ GIRDER ไว้เปน็ ช่วงๆ โดยเฉพาะทบ่ี รเิ วณช่องเปิดระวางสนิ คา้ จะตอ้ งมี
DECK GIRDER ตง้ั แต่ HATCH END ท้ังสองด้านจนถงึ ฝากัน้ ระวางทง้ั สองดา้ น
GIRTH
วดั ขนาดรอบ
GIRTH LENGTH
ความยาววดั ที่หนา้ ตดั ทางขวาง (TRANSVERSE SECTION) ของตัวเรือ จากกราบถึงกราบ (GUNNEL =
GUNWALE)
GRAIN CUBIC
ความจขุ องระวางสนิ คา้ เป็นลูกบาศก์ วัดถึงเปลือกเรอื
GRAVING DOCK
อู่แห้ง - เปน็ อเู่ รอื ที่อย่ใู กลแ้ มน่ ้าํ หรอื ชายทะเล เพอ่ื ใช้ในการซอ่ มเรอื โดยเฉพาะ ไมใ่ ชเ่ พ่ือใชใ้ นการตอ่ เรือ
บางคร้ังกเ็ รียกว่า DRYDOCK เป็นอูท่ ส่ี ร้างขนึ้ โดยการขุดดินออกให้เปน็ บอ่ ลึกลงไป มีประตู ปดิ -เปดิ ไดเ้ พอ่ื ให้เรอื
เข้า-ออก เมอื่ ประตอู ู่เปดิ ออก นา้ํ กจ็ ะไหลเข้าในอูจ่ นระดบั น้ําเทา่ กนั แล้วจงึ นําเรอื เขา้ มาในอูไ่ ด้ ปิดประตอู ู่แลว้
สูบนาํ้ ออก ระดบั นา้ํ ก็จะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ จนกระทงั่ กระดกู งูเร่มิ แตะไม้หมอน (KEEL BLOCKS) ซง่ึ ได้จัด
วางเรยี งใหส้ งู เป็นระดับเดยี วกันและห่างเปน็ ระยะๆอยทู่ ่กี น้ อู่ ไวล้ ่วงหนา้ ก่อนท่ีจะปล่อยน้ําเขา้ อู่ จากนนั้ จึงเรมิ่ ใช้
ไมค้ ้ํายนั ขา้ งเรอื (SIDESHORES) ทงั้ สองข้างเพ่อื พยุงเรือไว้ให้ต้งั ตรงและได้แนวเดยี วกับไม้หมอน
GROSS TONNAGE (GT)
กรอสส์ตันเนจ - เปน็ คา่ ความจขุ องเรอื ใชก้ ันเปน็ ทางการ (OFFICIAL) หรอื ตามกฎหมายในการเสียภาษี หรือค่า
ทา่ คา่ ธรรมเนยี มตา่ งๆของเรอื แตก่ ่อนนคี้ ํานวณมาจากความจขุ องระวางสนิ คา้ ในเรอื โดยคิดอัตราความจุ ๑๐๐
ล.บ.ฟุต (๒.๘๓ ล.บ.เมตร) เท่ากับ ๑ ตัน แต่เกิดปัญหายุ่งยากมาก แต่ละประเทศมกี ฎและขอ้ ยกเวน้ ไม่
เหมอื นกนั หรอื ค่าธรรมเนยี มผา่ นคลองตามกฎของคลองปานามาและคลองสุเอซกใ็ ช้แตกตา่ งกนั จนกระทง่ั ในปี
ค.ศ. ๑๙๖๙ จงึ ตกลงให้ใชก้ ฎอย่างเดียวกนั หมดเรยี กวา่ INTERNATIONAL CONVENTION ON TONNAGE
MEASUREMENT OF SHIPS, ๑๙๖๙ ซึ่งกําหนดเปน็ สูตรไวใ้ ห้ โดยคา่ GT ขึน้ อยูก่ ับปริมาตรของทว่ี า่ งในเรอื ที่
ปิดทึบท้งั หมด (ENCLOSED SPACES) และคา่ GT นไ้ี มม่ ีหน่วย

H

HATCH (HATCHWAY)
ช่องเปิดบนดาดฟา้ เพ่อื ให้เป็นทางลําเลียงสนิ คา้ หรอื ขา้ วของตา่ งๆผา่ นเข้า-ออกจากระวางได้
HEEL
การเอียงของเรือไปกราบใดกราบหนงึ่ ของเรือ (INCLINATION, LIST)
HOLDS
หอ้ งใหญ่ใต้ดาดฟ้า ใชเ้ ป็นทีเ่ กบ็ สนิ ค้า, ท้องเรอื
HULL
ตวั เรือทตี่ ่อขึ้น, รวมทั้ง เปลอื กเรอื กงเรือ ดาดฟา้ ฝากน้ั

I

INTERCOSTAL
ส่วนโครงสรา้ งตัวเรือทีต่ ดั ออกเปน็ ท่อนๆใส่ไวใ้ นระหว่างโครงสร้างที่ตอ้ งการความแขง็ แรงมากกวา่ เช่น
INTERCOSTAL FLOOR คือแผ่น FLOOR ท่ถี กู ตัดออกและใสป่ ะจุเข้าไปอยรู่ ะหวา่ ง SIDE GIRDER ซงึ่ เป็นแผน่
ตอ่ เน่ืองกันตลอด เพอื่ ให้ SIDE GIRDER มีความแขง็ แรงมากกวา่ แผน่ FLOOR

J
-
K

KEEL
กระดกู งู คือ ส่วนประกอบทส่ี ําคัญในแนวหวั -ทา้ ยเรือของกงเรอื อยู่ที่ทอ้ งเรอื กง่ึ กลางลาํ เช่อื มต่อเขา้ กับ กงหัว
และกงทา้ ยเรอื แผน่ ตงั้ (FLOORS OR BOTTOM TRANSVERSES) กต็ ดิ เข้าที่กระดกู งู
KNOT
หนว่ ยความเร็ว, ไมล์ทะเลต่อชัว่ โมง (๑ ไมลท์ ะเล = ๑,๘๕๒ เมตร)
KNUCKLE LINE
เส้นแนวแผ่นทหี่ กั เป็นมมุ

L

LENGTH, OVERALL
ความยาวทั้งหมดของเรือ จากหัวสดุ ถงึ ทา้ ยสุด
LENGTH BETWEEN PERPENDICULARS
ความยาวระหว่างเสน้ ตั้งฉาก, เสน้ ตัง้ ฉากหวั เรือเปน็ เสน้ แนวดิ่งทลี่ ากผ่านจุดตดั ของหวั เรือและเส้นแนวนา้ํ บรรทกุ
(SUMMER LOAD WATERLINE) เสน้ ตั้งฉากทา้ ยเรอื เป็น เสน้ แนวดง่ิ ท่ลี ากผ่านจดุ ตดั ของแนวน้ําบรรทุก และ
ดา้ นทา้ ยของ เสาทา้ ย (RUDDER POST OR STERNPOST)หรือเสน้ แนวกลางของก้านหางเสือ (CENTERLINE
OF THE RUDDER STOCK)

LIST
เอียง, สภาพการเอียงของเรอื เกิดจาก CENTERLINE PLANE ของเรือไมอ่ ยู่ในแนวดิ่ง เช่น มีน้ําหนักทางกราบ
หนงึ่ มากกวา่ อกี กราบหน่งึ เรยี กว่า เรอื เอยี ง (HEEL)
LOAD WATERLINE
เสน้ แนวนาํ้ บรรทกุ
LONGITUDINALS
ทอ่ นเหลก็ หรือแผ่นเหล็กโครงสร้างท่ตี ดิ ตั้งตามยาวทางหวั -ท้ายเรือ ใต้แผน่ ดาดฟ้า ติดทแี่ ผ่นทอ้ งเรือ หรือแผ่น
เปลอื กเรอื ด้านใน

M

MANHOLE
ช่องรปู วงกลมหรือรูปไข่ เจาะที่ดาดฟ้า หรือถัง ทําไว้เพือ่ ใหเ้ ขา้ ไปได้
MARITIME INDUSTRY
กิจการพาณิชยนาวี (ซึ่งทํางานอย่างมรี ะบบ) ได้แก่ธุรกิจการค้าทางทะเล ซึ่งมีองคป์ ระกอบที่สาํ คญั คือ การ
ขนส่งทางทะเล ซง่ึ รวมงานเหลา่ นี้เข้าดว้ ยกนั ได้แก่
- การท่าเรือ
- อตุ สาหกรรมต่อเรอื และซ่อมเรอื
- อตุ สาหกรรมท่เี กยี่ วเนือ่ ง
METACENTER (M)
เป็นจุดตัดของ CENTER OF BUOYANCY กบั CENTERLINE PLANE ของเรือ เม่อื เรือเอยี งเปน็ มุมเลก็ นอ้ ย
ประมาณ 7 องศา ถ้ามุมเอียงมากกว่าน้ี จุด M จะเคล่อื นออกจาก CENTERLINE PLANE ของเรอื จุด M มีทั้ง
ทางตามยาว (LONGITUDINAL) และทางตามขวาง (TRANSVERSE)
METACENTRIC HEIGHT
คอื ระยะทางจากจดุ METACENTER (M) ถงึ จดุ CG ของเรอื (หรอื จดุ G) เรยี กสัน้ ๆว่า GM ถ้าเรอื ใดมีจุด G
อยู่ตํ่ากวา่ จดุ M เรอื นนั้ จะมคี วามเสถยี ร (STABLE) มีความหมายว่า เมอ่ื เรอื ถูกแรงมากกระทาํ ใหเ้ รอื เอียง เรือก็
จะกลับคนื ตง้ั ตรงไดเ้ อง แต่ถ้าจุด G อยู่สงู กวา่ จดุ M เรือนนั้ จะไรค้ วามเสถียร (UNSTABLE)
กลา่ วคือ
คงสภาพลอยลําตัง้ ตรงอยู่ไม่ได้ พรอ้ มที่จะเอยี งทนั ทีเม่ือมีแรงมากระทํา
METACENTRIC RADIUS (BM)
คือ ระยะทางระหวา่ งจดุ CENTER OF BUOYANCY (B) และจดุ M
MIDSHIP
กลางลํา, คํานม้ี ีความหมายเช่นเดยี วกับ AMIDSHIPS
MIDSHIP SECTION
รูปวาดแสดงส่วนตา่ งๆตามเส้นตัดขวาง ของตวั เรือ และห้องบนดาดฟ้าทีบ่ ริเวณ หรือทีก่ ลางลาํ
MILE, NAUTICAL
ไมล์ทะเล หรอื NAUTICAL MILE – เปน็ คําเรียกส้ันๆของ INTERNATIONAL NAUTICAL MILE 1
INTERNATIONAL NAUTICAL MILE = 1,852 m (6,076.1 ฟุต) ไมล์ทะเล เปน็ หนว่ ยมาตรฐานของการวดั
เพื่อการเดนิ เรือ , ใ นการทําแผนท่ีเดนิ เรอื ไดก้ ําหนดใหร้ ะยะทาง 1 ไมล์ทะเล มคี วามยาวเท่ากบั 6080 ฟุต ซ่ึง
มาจากระยะทาง ของส่วนโค้งผวิ โลกท่เี ส้นศนู ยส์ ตู ร ทม่ี มุ 1 ลิปดา (Minute) ดังน้ัน เสน้ รอบวงของโลก ทเี่ ส้น

ศูนย์สูตร = ๖,๐๘๐ x ๖๐ x ๓๖๐ / ๓.๒๘๐๘๔ / ๑,๐๐๐ = ๔,๐๐๒๙ กโิ ลเมตร หรอื รัศมีของโลกเฉลีย่ =

๔,๐๐๒๙ / π /๒ = ๖,๓๗๑ กโิ ลเมตร
MOLDED LINES
ลายเสน้ ผวิ ในของตวั เรือทย่ี งั ไม่ได้รวมความหนาของแผ่นเหลก็ เปลือกเรือเขา้ ไวด้ ว้ ย

N

NAVAL POWER
นาวิกกานุภาพ คอื กาํ ลงั ของกองทัพเรือท่คี วบคมุ ทั้งทะเลและในอากาศเหนอื ทอ้ งทะเล
NET TONNAGE (NT)
เนต็ ตนั เนจ - ตามอนุสญั ญาระหว่างประเทศ INTERNATIONAL CONVENTION ON TONNAGE
MEASUREMENT OF SHIPS, 1969. ได้กําหนดสตู รการคาํ นวณคา่ NET TONNAGE ไว้ให้ โดยขึ้นอยู่กบั
ปริมาตรของห้องระวางสินค้า, อัตราสว่ นของระดับกินน้ําลึกของเรอื กบั ความลกึ ของเรอื , คา่ GT และจํานวน
ผู้โดยสารดว้ ย

O

OFFSETS
ชุดตัวเลขรวมไวใ้ น ตารางแสดงระยะห่างตา่ งๆจากเสน้ ที่กําหนดไว้ของตัวเรือ เช่น ความกว้างของตวั เรอื ท่ี
ตาํ แหน่งต่างๆ ณ ระดับแนวนา้ํ หน่ึงๆ เป็นตน้

P

PARARELL MIDDLE BODY
สว่ นของตัวเรือบรเิ วณกลางลํา (AMIDSHIPS) ซึ่งคา่ SECTIONAL AREA ไม่เปลี่ยนแปลง
PILLAR
เสาคํ้า คือ โครงสร้างของเรือในแนวดง่ิ ใช้รองรับ DECK GIRDER หรือ DECK BEAM หรือ ส่วนโครงสรา้ งอน่ื ๆใน
เรือ มีความหมายเชน่ เดยี วกบั STANCHION
PLATFORM
เปน็ พ้นื ดาดฟ้าทอี่ ยูใ่ นระวางสินค้า หรือ LOWER DECK ซึง่ ไมม่ สี ว่ นชว่ ยให้เรอื มคี วามแข็งแรงทางตามยาว
POOP
ห้องบนดาดฟ้าชัน้ บน (UPPER DECK) อยูท่ ้ายเรอื สุด ถือว่าเป็น SUPPERSTRUCTURE ด้วย
PORT SIDE
กราบซา้ ยของเรือ เมอ่ื มองไปทางหวั เรอื สว่ นกราบขวา คือ STARBOARD SIDE

Q

QUARTERS
หอ้ งนอน หรือ หอ้ งพักอาศัย

R

RAKE
การเอียงออกจากแนวด่งิ ทางหัว-ท้ายเรือ เช่น ปล่องเรอื และเสาเรอื เอนไปทางท้ายเรือ, แนวหัวเรอื เอนเฉยี ง
ออกไปทางหวั เรือ เมอ่ื มองทางดา้ นข้าง
REEFER
ตเู้ ยน็ หรอื การแชแ่ ขง็ - คําน้เี ป็นคําย่อทใ่ี ช้ในการพดู มาจากคาํ ว่า REFRIGERATOR หรือ REFRIGERATED
RIDER PLATE
แผ่นเรยี บยาวตอ่ เน่อื งกนั ตลอด วางอยู่ข้างบนหรือขา้ งใตข้ อง GIRDER
RISE OF FLOOR
ดู DEADRISE
ROUND OF BEAM
ดู CAMBER
RUDDER
หางเสือ - เป็นอุปกรณ์ท่ีใช้ในการบังคบั เรอื ให้หนั เลี้ยวได้
RUDDER POST, STERNPOST
ส่วนโครงสรา้ งในแนวดิ่งของ STERN FRAME สําหรับติดหางเสือ
RUDDER STOCK
ก้านหางเสือ – เปน็ อปุ กรณท์ ม่ี ีลกั ษณะเปน็ ทอ่ นเพลาในแนวด่งิ ปลายด้านหนง่ึ ตอ่ เขา้ กับหางเสอื อีกดา้ นหนง่ึ ตอ่
เขา้ กับ STEERING ENGINE
RUDDER STOP
เครอื่ งหางเสือ (เครอื่ งถือทา้ ย) - การจะบงั คบั ใหห้ างเสอื หนั ไปมา ทางกราบขวาหรอื ทางกราบซ้ายได้ ตามปกติ
ทมี่ มุ ๓๕ องศาจะเปน็ มมุ ที่ใหแ้ รงมากทีส่ ุด ถ้าหันไปมากกว่านแี้ รงจะลดน้อยลง ดังนนั้ จึงตดิ ต้งั RUDDER
STOP ไว้ทีม่ ุมหางเสอื ประมาณ ๓๗ องศา เพื่อกนั ไมใ่ หห้ างเสือหนั มากเกินไป
RUN
สว่ นท้ายสุดของเรอื จนถงึ PARALLEL MIDDLE BODY หรือท่ีจดุ ซ่ึงคา่ SLOPE ของ SECTIONAL AREA
CURVE เปน็ ศนู ย์ (ตรงขา้ มกับ ENTRANCE)

S

SAGGING
การโค้งลง (หรอื อาการตกทอ้ งช้างของเส้นเชือกทข่ี ึงระหวา่ งเสา), สภาพของเรือเมอ่ื ส่วนหวั เรือและท้ายเรืออยู่
บนยอดคลืน่ และบริเวณกลางลาํ มีน้ําหนกั อยมู่ ากจะทาํ ใหส้ ่วนกลางลาํ เรอื ย้อยตา่ํ ลง
SCANTLINGS
ขนาดของชน้ิ สว่ นที่เป็นโครงสรา้ งของเรือ เช่น ขนาดของ FRAMES, GIRDERS, PLATING เป็นต้น
SCANTLINGS DRAFT
ระดบั กนิ นาํ้ ลกึ ทมี่ ากทส่ี ดุ ซ่ึงเปน็ ไปตามความตอ้ งการในการคาํ นวณความแขง็ แรงของเรอื
SCUPPERS
ช่องนาํ้ ไหลข้างเรือ, ทางระบายน้ําจากดาดฟ้าออกนอกเรือ เช่น นํา้ ฝน หรอื น้าํ ทะเลทก่ี ระเซน็ ข้ึนบนดาดฟา้
SCUTTLE
ชอ่ งเล็กๆรูปกลมหรอื รปู ไข่ทาํ ไว้ที่ดาดฟ้าเพ่ือเปน็ ช่องทางเขา้ ไป

SEACHEST
เปน็ กล่องปดิ รอบด้าน ตดิ ต้ังไว้ภายในตัวเรอื ใตแ้ นวนํ้า มีช่องทางนาํ้ ทะเลเขา้ ทเี่ ปลอื กเรือ ซง่ึ ตดิ STRAINER

PLATE ชนิดถอดออกได้ไว้ ทีก่ ล่องนม้ี ีทอ่ น้าํ และลน้ิ นาํ้ ทะเลเพื่อให้น้ําทะเลผา่ นเขา้ ในเรือ ใช้ในการดบั ความ
รอ้ น (COOLING), ดับเพลงิ หรือใช้ในหอ้ งนาํ้ กล่องนอี้ าจตดิ ทอ่ ลมกาํ ลังดนั สงู หรือทอ่ ไอนํา้ ไว้ดว้ ยเพอื่ เปา่ ไล่
สงิ่ สกปรกให้ออกนอกเรือไป ทางนํา้ เขา้ เรือจะไดไ้ ม่อุดตัน
SEA POWER
สมทุ านภุ าพ – หมายถึงอาํ นาจในการควบคมุ ทางทะเลของประเทศหนง่ึ ๆ หรือกองทพั เรือท่ีมเี หนอื น่านน้าํ น้นั
ในปจั จุบนั สมทุ านุภาพ คอื การรวมเข้าด้วยกันของกจิ การพาณิชย์นาวี และนาวกิ กานภุ าพ (MARITIME

INDUSTRY + NAVAL POWER)
SHAFT TUNNEL, SHAFT ALLEY
อุโมงค์เพลา - เปน็ ส่วนทีอ่ ยูท่ างทา้ ยหอ้ งเครอื่ ง เปน็ ที่ครอบคลมุ เพลาใบจักร กันนํา้ ได้และมขี นาดใหญพ่ อท่คี น
เดินเขา้ ไปตรวจดูเพลาตามบรเิ วณทอ้ งเรอื ได้
SHEER
แนวโค้งทางตามยาวของดาดฟ้าที่ขา้ งเรอื – ดจู ากในรูป VERTICAL PLANE จะเหน็ วา่ แนวโค้งจะเรม่ิ โค้งข้นึ จาก
กลางลาํ เรือไปทางหวั เรือและทา้ ยเรือ ทางหัวเรือจะโคง้ ข้ึนมากกว่าทางทา้ ยเรอื และเรือสินคา้ จะมีความโคง้
ของ SHEER มากกว่าเรือโดยสาร หรอื เรอื ยอทช์
SHEER STRAKE
แผ่นเปลือกเรือ – เป็นส่วนท่ีวางไปตามแนว MAIN หรือ STRENGTH DECK ขอบบนของแผน่ น้จี ะมีความโค้ง
เปน็ ไปตามคา่ SHEER ของเรือ แผ่นเปลือกเรือนี้จะประกอบตดิ กบั แผ่นSTRINGER PLATE ที่ดาดฟา้ เรอื (บางทีก็
เรียกวา่ DECK STRINGER) ก่อให้เกิดเปน็ ดา้ นบนของคานขนาดใหญข่ ้ึน ซ่งึ เรียกว่า SHIP GIRDER ดังนน้ั
SHEER STRAKE จึงมกั จะมีความหนาเพ่ิมขน้ึ มากกวา่ แผ่นเปลือกเรือทางดา้ นขา้ ง
SHELL EXPANSION
แบบทีแ่ สดงรอยต่อแผ่นเหล็กเปลอื กเรอื (SEAMS AND BUTTS) รวมไปถึงความหนาของแผน่ ตา่ งๆ และ
ตาํ แหน่งของกง
SHELL PLATING
แผน่ เปลือกเรือดา้ นนอกทงั้ หมด รวมท้ังแผน่ ทอ้ งเรอื ดว้ ย
SHELTER DECK
ดาดฟ้านี้มอี ยใู่ นเรือสินค้ารุ่นเกา่ ๆ ท่ีพยายามจะหาทางลดค่า GROSS TONNAGE (GT) ของเรอื ใหน้ อ้ ยลง ใน
กรณีท่เี รอื บรรทกุ สินคา้ มาน้อยในแต่ละเทย่ี วๆ เพื่อจะไม่ตอ้ งเสียเงนิ จํานวนมากเปน็ ค่าทา่ หรือคา่ ธรรมเนียม
ตา่ งๆ ซึ่งผกู พนั อยู่กับ GT ถา้ เรอื บรรทกุ สนิ คา้ มาจาํ นวนมากจนเต็มระวางบรรทกุ การคิด GT จะคาํ นวณถงึ
ดาดฟ้า SHELTER DECK แตถ่ ้าเรอื บรรทุกสินค้ามาจํานวนน้อย การคดิ GT จะคาํ นวณถึงดาดฟ้าท่ีตา่ํ กวา่
SHELTER DECK ลงมา โดยคาํ นวณถึงดาดฟ้า FREEBOARD DECK โดยให้ถือวา่ ดาดฟ้า SHELTER DECK เป็น
ดาดฟ้าทไี่ ม่ใช่ WEATHERTIGHT เนอ่ื งจากทด่ี าดฟ้า SHELTER DECK ไดท้ าํ ช่องเปิด และมีฝาปิดเอาไว้ จึง
เรียกชอ่ งน้ีว่า TONNAGE OPENING
SKEG
แผน่ คล้ายครบี ยน่ื จากท้องเรอื ในแนวดิง่ ใกลท้ ้ายเรอื ช่วยรองรับขอบลา่ งของหางเสอื ช่วยรองรบั เพลาใบ
จักรของเรือทมี่ เี พลาเดียว ช่วยรองรับเรอื ในขณะเขา้ อู่ โดยเฉพาะในเรือบาร์จ แผน่ นี้จะช่วยในการบงั คับเรอื ให้
แล่นตรงเสน้ ทาง

SKYLIGHT
สกายไลท์ - เปน็ โครงประกอบติดตง้ั เหนอื ช่องเปิดบนดาดฟา้ มีกระจกเปิดและปดิ ได้อยขู่ า้ งบนเพ่ือใหแ้ สงสวา่ ง

และอากาศผา่ นลงห้องเคร่อื งหรอื ห้องทีอ่ ยขู้ า้ งใตไ้ ด้
SLAMMING
แรงปะทะอยา่ งแรงเนื่องจากท้องเรือตอนหวั เรือซึง่ ถกู ยกให้สงู ขน้ึ โดย คลนื่ ทนั ทที คี่ ลน่ื ผา่ นไป หัวเรือกก็ ระแทก
เขา้ กับพ้ืนนํ้าทะเลอย่างแรง
SOUNDING TUBE
ทอ่ วดั ความลึกของ ของเหลวทีอ่ ยใู่ นถัง เชน่ ถังนํา้ และถงั นา้ํ มนั เปน็ ต้น มีลักษณะเป็นทอ่ ยาวลกึ ไปถงึ กน้ ถงั เพ่อื

เป็นทางนําใหส้ ายวัด, สายเทป หรือไมว้ ัดลงถงึ กน้ ถังได้
STABILITY
การทรงตวั ของเรอื -โดยปกติเรือมีแนวโน้มท่ีจะลอยลาํ ตง้ั ตรง หรอื มคี วามสามารถทจ่ี ะกลับคืนมายังตาํ แหน่งต้งั
ตรงตามปกติของเรือท่เี คยเป็นอยู่ หลงั จากที่เรอื ไดเ้ อยี งไปโดยการกระทาํ ของคลน่ื ลม หรอื จากแรงภายนอกตวั
เรือ
STACK
ปลอ่ งโลหะ - เป็นช่องทางท่แี ก๊สจากการเผาไหม้จะถูกนําขนึ้ จากทางข้นึ ของควนั (UPTAKE) ออกไปสู่
อากาศภายนอกปลอ่ งนท้ี ําดว้ ยโลหะชนดิ บาง โดยทว่ั ไปจะเป็นสองชนั้ ระหวา่ งชั้นนอกและชั้นในเปน็ ช่องว่าง
(AIR SPACE) เพื่อป้องกนั ความรอ้ นศนู ย์เสยี ไปโดย RADIATION ดงั น้นั จึงทาํ ใหอ้ ณุ หภูมขิ องแกส๊ ยงั คงสงู อยู่
เทา่ ท่ีจะเปน็ ไปได้ขณะทผี่ า่ นปล่องออกไป ซึง่ เป็นสภาพทม่ี ปี ระโยชน์ท่ีทําใหเ้ กิดกาํ ลงั ดดู ของลม (DRAFT) แรง
ขน้ึ ปลอ่ งชนั้ ในมีรปู หน้าตัดเป็นวงกลม ปล่องช้ันนอกเป็นรูปกลมไข่ (ELLIPSE) คาํ อ่ืนๆทมี่ คี วามหมายอยา่ ง
เดยี วกนั กบั คํานี้ คือ FUNNEL, SMOKE PIPE และ SMOKESTACK
STANCHION
เสาคาํ้ - เป็นเสาตง้ั ในแนวดง่ิ ทําไวเ้ พอื่ รองรับดาดฟา้ ,พื้น หรือคานตามยาว คาํ นีม้ ีความหมายเชน่ เดียวกับ
PILLAR
STANCHION, RAIL
RAIL STANCHION - คือ ส่วนเสาค้าํ ท่รี องรบั ราวลวดบนดาดฟ้าข้างเรือ
STARBOARD SIDE
กราบขวาของเรือ เมอ่ื มองไปทางหัวเรอื , กราบซ้าย คือ PORT SIDE
STEERING GEAR
เคร่อื งถอื ทา้ ย - อุปกรณน์ ้ีรวมถึงพวงมาลัยถอื ท้าย, ลวดนาํ , เครือ่ งยนต์ขับเครือ่ งถือทา้ ย และอปุ กรณต์ า่ งๆ
ทง้ั หมดที่ทําใหห้ างเสอื หนั
STEM
หัวเรือ
STERN
ทา้ ยเรอื
STERN FRAME
โครงสว่ นท้ายเรอื - เป็นสว่ นท่ีอาจทาํ ขึน้ จากเหลก็ หลอ่ ตเี ปน็ รูปรา่ งขน้ึ มา หรอื จากการเชอื่ มเปน็ โครงสร้าง
ส่วนท้ายเรือทีแ่ ข็งแรงขนึ้ มาเพ่ือใหร้ องรับหางเสือ และเป็นโครงสาํ หรบั แผ่นเหล็กเปลือกเรือทางทา้ ยเรือ
STERN TUBE
ทอ่ รองรับสว่ นหน่งึ ของเพลาใบจักร (TAILSHAFT) ซึ่งน้าํ เข้าไมไ่ ด้

STIFFENER
ท่อนเหล็กฉาก เหล็กรปู ตัว T หรอื รปู หนา้ ตดั อย่างอนื่ ๆทท่ี าํ ขึน้ ใชเ้ ช่ือมติดบนแผ่นเหลก็ เพื่อเสรมิ ใหม้ ีความ
แข็งแรงข้นึ เช่น แผน่ ฝากน้ั หอ้ งเป็นต้น
STOWAGE FACTOR
ปรมิ าตรของสินคา้ ท่ีเกบ็ ไว้ในเรือตอ่ หนว่ ยน้ําหนัก
STRAKE
แนวแผ่นเหล็กเปลอื กเรอื , แผน่ ดาดฟ้า หรอื ฝากน้ั หอ้ ง
STRENGTH DECK
ดาดฟา้ สเทร์นเดค - เป็นดาดฟ้าชัน้ บนสุดของเรอื ทีย่ าวต่อเนื่องติดตอ่ กนั ตลอด ซ่ึงใหค้ วามแขง็ แรงของเรอื ในทาง
ตามยาวหรอื มีความต้านทานตอ่ การเสียดสีตามแนวยาว (LONGITUDINALBENDING) ของเรือ
STRINGER
คาน หรือ GIRDER ทีใ่ หค้ วามแข็งแรงทางตามยาว (FORE-AND-AFT) ดา้ นบนของดาดฟา้ ตลอดไปตามแนวขา้ ง
เรอื ติดกับเปลือกเรอื
STRINGER PLATE
แผ่นคาน - เป็นสว่ นหนงึ่ ของแผ่นดาดฟ้าท่อี ย่ตู ิดกบั แผน่ เปลอื กเรอื บางทีกเ็ รียกแผน่ นว้ี า่ DECK STRINGER
STRUT
เสาคํา้ ใช้สาํ หรับพยุงหรือรองรบั เพลาใบจกั ร มักจะทําเปน็ รปู ตวั วี (V)
SUPPERSTRUCTURES
โครงสรา้ งของเรือทีอ่ ยู่เหนือ FREEBOARD DECK โดยมีดาดฟ้าออกไปถึงด้านข้างเรือ และแผ่นเปลอื กเรือกม็ า
จรดท่ีดาดฟ้าเหล่านี้ ในการคาํ นวณแนวนา้ํ บรรทกุ ถา้ ดา้ นข้างเรอื ทต่ี ง้ั ตรง (SIDE WALL) มีตําแหน่งอยู่
ที่ ๐.๐๔ B จากดา้ นขา้ ง กถ็ ือว่าโครงสร้างนนั้ เป็น SUPPERSTRUCTURE
SWASH BULKHEAD
แผน่ กัน้ ท่ไี ม่กนั น้าํ ตามทางยาว หรอื ทางขวาง ติดตงั้ ไว้ในถงั นํ้าหรอื ถังน้าํ มนั เพ่อื ลดการกระแทกของนา้ํ เม่อื เรือ
โคลงไปมา

T

TAILSHAFT
ส่วนของเพลาใบจกั รท่อนทา้ ยสดุ ติดกับใบจกั ร
TANK, SETTING
ถงั นม.ชพ. - ใช้เพ่อื แยกน้าํ ออกจากนํ้ามนั โดยการปล่อยใหน้ ้ํามนั อยู่ในถงั สองสามชั่วโมงจนกระทง่ั นาํ้ ตกลงไป
อยู่ที่กน้ ถงั กร็ ะบายออกหรือสูบนา้ํ ออกไป
TANK, TRIMMING
ถังน้าํ หรือนํา้ มนั ติดตัง้ อยู่ที่หัวเรอื หรอื ท่ีทา้ ยเรอื ใชส้ าํ หรบั แต่งทรมิ ของเรอื
TANK TOP
ส่วนบนของถังทอ้ งเรือ - เปน็ แผ่นท่ีวางปิดบนถงั ท้องเรือ (DOUBLE BOTTOM) บางทีก็เรยี กวา่ INNER
BOTTOM
TEMPLATE
ไมแ้ บบ (ซึง่ อาจใช้กระดาษทาํ แบบแทนไม้ก็ได้) เปน็ ตัวแบบท่ีมขี นาดเทา่ ของจรงิ เพ่อื ใช้วางลงไปบนโลหะทจ่ี ะ
ทาํ การตดั หรือเจาะรใู หไ้ ดต้ ามตําแหนง่ หรือรปู โค้งของกง เป็นต้น

TENDER

๑) เก่ียวกบั การทรงตัวของเรอื , คาํ น้หี มายถึง เรือท่ีมคี า่ METACENTRIC HIGH (GM)นอ้ ย จงึ โคลงไปมาได้งา่ ย
ตรงข้ามกับ STIFF
๒) เรอื เทนเดอร์หรือเรือพีเ่ ลย้ี ง เป็นเรือใช้งานท่ัวไปขนาดเล็ก
THRUST RECESS
ซอก หรือ ห้องเล็กๆทางดา้ นทา้ ยของเครอ่ื งจักรใหญ่ ซึ่งอยู่ขา้ งหนา้ ของอโุ มงค์เพลา (SHAFT TUNNEL) ทาํ ไว้
เพอ่ื เป็นทางเขา้ ไปท่ี THRUST SHAFT และ THRUST BEARING

TONNAGE MARK
เครอ่ื งหมายตันเนจ - เปน็ เครื่องหมายใช้แสดงให้เห็นระดับกินนา้ํ ลกึ ทีม่ ากทีส่ ดุ ทีเ่ รอื จะบรรทุกไดอ้ ย่ทู ี่ข้างเรอื
ทัง้ สองข้าง บรเิ วณกลางลาํ เรือค่อนไปทางทา้ ยเรือเลก็ นอ้ ย เป็นเสน้ ในแนวนอนยาว ๓๘๐ มม. กว้าง ๒๕
มม. มรี ปู สามเหลี่ยมยาว ๓๐๐ มม. ยอดช้ีลงทก่ี งึ่ กลางขอบบนของเส้นนั้น
TOPSIDE TANK
ทอปไซด์ แทงค์ - เป็นถงั อยู่ใตพ้ ้นื ดาดฟ้า WEATHER DECK ท่ีข้างเรอื ปกติจะใชเ้ ป็นถังน้ําอบั เฉาในเรอื
พาณชิ ยแ์ บบ BULK CARRIER ถังนํา้ นม้ี ีประโยชน์เพ่อื ใช้แตง่ ค่า GM เม่อื เรอื มีค่า GM สูงมากเกนิ ไป หรือเพ่อื
แตง่ ให้เรือกนิ น้ําลกึ มากขน้ึ อีกจนใบจกั รไม่โผลพ่ ้นนํา้ เพ่อื ป้องกนั ไม่ใหใ้ บจกั รหมนุ รวั (PROPPELLER RACING)
ขณะเมอื่ เรือถูกคลืน่
TRAMP SHIP
เรอื สนิ คา้ ท่ไี มม่ เี ส้นทางเดนิ เรือหรือกาํ หนดการเดินเรือทีแ่ นน่ อน
TRANSOM
แผน่ ที่วางขวางอย่ทู ้ายเรอื
TRANSOM BEAM
คานดาดฟ้าตามขวางที่อยทู่ างทา้ ยเรอื สุดตดิ กบั CANT BEAM
TRANSOM FRAME
กงเรอื ทางขวางทอี่ ยู่ทา้ ยเรือสดุ ตดิ กบั CANT BEAM
TRANSVERSE
แทรนส์เวริ ส์ – เป็นส่วนโครงสร้างทแ่ี ขง็ แรง (DEEP) ใช้สาํ หรับรองรับกงตามยาวที่ดาดฟา้ เรือ,ขา้ งเรอื หรอื ท้อง
เรอื สว่ นนีจ้ ะวางต้งั ฉากกับเสน้ แนวหวั -ทา้ ยเรอื
TRIM
ผลตา่ งระหว่างระดบั กินนํ้าลึกหวั และท้าย ถา้ หวั เรือกินน้าํ ลึกมากกว่ากเ็ รียกวา่ ทรมิ หัว (TRIM BY THE HEAD)
โดยทวั่ ๆไปแล้วเรือมักจะออกแบบใหท้ า้ ยเรอื กินน้ําลึกมากกว่า ท่เี รยี กว่า มีทรมิ ท้าย (TRIM BY THE STERN)
การทริมเรอื ทาํ ได้โดยแตง่ ตาํ แหน่ง โดยเพมิ่ หรือลดน้าํ หนักของสินคา้ ท่ีบรรทุกมาในเรือ, นา้ํ มันเชอื้ เพลงิ ,
น้าํ จดื หรือนาํ้ อบั เฉา จนกว่าจะได้ระดบั กินน้ําลกึ หัว-ทา้ ย ตามทตี่ ้องการ
TRIPPING BRACKET
แผ่นเหลก็ บางทอ่ นส้นั ๆ ใช้ใสเ่ ขา้ ไปตามจุดต่างๆบน DECK GIRDERS, STIFFENNERS
หรือ BEAMS เพ่อื เสริมความแขง็ แรงของปกี (FLANGES) ท่ีไม่ไดย้ ดึ ตดิ กบั อะไรไว้ ไม่ใหบ้ ิดหรืองอไป
TRUNK
ชอ่ งทางเดนิ หรอื ชอ่ งว่างในแนวดงิ่ หรอื เอียงลาด ประกอบขน้ึ จากฝากัน้ หรือฝาผนงั เปน็ ช่องทางผ่านดาดฟา้
ผา่ นรอบๆปากระวางระหว่างพ้ืนดาดฟา้ การขนถา่ ยสนิ ค้าหรือการระบายอากาศจะไมม่ ผี ลต่อหอ้ งที่อย่ตู ดิ กัน

TUMBLE HOME

ดา้ นข้างเรอื ที่ลาดเอียงเขา้ ในเรือ – โดยปกติจะอยู่ประมาณตัง้ แต่แนวนาํ้ ถูกออกแบบไวเ้ พื่อป้องกันไมใ่ ห้กราบ
เรอื กระแทกกบั ท่าเทียบเรือ หรอื กบั เรือลาํ อื่นๆเมื่อจอดอยู่ติดๆกัน
TWEEN DECK
ทวีนเดค - เปน็ คาํ ย่อของคาํ วา่ BETWEEN DECK หมายถึง ทว่ี ่างระหว่างดาดฟา้ ที่อยู่ใกล้เคียงกนั สองดาดฟ้า
ใดๆ
TWIST LOCK

อปุ กรณ์ทางเคร่อื งกลสาํ หรับปดิ ที่มมุ ตคู้ อนเทนเนอรส์ นิ คา้ มีส่วนท่เี คล่อื นไหวไดโ้ ดยการหมุนรอบแกนตั้ง
อุปกรณน์ จ้ี ะทาํ ให้ตู้คอนเทนเนอร์ทอ่ี ยู่ขา้ งเคยี ง, หรือทงั้ ขา้ งบนและขา้ งล่าง เขา้ กันได้พอดี เมอื่ หมุนกลบั ทางก็
จะเป็นการเปดิ

U

UPTAKE
ทางขนึ้ ของควัน

V

VANG
เส้นเชอื กลวด ทีผ่ กู ยึดอยู่ท่ดี ้านปลายบมู เพ่อื ดึงให้บูมอยู่ในตําแหน่งทีต่ ้องการ มคี วามหมายเชน่ เดียวกบั GUY
(ไก)
VENTILATOR, COWL
กระบังรับลม ปล่องระบายลมในเรือ หมนุ ได้รอบตัวเพ่ือให้รบั ลมหรอื ระบายลมออกนอกเรือได้
VLCC TANKER
เรือบรรทุกนาํ้ มันขนาดใหญ่ ขนาดตง้ั แต่ 150,000 DWT ขึน้ ไป มาจากคาํ วา่ VERY LARGE CRUDE OIL
CARRIER TANKER.

W

WATER BALLAST
นาํ้ ทะเลทีบ่ รรทุกอย่ตู ามถงั ตา่ งๆในเรือ เชน่ ถงั ทอ้ งเรือ, ถงั หวั หรือทา้ ยเรอื นอกจากนย้ี งั หมายถงึ นํา้ ทะเลใน
DEEP TANK หรอื ถังอื่นๆ การใชน้ าํ้ ทะเลถว่ งเรอื กเ็ พ่ือแต่งให้เรือมีสภาพตามท่ีต้องการ เช่น กนิ น้ําลึก, ทริม หรอื
การทรงตัว
WATERLINE
เส้นแนวนา้ํ , รอยตดั ของ HORIZONTAL PLANE กับตวั เรอื
WATERWAY
ทอ่ ระบายนํ้าของเรอื - เปน็ ร่องแคบๆตามแนวขอบดาดฟ้า สาํ หรับเป็นทางระบายนํ้า
WEATHER DECK
ดาดฟ้าเวธเท่อร์เดค - เป็นดาดฟา้ ทยี่ าวติดต่อกนั ตลอด อยูช่ น้ั บนสดุ ของเรือ

WEB FRAME
กงขนาดใหญ่ ท่ีใหค้ วามแขง็ แรงมาก ทําขึ้นโดยเอาแผน่ เหลก็ มาประกอบเข้าดว้ ยกนั โดยการเชอื่ มมีแผ่น WEB
PLATE และ RIDER PLATE กงขนาดใหญน่ ้ี จะมีอยูท่ ุกๆช่วง ๔, ๕ หรอื ๖ กงธรรมดาในท้องเรือท่ีต้องการความ
แขง็ แรง เช่น บรเิ วณเครือ่ งจกั รใหญ่ และในห้องหมอ้ น้ํา

WELL
แอ่งนาํ้ เลก็ ๆสําหรับใหน้ ้ําไหลลงในแอ่งแลว้ สูบท้งิ ออกนอกเรือไป เชน่ ทีพ่ น้ื ระวางสินค้า แอง่ นบี้ างทีกเ็ รยี กว่า
BILGE WELL, DRAINAGE WELL และ POCKET WELL
WINCH
เคร่อื งกว้านสนิ คา้ ใช้กําลังขบั ด้วยไอนาํ้ หรือไฟฟ้า
WINDLASS
เครอ่ื งกว้านสมอ

XYZ
-

4. หนา้ ท่คี วามรับผดิ ชอบ
คณะทํางานการจัดการความร้กู องโรงงานเรอื เหล็กประกอบดว้ ย
๑. ...ร.อ.บรุ นิ ทร์ แสนชมภู..............
๒. ...ร.ท.รังสรรค์ เทยี นสวา่ ง...........
๓. ...ร.ท.วัชรนิ ทร์ นรมาตย์.............
๔. ...พ.จ.อ.จณิ ณะ บุญสอง.............
๕. ...พ.จ.อ.ศักด์สิ ิทธ์ิ สทุ ธิวงศ.์ ........
๖. ...พ.จ.ท.ธนวัฒน์ เกดิ เกตุ............

โดย คณะทาํ งาน KM Team มีหนา้ ทีแ่ ละความรบั ผิดชอบศึกษาและจดั ทาํ รูปแบบองคก์ ร ต้นแบบเพือ่ พฒั นา
โครงการจากทฤษฎีการจดั การความรู้สู่การปฏิบตั จิ รงิ ซ่งึ มโี รงงานเรอื เหลก็ เปน็ หน่วยงานศึกษานาํ รอ่ งสนบั สนนุ
การจัดทาํ แผน การจัดการความรู้ (KM Action Plan) ซ่ึงประกอบดว้ ย การจัดทําเปา้ หมาย KM Desired State
การกรอกขอ้ มูลลงในแบบฟอรม์ ที่กําหนด การจดั ทําแผนการจัดการความรู้ ของหนว่ ยงานนําร่องใหแ้ ลว้ เสรจ็
ตามกาํ หนดเวลา และสามารถนาํ แผนไปสกู่ ารปฏิบัติใหบ้ งั เกดิ อย่างเปน็ รูปธรรม ตามแนวทางท่ที าง อรม.อร.
กาํ หนด

5. แผนผังการปฏิบตั งิ าน Work Flow

6. ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
กรมอู่ทหารเรือเป็นหน่วยงานทางด้านเทคนิคของกองทัพเรือท่ีเก่ียวข้องกับการสร้างเรือโดยตรง

วิสัยทัศน์ของกรมอู่ทหารเรือ (พ.ศ.๒๕๕๙ – ๒๕๖๗) คือ “เป็นเลิศในงานซ่อมและสร้างเรือ ด้วยการบริหาร
จัดการท่มี ีคุณภาพ” และได้กําหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาขีดความสามารถในการสร้างเรือของกรมอู่ทหารเรือ
ไว้ ในการจัดการความรู้ของโรงงานเรือเหล็ก อู่ราชนาวีมหิดลอดุลเดช กรมอู่ทหารเรือ (อรม.อร.) ซึ่งเป็น
หน่วยงานท่ีมีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านฝ่ายผลิตโครงสร้างตัวเรือในโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝ่ัง (OPV)
ลําที่ ๑ (ร.ล.กระบ่ี) และลําท่ี ๒ (ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์) จึงได้มุ่งเน้นไปท่ีการพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ด้าน
การสร้างเรือ และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและสร้างมาตรฐานในการสร้างเรือให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้

ตอบสนองตามยทุ ธศาสตร์และวิสัยทศั นข์ องกรมอู่ทหารเรือท่ไี ด้วางเอาไว้
ในการสร้างเรอื ทางกองทพั เรอื ไดเ้ หน็ ความสาํ คญั ของโปรแกรมชว่ ยในการเขยี นแบบสร้างท่ีมชี ือ่ เรียกว่าโปรแกรม
TRIBON M3 ที่เป็นโปรแกรมทชี่ ว่ ยในการต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝัง่ ไกลฝ่ังเฉลิมพระเกยี รติ ลําที่ ๒ โปรแกรมนีจ้ งึ
มบี ทบาทสําคัญในการตอ่ เรอื ให้เป็นไปตามแบบที่ถกู ต้อง ลดการทาํ งานซ้าํ ซอ้ น รวมถงึ การวเิ คราะหแ์ ผนการผลติ
ใหม้ คี วามเหมาะสมกับอปุ กรณ์อํานวยความสะดวกท่มี ีอยู่ ระหว่างทเ่ี รอื กาํ ลังถกู สรา้ งอยนู่ ้นั ได้มีโอกาสรว่ มงาน
คณะกรรมการดา้ นฝ่ายแบบทาํ ให้ได้มโี อกาสศกึ ษาขัน้ ตอนการสร้างตัวเรือทัง้ ภาคทฤษฏแี ละภาคปฏบิ ัติ ซ่งึ
นบั วา่ เปน็ ประโยชน์อย่างมาก และไดท้ าํ การรวบรวมขน้ั ตอนและเทคนคิ ต่าง ๆ มานําเสนอใหผ้ ูอ้ า่ นได้รบั ความรู้
เพอื่ เป็นพืน้ ฐานเบอ้ื งตน้ สําหรบั ผ้สู นใจนําไปสกู่ ารพฒั นาและปรับปรงุ ในการตอ่ เรือ

ในการสร้างเรือแบบบล็อกที่ใช้แบบลายเส้นนั้น ผู้สร้างจะต้องอ่านแบบลายเส้นต่างๆเพ่ือทําการขยาย
แบบเพื่อตัดแผ่นเหล็กในข้ันตอนการแปรรูปเหลก็ และต้องอ่านแบบเพ่ือนําระยะต่างๆมา หมายตําแหน่งในข้ัน
การประกอบชิ้นส่วยยอ่ ย แบบทีส่ าํ คัญที่ตอ้ งใช้มีดงั นี้

๑. แบบทัว่ ไป (Basic Plans) ๑.๒ Line Plan
๑.๑ General Arrangment ๑.๔ Centre Line Profile
๑.๓ Deck Plan ๑.๖ Typical Sections
๑.๕ Midship Sections

๑.๗ Watertight Bulkheads ๑.๘ Steel Bulkhead and Pillar Keyplan

๒. แบบรายละเอียด (Functional Plan)
๒.๑ Shell Expansion and Transom ๒.๒ Structural Details

แบบทั่วไป (Basic Plans)
๑. GENERAL ARRANGEMENT

แบบเรียบเรียงท่ัวไปประกอบด้วย รูปที่มองจากด้านบน (DECK PLAN) เพื่อจะแสดงให้เห็นการจัด
ส่วนต่าง ๆ ของเรือและการจัดส่วนต่าง ๆ ในห้องของแต่ละห้อง ในกรณีที่เป็นเรือขนาดใหญ่มีดาดฟ้าหลายชั้น
จะต้องแสดงให้เห็นรายละเอียดการจัดส่วนต่างบนดาดฟ้าทุกช้ัน (ดูรูปท่ี 2) ในแบบเรียบเรียงทั่วไปนี้จะมีเพียง
รูปแปลน เพียงเท่าน้ี ก็พอจะมองเห็นและเข้าใจว่าการจัดส่วนต่าง ๆ ภายในเรือเป็นอย่างไร มีขนาดความยาว
ความกวา้ ง และมีพื้นที่เหมาะสมกับการปฏิบัติงานในส่วนน้ัน ๆ เพียงพอหรือไม่ ในแบบเรียบเรียงท่ัวไปบางแบบ
อาจจะมรี ูปตัดตามยาว ตามขวาง และรายละเอียดของอุปกรณ์และเคร่ืองประกอบตัวเรือรวมอยู่ในแบบเดียวกัน
และการจัดสว่ นต่าง ๆ ภายในเรือ เพอื่ ให้การใช้พ้ืนท่ีภายในเรือที่มอี ยู่ใหเ้ กิดประโยชน์มากที่สุด หรือรายละเอียด
เฉพาะอ่นื ของเรอื อย่างชดั เจน ถูกต้อง ตรงตามมาตราส่วน

สว่ นสาํ คัญของแบบเรยี บเรยี งท่วั ไป
๑.๑ ส่วนระวางบรรทุก (CARGO SPACE) เป็นส่วนท่ีสําคัญมาก เพราะส่วนนี้จะทําให้เกิดประโยชน์

หรอื รายได้ และเป็นส่วนที่แสดงให้เหน็ ว่าเรอื ลํานี้มีภารกิจอะไร เชน่ บรรทุกน้ําบรรทุกน้ํามนั บรรทุกสินคา้ หรือ
เรอื โดยสาร

๑.๒ ส่วนที่อยู่อาศัยของเจ้าหน้าที่ประจําเรือ (CREW SPACE) เป็นท่ีพักอาศัยของคนประจําเรือเพ่ือทํา
หนา้ ทีใ่ นเรอื ต่าง ๆ กัน

๑.๓ ส่วนท่ีพักของผู้โดยสาร (PASSENGER SPACE) เป็นส่วนที่พักอาศัยของ ผู้โดยสารในกรณีท่ีเรือลํา
นั้นเป็นเรือโดยสารแบบเรือข้ามฝั่ง ส่วนเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ที่ใช้เดินทางหลายวันก็จะต้องมีห้องพักอาศัย

ส่วนตัว
๑.๔ ส่วนควบคุมการเดินเรือ (NAVIGATING SPACE ) เป็นส่วนท่ีปฏิบัติงานของผู้นําร่อง ผู้ควบคุมเรือ

และปฏิบัติงานอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเดินเรือ ส่วนน้ีจะต้องให้อยู่สูง เพ่ือให้มีทัศนะวิสัยในการ
มองเห็นทดี่ ี

๑.๕ ห้องครัวและห้องอาหาร (GALLEY & MESS ROOM) เป็นส่วนห้องครัว เพ่ือประกอบอาหาร เก็บ
อาหารสด อาหารแห้งและรับประทานอาหาร หรอื เปน็ หอ้ งพักผอ่ นของเจา้ หนา้ ท่ปี ระจําเรือ

๑.๖ ห้องเก็บของ (STORE SPACE) เป็นส่วนที่เก็บของต่าง ๆ บนเรือ เช่น ห้องเก็บเครื่องมือซ่อมบํารุง
เรือ หอ้ งเก็บอปุ กรณ์ เครอ่ื งกล เปน็ ต้น

๑.๗ ห้องเครื่องจักร (MECHINERY SPACE) เป็นส่วนท่ีต้ังของเคร่ืองจักรใหญ่ ขับเคล่ือนเรือ เคร่ือง
กาํ เนิดไฟฟ้า ป้ัมน้ํา และอุปกรณอ์ ่ืน ๆ ทเี่ กี่ยวข้องกบั เครือ่ งจกั ร

๑.๘ ถงั นํ้า (TANKS)
๑.๘.๑ ถังน้ํามันเชื้อเพลิง (FUEL OIL TANK) เป็นส่วนเก็บนํ้ามันเช้ือเพลิงสําหรับเครื่องจักร

ใหญแ่ ละเครือ่ งจกั รอน่ื ๆ โดยทว่ั ไปถงั นาํ้ มันนจี้ ะจดั ใหอ้ ยูส่ ว่ นกลางลาํ ล่างสุด ของเรอื
๑.๘.๒ ถังนํ้าจืด (FRESH WATER TANK) เป็นส่วนที่เก็บน้ําจืดเพื่อใช้ในชีวิต ประจําวัน เช่น

สําหรับอาบและประกอบอาหาร การจัดวางถังน้ําจืดและถังนํ้ามันเช้ือเพลิงไม่ควรให้อยู่ติดกัน หมายถึงไม่ควรใช้
ฝาก้นั ฝาเดียวกัน ทั้งน้เี พื่อป้องกันไมใ่ หม้ ีการรว่ั ไหลไปถงึ กัน เมอื่ ฝากั้นนน้ั เกดิ การแตกร้าวหรอื รั่วซมึ

๑.๘.๓ ถังน้ําถ่วงเรือ (BALLAST TANK) เป็นส่วนที่ใส่นํ้าสําหรับถ่วงเรือ เพื่อการปรับแต่ง
ทริมเรือ (TRIM ) โดยทั่วไปจะมี ๒ ถัง คอื สว่ นหัวเรือสดุ และทา้ ยเรอื สุด หรือถา้ มคี วามจําเปน็ จะจดั ให้มมี ากกว่า
นี้ก็ได้ ถังนาํ้ ถ่วงเรอื น้โี ดยทว่ั ไปจะมใี นเรอื บรรทกุ นาํ้ เรอื บรรทกุ -นํ้ามนั หรอื เรือสนิ คา้

๒. LINE PLAN

รปู ท่สี าํ คญั ทัง้ ๓ รปู มีดงั นี้
๑.๑ รปู ครึ่งความกว้าง (HALF BREADTH PLAN) ถ้าเปน็ การเขียนแบบในแขนงวชิ าอ่ืน เชน่ งานเขียน

แบบโยธา หรอื การเขยี นแบบด้านกลจกั ร รูปนจ้ี ะเรียกว่า รปู แปลน หรือรูป TOP VIEW แต่ในแบบลายเสน้ เรือ ไม่
นิยมที่จะเลือกรูปครงึ่ ความกว้างน้ีว่ารปู แปลน หรอื รปู TOP VIEW ท้งั ๆ ท่รี ปู นี้ก็มองจากด้านบนเหมือนกนั ใน
รูปครง่ึ ความกว้างนแี้ สดงใหเ้ ห็นเส้นรอบรอยตดั แนวนอนขนานกบั เสน้ ฐาน (BASE LINE) เส้นรอบรอยตัดนค้ี อื
เสน้ แนวน้าํ ( WATER LINE) ของเรอื ในระดับกินน้ําลกึ ตา่ ง ๆ กนั ในรปู นีจ้ ะมีเส้นรอยตัดแนวตัง้ ตามขวาง คือ
เสน้ รอยตดั (STATION) และเสน้ บทั ทอค (BUTTOCK) เปน็ เสน้ ตรง ส่วนเสน้ ดาดฟ้าปากเรอื (DECK @ SIDE) และ
เสน้ แนวนาํ้ (WATER LINE) จะเป็นเส้นโค้ง รปู คร่งึ ความกวา้ งนี้ ถ้าจะเขียนให้สมบูรณ์ ก็จะจะต้องเขยี นท้ัง ๒
กราบ คือกราบซ้ายและกราบขวาแตเ่ นื่องจากเรอื มีรปู ร่างและทรวดทรงเหมอื นกนั ทงั้ ๒ กราบ เพื่อเป็นการ
ประหยดั เวลาจงึ เขียนเพียงคร่ึงลํา คือ กราบซ้ายกราบเดียว

๑.๒ รูปดา้ นข้าง (PROFILE) รปู ด้านข้าง คอื รูปทม่ี องทางดา้ นข้างตามยาว โดยทว่ั ไปจะเขยี นโดยหนั หัว
เรือไปทางขวามอื ในรูปนจี้ ะเห็นทางกราบขวา จะแสดงใหเ้ หน็ โครงรา่ งของทวนหวั และทวนท้าย และความงอน
ของดาดฟ้า จุดประสงค์หลัก เพื่อต้องการแสดงใหเ้ ห็นถงึ รปู ทรงของห่นุ เรอื ผ่าความยาวทเ่ี สน้ ศนู ยก์ ลางลําเรือ
และเส้นโคง้ รอยตัดตามยาวขนานกบั เสน้ ศูนย์กลางเรอื เรยี กวา่ เสน้ บัททอค ในขณะเดยี วกนั ก็จะแสดงตําแหน่ง
ของรอยตดั ตามขวาง (STATIONS) และเสน้ แนวนํ้าในระดบั กินนา้ํ ลกึ ต่าง ๆ กัน เส้นรอยตดั ตามขวางและเส้นแนว
นา้ํ น้ีซง่ึ เป็นเสน้ ขอบรอบรอยตดั ผวิ หุ่นเรือน้ันจะเป็นเปน็ เส้นตรง ส่วนเสน้ ความงอนดาดฟ้า เสน้ รอบรอยตดั ที่
ศนู ยก์ ลางลาํ เรอื และเส้นบทั ทอค จะเห็นเปน็ เส้นโคง้

๑.๓ รปู รอยตดั ตามขวาง (BODY PLAN) รูปรอยตัดตามขวาง คือ รปู ท่ีมองเหน็ เสน้ โคง้ ท่ขี อบรอยตัดตาม
ขวางของรปู ทรงเรอื ในระยะรอยตดั ตา่ ง ๆ ทวี่ างซอ้ นกันในแนวระนาบ ในรปู นี้กจ็ ะมองเหน็ ลักษณะความนนู ของ
ดาดฟ้า เสน้ รอยตัดแต่ละเสน้ จะเห็นเปน็ เส้นโคง้ ในขณะเดยี ว กันก็จะเห็นเส้นแนวนํา้ และเส้นบทั ทอคเปน็

เส้นตรง รูปรอยตัดตามขวางจะเขียนเพยี งกราบเดียว คอื รูปสว่ นหัวตั้งแต่กลางลาํ ถงึ หวั เรอื จะอย่ทู างดา้ นขวาของ
เสน้ ศนู ย์กลางลาํ เรือ และทรี่ ปู ตัดส่วนท้ายตั้งแต่กลางลําถงึ ทา้ ยเรือจะอย่ดู ้านซ้ายของเส้นกลางลาํ เรอื สว่ นเส้นที่
เพ่ิมขนึ้ คอื เสน้ ตรวจ หรอื เสน้ ทแยง (DIAGONAL) คอื เสน้ นจี้ ะแสดงใหเ้ ห็นทรวดทรงตามความยาวของเรือทส่ี ่วน
ท้องเรือท่ีอ้วนท่ีสุด (BILGE) เสน้ ทแยงน้ีควรเป็นเส้นตัง้ ฉากกับเส้นรอยตัดหุน่ เรอื และในรูปน้ีเสน้ ตรวจจะเหน็ เป็น
เสน้ ตรง สว่ นเสน้ ทแยงทแ่ี สดงทรวดทรงของเรือที่แทจ้ ริงรวมอยทู่ ีใ่ ต้รูปครึ่งความกวา้ ง
TABLE OF OFFSETS

ระยะหา่ งจากตําแหน่งหรอื เส้นอา้ งองิ ไปทีเ่ สน้ รอบนอกของหุ่นเรอื ระยะน้เี รยี กวา่ ระยะออฟเซท ตําแหน่งหรือ
เส้นอ้างอิงในแบบลายเสน้ คอื เสน้ ฐานและเสน้ ศนู ยก์ ลางลําเรือ เมอื่ กําหนดใหเ้ ส้นฐานเป็นตําแหน่ง หรือเส้น
อา้ งองิ ทจี่ ะวดั ระยะใหส้ งู ข้นึ ไปจากเสน้ ฐานเรียกว่าระยะ สงู จากเส้นฐาน และถา้ กาํ หนดให้เสน้ ศนู ยก์ ลางลาํ เรอื
เปน็ ตําแหน่งหรือเสน้ อา้ งองิ ทจี่ ะวดั ระยะออกไปทางความกว้างของเรือ เรียกวา่ ระยะ ครงึ่ ความกว้าง เมอ่ื ระยะ
ออฟเซทมากขนึ้ เพื่อความเรียบรอ้ ยจึงรวบรวมเอาไวใ้ หอ้ ยูใ่ นตารางเดยี วกนั เรยี กวา่ ตารางออฟเซท

๓. DECK PLAN

แบบ DECK PLAN ( แปลนพนื้ ) เป็นแบบท่ีบอกรายละเอยี ดขนาดตา่ งๆของโครงสร้างชิน้ งานทอี่ ยู่ใตพ้ น้ื ดาดฟ้า
ทง้ั หมด เช่นความหนาของแผ่นเหลก็ ขนาดของช้นิ งานเหล็กรูปพรรณ รวมท้ังแนวต่อแผน่ เหลก็ เปน็ ต้น
ขอ้ มลู ทีจ่ ะต้องเขียนลงไปในงานเขยี นแบบ DECK PLAN ( แปลนพน้ื )

๑. เส้นโครงสรา้ งในแบบจะต้องเขียนตัวอกั ษร สญั ลักษณ์ของเส้น ขนาดของชิ้นงานกํากบั ไว้บนภาพ และใต้
ภาพ
๒. รูปแสดงจะตอ้ งมีเส้นชแี้ ละเสน้ บอกตําแหนง่ ลกั ษณะของโครงสร้างต่างๆ

ตัวอย่างการอา่ นความหมายในแบบ DECK PLAN ( แปลนพื้น )
DECK STRUCTURE – โครงสร้างพน้ื ดาดฟ้า
TRANS.BEAM 200x9 OBP – โครงสร้างตามแนวขวางลําเรอื ชนดิ เหล็กฉากปกี ตมุ่ ขนาด 200x9มม.
WEB FRAME 229x305x51 UT–โครงสร้างหลกั ตามแนวขวางลาํ เรือ ชนิดเหลก็ รปู ตัว Tขนาด 229x305x51มม.
LONGLS – โครงสร้างตามแนวยาวลําเรือ ชนิดเหลก็ ฉากปกี ตุ่ม ขนาด 100x6มม.
GIRDERS 229x305x51 UT - โครงสร้างหลกั ตามแนวยาวลําเรอื ชนิดเหล็กรปู ตวั T ขนาด 229x305x51มม.
8.0mm. PLATE – แผน่ เหลก็ หนาขนาด 8.0มม.

๔. CENTERLINE PROFILE

๕. MIDSHIP SECTION

แบบ MIDSHIP SECTION เปน็ แบบท่ีแสดงรูปร่างหนา้ ตดั ของโครงสรา้ งตามยาว ณ กึ่งกลางลาํ วา่ มีขนาดและ
จาํ นวนของชนิ้ งานโครงสร้างเป็นจํานวนเทา่ ไร จากนนั้ โครงสรา้ งทแี่ สดงจะถกู นาํ ไปใชใ้ นการคํานวนหาค่าความ
แข็งแรงของตัวเรอื ตอ่ ไป

๖. TYPICAL SECTION

เป็นแบบทแ่ี สดงรูปร่างหนา้ ตดั ของโครงสรา้ งตามขวางของแต่ละตาํ แหนง่ นน้ั ๆจากนน้ั โครงสรา้ งทีแ่ สดงจะถกู
นําไปใชใ้ นการคํานวนหาค่าความแขง็ แรงของตัวเรอื ตอ่ ไป
๗. WATERTIGHT BLUKHEADS

การแบง่ ส่วนตา่ ง ๆ ภายในเรือเพือ่ กาํ หนดขอบเขตของแตล่ ะส่วนถกู กําหนดโดยฝากั้นและดาดฟา้
เพอื่ ใหส้ ่วนที่แบ่งนนั้ มสี ภาพเป็นหอ้ งผนกึ นา้ํ หรือหอ้ งกันน้าํ (WATERTIGHT) และฝาก้ันท่กี นั นํ้าเข้าเรยี กว่า
WATERTIGHT BLUKHEADS ( ฝากน้ั ผนกึ น้าํ ) สว่ นตา่ ง ๆ ทถ่ี กู แบง่ จะต้องไม่มขี นาดใหญม่ ากเกนิ ไปเพราะเม่อื

น้าํ เขา้ ห้องเพยี งห้องเดียวเรอื ก็ยังสามารถลอยลําอย่ไู ด้ แต่กย็ ังมีอกี หลายหอ้ งที่มีขนาดใหญส่ อดแทรกเขา้ มาเช่น
หอ้ งเคร่อื งจักรใหญ่ ฝากนั้ ผนึกนํ้าน้นั มคี วามสาํ คญั ๔ ประการ
๑. ทาํ หนา้ ทีผ่ นกึ นาํ้
๒. นไฟมิให้ไฟลามไปยงั ห้องตา่ งๆ
๓. เม่อื หมดหนทางจรงิ ๆในตอนไฟไหม้ อาจเจาะตวั เรือและฝากน้ั เพ่ือให้เรอื ทะลเุ ป็นการดับไฟ เป็นวธิ สี ุดทา้ ย
๔. ทําหนา้ ทไี่ มใ่ ห้เรือโย้ไปทางกราบขวา กราบซ้าย ในเวลาเรือโดนคล่นื ลมจดั

แบบรายละเอียด (Functional Plan)
๑. SHELL EXPANSION

แบบแผ่นเหลก็ เปลอื กเรือ เป็นภาพวาดสองมิติ แสดงการจดั เรียงของแผน่ เหลก็ เปลือกเรือ ตะเข็บ รอยเช่อื มเนื้อ

ฯลฯ แสดงใหเ้ ห็นถงึ STRAKES แผน่ ต่างๆ และจาํ นวน

ตวั เรือ (HULL) เปน็ ส่วนหลกั ของเรอื ซ่ึงประกอบด้วยผิวเปลอื กนอก คือ แผ่นเหล็กเปลอื กเรอื (SHELL) และ

ภายในเรือมีโครงสรา้ งต่าง ๆ เพื่อเพ่มิ ความแขง็ แรงใหก้ ับแผ่นเหลก็ เปลอื กเรอื และเสรมิ ความแข็งแรงให้กบั เรอื ทงั้

ลํา ผิวนอกตัวเรอื หรอื แผ่นเหล็กเปลอื กเรอื ทําหน้าทป่ี อ้ งกันนา้ํ เขา้ เรือ และเปน็ โครงสร้างหลกั ทม่ี ีความแข็งแรง

มากท่ีสดุ ของเรอื แผ่นเหลก็ เปลอื กเรือจะมีความหนาแตกตา่ งกัน แผน่ เหลก็ ท่ีมีความหนามาก ๆ จะใส่ไวใ้ น

สว่ นกลางลําและสว่ นอ่นื จากกลางลาํ ไปทางทา้ ยเรอื และหวั เรอื จะให้ใชแ้ ผ่นเหลก็ ทีม่ คี วามหนาน้อยกวา่

เชน่ เดียวกันแผ่นท้องติดกับกระดกู งู (GARBOARD) แผน่ โค้งทอ้ งเรอื (BILGE) และแนวแผ่นทปี่ ากเรอื (SHEER)

จะมีความหนามากกวา่ แนวแผน่ เหล็กแนวอืน่ ๆ แผน่ เหล็กที่วางเปน็ แนวตั้งแต่หัวเรอื ถงึ ทา้ ยเรอื เรียกวา่ แนวแผ่น

เหลก็ ( STRAKE ) มตี วั อกั ษรภาษาอังกฤษและตัวเลขกํากับไวใ้ นแตล่ ะแผน่ และจะมีทกุ แผ่นเชน่ แนวแผน่ กระดกู

งใู ช้อกั ษร K ถา้ มีหลายแผ่นก็ใหเ้ ขียนกาํ กบั แผน่ แรกว่า K1, K2, K3 เรื่อยไป จนถึงแผน่ สุดท้าย และจากแผ่น K

ขึน้ ไปทางขา้ งถึงปากเรือกจ็ ะมตี วั อักษรภาษาอังกฤษและตวั เลขกํากบั อยู่เช่น แนวแผน่ GARBOARD ทต่ี ดิ กบั แผ่น

K ใหใ้ ช้อกั ษร A และ แนวแผน่ ตอ่ ไปก็เปน็ B, C, เรอ่ื ยไป ยกเว้นอกั ษร I และ O อกั ษรทีม่ องดคู ล้ายตวั เลข 1 และ

0 จึงไมน่ ิยมใช้

ช่อื แนวแผน่ เหล็ก
- แนวแผน่ เหลก็ ทีต่ ิดกบั แนวแผ่นกระดกู งูคือ GARBOARD STRAKE
- แนวแผน่ เหลก็ สว่ นโค้งท้องเรอื คอื BILGE STRAKE
- แนวแผน่ เหล็กระหว่าง GARBOARD STRAKE และ BILGE STRAKE คอื BOTTOM STRAKE
- แนวแผ่นบนสดุ ของแนวแผ่นข้างเรอื คอื SHEER STRAKE

- แนวแผน่ ระหว่าง BILGE STRAKE และ SHEER STRAKE คือ SIDE STRAKE

 

   

ขอ้ มูลทีแ่ สดงในแบบแผน่ เหล็กเปลือกเรอื
- เสน้ บอกระยะกงเรือ และตาํ แหน่งฝากนั้ ผนกึ นํา้ ( WTB )
- บอกตําแหนง่ ของถัง ( TANK ) ต่างๆ
- บอกความหนาแผน่ เหลก็ เปลือกเรอื
- บอกลกั ษณะโครงสร้าง ระยะตาํ แหน่งโครงสรา้ งตามยาว และตามขวาง
- บอกรอยต่อแผ่นเหล็กเปลอื กเรอื

๒. STRUCTURAL DETAILS

ข้นั ตอนการต่อเรอื และการอ่านแบบเพอื่ สร้างบลอ๊ กตัวเรอื

๑. การออกแบบและการคาํ นวณ การทดลองเรือจําลองในถงั น้ําทดสอบจากโมเดลของเรอื ที่ได้จาก สถาบนั
ออกแบบท่เี ชือ่ ถอื ได้ การออกแบบโครงสรา้ งของเรือ การออกแบบส่วนประกอบของเรอื เพลาใบจักรเครือ่ งจักร
และกลจกั รเรอื ต่าง ๆการออกแบบระบบไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกสต์ ลอดจนระบบส่อื สาร ดาวเทยี ม และอน่ื ๆ
เพอื่ ใหไ้ ด้เรอื ที่มีขนาดรปู รา่ ง ความเรว็ ความปลอดภัยในการเดนิ เรือ การทรงตวั ของเรือ ความแขง็ แรงและความ
คงทนของเรอื เมอ่ื ปฏิบตั ิงานในท้องทะเลตามความต้องการ ขนั้ ตอนการออกแบบเรือ ในกรณที เี่ ป็นเรอื ขนาดใหญ่
ข้ันตอนนีจ้ ะเปน็ ขั้นตอนทีผ่ ปู้ ระกอบการอ่เู รือในประเทศไทยสว่ นใหญไ่ ม่ไดด้ ําเนินการเอง แต่จะใชว้ ธิ กี ารซ้ือแบบ
ท่มี อี ยแู่ ล้วจากต่างประเทศ หรือจ้างผ้เู ชย่ี วชาญด้านงานเขียนแบบเรือจากตา่ งประเทศ
๒. การเตรยี มวสั ดุ กอ่ นเขา้ สู่สายการผลติ แผน่ เหลก็ จะถกู ส่งไปทาการดดั ตรงโดยผ่านเข้าลกู กลง้ิ จากนัน้ จะถูก
สง่ ตอ่ ไปทาํ การพน่ ลกู เหล็กหรือพ่นทราย เพอื่ กาจัดสนิมหรอื ส่ิงสกปรกท่ีตดิ มากบั เหล็กทเี่ ป็นวัตถุดิบ และพ่นสี
รองพืน้ (Priming) ปอ้ งกนั การกัดกร่อนของเหล็กระหวา่ งการต่อเรอื สีรองพนื้ จะตอ้ งได้ความหนาตามทีก่ าํ หนด
เพื่อปอ้ งกนั ปญั หาการเชอื่ มยากหากสีหนาเกินไป
๓. การแปรรูปแผน่ เหล็ก แผน่ เหล็กจะถูกแปรรปู ดว้ ยเครอื่ งตัด เครือ่ งพบั เครื่องตดั -บาก-เจาะเอนกประสงค์
เครือ่ งม้วน และตดั เป็นชนิ้ งานที่ต้องการด้วยเครอ่ื งตดั (CNC) คําว่า CNC นจ้ี ะบ่งบอกถงึ เครอ่ื งจักรทท่ี นั สมยั
โดยแปรรปู งานโลหะแผน่ ท่ไี ดจ้ ากตามแบบ CAD ทกี่ ําหนดไวใ้ นโปรแกรม จนได้รูปร่างชน้ิ งานตามต้องการ งาน
ทีเ่ หมาะกบั การใช้ (CNC) นั้น สว่ นมากจะเปน็ งานท่ีตอ้ งการความเท่ยี งตรง งานทไ่ี ม่สามารถขึน้ รปู หรอื ตดั เฉอื น
ด้วยวธิ ีปกตไิ ด้ เชน่ กลึงไม่ได้ กดั ด้วยมิลลง่ิ MILLING ไม่ได้ เจยี รนัยไม่ได้ หรอื ทําได้แต่ทาํ ไดย้ ากเพราะมีรูปร่าง
ซับซอ้ น

 
PLATE NESTING แบบตดั แผ่นเหล็ก

แบบ PLATE NESTING ( แบบตดั แผน่ เหล็ก ) เปน็ ภาพท่แี สดงชิ้นงานทไี่ ด้มาจากโปรแกรม TRIBON M3 และ
เม่ือไดแ้ บบตัดแผน่ เหล็กแล้วจึงนาํ ไปสขู่ บวนการผลติ โดยใช้เคร่อื งตัดแผน่ เหลก็ อัตโนมัตคิ วบคมุ ด้วยคอมพิวเตอร์
(CNC Cutting Machine) เปน็ ลาํ ดบั ขน้ั ตอนตอ่ ไป
 

ข้อมูลทีจ่ ะต้องเขยี นลงไปในแบบ PLATE NESTING ( แบบตัดแผน่ เหล็ก )
1. ช้นิ สว่ นทุกชิ้นใบแบบจะต้องเขียนหมายเลขกํากบั (POSITION NUMBER) ไว้
2. รปู แสดงจะตอ้ งมีเส้นบอกตําแหน่ง และสญั ลกั ษณ์ (GSD MARK) และทศิ ทางการวางของชนิ้ สว่ นโครงสรา้ งยอ่ ย
3. ตารางรายการแผ่นเหล็ก เช่น เกรดของวัสดุแผ่นเหล็ก มิติกว้าง x ยาว x หนา และน้ําหนัก เป็นต้น
 
การอ่านแบบ PLATE NESTING (แบบตัดแผ่นเหล็ก)
ในแบบตดั แผน่ เหลก็ นนั้ จะมีตัวเลข ตัวอักษร และSTANDARD CODE กาํ กับไว้
 

ความหมายตัวอักษร และสัญลักษณใ์ นแบบตัดแผ่นเหล็ก

- PS – กราบซ้าย
- SB – กราบขวา
- FWD – ทศิ ทางหวั เรือ
- AFT – ทศิ ทางท้ายเรือ
- GSD MARK (เคร่ืองหมายสามเหล่ียม)

เสน้ และหมายเลขกาํ กบั ตําแหนง่ การวางโครงสร้างยอ่ ย

เม่ือได้ช้นิ งานจากฝ่ายผลิต (PROFILE SKETCH) ซ่ึงมหี มายเลขทีต่ รงกบั เสน้ มารค์ แล้ว ก็ใหน้ ํามาประกอบลงบน
แผ่นเหล็กให้ตรงตําแหน่งเสน้ หมายเลข มุมเอยี งของชิ้นงาน และตําแหน่งของ GSD MARK ให้ตรงกนั

 

๔. การขึ้นโครงเรือและการปดิ แผน่ เปลอื กตัวเรอื ข้ันตอนของการข้ึนโครงเรือ วธิ ีการจะเร่ิมต้นจากการตัดวัสดุให้
ไดต้ ามแบบทก่ี ําหนด ชิน้ งานยอ่ ยหลายๆชน้ิ ท่ผี ลติ ขน้ึ จะนาํ มาประกอบเข้าดว้ ยกันเป็นสว่ นประกอบขนาดใหญ่
ข้นึ ทเี่ รียกว่า ซับแอสเซมบล้ี (SUB-ASSEMBLY) ซ่งึ เปน็ ชิ้นงาน ๒ มติ ิประกอบรวมกนั จน เปน็ ชนิ้ งาน ๓ มิติ
ขนาดใหญ่ขึน้ จะเรียกว่า แอสเซมบลี้ (ASSEMBLY) แอสเซมบลีท้ ี่นาํ มาประกอบรวมกันจะไดเ้ ป็นโครงสร้างขนาด
ใหญเ่ ป็นท่อนหน่ึงของเรอื เรยี กว่า ยนู ติ (Unit) หรือ บล็อก (Block) การทยี่ ูนิตแต่ละส่วนจะมีนํ้าหนักเทา่ ใดนั้น
ข้นึ อยกู่ ับขดี ความสามารถในการขนย้ายวสั ดุในอู่เปน็ หลกั เม่อื ประกอบซับแอสเซมบล้ี (SUB-ASSEMBLY) และยู
นิต เสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว จะถกู เคล่อื นย้ายไปที่ลานประกอบเรอื (BUILDING BERTH) เพื่อทาํ การประกอบเข้าเป็น
ลาํ เรือ (UNIT/BLOCK ERECTION) ในบางกรณอี าจมีการใสง่ านทอ่ และเคร่ืองจกั รอุปกรณบ์ างสว่ น (OUTFIT
MODUAL) ไว้ในยนู ิตก่อนท่ีจะประกอบตวั เรอื การใสร่ ะบบเอาฟติ ตงิ้ ในยนู ติ ก่อนประกอบเป็นตัวเรอื น้ีจะช่วยลด
เวลาการต่อเรือลง จากนนั้ จะเป็นการปดิ แผน่ เปลอื กตัวเรือ



โดยในแนวทางการสรา้ งเรอื ตามทีร่ ะบุไว้ในกลยทุ ธ์การสร้างเรือ (Build Strategy) กําหนดใหแ้ บง่ ตัวเรือออกเปน็
ทั้งหมด 17 บล็อกใหญ่ และ 31 บล็อกยอ่ ย เพื่อใหส้ อดคลอ้ งกับ สงิ่ อาํ นวยความสะดวกและพน้ื ที่ ๆ ใช้ในการ
สร้างเรอื ของอรู่ าชนาวีมหดิ ลอดลุ ยเดช กรมอู่ทหารเรอื ทัง้ นี้เนอื่ งจากบลอ็ กตัวเรือในแต่ละบล็อกมขี นาดใหญ่
และมนี าํ้ หนักค่อนขา้ งมาก หากไม่แบง่ ย่อยออกเปน็ บลอ็ กเลก็ ๆ (Sub Block) จะทาํ ให้ การเคลอ่ื นย้ายและยก
บล็อกตา่ ง ๆ เป็นไปด้วยความลาํ บากและเพอ่ื ใหส้ ะดวกรวดเรว็ ในการ สร้างเรอื ซึ่งตามแผนหลักการสรา้ งเรือ
กําหนดให้ใช้พน้ื ที่บริเวณหัวอูแ่ ห้งและพ้นื ทลี่ านสร้างเรือ เป็นพ้ืนท่ี ๆ ใช้ในการสรา้ งและประกอบโครงสรา้ ง
รวมทง้ั สว่ นประกอบของตวั เรือในแต่ละบลอ็ ก (Block Assembly) เม่อื การสรา้ งประกอบบล็อกตัวเรอื แตล่ ะ
บล็อกแล้วเสร็จ จะทยอยบลอ็ กตวั เรอื ตา่ ง ๆ ลงมาเชื่อมประกอบเขา้ ด้วยกนั (Block Erection) ตามลาํ ดบั ในอู่
แหง้ ตอ่ ไปขอ้ ดขี องการตอ่ เรอื แบบบลอ็ กนมี้ ีหลายประการ เชน่ การที่จะสร้างบลอ็ กแตล่ ะส่วน สามารถ
แยกกันไปต่อท่ีไหนกไ็ ด้ แตล่ ะโรงงานก็รบั ผดิ ชอบงานของตนเองเป็นบลอ็ ก ๆ ไป ทาํ ให้งานในภาพรวมเสร็จ
ไวขึน้ เพราะสามารถทาํ งานในลกั ษณะคขู่ นานกันไปได้ นอกจากนี้ การทไี่ ม่ต้องวางกระดกู งู ก็ทําให้โปรเจค็
ต่อเรอื นน้ั ไม่ตอ้ งเข้าอูแ่ หง้ เป็นระยะเวลานาน ๆ เน่อื งจากวา่ แต่ละบลอ็ กจะมารวมกันในขั้นตอนเกอื บสุดทา้ ย
ทาํ ใหเ้ รือทัง้ ลํา มีเวลาอย่ใู นอู่แห้งไม่นาน ดังนั้น อแู่ ห้งก็จะวา่ ง และสามารถรองรบั เรอื ทเี่ ข้ามาซ่อมทํา หรอื จะต่อ
เรอื อนื่ ๆ เพิม่ มากขน้ึ กส็ ามารถทาํ ได้

CONTRUCTION PROFILE (แบบโครงสรา้ ง) เปน็ แบบท่ใี ชส้ ําหรบั สร้างจริง บางครงั้ กห็ มายถึงแบบขออนญุ าต
และเป็นแบบทบ่ี อกรายละเอยี ดขนาดตา่ งๆของโครงสรา้ งช้นิ งาน เช่นความหนาของแผน่ เหลก็ แนวต่อชน
ช้นิ งานเหลก็ รูปพรรณ รวมทั้งแนวต่อแผ่นเหล็กท่ใี ชใ้ นการประกอบโครงสร้าง

ขอ้ มูลที่แสดงในแบบโครงสรา้ ง
- เส้นบอกระยะกงเรือ และตาํ แหน่งฝากั้นผนกึ นํา้ ( WTB )
- บอกตําแหนง่ ของถงั ( TANK ) ต่างๆ
- บอกความหนาแผน่ เหล็กเปลอื กเรอื
- บอกลกั ษณะโครงสร้าง ระยะตาํ แหน่งโครงสร้างตามยาว และตามขวาง
- บอกรอยต่อแผน่ เหล็กเปลือกเรอื
- ตารางรายการ STANDARD

การอ่านแบบ GENERAL ASSEMBLY INSTRUCTION DOCUMENT (แบบการประกอบโครงสร้างรวม)
 

แบบ GENERAL ASSEMBLY INSTRUCTION DOCUMENT เป็นภาพเขียนแบบการประกอบบล๊อกรวมและ
บลอ๊ กย่อย โดยวาดให้อยูใ่ นตาํ แหน่งที่พรอ้ มใชง้ าน หรอื ก็คือถูกวาดให้อยตู่ าํ แหน่งท่ีประกอบเป็นโครงสร้าง
บล๊อกเสรจ็ ส้นิ แล้ว ซ่ึงสามารถแสดงรูปแบบเช่นเดียวกับของจริง ซ่ึงแสดงภาพประกอบในรูปแบบพิคทอ
เรียล หรือภาพไอโซเมตริก นอกเหนอื จากการเขียนแบบการประกอบแลว้ ผูอ้ ่านแบบควรจะมคี วามสามารถใน
การตคี วามจากแบบการประกอบที่อา่ นไดด้ ้วย โดยสงิ่ ทีค่ วรจะได้เมอื่ อ่านแบบการประกอบกค็ อื ตอ้ งรูใ้ ห้ได้วา่
ลําดับขั้นตอนในการประกอบบล๊อก นค้ี วรเปน็ อย่างไร
 
ขอ้ มลู ทีจ่ ะต้องเขียนลงไปในงานเขียนแบบ GENERAL ASSEMBLY INSTRUCTION DOCUMENT

- ชิ้นส่วนทุกช้ินจะต้องถกู วาดลงไปในตาํ แหนง่ ที่พร้อมใช้งาน ( ASSEMBLY BLOCK )
- รปู แสดง SUB-ASSEMBLY โดยปกติจะประกอบไปดว้ ย SUB-ASSEMBLY ของแต่ล่ะบลอ็ ก ซงึ่ แตบ่ ล๊อก

อาจแบง่ จํานวน SUB-ASSEMBLY จาํ นวนไมเ่ ทา่ กนั
- ตารางรายการแบบ ( TITLE BLOCK )

a. ช่องแสดงช่ือบ่งชที้ ใ่ี ช้ในแบบ ASSEMBLY (CONTRACTORS DRG.NO.)
b. ช่องแสดงช่ือแบบหลัก (TITLE)
c. ชอ่ งแสดงนํ้าหนกั รวม (ESTIMATED MASS)
d. ชอ่ งแสดงจาํ นวนแผ่นของแบบ (NO OF SHEET)

ข้อมูลเกย่ี วกับ (SUB-ASSEMBLY)

รปู แสดง SUB-ASSEMBLY
 
รูปแสดง SUB-ASSEMBLY

รปู แสดง PRODUCTION PLANNING (แบบประกอบการผลิต)

แบบ PRODUCTION PLANNING ( แบบประกอบการผลติ ) เป็นภาพทีแ่ สดงชิน้ งานทไ่ี ดม้ าจาก PROFILE
SKETCH ( แบบขยายช้นิ สว่ นโครงสร้างย่อย ) และ PLATE NESTING ( แบบตดั แผน่ เหล็ก ) นํามาประกอบวาง
ในตําแหน่งจนเสรจ็ เรยี บร้อย ซงึ่ สามารถแสดงรูปแบบเช่นเดียวกับของจริง โดยสิ่งที่ควรจะได้เมอ่ื อ่านแบบ
การประกอบการผลติ ก็คือ ต้องรใู้ หไ้ ดว้ ่าลําดบั ข้ันตอนในการประกอบชิ้นสว่ นโครงสรา้ งยอ่ ยนี้ ควรเปน็ อย่างไร
ดงั ตัวอยา่ งท่แี สดงในภาพ

 

ข้อมูลท่จี ะต้องเขียนลงไปในแบบ PRODUCTION PLANNING ( แบบประกอบการผลติ )
- ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะต้องถกู ประกอบลงไปในตาํ แหนง่ ทีห่ มายไว้
- รูปแสดงจะต้องมกี ารช้ีบอกตําแหน่งของช้ินส่วนโครงสรา้ งย่อย
- ตารางรายการ (MATERIAL/PARTS LIST)

การอ่านความหมายในตารางรายการ (MATERIAL/PARTS LIST)
ชอ่ ง DESCRIPTION จะแสดงรายการชิน้ สว่ นต่างๆ เช่น แผ่นเหลก็ (PLATE) เหล็กฉากปกี ตุ่ม (STIFFENER)
เป็นต้น
 
 

บรรทัดแรก (SHIP) จะเปน็ การบอกชือ่ เรอื
บรรทดั ทส่ี อง (UNIT BLOCK) คอื บล๊อกของเรอื ซึง่ ในสร้างเรอื ตรวจการณ์ไกลฝั่งลาํ ท่ี 2 นี้ จะแบง่ บล็อกใหญ่เปน็
จาํ นวน 17 บล็อก

บรรทัดที่ 3 (SUB-ASSAMBLY) คอื การท่ีเราไดม้ าจากการแบ่งบลอ๊ กใหญ่ๆแต่ละบล๊อกออกมาให้เป็นบลอ๊ กย่อย
ซงึ่ ในสรา้ งเรือตรวจการณ์ไกลฝ่งั ลาํ ที่ 2 นี้ จะแบง่ บล็อกยอ่ ยออกเป็นจํานวน 31 บล็อกยอ่ ย
บรรทัดที่ 4 (SUB-ORDINATE) คือ ไดม้ าจากการที่เราไดแ้ บง่ บล็อกย่อย 31 บล็อกยอ่ ยแลว้ นัน้ ต่อมาในบล๊อก
ยอ่ ยน้กี จ็ ะมีชนิ้ ส่วนทเี่ ราเรียกว่า แผ่นพืน้ (DECK) ผนังและฝากั้น (PANEL) ตา่ งๆรวมทง้ั แผ่นเหล็กเปลือกเรือ
(SHELL) และเมอ่ื เราประกอบช้ินงาน (SUB-ORDINATE) เสรจ็ เรียบร้อยแล้ว กจ็ ะนําไปประกอบเปน็ บล็อกใหญ่
(SUB-ASSEMBLY) อีกครัง้ นงึ
บรรทัดท่ี 5 (POSITION NO) คือหมายเลขชน้ิ งานทเ่ี ราไดม้ าจาก PROFILE SKETCH ( แบบขยายชิ้นสว่ น
โครงสรา้ งยอ่ ย)

๕. การติดตง้ั เครอ่ื งยนต์ การเลือกประเภทและกําลงั ของเครือ่ งยนต์ท่ใี ชใ้ นเรอื แตล่ ะลํา จะมีความแตกตา่ งกัน
ขึน้ อยูก่ ับลกั ษณะการใช้งาน  

๖. การตดิ ตง้ั ระบบขบั เคลอ่ื น ระบบขบั เคลอื่ นท่วั ไปของเรือในปจั จบุ ันมหี ลายประเภท ตามขนาดและภารกจิ ของ
เรอื เชน่ ระบบขับเคลื่อนดีเซล ระบบขบั เคลื่อนกงั หนั กา๊ ซ ระบบขบั เคลือ่ นแบบผสม เปน็ ต้น ในส่วนของเพลา
ใบจกั รเรือส่วนมากในปจั จุบนั ใชร้ ะบบใบจักรแบบปรับมมุ ได้ เพือ่ เพ่มิ การควบคมุ ความเร็วแบบละเอียดและความ
คล่องตวั ระบบขบั เคล่อื นดีเซลเปน็ ระบบทมี่ ใี ช้อยา่ งกว้างขวางในเรอื ขนาดกลางถงึ เรือขนาดเลก็ เนือ่ งจากเปน็
ระบบขบั เคลอ่ื นท่มี ีราคาถกู และไม่มีความซับซอ้ นมากเมื่อเทยี บกบั ระบบขับเคลื่อนแบบอ่นื นอกจากนรี้ ะบบ
ขบั เคลื่อนดเี ซลยงั มีความส้นิ เปลืองตา่ํ และรอบเครือ่ งทต่ี าํ่ ทําใหเ้ หมาะกับการติดต้ังบนเรอื ขนาดกลางถงึ ขนาด
เล็กท่มี ีความเร็วไมเ่ กนิ ๓๐ นอต ในสว่ นของระบบขบั เคลื่อนสาํ หรับเรอื ขนาดใหญ่มักเป็นระบบขับเคลอื่ นแบบ
ผสม หรอื เปน็ ระบบขับเคลอ่ื นกังหนั ก๊าซ

๗. การตดิ ตงั้ ระบบไฟ ระบบไฟทใี่ ช้ในเรอื สามารถจาํ แนกโดยภาพรวมได้เปน็ รูปแบบ คอื กรณที ีเ่ ป็นเรือขนาด
เลก็ จะใชไช้ฟจากแบตเตอร์ร่ี แตถ่ า้ เปน็ เรือขนาดใหญจ่ ะใชไ้ ฟจากเครอ่ื งปั่นไฟ

๘. การติดตง้ั ระบบนาํ รอ่ ง การติดต้ังระบบนํารอ่ งจะดําเนินการในเรือขนาดใหญ่ ผ้บู ังคับเรือต้องคอยตรวจสอบ
ระบบ จีพีเอส (Global Positioning System ) ทีส่ ามารถคํานวณหาตําแหนง่ ละตจิ ดู และลองตจิ ดู ไดอ้ ยา่ ง
แม่นยาํ ระบบนีจ้ ะทํางานควบคกู่ ับระบบนาํ ร่อง โดยแยกออกเป็น ๒ ประเภท คอื ทางกล และไฟฟา้ ระบบนาํ
ร่องจะถูกปรับแต่งทกุ ๆ ๑๕๐ ช่ัวโมง ด้วยเรดาหแ์ ละดาวเทยี ม การบอกตาํ แหนง่ และระยะทางของเปา้ หมายจะ
ใชร้ ะบบโซนาร์ปลอ่ ยสัญญาณเสียงให้เคลื่อนทีไ่ ปในนํา้ วิ่งเข้าหาเปา้ และสะทอ้ นกลบั จากเป้ามาทเี่ รอื เมื่อเรา
ทราบความเรว็ เสยี งน้ํา และเวลาท่เี สยี งใช้ในการเดินทาง เราสามารคํานวณหาตําแหน่งของเปา้ ไดด้ ว้ ยเครอื่ ง
คอมพิวเตอร์

๙. การทําเกง๋ เรอื (Deck House) เกง๋ เรือมลี กั ษณะเหมือนห้อง มหี นา้ ต่าง หรือชอ่ งระบายอากาศ ใช้เป็นห้องพกั
หอ้ งเก็บของใช้ เก็บสัมภาระ หรือห้องเกบ็ เสบียง วสั ดทุ ีใ่ ช้ทาํ เกง๋ เรอื มีหลายชนดิ ขึน้ อยู่กบั วัสดุท่ใี ชท้ ําเรือ

๑๐. การทาสีและการตกแตง่ รอบตวั เรอื เปน็ ขั้นตอนสดุ ทา้ ยกอ่ นท่จี ะเสร็จส้ินงานสร้าง

๑๑. การลงน้ํา ในขัน้ ตอนของการนําเรอื ท่ตี อ่ เสรจ็ แล้วลงนํ้าสามารถจําแนกไดเ้ ป็น ๒ รูปแบบ ในกรณีท่เี ปน็ เรอื
ขนาดเลก็ จะใชว้ ิธกี ารเคลือ่ นย้ายเรอื ด้วยสาล่ีไปตามระบบราง แต่ถ้าเปน็ เรือใหญ่จะใช้ Travel lift เป็นอปุ กรณ์
ชว่ ยในการเคลื่อนยา้ ยเรือลงน้ํา

7. ระบบตดิ ตามประเมนิ ผล

การดาํ เนินกจิ กรรมตามแผน
๑. การเรียนรู้ (Learning Management)

กลุม่ กจิ กรรม ลกั ษณะ การวัดผล หมายเหตุ

๑. เรียนรู้จากการปฏิบัติงาน - การปรบั เปลย่ี นหนา้ ท่ี - จํานวน..... ครง้ั ที่ รวบรวมข้อมูล
(Leaning by Doing) - การมอบหมายงาน ไดร้ บั การปรบั จากแต่ละฝา่ ย
เปลีย่ นงาน
๒. เรียนรจู้ ากการปฏบิ ตั ิ - การเขา้ รบั การอบรม ตลอดปี
ฝกึ อบรม (Leaning by - จํานวน......คนท่ี
Training) ได้รับการอบรม รวบรวมขอ้ มลู
จากแต่ละฝ่าย

ตลอดปี

๓. เรียนรู้จากการอา่ น - ส่งเสริมการอ่าน แหลง่ ความรู้ รวบรวม
(Leaning by Reading) - มีห้องสมุด ข้อมูลจาก
- มีWEBSITE - แบบสอบ
และ WEB ของ ถามการใช้
หน่วยงาน หอ้ งสมุด
,เปิดWEB
SITE
ตลอดปี

๒. การแลกเปล่ยี นเรียนรู้ (Knowledge Sharing)

กจิ กรรม/โครงการ ลักษณะการดาํ เนินการ ระยะเวลา AAR
(คณะทํางาน)
๑. กิจกรรมสรา้ งจิตสํานกึ ระลกึ ประชาสัมพันธ์ KM กอง
ถึง KM - ทดสอบความร้โู ดยรวม

ด้านต่างๆ
- ให้ความรู้เพมิ่ เติมจากการ

ตอบคาํ ถาม
- ป้ายเอกสารแนะนาํ KM

๒. กิจกรรมสนทนางาน ๑. การแบง่ ปนั ความรูซ้ ึ่งกันและกนั (ทกุ กลุ่มงาน/ฝา่ ย)
(Lunchtime talks) - ถ่ายทอดความรแู้ ต่ละคน/ทมี
- การแนะนํา/สอนงาน/วิเคราะหง์ าน/

แก้ไขข้อผิดพลาด/เสนอความเหน็
๒. การรวบรวมความรู้ (บันทกึ )

- จดั ทําแบบบันทกึ ข้อมลู ทเี่ กิดข้ึนจาก
การปฏบิ ตั งิ าน

- เก็บความรทู้ ่ไี ดร้ บั จากการ ถา่ ยทอด

๓. นาํ ข้อมูลความรไู้ ปใช้ปฏบิ ัติงาน

กิจกรรม/โครงการ ลักษณะ ระยะเวลา AAR
(ฝา่ ยสรรหาฯ)
๓. โครงการคน้ หาคนเด่น - การส่งเสรมิ เจา้ หนา้ ทใี่ ห้เป็นผมู้ พี ฤตกิ รรม
(สรรหา) เหมาะสม/มสี มรรถนะสูง/มคี วามคดิ
สรา้ งสรรค/์ ช่วยเหลอื เอ้อื เฟอ้ื /แบง่ ปันและ
(Action Learning) ถา่ ยทอดความรใู้ หแ้ กผ่ รู้ ว่ มงาน
- การบันทึกขอ้ มูลความรทู้ ่ีเกดิ ขึน้ ในขณะ
ปฏบิ ัติงาน

๔. กิจกรรมนําทางสร้าง - ขั้นตอนและกาํ หนดระยะเวลาการปฏิบตั ิงาน (ทกุ กล่มุ งาน/ฝา่ ย)
คุณภาพ - จัดทํา Flow chart
- จัดทําแบบตรวจสอบงานเพือ่ เปน็ กรอบ
(Job Shadowing) สาํ หรับการปฏบิ ัติ

๕. กิจกรรมปุจฉา-วิสัชนา - ถาม-ตอบ ประเด็นทเี่ ปน็ ปญั หา
- เสนอแนวทาง/ขอ้ เสนอแนะเก่ยี วกับการ
ดําเนนิ งาน (สรรหาฯ)
- พจิ ารณาสงั่ การในการแกป้ ญั หาและพิจารณา
แนวทางการดาํ เนินการจากผ้บู ังคับบญั ชาเพื่อ

ใชเ้ ป็นความรู้ทีถ่ ูกต้อง
- จัดทําแบบการสอบถาม


Click to View FlipBook Version