The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการใช้การใช้รถลากจูง (หัวลาก) /รถกึ่งพ่วง (ชานต่ำ)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-06-05 00:38:14

คู่มือการใช้การใช้รถลากจูง (หัวลาก) /รถกึ่งพ่วง (ชานต่ำ)

คู่มือการใช้การใช้รถลากจูง (หัวลาก) /รถกึ่งพ่วง (ชานต่ำ)

Keywords: คู่มือการใช้การใช้รถลากจูง (หัวลาก) /รถกึ่งพ่วง (ชานต่ำ)

คู่มอื การใช้การใชร้ ถลากจงู (หัวลาก) /รถกงึ่ พ่วง (ชานต่ำ)

คำสำคญั
การขับรถ, การตรวจเช็ครถ, การใชง้ าน, การปรนนบิ ตั ิบำรงุ รักษา

1. เกร่นิ นำ
กระบวนการ/วิธีการดำเนินการในอดีต

การใช้รถลากจูงกับรถกึ่งพ่วง ซ่ึงการใช้งานต้องใช้ร่วมกัน ดังนั้นผู้ท่ีเป็นพลขับรถลากจูงจึงต้องเป็นผู้ที่
มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะ มีการฝึกฝน และมีประสบการณ์ในการใช้ ซ่ึงในแต่ละหน่วยงานมักจะมีผู้ท่ี
ใช้เป็นอยู่จำนวนน้อยกว่าพลขับทั่วไป จึงมักจะเกิดปัญหา มีผลกระทบในการปฏิบัติงานเม่ือมีบุคลากร
เกษียณอายรุ าชการ ลาออก หรอื การปรบั ย้ายออกจากหนว่ ยงาน

สภาพท่ัวไป
(1) วสิ ัยทัศนอ์ ู่ราชนาวมี หิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ
“จะเป็นอู่ซ่อม สร้างเรือ ของกองทัพเรือ ท่ีมีมาตรฐานโดยมีการบริการจัดการ เป็นที่ยอมรับใน

ระดบั สากล และมสี ว่ นรว่ มในอุตสาหกรรมพาณชิ ย์นาวขี องชาติ”
(2) หนา้ ท่ี แผนกขนส่ง กองสนบั สนนุ อรู่ าชนาวมี หดิ ลอดุลยเดช กรมอูท่ หารเรอื
“ดำเนินการจัดยานพาหนะ บริการด้านลำเลียงขนสง่ ซอ่ มบำรุง และไปรษณยี ใ์ ห้กับหนว่ ย”
ในการปฏิบัติงาน แผนกขนส่ง กองสนับสนุน อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ มียานพาหนะ

ประเภทต่าง ๆ สนับสนุนภารกิจของหน่วย ซึ่งต้องดูแลปรนนิบัติบำรุงรักษาในระดับหน่วยผู้ใช้รถ โดยพลขับ
เจ้าหน้าที่ประจำรถ และช่างซ่อมของแผนกขนส่ง เพื่อให้ยานพาหนะเหล่านั้น มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน
ปัจจุบัน แผนกขนส่ง มีรถลากจูง และรถกึ่งพ่วง บรรจุในอัตราอยู่ประเภทและ 2 คัน ในอดีตเคยมีบุคลากรท่ีมี
ความสามารถเป็นพลขับใช้รถประเภทน้ีได้ 3 นาย แต่ปัจจุบันมีการโยกย้ายออกไปอยู่หน่วยอื่น 1 นาย เหลืออยู่
2 นาย จึงอาจจะมีผลกระทบกับงานทไ่ี ด้รับมอบหมายได้ หากมีภารกิจในช่วงทีพ่ ลขับทั้ง 2 นาย ลา ป่วย หรือติด
ราชการจำเป็นอน่ื ๆ

แนวทางปฏิบัติ ในการใช้งานรถลากจูง/รถกึ่งพว่ ง

1. ฝกึ ฝนให้มบี ุคลากรทีส่ ามารถใช้รถลากจงู /รถกง่ึ พ่วง เพ่มิ ขนึ้
2. เพิ่มความรคู้ วามเขา้ ใจที่ถกู ตอ้ งเกี่ยวกับการตรวจเชค็ รถ การใชง้ าน และการปรนนบิ ตั บิ ำรงุ รกั ษา

วตั ถุประสงค์
แผนกขนส่ง สามารถให้บุคลากรในหน่วยงานสามารถใช้รถลากจูง/รถก่ึงพ่วง ปฏิบัติงานได้อย่างมี

ประสทิ ธิภาพ

เปา้ หมาย
สนับสนุนรถลากจูง/รถกึ่งพ่วง ในการปฏิบัติภารกิจของ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ท้ังภารกิจหลักและ

ภารกิจอ่ืน ๆ ตามท่ีผู้บังคับบัญชามอบหมายใหส้ ำเรจ็ และเปน็ ไปด้วยความเรียบรอ้ ย

2. ลำดับขั้นตอนการดำเนนิ กิจกรรม
2.1 อบรม แนะนำรายละเอียดขอ้ มลู ต่าง ๆ เกีย่ วกบั รถลากจูง/รถก่ึงพว่ ง ในความรับผดิ ชอบ รวมถึงอุปกรณ์
ที่เก่ียวข้อง ระบบการทำงาน เพื่อใหพ้ ลขบั มีความร้อู ย่างครบถ้วน และถูกต้อง
2.2 แนะนำลำดบั ขนั้ ตอน การตรวจเช็ครถ เพ่อื ใหม้ ีความพรอ้ มใช้งาน
2.3 ฝกึ ฝนการใชง้ าน การตอ่ และปลดหางพว่ งระหวา่ งรถลากจงู กบั รถกงึ่ พ่วง
2.4 ปรนนิบตั บิ ำรงุ รกั ษา ระดับหนว่ ยผใู้ ชข้ องพลขบั เจา้ หน้าที่ และชา่ งซอ่ มบำรงุ ประจำหน่วย

ความหมายและลกั ษณะรถลากจูง/รถกงึ่ พว่ ง

ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี 4 (พ.ศ.2524) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522
ได้กำหนดลักษณะรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือส่ิงของ แยกเป็น 9 ลักษณะ ซ่ึงให้ความหมายและลักษณะของ
รถลากจงู และรถก่ึงพ่วง ดงั นี้

➢ รถก่ึงพ่วง หมายความว่า รถท่ีไม่มีแรงขับเคลื่อนในตัวเอง จำเป็นต้องใช้รถอื่นลากจูง และ
น้ำหนักรถรวมน้ำหนกั บรรทกุ บางส่วนเฉลยี่ ลงบนเพลาลอ้ ของคนั ลากจงู

➢ รถลากจูง (หัวลาก) หมายความว่า รถทีม่ ลี ักษณะเปน็ รถสำหรบั ลากจูงรถพว่ ง รถกึ่งพว่ ง และ
รถก่ึงพว่ งบรรทุกวัสดยุ าวโดยเฉพาะ

อปุ กรณท์ เี่ กี่ยวข้อง

พลขับควรมีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และลักษณะของอุปกรณ์ส่วนควบที่เก่ียวข้อง ตลอดจนระบบการ
ทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้งานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ และไม่กอ่ ให้เกิดความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อ
การเกิดอบุ ัตเิ หตุ
จานพ่วง (Fifth Wheel)

จานพ่วง เป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่บริเวณโครงแชสซีของตัวรถลากจูง มีหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างตัวรถลากจูง
และรถก่ึงพว่ ง และยังมหี น้าทีท่ ำการลากตัวรถกง่ึ พว่ งและเปน็ จดุ หมนุ ของตวั ก่งึ พว่ ง

สลักพ่วง (King Pin)
สลักพว่ ง เป็นอุปกรณ์ท่มี ีเฉพาะในรถกง่ึ พ่วง ทำจากเหล็กคุณภาพสูง ติดอยู่บรเิ วณตอนหน้าของตวั รถ

ก่ึงพว่ ง ใชส้ ำหรับเขา้ เล็กกับจานพว่ ง และเปน็ จดุ หมนุ ในขณะทำการเลี้ยว

ขอ้ ต่อลมเบรก (Brake Coupling)
ข้อต่อลมเบรก และสายลม เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญสำหรับรถพ่วงและรถก่ึงพ่วง เน่ืองจากเป็น

อุปกรณ์สำหรับใชใ้ นการนำลมจากรถลากจูงไปใช้ในการเบรกหางพ่วง ซง่ึ มี 2 ชนิด คอื
1. สายลม Supply มีการปล่อยลมไปหางพ่วงตลอดเวลาภายหลงั จากท่ีได้มีการต่อสายลมเข้ากับข้อต่อ

ลมเบรกแล้ว
2. สายลม Control มีการสง่ั ปลอ่ ยลมไปทห่ี างพว่ งต่อเม่อื มีการใช้เบรกเทา้ หรือเบรกหางพว่ งเทา่ นัน้

ขาค้ำยนั , เท้าชา้ ง (Landing Gears)
ขาค้ำยันมีสถานะเป็นขาตั้งท่ีติดอยู่กับรถกึ่งพ่วง ทำหน้าที่ในการรับน้ำหนักตัวรถกึ่งพ่วง เมื่อทำการถอด

รถหัวลากออกจาตัวรถกึ่งพ่วง ซึ่งคุณสมบัติเด่นของรถกึ่งพ่วงคือสามารถถอดหางออกเพ่ือนำหัวลากไปใช้กับคัน
อน่ื ได้ เพือ่ ไมใ่ ห้เสยี เวลารอคอยขณะทำการลงสินคา้ หรือขน้ึ สนิ ค้า

ขอ้ ตอ่ สายไฟ (Electric Coupling)
ข้อต่อสายไฟ เป็นอุปกรณ์ที่ติดต้ังต่อจากรถลากจูง (หัวลาก) ไปรถก่ึงพ่วง เน่ืองจากรถก่ึงพ่วงไม่มีการ

ผลิตพลังงานได้เอง จึงต้องอาศัยการทำงานจากการควบคุมจากรถลากจูง โดยทั่วไปที่ใช้ในปัจจุบันจะเป็นชนิด
7 สาย

การตรวจเชค็ รถ

กอ่ นจะนำรถลากจูง/รถก่ึงพ่วง ออกใช้งาน สภาพความพร้อมของรถต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สามารถ
ท่ีนำออกไปใช้งานได้ หากนำรถท่ีสภาพไม่พร้อมออกใช้งาน อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือทำให้อุปกรณ์ส่วนควบ
ตา่ ง ๆ ของรถ หรอื ยุทโธปกรณท์ ่บี รรทุกอยู่เกดิ การเสยี หาย ซง่ึ การตรวจเช็ครถแบบพืน้ ฐานท่วั ไป คือ

➢ การตรวจเชค็ รถก่อนการเดนิ ทาง

1. การตรวจเช็คระดับน้ำมันหล่อล่ืน โดยจอดรถให้อยู่ในระดับระนาบเดียวกับพ้ืน ควรตรวจสอบ
ก่อนการติดเคร่ืองยนต์ หากสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วควรท้ิงไว้อย่างน้อย 10 นาที หลังจากดับเครื่อง โดยการ
ตรวจเช็ค มดี งั นี้

- ระดบั น้ำมันหล่อล่นื ควรอย่รู ะหวา่ งระดับ MIN – MAX
- สขี องน้ำมนั หล่อล่ืน
- ความหนดื ของนำ้ มันหล่อลนื่
- รอยร่วั ซมึ ของเคร่ืองยนต์

2. การตรวจเช็คระดับน้ำมนั เบรก – คลตั ช์
- ระดบั นำ้ มนั เบรก – คลตั ช์ ควรอยู่ในระดับ MIN – MAX
- หากระดับน้ำมนั เบรก – คลตั ช์ ยบุ ผดิ ปกติ ควรตรวจหารอยรว่ั ซึม

3. การตรวจเช็คระดับนำ้ หลอ่ เยน็
- ตรวจสอบรอยรวั่ ซึมท่อทางเดินน้ำ รังผ้งึ หมอ้ นำ้ ฝาหม้อน้ำ

4. การตรวจเช็คแบตเตอรี่
- ระดับน้ำกลัน่ แบตเตอร่ี ควรอยูใ่ นระดบั LOWER – UPPER
- ตรวจสอบข้ัวแบตเตอร่ี ต้องแนน่ ไม่หลวม ล้างคราบออกไซด์ด้วยนำ้ ร้อน

5. การตรวจเช็คกรองอากาศ
- ตรวจความชำรุด สกปรก อุดตนั ควรเปลยี่ นใหม่หรือใชล้ มเป่าทำความสะอาด

6. การตรวจเช็คจุดตอ่ เช่อื มระหวา่ งรถลากจูง/รถก่งึ พว่ ง
- ตรวจสอบสภาพการล็อคของจานพว่ ง และสลกั พ่วง หล่อลน่ื ดว้ ยจาระบตี ามจุดหมุนต่าง ๆ

7. การตรวจเช็คลมยางรถยนต์
- กำลังดนั ลมยางใหถ้ ูกตอ้ งตามตารางที่คู่มือการใชร้ ถกำหนดไว้ (ยางท่ีออ่ นกวา่ กำหนดทำให้
ขอบยางชำรดุ เร็ว ถ้าแขง็ เกนิ ไปจะทำให้ตรงกลางยางชำรุดเร็วกว่าปกต)ิ

➢ การตรวจเชค็ รถในระหว่างขบั รถ

ในระหว่างขับรถ พลขับต้องคอยสังเกต คอยฟังเสียงส่ิงผิดปกติที่อาจจะเกิดข้ึน ท้ังของเครื่องยนต์
เกจวัดต่าง ๆ การส่งกำลัง การบังคับเล้ียว ระบบเบรก ไฟสัญญาณต่าง ๆ การทรงตัวขณะวิ่งทางตรง ขณะเข้า
ทางโค้ง เปน็ ต้น หากพบสงิ่ ผิดปกติ ควรหยดุ รถแลว้ หาสาเหตุทนั ที เพือ่ แก้ไข

➢ การตรวจเชค็ ระหว่างจอดพัก
การจอดพักระหว่างการเดินทาง พลขับอาจมีเวลาไม่มาก การตรวจเช็คน้ีเป็นการตรวจเช็คสภาพ

โดยรวมทว่ั ไป
- ตรวจดูความเรียบรอ้ ยรอบ ๆ รถ
- ตรวจดยู างโดยการเคาะเชค็ กำลังดันลม หาจุดชำรุดของดอกยาง
- ตรวจดรู ะบบสัญญาณไฟต่าง ๆ จดุ ตอ่ สายไฟระหวา่ งหวั ลากและหางลาก
- ตรวจดกู ารล็อคของจานพ่วงและสลักพ่วง
- ตรวจดรู วยรว่ั ของลมโดยการฟังเสียงของลมในระบบ ดจู ดุ ตอ่ เช่ือมสายลมระหวา่ งหัวลากและ
หางพ่วง
- ตรวจสอบการรัดตรึง อยูใ่ นสภาพดีหรือไม่

➢ การตรวจเชค็ ระหวา่ งจอดพัก
เมื่อพลขับรถสิ้นสดุ การใช้งานของรถแล้ว ควรตรวจสอบในจดุ ต่าง ๆ อย่างละเอยี ด เพ่ือให้รถพร้อมท่ี

จะใช้งานในครั้งต่อไป หากตรวจสอบพบความบกพร่องของระบบ อุปกรณ์และส่วนควบคุมต่าง ๆ เช่น ระบบ
บังคับเลี้ยว ระบบเบรก ระบบคลัตช์ ซึ่งหากการนำรถออกใช้งานในครั้งต่อไป อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือเกิด
อบุ ตั ิเหตขุ นึ้ ได้ ตอ้ งรายงานให้ผบู้ ังคับบัญชาทราบ เพอื่ ทำการแกไ้ ขทนั ที

ขนั้ ตอนการต่อและปลดรถลากจงู (หวั ลาก) กบั รถก่งึ พ่วง (ชานต่ำ)

พลขบั ตอ้ งเรียนรู้การต่อและปลดหางพว่ งให้ถูกวธิ ี

➢ การต่อรถลากจงู เข้ากับรถก่ึงพ่วง

1. ตรวจสอบสภาพการจอดรถกงึ่ พว่ งว่าพื้นท่เี รียบสม่ำเสมอหรือไม่ รวมทง้ั ต้องไมม่ ีสิง่ ใดกีดขวางอยู่
2. ถอยหลังรถลากจูงเข้าหารถกึ่งพ่วงอย่างช้า ๆ ให้สลักพ่วงของรถก่ึงพ่วงตรงกับร่องจานพ่วงของ

รถลากจงู แล้วหยุดรถ
3. ตรวจสอบดูระดับความสูง - ต่ำ ของจานพ่วงและสลักพ่วง โดยให้สลักพ่วงต้องอยู่สูงกว่าจานพ่วง
อย่างน้อย 1 น้ิว ก่อนเข้าล็อค เพื่อป้องกันการปาดจาระบีหน้าจานพ่วงออกขณะทำการถอยเข้าล็อค ถ้าระดับ
ตา่ งกนั มาก ใหท้ ำการปรบั โดยการหมนุ ขาค้ำยันขึ้น – ลง เพ่อื ปรับระดับ
4. ถอยหลังรถหวั ลากเขา้ หารถกงึ่ พว่ งอย่างช้า ๆ เพอ่ื ใหส้ ลกั พว่ งเขา้ ล็อคกับจานพว่ งโดยอตั โนมตั ิ
5. ทำการเสยี บตอ่ สายลมเบรก สายไฟฟ้า จากรถลากจงู เข้าทชี่ ่องเสยี บของรถกง่ึ พว่ ง เปดิ วาล์วลมทท่ี ้าย
รถลากจูง ตรวจสอบลมโดยการฟังเสียงการรั่วซึมของลม ตรวจสอบการทำงานระบบไฟฟ้าท่ีหางพ่วง
และตรวจสอบสลักพ่วงวา่ ล็อคเรยี บร้อยแลว้ หรอื ไม่
6. ทำการหมนุ ขาคำ้ ยันขนึ้ จนสดุ และเกบ็ มือหมนุ ให้เรียบร้อย
7. ทำการเคลือ่ นรถ และทดสอบเบรก

➢ การปลดรถก่งึ พ่วงออกจากรถลากจงู

1. จอดรถในจุดที่ตอ้ งการ และควรเป็นพ้นื ที่เรยี บและไม่กดี ขวางการจราจรของผ้อู ่นื
2. ต้ังขาค้ำยันลงจนขายันถึงพื้น ถ้ากรณีมีน้ำหนักบรรทุกมากควรตรวจสอบว่าพื้นอาจจะทรุดตัว ให้หา
แผ่นเหล็กหรือไม้รองด้านล่าง เพื่อกันการทรุดตัว การต้ังขาค้ำยันควรเผื่อระยะขึ้นไปเล็กน้อย เพื่อลดแรงกดกับ
จานพ่วง
3. ปิดวาล์วลม เบรก ถอดสายลม สายเบรก และสายไฟฟ้า ระหว่างรถลากจูงกับรถกึ่งพ่วงออกและเก็บ
ให้เรยี บร้อย
4. ปลดลอ็ คสลักพ่วงและดึงแขนสลักล็อคสลักพ่วงออกจนสุด
5. ทำการเคลอ่ื นรถลากจูงออกชา้ ๆ

ฝึกฝน การใช้งาน นำ้ หนักบรรทกุ

พลขับรถลากจูง/รถก่ึงพ่วง จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับรถท่ีตนกำลังจะขับ ศึกษา ทำความเข้าใจ
สมรรถนะขีดความสามารถในการใช้งาน

- กำลงั ของเครื่องยนต์ แรงม้า แรงบิด และรอบของเครอ่ื งยนต์ทเี่ หมาะสมขณะใช้งาน
- การใช้เกียร์อย่างถูกต้อง เร่ิมต้ังแต่ให้ออกรถในตำแหน่งเกียร์ 1 เสมอ การเปลี่ยนใช้เกียร์ให้

เหมาะสมในขณะใช้งาน
- การใชเ้ บรกอยา่ งถกู ต้อง การใชเ้ บรกไอเสียขณะทางลาดชัน
- ฝึกฝนเทคนิคในการขับรถลากจูง/รถก่ึงพ่วง ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การขับทางตรง การแซง

การเข้าโค้ง - ออกโค้ง การเล้ียวขวา - เลี้ยวซ้าย การขึ้น - ทางลาดชัน การใช้สัญญาณไฟ
ต่าง ๆ การจอด การถอยหลัง เปน็ ตน้ เพ่ือความปลอดภัยในขณะปฏบิ ัติงาน
- การวางน้ำหนักบรรทุก ต้องบรรทุกให้ถูกหลักของการบรรทุก การบรรทุกน้ำหนักเกินอัตรา
บรรทุก การบรรทุกไม่ถูกวิธี การกระจายน้ำหนักไม่ถูกต้อง เป็นผลเสียอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ขน้ึ ได้ง่าย การบังคับ การควบคุมรถอาจทำให้เสียการทรงตัวได้ง่าย ทั้งยังเป็นผลเสียอย่างอื่นอีก
เช่น โครงสร้างของรถอาจชำรุดได้ง่าย อายุการใช้งานของยางน้อยลง เป็นต้น ดังน้ันจึงต้อง
ศกึ ษา วางแผน ในการบรรทุกให้ดที ส่ี ุด

การวางนำ้ หนักบรรทกุ

การปรนนิบตั บิ ำรงุ รักษา

การปรนนิบัติบำรุงรักษา ตามคู่มือการใช้รถน้ัน ช่างซ่อมบำรุงประจำหน่วยต้องคอยดูแลให้เป็นไปตาม
ที่คู่มือการใช้รถได้กำหนดไว้ รวมท้ังเจ้าหน้าที่ประจำรถก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ ถ้าพบสิ่งผิดปกติต้องรีบแจ้ง
ผ้เู ก่ยี วข้อง และดำเนินการแกไ้ ข เพื่อใหร้ ถอยใู่ นสภาพสมบรู ณ์ พร้อมปฏิบัตงิ าน

การปรนนบิ ัติบำรุงรักษาประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดอื น
ตรวจสอบน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเบรก น้ำมันคลัตช์ น้ำหล่อเย็น สายพานต่าง ๆ ทดลองเคร่ืองยนต์
นัตท่ขี นั ไวต้ ามจดุ ต่าง ๆ หลวมคลอนหรอื ไม่ ระบบเบรก ระบบไฟ ระบบช่างล่าง ยางรถยนต์ เปน็ ต้น
การปรนนิบตั ิบำรงุ รกั ษาตามวงรอบ อายกุ ารใชง้ าน
การเปลี่ยนถา่ ยน้ำมันหล่อลื่น นำ้ มนั ไฮดรอลคิ เปลีย่ นกรองต่าง ๆ แบตเตอร่ี ยางรถยนต์ เป็นตน้

****************************************************

คู่มอื

การใช้รถลากจูง (หวั ลาก) /รถกึ่งพว่ ง (ชานตำ่ )
แผนกขนส่ง กอง สน.อรม.อร.

คู่มือปฏิบตั งิ าน

การใชร้ ถลากจงู (หวั ลาก) /รถกง่ึ พว่ ง (ชานต่ำ)
แผนกขนส่ง กอง กสน.อรม.อร.


Click to View FlipBook Version